The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เจลายลูกชายเเม่

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by jechomchanok, 2022-10-26 22:08:24

เจลายลูกชายเเม่

เจลายลูกชายเเม่

ความรูเ้ ก่ียวกบั คอมพิวเตอร์

1.ความความคอมพิวเตอร์ นักวชิ าการหลายทา่ นไดก้ าหนดหรือนยิ ามความหมายของคอมพวิ เตอรไ์ วห้ ลาย

ความหมาย แตเ่ ม่ือพิจารณาโดยภาพรวมแลว้ ความหมายของคอมพิวเตอรจ์ ะหมายถึง อปุ กรณอ์ ิเลก็ ทรอนิกสอ์ ยา่ งหนึง่ ท่ีสามารถรบั โปรแกรมและขอ้ มูล ประมวลผล
ส่อื สารเคลอ่ื นยา้ ยขอ้ มลู และแสดงผลลพั ธไ์ ด้

คอมพวิ เตอรเ์ ป็นอปุ กรณอ์ เิ ลก็ ทรอนิกส์ ซ่งึ จะตอ้ งมสี ่วนประกอบพนื้ ฐาน 4 อยา่ งดงั ต่อไปนี้

- มวี งจรนาเขา้ (input) และวงจรสง่ ออก (output)

- มหี น่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit : CPU) ทีใ่ ชใ้ นการคานวณทางคณติ ศาสตรแ์ ละการดาเนินการทางตรรกะ

- มีหนว่ ยความจาท่ใี ชใ้ นการเก็บโปรแกรมและขอ้ มลู

- มีความสามารถในการประมวลผลชดุ คาส่งั

ส่งิ ใดก็ตามทมี่ ีสว่ นประกอบพืน้ ฐานดงั ต่อไปนคี้ รบถว้ น ก็ถอื ว่าเป็นคอมพิวเตอรท์ ง้ั สนิ้ ไม่จาเป็นทจ่ี ะตอ้ งอยูใ่ นรูปลกั ษณ์ที่เราคุน้ เคยและจดจาว่าน่นั คอื คอมพวิ เตอร์

2.วงจรการทางานของคอมพิวเตอร/์ หลกั การทางานของคอมพิวเตอร์

การทางานของคอมพิวเตอรจ์ ะเรมิ่ จากผใู้ ชป้ ้อนขอ้ มลู ผา่ นทางอปุ กรณข์ องหน่วยรบั เขา้ (Input device) เช่น คยี บ์ อรด์ เมาส์ ขอ้ มูลจะถูกเปลย่ี นใหเ้ ป็นสญั ญาณ
ดิจิทลั ประกอบดว้ ยเลข 0 และ 1 แลว้ ส่งตอ่ ไปยงั หน่วยประมวลผลกลาง เพอื่ ประมวลผลตามคาส่งั ในระหว่างการประมวลผลขอ้ มูลจะถกู เก็บไว้

ท่ี (Random Access Memory: RAM) ทาหน้าที่เกบ็ ขอ้ มลู จากการประมวลผลเป็นการช่ัวคราว ขณะเดียวกัน อาจมคี าส่งั ใหน้ าผลลพั ธจ์ ากการ
ประมวลผลดงั กลา่ วไปแสดงผลผา่ นทางอุปกรณผ์ า่ นทางอปุ กรณข์ องหน่วยส่งออก เชน่ จอภาพ หรือ เครอื่ งพมิ พ์ นอกจากนเี้ ราสามารถบนั ทึกขอ้ มูลทีอ่ ย่ใู นอนาคต โดย

การอ่านขอ้ มลู ทบ่ี นั ทกึ ในส่ือดงั กลา่ วผา่ นทางเครื่องขบั หรอื ไดรฟ์ (drive) การส่งผา่ นขอ้ มลู ไปยงั หนว่ ยต่างๆ

3.คณุ สมบตั ิของคอมพวิ เตอร์

1. ความเร็ว (Speed)
2. หน่วยความจา (Memory)
3. ทางานดว้ ยระบบอิเล็กทรอนิกต์ (Electronic & Automatic)
4. การเกบ็ รักษาขอ้ มลู หรือ โปรแกรม (Retention)
5. ความถกู ตอ้ งและความเชอื่ ถอื ได้ (Accuracy & Reliability)

4.ประเภทและสว่ นประกอบของคอมพวิ เตอร์

ดว้ ยความกา้ วหนา้ ของเทคโนโลยีและเป็นยุคสารสนเทศ ไมว่ ่าเราจะทาอะไรกส็ ะดวกสบายไปเสียหมด จะตดิ ตามข่าวสารตา่ งๆ กส็ ะดวกสบายขนึ้ การติดต่อสือ่ สารก็งา่ ย
ขนึ้ ดว้ ยเทคโนโลยที ่ีทนั สมยั ทาให้ทุกอยา่ งนัน้ สะดวกขนึ้ เป็นอยา่ งมาก แมก้ ระท่งั การทางานของเราก็ สะดวกขนึ้ เพราะปัจจุบนั นี้ ในการทางานก็มีเทคโนโลยีเขา้ มา
เกี่ยวขอ้ ง

1. โปรเซสเซอร์ (Processor) น่นั กค็ อื หน่วยประผลกลางหรือท่รี ูจ้ ักกันในนามของซพี ยี ู (CPU) น่นั เอง หรือเรยี กวา่ ซิป ซง่ึ ส่วนนมี้ ีความสาคญั มากท่ีสุดของฮารด์ แวร์
เพราะว่ามหี นา้ ทใ่ี นการประมวลผลขอ้ มลู ทผี่ ใู้ ชป้ อ้ นเขา้ มา ซึง่ ซีพียนู นั้ มีรุ่นตา่ งๆ ออกมาวางขายตามทอ้ งตลาดมากมาย ซ่งึ แต่ละรุ่นก็ราคาแตกต่างกันออกไป

2. หน่วยความจา (Memory) หรอื RAM น่นั เอง ซ่งึ RAM นนั้ เป็นหนว่ ยความจาหลกั ทีจ่ าเป็นในการเกบ็ ขอ้ มลู ต่างๆ หรอื เรยี กอกี อย่างหนึ่งวา่ หน่วยความจา
สารองน่นั เอง ก็คือจะเกบ็ ขอ้ มูลช่วั คราว ซง่ึ หน่วยความจาแรมจะทาหนา้ ทีเ่ ก็บชดุ คาส่งั และขอ้ มลู ที่ระบบคอมพิวเตอรก์ าลงั ทางานอยูด่ ว้ ย

3. สว่ นอนิ พตุ /เอาตพ์ ุต (Input/Output) ก็คืออุปกรณท์ ่ีทาใหค้ อมพวิ เตอรส์ ามารถสมั ผัสและรบั รูส้ งิ่ ต่าง ๆ เช่น เครอ่ื งอ่านบตั ร คียบ์ อรด์ เมาส์ สแกนเนอร์ และ
อุปกรณ์ Output ก็ไดแ้ ก่พวก เครอื่ งพิมพ์ จอภาพ

4. สื่อจดั เกบ็ ขอ้ มูล (Storage) น่นั กค็ อื สอื่ ทใี่ ชใ้ นการจดั เก็บขอ้ มูล เช่น ฮารด์ ดิสก์ ท่ใี ชใ้ นการเก็บขอ้ มลู อุปกรณค์ อมพิวเตอร์

5.การเลือกชอื้ คอมพวิ เตอร์

การเลือกซ้ือคอมพวิ เตอร์มขี อ้ ควรพจิ ารณา เพ่อื ให้ไดค้ ุณสมบตั ิทีต่ รงกบั ความตอ้ งการของผซู้ ้อื และไดเ้ คร่ืองคอมพวิ เตอร์ทเ่ี หมาะสมกบั ลกั ษณะงานท่ีใช้ มีขอ้ ควรพิจารณา
ดงั น้ี

1. ลกั ษณะงานทีใ่ ช้ ในการเลือกซ้ือคอมพวิ เตอร์มีลกั ษณะงานทีค่ วรพจิ ารณาประกอบในการเลือกซ้ือ เชน่ นาไปใชก้ บั งานมลั ตมิ ีเดีย ใช้เลน่ เกม หรืองานท่ีมลี กั ษณะของ
กราฟิกสูงควรเลือกซ้ือคอมพวิ เตอร์แบบต้งั โตะ๊ แต่ถา้ ลกั ษณะงานมีการเคลอ่ื นท่หี รือเคลอ่ื นยา้ ยบ่อยให้พจิ ารณาคอมพิวเตอร์แบบพกพา

2. ซีพยี ู (CPU) หรือ โปรเซสเซอร์ (Processor) เป็นอุปกรณ์ชิ้นหลกั เปรียบเสมอื นเป็นสมองของคอมพิวเตอร์ ความเร็วของซีพยี มู ีหน่วยเป็นเฮิรตซ์ (Hz) ถา้
หากมีค่าสญั ญาณนาฬกิ ามากเทา่ ไหร่กท็ างานไดร้ วดเร็วข้นึ เชน่ AMD FX-6300 2.4GHz

3. เมนบอร์ด (Main Board) เมนบอร์ดเป็นอปุ กรณ์คอมพิวเตอร์ทมี่ คี วามสาคญั เพราะเป็นแผงวงจรท่ีเช่อื มต่ออุปกรณ์คอมพวิ เตอร์ภายในเขา้ ดว้ ยกนั ตอ้ งเลือกให้
สามารถรองรับกบั CPU ทีไ่ ดจ้ ดั เตรียมไว้ ซ็อกเก็ตมีตาแหน่งทีต่ ิดต้งั ซีพยี ู ซ่ึงตอ้ งตรวจสอบซอ็ กเก็ตตรงกบั CPU หรือไม่ นอกจากน้ีให้พจิ ารณาซิปเซ็ตที่รองรบั

เทคโนโลยตี ่างๆ รวมถงึ รองรับอปุ กรณต์ า่ งๆดว้ ย

4. แรม (RAM) สิ่งท่คี วรพจิ ารณาคอื ชนิดของแรมและความเร็ว DDR3 ทมี่ คี วามเร็วสูงกว่า DDR2 เครื่องคอมพิวเตอร์ควรใชแ้ รมไม่ควรต่ากวา่ 2 GB ส่วน
เรื่องจานวน Slot ความเร็ว RAM ใหพ้ จิ ารณาร่วมกบั ขอ้ จากดั ของ Main Board

5. ฮาร์ดดสิ ก์ (Hard disk) การเลอื ก Hard disk ให้พิจารณาความจุ ความเร็วรอบไม่นอ้ ยกวา่ 7,200 รอบตอ่ วินาที การเช่ือมต่อปัจจบุ นั จะเป็นแบบ
SATA II และการเลือกซ้ือควรพิจารณาระยะเวลาการรบั ประกนั ประกอบ

6. การ์ดจอ (Display Adapter) หรือ กราฟิกการ์ด (Graphic Card) ให้พจิ ารณาการใชง้ านถา้ งานมลี กั ษณะกราฟิกสูง เช่น 3D งานกราฟิก เกม
ตรวจสอบการเช่ือมตอ่ (Slot) ทร่ี องรบั การเชอ่ื มต่อกบั Main board ปกตเิ คร่ืองคอมพวิ เตอร์จะมีการ์ดจอท่มี มี ากบั เมนบอร์ดอยแู่ ลว้

7. DVD Drive คุณสมบตั ใิ นปัจจุบนั ไมแ่ ตกต่างกนั มากนัก ควรเลอื กที่มีความเร็วในการเขยี นขอ้ มลู สูง เช่น 52X

8. การเลือกซ้ือจอคอมพวิ เตอร์ ให้พิจารณาความละเอยี ด จอคอมพิวเตอร์จะมขี นาดเป็นนิว้ ทาการวดั ในแนวเสน้ ทแยงมุม ความละเอียด (Resolution) ตวั อยา่ ง เช่น
HD 1920 x 1080 สดั ส่วนหน้าจอ (Aspect Ratio) ส่วนใหญจ่ ะมขี นาด 16:9 และพอร์ต (Ports) ในการเชอื่ มต่อ พอร์ตพื้นฐานทีม่ ีคือ VGA /

DVI / D-Sub และลา่ สุดของพอร์ตก็คอื HDMI ซ่ึงมคี วามคมชดั สูงมาก

9. การรับประกนั จากบริษัทผแู้ ทนจาหน่ายใหพ้ จิ ารณาระยะเวลาและเงื่อนไขการรบั ประกนั เป็นสาคญั

6.คอมพิวเตอรย์ คุ ใหม่และการประยกุ ตใ์ ชง้ าน

คอมพิวเตอรย์ ุคใหม่ การใชค้ อมพิวเตอรใ์ นปัจจุบนั มแี นวโนม้ ทีส่ ูงขนึ้ เร่อื ย ๆ

และนามาใชก้ บั งานทซี่ บั ซอ้ นมากย่ิงขนึ้ จากท่แี ตเ่ ดมิ บางหน่วยงานเอาคอมพวิ เตอรเ์ พอื่ มาชว่ ยสาหรบั งาน

ประมวลผลเลก็ ๆ เทา่ นนั้ เช่น งานการจดั พมิ พเ์ อกสารหรืองานสานกั งาน ซง่ึ ยงั ไม่คอ่ ยสนับสนุนในเรอ่ื งของ

การเช่อื มโยงกนั เป็นเครอื ขา่ ยมากนกั แต่ปัจจบุ นั ไดพ้ ฒั นาให้สามารถเชือ่ มโยงกันไดอ้ ยา่ งท่วั ถึง

เครื่องคอมพิวเตอรแ์ ต่ละเคร่ืองจึงสามารถโอนถา่ ยขอ้ มลู ถงึ กนั ไดอ้ ยา่ งรวดเร็วภายใตร้ ะบบสอ่ื สารทีด่ ีขนึ้

โดยเฉพาะบทบาทของเทคโนโลยีทางดา้ นอนิ เทอรเ์ น็ตท่ไี ดร้ บั ความนยิ มอย่างแพร่หลายในปัจจุบันท่ีทาให้

การติดตอ่ ส่ือสารระหวา่ งเคร่ืองคอมพวิ เตอรท์ ่ีอยู่ตา่ งทีก่ นั สามารถทาไดอ้ ยา่ งง่ายดาย

คอมพิวเตอรใ์ นปัจจุบนั มีรูปลกั ษณน์ า่ ใชข้ ึน้ กว่าแตก่ อ่ นการออกแบบตวั เคร่อื งคอมพวิ เตอรร์ ุน่ ใหม่ ๆ

กไ็ ดม้ ีการปรบั ปรุงขนาดใหเ้ ล็กลงและมรี ูปลกั ษณท์ ีแ่ ปลกตามากยง่ิ ขนึ้ บางเครอ่ื งมีการออกแบบท่ีเนน้ ใหร้ ูป

ลกั ษณภ์ ายนอกสามารถเป็นเคร่อื งประดบั หรอื เฟอรน์ เิ จอรข์ องหอ้ งทางานได้อกี ดว้ ย นอกจากนนั้ ยงั รองรบั

การเชื่อมต่อของอปุ กรณส์ มยั ใหม่ เช่น กลอ้ งดจิ ติ อล โทรศพั ทม์ ือถือ รวมถึงส่ือเก็บบนั ทึกขอ้ มลู แบบพกพา

ที่สามารถตอบสนองต่อความตอ้ งการของผใู้ ชง้ านไวอ้ ย่างพรอ้ มสรรพ รูปลกั ษณข์ องไมโครคอมพวิ เตอรท์ ่วั ๆ ไป

รวมถึงคอมพิวเตอรม์ ือถอื ทเ่ี ราอาจพบเห็นหรือหามาใชง้ านได้ พอจาแนกออกไดเ้ ป็นหลายกลมุ่

ดงั นี้

7.ระบบโทรคมนาคม

โทรคมนาคม (องั กฤษ: telecommunication) หมายถึงการส่ือสารระยะไกล โดยใชเ้ ทคโนโลยตี ่าง ๆ โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงผ่านทางสญั ญาณไฟฟา้ หรือ
คลืน่ แมเ่ หล็กไฟฟา้ เนื่องจากเทคโนโลยีที่แตกต่างกนั จานวนมากที่เกีย่ วขอ้ งกบั คาน้ี จงึ มกั ใชใ้ นรูปพหูพจน์ เชน่ Telecommunications

เทคโนโลยีการสื่อสารโทรคมนาคมในช่วงตน้ ประกอบดว้ ยสัญญาณภาพ เช่น ไฟสญั ญาณ, สญั ญาณควนั , โทรเลข, สัญญาณธง และเครื่องส่งสัญญาณดว้ ย
กระจกสะทอ้ นแสงจากดวงอาทิตย[์ 4] ตวั อย่างอ่นื ๆ ของการส่ือสารโทรคมนาคมก่อนช่วงที่ทนั สมยั ไดแ่ กข่ อ้ ความเสียงเช่นกลอง, แตรและนกหวีด เทคโนโลยกี ารสื่อสาร

โทรคมนาคมดว้ ยไฟฟ้าและแมเ่ หล็กไฟฟา้ ไดแ้ ก่โทรเลข, โทรศพั ทแ์ ละ โทรพมิ พ,์ เครือข่าย, วทิ ย,ุ เคร่ืองส่งไมโครเวฟ, ใยแกว้ นาแสง, ดาวเทียมสื่อสารและ
อนิ เทอร์เน็ต

การปฏิวตั ิ ในการสื่อสารโทรคมนาคมไรส้ ายเร่ิมตน้ ข้ึนในปี 190X กบั การเป็นผบู้ ุกเบกิ พฒั นาใน การสื่อสารทางวิทยโุ ดย Guglielmo มาร์โคนี ท่ีไดร้ บั
รางวลั โนเบลในสาขาฟิสิกส์ในปี ค.ศ. 1909 สาหรบั ความพยายามของเขา นกั ประดษิ ฐผ์ บู้ กุ เบิกและนักพฒั นาอนื่ ๆ ที่น่าท่งึ มาก ๆ ในดา้ นการ สื่อสารโทรคมนาคมไฟฟา้
และอเิ ล็กทรอนิกสร์ วมถงึ ชาร์ลส์ วที สโตน และ ซามเู อล มอร์ส (โทรเลข), Alexander Graham Bell (โทรศพั ท์), เอ็ดวิน อาร์มสตรอง และลี เดอ ฟอเรสท์

(วทิ ยุ) เช่นเดียวกบั ท่ี จอห์น โลจี แบร์ด และ Philo Farnsworth (โทรทัศน์)

กาลงั การผลิตที่มีประสิทธิภาพของโลกในการแลกเปลย่ี นขอ้ มูลผา่ นทางเครือขา่ ยการส่ือสารโทรคมนาคมสองทางเพ่ิมข้ึนจาก 281 เพตาไบต์ของขอ้ มลู (ทีถ่ ูก
บีบอดั อย่างดีทส่ี ุด) ในปี ค.ศ. 1986 เป็น 471 petabytes ในปี ค.ศ. 1993 และ 2.2 (บบี อดั อย่างดที สี่ ุด ) เอก็ ซาไบต์ ในปี ค.ศ. 2000 และ 65 (บีบอดั
อยา่ งดที สี่ ุด) exabytes ในปี ค.ศ. 2007[5] น่ีคอื เทยี บเทา่ ขอ้ มลู ของสองหนา้ หนังสือพมิ พต์ ่อคนตอ่ วนั ในปี 1986 และ หกเตม็ หน้าหนังสือพิมพต์ อ่ คนต่อวนั ใน
ปี 2007[6] ดว้ ยการเจริญเติบโตขนาดน้ี, การสื่อสารโทรคมนาคมมีบทบาทสาคญั มากข้นึ ในเศรษฐกิจโลกและอุตสาหกรรมโทรคมนาคมทว่ั โลกประมาณ$ 4.7 ลา้ น

ลา้ นภาคเศรษฐกิจในปี 2012[7][8] รายไดจ้ ากการให้บริการของอตุ สาหกรรมโทรคมนาคมทวั่ โลกถูกประเมินไวท้ ่ี $1.5 ลา้ นลา้ นในปี 2010 สอดคลอ้ งกบั
2.4% ของผลิตภณั ฑ์มวลรวมของโลก (GDP)[9]


Click to View FlipBook Version