พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546
แนวคิดในการคุ้มครองเด็ก
คำนึงถึงสิทธิเด็ก คือ
สิทธิที่จะมีชีวิตอยู่รอด
สิทธิที่จะได้รับการพัฒนารอบด้าน
สิทธิที่ได้รับการปกป้องคุ้มครอง
สิทธิการมีส่วนร่วม
มาตรา 4 นิยามศัพท์
1.เด็ก หมายความว่า บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์แต่ไม่รวมถึง
ผู้ที่บรรลุนิติภาวะด้วยการสมรส
2.นักเรียน หมายความว่า เด็กซึ่งกำลังรับการศึกษาขั้นพื้นฐานระดับ
ประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ทั้งประเภทสามัญศึกษาและอาชีวศึกษา
หรือเทียบเท่า อยู่ในสถานศึกษาของรัฐหรือเอกชน
3.นักศึกษา หมายความว่า เด็กซึ่งกำลังรับการศึกษาระดับอุดมศึกษา หรือ
เทียบเท่า อยู่ในสถานศึกษาของรัฐหรือเอกชน
“ผู้ปกครอง”
บิดา มารดาของเด็กไม่ว่าจะจด
ทะเบียนสมรสหรือไม่
ผู้อนุบาล , ผู้รับบุตรบุญธรรม
ผู้ปกครองที่ศาลแต่งตั้ง
พ่อเลี้ยง แม่เลี้ยง , นายจ้าง
ผู้ปกครองสวัสดิภาพ
บุคคลที่รับเด็กไว้อุปการะเลี้ยงดู
หรือเด็กอาศัยอยู่ด้วย
“การเลี้ยงดูโดยมิชอบ”
การไม่อุปการะเลี้ยงดู อบรมสั่งสอน พัฒนาเด็ก
ตามมาตรฐานขั้นต่ำที่กำหนดในกฎกระทรวง
จนน่าจะเกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจของเด็ก
“ทารุณกรรม”
การกระทำหรือละเว้นการกระทำด้วยประการใดๆ จนเป็นเหตุให้เด็ก
เสื่อมเสียเสรีภาพหรือเกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ กระทำผิดทาง
เพศต่อเด็ก การใช้เด็กกระทำหรือประพฤติในลักษณะที่น่าจะเป็น
อันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจหรือขัดต่อกฎหมายหรือศีลธรรมอันดี
ทั้งนี้ ไม่ว่าเด็กจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม
“เด็กที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด”
เด็กที่ประพฤติตนไม่สมควร
เด็กที่ประกอบอาชีพหรือคบหาสมาคมกับบุคคลที่น่าจะชักนำไปในทาง
กระทำผิดกฎหมาย หรือขัดศีลธรรมอันดี
เด็กที่อยู่ในสภาพแวดล้อมหรือสถานที่อันอาจชักนำไปในทางเสียหาย
สถานที่สำหรับสงเคราะห์และคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก
1. สถานรับเลี้ยงเด็ก
2. สถานแรกรับ
3. สถานสงเคราะห์
4. สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ
5.สถานพัฒนาและฟื้ นฟู
พนักงานเจ้าหน้าที่ หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคม
และความมั่นคงของมนุษย์, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงยุติธรรม แต่งตั้ง
หมวด 1 หมวด 6 9 หมวด
คณะกรรมการคุ้มครองเด็ก สถานรับเลี้ยงเด็ก
สสถถาาสนนถแคุ้ารมนกคพรััรบฒองสนสถาวาแันสลสดะิฟงภื้ นเาคพฟูรแาละหะ์
หมวด 2
การปฏิบัติต่อเด็ก
หมวดที่ 3 หมวด 7
การสงเคราะห์เด็ก การส่งเสริมความประพฤติ
หมวด 4 นักเรียนและนักศึกษา
การคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก
หมวด 8
หมวด 5 กองทุนคุ้มครองเด็ก
ผู้คุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก
หมวด 9
บทกำหนดโทษ
หมวด 1
คณะกรรมการคุ้มครองเด็ก
มาตรา 17 คณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัด ประกอบด้วย
1. ผู้ว่าราชการจังหวัด ประธานกรรมการ
2. รองผู้ว่าราชการจังหวัดที่ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัด รองประธาน
3. อัยการจังหวัดคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัด พัฒนาการจังหวัด แรงงานจังหวัด ผอ.สนง.เขตพื้นที่
การศึกษา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ผู้แทนศาลเยาวชนและ
ครอบครัวจังหวัด ผอ.สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัด นายก อบจ. กรรมการ
4. ผู้ทรงคุณวุฒิในวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ ครู จิตวิทยา กฎหมาย แพทย์ วิชาชีพละสองคน
5. พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด กรรมการและเลขานุการ
หมวด 2
การปฏิบัติต่อเด็ก
มาตรา 22 การปฏิบัติต่อเด็กไม่ว่ากรณีใดๆ ให้คำนึงถึงประโยชน์สูงสุด
ของเด็กเป็นสำคัญและไม่ให้มีการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม
ผู้ปกครองต้องไม่กระทำการ
ทอดทิ้ง ละทิ้ง ละเลย ขัดขวาง
ทอดทิ้งเด็กไว้สถานที่ต่างๆ ละทิ้งเด็กโดยไม่มีการ จงใจละเลยสิ่งที่จำเป็น ขัดขวางการเจริญเติบโต
โดยเจตนาที่ไม่รับเด็กกลับคืน ดูแลเลี้ยงดูที่เหมาะสม แก่เด็กจนเกิดอันตราย พัฒนาการเด็กๆ
เลี้ยงดูโดยมิชอบ
มาตรฐานการเลี้ยงดูของผู้ปกครอง
มาตรา 23 ผู้ปกครองต้องให้การอุปการะเลี้ยงดู อบรมสั่งสอน
และพัฒนาเด็กที่อยู่ในความปกครองดูแลของตนตามสมควร
แก่ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมแห่งท้องถิ่น แต่
ทั้งนี้ต้องไม่ต่ำกว่ามาตรฐานขั้นต่ำตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
และต้องคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กที่อยู่ในความปกครองดูแลของ
ตนมิให้ตกอยู่ในภาวะอันน่าจะเกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ
มาตรา 25 ผู้ปกครองต้องไม่กระทำการ ดังต่อไปนี้
1. ทอดทิ้งเด็กไว้ในสถานรับเลี้ยงเด็กหรือสถานพยาบาลหรือไว้กับบุคคลที่รับจ้างเลี้ยงเด็กหรือที่สาธารณะ
หรือสถานที่ใดๆ โดยเจตนาที่จะไม่รับ เด็กกลับคืน
2.ละทิ้งเด็กไว้ ณ สถานที่ใดๆ โดยไม่จัดให้มีการป้องกันดูแลสวัสดิภาพหรือให้การเลี้ยงดูที่เหมาะสม
3. จงใจหรือละเลยไม่ให้สิ่งที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตหรือสุขภาพอนามัยจนน่าจะเกิดอันตรายแก่ร่างกาย
หรือจิตใจของเด็ก
4. ปฏิบัติต่อเด็กในลักษณะที่เป็นการขัดขวางการเจริญเติบโตหรือพัฒนาการของเด็ก
5. ปฏิบัติต่อเด็กในลักษณะที่เป็นการเลี้ยงดูโดยมิชอบ
จงใจหรือละเลยไม่ให้ บังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม ยินยอมให้เด็ก
สิ่งจำเป็นแก่เด็ก ประพฤติไม่สมควร เช่น ขอทานเด็กเร่ร่อน
เสี่ยงต่อการกระทำผิด เล่นกีฬาเพื่อประโยชน์
ทารุณกรรมต่อ
ร่างกาย+จิตใจ ทางการค้า ลามกอนาจาร
โฆษณาทาง ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการ
สื่อมวลชน
เผยแพร่เพื่อยก
เด็กให้บุคคลอื่น
ให้จ้างวานเด็กอันเป็น
อันตรายแก่ร่างกาย+จิตใจ
จำหน่าย แลกเปลี่ยน
หรือให้สุราหรือบุหรี่แก่เด็ก
ใช้ยินยอมให้เด็ก
เล่นการพนัน
มาตรา ผู้ใดพบเห็นเด็กตกอยู่ พนักงานเจ้าหน้าที่ ทันที
29 ในสภาพจำต้องได้รับ พนักงานฝ่ายปกครอง
หรือตำรวจ หรือผู้มีหน้าที่
การสงเคราะห์หรือ คุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก
คุ้มครองสวัสดิภาพ
ตามมาตรา 24
แพทย์ พยาบาล นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ที่รับตัวเด็กไว้รักษาพยาบาล ครู
อาจารย์ หรือนายจ้าง ซึ่งมีหน้าที่ดูแลเด็กที่เป็นศิษย์หรือลูกจ้าง จะต้องรายงานให้พนักงานเจ้าหน้าที่หรือ
ผู้มีหน้าที่คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กตามมาตรา 24 ทราบโดยมิชักช้าหากเป็นที่ปรากฏชัดหรือน่าสงสัยว่าเด็ก
ถูกทารุณกรรมหรือเจ็บป่วยเนื่องจากการเลี้ยงดูโดยมิชอบ
การแจ้งหรือการรายงานตามมาตรานี้ เมื่อได้กระทำโดยสุจริตย่อมได้รับความคุ้มครองและไม่ต้องรับผิดทั้ง
ทางแพ่ง ทางอาญาหรือทางปกครอง
หมวดที่ 3
การสงเคราะห์เด็ก
การสงเคราะห์ หมายความว่า การให้ความช่วยเหลือ
แก่เด็กรวมทั้งครอบครัวซึ่งอยู่ในสภาพที่จำต้องได้
รับการสงเคราะห์ตามกฎหมายนี้ หรือกฎหมายอื่น
เด็กกำพร้า เด็กเร่ร่อน จนเป็นเหตุให้เด็ก
บิดา มารดา เสียชีวิต ไม่มีบิดา - มารดา เร่ร่อนไปในที่ต่างๆ
ไม่ปรากฎบิดามารดา มีแต่ไม่เลี้ยงดู
ไม่สามารถสืบหาบิดามารดาได้ ไม่สามารถเลี้ยงดูได้
เร่ร่อนจนน่าจะเกิดอันตราย
เด็กที่อยู่ในสภาพลำบาก เด็กพิการ
จน = ครอบครัวยากจน เด็กที่มีความบกพร่องทาง ร่างกาย +
หย่า = บิดามารดาหย่าร้าง / ถูกคุมขัง / แยกกันอยู่ สมอง +ปัญญา มาตั้งแต่กำเนิดหรือ
ลำบาก = ได้รับความลำบาก เกิดภายหลัง
หน้าที่เกินวัย = ได้รับภาระหน้าที่ในครอบครัวเกินวัย
ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ = เด็กที่ไม่สามารถช่วยเหลือ
ตัวเองได้
การสงเคราะห์เด็ก
เด็กที่พึงได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพ
พนักงานเจ้าหน้าที่ตาม มาตรา 6
การเข้าตรวจค้น/การนำเด็กไปทำการ กักตัวไม่เกิน 12 ชั่วโมง/การสืบหาข้อมูล/สืบเสาะและพินิจ/
การประเมินสภาวะเด็กและครอบครัว/การดูแลรักษาพยาบาล (มาตรา 30,33 วรรค 2,35)
การช่วยเหลือ
และสงเคราะห์
ครองครัวบุญธรรม การมอบเด็กให้อยู่ในอุปการะ สภาพครอบครัวหรือสิ่งแวดล้อม
ของบุคคลที่เหมาะสม ไม่เหมาะสมและมีเหตุจำเป็น
การคืนเด็กให้ผู้ปกครอง (ม.36)
อาจวางข้อกำหนดป้องกันไม่ให้เด็ก การให้เด็กเข้ารับการสงเคราะห์ การใช้มาตรการคุ้มครองสวัสดิภาพ
ได้รับการเลี้ยงดูโดยไม่ชอบ
การเลี้ยงดูโดยมิชอบ ผู้ปกครองให้ความยินยอม ผู้ปกครองไม่ให้ความยินยอมหรือ
ไม่อาจให้ความยินยอมให้ (ม.33 ว.2)
ว่ากล่าวตักเตือน ทำทัณฑ์บน ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
และวางประกัน ในสาขาวิชาชีพสังคม ปลัดกระทรวง/ผู้ว่าราชการจังหวัด
ปลัดกระทรวง/ผู้ว่าราชการจังหวัด
สั่งให้เด็กเข้ารับสงเคราะห์และ ต้องฟังรายงานและความเห็นของผู้
กำหนดระยะเวลา (ม.33 ว.2,3) ปลัดกระทรวง/ผู้ว่าราชการจังหวัด
เชี่ยวชาญสาขาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์
และการแพทย์ (ม.30 ว.2)
สั่งให้เด็กเข้ารับการสงเคราะห์และ
กำหนดระยะเวลา (ม.33 ว.2,3)
ผู้ปกครองต้องแย้งคำสั่ง
ให้เข้ารับการสงเคราะห์/การกำหนด
สถานรับเลี้ยงเด็ก/ สถานแรกรับ สถานสงเคราะห์ สถานพัฒนาและฟื้ นฟู/
ครอบครัวอุปภัมภ์ สถานที่ทางศาสนา
แนวทางช่วยเหลือสงเคราะห์เด็ก (มาตรา 33)
ช่วยเหลือครอบครัวให้สามารถเลี้ยงดูเด็กได้มาตรฐานขั้นต่ำ
มอบเด็กให้ผู้เหมาะสมดูแลชั่วคราวไม่เกิน 1 เดือน
ดำเนินการให้เด็กได้เป็นบุตรบุญธรรม
ส่งเด็กเข้ารับการอุปการะในสถานรับเลี้ยงเด็กหรือครอบครัวอุปถัมภ์
ส่งเด็กเข้ารับการอุปการะในสถานแรกรับ
ส่งเด็กเข้ารับการอุปการะในสถานสงเคราะห์ , สถานพัฒนาและฟื้ นฟู
ส่งเด็กเข้ารับการศึกษากล่อมเกลาจิตใจทางศาสนา
หมวด 4
การคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก
การคุ้มครองสวัสดิภาพ หมายความว่า การป้องกันดูแล พัฒนาและ
ฟื้ นฟูเด็กและครอบครัวซึ่งอยู่ในสภาวะที่จะต้องได้รับการคุ้มครอง
สวัสดิภาพเพื่อ...
คุ้มครองให้เด็กปลอดภัย
คุ้มครองเด็กไม่ให้ตกอยู่ในสภาวะเสี่ยงต่อการกระทำความผิด หรือไม่สามารถปกครอง
ดูแลให้เด็กพ้นจากความเสี่ยงต่อการกระทำความผิด เพื่อให้เด็กพ้นจากความเสี่ยงต่อ
การกระทำผิด
เด็กที่ต้องได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพ (ม.40)
เด็กถูกทารุณกรรม
เด็กเสี่ยงต่อการกระทำความผิด
เด็กที่อยู่ในสภาพที่จำต้องได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพ
ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ได้แก่
เด็กที่ต้องหาว่ากระทำผิดอายุไม่เกิน 10 ปี
เด็กที่ถูกเลี้ยงดูโดยมิชอบ
เด็กที่พึ งคุ้มครอง ทารุณกรรม
3 ประเภท เสื่อมเสีย เสรีภาพ
เกิดอันตรายแก่ ร่างกาย + จิตใจ
คุ้มครอง = เด็กที่อยู่ในสภาพที่จำต้องได้รับ การกระทำผิดทางเพศ
การคุ้มครองสวัสดิการ (ตามกฎกระทรวง) ให้เด็กกระทำ+ประพฤติน่าจะเป็นอันตรายต่อร่างกาย
เสี่ยง = เด็กที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด จิตใจ ขัดต่อกฎหมาย/ศีลธรรม
ทารุณ = เด็กที่ถูกทารุณกรรม
ทั้งนี้ ไม่ว่าเด็กจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม
เด็กเสี่ยงกระทำผิด
ประพฤติไม่เหมาะสมกับเด็กคบค้ากับ
บุคคล "ชักนำไปกระทำผิด"
การคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก
เด็กที่พึงได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพ
เด็กทารุณกรรม เด็กที่จำต้องได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพ
พนักงานเจ้าหน้าที่ตาม มาตรา 6
ผู้มีหน้าที่คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กตาม มาตรา 24
การเข้าตรวจค้น/แยกตัวเด็ก/การตรวจรักษาทางร่างกายหรือจิตใจ (มาตรา 41)
กรณีผู้ปกครองหรือญาติ สืบเสาะและพินิจ การสงเคราะห์ มอบตัวเด็กให้ผู้
กระทำทารุณกรรมต่อเด็ก ระยะไม่เกิน 7 วัน ปกครองหรือบุคคล
สถานแรกรับ ที่ยินยอมรับตัวเด็ก
(มาตรา 42) (มาตรา 42)
อาจแต่งตั้งผู้คุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก
พนักงานเจ้าหน้าที่ สถานพัฒนาและฟื้ นฟู ตามมาตรา 48
(มาตรา 42) อาจวางข้อกำหนดป้องกันมีให้เด็ก
ถูกทารุณกรรม (มาตรา 47)
พนักงานเจ้าหน้าที่ คืนเด็กให้ปกครอง (ม.47)
ขอขยายระยะเวลาไม่เกิน 30 วัน (คืนเด็กกลับสู่ครอบครัว)
ผู้ปกครองโต้แย้งคำสั่งให้ส่งเด็กเข้ารับ
การคุ้มครองสวัสดิภาพต่อศาลเยาวชน
และครอบครัว (ม.46)
ปลัดกระทรวง / ผู้ว่าราชการจังหวัด
สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ/สถานพัฒนาและฟื้ นฟู/สถานสงเคราะห์/การมอบ
เด็กให้ผู้ปกครองหรือบุคคลที่ยินยอมรับตัวเด็ก โดยอาจแต่งตั้งผู้คุ้มครอง
สวัสดิภาพและการวางกำหนด (ม.46ม47,48)
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์และการแพทย์ (ม.30 ว.2)
สั่งให้เด็กเข้ารับการคุ้มครองสวัสดิภาพ (ม.46,47)
การคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก
เด็กที่พึงได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพ
เด็กที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด เด็กเสพสุรา บุหรี่ หรือเข้าไปสถานที่จำหน่ายหรือเสพสุรา บุหรี่
พนักงานเจ้าหน้าที่ตาม มาตรา 6 รายงานประวัติ พนักงานเจ้าหน้าที่
ผู้มีหน้าที่คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กตาม มาตรา 24 และความเห็น สอบถามเด็ก
สอบถามเด็กและหาข้อเท็จจริง (ม.44 ว.2) มีหนังสือเรียกผู้ปกครอง
มอบตัวเด็กให้ปกครองหรือบุคคลที่ยินยอมรับตัวเด็ก ว่ากล่าวตักเตือนเด็กและผู้ปกครอง
(ม.44 ว.2) เมื่อเด็กฝ่าฝืน
อาจแต่งตั้งผู้คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กตามมาตรา 48 พนักงานเจ้าหน้าที่เรียกผู้ปกครอง
(ม.44 ว.2) ประชุมปรึกษารือพร้อมเด็กเพื่อมี
ข้อตกลงร่วมกัน (ม.45 วรรคหนึ่ง)
ปลัดกระทรวง/ ปลัดกระทรวง/
ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด
สั่งให้ใช้วิธีการ มีคำสั่งให้เด็กเข้ารับการ
คุ้มครองสวัสดิภาพ สงเคระาห์ตามมาตรา 33
สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ สถานพัฒนาและ
(ม.44 ว.1) ฟื้ นฟู(ม.44 ว.1)
แนวทางในการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก
(มาตรา 41,42,44)
ตรวจค้นและแยกตัวเด็ก สืบเสาะพินิจ
ส่งเด็กไปสถานแรกรับ สถานพัฒนาและฟื้ นฟู
ไม่เกิน 7 วัน ขยายได้ 30 วัน
กำหนดวิธีคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กที่เหมาะสม
ส่งสถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก
หมวด 5
ผู้คุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก
ผู้มีหน้าที่คุ้มครองเด็ก บทบาทหน้าที่ของประชาชนทั่วไป
1. ประชาชนทั่วไป (มาตรา 22,29) ต้องปฏิบัติต่อเด็กโดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็ก
2. สหวิชาชีพ (มาตรา 29) และไม่เลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม (มาตรา 22)
3. ผู้ปกครอง (มาตรา 23,25 เมื่ อพบเห็นเด็กตกอยู่ในสภาพจำต้องได้รับการสงเคราะห์
4. พนักงานเจ้าหน้าที่สงเคราะห์และคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก หรือคุ้มครองสวัสดิภาพต้องให้การช่วยเหลือเบื้ องต้นและ
แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ (มาตรา 29)
(มาตรา28,30) ห้ามกระทำผิดต่อเด็กตามมาตรา 26 ไม่ว่าเด็กจะยินยอม
5.พนักงานเจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียน นักศึกษา หรือไม่
ห้ามโฆษณาเผยแพร่ทางสื่ อมวลชนหรือสื่ อสารสนเทศ
(มาตรา65,66,67) อื่ นซึ่งข้อมูลเกี่ยวแก่ตัวเด็กหรือผู้ปกครองทำให้เกิดความ
6. โรงเรียนและสถานศึกษา (มาตรา63) เสียหายแก่เด็ก (มาตรา 27)
7. ผู้มีหน้าที่คุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก (มาตรา 24,28,30)
8. สถานสงเคราะห์คุ้มครองสวัสดิภาพ
บทบาทหน้าที่ของสหวิชาชีพ (มาตรา 29)
แพทย์ พยาบาล นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
ที่รับตัวเด็กไว้รักษาพยาบาล
ครู อาจารย์ หรือนายจ้าง ซึ่งมีหน้าที่ดูแลเด็กที่เป็นศิษย์หรือลูกจ้าง
หากพบหรือสงสัยว่าเด็กถูกทารุณกรรมหรือเจ็บป่วยเนื่ องจากการเลี้ยงดู
โดยมิชอบต้องรายงานโดยไม่ชักช้าต่อเจ้าหน้าที่
แพทย์ พยาบาล นักจิตวิทยา ต้องรักษาทางด้านร่างกายและจิตใจ และฟื้ นฟู
สมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจ แก่เด็กที่จำต้องสงเคราะห์หรือคุ้มครอง
สวัสดิภาพ
บทบาทหน้าที่ของผู้ปกครอง (มาตรา 23,25,34)
ผู้ปกครองต้องให้การอุปการะเลี้ยงดู อบรมสั่งสอนและพัฒนาเด็กตามมาตรฐานขั้นต่ำ
ผู้ปกครองต้องคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กที่อยู่ในความปกครองมิให้ตกอยู่ในภาวะอันน่าจะ
เกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ
ผู้ปกครองต้องไม่ทอดทิ้งเด็กหรือละทิ้งเด็กไว้ ณ สถานที่ใด
ผู้ปกครองต้องไม่ละเลยให้สิ่งจำเป็นแก่การดำรงชีพหรือสุขภาพเด็ก
ผู้ปกครองต้องไม่ขัดขวางการเจริญเติบโตหรือพัฒนาการของเด็ก
ผู้ปกครองต้องไม่เลี้ยงดูเด็กโดยมิชอบ* ผู้ปกครองหรือญาติของเด็กอาจนำเด็กไปขอรับ
การสงเคราะห์ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ ถ้าไม่อาจอุปการะเลี้ยงดูได้
บทบาทหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่สงเคราะห์
และคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก (มาตรา 28,30)
1. พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการสงเคราะห์หรือคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กในกรณีดังต่อไปนี้
ผู้ปกครองตกอยู่ในสภาพไม่อาจให้การอุปการะเลี้ยงดู อบรมสั่งสอน และพัฒนาเด็กได้ไม่ว่าด้วยเหตุใด
ผู้ปกครองกระทำการใดอันน่าจะเกิดอันตรายต่อสวัสดิภาพ หรือขัดขวางต่อความเจริญเติบโตหรือพัฒนาการของเด็ก
ผู้ปกครองให้การเลี้ยงดูโดยมิชอบ
มีเหตุจำเป็นอื่ นใดเพื่ อประโยชน์ในการสงเคราะห์หรือคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กหรือป้องกันมิให้เด็กได้รับอันตรายหรือถูกเลือกปฏิบัติโดยมิชอบ
2. การสงเคราะห์หรือคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจ ดังนี้
เข้าไปในเคหสถานที่ใดๆ ยานพาหนะใดๆ ระหว่างเวลาพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตกเพื่อตรวจค้นเมื่อมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการทารุณกรรมเด็ก
มีการกักขังหรือเลี้ยงดูโดยมิชอบ(หลังพระอาทิตย์ตกเมื่ อมีเหตุผลพิเศษ)
ซักถามเด็กหรืออาจนำตัวเด็กไปยังที่ทำการของพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อทราบข้อมูลเกี่ยวกับเด็กและครอบครัวได้ ไม่เกิน 12 ชั่วโมง แล้วต้องส่ง
มอบตัวเด็กให้ผู้ปกครอง- มีหนังสือเรียกผู้ปกครอง นายจ้าง ผู้ครอบครองดูแลสถานที่ที่เด็กอาศัย หรือศึกษา หรือบุคคลอื่น มาให้ข้อเท็จจริง
เกี่ยวกับเด็ก
เข้าไปในสถานที่อยู่อาศัย สถานที่ประกอบการ สถานศึกษา หรือ สถานที่ที่เด็กเกี่ยวข้องด้วย ระหว่างเวลาพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก
เพื่ อสอบถามรวบรวมข้อมูลหลักฐานเกี่ยวกับเด็ก
มอบตัวเด็กให้แก่ผู้ปกครองพร้อมแนะนำตักเตือนผู้ปกครอง
ทำรายงานเกี่ยวกับตัวเด็ก และดำเนินการสงเคราะห์หรือคุ้มครองสวัสดิภาพ
พนักงานเจ้าหน้าที่
(ผู้มีหน้าที่คุ้มครองสวัสดิภาพ)
พบเห็นเด็กที่พึงได้รับการสงเคราะห์ พิจารณา ดังนี้
ให้ช่วยเหลือ / สงเคราะห์
มอบเด็กให้อยู่ในความอุปการะของบุคคลที่เหมาะสม (แต่ไม่เกิน 1 เดือน)
ดำเนินการเพื่ อให้เด็กได้เป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลอื่ น
ส่งเด็กเข้ารับการอุปการะ
ครอบครัวอุปถัมภ์
สถานรับเลี้ยงเด็ก
สถานแรกรับ
สถานสงเคราะห์
ส่งเด็กเข้าศึกษาต่อ / ฝึกอาชีพ / บำบัดฟื้ นฟู
วิธีการสงเคราะห์
กรณียินยอม
ผู้ปกครอง ด้วยวาจา
ทำเป็นหนังสือ ต่อหน้าพยานอย่างน้อย 2 คน
กรณีไม่ยินยอม
ปลัดกระทรวง พม. / ผู้ว่าราชการ
มีอำนาจส่งเด็ก 18 ปีบริบูรณ์ 20 ปีบริบูรณ์ 24 ปีบริบูรณ์
ส่งเด็ก
ผู้ปกครอง สถานพัฒนาฟื้ นฟู สถานที่อื่น
ให้กระทำได้ไม่เกิน 7 วัน (สืบเสาะ+พินิจ)
กรณีเหตุจำเป็น ให้พนักงาน/เจ้าหน้าที่ ยื่นคำร้อง "ศาล"
สมควรเพื่อประโยชน์ของเด็ก
เพื่อขยายเวลาไม่เกิด 30 วัน
กรณีเหตุจำเป็นเร่งด่วน ศาลมีอำนาจออกคำสั่งให้จับกุมผู้ที่ทำทารุณกรรมแก่เด็ก
(เพื่อคุ้มครองเด็กไม่ให้ถูกกระทำทารุณกรรม) กักขังครั้งละไม่เกิน 30 วัน
บทบาทหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤติ (มาตรา65,66,67)
ถ้านักเรียนนักศึกษาฝ่าฝืนระเบียบของโรงเรียนหรือสถานศึกษา พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจ ดังนี้
มอบตัวนักเรียน นักศึกษาให้ผู้บริหารโรงเรียนหรือสถานศึกษาไปเพื่ออบรมสั่งสอนและลงโทษ
สอบถามครู อาจารย์ หัวหน้าสถานศึกษาเกี่ยวกับตัวนักเรียน นักศึกษา
เรียกผู้ปกครองมาว่ากล่าวตักเตือนหรือทำทัณฑ์บนว่าจะดูแลไม่ให้นักเรียนนักศึกษาฝ่าฝืนระเบียบ
แนะนำผู้ปกครองเรื่องอบรมสั่งสอน
สอดส่องดูแลและรายงานความประพฤติของบุคคลหรือแหล่งที่ชักจูงนักเรียน นักศึกษาให้ประพฤติ
ไปในทางมิชอบ
ประสานงานกับผู้บริหารโรงเรียนสถานศึกษา ครู ผู้ปกครอง ตำรวจ พนักงานเจ้าหน้าที่อื่นเพื่อ
ส่งเสริมความประพฤตินักเรียน นักศึกษา
เข้าไปในเคหสถาน สถานที่หรือยานพาหนะใดๆ ในเวลาพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตกเพื่อตรวจ
สอบการฝ่าฝืนกฎหมายหรือระเบียบของโรงเรียน สถานศึกษาได้
บทบาทหน้าที่ของโรงเรียนและสถานศึกษา (มาตรา63,64)
ต้องจัดให้มีระบบงานและกิจกรรมแนะแนวให้คำปรึกษาและฝึกอบรมแก่ นักเรียน นักศึกษาและผู้ปกครอง
เพื่อส่งเสริมให้นักเรียน นักศึกษา
มีความประพฤติที่เหมาะสม
มีความรับผิดชอบต่อสังคม
มีความปลอดภัย
วางระเบียบให้นักเรียน นักศึกษาปฏิบัติตามกฎกระทรวง
บทบาทหน้าที่ของผู้มีหน้าที่คุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก บทบาทหน้าที่
(มาตรา24) ผู้มีหน้าที่คุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก
1. มีหน้าที่คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กที่อยู่ในเขตพื้ นที่รับผิดชอบ
ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 2. ดูแลและตรวจสอบสถานรับเลี้ยงเด็ก,สถานแรกรับ,สถาน
ผู้ว่าราชการจังหวัด , ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
นายอำเภอหรือปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้ากิ่งอำเภอ สงเคราะห์,สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ สถานพัฒนาและฟื้ นฟูสถานพินิจ
ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(นายก อบจ.,อบต.,เทศบาล.ฯ) ที่อยู่ในเขตอำนาจ
3. รายงานผลการตรวจสอบต่อคณะกรรมการคุ้มครองเด็กฯ
4. มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับพนักงานเจ้าหน้าที่
หมวด 6
สถานรับเลี้ยงเด็ก สถานแรกรับ สถานสงเคราะห์
สถานคุ้มครองสวัสดิภาพและสถานพัฒนาและฟื้ นฟู
สถานรับเลี้ยงเด็ก สถานแรกรับ
อายุ = ไม่เกิน 6 ปีบริบูรณ์ รับเด็กอุปการะ (ชั่วคราว)
จำนวน = ตั้งแต่ 6 คนขึ้นไป เพื่อสืบเสาะ / พินิจเด็กครอบครัว
เพื่ อกำหนดแนวทางในการสงเคราะห์คุ้มครอง
เด็กไม่เป็นญาติกับเจ้าของ สวัสดิภาพที่เหมาะสมแก่เด็กแต่ละราย
หวังผลกำไร
สถานสงเคราะห์
รับ 6 คน เลี้ยง 6 ปี
สถานที่ = อุปการะ + พัฒนาเด็ก
ที่จำเป็นต้องได้รับการสงเคราะห์
สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ
สถานที่ให้ เพื่อแก้ไขความพฤติ บำบัด รักษา
การศึกษา ฟื้ นฟู ด้านร่างกาย+จิตใจ แก่เด็ก
อบรม
ฝึกอาชีพ ที่พึงได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพ
สถานพัฒนาและฟื้ นฟู
สถานที่ให้ เพื่อบำบัด ฟื้ นฟู ด้านร่างกาย+จิตใจ ตลอดจน การศึกษา
โรงเรียน แนะแนว ฝึกอาชีพ แก่เด็กที่จำเป็นต้องได้รับการสงเคราะห์
สถาบัน หรือคุ้มครองสวัสดิภาพกรณีพิเศษ
ศูนย์
ผู้ว่าราชการ ปลัดกระทรวง พม.
มีอำนาจจัดตั้ง มีอำนาจจัดตั้ง
เขตจังหวัด สถานรับเลี้ยงเด็ก
สถานแรกรับ
สถานรับเลี้ยงเด็ก สถานสงเคราะห์
(แสวงหาผลกำไร) สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ
สถานแรกรับ สถานพัฒนาฟื้ นฟู
สถานสงเคราะห์
สถานคุ้มครองของสวัสดิภาพ จัดตั้ง ปลัด ผู้ว่า
สถานพัฒนาฟื้ นฟู ขอรับ กระทรวง ราชการ
ใบอนุญาต
พม.
ต่อ
หมวด 8
กองทุนคุ้มครองเด็ก
กองทุนคุ้มครองเด็ก เป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546
เพื่อเป็นทุนใช้จ่ายในการสงเคราะห์ คุ้มครองสวัสดิภาพและส่งเสริมความพฤติเด็ก รวมทั้ง
ครอบครัวและครอบครัวอุปถัมภ์ของเด็ก
สำนักงานปลัดกระทรวง พม. รัฐ = จัดสรร = งบประมาณ
จัดตั้ง
กองทุนคุ้มครองเด็ก คณะบริหาร "คณะกรรมการบริหารกองทุน"
ปลัดกระทรวง พม. "ประธาน"
วัตถุประสงค์ในการใช้จ่ายเงินกองทุน
เพื่ อเป็นทุนใช้จ่ายในการสงเคราะห์คุ้มครองสวัสดิภาพ
และส่งเสริมความประพฤติ
เพื่อให้แก่เด็ก ครอบครัว และครอบครัวอุปถัมภ์
การบริหารกองทุนคุ้มครองเด็ก
แหล่งที่มาของกองทุน การบริหารกองทุน
รัฐบาลจัดสรรงบประมาณทุนประเดิม บริหารโดยคณะกรรมการบริหารกองทุน
รัฐบาลจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี ควบคุมโดยคณะกรรมการติดตาม
ผู้บริจาค ประเมินผล และคณะกรรมการ
ดอกผลกองทุน เงินอุดหนุนจากองค์กรระหว่างประเทศ
เงินที่กองทุนได้รับตามกฎหมายคุ้มครองเด็กแห่งชาติ
หมวด 9
บทกำหนดโทษ
บทกำหนดโทษทางอาญา
มาตรา ๘๐ ผู้ใดขัดขวางไม่ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามมาตรา ๓๐ (๑) หรือ(๕) หรือไม่ยอมส่ง
เอกสารหรือส่งเอกสารโดยรู้อยู่ว่าเป็นเอกสารเท็จแก่พนักงานเจ้าหน้าที่เมื่อถูกเรียกให้ส่งตามมาตรา ๓๐ (๔)
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ๑ เดือน หรือปรับไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้ใดไม่ยอมมาให้
ถ้อยคำ ไม่ยอมให้ถ้อยคำโดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้ถ้อยคำอันเป็นเท็จต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติหน้าที่
ตามมาตรา ๓๐ (๓) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ๑ เดือน หรือปรับไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
แต่ถ้าผู้ให้ถ้อยคำกลับให้ข้อความจริงในขณะที่การให้ถ้อยคำยังไม่เสร็จสิ้น การดำเนินคดีอาญาต่อบุคคลนั้นให้
เป็นอันระงับไป
มาตรา ๕๐ ห้ามมิให้ผู้ปกครองสวัสดิภาพหรือผู้คุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก เปิดเผยชื่อตัว ชื่อสกุลภาพหรือข้อมูลใด ๆ
เกี่ยวกับตัวเด็ก ผู้ปกครองในลักษณะที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ชื่อเสียง เกียรติคุณหรือสิทธิประโยชน์อย่างใด
อย่างหนึ่งของเด็กหรือผู้ปกครอง
บทบัญญัติในวรรคหนึ่งให้ใช้บังคับแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ นักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยาและผู้มีหน้าที่คุ้มครอง
สวัสดิภาพเด็กตามมาตรา ๒๔ ซึ่งได้ล่วงรู้ข้อมูลดังกล่าวเนื่องในการปฏิบัติหน้าที่ของตนด้วย โดยอนุโลม
ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาหรือเผยแพร่ทางสื่ อมวลชนหรือสื่ อสารสนเทศประเภทใดซึ่งข้อมูลที่เปิดเผยโดยฝ่าฝืน
บทบัญญัติในวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง
มาตรา ๗๙ ผู้ใดฝ่าฝืน มาตรา ๕๐ หรือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้ง
จำทั้งปรับ