บทเรียนออนไลนว์ ชิ าภาษาไทย เร่อื ง บทพากย์เอราวัณ
ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ ๓
จัดทำโดย
นางสาวพิมสิริ ออ่ นนวล
ตำแหน่งครู วิทยฐำนะครูชำนำญกำร
กลมุ่ สำระกำรเรยี นร้ภู ำษำไทย โรงเรียนฝำยกวำงวทิ ยำคม
สำนักงำนเขตพื้นทกี่ ำรศึกษำมธั ยมศกึ ษำพะเยำ
มาตรฐานการเรียนร้แู ละตวั ชว้ี ัด
สาระที่ 5 วรรณคดีและวรรณกรรม
มาตรฐาน ท 5.1 เขา้ ใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและ
วรรณกรรมไทยอย่างเหน็ คุณค่าและนามา
ประยกุ ต์ใชใ้ นชีวิตจริง
ตวั ชี้วัด ท 5.1 ม.3/1 สรปุ เนือ้ หาวรรณคดี วรรณกรรมและวรรณกรรมท้องถิน่
ในระดบั ทีย่ ากยิ่งขึ้น
ท 5.1 ม.3/2 วิเคราะหว์ ิถีไทยและคุณคา่ จากวรรณคดีและวรรณกรรม
ทีอ่ า่ น
ภาษาไทยครูพิมสิริ ก
จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. วิเคราะห์เนื้อหาบทพากยเ์ อราวณั ได้
2. เขียนแผนผงั ความคิดได้
3. มีความรบั ผิดชอบในการทางาน
ภาษาไทยครูพมิ สิริ ข
เนือ้ หาในบทเรยี น
๑. ประวตั ิผูแ้ ตง่
๒. จุดประสงคใ์ นการแตง่
๓. ลกั ษณะคาประพนั ธ์
๔. ที่มาของเรื่อง
๕. ตวั ละครทีป่ รากฏในเรือ่ ง
๖. เนื้อเรื่องย่อ
๗. ฉาก
๘. แก่นเรือ่ ง
๙. การวิเคราะห์ดา้ นสงั คมและวัฒนธรรม
ภาษาไทยครพู มิ สริ ิ ค
ท่มี าภาพ : ชมรมประวัตศิ าสตรส์ ยาม ผู้แตง่
บทพระราชนิพนธใ์ น
พระบาทสมเด็จพระพทุ ธเลิศหลา้ นภาลัย
(รชั กาลที่ ๒)
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงเป็นพระราชโอรส
องค์ที่ ๒ ในพระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราชและสมเด็จ
พระอมรินทราบรมราชินี ทรงมีพระนามเดิมว่า “เจ้าฟ้าชายฉิม”
ทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๓๑๐ และทรงเสด็จ
ขึ้นครองราชย์ในปี พ.ศ. ๒๓๕๑ และทรงเสด็จสวรรคตด้วยพระประชวร
ไข้พษิ ในปี พ.ศ. ๒๓๖๗ รวมระยะเวลาในการครองราชยน์ านถึง ๑๖ ปี
ภาษาไทยครูพิมสริ ิ 1
จดุ ประสงค์ในการแต่ง
บทพากย์เอราวณั ใช้พากยส์ าหรับการแสดงโขน
ทมี่ าภาพ : https://www.prthailand.com/news/news-151129-01.shtml ภาษาไทยครพู ิมสริ ิ ๒
ลกั ษณะคาประพันธ์
บทพากย์เอราวณั แตง่ ด้วย “กาพย์ฉบงั ๑๖” จานวน 53 บท
กาพย์ฉบงั 16 ๑ บท มี ๓ วรรค
วรรคแรกมีจานวน ๖ คา วรรคที่ ๒
มี ๔ คา และวรรคสุดทา้ ยมี ๖ คา
รวม 16 คา
ภาษาไทยครพู ิมสริ ิ ๓
ทม่ี าของเร่อื ง
บทพากย์เอราวัณ มาจากบทละครเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกอินทรชิต
โดยอินทรชิตออกรบ 4 ครัง้ ดังนี้
คร้ังที่ 1 อินทรชิตอาสาออกรบ ต้องศรพระลกั ษณ์ พา่ ยแพ้เลิกทัพไป อินทรชิตทาพิธีชุบศรนาคบาศที่
พระพรหมประทานให้ แตถ่ ูกฝา่ ยพระรามทาลายพิธี
คร้ังที่ 2 พระลักษณ์ตอ้ งศรของอินทรชิต แต่ฝ่ายพระรามแก้พิษศรได้ อินทรชิตทาพิธีชุบศรพรหมมา
สตร์ทีพ่ ระอิศวรประทานให้ แตก่ ไ็ มส่ าเรจ็
ครง้ั ที่ 3 อินทรชิตใช้พรทพ่ี ระอิศวรประทานให้ แปลงกายเปน็ พระอินทร์ ทรงช้างเอราวัณ คร้ังนี้อินทร
ชิตแผลงศรสังหารพระลักษณ์ได้ แต่หนุมานก็หายาแก้พิษศรได้ พระลักษณ์จึงฟ้ืนขึ้นมา ฝ่ายพระราม
ทาลายพรวิเศษท้งั 3 ของอินทรชิตได้
ครง้ั ที่ 4 อินทรชติ ออกรบ เสียรถศกึ และอาวธุ กลวั ตายจึงหนีขึ้นไปซ่อนบนกลีบเมฆ พระลกั ษณ์แผลง
ศรสังหาร โดยพิเภกทูลว่าเศียรอินทรชิตถ้าตกพ้ืนจะเกิดไฟ บรรลัยกัลป์ พระลักษณ์จึงให้องคตไปทูลขอ
พานแวน่ ฟ้าจากพระพรหมมารับ แตเ่ ศียรยงั สาแดงฤทธิ์ พระรามจงึ แผลงศรไปทาลายจนแหลกละเอียด
ภาษาไทยครพู ิมสริ ิ ๔
ตวั ละครท่ปี รากฏในเรอ่ื ง
อินทรชิต เดิมชือ่ “รณพักตร์” เปน็ โอรสคนโตของทศกัณฐ์กับ
นางมณโฑ เคยรบชนะพระอินทร์ ทศกัณฐ์จึงตั้งชื่อให้ใหม่ว่า
“อินทรชิต” แปลวา่ ผชู้ นะพระอินทร์
อินทรชิตเปน็ ศษิ ยข์ องพระฤๅษีโคบุตร ไดศ้ ึกษาวิชามนต์มหากาลอัคคี สาหรบั บูชาพระอิศวร
พระพรหม พระนารายณ์ และน่งั ภาวนาอยทู่ า่ เดียวครบ ๗ ปี เมอ่ื บาเพญ็ ตบะจนเกง่ กล้าแลว้ จงึ ทา
พิธขี ออาวธุ วเิ ศษตอ่ 3 มหาเทพ ดังนี้
๑. พระอิศวร ประทานศรพรหมาสตร์และพร (สามารถแปลงรา่ งเปน็ พระอินทร์ได้)
๒. พระพรหม ประทานศรนาคบาศและพร (ไมใ่ ห้ตายบนพืน้ ดนิ หากตายกใ็ หต้ ายบนอากาศ
หากเศียรขาดตกลงพืน้ ก็ใหเ้ กดิ ไฟไหมท้ ัว่ ท้งั จักรวาลตอ้ งนาพานแวน่ ฟา้ ของพระพรหมเทา่ นัน้ มา
รองรบั เศียรจึงจะระงับเหตุได้)
๓. พระนารายณ์ ประทานศรวิษณุปาณัม ภาษาไทยครูพมิ สริ ิ 5
ตัวละครท่ีปรากฏในเรอ่ื ง
ช้างเอราวัณ เป็นช้างทรงของพระอินทร์ เป็นช้างที่มี
พละกาลงั และเปน็ ที่โปรดปรานมากทีส่ ดุ
ในศาสนาฮินดูเชื่อกันว่า ช้างเชือกนี้เปน็ เทพบุตรองคห์ นึ่ง
ชื่อไอราวัณ เมื่อพระอินทร์ต้องการจะเสด็จไปไหนเอราวัณ
เทพบุตรจะแปลงกายเป็นช้างเผือก ขนาดสูงใหญ่มีเศียรถึง ๓๓
เศียร แต่ละเศียรมี ๗ งา แต่ละงายาวถึง ๔ ล้านวา และมีสระบัว
๗ สระ แต่ละสระบัวมีบัว ๗ กอ แต่ละกอมีดอกบัว ๗ ดอก แต่ละ
ดอกมีกลีบ ๗ กลีบ ในแต่ละกลีบมีเทพธิดา ๗ องค์ และเทพธิดา
แต่ละองค์ก็มีบริวารอีกองค์ละ ๗ คน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความ
ยิง่ ใหญอ่ ลงั การของชา้ งทรงของพระอินทร์
ภาษาไทยครูพมิ สริ ิ 6
ตัวละครทป่ี รากฏในเรอื่ ง
พระราม พระลักษณ์ สคุ รีพ
ภาษาไทยครพู มิ สริ ิ 7
เนื้อเร่อื งย่อ
บทพากยเ์ อราวณั กล่าวถึงอินทรชิตแปลงกายเปน็ พระอินทรท์ รงชา้ งเอราวณั
เสด็จมายังสนามรบ พระลกั ษณพ์ ร้อมดว้ ยกองทัพลิงต่างคิดว่าเปน็ กองทัพของพระอินทร์
หลงเพลินดไู มท่ นั ระวงั องค์ จึงถูกศรพรหมมาศของพระอินทรแ์ ปลงสลบไปตามกนั
ฝ่ายพระรามได้เสด็จออกจากพลับพลา มาตามหาพระลักษณ์ เห็นพระลักษณ์
สลบอยู่ คิดว่าพระลักษณ์ตายด้วยพิษศรพรหมมาศก็ร้องไห้คร่าครวญคิดถึงพระลักษณ์
จนสลบไป ต่อมาหนุมานกส็ ามารถหายามาแกพ้ ิษศรให้พระลักษณไ์ ด้
ความโดดเด่นของบทพากย์เอราวณั อย่ตู รงทีการพรรณนาถึงชา้ งเอราวณั อย่าง
พิสดาร ท่าให้ผู้อา่ นเห็นถึงภาพความยิงใหญ่ สมพระเกียรติยศของพระอินทร์
ภาษาไทยครพู มิ สริ ิ 8
ฉาก
ฉากทีปรากฏในตอนนี้ คือ ฉากกองทัพของฝ่ายอินทรชิต และฝ่ายพระราม
กวีได้พรรณนาให้เห็นถึงภาพความยิงใหญ่ของกองทัพทั้งสองฝ่าย และยังปรากฏฉาก
ธรรมชาติบริเวณทีประทับของพระรามในขณะทีพระรามตืนบรรทมด้วย
แก่นเรอ่ื ง
การพิจารณาสิงต่างๆ จะต้องมีสติ อย่าหลงเชือสิงใดง่ายเกินไป เพราะ
ความงดงามชวนหลงใหลน้ันมักจะแฝงมากับภัยอันตราย เช่นเดียวกับการที
อินทรชิตแปลงกายเป็นพระอินทร์จนท่าให้พระลักษณ์เคลิบเคลิ้มหลงใหลจนต้อง
ศรพรหมาสตร์
ภาษาไทยครูพิมสริ ิ 9
การวิเคราะหด์ ้านสงั คมและวัฒนธรรม
๑. สะทอ้ นใหเ้ หน็ ถึงสงั คมในสมยั อยุธยาว่ามีการแสดงมหรสพประเภทหนงั ใหญแ่ ละ
โขน จนมาถึงในสมยั ของพระบาทสมเด็จพระพทุ ธเลิศหลา้ นภาลัยก็ยงั มีการเลน่
หรือแสดงโขน
๒. สะท้อนให้เหน็ ถึงความเชื่อในเรื่องเทวดา นางฟา้ พระอินทร์ ที่มีอยู่ในวิถีชีวิตของ
ในสงั คมนัน้ ๆ
๓. สะทอ้ นให้เหน็ ถึงสงั คมไทยสมยั ก่อนว่าใช้อาวธุ ต่างๆ ในการรบ เช่น พระขรรค์
โตมร (หอก) ธนู คฑา และการใชช้ ้าง ม้า และราชรถ เปน็ พาหนะ
๔. สะท้อนใหเ้ หน็ ถึงการเดินทางไปสนามรบในสมยั ก่อนว่ามีแตรสงั ขก์ ลองประโคม
ภาษาไทยครูพมิ สริ ิ ๑๐