The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หน่วยที่6 วิวัฒนาการดนตรีไทย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by mbac1023, 2021-08-28 11:53:50

ป.6 เรื่อง วิวัฒนาการดนตรีไทย

หน่วยที่6 วิวัฒนาการดนตรีไทย

๖หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี

วิวัฒนาการดนตรไี ทย

๑. อธิบายเรื่องราวของดนตรีไทยในประวัตศิ าสตร์ (ศ ๒.๒ ป.๖/๑)
๒. จาแนกดนตรที ี่มาจากยคุ สมยั ทีต่ า่ งกนั (ศ ๒.๒ ป.๖/๒)
๓. อภิปรายอิทธพิ ลของวัฒนธรรมตอ่ ดนตรใี นท้องถน่ิ (ศ ๒.๒ ป.๖/๓)

ดนตรไี ทย ววิ ฒั นาการ
ในประวัตศิ าสตร์ ดนตรไี ทย

อทิ ธิพลของวฒั นธรรมตอ่ ดนตรี
ในทอ้ งถิ่น



๑. ดนตรีไทยในประวตั ศิ าสตร์

ดนตรีไทยเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติที่อยู่คู่กับคนไทย
มาชา้ นาน เป็นสิ่งที่สร้างความบันเทิงใจ ผ่อนคลายความเหน็ดเหนื่อย
ให้กับคนไทย และใช้ประกอบในพิธีกรรมมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ดนตรีไทยมีความเก่ียวขอ้ งกบั ประวตั ิศาสตรไ์ ทยในแต่ละยคุ สมัย ดงั น้ี

๑.๑ สมยั สุโขทัย

ในสมัยสุโขทัยเป็นสมัยเริ่มต้นประวัติศาสตร์ของชาติไทย
เพราะมีหลักฐานการบันทึกปรากฏไว้เด่นชัด โดยมีจารึกเร่ืองราวต่าง ๆ
ที่เก่ียวกับดนตรี ในประโยคที่ว่า “ดมบงคมกลอง ด้วยเสียงพาทย์
เสียงพิณ” หมายถึง ระดมประโคมกลอง ด้วยเสียงพาทย์ เสียงพิณ
แสดงให้เหน็ ว่าดนตรีไทยมีมาต้งั แต่สมัยสโุ ขทยั

ลักษณะดนตรใี นสมัยสุโขทัยท่ีเกดิ ขนึ้ ดังนี้

๑. วงบรรเลงพณิ มีผบู้ รรเลง ๓ คน ทาหน้าทดี่ ีดพณิ และ
ขบั ร้องไปด้วยเป็นลกั ษณะของการขับลานา

๒. วงขับไม้ มคี นเลน่ ๓ คน คือ คนขับลานา คนไกวบัณเฑาะว์
เพ่อื ใหจ้ งั หวะ และคนสีซอสามสายคลอเสยี งคนขับลานา วงขับไมม้ ักใช้
กับพิธีหลวงในสมัยนัน้ เช่น พธิ ีสมโภชพระมหาเศวตฉัตร พธิ สี มโภช
พระยาช้างเผอื ก

๓. วงปพ่ี าทย์ เปน็ ลกั ษณะของวงปี่พาทย์เครอ่ื ง ๕ มี ๒ ชนดิ ดังนี้
๑) วงป่ีพาทย์เครื่องห้าอย่างเบา ประกอบด้วยเครื่องดนตรี ชนิดเล็ก ๆ
จานวน ๕ ชิ้น คือ ปี่ กลองชาตรี ทับ (โทน) ฆ้องคู่ และฉิ่ง ใช้บรรเลง
ประกอบการแสดงละครชาตรี
๒) วงป่ีพาทย์เครื่องห้าอย่างหนัก ประกอบด้วยเคร่ืองดนตรีจานวน
๕ ช้ิน คือ ป่ีใน ฆ้องวงใหญ่ ตะโพน กลองทัด และฉ่ิง ใช้บรรเลงประโคมในงาน
พิธี และบรรเลงประกอบการแสดงมหรสพตา่ ง ๆ

๔. วงมโหรี เป็นลักษณะของวงดนตรีท่ีนาวงบรรเลงพิณกับ
วงขับไม้ มาผสมกัน เป็นลักษณะของวงมโหรีเคร่ืองสี่ ประกอบด้วย
ผู้บรรเลง ๔ คนคือ ผู้ขับลานาและตีกรับพวง ให้จังหวะ ผู้สีซอสามสาย
คลอเสียงรอ้ ง ผู้ดีดกระจบั ปี่ และผู้ตที ับ (โทน) ควบคมุ จงั หวะ

๑.๒ สมัยอยธุ ยา

ในสมัยอยุธยาเป็นสมัยที่บ้านเมืองเกิดศึกสงครามบ่อยคร้ัง
เม่ือยามปราศจากสงครามบ้านเมืองสงบสุข ประชาชนจะมีความสุข
มีการร้องราทาเพลง จัดงานรื่นเริงต่าง ๆ ในสมัยอยุธยาเป็นสมัยท่ี
ดนตรีมีการพฒั นาขนึ้ ประชาชนนยิ มเลน่ ดนตรีและมกี ารแสดงตา่ ง ๆ

ลักษณะดนตรีในสมยั อยุธยาที่เกดิ ขนึ้ ดังนี้

๑) วงปี่พาทย์เครื่องห้า มีการนาระนาดมาไว้ในวงดนตรีปลาย
สมยั อยธุ ยา

๒) วงมโหรี ในสมัยอยุธยาจะใช้ผู้หญิงบรรเลง โดยมีผู้บรรเลง
๔ คน ประกอบด้วย ผู้ดีดกระจับป่ี ผู้สีซอสามสาย ผู้ตีทับหรือโทน ผู้ตีกรับ
พวงบรรเลงขับร้องไปด้วย ต่อมาเพ่ิมเครื่องดนตรีอีก ๒ ชนิด คือ รามะนา
และขลุย่ จงึ กลายเป็นวงมโหรีเครอื่ งหก

๓) วงเคร่ืองสาย มีซออู้ ซอดว้ ง จะเข้ ขลยุ่ เป็นเครื่องบรรเลง
ทานอง และโทน รามะนา และฉิ่ง เปน็ เคร่อื งประกอบจังหวะ

๑.๓ สมยั ธนบรุ ี

ในสมยั ธนบุรีมีเครื่องดนตรีของชาติต่าง ๆ เข้ามาในประเทศ เช่น
มอญ แขก ฝร่ัง ญวน เขมร มีวงพิณพาทย์รามัญของชาติมอญ นามา
บรรเลง วงพิณพาทย์รามัญหรือวงป่ีพาทย์มอญท่ีนามาบรรเลง จะใช้
เคร่ืองดนตรี เช่น ฆ้องมอญ ปี่มอญ ตะโพนมอญ เปิงมางคอก แต่วง
ดนตรีไทยยังคงมีเพียงวงปีพ่ าทย์ วงเคร่ืองสาย และวงมโหรเี ทา่ น้ัน

๑.๔ สมยั รตั นโกสินทร์

ดนตรไี ทยในสมัยรัตนโกสนิ ทรพ์ ฒั นามาจากสมยั อดตี มาก
เหตุการณท์ ่ีเกีย่ วขอ้ งกบั ดนตรีไทยในสมยั นี้ แบง่ ออกเป็นเหตุการณ์
ในรชั กาลต่าง ๆ ดงั น้ี

ลักษณะดนตรีในสมยั รัตนโกสนิ ทรท์ ี่เกิดขน้ึ

รชั กาลที่ ๙ พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดุลยเดชมหาราช
บรมนาถบพิตร ทรงมพี ระปรชี าสามารถทางดา้ นดนตรสี ากล ทรงพระราชนพิ นธ์เพลงไว้
หลายเพลง เชน่ เพลงสายฝน เพลงใกลร้ ่งุ

๒. อิทธพิ ลของวฒั นธรรมตอ่ ดนตรใี นทอ้ งถ่นิ

วัฒนธรรม หมายถึง สิ่งที่ทาความเจริญงอกงามให้แก่หมู่
คณะ เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตของคนในท้องถ่ิน วัฒนธรรม
จึงมีอิทธิพลต่อการดารงชีวิตของมนุษย์ เพราะเป็นส่ิงที่ทาให้สังคม
เกิดการเปลี่ยนแปลง นอกจากน้ียังส่งผลถึงวัฒนธรรมด้านดนตรี
ในท้องถนิ่ อีกดว้ ย

วัฒนธรรมของแตล่ ะทอ้ งถิ่นมีลักษณะแตกต่างกัน
และมีอิทธิพลตอ่ ดนตรีในทอ้ งถิ่น ดงั น้ี

ภาคเหนอื ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ลักษณะเดน่ ของ ลกั ษณะทางดนตรีพื้นบ้าน
ดนตรีพืน้ บา้ น ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ภาคเหนอื จะมคี วามออ่ นหวาน จะไดร้ ับอทิ ธพิ ลดา้ นวัฒนธรรมของ
นุม่ นวล สะทอ้ นวัฒนธรรม ประเทศลาวและกัมพูชา ทาให้มี
ด้านวถิ ีชวี ติ ความเป็นอยู่ของ ลกั ษณะทางดนตรที ห่ี ลากหลาย เนน้
ชาวเหนือท่มี ีความเรยี บงา่ ย มี
จิตใจอ่อนโยน ดารงชวี ิตแบบ ความเรียบงา่ ย สนกุ สนาน
ธรรมชาติ สะทอ้ นวัฒนธรรม
การดารงชวี ิตของชาวอสี าน
ภาคกลาง ท่ีมคี วามเป็นอยูท่ เี่ รียบงา่ ย
ลักษณะของดนตรภี าคกลางจะมคี วามสนุกสนาน อยู่แบบธรรมชาติ
ครึกครน้ื สะทอ้ นถงึ วฒั นธรรมด้านความเป็นอยู่
อาชีพ อุปนสิ ัยของคนภาคกลาง ที่ประกอบอาชีพ ภาคใต้
เกษตรกรรม มอี ปุ นสิ ยั ชว่ ยเหลือกัน รักความ ลักษณะทางดนตรพี ้ืนบา้ นภาคใต้จะมี
สนุกสนาน ความคึกคกั สนกุ สนาน เปน็ ดนตรีทใ่ี ช้ใน
พิธีกรรม และประกอบการแสดง สะทอ้ น
วถิ ชี วี ิต ความเช่อื ในสงิ่ ศกั ดิส์ ิทธ์ิ อปุ นิสัย
ของชาวใตท้ ีเ่ ขม้ แขง็ จิตใจดี มนี า้ ใจ

วิวฒั นาการ
ดนตรไี ทย


Click to View FlipBook Version