บทบรรณาธกิ าร
ขอกลาวสวัสดที านผอู านบทความวารสาร Chem’s talk ฉบับไตรมาส
ที่ 1 ประจำป) 2564 ทุกทาน เราจะเจอกันทุกๆ 3 เดือน เพื่อ Update บทความ
และความรูดีๆ ใหกบั ทุกทานไดอานแกเหงา สำหรับวารสารฉบับน้ีมบี ทความเพ่ือ
นำไปใชกับงานในสวนของหองปฏิบัติการเคมี ไดแก การทวนสอบความใชไดของ
การวิเคราะห?หาปริมาณ DBNPA ดวยเทคนิค Titration ซึ่ง DBNPA เปNน
เคมภี ัณฑ?ประเภท Non-Oxidizing Biocide ทนี่ ิยมใชในระบบ RO ของโรงไฟฟZา
และสำหรับนักเคมีประจำโรงไฟฟZาเราก็มีบทความที่เก่ียวกับการบำบัดน้ำเสีย
แบบ Activated Sludge และการประเมนิ หาเชื้อ Legionella ในนำ้ หลอเยน็ จาก
Bio-fouling Coupon Test หากสามารถประเมินการเกิด Legionella เบ้ืองตน
จากหนางานได อาจลดคาใชจายในการสงวิเคราะห?โดยหองปฏิบัติการฯ ซึ่งมี
คาใชจายตัวอยางละ 2,000 บาท นอกจากน้ีเราจะพาทุกทานไปรูจักกับเซลล?
แสงอาทิตย?แบบสียอมไวแสงธรรมชาติจากไมจันแดง ท่ีมีความนาสนใจในการใช
วสั ดธุ รรมชาติมาเปNนสารเคลอื บแทนซลิ ิกอน
สุดทายจากกระแสการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ซึ่งยังคงพบผู
ตดิ เช้ืออยางตอเน่ือง ทำใหหลายๆคนกงั วล เร่ืองการระบาดและความปลอดภัย
ของตนเอง และครอบครัว ทุกคนตองกลับมาปZองกันตนเองอีกครั้งอยางแข็งขัน
แตเราจะผานมันไปดวยกัน ดวยการเวนระยะหาง สวมหนากากอนามัย ลางมือ
บอยครงั้ กินรอน ชอนกลาง สงิ่ เหลาน้ี เปNนวิธกี ารงายที่เราทุกคนชวยกันได เทาน้ี
เรากจ็ ะหางไกลตอโรค COVID-19 ไปดวยกัน แลวพบกนั ใหมในฉบบั หนา
สุธดิ า ปนji ชัยศิริ
บรรณาธิการ
สารบญั
01 การทวนสอบความใชไดของการวเิ คราะห
หาปริมาณ DBNPA ดวยเทคนิค Titration
07 ระบบบำบัดน้ำเสยี แบบ Activated Sludge
และป:ญหาทพี่ บบอ= ย
11 การประเมิน Legionella ในน้ำหลอ= เย็นจาก
Bio-fouling Coupon Test
14 เซลลแสงอาทิตยแบบสียอมไวแสง
ธรรมชาติจากไมจันแดง
1
การทวนสอบความใชไดของการวิเคราะหหาปริมาณ
2,2-Dibromo-3-nitrilopropionamide (DBNPA) ดวยเทคนคิ Titration
โดย วท.เกศินี มะโนแกว
นกั วิทยาศาสตรร ะดับ 6 หพค-ธ., กคภ-ธ., อคม.
กระบวนการผลิตนํ้าบริสุทธิ์เพื่อใชในการผลิต จากการศึกษาของ Fane ท่ีทําการศึกษา
กระแสไฟฟา มหี ลายกระบวนการ แตกระบวนการทน่ี ิยมใช เกี่ยวกับสาเหตุ การเติบโต การยับย้ัง และการติดตามของ Bio
ในปจจุบันคือการใชรีเวอรสออสโมซิส (Reverse Osmosis, Fouling ของ RO membrane 4 ซงึ่ แบงกลไกของการเกิด Bio
RO) รวมกับระบบ Electrodeionization (EDI) เน่ืองจากใช Fouling ออกเปน 5 ข้นั (รปู ท่ี 1) ดังน้ี
พ้ืนท่ีนอยและปริมาณสารเคมีที่ใชในการดูแลระบบก็นอยกวา
การผลติ นาํ้ บรสิ ุทธ์ิดว ยการแลกเปล่ยี นไอออนดว ยเรซิน ข้ันแรก : แบคทีเรียที่อยูในน้ําปอนเขา (Feed
Water) จะยึดเกาะบนพื้นผิวของเมมเบรนแบบ initial
กระบวนการ RO เปนการใชแรงดันใหน้ําผานเยื่อเมม (ยอนกลบั ได)
เบรน (Semi-membrane) ท่ีขนาดรูพรุนเทากับ 0.0001
µm จึงสามารถกรองไอออนและโมเลกุลของสารละลายท่ี ข้ันสอง : แบคทีเรียมีการแบงตัวและสรางสารเหนียว
อยูในน้ํา รวมทั้งสารตกคางและเชื้อโรคไดอยางมี ท่ีเรียกวา Extracellular Polymeric Substances (EPS)
ประสิทธิภาพ แตอยางไรก็ตามระบบ RO ก็มีขอจํากัดของ ขนึ้ มาทําใหแ บคทเี รยี เกาะติดแนนบนพนื้ ผวิ เมมเบรน
การใชงาน คือ การลดลงของฟลักซ (Flux Decline) ซึ่ง
เปนผลมาจากการอุดตันหรือการสะสมของอนุภาคบน ขั้นสาม : แบคทีเรียเพิ่มจํานวนจนเปนเซลลขนาด
พ้ืนท่ีผิวการกรองของเมมเบรน ดวยเหตุนี้จึงตองมีการใช ใหญ
สารเคมีเพ่ือลดการอุดตัน (Fouling) ทั้งการอุดตันประเภท
ตะกรัน (Scale Fouling) ท่ีเกิดจากไอออนตาง ๆ เชน ข้ันส่ี : เซลลแบคทีเรียจะติดตอสื่อสารระหวาง
แคลเซียม แมกนีเซียม ซิลิกา เปนตน และการอุดตันท่ีเกิด เซลล ที่เรียกวา “quorum sensing system” เกิดเปน
จากสารชีวภาพ (Bio Fouling) เชน ไวรัส แบคทีเรีย ช้นั ไบโอฟลม
สารอินทรีย เปนตน ซึ่งในบทความนี้จะกลาวถึงสารเคมี
DBNPA ทีเ่ ติมเพ่อื ยบั ย้งั การเกดิ Bio Fouling เปนหลกั ข้ันหา : เกิดการส่ือสารระหวางเซลลแบคทีเรียตาง
ชนิด อยางตอเน่ือง จนกลายเปนไบโอฟลมที่มีความซับซอน
ขึ้น (รูปท่ี 2) สําหรับไบโอฟลมท่ีพบจะแบงเปน 2 ชั้น คือ
ชั้นท่ีติดแนนกับพ้ืนผิวซึ่งกําจัดออกยาก (Hard biofilm
layer) และชั้นเมือกออนนุมชะลางออกงาย (Thin
biofilm layer)
2
รูปท่ี 1 แสดงการเกิด Bio Fouling
รูปท่ี 2 การเกดิ Bio Fouling บนผิวของ RO membrane กลาวถึงเฉพาะ DBNPA เน่ืองจากเปนเคมีภัณฑประเภท
Non-Oxidizing Biocide ท่ีนิยมใชในระบบ RO และใน
สําหรับเคมีภัณฑที่ใชในการยับยั้งการเกิด Bio ปจจุบันทางฝายเคมีเปน ผูจัดซื้อพรอมท้ังตรวจสอบคุณภาพ
Fouling มี ห ล า ย ช นิ ด เ ช น 2,2-Dibromo-3- เคมีภัณฑใหแกโรงไฟฟาราชบุรี (RGCO)และโรงไฟฟาเบิกไพรโค
nitrilopropionamide (DBNPA), Chlorine dioxide, เจนเนอเรชน่ั (BPC)
Sodium hypochlorite, Bromine Chloramines แ ล ะ
Phosphorus removal ซ่ึงเคมีภัณฑแตละชนิดจะมีกลไกใน 2,2-Dibromo-3-nitrilopropionamide
การยับย้ัง และมีขอดี-ขอเสียแตกตางกัน โดยบทความนี้จะ (DBNPA) เปนเคมีภัณฑท่ีทําลายผนงั หุมเซลลทําใหเซลล
ของแบคทีเรีย ฟงกไจ สาหรายหรือไวรัส ไมสามารถ
เจริญเติบโตได โดยประสิทธิภาพในการทําลายสูงและ
สามารถออกฤทธิ์ภายใน 5 -10 นาที ซ่ึง DBNPA
ส า ม า ร ถ ใ ช ง า น ไ ด ห ล า ก ห ล า ย อุ ต ส า ห ก ร ร ม เ ช น
อุตสาหกรรมยา อาหาร เคร่ืองด่ืม และอุตสากรรมอื่นๆ
นอกจากน้ยี งั สามารถใชรว มกบั คลอรนี ได สว นขอ เสยี ของ
DBNPA คือราคาสูงกวาคลอรีน หรือสารประกอบกลุม
คลอรีน เสอ่ื มสภาพไดงายทําใหอายุการใชง านส้ัน
และการเก็บรักษาคอนขางยุงยาก สําหรับ
โครงสรา ง DBNPA ดังแสดงในรปู ที่ 3
รูปที่ 3 โครงสรา งของ DBNPA 3
DBNPA ที่ฝายเคมีดําเนินการจัดหาจะเปน Publish January 2000) โดยหัวขอที่เลือกนํามาศึกษา
ชนิดของเหลว และ Active Ingredient เทากับ 19-21% คื อ “ Titrimetric QC Method for DOWICIL QK-2 0
ซึง่ คุณสมบัติทกี่ าํ หนดดังแสดงในตารางที่ 1 Anti-Microbial” ซึ่ง DOWICIL QK-20 เปนเคมีภัณฑท่ี
มี DBNPA เปนองคประกอบหลักโดยบริษัทดาว เคมิคอล
ตารางที่ 1 คณุ ลักษณะ DBNPA ของกฟผ. (อางองิ TOR 02-08/2563) ประเทศไทยจํากัด เปนผูผลิต ซึ่งตามวิธีทดสอบของ
DOWICIL QK-20 Antimicrobial Method (รูปที่ 4)
ขอ ท่ี คุณลักษณะ เกณฑท่กี าํ หนด จะใชอุปกรณ Automatic Titrator (รูปที่ 5) แตการไทเทรต
ของหอ งปฏิบตั กิ ารจะใชอุปกรณ Burette Glass แทน
1 คณุ ลักษณะโดยท่วั ไป ของเหลวใส ไมมสี ีถึงสีนํา้ ตาล
ไมมกี ลิน่ ถงึ กลิ่นออ นๆ รูปท่ี 4 DOWICIL QK-20 Antimicrobial Method
2 Active ingredient % 19 - 21 รูปท่ี 5 - อุปกรณ Autoburet: e.g., Metrohm model 665
by weight 1.2-1.3 Dodimat fitted with 20-ml burette (ซาย) และอุปกรณ
3 Specific Gravity Burette Glass (ขวา)
(at 25 °C) (g/ml)
การหาปรมิ าณ Active Ingredient ของ DBNPA
สําหรับการวิเคราะหหาปริมาณ Active Ingredient โดยเทคนคิ ไตเตรช่นั เปนการหาปริมาณ DBNPA ดวยวธิ ีไอ
ของ DBNPA เดิมจะพิจารณาจากผลใน Certificate of Analysis โอดิเมทรี (Iodometry) คือนําตัวอยาง DBNPA มาทํา
(COA)ของผูผลิต ซ่ึงในป 2562-2563ทางแผนกพัฒนาเคมีภัณฑ ปฏิกิริยากับสารโพแทสเซียมไอโอได (KI) ในสภาวะเปน
ไดศึกษาวิธีวิเคราะหหาปริมาณ Active Ingredient ทั้งจาก กรด ซ่ึงทําให Br ท่ีอยูในโมเลกุล DBNPA เกิดการแตก
บรษิ ัทผผู ลติ และเอกสารวชิ าการตางๆ โดยจากการศึกษา ตัวเปน 2Br- และเกิดไอโอดีน (I2) ซึ่งสารละลายมีสี
พบวาการวิเคราะหปริมาณ Active Ingredient ของ
DBNPA สามารถทําไดหลายเทคนิค เชน เทคนิค HPLC
เทคนิคไตเตรชัน่ เทคนคิ สเปกโตรโฟโตเมตรี เปน ตน ซงึ่
เ มื่ อ พิ จ า ร ณ า ถึ ง ค ว า ม พ ร อ ม ข อ ง อุ ป ก ร ณ แ ล ะ ค ว า ม
เ ห ม า ะ ส ม ใ น ก า ร วิเ ค ร า ะ หทั้ง หอ ง ป ฏิบัติก า ร ข อ ง
แผนกพัฒนาเคมีภัณฑหรือโรงไฟฟา จึงเลือกศึกษาการ
วิเคราะหปริมาณ Active Ingredient ของ DBNPA ดวย
เทคนิคไตเตรชั่น ซ่ึงดัดแปลงอางอิงจาก DOWICIL
QK-20 Antimicrobial Method (Printed in U.S.A.
น้ําตาลอมแดง โดยความเขมของสีข้ึนอยูกับความเขมขน 4
ของ DBNPA ในสารละลายตัวอยา ง ดังรูปท่ี 6
(d) 6.0 N Hydrochloric
รูปท่ี 6 ปฏิกริ ยิ าออกซิเดชัน่ ของของวธิ วี เิ คราะห (e) Diluent: ผสม Acetonitrile กับ Deionized Water
ปรมิ าณDBNPA ดวยเทคนคิ Titration
จากนั้นไตเตรทดวยสารละลาย 0.1 N Sodium อตั ราสวน 1:1 เก็บในภาชนะทฝ่ี าปด สนทิ
(f) Potassium Iodate
Thiosulfate (Na2SO3) ซ่ึงไอโอดีน (I2) ที่เกิดขึ้นใน วิธีทดสอบ
ส า ร ล ะ ล า ย จ ะ ทํ า ป ฏิ กิ ริ ย า กั บ โ ซ เ ดี ย ม (Na) (a) ช่ังสารละลายตัวอยาง 0.50 g ± 0.05 g ลงใน
จ า ก ส า ร ล ะ ล า ย Sodium Thiosulfate (Na2SO3)
เ กิด เ ปน ส า ร ป ร ะ ก อ บ Sodium Iodide (NaI) ขวดรูปชมพูพรอมบันทึกนาํ้ หนักของสารละลาย
เ ม่ื อ ทํ า ก า ร ไ ต เ ต ร ท จ น ถึ ง จุ ด ยุ ติ จึ งสามารถคํ านวณ (b) เตมิ KI ประมาณ 2 g ลงในขวดรปู ชมพู
หาปริมาณ Active Ingredient (ความเขมขน) ของ DBNPA (c) ตวง diluent 30 มลิ ลลิ ิตร แลว เติมลงในขวดรูป
ในหนวย % ชมพู
วธิ ีการหาปรมิ าณ Active Ingredient ของ DBNPA (d) ผสมสารละลายจนเปน เนอ้ื เดยี วกนั
อุปกรณเคร่ืองมือท่ีใช (e) ปเปต 6N HCl แลวเตมิ ลงในขวดรปู ชมพู
(f) ไตเตรทดว ย 0.1 N Sodium Thiosulfate จนถงึ
(a) Burette Glass ขนาด 100 มิลลลิ ิตร จุดยุติ
(b) บกี เกอรข นาด 25 มลิ ลลิ ิตร
(c) ขวดรปู ชมพูขนาด 250 มิลลิลิตร (สารละลายใสไมม สี ี) ดังรูปท่ี 7 บนั ทกึ ปรมิ าตรทีใ่ ช
(d) Pipette และ Pipette tip การคาํ นวณ
(e) ชอ นตักสาร
(f) กระบอกตวงขนาด 50 มลิ ลลิ ิตร % DBNPA = (Vs-Vb) x N x 6.048
(g) ขวดปรบั ปรมิ าตรขนาด 1 ลิตร S
(h) เคร่ืองช่ัง 4 ตําแหนง
สารเคมที ใ่ี ช Vs คอื ปรมิ าตรสารละลายมาตรฐาน Sodium
(a) Potassium Iodide: ACS Certified grade Thiosulfate ท่ใี ชในการไทเทรตตัวอยา ง
(b) Acetonitrile: HPLC grade
(c) 0.1 N Sodium Thiosulfate (ml)
Vb คอื ปริมาตรสารละลายมาตรฐาน Sodium
Thiosulfate ที่ใชใ นการไทเทรต blank (ml)
S คือ นํ้าหนักตวั อยาง DBNPA หนว ยเปน กรัม
N คอื ความเขมขน สารละลายมาตรฐาน Sodium
Thiosulfate หนว ยเปน Normality
รปู ที่ 7 แสดงสขี องสารละลายทีจ่ ดุ เรม่ิ ตนและจดุ ยุติ
5
เม่ือการไทเทรตมีการเปล่ียนอุปกรณท่ีใชจาก %Recovery
Automatic Titrator เปน Burette Glass เพื่อยืนยัน
ความถูกตองของวิธีการวิเคราะหท่ีพัฒนาหรือดัดแปลง โดยท่ี C1 = ความเขมขนของ Spike sample
มา จึงจําเปนท่ีตองทวนสอบความใชได (Analytical C2 = ความเขม ขนของตวั อยา ง unspike sample
Method Validation) โดยดําเนนิ การทดสอบดังนี้ C3 = ความเขม ขนของสารมาตรฐานทเ่ี ตมิ ลง
1. ขีดจํากัดการวัดเชิงปริมาณ (Limit of quantitation,
LOQ) ตวั อยา ง
2. ประเมินความถูกตอง (Accuracy) ของการวดั
3. ความเที่ยงของการวัด (Precision)
1. ขีดจาํ กดั การวัดเชิงปรมิ าณ (Limit of quantitation, LOQ)
คือปริมาณความเขมขนต่ําสุดของสารท่ี
ทดสอบ โดยสามารถหาปริมาณที่มีความแมนและ
ความเท่ียงเปน ท่ียอมรบั (LOQ = 10SD)
ผลการทดสอบ LOQ เทากับ 5.22% หมายความวา จากการคํานวณ %Recovery ท่ีความเขมขน
ความเขมขน DBNPA ตํ่าสุดท่ีวิเคราะหดวยวิธีนี้คือ เปนตาํ่ กลาง และสูง อยใู นเกณฑยอมรบั ทุกระดบั
5.22% 3. ความเท่ียงของการวัด (Precision)
2. ประเมินความถกู ตอง (Accuracy) ของการวดั การทดสอบตัวอยางชนิดเดียวกันหลายๆ
เน่ืองจากการทดสอบนี้ไมมี วัสดุอางอิง/วัสดุอางองิ ค รั้ง ความแตกตางของผลการวิเคราะหซ้ําๆ
คํานวณหาคาความเท่ียงของการวัด Repeatability
รับรอง (CRM / RM ) จึงไดทําการเตรียม QC sample precision โดยใช (HORRAT, Horwitz’s Ratio) โดย
ท่ีมี matrix ใกลเคียงกับตัวอยางเพื่อทํา spike sample มเี กณฑยอมรับ คอื คา Horrat ≤ 0.5-1.5
โดยทําการทดสอบที่ 3 ความเขมขน คือท่ี 10% , 20%
และ 25% ความเขมขนละ 7 ซํ้า แลวคํานวณหาคา HORRAT (Horwitz’s Ratio) = % RSD
Predicted Horwitz RSD
ซ่ึงจากการทดสอบตัวอยางสารเคมี DBNPA ใน 6
วันและเวลาเดียวกันแตเปลย่ี น ผูวเิ คราะห แลวนําผลการ
ส อ บ เ ที ย บ ม า เ ป รี ย บ เ ที ย บ พ บ ว า Repeatability 2. Dow Test Method, DOWM 101342-ME93A.,
precision โดยใช Horwitz’s equation คา HORRAT 1993. “Titrimetric QC method for DOWICIL
เทากับ 1.00, 0.99 และ1.00 ตามลําดับ สรุปไดวาผล QK-20 Antimicrobial” DOWICIL QK-20
การวเิ คราะหนน้ั ไมแตกตา ง Antimicrobial, U.S.A., January 2000.
เอกสารอางองิ 3. กรมวทิ ยาศาสตรบ ริการ, 2550, แนวทางการจดั ทาํ ความ
1. K. Majamaa, J.E. Johnson, U. Bertheas; ใชได (Guidelines on Validation of
Measurement): คณะกรรมการดา นวชิ าการของ
Three Step to Control Biofoling in Reverse กรมวิทยาศาสตรบริการ, หนา 33
Osmosis Systems, MDJW conference, June
2010, Trondheim Norway. 4. Chong, T. H.; Wong, F. S.; Fane, A. G., The
effect of imposed flux on biofouling in reverse
osmosis: Role of concentration polarisation
and biofilm enhanced osmotic pressure
phenomena. Journal of Membrane Science
2008, 325, (2), 840-850.
ผเู ขยี นบทความ
น.ส. เกศินี มะโนแกว
นักวิทยาศาสตร ระดับ 6
แผนกพัฒนาเคมภี ัณฑ กองเคมีภณั ฑ
7
ระบบบําบัดนา้ํ เสียแบบ Activated Sludge และปญหาท่พี บบอย
(Activated Sludge Waste Water Treatment and Troubleshooting)
ถาจะกลาวถึงระบบบําบัดน้ําเสียท่ีใชกันอยาง โดย วท.พรเทพ กฤตยเกษม
แพรหลายท่ัวไป และเปนท่ีรูจักโดยทั่วไป คงตองคิดถึง หัวหนา กองเคมวี ิเคราะห อคม.
ระบบบําบัดน้ําเสียแบบ Activated Sludge (AS) หลาย
โรงไฟฟามีระบบบําบัดนํ้าเสียชนิดนี้ใชงานอยู ซ่ึงไดรับ โดยน้ําเสียที่ถูกสงเขาถังเติมอากาศ ซึ่งมี Sludge อยู
การติดตั้งมาตั้งแตก ารกอสรางโรงไฟฟา ในบทความน้ีจึง จํานวนมากตามท่ีออกแบบไว และควบคุมสภาพภายใน
ขอนําเสนอความรูเบ้ืองตนเกี่ยวกับหลักการระบบบําบัด ถังใหเหมาะสมกบั การเตบิ โตของจลุ ินทรียแบบ Aerobic
น้ําเสียแบบ Activated sludge และปญหาท่ีมักพบเจอ จุลินทรียเหลาน้ีประกอบดวย Bacteria ประเภทแกรม
บอยครง้ั ในการเดินเครอื่ งระบบนีแ้ ละแนวทางการแกไข ลบหลายชนดิ และ Protozoa ท้งั ประเภท Flagellates,
Amoeba แ ล ะ Ciliate ซ่ึ ง ท้ั ง ห ม ด จ ะ ย อ ย ส ล า ย
1. หลกั การทาํ งานระบบ Activated sludge สารอินทรยี ในนํ้าเสยี ใหอยูในรูป CO2 และนาํ้ ในทีส่ ุด นาํ้
ระบบ Activated sludge เปนกระบวนการ เสียท่ีผานการบําบัดแลวจะถูกสงไปยังถังตกตะกอนเพื่อ
แยก Sludge ออกจากน้ําใส Sludge สวนหน่ึงจะถูกวน
บําบัดน้ําเสียทางชีววิทยา ซ่ึงอาศัยส่ิงมีชีวิตไดแก พวก ไปใชในการรักษาความเขมขน Sludge ในถังเติมอากาศ
จุลนิ ทรียใ นการกิน ทําลาย ยอยสลายดูดซบั หรือเปลี่ยน สวนท่ีเหลือจะถูกนําไปกําจัด สําหรับน้ําใสจะถูกระบาย
รูปของมวลสารอินทรียตางๆ ที่มีอยูในน้ําเสียใหมีคา ออกสสู ่ิงแวดลอ ม
ความสกปรกนอยลง โดยอาศัยปฏิกิริยาทางเคมีแบบใช
ออกซิเจนเรียกวา AEROBIC TREATMENT ระบบน้ี ระบบบําบัดนํ้าเสียโดยรวมจะแบงออกเปน 2
ประกอบดว ยอุปกรณห ลักๆ ดงั น้ี สวน สวนของ Activated sludge เปนสวนหลังของ
• ถังเตมิ อากาศ เพื่อใหเ กดิ Biological reaction ระบบ ซ่ึงน้ําเสียท่ีเขามาตองผานการกรองเอาของแข็ง
• ปมเติมอากาศ เปนแหลงของ Oxygen และทําให อนินทรียที่มีขนาดใหญออกกอนดวย Grit หรือ Bar
screen บางครั้งมีการออกแบบใหมี Primary Clarifier
เกิดการ Mixing เ พื่ อ กํ า จั ด Floatable แ ล ะ Settle able organic
• ถังตกตะกอน ใชแยกของแขง็ ออกจากนํ้าท้ิงหลังการ material ออกกอน เปนการล ดภาระของระบบ
Activated Sludge ไปดวย ดงั แสดงในภาพที่ 1
บําบดั 2. การควบคุมระบบ Activated sludge
ในการควบคุมการเดินระบบ AS ใหสามารถ
บําบัดคุณภาพน้ําเสียใหมีประสิทธิภาพสูง จําเปนตองมี
การควบคุมปจ จยั ตา งๆดังน้ี
• การควบคุม Influent feeding
ภาพที่ 1 ระบบ Activated Sludge
ทมี่ าของภาพ:https://kenkidryer.com/2020/03/14/about-
conventional-activated-sludge/
• ก า ร ค ว บ คุ ม Dissolved Oxygen แ ล ะ Mixing 8
Level
2.3 ลักษณะเฉพาะของ Activated Sludge
• การสงั เกตลกั ษณะเฉพาะของ Activated Sludge ปกติ Sludge ในระบบฯ จะมีสีนํ้าตาลแทน
• ก า ร ค ว บ คุ ม อั ต ร า Return Activated Sludge
หากทดสอบ Settleable Solid จะมีปริมาณ Sludge
(RAS) ประมาณ 200 – 300 mL./L. สวนของน้ําท่ีอยูเหนือ
• การควบคุมความเขมขน ของ Mix Liquor ระดับตะกอนใส ไมมีตะกอนลอย อายุ Sludge อยู
• การตรวจสอบ MLSS ในชวง 3 – 10 วัน หรือ 15 – 30 วัน สําหรับระบบ AS
แบบ Extended Aeration
2.1 การควบคุม Influent Feeding เขาระบบ
Activated Sludge อายุของ Sludge เปนปจจัยหน่ึงท่ีสงผลตอ
ประสทิ ธภิ าพการบาํ บัดนาํ้ เสยี ของระบบ AS เราสามารถ
การเติมนํ้าเสียเขาสูระบบ Activated Sludge สงั เกตอายขุ อง Sludge ไดดังน้ี
ตองมีการควบคุมให BOD Loading มีความสม่ําเสมอ • Sludge อายุนอย บางคร้ังสังเกตไดจากสีของ
ในกรณีท่ีมี Aeration tank หลายหนวย จําเปนตองมี โฟมเหนือผิวน้ําใน Aeration tank มีสีขาวหรือสีนํ้าตาล
การติดต้งั Splitter Box เพื่อกระจาย Load ใหทุกหนวย ออน ปญหา Sludge อายุนอย เกิดจากในระบบ AS มี
ใกลเคียงกัน ในบางระบบมีการเติมน้ําเสียเขา Aeration คา F/M (Food per Organism Mass ratio) สูงเกินไป
tank หลายจุดพรอมกัน เพ่ือกระจายความตองการ ทําใหเกิดปญหาตะกอนลอยใน Clarifier แนวทางแกไข
Oxygen ใหทั่วท้ัง Aeration tank ใกลเคียงกัน แตอาจ ใหลดการ Drain Sludge จาก Clarifier ลง เพ่ิมการ
พบปญหาน้ําเสียที่มีจุดเติมใกลจุด Outlet ของ เวยี น Sludge เพือ่ ลดคา F/M
Aeration tank ใชเ วลาในการเติมอากาศนอ ยเกินไป ทาํ • Sludge แก สังเกตไดจากสีของโฟมเหนือผิวน้ําใน
ใหค า BOD ของนํ้าทีอ่ อกจากระบบบาํ บัดน้ําเสียสูงข้ึนได Aeration tank มีสีน้ําตาลเขม การตกตะก อน ใน
Clarifier เกิดเร็ว แตจะเหลือเปนลักษณะ Pin flock ทํา
2.2 การควบคมุ Dissolved Oxygen และ Mixing ใหน้ําที่ออกจากระบบบําบัดขุน สาเหตุเกิดจากในระบบ
Level AS มีคา F/M ต่ํา แนวทางแกไขใหเพ่ิมการ Drain
Sludge จาก Clarifier ขนึ้
จุลินทรียในระบบ Activated Sludge ตองการ 2.4 การควบคุมอัตรา Return Activated Sludge
ใช Oxygen ในการออกซิไดซสารอินทรียในน้ําเสีย (RAS)
เพ่ือใหไดพลังงานในการเจริญเติบโต หากระดับของ DO
(Dissolved Oxygen) ไมเพียงพอ จะทําใหปริมาณ RAS pump rate จะเปนตัวควบคุมระยะเวลา
จุลินทรียที่ตองการลดลง สงผลถึงประสิทธิภาพการ ของ Sludge ท่ีอยูใน Clarifier หากปลอยให Sludge
บาํ บดั นํา้ เสียลดลง ทาํ ใหเ กิดกลน่ิ เหมน็ และอาจเกิดการ อยูใน Clarifier นานเกินไป Sludge จะลอยขึ้นมาอยูที่
Boom ข อ ง จุ ลิ น ท รี ย ป ร ะ เ ภ ท Anaerobic เ ช น ผิวนํ้าเนื่องจากเกิดกาซ Nitrogen จากกระบวนการ
Filamentous ข้ึนในระบบ ระดับคา DO ท่ีแนะนําให Denitrification ก า ร ค ว บ คุ ม ป ริ ม า ณ Sludge ใ น
ควบคุมในระบบประมาณ 1.0 mg./L ซ่ึงเปนระดับท่ี Clarifier จะใชการหา MLSS เปน ตวั กาํ หนดปรมิ าณของ
เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของจุลินทรีย แตหากมี Sludge ท่ีเหลืออยูเพ่ือกระบวนการ Sludge Blanket
ระดับคา DO สูงเกินไปจะทําใหเกิดตะกอนลอยใน ใน Clarifier นอกจากนี้ MLSS ใชในการคํานวณหา
Clarifier ดังนั้นคา DO ควรตองมีการตรวจติดตามอยาง ปริมาณ Sludge สูบกลับจาก Clarifier สู Aeration
สมํา่ เสมอ tank โดยท่ัวไปอัตราการสูบกลับอยูในชวง 25 – 150%
ของ Influent Flow สวนของ Sludge ที่เหลือจะถูก 9
Drain ออกจากระบบ AS เพ่ือเปนการรักษาระดับ F/M
ratio 3. ปญ หาท่ีพบบอยในระบบ Activated Sludge
2.5 การควบคมุ ความเขม ขนของ Mix Liquor ปญหาสวนใหญที่พบจากการเดินระบบ Activated
Mix Liquor คอื การผสมกันระหวา งนํ้าเสยี และ Sludge Wastewater Treatment สามารถแบงไดเปน
Microorganism หรือจุลินทรียท่ีใชบ ําบดั น้าํ เสยี ในระบบ 4 ขอ หลกั ไดด ังน้ี
AS เมื่อ Mix Liquor ไหลเขาสูระบบ Clarifier กิจกรรม • ปญหาเกดิ Foaming ในระบบ AS
ภายใน Organism จะลดลง ความเร็วของ Flow ของ • ปญ หานา้ํ ท้ิงออกจากระบบมีคา TSS สูง
Mix Liquor ลดลง เกิดกระบวนการ Bio-Flocculation • ปญ หานํ้าทงิ้ ออกจากระบบมีคา BOD และ TKN สงู
คือเกิดการรวมตัวกันของ Floc particle เปน Floc • ปญ หานาํ้ ทงิ้ ออกจากระบบมีคา pH ตํา่
ขนาดใหญและตกตะกอนลง ในขณะท่ีน้ําดานบนเปนนา้ํ 3.1 การเกิด Foam (Excess Foam)
ใสลนผาน Weir ไป Sludge บางสวนจาก Clarifier ถูก การเกิดโฟมท่ีผิวน้าํ ใน Aeration tank อยากใหผ ูค วบคุม
สูบกลับมาในถัง Aeration Tank ซึ่งท้ังหมดนี้เปน ระบบ AS พิจารณากอนวาโฟมท่ีเกิดขึ้นเปนปญหาใน
ขั้นตอนของกระบวนการ RAS การเดินระบบหรือไม หากไมเปนปญหาก็ไมตองแกไข
แตหากกระทบตอการเดินระบบตองพิจารณาสาเหตุซ่ึง
ประโยชนของ RAS เพื่อใชควบคุม F/M ratio อาจทาํ ใหเกดิ โฟมได และแนวทางการแกไขปญ หาดงั น้ี
ที่มีความสําคัญในการเดินระบบ AS หาก Sludge ใน • โฟมสาเหตุเกิดจากในระบบ AS ขาดสารอาหาร
Aeration tank มีสัดสวนนอยเกินกวาปริมาณอาหาร จําพวก Nitrogen และ Phosphorus ทําใหเกิดเปนช้ัน
จากนํ้าเสียที่เติมเขาระบบ (F/M ratio สูง) จะทําใหการ โฟมบางๆ สีเทา สามารถแกไขไดโดยเติมสารละลาย
ยอ ยสลายเกดิ ไมท ันในชวงเวลาที่ทีอ่ ยูใน Aeration tank Ammonia ผ ส ม Nitrate ใ ห มี ค ว า ม เ ข ม ข น ข อ ง
นํ้าท้ิงท่ีออกจากระบบจะมีคา BOD และ TSS สูงข้ึน Nitrogen ใ น ร ะ บ บ ป ร ะ ม า ณ 1 mg./L แ ล ะ เ ติ ม
ในทางตรงกันขามหากมี Sludge ในสัดสวนท่ีสูงกวา สารละลาย Orthophosphate ใหมีความเขมขนใน
อาหาร (F/M ratio ตํ่า) หรือมีอาหารไมเพียงพอก็ ระบบประมาณ 0.5 mg./L
สามารถทําใหระบบลมได โดยสรุปคือ RAS ใชในการ • โฟมสาเหตุเกิดจาก F/M ratio ต่ํา และมี Sludge แก
ควบคุม F/M ratio ใหเหมาะสมตามคาออกแบบเพื่อให จะเกิดโฟมลักษณะสีน้ําตาลเขม เปนชั้นบางๆ เหมือน
ระบบ AS ทาํ งานไดอ ยางมีประสิทธภิ าพมากท่ีสดุ โคลน แกไขโดยการลดความเขมขนของ Sludge ใน
2.6 การตรวจสอบคา MLSS ระบบ
• โฟมสาเหตเุ กิดจากมีสาร Detergent ในน้ําทิ้งปรมิ าณ
การควบคุมคา MLSS เปน สวนสําคัญในการเดิน มาก ช้ันโฟมมีลักษณะสีขาวเปนฟอง ตะกอนกระจายตัว
ระบบ AS หากระบบมีคา MLSS มากเกินไปจะทําใหคา ลอยบนผิวนํ้าเพราะน้ํามี Surface tension ตํ่า มักเกิด
DO ลดลง เปนเหตุใหจุลินทรียในระบบตาย แตหากตอง ในชวง Start-up และหายไปเม่ือมีปริมาณ Sludge ใน
มกี ารเตมิ Oxygen เพิ่มขนึ้ เปน การสนิ้ เปลอื งคา ไฟฟา ระบบมากขนึ้
หาก MLSS ในระบบนอยเกินไป ระบบ AS จะ
ไมมีประสิทธิภาพในการบําบัดน้ําสีย และเปนการ
สน้ิ เปลืองคาไฟฟา
3.2 น้าํ ท้งิ ออกจากระบบมคี า TSS สงู 10
น้ําทิ้งท่ีถูกบําบัดจากระบบ AS แลว แตพบวามี
สรปุ
คา TSS สงู ผดิ ปกติ มสี าเหตุหลกั มาจาก 2 เร่ือง คือ ระบบ AS เปนการบําบัดน้ําโดยใชจุลินทรีย
1) เกิดจากการปญหาตกตะกอนใน
และ Oxygen ในการออกซิไดซสารอินทรียในนํ้าเสียให
Clarifier ซึ่ ง มี ค ว า ม เ ป น ไ ป ไ ด ห ล า ย ส า เห ตุ เ ช น กลายเปน CO2 และนาํ้ แตท ้ังน้ีการควบคมุ ระบบ AS ให
Hydraulic Overload, มปี รมิ าณตะกอนใน Mix Liquor ทํ า ง า น ไ ด อ ย า ง มี ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ น้ั น มี ป จ จั ย ใ น ก า ร
มากเกินไป, ตะกอนลอย, Sludge แก, ขาดสารอาหาร, เ ดิ น เ ค ร่ื อ ง ท่ี ต อ ง ค อ ย ติ ด ต า ม อ ย า ง ส มํ่ า เ ส ม อ เ ช น
Low DO และ Low pH เปนตน ซ่ึงตองหาสาเหตุเปน Influent feed rate, DO แ ล ะ Return Sludge Rate
กรณีไป นอกจากนี้ยังตองหมั่นสังเกตลักษณะของ Sludge และ
พารามิเตอรอ่ืนๆ เชน F/M ratio, DO และ MLSS เปน
2) ร ะ ดั บ ชั้ น Sludge Blanket ใ น ตน เพ่ือใหคุณภาพน้ําท้ิงที่ออกจากระบบเปนไปตามคา
Clarifier สงู เกินไปจน ตะกอน Sludge ลน Weir มาตรฐานที่กําหนด และสามารถปลอยออกจากโรงงาน
3.2 ท้ิงออกจากระบบมีคา BOD และ TKN สูง ได
ปญหาคา BOD และ TKN ที่สูงขึ้น สาเหตุมาจาก เอกสารอา งองิ
จุลินทรียไมสามารถทํางานยอยสลายสารอินทรียในน้ํา 1 . Dr. Akshey Bhargava, 2 0 1 6 , Activated Sludge
ทิ้งไดอยางสมบูรณซึ่งอาจเกิดจากในนํ้าทิ้งท่ีบําบัดน้ันมี Treatment Process – Concept and System
สารมีพิษตอจุลินทรีย, มีสารอินทรียที่ยอยยาก หรือมี Design, IJEDR, Volume 4, Issue 2.
ปริมาณสารอินทรียท่ีเขามาในระบบ AS มากเกินไป 2 . B. Ahansazan et al., 2 0 1 4 , Activated Sludge
แนวทางแกไ ขคอื ลด F/M ratio ของระบบลง Process Overview, International Journal of
3.3 นํ้าทิง้ ออกจากระบบมีคา pH ต่ํา Environmental Science and Development, Vol.
5, No. 1.
ปญหาคา pH นํ้าที่ออกจากระบบ AS ต่ํา มา 3.Retrieve from:
จาก 2 สาเหตุหลัก คือ https://www.maine.gov/dep/water
/wwtreatment/troubleshooting_guide.pdf
1) น้ําเสียท่ีเขามาในระบบ AS มีคา pH และ
Alkalinity ตํ่าอยูแลว pH น้ําท่ีผานการบําบัดจึงมี pH
ตํ่าไปดว ย แนวทางแกไ ขคอื เติมสารเคมีเพอ่ื เพ่มิ pH
2) นํ้าเสียท่ีเขามาในระบบมี pH ปกติ แตใน
ร ะ บ บ เ กิ ด ก ร ะ บ ว น ก า ร Nitrification ทํ า ใ ห ล ด
Alkalinity และ pH ตํ่าลง เปนผลใหนํ้าทิ้งมี pH ตํ่าลง
ดวย แนวทางแกไขคอื เตมิ สารเคมเี พ่ือเพ่ิม pH
ผเู ขยี นบทความ :
นายพรเทพ กฤตยเกษม
หัวหนากองเคมีวิเคราะห
กองเคมวี ิเคราะห ฝายเคมี
11
การประเมิน Legionella ในน้ําหลอเย็นจาก Bio-fouling Coupon Test
โดย วท. ณพล กลน่ั สอน
นักวิทยาศาสตรร ะดบั 9 กคค-ธ., อคม.
Legionella เปนแบคทีเรียชนิด Pathological (a)
Bacteria ซ่ึงเปนสาเหตุของโรค Legionnaire Disease
สวนใหญของผูที่ไดรับเชื้อมักจะเสียชีวิตจากอาคารปอด
บวมอยางฉับพลัน ผูไดรับเชื้อสวนใหญมักไดรับเช้ือจาก
ละอองนํ้าของบอนํ้าพุหรือละอองนํ้าจากระบบนํ้าหลอ
เย็นของระบบปรับอากาศในอาคารท่ีไมมีการปรับสภาพ
น้ํา ทั้งน้ีน้ําหลอเย็นมีสภาวะท่ีเหมาะสมสําหรับการ
เจริญเติบโตของ Legionella ทั้งอุณหภูมิและปริมาณ
สารอาหาร อยางไรก็ตามปจจุบันถึงแมวาสถาน
ประกอบการทีมีระบบปรับอากาศขนาดใหญมีการตรวจ
ติดตามเช้ือ Legionella อยางสมํ่าเสมอ แตปจจุบันการ
ติ ด ต า ม เ ช้ื อ Legionella ใ ช วิ ธี ก า ร เ พ า ะ เ ช้ื อ ใ น
หองปฏิบัติการฯ จะใชเวลาอยางนอย 7-14 วัน กวาจะ
ทราบผล นอกจากน้ีการวิเคราะหแตละคร้ังยังมี
คาใชจา ยสงู
แนวคิด (b)
โดยท่ัวไป Legionella มักจะเจริญเติบโตบน
รปู ที่ 1 แสดง Bio-film หรอื Bio-fouling บนพื้นผวิ ของ
พื้นผิวที่มี Bio-film หรือ Bio-fouling (รูปที่ 1) ดวยเหตุ Condenser (a) และบนโครงสรางของ Cooling tower (b)
นี้หากมีการติดตาม Legionella ทางออม โดยการ
ติดตามปริมาณการเกิด Bio-film หรือ Bio-fouling โดย อยางไรก็ตามปจจุบันแนวคิดการติดตามการเกิด Bio-
หาความสมั พนั ธข องปรมิ าณ Bio-film หรอื Bio-fouling film สวนใหญเปนการติดตามเพ่ือปองกันการกัดกรอน
กับปริมาณของ Legionella ก็จะเปนวิธีประเมิน จากแบคทีเรีย เชน Sulfate reducing bacteria หรือ
Legionella ท่สี ะดวก และรวดเร็ว สามารถปรับการเติม Acid production bacteria ซ่ึงในงานศึกษานี้จะนํามา
Biocide ไดอยา งทนั ถว งที ประยกุ ตใชในการประเมิน Legionella
การใชง าน (Case Study ที่ 1) 12
ผู ศึ ก ษ า จั ด ห า Bio-film coupon ท่ี เ ป น
การใชงาน (Case Study ท่ี 2)
Stainless steel wire mesh (รูปท่ี 2) โดยใชน้ําหลอ ผูศึกษาเลือกใชน้ําหลอเย็นจากระบบ HVAC
เย็นของระบบ HVAC แหงหนึ่งที่ California เดินเคร่ือง
ตอเน่ือง 24 ช่ัวโมง โดยใชนํ้าประปาเปนนํ้า Make up แหงหนึ่งจากเมือง Denver รัฐ Colorado ซึ่งมีการ
ไมมีการใชสารเคมีในการควบคุมคุณภาพน้ํา แตใช เดินเครื่อง 24 ช่ัวโมง มกี ารใชสารเคมี Scale/Corrosion
กระบวนการทางกายภาพในการควบคุมคุมคุณภาพนํ้า phosphonate based inhibitor ร ว ม ถึ ง Stabilized
โดยใหตัวอยางน้ําหลอเย็นไหลผาน Bio-film coupon bromine แ ล ะ Gluttaraldehyde ใ น ก า ร ค ว บ คุ ม
ดวยอัตราการไหล 3-5 ฟุตตอวินาที เปนเวลา 30 วัน คุณภาพน้ํา จากการติดตาม Microbiological ดวย Dip
หลังจากนั้น Bio-film ท่ีเกิดขึ้นจะนําไปวิเคราะหหา slide รายสัปดาหตลอดการต้ิงตั้ง Bio-film coupon
Total bacteria และ Legionella ผลการวเิ คราะหแสดง (30 วัน) พบวาไมมีการเจริญเติบของ Microbiological
ดังตารางท่ี 1 (รปู ท่ี 3)
ตารางที่ 1 แสดงผลการวเิ คราะห Microbiological
รูปที่ 3 แสดงผลจาก Dip slide ซ่ึงไมพบการ
Dip Lab Stainless Mesh Bio- Legion เจริญเติบโตของ Microbiological
Slide Sample Bio- Coupon ella
(cfu/ml (cfu/ml) (cfu/cm2) นอกจากน้ีจากการเก็บตัวอยางนํ้าหลอเย็นเพ่ือ
Coupon ND วิเคราะหหา Legionella ดวยความถ่ี 2 คร้ังตอป ก็ไม
) 150 (cfu/cm2) 1.3 พบเช้ือ Legionella อยางไรก็ตามมีการติ ด ต า ม
Microbiological ดวย Bio-film coupon รวมดว ย โดย
100 0.73 ใหน้ําหลอเย็นไหลผานดวยอัตรา 3-5 ฟุตตอวินาที และ
ติดตต้ังเปนเวลา 30 วัน หลังจาก 30 วันพบ Bio-film
ท้ังน้สี อดคลองกบั สภาพของ Bio-film coupon จํานวนหนึ่งบน Bio-film coupon (รูปที่ 4) ทั้งน้ีไดเก็บ
กอนลางทําความสะอาด อยางไรก็ตามผลการวิเคราะห ตั ว อ ย า ง Bio-film จ า ก Bio-film coupon ไ ป ห า
Microbiological จาก Bio-film coupon แสดงเปน Microbiological และ Legionella อยางไรก็ตามดวย
CFU/cm2 ซ่ึงยังไมมีเกณฑควบคุมรองรับ เพราะ ความผิดพลาดในการส่ือสารทําใหไมมีการวิเคราะหหา
ปจจุบันกําหนดเกณฑควบคุม Total bacteria ในน้ํา Legionella จ า ก ตั ว อ ย า ง Bio-film ทั้ ง นี้ ผ ล
หลอเย็นใหน อ ยกวา 104 CFU/ml Microbiological และ Legionella จากตัวอยา งนํ้าหลอ
เย็นและ Bio-film แสดงดังตารางที่ 2
รปู ท่ี 2 แสดงตัวอยางของ Stainless steel wire
mesh bio-film
รปู ท่ี 4 แสดง Bio-film ทพี่ บบน Bio-film coupon 13
หลงั จากติดตั้งได 30 วัน
การนําไปใชง าน
ตารางที่ 2 แสดงผล Microbiological และ ปจจุบันโดยทั่วไปมีการติดตาม Legionella ใน
Legionella จากตวั อยางนา้ํ หลอ เย็นและ Bio-film
Dip slide Bio-film Bio-film Legionella น้ําหลอเย็นปละ 1 ครั้งหรือ 2 ครั้งการติดตั้ง Bio-film
coupon สําหรับระบบน้ําหลอเย็น หากมีการติดตาม
(cfu/ml) coupon coupon (cfu/ml) Bio-film โ ดยการติดตั้ง Bio-coupon รว มกับการ
ตดิ ตาม Microbiological ดว ย Bacteria dip slide อาจ
(cfu/ml) (cfu/cm2) ประเมินการเกิด Legionella เบื้องตน หรืออาจ
ทําการศึกษาตอเน่ืองจากการศึกษาน้ีท่ียังไมมีการ
นาํ้ Negative Negative วิเคราะหหา Legionella จากตัวอยาง Bio-film ท่ีพบ
หลอ บ น Bio-film coupon ซึ่ ง อ า จ ใ ช ใ น เ ก ณ ฑ ใ น ก า ร
เย็น พิจารณาเบ้ืองตนกอนสงตัวอยางน้ําหลอเย็นวิเคราะห
Bio- 100,000 300 Not tested Legionella โดยหอ งปฏบิ ตั ิการฯ
film ประโยชนที่จะไดรบั
จาก Case study ทั้ง 2 สามารถสรุปไดวาใน หากสามารถประเมินการเกิด Legionella
กรณีท่ีไมพบ Microbiological ดวยวิธี Dip slide และ เบ้ืองตนจากหนางานได อาจลดคาใชจายในการสง
ไมพบ Bio-film จาก Bio-film coupon สามารถสรุป วิเคราะหโดยหองปฏิบัติการฯ ซึ่งมีคาใชจายตัวอยางละ
เบ้ืองตนไดวาจะไมพบ Legionella อยางไรก็ตามใน 2,000 บาท ท้ังนี้หากประเมินจากโรงไฟฟาซ่ึงเก็บ
กรณีที่ไมพบ Microbiological ดวยวิธี Dip slide แต ตัวอยางน้ําหลอเย็นเพ่ือหา Legionella ครั้งละ 5
พบ Bio-film บน Bio-film coupon ยังไมสามารถสรุป ตั ว อ ย า ง ไ ด แ ก Cooling make up, Cooling # 1 ,
ไดวาไมพบ Legionella ท้ังน้ีเน่ืองจากในการศึกษาน้ีไม Cooling #2, Cooling bleed off #1 และ Cooling
การหา Legionella จากตวั อยาง Bio-film bleed off #2 คิดเปนคาใชจายคร้ังละ 10,000 บาท
หรือ 20,000 บาทตอป
เอกสารอา งองิ
1.A Field Friendly Bio-Film Monitoring Procedure
for Cooling Tower Water – Offering the Potential
to Minimize the Risk of Legionnaire Disease: Paul
R. Puckorios, Puckorius & Associate, Inc; Dr.John
Dresty, Jr.,
2.Bio-Film Coupon, Metal Sample Company.
ผเู ขียนบทความ :
นายณพล กลน่ั สอน
นกั วทิ ยาศาสตรระดบั 9
กองเคมีคุณภาพ ฝา ยเคมี
14
บทความวจิ ยั
เร่ือง
“เซลลแ์ สงอาทิตยแ์ บบสยี ้อมไวแสงธรรมชาติจากไมจ้ ันแดง”
Dye Sensitized Solar Cells from Natural Dye Red Sandal Wood
ส้าหรับบทความวิชาการครังนี กคฟ-ธ. ได้น้า โดย วท. ธนั ยบรู ณ์ ธัญญโชติไพบลู ย์
บทความวิจัยจากวารสารมหาวิทยาลัยทักษิณ ปีที่ 17 หัวหนา้ กองเคมโี รงไฟฟ้า อคม.
ฉบัับท่ี 3 ฉบับพิเศษ ที่มีความน่าสนใจในการใช้วัสดุ
ธรรมชาตมิ าเป็นสารเคลือบแทนซิลิกอน ซึง่ แสดงให้เห็น ท้าได้โดยการประกบกระจกทังสองด้านเข้าด้วยกันแล้ว
ว่า ได้มีความพยายามศึกษา และน้าวัสดุธรรมชาติมาใช้ เติมสารละลายอิเล็กโทรไลต์คู่รีดอกซ์ I-/I3- เข้าไป
เพื่อให้ Solar cell เป็นพลังงานทดแทนที่เป็นมิตรกับ ระหว่างกระจกทังสองด้านแล้วจึงซีลรอบเซลล์ เพื่อ
สิง่ แวดลอ้ ม ป้องกันการสญู เสียสารละลายอิเลก็ โทรไลต์
หลกั การทางานทั่วไปของ Solar Cell
รูปที่ 1 องค์ประกอบพืนฐานของเซลล์แสงอาทิตยช์ นดิ สี
พ ลั ง ง า น แ ส ง อ า ทิ ต ย์ นั บ เ ป็ น ท า ง เ ลื อ ก ที่ มี ย้อมไวแสง
ศักยภาพสูงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในช่วง 20 ปีที่
ผ่านมา โดยได้มีการพัฒนาเซลล์แสงอาทติ ย์ชนิดสยี อ้ มไว ขนั ตอนการท้างานของเซลลแ์ สงอาทิตย์ชนิดสยี ้อมไว
แสง (Dye-Sensitized Solar Cells, DSSCs) ซึ่งข้อดี แสง มดี ังนี
ของเซลล์แสงอาทิตย์ชนิดนีคือมีราคาต้่ากว่าเซลล์ ขั้นตอนท่ี 1
พ ลั ง ง า น แ ส ง อ า ทิ ต ย์ แ บ บ เ ดิ ม ซึ่ ง เ ป็ น แ ผ่ น ซิ ลิ ก อ น
เน่ืองจากไม่ต้องใช้ระบบสุญญากาศในการผลิตรวมทัง แสงตกกระทบโมเลกุลของสียอ้ มไวแสง ทา้ ใหส้ ี
สามารถท้างานได้อย่างมีประสิทธิภาพภายใต้ความเข้ม ยอ้ มในสถานะปกติ (S) ไดร้ ับการกระตุน้ (S*)
แสงต้า่ ข้ันตอนที่ 2
ส่วนประกอบพืนฐานของเซลล์แสงอาทิตย์ชนิดสี สยี ้อมท่ีได้รับการกระตุน้ แลว้ (S*) จา่ ย
ย้อมไวแสง เป็นดังแสดงในรูปที่ 1 โดยขัวแอโนด อิเล็กตรอนไปยงั ชนั แถบตวั นา้ (Conduction band)
ประกอบด้วยกระจกตัวน้า (Conducting glass) และ ของไทเทเนยี มไดออกไซด์ (TiO2) ท้าให้สยี ้อมมีประจุ
ฟิล์มไททาเนียมไดออกไซด์ (TiO2) ที่เคลือบด้วยสีย้อม เป็นบวก (S+)
ส่วนขวั แคโทด (Cathode) เป็นกระจกตัวน้าเคลือบด้วย
ฟิลม์ ตวั เร่งปฏิกิรยิ าแพลทนิ ัม (Pt) การประกอบเซลล์
ขนั้ ตอนที่ 3 15
อิเลก็ ตรอนจะเคลอ่ื นผานแถบตวั นาํ ของ
แมวาเซลลแสงอาทิตยชนิดสียอมไวแสงจะมี
ไทเทเนยี มไดออกไซดไ ปท่ีข้ัวแอโนดและผา นวงจรไฟฟา ขอดีหลายประการ แตก็มีขอเสียอยูบางโดยเฉพาะท่ี
และทําใหเกดิ กระแสไฟฟา ขึ้น จากนน้ั อเิ ล็กตรอนจะ เก่ียวของกับสารอิเล็กโทรไลตที่เปนของเหลว คือมี
เคลอ่ื นทีเ่ ขาสูขั้วแคโทด ปญหาการร่ัวซึมของอิเล็กโทรไลตในบริเวณรอยตอ
ข้นั ตอนท่ี 4 ระหวางกระจกสองแผนทําใหเกิดการเส่ือมสภาพของ
เซลล ซึ่งนักวิจัยพยายามแกปญหาโดยการใชอ ิเล็กโทร
สารอเิ ลก็ โทรไลตจ ะรับอิเล็กตรอนท่ีผา นขัว้ ไลตในรูปของแข็ง หรือเจลแทนชนิดของเหลว ซ่ึง
แคโทด จากนนั้ จงึ คนื อิเล็กตรอนใหแ กสยี อ มไวแสงท่ี แมวาจะแกปญหาประเด็นการรั่วซึมของอิเล็กโทรไลตได
สูญเสียอิเล็กตรอน (S+) ทําใหโมเลกุลสียอ มกลับสู แตมีผลทําใหประสิทธิภาพของเซลลลดลง เน่ืองจาก
สภาวะปกติ (S) ความสามารถในการสงผานอิเล็กตรอนของอเิ ล็กโทรไลต
แบบแขง็ หรอื เจลคอ นขา งตาํ่
เอกสารอางอิง
1. บทความวจิ ัย“เซลลแ สงอาทติ ยแบบสยี อมไวแสง
ธรรมชาติจากไมจันแดง”
2. http://www.sunpro-solar.net/article/5/
หลักการทํางานของแผงโซลารเซลลเ บอื้ งตน
3. http://www.mut.ac.th/research-detail-89
ผเู รียงรอ ยบทความ
(เรียบเรียงขอมูลจากทมี่ าตามเอกสารอา งอิง
โดยมิไดแ ตงเติมประโยคใดๆทั้งสนิ้ )
นางธนั ยบรู ณ ธัญญโชติไพบลู ย
ตําแหนง หวั หนา กองเคมโี รงไฟฟา ฝา ยเคมี