The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เอกสารประกอบการติว O-Net ระดับชั้น ม.3 โรงเรียนสุวรรณไพบูลย์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ครูมุสลีมิน อีแต, 2019-11-24 11:28:10

เอกสารประกอบการติว O-Net ระดับชั้น ม.3 โรงเรียนสุวรรณไพบูลย์

เอกสารประกอบการติว O-Net ระดับชั้น ม.3 โรงเรียนสุวรรณไพบูลย์



เอกสารประกอบการตวิ O-NET วชิ าคณิตศาสตร์ ชั้น ม.3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

ขก

คาํ นํา

รายงาน ฉ บั บ นี้ จัด ท าเพื่ อ ป ระก อ บ ก ารเรียน การส อ น ติ ว O-Net ราย วิช าค ณิ ต ศ าสต ร์
ระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งในเนื้อหาของรายงานประกอบด้วย แนวข้อสอบ O-Net วิชาคณิตศาสตร์
มัธยมศกึ ษาตอนต้นพร้อมเฉลย จานวน 3 ชุด

หากรายงานน้มี ีความผิดพลาดประการใดกข็ ออภยั ไว้ ณ ที่นีด้ ว้ ย

กล่มุ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์

เอกสารประกอบการตวิ O-NET วิชาคณิตศาสตร์ ชัน้ ม.3 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์

คข

สารบญั

หนา้
คานา…………………………………………………………………………………………………………………………… ก

สารบญั ...................................................................................................................................... ข

ชดุ ที่ 1 แนวข้อสอบ O-Net วชิ าคณิตศาสตร์ มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ 1

ชดุ ที่ 2 แนวข้อสอบ O-Net วชิ าคณิตศาสตร์ มัธยมศึกษาตอนตน้ 24

ชดุ ที่ 3 แนวข้อสอบ O-Net วชิ าคณิตศาสตร์ มัธยมศกึ ษาตอนตน้ 31

ภาคผนวก.................................................................................................................................. 36

เฉลยข้อสอบชุดท่ี 1.................................................................................................. 37
เฉลยข้อสอบชุดที่ 2.................................................................................................. 70
เฉลยขอ้ สอบชุดท่ี 3.................................................................................................. 70

เอกสารประกอบการติว O-NET วชิ าคณิตศาสตร์ ชน้ั ม.3 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์

1

ชุดที่ 1 แนวข้อสอบ O-Net วชิ าคณิตศาสตร์ มัธยมศึกษาตอนต้น

คำช้ีแจง ใหน้ กั เรียนเลือกคำตอบท่ีถูกตอ้ งท่ีสุดเพยี งขอ้ เดียว

1. ผลลพั ธ์ของ ตรงกบั ขอ้ ใด

1. 0
2. 1
3. 2
4. 3

2. ผลลพั ธ์ของ ตรงกบั ขอ้ ใด

1. -5
2. -6
3. -7
4. -8

3. ผลลพั ธ์ของ ตรงกบั ขอ้ ใด

1.

2.

3.

4.

4. กำหนด ค่ำของ ตรงกบั ขอ้ ใด

1. 6.5

2. 7.5

3. 8.5

4. 9.5

5. ขอ้ ใดขอ้ ใดตอ่ ไปน้ีไม่ถูกตอ้ ง

1. รำกท่ีสองท่ีเป็นลบของ 63 คือ

2. เมื่อ เป็นจำนวนจริงใดๆ

3. รำกที่สองของ คือ และ

4. รำกท่ีสำมของ คือ

เอกสารประกอบการติว O-NET วิชาคณิตศาสตร์ ชน้ั ม.3 กล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

2

6.จงพิจำรณำขอ้ ควำมต่อไปน้ีวำ่ มีจำนวนที่ไม่ถูกตอ้ งกี่ขอ้

ก.

ข.

ค. รำกท่ีสำมของ 9 เป็นจำนวนตรรกยะ

ง. รำกท่ีสำมของ คือ

1. ขอ้ ก. ไมถ่ ูกตอ้ ง

2. ขอ้ ข. ไม่ถูกตอ้ ง

3. ขอ้ ค. และ ง. ไมถ่ ูกตอ้ ง

4. ขอ้ ข. และ ง. ไม่ถูกตอ้ ง

7. ผลลพั ธ์ของ ตรงกบั ขอ้ ใด

1. 0.75
2. 0.15
3. -0.65
4. -0.75
8. จำนวนนบั ที่นอ้ ยที่สุด ซ่ึงเมื่อนำ 6, 9, 12 และ 15 ไปหำรแลว้ เหลือเศษ 4 เท่ำกนั คือจำนวนใด
1. 94
2. 184
3. 364
4. 544
9. จำนวนนบั ที่นอ้ ยท่ีสุดที่หำรดว้ ย 5 เหลือเศษ 4 หำรดว้ ย 6 เหลือ 5 และหำรดว้ ย 8 เหลือเศษ 7
1. 240 2. 140
3. 120 4. 119
10. ค.ร.น. ของ 220 และ 385 เป็นกี่เท่ำของ ห.ร.ม. ของจำนวนท้งั สอง
1. 7 2. 11
3. 28 4. 55
11. ลูกเสือ 3 กอง กองละ 84, 98, 126 คน ตำมลำดบั แบง่ เป็นหมู่ละเทำ่ ๆ กนั จะไดล้ ูกเสือมำกท่ีสุดหมูล่ ะก่ี
คน
1. 6
2. 7
3. 12
4. 14

เอกสารประกอบการติว O-NET วชิ าคณติ ศาสตร์ ช้นั ม.3 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์

3

12. กำหนด และ ขอ้ ใดถูกตอ้ ง

1. เมื่อ และ เป็นจำนวนเตม็ แลว้ มีค่ำเท่ำไร
2.
3.

4.

13. กำหนด
1. -2
2. -12
3. 24
4. 72

14. กำหนด

ขอ้ ใดเรียงลำดบั คำ่ A, B, C จำกนอ้ ยไปมำก

1. A, B, C

2. B, C, A

3. A, C, B

4. B, A, C

15. ประโยคในขอ้ ใดเป็นจริง

1.

2.

3.

4.

16. จำนวนเตม็ สองจำนวนคูณกนั ได้ -68 ถำ้ จำนวนหน่ึงเป็น 17 อีกจำนวนเป็นเท่ำไร

1. 4

2. -4

3. 3

4. -3

17. กำหนด และ ขอ้ ใดมีคำ่ นอ้ ยท่ีสุด

1. 2.

3. 4.

เอกสารประกอบการติว O-NET วิชาคณติ ศาสตร์ ช้ัน ม.3 กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์

4

18. 512 จดั เป็นเลขยกกำลงั ฐำน 8 และ 343 จดั เป็นเลขยกกำลงั ฐำน 7 ขอ้ ใดเป็นผลบวกของ 3 เทำ่ ของ
เลขช้ีกำลงั ของฐำน 8 กบั 2 เทำ่ ของเลขช้ีกำลงั ฐำน 7
1. 15
2. 12
3. 9
4. 6

19. รูปสำมเหล่ียมรูปหน่ึงมีขนำดของมุมภำยในเป็นอตั รำส่วนเป็น 2 : 3 : 4 ขนำดของมุมแตล่ ะมุมเท่ำกบั
ก่ีองศำ
1. 20o, 60o, 100o
2. 40o, 60o, 80o
3. 20o, 40o, 120o
4. 30o, 70o, 80o

20. ขอ้ ใดถูกตอ้ ง
1. 6.25% เขียนเป็นอตั รำส่วนได้ 1 : 15
2. 16 เป็นร้อยละ 40 ของ 40
3. 8 : 25 เท่ำกบั 30 %
4. 15% ของ 60 คิดเป็นร้อยละ 7 ของ 120

21. ร้ำนหนงั สือแห่งหน่ึงขำยหนงั สือสำรคดี รำคำเล่มละ 84 บำท ไดก้ ำไร 20% ถำ้ ร้ำนคำ้ ตอ้ งกำรกำไร
350 บำท ร้ำนคำ้ ตอ้ งขำยหนงั สือก่ีเล่ม
1. 21 เล่ม
2. 25 เล่ม
3. 30 เล่ม
4. 34 เล่ม

22. พอ่ คำ้ ซ้ือเงำะมำ 45 กิโลกรัม เป็นเงิน 600 บำท ขำยในรำคำกิโลกรัมละ 18 บำท ได้ 27 กิโลกรัม ที่
เหลือขำยในรำคำกิโลกรัมละ 13 บำทพอ่ คำ้ จะไดก้ ำไรหรือขำดทุนก่ีเปอร์เซ็นต์
1. ขำดทุน 20%
2. เทำ่ ทุน
3. กำไร 15%
4. กำไร 20%

เอกสารประกอบการตวิ O-NET วิชาคณิตศาสตร์ ช้นั ม.3 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์

5

23. เมื่อ 18 ปี ที่แลว้ อตั รำส่วนของอำยบุ ุตรตอ่ อำยบุ ิดำเป็น 2 : 5 ปัจจุบนั อำยขุ องบิดำต่ออำยบุ ุตรเป็น 7 : 4
ปัจจุบนั บิดำอำยเุ ทำ่ ไร
1. 30 ปี
2. 45 ปี
3. 54 ปี
4. 63 ปี

24. ปำลม์ ซ้ือตูเ้ ยน็ รำคำ 6,420 บำท ซ่ึงรวมภำษีมูลคำ่ เพิ่ม 7% ของรำคำสินคำ้ น้นั ปำลม์ อยำกทรำบวำ่ จ่ำย
คำ่ ภำษีมูลคำ่ เพิม่ ไปเทำ่ ไร
1. 240 บำท
2. 380 บำท
3. 420 บำท
4. 448 บำท

25. ในกำรสอบวชิ ำคณิตศำสตร์มีคะแนนเตม็ 80 คะแนน เก่งไดค้ ะแนนมำกกวำ่ ขม 10% ขมไดค้ ะแนน
มำกกวำ่ เคน 25% ถำ้ เก่งสอบได้ 72 คะแนน เก่งจะไดค้ ะแนนมำกกวำ่ เคนอยเู่ ทำ่ ไร
1. 48.6 คะแนน
2. 31.4 คะแนน
3. 23.4 คะแนน
4. 18.0 คะแนน

26. วงกลมสองวงมีจุดศูนยก์ ลำงร่วมกนั วงกลมใหญ่มีพ้นื ที่ 441 ตำรำงหน่วย วงกลมเลก็ มีพ้ืนที่ 225
ตำรำงหน่วย อตั รำส่วนของรัศมีวงกลมใหญต่ ่อรัศมีวงกลมเลก็ เท่ำไร
1. 2 : 1
2. 3 : 2
3. 5 : 3
4. 7 : 5

27. ณวฒั นม์ ีที่ดินแปลงหน่ึงกวำ้ ง 16 วำ ยำว 21 วำ เขำตอ้ งกำรลอ้ มร้ัวลวดหนำม 2 รอบ ลวดหนำม
จำหน่ำยเป็นมว้ น แต่ละมว้ นมีควำมยำว 50 เมตร ณวฒั นต์ อ้ งซ้ือลวดหนำมก่ีมว้ น
1. 3 มว้ น
2. 4 มว้ น
3. 5 มว้ น
4. 6 มว้ น

เอกสารประกอบการตวิ O-NET วชิ าคณติ ศาสตร์ ช้นั ม.3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์

6

28. จำกรูปมีพ้นื ที่ท้งั หมด 175 ตำรำงนิ้ว รูปสำมเหล่ียมจะมีส่วนสูงเทำ่ ใด

1. 16 เซนติเมตร

2. 28 เซนติเมตร

3. 55 เซนติเมตร

4. 70 เซนติเมตร

29. รูปหกเหล่ียมดำ้ นเทำ่ มุมเทำ่ มีพ้ืนท่ี ตำรำงนิ้ว มีควำมยำวดำ้ นละกี่เซนติเมตร

1. 4 เซนติเมตร

2. 10 เซนติเมตร

3. 16 เซนติเมตร

4. 20 เซนติเมตร

30. เพชรไปโรงเรียนโดยข่ีจกั รยำนที่มีเส้นผำ่ นศูนยก์ ลำงวงลอ้ ยำว 35 เซนติเมตร เขำสงั เกตวำ่ วงลอ้ ตอ้ ง

หมุนถึง 63 รอบ จึงถึงโรงเรียน อยำกทรำบวำ่ บำ้ นของเพชรอยหู่ ่ำงจำกโรงเรียนก่ีเมตร

1. 50.5 เมตร
2. 62.4 เมตร
3. 69.3 เมตร
4. 75.2 เมตร
31. แทนและไทเดินทำงจำกบำ้ นมำโรงเรียน ซ่ึงมีระยะทำง 750 เมตร แต่ไทออกจำกบำ้ นชำ้ กวำ่ จึงมำทำง
ลดั ซ่ึงมีระยะทำง 760 หลำ ระยะทำงลดั จะส้นั กวำ่ ก่ีเมตร
1. 10 เมตร
2. 35 เมตร
3. 50 เมตร
4. 66 เมตร
32. คุณพอ่ ขบั รถยนตจ์ ำกบำ้ นไปเยยี่ มคุณยำ่ ท่ีตำ่ งจงั หวดั ดว้ ยควำมเร็ว 90 กิโลเมตรต่อชวั่ โมง ถำ้ คุณพอ่ ใช้
เวลำเดิน 1 ชว่ั โมง 20 นำที ระยะทำงจำกบำ้ นคุณยำ่ ถึงบำ้ นคุณพอ่ ยำวกี่กิโลเมตร
1. 100 กิโลเมตร
2. 110 กิโลเมตร
3. 120 กิโลเมตร
4. 130 กิโลเมตร

เอกสารประกอบการตวิ O-NET วชิ าคณติ ศาสตร์ ชน้ั ม.3 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์

7

33. สี่เหลี่ยม ABCDมี E อยบู่ น DC ทำให้ ABCE เป็นรูปสี่เหล่ียมขนำนมีพ้ืนท่ี 36 ตำรำงหน่วย AB= 12,
DE = 4 พ้นื ที่ส่ีเหลี่ยม ABED เท่ำกบั เท่ำไร

1. 16 ตำรำงหน่วย
2. 18 ตำรำงหน่วย
3. 24 ตำรำงหน่วย
4. 36 ตำรำงหน่วย
34. นำยทศมีท่ีดิน 110 ตำรำงวำ ตอ้ งกำรปลูกบำ้ นตำมแผนผงั ขำ้ งล่ำง ซ่ึงมีหน่วยควำมยำวเป็นเมตร อยำก
ทรำบวำ่ หลงั จำกปลูกบำ้ นแลว้ เขำจะเหลือที่ดินสำหรับทำสวนก่ีตำรำงวำ
1. 47 ตำรำงวำ
2. 52 ตำรำงวำ
3. 63 ตำรำงวำ
4. 74 ตำรำงวำ
35. รำงน้ำรูปคร่ึงวงกลมมีเส้นผำ่ นศูนยก์ ลำง 3.5 นิ้ว ยำว 4 หลำ จะมีพ้นื ท่ีก่ีตำรำงเซนติเมตร

1. 2,829 ตำรำงเซนติเมตร

2. 3,150 ตำรำงเซนติเมตร

3. 4,400 ตำรำงเซนติเมตร

4. 4,950 ตำรำงเซนติเมตร

36. ตะกวั่ รูปทรงกลมมีเส้นผำ่ นศูนยก์ ลำงยำว 4 นิ้ว นำมำหลอมทำเป็นแผน่ ตะกวั่ กลมมีเส้นผำ่ นศูนยก์ ลำง

ของฐำนยำว 4 นิ้ว แผน่ ตะกวั่ มีควำมหนำเท่ำไร

1. 2 นิ้ว 2. 3 นิ้ว

3. 4 นิ้ว 4. 5 นิ้ว

37. เตน้ ทผ์ ำ้ ใบรูปกรวยสูง 10 ฟุต มีเส้นรอบวงยำว 44 ฟุต เตน้ ทน์ ้ีมีเส้นผำ่ นศูนยก์ ลำงยำวประมำณกี่ฟุต

1. 6 ฟุต 2. 7 ฟุต
3. 12 ฟุต 4. 14 ฟุต

เอกสารประกอบการติว O-NET วิชาคณติ ศาสตร์ ชั้น ม.3 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์

8

38. ลวดเส้นหน่ึงปลำยเช่ือมตอ่ กนั ใหเ้ ป็นรูปวงกลมวดั เส้นผำ่ นศูนยก์ ลำงไดย้ ำว 84 เซนติเมตร ถำ้ เอำลวดน้ี

มำต่อใหเ้ ป็นรูปสี่เหล่ียมจตั ุรัส จะไดแ้ ต่ละดำ้ นยำวประมำณเทำ่ ใด
1. 28 เซนติเมตร
2. 48 เซนติเมตร
3. 66 เซนติเมตร
4. 84 เซนติเมตร
39. ถำ้ ปริมำตรของทรงกระบอกเป็น 2 เท่ำของปริมำตรของกรวย รัศมีของฐำนเทำ่ กนั กรวยมีควำมสูง 18
เซนติเมตร ทรงกระบอกน้ีมีควำมสูงเทำ่ ไร
1. 12 เซนติเมตร
2. 14 เซนติเมตร
3. 16 เซนติเมตร
4. 18 เซนติเมตร
40. กรวยมีฝำปิ ดอนั หน่ึง มีรัศมีปำกกรวย 6 เซนติเมตร และกรวยสูง 14 เซนติเมตร ปริมำตรของกรวยน้ี
เป็นเทำ่ ใด
1. 440 ลูกบำศกเ์ ซนติเมตร
2. 528 ลูกบำศกเ์ ซนติเมตร
3. 748 ลูกบำศกเ์ ซนติเมตร
4. 880 ลูกบำศกเ์ ซนติเมตร
41. ถงั น้ำทรงกระบอกใบหน่ึงมีรัศมี 7 เมตร สูง 20 เมตร ใส่น้ำเพียงคร่ึงถงั แลว้ น้ำในถงั จะมีปริมำตร

ประมำณก่ีลูกบำศกเ์ มตร
1. 1,640 ลูกบำศกเ์ มตร
2. 1,540 ลูกบำศกเ์ มตร
3. 1,400 ลูกบำศกเ์ มตร
4. 1,060 ลูกบำศกเ์ มตร
42. ปริซึมฐำนสำมเหล่ียมมุมฉำกท่ีมีดำ้ นประกอบมุมฉำกยำว 6 และ 8 เซนติเมตร ตำมลำดบั มีควำมยำว
12 เซนติเมตร ปริซึมฐำนสำมเหล่ียมมุมฉำกน้ีมีปริมำตรเทำ่ ไร
1. 288 ลูกบำศกเ์ ซนติเมตร
2. 348 ลูกบำศกเ์ ซนติเมตร
3. 420 ลูกบำศกเ์ ซนติเมตร
4. 576 ลูกบำศกเ์ ซนติเมตร

เอกสารประกอบการตวิ O-NET วิชาคณติ ศาสตร์ ช้ัน ม.3 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์

9

43. แกว้ ใบหน่ึงมีน้ำอยเู่ ตม็ เม่ือเอำเหล็กลูกบำศกข์ นำด 5 นิ้ว หยอ่ นลงไป น้ำจะไหลออกมำกี่ลูกบำศกน์ ิ้ว
1. 5 ลูกบำศกน์ ิ้ว
2. 15 ลูกบำศกน์ ิ้ว
3. 125 ลูกบำศกน์ ิ้ว
4. 145 ลูกบำศกน์ ิ้ว

44. ท่อน้ำคอนกรีตรูปทรงกระบอกอนั หน่ึงมีเส้นผำ่ นศูนยก์ ลำงของวงกลมวงนอก 18 เซนติเมตร และหนำ

4 เซนติเมตร ถำ้ ทอ่ น้ียำว 1.40 เมตร ปริมำตรของทอ่ มีค่ำประมำณเท่ำใด
1. 11,008 ลูกบำศกเ์ ซนติเมตร
2. 24,640 ลูกบำศกเ์ ซนติเมตร
3. 26,420 ลูกบำศกเ์ ซนติเมตร
4. 64,240 ลูกบำศกเ์ ซนติเมตร
45. พีระมิดอนั หน่ึงสูง 5 เซนติเมตร มีพ้ืนท่ีฐำน 49.14 ตำรำงเซนติเมตร ถำ้ นำไปแทนท่ีน้ำ น้ำจะลน้ ออกมำ
กี่ลูกบำศกเ์ ซนติเมตร
1. 80.90 ลูกบำศกเ์ ซนติเมตร
2. 81.90 ลูกบำศกเ์ ซนติเมตร
3. 91.80 ลูกบำศกเ์ ซนติเมตร
4. 91.90 ลูกบำศกเ์ ซนติเมตร
46. ถงั ขยะทรงพีระมิดฐำนสี่เหลี่ยมจตั ุรัสใบหน่ึงมีฐำนยำวดำ้ นละ10 นิ้ว สันยำว 13 นิ้ว ทำสีผวิ ขำ้ ง
ท้งั หมด จะหมดสีกี่กระป๋ อง ถำ้ สี 1 กระป๋ อง ทำไดพ้ ้นื ที่ 20 ตำรำงนิ้ว
1. 5 กระป๋ อง
2. 10 กระป๋ อง
3. 12 กระป๋ อง
4. 24 กระป๋ อง
47. สุนียต์ อ้ งกำรทำหมวกเป็นรูปกรวยท่ีเส้นผำ่ นศูนยก์ ลำงยำว 24 นิ้ว สูง 16 นิ้ว จะตอ้ งใชก้ ระดำษทำ
หมวกอยำ่ งนอ้ ยท่ีสุดกี่ตำรำงนิ้ว
1. 753.6 ตำรำงนิ้ว
2. 754 ตำรำงนิ้ว
3. 754.6 ตำรำงนิ้ว
4. 755 ตำรำงนิ้ว

เอกสารประกอบการตวิ O-NET วิชาคณิตศาสตร์ ชน้ั ม.3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์

10

48. คมสันตอ้ งกำรขดุ บอ่ ยำว 12 เมตร เป็นรูปสี่เหลี่ยมคำงหมูท้งั หวั ทำ้ ย ตอนบนกวำ้ ง 5 เมตร และตอนล่ำง
กวำ้ ง 8 เมตร ลึก 4 เมตร ค่ำจำ้ งขดุ ลูกบำศกเ์ มตรละ 50 บำท จะเสียค่ำจำ้ งเทำ่ ใด
1. 12,500 บำท
2. 12,800 บำท
3. 15,600 บำท
4. 21,500 บำท

49.

กำหนดให้ ขอ้ ใดเป็นคำตอบของ X, Y และ Z ตำมลำดบั

1. 10, 14 และ 15 2. 10, 15 และ 14

3. 14, 10 และ 15 4. 15, 14 และ 10

50. รูปสำมเหล่ียมสองรูปท่ีเท่ำกนั ทุกประกำรในขอ้ ใดท่ีใชค้ วำมสมั พนั ธ์แตกต่ำงจำกรูปอื่น

1.

2. กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์
3.
4.

เอกสารประกอบการตวิ O-NET วชิ าคณติ ศาสตร์ ช้นั ม.3

11

51. ขอ้ ใดสรุปเก่ียวกบั และ ไดถ้ ูกตอ้ ง

1. เกิดจำกกำรหมุนรูป ในทิศทำง

ตำมเขม็ นำฬิกำรอบจุดคงท่ีจุดหน่ึง

2. มีจุดคูท่ ี่สมนยั กนั 3 คู่ คือจุด A และจุด P จุด B

กบั จุด R จุด C กบั จุด Q

3.

4. คำตอบถูกตอ้ งท้งั ขอ้ 1. ถึงขอ้ 3

52. กำหนดให้ ABCD เป็นรูปสี่เหลี่ยมจตั ุรัส และ ขอ้ ใดต่อไปน้ีสรุปไดถ้ ูกตอ้ ง

1. (มุม- ดำ้ น- มุม)

2. เป็นรูปสำมเหล่ียมหนำ้ จวั่

3. เป็นรูปสำมเหลี่ยมหนำ้ จวั่ ที่มีมุมฉำก

4. คำตอบขอ้ 1., 2. และ 3. ถูกตอ้ ง

53. กำหนดให้ และ ขอ้ ใดต่อไปน้ีสรุปไดถ้ ูกตอ้ ง

1. (มุม- ดำ้ น- มุม)

2.

3.

4. คำตอบขอ้ 1., 2. และ 3. ถูกตอ้ ง

54.

จำกรูปท่ีกำหนดใหข้ อ้ สรุปในขอ้ ใดไม่ถูกตอ้ ง
1.
2.
3.
4. คำตอบท้งั ขอ้ 2. และ ขอ้ 3.

เอกสารประกอบการติว O-NET วิชาคณติ ศาสตร์ ช้นั ม.3 กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์

12

55. เมื่อเวลำ 11:00 น. บริภณั ฑว์ ดั ควำมยำวของเงำเสำไฟฟ้ำตน้ หน่ึงได้ 18 เมตร และวดั ควำมยำวของเงำ

ของตวั เองได้ 3.5 เมตร ถำ้ บริภณั ฑส์ ูง 175 เซนติเมตร เสำไฟฟ้ำมีควำมสูงก่ีเมตร

1. 7 เมตร

2. 8 เมตร

3. 9 เมตร

4. 10 เมตร

56. ลูกเสือคนหน่ึงนอนเล็งแนวยอดไมด้ ว้ ยไมพ้ ลองซ่ึงยำว 1 เมตร ถำ้ แนวที่เล็งทำใหป้ ลำยไมพ้ ลองอยสู่ ูง

จำกพ้ืนดิน 80 เซนติเมตร แลว้ ยอดไมจ้ ะอยสู่ ูงจำกพ้นื ดินเท่ำไร ถำ้ ตน้ ไมอ้ ยหู่ ่ำงจำกจุดที่เขำนอนเล็ง

14.5 เมตร

1. 19.33 เมตร 2. 20.43 เมตร

3. 21.55 เมตร 4. 23.64 เมตร

57. ช่ำงไฟฟ้ำตอ้ งกำรปี นข้ึนไปซ่อมสำยไฟที่ยอดเสำไฟฟ้ำ โดยนำบนั ไดยำว 6.5 เมตร วำงพำดกบั ยอดเสำ

ไฟฟ้ำพอดี ถำ้ โคนบนั ไดอยหู่ ่ำงจำกโคนเสำไฟฟ้ำ 2.5 เมตร เสำไฟฟ้ำมีควำมสูงเท่ำไร

1. 5 เมตร 2. 6 เมตร

3. 6.7 เมตร 4. 7 เมตร

58. มุมสองมุมเทำ่ กนั ทุกประกำรมีควำมหมำยตรงกบั ขอ้ ควำมในขอ้ ใด

1. ขนำดของมุมท้งั สองเท่ำกนั

2. รูปร่ำงของมุมท้งั สองเหมือนกนั

3. มุมท้งั สองเป็นมุมชนิดเดียวกนั

4. ทิศทำงของมุมท้งั สองอยใู่ นทิศทำงเดียวกนั

59. กำหนดให้ PQRS เป็นรูปส่ีเหลี่ยมดำ้ นขนำนท่ีมีจุด A และจุด B

เป็นจุดก่ึงกลำง และ ตำมลำดบั มี

และ เป็นเส้นทแยงมุม จงพจิ ำรณำ

ก. ดว้ ยควำมสมั พนั ธ์แบบ ดำ้ น- ดำ้ น- ดำ้ น

ข. ดว้ ยควำมสัมพนั ธ์แบบ ดำ้ น- ดำ้ น- ดำ้ น

ขอ้ ใดสรุปไดถ้ ูกตอ้ ง

1. ขอ้ ก. ถูกตอ้ ง ขอ้ ข. ไม่ถูกตอ้ ง

2. ขอ้ ข. ถูกตอ้ ง ขอ้ ก. ไมถ่ ูกตอ้ ง

3. ขอ้ ก. และขอ้ ข. ถูกตอ้ ง

4. ขอ้ ก. และขอ้ ข. ไมถ่ ูกตอ้ ง

เอกสารประกอบการตวิ O-NET วิชาคณติ ศาสตร์ ชั้น ม.3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

13

60. กำหนดรูป เป็นรูปท่ีเกิดจำกกำรเลื่อนขนำนรูป เม่ือพิกดั

โดยเลื่อนไปทำงซำ้ ยตำมแนวแกน หน่วย และเล่ือนข้ึนไปตำมแนวแกน

หน่วย ขอ้ ใดคือพิกดั ของ

1. และ

2. และ

3. และ

4. และ

61. พกิ ดั ของจุดคู่ในขอ้ ใดเป็นจุดสมนยั กนั โดยกำรกำรเล่ือนขนำนตำมแกน X ไปทำงซำ้ ย 2 หน่วย และเล่ือน

ข้ึนบนตำมแกน Y 5 หน่วย

1. กบั

2. กบั

3. กบั

4. คำตอบมำกกวำ่ 1 ขอ้

62. ขอ้ ใดกล่ำวไดถ้ ูกตอ้ ง

ก. เป็นส่วนของเส้นตรงของ

ข. จุด และจุด เป็นจุดเดียวกนั

ค. เป็นรูปกำรเลื่อนขนำนของ

1. ขอ้ ก. ถูก
2. ขอ้ ข. ถูก
3. ขอ้ ก. และขอ้ ค. ถูก
4. ขอ้ ข. และขอ้ ค. ถูก

เอกสารประกอบการตวิ O-NET วชิ าคณิตศาสตร์ ชั้น ม.3 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์

14
63.

จำกรูปที่กำหนด ขอ้ ควำมในขอ้ ใดถูกตอ้ ง โดย เป็นเส้นของกำรสะทอ้ น
1. จะแบ่งคร่ึงและต้งั ฉำกกบั และ
2.
3. เป็นรูปท่ีเกิดจำกกำรสะทอ้ นรูป
4. ถูกตอ้ งท้งั ขอ้ 1.- 3.
64.

กำหนดรูปตน้ แบบ และ เป็นรูปท่ีเกิดจำกกำรหมุนรอบจุด O กำรหมุนขอ้ ใดถูกตอ้ ง

1. หมุน รอบจุด O ตำมเขม็ นำฬิกำดว้ ยมุม 90 องศำ

2. หมุน รอบจุด O ตำมเขม็ นำฬิกำดว้ ยมุม 180 องศำ

3. หมุน รอบจุด O ตำมเขม็ นำฬิกำดว้ ยมุม 270 องศำ

4. หมุน รอบจุด O ทวนเขม็ นำฬิกำดว้ ยมุม 90 องศำ

65. มีจุด และ พกิ ดั ของจุดที่เกิดจำกกำรแปลงในขอ้ ใดตอ่ ไปน้ีไม่

ถูกตอ้ ง

1. สะทอ้ นตำมแกน จะไดจ้ ุด

2. เล่ือนขนำนตำมแกน ไปทำงขวำ 3 หน่วย และเลื่อนลงตำมแกน 2 หน่วย จะได้ คือ

3. เล่ือนขนำนตำมแกน ไปทำงขวำ 3 หน่วย และเลื่อนลงตำมแกน 2 หน่วย จะได้ คือ

4. เลื่อนขนำนตำมแกน ไปทำงขวำ 3 หน่วย และเล่ือนลงตำมแกน 2 หน่วย จะได้ คือ

เอกสารประกอบการติว O-NET วิชาคณติ ศาสตร์ ชัน้ ม.3 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์

15

66. ถำ้ แลว้ ประโยคใดเป็นเทจ็
1.
2.
3.
4.

67. คำตอบของสมกำรในขอ้ ใด มีคำ่ นอ้ ยที่สุด
1.
2.

3.
4.
68. รูปสำมเหล่ียมหนำ้ จว่ั รูปหน่ึงมีดำ้ นยำวเท่ำกนั ดำ้ นละ เซนติเมตร ดำ้ นฐำนยำว
เซนติเมตร ถำ้ เส้นรอบรูปของรูปสำมเหลี่ยมน้ียำว 32 เซนติเมตร แลว้ ดำ้ นท่ีเทำ่ กนั ของรูปสำมเหลี่ยมน้ี
ยำวกี่เซนติเมตร
1. 9 เซนติเมตร
2. 10 เซนติเมตร
3. 11 เซนติเมตร
4. 12 เซนติเมตร
69. วนิ ยั ขบั รถจำกกรุงเทพฯ ไปบำ้ นเพอ่ื นท่ีตำ่ งจงั หวดั โดยขบั รถช่วงแรกได้ ของระยะทำงท้งั หมด จึง
หยดุ พกั ช่วงที่สองเขำขบั รถไดอ้ ีก ของระยะทำงที่เหลือแลว้ จึงหยดุ พกั ถำ้ วนิ ยั ขบั รถช่วงสุดทำ้ ยได้
ระยะทำง 80 กิโลเมตร ระยะทำงจำกกรุงเทพฯ ไปบำ้ นเพอื่ นวนิ ยั เทำ่ กบั กี่กิโลเมตร
1. 120 กิโลเมตร
2. 240 กิโลเมตร
3. 320 กิโลเมตร
4. 360 กิโลเมตร

เอกสารประกอบการติว O-NET วชิ าคณิตศาสตร์ ช้นั ม.3 กลุม่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

16

70. เลขคูบ่ วกสองจำนวนเรียงกนั ซ่ึงสองเท่ำของจำนวนนอ้ ยมำกกวำ่ จำนวนมำกอยู่ 18 จงหำผลบวกของ

เลขสองจำนวนน้ี
1. 38

2. 40

3. 42

4. 46

71. บตั รคำ่ ผำ่ นประตูสำหรับชมคอนเสิร์ตกำรกศุ ลแห่งหน่ึง ผใู้ หญ่คนละ 60 บำท เดก็ คนละ 25 บำท ถำ้ มี ผู้

เขำ้ ชมท้งั หมด 280 คน เก็บเงินไดท้ ้งั หมด 14,000 บำท จงหำวำ่ มีเด็กเขำ้ ชมคอนเสิร์ตก่ีคน
1. 200 คน

2. 80 คน

3. 60 คน

4. 40 คน

72. ถำ้ ผลบวกของรำคำกำแฟ 2 ชนิด เท่ำกบั 57 บำท ผสมในอตั รำ 3 : 4 แลว้ นำไปขำยกิโลกรัมละ 35 บำท

ยงั ไดก้ ำไร 25% จงหำรำคำกำแฟแตล่ ะชนิดวำ่ รำคำกิโลกรัมละเทำ่ ไร

1. 32 บำท และ 25 บำท

2. 31 บำท และ 26 บำท

3. 30 บำท และ 27 บำท

4. 29 บำท และ 28 บำท
73. ขอ้ ใดตอ่ ไปน้ีเป็นจริง

1. ให้ ดงั น้นั ดงั น้นั
2. ให้ ดงั น้นั
3. ให้ ดงั น้นั ผำ่ นจุด แลว้ เท่ำกบั เท่ำไร
4. ให้

74. ถำ้ กรำฟของสมกำร

1.

2.

3.

4.

เอกสารประกอบการติว O-NET วชิ าคณิตศาสตร์ ชั้น ม.3 กล่มุ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์

17

75. คำตอบของระบบสมกำร และ

1. (0, 2) 2. (2, 0)

3. (0, -2) 4. (-2, 0)

76. กำหนด และ คำ่ ของ เท่ำกบั เท่ำไร

1. 50 2. 55

3. 60 4. 70

77. ถำ้ กรำฟเส้นตรงสองเส้นท่ีกำหนดดว้ ยสมกำร และ ตดั กนั ที่จุด

จงหำค่ำ

1. -7

2. -8

3. -9

4. -10

78. คำตอบของระบบสมกำร และ คือขอ้ ใด

1. (10, 20)

2. (15, 5)

3. (5, 15)

4. (20, 10)

79. ชำวนำเล้ียงไก่และววั ถำ้ นบั หวั รวมกนั จะได้ 50 หวั นบั ขำรวมกนั ได้ 120 ขำ จงหำวำ่ ชำวนำเล้ียงไก่

และววั อยำ่ งละก่ีตวั

1. ววั 10 ตวั ไก่ 40 ตวั

2. ววั 40 ตวั ไก่ 10 ตวั

3. ววั 20 ตวั ไก่ 30 ตวั

4. ววั 30 ตวั ไก่ 20 ตวั

80. ผใู้ หญ่ 2 คน กบั เดก็ 4 คน ทำงำนอยำ่ งหน่ึงแลว้ เสร็จใน 5 ชว่ั โมง แต่ถำ้ ใหผ้ ใู้ หญ่ 4 คน กบั เดก็ 6 คน

ทำงำนน้นั จะเสร็จในเวลำ 3 ชวั่ โมง ผใู้ หญ่ 2 คน กบั เดก็ 3 คน จะทำงำนเสร็จในกี่ชว่ั โมง

1. 4 ชวั่ โมง

2. 5 ชว่ั โมง

3. 6 ชวั่ โมง

4. 7 ชวั่ โมง

เอกสารประกอบการตวิ O-NET วิชาคณติ ศาสตร์ ช้นั ม.3 กล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

18

81. กำงเกง 2 ตวั กบั เส้ือ 4 ตวั รำคำรวมกนั 750 บำท กำงเกง 1 ตวั กบั เส้ือ 3 ตวั รำคำรวมกนั 600 บำท เส้ือ
รำคำตวั ละเท่ำใด
1. 125 บำท
2. 200 บำท
3. 225 บำท
4. 315 บำท

82. เลขจำนวนหน่ึงมีสองหลกั หำกผลบวกของเลขท้งั สองหลกั เป็น 10 แต่ถำ้ เอำ -36 บวกเขำ้ กบั เลขจำนวน
น้นั จะเทำ่ กบั เลขจำนวนน้นั เมื่อกลบั หลกั กนั เลขจำนวนน้นั คือจำนวนใด
1. 35
2. 67
3. 73
4. 84

83. หำ้ เท่ำของผลบวกของเลขจำนวนหน่ึงกบั 10 ยงั มีคำ่ นอ้ ยกวำ่ 60 หำเลขจำนวนน้นั คือจำนวนใด
1. 2.
3. 4.

84. นพสะสมเงินเหรียญชนิด 10 บำท และ 5 บำท รวมกนั ได้ 150 เหรียญ คิดเป็นเงินรวมกนั ได้ 900 บำท
อยำกทรำบนพมีเหรียญชนิด 10 บำทกี่เหรียญ
1. 15 เหรียญ
2. 20 เหรียญ
3. 25 เหรียญ
4. 30 เหรียญ

85. ธีระซ้ือมะขำมมำ X กิโลกรัม ขำยไป 90 กิโลกรัม ธีระเหลือมะขำมนอ้ ยกวำ่ 20 กิโลกรัม ธีระซ้ือ
มะขำมมำกที่สุดคิดเป็นจำนวนเตม็ กี่กิโลกรัม
1. 106 กิโลกรัม
2. 107 กิโลกรัม
3. 108 กิโลกรัม
4. 109 กิโลกรัม

เอกสารประกอบการติว O-NET วิชาคณิตศาสตร์ ชน้ั ม.3 กลุม่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์

19

86. แม่คำ้ ขำยส้มโอไป 200 ผล ปรำกฏวำ่ ยงั เหลือส้มโอมำกกวำ่ 50 ผล เดิมมีส้มโอเท่ำไร
1. เดิมมี 250 ผล
2. เดิมมีนอ้ ยกวำ่ 250 ผล
3. เดิมมีมำกกวำ่ 250 ผล
4. เดิมมีไม่ถึง 250 ผล

87. แมค่ ำ้ ขำยหมูในเลำ้ ที่เล้ียงไว้ 40 ตวั เหลือหมูในเลำ้ นอ้ ยกวำ่ 136 ตวั เดิมแม่คำ้ มีหมูในเลำ้ มำกที่สุดก่ีตวั
1. 137 ตวั
2. 170 ตวั
3. 173 ตวั
4. 175 ตวั

88. ตำรำงสำรวจกีฬำที่นกั เรียนชอบมำกท่ีสุด ดงั น้ี

กฬี าทช่ี อบทส่ี ุด จานวน (คน)

ฟุตบอล 102

บำสเกตบอล 66

วอลเล่ยบ์ อล 72

รวม 240

ถำ้ ใหน้ ำเสนอขอ้ มูลน้ีโดยใชแ้ ผนภูมิรูปวงกลม จงหำวำ่ ขนำดของมุมที่จุดศูนยก์ ลำงในขอ้ ใดต่อไปน้ี

ไม่ถูกตอ้ ง

1. พ้ืนท่ีส่วนท่ีแสดงนกั เรียนชอบฟุตบอลเท่ำกบั 153 องศำ

2. พ้ืนที่ส่วนท่ีแสดงนกั เรียนชอบบำสเกตบอลเท่ำกบั 99 องศำ

3. พ้นื ที่ส่วนที่แสดงนกั เรียนชอบวอลเล่ยบ์ อลเท่ำกบั 98 องศำ

4. พ้ืนที่ส่วนท่ีแสดงนกั เรียนชอบฟุตบอลกบั วอลเล่ยบ์ อลต่ำงกนั เทำ่ กบั 45 องศำ

เอกสารประกอบการตวิ O-NET วชิ าคณติ ศาสตร์ ชั้น ม.3 กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์

20

89. จำกกำรสำรวจจำนวนหนงั สือของหอ้ งสมุดโรงเรียนภูมิปัญญำจำแนกหนงั สือไดต้ ำมแผนภูมิรูปวงกลม
ดงั น้ี

ถำ้ จำนวนหนงั สือภำษำต่ำงประเทศ มีหนงั สือภำษำองั กฤษกบั ภำษำฝร่ังเศสเป็นอตั รำ 4 : 1 และ

หนงั สือภำษำองั กฤษเท่ำกบั หนงั สือภำษำไทย จำนวนหนงั สือคณิตศำสตร์มีก่ีเล่ม

1. 100 เล่ม 2. 150 เล่ม

3. 200 เล่ม 4. 250 เล่ม

90. แผนภูมิแสดงค่ำใชจ้ ่ำยของนำยภูมิ

จงหำอตั รำส่วน ค่ำอำหำรตอ่ คำ่ เส้ือผำ้ ตอ่ ค่ำเช่ำบำ้ น จานวนคน
1. 2 : 1 : 3 4
2. 2 : 9 : 6 5
3. 6 : 2 : 9 12
4. 3 : 1 : 2 10
91. ค่ำใชจ้ ่ำยตอ่ วนั ของเด็กกลุ่มหน่ึงเป็น ดงั น้ี a
7
ค่าใช้จ่ายต่อวนั (บาท)
30 – 39
40 – 49
50 – 59
60 – 69
70 – 79
80 – 89

ถำ้ ค่ำเฉล่ียเลขคณิตไดเ้ ป็น 67.25 เดก็ กลุ่มน้ีมีท้งั หมดกี่คน

1. 65 คน 2. 70 คน

3. 75 คน 4. 80 คน

เอกสารประกอบการตวิ O-NET วิชาคณติ ศาสตร์ ช้นั ม.3 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์

21

92. ให้A เป็นคำ่ มธั ยฐำนของขอ้ มูล ; 7, 2, 5, 13, 18, 21
B เป็นฐำนนิยมของขอ้ มูล; 4, 6, 7, 8, 9, 9, 10, 7, 6, 7
A+B มีค่ำเป็นเทำ่ ใด

1. 12
2. 15
3. 16
4. 17
93. ในกำรสอบวชิ ำวทิ ยำศำสตร์กำหนดใหม้ ีกำรสอบ 3 คร้ัง โดยกำหนดน้ำหนกั ของกำรสอบเป็น 2 : 1 : 3
ถำ้ นำงสำวดลยำสอบไดค้ ะแนน 50, 80 และ 75 ตำมลำดบั นำงสำวดลยำสอบวชิ ำวทิ ยำศำสตร์ได้
คะแนนเฉลี่ยเทำ่ ไร
1. 67.50
2. 71.35
3. 76.50
4. 77.17
94. ในกำรสอบวชิ ำคณิตศำสตร์ของนกั เรียน 40 คน คะแนนเฉลี่ยเท่ำกบั 12.5 นำยปรีชำซ่ึงเป็นนกั เรียนใน
กลุ่มน้ีสอบได้ 10 คะแนน ปรำกฏวำ่ ครูตรวจขอ้ สอบผดิ ไป เมื่อแกค้ ะแนนแลว้ คำนวณคะแนนเฉล่ีย
ใหม่ไดเ้ ป็น 12.65 คะแนนท่ีถูกตอ้ งของนำยปรีชำเป็นเทำ่ ไร
1. 12 คะแนน
2. 14 คะแนน
3. 16 คะแนน
4. 18 คะแนน
95. มีบตั ร 5 ใบ บตั รแต่ละใบกำกบั ดว้ ยตวั เลข 1, 2, 3, 4 และ 5 ถำ้ สุ่มหยบิ มำ 2 ใบ พร้อมกนั
กำหนดเหตุกำรณ์

ก. เหตุกำรณ์ที่ผลบวกของตวั เลขจำกบตั รท้งั สองหำรดว้ ย 2 ลงตวั
ข. เหตุกำรณ์ท่ีผลบวกของตวั เลขจำกบตั รท้งั สองหำรดว้ ย 3 ลงตวั
ค. เหตุกำรณ์ที่ผลบวกของตวั เลขจำกบตั รท้งั สองหำรดว้ ย 4 ลงตวั
เหตุกำรณ์ในขอ้ ใดมีโอกำสเกิดข้ึนไม่เทำ่ กนั
1. ก. กบั ข.
2. ก. กบั ค.
3. ข. กบั ค.
4. ตอบท้งั ขอ้ 2. และขอ้ 3.

เอกสารประกอบการตวิ O-NET วชิ าคณิตศาสตร์ ชั้น ม.3 กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์

22

96. มีบตั ร 5 ใบ บตั รแตล่ ะใบมีตวั เลข 3, 5, 6, 7 และ 8 ถำ้ สุ่มหยบิ บตั ร 2 ใบ พร้อมกนั เหตุกำรณ์ในขอ้ ใดมี
โอกำสเกิดข้ึนแน่นอน
1. เหตุกำรณ์ท่ีผลบวกของตวั เลขเป็นจำนวนเฉพำะ
2. เหตุกำรณ์ท่ีไดจ้ ำนวนเฉพำะท้งั สองใบ
3. เหตุกำรณ์ที่ผลบวกของตวั เลขเป็นจำนวนคู่หรือจำนวนคี่
4. คำตอบท้งั ขอ้ 1. ขอ้ 2. และ ขอ้ 3.

97. นกั เรียน 8 คน เรียนคณิตศำสตร์ 12 คน เรียนวทิ ยำศำสตร์ ถำ้ นกั เรียนที่เรียนคณิตศำสตร์ หรือ
วทิ ยำศำสตร์มี 16 คน เลือกนกั เรียนมำ 1 คน จงหำควำมน่ำจะเป็นที่นกั เรียนคนน้ีจะเรียนคณิตศำสตร์
เพียงอยำ่ งเดียว
1.

2.

3.

4.

98. ในกำรสอบเก็บคะแนนแห่งหน่ึงคะแนนเตม็ 15 ถำ้ สอบไดต้ ่ำกวำ่ 8 คะแนนถือวำ่ สอบตก ดงั น้นั จงหำ
ควำมน่ำจะเป็นท่ีจะสอบไดเ้ ป็นเทำ่ ไร
1. 2.

3. 4.

99. ควำมน่ำจะเป็นที่จะไดจ้ ำนวนมำกกวำ่ 200 จำกกำรจดั เลขโดด 3 ตวั ไมซ่ ้ำกนั คือ 1, 2, 3 เป็นเท่ำใด
1.

2.

3.

4.

เอกสารประกอบการติว O-NET วิชาคณิตศาสตร์ ชน้ั ม.3 กลุม่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

23

100. กล่องใบหน่ึงมีลูกบอลขนำดเทำ่ กนั สีขำว 3 ลูก สีแดง 4 ลูก และสีฟ้ำ 2 ลูก ถำ้ หยบิ ข้ึนมำ 1 ลูก
ควำมน่ำจะเป็นท่ีจะไดล้ ูกบอลสีฟ้ำ คือขอ้ ใด
1.

2.

3.

4.

เอกสารประกอบการติว O-NET วิชาคณิตศาสตร์ ชนั้ ม.3 กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์

24

ชุดที่ 2 ข้อสอบ O-Net วชิ าคณิตศาสตร์ มัธยมศึกษาตอนต้น ปีการศกึ ษา

2559

ส่วนที่ 1 : แบบระบำยตวั เลือก แต่ละขอ้ มีคำตอบที่ถูกตอ้ งท่ีสุดเพยี งคำตอบเดียว
จำนวน 25 ขอ้ : ขอ้ ละ 3 คะแนน

1. ถำ้ เขียนเศษส่วน ในรูปทศนิยมซ้ำ จะไดท้ ศนิยมในตำแหน่งท่ี 37 เป็นเท่ำไร
1. 1 2. 5
3. 7 4. 8

2. จงพจิ ำรณำขอ้ ควำมต่อไปน้ี วำ่ ขอ้ ใดเป็นจริง
1. จำนวนจริงที่เป็นจำนวนตรรกยะมีบำงจำนวนที่เป็นจำนวนอตรรกยะ
2. จำนวนเตม็ 0 เป็นจำนวนจริงเพียงจำนวนเดียวที่คูณกบั จำนวนอตรรกยะใดๆแลว้ ไดผ้ ลคูณเป็น
จำนวนตรรกยะ
3. จำนวนจริงท่ีเขียนไดใ้ นรูปทศนิยมท่ีไมซ่ ้ำกนั เป็นจำนวนอตรรกยะและเขียนเป็นรูปเศษส่วนที่มีเศษ
และส่วนเป็นจำนวนเตม็ ไม่ได้
4. จำนวนเตม็ เป็นจำนวนจริงท่ีประกอบดว้ ยจำนวนเตม็ ลบและจำนวนเตม็ บวกเท่ำน้นั

3. นกั เรียนหอ้ งหน่ึงเป็นนกั เรียนชำย ของนกั เรียนท้งั หอ้ ง มีนกั เรียนหญิงท่ีเป็นนกั กรีฑำอยู่ 0.5 ของ
นกั เรียนหญิง ถำ้ นกั เรียนหญิงในหอ้ งน้ีเป็นนกั กรีฑำ 8 คน จะมีนกั เรียนชำยในหอ้ งน้ีก่ีคน
1. 18
2. 20
3. 22
4. 24

4. ภำสกรสอบวชิ ำต่ำงๆ ไดค้ ะแนนดงั น้ี
วชิ ำคณิตศำสตร์ : วชิ ำภำษำองั กฤษ ไดค้ ะแนนเป็น 5 : 3
วชิ ำภำษำองั กฤษ : วชิ ำวทิ ยำศำสตร์ ไดค้ ะแนนเป็น 4 : 7

ถำ้ แตล่ ะวชิ ำคะแนนเตม็ 50 คะแนน และเขำสอบวชิ ำคณิตศำสตร์ไดค้ ะแนน 40 คะแนน ถำมวำ่ เขำ
สอบวชิ ำวทิ ยำศำสตร์ไดร้ ้อยละเทำ่ ไร
1. 84 2. 80
3. 60 4. 48

เอกสารประกอบการตวิ O-NET วชิ าคณติ ศาสตร์ ชั้น ม.3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

25

5. ผลบวกของเศษส่วน 3 จำนวนต่อไปน้ี

มีค่ำใกลเ้ คียงจำนวนเตม็ ในขอ้ ใดตอ่ ไปน้ีมำกท่ีสุด
1. 1
2. 2
3. 3
4. 4
6. ให้ a เป็นจำนวนที่มำกท่ีสุด ที่หำร 170 และ 94 แลว้ เหลือเศษ 5 และ 4 ตำมลำดบั แลว้ a + 5 ไม่เป็น
พหุคูณของจำนวนใดต่อไปน้ี
1. 2
2. 3
3. 4
4. 5
7. กล่องกระดำษรูปส่ีเหล่ียมลูกบำศกท์ ่ีมีขนำดภำยในกวำ้ ง 21 เซนติเมตร บรรจุลูกบอลลุกหน่ึงไดพ้ อดี
อยำกทรำบวำ่ ปริมำตรของอำกำศภำยในกล่องท่ีอยลู่ อ้ มรอบบอลลูกน้นั ก่ีลูกบำศกเ์ ซนติเมตร
1. 4,400 ลูกบำศกเ์ ซนติเมตร
2. 4,410 ลูกบำศกเ์ ซนติเมตร
3. 4,420 ลูกบำศกเ์ ซนติเมตร
4. 4,430 ลูกบำศกเ์ ซนติเมตร
8. ABCD เป็นรูปส่ีเหลี่ยมท่ีมีดำ้ น AB ขนำนกบั ดำ้ น CD และห่ำงกนั 8 หน่วย จุด P และจุด Q เป็นจุด
ก่ึงกลำงดำ้ น AD และ BC ตำมลำดบั ถำ้ รูปสี่เหลี่ยม ABCD มีพ้นื ท่ี 40 ตำรำงหน่วย แลว้ จุด P และจุด Q
จะห่ำงกนั ก่ีหน่วย
1. 3 หน่วย
2. 4 หน่วย
3. 5 หน่วย
4. 6 หน่วย
9. จงหำพ้ืนท่ีบนหนำ้ ท่ีมองไมเ่ ห็นของรูปทรงเรขำคณิตขำ้ งล่ำงน้ีรวมกนั ไดก้ ่ีตำรำงหน่วย
1. 582 ตำรำงหน่วย
2. 682 ตำรำงหน่วย
3. 762 ตำรำงหน่วย
4. 772 ตำรำงหน่วย

เอกสารประกอบการติว O-NET วิชาคณิตศาสตร์ ชัน้ ม.3 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์

26

10. กำหนดสี่เหลี่ยมผนื ผำ้ รูปหน่ึงถูกแบง่ เป็นรูปส่ีเหล่ียมมุมฉำก 4 รูป รูปหน่ึงเป็นสี่เหล่ียมจตั ุรัสพ้ืนที่ 36

ตำรำงหน่วย อีก 3 รูป เป็ นรูปส่ีเหล่ียมผนื ผำ้ มีพ้นื ที่ 60, 90, A ตำรำงหน่วย ดงั รูป

จงหำคำ่ A

1. 150 36 90
2. 160

3. 180 60 A

4. 200

11. คุณครูเดินทำงออกจำกบำ้ นไปทำงทิศตะวนั ออกเป็นระยะทำง 2.4 กิโลเมตร แลว้ เล้ียวข้ึนไปทำงทิศ

เหนืออีก 3.2 กิโลเมตร ถึงโรงเรียนพอดี จงหำระยะห่ำงระหวำ่ งบำ้ นกบั โรงเรียน

1. 4.0 กิโลเมตร

2. 4.5 กิโลเมตร

3. 5.6 กิโลเมตร

4. 6.7 กิโลเมตร

12. ผลบวกของมุมภำยในของรูป X เหล่ียมเป็นสองเท่ำของผลบวกของมุมภำยในรูปแปดเหลี่ยมจงหำค่ำ X

1. 12 2. 13

3. 14 4. 15

13. กำหนดให้ ACE และ BCD เป็นส่วนของเส้นตรงตดั กนั ที่จุด C ส่วนของเส้นตรง AB และ DE

ขนำนกนั ถำ้ AB = 2 ซม., AC = 1.5 ซม.,DE = 4 ซม., DC = AB, BC = X ซม. และ EC = Y ซม.

จงหำค่ำ X + Y

1. 3.0 2. 3.5
3. 4.0 4. 4.5

เอกสารประกอบการติว O-NET วชิ าคณิตศาสตร์ ชน้ั ม.3 กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์

27

14.

จำกรูปขำ้ งบน มีดำ้ น AB = 6 เซนติเมตร AC = 10 เซนติเมตร DE = 3 เซนติเมตร
จงหำวำ่ AD ยำวก่ีเซนติเมตร

1. 8
2. 7
3. 6
4. 5
15. กำหนดแบบรูปของจำนวนดงั น้ี
1, 1, 2, 1, 2, 3, 1, 2, 3, 4,...
จำกแบบรูปขำ้ งตน้ ถำ้ เขียนต่อไปเรื่อยๆ ถึงพจน์ท่ี 19 จะตรงกบั จำนวนในขอ้ ใด
1. 1
2. 2
3. 3
4. 4
16. ถำ้ น้ำไหลจำกท่อดว้ ยอตั รำเร็วลงที่ลงในภำชนะจนทว่ มกรวย ดงั รูป

อยำกทรำบวำ่ กรำฟของระดบั น้ำจะมีลกั ษณะดงั ขอ้ ใด
1. 2.

3. 4.

เอกสารประกอบการติว O-NET วชิ าคณิตศาสตร์ ช้ัน ม.3 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์

28

17. กำหนด ABC เป็นรูปสำมเหลี่ยมบนระนำบ XY มีพกิ ดั ของจุดเป็น A (3, 3), B (5, 9), C (10, 5)

จงหำพ้ืนที่ของรูปสำมเหล่ียม ABC

1. 19 ตำรำงหน่วย

2. 21 ตำรำงหน่วย

3. 23 ตำรำงหน่วย

4. 33 ตำรำงหน่วย

18. ขอ้ ใดต่อไปน้ีเป็นจริง

1. ถำ้ a เป็นจำนวนจริง แลว้ เสมอ

2. ให้ เป็นจำนวนอตรรกยะ ถำ้ แลว้

3. ให้ เป็นจำนวนตรรกยะ ถำ้ แลว้

4. ให้ เป็นจำนวนเตม็ ถำ้ แลว้

19. กรำฟของสมกำรในขอ้ ใดต่อไปน้ี ผำ่ นจุดท่ีกรำฟของสมกำร X + Y = 2 และ X – Y = 8 ตดั กนั

1. 2X + Y = 5

2. X – 2Y = 7

3. 3X + 2Y =11

4. 2X – 3Y = 19

20. เดก็ 4 คน กบั ผใู้ หญห่ ญิง 1 คน ทำงำนไดเ้ ทำ่ กบั เดก็ 3 คน กบั ผใู้ หญ่ชำย 1 คน ถำ้ ผใู้ หญ่ชำยคนเดียว

ทำงำนน้นั เสร็จใน 6 วนั แลว้ เด็ก 1 คน ผใู้ หญ่หญิง 1 คน และผใู้ หญช่ ำย 1 คน ช่วยกนั ทำงำนน้นั จะ

เสร็จภำยในก่ีวนั

1. 2 วนั

2. 3 วนั

3. 4 วนั

4. 5 วนั

21. จำนวนครูในโรงเรียนแห่งหน่ึงมีท้งั หมด 200 คน จำแนกตำมวฒุ ิกำรศึกษำในปี 2553 เป็นดงั น้ี

จำนวนครูที่มีวฒุ ิปริญญำตรี มำกกวำ่ จำนวนครูที่มีวฒุ ิปริญญำโทก่ีคน

1. 134 คน 2. 88 คน

3. 84 คน 4. 78 คน

เอกสารประกอบการติว O-NET วิชาคณติ ศาสตร์ ช้ัน ม.3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์

29

22. ผลกำรเรียนวชิ ำภำษำไทยของนกั เรียนกลุ่มหน่ึงมีระดบั คะแนนดงั น้ี
22313
31432
43322
43121
จงหำฐำนนิยมระดบั คะแนนของผลกำรเรียนของนกั เรียนกลุ่มน้ี
1. 4
2. 3
3. 2
4. 1

23. คะแนนสอบวชิ ำภำษำองั กฤษของนกั เรียนหอ้ งหน่ึงมีกำรแจกแจงปกติคำ่ เฉล่ียเลขคณิตเทำ่ กบั 60
คะแนน และส่วนเบี่ยงเบนมำตรฐำนเท่ำกบั 5 คะแนน แสดงพ้ืนที่ใตโ้ คง้ ปกติไดด้ งั น้ี

ถำ้ นกั เรียนเขำ้ สอบ 44 คน ผทู้ ี่ไดค้ ะแนนนอ้ ยกวำ่ 65 คะแนน มีก่ีคน
1. 35 คน
2. 37 คน
3. 38 คน
4. 39 คน
24. กำหนดจุด 6 จุด มี 5 จุด ที่อยใู่ นแนวเส้นตรงเดียวกนั ดงั รูป

จะสร้ำงสำมเหลี่ยมท่ีมีจุดยอดมุมเป็นจุดเหล่ำน้ีไดก้ ่ีรูป กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์
1. 13 รูป
2. 12 รูป
3. 11 รูป
4. 10 รูป

เอกสารประกอบการติว O-NET วิชาคณติ ศาสตร์ ชัน้ ม.3

30

25. มีบตั ร 5 ใบ กำกบั ดว้ ยตวั เลข 1, 2, 3, 4, 5 สุ่มหยบิ มำ 2 ใบ ควำมน่ำจะเป็นท่ีผลคูณของจำนวนในบตั ร
ท้งั 2 ใบ เป็นจำนวนเตม็ เป็นเทำ่ ไร
1. 0.1
2. 0.2
3. 0.3
4. 0.4

ส่วนที่ 2: แบบระบำยตวั เลือก จำนวน 5 ขอ้ : ขอ้ ละ 5 คะแนน
ขอ้ 26 – 30 ใหเ้ ลือกคำตอบที่ถูกตอ้ ง 1 คำตอบ จำกตวั เลือก 9 ตวั เลือกท่ีกำหนดให้
1. 10 2. 11 3. 12 4. 13 5. 15
6. 16 7. 18 8. 19 9. 20
26. มีนกั เรียน 6 คน จบั มือทกั ทำยกนั จนครบทุกคน จะมีกำรจบั มือทกั ทำยกนั ท้งั หมดกี่คร้ัง
27. ใหส้ ำมเหล่ียม ABC มีดำ้ นยำวเป็น จำนวนเตม็ หน่วย AB= 30หน่วย BC = 18 หน่วย แลว้ AC ส้นั ท่ีสุด
จะยำวกี่หน่วย
28. จำนวนนบั สำมจำนวนถำ้ นำมำบวกกนั ทีละคู่ จะไดผ้ ลบวกเป็น 40, 48 และ 52 จำนวนที่นอ้ ยท่ีสุดเป็น
เท่ำไร
29. ABC เป็นสำมเหลี่ยมมุมฉำกที่มีมุม B เป็นมุมฉำก และควำมยำวดำ้ น BC = หน่วย และ
COS จงหำวำ่ AC ยำวกี่หน่วย
30. พิจำรณำ ลำดบั ของรูปสำมเหลี่ยมต่อไปน้ี

รูปที่ 1 มีรูปสำมเหลี่ยมท้งั หมด 1 รูป
รูปที่ 2 มีรูปสำมเหลี่ยมท้งั หมด 3 รูป
รูปที่ 3 มีรูปสำมเหลี่ยมท้งั หมด 6 รูป
รูปที่ 4 มีรูปสำมเหลี่ยมท้งั หมด 10 รูป
ถำมวำ่ สำมเหล่ียมรูปท่ีเทำ่ ไรจะมีรูปสำมเหล่ียมท้งั หมด 55 รูป

เอกสารประกอบการตวิ O-NET วชิ าคณติ ศาสตร์ ช้นั ม.3 กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์

31

ชุดท่ี 2 ข้อสอบ O-Net วชิ าคณติ ศาสตร์ มัธยมศึกษาตอนต้น ปีการศกึ ษา

2560

ส่วนที่ 1 : แบบปรนยั 4 ตวั เลือก แต่ละขอ้ มีคำตอบท่ีถูกตอ้ งที่สุดเพียงคำตอบเดียว
จำนวน 15 ขอ้

1. จงหำค่ำของ
1. 256
2. 160
3. 25.6
4. 16.0

2. ถำ้ ให้ A เป็นตวั หำรร่วมมำกของ 36 และ 54
และ B เป็นตวั คูณร่วมนอ้ ยของ 36 และ 54
แลว้ จะมีคำ่ เป็นเทำ่ ไร
1. 1 2. 3
3. 4 4. 4

3.

รูปหกเหลี่ยมขำ้ งบนมีขนำดของมุมภำยในท้งั หมดรวมกนั เท่ำกบั กี่เทำ่ ของผลบวกของมุมภำยในรูป
สำมเหลี่ยม
1. 2 เท่ำ
2. 3 เท่ำ
3. 4 เท่ำ
4. 5 เทำ่
4. กรวยกลมและทรงกระบอกมีฐำนเทำ่ กนั และสูงเทำ่ กนั ถำ้ กรวยกลมมีปริมำตร 7 ลูกบำศกเ์ ซนติเมตร
แลว้ ทรงกระบอกมีปริมำตรเทำ่ ไร
1. 30 ลูกบำศกเ์ ซนติเมตร
2. 27 ลูกบำศกเ์ ซนติเมตร
3. 21 ลูกบำศกเ์ ซนติเมตร
4. 18 ลูกบำศกเ์ ซนติเมตร

เอกสารประกอบการตวิ O-NET วชิ าคณติ ศาสตร์ ช้นั ม.3 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์

32

5. พจิ ำรณำภำพตอ่ ไปน้ี

ภำพดำ้ นหนำ้ ภำพดำ้ นขำ้ ง ภำพดำ้ นบน

เกิดจำกกำรนำลูกบำศกข์ นำด 1 หน่วย มำประกอบกนั เป็นรูปเรขำคณิต 3 มิติตำมขอ้ ใด
1.

2.

3.

4.

6. สำมเหล่ียมมุมฉำกรูปหน่ึงมีดำ้ นประกอบมุมฉำกยำว 3 หน่วย และ 6 หน่วยควำมยำวของดำ้ นตรงขำ้ ม
มุมฉำกมีคำ่ ตรงกบั ขอ้ ใด
1. ระหวำ่ ง และ
2. ระหวำ่ ง และ
3. ระหวำ่ ง และ
4. ระหวำ่ ง และ

เอกสารประกอบการติว O-NET วิชาคณติ ศาสตร์ ช้ัน ม.3 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์

33

7. ลุงปัญญำมีอำยรุ ะหวำ่ ง 40 ถึง 60 ปี ปี น้ีอำยขุ องลุงปัญญำหำรดว้ ย 6 ลงตวั แต่ปี หนำ้ จะหำรดว้ ย 7 ลงตวั
อีกก่ีปี ลุงปัญญำจะมีอำยคุ รบ 60 ปี พอดี
1. 9 ปี
2. 10 ปี
3. 11 ปี
4. 12 ปี

8. วนั ที่ 4 กมุ ภำพนั ธ์ 2554 เป็นวนั ศุกร์ถำมวำ่ วนั ท่ี 17 พฤศจิกำยน 2553 ที่ผำ่ นมำเป็นวนั อะไร
1. วนั จนั ทร์
2. วนั องั คำร
3. วนั พุธ
4. วนั พฤหสั บดี

9. วงกลมรัศมียำว 7 หน่วย แนบในรูปสี่เหล่ียมจตั ุรัสที่มีดำ้ นยำว 14 หน่วย จงหำอตั รำส่วนพ้ืนท่ีบริเวณที่
แรเงำต่อพ้นื ที่รูปส่ีเหลี่ยมจตั ุรัส

1. 3: 5 2. 3 : 7

3. 3 : 10 4. 3 : 14

10. พิจำรณำควำมสัมพนั ธ์ของคู่อนั ดบั ตอ่ ไปน้ี

(1, 2), (2, 3), (3, 4), (4, 6), (5, 10), (6, 16), (7, 26), (8, y)

จงหำค่ำ y จำกคูอ่ นั ดบั (8, y)

1. 42 2. 39

3. 36 4. 34

11. ณฐั วฒุ ิและจตุพรตำ่ งเดินดว้ ยอตั รำเร็วคงที่ อตั รำเร็วของกำรเดินของท้งั สองคนเป็นอตั รำส่วน 1 ตอ่ 2

เขำเร่ิมเดินจำกจุดเดียวกนั และพร้อมกนั ไปถึงโรงเรียนซ่ึงอยหู่ ่ำงออกไป 10 กิโลเมตร ปรำกฏวำ่ จตุพร

ไปถึงโรงเรียนก่อนณฐั วฒุ ิ 30 นำที ถำมวำ่ ณฐั วฒุ ิเดินดว้ ยอตั รำเร็วก่ีกิโลเมตรตอ่ ชว่ั โมง

1. 10 กิโลเมตรต่อชวั่ โมง

2. 20 กิโลเมตรตอ่ ชว่ั โมง

3. 30 กิโลเมตรต่อชวั่ โมง

4. 40 กิโลเมตรตอ่ ชว่ั โมง

เอกสารประกอบการตวิ O-NET วชิ าคณติ ศาสตร์ ชนั้ ม.3 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์

34

12. น้ำหนกั เฉล่ียของนกั เรียน 6 คน เทำ่ กบั 45 กิโลกรัม โดยแต่ละคนมีน้ำหนกั ดงั น้ี 40, 41, 45, 49, 50, A
กิโลกรัม ถำมวำ่ ฐำนนิยม มธั ยฐำนและคำ่ เฉลี่ยเลขคณิตของน้ำหนกั ของนกั เรียน 6 คนน้ีเป็นอยำ่ งไร
1. ฐำนนิยมนอ้ ยกวำ่ มธั ยฐำน
2. ฐำนนิยมมำกกวำ่ มธั ยฐำน
3. มธั ยฐำนนอ้ ยกวำ่ ค่ำเฉล่ีย
4. ฐำนนิยม มธั ยฐำน คำ่ เฉล่ียเท่ำกนั

13. จำกกำรสอบถำมนกั เรียน 3 คน วำ่ เคยไปเที่ยวจงั หวดั สตูลหรือไมถ่ ำ้ นกั เรียนแตล่ ะคนมีโอกำสเคยไป

เท่ียวเท่ำๆ กนั แลว้ ควำมน่ำจะเป็นที่มีนกั เรียน 2 คนตอบวำ่ ไม่เคยไปเท่ียวเป็นเทำ่ ไร

1. 2.

3. 4.

14. จำกกำรสำรวจกำรออมเงินของนกั เรียนมธั ยมศึกษำปี ท่ี 3 จำนวน 150 คน ในเดือนมกรำคมที่ผำ่ นมำ

ดงั น้ี จำนวนคน
จำนวนเงินท่ีออม (บำท)

1 – 10 a

11 – 20 43

21 – 30 34

31 – 40 31

41 – 50 2a
ควำมน่ำจะเป็นที่นกั เรียนกลุ่มน้ีจะออมเงินเดือนละไม่เกิน 10 บำทเป็นเท่ำไร

1. 2.

3. 4.

15.

จำกรูปขำ้ งบน ส่ีเหลี่ยม ABCD เป็นรูปส่ีเหลี่ยมจตั ุรัสมีพ้นื ท่ี 36 ตำรำงหน่วย ลำก AF และ AE แบง่ มุม
DAB ออกเป็น 3 มุมขนำดเท่ำกนั แลว้ BE จะยำวก่ีหน่วย
1. 2.
3. 4.

เอกสารประกอบการติว O-NET วชิ าคณติ ศาสตร์ ช้นั ม.3 กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์

35

ส่วนท่ี 2 : แบบระบำยตวั เลขจำนวน 5 ขอ้ : ขอ้ ละ 4 คะแนน
16. กำหนดรูปสำมเหล่ียมที่มีขนำดของดำ้ นยำว 4, 6, a เซนติเมตร ถำ้ a เป็นจำนวนเตม็ แลว้ จะมีรูป

สำมเหล่ียมท่ีเป็นไปไดก้ ่ีรูป
17.

จำกรูปขำ้ งบนเป็นรูปสี่เหล่ียมจตั ุรัสขนำด 3 3 ไดจ้ ำกรูปสี่เหล่ียมจตั ุรัสขนำด 1 1 มำต่อกนั แต่มี
บำงส่วนขำดหำยไป จงหำวำ่ มีรูปส่ีเหลี่ยมจตั ุรัสขนำดต่ำงๆ ท้งั หมดกี่รูป
18. ร้ำนขำยรถจกั รยำนสำหรับเด็กมีรถจกั รยำน 2 ชนิด คือชนิด 2 ลอ้ และชนิด 3 ลอ้ ถำ้ นบั จำนวนลอ้
รถจกั รยำนท่ีวำงขำยหนำ้ ร้ำนได้ 19 ลอ้ พอดี โดยมีจำนวนรถจกั รยำน 2 ลอ้ นอ้ ยกวำ่ ชนิด 3 ลอ้ ถำมวำ่
จะมีรถจกั รยำน 3 ลอ้ กี่คนั
19. อรดำและดำรินสะสมแสตมป์ ไวจ้ ำนวนไม่เท่ำกนั จึงมำแลกแสตมป์ กนั ถำ้ อรดำใหแ้ สตมป์ ดำริน 2 ดวง
ทำใหท้ ้งั สองคนมีแสตมป์ จำนวนเทำ่ กนั แตถ่ ำ้ ดำรินใหแ้ สตมป์ อรดำ 1 ดวง ทำใหอ้ รดำมีแสตมป์ เป็น 2
เท่ำของดำรินดงั น้นั ก่อนจะแลกแสตมป์ กนั อรดำมีแสตมป์ ก่ีดวง
20. พิจำรณำกำรดำเนินกำรตอ่ ไปน้ี

1  2 3 4 + 1 = 5  5 = 25

2  3  4 5 + 1 = 11  11 = 121

3  4  5  6 + 1 = 19  19 = 361

4  5  6 7 + 1 = 29  29 = 841

และถำ้ 24  25  26  27 + 1 = A  A แลว้ A มีค่ำเท่ำไร

เอกสารประกอบการตวิ O-NET วชิ าคณิตศาสตร์ ชัน้ ม.3 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์

36

ภาคผนวก

เอกสารประกอบการตวิ O-NET วชิ าคณติ ศาสตร์ ชัน้ ม.3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

ชุดที่ 1 37

ข้อที่ เฉลย เฉลยข้อสอบ
1. 2
แนวข้อสอบ O-Net วชิ าคณติ ศาสตร์ มธั ยมศึกษาตอนต้น

เหตุผลประกอบ

2. 4
3. 1

เอกสารประกอบการตวิ O-NET วิชาคณติ ศาสตร์ ช้นั ม.3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

38

ข้อท่ี เฉลย เหตุผลประกอบ
4. 2 ยกกำลงั สองท้งั สองขำ้ ง

5. 2 ขอ้ 1., ขอ้ 3 และขอ้ 4. ถูกตอ้ ง

ขอ้ 2. ไม่ถูกตอ้ ง เพรำะ เม่ือ เป็นจำนวนจริงใดๆ

6. 3 ก. ถูกตอ้ ง

ข. ถูกตอ้ ง

ค. ไม่ถูกตอ้ ง เพรำะรำกท่ีสำมของ 9คือ ซ่ึงเป็นอตรรกยะ

ง. ไม่ถูกตอ้ ง เพรำะรำกที่สำมของ คือ

7. 2 เพอ่ื ควำมสะดวกในกำรคำนวณ ควรแยกคิดทีละจำนวนก่อน ดงั น้ี

ดงั น้นั
เท่ำกบั

เอกสารประกอบการติว O-NET วชิ าคณติ ศาสตร์ ชนั้ ม.3 กล่มุ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์

39

ข้อที่ เฉลย เหตุผลประกอบ

8. 2 หำ ค.ร.น. ของ 6, 9, 12 และ 15

ค.ร.น. = 3  2  3  2  5 = 180
จำนวนท่ีนอ้ ยท่ีสุดที่นำ 6 , 9 , 12 และ 15 ไปหำรแลว้ เหลือเศษ 4 คือ 180 + 4= 184
9. 4 เน่ืองจำกตวั หำรและเศษในแตล่ ะชุดตำ่ งกนั อยู่ 1แสดงวำ่ ถำ้ นำ 1 ไปบวกกบั จำนวนนบั
เมื่อหำรดว้ ย 5, 6 และ 8 จะหำรลงตวั จึงตอ้ งหำ ค.ร.น. ของ 5, 6 และ 8 แลว้ ลบดว้ ย 1 จะ
ไดผ้ ลลพั ธ์เป็นจำนวนนบั ที่นอ้ ยท่ีสุด
หำ ค.ร.น. ของ 5 , 6 และ 8 ได้

ค.ร.น. คือ 2534= 120
จำนวนน้นั คือ 120-1 = 119
10. 3 นำ 220 และ 385 หำ ห.ร.ม. และ ค.ร.น.

ห.ร.ม. คือ 5  11 = 55
ค.ร.น. คือ 5  11  4  7 = 1,540
ดงั น้นั ค.ร.น. ห.ร.ม. เทำ่ กบั
11. 4 ลูกเสือ 3 กอง กองละ 84 , 98, และ 126 คน แบง่ เป็นหมูล่ ะเทำ่ ๆ กนั ใหไ้ ดล้ ูกเสือมำก
ที่สุด นำไปหำ ห.ร.ม.

ห.ร.ม. คือ 2 x 7 = 14
จะไดล้ ูกเสือมำกท่ีสุดหมูล่ ะ 14 คน

เอกสารประกอบการติว O-NET วิชาคณิตศาสตร์ ช้ัน ม.3 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์

40

ข้อท่ี เฉลย เหตุผลประกอบ
12. 2 โจทยก์ ำหนด และ

1. ผดิ แทนค่ำ
2. ถูก

3. ผดิ

4. ผดิ
13. 2

14. 2

เรียงลำดบั คำ่ นอ้ ยไปหำมำก –994,-232, 96
15. 1 1. ถูก

2. ผดิ
3. ผดิ
4. ผดิ
16. 2 จำนวนสองจำนวนคูณกนั

จำนวนหน่ึง
จำนวนที่สอง

เอกสารประกอบการติว O-NET วชิ าคณติ ศาสตร์ ช้นั ม.3 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์

41

ข้อที่ เฉลย เหตุผลประกอบ
17. 4
และ

1.

2.

3.

4.

18. 1
และ

ดงั น้นั ผลบวกของ 3 เท่ำของเลขช้ีกำลงั ของฐำน 8 กบั 2 เท่ำของเลขช้ีกำลงั ของฐำน 7

19. 2 อตั รำส่วนของมุมท้งั สำมของรูปสำมเหลี่ยมเป็น 2: 3 : 4มุมท้งั สำมรวมกนั เทำ่ กบั 9 ส่วน
มุมภำยในรูปสำมเหลี่ยมรวมกนั ได้
มุมที่หน่ึง
มุมที่สอง
มุมที่สำม

เอกสารประกอบการตวิ O-NET วิชาคณิตศาสตร์ ชนั้ ม.3 กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

42

ข้อที่ เฉลย เหตุผลประกอบ

20. 2 1. ผดิ 6.25% เขียนเป็นอตั รำส่วนได้

2. ถูก

3. ผดิ

4. ผดิ 15%ของ 60

เขียนสัดส่วนได้

ดงั น้นั 15% ของ 60 คิดเป็นร้อยละ 7.5 ของ 120

21. 2 ขำยหนงั สือไดก้ ำไร 20%

ขำยหนงั สือ 120 บำท ทุน 100 บำท

ขำยหนงั สือ 84 บำท ทุน = 70 บำท

รำคำทุนของหนงั สือ 1 เล่ม = 70 บำท

ขำยหนงั สือ 1 เล่ม ไดก้ ำไร 14 บำท

กำไร 14 บำท ตอ้ งขำยหนงั สือ 1 เล่ม

กำไร 350 บำท ตอ้ งกำรหนงั สือ = 25 เล่ม

ตอ้ งขำยหนงั สือ 25 เล่ม จึงไดก้ ำไร 350 บำท

22. 4 พอ่ คำ้ ซ้ือเงำะมำ 45 กิโลกรัม รำคำ 600 บำท ขำย 27 กิโลกรัม รำคำกิโลกรัมละ 18 บำท

ไดเ้ งิน 486 บำท เหลือเงำะ 18 กิโลกรัม ขำยรำคำกิโลกรัมละ 13 บำท ไดเ้ งิน 234 บำท

รวมขำยไดเ้ งิน 486 + 234 = 720 บำท

พอ่ คำ้ ไดก้ ำไร (720 – 600) = 120 บำท

ทุน 600 บำท ไดก้ ำไร 120 บำท

ทุน 100 บำท ไดก้ ำไร บำท

จะไดก้ ำไร 20 %

เอกสารประกอบการตวิ O-NET วิชาคณิตศาสตร์ ชัน้ ม.3 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์

43

ข้อที่ เฉลย เหตุผลประกอบ

23. 4 ปัจจุบนั อำยบุ ิดำ : อำยขุ องบุตร

เม่ือ 18 ปี ท่ีแลว้ อำยบุ ุตร : อำยบุ ิดำ

ดงั น้นั อำยบุ ิดำ : อำยบุ ุตร

จะได้ :

เขียนสัดส่วน

บิดำอำยุ (79) = 63 ปี
24. 3 รำคำตูเ้ ยน็ ที่ซ้ือ = รำคำที่ต้งั ไว้ + ภำษีมูลค่ำเพ่ิม 7% ใหร้ ำคำที่ต้งั ไวเ้ ป็น บำท

ภำษีมูลค่ำเพม่ิ บำท

25. 3 วชิ ำคณิตศำสตร์มีคะแนนเตม็ 80 คะแนน เก่งไดค้ ะแนนมำกกวำ่ ขม 10%

เก่งไดค้ ะแนน 100 คะแนน ขมไดค้ ะแนน 90 คะแนน

เก่งไดค้ ะแนน 80 คะแนน ขมไดค้ ะแนน คะแนน

ขมไดค้ ะแนน 100 คะแนน เคนไดค้ ะแนน 75 คะแนน

ขมไดค้ ะแนน 72 คะแนน เคนไดค้ ะแนน คะแนน

เก่งได้ 80 คะแนน ขมได้ 72 คะแนน เคนได้ 54 คะแนน ถำ้ เก่งได้ 80 คะแนน เคน

ได้ 54 คะแนน

เก่งได้ 72 คะแนน เคนได้ คะแนน

เก่งจะไดค้ ะแนนมำกกวำ่ เคน (72 - 48.6) = 23.4 คะแนน

เอกสารประกอบการตวิ O-NET วชิ าคณติ ศาสตร์ ชัน้ ม.3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์

44

ข้อท่ี เฉลย เหตุผลประกอบ
26. 4 พ้ืนท่ีวงกลมใหญ่ ตำรำงหน่วย

พ้ืนที่วงกลมเล็ก ตำรำงหน่วย

27. 4 1 วำ เท่ำกบั 2 เมตร

ที่ดินมีควำมกวำ้ ง 16 วำ คิดเป็นควำมกวำ้ ง (16  2) = 32 เมตร

ที่ดินมีควำมยำว 21 วำ คิดเป็นควำมยำว (21  2) = 42 เมตร

ควำมยำวรอบท่ีดินเท่ำกบั 2(32 + 42) = 148 เมตร

ตอ้ งกำรลอ้ มร้ัวลวดหนำม 2 รอบ = 148 + 148 = 296 เมตร

ลวดหนำม 1 มว้ น ยำว 50 เมตร ตอ้ งใชล้ วดหนำม = 5.92เมตร

หรือประมำณ 6 มว้ น

28. 4 พ้ืนที่ท้งั หมด 175 ตำรำงนิ้ว

คร่ึงวงกลมมีพ้ืนที่ ตำรำงนิ้ว

พ้ืนที่รูปสำมเหลี่ยม ตำรำงนิ้ว

สูง

นิ้ว

1 นิ้ว = 2.5 เซนติเมตร
28 นิ้ว =28  2.5= 70 เซนติเมตร

เอกสารประกอบการตวิ O-NET วชิ าคณิตศาสตร์ ชนั้ ม.3 กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

45

ข้อท่ี เฉลย เหตุผลประกอบ
29. 2 พ้นื ท่ีรูปหกเหล่ียม

ควำมยำวดำ้ น นิ้ว
1 นิ้ว เซนติเมตร
4 นิ้ว
เซนติเมตร
30. 3 เพชรขี่จกั รยำนไดท้ ำง

เซนติเมตร

ระยะทำง 100 เซนติเมตร เมตร

โรงเรียนอยหู่ ่ำงจำกบำ้ น เมตร

31. 4 1 หลำ = 0.9 เมตร

ระยะทำง 760 หลำ คิดเป็น 760 0.9 = 684 เมตร

ระยะทำงลดั จะส้นั กวำ่ 750 – 684 = 66 เมตร

32. 3 เวลำ 60 นำที รถยนตว์ ง่ิ ไดร้ ะยะทำง 90 กิโลเมตร

เวลำ 20 นำที รถยนตว์ ง่ิ ไดร้ ะยะทำง 30 กิโลเมตร

คุณพอ่ ใชเ้ วลำเดินทำง 1 ชวั่ โมง 20 นำที

จะไดร้ ะยะทำง = 90 + 30 = 120 กิโลเมตร

ระยะทำงจำกบำ้ นคุณยำ่ ถึงบำ้ นคุณพอ่ เท่ำกบั 120 กิโลเมตร

เอกสารประกอบการติว O-NET วชิ าคณิตศาสตร์ ช้ัน ม.3 กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

46

ข้อที่ เฉลย เหตุผลประกอบ

33. 3 พ้นื ท่ีรูปส่ีเหล่ียมดำ้ นขนำน = ควำมยำวฐำน  สูง

สูง = = 3หน่วย

AD = 3 หน่วย

พ้นื ที่รูปสี่เหลี่ยม ABED =  สูง  ผลบวกดำ้ นคู่ขนำน

=  3  (4 + 12)

= 24 ตำรำงหน่วย

34. 3 แบ่งที่ดินออกเป็นรูปสี่เหล่ียมผนื ผำ้ 3 รูป

จำกรูป พ้ืนท่ีรูปส่ีเหล่ียมผนื ผำ้ ก. = 10  2 = 20 ตำรำงเมตร
พ้นื ที่รูปสี่เหล่ียมผนื ผำ้ ข. = 6  18 = 108 ตำรำงเมตร
พ้นื ท่ีรูปสี่เหลี่ยมผนื ผำ้ ค. = 10  6 = 60 ตำรำงเมตร
รวมพ้นื ที่สำหรับปลูกบำ้ น = 20 + 108 + 60 = 188 ตำรำงเมตร
1 ตำรำงวำ = 4 ตำรำงเมตร
คิดเป็นพ้ืนท่ีปลูกบำ้ น =
= 47 ตำรำงวำ
นำยทศมีที่ดินเหลืออยู่ (110 – 47) = 63 ตำรำงวำ

เอกสารประกอบการติว O-NET วชิ าคณิตศาสตร์ ช้นั ม.3 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์

47

ข้อที่ เฉลย เหตุผลประกอบ
35. 4 วำดภำพจำกโจทย์

36. 1 r = นิ้ว
ยำว = 4 หลำ
1 นิ้ว = 2.5 เซนติเมตร
1 หลำ = 90 เซนติเมตร
พ้นื ที่ =  ควำมยำว

=
= 4,950 ตำรำงเซนติเมตร

นำมำหลอม

ใหแ้ ผน่ ตะกว่ั มีควำมหนำ = นิ้ว
ปริมำตรตะกวั่ รูปทรงกลม = ปริมำตรตะกว่ั รูปทรงกระบอก

=

หำรตลอด จะได้ =

=

=

=

= นิ้ว

เอกสารประกอบการตวิ O-NET วิชาคณติ ศาสตร์ ชน้ั ม.3 กล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์


Click to View FlipBook Version