แผนการจัดการเรยี นรู้
รายวชิ าภาษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖
จดั ทาโดย
นางสาวณฐั ญา ทองคา เลขท่ี ๘
เสนอ
ผูช้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.พชั รีภรณ์ บางเขยี ว
แผนการจดั การเรียนร้เู ลม่ นเ้ี ปน็ ส่วนหนงึ่ ของรายวิชาวทิ ยาการจัดการเรยี นรู้
รหสั วิชา ๑๑๙๐๓๐๑ คณะมนษุ ญศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์
มหาวทิ ยาลัยราชภฏั บ้านสมเดจ็ เจา้ พระยา
ก
คานา
แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ จัดทาขึ้นเพื่อใช้เป็นแนวทาง
ในการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พทุ ธศักราช ๒๕๕๑
แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบด้วยเนื้อหาสาระต่อไปนี้ แผนการจัดการเรียนรู้รายปี
ซึ่งประกอบด้วยมาตรฐานตวั ชวี้ ดั และตวั ช้ีวัดกลุ่มสาระการเรยี นรู้วชิ าภาษาไทย แผนการจดั การเรยี นรู้รายคาบ
ทั้งหมด ๑ แผนการจัดการเรียนรู้หน่วยที่ ๑๑ ประกอบด้วยหน่วยย่อยทั้งหมด ๕ หน่วย สวยร้ายสายลับ
ภาพย้อนคิด เที่ยวรอบโลก เขียนสวยด้วยมือเรา และนักเขียนคว้าดาว ซึ่งแต่ละแผนการจัดการเรียนรู้ได้ระบุ
มาตรฐาน ตัวชี้วัด จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่
หลากหลาย อันได้แก่ รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบนิรนัย ซึ่งแต่ละหน่วยการเรียนรู้จะมีการจัดการเรียน
การสอนที่แตกต่างกัน แต่ทั้งหมดนามาซึ่งการบรรลุจุดประสงค์การเรียนรู้ นอกจากนี้ยังมีใบงานและ
เกณฑ์การประเมินผล เพื่อใช้ในการประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียนแต่ละคนว่าหลังจากเสร็จสิ้นการเรี ยน
นกั เรยี นมคี วามรู้ ความเขา้ ใจ เนอ้ื หาสาระมากนอ้ ยเพยี งใด ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ หรอื ไม่
ผู้จัดทาขอพระคุณ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. พัชรีภรณ์ บางเขียว เป็นอย่างยิ่ง ที่ให้คาปรึกษา
และคาแนะนาตลอดระยะเวลาการจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแผนการจัดการเรียนรู้
เล่มนี้เป็นประโยชน์กับการจัดการเรียนรู้ในห้องเรียน ทาให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาการเรียนรู้ได้
อยา่ งมีประสิทธภิ าพตอ่ ไป
นางสาวณฐั ญา ทองคา
ผจู้ ดั ทา
สารบญั ข
เร่อื ง หน้า
คานา ก
แผนการจดั การเรียนรรู้ ายปี ๑
๑
๑. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด ๓
๒. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๕
๓. สาระสาคญั ๕
๔. สาระการเรยี นรู้ ๗
๕. คาอธบิ ายรายวิชา ๘
ตารางโครงสร้างรายวชิ า ๑๕
แผนการจดั การเรียนรู้รายหนว่ ย หนว่ ยที่ ๑ สวยร้ายสายรับ ๑๖
๑. มาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตวั ช้วี ดั ช้นั ปี ๑๖
๒. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑๖
๓. สาระสาคญั ๑๗
๔. สาระการเรยี นรู้ ๑๗
๕. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน ๑๗
๖. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ๑๗
๗. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ๑๙
๘. การวดั และประเมินผล ๒๒
ใบงาน/แบบฝกึ หดั ๒๕
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๒ ภาพย้อนคิด ๒๕
๑. มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชี้วัดช้ันปี ๒๕
๒. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๒๕
๓. สาระสาคญั
๔. สาระการเรยี นรู้ ๒๕
๕. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน ๒๕
๖. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ๒๖
๗. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ๒๖
๘. การวดั และประเมินผล ๒๗
ใบงาน/แบบฝึกหัด ๒๙
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓ เท่ยี วรอบโลก ๓๑
๑. มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตัวชี้วัดช้ันปี ๓๑
๒. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๓๑
๓. สาระสาคญั ๓๑
๔. สาระการเรยี นรู้ ๓๑
๕. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น ๓๑
๖. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ๓๒
๗. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ๓๒
๘. การวัดและประเมินผล ๓๓
ใบงาน/แบบฝกึ หดั ๓๖
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๔ เขียนสวยดว้ ยมอื เรา ๓๘
๑. มาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตัวชวี้ ดั ช้ันปี ๓๘
๒. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๓๘
๓. สาระสาคญั ๓๘
๔. สาระการเรยี นรู้ ๓๘
๕. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ๓๘
๖. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ๓๙
๗. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ๓๙
๘. การวัดและประเมินผล ๔๐
ใบงาน/แบบฝึกหดั ๔๒
แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๕ นกั เขียนคว้าดาว ๔๕
๑. มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวชีว้ ดั ชน้ั ปี ๔๕
๒. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๔๕
๓. สาระสาคญั ๔๕
๔. สาระการเรยี นรู้ ๔๕
๕. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน ๔๕
๖. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๔๖
๗. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๔๖
๘. การวดั และประเมินผล ๔๗
ใบงาน/แบบฝึกหดั ๔๙
แบบลงคะแนนจากชนิ้ งาน ๕๐
แบบสงั เกตพฤติกรรม ๕๑
แบบประเมิน ๕๒
๑
แผนการจดั การเรียนรู้
สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย รายวชิ า ภาษาไทย
ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๖ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๕
ครผู สู้ อน นางสาวณัฐญา ทองคา เวลา ๑๖๐ ชว่ั โมง / ปี
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
๑. มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชวี้ ดั
สาระที่ ๑ การอา่ น
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนาไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาใน
การดาเนินชีวิตและมนี ิสัยรกั การอา่ น
สาระที่ ๒ การเขยี น
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราว
ในรปู แบบตา่ งๆ เขียนรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นคว้าอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
สาระที่ ๓ การฟัง การดู และการพดู
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด
และความรูส้ กึ ในโอกาสตา่ งๆ อย่างมีวจิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์
สาระท่ี ๔ หลกั การใชภ้ าษาไทย
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและ
พลงั ของภาษา ภมู ปิ ญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัตขิ องชาติ
สาระท่ี ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม
มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเหน็ วจิ ารณว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอยา่ งเห็นคุณค่า
และนามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ิตจริง
ตวั ชีว้ ัด
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนาไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหา
ในการดาเนินชีวติ และมนี สิ ยั รกั การอา่ น
ท ๑.๑ ป.๖/๑ อ่านออกเสียงบทรอ้ ยแก้วและบทรอ้ ยกรองได้ถกู ต้อง
ท ๑.๑ ป.๖/๒ อธบิ ายความหมายของคา ประโยคและขอ้ ความทีเ่ ป็นโวหาร
๒
ท ๑.๑ ป.๖/๓ อา่ นเรื่องส้ันๆ อย่างหลากหลายโดยจับเวลาแล้วถามเกย่ี วกบั เรื่องทีอ่ ่าน
ท ๑.๑ ป.๖/๔ แยกข้อเทจ็ จรงิ และข้อคดิ เหน็ จากเร่อื งทีอ่ ่าน
ท ๑.๑ ป.๖/๕ อธบิ ายการนาความรแู้ ละความคดิ จากเร่อื งทอ่ี า่ นไปตดั สนิ ใจแกป้ ญั หาในการ
ดาเนินชวี ิต
ท ๑.๑ ป.๖/๖ อา่ นงานเขียนเชงิ อธบิ าย คาส่ัง ข้อแนะนา และปฏบิ ตั ติ าม
ท ๑.๑ ป.๖/๗ อธิบายความหมายของขอ้ มูลจากการอ่านแผนผงั แผนท่ี แผนภมู ิ และกราฟ
ท ๑.๑ ป.๖/๘ อา่ นหนงั สอื ตามความสนใจและอธิบายคณุ ค่าที่ไดร้ บั
ท ๑.๑ ป.๖/๙ มีมารยาทในการอ่าน
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราว
ในรูปแบบตา่ งๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
ท ๒.๑ ป.๖/๑ คัดลายมือตัวบรรจงเตม็ บรรทดั และครงึ่ บรรทัด
ท ๒.๑ ป.๖/๒ เขียนสอื่ สารโดยใชค้ าได้ถูกตอ้ ง ชดั เจน และเหมาะสม
ท ๒.๑ ป.๖/๓ เขียนแผนภาพ โครงเรอ่ื ง และแผนภาพความคิดเพือ่ ใช้พฒั นางานเขียน
ท ๒.๑ ป.๖/๔ เขยี นเรยี งความ
ท ๒.๑ ป.๖/๕ เขยี นย่อความจากเร่ืองทอ่ี า่ น
ท ๒.๑ ป.๖/๖ เขียนจดหมายสว่ นตวั
ท ๒.๑ ป.๖/๗ กรอกแบบรายการต่างๆ
ท ๒.๑ ป.๖/๘ เขียนเร่ืองตามจินตนาการและสร้างสรรค์
ท ๒.๑ ป.๖/๙ มมี ารยาทในการเขียน
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด
และความรู้สึกในโอกาสต่างๆ อย่างมวี จิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์
ท ๓.๑ ป.๖/๑ พูดแสดงความรู้ ความเขา้ ใจจุดประสงคข์ องเรอ่ื งท่ีฟงั และดู
ท ๓.๑ ป.๖/๒ ต้ังคาถามและตอบคาถามเชิงเหตุผล
ท ๓.๑ ป.๖/๓ วิเคราะหค์ วามนา่ เชื่อถอื จากการฟงั และดสู อื่ โฆษณาอย่างมเี หตุผล
ท ๓.๑ ป.๖/๔. พูดรายงานเรอ่ื งหรอื ประเดน็ ทศ่ี กึ ษาค้นควา้ จากการฟงั การดู และกาสนทนา
๓
ท ๓.๑ ป.๖/๕. พดู โนม้ นา้ วอย่างมีเหตผุ ล และนา่ เชื่อถอื
ท ๓.๑ ป.๖/๖ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพดู
มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ยี นแปลงของภาษาและ
พลังของภาษา ภูมปิ ญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ิของชาติ
ท ๔.๑ ป.๖/๑ วเิ คราะหช์ นิดและหน้าทขี่ องคาในประโยค
ท ๔.๑ ป.๖/๒ ใชค้ าได้เหมาะสมกับกาลเทศะและบุคคล
ท ๔.๑ ป.๖/๓ รวบรวมและบอกความหมายของคาภาษาต่างประเทศทีใ่ ชใ้ นภาษาไทย
ท ๔.๑ ป.๖/๔. ระบลุ กั ษณะของประโยค
ท ๔.๑ ป.๖/๕ แตง่ บทรอ้ ยกรอง
ท ๔.๑ ป.๖/๖ วิเคราะหแ์ ละเปรยี บเทยี บสานวนท่ีเปน็ คาพงั เพย และสภุ าษิต
มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคดิ เหน็ วิจารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคณุ คา่
และนามาประยุกต์ใช้ในชีวิตจรงิ
ท ๕.๑ ป.๖/๑ แสดงความคิดเหน็ จากวรรณคดหี รอื วรรณกรรมท่อี า่ น
ท ๕.๑ ป.๖/๒ เลา่ นทิ านพนื้ บา้ นท้องถิ่นตนเองและนิทานพืน้ บ้านของทอ้ งถนิ่ อ่นื
ท ๕.๑ ป.๖/๓ อธิบายคณุ คา่ ของวรรณคดี และวรรณกรรมทอี่ า่ นและนาไปประยกุ ตใ์ ช้
ในชีวติ จรงิ
ท ๕.๑ ป.๖/๔ ทอ่ งจาบทอาขยานตามที่กาหนด และบทรอ้ ยกรองท่ีมีคณุ ค่าตามความสนใจ
๒. จุดประสงค์การเรียนรู้
๒.๑ ความรู้ (K)
๑. บอกความหมายของบทร้อยแกว้ และบทรอ้ ยกรอง
๒. อธิบายความหมายของคา ประโยค และขอ้ ความทเี่ ป็นโวหารได้
๓. จบั ใจความเรอ่ื งทอ่ี ่านและถามเรื่องท่ีอ่านได้
๔. แยกขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คดิ เห็นจากเร่ืองที่อา่ นได้
๕. อธิบายความรแู้ ละความคดิ จากเร่ืองท่ีอา่ นและนาไป ประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตประจาวนั ได้
๖. อธบิ ายความหมายของข้อมูลจากแผนผัง แผนที่ แผนภมู แิ ละ กราฟได้
๗. บอกชนิดและหนา้ ท่ีของคาในประโยคได้
๔
๘. อธบิ ายความหมายของคาราชาศพั ท์ได้
๙. อธิบายความหมายของภาษาถิ่นได้
๑๐. คิดวเิ คราะหค์ วามน่าเชือ่ ถอื จากการฟังและดูสือ่ โฆษณาได้ อย่างมเี หตผุ ล
๑๑. บอกลกั ษณะกลมุ่ คาหรอื วลแี ละประโยคได้
๑๒. วิเคราะหแ์ ละเปรียบเทยี บและใช้สานวนที่เปน็ คาพงั เพย และสภุ าษิตไดถ้ ูกต้องและเหมาะสม
๑๓. อธบิ ายคณุ ค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมทอี่ ่านและน าไปใช้ ในชวี ิตประจาวนั ได้
๑๔. ท่องจาบทอาขยานตามท่ีกาหนดใหไ้ ด้
๑๕. ทอ่ งจาบทร้อยกรองตามความสนใจได้
๑๖. รวบรวมและบอกความหมายของคาภาษาต่างประเทศทใ่ี ชใ้ นภาษาไทยได้
๒.๒ ทกั ษะ (P)
๑. อา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกตอ้ ง
๒. อา่ นบทรอ้ ยกรองเป็นทานองเสนาะ
๓. อ่านคาช้แี จงในการใช้พจนานกุ รมแล้วใชพ้ จนานกุ รมในการค้นหาความหมายของคาได้
๔. คัดลายมอื ตวั บรรจงเต็มบรรทดั และครึง่ บรรทดั ได้ถูกตอ้ งตามหลักการเขยี นอกั ษรไทย
๕. เขียนแผนภาพโครงเร่อื งและแผนภาพความคิดจากเรอื่ งที่อา่ นได้
๖. เขียนเรยี งความไดถ้ กู ต้องตามรูปแบบ
๗. เขียนยอ่ ความจากเรอื่ งทอ่ี า่ นได
๘. เขียนจดหมายสว่ นตวั ถกู ตอ้ งตามรปู แบบและใชภ้ าษาในการเขียนได้อยา่ งเหมาะสม
๙. เขียนเรื่องตามจนิ ตนาการได้อย่างเหมาะสม และพูดแสดงความรู้ความเข้าใจตามจุดประสงค์
ของเรอ่ื งที่ฟังและดูได้อย่างเหมาะสม
๑๐. ล่านิทานพืน้ บา้ นท้องถน่ิ ตนเองและนิทานพ้ืนบ้านของทอ้ งถ่ินอ่ืนๆ
๑๑. ต้ังคาถามและตอบคาถามเชงิ เหตผุ ลจากเรอ่ื งที่ฟังและดูได้
๑๒. พดู รายงานเรอ่ื งทศี่ กึ ษาค้นคว้าได้ถูกต้องและเหมาะสม
๑๓. พูดโน้มนา้ วในสถานการณต์ า่ งๆ ได้อยา่ งมเี หตุผลและ นา่ เชอ่ื ถือ
๑๔. แตง่ บทรอ้ ยกรองประเภทกลอนสุภาพไดถ้ กู ต้องตามฉันทลกั ษณ์
๑๕. แสดงความคดิ เห็นจากวรรณคดหี รือวรรณกรรมได้อยา่ งเหมาะสม
๕
๒.๓ จิตพสิ ยั (A)
๑. อ่านเร่อื งต่างๆ อย่างมมี ารยาท
๒. มีมารยาทในการเขยี น
๓. มมี ารยาททด่ี ใี นการฟงั การดแู ละการพดู ได้
๔. ใชภ้ าษาเขียนเพอื่ สร้างสมั พนั ธภาพทดี่ ีไดอ้ ย่างเหมาะสมกบั บุคคลและกาลเทศะ
๕. ใช้คาราชาศัพท์และคาสภุ าพคาทใ่ี ชก้ ับพระสงฆไ์ ดถ้ ูกตอ้ งเหมาะสมกบั บคุ คลและสถานการณ์
๓. สาระสาคญั
ภาษาไทยเป็นเอกลักษณ์ประจาชาติ เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่เป็นเอกภาพของคนในชาติให้
มีความเป็นไทย เป็นเครือ่ งมือตดิ ตอ่ ส่อื สารเพอ่ื สร้างความเขา้ ใจและความสมั พันธท์ ี่ดีตอ่ กัน การสอนภาษาไทย
ในปัจจุบันจึงได้เปล่ียนแนวคดิ ไปจากเดิม ไม่เน้นการอา่ นออกเขียนไดเ้ พยี งอย่างเดียว แตจ่ ะเน้นการสอนภาษา
เพื่อการสื่อสารกับผู้อื่นอย่างมีประสิทธิภาพ ทาให้สามารถประกอบกิจธุระ การงาน รวมถึงแก้ปัญหา
ในการดารงชีวิตร่วมกันในสังคมได้อย่างสันติสุข ผู้เรียนสามารถแสวงหาความรู้ประสบการณ์จากแหล่งข้อมูล
สารสนเทศตา่ ง ๆ เพือ่ พฒั นาความรูก้ ระบวนการคดิ วเิ คราะหว์ จิ ารณ์ และสรา้ งสรรคใ์ หท้ ันตอ่ การเปล่ียนแปลง
ทางสังคม ตลอดจนนาไปใช้ในการพัฒนาอาชีพให้มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังเป็นสื่อที่แสด
ภูมิปัญญาของบรรพบุรุษด้วยวัฒนธรรมประเพณี และสนุทรียภาพ เป็นวรรณคดีและวรรณกรรมที่ล้าค่า
ภาษาไทยจงึ เปน็ สมบตั ขิ องชาติทค่ี วรคา่ แกก่ ารเรยี นรูเ้ พื่ออนรุ กั ษ์และสบื สานใหค้ งอย่ตู ลอดไป
๔. สาระการเรียนรู้
ภาษาไทยเป็นทักษะที่ต้องฝึกฝนจนเกิดความชานาญในการใช้ภาษาเพื่อการส่ือสาร การเรียนรู้อย่างมี
ประสิทธิภาพ และเพอื่ นาไปใชใ้ นชีวิตจรงิ
การอ่าน การอ่านออกเสียงคา ประโยค การอ่านบทร้อยแก้ว คาประพันธ์ชนิดต่าง ๆ การอ่านในใจ
เพ่อื สรา้ งความเข้าใจ และคดิ วเิ คราะห์ สังเคราะห์ความรจู้ ากส่งิ ทีอ่ า่ น เพอ่ื นาไปปรับใช้ในชีวิตประจาวัน
การเขียน การเขียนสะกดตามอักขรวิธี การเขียนสื่อสาร โดยใช้ถ้อยคาและรูปแบบต่าง ๆ
ของการเขียน ซึ่งรวมถึงการเขียนความ ย่อความ รายงานชนิดต่าง ๆ การเขียนตามจินตนาการวิเคราะห์
วจิ ารณ์ และเขียนเชงิ สรา้ งสรรค์
การฟัง การดู และการพูด การฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ การพูดแสดงความคิดเห็นความรู้สึก
พูดลาดับเรื่องราวต่าง ๆ อย่างเป็นเหตุเป็นผล การพูดในโอกาสต่าง ๆ ทั้งเป็นทางการและไม่เป็นทางการ
และการพูดเพอ่ื โน้มนา้ วใจ
หลักการใช้ภาษาไทย ธรรมชาติและกฏเกณฑ์ของภาษาไทย การใช้ภาษาให้ถูกต้องเหมาะสมกับ
โอกาสและบุคคล การแต่งบทประพันธ์ประเภทตา่ ง ๆ และอทิ ธพิ ลของภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทย
๖
วรรณคดีและวรรณกรรม วิเคราะห์วรรรณคดีและวรรณกรรมเพื่อศึกษาข้อมูล แนวความคิดคุณค่า
ของงานประพนั ธ์ และความเพลดิ เพลิน การเรยี นรู้และทาความเจา้ ใจบทเห่ บทรอ้ งเลน่ ของเด็กเพลงพ้ืนบ้านที่
เป็นภูมิปัญญาที่มีคุณค่าของไทย ซึ่งได้ถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิด ค่านิยม ขนบธรรมเรียมธรรมประเพณี
เรอ่ื งราวของสังคมในอดีต และความงดงามของภาษา เพอื่ ใหเ้ กดิ ความซาบซง้ึ และภมู ใิ จในบรรพบุรษุ ท่ไี ด้ส่งั สม
สืบทอดมาจนถงึ ปัจจบุ นั
๗
คาอธบิ ายรายวิชาพืน้ ฐาน
ท๑๖๑๐๑ ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย
ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ เวลา ๑๖๐ ชัว่ โมง/ปี
อ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว และบทร้อยกรอง อธิบายความหมายของคา ประโยคและข้อความที่
เป็นโวหาร สานวนเปรียบเทียบ รู้จักเลือกอ่านหนังสือตามความสนใจ จับใจความจากเรื่องที่อ่านโดยแยกข้อ
เท็จจริง และข้อคิดเห็น และนาความรู้ที่ได้ไปตัดสินใจแก้ปัญหาในการดาเนินชีวิต อธิบายข้อมูลจาก การอ่าน
แผนผัง แผนที่ ปฏิบัติตามคาสั่ง และข้อแนะนา เขียนสื่อสารในรูปแบบต่าง ๆ โดยใช้ภาษาได้ถูกต้องตาม
วตั ถุประสงค์ คัดลายมือตามแบบอักษรไทย เขียนแผนภาพความคิด เรียงความ ย่อความ นิทาน บันทึกรายงาน
โดยใช้โวหารต่าง ๆ พูดแสดงความรู้ ความเข้าใจในจุดประสงค์ของเรื่องที่ฟัง และดูจากสื่อสิ่งพิมพ์
สื่ออิเล็กทรอนิกส์ วิเคราะห์ความน่าเชื่อถือจากสื่อโฆษณา รายงาน พูดลาดับเหตุการณ์ พูดโน้มน้าวใน
สถานการณ์ต่าง ๆ วิเคราะห์ชนิดและหน้าที่ของคานาม คาสรรพนาม คากริยา คาวิเศษณ์คาบุพบท คาเชื่อม
คาอุทาน ใช้คาราชาศัพท์ ระดับภาษา ภาษาถิ่น คาที่มาจากภาษาต่างประเทศ กลุ่มคา หรือวลี ประโยคสามัญ
ประโยครวม ประโยคซ้อน กลอนสุภาพ สานวน คาพังเพย และสุภาษิต เข้าใจ และเห็นคุณค่าของวรรณคดี
และวรรณกรรมที่อ่าน เล่านิทานพื้นบ้าน ร้องเพลงพื้นบ้าน ท่องบทอาขยาน บทร้อยกรองที่มีคุณค่า
ตามความสนใจ
ใช้ทักษะกระบวนการปฏิบัติในการอ่าน การเขียน การฟัง การดู การพูด และการใช้ภาษาไทย
เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด วเิ คราะห์ ตัดสินใจแก้ปัญหาในการดาเนินชีวิตอย่างมีวิจารณญาณ และสร้างสรรค์
มีมารยาทที่ดี กระตือรือร้น รักการอ่าน การเขียน การฟัง การดู การพูด ภูมิใจในภาษาไทย และใช้ภาษาไทย
ในชวี ิตประจาวันได้อยา่ งเหมาะสม
รหสั ตวั ชี้วัด
ท ๑.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓,ป.๖/๔,ป.๖/๕,ป.๖/๖,ป.๖/๗,ป.๖/๘,ป.๖/๙
ท ๒.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓,ป.๖/๔,ป.๖/๕,ป.๖/๖,ป.๖/๗,ป.๖/๘,ป.๖/๙
ท ๓.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓,ป.๖/๔,ป.๖/๕,ป.๖/๖
ท ๔.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓,ป.๖/๔,ป.๖/๕,ป.๖/๖
ท ๕.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓,ป.๖/๔
รวม ๓๔ ตวั ชว้ี ดั
๘
โครงสร้างรายวชิ า
รายวชิ าภาษาไทย รหัสวชิ า ท ๑๖๑๐๑ กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย
ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๖ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕ จานวน ๑๖๐ ช่วั โมง ๓ หน่วยกติ
หน่วยท่ี มาตรฐาน หน่วยการเรียนรู้ จานวน
การเรยี นร/ู้ ช่วั โมง
ตัวชี้วัด
๑. จากผ้าแตม้ ...สูอ่ ยี ิปต์ ๘
๑.๑ ท ๑.๑ ป.๖/๑ อ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแก้วและบทรอ้ ยกรองได้ ๒
๑.๒ ท ๑.๑ ป.๖/๒ อธบิ ายความหมายของคา ประโยคและข้อความทีเ่ ป็นโวหาร ๒
๑.๓ ท ๑.๑ ป.๖/๔ แยกข้อเทจ็ จริงและขอ้ คดิ เห็นจากเรือ่ งทอี่ ่าน ๒
๑.๔ ท ๑.๑ ป.๖/๕ อธิบายการนาความรู้และความคิดจากเรื่องที่อ่านไปจัดสินใจ ๑
แกป้ ัญหาในการดาเนินชวี ิต
๑.๕ ท ๔.๑ ป.๖/๔ ระบุลักษณะของประโยค ๑
๒. ควาย ขา้ วและชาวนา ๑๓
๒.๑ ท ๑.๑ ป.๖/๒ อธิบายความหมายคา ประโยคและข้อความที่เป็นโวหาร ๒
๒.๒ ท ๑.๑ ป.๖/๑ อ่านออกเสียงบทรอ้ ยแก้วและบทรอ้ ยกรองได้ ๒
๒.๓ ท ๔.๑ ป.๖/๔ ระบุลกั ษณะของประโยค ๑
๒.๔ ท ๔.๑ ป.๖/๑ วเิ คราะหช์ นดิ และหน้าทข่ี องคาในประโยค ๑
๒.๕ ท ๒.๑ ป.๖/๒ เขยี นส่อื สารโดยใชค้ าได้ถูกต้องชัดเจน ๒
๒.๖ ท ๒.๑ ป.๖/๓ เขียนแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพความคิดเพื่อใช้พัฒนางาน ๒
ท ๒.๑ ป.๖/๙ เขยี น
- มีมารยาทในการเขยี น
๒.๗ ท ๓.๑ ป.๖/๑ พดู แสวงหาความรู้ ความเข้าใจในจดุ ประสงค์ของเรื่องที่ฟงั และดู ๑
๒.๘ ท ๒.๑ ป.๖/๖ วเิ คราะหช์ นดิ และหนา้ ทีข่ องคาในประโยค ๒
๓. อา่ นปา้ ยได้สาระ ๘
๓.๑ ท ๑.๑ ป.๖/๒ อธิบายความหมายคา ประโยคและข้อความที่เปน็ โวหาร ๑
๓.๒ ท ๑.๑ ป.๖/๑ อ่านออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ ๒
๓.๓ ท ๑.๑ ป.๖/๔ แยกข้อเท็จจรงิ และข้อคดิ เหน็ จากเรื่องทอ่ี า่ น ๑
๓.๔ ท ๔.๑ ป.๖/๔ ระบลุ กั ษณะของประโยค ๒
๙
หนว่ ยที่ มาตรฐาน หนว่ ยการเรียนรู้ จานวน
การเรยี นร/ู้ ชั่วโมง
ตวั ชี้วัด
๓.๕ ท ๔.๑ ป.๖/๒ ใช้คาไดเ้ หมาะสมกับกาลเทศะและบคุ คล ๑
๓.๖ ท ๔.๑ ป.๖/๖ วเิ คราะหแ์ ละเปรียบเทียบสานวนท่ีเป็นคาพังเพยสุภาษิต ๑
๔. กทลตี านี ๑๓
๔.๑ ท ๑.๑ ป.๖/๒ อธบิ ายความหมายคา ประโยคและข้อความท่เี ปน็ โวหาร ๒
๔.๒ ท ๑.๑ ป.๖/๑ อ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ และบทรอ้ ยกรองได้ ๒
๔.๓ ท ๑.๑ ป.๖/๔ แยกขอ้ เท็จจริงและขอ้ คดิ เหน็ จากเรอ่ื งทอี่ า่ น ๒
๔.๔ ท ๔.๑ ป.๖/๑ วเิ คราะห์ชนดิ และหนา้ ทีข่ องคาในประโยค ๒
๔.๕ ท ๑.๑ ป.๖/๓ อ่านเรื่องสั้น ๆ อย่างหลากหลาย โดยจับเวลาแล้วถามเกี่ยวกับเรื่อง ๒
ท่ีอ่าน
๔.๖ ท ๑.๑ ป.๖/๔ แยกข้อเทจ็ จรงิ และขอ้ คดิ เห็นจากเรอ่ื งท่ีอ่าน ๓
๔.๗ ท ๑.๑ ป.๖/๕ อธิบายการนาความรู้และความคิดจากเรื่องที่อ่านไปตัดสินใจ
แกป้ ัญหาในการดาเนินชีวติ
๔.๘ ท ๒.๑ ป.๖/๑ คัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัด และคร่ึงบรรทดั
๔.๙ ท ๒.๑ ป.๖/๒ เขียนสือ่ สารโดยใชค้ าได้ถกู ต้องชัดเจนและเหมาะสม
๔.๑๐ ท ๕.๑ ป.๖/๑ แสดงความคิดเห็นจากวรรณคดหี รอื วรรณกรรมทอี่ ่าน
๔.๑๑ ท ๕.๑ ป.๖/๓ อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่านและนาไป
ประยกุ ตใ์ ช้ในชีวติ จริง
๕. ละครย้อนคิด ๘
๕.๑ ท ๑.๑ ป.๖/๒ อธิบายความหมายคา ประโยคและข้อความที่เปน็ โวหาร ๑
๕.๒ ท ๑.๑ ป.๖/๑ อา่ นออกเสียงบทร้อยแก้วและบทรอ้ ยกรองได้ ๒
๕.๓ ท ๑.๑ ป.๖/๔ แยกขอ้ เทจ็ จรงิ และขอ้ คิดเห็นจากเรอื่ งที่อ่าน ๑
๕.๔ ท ๔.๑ ป.๖/๑ วิเคราะห์ชนิดและหนา้ ทีข่ องคาในประโยค ๒
๕.๕ ท ๒.๑ ป.๖/๔ เขียนเรียงความ ๒
๖. กลอนกานท์จากบ้านไทย ๑๓
๖.๑ ท ๑.๑ ป.๖/๒ อธบิ ายความหมายคา ประโยคและข้อความทเ่ี ปน็ โวหาร ๒
๖.๒ ท ๑.๑ ป.๖/๑ อา่ นออกเสียงบทร้อยแกว้ และบทรอ้ ยกรองได้ ๔
๖.๓ ท ๑.๑ ป.๖/๔ แยกข้อเท็จจรงิ และขอ้ คิดเห็นจากเร่อื งท่ีอา่ น ๒
๖.๔ ท ๔.๑ ป.๖/๑ วเิ คราะห์ชนิดและหน้าทข่ี องคาในประโยค ๒
๑๐
หน่วยที่ มาตรฐาน หนว่ ยการเรียนรู้ จานวน
การเรียนร/ู้ ชว่ั โมง
ตวั ช้วี ัด
๖.๕ ท ๕.๑ ป.๖/๔ ท่องจาอาขยานตามที่กาหนดและบทร้อยกรองที่มีคุณค่าตามความ ๑
สนใจ
๖.๖ ท ๑.๑ ป.๖/๓ อ่านเรื่องสั้น ๆ อย่างหลากหลาย โดยจับเวลาแล้วถามเกี่ยวกับเรื่อง ๒
ทอี่ า่ น
๗. กว่าแผ่นดินจะกลบหน้า ๙
๗.๑ ท ๑.๑ ป.๖/๒ อธบิ ายความหมายคา ประโยคและข้อความท่เี ปน็ โวหาร ๑
๗.๒ ท ๑.๑ ป.๖/๑ อ่านออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ และบทร้อยกรองได้ ๒
๗.๓ ท ๑.๑ ป.๖/๔ แยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเหน็ จากเร่ืองทอ่ี ่าน ๑
๗.๔ ท ๓.๑ ป.๖/๑ พูดแสดงความรูค้ วามเข้าใจจดุ ประสงคข์ องเรื่องท่ฟี ังและดู ๒
๗.๕ ท ๔.๑ ป.๖/๖ วเิ คราะหแ์ ละเปรยี บเทยี บสานวนทเ่ี ป็นคาพงั เพยและสุภาษิต ๑
๗.๖ ท ๒.๑ ป.๖/๒ เขียนสื่อสารโดยใชค้ าได้ถกู ตอ้ งชดั เจนและเหมาะสม ๒
๘. ไม้งามในสวยแก้ว ๑๓
๘.๑ ท ๑.๑ ป.๖/๒ อธบิ ายความหมายคา ประโยคและข้อความทเี่ ป็นโวหาร ๑
๘.๒ ท ๑.๑ ป.๖/๑ อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทรอ้ ยกรองได้ ๒
๘.๓ ท ๑.๑ ป.๖/๔ แยกขอ้ เท็จจรงิ และข้อคิดเหน็ จากเร่อื งทอ่ี า่ น ๒
๘.๔ ท ๓.๑ ป.๖/๑ พูดแสดงความรคู้ วามเขา้ ใจจุดประสงคข์ องเรื่องทฟ่ี ังและดู ๒
๘.๕ ท ๔.๑ ป.๖/๔ ระบลุ กั ษณะของประโยค ๑
๘.๖ ท ๑.๑ ป.๖/๘ อา่ นหนังสอื ตามความสนใจและอธบิ ายคณุ ค่าทไ่ี ด้รับ ๒
๘.๙ ท ๑.๑ ป.๖/๔ การอา่ นอยา่ งมีวิจารณญาณ (อยา่ ชิงสุกก่อนหา่ มไมง่ ามด)ี ๓
ท ๑.๑ ป.๖/๕
ท ๒.๑ ป.๖/๑
ท ๒.๑ ป.๖/๒
ท ๕.๑ ป.๖/๑
ท ๕.๑ ป.๖/๓
สอบกลางภาค
๙. ครืน้ เครงเพลงพื้นบ้าน ๘
๙.๑ ท ๑.๑ ป.๖/๒ อธบิ ายความหมายคา ประโยคและขอ้ ความทเ่ี ปน็ โวหาร ๒
๙.๒ ท ๑.๑ ป.๖/๑ อา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ และบทร้อยกรองได้ ๒
๙.๓ ท ๑.๑ ป.๖/๔ แยกขอ้ เท็จจรงิ และข้อคิดเห็นจากเร่อื งที่อา่ น ๑
๑๑
หนว่ ยท่ี มาตรฐาน หน่วยการเรยี นรู้ จานวน
การเรยี นร/ู้ ชวั่ โมง
ตัวชีว้ ัด
๙.๔ ท ๑.๑ ป.๖/๖ อา่ นงานเขยี นเชงิ อธบิ าย คาสัง่ ข้อแนะนา และปฏบิ ัติตาม ๑
๙.๕ ท ๑.๑ ป.๖/๘ อ่านหนงั สือตามความสนใจและอธบิ ายคณุ คา่ ท่ีไดร้ ับ ๑
๙.๖ ท ๕.๑ ป.๖/๑ แสดงความคดิ เห็นจากวรรณคดหี รือวรรณกรรมท่อี า่ น ๒
๙.๑๐ ท ๕.๑ ป.๖/๓ อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่านและนาไป
ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ จรงิ
๑๐. ช้อนกลางสร้างสุขภาพ ๑๓
๑๐.๑ ท ๑.๑ ป.๖/๒ อธิบายความหมายคา ประโยคและข้อความทีเ่ ปน็ โวหาร ๒
๑๐.๒ ท ๑.๑ ป.๖/๑ อ่านออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ และบทร้อยกรองได้ ๒
๑๐.๓ ท ๑.๑ ป.๖/๔ แยกข้อเทจ็ จรงิ และข้อคดิ เหน็ จากเรอ่ื งท่อี ่าน ๒
๑๐.๔ ท ๓.๑ ป.๖/๑ พดู แสดงความร้คู วามเขา้ ใจจดุ ประสงค์ของเร่อื งทีฟ่ ังและดู ๑
๑๐.๕ ท ๓.๑ ป.๖/๓ วิเคราะห์ความน่าเชื่อถือจากการฟังและการดูสื่อโฆษณาอย่างมี ๑
เหตุผล
๑๐.๖ ท ๑.๑ ป.๖/๕ อธิบายการนาความรู้และความคิดจากเรื่องที่อ่านไปตัดสินใจ ๒
แก้ปัญหา ในการดารงชีวิตวิเคราะห์ความน่าเชื่อถือจากการฟังและ
ดูสื่อโฆษณาอยา่ งมีเหตผุ ล
๑๐.๗ ท ๑.๑ ป.๖/๔ การอา่ นอยา่ งมวี จิ ารณญาณ (ศึกสายเลอื ด) ๓
ท ๑.๑ ป.๖/๕
ท ๒.๑ ป.๖/๑
ท ๒.๑ ป.๖/๒
ท ๕.๑ ป.๖/๑
ท ๕.๑ ป.๖/๓
๑๑. สวยร้ายสายลับ ๘
๑๑.๑ ท ๑.๑ ป.๖/๒ อธบิ ายความหมายคา ประโยคและขอ้ ความทเ่ี ปน็ โวหาร ๑
๑๑.๒ ท ๑.๑ ป.๖/๑ อา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ และบทร้อยกรองได้ ๒
๑๑.๓ ท ๑.๑ ป.๖/๔ แยกขอ้ เทจ็ จรงิ และข้อคิดเหน็ จากเรือ่ งท่อี า่ น ๑
๑๑.๔ ท ๒.๑ ป.๖/๑ คัดลายมอื ตวั บรรจงเต็มบรรทดั และครึ่งบรรทดั ๑
๑๑.๕ ท ๒.๑ ป.๖/๓ เขียนแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพความคิดเพื่อใช้พัฒนางาน ๑
เขยี น
๑๐.๖ ท ๒.๑ ป.๖/๘ เขยี นเร่ืองตามจินตนาการและสร้างสรรค์ ๑
๑๒
หน่วยท่ี มาตรฐาน หนว่ ยการเรยี นรู้ จานวน
การเรยี นร/ู้ ชั่วโมง
ตวั ชี้วดั
๑๐.๗ ท ๑.๑ ป.๖/๗ อธิบายความหมายของข้อมูลจากการอ่านแผนผัง แผนที่ แผนภูมิ ๑
และกราฟ
๑๒. สี่ศิษย์พระดาบส ๑๓
๑๒.๑ ท ๑.๑ ป.๖/๒ อธบิ ายความหมายคา ประโยคและข้อความท่ีเปน็ โวหาร ๑
๑๒.๒ ท ๑.๑ ป.๖/๑ อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ ๒
๑๒.๓ ท ๑.๑ ป.๖/๔ แยกข้อเทจ็ จริงและขอ้ คิดเห็นจากเรอ่ื งท่อี ่าน ๑
๑๒.๔ ท ๑.๑ ป.๖/๕ อธิบายการนาความรู้และความคิดจากเรื่องที่อ่านไปตัดสินใจ ๒
แกป้ ัญหาในการดาเนินชีวติ
๑๒.๕ ท ๓.๑ ป.๖/๔ พูดรายงานเรื่องหรือประเด็นที่ศึกษาค้นคว้าจากการฟัง การดู และ ๑
การสนทนา
๑๒.๖ ท ๓.๑ ป.๖/๕ พดู โน้มนา้ วอยา่ งมเี หตุผลและน่าเช่ือถอื ๒
๑๒.๗ ท ๓.๑ ป.๖/๕ อธิบายการนาความรู้และความคิดจากเรื่องที่อ่านไปตัดสินใจ ๑
แก้ปัญหา
๑๒.๘ ท ๑.๑ ป.๖/๔ การอ่านอยา่ งมวี จิ ารณญาณ (สมดุ มิตรภาพ) ๓
ท ๑.๑ ป.๖/๕
ท ๒.๑ ป.๖/๑
ท ๒.๑ ป.๖/๒
ท ๕.๑ ป.๖/๑
ท ๕.๑ ป.๖/๓
๑๓. หน่ึงในประชาคม ๘
๑๓.๑ ท ๑.๑ ป.๖/๒ อธบิ ายความหมายคา ประโยคและขอ้ ความทเี่ ป็นโวหาร ๒
๑๓.๒ ท ๑.๑ ป.๖/๑ อา่ นออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ ๒
๑๓.๓ ท ๑.๑ ป.๖/๔ แยกข้อเทจ็ จริงและข้อคดิ เห็นจากเร่อื งท่อี ่าน ๒
๑๓.๔ ท ๑.๑ ป.๖/๕ เขยี นจดหมายสว่ นตวั ๒
- มมี ารยาทในการเขียน
๑๔. เสยี แลว้ ไมก่ ลับคืน ๘
๑๔.๑ ท ๑.๑ ป.๖/๒ อธบิ ายความหมายคา ประโยคและขอ้ ความท่ีเป็นโวหาร ๑
๑๔.๒ ท ๑.๑ ป.๖/๑ อ่านออกเสยี งบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรองได้ ๒
๑๔.๓ ท ๑.๑ ป.๖/๔ แยกขอ้ เท็จจรงิ และขอ้ คิดเห็นจากเรื่องทีอ่ ่าน ๒
๑๓
หน่วยที่ มาตรฐาน หนว่ ยการเรยี นรู้ จานวน
การเรียนร/ู้ ชั่วโมง
ตัวชว้ี ดั
๑๔.๔ ท ๑.๑ ป.๖/๗ อธิบายความหมายของข้อมูลจากการอ่านแผนผัง แผนที่ แผนภูมิ ๑
และกราฟ
๑๔.๕ ท ๓.๑ ป.๖/๑ พดู แสดงความร้คู วามเขา้ ใจจดุ ประสงค์ของเรือ่ งท่ีฟังและดู ๒
๑๕. นทิ านแสนสนุก ๙
๑๕.๑ ท ๑.๑ ป.๖/๒ อธิบายความหมายคา ประโยคและขอ้ ความทีเ่ ป็นโวหาร ๒
๑๕.๒ ท ๑.๑ ป.๖/๑ อ่านออกเสียงบทรอ้ ยแก้วและบทร้อยกรองได้ ๓
๑๕.๓ ท ๑.๑ ป.๖/๔ แยกขอ้ เทจ็ จรงิ และข้อคดิ เหน็ จากเร่ืองทีอ่ ่าน ๒
๑๕.๔ ท ๒.๑ ป.๖/๗ กรอกแบบรายการตา่ ง ๆ ๒
๑๖. พา่ งเพ้ยี งพสุธา ๘
๑๖.๑ ท ๑.๑ ป.๖/๒ อธิบายความหมายคา ประโยคและขอ้ ความท่ีเปน็ โวหาร ๑
๑๖.๒ ท ๑.๑ ป.๖/๑ อา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ และบทรอ้ ยกรองได้ ๒
๑๖.๓ ท ๑.๑ ป.๖/๔ แยกขอ้ เท็จจริงและข้อคิดเหน็ จากเร่ืองทีอ่ ่าน ๒
๑๖.๔ ท ๒.๑ ป.๖/๒ ใช้คาไดเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะแลบคุ คล ๓
รวม ๑๖๐
๑๔
๑๕
๑๖
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย รายวิชาภาษาไทย
ภาคเรียนท่ี ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๕
ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ เรือ่ ง สวยรา้ ยสายลับ
เวลา ๒ ชั่วโมง
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๑๑ สวยร้ายสายลบั
ครผู สู้ อน นางสาวณัฐญา ทองคา
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
๑. มาตรฐานการเรียนรู้
ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสรา้ งความรูแ้ ละความคิดเพ่ือนาไปตดั สนิ ใจแกป้ ัญหาในการดาเนินชวี ิต
และมนี ิสัยรักการอ่าน
๒. ตวั ช้วี ัด
ท ๑.๑ ป.๖/๑ อา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้อง
ท ๑.๑ ป.๖/๒ อธบิ ายความหมายของคา ประโยคและขอ้ ความท่เี ป็นโวหาร
ท ๑.๑ ป.๖/๔ แยกข้อเท็จจรงิ และข้อคิดเหน็ จากเรอ่ื งทอ่ี ่าน
๓. จุดประสงค์
๑. นกั เรยี นสามารถอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ และบทรอ้ ยกรองไดถ้ กู ตอ้ ง
๒. นกั เรียนสามารถบอกความหมายของคา ประโยคและข้อความทเ่ี ป็นโวหารได้
๓. นกั เรยี นสามารถแยกขอ้ เทจ็ จรงิ และข้อคดิ เหน็ จากเรอ่ื งทอ่ี า่ นได้
๔. สาระสาคญั
การอ่านมีความสาคัญต่อชีวิตอย่างมากตั้งแต่เกิดจนโต และจนกระทั่งถึงวัยชรา การอ่านเป็นทักษะที่
จาเป็นอย่างยิ่งต่อการศึกษาหาความรู้ และพัฒนาชีวิตซึ่งนอกจากจะทาให้เกิดความรู้แล้วยังก่อให้เกิด
ความสนุกสนานเพลิดเพลิน และส่งเสริมให้มีความคิดริเริ่ม ส้รางสรรค์ได้แนวคิดการดาเนินชีวิต การอ่านจึง
เป็นหัวใจสาคัญของการศึกษาทุกระดับ และเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้ต่าง ๆ การอ่านร้อยแก้ ว
ร้อยกรอง และการอ่านจับใจความล้วนแล้วเป็นทักษะที่จาเป็น เพราะจะช่วยให้เกิดความรู้
ความเขา้ ใจในส่ิงท่อี ่าน
การอ่านออกเสียงเป็นการอ่านให้ผู้อื่นฟัง ฉะนั้นผู้อ่านจะต้องแบ่งวรรคตอน เน้นเสียงหนักเบา
และออกเสยี งให้ถูกต้องชัดเจน จงึ จะสือ่ ความหมายไดอ้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพ
๑๗
การวิเคราะห์เรื่องเป็นการพิจารณาส่วนต่าง ๆ ของเรื่อง เช่น ข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น ส่วนดีและ
ส่วนบกพร่องของเนื้อเรื่อง จุดประสงค์ของผู้แต่ง ความเหมาะสมในการใช้คา ประโยค ข้อความ ฯลฯ
สรปุ ขอ้ คดิ ท่ไี ด้จากเรอื่ ง สามารถนาความร้ทู ่ีได้รบั ไปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ิตประจาวนั
๕. สาระการเรียนรู้
๑. การอ่านออกเสียงบทรอ้ ยแกว้
๒. ความหมายของคา ประโยค และขอ้ ความที่เปน็ โวหารจากบทอ่านรอ้ ยแกว้ และบทอา่ นร้อยกรอง
๖. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น
๑. ความสามารถในการส่ือสาร
๒. ความสามารถในคดิ
๓. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
๗. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
๑. มีวินยั
๒. ใฝ่เรยี นรู้
๓. ม่งุ มนั่ ในการทางาน
๘. ส่อื / แหลง่ เรยี นรู้
๑. หนังสอื เรียน รายวชิ าพื้นฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่อื ชวี ิต ภาษาพาที ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๖
๒. สือ่ การนาเสนอการเรยี นการสอน PowerPoint “หนว่ ยท่ี ๑ เร่อื ง สวยร้ายสายลบั ”
๙. ชิน้ งานหรอื ภาระงาน
๑. ใบงานอา่ นออกเสียงประเภทบทรอ้ ยแกว้ และร้อยกรองและให้อธิบายควาหมายของคา ประโยค
และข้อความทเ่ี ป็นโวหารที่ปรากฏ
๑๐. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
หน่วยยอ่ ยท่ี ๑ เร่ือง การอ่านบทรอ้ ยแก้ว เรอ่ื ง “สวยรา้ ยสายลบั ”
ชว่ั โมงท่ี ๑ – ๒ การเรยี นรรู้ ปู แบบการสอนตรง (direct instruction model)
๑๘
ข้นั ท่ี ๑ ขนั้ นา
๑. ครูยกตวั อยา่ งประโยคและบทอ่านส้ัน ๆ ใหผ้ ู้เรียนลองอา่ นออกเสียง
ข้ันที่ ๒ ขนั้ นาเสนอบทเรียน
๒. ครูอธบิ ายหลกั การอ่านร้อยแก้วและร้อยกรองทถ่ี ูกตอ้ งและสาธติ เปรียบเทียบการอ่าน
ออกเสียงบทรอ้ ยแก้วและบทรอ้ ยกรอง
ขัน้ ที่ ๓ ขนั้ ฝกึ ปฏบิ ัตติ ามแบบ
๓. ครูให้นกั เรยี นอา่ นตัวอยา่ งประโยคและบทอา่ นส้ัน ๆ ในขัน้ แรกอีกคร้ัง
ขน้ั ที่ ๔ ขน้ั ฝกึ ปฏบิ ัติภายใตก้ ารกากับของครู
๔. นกั เรยี นอา่ นออกเสยี ง เร่ือง “สวยร้ายสายลบั ” ในหนงั สือเรียน รายวิชาพนื้ ฐาน
ภาษาไทย ชุดภาษาเพื่อชีวิต ภาษาพาที ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๖ หนา้ ๑๖๔ – ๑๗๑ โดยแบ่งนกั เรียนให้อ่านตอ่
กนั คนละ ๑ ยอ่ หน้า
๕. นกั เรยี นอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรองทค่ี รกู าหนดให้
ขั้นที่ ๕ การฝึกปฏบิ ตั อิ ย่างอสิ ระ
๕. ครใู หน้ กั เรยี นอ่านออกเสยี ง เรือ่ ง “สวยรา้ ยสายลับ” พรอ้ มกนั ท้งั หอ้ ง
๖. ครแู ละนักเรยี นรวมกนั สรุปความรเู้ ร่ืองการออกเสียงและข้อคิดท่ไี ด้จากบทอา่ น
๑๙
๑๑. การวัดผลและปประเมนิ ผล
สง่ิ ท่ตี อ้ งการวดั /ประเมนิ ผล วิธกี ารวัด เครื่องมอื วัด เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารวดั และ
ประเมนิ
ด้านความรู้ - การสงั เกต - แบบสังเกต ๕ คะแนน (ดมี าก)
- ใบงาน ๔ คะแนน (ดี) - คะแนนจากการ
๑. นกั เรียนสามารถ - การตอบคาถาม ๓ คะแนน (ปานกลาง) สงั เกตพฤติกรรมของ
๒ คะแนน (พอใช)้ นกั เรยี นอยใู่ นเกณฑ์
อธิบายวิธีการอ่านออกเสียง - การมสี ่วนร่วม ๑ คะแนน (ปรับปรุง) “ผา่ น”
- คะแนนตรวจสอบ
บทร้อยแก้วไดถ้ ูกต้อง - ตรวจใบงาน ใบงานระดับ ๓ ขึ้น
ไปถอื วา่ “ผ่าน”
เหมาะสมจากเร่ืองท่ีอ่าน
๒.นกั เรยี นสามารถ
อธบิ ายวิธีการอ่านออกเสยี ง
บทร้อยกรองได้ถูกตอ้ ง
เหมาะสมจากเร่อื งทอ่ี า่ น
๓. นกั เรยี นสามารถอา่ น
ออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ ได้
ถกู ต้องเหมาะสมจากเรอ่ื งท่ี
อ่าน
๔. นกั เรียนสามารถอ่าน
ออกเสยี งบทรอ้ ยกรองได้
ถูกตอ้ งเหมาะสมจากเรือ่ งท่ี
อา่ น
๕. นักเรยี นเห็นคุณคา่
ของการอา่ นออกเสียงบทรอ้ ย
แกว้ บทร้อยกรอง
๒. นกั เรียนสามารถบอก
ความหมายของคา ประโยค
และข้อความทเ่ี ป็นโวหารได้
๓. นกั เรยี นสามารถ
แยกข้อเท็จจรงิ และขอ้ คดิ เหน็
จากเรอื่ งทีอ่ า่ นได้
๒๐
ด้านทักษะกระบวนการ - ตรวจสมดุ จด - สมุดจด ๕ คะแนน (ดีมาก) - นักเรียนเขียนสรุป
๑. นกั เรยี นสามารถ บันทึกรายวชิ า บนั ทกึ ๔ คะแนน (ด)ี ความรู้หลักการอ่าน
ภาษาไทย รายวิชา ๓ คะแนน (ปานกลาง) ร้อยแก้วและการอ่าน
อธบิ ายสรุปความรู้หลักการ ภาษาไทย ๒ คะแนน (พอใช้) ออกเสียงร้อยกรองได้
อา่ นร้อยแก้วและการอ่าน ๑ คะแนน (ปรบั ปรงุ ถูกต้องร้อยละ ๗๕
ออกเสียงรอ้ ยกรองได้
ดา้ นเจตคติ - การสงั เกต - แบบสงั เกต ๕ คะแนน (ดมี าก) - คะแนนจากการ
๔ คะแนน (ดี) สงั เกตพฤติกรรมของ
๑. นกั เรยี นมคี วาม ๓ คะแนน (ปานกลาง) นกั เรยี นอยใู่ นเกณฑ์
๒ คะแนน (พอใช้) “ผ่าน”
รับผิดชอบตอ่ งานทไี่ ดร้ ับ ๑ คะแนน (ปรับปรงุ
มอบหมาย
๒. นกั เรยี นมสี ว่ นรว่ ม
ในการเรียนการสอนและการ
ทากิจกรรม
๒๑
เกณฑใ์ หค้ ะแนน
ชน้ิ งานการวเิ คราะห์เรอ่ื งทอี่ ่านจากใบงานท่ี ๑,๒ ๓ และใบงานท่ี ๔ โครงสรา้ งวธิ ปี ระโยคไทย
รายการประเมิน เกณฑใ์ หค้ ะแนน
๑.สง่ ใบงานภายในเวลาทกี่ าหนด ๕ คะแนน : มีครบทุกข้อ
๒.ตอบคาถามถูกตอ้ งครบถว้ น ๔ คะแนน : มี ๔ ข้อ ขาด ๑ ข้อ
๓.วิเคราะหไ์ ด้อย่างถูกต้อง ๓ คะแนน : มี ๓ ข้อ ขาด ๒ ข้อ
๔.อา่ นได้อยา่ งถกู ต้อง ๒ คะแนน : มี ๒ ข้อ ขาด ๓ ข้อ
๕.สรุปความรู้ไดอ้ ย่างถกู ต้อง สมเหตสุ มผล ๑ คะแนน : มี ๑ ข้อ ขาด ๔ ข้อ
๒๒
๒๓
๒๔
๒๕
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๒
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย เรอ่ื ง ภาพย้อนคิด รายวิชาภาษาไทย
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ หนว่ ย
การเรยี นรู้ท่ี ๑๑ สวยรา้ ยสายลบั
ครผู สู้ อน นางสาวณัฐญา ทองคา เวลา ๒ ช่ัวโมง
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
๑. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราว
ในรปู แบบตา่ งๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ คว้าอย่างมีประสิทธิภาพ
๒. ตัวช้ีวัด
ท ๒.๑ ป.๖/๓ เขยี นแผนภาพ โครงเรื่อง และแผนภาพความคดิ เพ่ือใช้พัฒนางานเขยี น
๓. จดุ ประสงค์
๑. นกั เรยี นสามารถเขยี นเรอ่ื งจากแผนภาพความคดิ ได้
๒. นกั เรยี นสามารถเขยี นเรอ่ื งไดต้ รงตามจดุ ประสงค์
๔. สาระสาคญั
การเขียนข้อความหรือเรื่องราวให้ได้ผลสาเร็จตามต้องการของผู้เขียน จะต้องมีการวางแผนหรือ
เตรียมการเขียน ก่อนลงมือเขียน เขียนให้โครงเรื่อง และเมื่อเขียนแล้วจะต้องมีการตรวจสอบผลงานเขียนของ
ตนเองอีกครง้ั เพอ่ื ปรับปรงุ แก้ไขเพ่ือให้เป็นงานเขียนท่สี มบรู ณ์
๕. สาระการเรยี นรู้
๑. การวางแผนเตรียมการเขียน
๒. การเขยี นโครงเรื่องดว้ ยภาพความคิด
๖. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
๑. ความสามารถในการส่ือสาร
๒. ความสามารถในการคดิ
๓. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
๒๖
๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
๗. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
๑. ใฝเ่ รยี นรู้
๒. มีวินยั
๓. ม่งุ มน่ั ในการทางาน
๘. สอื่ / แหลง่ เรยี นรู้
๑. หนังสอื เรยี รายวิชาพืน้ ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพือ่ ชีวติ ภาษาพาที ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖
๒. สือ่ การนาเสนอการเรียนการสอน PowerPoint “หนว่ ยที่ ๒ เรอ่ื ง ภาพยอ้ นคิด”
๙. ช้ินงานหรอื ภาระงาน
๑. ใบงานเขียนแผนภาพความคิดในหัวข้อ “สาวรา้ ยสายลบั ”
๑๐. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
หน่วยย่อยที่ ๒ เร่ือง ประโยคซอ้ น เร่อื ง “ภาพยอ้ นคดิ ”
ชวั่ โมงที่ ๓ – ๔ การจดั การเรยี นรแู้ บบนริ นัย (Deductive Method)
ขั้นท่ี ๑ กาหนดขอบเขตของปญั หา
๑. ครูกลา่ วคาทักทายนกั เรยี นและถามนักเรยี นว่าจาไดห้ รือไม่ว่าคาบทเี่ ราแลว้ นกั เรยี นอา่ น
เรือ่ งอะไรไปบ้าง และจาไดไ้ หมวา่ เรอ่ื ง “สวยรา้ ยสายลับ”
ข้ันที่ ๒ อธบิ ายกฎหรอื หลักการเพ่ือการแกป้ ญั หา
๒. ครูนาแผนภาพความคิดให้นกั เรียนดูและอธบิ ายถงึ ความหมาย หลักการ ประโยชน์ กลวธิ ี
ของการเขยี นแผนภาพความคิดจากเร่ือง “สาวรา้ ยสายลบั ”
ขั้นที่ ๓ ใชท้ ฤษฎี หลักการ
๓. ครใู ห้ใบงานแกน่ ักเรยี นสาหรบั การเขยี นแผนภาพความคิดจากเร่ือง “สวยรา้ ยสายลับ”
ข้ันท่ี ๔ ตรวจสอบและสรปุ
๔. นกั เรยี นยกตวั อยา่ งการเขยี นแผนภาพความคดิ จากเรอ่ื ง “สาวร้ายสายลับ”
๒๗
ขน้ั ที่ ๕ ฝึกปฏิบัติ
๕. นกั เรยี นสามารถเขยี นแผนภาพความคดิ จากเรอ่ื ง “สาวรา้ ยสายลบั ”
๑๑. การวัดผลและปประเมนิ ผล
สิง่ ท่ีต้องการวดั /ประเมนิ ผล วิธกี ารวดั เครื่องมอื วัด เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑ์การวดั และ
- แบบสังเกต ประเมนิ
ด้านความรู้ - การสงั เกต ๕ คะแนน (ดีมาก)
- ใบงาน ๔ คะแนน (ดี) - คะแนนจากการ
๑. นักเรยี นสามารถ - การตอบคาถาม ๓ คะแนน (ปานกลาง) สงั เกตพฤตกิ รรมของ
๒ คะแนน (พอใช้) นกั เรยี นอยใู่ นเกณฑ์
อธบิ ายวิธกี ารเขยี นแผนภาพ - การมสี ว่ นร่วม ๑ คะแนน (ปรบั ปรุง) “ผา่ น”
- คะแนนตรวจสอบ
ความคิดได้ถูกต้อง ๕ คะแนน (ดมี าก) ใบงานระดับ ๓ ขึ้น
๔ คะแนน (ดี) ไปถอื วา่ “ผา่ น”
๒.นักเรียนสามารถบอก ๓ คะแนน (ปานกลาง)
๒ คะแนน (พอใช)้ - นักเรียนเขียนสรุป
ประโยชน์ของการเขยี น ๑ คะแนน (ปรบั ปรุง ความรู้หลักการอ่าน
ร้อยแก้วและการอ่าน
แผนภาพความคิดจากเร่ืองที่ ออกเสียงรอ้ ยกรองได้
ถกู ต้องร้อยละ ๗๕
อ่านได้
ด้านทักษะกระบวนการ - ตรวจใบงาน
๑. นกั เรยี นสามารถ
เขยี นแผนภาพความคิดได้
ถูกต้อง ครบถ้วน
ด้านเจตคติ - การสงั เกต - แบบสงั เกต ๕ คะแนน (ดมี าก) - คะแนนจากการ
๔ คะแนน (ด)ี สังเกตพฤติกรรมของ
๑. นกั เรยี นมคี วาม ๓ คะแนน (ปานกลาง) นกั เรยี นอยใู่ นเกณฑ์
๒ คะแนน (พอใช)้ “ผา่ น”
รบั ผดิ ชอบตอ่ งานทไี่ ด้รบั ๑ คะแนน (ปรบั ปรุง
มอบหมาย
๒. นกั เรยี นมสี ว่ นรว่ ม
ในการเรยี นการสอนและการ
ทากจิ กรรม
๒๘
เกณฑใ์ หค้ ะแนน
ชน้ิ งานการวเิ คราะห์เรอ่ื งทอ่ี า่ นจากใบงานที่ ๑,๒ ๓ และใบงานท่ี ๔ โครงสรา้ งวธิ ปี ระโยคไทย
รายการประเมิน เกณฑ์ใหค้ ะแนน
๑.สง่ ใบงานภายในเวลาทีก่ าหนด ๕ คะแนน : มคี รบทุกขอ้
๒.ตอบคาถามถูกตอ้ งครบถว้ น ๔ คะแนน : มี ๔ ขอ้ ขาด ๑ ข้อ
๓.วิเคราะหไ์ ด้อย่างถูกต้อง ๓ คะแนน : มี ๓ ข้อ ขาด ๒ ข้อ
๔.อา่ นได้อยา่ งถกู ต้อง ๒ คะแนน : มี ๒ ขอ้ ขาด ๓ ข้อ
๕.สรุปความรู้ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง สมเหตสุ มผล ๑ คะแนน : มี ๑ ข้อ ขาด ๔ ข้อ
๒๙
๓๐
ปกเท่ยี วรอบโลก
๓๑
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๓
กลุม่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย เร่ือง เทยี่ วรอบโลก รายวชิ าภาษาไทย
ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๖ ภาคเรียนที่ ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕ หน่วย
การเรียนรู้ท่ี ๑๑ สวยร้ายสายลับ
ครผู สู้ อน นางสาวณฐั ญา ทองคา เวลา ๒ ชว่ั โมง
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
๑. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความร้แู ละความคิดเพอ่ื นาไปใช้ตัดสนิ ใจ แก้ปัญหาใน
การดาเนนิ ชวี ิตและมนี สิ ัยรกั การอ่าน
๒. ตวั ชีว้ ดั
ท ๑.๑ ป.๖/๗ อธบิ ายความหมายของขอ้ มูลจากการอา่ นแผนผงั แผนท่ี แผนภูมิ และกราฟ
๓. จุดประสงค์
๑. นกั เรยี นสามารถบอกความหมายของสัญญลกั ษณใ์ นแผนท่ีได้
๒. นกั เรยี นสามารถอา่ นแผนทแ่ี ละแผนผงั ได้
๔. สาระสาคญั
แผนที่ คือ แบบที่เขียนย่อของพื้นดิน แม่น้า ฝั่งทะเล และอื่น ๆ การอ่านแผนที่ต้องรู้จักทิศ
เครื่องหมายมาตราส่วน เส้นรงุ้ เส้นแวง จึงจะอ่านแผนทีไ่ ดถ้ กู ต้อง
แผนผัง คือ แบบที่เขียนย่อของสิ่งต่าง ๆ แผนผังจะบอกขนาด ทิศทาง และมาตราส่วน การเขียน
แผนผงั ตา่ งกบั แผนที่ ตรงเสน้ และวธิ ีการเขียน สว่ นวธิ ีอา่ นเหมอื นกัน
๕. สาระการเรียนรู้
๑. การอ่านขอ้ มลู จากแผนผัง แผนที่ แผนภมู ิ และกราฟ
๖. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น
๑. ความสามารถในการส่ือสาร
๒. ความสามารถในการคดิ
๓. ความสามารถในการแก้ปญั หา
๓๒
๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ
๗. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
๑. ใฝ่เรียนรู้
๒. มีวินัย
๓. มุง่ ม่นั ในการทางาน
๘. สอ่ื / แหลง่ เรียนรู้
๑. หนังสือเรีย รายวิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพือ่ ชวี ิต ภาษาพาที ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๖
๒. สอื่ การนาเสนอการเรียนการสอน PowerPoint “หนว่ ยที่ ๔ เรือ่ ง เที่ยวรอบโลก”
๓. ภาพถา่ ยทางอากาศ แผนที่ต่าง ๆ ในอนิ เทอรเ์ นต็
๙. ช้นิ งานหรอื ภาระงาน
๑. ใบงาน “เทย่ี วรอบโลก”
๑๐. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
หน่วยยอ่ ยที่ ๓ เรือ่ ง “เที่ยวรอบโลก”
ชว่ั โมงท่ี ๕ – ๖ การเรียนรรู้ ูปแบบการสอนตรง (direct instruction model)
ขัน้ ที่ ๑ ขน้ั นา
๑. ครูกล่าวคาทักทายนักเรียนชักชวนพานักเรียนไปเที่ยวรอบโลกกันและนาภาพถ่ายทาง
อากาศ แผนที่โลก และถามสัญลักษณ์แบบนี้เรียกว่าอะไร มีใครตอบได้ไหม หลังจากนั้นโยงเข้า
บทเรียน
ข้นั ที่ ๒ ขนั้ นาเสนอบทเรยี น
๒. ครูอธิบายให้นักเรียนเข้าใจว่าในการศึกษาทางภูมิศาสตร์จะต้องมีเครื่องมือต่าง ๆ
ในการศึกษาค้นหาข้อมูล นาเสนอข้อมูล และจัดเก็บข้อมูล จากนั้นสนทนาถึงเครื่องมือทางภูมิศาสตร์แต่ละ
ชนดิ เกีย่ วกบั ประโยชนแ์ ละการใช้งานเครอื่ งมอื นน้ั ๆ พร้อมทั้งสาธิตการใชเ้ ครอื่ งมอื การอ่านแผนท่ี
ขั้นที่ ๓ ขนั้ ฝกึ ปฏิบัติตามแบบ
๓. ครูใหน้ กั เรยี นแต่ละคนฝกึ ใช้เคร่ืองมอื ทางภมู ิศาสตรต์ ่าง ๆ
๓๓
ขนั้ ที่ ๔ ขนั้ ฝกึ ปฏิบัติภายใตก้ ารกากับของครู
๔. ครูใหน้ ักเรยี นศกึ ษาเรอื่ ง การอา่ นแผนท่ี แผนผงั จากหนงั สอื เรยี น ภาษาพาที ช้นั ป.๖
และครอู ธิบายเพ่มิ เติม เปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นซกั ถามปัญหาและขอ้ สงสยั
ข้ันท่ี ๕ การฝกึ ปฏบิ ตั ิอยา่ งอสิ ระ
๕. ครูให้นักเรยี นอธิบายสรปุ หลกั การอา่ นแผนท่ี แผนผัง แผนภมู ิ โดยใช้แผนที่ประเทศไทย
แสดงให้นักเรียนดูสญั ลักษณต์ ่าง ๆ ในแผนทีแ่ ละให้นกั เรยี นบอกความหมาย
๖. นกั เรยี นทาใบงาน “เทย่ี วรอบโลก”
๑๑. การวดั ผลและปประเมนิ ผล
ส่งิ ทตี่ อ้ งการวดั /ประเมินผล วิธกี ารวัด เครื่องมือวัด เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑ์การวดั และ
- แบบสังเกต ประเมนิ
ด้านความรู้ - การสังเกต ๕ คะแนน (ดมี าก)
- ใบงาน ๔ คะแนน (ดี) - คะแนนจากการ
๑. นกั เรยี นสามารถ - การตอบคาถาม ๓ คะแนน (ปานกลาง) สงั เกตพฤตกิ รรมของ
๒ คะแนน (พอใช)้ นกั เรยี นอยใู่ นเกณฑ์
อธิบายประเภทของแผนท่ี - การมสี ว่ นรว่ ม ๑ คะแนน (ปรบั ปรุง) “ผา่ น”
- คะแนนตรวจสอบ
แผนภูมิ และแผนผงั ได้ ๕ คะแนน (ดีมาก) ใบงานระดับ ๓ ขึ้น
๔ คะแนน (ดี) ไปถอื วา่ “ผา่ น”
๒.นกั เรยี นสามารถบอก ๓ คะแนน (ปานกลาง) - นักเรียนเขียนสรุป
๒ คะแนน (พอใช)้ ความรู้หลักการอ่าน
ความหมายของสัญญาลกั ษณ์ ๑ คะแนน (ปรบั ปรงุ ร้อยแก้วและการอ่าน
ออกเสียงรอ้ ยกรองได้
ของแผนทไี่ ด้ ถูกต้องร้อยละ ๗๕
ด้านทกั ษะกระบวนการ - ตรวจใบงาน
๑. นกั เรยี นสามารถอ่าน
แผนท่ีได้ถกู ตอ้ ง
๒. นักเรียนสามารถบอก
ประโยชน์ของการอ่านแผนท่ี
ได้
ดา้ นเจตคติ - การสงั เกต - แบบสงั เกต ๕ คะแนน (ดมี าก) - คะแนนจากการ
๑. นกั เรยี นมคี วาม ๔ คะแนน (ดี) สงั เกตพฤตกิ รรมของ
๓ คะแนน (ปานกลาง) นกั เรยี นอยใู่ นเกณฑ์
รับผิดชอบต่องานที่ไดร้ ับ ๒ คะแนน (พอใช)้ “ผ่าน”
มอบหมาย ๑ คะแนน (ปรบั ปรุง
๓๔
๒. นกั เรยี นมสี ว่ นรว่ ม
ในการเรียนการสอนและการ
ทากิจกรรม
๓๕
เกณฑใ์ หค้ ะแนน
ชน้ิ งานการวเิ คราะห์เรอ่ื งทอี่ ่านจากใบงานท่ี ๑,๒ ๓ และใบงานท่ี ๔ โครงสรา้ งวธิ ปี ระโยคไทย
รายการประเมิน เกณฑใ์ หค้ ะแนน
๑.สง่ ใบงานภายในเวลาทกี่ าหนด ๕ คะแนน : มีครบทกุ ข้อ
๒.ตอบคาถามถูกตอ้ งครบถว้ น ๔ คะแนน : มี ๔ ขอ้ ขาด ๑ ข้อ
๓.วิเคราะหไ์ ด้อย่างถูกต้อง ๓ คะแนน : มี ๓ ข้อ ขาด ๒ ข้อ
๔.อา่ นได้อยา่ งถกู ต้อง ๒ คะแนน : มี ๒ ขอ้ ขาด ๓ ข้อ
๕.สรุปความรู้ไดอ้ ย่างถกู ต้อง สมเหตสุ มผล ๑ คะแนน : มี ๑ ข้อ ขาด ๔ ข้อ
๓๖
๓๗
๓๘
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย รายวิชาภาษาไทย
ภาคเรียนท่ี ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๕
ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๖ เรือ่ งเขียนสวยด้วยมือเรา
เวลา ๑ ชั่วโมง
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๑๑ สวยร้ายสายลบั
ครูผสู้ อน นางสาวณฐั ญา ทองคา
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
๑. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราว
ในรปู แบบตา่ งๆ เขยี นรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นควา้ อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
๒. ตัวชวี้ ดั
ท ๒.๑ ป.๖/๑ คดั ลายมอื ตวั บรรจงเตม็ บรรทัดและคร่ึงบรรทดั
๓. จดุ ประสงค์
๑. นกั เรยี นสามารถเขา้ ใจหลกั การเขยี น
๒. นกั เรยี นสามารถเขยี นคดั ลายมอื ได้
๔. สาระสาคญั
การเขียนเพื่อสื่อสารความรู้ความคิดของตนให้ผู้อื่นทราบ จาเป็นต้องเขียนด้วยลายมือที่อ่านง่าย
เป็นระเบียบเรียบร้อยและสะอาด ทาให้ผู้อ่านสบายตาและเกิดความรู้สึกอยากอ่านข้อความนั้น ๆ ทั้งยังแสดง
ใหเ้ ปน็ วา่ ผูเ้ ขยี นเป็นคนตงั้ ใจทางาน มีมารยาททดี่ ี และเปน็ การอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมทางภาษาอีกดว้ ย
๕. สาระการเรียนรู้
๑. การเขียน
๒. การคดั ลายมือ
๖. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
๑. ความสามารถในการสื่อสาร
๒. ความสามารถในการคิด
๓. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
๓๙
๗. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
๑. รักความเปน็ ไทย
๒. ใฝเ่ รยี นรู้
๓. มีวินยั
๔. มุง่ มนั่ ในการทางาน
๘. ส่อื / แหลง่ เรียนรู้
๑. หนงั สือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพือ่ ชวี ิต ภาษาพาที ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๖
๒. สอื่ การนาเสนอการเรยี นการสอน PowerPoint “หน่วยท่ี ๔ เรอ่ื ง เขียนสวยด้วยมือเรา”
๙. ช้ินงานหรอื ภาระงาน
๑. ใบงานคดั ลายมอื “เขียนสวยดว้ ยมอื เรา”
๑๐. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
หนว่ ยย่อยท่ี ๔ เรอื่ ง ประโยคซ้อน เร่ือง “เขยี นสวยดว้ ยมือเรา”
ช่ัวโมงที่ ๗ การเรยี นรรู้ ูปแบบการสอนตรง (direct instruction model)
ขน้ั ที่ ๑ ขน้ั นา
๑. ครกู ล่าวคาทกั ทายนกั เรยี นและทบทวนเน้ือทีเ่ รยี นในช่ัวโมงที่แล้ว
๒. ครถู ามนักเรยี นวา่ ช่วงนม้ี นี ักเรยี นคนไหนฝึกคัดลายมอื อยบู่ ้าง และเขา้ สบู่ ทเรียน
ขนั้ ที่ ๒ ข้นั นาเสนอบทเรียน
๒. ครอู ธิบายและสอนใหน้ ักเรยี นเข้าใจและฝกึ เขียนตามหลกั วธิ ีการเขียนท่ีถูกตอ้ ง
ข้นั ท่ี ๓ ขน้ั ฝกึ ปฏบิ ตั ติ ามแบบ
๓. ครใู หน้ ักเรยี นแต่ละคนฝกึ คดั ลายมอื โดยการเขียนตามรปู แบบท่ีครกู าหนดให้ “เขยี นสวย
ดว้ ยมือเรา”
ขน้ั ที่ ๔ ขน้ั ฝกึ ปฏบิ ัตภิ ายใตก้ ารกากับของครู
๔. นกั เรยี นฝกึ คดั ลายมอื จากใบงานทก่ี าหนดให้ “เขยี นสวยดว้ ยมอื เรา”
๔๐
ขน้ั ท่ี ๕ การฝกึ ปฏิบัติอยา่ งอิสระ
๕. นกั เรยี นเขยี นคดั ลายมอื ลงในใบงาน “เขยี นสวยด้วยมอื เรา”
๑๑. การวัดผลและปประเมนิ ผล
สิ่งท่ตี ้องการวดั /ประเมินผล วิธกี ารวดั เครื่องมือวดั เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารวัดและ
- ใบงาน ประเมนิ
ด้านทักษะกระบวนการ - ตรวจใบงาน ๕ คะแนน (ดีมาก)
๑. นักเรยี นเขียนคดั - แบบสงั เกต ๔ คะแนน (ดี) - คะแนนจากการ
๓ คะแนน (ปานกลาง) สังเกตพฤติกรรมของ
ลายมอื สะกดคาไดถ้ กู ตอ้ ง ๒ คะแนน (พอใช)้ นกั เรยี นอยใู่ นเกณฑ์
๒.นักเรียนเขยี นคดั ๑ คะแนน (ปรับปรุง) “ผ่าน”
- คะแนนตรวจสอบ
ลายมอื สวยงาม ๕ คะแนน (ดมี าก) ใบงานระดับ ๓ ขึ้น
๔ คะแนน (ด)ี ไปถอื ว่า “ผ่าน”
ดา้ นเจตคติ - การสงั เกต ๓ คะแนน (ปานกลาง) - คะแนนจากการ
๒ คะแนน (พอใช้) สงั เกตพฤติกรรมของ
๑. นกั เรยี นมคี วาม ๑ คะแนน (ปรับปรงุ นกั เรยี นอยใู่ นเกณฑ์
“ผ่าน”
รบั ผดิ ชอบตอ่ งานท่ไี ดร้ ับ
มอบหมาย
๒. นกั เรยี นมสี ว่ นรว่ ม
ในการเรยี นการสอนและการ
ทากิจกรรม
๔๑
เกณฑ์ใหค้ ะแนน
ช้นิ งานการวเิ คราะหเ์ ร่อื งทอี่ ่านจากใบงานท่ี ๑,๒ ๓ และใบงานที่ ๔ โครงสรา้ งวธิ ปี ระโยคไทย
รายการประเมนิ เกณฑ์ใหค้ ะแนน
๑.ส่งใบงานภายในเวลาท่กี าหนด ๕ คะแนน : มีครบทกุ ข้อ
๒.เขียนสะกดคาถกู ตอ้ งครบถ้วน ๔ คะแนน : มี ๔ ขอ้ ขาด ๑ ข้อ
๓.เขียนสวยได้อย่างถกู ต้อง ๓ คะแนน : มี ๓ ข้อ ขาด ๒ ข้อ
๔.เขียนสะอาดไมล่ บเยอะไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ๒ คะแนน : มี ๒ ข้อ ขาด ๓ ข้อ
๑ คะแนน : มี ๑ ข้อ ขาด ๔ ข้อ
๔๒
๔๓
๔๔