The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ภาษาถิ่นเหนือจังหวัดอุตรดิตถ์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Pream Suthidaporn Sumthum, 2022-07-07 01:25:37

โครงงานภาษาถิ่น

ภาษาถิ่นเหนือจังหวัดอุตรดิตถ์

ภาษาถิ่น
จังหวัดอุตรดิตถ์



ภาษาถิ่นภาคเหนือจังหวัดอุตรดิตถ์












จัดทำโดย


นายชินดนัย สารหล้า เลขที่3
นายพีรพัฒน์ จันทร์คำ เลขที่5
นายธนกฤต จันทร์รุ่งเรือง เลขที่ 8
นางสาวพัชราภา ลีปัสสา เลขที่16
นางสาวมณีรัตน์ คล่องฝีมือ เลขที่19
นางสาวสุรดา แก้วดี เลขที่22
นางสาวหทัยรัตน์ แดงด้วง เลขที่23
นางสาวอนัญญา ผายคำ เลขที่ 24
นางสาวนันธินาถ คำเด่นเหล็ก เลขที่27
นางสาวสุธิดาพร สุมทุม เลขที่31
นางสาวหยาดทิพย์ เชื้อจันทึก เลขที่33




เสนอ


รายงานนี้เป็ นส่วนหนึ่ งของรายวิชาท33101


ครูที่ปรึกษา นางดอกรัก รักษา


ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา2565












โรงเรียนน้ำปาดชนูปถัมภ์
อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์
สำนักงานพิษณุโลกอุตรดิตถ์เขต2

กิตติกรรมประกาศ



คณะผู้จัดทำขอขอบพระคุณท่านผู้อำนวยการนางรสสุคนธ์ กอและ ที่ให้กำลังใจและเปิดโอกาสให้เข้าร่วมการจัดทำ
โครงงานรวมถึงสนับสนุนการจัดทำโครงงาน ขอขอบพระคุณคุณครูปกรณ์ คำกอง และคุณครูในกลุ่มสาระ ภาษา
ไทยที่ให้คำปรึกษา ให้แนวทางในการทำโครงงาน ขอขอบพระคุณคุณครูแปะอะ มะ คุณคุณกัลยาณี กันโน คุณบัว
เงิน แสนชมพู คุณอรวรรณ สำแดงริด คุณเพ็ญศรี เจียอาทิตย์ คุณสุวลักษณ์ คงมี คุณดาวรัตน์ อินทร์แก้ว และคุณ
สีตีอามีเนาะ สะนิกอเด็งที่ได้ให้ข้อมูลภาษาถิ่น รวมถึงเวลาในการสัมภาษณ์ และ สุดท้ายขอขอบพระคุณคุณพ่อ
คุณแม่ ที่ช่วยให้กำลังใจจนโครงงานชิ้นนี้สำเร็จลุล่วงด้วยดี



บทที่2
เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาค้นคว้า

ภาษาถิ่น คือ ภาษาย่อยที่ใช้พูดจากันในท้องถิ่นต่าง ๆ ซึ่งเกิดจากการใช้ภาษาเพื่อการสื่อความหมาย
ความเข้าใจกันระหว่างผู้คนที่อาศัยอยู่ตามท้องถิ่นนั้น ๆ ซึ่งอาจจะแตกต่างไปจากมาตรฐาน หรือภาษาที่คนส่วน
ใหญ่ของแต่ละประเทศใช้กัน และอาจจะแตกต่างจากภาษาในท้องถิ่นอื่นทั้งทางด้านเสียง คำและ การใช้คำ ภาษา
ถิ่น เป็นภาษาที่มีลักษณะเฉพาะ ทั้งถ้อยคำและสำเนียง ภาษาถิ่นจะแสดงถึงเอกลักษณ์ ลักษณะความเป็นอยู่ และ
วิถีชีวิตของผู้คน ในท้องถิ่นของแต่ละภาค ของประเทศไทย บางทีเรียกว่า ภาษาท้องถิ่น และหากพื้นที่ของผู้ใช้
ภาษานั้นกว้างก็จะมีภาษาถิ่นหลากหลาย และมีภาถิ่นย่อย ๆ ลงไปอีก เช่นภาษาถิ่นใต้ ก็มีภาษาสงฃลา ภาษา
นคร ภาษาตากใบ ภาษาสุราษฎร์ เป็นต้น

ภาษากลาง คือ ภาษาถิ่นที่ใช้สื่อสารอยู่ในจังหวัดของภาคกลาง เช่น เพชรบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี
ราชบุรี นครปฐม อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา เป็นต้น ภาษาถิ่นที่ใช้สื่อสารอยู่ในจังหวัดเหล่านี้ มีสำเนียงพูดที่
แตกต่างกันออกไป จะมีลักษณะเพี้ยนเสียงไปจากภาษากลางที่เป็นภาษามาตรฐานภาษาถิ่นใต้ คือ ภาษาถิ่นที่ใช้
สื่อสารอยู่ในจังหวัดต่าง ๆ ของภาคใต้ของประเทศไทย ลงไปถึงชายแดนประเทศมาเลเซีย รวม 14 จังหวัด เช่น
ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต พัทลุง สงขลา นครศรีธรรมราช เป็นต้น และบางส่วนของจังหวัด
ประจวบคีรีขันธ์ ภาษาถิ่นใต้ ยังมีภาษาถิ่นย่อยลงไปอีก เป็น

ภาษาถิ่นใต้ ภาคตะวันออก เช่น ภาษาถิ่นที่ใช้ใน จังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี
ตรัง สตูล ภาษาถิ่นใต้ตะวันตก เช่น ภาษาถิ่นที่ใช้ในจังหวัดกระบี่ พังงา ระนอง สุราษฎร์ธานีและชุมพร และภาษา
ถิ่นใต้สำเนียงเจ๊ะเห เช่น ภาษาถิ่นที่ใช้ในจังหวัดนราธิวาส และ ปัตตานี ในแต่ละภาคก็จะมีภาษาถิ่นใต้ เป็นภาษา
ถิ่นย่อยลงไปอีก เช่น ภาษาถิ่นระนอง ภาษาถิ่นภูเก็ต ภาษาถิ่นพัทลุง ภาษาถิ่นสงขลา เป็นต้น ภาษาถิ่นย่อยเหล่า
นี้อาจจะมีเสียง และคำที่เรียกสิ่งเดียวกันแตกต่างกันออกไป

อีสาน คือ ภาษาถิ่นอีสานของประเทศไทยมีลักษณะใกล้เคียงกับภาษาที่พูดที่ใช้กันในประเทศลาว แต่
ภาษาอีสานก็ยังถือว่าเป็นภาษาถิ่นของภาษาไทย ภาษาถิ่นอีสานมีภาษาถิ่นย่อยหลายภาษา ได้แก่ ภาษาที่ชนกลุ่ม
ใหญ่ในภาคอีสานใช้พูดจากัน ซึ่งใช้สื่อสารอยู่ในจังหวัดต่าง ๆ ของภาคอีสาน หรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น
สกลนคร หนองคาย นครพนม ขอนแก่น อุดรธานี อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด เลย ชัยภูมิ มหาสารคาม กาฬสินธุ์
เป็ นต้น
หรือภาษาถิ่นพายัพ (คำเมือง) คือ ภาษาถิ่นที่ใช้สื่อสารอยู่ในบางจังหวัดของภาคเหนือตอนบน หรือภาษาใน
อาณาจักรล้านนาเดิม มักจะพูดกันมากในจังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา ลำปาง น่าน ลำพูน ตาก
แพร่ เป็นต้น

ภาษามลายู คือ ภาษาถิ่นที่ใช้สื่อสารอยู่ในจังหวัดทาง ภาคใต้ตอนล่างบริเวณติดต่อกับประเทศ
มาเลเซีย มีลักษณะของ

ภาษาภาษาชวา-มลายู เป็นภาษาที่จัดอยู่ใน ตระกูลมาลาโยโพเนเซียน หรือ ออสโตรเนเซียน มีลักษณะเป็นภาษา
คำติดต่อ แต่การติดต่อคำมีลักษณะที่ไม่ซับซ้อนมากนัก

บทที่ 3



วิธีดำเนิ นงานศึกษาค้นคว้า



การศึกษาเรื่อง ภาษาถิ่นเหนือ
มีวัตถุประสงค์เพื่อ ต้องการให้ศึกษาภาษาเหนือที่มีความเก่าแก่ ลักษณะต่าง ๆของภาษาเหนือคำบาง
คำที่ไม่ค่อยนิยมใช้ในปัจจุบันเพราะปัจจุบันนี้มีอีกหลายคำที่ไม่ได้ใช้ และต้องการอนุรักษ์ภาษาเหนือไว้
ให้แก่ลูกหลาน
3.1 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
ประชากร นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่6/3โรงเรียนนำ้ปาดชนูปถัมภ์ จังหวังอุตรดิตถ์จำนวน 10 คน
กลุ่มตัวอย่าง นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่6/3 และชาวบ้าน
3.2 วิธีดำเนินการศึกษาค้นคว้า
การศึกษาค้นคว้าเป็นประเภทสำรวจ มีขั้นตอนการศึกษาค้นคว้า ดังนี้
1. ศึกษาผ่านเอกสาร เว็บไซต์ การสัมภาษณ์ ที่เกี่ยวข้องกับภาษาถิ่นเหนือ
2. สร้างแบบสอบถาม เรื่องภาษาถิ่นเหนือจำนวน 15 ข้อ เพื่อให้กลุ่มตัวอย่างตอบแบบสอบถาม
3. ปรึกษาโครงงานกับคุณครู ตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ
3.3 ข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า
1.เว็บไซต์ต่าง ๆ เกี่ยวกับภาษาเหนือ
2.เอกสาร
3.บทสัมภาษณ์
3.4 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า
1. เว็บไซต์ , เอกสาร , บทสัมภาษณ์ , คอมพิวเตอร์ , โทรศัพท์มือถือ , แอปพลิเคชัน canva, Google form
2. การสร้างแบบสอบถาม,การนำเสนอข้อมูลผ่านทาง Electronic Book (E-Book) หมายถึง
หนังสือที่สร้างขึ้นด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์มีลักษณะเป็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ โดยปกติมักจะเป็น
แฟ้ มข้อมูลที่สามารถอ่านเอกสารผ่านทางหน้ าจอคอมพิวเตอร์ ทั้งในระบบออฟไลน์ และออนไลน์
3.5 การเก็บรวบรวมข้อมูล
รวบรวมเอกสาร ข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้จากการศึกษาดังกล่าวไว้ใน โปรแกรม Microsoft Word
และทำชิ้นงาน E-Book โดยผ่าน แอปพลิเคชัน canva และโปรแกรม anyflip
3.6 การวิเคราะห์ข้อมูล

นำข้อมูลที่รวบรวมมาจากกลุ่มตัวอย่างทำการวิเคราะห์โดยวิธีโดยผู้จัดทำนำแบบสอบถามที่
ได้จากการตอบกลับมา และสำรวจข้อมูลเรียบร้อยแล้ว มาตรวจให้คะแนนแต่ละข้อตามเกณฑ์ที่
กำหนดไว้และจัดระบบเพื่อนำไปวิเคราะห์ทางสถิติด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์

บทที่4



ผลการศึกษาค้นคว้า

หมวดผลไม้

พุทรา-หมากทัน มะเขือเทศ-มะเขือส้ม
สัปปะรด-บะขะนั ด ขนุน-บักมี้

มะละกอ-บักหุ่ง ฝรั่ง-บักสีดา

ละมุด-บักละมุด น้ อยหน่ า-บักเขียบ

สัมภาษณ์ นางสาวเพ็ญนภา โนนด้วง
บ้านเลขที่1/3 บ้านนากวาง อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์

หมวดสัตว์

ช้าง-ซ่าง นกแก้ว-นกแก้ว

จิ้งหรีด-จี่หนาย เสือ-เสีย
กิ้งก่า-กะปอม แมลงหวี่-แมงมี่

วัว-งัว ไส้เดือน-ขี้กะเดียน

สัมภาษณ์นางาวธนพร สุมทุม
บ้านเลขที่37 ตำบลบ้านฝาย อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์

บทที่ 5



สรุปผลการศึกษาค้นคว้า



1.จากการที่ได้ศึกษาเกี่ยวกับภาษาเหนืออุตรดิตถ์ พบว่าจังหวัดอุตรดิตถ์มีหลากหลายภาษาที่ปะปนกันไป เช่น ภาษา
เหนือ ภาษาลับแล ภาษาลาว ภาษาญวน ทำให้เราได้เรียนรู้คำต่างๆของภาคเหนืออุตรดิตถ์
2.เมื่อได้เรียนรู้แล้วทำให้เกิดความรู้สึกที่อยากอนุรักษ์ของภาคเหนือเอาไว้ไปถึงคนรุ่นหลัง

สรุปและอภิปรายผลการดำเนินการ
สรุปผลการดำเนินการ
จากการสำรวจภาษาถิ่นที่ใช้ในอำเภอน้ำปาดพบว่า มีภาษาถิ่นที่ใช้อยู่หลักๆ ตามภูมิภาคในประเทศไทย ซึ่งก็คือ
ภาษาถิ่นภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ ภาคกลาง และภาษาถิ่นมลายูที่มีอยู่ในพื้นที่ ซึ่งสามารถเรียนรู้ภาษาถิ่นต่างๆ
ที่เข้ามาในอำเภอน้ำปาด เพื่อให้เกิดความเข้าใจในการสื่อสารของผู้คนแต่ละถิ่น
ภาษาถิ่นที่ได้สำรวจและเก็บข้อมูลเปรียบเทียบคำกับความหมายที่เป็นภาษาราชการ มีความแตกต่างกันในเรื่องของ
คำที่ใช้ สำเนียงที่ใช้และหลักภาษา และคำภาษาถิ่นบางคำใช้เหมือนกับภาษาราชการ ซึ่งคำส่วนใหญ่แบ่งออกเป็น
หมวดๆ ได้ 4หมวด ดังนี้
1. หมวดอาหาร
2. หมวดผลไม้
3. หมวดสถานที่ท่องเที่ยว
4. หมวดสัตว์
อภิปรายผลการดำเนินการ
โครงงานเรื่องภาษาถิ่นในอำเภอน้ำปาดเป็นโครงงานที่สร้างให้เกิดการเรียนรู้ทางด้านภาษา วัฒนธรรม ทำให้รู้จัก
เรียนรู้ที่มาของคำในแต่ละภาษา สามารถสื่อสารและเรียนรู้ร่วมกัน เกิดมิตรภาพที่ดี นำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้
อย่างถูกต้อง และอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
นอกจากนี้การทำโครงงานยังช่วยให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ เรียนรู้การทำงานเป็นทีม และสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับ
กลุ่มสาระวิชาอื่นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปั ญหาที่พบ
ในการจัดทำโครงงานชิ้นนี้ใช้เวลาในการสำรวจค่อนข้างนาน และไม่ค่อยมีเวลาในการลงพื้นที่ เวลาที่สำรวจจะอยู่ใน
ช่วงเย็นซึ่งเป็นเวลาที่ผู้คนกำลังเร่งรีบ และคำที่สำรวจส่วนใหญ่จะอยู่ในวงแคบ เนื่องจากภาษามีการกระจายตัว
แต่ละถิ่นของแต่ละภาคใช้ภาษาไม่เหมือนกันหรืแตกต่างกันเล็กน้ อย ทำให้ได้ภาษามาไม่ครอบคลุม และคำที่ได้ยัง
น้ อยเกินไป
ประโยชน์ที่ได้รับ
๑.ได้เรียนรู้ภาษาถิ่นที่มีอยู่ในอำเภอสุไหงโก-ลก
๒.เข้าใจภาษาถิ่นในท้องถิ่นต่างๆกับภาษาราชการ
๓.ได้มีเอกสารการเรียนรู้ให้กับผู้ที่มีความสนใจ
๔.สามารถเข้าใจภาษาของแต่ละท้องถิ่นที่ใช้สื่อสารกัน
๕.เกิดการเรียนรู้ร่วมกันและอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
ข้อเสนอแนะ
๑. ควรจัดทำตารางการสำรวจให้มากกว่านี้
๒. ควรให้มีภาษาถิ่นที่หลากหลาย

บรรณานุกรม

ฟองจันทร์ สุขยิ่งและคณะ. ภาษาไทยม.๒. กรุงเทพมหานคร : อักษรเจริญทัศน์, 2548
http://www.ipesp.ac.th/learning/thai/chapter4-6.html
http://www.rakjung.com/thai-no78.html
http://e-learning.e-tech.ac.th/learninghtml/thai2000/unit001.html


Click to View FlipBook Version