The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ชื่อกลุ่ม-เกียร์เป็นหู้-อาหาร-4-ภาค-1-บันทึก(1)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by sunantha, 2021-03-21 12:49:36

ชื่อกลุ่ม-เกียร์เป็นหู้-อาหาร-4-ภาค-1-บันทึก(1)

ชื่อกลุ่ม-เกียร์เป็นหู้-อาหาร-4-ภาค-1-บันทึก(1)

ช่ือกลุ่ม : เกยี ร์เป็ นหู้
โครงงาน : อาหาร 4 ภาค

จดั ทาโดย
ด.ญ. นิชาภา สิทธิเดช เลขท่ี 28
ด.ญ. มาริษา อคั โกศล เลขที่ 32
ด.ญ. สุนนั ทา อินทรสุข เลขท่ี 38
ด.ญ. ประภสั สร เรียบร้อย เลขท่ี 40

นาเสนอ
คุณครู ศิริรักษ์ สมพงษ์

โครงงานน้ีเป็นส่วนหน่ึงของรายวชิ า i20202 การส่ือสารและการนาเสนอ
ภาคเรียนที่ 2 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 2/8

โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เบญจมราชาลยั
ปี การศึกษา 2564

สารบญั หน้า

เรื่อง ก

บทคดั ยอ่ 1
กิตติกรรมประกาศ 1
บทที่ 1 บทนา 1
2
ท่ีมาและความสาคญั 2
วตั ถุประสงคข์ องการศึกษา 3
ขอบเขตการศึกษา 3-5
ผลที่คาดวา่ จะไดร้ ับ 5
บทท2่ี เอกสารและงานวจิ ยั ทเ่ี กย่ี วข้อง 6
เอกสารที่เกี่ยวขอ้ ง 6
เครื่องมือและวสั ดุอุปกรณ์ที่ใชใ้ นการศึกษา 6
บทท่3ี วธิ ีการดาเดนิ งาน 6
ระเบียบวิธีที่ใชใ้ นการศึกษา 7
ระยะเวลาท่ีใชใ้ นการศึกษา 7
วิธีดาเนินการศึกษา 7
บทที่4 ผลวเิ คราะห์ข้อมูล 8
ผลวเิ คราะห์ขอ้ มูล 8
การศึกษาจากภูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน 8
บทท5่ี สรุปผล อธิปรายผล และข้อเสนอแนะ 8
วตั ถุประสงคข์ องการศึกษา 9-15
ขอบเขตการศึกษา 16
ขอ้ แนะนา
ภาคผนวก

บรรณานุกรม



บทคดั ย่อ

เนื่องจากในปัจจุบนั น้ีอาหารไทยไดร้ ับการกลา่ วขานจากทุกประเทศทวั่ โลกวา่ เป็น
อาหารที่มีความอร่อยจึงทาใหอ้ าหารไทยเป็นท่ีนิยมของท้งั ชาวไทยและชาวต่างชาติ
เป็นจานวนมาก ซ่ึงจะเห็นไดจ้ ากการมีร้านอาหารไทยตามประเทศตา่ งๆทว่ั โลก และ
การท่ีชาวต่างชาติเดินทางเขา้ สู่ประเทศเพื่อรับประทานอาหารไทย อนั เป็นผลทาใหเ้ กิด
รายไดเ้ ขา้ สู่ประเทศอยา่ งมากมาย ซ่ึงถือเป็นรายไดท้ ี่สาคญั อยา่ งหน่ึงของประเทศเลย
ทีเดียวดงั น้นั ผจู้ ดั ทาจึงไดจ้ ดั ทาโครงงาน เรื่องอาหารไทย 4 ภาค เพือ่ เผยแพร่ความรู้ใน

เรื่องอาหารไทยใหเ้ ป็นประโยชนต์ ่อผทู้ ี่สนใจศึกษาต่อไป

กติ ตกิ รรมประกาศ

โครงงานฉบบั น้ีสาเร็จไดด้ ว้ ยความอนุเคราะห์ของคุณครูศิริรักษ์ สมพงษ์ ครูผสู้ อนท่ี
ไดใ้ หค้ วามรู้ คาแนะนา ตรวจทาน และแกไ้ ขขอ้ บกพร่องต่างๆดว้ ยความเอาใจใส่ทุก
ข้นั ตอน เพ่ือใหก้ ารเขียนรายงานคน้ ควา้ อยา่ งอิสระฉบบั น้ีสมบูรณ์ท่ีสุด ผศู้ ึกษาใคร่ขอ
กราบขอบพระคุณเป็นอยา่ งสูงไว้ ณ โอกาสน้ี ท่ีช่วยในการสืบคน้ ขอ้ มูล แลกเปลี่ยน

ความคิด และใหก้ าลงั ใจในการศึกษาคน้ ควา้ ตลอดเวลา

1

บทท่ี 1

บทนา

ท่มี าและความสาคญั
ปัจจุบนั น้ีอาหารไทยกาลงั ไดร้ ับความนิยมอยา่ งสูงและแพร่หลายไปสู่ประเทศ
ต่างๆทว่ั โลกอยา่ งรวดเร็ว เอกลกั ษณ์ที่บ่งบอกถึงความเป็นอาหารไทยท่ีชดั เจนกค็ ือ
กลิ่นฉุน และรสชาติท่ีเผด็ ร้อน และที่สาคญั กค็ ือมีการนา สมุนไพรและเคร่ืองเทศมา
เป็นส่วนผสมในการปรุง อาหารไทยในยคุ ปัจจุบนั ไดร้ ับอิทธิพลจากวฒั นธรรมทาง
ดา้ นอาหารจากนานาประเทศ
อาหารไทย เป็นอาหารประจาของประเทศไทย ท่ีมีการสง่ั สมและถา่ ยทอดมาอยา่ ง
ต่อเน่ืองต้งั แต่อดีต จนเป็นเอกลกั ษณ์ประจาชาติถือไดว้ า่ อาหารไทยเป็นวฒั นธรรม
ประจาชาติท่ีสาคญั ของไทย โครงงานน้ีจึงทาข้ึนเพ่ือส่งเสริมอาหารของวฒั นธรรมของ
แต่ละภาคพ้ืนที่วา่ แต่ละพ้ืนที่มีอาหารและวฒั นธรรมอยา่ งไรและมีรสชาติอาหารและ
วฒั นธรรมแตกต่างกนั ไปอาหารแต่ละพ้ืนท่ีมาแตกต่างกนั และมีวฒั นธรรมการกินท่ี
แตกต่างกนั

วตั ถุประสงค์
1) เพือ่ ศึกษาเรื่อง อาหารไทย 4 ภาค
2) เพ่อื พฒั นาเวบ็ ไซตเ์ ร่ือง อาหารไทย 4 ภาค
3) เพ่อื นาความรู้ท่ีไดจ้ ากการเรียนโปรแกรม มาประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กิดประโยชนใ์ น
รูปแบบของโครงงาน

2

ขอบเขตการศึกษา

1) เป็นโครงงานพฒั นาเวบ็ ไซตเ์ ร่ืองอาหารไทยโดยการใชโ้ ปรแกรม Blogger ในการ

พฒั นาเวบ็ ไซต์

2) ขอบเขตเน้ือหา เป็นโครงงานพฒั นาเวบ็ ไซตใ์ นเรื่องท่ีกลุ่มสนใจ โดยจดั ทาเวบ็ ไซต์

ในหวั ขอ้ เรื่องอาหารไทยโดยแบ่งเน้ือหาออกเป็น 4 หวั ขอ้ ดงั น้ี

2.1) อาหารไทยภาคเหนือ 2.2) อาหารไทยภาคกลาง

2.3) อาหารไทยภาคอีสาน 2.4) อาหารไทยภาคใต้

ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1) ผทู้ ่ีเขา้ มาศึกษาไดร้ ับความรู้เกี่ยวกบั โปรแกรม Blogger เรื่องอาหารไทย4ภาค
2) ผเู้ รียนสามารถพฒั นารูปแบบของโปรแกรมเวบ็ บลอ็ กไดด้ ว้ ยตนเอง
3) เผยแพร่ความรู้เรื่อง อาหารไทย ใหผ้ ทู้ ่ีสนใจไดศ้ ึกษาในรูปแบบของเวบ็ ไซต์

3

บทท่ี 2

เอกสารและงานวจิ ยั ที่เกี่ยวขอ้ ง

เอกสารทเี่ กย่ี วข้อง
ในการทาโครงงาน เร่ืองอาหารไทย 4 ภาคน้ีผจู้ ดั ทาโครงงานไดศ้ ึกษาเอกสารตา่ งๆที่

เกี่ยวขอ้ งดงั ตอ่ ไปน้ี
อาหารภาคกลาง
ภาคกลาง นบั ไดว้ า่ เป็นภาคท่ีมีความอุดมสมบูรณ์มากกวา่ ภาคอื่นๆ ถือไดว้ า่
ภาคกลางเป็นอู่ขา้ วอนู่ ้าท่ีสาคญั ของประเทศไทย เน่ืองจากสภาพทางภูมิประเทศท่ีเป็น
ท่ีราบลุ่ม มีแมน่ ้าลาคลอง หนอง บึงมากมาย จึงทาใหภ้ าคกลางเป็นแหล่งผลิตอาหารท่ี
สาคญั ของประเทศไมวา่ จะเป็นดา้ น เกษตรกรรม หรือปศุสตั ว์ นอกน้นั จากในบาง
พ้ืนที่ของภาคกลางยงั มีบางส่วนที่ติดกบั ทะเลจึงทาใหภ้ าคกลาง มีสตั ถุดิบท่ีใชใ้ นการ
ปรุงอาหารท่ีหลากหลาย รสชาติอาหารภาคกลางนบั ไดว้ า่ มีความโดดเด่นเป็นพิเศษ
มากกวา่ อาหารภาคอ่ืน อาหารภาคกลางมีการผสมผสานของหลาหลายรสชาติท้งั รส
เปร้ียว หวาน เคม็ เผด็ เอกลกั ษณ์ของรสชาติอาหารไม่ไดเ้ กิดจากเครื่องปรุงเพียงอยา่ ง
เดียว รสเปร้ียวท่ีใชป้ รุงอาหารอาจไดท้ ้งั จากมะนาว มะขาม มะกรูด ตะลิงปลิง สม้ แขก
ผลไมบ้ างชนิด เช่น มะดนั มะม่วง เป็นตน้ การใชเ้ ครื่องปรุงรสเปร้ียวท่ีแตกต่างกนั จึง
ทาใหเ้ กิดความหลากหลายใชช้ นิด ของอาหารไทยภาคกลาง เช่น ตม้ ยา ใชม้ ะนาว
เพ่ือใหร้ สเปร้ียว แตต่ ม้ โคลง้ ใชน้ ้ามะขามเปี ยกเพ่ือใหร้ สเปร้ียวแทน นอกจากน้นั ยงั มี
รสเคม็ ท่ีไดจ้ ากน้าปลา กะปิ รสขม ท่ีไดจ้ ากพชื ชนิดต่างๆ เช่น มะระ เป็นตน้ และ
ความเผด็ ท่ีไดจ้ ากพริก พริกไทย และเครื่องเทศ อาหารภาคกลางเป็นอาหารที่มีครบ
ทุกรส ซ่ึงอาหารไทยที่ชาวตา่ งชาติส่วนใหญ่รู้จกั และนิยมบริโภคลว้ นแต่เป็นอาหาร
ภาค กลางท้งั น้นั ไมวา่ จะเป็น ตม้ ยากงุ้ แกงเขียวหวาน ผดั ไทย พะแนง เป็นตน้ วธิ ีการ

4

อาหารภาคเหนือ
อาหารของภาคเหนือ ประกอบดว้ ยขา้ วเหนียวเป็นอาหารหลกั มีน้าพริกชนิดต่าง ๆ
เช่น น้าพริกหนุ่ม น้าพริกอ่อง มีแกงหลายชนิด เช่น แกงโฮะ แกงแค นอกจากน้นั ยงั มี
แหนม ไสอ้ ว่ั แคบหมู และผกั ต่าง ๆ สภาพอากาศกม็ ีส่วนสาคญั ท่ีทาใหอ้ าหารพ้นื บา้ น
ภาคเหนือแตกต่างจากภาคอ่ืน นนั่ คือ การท่ีอากาศหนาวเยน็ เป็นเหตุผลใหอ้ าหารส่วน
ใหญ่มีไขมนั มาก เช่น น้าพริกอ่อง แกงฮงั เล ไสอ้ ว่ั เพ่ือช่วยใหร้ ่างกายอบอุ่น อีกท้งั การ
ที่อาศยั อยใู่ นหุบเขาและบนที่สูงอยใู่ กลก้ บั ป่ า จึงนิยมนา พชื พนั ธุ์ในป่ ามาปรุงเป็น
อาหาร เช่น ผกั แค บอน หยวกกลว้ ย ผกั หวาน ทาใหเ้ กิดอาหารพ้ืนบา้ น ช่ือตา่ ง ๆ เช่น
แกงแค แกงหยวกกลว้ ย แกงบอน

อาหารภาคอสี าน
อาหารพ้ืนบา้ นอีสานส่วนมากจะมีรสเผด็ เคม็ เปร้ียว คนอีสานจะรับประทานขา้ ว
เหนียว กบั อาหารพ้ืนบา้ นที่มีรสจดั และน้านอ้ ย วิธีปรุงอาหารพ้ืนบา้ นอีสานมีหลายวธิ ี
คือ ลาบ กอ้ ย จ้า จุ๊ หมก อู่ เอา๊ ะ อ่อม แกง ตม้ ซุป เผา ก่ี ปิ ง ยา่ ง รม ดอง คว่ั ลวก น่ึง
ตา แจ่ว ป่ น เมี่ยง ดงั น้นั ตารับ อาหารพ้ืนบา้ นของภาคอีสาน จึงมีควาหลากหลายและมี
รูปแบบท่ีน่ารับประทานมาก ในบรรดาตารับอาหารภาคอีสานน้นั สิ่งท่ีจะขาดไม่ไดค้ ือ
น้าปลาร้า จดั วา่ เป็นเคร่ืองปรุงท่ีช่วยเพ่ิมรสชาติ ใหอ้ าหารน่ารับประทานยง่ิ ข้ึน
‘น้าปลาร้าจึงมีบทบาทต่อการประกอบอาหาร เกือบทุกตารับของอาหารอีสานกว็ า่ ได้
ซ่ึงทาใหก้ ลายเป็นสญั ลกั ษณ์และเป็นอาหารเด่นที่ทุกคนตอ้ งรู้จกั อาหารเน้ือสตั วข์ อง
ชาวอีสานส่วนใหญ่จะเป็นเน้ือววั เน้ือควาย ปลาน้าจืด และสตั วท์ ี่จบั ไดใ้ นทอ้ งถ่ิน ใน
อดีตชาวอีสานไม่นิยมเล้ียงหมู จึงไม่คอ่ ยมีอาหารที่ทาดว้ ยหมู แหล่งอาหารของชาว
อีสานแบ่งไดเ้ ป็น 2แหล่งคือ อาหารท่ีหาซ้ือไดจ้ ากตลาด ซ่ึงส่วนใหญ่จะเป็นอาหาร
ของคนในเมือง ไดแ้ ก่ สม้ ตา ไก่ยา่ ง ลาบ ตม้ ยา ปลาทูทอด เป็นตน้ .

5

อาหารพืน้ บ้านภาคใต้
อาหารพ้ืนบา้ นภาคใตม้ ีรสชาติโดดเด่นเป็นเอกลกั ษณ์เฉพาะ สืบเน่ืองจากดินแดน
ภาคใตเ้ คยเป็นศูนยก์ ลางการเดินเรือคา้ ขายของพอ่ คา้ จากอินเดีย จีนและชวาในอดีต ทา
ใหว้ ฒั นธรรมของชาวต่างชาติโดยเฉพาะอินเดียใต้ ซ่ึงเป็นตน้ ตารับในการใชเ้ ครื่องเทศ
ปรุงอาหารไดเ้ ขา้ มามีอิทธิพลอยา่ งมาก อาหารพ้ืนบา้ นภาคใตท้ วั่ ไป มีลกั ษณะ
ผสมผสานระหวา่ งอาหารไทยพ้ืนบา้ นกบั อาหารอินเดียใต้ เช่น น้าบูดู ซ่ึงไดม้ าจากการ
หมกั ปลาทะเลสดผสมกบั เมด็ เกลือ และมีความคลา้ ยคลึงกบั อาหารมาเลเซีย อาหาร
ของภาคใตจ้ ึงมีรสเผด็ มากกวา่ ภาคอื่น ๆ และดว้ ยสภาพภูมิศาสตร์อยตู่ ิดทะเลท้งั สอง
ดา้ นมีอาหารทะเลอุดมสมบูรณ์ แต่สภาพอากาศร้อนช้ืน ฝนตกตลอดปี อาหารประเภท
แกงและเคร่ืองจิ้มจึงมีรสจดั ช่วยใหร้ ่างกายอบอุ่น ป้องกนั การเจบ็ ป่ วยไดอ้ ีกดว้ ย
เน้ือสตั วท์ ี่นามาปรุงเป็นอาหารส่วนมากนิยมสตั วท์ ะเล เช่น ปลากระบอก ปลาทู ปู
ทะเล กงุ้ หอย ซ่ึงหาไดใ้ นทอ้ งถิ่น อาหารพ้นื บา้ นของภาคใต้ เช่น แกงเหลือง แกงไต
ปลา นิยมใส่ขมิ้นปรุงอาหารเพ่ือแกร้ สคาว เคร่ืองจิ้มคือน้าบูดูอาหารของภาคใตจ้ ะมี
รสเผด็ มากกวา่ ภาคอื่นๆ แกงที่มีช่ือเสียงของภาคใต้ คือ แกงเหลือง แกงไตปลา เคร่ือง
จิ้มกค็ ือ น้าบูดู และชาวใตย้ งั นิยมนาน้าบูดูมาคลุกขา้ วเรียกวา่ "ขา้ วยา" มีรสเคม็ นาและ
มีผกั สดหลายชนิดประกอบ อาหารทะเลสดของภาคใตม้ ีมากมาย ไดแ้ ก่ ปลาหอย

นางรม และกงุ้ มงั กร เป็นตน้

เคร่ืองมือและวสั ดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการศึกษา
1) คอมพิวเตอร์
2) โทรศพั ท์

6

บทท่ี 3

วิธีการดาเนินงาน
ในการศึกษาคร้ังน้ีผศู้ ึกษาไดท้ าการศึกษาเรื่องอาหาร4ภาคซ่ึงมีวธิ ีการดงั น้ี
ระเบยี บวธิ ีท่ีใช้ในการศึกษา
ในการศึกษาใชร้ ูปแบบการสารวจสืบคน้ ขอ้ มูลจากอินเทอร์เน็ต
ระยะเวลาท่ใี ช้ในการศึกษา
ระยะเวลาท่ีใชใ้ นการศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2564
วธิ ีดาเนินการศึกษา
ผศู้ ึกษาไดด้ าเนินการตามข้นั ตอนดงั น้ี
1) กาหนดเร่ืองท่ีจะศึกษาโดยสมาชิกท้งั 4 คนประชุมร่วมกนั และร่วมกนั คิดและ
วางแผนวา่ จะศึกษาเร่ืองใด
2) เลือกเรื่องที่จะศึกษา โดยเลือกเรื่องที่สมาชิกมีความสนใจมากท่ีสุด
มะกรูด ส่ง วนั น้ี เวลา 16:25 น.
3) หาขอ้ มูลของเร่ืองท่ีเราจะศึกษา
4) รวบรวมขอ้ มูล
5) การวเิ คราะห์ขอ้ มูล
6) สรุปการศึกษา

7

บทที่4

ผลวเิ คราะห์ขอ้ มูล
1) การตกแต่งของจานอาหารแต่ละภาค
2) การทดลองทาอาหารไทย
3) อาหารแต่ละภาคมีรสชาติไม่เหมือนกนั บางภาคมีอาหารท่ีมีรสชาติเผด็ จนเกิน
หรือไม่ค่อยเผด็ เท่าไหร่

การศึกษาจากภูมิปัญญาท้องถนิ่
ภูมิปัญญาไทยเป็นสติปัญญาหรือความรอบรู้ ที่คนไทยสงั่ สมมาเป็นระยะเวลา
ยาวนานดว้ ยการเชื่อมโยงและบูรณาการวทิ ยาการดา้ นต่างๆ เขา้ ดว้ ยกนั ใชใ้ นการ
แกป้ ัญหา การดารงชีวติ การอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติ ตลอดจนเพ่อื ความบนั เทิง
และสุนทรียภาพ เป็นเอกลกั ษณะประจาชาติไทย สืบทอดประเพณีไทยและวฒั นธรรม
ต่าง ๆ บางอยา่ งถือเป็นมรดกโลกไปแลว้ บง่ บอกถึงศกั ด์ิศรีและเอกลกั ษณ์ประจา
ชาติ คนไทยทุกคนควรภูมิใจในความเป็นไทย และควรดารงไวซ้ ่ึงคุณค่าท่ีควรหวง
แหน ซ่ึงสามารถสรุปเป็นประเดน็ ศิลปะ วฒั นาธรรม และขนบธรรมเนียม แนวคิด
หลกั ปฏิบตั ิและเทคโนโลยี

8

บทท่ี5

สรุปผล อธิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ

จากการศึกษาคร้ังน้ีทาใหไ้ ดร้ ู้ถึงภูมิปัญญาทอ้ งถ่ินและไดร้ ู้วิธีการทาอาหาร,รสชาติ
อาหารของแต่ละภาค และความเป็นมาของแต่ละภาค

วตั ถุประสงค์ของการศึกษา
1) เพือ่ ศึกษาเรื่อง อาหารไทย 4 ภาค

2) เพื่อพฒั นาเวบ็ ไซตเ์ รื่อง อาหารไทย 4 ภาค

3) เพอ่ื นาความรู้ที่ไดจ้ ากการเรียนโปรแกรม มาประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ใน

รูปแบบของโครงงาน

ขอบเขตการศึกษา

1) เป็นโครงงานพฒั นาเวบ็ ไซตเ์ รื่องอาหารไทยโดยการใชโ้ ปรแกรม Blogger ในการ

พฒั นาเวบ็ ไซต์

2) ขอบเขตเน้ือหา เป็นโครงงานพฒั นาเวบ็ ไซตใ์ นเร่ืองที่กลุ่มสนใจ โดยจดั ทาเวบ็ ไซต์
ในหวั ขอ้ เรื่องอาหารไทยโดยแบ่งเน้ือหาออกเป็น 4 หวั ขอ้ ดงั น้ี

2.1) อาหารไทยภาคเหนือ 2.2) อาหารไทยภาคกลาง
2.3) อาหารไทยภาคอีสาน 2.4) อาหารไทยภาคใต้

ข้อแนะนา
ขอ้ เสนอแนะในการศึกษาคร้ังน้ี

1) ควรตรวจสอบเอกสารก่อนทา การบนั ทึกเอกสารเพ่ือตรวจสอบวา่ เอกสารมี
ความ

2) ถูกตอ้ งและครบถว้ นหรือหากมีความผดิ พลาดควรรีบแกไ้ ขอยา่ งรวดเร็ว
3) ควรขอคาปรึกษาจากชาวบา้ นเม่ือเกิดขอ้ สงสยั หรือไม่เขา้ ใจในงานที่ไดร้ ับ

มอบหมาย เพื่อไม่ใหเ้ กิดขอ้ ผดิ พลาดและเพื่อเรียนรู้วธิ ีการปฏิบตั ิงานท่ีถูกตอ้ ง
ที่สุด

9

ภาคผนวก

10

อาหารภาคกลาง - แกงรัญจวน

ส่ วนผสมเนื้อตุ๋น

1) เน้ือววั ส่วนน่อง 400 กรัม
2) ตะไคร้ 2 ตน้
3) เกลือป่ น 1/2 ชอ้ นชา
4) น้าเปล่า 2-3 ถว้ ย
วธิ ีทาเนื้อตุ๋น
หนั่ เน้ือเป็นชิ้นพอดีคา ใส่หมอ้ เติมน้าและตะไคร้ทุบ ต้งั ไฟอ่อน เคี่ยวประมาณ 2 ชม.
หรือจนเน้ือน่ิม หน่ึงทาก่อนแกง 1 คืน
ส่ วนผสมแกงรัญจวน
1) เน้ือตุ๋นพร้อมน้าซุป 1 1/2 -2 ถว้ ย
2) หอมแดงปอกเปลือก 10 หวั
3) กระเทียมไทยปอกเปลือก 10 กลีบ
4) ตะไคร้หน่ั ละเอียด 2 ตน้

11

อาหารภาคเหนือ-ข้าวซอยไก่

ส่วนผสม นา้ พริกข้าวซอย / เคร่ืองแกงข้าวซอย

1) พริกแหง้ เมด็ ใหญ่ควั่ 7 เมด็
2) เกลือป่ น 1 ชอ้ นชา
3) รากผกั ชีควั่ 1 ชอ้ นโตะ๊
4) ขิงซอยควั่ 1/4 ถว้ ย
5) หอมแดงควั่ 3/4 ถว้ ย
6) ขมิ้นซอยควั่ 2 ชอ้ นโตะ๊
7) ชะโกแกะเปลือกใชเ้ มลด็ ควั่ ใหห้ อมแลว้ ป่ น 1 เมด็
ส่วนผสม ข้าวซอย
1) น่องไก่ 3-4 น่อง
2) หางกะทิ 3 ถว้ ย
3) เกลือป่ น 1/2 ชอ้ นโตะ๊ + 1 ชอ้ นชา
4) หวั กะทิ 1 ถว้ ย
5) ซีอิ๊วขาว 1 ชอ้ นโตะ๊ + 1/2 ชอ้ นโตะ๊
6) ซีอ๊ิวดา 1/2 ชอ้ นชา
7) น้าตาลทราย 1 ชอ้ นชา
8) น้ามนั พืช (สาหรับทอด)
9) บะหมี่เหลือง 5 กอ้ น (สาหรับทอด 1 กอ้ น)
10) เครื่องเคียง ไดแ้ ก่ ผกั กาดดอง มะนาวหน่ั เป็นชิ้น พริกป่ นผดั น้ามนั

หอมแดง หน่ั ชิ้น และผกั ชีสาหรับตกแตง่

12

วธิ ีทา
1) ลา้ งไก่ใหส้ ะอาด พกั ทิ้งไวใ้ นกระชอนใหส้ ะเดด็ น้า
2) ทาน้าพริกแกง โดยโขลกพริกแหง้ กบั เกลือเขา้ ดว้ ยกนั ใหล้ ะเอียด จากน้นั ใส่ราก

ผกั ชี ขิงซอย ขมิ้นซอย และหอมแดง โขลกรวมกนั จนละเอียดเขา้ กนั ดี ตกั ใส่ถว้ ย
พกั ไว้
3) ใส่หางกะทิลงในหมอ้ ใส่เกลือ 1/2 ชอ้ นโต๊ะ ยกข้ึนต้งั ไฟกลางจนร้อน จึงใส่ไก่
พอกะทิเดือดลดเป็นไฟอ่อน เค่ียวใหไ้ ก่สุกนุ่ม และกะทิแตกมนั เลก็ นอ้ ย เตรียมไว้
4) นากระทะข้ึนต้งั ไฟปานกลาง ใส่หวั กะทิ 1/2 ถว้ ย ผดั เค่ียวใหแ้ ตกมนั เลก็ นอ้ ย ใส่
น้าพริกแกงลงผดั ใหเ้ ขา้ กนั ทว่ั และมีกล่ินหอม

13

10

ภาคอีสาน- น้าตกปลาหมึก

ส่วนผสมทตี่ ้องเตรียม

1) ปลาหมึกหนั่ เป็นชิ้น 200 กรัม

2) หอมแดงซอย 1 หวั
3) ผกั ชีฝรั่งซอย
4) ใบสะระแหน่ สาหรับโรยหนา้
5) น้าปลา สาหรับปรุงรส
6) น้ามะนาว สาหรับปรุงรส
7) พริกป่ น ปริมาณตามชอบ
8) ขา้ วคว่ั 1 ชอ้ นโต๊ะ

วธิ ีทา
1) ใส่น้าลงในหมอ้ เลก็ นอ้ ย นาข้ึนต้งั ไฟแรงจนเดือด ใส่เน้ือปลาหมึกลงไปรวนจน
สุก ยกลงจาเตา ตกั ใส่อา่ งผสมเตรียมไว้

2) ใส่ หอมแดง ตน้ หอมซอย และใบสะระแหน่ลงในหมอ้ ปรุงรสดว้ ยน้าปลา น้า
มะนาว น้าตาลทราย และพริกป่ น คนผสมใหเ้ ขา้ กนั ชิมรสตามชอบ เติมขา้ วคว่ั
จากน้นั เคลา้ ผสมใหเ้ ขา้ กนั อีกคร้ัง ตกั ใส่จาน โรยใบสะระแหน่ พร้อมเสิร์ฟ

14

อาหารภาคใต้-ข้าวยา

ส่วนผสม ขา้ วยา

1) ขา้ วสารหอมมะลิ 1 ถว้ ยตวง
2) น้าเปล่า 1.25 ถว้ ยตวง
3) ดอกอญั ชนั สด 4-5 ดอก
4) กงุ้ แหง้ โขลก 1 ถว้ ยตวง
5) มะพร้าวคว่ั 1 ถว้ ยตวง
6) พริกแหง้ ป่ น ¼ ถว้ ยตวง
7) ใบชะพลูซอย 2 ถว้ ยตวง
8) ใบมะกรูดซอย ¼ ถว้ ยตวง
9) ตะไคร้ซอย ¼ ถว้ ยตวง
10) ถว่ั งอก 1 ถว้ ยตวง
11) ถวั่ ฝักยาวซอย 1 ถว้ ยตวง
12) กะหล่าปลีม่วงซอย ½ ถว้ ยตวง
13) สะตอซอย ¼ ถว้ ยตวง
14) มะนาว 1 ลูก
15) น้าบูดู 150 มล.
16) ตะไคร้หนั่ 2 ตน้
17) ใบมะกรูดฉีก 5 ใบ
18) ข่าแก่ หน่ั แวน่ 3 แวน่
19) หอมแดงบุบ 4 หวั

15

วธิ ีทา
1) หุงขา้ วใหส้ วยงาม เริ่มดว้ ยการลา้ งขา้ วสารใหส้ ะอาด เติมน้าเปล่าลงไป จากน้นั

ใส่ดอกอญั ชนั ขย้ดี อกอญั ชนั เลก็ นอ้ ยใหน้ ้าออกมาเป็นสีฟ้า แลว้ หุงขา้ วท่ีเราเตรียมไว้
ไปหุงใหส้ ุก

2) ใส่น้าบูดูลงในหมอ้ ตามดว้ ยตะไคร้ ใบมะกรูด ขา่ หอมแดง และปลาอินทรีเคม็
ต้งั ไฟกลางเคี่ยวใหง้ วดลง ใหเ้ หลือน้าสกั ¾ ของน้าบูดูเดิม

3) ปรุงรสดว้ ยน้าตาลมะพร้าวแลว้ เค่ียวต่อสกั พกั หมน่ั คนนะคะ ระวงั ไม่ใหไ้ หม้
กน้ เมื่อไดท้ ่ีแลว้ ยกลง กรองเอากากออก จะไดน้ ้าบูดูไวร้ าดขา้ วยา

4) เตรียมเครื่องทอปปิ้ งท่ีเราตอ้ งการเสิร์ฟ โดยซอยผกั ท้งั หมดเตรียมไว้ จดั จานให้
สวยงาม เริ่มจากขา้ วสวยอญั ชนั ของเรา ตามดว้ ยน้าบูดูท่ีเคี่ยวเสร็จแลว้ และทอ
ปปิ้ งผกั ท้งั หมด กงุ้ แหง้ โขลก มะพร้าวคว่ั และพริกแหง้ ป่ น เทา่ น้ีกพ็ ร้อมเสิร์ฟ
แลว้

16

บรรณานุกรม

1)https://kanyayaa.blogspot.com/2018/09/blog-post_26.html
2)http://sakkarin1998.blogspot.com/
3)https://sites.google.com/site/mewhrrhiranrat/xahar-phun-ban-

phakh-
ti?fbclid=IwAR27sqiDgA32wgABce2r3T6yzqQ08FjS61jnY
6E8VODOkhmrlktHby_j2Cs
4) https://sites.google.com/site/silathurakarn4444/home/bth-
thi1rschati-xahar-
thiy4phakhhttps://sites.google.com/site/silathurakarn4444/ho
me/bth-thi1rschati-xahar-thiy4phakh


Click to View FlipBook Version