สรุปผลการดาเนินงาน
ผู้นาจติ สาอาพัฒนาชุมชน
ในการขับเคลอื่ นศูนยผ์ ู้นาจติ อาสาพัฒนาชุมชน
ระดับดีเด่น
ตามโครงการเสรมิ สรา้ งและพัฒนาผูน้ าการ
เปลี่ยนแปลง
ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2565
ศูนยผ์ ู้นาจติ อาสาพฒั นาชมุ ชน ศูนยก์ ารเรยี นรเู้ ศรษฐกิจพอเพียง (ละไมฟารม์ )
สานักงานพัฒนาชุมชนจงั หวดั อุทยั ธานี
คานา
ด้ วยนา้ พระราชหฤทัยที่ทรงห่ วงใยประชาชนและ ทรง คา นึงถึงความอยู่ดี มีสุ ข ของ
พสกนิกรเปน็ สาคัญ ผนวกกับพระราชปณิธานท่ีแน่วแน่ในการปลุกจติ สานึกและปลูกฝังให้ปวงชนชาวไทยทุกหมู่
เหล่าได้รว่ มกันบาเพ็ญประโยชน์ทาความดีตอบแทนคุณแผ่นดินและเพ่ือถวายเป็นพระร า ช กุศ ล แ ด่
"พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธเิ บศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร" รชั กาลท่ี 9 ดังน้ัน
“พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหารามาธบิ ดีศรสี ินทรมหาวชริ าลงกรณ์ พระวชริ เกล้าเจา้ อยู่หัว รชั กาลท่ี10"
จงึ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ จดั ต้ังโครงการจติ อาสา "เราทาความดี ด้วยหัวใจ" ครง้ั แรกเนื่องในโอกาส
เฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฏาคม 2560
ในการน้ี กรมการพัฒนาชุมชนได้ให้ความสาคัญในการเสรมิ สรา้ งผู้นาชุมชน โดยการพัฒนา
ศักยภาพผู้นาชุมชน เพ่ือเสรมิ สรา้ งความเข้มแข็งของชุมชนในระดับต่าง ๆ ให้ผู้นาชุมชนมีความรู้ คู่คุณธรรม
สามารถบรหิ ารจดั การชุมชนของตนเองได้และเป็นกาลังหลักในการขับเคล่ือนการดาเนินงานพัฒนาชุมชนในพื้นท่ี
ขับเคล่ือนกิจกรรมการพัฒนาตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงและส่งเสรมิ ความเข้มแข็งของชุมชน
ด้วยแนวคิดการสรา้ งการเรยี นรูเ้ ชงิ รกุ แบบรวมพลังของผู้นาการเปลี่ยนแปลงเพ่ือสรา้ งพลังการเปลี่ยนแปลง
ทางสังคมให้เข้มแข็งพ่ึงตนเองได้อยา่ งย่งั ยนื
สารบัญ
ส่วนท่ี 1 บทนา ความเปน็ มา ข้อมูลทวั่ ไป 1-4
ส่วนที่ 2 5-9
1) ผลสาเรจ็ เปน็ รูปธรรมของทมี ขับเคลอ่ื นศูนย์
ส่วนที่ 3 ผู้นาจติ อาสาพัฒนาชุมชน 10
ส่วนท่ี 4
2) กระบวนการสรา้ งและพัฒนาทมี ผู้นาการเปลยี่ นแปลง
ในการขับเคล่อื นศูนยผ์ ู้นาจติ อาสาพฒั นาชุมชน
2) วธิ กี าร/แนวทางการขับเคล่อื นศูนยผ์ ู้นาจติ อาสาพัฒนาชุมชน
ให้เกิดความยัง่ ยืน
3) การพฒั นาขยายผลและความคิดสรา้ งสรรค์ ในกระบวนการ
ขับเคลื่อนการ
สรา้ งความมั่นคงทางอาหารให้ต่อเน่ืองอยา่ งย่งั ยืน
แบบเสนอโครงการขอรบั การสนับสนุนการดาเนินงานฯ
(งบประมาณ 10,000 บาท )
ภาคผนวก
1
ส่วนท่ี 1
บทนา
ยุทธศาสตรช์ าติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) มุ่งเน้นการพัฒนาเพื่อให้บรรลุวสิ ัยทัศน์
“ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้วด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญา
ของเศรษฐกิจพอเพียง”โดยมียุทธศาสตรด์ ้านการสรา้ งโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ท่ีมีเปา้ หมายการ
พัฒนาให้ความสาคัญ ในการดึงเอาพลังของภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาคเอกชน ประชาสังคม ชุมชนท้องถ่ินและ
ประชาชนมารว่ มขับเคล่ือนการเสรมิ สรา้ งความเข้มแข็งของชุมชนในการจดั การตนเอง และการเตรยี มความพรอ้ มของ
ประชากรไทยทั้งในมิติสุขภาพ เศรษฐกิจ สังคม และสภาพแวดล้อมให้เป็นประชากรที่มีคุณ ภาพ
สามารถพึ่งตนเองและทาประโยชน์แก่ครอบครวั ชุมชน และสังคม ซึ่งสอดคล้องกับหลักปรชั ญาของ
เศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระชนกาธเิ บศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รว่ มกับ
แนวคิดการพัฒนาพ้ืนท่ีและการออกแบบเชงิ ภูมิสังคมไทยเพื่อสรา้ งการพึ่งตนเองและรองรบั ภัยพิบัติ ใน
รปู แบบ “โคก หนอง นา โมเดล” สรา้ งการมีส่วนรว่ มของประชาชน มีภูมิคุ้มกัน ให้ชุมชนสามารถพ่ึงตนเอง และ
การท่ีประชาชนปวารณาตนเองทางานด้วยความเต็มใจและเสียสละเพ่ือส่วนรวม เพื่อเป็นการสนองแนวพระราชดาร ิ
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เรอ่ ื งงานจิตอาสาเราทาความดีด้วยหัวใจ โดยอาศัยรูปแบบ
ของผู้นาจิตอาสาพัฒนาชุมชนที่มีจิตสานึกรบั ผิดชอบต่อชุมชนมีบทบาทและมีส่วนรว่ มในการพัฒนา
และการสรา้ งชุมชนท่ีเข้มแข็งอย่างย่ังยืนในการสนับสนุนนโยบายรฐั บาลท่ีมุ่งสืบสาน รกั ษา ต่อยอด และ
พัฒนาประเทศต่อไป
จงั หวัดอุทยั ธานีได้ให้ความสาคัญในการเสรมิ สรา้ งผู้นาชุมชน โดยการพัฒนาศักยภาพผู้นาชุมชน
เพื่อเสรมิ สรา้ งความเข้มแข็งของชุมชนในระดับต่าง ๆ ให้ผู้นาชุมชนมีความรู้ คู่คุณธรรม สามารถบรหิ าร
จัด ก า ร ชุ ม ช น ข อ ง ต น เ อ ง ไ ด้ แ ล ะ เ ป็ น กา ลั ง ห ลั ก ใ น ก า ร ขั บ เ ค ลื่ อ น ก า ร ดา เ นิ น ง า น พั ฒ น า ชุ ม ช น ใ น พื้ น ที่
และพัฒนาพ้ืนตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงและส่งเสรมิ ความเข้มแข็งของชุมชนด้วยแนวคิด
การสรา้ งการเรยี นรเู้ ชงิ รุกแบบรวมพลังของผู้นาการเปล่ียนแปลง เพ่ือสรา้ งพลังการเปล่ียนแปลงทางสังคมจงึ
ได้ดาเนินการพัฒนาผู้นาการเปล่ียนแปลงให้สามารถขับเคล่ือนศูนย์ผู้นาจติ อาสาพัฒนาชุมชนในการพัฒนา
คุณภาพชวี ติ ประชาชนของคนในพื้นท่ี
2
ความเปน็ มา
ศูนย์การเรยี นรูเ้ ศรษฐกิจพอเพียง (ละไมฟารม์ ) ก่อตั้งศูนย์โดยการทีน่ างลมัย พุ่มกลิ่น ได้ไป
รบั เสด็จสมเด็จพระกนิษฐาธริ าชเจา้ กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมาร ีเม่ือปี 2560 และ
กลับมาดาเนินกิจกรรมศูนย์เรยี นรูเ้ ศรษฐกิจพอเพียงเพ่ือให้ชุมชนหรอื หน่วยงานมาศึกษาดูงานมาฝึกอาชพี ใน
ศูนย์เรยี นรูข้ องพื้นที่ โดยพื้นที่ภายในศูนย์เรยี นรู้ มีจานวน 10 ไร่ ซ่ึงได้ดาเนินการจัดทาเกษตรแบบ
ผสมผสานในช่วงดาเนินการใหม่ๆ และปีต่อมาก็เรม่ ิ พัฒนาศูนย์เรยี นรูแ้ ละเรม่ ิ ดาเนินการเป็นแบบเกษตร
ทฤษฎีใหม่โดยแบง่ เป็น 30-30-30-10
ขอ้ มูลทว่ั ไปของพื้นที่
1.1 ความเป็นมาของอาเภอสวา่ งอารมณ์
เดิมชอื่ ว่า “บ้านสว่างแจ้งสบายใจ”สมัยกรุงศรอี ยุธยากองทัพพม่าได้ยกทัพมาทาสงคราม
กับกองทัพไทย ได้สู้รบกันมาทางอาเภอลาดยาว จงั หวัดนครสวรรค์ในเวลากลางคืน และมาถึงหมู่บา้ นน้ีตอนรงุ่ เชา้
ต่อมา กรมการปกครองเห็นวา่ ชอื่ นี้ยังไม่เหมาะสม จงึ เปล่ียนชอื่ ใหม่เป็น “สวา่ งอารมณ์”
และได้ยกฐานะข้ึนเป็นกิ่งอาเภอซง่ึ ข้ึนกับอาเภอทัพทัน จงั หวัดอุทัยธานี ตั้งแต่วันท่ี 1 มกราคม 2504
ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวนั ท่ี 9 ธนั วาคม 2503 ประกอบไปด้วย ตาบลสวา่ งอารมณ์ ตาบลพลวงสองนาง
และตาบลหนองหลวง และต่อมาก็ได้ยกฐานะเป็นอาเภอสว่างอารมณ์ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2506
ต้ังอยู่หมู่ที่ 1 ตาบลสว่างอารมณ์ มีผู้ดารงตาแหน่งนายอาเภอมาแล้ว 28 คน คนแรก คือ ร.ท.บันเทิง
ศรจี นั ทราพันธ์ และคนปัจจุบัน คือนายวกี ิจ มานะโรจน์กิจ
๑.๒ คาขวัญอาเภอ
1.3 ทีต่ ้ังและอาณาเขต
อาเภอสวา่ งอารมณ์ ตั้งอยู่ทางด้านทศิ เหนือของจงั หวัดอุทยั ธานี มีพื้นท่ีทง้ั หมดประมาณ
341 ตารางกิโลเมตร หรอื ประมาณ 213,125 ไร่ มีอาณาเขตติดต่อกับอาเภออ่ืนและจงั หวดั ใกล้เคียงดังน้ี
ทศิ เหนือ ติดต่อกับ อาเภอลาดยาว จงั หวัดนครสวรรค์
ทศิ ใต้ ติดต่อกับ อาเภอทพั ทนั จงั หวัดอุทัยธานี
ทศิ ตะวันออก ติดต่อกับ อาเภอโกรกพระ จงั หวดั นครสวรรค์
ทศิ ตะวันตก ติดต่อกับ อาเภอลานสัก จงั หวัดอุทัยธานี
3
1.4 ลกั ษณะภูมิประเทศ
พื้นที่ในอาเภอสว่างอารมณ์ แบง่ ออกเปน็ 3 ลักษณะคือ
1.4.1 ภูมิประเทศแบบลาดเอียง สภาพพ้ืนท่ีเป็นที่ลาดเอียงจากทางทิศตะวันตกของอาเภอลงมา
ทางทิศตะวันออก ได้แก่ พื้นท่ขี องตาบลไผ่เขียว , ตาบลบอ่ ยาง , ตาบลสวา่ งอารมณ์ ,และตาบลหนองหลวง
1.4.2 ภูมิประเทศแบบภูเขาสูง มีพื้นท่ีท่ีประกอบด้วยภูเขาสูงเรยี งตัวเป็นแนวยาว ได้แก่
พื้นทใี่ นเขตตาบลหนองหลวง และตาบลไผ่เขียว
1.4.3 ภูมิประเทศแบบราบลุ่มแม่น้า พื้นท่ีของอาเภอสว่างอารมณ์ จะมีแม่น้าแควตากแดด
และลาน้าคลองโพไหลผ่านเป็นแหล่งนา้ ท่ีสาคัญของอาเภอ ได้แก่พ้ืนที่ ตาบลไผ่เขียว และตาบลสวา่ งอารมณ์
สภาพพ้ืนทท่ี ่ัวไป เป็นภูเขาและมีพื้นทล่ี าดเอียงทางด้านตะวันตกขึ้นไปจนถึงตะวันออกของอาเภอ
ส่วนพื้นท่รี าบอยูท่ างด้านทิศใต้ มีลาน้าสายหลักคือ แม่น้าแควตากแดด ลาน้าคลองโพ และลานา้ สายยอ่ ย
1.5 สภาพภูมิอากาศ
สภาพภูมิอากาศมีลักษณะคล้ายกับบรเิวณพื้นท่อี ่ืนในพ้ืนท่ีราบภาคกลาง คือ มี 3 ฤดูกาล
- ฤดูรอ้ น ประมาณ 3 เดือน (กุมภาพนั ธ์ - พฤษภาคม)
- ฤดูฝน ประมาณ 5 เดือน (พฤษภาคม - ตุลาคม)
- ฤดูหนาว ประมาณ 4 เดือน (ตุลาคม – กุมภาพันธ)์
1.6 ทรพั ยากรธรรมชาติ
ความสมบูรณ์ของระบบนิเวศ ดิน นา้ ป่า
- ทรพั ยากรดิน มีลักษณะเป็นดินตะพักลาน้า เนื้อดินเป็นดินปนทราย มีความอุดมสมบูรณ์
ปานกลางถึงปานกลางค่อนข้างตา่ เหมาะกับการทาเกษตรโดยเฉพาะทาไรท่ านา
- ทรพั ยากรน้า มีลาน้าธรรมชาติที่สาคัญในพื้นที่ คือ ลาน้าแควตากแดด ลาน้าคลองโพ
โดยแม่นา้ ทั้งสองไหลมารวมบรรจบกันที่บา้ นสว่างน้อย ทาให้ในชว่ งฤดูน้าหลากเกิดน้าท่วมเป็นประจาส่วนใน
ฤดูแล้งมีปรมิ าณน้าไม่มากนัก
-ทรพั ยากรป่าไม้ อาเภอมีพื้นท่ปี ่าไม้ท่สี าคัญคือปา่ สงวนแห่งชาติเขาหลวง และสวนปา่ ตลุกดู่ – ไผ่เขียว
1.7 เขตการปกครอง
1.7.1 แบง่ เขตลักษณะการปกครองทอ้ งท่อี อกเปน็ ๕ ตาบล รวม ๖๕ หมู่บา้ น คือ
1. ตาบลไผ่เขียว จานวน ๒๕ หมู่บา้ น
2. ตาบลบ่อยาง จานวน 1๒ หมู่บ้าน
3. ตาบลพลวงสองนาง จานวน ๘ หมู่บ้าน
4. ตาบลสว่างอารมณ์ จานวน 1๐ หมู่บ้าน
5. ตาบลหนองหลวง จานวน ๑๐ หมู่บ้าน
1.7.2 องค์การบรหิ ารส่วนตาบล (อบต.) ๓ แห่ง คือ
1. องค์การบรหิ ารส่วนตาบลบ่อยาง
๒. องค์การบรหิ ารส่วนตาบลไผ่เขียว
๓. องค์การบรหิ ารส่วนตาบลหนองหลวง
1.7.3 เทศบาล ๓ แห่ง ดังน้ี
1. เทศบาลตาบลสว่างอารมณ์
๒. เทศบาลตาบลพลวงสองนาง
๓. เทศบาลตาบลสวา่ งแจง้ สบายใจ
4
1.8 ผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถ่ิน OTOP
สินค้าหนึ่งตาบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ อาเภอสว่างอารมณ์มีสินค้าหนึ่งตาบล หน่ึงผลิตภัณฑ์ท่ีข้ึน
ชอื่ ของท้ัง 5 ตาบล ดังนี้
- บ้านคลองข่อย ตาบลไผ่เขียว มีผลิตภัณฑ์ทน่ี ่าสนใจ เชน่ กระเปา๋ ถือสตร,ี กระเป๋าใส่ธนบตั ร,
หมวกจากเส่ือกก, รองเทา้ จากเส่ือกก, ผ้าขาวม้า ฯลฯ
- บ้านหนองขาลาย ตาบลหนองหลวง มีผลิตภัณฑ์ทน่ี ่าสนใจ เชน่ รองเทา้ แกะสลัก, กระปุก
ออมสินจากกะลา, ตะกรา้ จากเส้นพลาสติก,กระเป๋าจากถงุ กาแฟ ฯลฯ
- บา้ นวังหิน ตาบลพลวงสองนาง มีผลิตภัณฑ์ทนี่ ่าสนใจ เชน่ ตะกรา้ รไี ซเคิลจากกระป๋อง,
กระเป๋าซองกาแฟ, ตะกรา้ เส้นพลาสติก, ข้าวหอมมะลิแดง, ข้าวไรซเ์ บอรร์ ,่ ี นา้ พรกิ ปลารา้ ฯลฯ
- บ้านดอนเพชร ตาบลบ่อยาง มีผลิตภัณฑ์ท่ีน่าสนใจ เชน่ ข้าวหอมมะลิจากมือชาวนา,
ข้าวกล้องงอกหอมมะลิ, ข้าวเหนียวกา่ , ข้าวเหนียวแดง ฯลฯ
- บา้ นเสาใหญ่ ตาบลสวา่ งอารมณ์ มีผลิตภัณฑ์ท่ขี ้ึนชอ่ื ได้แก่ รองเทา้ เชอื กถัก, ตะกรา้ เชอื ก
มัดฟาง, ตะกรา้ เส้นพลาสติก, พรกิ แกงส้ม, นา้ พรกิ ผัด, นา้ พรกิ ปลารา้ , พรกิ ป่น ฯลฯ
- บา้ นดอนหวาย ผ้าทอลาวคล่ังลายโบราณ
1.9 สถานท่ีท่องเทย่ี วทสี่ าคัญ
อาเภอสว่างอารมณ์ มีแหล่งท่องเท่ียวสาคัญท้ังเชิงนิเวศเชิงธรรมชาติศิลปวัฒนธรรมและ
วถิ ีชีวติ ชุมชน อาทิ อ่างเก็บน้าบ้านคลองข่อย, คอกม้าบ้านคลองข่อย (แห่งเดียวในจังหวัดอุทัยธานี), ศูนย์
เรยี นรชู้ ุมชนบ้านคลองข่อย, สวนมะนาวแปน้ ราไพ, แปลงกกราชนิ ี, ไรแ่ ตงแคนตาลูป, วดั คลองข่อย(หลวงพ่อ
ดาศักด์ิสิทธ)ิ์ , พิพิธภัณฑ์ของเก่าวัดเขาหินเทิน, ถ้าเขาหินเทิน, ศูนย์การเรยี นรูเ้ ศรษฐกิจพอเพียง, ตลาดนัด
ชุมชน เป็นต้น
5
ส่วนท่ี 2
1) ผลสาเรจ็ เป็นรูปธรรมของทีมขับเคล่ือนศูนย์ผู้นาจติ อาสาพัฒนาชุมชน
ทีมขับเคลื่อนศูนย์ผู้นาจิตอาสาพัฒนาชุมชนได้ดาเนินการกิจกรรมภายในศูนย์ฯ ให้เป็น
แหล่งศึกษาดูงาน ศูนยเ์ รยี นรเู้ ศรษฐกิจพอเพียง มีฐานเรยี นรู้ ทาแปง้ ข้าวหมาก / จกั สาน / น้ายาอเนกประสงค์/
ทาฮอรโ์ มนไข่/ ปุ๋ยหมัก / ขยายพันธแุ์ มลงหางหนีบ / เพาะกล้าผัก / เล้ียงไก่พันธไุ์ ข่ / เผาถ่าน นอกจากนี้ ยังเป็น
แหล่งเรยี นรูข้ องศูนย์วงเดือนอาคมสุรทัณฑ์ หน่วยบรกิ ารชุมชนแรงงานนอกระบบตาบลพลวงสองนาง
ศูนย์เรยี นรูก้ ารเพิ่มประสิทธภิ าพการผลิตสินค้าเกษตร, เป็นผู้นาต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวติ ตามหลัก
ทฤษฎีใหม่รปู แบบประยุกต์ “โคก หนอง นา โมเดล” โดยมีกิจกรรมศูนย์ฯ ดังนี้
ท่ี ชอื่ ฐานเรยี นรู้ วัตถุประสงคก์ ารเรยี นรู้ ขอบเขตการเรยี นรู้
1 ฮอรโ์ มนไข่ ถ่ายทอดองคค์ วามรู้ และฝึกปฏิบัติกิจกรรม ได้เรยี นรู้ มีทักษะ การทาฮอรโ์ มนไข่
ไปปรบั ใชใ้ นชวี ติ ประจาวันได้
2 ทาปุ๋ยหมัก ถ่ายทอดองคค์ วามรู้ และฝึกปฏิบัติกจิ กรรม ได้เรยี นรู้ มีทักษะ การทาปุ๋ยหมัก
ไปปรบั ใชใ้ นชวี ติ ประจาวันได้
3 นา้ ยาอเนกประสงค์ ถ่ายทอดองค์ความรู้ และฝึกปฏิบัติกิจกรรม ได้ เรยี น รู้ มี ทั ก ษ ะ ก าร ท าน้ าย า
อ เ น ก ป ร ะ ส ง ค์ น า ไ ป ใ ช้ เ พ่ื อ
4 เพาะชากลา้ ผัก ถ่ายทอดองคค์ วามรู้ และฝึกปฏิบัติกจิ กรรม ลดรายจา่ ยในครวั เรอื นได้
ได้เรยี นรู้ มีทักษะ เพาะชากล้าผัก
5 เผาถ่าน/นา้ ส้มควันไม้ ถ่ายทอดองคค์ วามรู้ และฝึกปฏิบัติกจิ กรรม ไป ป รับ ใช้ ใ น ชี ว ิต ป ร ะ จ า วั น ไ ด้
จ น พั ฒ น า ต่ อ ย อ ด ส ร้า ง อ า ชี พ
6 เล้ยี งไกไ่ ข่ ถ่ายทอดองค์ความรู้ และฝึกปฏิบัติกิจกรรม สรา้ งรายได้
ได้ เรยี น รู้ มี ทั ก ษ ะ ก ารเผ าถ่ าน /
7 จกั สาน ถ่ายทอดองค์ความรู้ และฝึกปฏิบัติกจิ กรรม น้ า ส้ ม ค วั น ไ ม้ ไ ป ป รั บ ใ ช้
ใน ชีว ิต ป ร ะ จ า วั น ได้ จ น พั ฒ น า
8 ขยายพันธแุ์ มลงหางหนบี ถ่ายทอดองค์ความรู้ และฝึกปฏิบัติกิจกรรม ต่อยอดสรา้ งอาชพี สรา้ งรายได้
ได้เรยี นรู้ มีทักษะ การเลี้ยงไก่ ไป
9 การทาแป้งขา้ วหมาก ถ่ายทอดองคค์ วามรู้ และฝึกปฏิบัติกิจกรรม ปรบั ใชใ้ นชวี ติ ประจาวันได้ จนพัฒนา
ต่อยอดสรา้ งอาชพี สรา้ งรายได้
ได้เรยี นรู้ มีทักษะเบ้ืองต้นในการจกั
สาน สามารถพั ฒ นาต่ อยอดองค์
ความรสู้ รา้ งอาชพี สรา้ งรายได้
ได้เรยี นรู้ มีทักษะ การขยายพั นธุ์
แ ม ล ง ห า ง ห นี บ เพ่ื อ น า ไ ป ใ ช้
ประโยชนใ์ นการทาเกษตรกรรม
ได้เรยี นรู้ มีทักษะเบ้ืองต้น.ในการทา
แ ป้ ง ข้ าว ห ม าก ส า ม าร ถ พั ฒ น า
ต่อยอดองค์ความรูส้ รา้ งอาชพี สรา้ ง
รายได้
6
6
7
8
2) กระบวนการสรา้ งและพฒั นาทมี ผู้นาการเปลี่ยนแปลงในการขับเคลื่อนศูนย์ผู้นาจติ อาสาพัฒนาชุมชน
มีกระบวนการสรา้ งและพัฒนาทมี ผู้นาการเปลี่ยนแปลงในการขับเคลื่อนศูนย์ผู้นาจติ อาสา
พัฒนาชุมชนในการทางาน ดังน้ี
1. ต้องแบ่งหน้าที่ชัดเจนในกระบวนการทางานไม่ทับซ้อน โดยแต่ละคนควรมีหน้าที่
ท่ีรบั ผิดชอบชัดเจน เพื่อให้ทุกคนทาหน้าทีใ่ ห้ดีท่สี ุดในการบรรลุเป้าหมาย
2. ต้องมีแนวทางปฏิบตั ิรว่ มกัน เพ่ือยดึ ถือและปฏิบัติในกรอบเดียวกัน ทีส่ าคัญกติกานี้ต้อง
ยุติธรรมสาหรบั ทุกฝา่ ย ไม่เอนเอียงเข้าข้างผู้ใดผู้หนง่ึ
3. กระบวนการทางานมีความชดั เจน เพื่อให้ผู้ปฏิบัติสามารถทางานได้ตามเป้าหมาย และมี
ประสิทธภิ าพผ่านข้ันตอนกระบวนการทางานทีว่ างไว้
4. สามารถปรบั เปล่ียนได้ตามสถานการณ์ท่ีเหมาะสม องค์กรและทีมควรมีความยืดหยุ่น
และปรบั ตัวเองให้ไวตามสถานการณ์ ซึ่งระบบและกติกาต่าง ๆ ก็ควรจะปรบั เปลี่ยนให้เหมาะสมกับ
สถานการณ์ต่าง ๆ ด้วย เพ่ือให้กระบวนการทางานมีประสิทธภิ าพ
3) วธิ กี าร/แนวทางการขับเคล่ือนศูนยผ์ ู้นาจติ อาสาพัฒนาชุมชนให้เกิดความยงั่ ยืน
1. ประชุมเตรยี มความพรอ้ มทมี งานศูนยผ์ ู้นาจติ อาสาพัฒนาชุมชน
2. ประชุมสรา้ งความเข้าใจรว่ มกันในการ
ขับเคล่ือนศูนยผ์ ู้นาจติ อาสาพัฒนาชุมชน
3. ประชุมแลกเปล่ียนเพ่ือแสดงความ
คิดเห็นในการพัฒนาศูนย์ฯ และจดั ทาโครงสรา้ งและการ
บรหิ ารศูนยฯ์ โดยคณะกรรมการศูนย์จติ อาสาฯ ดังน้ี
3.1 จัดทาทะเบียนผู้นา/เครอื ข่าย
ผู้นา ประกอบด้วย ผู้นา อช./อช. ผู้นาการเปล่ียนแปลง
ปราชญ์ชุมชน ปราชญ์สัมมาชพี ผู้นาด้านภูมิปัญญา ผู้นา
ด้านทนุ ชุมชน ฯลฯ
3.2 จดั ตั้งคณะกรรมการบรหิ ารศูนย์ฯ จากผู้นาและเครอื ข่ายผู้นา และแต่งตั้งท่ีปรกึ ษาจาก
ผู้ทรงคณุ วฒุ ิทั้งในชุมชนและภาคีเครอื ข่ายการพัฒนา อาทิ ภาควชิ าการ ภาคเอกชน ภาคสื่อมวลชน ฯลฯ
3.3 จดั สถานที่ทีเ่ หมาะสมกับการเป็นศูนยเ์ รยี นรู้ โดยเฉพาะวถิ ีการดาเนินชวี ติ ในทอ้ งถ่ิน
ให้ครอบคลุมและหลากหลายตามสภาพภูมิสงั คม
3.4 จดั ฐานเรยี นรู้ มุมเรยี นรู้ เพื่อพัฒนาศักยภาพทง้ั ด้านเศรษฐกิจ สังคม วฒั นธรรม
อุดมการณ์
3.5 เพ่ิมพูนทกั ษะวทิ ยากร จากผู้นาจติ อาสา ปราชญ์ชุมชน ปราชญ์สัมมาชพี ผู้บรหิ ารชุมชน
ผู้ที่ชุมชนให้ความเคารพ
9
3.6 ส่งเสรมิ การพัฒนาชุมชนให้เปน็ ชุมชนพึ่งตนเอง ประชาชนมีคุณภาพชวี ติ ทด่ี ี ด้วยการ
รว่ มมือกับภาคีเครอื ข่ายทกุ ภาคส่วน
4) การพัฒนาขยายผลและความคิดสรา้ งสรรค์ ในกระบวนการขับเคล่ือนการสรา้ งความม่ันคงทางอาหารให้
เกิดต่อเนื่องอยา่ งยง่ั ยนื
โดยจงั หวัดอุทยั ธานีได้พัฒนาขยายผลในกระบวนการขับเคลื่อนการสรา้ งความม่ันคงทาง
อาหาร ดังนี้
1) สรา้ งความพอเพียงของอาหารในชุมชน มีการปลูกพืชผกั สวนครวั ไวใ้ นบรเิ วณบา้ นทพ่ี ัก
อาศัย การปลูกพืชผักในกระถางยางรถยนต์ การปลูกลงแปลงพื้นท่ีบรเิ วณรอบบ้านและการปลกู ไว้ท่หี ัว
ไรป่ ลายนาตามวถิ ีชวี ติ ของเกษตรกร
2) สรา้ งให้คนในชุมชนมีการเข้าถึงอาหารในชุมชน มีการปลูกพืชผักสวนครวั
สมาชกิ ของกลุม่ มีอาหารไวบ้ รโิ ภคในครวั เรอื นและสามารถจาหน่ายอาหารในชุมชนและภายนอกชุมชน มี
แหล่งน้าเพ่ือการเกษตร การแลกเปลี่ยนอาหารระหว่างครวั เรอื น การปลกู ผักและเลี้ยงสัตว์ใน
บรเิ วณบ้านเพ่ือให้มีอาหารเพียงพอต่อการดารงชพี
3) สรา้ งให้คนในชุมชนมีการใชป้ ระโยชน์จากอาหารในชุมชน เพื่อลดรายจา่ ย ได้บรโิ ภค
อาหารที่ปลอดภัยส่งผลดีต่อสุขภาพโดยเฉพาะสินค้าเกษตรอินทรยี ์เพ่ือสุขภาพของคนในชุมชนและสังคม
และการสรา้ งรายได้ สรา้ งความม่ันคงทางอาหารให้กับชุมชนในการได้ขายผลผลิตจากพืชผักสวนครวั การ
แลกเปล่ียนระหว่างครวั เรอื น และการบรโิ ภคอาหารท่ีปลอดจากสารพิษ นอกจากน้ีอาหารยังเป็นปัจจยั สรา้ ง
ความสัมพันธร์ ะหว่างคนในชุมชนได้อีกด้วย
4) สรา้ งเสถียรภาพของอาหารในชุมชน ลดการพึ่งพิงอาหารจากภายนอกชุมชน คนในชุมชน
ได้บรโิ ภคอาหารท่ีปลอดสารพิษ ตามบรบิ ทของพ้ืนทีท่ ่สี ามารถดาเนินการได้
5) ส่งเสรมิ การจดั การความรใู้ นศูนย์ฯ เกี่ยวกับบทเรยี นหรอื ฐานการเรยี นรู้ ซงึ่ แสดงถึงองค์ความรู้
ทีช่ ุมชนสามารถรวบรวมและเป็นเครอ่ ื งมือในการถ่ายทอดให้กับสมาชกิ ในชุมชนได้ด้วย โดยผู้นาต้องส่งเสรมิ
และสนับสนุนให้เกิดความม่ันคงทางอาหารของชุมชน โดยเรม่ ิ จาก 1 ครวั เรอื น เป็น 2 ครวั เรอื นและต่อยอด
จนครบทุกครวั เรอื น ดังนั้น ทุนทางสังคมไม่ใชต่ ัวเงนิ เป็นปจั จยั สาคัญ แต่วา่ พลังทย่ี ่งิ ใหญ่ในการสรา้ งความ
ม่ันคงทางอาหารของชุมชนคือ พลังจากความรว่ มมือโดยผา่ นกิจกรรมหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง
10
ส่วนท่ี 3
แบบเสนอโครงการขอรบั การสนับสนุนการดาเนินงานฯ (งบประมาณ 10,000 บาท )
11
ส่วนที่ 4
ภาคผนวก
12
โครงสรา้ งการบรหิ ารศูนย์ผู้นาจติ อาสาพัฒนาชุมชน
ทป่ี รกึ ษา
ที่ ชอ่ื - สกลุ ตาแหนง่ สังกัด
วัดเขาหินเทนิ
1 เจา้ อาวาสวัดเขาหินเทนิ เจา้ คณะตาบลพลวงสองนาง สานักงานพัฒนาชุมชนจงั หวัด
อุทยั ธานี
2 พัฒนาการจงั หวัดอทุ ัยธานี พัฒนาการจงั หวัดอทุ ัยธานี กรมการปกครอง
สานักงานพัฒนาชุมชนอาเภอ
3 นายอาเภอสว่างอารมณ์ นายอาเภอสว่างอารมณ์ สวา่ งอารมณ์
4 พัฒนาการอาเภอสว่างอารมณ์ พัฒนาการอาเภอสวา่ งอารมณ์ เทศบาลตาบลพลวงสองนาง
กรมการปกครอง
5 นายกเทศมนตรตี าบลพลวงสองนาง นายกเทศมนตรตี าบลพลวงสองนาง กรมการปกครอง
6 กานันตาบลพลวงสองนาง กานันตาบลพลวงสองนาง
7 นายวสุพล พุ่มกลิน่ ผ้ใู หญบ่ ้าน หมู่ที่ 4
ตาบลพลวงสองนาง
ท่ี ชอื่ - สกุล คณะกรรมการบรหิ าร หมายเหตุ
1 นางลมัย พุ่มกล่ิน ตาแหนง่
2 นายณรงค์ชยั เชอื้ กสิการ
3 นายสุรยิ ะ สีนาค ประธาน
4 นางพจนา เลากสิกรรม รองประธาน
5 นายประวทิ ย์ เชอ้ื กสิการ รองประธาน
6 นายเด็ดดวง ทบั เจรญิ เหรญั ญิก
7 นายณรงค์ แรงสารกิ ิจ ผู้ชว่ ยเหรญั ญกิ
8 นางประเสรฐิ สัตยพงษ์ เลขานกุ าร
9 นางสมปอง แนวทดั ผู้ชว่ ยเลขานกุ าร
10 นางไพรสั ยาเพชรน้อย ประชาสัมพันธ์
11 นางสงกรานต์ หัสดี กรรมการ
12 นางมะลิ นิโรจน์รมั ย์ กรรมการ
13 นางสายนา้ ผ้ึง วนั นา กรรมการ
14 นางอาไพ แนวทัด กรรมการ
15 นางเมือง แรงสารกิ ิจ กรรมการ
กรรมการ
กรรมการ
.
13
ด้านหลักสูตร
ที่ ชอื่ วัตถุประสงค์ วธิ ี กลุ่ม จานวนกลุ่มเป้าหมาย ระยะเวลา คา่ ธรรมเนียม
หลักสูตร การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ การเรยี นรู/้ (ถ้ามี)
เปา้ หมาย ต่อรนุ่ หรอื ต่อครง้ั ฝึกอบรม (วนั )
800 บาท
1 ลดรายจา่ ย เพิ่ม 1) เพื่อถ่ายทอด ฝึกอบรม บุคคลทั่วไป 10 – 20 คน/ครงั้ 1 วนั (ไมร่ วม
ค่าอาหาร/
รายได้ องค์ความรู้ และฝกึ และสาธติ อาหารว่าง)
(ทานา้ ยา ปฏิบตั ิกิจกรรม กิจกรรม 1,500 บาท
(ไม่รวม
อเนกประสงค์/ 2) เพ่ือนาองค์ และฝกึ คา่ อาหาร/
อาหารวา่ ง)
เพาะชากล้าผกั / ความรไู้ ปใชใ้ น ปฏิบตั ิจรงิ
1,200 –
เลี้ยงไกพ่ ันธไุ์ ข่) กิจกรรมลดรายจา่ ย 2,000 บาท
(ไม่รวม
ในครวั เรอื นได้ ค่าอาหาร/
อาหารว่าง)
2 เกษตรย่ังยืน 1) เพอ่ื ถ่ายทอด ฝกึ อบรม บุคคลท่ัวไป/ 10 – 20 คน/ครง้ั 2 วนั
(ฮอรโ์ มนไข่/ปยุ๋ องคค์ วามรู้ และฝกึ และสาธติ เกษตรกรที่
หมัก/เผาถ่าน ปฏิบตั ิกิจกรรม กิจกรรม สนใจ
น้าส้มควนั ไม้/ 2) เพื่อส่งเสรมิ การ และฝึก
ขยายพันธแุ์ มลง ทาเกษตรปลอดภัย ปฏิบตั ิจรงิ
หางหนีบ/เพาะ
ชากล้าผัก)
3 อาชพี เสรมิ 1) เพอ่ื ถ่ายทอด ฝึกอบรม บุคคลทั่วไป 8 - 10 คน/ครง้ั 1 - 2 วนั
สรา้ งรายได้ องคค์ วามรู้ และฝึก และสาธติ
(จกั สาน/แปง้ ปฏิบตั ิกิจกรรม กิจกรรม
ข้าวหมาก) 2) เพื่อสรา้ งอาชพี และฝึก
สรา้ งรายได้ ปฏิบตั ิจรงิ
ด้านวทิ ย
ที่ ชอื่ - สกลุ อายุ (ปี) อาชพี (หลัก) เลขที่ 4
152/3
1 นางลมัย พุม่ กลิน่ 51 เกษตรกร 1
2 นางจริ าวรรณ ภู่สวัสดิ์ 37 เกษตรกร 36/3 1
3 นายสวง ชาญสารกิ ฤษ 58 เกษตรกร 32/2 6
4 นางพจนา เลากสิกรรม 51 เกษตรกร 131 3
5 นายณรงคช์ ยั เชอ้ื กสิการ 43 เกษตรกร 2/6 7
6 นางสงกรานต์ หัสดี 46 เกษตรกร 103/1 4
7 นายสุรยิ ะ สีนาค 34 เกษตรกร 152/3 4
8 นางสายนา้ ผึง้ วันนา 51 เกษตรกร 15 1
9 นายสมพร พมุ่ กลิน่ 58 เกษตรกร 36/4
1 0 นายเด็ดดวง ทบั เจรญิ 52 เกษตรกร 4
1 1 นายประวทิ ย์ เชอ้ื กสิการ 33 เกษตรกร 3 4
1 2 นายทวสี ิทธิ์ แตงรม่ 31 เกษตรกร 101/9 4
1 3 นางประเสรฐิ สัตยพงษ์ 57 เกษตรกร 52/1 7
1 4 นางไพรชั ยาเพชรน้อย 47 เกษตรกร 99 4
1 5 นางเมือง แรงสารกิ ิจ 51 เกษตรกร 101/4 3
1 6 นายณรงค์ แรงสารกิ จิ 43 เกษตรกร 23
1 7 นางอาไพ แนวทดั 61 เกษตรกร
1 8 นางมะลิ นิโรจน์รมั ย์ 55 เกษตรกร
14
ยากร/ครพู าทา
หม่ทู ่ี ทอี่ ยู่ อาเภอ ความเชย่ี วชาญ
4 ตาบล สวา่ งอารมณ์
พลวงสองนาง สวา่ งอารมณ์ ฮอรโ์ มนไข่
1 พลวงสองนาง สว่างอารมณ์ ฮอรโ์ มนไข่
1 พลวงสองนาง สวา่ งอารมณ์ ทาปุย๋ หมัก
6 พลวงสองนาง สวา่ งอารมณ์ ทาปุ๋ยหมัก
3 พลวงสองนาง สว่างอารมณ์ น้ายาอเนกประสงค์
7 พลวงสองนาง สว่างอารมณ์ นา้ ยาอเนกประสงค์
4 พลวงสองนาง สวา่ งอารมณ์ เพาะชากล้าผัก
4 พลวงสองนาง สวา่ งอารมณ์ เพาะชากลา้ ผัก
1 พลวงสองนาง สวา่ งอารมณ์ เผาถ่าน/น้าส้มควัน
พลวงสองนาง สว่างอารมณ์ เผาถ่าน/น้าส้มควัน
4 พลวงสองนาง สวา่ งอารมณ์ เล้ยี งไก่ไข่
4 พลวงสองนาง สวา่ งอารมณ์ เลีย้ งไก่ไข่
4 พลวงสองนาง สว่างอารมณ์ จกั สาน
7 พลวงสองนาง สว่างอารมณ์ จกั สาน
4 พลวงสองนาง สวา่ งอารมณ์ ขยายพันธแุ์ มลงหางหนีบ
3 พลวงสองนาง สวา่ งอารมณ์ ขยายพันธแุ์ มลงหางหนบี
พลวงสองนาง สว่างอารมณ์ การทาแปง้ ขา้ วหมาก
พลวงสองนาง การทาแป้งข้าวหมาก
ข้อมูลผู้นาจติ อาสา
จานวน ...........18........... คน ประกอบด้วย
ที่ ชอ่ื - สกุล อายุ อาชพี (หลกั ) เลขที่ หมู่ที่ ท่อี ยู่ อาเภอ อ
(ปี) ตาบล
1 นางลมัย พมุ่ กลิน่ 51 เกษตรกร 152/ 4 พลวงสองนาง สวา่ งอารมณ์
เกษตรกร 3 พลวงสองนาง
พลวงสองนาง
2 นางจริ าวรรณ 37 พลวงสองนาง สว่างอารมณ์
ภ่สู วสั ดิ์ 58 พลวงสองนาง
51 เกษตรกร พลวงสองนาง สว่างอารมณ์
3 นายสวง 43 พลวงสองนาง
ชาญสารกิ ฤษ 46 เกษตรกร 36/3 1 พลวงสองนาง สวา่ งอารมณ์
34 พลวงสองนาง
4 นางพจนา 51 เกษตรกร 32/2 1 พลวงสองนาง สว่างอารมณ์
เลากสิกรรม 58 พลวงสองนาง
52 เกษตรกร 131 6 สว่างอารมณ์
5 นายณรงคช์ ยั 33
เชอื้ กสิการ เกษตรกร 2/6 3 สวา่ งอารมณ์
เกษตรกร 103/1 7 สว่างอารมณ์
6 นางสงกรานต์
หัสดี เกษตรกร 152/ 4 สวา่ งอารมณ์
เกษตรกร 3 4
7 นายสุรยิ ะ สีนาค 15 สวา่ งอารมณ์
8 นางสายน้าผ้ึง วัน
เกษตรกร 36/4 1 สว่างอารมณ์
นา
9 นายสมพร
พุ่มกลิน่
10 นายเด็ดดวง
ทับเจรญิ
11 นายประวทิ ย์
เชอ้ื กสิการ
15
ตาแหน่งในชุมชน
อช. ผนู้ า อช. กรรมการพัฒนา กรรมการกลุ่ม/ อื่น ๆ ความเชยี่ วชาญ โทรศัพท์ติดต่อ
สตร ี (กพส.) องคก์ รชุมชน (ระบุ)
⁄ ฮอรโ์ มนไข่ 096-
ฮอรโ์ มนไข่ 8871166
⁄
-
⁄ ทาปุ๋ยหมกั -
⁄ ทาปุ๋ยหมกั -
⁄ นา้ ยาอเนกประสงค์ -
⁄ นา้ ยาอเนกประสงค์ -
⁄ เพาะชากลา้ ผัก -
⁄ เพาะชากล้าผัก -
⁄ เผาถา่ น/น้าส้มควนั -
⁄ เผาถ่าน/น้าส้มควัน -
⁄ เลีย้ งไก่ไข่ -
ท่ี ชอื่ - สกุล อายุ อาชพี (หลัก) เลขที่ หมทู่ ี่ ท่ีอยู่ อาเภอ อ
(ปี) ตาบล
12 นายทวสี ิทธิ์ 31 เกษตรกร พลวงสองนาง สว่างอารมณ์
แตงรม่ 57
47 เกษตรกร 3 4 พลวงสองนาง สวา่ งอารมณ์
13 นางประเสรฐิ 51
สัตยพงษ์ 43 เกษตรกร 101/9 4 พลวงสองนาง สว่างอารมณ์
61
14 นางไพรชั 55 เกษตรกร 52/1 4 พลวงสองนาง สว่างอารมณ์
ยาเพชรน้อย
เกษตรกร 99 7 พลวงสองนาง สวา่ งอารมณ์
15 นางเมอื ง
แรงสารกิ ิจ เกษตรกร 101/4 4 พลวงสองนาง สวา่ งอารมณ์
เกษตรกร 23 3 พลวงสองนาง สวา่ งอารมณ์
16 นายณรงค์
แรงสารกิ ิจ
17 นางอาไพ แนวทดั
18 นางมะลิ
นิโรจน์รมั ย์
แผนการขับเคล่ือนการดาเนินงานของศูนยผ์ ู้นาจติ อาสา
ที่ แผนงาน/โครงการ/กิจกรรม เป้าห
(หน่วย
1 ประชุมคณะกรรมการ 1 5
2 แลกเปลีย่ นเรยี นรู้ 1 5
3 พัฒนาศูนยเ์ รยี นรู้ 1 5
4 ถ่ายทอดองค์ความรใู้ ห้จติ อาสาในพื้นที่ -
5 สรปุ ความก้าวหน้าของศูนยเ์ รยี นรู้ 1 5
16
ตาแหน่งในชุมชน
อช. ผนู้ า อช. กรรมการพัฒนา กรรมการกลมุ่ / อ่ืน ๆ ความเชยี่ วชาญ โทรศัพท์ติดต่อ
สตร ี (กพส.) องคก์ รชุมชน (ระบุ)
⁄ เลย้ี งไก่ไข่ -
⁄ จกั สาน -
⁄ จกั สาน -
⁄ ขยายพนั ธแุ์ มลงหาง -
หนีบ
⁄ -
ขยายพันธแุ์ มลงหาง
⁄ หนีบ -
⁄ -
การทาแป้งขา้ วหมาก
การทาแป้งข้าวหมาก
หมาย งบประมาณ ระยะเวลา ผรู้ บั ผิดชอบ หมายเหตุ
ยนับ) (ใชง้ บ/ไม่ใชง้ บ)
ต.ค. 6 4 – ก.ย. 6 5 คณะกรรมการศูนยฯ์
คน ไม่ใชง้ บ ต.ค. 6 4 – ก.ย. 6 5 คณะกรรมการศูนยฯ์
คน ไม่ใชง้ บ ต.ค. 6 4 – ก.ย. 6 5 คณะกรรมการศูนยฯ์
คน ไมใ่ ชง้ บ ต.ค. 6 4 – ก.ย. 6 5 คณะกรรมการศูนยฯ์
- ไมใ่ ชง้ บ ต.ค. 6 4 – ก.ย. 6 5 คณะกรรมการศูนยฯ์
คน ไม่ใชง้ บ