The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือการปฏิบัติงานสังคมสงเคราะห์กับกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ที่มาปรึกษาเรื่องการยุติการตั้งครรภ์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Kints W, 2023-05-07 10:17:51

คู่มือการปฏิบัติงานสังคมสงเคราะห์กับกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ที่มาปรึกษาเรื่องการ ยุติการตั้งครรภ์

คู่มือการปฏิบัติงานสังคมสงเคราะห์กับกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ที่มาปรึกษาเรื่องการยุติการตั้งครรภ์

คู่มือการปฏิบัติงานสังคมสงเคราะห์กับกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ที่มาปรึกษาเรื่องการ ยุติการตั้งครรภ์ ชมพูนุท รินทร์ศรี นักสังคมสงเคราะห์ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ พชกร วังคะฮาด นักศึกษาสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศสตร์ พิสุทธา มั่นเหมาะ หัวหน้างานสังคมสงเคราะห์ โรงพยาบาลมหารชนครเชียงใหม่ กัญญารัตน์ จตุพรพิทักษ์กุล นักสังคมสงเคราะห์ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ นักสังคมสงเคราะห์ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ พยาบาลวิชาชีพห้องตรวจฝากครรภ์ หน่วยตรวจที่ 2 พชกร วังคะฮาด โทรศัพท์: 063-378-8620 Email: [email protected] งานสังคมสงเคราะห์ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่และคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์ลำปาง


องค์การอนามัยโลก (WHO) เผยสถานการณ์การตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ทั่วโลก พบว่าสถานการณ์การตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์นั้นสามารถพบได้มากในแถบลาติน อเมริกาและแอฟริกาและประเทศในแถบเอเชียใต้ ที่มีอัตราการตั้งครรภ์ ไม่พึงประสงค์ในกลุ่มหญิงอายุต่ำกว่า 20 ปีอยู่ในระดับสูงที่อัตรา 229 คนต่อ ประชากร 1,000 คน และประเทศที่มีอัตราการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์น้อยที่สุด เป็นประเทศสิงคโปร์โดยมีอัตราเฉลี่ยที่ 3.6 คนต่อประชากร 1,000 คน ซึ่งในปัจจุบันทั่วโลกได้ให้ความสนใจในเรื่องการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์เพิ่มมาก ขึ้นรวมไปถึงประเทศไทย (สถานการณ์ท้องไม่พร้อม, (ม.ป.ป.)) จากรายงานเรื่องการวิเคราะห์สถานการณ์การตั้งครรภ์ของวัยรุ่น ในประเทศไทย (2558) ทำให้พบว่าความชุกของการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์นั้นมี อัตราที่ก้าวกระโดดในช่วงปี 2553-2554 โดยส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นในช่วงอายุ 15-17 ปี โดยสามารถสังเกตได้ว่าอัตราการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ต่ออัตราการ เกิด 1,000 คน สามารถพบได้ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 191.59 รองลงมา เป็นภาคกลาง 176.2 รองลงมาเป็นภาคเหนือ 173.6 และอันดับสุดท้ายเป็น จังหวัดชายแดนภาคใต้ 104.8 ตามลำดับ จะสามารถเห็นได้ว่าปัญหาความ รุนแรงเรื่องปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ในภูมิภาคเหนือนั้นค่อนข้างเป็น ปัญหาที่รุนแรงและสามารถพบได้บ่อย เนื่องด้วยปัญหาความรุนแรงที่เกี่ยวข้อง ทางเพศที่พบได้เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการถูกข่มขืน การถูกบังคับจาก สามีให้ค้าประเวณี หรือสภาพทางเศรษฐกิจที่บีบบังคับให้ต้องค้าประเวณี


ความรุนแรงทางเพศที่เกิดขึ้นในปัจจุบันทำให้ปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์มี ความรุนแรงขึ้นตามไปด้วย (UNICEF, 2558) สำหรับโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ซึ่งอยู่ในสังกัดของ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ ของภาคเหนือ ให้บริการด้านการรักษาพยาบาลที่มีความซับซ้อน รวมถึงการเป็น โรงเรียนแพทย์ที่ให้การศึกษาแก่นักศึกษาแพทย์ในระดับชั้นคลินิก ส่งผลให้มี ผู้ป่วยเข้ามารับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่เป็น จำนวนมากในแต่ละวัน ซึ่งกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ที่มาปรึกษาเรื่องการยุติการตั้งครรภ์ ก็เป็นอีกหนึ่งกลุ่มเปราะบางที่มาเข้ารับบริการการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาล มหาราชนครเชียงใหม่เช่นเดียวกัน จากสถิติการเข้ารับบริการในห้องตรวจฝากครรภ์ หน่วยตรวจที่ 2 ชั้น 5 อาคารศรีพัฒน์ของผู้เข้ารับบริการที่ตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์และมีความต้องการ ยุติการตั้งครรภ์ในช่วงระหว่างวันที่ 18 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่ 18 กันยายน 2565 พบหญิงตั้งครรภ์ที่เข้ารับบริการและเข้ามารับการปรึกษาทางเลือกเพื่อ ยุติการตั้งครรภ์จำนวนทั้งสิ้น 14 รายโดยมีอายุตั้งแต่ 15 ถึง 44 ปี โดยมีอายุ ครรภ์ตั้งแต่ 2 สัปดาห์ไปจนถึง 19 สัปดาห์ ซึ่งผู้ใช้บริการส่วนใหญ่มีภูมิลำเนาอยู่ ที่จังหวัดเชียงใหม่มากที่สุดจำนวน 6 ราย (42.9%) รองลงมาเป็นจังหวัด เชียงรายจำนวน 2 ราย (14.3%) และลำดับสุดท้ายเป็นจังหวัดนครราชสีมา จำนวน 1 ราย (7.1%) ตามลำดับ (ชมพูนุท รินทร์ศรี, สัมภาษณ์, 2566)


ทั้งนี้นักสังคมสงเคราะห์เป็นหนึ่งวิชาชีพที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการ ให้คำปรึกษาทางเลือกตามกฎกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การตรวจและ รับคำปรึกษาทางเลือกในการยุติการตั้งครรภ์ตามมาตรา 305 (5) แห่งประมวล กฎหมายอาญา พ.ศ.2565 ทำให้การดำเนินการยุติการตั้งครรภ์ของห้องตรวจ ฝากครรภ์หน่วยตรวจที่ 2 ชั้น 5 อาคารศรีพัฒน์ของโรงพยาบาลมหาราชนคร เชียงใหม่ต้องได้รับการให้คำปรึกษาทางเลือกจากนักสังคมสงเคราะห์ประจำหอ ผู้ป่วยสูตินรีเวชกรรมทุกรายตามแนวทางการดำเนินงานของทีมสหวิชาชีพที่ เกี่ยวข้องอย่างชัดเจน การสร้างคู่มือการปฏิบัติงานกับผู้ใช้บริการกลุ่มหญิง ตั้งครรภ์ที่มาปรึกษาเรื่องการยุติการตั้งครรภ์ในโรงพยาบาลมหาราช นครเชียงใหม่ เป็นการปฏิบัติงานต่อกลุ่มเป้าหมายให้ได้รับการบริการมาตรฐาน เดียวกัน


- นิยามศัพท์ - พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 28) พ.ศ.2565 - ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การตรวจและ รับคำปรึกษาทางเลือกในการยุติการตั้งครรภ์ตาม มาตรา305 (5) แห่งประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2565 - ข้อบังคับแพทยสภาว่าด้วยหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการยุติ การตั้งครรภ์ทางการแพทย์ของผู้ประกอบวิชาชีพเวช กรรมตามมาตรา 305 แห่งประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2565 - เครื่องมือการประเมินกาย จิต สังคม (Bio Psycho Social Assessment) - ทักษะการสร้างสัมพันธภาพ - ทักษะการฟัง - ทักษะการสัมภาษณ์


- แผนผังการปฏิบัติงานสังคมสงเคราะห์กับกลุ่มหญิง ตั้งครรภ์ที่มาปรึกษาเรื่องการยุติการตั้งครรภ์ - ขั้นตอนในการแรกรับกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ที่มาปรึกษา เรื่องการยุติการตั้งครรภ์ - ขั้นตอนในการดำเนินการกับกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ในกรณี ยุติการตั้งครรภ์ - ขั้นตอนในการดำเนินการกับกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ในกรณี ตั้งครรภ์ต่อ - แนวทางการดูแลหญิงที่ตั้งครรภ์ที่มาปรึกษาเรื่องการ ยุติการตั้งครรภ์ของห้องตรวจฝากครรภ์ หน่วยตรวจที่ 2 ชั้น 5 อาคารศรีพัฒน์ - กองทุนช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ของโรงพยาบาลและ เงินบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา - สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดเชียงใหม่ - สถานสงเคราะห์เด็กบ้านเวียงพิงค์จังหวัดเชียงใหม่ - บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ - สำนักงานประกันสังคมจังหวัดเชียงใหม่


- เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ


1


2 ห้องตรวจ หมายถึง ห้องตรวจฝากครรภ์ หน่วยตรวจที่ 2 ชั้น 5 อาคาร ศรีพัฒน์ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หญิงตั้งครรภ์ที่มาปรึกษาเรื่องการยุติการตั้งครรภ์ หมายถึง หญิงตั้งครรภ์ที่มาปรึกษาเรื่องการยุติการตั้งครรภ์ที่เข้าใช้บริการห้องตรวจฝาก ครรภ์ หน่วยตรวจที่ 2 ชั้น 5 อาคารศรีพัฒน์โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ การให้คำปรึกษาทางเลือก หมายถึง การให้คำปรึกษาของวิชาชีพ ที่ได้รับอนุญาตตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การตรวจและ รับคำปรึกษาทางเลือกในการยุติการตั้งครรภ์ตามมาตรา305 (5) แห่งประมวล กฎหมายอาญา พ.ศ.2565 การยุติการตั้งครรภ์ หมายถึง การยุติการตั้งครรภ์ตามข้อบังคับ แพทยสภาว่าด้วยหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการยุติการตั้งครรภ์ทางการแพทย์ของ ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมตามมาตรา 305 แห่งประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2565 นักสังคมสงเคราะห์ หมายถึง นักสังคมสงเคราะห์ที่ปฏิบัติงาน ในโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ทีมสหวิชาชีพ หมายถึง วิชาชีพที่ปฏิบัติงานร่วมกับนักสังคมสงเคราะห์ ตามกระบวนการให้คำปรึกษาทางเลือกเพื่อยุติการตั้งครรภ์


3


4 มาตรา 3 แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 301 หญิงใดทำให้ตนเองแท้งลูกหรือยอมให้ผู้อื่น ทำให้ตนแท้งลูกขณะมีอายุครรภ์เกินสิบสองสัปดาห์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน หกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 4 แก้ไข เพิ่มเติมมาตรา 305 ถ้าการกระทำผิดตามมาตรา 301 หรือมาตรา 302 เป็น การกระทำของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมและตามหลักเกณฑ์ของแพทยสภา ในกรณีดังต่อไป ผู้กระทำไม่มีความผิด (1) จำเป็นต้องกระทำเนื่องจากหากหญิงตั้งครรภ์ต่อไปจะเสี่ยงต่อ การได้รับอันตรายต่อสุขภาพกายหรือจิตใจของหญิงนั้น (2) จำเป็นต้องกระทำเนื่องจากมีความเสี่ยงอย่างมากหรือเหตุผลทาง การแพทย์อันควรเชื่อได้ว่าหากทารกคลอดออกมาจะมีความผิดปกติถึงขนาด ทุพพลภาพร้ายแรง (3) หญิงยืนยันต่อผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมว่าตนมีครรภ์เนื่องจาก มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับเพศ (4) หญิงซึ่งมีอายุครรภ์ไม่เกินสิบสองสัปดาห์ยืนยันที่จะยุติ การตั้งครรภ์ (5) หญิงซึ่งมีอายุครรภ์เกินสิบสองสัปดาห์แต่ไม่เกินยี่สิบสัปดาห์ ยืนยันที่จะยุติการตั้งครรภ์ ภายหลังการตรวจและรับคำปรึกษาทางเลือกจาก


5 ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมและผู้ประกอบวิชาชีพอื่นตามหลักเกณฑ์และ วิธีการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนดโดยคำแนะนำของ แพทยสภาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและการ แก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น กล่าวว่าการให้คำปรึกษาทางเลือกหมายความว่าการให้คำปรึกษาแก่ หญิงตั้งครรภ์ด้วยข้อมูลที่หลากหลาย และถูกต้อง โดยผู้ประกอบวิชาชีพ สังคมสงเคราะห์รับอนุญาต เป็นหนึ่งในผู้ประกอบวิชาชีพอื่นๆตามข้อกฎหมาย มาตรา 305 แห่งประมวลกฎหมายอาญา โดยซึ่งหญิงอายุครรภ์เกินสิบสอง สัปดาห์แต่ไม่เกินยี่สิบสัปดาห์ที่มีความประสงค์จะยุติการตั้งครรภ์ให้แจ้งความ ประสงค์ดังกล่าวต่อหน่วยบริการทางเลือกเพื่อดำเนินการให้เข้าสู่กระบวนการ ตรวจและรับคำปรึกษาทางเลือก หากหญิงยืนยันที่จะยุติการตั้งครรภ์ ให้ดำเนินการเพื่อให้หญิงได้รับการยุติการตั้งครรภ์ตามข้อบังคับให้แพทยสภา


6 ถ้าหญิงมีอายุครรภ์เกินยี่สิบสัปดาห์ให้หน่วยบริการทางเลือก ดำเนินการเพื่อให้ยิ่งได้รับการดูแลช่วยเหลือหรือได้รับการจัดสวัสดิการทาง สังคมที่เหมาะสม ต่อการตั้งครรภ์และการเลี้ยงดูบุตรต่อไป แต่หากมีเหตุให้ยุติ การตั้งครรภ์อื่นตามมาตรา 305 (1) (2) ให้ดำเนินการตามข้อบังคับแพทยสภา ระบุว่าการยุติการตั้งครรภ์ตามมาตรา 305 เป็นกรณีที่จำเป็นต้องกระทำ เนื่องจาก (1) ปัญหาสุขภาพทางกายของหญิงตั้งครรภ์ หรือ ปัญหาทางสุขภาพจิต ของหญิงตั้งครรภ์ (2) ทารกที่คลอดออกมานั้นมีความเสี่ยงอย่างมากที่จะมีความผิดปกติ ถึงทุพพลภาพ ซึ่งการยุติการตั้งครรภ์ตามมาตรา 305 (5) ต้องมีเอกสารแสดงว่าได้รับ การตรวจและรับคำปรึกษาทางเลือกจากผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม และผู้ประกอบวิชาชีพอื่นตามที่รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขกำหนด


7 โดยการยุติการตั้งครรภ์ในหญิงที่อยู่ในภาวะที่เกี่ยบกับความผิดปกติ ทางร่างกายหรือจิตใจที่ไม่สามารถตัดสินใจได้ด้วยตนเอง ต้องได้รับความ ยินยอมจากผู้แทนโดยชอบด้วยกฎหมายหรือผู้ปกครองดูแล ในกรณีที่ไม่มี ผู้ที่จะให้ความยินยอม หรือมีแต่บุคคลดังกล่าวไม่ให้ความยินยอมโดยไม่มีเหตุ อันควรหรือมีผลประโยชน์ขัดกันกับหญิง ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมอาจทำ การยุติการตั้งครรภ์ให้หญิงได้หากเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของหญิงนั้น


8


9 การประเมินทางด้านร่างกายของผู้ป่วยที่เข้ามารับคำปรึกษาทางเลือก เพื่อการยุติการตั้งครรภ์ นักสังคมสงเคราะห์สามารถสืบค้นข้อมูลประวัติ การรักษาของผู้ป่วยได้จากใบส่งตัวที่ได้รับจากห้องฝากครรภ์ หน่วยตรวจที่ 2 และระบบสารสนเทศของโรงพยาบาลเพื่อดูประวัติการรักษาของผู้ป่วยโดย นักสังคมสงเคราะห์ต้องตรวจดูอายุครรภ์ของผู้ป่วยว่าอยู่ในเกณฑ์ตามที่กฏหมาย และประกาศกระทรวง หรือมีความเสี่ยงทางด้านร่างกายที่อาจไม่เอื้อต่อ การตั้งครรภ์ต่อ การประเมินด้านจิตใจผู้ที่เข้ามารับคำปรึกษาทางเลือกเพื่อยุติการ ตั้งครรภ์มักจะมีภาวะเครียด สับสน หรือวิตกกังวลในเรื่องต่างๆเช่น ความวิตก กังวลในเรื่องของการยุติการตั้งครรภ์ที่ขัดต่อหลักความเชื่อ หรือความวิตกกังวล ว่าบุคคลรอบข้างจะรู้ว่าตนเองนั้นตั้งครรภ์ หรือเลือกที่จะยุติการตั้งครรภ์ นักสังคมสงเคราะห์จะประเมินสภาพจิตใจของผู้ป่วยเบื้องต้น หากพบว่ามีปัญหา ทางด้านอารมณ์แลจิตใจจะประสานส่งต่อทีมสหวิชาชีพที่เกี่ยวข้องต่อไป (จิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา)


10 นักสังคมสงเคราะห์ต้องประเมินสภาพความพร้อมทางเศรษฐกิจ สภาพ ทางสังคมของผู้ป่วยและครอบครัวว่ามีปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อผู้ป่วย เพื่อใช้ ในการประเมินและวางแผนในการช่วยเหลือหากในกรณีที่ผู้ป่วยเลือกที่จะ ตั้งครรภ์ต่อ นักสังคมสงเคราะห์ต้องสร้างสัมพันธภาพกับผู้ป่วยด้วยการแสดงความ พร้อม ยอบรับ เป็นมิตร ตั้งใจแลใส่ใจที่จะให้ความช่วยเหลือ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ จะเป็นประโยชน์ต่อการประเมินและวางแผนให้การช่วยเหลือผู้ป่วยได้ การให้คำปรึกษาทางเลือกแก่ผู้ป่วย นักสังคมสงเคราะห์ต้องใช้ทักษะ การรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยด้วยความตั้งใจ สนใจ รับฟังอย่างพินิจ พิเคราะห์เพื่อให้รู้รายละเอียด จุดสำคัญของเรื่อง เป็นการแสดงให้ผู้ป่วยเห็นว่า นักสังคมสงเคราะห์นั้นมีความตั้งใจจะช่วยเหลือแก้ไขปัญหาที่ผู้ป่วยกำลังเผชิญ อยู่และหาข้อตกลงร่วมกันกับผู้ป่วย


11 ทักษะการสัมภาษณ์ เริ่มต้นจากการแนะนำตัวเอง และชวนคุยเรื่องทั่วไปในชีวิตประจำวัน (Small Talk) และเริ่มการสัมภาษณ์โดยการชี้แจงจุดประสงค์ในการพูดคุย แสดงความเคารพต่อผู้ป่วยเพื่อให้เกิดการสร้างสัมพันธภาพได้อย่างรวดเร็ว ไม่ใช้ คำถามปลายปิดเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยได้เล่าถึงปัญหาที่กำลังเผชิญ และใช้ ภาษาที่เหมาะสมต่อช่วงวัยของผู้ป่วยที่เข้ามาใช้บริการ นอกจากนี้นักสังคมสังคมสงเคราะห์ยังใช้ทักษะอื่นๆที่เกี่ยวข้องในการ ปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือผู้ป่วย


12


13 หญิงตั้งครรภ์ลงทะเบียนเข้ารับการตรวจรักษา ณ ห้องฝากครรภ์ หญิงตั้งครรภ์ลงทะเบียนเข้ารับการตรวจรักษา ณ ห้องตรวจเบอร์ 4 พยาบาลประจำห้องตรวจแจ้งส่งผู้ป่วยเข้ารับการให้คำปรึกษา ทางเลือก ผู้ป่วยเข้ารับการให้คำปรึกษาทางเลือก หญิงตั้งครรภ์ลงทะเบียนเข้ารับการตรวจรักษา ณ ห้องตรวจเบอร์ 4 นักสังคมสงเคราะห์ รวบรวมข้อมูลเบื้องต้นผู้ป่วยจากใบส่งตัว และระบบสนเทศของรพ. (SMI) หญิงตั้งครรภ์ลงทะเบียนเข้ารับการตรวจรักษา ณ ห้องตรวจเบอร์ 4 นักสังคมสงเคราะห์สัมภาษณ์ผู้ป่วยและคนใกล้ชิดเพื่อรวบรวมข้อมูล ทางสังคมหญิงตั้งครรภ์ลงทะเบียนเข้ารับการตรวจรักษา ณ ห้องตรวจ เบอร์ 4 นักสังคมสงเคราะห์ให้คำปรึกษาทางเลือกให้กับผู้ป่วยและผู้เกี่ยวข้อง หญิงตั้งครรภ์ลงทะเบียนเข้ารับการตรวจรักษา ณ ห้องตรวจเบอร์4 ประเมินและแจ้งผลการตัดสินใจของผู้ป่วยกลับไปยังพยาบาลประจำห้องฝากครรภ์ หญิงตั้งครรภ์ลงทะเบียนเข้ารับการตรวจรักษา ณ ห้องตรวจเบอร์ 4 ส่งผู้ป่วยกลับห้องฝากครรภ์ หญิงตั้งครรภ์ลงทะเบียนเข้ารับการ ตรวจรักษา ณ ห้องตรวจเบอร์ 4 ประสานกับ แพทย์ ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบปัญหา ไม่พบปัญหา ยุติการตั้งครรภ์ แพทย์ให้คำแนะนำยุติการตั้งครรภ์ นักสังคมสงเคราะห์ติดตามและประเมินปัญหา หลังดำเนินการยุติการตั้งครรภ์ นักสังคมสงเคราะห์ติดตามและประเมินผล เป็นระยะ ฝากเลี้ยง ตั้งครรภ์ต่อ ไม่พร้อมเลี้ยง พร้อมเลี้ยง -บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัด เชียงใหม่ -สถานสงเคราะห์เด็กบ้านเวียงพิงค์ นักสังคมสงเคราะห์ดำเนินการให้ ความช่วยเหลือตามกระบวนการ สังคมสงเคราะห์ ยกมอบ


14 นักสังคมสงเคราะห์สัมภาษณ์ผู้ป่วยและ คนใกล้ชิดเพื่อรวบรวมข้อมูลทางสังคม ของผู้ป่วย นักสังคมให้คำปรึกษาทางเลือก ให้กับผู้ป่วยและผู้เกี่ยวข้อง -สัมภาษณ์ผู้ป่วยหรือญาติโดยตรง -สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์ -การประสานหน่วยงานอื่นๆที่มีความเกี่ยวข้องกับ ผู้ป่วย ประเมินและแจ้งผลการตัดสินใจของผู้ป่วยกลับไปยังพยาบาลประจำห้องฝากครรภ์ พยาบาลประจำห้องตรวจแจ้งส่ง ผู้ป่วยเข้ารับการให้คำปรึกษาทางเลือก นักสังคมสงเคราะห์ รวบรวมข้อมูลเบื้องต้นผู้ป่วยจาก ใบส่งตัว และระบบสนเทศของรพ. (SMI) หญิงตั้งครรภ์ลงทะเบียนเข้ารับการตรวจ รักษา ณ ห้องฝากครรภ์ ส่งผู้ป่วยกลับห้องฝากครรภ์


15 ประสานกับแพทย์ ประสานหน่วยงานที่ เกี่ยวข้อง พบปัญหา ไม่พบปัญหา ยุติการตั้งครรภ์ แพทย์ให้คำแนะนำยุติการ ตั้งครรภ์ นักสังคมสงเคราะห์ติดตามและประเมิน ปัญหาหลังดำเนินการยุติการตั้งครรภ์


16 นักสังคมสงเคราะห์ติดตามและประเมินผล เป็นระยะ ฝากเลี้ยง ยกมอบ ตั้งครรภ์ต่อ ไม่พร้อมเลี้ยง พร้อมเลี้ยง -บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัด เชียงใหม่ -สถานสงเคราะห์เด็กบ้านเวียงพิงค์ นักสังคมสงเคราะห์ดำเนินการให้ ความช่วยเหลือตามกระบวนการ สังคมสงเคราะห์


17 1. พยาบาลหรือเจ้าหน้าที่ส่งสตรีตั้งครรภ์พบแพทย์เพื่อทำการซักประวัติ เบื้องต้นที่ห้องรับคำปรึกษา และส่งตรวจอัลตราซาวน์เพื่อประเมินอายุครรภ์ 2. แพทย์แนะนำพบนักสังคมสงเคราะห์ เพื่อเข้ารับการให้คำปรึกษาทางเลือก เพื่อค้นหาและให้ปรึกษาแนวทางการช่วยเหลือต่างๆ 3. เมื่อพยาบาลหรือเจ้าหน้าที่ทำการประสานนักสังคมสงเคราะห์เพื่อนัด วัน สถานที่และเวลาที่เหมาะสมที่จะนัดพบนักสังคมสงเคราะห์แล้ว ให้แพทย์ เขียนใบส่งตัวและข้อมูลเบื้องต้นสำหรับส่งพบนักสังคมสงเคราะห์ 4. ภายหลังจากพบนักสังคมสงเคราะห์เป็นที่เรียบร้อย และผู้ป่วยยืนยันที่จะ ยุติการตั้งครรภ์ให้ผู้ป่วยรับหนังสือรับรองอายุครรภ์และแนะนำสถานที่สำหรับ การยุติการตั้งครรภ์ที่เหมาะสมต่อไป


18


19 -เงินสงเคราะห์ครอบครัว สำหรับหัวหน้าครอบครัวที่ประสบภาวะยากลำบาก หรือกลุ่มเปราะบาง ไม่มีรายได้แต่มีหนี้สินจะได้รับเงินสงเคราะห์จำนวน 2,000 บาท ไม่เกิน 3 ครั้ง ต่อปี โดยเงื่อนไขการเบิกจ่ายโดยจะมีเจ้าหน้าที่ลงเยี่ยมบ้านของผู้ป่วยที่ยื่น คำร้องทุกกรณี โดนมีคณะกรรมการพิจารณาเงินอุดหนุนประจำจังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้พิจารณาอนุมัติ เงินสงเคราะห์จะถูกโอนเข้าบัญชีของผู้ป่วยที่ประสบ ปัญหาโดยตรง -เงินอุดหนุนเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดในกรณีที่ผู้ป่วยมีรายได้น้อย ผู้ป่วยที่ประสบปัญหาที่ยื่นคำร้องที่สำนักงานพัฒนาสังคมและ ความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่หรือองค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่ที่ ผู้ป่วยอาศัยว่ามีรายได้น้อยจะได้รับเงินอุดหนุนเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดเดือนละ 600


20 บาท ตั้งแต่ขึ้นทะเบียนจนอายุครบ 6 ปี(สวัสดิการและสิทธิเพื่อหญิงท้อง ไม่พร้อมกรณีท้องต่อ ส.ส.ส, 2563) สถานสงเคราะห์เด็กบ้านเวียงพิงค์ ตั้งอยู่เลขที่ 63/3 หมู่ที่ 4 ตำบล ดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ มีภารกิจให้บริการและการป้องกัน เช่น - การให้คำปรึกษาแนะนำครอบครัว - การสงเคราะห์ช่วยเหลือ ได้แก่ การสงเคราะห์เครื่องอุปโภคบริโภค สนับสนุนเงินสงเคราะห์เด็กและผู้ได้รับผลกระทบจาก HIV / AIDS และ ให้ความช่วยเหลือภายใต้โครงการครอบครัวอุปถัมภ์ - การอุปการะเลี้ยงดูและจัดสวัสดิการที่เหมาะสมให้แก่เด็ก - การบริการด้านสังคมสงเคราะห์ - การบริการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก - การบริการด้านการศึกษา - การบริการด้านการรักษาพยาบาล - การจัดหาครอบครัวทดแทน(บุตรบุญธรรม/ครอบครัวอุปการะ) โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กที่ถูกทอดทิ้ง เด็กที่ติดเชื้อเอดส์และเด็กที่ได้รับ ผลกระทบจาก HIV ทั้งเด็กชายและเด็กหญิงตั้งแต่แรกเกิด - 6 ปีและเด็กหญิง อายุตั้งแต่ 6 ปี – 18 ปีในเขต 17 จังหวัดภาคเหนือ (สถานสงเคราะห์เด็กบ้าน เวียงพิงค์, 2665)


21 บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ที่ 63/4 หมู่ 4 ตำบล ดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ 50180 มีภารกิจให้บริการส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาเสริมสร้างทักษะชีวิตเด็กและเยาวชนที่จำเป็น รวมทั้ง การคุ้มครองเด็กและเยาวชนครั้งโดยมีกลุ่มเป้าหมายดังต่อไปนี้ 1. กลุ่มเด็ก - เด็กแรกเกิด ถึง ๑๘ ปี ที่ถูกทอดทิ้ง กำพร้า ขาดผู้อุปการะเลี้ยง - ดูเด็กเร่ร่อน ขอทาน จรจัด ประพฤติตนไม่เหมาะสมกับวัย - เด็กที่ถูกละเมิดสิทธิ ถูกกระทำทารุณกรรม ถูกละเมิดทางเพศ 2. กลุ่มสตรี - สตรีตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ - ถูกทารุณกรรมทางเพศ ทางร่างกาย - อื่น ๆ 3. ผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ 4. ผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว


22 5. บุคคลที่ประสบปัญหาอื่นๆ - ประสบปัญหาด้านที่พักอาศัย - ประสบปัญหาด้านครอบครัว - ครอบครัวที่อยู่ในระหว่างติดตามหา สามี ภรรยา หรือบุตรที่หายหรือ พลัดหลง แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในการหาที่พักพิง หรือเดินทางกลับภูมิลำเนา (บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่, 2565) -ระหว่างการตั้งครรภ์ จ่ายค่าฝากครรภ์ 1,000 บาท โดยแบ่งจ่าย 3 ครั้งตามอายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์จ่าย 500 บาท 20 สัปดาห์จ่าย 300 บาท และ 200 บาทต่อครั้ง โดยมีกลุ่มเป้าหมายดังต่อไปนี้ -ช่วงคลอดและหลังคลอด การคลอด จ่ายค่าคลอดบุตรแบบเหมาจ่ายจำนวน 15,000 บาทต่อการคลอด หนึ่งครั้ง กรณีสามีและภรรยาเป็นผู้ประกันตนทั้งคู่ให้ใช้สิทธิในการเบิก ค่าคลอดบุตรฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่จำกัดจำนวนบุตรต่อครั้ง


23 เงินสงเคราะห์บุตร จ่ายเงินสงเคราะห์บุตรรายละ 600 บาท ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 6 ปี (สำนักงานประกันสังคม, 2566)


24


25 โทร: 053-935-650 โทรสาร: 053-936-620 โทร: 053-112-716 โทร: 053-121164 หรือ 053-121036 โทร: 0-5312-1161 หรือ 0-5312-1163 โทร: 053-112-630


Click to View FlipBook Version