กล ุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระนาฏศิลป์ : ชั้นประถมศึกษาปี ที่ ๕
• มีส่วนร่วมในกลุ่มกับการเขียนเค้าโครงเรื่องหรือบทละครสั้น ๆ (ศ ๓.๑ ป.๕/๔)
องค์ประกอบของละคร
๑. โครงเรื่อง โครงเรื่อง คือ การวางแผนก าหนดลักษณะการกระท า ต่าง ๆ ของตัวละคร และการล าดับเหตุการณ์ที่จะต้อง เกิดขึ้นในละคร ท าให้ผู้ชมเข้าใจได้ว่าตัวละครใด ท าอะไร ที่ไหน มีความเป็นมาอย่างไร มีเหตุการณ์อะไร เกิดขึ้นบ้าง และมีผลสรุปออกมาเป็นอย่างไร ตั้งแต่เริ่มต้น เรื่องจนจบเรื่องตามความต้องการของผู้ประพันธ์
แก่นของเรื่อง คือ จุดมุ่งหมายส าคัญของละคร ข้อคิดต่าง ๆ ที่ผู้ประพันธ์ได้สอดแทรกไว้ในเนื้อเรื่อง เช่น สอนจริยธรรม สอนเรื่องความรัก ความสามัคคี เพื่อให้ผู้ชม ได้รับประโยชน์จากการชมละคร ๒. แก่นของเรื่อง
ในละครแต่ละเรื่องจะต้องมีการก าหนดบุคลิก ลักษณะนิสัยของตัวละคร ว่าตัวละครนั้นมีนิสัยอย่างไร มีความสัมพันธ์อย่างไรกับตัวละครอื่น ๆ ซึ่งการวางลักษณะ ของตัวละครนั้น ขึ้นอยู่กับผู้เขียนบทละครว่าต้องการให้ ตัวละครนั้นมีลักษณะนิสัยอย่างไร และจะต้องมีความ เหมาะสมกับเรื่องราวและตัวละครอื่น ๆ ในเรื่องด้วย ๓. ลักษณะของตัวละคร
บรรยากาศที่ใช้ในการแสดง คือ สิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัว ละคร เป็นสิ่งที่ช่วยสร้างอารมณ์ ความรู้สึก ความประทับใจ ให้ผู้ชมละครได้ซาบซึ้ง และมีอารมณ์ร่วมไปกับตัวละคร ท า ให้ผู้ชมสามารถรู้สึกได้ว่าตัวละครนั้นอยู่ในบรรยากาศ ลักษณะนั้นจริง ๆ ๔. บรรยากาศ
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12
การเขียนเค้าโครงเรื่อง คือ การเขียนเนื้อเรื่อง ตามค ว ามสนใจ ค ว ามรู้ ป ระสบกา รณ์และ จินตนาการของผู้เขียน ซึ่งผู้เขียนจะต้องคิดว่าจะเขียนเรื่อง ที่มีลักษณะอย่างไร มีตัวละครใดบ้าง โดยใช้ภาษาที่ เข้าใจง่าย และมีการสอดแทรกข้อคิดที่ผู้ชมสามารถ น าไปปรับใช้ในชีวิตประจ าวันได้ไว้ในเนื้อเรื่อง การเขียนเค้าโครงเรื่องของละคร
ลักษณะการเขียนเค้าโครงเรื่อง มีขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนการเขียนเค้าโครงเรื่อง ๑. การเริ่มเรื่อง เป็นการเปิดตัวละครเพื่อบ่งบอกลักษณะนิสัยของตัวละคร ในเรื่องและก าหนดสถานการณ์เพื่อด าเนินเรื่อง ๒. ปัญหาของเรื่อง เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวละครส าคัญของเรื่อง เช่น ปัญหาความ ขัดแย้ง การต่อสู้ เพื่อให้ตัวละครส าคัญในเรื่องต้องดิ้นรนแก้ไข ๑. การเริ่มเรื่อง เป็นการเปิดตัวละครเพื่อบ่งบอกลักษณะนิสัยของตัวละคร ในเรื่องและก าหนดสถานการณ์เพื่อด าเนินเรื่อง ๒. ปัญหาของเรื่อง เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวละครส าคัญของเรื่อง เช่น ปัญหาความ ขัดแย้ง การต่อสู้ เพื่อให้ตัวละครส าคัญในเรื่องต้องดิ้นรนแก้ไข ๓. จุดวิกฤตการณ์ เป็นความเข้มข้นของเรื่อง เป็นจุดส าคัญที่สุด ตื่นเต้นที่สุด ท าให้ตัวละครตัดสินใจ และสามารถแก้ไขปัญหาได้ ๔. การจบเรื่อง คือ ผลลงเอยหรือจุดจบที่ตัวละครแต่ละตัวได้ท าลงไป จะแสดง ให้เห็นข้อคิด คติสอนใจเพื่อส่งเสริมให้เป็นคนดี ไม่ท าความชั่ว
บทละครสั้น ๆ บทละคร คือ เรื่องราวที่แต่งขึ้นส าหรับผู้แสดงที่รับบทบาทเป็น ตัวละครนั้น ซึ่งจะต้องมีความสอดคล้องเหมาะสมกับเรื่องราวและสัมพันธ์กับ ตัวละครอื่น บทละครสั้น ๆ เป็นบทละครที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน ซึ่งอาจน ามา จากเหตุการณ์ที่ประทับใจ น่าจดจ า และมีความสร้างสรรค์ เป็นบทละครที่ สามารถสอดแทรก และส่งเสริมในเรื่องของความมีคุณธรรม ความดี การ บ าเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมได้ ละครเรื่อง ปลาบู่ทอง เป็นละครที่ได้รับความนิยม สอดแทรกข้อคิดเรื่องการท าความดี
• มีส่วนร่วมในกลุ่มกับการเขียนเค้าโครงเรื่องหรือบทละครสั้น ๆ (ศ ๓.๑ ป.๕/๔)
๑. ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของละคร ก. ท านอง ข. โครงเรื่อง ค. บรรยากาศ ง. แก่นของเรื่อง เฉลย
๒. “ตัวละครตัวนี้เป็นคนดี มีจิตใจเมตตาไม่เห็น แก่ตัว” เป็นองค์ประกอบของ ละครในข้อใด ก. แก่นของเรื่อง ข. สถานการณ์ของเรื่อง ค. ลักษณะนิสัยของตัวละคร ง. จุดมุ่งหมายส าคัญของตัวละคร เฉลย
๓. แก่นของเรื่องหมายถึงข้อใด ก. แผนการที่ก าหนดไว้ในเรื่อง ข. แง่คิดที่สอดแทรกไว้ในเรื่อง ค. บุคลิกของตัวละครแต่ละตัว ง. ความรู้สึก อารมณ์ของเนื้อเรื่อง เฉลย
๔. สิ่งแรกที่ผู้ประพันธ์เรื่องจะต้องท า ก่อนลงมือเขียนบทละครคือข้อใด ก. เขียนเหตุการณ์รายละเอียดของเรื่อง ข. เขียนจุดส าคัญของเรื่อง ค. เขียนผลสรุปของเรื่อง ง. เขียนเค้าโครงเรื่อง เฉลย
๕. เหตุการณ์ใดเป็นจุดวิกฤตการณ์ของตัวละคร ก. ต ารวจจับผู้ร้ายได้ ข. ลูกพาแม่ไปโรงพยาบาล ค. นางเอกเดินทางไปเรียนต่างประเทศ ง. พระเอกต่อสู้กับคนร้ายตัวต่อตัว เฉลย
๖. ตอนจบของละครส่วนใหญ่มุ่งเน้นสอนเรื่องใด ก. สอนให้คนเป็นคนดี ไม่ท าชั่ว ข. สอนให้คนมีความร่ ารวย ค. สอนให้คนต่อสู้กับคนไม่ดี ง. สอนให้คนรักความสะดวกสบาย เฉลย
๗. ข้อใดเป็นความหมายของบทละคร ก. เรื่องราวที่เขียนขึ้นให้ผู้ชมได้ศึกษา ข. เรื่องราวที่เป็นจุดเด่นของตัวละคร ค. เรื่องราวที่เขียนอธิบายที่มาของละคร ง. เรื่องราวที่แต่งขึ้นส าหรับผู้แสดงเป็น ตัวละครนั้น เฉลย
๘. บทละครสั้น ๆ ที่ดีควรมีลักษณะอย่างไร ก. มีรายละเอียดมาก ข. เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน ค. สร้างสรรค์ ใช้ภาษาที่แปลกใหม่ ง. ไม่จ าเป็นต้องสอดคล้องกับเนื้อเรื่อง เฉลย
๙. ข้อใดเป็นการน าประโยชน์ของละครมาใช้ได้ถูกต้อง ก. ปฏิบัติตามตัวละครที่ไม่ดี ข. ลอกเลียนแบบพฤติกรรมตัวละครที่ชอบ ค. น าสิ่งดี ๆ ในละครมาปรับใช้ในชีวิตประจ าวัน ง. ปฏิบัติตนเองเป็นแบบตัวละครที่ชอบให้มากที่สุด เฉลย
๑๐. “ละครช่วยคลายเครียด ท าให้คนเรามีความสุข” จากข้อความเป็นประโยชน์ของละครข้อใด ก. ละครช่วยพัฒนาพฤติกรรม ข. ละครช่วยพัฒนาอารมณ์ของมนุษย์ ค. ละครช่วยพัฒนาความเป็นอยู่ของมนุษย์ ง. ละครช่วยสร้างสิ่งแปลกใหม่ให้กับมนุษย์ เฉลย
ต่อ ข้อ ๒ ๑. ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของละคร ก. ท านอง ข. โครงเรื่อง ค. บรรยากาศ ง. แก่นของเรื่อง เฉลย ก. เพราะองค์ประกอบ ของการแสดง ประกอบด้วยโครงเรื่อง แก่นของเรื่อง ตัวละคร และบรรยากาศ ✗
ต่อ ข้อ ๓ ๒. “ตัวละครตัวนี้เป็นคนดี มีจิตใจเมตตาไม่เห็น แก่ตัว” เป็นองค์ประกอบของ ละครในข้อใด ก. แก่นของเรื่อง ข. สถานการณ์ของเรื่อง ค. ลักษณะนิสัยของตัวละคร ง. จุดมุ่งหมายส าคัญของตัวละคร เฉลย ค. เพราะลักษณะนิสัยของตัว ละครจะบ่งบอกถึงบุคลิกลักษณะนิสัย และความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น ๆ ในเรื่อง ✗
ต่อ ข้อ ๔ ๓. แก่นของเรื่องหมายถึงข้อใด ก. แผนการที่ก าหนดไว้ในเรื่อง ข. แง่คิดที่สอดแทรกไว้ในเรื่อง ค. บุคลิกของตัวละครแต่ละตัว ง. ความรู้สึก อารมณ์ของเนื้อเรื่อง เฉลย ข. เพราะแก่นของเรื่องคือจุดมุ่งหมายส าคัญของละคร เป็นสิ่งที่ ผู้ประพันธ์ต้องการสอดแทรกไว้ในเรื่องให้ผู้ชมได้แง่คิดที่เป็นประโยชน์ ✗
ต่อ ข้อ ๕ ๔. สิ่งแรกที่ผู้ประพันธ์เรื่องจะต้องท า ก่อนลงมือเขียนบทละครคือข้อใด ก. เขียนเหตุการณ์รายละเอียดของเรื่อง ข. เขียนจุดส าคัญของเรื่อง ค. เขียนผลสรุปของเรื่อง ง. เขียนเค้าโครงเรื่อง เฉลย ง. เพราะการเขียนเค้าโครงเรื่องเป็นการเริ่มต้นวางแผนและล าดับ เหตุการณ์ของเรื่อง เริ่มจากการเขียนล าดับว่า ใครท าอะไรที่ไหน เป็นมาอย่างไร มีปัญหาและแก้ปัญหาอย่างไร จนน าไปสู่การสรุปจบ ✗
ต่อ ข้อ ๖ ๕. เหตุการณ์ใดเป็นจุดวิกฤตการณ์ของตัวละคร ก. ต ารวจจับผู้ร้ายได้ ข. ลูกพาแม่ไปโรงพยาบาล ค. นางเอกเดินทางไปเรียนต่างประเทศ ง. พระเอกต่อสู้กับคนร้ายตัวต่อตัว เฉลย ง. เพราะจุดวิกฤตการณ์คือตอนที่เข้มข้น และตื่นเต้นที่สุดของเรื่อง ท าให้ผู้ชมได้ลุ้นกับการจัดการกับปัญหาของตัวละคร ✗
ต่อ ข้อ ๗ ๖. ตอนจบของละครส่วนใหญ่มุ่งเน้นสอนเรื่องใด ก. สอนให้คนเป็นคนดี ไม่ท าชั่ว ข. สอนให้คนมีความร่ ารวย ค. สอนให้คนต่อสู้กับคนไม่ดี ง. สอนให้คนรักความสะดวกสบาย เฉลย ก. เพราะตอนจบของละครเป็นการลงเอยในสิ่งที่ตัวละครได้ท าแสดงแง่คิด ที่สอนให้คนเป็นคนดีเป็นแนวทางการใช้ชีวิตไม่ให้หลงไปท าความชั่ว ✗
ต่อ ข้อ ๘ ๗. ข้อใดเป็นความหมายของบทละคร ก. เรื่องราวที่เขียนขึ้นให้ผู้ชมได้ศึกษา ข. เรื่องราวที่เป็นจุดเด่นของตัวละคร ค. เรื่องราวที่เขียนอธิบายที่มาของละคร ง. เรื่องราวที่แต่งขึ้นส าหรับผู้แสดงเป็น ตัวละครนั้น เฉลย ง. เพราะบทละครคือการแต่ง เรื่องราวส าหรับตัวละครนั้นให้สอดคล้อง กับเรื่องราวบทละครมีความเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน สอดแทรก และส่งเสริม คุณธรรมที่ดีต่อสังคม ✗
ต่อ ข้อ ๙ ๘. บทละครสั้น ๆ ที่ดีควรมีลักษณะอย่างไร ก. มีรายละเอียดมาก ข. เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน ค. สร้างสรรค์ ใช้ภาษาที่แปลกใหม่ ง. ไม่จ าเป็นต้องสอดคล้องกับเนื้อเรื่อง เฉลย ข. เพราะบทละครสั้น ๆ ที่ดี ควรมีลักษณะเข้าใจง่าย เนื้อเรื่อง ไม่ซับซ้อน สอดแทรกคุณธรรม และคติสอนใจการบ าเพ็ญประโยชน์ ✗ ต่อสังคม
ต่อ ข้อ ๑๐ ๙. ข้อใดเป็นการน าประโยชน์ของละครมาใช้ได้ถูกต้อง ก. ปฏิบัติตามตัวละครที่ไม่ดี ข. ลอกเลียนแบบพฤติกรรมตัวละครที่ชอบ ค. น าสิ่งดี ๆ ในละครมาปรับใช้ในชีวิตประจ าวัน ง. ปฏิบัติตนเองเป็นแบบตัวละครที่ชอบให้มากที่สุด เฉลย ค. เพราะละครให้ประโยชน์ ในด้านการพัฒนาสติปัญญา อารมณ์ และท าให้เข้าใจพฤติกรรมของคนซึ่งสามารถน าไปปรับใช้ในชีวิตประจ าวันได้ ✗
๑๐. “ละครช่วยคลายเครียด ท าให้คนเรามีความสุข” จากข้อความเป็นประโยชน์ของละครข้อใด ก. ละครช่วยพัฒนาพฤติกรรม ข. ละครช่วยพัฒนาอารมณ์ของมนุษย์ ค. ละครช่วยพัฒนาความเป็นอยู่ของมนุษย์ ง. ละครช่วยสร้างสิ่งแปลกใหม่ให้กับมนุษย์ เฉลย ข. เพราะประโยชน์ของละครคือ ช่วยพัฒนาด้านสติปัญญา ความคิด และอารมณ์ช่วยคลายเครียดท าให้คนเรามีความสุข ✗ ไป หน้าแรก