แผนการสอนแนะแนว ม.2_1-1_64_ครูเริงนภา

48

แผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ที่ 11

เรื่องอาชีพทฉ่ี นั ใฝฝ่ ัน เวลา 1 ชว่ั โมง

หน่วยการจดั กิจกรรมอาชพี ระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2

ครูผู้สอน นางสาวเริงนภา อาํ ทะวงษ์ ครทู ่ปี รกึ ษาชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 2/1

***************************************************************************

1. สาระสาคญั

การดํารงชวี ิตของมนษุ ย์ทั่วไปคือการหารายได๎มาเล้ียงชพี หรือจัดหาสงิ่ จําเปน็ สําหรบั ชวี ติ คอื อาหาร

เคร่ืองดืม่ ทอ่ี ยูอํ าศัยและยารกั ษาโรค การเลือกอาชีพทต่ี รงกบั ความสนใจ ความถนดั และมที ัศนคติที่ดีตํอ

อาชีพ จะทําใหก๎ ารประกอบอาชีพมปี ระสิทธิภาพมากยง่ิ ข้ึน การมีอาชพี จะทําใหร๎ ส๎ู ึกวาํ ตนเองมคี ณุ คําที่

สามารถเลย้ี งชวี ิตและครอบครัวได๎3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1. เพือ่ ใหผ๎ ๎ูเรียนสามารถบอกลักษณะของอาชพี ในฝันของตนได๎

2. เพื่อให๎ผู๎เรยี นสามารถตัดสนิ ใจเลอื กอาชพี ได๎อยาํ งมเี หตุผล

3. เพือ่ ให๎ผ๎ูเรยี นมคี วามภมู ิใจในอาชพี ทต่ี นเองได๎นําเสนอ

3. สาระการเรียนรู้

การมองเหน็ อาชพี ในอนาคตตนเองและสามรถเลือกอาชีพได๎อยํางมเี หตุผล

4. ชน้ิ งาน / ภาระงาน

1. ใบงานท่ี 1 “การรูจ๎ ักอาชีพ”

5. วิธีการจดั กิจกรรม

1. ครใู ห๎นกั เรียนน่งั สมาธิเพ่อื ทําจติ ใจให๎สงบกํอนเรียน

2. ครนู าํ เข๎าสูํบทเรียน โดยสนทนาซักถาม

- ผู๎ปกครองของนกั เรยี นประกอบอาชีพอะไรกนั บา๎ ง

- นักเรียนร๎ูจกั อาชีพในสังคมมากนอ๎ ยเพยี งใด

- นกั เรยี นมคี วามหวงั ในอาชพี ของตนเองมากน๎อยเพยี งใด

- นักเรยี นคนใดต๎องการประกอบอาชีพตามผู๎ปกครองบ๎าง

3. - ครูให๎ความรก๎ู ับนักเรยี นเก่ียวกบั อาชพี ตํางๆโดยครูให๎ดรู ปู ของอาชีพตาํ งๆในสังคมและแจกใบ

งานใหก๎ ับนกั เรียนแตลํ ะคนตอบคาํ ถาม

4. ครูให๎นักเรยี นตอบคาํ ถามและเขยี นอาชพี ท่ีตนเองใฝุฝนั ลงในใบงาน

5. นกั เรียนสบั เปลย่ี นกนั ออกมานําเสนออาชีพของตนเองใหเ๎ พือ่ นในหอ๎ งได๎ฟงั

6. ครูผู๎สอนเปิดโอกาสให๎นกั เรียนซักถามในเร่ืองท่ตี นเองยงั ไมํเขา๎ ใจเกยี่ วกับเรอ่ื ง

7. ผ๎สู อนและผ๎เู รียนสรปุ ความร๎ูรํวมกนั

นางสาวเริงนภา อาทะวงษ์ การจัดกจิ กรรมแนะแนว ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 2/1 โรงเรยี นโคกโพธไิ์ ชยศึกษา

49

6. ส่อื / อปุ กรณ์

1. ใบงานท่ี 1 “การรู๎จกั อาชีพ”

7. การประเมนิ ผล

1. วธิ กี ารประเมิน

1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมการเข๎ารวํ มกิจกรรมของผูเ๎ รียน

1.2 สงั เกตจากการวิเคราะห์และสรปุ งานลงในสมุด

2. เครอ่ื งมอื

2.1 สมดุ บันทึกการเขา๎ รวํ มกจิ กรรมพัฒนาผเู๎ รียนกิจกรรมแนะแนว

2.2 แบบบนั ทกึ หลังการสอน

3. เกณฑก์ ารประเมิน

ระดบั คุณภาพ ขอ้ ความบ่งช้คี ณุ ภาพ

ผาํ น ทาํ ใบงานสํง ใหค๎ วามรํวมมอื ในการตอบคาํ ถาม ใหค๎ วามรวํ มมือในการทาํ งานกลมุํ

ไมผํ ําน ไมํทําในสงิ่ ใดสง่ิ หนึง่ ใน 3 ขอ๎

นางสาวเรงิ นภา อาทะวงษ์ การจัดกิจกรรมแนะแนว ระดับชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 2/1 โรงเรยี นโคกโพธิไ์ ชยศกึ ษา

50

ใบงาน

อาชพี ตํารวจมีหน๎าท่ีดูแลรักษาความสงบให๎กับราษฎรใชํหรอื ไม.ํ ..................
ทุกอาชพี ต๎องมวี ุฒกิ ารศึกษาในการประกอบอาชีพใชํหรอื ไม.ํ ....................
เก็บขยะเปน็ อกี หนึ่งอาชีพใชํหรอื ไมํ.....................
การมอี าชีพทด่ี ีขน้ึ อยํกู ับการศกึ ษาใชหํ รอื ไม.ํ .............................
ความสามารถในการประกอบอาชพี ขึน้ อยูกํ บั พรสวรรค์ใชํหรือไม.ํ ....................
ทกุ คนสามารถทาํ อาชพี แทนกันได๎ใชํหรอื ไมํ......................................

อาชีพทฉี่ ันใฝฝ่ ันคอื
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
ฉันเลอื กอาชพี นี้เพราะ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

นางสาวเรงิ นภา อาทะวงษ์ การจัดกจิ กรรมแนะแนว ระดับชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2/1 โรงเรียนโคกโพธิไ์ ชยศึกษา

51

แผนการจัดการเรยี นรกู้ ิจกรรมแนะแนวท่ี 12

เร่ืองโลกกว้างทางการศึกษา เวลา 1 ชั่วโมง
หน่วยการจัดกิจกรรมการศึกษา ระดับชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 2
ครผู ูส้ อน นางสาวเริงนภา อําทะวงษ์ ครูท่ปี รึกษาชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 2/1

***************************************************************************
1. สาระสาคญั

การเรยี นร๎ูเกี่ยวกบั ระบบการจดั การศึกษาในโรงเรยี น ดา๎ นหลกั เกณฑ์การผาํ นชํวงช้ันและการจบ

หลกั สูตรการศกึ ษาสงู สดุ ในโรงเรียน จะทําให๎สามารถต้งั เปาู หมายชีวติ และวางแผนเพ่ือให๎ตนเองสามารถเรียนรู๎
และบรรลเุ ปูาหมายตามความประสงค์

2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. เพ่อื ใหผ๎ ู๎เรยี นสามารถบอกวิธกี ารเรยี นรู๎จนจบการศึกษาได๎
2. เพ่อื ใหผ๎ ู๎เรยี นสามารถเขียนข้ันตอนวธิ กี ารเรยี นให๎จบหลักสูตรการศกึ ษาของตนได๎

3. เพอื่ ให๎ผู๎เรยี นนําขนั้ ตอนวิธีการเรยี นใหจ๎ บหลกั สูตรการศกึ ษาของตนเองไปปฏิบัติอยํางภาคภูมิใจ
3. สาระการเรยี นรู้

ผ๎ูเรียนมีความร๎คู วามเข๎าใจเก่ยี วกับแนวทางการศกึ ษาท่มี ผี ลตํอการดําเนินชวี ติ

4. ช้นิ งาน / ภาระงาน
1. ใบงานที่ 1 “ใบงานเรือ่ งการเรยี นตํอ”

2. ใบความรู๎ แผนผังการเรียนตํอบนกระดาน
5. วธิ ีการจัดกิจกรรม

1. นกั เรยี นมีความรู๎ความเขา๎ ใจเกีย่ วกับการศกึ ษาภายในโรงเรยี น

- นักเรียนมคี วามคาดหวังหรือตัง้ ใจในการใหเ๎ รียนสงู แคํไหน

- ผ๎ูสอนสอบถามความต๎องการในการประกอบอาชีพในอนาคต

สุมํ เลือกตวั อยํางจากนกั เรียน 2-3 คน

- ผ๎ูสอนเลาํ ประสบการณ์ของการเรยี นท่ผี าํ นมาให๎กับนกั เรยี น

- ผู๎สอนสอบถามความต๎องการของนักเรียนแตํละคนวําต๎องการเรียนตํอในสายการ

เรียนอะไร

2. ครูนาํ เข๎าสบํู ทเรยี น โดยครูทําการวาดแผนผงั การเรยี นตอํ ใหก๎ บั นักเรียนดบู นกระดาน
3. ครแู จกใบงานใหก๎ ับนกั เรียนแตํละคนได๎ทํา
4. ครเู ปดิ โอกาสให๎นักเรียนซกั ถามในเร่ืองทต่ี นเองยังไมเํ ข๎าใจเกยี่ วกับเร่อื งการเรยี นตอํ

5. ครูผ๎ูสอนและผ๎ูเรียนได๎สรุปความร๎ูที่ได๎รับรํวมกัน

นางสาวเรงิ นภา อาทะวงษ์ การจดั กิจกรรมแนะแนว ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรยี นโคกโพธิ์ไชยศึกษา

52

6. สอื่ / อุปกรณ์

1. ใบงานท่ี 1 “ใบงานเรือ่ งการเรียนตํอ”

2. ใบความร๎ู แผนผังการเรยี นตํอบนกระดาน

7. การประเมนิ ผล

1. วิธกี ารประเมนิ

1.1 สังเกตพฤตกิ รรมการเขา๎ รํวมกิจกรรมของผ๎ูเรียน

1.2 สงั เกตจากการวิเคราะหแ์ ละสรปุ งานลงในสมุด

2. เคร่อื งมือ

2.1 สมดุ บนั ทึกการเข๎ารวํ มกจิ กรรมพฒั นาผเ๎ู รยี นกิจกรรมแนะแนว

2.2 แบบบนั ทึกหลงั การสอน

3. เกณฑก์ ารประเมิน

ระดับคุณภาพ ข้อความบง่ ชคี้ ุณภาพ

ผําน ทาํ ใบงานสํง ใหค๎ วามรวํ มมอื ในการตอบคําถาม

ไมผํ ําน ไมํทําในสิง่ ใดส่งิ หน่ึงใน 2 ขอ๎

นางสาวเรงิ นภา อาทะวงษ์ การจัดกจิ กรรมแนะแนว ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 2/1 โรงเรยี นโคกโพธไ์ิ ชยศกึ ษา

53

ใบงานที่ 1
เรื่อง แนวทางการศกึ ษาตอ่ ของฉัน
ช่อื ....................................สกุล.............................ช้นั ........................เลขที่………

คาชแี้ จง : ให๎นกั เรยี นเขยี นแผนผังการศกึ ษาตํอของตวั นกั เรยี นเองมาให๎เข๎าใจ

นางสาวเริงนภา อาทะวงษ์ การจัดกจิ กรรมแนะแนว ระดับช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 2/1 โรงเรียนโคกโพธ์ไิ ชยศกึ ษา

54

แผนผงั แนวทางการศึกษาตอ่

จบ ม.3

สายอาชพี สายสามัญ
ปวช. (3ป)ี (ม.4,5,6)

ปวส. (2ปี) สายวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ สายศิลป์ภาษา

มหาวทิ ยาลยั
(2ปีครึ่ง)

มหาวทิ ยาลัย สถาบนั ตาํ งๆ

นางสาวเรงิ นภา อาทะวงษ์ การจดั กิจกรรมแนะแนว ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 2/1 โรงเรียนโคกโพธิไ์ ชยศกึ ษา

55

แผนการจดั กิจกรรมการเรียนรทู้ ี่ 13

เรอื่ งการเหน็ คณุ ค่าในตนเอง เวลา 1 ชว่ั โมง

หนว่ ยการจดั กจิ กรรมสงั คม ระดบั ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2

ครผู ้สู อน นางสาวเรงิ นภา อําทะวงษ์ ครทู ี่ปรึกษาชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2/1

***************************************************************************

1. สาระสาคัญ

การเหน็ คณุ คําในตนเองจะทาํ ให๎เรามีความรูส๎ ึกภาคภูมใิ จมองตนเองในดา๎ นบวก พรอ๎ มทีจ่ ะรวํ มอยูํ

รวํ มกับบุคคลอ่นื การมองเหน็ คณุ คําในตนเองเปรียบเสมอื นภูมิคม๎ุ กันในตนเอง คนที่มองเห็นคณุ คาํ ในตนเอง

จะมีความนับถอื ในตนเองสูงและมักประสบความสาํ เรจ็ ในชีวิต การเรยี น การทาํ งาน

2. จุดประสงค์การเรยี นรู้

1. เพอ่ื ใหผ๎ ู๎เรียนสามารถบอกจุดมุงํ หมายของการเรียนการสอนวชิ ากจิ กรรมแนะแนวในระดบั มธั ยมศึกษา

ตอนตน๎ ได๎

2. เพื่อให๎ผู๎เรยี นสามารถอธิบายเกีย่ วกับการใหบ๎ ริการแนะแนวได๎

3. เพ่อื ให๎ผู๎เรียนและผ๎สู อนมคี วามคุ๎ยเคยและร๎จู ักกันมากขึน้

3. สาระการเรยี นรู้

ผู๎เรยี นมคี วามรคู๎ วามเข๎าใจและร๎จู กั ปรบั ตัว ตลอดจนสามารถใช๎ชวี ิตอยํรู วํ มกบั ผอ๎ู นื่ ได๎

4. ช้ินงาน / ภาระงาน

1. ใบงานที่ 1 ใบงาน จดุ เดนํ จุดดว๎ ย

5. วธิ กี ารจัดกิจกรรม

1. ครผู ู๎สอนกลําวทักทายนกั เรียน และพดู ยกตวั อยํางเรื่องเหรียญ

2. ครสู มํุ ถามนักเรยี นถึงจุดเดนํ ของตนเอง

3. ครใู ห๎นักเรยี นสํารวจตนเองวํามีจุดเดํนอะไรและมีความภาคภมู ขิ องตนเองหรอื ไมํ

4. ครูให๎นักเรยี นสํารวจตนเองวํามจี ดุ ดอ๎ ยอะไรและมวี ิธแี กไ๎ ขอยาํ งไร

5. ครผู ู๎สอนและนักเรียนรวํ มกันอภิปรายสรปุ ถึงการเหน็ คณุ คําในตนเองและการปรบั ปรุงตนเอง

6. ส่อื / อุปกรณ์

1. ใบงานที่ 1 จุดเดํนจดุ ดอ๎ ย

7. การประเมินผล

1. วิธกี ารประเมนิ

1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมการเข๎ารํวมกิจกรรมของผูเ๎ รียน

1.2 สังเกตจากการวเิ คราะหแ์ ละสรปุ งานลงในสมดุ

2. เครือ่ งมือ

2.1 สมุดบันทกึ การเข๎ารวํ มกจิ กรรมพฒั นาผ๎ูเรยี นกิจกรรมแนะแนว

นางสาวเรงิ นภา อาทะวงษ์ การจัดกจิ กรรมแนะแนว ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนโคกโพธไิ์ ชยศกึ ษา

56

2.2 แบบบันทึกหลงั การสอน

3. เกณฑก์ ารประเมนิ

ระดับคุณภาพ ขอ้ ความบง่ ชีค้ ณุ ภาพ

ผาํ น ทําใบงานสํง ใหค๎ วามรํวมมือในการตอบคําถาม ใหค๎ วามรวํ มมือในการทาํ งานกลุํม

ไมผํ าํ น ไมํทาํ ในสิ่งใดส่ิงหนง่ึ ใน 3 ข๎อ

นางสาวเรงิ นภา อาทะวงษ์ การจดั กิจกรรมแนะแนว ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 2/1 โรงเรยี นโคกโพธไ์ิ ชยศกึ ษา

57

ใบงาน เรอื่ งจุดเด่นของฉัน
จดุ เดน่ ของฉนั คอื

1. ……………………………………………………………………………………………………
2. ……………………………………………………………………………………………………
3. ……………………………………………………………………………………………………
4. ……………………………………………………………………………………………………
5. ……………………………………………………………………………………………………
6. ……………………………………………………………………………………………………
7. ……………………………………………………………………………………………………
8. ……………………………………………………………………………………………………
9. ……………………………………………………………………………………………………
10. …………………………………………………………………………………………………

จดุ ดอ้ ยของฉันคือ

1. ……………………………………………………………………………………………………
2. ……………………………………………………………………………………………………
3. ……………………………………………………………………………………………………
4. …………………………………………………………………………………………………..
5. ……………………………………………………………………………………………………
6. ……………………………………………………………………………………………………
7. ……………………………………………………………………………………………………
8. ……………………………………………………………………………………………………
9. ……………………………………………………………………………………………………
10. …………………………………………………………………………………………………

ฉันภาคภมู ใิ จในจดุ เด่นเรอ่ื ง

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ฉันควรปรบั ปรงุ ตัวเองในเรื่อง

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

นางสาวเริงนภา อาทะวงษ์ การจดั กิจกรรมแนะแนว ระดับชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 2/1 โรงเรียนโคกโพธไ์ิ ชยศึกษา

58

แผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ท่ี 14

เรอื่ งหนา้ ท่สี าคัญ เวลา 1 ช่ัวโมง

หนว่ ยการจดั กจิ กรรมสงั คม ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2

ครผู ้สู อน นางสาวเรงิ นภา อาํ ทะวงษ์ ครทู ป่ี รกึ ษาชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2/1

*****************************************************************************

1. สาระสาคัญ

ทกุ สรรพส่ิงในโลกของเราตาํ งมหี นา๎ ทีข่ องตน และอยํูรํวมกนั อยํางเป็นวัฏจักร

มีวงจรชีวิตท่ีเออ้ื ตอํ การรกั ษาสมดุลของกนั และกัน มนษุ ยเ์ ปน็ ผูม๎ บี ทบาทสาํ คัญในการรกั ษาและ

ทาํ ลายธรรมชาติ ดงั นน้ั มนษุ ยค์ วรตระหนักในบทบาทและหนา๎ ที่สาํ คัญของตนในการชวํ ยกัน

รกั ษาสมดุลของธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล๎อมใกล๎ตวั

2. จุดประสงค์การเรยี นรู้

1. เพื่อใหผ๎ ู๎เรยี นสามารถบอกความสัมพันธ์ของวฏั จกั รและวงจรชีวติ ของส่ิงตาํ ง ๆ ในธรรมชาติได๎

2. เพ่ือให๎ผ๎เู รียนสามารถสามารถบอกวิธกี ารดแู ลรักษาธรรมชาติ และสง่ิ แวดล๎อมใกลต๎ ัวได๎

3. สาระการเรียนรู้

ผ๎เู รียนมีความร๎คู วามเข๎าใจและรู๎จกั ปรับตวั ตลอดจนสามารถใชช๎ ีวิตอยํรู วํ มกับผอู๎ นื่ ได๎

4. ชิน้ งาน / ภาระงาน

1. ใบงานท่ี 1 “แบบกรอกประวัตนิ ักเรียน”

2. ใบความร๎ู เรื่องกิจกรรมแนะแนว

5. วธิ ีการจัดกิจกรรม

5.1 ครูให๎ผ๎ูเรียนดภู าพธรรมชาตทิ ่ถี กู ทาํ ลายและให๎ผ๎ูเรียนแสดงความคิดเห็นความรส๎ู กึ ตํอภาพท่ีได๎เห็น

5.2 ครูให๎ผ๎ูเรียนอาํ นใบงานเร่ือง "หนา๎ ที่สําคญั " แลว๎ ตอบคําถามและ รํวมกนั อภปิ รายถึงความสัมพนั ธ์ของชวี ติ

กับส่ิงแวดล๎อม (คน/สัตว์/สรรพสง่ิ ) วํามสี วํ นเกอื้ กูลในการเติบโตของนกั เรยี นอยํางไรบา๎ ง และใหผ๎ ูเ๎ รยี นชวํ ยกนั

บอกวาํ ตนเองมีหนา๎ ท่สี ําคญั ที่จะต๎องดูแล รกั ษา สงิ่ ใด/ใคร/อะไรบ๎าง (เชํน ครอบครัว/โรงเรยี น/ปุาไม๎ ฯ)

5.3 แบงํ ผ๎ูเรียนเปน็ 6 กลมุํ ให๎ชํวยกนั อภิปรายตามหัวขอ๎

กลุํม 1 หน๎าทสี่ ําคญั ตอํ ตนเองและครอบครัว

กลุํม 2 หนา๎ ทสี่ าํ คัญตอํ โรงเรียน

กลุมํ 3 หน๎าทส่ี าํ คัญตอํ ประเทศชาติ

กลํมุ 4 หน๎าที่สําคัญตอํ บุคคลแวดล๎อม (เพอื่ น ครู คนอนื่ ๆ)

กลุํม 5 หนา๎ ท่ีสาํ คญั ตอํ สิ่งแวดล๎อมบนโลกของเรา (นาํ้ อากาศ ปุาไม๎ ฯลฯ)

กลุมํ 6 ถา๎ เราไมดํ ูแลและทําหนา๎ ท่ีของตนเองจะเกิดผลอยาํ งไร

5.4 ใหแ๎ ตลํ ะกลมํุ ออกมาเสนอความคดิ หน๎าห๎อง

5.5 ผูเ๎ รยี นสรปุ ส่ิงท่ีไดเ๎ รยี นรจ๎ู ากกจิ กรรม ครสู รปุ เพม่ิ เตมิ

นางสาวเริงนภา อาทะวงษ์ การจัดกิจกรรมแนะแนว ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2/1 โรงเรียนโคกโพธไ์ิ ชยศกึ ษา

59

6. สอ่ื / อุปกรณ์

1. รูปภาพของธรรมชาติทสี่ มบูรณ์ และท่ถี ูกทาํ ลาย

2. ใบงานเร่ืองหน๎าท่สี าํ คัญ

7. การประเมินผล

1. วิธกี ารประเมิน

1.1 ให๎นกั เรยี นบอกความสมั พนั ธข์ องวัฏจักร และวงจรชีวติ ของสงิ่ ตําง ๆ ในธรรมชาติ

1.2 ใหน๎ ักเรียนบอกวิธีการดูแล รักษา ธรรมชาติ และส่ิงแวดล๎อมใกลต๎ ัว

2. เครือ่ งมอื

2.1 สมุดบันทึกการเข๎ารวํ มกจิ กรรมพฒั นาผูเ๎ รียนกิจกรรมแนะแนว

2.2 แบบบันทึกหลงั การสอน

3. เกณฑก์ ารประเมนิ

ระดับคุณภาพ ขอ้ ความบ่งชี้คณุ ภาพ

ผําน ทําใบงานสงํ ให๎ความรํวมมอื ในการตอบคาํ ถาม ใหค๎ วามรํวมมอื ในการทาํ งานกลุํม

ไมํผําน ไมํทําในสง่ิ ใดสิง่ หนึง่ ใน 3 ข๎อ

นางสาวเริงนภา อาทะวงษ์ การจดั กจิ กรรมแนะแนว ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2/1 โรงเรยี นโคกโพธิ์ไชยศกึ ษา

60

ใบงาน เรอ่ื งหนา้ ทสี่ าคญั

ให้นกั เรียนอ่านบทความเรือ่ ง หน้าทส่ี า่ คญั และให้ตอบคา่ ถามท้ายบท และอภปิ ราย
ร่วมกับเพือ่ น ๆ

เรอื่ งหนา้ ทสี่ าคญั

เช๎าวนั เสาร์ หลังจากกนิ ข๎าวเสร็จผมก็ออกจากบ๎านไปหาเจา๎ แดนและแวะรับเจ๎าเบ้ิมไปด๎วยกัน
วันน้ีเรามนี ัดกบั ครูนทีทีบ่ ๎าน

"บ๏อก บอ๏ ก" เจา๎ สนุ ัขพันธุเ์ ต้ยี สีขาวขนปกุ ปยุ เหาํ ตอ๎ นรบั เม่ือเราไปถึงบ๎านครูหนํองกับยอด เพ่ือนรํวม
ช้ันเรียนก็เพิ่งมาถึงเชํนกัน "หยุดเหํานะเจ๎านุํม" ครูตวาดเจ๎าหมาน๎อยเบา ๆ "มากันแล๎วหรือ ขึ้นมากินข๎าว
ด๎วยกนั " ครูเอํยทกั พวกเราขณะกาํ ลงั กนิ ขา๎ วอยูํบนระเบยี งบา๎ น

"ขอบคุณครับ ผมเรียบร๎อยมาแล๎วครับ" เจ๎าแดนตอบแทนพวกเรา สายตาผมสํารวจไปท่ัว เห็น
กระถางดอกไม๎ และพันธ์ไุ ม๎ กองอยํูตามใตต๎ ๎นเฟื่องฟาู ที่ออกดอกไสว

เสร็จจากอาหารเช๎า ไมํนานนักครกู เ็ ปล่ยี นจากชุดนอนเปน็ ชุดทํางานลงมาหาพวกเรา ในมือมีกระดาษ
แผํนหน่งึ ติดมาด๎วย

"มาดแู บบกันกํอน นี่ไงตรงนเี้ ป็นสระน้ําเล็กๆ มีเนินหญ๎าลาดลงมาทางนี้ แล๎วนี่เป็นซ๎ุมดอกไม๎ ตรงน้ันปลูก
ต๎นปาล์ม ข๎างทางเดินปลูกดาวเรือง น่ตี รงใกล๎ระเบียงประดับด๎วยกระถางพวกนั้น ตรงเนินนู๎นมีก๎อนหินโตๆ
ฝงั ให๎ดเู ปน็ ธรรมชาติ เรามาชวํ ยกันสร๎างสวนหยํอมหน๎าบ๎านกันได๎แล๎ว"

เมื่อครูนทีจบการอธิบายยืดยาวพวกเราก็รับร๎ูเด๋ียวน้ันวํางานที่ครูขอแรงให๎มาชํวย คือ
สวนหยํอมนเ่ี อง ครูยงั วําจะเลยี้ งขนมจีนนํา้ ยาและของหวานอกี ด๎วย งานนี้จึงย่ิงหมูมากเป็นพเิ ศษสาํ หรับพวก
เรา ๆ

เจ๎าแดนน้ันแลบลนิ้ เลยี ปากเหมือนจะบอกวาํ สบายมากงานน้ี
"เบม้ิ กับแดนชวํ ยกนั ขุดสระ เดย๋ี วครจู ะขีดวงให๎" ครเู ริ่มจํายงาน "หนอํ งกบั ยอดชํวยผสมดินใสํกระถาง
เตรยี มปลกู พวกวํานกแ็ ล๎วกนั " สวํ นผม ครูให๎ขนดนิ เกล่ียทาํ เนนิ หญา๎ ชวํ ยครู
แลว๎ งานก็ดําเนินไปเรอื่ ย ๆ พวกเราตัง้ หน๎าตงั้ ตาทําราวกับเป็นสวนของพวกเราเอง เพราะทุกคนเต็ม
ใจชํวยครูอยูํแลว๎ ไมนํ านนักสวนกเ็ ร่มิ เปน็ รูปเป็นราํ งขึ้นมา
"คณุ ครูครับ ในสระนจ้ี ะเล้ยี งปลาไหมครับ" ผมถามขนึ้ ระหวาํ งนั่งหยุดพัก
"วําจะหาปลาหางนกยูงมาปลอํ ยใหม๎ ันปราบยงุ ไปในตวั "
"มนั ชอบกินยุงหรือครับ"
"อันท่จี ริงมนั ชอบลกู นาํ้ มากกวํา แตํการทมี่ ันกนิ ลกู น้ํากเ็ ทาํ กบั ทําลายยงุ ไปด๎วย" ครูวาํ
"เอ ผมรูส๎ ึกวาํ สัตว์ตําง ๆ มนั ชอบทําลายกันเองนะครับ แตํมันก็ใหป๎ ระโยชนแ์ กํเราดว๎ ย"
ผมเสนอความคดิ เห็นจากทไ่ี ด๎ประสบการณ์ในสวนปุมู าไมํนอ๎ ย

นางสาวเริงนภา อาทะวงษ์ การจดั กิจกรรมแนะแนว ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 2/1 โรงเรยี นโคกโพธิไ์ ชยศึกษา

61

"ถกู ตอ๎ งทีเดียว ในโลกนี้มีสัตว์มากมายหลายชนิด แล๎วถ๎าทุกชนิดตํางออกลูกออกหลานมามากๆ พลเมือง
ของสตั ว์ก็คงล๎นโลก ในทส่ี ดุ ก็จะไมํมีอาหารและท่ีอยูํเพียงพอ ธรรมชาติจึงต๎องกําหนดให๎สัตว์บางจําพวกกิน
พชื บางจําพวกกนิ สตั วด์ ๎วยกนั เอง"

"หมายความวาํ ให๎มันทาํ ลายกันเองใชํไหมครบั " ผมขัดขึ้นกลางคัน
"ถูกต๎องแล๎ว ตอ๎ งให๎สตั วโ์ ลกควบคมุ กันเอง สตั วเ์ ล็กอยาํ งแมลงก็เปน็ เหย่อื ของนกหนู พวกนกหนูก็
เป็นเหยื่อของงู งูกถ็ ูกหมปู ุาหรือเหยย่ี วลํา สวํ นพวกหมปู ุา เก๎ง กวาง และเน้ือทราย ก็ถูกเสือตามลํากินกัน
เป็นทอด ๆ ไป"
"แล๎วพวกเสอื พวกหมลี ํะครบั ถูกใครลํา" เจา๎ เบม้ิ ถามบ๎าง
"พวกแมลงมีหนา๎ ทป่ี ราบพืชไมํให๎มีมากเกินไป ถ๎าหญ๎าหรือต๎นไม๎ดกงามเกินไปโลกก็คงรกรุงรัง ไมํนําอยูํอีก"
ครใู หเ๎ หตผุ ล
"อะไรก็ตามต๎องพอดใี ชํไหมครบั " ผมวําอีก
"ถูกต๎อง ต๎องพอดีโลกน้ีจึงจะนําอยํู ลําพังถ๎าปลํอยให๎สัตว์ควบคุมกันเองก็คงไมํมีปัญหา สัตว์ที่
แขง็ แรงกจ็ ะอยํูได๎ ตวั ท่ีออํ นแอกจ็ ะถูกทําลายไป ตกเป็นอาหารของผู๎ท่ีแข็งแรงกวํา แตํครูเป็นหํวงอยํูอยําง
หนง่ึ " ครูทิ้งท๎ายให๎พวกเราคิด
"คณุ ครูหวํ งอะไรหรือครับ"
ครยู ิม้ กอํ นอธบิ ายตํอวํา
"หวํ งคนเราน่แี หละทเี่ ป็นตวั การทําลาย ความสมดุลทางธรรมชาตลิ ง"
"คนเราทําลายโดยวธิ ไี หนลํะครบั ผมนึกไมํออกเลย" ใครคนหนึ่งวํา
"อยํางเชนํ นกกด็ ี กง้ิ กาํ กด็ ี เขามหี นา๎ ท่ีกินแมลง แตํคนก็ไปฆํานก แมลงก็เลยขาดตัวทําลาย คนก็เลยหัน
มาใชส๎ ารเคมีฉดี พนํ ฆําแมลงเสียเอง ปัญหามนั กเ็ ลยตามมา สารเคมจี ากยาฆําแมลงไหลลงนํ้า พวกปูปลาก็เดือดร๎อน
อีกเป็นลกู โซํ วนเวยี นไมํสน้ิ สดุ "
ถึงตอนน้ีพวกเราน่ังน่ิงฟังครูพูด แตํละคนคงจะนึกไปถึงสัตว์ท่ีตัวเองเคยเจอและเคยรังแกมันมากํอน
ดเู หมอื นทุกคนจะร๎สู กึ สาํ นกึ ผิดกันขึ้นมาแลว๎
"แลว๎ คนละครับมีหน๎าท่ีปราบอะไรบ๎าง" เจา๎ แดงถาม
"เปน็ คาํ ถามที่ดีมาก" ครูออกปากชม "คนก็เปน็ สัตวป์ ระเภทหนง่ึ แตเํ ปน็ สัตว์ทมี่ ชี ือ่ วาํ ฉลาด
และประเสรฐิ กวาํ สัตวอ์ ืน่ ๆ คนอกี นน่ั แหละทม่ี ักใช๎ความฉลาดไปในทางท่ผี ิด เชนํ ทาํ ลายปุาไม๎ แปรรูปไม๎มาใช๎
งานมากไป ซํ้ายังลําสัตว์ปุาเอามาเป็นอาหาร หรือเพ่ือเห็นแกํความสนุก อีกหนํอยปุาไม๎ก็วอดวาย สัตว์ปุาก็จะ
สญู พนั ธ์ุหมด ปัญหาใหญกํ ็จะตามมา น่ันคือ ความแห๎งแล๎งอันเกิดจากฝนฟูาไมํตกตามฤดูกาล" คุณครูหยุด
พักนิดหนึ่ง "แล๎วอีกอยําง พวกที่ชอบทิ้งขยะของเสียตํางๆ ลงแมํนํ้าลําคลองนั้นเป็นตัวการทําให๎แมํนํ้าลํา
คลองเนําเสีย สัตว์นํ้าถูกทําลายลงทางอ๎อม ครูวําคน ไมํต๎องปราบอะไร เพียงแตํคอยควบคุมตัวเองและคน
ด๎วยกันไมํให๎ทําลายส่ิงแวดล๎อมมากไปกวําน้ีให๎ได๎ก็พอ หากทําได๎โลกคงนําอยูํขึ้น ปัญหาตําง ๆ อาจลด
น๎อยลงบา๎ ง

นางสาวเริงนภา อาทะวงษ์ การจัดกิจกรรมแนะแนว ระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2/1 โรงเรยี นโคกโพธ์ไิ ชยศึกษา

62
ครูจบท๎ายลงด๎วยการขอรอ๎ งไมํให๎รังแกสัตว์ เพราะสัตว์ทุกตัวตํางก็มีหน๎าที่สําคญั ท่ีธรรมชาติ
กําหนดมาให๎ดว๎ ยกันทัง้ นัน้
ผมนกึ ถงึ สัตวต์ วั น๎อย ๆ ทั้งหลายในสวนหลังบ๎านของปุู แม๎มันจะเป็นสัตว์เล็กๆ แตํก็มีความหมายยิ่งใหญํ
สาํ หรับโลกเทาํ เทียมกนั ตํอไปจะไมํรังแกพวกมนั อกี ผมตั้งใจไวอ๎ ยาํ งแนํวแนํ
ครํูตํอมา ก็มีเสียงเรียกให๎ขึ้นบนบ๎านเพราะได๎เวลาอาหารพอดี ทุกคนจึงเตรียมทําความสะอาดมือไม๎
กลน่ิ น้ํายาขนมจนี โชยมาแตะจมกู หอมนํากิน งานสวนของครูกําลังจะเสร็จในไมํช๎านี้ แตํงานสําคัญท่ีคุณครูฝากไว๎ยัง
ต๎องทําตํอไป และงานน้นั จะสําเร็จหรือไมยํ อํ มข้นึ อยกํู บั ทกุ ๆ คน ที่ตอ๎ งคอยพทิ ักษร์ กั ษาโลกของเรารํวมกนั

นางสาวเรงิ นภา อาทะวงษ์ การจัดกจิ กรรมแนะแนว ระดับชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 2/1 โรงเรียนโคกโพธิ์ไชยศึกษา

63

ภาคผนวก

คาถามทา้ ยบท

1. จากเรื่องท่ีอ่าน นักเรยี นเขา้ ใจคาว่า "ความสมดลุ ทางธรรมชาติ" วา่ อย่างไร? ลองอธบิ ายและ
ยกตวั อย่าง
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................

2. หน้าทส่ี าคญั ของมนษุ ยใ์ นการชว่ ยกนั ดูและรกั ษาความสมดุลทางธรรมชาติท่ีครนู ทบี อกแก่
ลกู ศษิ ยค์ ือ ........................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................

3. นกั เรียนคิดวา่ สาเหตุที่สาคัญทส่ี ดุ ทที่ าให้ความสมดุลทางธรรมชาตหิ มดไป คอื อะไร?
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................

4. โครงการอนุรักษ์ส่งิ แวดล้อม และธรรมชาติทนี่ ักเรียนสนใจ คอื ............................
...............................................................................................................................................
เพราะ.....................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................

5. สิง่ ทไี่ ดเ้ รียนรูจ้ ากกิจกรรมนี้ คอื
5.1..........................................................................................................................................
5.2..........................................................................................................................................
5.3..........................................................................................................................................
5.4..........................................................................................................................................

นางสาวเรงิ นภา อาทะวงษ์ การจดั กจิ กรรมแนะแนว ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรยี นโคกโพธไ์ิ ชยศกึ ษา