วันแม่แห่งชาติ 65

เอกสารเผยแพร่ โดยหอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอแมใ่ จ จงั หวดั พะเยา

พระราชประวัติ พระราชกรณยี กิจ พระโฉมงามเลิศล้ำ ระบือไกล
พระการุณยแ์ ผ่ผไท ทัว่ หลา้
ส่องสุขทกุ ข์เขตใด เสด็จเยีย่ มเยอื นพลนั
พระราชกิจกอ้ งเกรกิ ฟา้ พสกไซร้สรรเสริญ
ขอพระไตรรตั น์เออ้ื อำรงุ พระเอย

จตุรพธิ พรผดุง สขุ ถว้ น
เฉลิมพระชนม์บำรงุ นบั หม่นื ปแี ฮ
ทรงพระเจริญเลิศลว้ น เลอื่ มรุ้งวรวาร

โดย สถาบันพฒั นาการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ภาคตะวนั ออก
(นางสาวสรุ ภี สกลุ รตั น์ ประพันธ์)

#ทมี่ าhttps://hilight.kapook.com/view/88471

วันแม่แหง่ ชาติ คนไทย จะเรยี กผู้ท่ใี ห้กำเนิดว่า "แม่"
ภาษาลาว เรยี กผ้ใู หก้ ำเนิดวา่ "อีแม"
วันแม่แห่งชาติ หรือที่นิยมเรียกกันว่า “วันแม่” เนื่องจากตรงกับวันเฉลิม ภาษาอังกฤษ จะเรยี กผู้ทีใ่ ห้กำเนิดว่า "มาเธอร์ (Mother)" หรือ "มัม (Mom)"
พระชนมพรรษาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ภาษาสนั สกฤต จะเรยี กผู้ให้กำเนดิ ว่า "มารดา"
คือ วันที่ 12 สิงหาคม อันเป็นวนั คล้ายวนั เสด็จพระราชสมภพ และถือว่าเป็นวันแม่ของชาติดว้ ย ภาษาเยอรมนั จะเรยี กผ้ทู ่ใี ห้กำเนดิ ว่า "มสุ เธอร์ (Mutter) หรือ มาม้า (Mama)"
ภาษาบาลี จะเรยี กผ้ใู หก้ ำเนิดวา่ "มาตา"
วันแมแ่ หง่ ชาติ ปี 2565 เปน็ ปีท่ีสมเดจ็ พระนางเจ้าสริ กิ ิติ์ พระบรมราชนิ ีนาถ พระบรม คนจีน จะเรียกผใู้ ห้กำเนิดว่า "มา่ ม้า" (แต้จิว๋ ) จนี กลางอ่านวา่ "มาหมะ"
ราชชนนพี ันปหี ลวง ทรงมพี ระชนมายุ 90 พรรษา แตเ่ ดิมน้นั วันแม่ของชาติได้กำหนดเอาไว้วันที่ คนแขก จะเรียกผ้ใู ห้กำเนดิ ว่า "มะ"
15 เมษายนของทุก ๆ ปี ทั้งนี้เป็นไปตามมติของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2493 คนฝรั่งเศส จะเรยี กผ้ใู หก้ ำเนดิ วา่ "มามอง (Maman)"
ซึ่งได้พิจารณาเห็นว่าการจัดงานวันแม่ของสำนักวัฒนธรรมฝ่ายหญิง สภาวัฒนธรรมแห่งชาติ คนสเปนและอติ าลี จะเรยี กผูใ้ ห้กำเนิดว่า "มาเดร (Madre)"
ผู้รับมอบหมายใหจ้ ัดงานวันแม่ มาตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน พ.ศ.2493 ครั้งแรกเป็นต้นมา ได้รับ คนแถบสแกนดเิ นเวยี (เดนมาร์ก,นอรเ์ วย์,สวเี ดน)จะเรียกผู้ให้กำเนิดว่า"มัวร์ (Mor,Moder)"
ความสำเร็จด้วยดี ประชาชนให้การสนับสนุนจนสามารถขยายขอบข่ายของงานให้กว้างขวาง คนญีป่ ่นุ จะเรียกผใู้ ห้กำเนดิ ว่า "โอกา้ ซงั "
ออกไป มกี ารจัดพิธีกรรมทางพระพทุ ธศาสนา การประกวดคำขวัญวนั แม่ การประกวดแม่ของชาติ คนเกาหลี เรียกผู้ให้กำเนดิ ว่า "ออมมา่ "
เพ่อื ให้เกียรติและตระหนักในความสำคัญของแม่ และเพอ่ื เพ่มิ ความสำคัญของวันแม่ให้ยิ่ง ๆ ขึ้น คนเวียดนาม เรยี กผู้ให้กำเนิดวา่ "แม๊" ออกเสียงใกล้เคียงภาษาไทยมาก
ไป ด้วยเหตนุ ้ีงานวันแม่จงึ เปน็ วันแม่ประจำปีของชาติตามประกาศของรฐั บาลฯพณฯ จอมพล ป. คนโปรตุเกส เรียกผู้ใหก้ ำเนิดวา่ "แมะ (Mae)"
พบิ ูลสงคราม แต่โดยทั่วไปเรยี กกนั ว่าวนั แม่ของชาติ ต่อมาถึง พ.ศ.2519 ทางราชการไดเ้ ปลยี่ นให้ คนเขมร เรียกผใู้ ห้กำเนิดว่า วา่ "กุนแม"
ถอื เอาวันพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปี ภาษามาเลย์ เรียกผ้ใู ห้กำเนดิ วา่ "มามา่ "
หลวง คือ วันที่ 12 สิงหาคม เป็นวันแม่แห่งชาติ ซึ่งเริ่มในปี พ.ศ.2519 เป็นต้นมาจนถึงปัจจบุ ัน ภาษาอาหรบั เรยี กผใู้ ห้กำเนดิ ว่า ว่า "อุมมี"
วันแม่แห่งชาติ เป็นวันสำคัญยิ่งของปวงชนชาวไทย และมีดอกไม้เป็น “ดอกมะลิ” ชนเผา่ ปกากะญอ เรียกผูใ้ หก้ ำเนิดวา่ "โม่"
สีขาวบริสทุ ธิ์แสดงถงึ สญั ลกั ษณ์ของความดงี ามของแมผ่ ใู้ หก้ ำเนิดแกเ่ รา ชนเผ่าอาขา่ เรียกผ้ใู ห้กำเนิดว่า "อะมา" และนี่คือคำเรียกแม่ หรือ ผใู้ ห้กำเนดิ ของ
แต่ละประเทศแตล่ ะภาษา ถงึ แม้วา่ คำเรียกจะไมเ่ หมอื นกัน แตเ่ ชือ่ ว่าแต่ละคำเรียกนั้นมี
คำวา่ แมห่ รือผ้ใู ห้กำเนิดในภาษาต่าง ๆ ความหมายทยี่ ่งิ ใหญส่ ำหรบั ผู้เป็นลกู ในทุก ๆ ประเทศแน่นอนค่ะ

"แม่" คำสั้น ๆ แต่มีความหมายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของคนเป็นลูกที่หาสิ่งใดมาเปรียบไม่ได้ แหลง่ อา้ งอิง :
เพราะนอกจากจะเปน็ ผ้ใู ห้กำเนิด คอยเลี้ยงดู เป็นครคู นแรกของลูกแล้ว ยังเป็นผู้ท่ีมอบความรัก
และความจริงใจให้กบั ลูกท่ีไมว่ า่ ก่วี ันคืนจะผ่านไป แต่แมก่ ย็ ังเฝา้ ดูแลลูกเสมอ อยา่ งไรก็ตามในแต่ หนงั สอื วนั สำคญั ของไทย โดย สมเจตน์ มทุ ิตากุล, หนงั สือ ประวัติวนั สำคญั ทคี่ วรร้จู กั โดย วรนุช อุษณกร หนงั สือ วนั สำคัญของไทย
ละประเทศน้ันใช้คำเรยี กผใู้ หก้ ำเนดิ ท่ีคนไทยเรียกวา่ "แม"่ แตกตา่ งกันไป โดยส่วนใหญแ่ ล้วแต่ โดยธนากิต, หนงั สอื วนั สำคญั ของไทย โดย สุชริ าภรณ์ บรสิ ทุ ธิ์ และเวบ็ ไซต์ : https://hilight.kapook.com/view/73616
ละภาษามกั จะใชอ้ กั ษร ม.มา้ หรือ M เรยี กผูท้ ใี่ ห้กำเนิดเกือบเหมอื นกันทุกภาษา เชน่