หัวใจชายหนุ่ม
บทนำ
หัวใจชายหนุ่ม เป็นบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
โดยทรงใช้พระนามแฝงว่า “รามจิตติ” เพื่อพระราชทานลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์
“ดุสิตสมิต” เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๔ ลักษณะการพระราชนิพนธ์เป็นรูปแบบของจดหมาย
มีจำนวน ๑๘ ฉบับ รวมระยะเวลาที่ปรากฏตามจดหมายทั้งหมด ๑ ปี ๗ เดือนบท
พระราชนิพนธ์หลายเรื่องได้รับการยกย่องจากวรรณคดีสโมสรว่าเป็นยอดของ
วรรณคดีหรือเป็นหนังสือที่แต่งดี อาทิ หัวใจนักรบ เป็นยอดของบทละครพูดร้อย
แก้ว มัทนะพาธา เป็นยอดของบทละครพูดคำฉันท์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า
เจ้าอยู่หัวจึงทรงได้รับการถวายพระราชสมัญญาว่า “สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า”
ซึ่งมีความหมายว่า นักปราชญ์ปู้ยิ่งใหญ่ และใน พ.ศ.๒๔๑๕ พระองค์ยังได้รับการ
ประกาศยกย่องจากองการการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่ง
สหประชาชาติ(UNESCO) ให้ทรงเป็น ๑ ใน ๕ ของนักปราชญ์ไทย
ความเป็นมา หัวใจชายหนุ่ม
หัวใจชายหนุ่ม เป็นบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
โดยทรงใช้พระนามแฝงว่า “รามจิตติ”เพื่อพระราชทานลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ “
ดุสิตสมิต” เมื่อ พ.ศ.๒๔๖๔ ลักษณะการพระราชนิพนธ์เป็นรูปแบบของจดหมาย มี
จำนวน ๑๘ ฉบับ รวมระยะเวลาที่ปรากฏตามจดหมายทั้งหมด ๑ ปี ๗ เดือน
ประวัติผู้แต่ง
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่๖)แห่งพระบรมราชวงศ์จักรี ตลอด
ระยะเวลา๑๕ปีที่ทรงครองราชย์(พ.ศ.๒๔๕๓-๒๔๖๘)ทรงประกอบพระราชกรณียกิจ
เป็นอเนกประการ ทรงพระปรีชาสามารถทั้งด้านการทหาร การปกครองการต่าง
ประเทศ และโดยเฉพาะด้านอักษรศาสตร์ พระองค์ทรงพระราชนิพนธ์งานหลาย
ประเภท เช่น บทละคร บทความ สารคดี นิทาน นิยาย เรื่องสั้น พระบรมราโชวาท
พระราชหัตถเลขา และทรงใช้พระราชนิพนธ์เป็นสื่อแสดงแนวพระราชดำริในเรื่อง
ต่างๆ
บทพระราชนิพนธ์หลายเรื่องได้รับการยกย่องจากวรรณคดีสโมสรว่าเป็นยอดของ
วรรณคดีหรือเป็นหนังสือที่แต่งดี อาทิ หัวใจนักรบ เป็นยอดของบทละครพูดร้อย
แก้ว มัทนะพาธา เป็นยอดของบทละครพูดคำฉันท์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า
เจ้าอยู่หัวจึงทรงได้รับการถวายพระราชสมัญญาว่า “สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า” ซึ่งมี
ความหมายว่า นักปราชญ์ปู้ยิ่งใหญ่ และใน พ.ศ.๒๔๑๕ พระองค์ยังได้รับการ
ประกาศยกย่องจากองการการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่ง
สหประชาชาติ(UNESCO) ให้ทรงเป็น ๑ ใน ๕ ของนักปราชญ์ไทย
ลักษณะคำประพันธ์
หัวใจชายหนุ่ม เป็นนวนิยายร้อยแก้วในรูปแบบของจดหมาย โดยมีข้อควรสังเกต
สำหรับรูปแบบจดหมาย ทั้ง ๑๘ ฉบับในเรื่องดังนี้
๑.หัวจดหมาย ตั้งแต่ฉบับที่ ๑ วันที่ ๒๓ กันยายน พ.ศ. ๒๔๖-จนถึงฉบับสุดท้าย
วันที่ ๓๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๖-
จะเห็นว่ามีการเว้นท้ายปี พ.ศ.ไว้
๒.คำขึ้นต้นจดหมาย ทั้ง ๑๘ ฉบับ ใช้คำขึ้นต้นเหมือนกันหมด คือ “พ่อประเสริฐ
เพื่อนรัก”
จุดประสงค์ในการแต่งเรื่องหัวใจชายหนุ่ม
๑. เพื่อสะท้อนให้ผู้อ่านเห็นภาพสังคมไทยในขณะนั้น
๒. เพื่อสะท้อนมุมมองความรู้สึกนึกคิดของคนรุ่นใหม่ (นักเรียนนอก) ที่มีต่อ
วัฒนธรรมและสังคมไทยในด้านต่าง ๆ
ตัวละครสำคัญ
นายประพันธ์ ประยูรสิริ: หนุ่มไทยดีกรีนักเรียนนอกจากอังกฤษที่เดินทางกลับไทย
ต่อมาได้เข้ารับราชการในกรมพานิชย์และสถิติพยากรณ์และได้เลื่อนขั้นเป็นหลวง
บริบาลบรมศักดิ์ ประพันธ์เป็นคน ‘หัวนอก’ คือมีความคิดก้าวหน้าอย่างคนหนุ่ม
และด้วยความที่เพิ่งกลับจากเมืองนอก จดหมายของประพันธ์จะติดการใช้สแลงและ
คำทับศัพท์ภาษาอังกฤษอยู่เสมอ ๆ
นายประเสริฐ สุวัฒน์: เพื่อนของนายประพันธ์ที่ยังศึกษาอยู่ที่อังกฤษ
ลิลี่: คนรักชาวอังกฤษของประพันธ์
กิมเน้ย: หญิงสาวเชื้อสายไทยจีน ลูกสาวของอากรเพ้ง โดยพ่อของประพันธ์หวังจะ
ให้กิมเน้ยหมั้นหมายกับประพันธ์ แต่ประพันธ์ไม่ค่อยชอบกิมเน้ยนัก เพราะเธอใส่
เครื่องเพชรรุงรัง และมีหน้าตาแบบสาวหมวย(ประพันธ์กล่าวว่าหน้าตาเจ้าหล่อน
เหมือนนางซุนฮูหยิน) และประพันธ์ก็ไม่ชอบการคลุมถุงชนแบบธรรมเนียมโบราณ
ของไทย จึงไม่ยอมรับการแต่งงานครั้งนี้เด็ดขาด
อุไร พรรณโสภณ: สาวฮอตประจำเมืองลูกสาวของคุณพระพินิฐพัฒนากร อุไรเป็น
คนสวยและเป็นผู้หญิงอย่างสมัยใหม่ ได้รับการศึกษา อ่านเขียนภาษาไทยและภาษา
อังกฤษได้ ด้วยเหตุนี้เธอจึงเป็นที่หมายปองของชายหนุ่มมากหน้าหลายตา และขึ้น
ชื่อว่าเป็น ‘โรงเรียนฝึกหัดเจ้าชู้’
พระยาตระเวนนคร: เสือผู้หญิงและเพลย์บอยประจำเมือง เป็นคนมีฐานะร่ำรวยและ
มีชื่อเสียง พระยาตระเวนนครถือเป็นตัวแทนของความนิยม “มีเมียคราวละมาก ๆ”
เพราะมีเมียอยู่แล้วถึง 7 คนก่อนที่จะมาพบกับอุไร
หลวงพิเศษผลพานิช: พ่อค้าซึ่งมีฐานะดี แม้จะบุคลิกลักษณะไม่ดีนักแต่ก็มีจิตใจที่ดี
และได้แต่งงานกับอุไรในภายหลัง
ศรีสมาน: หญิงสาวผู้เป็นความรักครั้งใหม่ของประพันธ์ ศรีสมานเป็นลูกสาวของ
พระยาพิสิฐเสวก ซึ่งสนิทสนมกับพ่อแม่และครอบครัวประพันธ์อยู่แล้ว การแต่งงาน
ครั้งใหม่ของประพันธ์จึงดูราบรื่นสดใสมาก
จดหมายฉบับที่ ๑
เรือ “ โอยามะมารุ ” เดินในทะเลแดง
วันที่ ๒๓ กันยายน , พ.ศ. ๒๔๖- ถึงพ่อประเสริฐเพื่อนรัก
นายประพันธ์ ส่งจดหมายถึงนายประเสริฐ ซึ่งเป็นเพื่อนกัน จดหมายกล่าวถึงการเดิน
ทางกลับมายังประเทศไทยจากลอนดอนของนายประพันธ์ จากนั้นเขายังบรรยายถึง
ความเสียใจที่กลับไปประเทศไทยและการดูถูกบ้านเกิดตัวเอง และได้เล่าถึงเหตุการณ์
ที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทางกลับภายในเรือโดยสาร คือ การได้พบปะกับผู้หญิงคน
หนึ่งเธอคือ มิสส์มิลเล่อร์ ด้วยเธอมีลักษณะคล้ายกับลิลี่ แฟนเก่าของเขา จึงชวนพูด
คุยและได้รู้ว่าเธอกำลังจะไปที่ประเทศอียิปต์ เมื่อถึงสถานที่เขาก็แอบหวังที่เธอจะมี
ท่าทีเสียใจ แต่ไม่เป็นผล เพราะเธอมีคนรักที่มารอรับที่ท่าเรือแล้ว
คำทับศัพท์
เร็สตอรังค์ : มาจากคำภาษาอังกฤษคำว่า restaurant หมายถึง ภัตตาคาร หรือร้าน
อาหาร
ศิวิไลซ์ : มาจากคำภาษาอังกฤษคำว่า civilised หรือ civilized หมายถึง เจริญ มี
อารยธรรม
อันศิวิไลซ์ : มาจากคำภาษาอังกฤษคำว่า uncivilised หรือ uncivilized หมายถึง
ไม่เจริญ หรือไม่มีอารยธรรม
คำแสลง
โก้ : ภูมิฐาน, งามสง่า, หรูหรา มักใช้แก่กิริยาแต่งตัวหรือการแสดงกิริยาอื่น ๆ
จดหมายฉบับที่ ๔
ถนนหัวลำโพง
วันที่ ๑ ธันวาคม , พ.ศ. ๒๔๖- ถึงพ่อประเสริฐเพื่อนรัก
ได้มีการพูดถึงการกลับมาถึงประเทศไทย และการเข้ารับราชการ ซึ่งใช้เส้นสายแต่ไม่
สำเร็จ นอกจากนี้พ่อของนายประพันธ์ได้หาภรรยาไว้ให้นายประพันธ์แล้ว นางมีชื่อว่า
กิมเน้ย เป็นลูกสาวของนายอากรเพ้งซึ่งพ่อของนายประพันธ์รับรองว่าเป็นคนดีเหมาะสม
ที่จะแต่งงานกับนายประพันธ์ แต่ด้วยนายประพันธ์เป็นนักเรียนนอก จึงไม่ยอมรับเรื่อง
การคลุมถุงชน จึงได้ขอดูตัวแม่กิมเน้ย ก่อน นอกจากนั้นในจดหมายได้พูดถึง การพบผู้
หญิง คนหนึ่งที่เขาถูกใจที่โรงพัฒนากร
คำศัพท์
แบชะเลอร์ = ชายโสด
ฟรี = ที่แจก หรือให้โดยไม่คิดเงิน
แฟแช่น = สิ่งที่นิยมชมชอบชั่วครั้งชั่วคราว
โฮเต็ล = โรงแรม ที่พักแรม
สำนวนที่เกี่ยวข้อง
เดินเข้าท้ายครัว = เข้าทางภรรยา ในที่นี้หมายถึงใช้ความ รู้จักคุ้นเคยกันเป็นส่วนตัว
เป็นเครื่องช่วยให้ได้งานทำ
หมอบราบคาบแก้ว = ยอมตามโดยไม่ขัดขืน ยอมแพ้โดยดี
คลุมถุงชน = การแต่งงานที่ผู้ใหญ่เป็นผู้จัดการหาคู่ครองให้โดยที่คู่บ่าวสาวไม่เคยรู้จัก
หรือรักใคร่กันมาก่อน
ลงรอยเป็นถ้าประนม = ยกมือประนมสวัสดีบ่อยจนเหมือนอยู่ในท่านั้น
จดหมายฉบับที่ ๕
ถนนหัวลำโพง
วันที่ ๑๕ ธันวาคม , พ.ศ. ๒๔๖- ถึงพ่อประเสริฐเพื่อนรัก
ได้พูดถึงการได้เข้ารับราชการของนายประพันธ์ นายประพันธ์ได้เข้ารับราชการในกรม-
พานิชย์ และสถิติพยากรณ์ และนายประพันธ์ได้พบกับแม่กิมเน้ย นายประพันธ์เปรียบ
นางเหมือนซุนฮูหยิน นอกจากนั้นนายประพันธ์ได้เล่าถึงผู้หญิงที่เจอในโรงพัฒนากร
นางมีชื่อว่า อุไร พรรณโสภณ เป็นลูกสาวของพระพินิฐพัฒนากร
คำทับศัพท์
ซุนฮูหยิน = เป็นตัวละครหนึ่งในสามก๊กที่ชอบใส่เครื่องประดับ
จดหมายฉบับที่ ๖
ถนนหัวลำโพง
วันที่ ๑๑ มกราคม , พ.ศ. ๒๔๖ ถึงพ่อประเสริฐเพื่อนรัก
กล่าวถึงการได้นัดพบแม่อุไรการไปเที่ยวในระหวา่งงานฤดูหนาวทุกวันทุกคืน และได้
บรรยายถึงรูปร่างลักษณะองแม่อุไร ว่าเป็นคนสวยน่ารัก และกล่าวว่า แม่อุไรงาม
ที่สุดในกรุงสยาม แม่อุไรมีลักษณะเหมือนฝรั่งมากกว่าคนไทยมีการศึกษาดีโดยสิ่งที่
นายประพันธ์ชอบมากที่สุดคือ การเต้นรำซึ่งแม่อุไรก็เต้นรำเป็นอีกด้วย
คำทับศัพท์
ปอปูล่าร์ = มาจากคำภาษาอังกฤษคำว่า popular หมายถึง ได้รับความนิยม
สัปเป้อร์ = มาจากคำภาษาอังกฤษคำว่า supper หมายถึง อาหารเย็นที่รับประทาน
ตอนหัวค่ำ หรืออาหารเบาๆ ที่รับประทานตอนกลางคืนก่อนเข้านอน
เอดูเคชั่น = มาจากคำภาษาอังกฤษคำว่า education หมายถึง การศึกษา
โช = มาจากคำภาษาอังกฤษคำว่า show หมายถึง อวดให้ดู
สำนวน
ทำตัวเป็นหอยจุ๊บแจง = ชื่อหอยทะเลชนิดหนึ่งในที่นี้ใช้เปรียบเทียบกับผู้หญิงที่มักเก็บ
ตัวอยู่แต่ในบ้าน ขี้อาย ไม่รู้จักเข้าสังคม
ค้อนเสียสามสี้วง = ไม่พอใจด้วยการตวัดสายตา
จดหมายฉบับที่ ๙
หัวหิน
วันที่ ๒๑ พฤษภาคม , พ.ศ. ๒๔๖- ถึงพ่อประเสริฐเพื่อนรัก
นายประพันธ์เล่าว่า ตนนั้นได้แต่งงานกับแม่อุไรแล้ว ตั้งแต่วันที่ ๑๘ พฤษภาคม
หลังจากกลับมาจากหัวหินนายประพันธ์ได้ขอให้คุณพ่อไปขอแต่งงานกับนางอุไร
ท่านไม่ค่อยเห็นด้วย ด้วยสาเหตุที่ว่า เธอเป็นผู้หญิงที่รู้จักกับผู้ชายหลายคน และก็
ไกล่เกลี่ยว่า จะให้ดูไปก่อนประมาณ ๑ ปี แต่นายประพันธ์ปฎิเสธการรอคอย
เนื่องจากสาเหตุการนัดพบเจอกันบ่อย ครั้งจนทำให้แม่อุไรตั้งครรภ์ขึ้นมา คุณพ่อ
ของเขาจึงจัดการขอแม่อุไร และเมื่อแต่งงานกันแล้ว จึงได้ไปฮันนีมูนที่หันหิน
คำทับศัพท์
ฮันนีมูน = มาจากคำภาษาอังกฤษคำว่า Honeymoon หมายถึง การไปเที่ยวด้วย
กันของคู่แต่งงานใหม่
สำนวน
โรงเรียนฝึกหัดเจ้าชู้ = คบผู้ชายมากหน้าหลายตา
ชิงสุกก่อนห่าม = ทำสิ่งที่ยังไม่สมควรแก่วัย หรือยังไม่ถึงเวลา, มักหมายถึง การ
ลักลอบได้เสียกันก่อนแต่งงาน
จดหมายฉบับที่ ๑๑
บ้านเลขที่ ๐๐ ถนนสี่พระยา
วันที่ ๒๑ มิถุนายน , พ.ศ. ๒๔๖- ถึงพ่อประเสริฐเพื่อนรัก.
นายประพันธ์เล่าเกี่ยวกับบ้านใหม่ของเขา ว่าปกติแล้ว บ้านควรจะเป็นสถานที่พักผ่อน
อันพึงใจ สุขใจเพราะได้เห็นภรรยาของตนเอง แต่ตัวเขากลับไม่ได้เช่นนั้น เขากับนาง
อุไรกลับจากเพชรบุรีในวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ด้วยสาเหตุที่ว่า เธอนั้นเบื่อการอยู่หัว
เมือง และเมื่อถึงกรุงเทพ ก็ไม่มีใครไปรับ ทำให้เธอโกรธ แต่ก็บอกว่า หลังขึ้นจากเรือ
จ้างแล้วค่อยทะเลาะกัน เพราะการทะเลาะกันต่อหน้าคนแจวเรือดูไม่งดงาม พอมาถึง
บ้านใหม่ที่ดูไม่พร้อม สียังทาไม่แห้ง ของต่างๆก็ยังไม่ได้จัด เกิดเรื่องขึ้นเล็กน้อย และ
ในวันต่อๆมา ก็มีเหตุการณ์ขัดใจขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่านายประพันธ์จะทำอะไร นางอุไรก็จะ
มองว่าผิดเสมอ จนทำให้นายประพันธ์รู้สึกเหมือนไปโรงเรียนเมื่อกลับบ้าน
คำทับศัพท์
หัวเมือง = ต่างจังหวัด
หน้ามู่ทู่ = หน้าบึ้ง
บ่าว = คนใช้ หรือ ชายหนุ่ม
จดหมายฉบับที่ ๑๒
บ้านเลขที่ ๐๐ ถนนสี่พระยา
วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน , พ.ศ. ๒๔๖ ถึงพ่อประเสริฐเพื่อนรัก
แม่อุไรได้แท้งลูก และสิ้นรักประพันธ์แล้ว แต่ประพันธ์ก็ยังทนอยู่กับแม่อุไร ยอมฝืน
รับชะตากรรม แม่อุไรชอบไปเที่ยวและชอบไปคนเดียว พอประพันธ์ถามว่าไปไหน แม่
อุไรก็โกรธฉุนเฉียว นานเข้าห้างร้านต่างๆก็ส่งใบทวงเงินมาที่ประพันธ์ ประพันธ์จึง
เตือนแม่อุไร แต่แม่อุไรกลับสวนกลับมาว่า ประพันธ์ไม่สืบประวัติของเธอให้ดีก่อน
และเธอก็จะไม่ปรับเปลี่ยนตัวเอง ประพันธ์จึงต้องไปขอเงินพ่อเพื่อใช้หนี้ ต่อมาพ่อ
ของประพันธ์จึงลงแจ้งความในหนังสือพิมพ์ เรื่องจะไม่ชดใช้หนี้ให้แม่อุไร เมื่อแม่
อุไรเห็นแจ้งความ จึงลงย้อนกลับบ้าง แล้วแม่อุไรก็กลับไปอยู่บ้านพ่อของเธอ คุณ
หลวงเทพปัญหามาหาประพันธ์ คุยเรื่องต่างๆกัน รวมถึงเรื่องแม่อุไร ที่เที่ยว อยู่กับ
พระยาตระเวนนคร ด้วยความเป็นห่วงแม่อุไร จึงส่งจดหมายไปกล่าวเตือน แต่ถูกฉีก
เป็นชิ้นๆ กลับมา ต่อมาหลวงเทพก็มาหาประพันธ์ เพื่อบอกว่าแม่อุไรไปค้างบ้าน
พระยา ตระเวนนคร แล้ว และหลวงเทพก็รับธุระเรื่องขอหย่า ตอนนี้ประพันธ์จึงกลับ
มาโสดอีกครั้ง
คำศัพท์
ฉิว = ไม่พอใจ
สำนวน
เมฆทุกก้อนมีซับในเป็นเงิน = มาจากสำนวนภาษาอังกฤษว่า Every
cloud has a silver lining หมายถึง ในอุปสรรค ปัญหา หรือ
ความทุกข์ ยังมีสิ่งดีๆแทรกอยู่
อุทิศตัวเป็นพรหมจรรย์ = ประพฤติตนอย่างนักบวช เว้นจากการมี
เพศสัมพันธ์
จดหมายฉบับที่ ๑๓
บ้านเลขที่ ๐๐ ถนนสี่พระยา
วันที่ ๒๒ ธันวาคม , พ.ศ. ๒๔๖- ถึงพ่อประเสริฐเพื่อนรัก
ประพันธ์รู้สึกมีความสุขมากที่ได้กลับมาเป็นโสดอีกครั้ง ส่วนแม่อุไรก็ไปอยู่กับ
พระยาตระเวน พระยาตระเวนมีนางบำเรออยู่ 7 นาง และทั้ง7 ก็แผลงฤทธิ์แกล้งใส่
ร้ายแม่อุไรต่างๆนาๆในเวลาพระยาตระเวนไม่อยู่ พระยาตระเวนจึงหาบ้านให้แม่อุไร
อยู่อีกหลังหนึ่ง ส่วนประพันธ์ก็ได้ย้ายตำแหน่งการทำงาน มาเป็นผู้ช่วยเจ้ากรม
โรงเรียนในพระบรมราชูปถัมภ์ ทางเสือป่า ประพันธ์ได้เข้าประจำกรมม้าหลวง
คำทับศัพท์
อินเตอเร็สต์ = มาจากคำภาษาอังกฤษว่าInterest หมายถึง ความสนใจ
อ๊อกซ์ฟอร์ด = ชื่อเมืองOxfordของประเทศอังกฤษ มีใหาวิทยาลัย Oxford ตั้ง
อยู่
เล็กเชอร์ = มาจากคำภาษาอังกฤษว่า lecture หมายถึง บรรยาย
คำศัพท์
นางสุวญิช = ชื่อตัวละครที่เป็นพระมเหสีของพระไชยเชษฐ์ แต่ถูกนางสนมคนอื่นใส่
ความว่านางคลอดพระโอรสเป็นท่อนไม้ พระไชยเชษฐ์หลงเชื่อจึงขับไล่นางออก
จากวัง
ผู้รั้ง = ผู้รักษาการ
หลวง = บรรดาศักดิ์ของข้าราชการสมัยก่อนที่อยู่ในระดับสูงกว่าขุน และต่ำกว่า
พระ
จดหมายฉบับที่ ๑๕
ที่พักกรมเสือป่าม้าหลวง ร.อ. พระราชวังสนามจันทร์
วันที่ ๒๓ มกราคม , พ.ศ. ๒๔๖- ถึงพ่อประเสริฐเพื่อนรัก
ประพันธ์คิดว่างานเฉลิมฉลองพระชนมพรรษาคงจะสนุกมาก และพระยาตระเวนเอง
ก็คงสนุกไม่น้อยเหมือนกัน เพราะไปไหนมาไหนก็ถือว่าเป็นชายโสดเนื่องจากพระยา
ตระเวนกับแม่อุไรยังไม่ได้เป็นสามีภรรยากันตามกฎหมาย และตอนนี้พระยาตระเวน
ก็กำลังตามติดผู้หญิงที่ชื่อสร้อย แต่แม่อุไรก็ได้แต่นิ่งเฉยไม่มีสิทธิ์ที่จะสามารถทำ
อะไรได้
คำศัพท์:
ฉุน = โกรธ
แตรตรวจ = แตรที่เป่าเป็นสัญญานเวลาเรียกตรวจพล
หัวนอก = คนที่มีความนิยมหรือมีความคิดแบบฝรั่ง
สำนวน:
ขนมปังครึ่งก้อนดีกว่าไม่มีเลย = มาจากสำนวนอังกฤษว่า Half a loaf is better
than non หมายถึงแม้จะไม่ได้สิ่งใดอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ แต่มีอยู่บ้างก็ยังดีกว่า
ไม่มีเลย
จดหมายฉบับที่ ๑๗
บ้านเลขที่ ๐๐ ถนนสี่พระยา
วันที่ ๓ มีนาคม , พ.ศ. ๒๔๖- ถึงพ่อประเสริฐเพื่อนรัก
นายประพันธ์ได้เล่าว่าตนนั้นได้เลื่อนยศเป็นนายหมู่ใหญ่แล้ว และเมื่อกลับบ้านได้ไม่กี่
วัน นางอุไรก็ได้มาหาที่บ้าน และขอให้นายประพันธ์ช่วยดูแลตนอีกครั้ง ด้วยเหตุว่า
พระยาตระเวนต้องการบ้านที่ถนนราชประสงค์ให้นางสร้อย เมียรักของเขาอยู่ เขาจึง
ขอให้นางอุไรย้ายไปอยู่ที่อื่น เงินก็ไม่มีใช้สอย ครั้นจะกลับไปอาศัยพ่อก็กลัวจะเสีย
หน้า เพราะเคยพูดอวดอ้างไว้ นายประพันธ์แนะนำให้นางอุไรกลับไปง้อพ่อของเธอ
นางจึงไปง้อและกลับไปอยู่กับพ่อของตน
คำศัพท์
เรี่ยม = สะอาดหมดจด เอี่ยม วิเศษ ดีเยี่ยม
สำนวน
ขุดอู่ = มาจากสำนวนที่ว่า ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ ผูกอู่ตามใจผู้นอน
หมายความว่า ทำตามความพอใจของผู้ที่ได้รับผลโดยตรง "ขุดอู่" ในที่นี้จึง
หมายถึง การเลือกคู่ครองด้วยตนเอง
จดหมายฉบับที่ ๑๘
บ้านเลขที่ ๐๐ ถนนสี่พระยา
วันที่ ๑๓ เมษายน , พ.ศ. ๒๔๖- ถึงพ่อประเสริฐเพื่อนรัก
แม่อุไรได้ตกลงแต่งงานกับหลวงพิเศษผลพานิช ทำให้ฉันเองรู้สึกสิ้นความ
ตะขิดตะขวงห่วงใย และรู้สึกว่าอาจจะคิดหาคู่ใหม่ ได้โดยไม่ต้องมีข้อควรรังเกียจรัง
งอนเลย ฉันได้รักผู้หญิงอยู่รายหนึ่งแล้ว หล่อนชื่อนางศรีสมาน ฉะนั้นพอพ่อ
ประเสริฐกลับเขามาถึงกรุงเทพมเตรียมตัวไว้เป็นเพื่อนบ่าวทีเดียวเถิด
คำศัพท์
เพื่อนบ่าว = เพื่อนเจ้าบ่าว
สำนวน
เทวดาถอดรูป = มีรูปร่างหน้าตางามราวกับเทวดา
บรรณานุกรม
หัวใจชายหนุ่ม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 วิชาภาษาไทย
https://pubhtml5.com/xvvo/efkb/basic
http://thn21710-01.blogspot.com/blog-post.html
http://www.satriwit3.ac.th/files/83116162416.pdf
https://www.dek-d.com//3880176/
ผลงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้
วิชา ภาษาไทย๑ ท๓๑๑๐๑
เสนอ
ครูสุชาติ พิบูลย์วรศักดิ์
สมาชิก
ครูประจำวิชา ภาษาไทย๑ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่4
นายพุฒิเมธเช าวน์ชวานิล ม.4/2 เลขที่11
นายเอกลักษณ์ สมุหวัฒนชัย ม.4/2 เลขที่ 15
นายธนกฤต เค้าแคน ม.4/2 เลขที่ 16
นายกษิดิศ ศรีมีชัย ม.4/2 เลขที่ 17
นางสาวพรนัชชา มานุจำ ม.4/2 เลขที่ 26
นางสาวฐานิกา รุ่งประชา ม.4/2 เลขที่ 28
นางสาวนันท์นภัส ตันตี ม.4/2 เลขที่ 29
นางสาวปรียาดา ประทุมวรรณ ม.4/2 เลขที่ 33
นางสาวภริทตา พรใจวงค์ ม.4/2 เลขที่ 34