The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เรื่องสั้น ย้อนฝัน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Ramida Sutharaksakul, 2023-09-05 07:27:42

เรื่องสั้น ย้อนฝัน

เรื่องสั้น ย้อนฝัน

๑ ย้อนฝัน การตามล่าความฝันและความสุขน้ันยากหรือดีก็สุดแลว้แต่บุคคล หญิงสาวคนหน่ึงเธอชื่อว่า ไอริช เธอประกอบอาชีพทันตแพทย์ กว่าจะได้เป็น ก็ผ่านความยาก อุปสรรคต่าง ๆ ในร้ัวมหาวิทยาลัยมากว่า ๖ ปี แต่แลว้เธอก็พบว่าอาชีพน้ีมนั ไม่เหมาะอีกต่อไป มนัทา ให้เธอคน้พบว่าตวัเองไม่มีความสุขที่จะทา และใน ทุก ๆ วันไอริชต้องตรวจฟันคนไข้จ านวนมาก จนท าให้ไม่มีเวลาพัก เธอชอบมีสีหน้าเบื่อหน่ายเวลาท างาน คนไขม้กัจะสังเกตว่าทา ไมคุณหมอคนน้ีถึงดูไม่เต็มใจตรวจ กลายเป็นว่าเธอขาดคุณสมบัติในการประกอบ อาชีพทนัตแพทยใ์นตอนน้ีเธอนงั่เครียดนอนเครียดอยู่ทุกคืนว่าทา ยงัไงเธอถึงจะสามารถใช้ชีวิตมีความสุข มีการงานที่ทา ดว้ยไดใ้บหนา้ที่ยิ้มแยม้และเต็มใจกว่าน้ี ในคืนหนึ่งไอริชนอนใช้มือก่ายหน้าผากแล้วมองไปยังท้องฟ้าผ่านหน้าต่างห้องนอน มองเห็นดาว เปล่งแสงระยิบระยับ จึงคิดว่าถ้ามีฝนดาวตกจะอธิษฐานสิ่งที่หวงัส าเร็จหรือไม่ สักพักเธอก็เรียกสติตัวเอง แล้วคิดว่ามันจะเป็นจริงได้ยังไง เธอหยิบรีโมตข้าง ๆ มากดเปิ ดโทรทัศน์เพื่อหนีจากความฟุ้งซ่าน ทนั ใดน้นั รายการข่าวก็ปรากฏข้ึนและกา ลงัรายงานเรื่องวนัฝนดาวตก เธอจึงหยุดชะงักแล้วเพ่งความสนใจไปยงัสิ่งที่ นักข่าวก าลังรายงานว่าจะมีฝนดาวตกตอนเที่ยงคืนวันศุกร์ที่จะถึงในอีก ๓ วัน เธอจึงนับถอยหลังรอช่วงเวลา น้ันโดยลืมตวัไปว่าตนเหมือนจะไม่เชื่อในเรื่องน้ีเลย จนกระทงั่เที่ยงคืนวนัศุกร์มาถึง เธอเปิดประตูเลื่อน พร้อมเดินออกไปริมระเบียงห้องขณะน้ันก็มีฝนดาวตกพอดีและไม่รอช้าที่จะยกมือสองข้างมาประกบกัน พร้อมค าอธิษฐานว่า “ขอให้พรุ่งน้ีตื่นมาแล้วทุกอย่างเป็ นเวลาในอดีต ” พอเธอไดข้อสิ่งที่หวงัเสร็จ เธอก็มี คา ถามข้ึนมาในหัวว่า “ ถ้าฉันยอ้นเวลาไปจริงๆจะมีอะไรดีข้ึนม้ยัแลว้จะกลบัมาตอนปัจจุบนัม้ยั”คิดอะไร ต่าง ๆ อยู่นานจนเผลอหลับไป รุ่งเช้าเธอรู้สึกตวัข้ึนพร้อมกับค่อย ๆ ลืมตาข้ึนมาก็พบว่าห้องนอนของเธอ เปลี่ยนไป แต่ได้พบกับบริเวณรอบห้องนอนของเธอเป็นห้องนอนแบบเดียวกับที่คอนโดตอนอยู่มัธยมปลาย เธอยงัคงตกใจว่าเรื่องแบบน้ีมนัเป็นไปได้ยงัไง แต่ก็ไม่ได้สนใจเพราะตอนน้ีเธอกา ลงัจะได้มาเริ่มความฝัน ของตัวเองใหม่ เธอชื่นชอบวาดรูปมาต้งัแต่เด็กเหตุที่เธอเป็นทนัตแพทยแ์ทนที่จะเป็นอาชีพเกี่ยวกับด้าน ศิลปะ เพราะเธอถูกปลูกฝังจากครอบครัวมาอยู่แล้วว่าอยากให้เป็ นแพทย์บวกกับคนที่เธอแอบชอบอยาก เรียนเป็นแพทย์ เธอก็เลือกที่จะเรียนเพื่อเป็นแพทยต์ามเขาคนน้ันดว้ย เผื่อว่าเขาคนน้ันจะเห็นความพยายาม ของเธอบ้าง แต่สุดท้ายก็ค้นพบว่าไม่ใช่เส้นทางของตัวเองที่แท้จริง พอย้อนเวลามาเธอก็ต้องท าความรู้จักกับ เพื่อนใหม่ ๆ สังคมและประสบการณ์ใหม่ ๆ เพราะเธอเป็นคนเดียวที่ย้อนเวลามาได้ และเธอก็ได้กลับมาอยู่ ม.๖ อีกคร้ัง จะว่าเปรียบเหมือนโลกคู่ขนานก็แอบคลา้ยเช่นน้ัน แต่เธอก็ต้งัหน้าต้งัตาที่จะสอบเข้าคณะ ศิลปกรรมศาสตร์ให้ได้เธอเริ่มมุ่งมนั่ ไปที่งานศิลปะมากข้ึน หัดวาดรูปที่มีความยาก สร้างสรรค์ผลงานที่ไม่ เคยทา ข้ึนมา จากเดิมที่เคยอ่านหนังสืออย่างหนักเพื่อสอบเข้าคณะทันตแพทยศาสตร์ท้งัความสุขน้นัหายไป “ ประกาศถึงนักเรียนทุกคน โรงเรียนของเราจะมีการแข่งขันวาดภาพเพื่อคัดเลือกตัวแทนไปแข่งขัน ระดับชาติให้นักเรียนที่สนใจมาลงชื่อที่ห้องพกัครูช้นั๒ ได้ค่ะ” เสียงของคุณครูท่านหนึ่งประกาศมาจาก ห้องประชาสัมพนัธ์ก่อนหนา้น้ีโรงเรียนของไอริชไม่มีการแข่งขันงานศิลปะ แต่พอตอนน้ีกลบัมีประกาศว่า จะมีการแข่งขัน ไอริชไดย้ินดงัน้นัแลว้ก็ไม่รีรอที่จะรีบวิ่งไปลงชื่อตามที่คุณครูได้ประกาศไว้


๒ พอไปถึงที่ก็ถึงกับต้องอ้าปากค้าง เพราะนักเรียนต่อคิวลงเป็ นจ านวนมาก ท าให้ไอริชแอบผิดหวังและเศร้า ใจเล็กน้อยว่ากลัวจะแพ้คู่แข่ง ไม่ถูกคัดเลือก เมื่อถึงคิวที่เธอต้องลงชื่อผู้แข่งขัน “ ทา ไมปีน้ีมีคนสนใจแข่งขนัศิลปะเยอะจงัคะ” เธอถามคุณครูด้วยความสงสัย “ เพราะทางโรงเรียนเห็นว่านกัเรียนใหม่ที่เพิ่งเขา้มาเรียน มีแต่คนมีฝีมือเรื่องน้ีไงล่ะจ๊ะ ” คุณครูตอบ ไอริชเริ่มกดดนัมากข้ึนเมื่อไดค้า ตอบ เธอเหม่อลอย สติหลุดไปชวั่ขณะ ทนั ใดน้นัมีเพื่อนคนหน่ึง เผลอเดินมาชนเธอโดยไม่ไดต้้งัใจเพื่อนคนน้นัหยุดเดินแลว้เบนความสนใจมาถาม “ อ้าว ไอริช แกก็ลงแข่งเหมือนกันหรอ” “ ใช่แล้วล่ะ ซีนก็เก่งวาดภาพศิลปะหรอเนี่ย” “ ก็ไม่ขนาดน้นัหรอกแต่เราชอบศิลปะต้งัแต่๔ ขวบแล้วอะ” ไอริชหนักใจมากกว่านาทีที่ผ่านมาที่ก าลังจะเป็นคู่แข่งกับซีน เพื่อนใหม่ที่เพิ่งไดท้า ความรู้จกักนัและ เริ่มสนิทกนัพอถึงเวลาเลิกเรียนก็พุ่งตรงเป้าหมายไปยังร้านขายเครื่องเขียน เธอแทบจะเหมากระดาษ ดินสอ สีไม้สีน้า ของร้านเกือบจะหมด จากน้นัเธอก็รีบกลบัคอนโดเพื่อมาลองฝีมือการวาด การลงสีให้เก่งข้ึน เธอมี ความพยายามอย่างมากเพื่อจะคว้าต าแหน่งไปสู่ระดับชาติ วันต่อมาไอริชก าลังเดินเข้าอาคารเรียน เธอเดิน สวนกับชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อว่าโอเม็ต เธอไม่อาจละสายตาจากเขา เธอตกหลุมรักเขาต้งัแต่แรกเจอเธอได้ พบหัวใจดวงใหม่ของตนเองจากคนที่เคยแอบชอบคนน้ันที่เธอเคยพยายามจะเป็นแพทย์ตาม เขาคนน้นักลบั ไม่แม้แต่จะชายตามองเลยสักนิด “ ไอริช ข้ึนห้องเรียนกนั! ” เสียงจากซีนตะโกนเรียกข้ึน “ ช่วงน้ีแกเตรียมตวัแข่งหนกัม้ยั” ไอริชเอ่ยถามซีน “ ไม่ค่อยหนักนะ” “ ท าไมล่ะ แกไม่คาดหวังกับการแข่งหรอ” “ เราปล่อยไปตามความสามารถ ไม่อยากกดดันตัวเอง ” เมื่อซีนตอบดังน้ัน ไอริชรู้สึกแปลกใจในความแตกต่างของตนและซีน “ ติ๊ง ติง ” เสียงเตือนให้ นักเรียนรู้กันว่าถึงเวลาเคารพธงชาติเมื่อเสร็จกิจกรรมเคารพธงชาติ สวดมนต์ไหว้พระเรียบร้อยแล้ว ก็มี คุณครูท่านหนึ่งเดินมาหน้าเสาธงเหมือนมีเรื่องแจ้งอะไรสักอย่าง“ สวัสดีค่ะ นักเรียนทุกคน ครูจะมาแจ้ง เรื่องการแข่งขันประกวดวาดภาพ เหลือเวลาอีกเพียง ๔ วัน ขอให้ทุกคนเตรียมตัวให้ดี อุปกรณ์ที่ใช้ทาง โรงเรียนจะเตรียมให้นะคะ ” เมื่อคุณครูแจ้งเสร็จ ก็มีนักเรียน ม.๔ บางกลุ่มที่อยู่ใกล้ๆ ไอริชซุบซิบกัน “ มึง กูได้ข่าวมาว่ามีพี่ม.๖ คนนึงเคยชนะโอลิมปิ กศิลปะมาหลายคร้ัง ” “ เห้ยกูก็ได้ยิน พี่เขาชื่อโอเม็ต อยู่ม.๖ เพิ่งจะยา้ยโรงเรียนมาใหม่” ไอริชจดจ าคนที่ชื่อ โอเม็ต ไว้และเธอต้องรู้ให้ได้ว่าเขาคือใครฝั่งโอเม็ตรู้สึกเฉย ๆ กับการแจ้งจาก คุณครู ก็แน่อยู่แล้วว่าเขาเป็ นเซียนศิลปะ เมื่อถึงเวลาเลิกเรียน ไอริชหอบสมุดวาดภาพกับดินสอคิดไปหา แรงบันดาลใจจากสวนสาธารณะเผื่อมันอาจจะช่วยให้เธอสร้างสรรค์ผลงานที่ใช้แข่งขันได้ ระหว่างเธอก าลัง เดินเลาะริมน้า เธอบังเอิญเห็นโอเม็ตนั่งอยู่สนามหญา้ก าลังวาดรูปแม่น้า ไม่รู้ว่าอะไรท าให้เขามีออร่าขนาด


๓ น้ันในสายตาเธอ ในขณะเดียวกันเธอก็สังเกตว่า เขาก็ชอบวาดรูปด้วยหรอ แต่เธอก็สะบัดหน้าเพื่อหยุด ความคิดที่รู้ตัวว่าจะคิดอะไรต่อ เธอหันหนา้ไปทางอื่นก็พบเก้าอ้ีอยู่ริมน้ า จึงเดินไปนงั่ใส่หูฟัง แลว้นงั่มอง บริเวณรอบสวนพร้อมกบัเริ่มร่างภาพไปเรื่อย ๆ โอเม็ตที่ก าลังวาดรูปก็บังเอิญเห็นไอริชกา ลงันงั่ หันหลังให้ เขาอยู่เกา้อ้ี“ สวยจัง ” เขาเผลอพูดออกมาโดยไม่รู้ตัว พลางร่างภาพเส้นผมของเธอไปด้วย อากาศตอนน้ีเย็น สบาย มีความอบอุ่นเล็กน้อย มีลมอ่อน ๆ พัดผ่านมา ฝั่งไอริชที่ร่างภาพได้สักพักก็ต้องเผลอหลับไป “ มาหลบัอะไรตรงน้ีกันนะ” โอเม็ตพูดด้วยเสียงแผ่วเบา ใบหน้าเขาห่างจากไอริชเพียงระยะส้ัน ๆ เธอท าเสียงงัวเงียราวกับว่าก าลังจะลืมตาตื่นข้ึนมา เขากลัวว่าเธออาจจะตกใจถ้าได้เห็นเขายืนอยู่ตรงหน้า จึงได้รีบเดินออกจากตรงน้นัแลว้กลบับา้นไป และในไม่ช้าเธอก็ลืมตาข้ึนมา พร้อมกวาดสายตาไปรอบ ๆ “ นี่ฉันเผลอหลบั ไปตอนไหนเนี่ย ฟ้าก็เริ่มจะมืดแลว้ ด้วย” เธอบ่นพึมพ ากับตัวเอง จากน้ันจึงรีบเก็บของที่ ได้หอบมาแล้วรีบกลับบ้าน วนัรุ่งข้ึนไอริชมาโรงเรียนต้งัแต่เช้ากว่าปกติเพราะเธอได้รับข้อความแจ้งจาก คุณครูเมื่อวานตอนเย็นว่า จะมีซุ้มศิลปะของรุ่นพี่จากมหาวิทยาลัยภายนอกได้เข้ามาแบ่งปันผลงานบางส่วน ที่เคยแข่งขันชนะระดับประเทศมาแล้ว ซึ่งเป็ นผลงานที่เกี่ยวกับสถาปัตยกรรม ประติมากรรม และจิตรกรรม เธอจึงมีความสนใจอย่างมาก จึงรีบตื่นมาโรงเรียนต้งัแต่เช้า เพื่อรีบมายืนชมผลงานอยู่แถวด้านหน้าของซุ้ม “ ไอริช รอเราด้วยสิ” เสียงที่คุ้นเคยของซีนเรียกไอริช “ มาเร็วซีน เดี๋ยวคนเยอะ” ไอริชเร่งซีนให้รีบวิ่งมาหา เมื่อถึงเวลาที่รุ่นพี่มหาวิทยาลัยบรรยายงาน ก็มีนกัเรียนบางกลุ่มส่งเสียงดงัข้ึนจากแถวด้านหลังของซุ้ม “ กรี๊ดดด! พี่โอเม็ตก็มาอะมึง ” เสียงที่ดงัลนั่น้นัทา ใหไ้อริชอดไม่ไดท้ ี่จะหันไปมอง เธอมองค้างและ ไม่แม้แต่จะกะพริบตาได้เท่าไหร่นัก “ แก ๆ คนน้นัรึเปล่าที่คนเขาชอบพูดถึงกนั” ซีนหันมาถามไอริชที่ยืนข้าง ๆ กัน แต่เธอไม่ได้ฟังเลย “ ไอริช...ไอริชแก ไอริช! ” ซีนพยายามเรียกสติไอริชและเขย่าตัวเล็กน้อย “ ว่าไงนะแก โทษทีๆ เมื่อกี้ฉันไม่ได้ฟังน่ะ ” เมื่อรู้สึกตัวได้จึงรีบตอบ “ แกเหม่ออะไร หรือว่า..กังวลที่ได้เห็นคู่แข่งตัวพ่อคร้ังแรก” “ เราไม่รู้ว่าตอนน้ีควรรู้สึกยังไงก่อนดี” ไอริชก้มหน้าแล้วพูดออกไปด้วยเสียงแผ่วเบาอย่างสับสน “ อะไรนะเมื่อกี้แกว่าไงรู้สึกอะไรนะ” ซีนเอียงหูไปทางไอริช พยายามฟังสิ่งที่เธอพูดไป “ เปล่า ไม่มีอะไรหรอก แกอยู่ฟังพี่เขาพูดไปนะเดี๋ยวเราไปเขา้ห้องน้า ก่อน ” เมื่อไอริชพูดประโยคจบ เธอก็เดินออกจากบริเวณซุ้มไป พร้อมสีหน้าที่หม่นหมองและแววตาของเธอ ที่เริ่มมีน้ าตานอง ระหว่างน้ันโอเม็ตก็เห็นหญิงสาวที่เขาจ าหน้าค่าตาได้ดีก าลังจะเดินไปที่ไหนสักที่ของ โรงเรียน เขาจึงหาช่องทางเบียดคนที่ยืนอยู่ แล้วก็วิ่งออกจากตรงน้นัเพื่อตามเธอไป ไอริชวิ่งมาหยุดอยู่ที่สวน ข้างอาคารเรียน ก่อนจะปล่อยให้น้ าตาที่เก็บไวอ้ยู่น้ัน ได้ไหลออกมาทุกหยด เธอเดินไปนั่งเก้าอ้ีใต้ต้นไม้ อย่างช้า ๆ ความรู้สึกตอนน้ีมนัอะไรกนัท้งัรู้สึกเสียใจ ท้งัตกใจ ท้งักงัวลจนพูดไม่ออก หลายอย่างตีในหัวไป หมด คนน้นัที่เราตกหลุมรักเขามาก ๆ กลบัเป็นคนที่จะได้แข่งขันกันและกัน ไม่ต่างจากซีนเพื่อนของเธอที่ ลงแข่งขันเช่นกัน ไหนจะเพื่อนสนิท ไหนจะคนที่เธอหลงรักไม่ว่าจะอยู่ในโลกปัจจุบัน หรือโลกในอดีต เธอล้วนแต่ต้องเจออุปสรรคและความทุกข์เศร้าท้งัน้ัน แลว้ควรจะต้องท ายังไงกับมันดีในขณะที่เธอก้มหน้า


๔ ก้มตาคิดมากกับเรื่องที่ได้รู้ โอเม็ตก็เดินมาอย่างเงียบ ๆ แล้วยืนหยุดตรงหน้าเธอ พร้อมกับยื่นดินสอแท่ง หนึ่งให้เธอ “ อะ เราให้เธอ” เขาให้ดินสอที่เขาเคยใช้แข่งขันศิลปะระดับชาติมาก่อนให้กับเธอจึงเงยหน้า ข้ึนมามองคนตรงหน้าว่าเป็นใครเธอท าสีหน้าสงสัย “ ดินสอน าโชคไง มันเป็ นดินสอที่เราเคยใช้แข่งน่ะ” แต่ทว่าเธอไม่รับดินสอแท่งน้นักลับถอนหายใจออกมา แล้วยิ้มท้งัหัวเราะเบา ๆ อย่างไม่เต็มใจ “ พอกันที ไม่อยากแข่งแล้ว ” ไอริชรู้สึกทอ้แทก้บัสิ่งที่จะต้องท า “ ทา ไมเธอคิดแบบน้นัล่ะ” โอเม็ตถามไอริช ก่อนจะนงั่ลงที่เกา้อ้ีขา้ง ๆ เธอจึงหันสายตาไปช าเลือง มองเขาแล้วก็หันกลับมาก้มหน้าอย่างเดิม “ นายรู้อะไรม้ยัเรายอมละทิ้งโลกปัจจบุนั เพื่อมาเปลี่ยนความฝันใหม่” ไอริชพูดอะไรแปลก ๆ โดย ไม่ได้ไตร่ตรองว่าคนที่นงั่อยู่ขา้งเธอจะเขา้ใจในสิ่งที่พูดหรือไม่ “ เธอหมายความว่ายังไง เรางงไปหมดแล้ว”โอเม็ตขมวดคิ้วเล็กนอ้ยให้กบั เรื่องพิลึกที่ไอริชพูดไป “ นายอาจจะไม่เชื่อนะ แต่ฉันย้อนอดีตมาที่เดิมของตวัเองโรงเรียนน้ีก็เคยอยู่มาก่อน ” ไอริชพยายาม อธิบายทีละนิด แต่โอเม็ตก็ยงัคงสงสัยในสิ่งที่เธอพูดมากข้ึน เขาทา สีหนา้ท่าทางให้เธอรู้ว่าเขาน้ันยงัอยาก เข้าใจในเรื่องที่เธอก าลังจะสื่อออกมาท้งัหมด เธอจึงหยิบรูปใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋ ากระโปรง “ มันเหนือธรรมชาติใช่ม้ยัล่ะแต่นายดูรูปน้ีนะ นี่คือรูปปัจฉิมตอนปี ๒๐๒๓ ก็คือตอนน้ีมีเขียนก ากับ ไว้ด้วยคนน้ีฉันเองและในรูปน้ีมีครูที่ลาออกไปแลว้ ” ไอริชเล่าให้โอเม็ตฟังเพื่อให้ท าความเข้าใจ พร้อมช้ี บุคคลในภาพตาม “ แล้วเธอย้อนมาจากปี ไหน ย้อนมาได้ยังไง ” “ เราย้อนมาจากปี ๒๐๓๑ ด้วยคืนฝนดาวตก เราขอพรให้เรากลับมาเปลี่ยนเส้นทางชีวิตใหม่ เราไม่ เหมาะกับการเป็นทันตแพทย์เลย เราอยากทา สิ่งที่ชอบให้ส าเร็จ เราอยากใช้เวลากับมนัมากกว่าน้ี” “ เธอย้อนมาต้งั๘ ปีแล้วอายุเธอเท่าปัจจุบนัของเธอม้ยั” “ ไม่รู้เลย เรายอ้นมาเจอห้องนอนตวัเองสมยัเรียนตอนน้นัแต่เรารู้สึกว่าเด็กลง ” โอเม็ตแอบยิ้มเพราะเอ็นดูในค าพูดไอริช เขาและเธอนงั่เงียบ ๆ ไม่พูดจากันสักพักหนึ่ง ด้วยความเธอ ร้องไห้และเครียดจนเหนื่อย เธอจึงเผลอสัปหงกลงเรื่อย ๆ เขาเห็นดงัน้นัจึงใชม้ือประคองไปที่ศีรษะอีกข้าง ของเธอ เพื่อให้เธอได้มีที่พิงนอน “ ไม่เป็นไรนะเธอคนเก่ง เราเชื่อว่าเธอท าได้เราจะอยู่ข้างเธอเอง ” เขาพูด เสียงเบา ๆ พลางลูบศีรษะปลอบประโลมเธอไปด้วย ไอริชเผลอหลับง่ายในสถานการณ์ที่เธอเหนื่อยใจมาก หลายคร้ังที่เธอแก้ปัญหาทุกอย่างภายในใจด้วยการนอนหลับ “ ไอริช ตื่นได้แล้ว ” โอเม็ตดูนาฬิกาข้อมือ ก็เห็นว่าถึงเวลาที่ต้องไปเข้าแถวแล้ว จึงปลุกไอริช มือของเขาที่อยู่ศีรษะของเธอก็เปลี่ยนต าแหน่งมาเป็ น บริเวณสันหลัง และสะกิดเรียกเพื่อให้เธอรู้สึกตัว “ กี่โมงแล้ว ” เธอตื่นมาพร้อมเสียงงัวเงียแล้วถามเวลา “ อีก ๕ นาทีจะ ๘ โมงแล้ว ” เธอจึงรีบลุกจากเกา้อ้ีอย่างลุกล้ีลุกลน “ รีบไปกันเถอะ ” เธอบอกเขาให้รีบไป เข้าแถวด้วยกัน เธอจึงเร่งฝี เท้าเดินน าเขาไปก่อน เขาเดินตามหลังเธอพร้อมกับจ้องมองโดยไม่หลบสายตา “ เราไม่อยากเห็นเธอผิดหวังหรือเสียใจเลยไอริช ถ้าจะตัดคู่แข่งออก ขอเป็ นเราที่ยอมหลีกทางให้เธอได้ สมหวังกับเส้นทางที่เธอฝันไว้” โอเม็ตคิดในใจ เขาคิดว่าตัวเขาไม่จ าเป็นจะต้องลงแข่งขันก็ได้ เพราะเขาเคย


๕ ชนะการแข่งขันศิลปะมาหลายคร้ังอยู่แลว้เขายอมเป็ นหนึ่งในคนที่เสียสละเพื่อไอริช คนที่เขาก็แอบรักอยู่ “ แกไปไหนมากันแน่ไอริช เรานึกว่าแกตกส้วมไปแล้ว ” ซีนพูดกระแทกเสียงใส่ไอริช “ มันดูแออัด เราร้อนก็เลยไม่อยากเข้าไป ” ไอริชตอบไปโดยเลี่ยงความจริงเอาไว้ “ เอาเถอะไม่เป็นไร ” ซีนตอบโดยไม่ถือสา “ ตอนเที่ยงไปซุ้มกนัอีกม้ยัเขาจดัถึงบ่ายโมง ” ไอริชชวน “ โอเค ๆ ไปกัน ” เมื่อถึงตอนพักเที่ยงไอริชกับซีนก็รีบลงมาทานข้าว พอทานเสร็จก็รีบพุ่งตรงไปที่ซุ้มศิลปะของรุ่นพี่ มหาวิทยาลัย สักพักนักเรียนก็ทยอยมากันเพิ่มมากข้ึน จากน้ันรุ่นพี่ก็เริ่มทกัทายน้อง ๆ นักเรียนอีกคร้ัง ในขณะที่ไอริชและซีนก าลังยืนฟังอย่างต้งัใจอยู่น้นั โอเม็ตที่ไอริชเริ่มคุน้เคยกนัดีแลว้ก็เดินมาบริเวณข้าง ๆ ที่มีนักเรียนคนอื่นยืนคนั่กลางระหว่างเขาและเธออยู่ เขายืนมองไปทางที่รุ่นพี่ก าลังพูดบรรยาย แต่สายตาเขา ดันไปสะดุดกับเธอที่ก าลังยืนพูดกระซิบบางอย่างกับซีนเพื่อนของเธออยู่และในขณะเดียวกัน เธอก าลังจะ หันหน้ากลับไปฟังรุ่นพี่บรรยาย สายตาก็สบตากับเขาพอดีท้งัคู่สบตากันและกัน เขายิ้มอ่อน ๆ ให้เธอจึงท า ตัวไม่ถูกแล้วเม้มริมฝี ปากแล้วหันหน้าคืนเช่นเดิม ต่อมาซุ้มการบรรยายศิลปะของรุ่นพี่มหาวิทยาลัยก็สิ้นสุด ลงแล้ว ไอริชกับซีนเข้าเรียนในช่วงบ่ายตามปกติระหว่างนั่งเรียนอยู่ไอริชก็มองไปทางช่องหน้าต่างเห็น สายลมพดัใบไมพ้ลิ้วไหว หลงัจากน้ันเธอก็เปิดสมุดวาดรูปข้ึนมาแล้วใช้ดินสอร่างลงไปในหน้ากระดาษ เธอร่างภาพชายหญิงคู่หนึ่งที่ผู้หญิงนั่งซบไหล่ผู้ชายอยู่เก้าอ้ีใต้ต้นไม้ณ สวนดอกไม้ที่สวยงามแห่งหนึ่ง ความคิดที่เธอได้มาจากการร่างภาพคงเป็ นที่ทราบว่าคือ โอเม็ตกับไอริช เวลาผ่านไปจนกระทงั่ถึงเวลาเลิก เรียน ไอริชได้แต่คิดว่า เวลาน้นั ช่างผ่านไปเร็ว พรุ่งน้ีคือวนัที่ตอ้งแข่งขนัวาดภาพแลว้ ระหว่างที่เธอเดินฟัง เพลงอยู่และก าลังเดินออกจากโรงเรียน โอเม็ตก็เดินย่องตามหลังมา พอหาจังหวะได้จึงรีบเอาดินสอแท่งที่ เคยให้ไอริช แต่เธอไม่รับไว้ ใส่ไว้ตรงช่องที่อยู่ข้างกระเป๋ าเป้ของเธอ แลว้รีบวิ่งไปหลบหลงัตน้ ไมท้ ี่อยู่ใกล้ แถวน้นัเธอรู้สึกเหมือนมีบางอย่างผ่านด้านหลัง จึงหันไปกวาดสายตา แต่ก็ไม่พบอะไร เธอเลยหันหน้าคืน แล้วเดินกลับบ้านต่อ พอกลับถึงบ้าน เธอไปที่ช้นัวางหนังสือเพื่อจะจดัตารางเรียนส าหรับวนัพรุ่งน้ีเธอวาง กระเป๋ าเป้ลง และขณะที่ก าลังเปิ ดซิปกระเป๋ า ก็สังเกตเห็นดินสอแท่งหนึ่งในช่องข้างกระเป๋ า จึงหยิบข้ึน มาแล้วจ าได้ว่าเป็นดินสอที่โอเม็ตเคยให้ แล้วมันมาอยู่กับเธอได้ยังไง เธอจึงนึกได้ว่าเมื่อตอนเย็นที่รู้สึกตัวว่า มีใครผ่านด้านหลัง แสดงว่าเป็ นโอเม็ตมาแอบใส่ไว้เธอจึงส่ายหน้าเบา ๆ แลว้ยิ้มให้กับความด้ือดึงของเขา เช้าวันต่อมา ไอริชกับซีนมาถึงโรงเรียนพร้อมกัน ท้งัคู่มองไปบรรยากาศที่น่าตื่นเต้น เห็นป้ายไวนิลผืนใหญ่ ที่ติดอยู่หน้าโรงเรียนว่า วันแข่งขันวาดภาพ สร้างสรรค์คิดศิลป์จึงอดใจไม่ได้ที่จะให้ถึงเวลาแข่งขันเร็ว ๆ “ เรารอวนัน้ีมากเลย ” ไอริชพูดพร้อมสีหน้าเบิกบาน “ เหมือนกัน วนัน้ีไม่รักกนัวนันึง ” ซีนพูดพร้อมยิ้มแห้ง “ โอ้โฮ มานี่เลยนะ! ” ไอริชมันเข้ียวในคา พูดของซีน แล้วกระโจนไปกอดคอไว้ ท้งัคู่น้นัต่างยิ้มร่าให้กนั แต่ทว่าไอริชยังมีความกังวลเล็กน้อย เพราะกลัวว่าจะเกิดการผิดใจกับซีนเรื่อง การแข่งขันในคร้ังน้ีเพราะพวกเขาคบหาเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของกันและกันเพียง ๒ คน ไม่อยากแตกหักกัน


๖ “ สวัสดีค่ะนักเรียนทุกคน บ่ายโมงวนัน้ีทราบกันดีว่าจะมีการแข่งขันวาดภาพเพื่อคัดเลือกตัวแทนไปแข่ง ระดับชาติ ขอให้นักเรียนมาก่อนเวลา ๑๕ นาทีและขอให้นักเรียนที่ลงแข่งขันท าให้สุดความสามารถค่ะ ” คุณครูท่านหนึ่งกล่าวถึงนักเรียนที่ลงแข่งขันหน้าเสาธง ไอริชใช้มือทาบไปที่หน้าอกข้างซ้าย เธอรู้สึกได้ถึง เสียงหัวใจที่เต้นแรงเวลาผ่านไปเร็วทันตา ช่วงเวลาบ่ายก็มาถึง ไอริชกับซีนก็รีบไปลงลายมือชื่อผู้เข้าร่วม การแข่งขัน ก่อนจะไปนั่งประจา ที่ของตน และเวลาในการแข่งขันน้ีคือต้งัแต่๑๓ : ๐๐ ถึงเวลา ๑๕ : ๐๐ นักเรียนจ านวน ๖๐ คนมาเข้าร่วมการแข่งขัน ไอริชมองไปยงัคนที่เดินเขา้มานงั่เป็นรายบุคคล เหมือนกบัเธอ จะหาใครบางคนที่ชื่อว่า โอเม็ต แต่กลับไม่เจอเขาเลย เธอจึงคิดสงสัยว่าเขาไปไหน ท าไมเขาถึงไม่มาแข่งขัน ถึงเวลาบ่ายโมงตรงคุณครูได้เริ่มจับเวลา ไอริชร่างภาพอย่างใจเย็น แต่เธอพลางเหงื่อตกไปด้วย เธอใช้เวลา อย่างคุ้มค่าเต็มเวลาในการวาดภาพและลงสี และแล้วก็เวลาบ่ายสามโมงตรง นักเรียนทุกคนวางอุปกรณ์ทุก อย่างลงจากมือ และเดินออกจากห้องกัน ซีนเดินมาหาไอริชแล้วถามถึงความรู้สึกช่วงแข่งขัน “ เป็นไงบา้งแกกดดนัม้ยั” “ กดดันมากเลยล่ะ” “ ใช่ เหมือนกัน แต่มันผ่านไปแล้ว ” “ เอ้อแก รู้หรือเปล่าว่าท าไมคนที่ชื่อโอเม็ตไม่มาแข่ง ” “ เราได้ยินมาว่าลากิจอะ” “ ช่างเขาเถอะ ไปกินขนมหวานกัน ” ซีนชวนไอริชพร้อมจูงแขนเดินไป “ กลับบ้านก่อนนะเจอกัน ” เมื่อไอริชทานขนมเสร็จ จึงดูเวลาแล้วบอกซีน “ โอเค ไว้เจอกันพรุ่งน้ีจ้า ” ซีนบอกลากลับ “ สวัสดีเช้าวันศุกร์ค่ะนักเรียนทุกคน เมื่อวานน้ีได้มีการแข่งขันวาดภาพ ครูก็เลยจะมาแจ้งว่าผลการ แข่งขันจะประกาศหน้าเสาธงในวันจันทร์หน้านะคะ เตรียมใจให้พร้อมเลยค่ะ ” คุณครูได้แจง้นกัเรียนดงัน้นั จึงท าให้หลายคนพากันลุ้นและกระซิบว่า ใครจะเป็นผู้ถูกคัดเลือก วนัน้ีเป็นอีกวนัที่โอเม็ตลากิจ ไอริชก็ยังคง มองหาว่าจะเจอโอเม็ตมาโรงเรียนหรือเปล่า แต่ก็ไม่เจอ วนัน้ีเธอซึมท้งัวนัเพราะคิดต่าง ๆ นานาว่าเขาจะท า อะไรอยู่ ลากิจไปไหน ท้งัแอบมีความรู้สึกว่าอยากให้เขามาแข่งเมื่อวาน ถึงแม้เขาอาจจะเก่งกว่าเธอ มาถึง เวลาตอนเย็นจนถึงตอนกลางคืน เธอก็ยังคงซึมและคิดเรื่องของเขาจนกระทงั่ ปิ ดไฟแล้วข่มตานอน เช้าวัน เสาร์ที่อากาศดีและสดใส ไอริชวางแผนจะไปหอศิลป์ตอนบ่ายน้ีเธอทานข้าวเสร็จเรียบร้อยจากน้ันเธอก็ บ ารุงผิวหน้าสักพักหนึ่ง แล้วก็ไปอาบน้ าแต่งตวัและแต่งหน้าท าผมต่อ หลังจากเสร็จภารกิจส่วนตัว เธอก็ ข้ึนรถไฟฟ้าสายสีเขียวไปยังสถานีอื่นเพื่อไปยังหอศิลป์ เมื่อถึงภายในหอศิลป์ แล้ว เธอก็ดีใจที่ได้มาดูผลงาน ศิลปะ มันท าให้เธอรู้สึกดีมาก เธอเดินไปหยุดที่หน้าภาพหนึ่ง จากน้นัยกกลอ้งถ่ายรูปข้ึนมาถ่าย ในขณะน้ัน มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินมาหยุดที่ภาพข้าง ๆ ที่เธอยืนอยู่ เธอถ่ายรูปเสร็จพอดีจึงเอากล้องลง สายตาเธอบังเอิญ ไปเห็นคนที่ยืนอยู่ฝั่งดา้นขา้ง ก็พบว่าเขาคนน้นัคือ โอเม็ต ในขณะเดียวกันเขาก็ก าลังถือกล้องเพื่อจะถ่ายรูป เธอจ้องไปที่เขาและในที่สุดเขาก็หันมาเจอเธอ ซึ่งเหมือนเป็นเรื่องที่เกินความบังเอิญ


๗ “ นายไปไหนมา ท าไมถึงไม่ไปโรงเรียน ” เธอเดินเข้าไปหาเขาแล้วถามด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีนัก “ เราไม่ได้ไปไหนมาหรอก” “ แล้วท าไมไม่ไปโรงเรียน ไม่อยากแข่งหรอ” “ ใช่เราไม่อยากแข่ง เราต้งัใจไม่ไปแข่ง ” “ ท าไมล่ะ นายเป็นอะไรไป ” “ เราเสียสละให้เธอไงไอริช เราจะรู้สึกผิดถ้าเราแข่ง ” โอเม็ตตอบดว้ยน้า เสียงจริงจงั “ นายไม่จา เป็นตอ้งมาทา แบบน้ีเพื่อเรานะไม่ต้องรู้สึกผิด เราไม่โกรธเลย ” ไอริชพูดท้งักงัวลมากข้ึน “ ไม่เป็นไรจริง ๆ เราไดร้างวลัเยอะแลว้เหตุผลที่เธอยอ้นเวลามา เพราะเรื่องน้ีเลยนะ ” “ ท าไมนายถึง…” ยังไม่ทันที่ไอริชจะพูดให้จบประโยคโอเม็ตก็ขัดจังหวะ “ เรารักเธอไง ” น้า เสียงของคนตรงหน้าไอริช มีความจริงใจและหนกัแน่น เธอจึงตกใจเล็กน้อย “ เอ่อ…เราขอโทษ ” โอเม็ตจึงรีบขอโทษเพราะคิดว่าไม่ควรพูด “ ขอโทษท าไม เราเองก็รู้สึกแบบเดียวกับนายนะ ” โอเม็ตยิ้มกว้างออกเรื่อย ๆ เขารู้ว่าไอริชหมายถึงอะไร เขาและเธอรู้จิตใจถึงกันและกัน รู้สถานะ ในตอนน้ีโดยไม่มีคา ว่า ขอเป็นแฟน แค่ความรู้สึกเหมือนกันก็เพียงพอแล้ว ช่วงเวลาระหว่างเขาและเธอใน หอศิลป์น้ันเป็นช่วงเวลาที่ดี ถ่ายรูปเดี่ยวและรูปคู่เป็ นความทรงจ า เหมือนคู่รักนักศิลป์ช่างน่าจดจ าจริง ๆ เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่รีรอผู้ใด เช้าวันจันทร์ที่แสนสดใสได้มาถึง “ ไอริช! ตื่นเตน้มากวนัน้ีประกาศผลแลว้ ” เสียงที่ดังของซีนพุ่งตรงมา “ ไอริช แกยิ้มอะไรเนี่ย ” เมื่อซีนวิ่งเขา้มาใกลไ้อริช ก็พบว่าเธอยืนยิ้มอยู่คนเดียว “ วันเสาร์นี่มันดีมากเลยแก” ไอริชพูดพลางยิ้มอยู่ “ ดีหรอ ดียังไงอะ ” ซีนถามด้วยสีหน้างง “ โอเม็ตผู้เป็นรักแรก” ไอริชเผลอพูดออกไปด้วยสติลอยไปลอยมา “ หา! อะไรนะยังไง ” ซีนเผลอพูดเสียงดัง “ ชู่ เบา ๆ แก” ไอริชใช้มือปิ ดปากซีนไว้ “ ไปเข้าแถวกันเถอะ ” ไอริชบอกซีนแล้วควงแขนเดินไป หลังจากท ากิจกรรมหน้าเสาธงเสร็จแล้ว ก็มีคุณครูหมวดศิลปะท่านหนึ่งก าลังเดินมาหน้าเสาธง ไอริช ลุ้นจนไม่สามารถควบคุมการเต้นของหัวใจได้“ สวสัดีค่ะวนัน้ีครูจะมาประกาศผลการแข่งขันวาดภาพ ” ทนั ใดที่คุณครูจะเริ่มประกาศเสียงจากนักเรียนหลายคนก็ส่งเสียงกระซิบกันถ้วนหน้า “ ฟังดี ๆ นะคะ ผู้ที่ ได้รับคัดเลือกไปเป็นตัวแทนระดับชาติได้แก่…” ไอริชจับมือกับซีนไว้แน่น คอยต้งัใจฟังผลการแข่งขัน “ ได้แก่… นายวรกร ชัยศิลป์ค่า ” ไอริชได้ยินดังน้ัน เธอจึงปล่อยมือจากซีน แลว้ยืนนิ่งให้กับผลที่ได้ยิน ความรู้สึกภายในใจเธอมันย ่าแย่ไปหมด นี่คือผลที่เธอควรได้รับจากการยอ้นเวลามาอย่างน้นัหรอ ความรู้สึก ที่ผิดหวังไม่ต่างอะไรจากตอนที่เธออยู่โลกปัจจุบัน ฝั่งโอเม็ตเป็นห่วงว่าไอริชจะรู้สึกยังไง จึงพยายามมองหา แถวห้องของเธอ ส่วนเธอน้นัเริ่มน้า ตาคลอ แต่พยายามกล้นัไม่ให้หยดน้า ตาไหลออกมา ท้งัวนัของการอยู่ใน


๘ โรงเรียน เธอเป็ นทุกข์ตลอด แต่ซีนถึงแม้จะผิดหวัง ก็ปล่อยให้เป็ นเรื่องปกติ ต้องคอยปลอบเธอให้เสียใจ น้อยลงไปบ้าง พอถึงเวลาตอนเย็นไอริชก็ไปที่สวนสาธารณะอย่างที่เธอเคยไป เธอนั่งลงเก้าอ้ีริมน้ าพร้อม ปล่อยน้ าตาให้ไหลออกมาไม่หยุด เธอพูดกับตัวเองออกมาว่า “ ฉันย้อนกลับมาเพื่ออะไร มันมีความหมาย อะไรกัน ” เธอพูดพลางสะอึกสะอ้ืนดว้ย “ มีความหมายสิ อย่างน้อยก็มีความหมายกับเราไง ” เสียงของโอเม็ตปรากฏข้ึน ไอริชจึงหันไป “ นายรู้ได้ยังไงอะว่าเราอยู่ที่นี่” “ เราแอบตามเธอมาไง ” “ เมื่อก้ีพูดอะไรออกมารู้ตวัม้ยัเธอยอ้นมาเพื่อไดท้า สิ่งที่ฝันนะ” โอเม็ตนงั่ลงขา้ง ๆ พูดกับไอริช “ เราท ามันไม่ส าเร็จ ” ไอริชก าลังจะร้องไห้หนกัข้ึน โอเม็ตจึงรีบโผกอดไว้อย่างแน่น “ แต่อย่างน้อยเธอก็ได้ท านะคร้ังหน้าเธออาจจะทา ส าเร็จก็ได้อย่าเพิ่งท้อแทไ้ปเลยคนเก่ง อย่าลืมว่า เราคนน้ีพร้อมจะอยู่ขา้งเธอเสมอเลยนะ ” โอเม็ตพูดโน้มน้าวปลอบใจไอริช เขาท้งักอดท้งัลูบศีรษะเบา ๆ “ ขอบคุณจริง ๆ นะที่อยู่ข้างเรา เรารักนายนะ” ไอริชเริ่มรู้สึกดีข้ึน “ เราดีใจที่ได้เจอเธอนะ ถ้าเป็นไปได้ เราอยากให้เธอย้อนเวลามาถาวร อยู่ด้วยกันตลอดไป ” “ เราก็เหมือนกันนะ ขอบคุณดาวตกที่ได้มาเจอนายนะโอเม็ต ” บางทีมันอาจจะเป็นพรหมลิขิตที่ดึงดูดให้ไอริชย้อนเวลามา เธอได้ค้นพบว่า เธอไม่จ าเป็นต้องพยายาม อะไรเหมือนกับคนที่เธอเคยแอบชอบ ไอริชรู้สึกมีคุณค่าเมื่อได้มีโอเม็ตเป็นพ้ืนที่ของความสบายใจเธอได้ ทา สิ่งที่ฝัน แมอ้าจจะผิดหวงัและอาจจะตอ้งเริ่มนบั ใหม่แต่ยังเชื่อว่าต้องมีสักวันที่สมหวังในอนาคตอันใกล้ ผู้ที่น าทางให้เธอก้าวข้ามผ่านหลายสิ่งหลายอย่างไปได้ คือ โอเม็ต ที่แปลว่าผู้เป็นแสงสว่างของฉัน


Click to View FlipBook Version