The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงงานคณิตศาสตร์ ระดับประถมศึกษา_โรงเรียนมหิดล

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ครูมุสลีมิน อีแต, 2024-01-24 07:06:49

โครงงานคณิตศาสตร์ ระดับประถมศึกษา_โรงเรียนมหิดล

โครงงานคณิตศาสตร์ ระดับประถมศึกษา_โรงเรียนมหิดล

1


2 รายงานโครงงานคณิตศาสตร์ เรื่อง บ้านนักคิด โดยใช้เรขาคณิตสร้างสรรค์ โดย 1. เด็กหญิงจันทกานติ์ สุวรรณโณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2. เด็กหญิงวิลาสินี ชูเกิด ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3. เด็กหญิงณฐิตา ดวงจันทร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ปรึกษาโครงงาน 1. ว่าที่ร้อยตรีมุสลีมิน อีแต 2. นางสาวดาริชา กรมเมือง โรงเรียนมหิดล สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 3 รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงงานคณิตศาสตร์ ประเภทบูรณาการความรู้ในคณิตศาสตร์ไปประยุกต์ใช้ ระดับชั้น ป.4-6 เนื่องในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 71 ประจำปีการศึกษา 2566


ก ชื่อโครงงาน บ้านนักคิด โดยใช้เรขาคณิตสร้างสรรค์ ชื่อผู้จัดทำ เด็กหญิงจันทกานติ์ สุวรรณโณ เด็กหญิงวิลาสินี ชูเกิด และเด็กหญิงณฐิตา ดวงจันทร์ ชื่อครูที่ปรึกษา ว่าที่ร้อยตรีมุสลีมิน อีแต และนางสาวดาริชา กรมเมือง อีเมลครูที่ปรึกษา [email protected] สถานศึกษา โรงเรียนมหิดล อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ปการศึกษา 2566 บทคัดย่อ จากข้อมูลที่น่าสนใจในการนำศิลปะเข้ามาประยุกต์ใช้ในวิชาคณิตศาสตร์ เพราะคณิตศาสตร์กับศิลปะ มีความเกี่ยวข้องกัน โดยเฉพาะในเรื่อง เรขาคณิต ซึ่งถือว่าเป็นพื้นฐานของศิลปะก็ว่าได้ โครงงานบ้านนักคิด โดยใช้เรขาคณิตสร้างสรรค์ เกิดขึ้นมาเมื่อคณะทำงานได้เรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เรขาคณิต แล้วครูได้ มอบหมายงานให้แต่ละกลุ่มสร้างบ้าน โดยกำหนดเงื่อนไขว่า จะต้องนำขยะที่มีในโรงเรียนมาเป็นองค์ประกอบ ในการสร้าง ซึ่งคณะทำงานได้เลือกส่วนของกล่องนม โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาวิธีการนำรูป เรขาคณิตมาออกแบบรูปร่างพื้นที่ของบ้าน และใช้ความรู้เรื่องการหาพื้นที่ของรูปเรขาคณิตสองมิติ ในการ กำหนดพื้นที่ใช้สอย รวมถึงเขียนมาตราส่วนเป็นแผนผัง ต่อความกว้าง ความยาว ความสูงจริงบนแปลนบ้าน 2) เพื่อสร้างบ้านตามแบบแปลน 3) เพื่อลดขยะภายในโรงเรียนและนำมาใช้ประโยชน์กับการเรียนรายวิชา คณิตศาสตร์ และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ต่อโครงงานบ้านนักคิด โดยใช้ เรขาคณิตสร้างสรรค์ ผลการศึกษาวิธีการนำรูปเรขาคณิตมาออกแบบรูปร่างของบ้าน และใช้ความรู้เรื่องการ หาพื้นที่ของรูปเรขาคณิตสองมิติในการกำหนดพื้นที่ใช้สอยซึ่งพื้นที่ใช้สอยทั้งหมดของโมเดลบ้านมีพื้นที่ 288 ตารางเมตร จากพื้นที่จริง 300 ตารางเมตร ตรงกับแผนผัง ต่อความกว้าง ความยาว ความสูงจริงบนแปลน บ้าน และสามารถลดขยะกล่องนมภายในโรงเรียนจำนวน 25 ชิ้น ลังนมโรงเรียน จำนวน 3 ชิ้น และนำมาใช้ ประโยชน์กับการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์และจากการตอบแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 6 จากกลุ่มตัวอย่าง 13 คน ต่อโครงงานคณิตศาสตร์ข้างต้น ในแต่ละประเด็นพบว่า ความพึง พอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีความพึงพอใจในภาพรวมทุกด้านอยู่ในระดับ มากที่สุด (̅= 4.70 , S.D. = 0.24) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีอันดับความพึงพอใจ ด้านรูปแบบ สูงสุด (̅4.76 , S.D. = 0.27) ด้านการนำไปใช้ประโยชน์ (̅= 4.71 , S.D. = 0.29) และด้านข้อมูล/เนื้อหา (̅=4.60 , S.D. = 0.41) ตามลำดับจากมากไปน้อย


ข กิตติกรรมประกาศ โครงงานเรื่อง บ้านนักคิด โดยใช้เรขาคณิตสร้างสรรค์ประกอบด้วยการดําเนินงานหลายขั้นตอน นับตั้งแต่การสำรวจ การรวบรวมข้อมูล การจัดทําโครงงานเป็นรูปเล่ม จนกระทั่งโครงงานนี้สําเร็จลุล่วงไปได้ ด้วยดี ตลอดระยะเวลาดังกล่าวคณะผู้จัดทําโครงงานได้รับความช่วยเหลือและคําแนะนําในด้านต่างๆ ตลอดจน ได้รับกําลังใจจากบุคคลหลายท่าน คณะผู้จัดทําตระหนักและซาบซึ้งในความกรุณาจากทุก ๆ ท่านเป็นอย่างยิ่ง ณ โอกาสนี้ ขอขอบคณทุก ๆ ท่าน ดังนี้กราบขอบพระคุณ นางสาวศิรดา ไพโรจน์รชตะ ผู้อำนวยการโรงเรียน มหิดล ผู้ให้คำแนะนําและได้เมตตาให้ความช่วยเหลือในทุกๆ ด้าน ตลอดจนเอื้อเฟื้อห้องการฝึกซ้อม และ เครื่องมือต่าง ๆ ในการทําโครงงานนี้จนประสบความสําเร็จ กราบขอบพระคุณ ว่าที่ร้อยตรีมุสลีมิน อีแต ครูผู้สอนรายวิชาคณิตศาสตร์ผู้ให้ความรู้คําแนะนํา คอยดูแลในด้านต่าง ๆ และสละเวลามาช่วยฝึกฝนเทคนิค ในการทำโครงงานครั้งนี้ พร้อมทั้งเป็นกําลังใจให้เสมอมา กราบขอบพระคุณครู นางสาวดาริชา กรมเมือง ครูที่ปรึกษาโครงงาน ที่ให้ความอนุเคราะห์และให้ความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ และคณะครูโรงเรียนมหิดล ทุกคนที่คอยดูแลเอาใจใส่และให้คําปรึกษาอย่างดีขอขอบคุณ เพื่อน ๆ ที่ได้ให้ความช่วยเหลือในการทํา โครงงาน ท้ายที่สุดขอกราบขอบพระคุณ คุณพ่อและคุณแม่ ผู้เป็นที่รัก ผู้ให้กําลังใจและให้โอกาสการศึกษา อันมีค่ายิ่ง คณะผู้จัดทำโครงงาน


ค สารบัญ หน้า บทคัดย่อ……………………………………………………………………………………………………………………………… ก กิตติกรรมประกาศ………………………………………………………………………………………………………………… ข สารบัญ............…………………………………………………………………………………………………………………….. ค สารบัญตาราง………………………………………………………………………………………………………………………. ง สารบัญภาพ...............................……………………………………………………………………………………………… จ บทที่ 1 บทนำ……………………………………………………………………………………………………………………… 1 ที่มาและความสำคัญ............................................................................................................ ... 1 วัตถุประสงค์ของโครงงาน………………………….………………………………………………………………. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ.................................................................................................... . 1 2 ขอบเขตของโครงงาน............................................................................................................. . 2 บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง…………………………………………………………………………………………………….. 3 บทที่ 3 วิธีการดำเนินการ..................................................................................................... ............... 10 บทที่ 4 ผลการดำเนินการ.................................................................................................................... 22 บทที่ 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ.....................................…………………....……………………… 24 บรรณานุกรม....................……………………………………………………………………………………………………… 25 ภาคผนวก……………………………………………………………………………………………………………………………. 26 ภาคผนวก ก แปลนบ้าน.........................................................................................……………………. 27 ภาคผนวก ข สร้างบ้านตามแบบแปลน............................................................................................ 29 ภาคผนวก ค เครื่องมือความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อโครงงานคณิตศาสตร์ ฯ .......................... 32


ง สารบัญตาราง ตาราง หน้า ตารางที่ 1 แสดงความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ต่อโครงงานคณิตศาสตร์ ฯ............. 22


จ สารบัญรูปภาพ หน้า ภาพที่ 1 การเขียนเส้นร่างศูนย์กลาง ………………………………………………………...……………………………… 4 ภาพที่ 2 การเขียนหน้าตัดเสา……………………………........................................………………………………… 5 ภาพที่ 3 การเขียนเส้นร่างผนังและเจาะช่องเปิด……………………………………………………………………….. 5 ภาพที่ 4 การเขียนรายละเอียดผนัง ประตูหน้าต่าง และบันได…………………………………………………… 5 ภาพที่ 5 การเขียนรายละเอียดขั้นสุดท้าย………………………………………………………………………………… 6 ภาพที่ 6 งานเขียนที่เสร็จสมบูรณ์……………………………………………………………….......................……….. 6 ภาพที่ 7 รูปเรขาคณิต 2 มิติ…………………………………………………………………….......................…………. 8 ภาพที่ 8 ปริซึม……………………………………………………………………………………….......................…………. 8 ภาพที่ 9 พีระมิด………………………………………………………………………………………………….………………… 8 ภาพที่ 10 ร่วมกันศึกษาแบบบ้านจากอินเตอร์เน็ต ………………………………………………………....………… 10 ภาพที่ 11 สมาชิกในกลุ่มร่วมกันศึกษาแบบบ้าน………………………………………………………………...……… ภาพที่ 12 ร่วมกันวางแผนการเขียนแบบบ้าน....................................................................................... ภาพที่ 13 ออกแบบแปลนบ้าน………………………………………………………………………………………………… ภาพที่ 14 แสดงแปลนบ้าน....................................................................................................... ............ 10 11 12 12 ภาพที่ 15 วัดขนาดกล่องนม…………………………………………………………………………......................……… 19 ภาพที่ 16 ตัดกล่องนมตามรอยจากการวัด………………………………………………………..................………… 19 ภาพที่ 17 ตัดกล่องนมตามแบบบ้าน…………………………………………………………………..................……… 19 ภาพที่ 18 นำกล่องนมแปะติดกับกระดาษชานอ้อย……………………………………………………....…………… 19 ภาพที่ 19 แปะติดกล่องนมตามสัดส่วนของห้อง………………………………………....................................… ภาพที่ 20 แปะติดกล่องนมตามสัดส่วนของห้อง……………………………………………………….......…………… ภาพที่ 21 เตรียมประตู - หน้าต่าง………………………………………………………..................................……… ภาพที่ 22 ประกอบประตู - หน้าต่าง………………………………………………………................…………………… ภาพที่ 23 ตัดกระดาษลังเพื่อใช้ทำหลังคาทรงปั้นหยา…………………………...…………………………………… ภาพที่ 24 นำองค์ประกอบของตัวบ้านและหลังคาประกอบกัน………………......................………………… ภาพที่ 25 ชิ้นงานบ้านโมเดล…………………………………………………………………………………………………… ภาพที่ 26 เผยแพร่โมเดลบ้านในโรงเรียน………………………………………….......................…………………… ภาพที่ 27 แลกเปลี่ยนเรียนรู้ในห้องเรียน…………………………………………..............…………………………… 19 19 20 20 20 20 20 21 21


1 บทที่ 1 บทนำ 1. ที่มาและความสำคัญ คณิตศาสตร์เป็นวิชาที่ทุกคนมองว่าเกี่ยวข้องกับตัวเลข มีความยากสลับซับซ้อน ทำให้เกิด ความเครียด วิตกกังวล แต่หลายคนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจกับการไปใช้ประโยชน์ในชีวิตจริงได้ ซึ่งผู้จัดทำ โครงงานมีความคิดที่จะนำศิลปะเข้ามาประยุกต์ใช้ในวิชาคณิตศาสตร์ เพราะคณิตศาสตร์กับศิลปะมี ความเกี่ยวข้องกัน โดยเฉพาะในเรื่อง เรขาคณิต ซึ่งถือว่าเป็นพื้นฐานของศิลปะก็ว่าได้ โครงงานบ้าน นักคิด โดยใช้เรขาคณิตสร้างสรรค์เกิดขึ้นมาเมื่อคณะทำงานได้เรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เรขาคณิต แล้วครูได้มอบหมายงานให้แต่ละกลุ่มสร้างบ้าน โดยกำหนดเงื่อนไขว่า จะต้องนำขยะที่มีในโรงเรียน มาเป็นองค์ประกอบในการสร้าง ซึ่งคณะทำงานได้เลือกส่วนของกล่องนม เนื่องจากนักเรียนทุก ระดับชั้นจะต้องตัดถุงนมหรือกล่องนมเมื่อดื่มเสร็จในทุก ๆ วัน จะมีกล่องนมที่เหลือเยอะมากใน โรงเรียน ถึงแม้ว่าจะมีธนาคารขยะเป็นที่รองรับคัดแยกถุงนมและกล่องนม ก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถลด ขยะภายในโรงเรียนได้อยู่ดี เมื่อคณะทำงานได้ชิ้นงานในส่วนของแบบบ้านที่เป็นองค์ความรู้เกี่ยวกับ เรขาคณิต ที่แตกต่างกันในแต่ละกลุ่ม ซึ่งเพื่อนบางกลุ่มจะเป็นทรงโมเดิร์นสมัยใหม่ บางกลุ่มเป็นทรง ไทยธรรมดา จากจุดที่เรียนเรื่องของรูปเรขาคณิต จึงมีแนวความคิดว่าในหมู่บ้าน มีแบบบ้าน ประมาณ 2 แบบ คือ แบบบ้านทาวน์โฮม 2 ชั้น และแบบบ้านชั้นเดียว จึงมีความรู้สึกว่าแบบบ้านตรง นี้เป็นสิ่งที่น่าสนใจที่อยากจะมีความรู้หรือไอเดียที่จะใช้ในการสร้างบ้าน โดยต้องการนำความรู้ เรื่อง รูปเรขาคณิตมาออกแบบบ้าน การหาพื้นที่ของรูปเรขาคณิตสองมิติมาแบ่งสัดส่วนในการสร้าง และเขียนมาตราส่วนของบ้านตามขนาดจริง ซึ่งสามารถช่วยให้เราทราบว่าแปลนที่คณะทำงานวาด สามารถสร้างจริงได้หรือไม่ รวมถึงช่วยในการสื่อสารให้กับคนอื่น ๆ เข้าใจได้ง่าย และเห็นภาพตรงกัน มากขึ้น ถึงแม้ว่าในปัจจุบันมีโปรแกรม 3D ต่าง ๆ ช่วยให้ทำงานง่ายขึ้น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำ โมเดลด้วยมือยังคงสร้างไอเดียใหม่ ๆ ระหว่างทางในการเรียนได้มาก ทำให้เกิดความรู้และความ สนุกสนาน ส่งผลให้นักเรียน มีสมรรถนะทักษะ การคิดขั้นสูง คิดสร้างสรรค์ และเจตคติที่ดีต่อการ เรียนวิชาคณิตศาสตร์ 2. วัตถุประสงค์ของโครงงาน 2.1 เพื่อศึกษาวิธีการนำรูปเรขาคณิตมาออกแบบรูปร่างพื้นที่ของบ้าน และใช้ความรู้เรื่องการหา พื้นที่ของรูปเรขาคณิตสองมิติ ในการกำหนดพื้นที่ใช้สอย รวมถึงเขียนมาตราส่วนเป็นแผนผัง ต่อความ กว้าง ความยาว ความสูงจริงบนแปลนบ้าน


2 2.2 เพื่อสร้างบ้านตามแบบแปลน 2.3 เพื่อลดขยะภายในโรงเรียนและนำมาใช้ประโยชน์กับการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์ 2.4 เพื่อศึกษาความพึงพอใจในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ต่อโครงงานบ้านนักคิด โดยใช้เรขาคณิต สร้างสรรค์ 3. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 3.1 สามารถนำรูปเรขาคณิตมาออกแบบรูปร่างพื้นที่ของบ้าน และใช้ความรู้เรื่องการหาพื้นที่ของ รูปเรขาคณิตสองมิติในการกำหนดพื้นที่ใช้สอย รวมถึงเขียนมาตราส่วนเป็นแผนผังบนแปลนบ้าน ต่อ ความกว้าง ความยาว ความสูงจริง 3.2 สามารถสร้างบ้านตามแบบแปลนที่กำหนด 3.3 สามารถลดขยะภายในโรงเรียนและนำมาใช้ประโยชน์กับการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์ 3.4 นักเรียนมีความพึงพอใจในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ต่อโครงงาน เรื่อง บ้านนักคิด โดยใช้ เรขาคณิตสร้างสรรค์ 4. ขอบเขตของโครงงาน 4.1 ในการทำโครงงานคณิตศาสตร์เรื่อง บ้านนักคิด โดยใช้เรขาคณิตสร้างสรรค์คณะผู้จัดทำใช้ ความรู้ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ออกแบบแปลนบ้าน โดยนำ รูปเรขาคณิต ในการกำหนด รูปร่างพื้นที่ของบ้าน หาพื้นที่ของรูปเรขาคณิตสองมิติ ในการกำหนดพื้นที่ใช้สอย และเขียนมาตรา ส่วนเป็นแผนผังบนแปลนบ้านต่อความกว้าง ความยาว ความสูงจริง โดยนำขยะภายในโรงเรียนมา สร้างบ้านตามแบบที่ได้กำหนดไว้รวมถึงศึกษาความพึงพอใจในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ต่อ โครงงาน เรื่อง บ้านนักคิด โดยใช้เรขาคณิตสร้างสรรค์


3 บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง ในการจัดทำโครงงาน บ้านนักคิด โดยใช้เรขาคณิตสร้างสรรค์ ได้ศึกษาค้นคว้าเอกสาร ตำรา โดยรวบรวมแนวคิดและหลักการต่างๆ จากเอกสารที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้ 1. องค์ประกอบของการสร้างบ้าน 2. วิธีการสร้างบ้าน 3. การคิด 4. การคิดสร้างสรรค์ 5. รูปเรขาคณิต 6. มาตราส่วน 7. การแปลงหน่วยตารางเซนติเมตร เป็นตารางเมตร 8. การหาพื้นที่ของรูปเรขาคณิตสองมิติ 1. องค์ประกอบของการสร้างบ้าน 1.1 ฐานราก งานก่อสร้างทุกประเภท ความมั่นคงของสิ่งปลูกสร้างขึ้นอยู่กับฐานราก หากเป็นบ้านชั้น เดียวหลังเล็กๆอาจไม่ยุ่งยากมากนัก แต่งานปลูกสร้างบ้านที่มีความมั่นคงแข็งแรงผู้รับสร้างบ้านจะให้ ความสำคัญกับฐานรากที่ประกอบด้วย ตอม่อ และเสาเข็มซึ่งวัสดุก่หลักๆ คือ เสาเข็มไม้ และ เสาเข็ม คอนกรีต ส่วนตอม่อคือส่วนที่ตั้งบนฐานราก ขึ้นมารับคานพื้นชั้นล่าง ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในดิน ทำ หน้าที่เหมือนกับเสา ทุกประการ เป็นงานโครงสร้างที่อยู่ใต้ดิน 1.2 โครงสร้าง งานโครงสร้าง เป็นส่วนที่ทำหน้าที่รับน้ำหนักของบ้าน และเป็นโครงสร้างส่วนที่อยู่บน ดินเริ่มจาก คานคอดิน เสา คาน พื้น ดาดฟ้า รวมถึงบันได หากเป็นบ้านที่มีโครงสร้างรูปแบบอื่น อย่างเช่น ระบบผนังรับน้ำหนักซึ่งไม่มีเสาและคานในโครงสร้าง ผนังก็จะเป็นโครงสร้างของบ้านนั่น ด้วย 1.3 หลังคา หลังคาเป็นส่วนที่มีความสำคัญ เพราะเป็นโครงสร้างที่ทำหน้าที่ช่วยกันแดด กันฝน และ กันลมให้ตัวบ้าน ส่วนหลังคายังประกอบด้วยวัสดุหลัก 2 ส่วน คือโครงหลังคา และวัสดุมุงหลังคา ซึ่ง ส่วนหลังคาก็เป็นส่วนประกอบหนึ่งที่ทำให้แบบบ้าน มีความสวยงาม


4 1.4 ฉนวนและฝ้าเพดาน ฉนวน เป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติในการกันความร้อนและฉนวนกันเสียง ช่างที่รับสร้างบ้านที่ มีฝีมือและมีความรู้สามารถนำฉนวนกันความร้อนไปติดตั้งได้ทั้งในส่วนของหลังคา ฝ้าเพดาน และงาน ผนัง เพื่อลดความร้อนที่จะส่งผ่านเข้ามาภายในบ้าน ส่วนฝ้าเพดาน มีหน้าที่ปกปิดความไม่เรียบร้อย ของท่อร้อยสายไฟและงานระบบต่างๆ รวมถึงช่วยลดความร้อนที่จะส่งผ่านลงมาจากทางหลังคา โดยตรง ซึ่งฝ้าเพดานยังแบ่งออกเป็นฝ้าภายในและฝ้าภายนอก 1.5 ผนังและประตูหน้าต่าง ผนังเป็นองค์ประกอบ ส่วนที่กำหนดพื้นที่ใช้สอยบ้านภายในบ้าน งานผนังเจ้าของบ้าน สามารถเลือกหรือกำหนดให้ช่างที่รับสร้างบ้าน ใช้วัสดุชนิดใดมาก่อเป็นผนัง เช่น อิฐมอญ อิฐมวลเบา หรือวัสดุอื่นๆ ส่วนประตู เป็นองค์ประกอบที่ช่วยให้เราสามารถเข้าถึงพื้นที่ภายในบ้าน และแต่ละห้อง ได้อย่างสะดวก ส่วนหน้าต่าง ทำให้เราสามารถรับแดด ลม และบรรยากาศจากพื้นที่ภายนอกได้ 2. วิธีการสร้างบ้าน 2.1 กำหนดรูปแบบและขนาดของบ้าน 2.2 ออกแบบบ้าน เมื่อได้กำหนดรูปแบบ 2.2.1 ขั้นตอนการเขียนแปลนพื้น เขียนเส้นร่างศูนย์กลางเสา แนวนอน ก ข ค ง และแนวตั้ง 1 2 3 4 ตามระยะและ มาตราส่วนที่กำหนดให้ ภาพที่ 1 การเขียนเส้นร่างศูนย์กลาง ที่มา : https://househandmake.blogspot.com/2014/06/editfloor.html เขียนเส้นร่างแสดงหน้าตัดเสาคอนกรีต ขนาด 0.20 x 0.20 เมตร คร่อมจุดตัดศูนย์กลางเสา ดังกล่าวจนครบหมดทุกต้น และเขียนเส้นหนาทับเส้นร่างเดิม


5 ภาพที่ 2 การเขียนหน้าตัดเสา ที่มา : https://househandmake.blogspot.com/2014/06/editfloor.html เขียนเส้นร่างผนังหนา 0.10 เมตร ชิดริมเสาตามแบบ หาศูนย์กลางฝาผนังเพื่อเจาะช่องเปิด ประตู หน้าต่างด้วยเส้นร่าง เขียนส่วนยื่น เขียนกันสาด ระเบียง เฉลียง บันได และลานซักล้าง ภาพที่ 3 การเขียนเส้นร่างผนังและเจาะช่องเปิด ที่มา : https://househandmake.blogspot.com/2014/06/editfloor.html เขียนเส้นหนาส่วนที่เป็นหน้าตัดผนัง วงกบตั้ง เขียนบานประตูให้ตั้งฉากกับผนัง เขียนเส้น บางในส่วนของบันได ราวบันได ราวระเบียง และส่วนยื่นต่างๆ ภาพที่ 4 การเขียนรายละเอียดผนัง ประตูหน้าต่าง และบันได ที่มา : https://househandmake.blogspot.com/2014/06/editfloor.html


6 เขียนเส้นหนามาระบายทึบฝาผนังด้วยความประณีต เขียนเส้นบางแสดงทิศทางการเปิด-ปิด ประตู เขียนเส้นบอกขนาดมิติ เส้นฉาย เขียนตารางประกอบแบบระยะห่างบรรทัดทุกระยะ 1 เมตร ของมาตราส่วน 1 : 125 เขียนสัญลักษณ์ ตัวย่อ ตัวเลข เครื่องหมายทิศเหนือ เขียนเครื่องหมายกำกับ รูปด้าน เขียนเส้นประแสดงแนวชายคา เขียนมาตราส่วนรูปภาพ และเขียนเส้นแนวตัด 2 แนวด้วยเส้น หนามาก ภาพที่ 5 การเขียนรายละเอียดขั้นสุดท้าย ที่มา : https://househandmake.blogspot.com/2014/06/editfloor.html ตรวจสอบความถูกต้องขั้นสุดท้ายอย่างละเอียดครบถ้วน เขียนข้อความรายการประกอบแบบ เขียนตัวย่อ ตัวเลข ตัวอักษร เขียนบอกชื่องานพร้อมมาตราส่วนกำกับไว้ด้านล่างรูปแบบทั้ง 2 รูป ลบ ส่วนที่ไม่ต้องการออก เป็นอันเสร็จสมบูรณ์ ภาพที่ 6 งานเขียนที่เสร็จสมบูรณ์ ที่มา : https://househandmake.blogspot.com/2014/06/editfloor.html และเมื่อแบบแล้วเสร็จก่อนจะชำระค่าดำเนินการต้องตรวจสอบรายละเอียดของแบบก่อน จากนั้นเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน ทำสัญญาว่าจ้างก่อสร้างบ้าน และจัดเตรียมพื้นที่ก่อสร้าง


7 2.3 ขั้นตอนงานก่อสร้าง ขั้นตอนในการสร้างบ้าน โดยทั่วไป แบ่งออกเป็นขั้นตอนใหญ่ๆ ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 : ตอกเข็มหล่อฐานราก คานคอดิน และตั้งเสาชั้นล่าง ขั้นตอนที่ 2 : หล่อคานชั้นบน และตั้งหรือหล่อเสาสำหรับรับหลังคาชั้น 2 ขั้นตอนที่ 3 : มุงหลังคา ก่ออิฐผนัง ฉาบปูน ติดตั้งวงกบ ใส่ฝ้าเพดาน ขั้นตอนที่ 4 : ปูวัสดุพื้น ติดตั้งประตู หน้าต่าง ติดตั้งระบบท่อน้ำ ขั้นตอนที่ 5 : บุผนังกระเบื้อง ติดตั้งสุขภัณฑ์ ทาสี เดินสายไฟ ติดตั้งโคมไฟ ขั้นตอนสุดท้าย : ตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อย อาจต้องเก็บรายละเอียดส่วนที่เหลือ บ้างบางส่วน 3. การคิด การคิดเป็นกระบวนการทางสมองของมนุษย์ซึ่งมีศักยภาพสูงมาก และเป็นส่วนที่ทำให้มนุษย์ แตกต่างไปจากสัตว์อื่น ๆ ผู้มีความสามารถสูงในการคิด สามารถแก้ปัญหาต่าง ๆ ให้ลุล่วงไปได้และมี การพัฒนาชีวิตของตนให้เจริญงอกงามยิ่ง ๆ ขึ้นไป ผู้มีความสามารถในการคิดจึงมักได้รับการยกย่อง ให้เป็นผู้นำในองค์กรหรือกลุ่มต่าง ๆ การคิดมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากการคิดเป็นปัจจัยภายในที่ มีอิทธิพลต่อการกระทำ และการแสดงออกของบุคคล ดังนั้น การพัฒนาความสามารถในการคิดจึง เป็นจุดมุ่งหมายสำคัญของการจัดการศึกษาตลอดมา แต่จะทำได้มากน้อยหรือดีเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับ ความรู้ ความเข้าใจ และปัจจัยต่าง ๆ ที่เอื้ออำนวย 4. การคิดสร้างสรรค์ การคิดสร้างสรรค์ เป็นกระบวนการคิดที่อาศัยความรู้พื้นฐาน จินตนาการและวิจารณญาณใน การพัฒนาหรือคิดค้นองค์ความรู้ หรือสิ่งประดิษฐ์ใหม่ 1 ที่มีคุณค่าและเป็นประโยชน์ต่อตนเอง และ สังคม ความคิดสร้างสรรค์มีหลายระดับ ตั้งแต่ระดับพื้นฐานที่สูงกว่าความคิดพื้น ๆ เพียงเล็กน้อยไป จนกระทั่งเป็นความคิดที่อยู่ในระดับสูงมากการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์จะช่วยให้ผู้เรียนมีแนว ทางการคิดที่หลากหลายมีกระบวนการคิด จินตนาการในการประยุกต์ที่จะนำไปสู่การคิดคั้น สิ่งประดิษฐ์ที่แปลกใหม่และมีคุณค่าที่คนส่วนใหญ่คาดคิดไม่ถึงหรือมองข้าม ตลอดจนส่งเสริมให้ ผู้เรียนมีนิสัยกระตือรือร้น ไม่ย่อท้อ อยากรู้อยากเห็น อยากค้นคว้าและทดลองสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ 5. รูปเรขาคณิต รูปเรขาคณิต (geometric figure) รูปเรขาคณิตเป็นรูปที่ประกอบตัวย จุด เส้นตรง เส้นโค้ง ระนาบ ฯลฯ อย่างน้อยหนึ่งอย่าง ตัวอย่างของรูปเรขาคณิตหนึ่งมิติ เช่น เส้นตรง ส่วนของเส้นตรง รังสี


8 ตัวอย่างของรูปเรขาคณิตสองมิติ เช่น วงกลม รูปสามเหลี่ยม รูปสี่เหลี่ยม ภาพที่ 7 รูปเรขาคณิต 2 มิติ ที่มา : https://dltv.ac.th/teachplan/lists/3/2000 ตัวอย่างของรูปเรขาคณิตสามมิติ เช่น ทรงกลม ลูกบาศก์ ปริซึม พีระมิด ปริซึมเป็นรูปเรขาคณิตสามมิติ ทรงตัน มีหน้าตัดหรือฐาน 2 หน้า เป็นรูปหลายเหลี่ยมที่ เท่ากันทุกประการ และอยู่บนระนาบที่ขนานกัน หน้าข้างเป็นรูปสี่เหลี่ยมด้านขนาน ชนิดของปริซึม จำแนกตามรูปลายเหลี่ยมที่เป็นหน้าตัดหรือฐาน จำนวนหน้าข้างของปริซึม เท่ากับจำนวนด้านของรูปหลายเหลี่ยมที่เป็นหน้าตัดหรือฐาน จำนวนหน้าทั้งหมดของปริซึม เท่ากับจำนวนหน้าตัดหรือฐาน รวมกับจำนวนหน้างข้าง ภาพที่ 8 ปริซึม ที่มา : https://dltv.ac.th/teachplan/lists/6/2000 พีระมิดเป็นรูปเรขาคณิตสามมิติ ทรงตัน มีฐานเป็นรูปหลายเหลี่ยม มียอดแหลมซึ่งไม่อยู่ บนระนาบเดียวกับฐาน และมีหน้าข้างเป็นรูปสามเหลี่ยม ชนิดของพีระมิด จำแนกตามรูปหลายเหลี่ยมที่เป็นฐาน จำนวนหน้าข้างของพีระมิด เท่ากับจำนวนด้านของรูปหลายเหลี่ยมที่เป็นฐาน จำนวนหน้าทั้งหมดของพีระมิด เท่ากับจำนวนฐาน รวมกับจำนวนหน้าข้าง ภาพที่ 9 พีระมิด ที่มา :https://dltv.ac.th/teachplan/lists/6/2000


9 6. มาตราส่วน อัตราส่วนที่แสดงการเปรียบเทียบระหว่างความยาวในภาพหรือแผนที่กับความยาวจริง เรียกว่า มาตราส่วน โดยความยาวอาจมีหน่วยเดียวกัน หรือ หน่วยต่างกันก็ได้ 7. การแปลงหน่วยการวัดพื้นที่ในระบบเมตริก 1 ตารางเซนติเมตร เท่ากับ 100 ตารางมิลลิเมตร 1 ตารางเมตร เท่ากับ 10,000 ตารางเซนติเมตร 1 ตารางกิโลเมตร เท่ากับ 1,000,000 ตารางเมตร 8. พื้นที่ของรูปเรขาคณิตสองมิติ 8.1 การหาพื้นที่ของรูปสามเหลี่ยม สูตรการพื้นที่ของรูปสามเหลี่ยม = 1 2 ความยาวของฐาน × สูง 8.2 การหาพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า สูตรการหาพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า = กว้าง ยาว 8.3 การหาพื้นที่ของรูปสี่เลี่ยมจัตุรัส สูตรการหาพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส = ด้าน ด้าน 8.4 การหาพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมคางหมู สูตรการหาพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมคางหมู = 1 2 × ความยาวของผลบวกด้านคู่ขนาน × สูง


10 บทที่ 3 วิธีการดำเนินการ การศึกษาครั้งนี้เป็นการนำความรู้รูปเรขาคณิต มาออกแบบรูปร่างพื้นที่ของบ้าน แล้วหา พื้นที่ของรูปเรขาคณิตสองมิติ ในการกำหนดพื้นที่ใช้สอย และเขียนมาตราส่วนเป็นแผนผังบนแปลน บ้านต่อความกว้าง ความยาว ความสูงจริง โดยนำขยะภายในโรงเรียนมาสร้างบ้านตามแบบที่ได้ กำหนดไว้ รวมถึงศึกษาความพึงพอใจต่อโครงงานคณิตศาสตร์ เรื่อง บ้านนักคิด โดยใช้เรขาคณิต สร้างสรรค์ซึ่งมีรายละเอียดและขั้นตอนในการดำเนินการดังนี้ 1. วิธีดำเนินการศึกษา 1.1 ประชุมวางแผน ระดมความคิด ออกแบบโครงงาน 1.2 รวมกลุ่มเพื่อจัดทำโครงงานคณิตศาสตร์ กลุ่มละ 3 คน 1.3 สำรวจบ้านในพื้นที่ตำบลเขาแดง อำเภอสะบ้าย้อย เพื่อสังเกต แบบบ้าน 1.4 ร่วมกันสรุปแบบบ้านจากการสำรวจ 1.5 ศึกษาเอกสารแบบบ้านเพิ่มเติม ภาพที่ 10 ร่วมกันศึกษาแบบบ้านจากอินเตอร์เน็ต ภาพที่ 11 สมาชิกในกลุ่มร่วมกันศึกษาแบบบ้าน 1.6 จัดเตรียมอุปกรณ์ 1.7 ออกแบบบ้าน 1.8 ร่วมกันประดิษฐ์บ้านโมเดล ตามที่ออกแบบไว้ 1.9 นำเสนอโมเดลบ้านในคาบเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์ 1.10 ประเมินความพึงพอใจต่อชิ้นงาน 1.11 เขียนรายงานพร้อมสรุปผลและอภิปรายผลในรูปแบบความเรียง


11 2. วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ทำโครงงาน 2.1 กล่องนม 2.2 กระดาษลัง 2.3 ฟิวเจอร์บอร์ดที่ไม่ใช้แล้ว 2.4 กระดาษชานอ้อย 2.5 กระดาษ A1 2.6 ไม้เสียบลูกชิ้น 2.7 ดินสอ ยางลบ ไม้บรรทัด 2.8 มีดคัตเตอร์ 2.9 แผ่นยางรองตัด 2.10 กาวยู้ฮู 2.11 ไม้สเกล 3. ขั้นตอนการดำเนินงาน 3.1 ขั้นตอนการวางแผนและสำรวจ ภาพที่ 12 ร่วมกันวางแผนการเขียนแบบบ้าน 3.2 ขั้นตอนการดำเนินการ 3.2.1 ออกแบบบ้าน ประกอบด้วย กำหนดพื้นที่ กว้าง 15 เมตร ยาว 20 เมตร และจัด สัดส่วนพื้นที่ของห้องตามความต้องการ โดยการกำหนดให้มีห้องนอน 3 ห้อง ห้องน้ำ 4 ห้อง ห้องครัว 1 ห้อง ห้องซักล้าง 1 ห้อง ห้องโถงใหญ่ 1 ห้อง ห้องรับแขก 1 ห้อง และห้องทำงาน 1 ห้อง โดยพื้นที่ แต่ละห้องจะใช้วิธีการนำรูปเรขาคณิตมาออกแบบรูปร่าง คำนวณพื้นที่โดยใช้ความรู้ เรื่อง การหา พื้นที่ของรูปเรขาคณิตสองมิติ และเขียนแผนผังกำหนดให้ มาตราส่วน 2 : 100 หมายความว่า ความ ยาวในแปลนบ้าน 2 หน่วย แทนความยาวจริง 100 หน่วยจะได้ว่า ถ้าความยาวในแปลนบ้าน 2 เซนติเมตร แทนความยาวจริง 100 เซนติเมตร ดังนี้


12 ภาพที่ 13 ออกแบบแปลนบ้าน ภาพที่ 14 แสดงแปลนบ้าน ออกแบบ ห้องนอน 1 จากแปลนบ้านเป็นรูปเรขาคณิตชนิด รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีความกว้างแทนความยาวจริง 10 เซนติเมตร ความยาว 15 เซนติเมตร ซึ่งใช้มาตราส่วน 2 : 100 จะได้ 2 ซม. : 100 ซม. = 10 ÷ 2 ซม. : 15 ÷ 2 ซม. = 5 ซม. : 7.5 ซม. พื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า = กว้าง × ยาว = (5 × 100) × (7.5×100) ตารางเซนติเมตร = 500 × 750 ตารางเซนติเมตร = 375,000 ตารางเซนติเมตร แสดงว่า พื้นที่ห้องนอน 1 10,000 ตารางเซนติเมตร เท่ากับ 1 ตารางเมตร ดังนั้น ห้องนอน 1 มีพื้นที่จริง 375,000 ÷ 10,000 = 37.50 ตารางเมตร ออกแบบ ห้องน้ำ 1 จากแปลนบ้านเป็นรูปเรขาคณิตชนิด รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีความกว้างแทนความยาวจริง 5 เซนติเมตร ความยาว 5 เซนติเมตร ซึ่งใช้มาตราส่วน 2 : 100 จะได้ 2 ซม. : 100 ซม. = 5 ÷ 2 ซม. : 5 ÷ 2 ซม. = 2.5 ซม. : 2.5 ซม. พื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส = ด้าน × ด้าน = (2.5 × 100) × (2.5×100) ตารางเซนติเมตร = 250 × 250 ตารางเซนติเมตร = 62,500 ตารางเซนติเมตร แสดงว่า พื้นที่ห้องน้ำ 1 10,000 ตารางเซนติเมตร เท่ากับ 1 ตารางเมตร ดังนั้น ห้องน้ำ 1 มีพื้นที่จริง 62,500 ÷ 10,000 = 6.25 ตารางเมตร


13 ออกแบบ ห้องนอน 2 จากแปลนบ้านเป็นรูปเรขาคณิตชนิด รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีความกว้างแทนความยาวจริง 10 เซนติเมตร ความยาว 14 เซนติเมตร ซึ่งใช้มาตราส่วน 2 : 100 จะได้ 2 ซม. : 100 ซม. = 10 ÷ 2 ซม. : 14 ÷ 2 ซม. = 5 ซม. : 7 ซม. พื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า = กว้าง × ยาว = (5 × 100) × (7×100) ตารางเซนติเมตร = 500 × 700 ตารางเซนติเมตร = 350,000 ตารางเซนติเมตร แสดงว่า พื้นที่ห้องนอน 2 10,000 ตารางเซนติเมตร เท่ากับ 1 ตารางเมตร ดังนั้น ห้องนอน 2 มีพื้นที่จริง 350,000 ÷ 10,000 = 35 ตารางเมตร (แต่เนื่องจากมี ห้องน้ำภายในห้องนอนจึงต้องหาพื้นที่จริงของห้องน้ำ 2 ดังนี้ ออกแบบ ห้องน้ำ 2 จากแปลนบ้านเป็นรูปเรขาคณิตชนิด รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีความกว้างแทนความยาวจริง 4 เซนติเมตร ความยาว 5.6 เซนติเมตร ซึ่งใช้มาตราส่วน 2 : 100 จะได้ 2 ซม. : 100 ซม. = 4 ÷ 2 ซม. : 5.6 ÷ 2 ซม. = 2 ซม. : 2.8 ซม. พื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า = กว้าง × ยาว = (2 × 100) × (2.8×100) ตารางเซนติเมตร = 200 × 280 ตารางเซนติเมตร = 56,000 ตารางเซนติเมตร แสดงว่า พื้นที่ห้องน้ำ 2 10,000 ตารางเซนติเมตร เท่ากับ 1 ตารางเมตร ดังนั้น ห้องน้ำ 2 มีพื้นที่จริง 56,000 ÷ 10,000 = 5.60 ตารางเมตร (แต่เนื่องจากมีห้องน้ำภายในห้องนอนจึงมีการนำ (พื้นที่ห้องนอน 2 - พื้นที่ห้องน้ำ 2) ดังนั้นห้องนอน 2 มีพื้นที่จริง 35 – 5.60 = 29.40 ตารางเมตร ออกแบบ ห้องครัว จากแปลนบ้านเป็นรูปเรขาคณิตชนิด รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีความกว้างแทนความยาวจริง 10 เซนติเมตร ความยาว 11.6 เซนติเมตร ซึ่งใช้มาตราส่วน 2 : 100 จะได้ 2 ซม. : 100 ซม. = 10 ÷ 2 ซม. : 11.6 ÷ 2 ซม. = 5 ซม. : 5.8 ซม. พื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า = กว้าง × ยาว


14 = (5 × 100) × (5.8×100) ตารางเซนติเมตร = 500 × 580 ตารางเซนติเมตร = 290,000 ตารางเซนติเมตร แสดงว่า พื้นที่ห้องครัว 10,000 ตารางเซนติเมตร เท่ากับ 1 ตารางเมตร ดังนั้น ห้องครัว มีพื้นที่จริง 290,000 ÷ 10,000 = 29 ตารางเมตร ออกแบบ ห้องน้ำ 3 จากแปลนบ้านเป็นรูปเรขาคณิตชนิด รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีความยาวด้านละ 4.40 เซนติเมตร ซึ่งใช้มาตราส่วน 2 : 100 จะได้ 2 ซม. : 100 ซม. = 4.40 ÷ 2 ซม. : 4.40 ÷ 2 ซม. = 2.20 ซม. : 2.20 ซม. พื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส = ด้าน × ด้าน = (2.20 × 100) × (2.20×100) ตารางเซนติเมตร = 220 × 220 ตารางเซนติเมตร = 48,400 ตารางเซนติเมตร แสดงว่า พื้นที่ห้องน้ำ 3 10,000 ตารางเซนติเมตร เท่ากับ 1 ตารางเมตร ดังนั้น ห้องน้ำ 3 มีพื้นที่จริง 48,400 ÷ 10,000 = 4.84 ตารางเมตร ออกแบบ ห้องซักล้าง จากแปลนบ้านเป็นรูปเรขาคณิตชนิด รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีความกว้างแทนความยาวจริง 4.40 เซนติเมตร ความยาว 5.6 เซนติเมตร ซึ่งใช้มาตราส่วน 2 : 100 จะได้ 2 ซม. : 100 ซม. = 4.40 ÷ 2 ซม. : 5.60 ÷ 2 ซม. = 2.20 ซม. : 2.80 ซม. พื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า = กว้าง × ยาว = (2.20 × 100) × (2.80×100) ตารางเซนติเมตร = 200 × 280 ตารางเซนติเมตร = 61,600 ตารางเซนติเมตร แสดงว่า พื้นที่ห้องซักล้าง 10,000 ตารางเซนติเมตร เท่ากับ 1 ตารางเมตร ดังนั้น ห้องซักล้าง มีพื้นที่จริง 61,600 ÷ 10,000 = 6.16 ตารางเมตร


15 ออกแบบ ห้องนอน 3 จากแปลนบ้านเป็นรูปเรขาคณิตชนิด รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีความยาวจริงด้านละ 10 เซนติเมตร ซึ่งใช้มาตราส่วน 2 : 100 จะได้ 2 ซม. : 100 ซม. = 10 ÷ 2 ซม. : 10 ÷ 2 ซม. = 5 ซม. : 5 ซม. พื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส = ด้าน × ด้าน = (5 × 100) × (5×100) ตารางเซนติเมตร = 500 × 500 ตารางเซนติเมตร = 250,000 ตารางเซนติเมตร แสดงว่า พื้นที่ห้องนอน 3 10,000 ตารางเซนติเมตร เท่ากับ 1 ตารางเมตร ดังนั้น ห้องนอน 3 มีพื้นที่จริง 250,000 ÷ 10,000 = 25 ตารางเมตร ออกแบบ ห้องโถง จากแปลนบ้านเป็นรูปเรขาคณิตชนิด รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีความกว้างแทนความยาวจริง 10 เซนติเมตร ความยาว 20 เซนติเมตร ซึ่งใช้มาตราส่วน 2 : 100 จะได้ 2 ซม. : 100 ซม. = 10 ÷ 2 ซม. : 20 ÷ 2 ซม. = 5 ซม. : 10 ซม. พื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า = กว้าง × ยาว = (5 × 100) × (10×100) ตารางเซนติเมตร = 500 × 1,000 ตารางเซนติเมตร = 500,000 ตารางเซนติเมตร แสดงว่า พื้นที่ห้องโถง 10,000 ตารางเซนติเมตร เท่ากับ 1 ตารางเมตร ดังนั้น ห้องโถง มีพื้นที่จริง 500,000 ÷ 10,000 = 50 ตารางเมตร ออกแบบ ห้องน้ำ 4 จากแปลนบ้านเป็นรูปเรขาคณิตชนิด รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีความยาวจริง ด้านละ 5 เซนติเมตร ซึ่งใช้มาตราส่วน 2 : 100 จะได้ 2 ซม. : 100 ซม. = 5 ÷ 2 ซม. : 5 ÷ 2 ซม. = 2.5 ซม. : 2.5 ซม. พื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส = ด้าน × ด้าน = (2.5 × 100) × (2.5×100) ตารางเซนติเมตร = 250 × 250 ตารางเซนติเมตร = 62,500 ตารางเซนติเมตร


16 แสดงว่า พื้นที่ห้องน้ำ 4 10,000 ตารางเซนติเมตร เท่ากับ 1 ตารางเมตร ดังนั้น ห้องน้ำ 4 มีพื้นที่จริง 62,500 ÷ 10,000 = 6.25 ตารางเมตร ออกแบบ ห้องทำงาน จากแปลนบ้านเป็นรูปเรขาคณิตชนิด รูปแปดเหลี่ยม การหาพื้นที่จะต้องแบ่งเป็นรูป สามเหลี่ยม 8 รูป มีความยาวฐานจริง 4 เซนติเมตร ความสูง 10 เซนติเมตร ซึ่งใช้มาตราส่วน 2 : 100 จะได้ 2 ซม. : 100 ซม. = 4 ÷ 2 ซม. : 5 ÷ 2 ซม. = 2 ซม. : 2.5 ซม. พื้นที่ของรูปสามเหลี่ยม = 1 2 × ฐาน × สูง ตารางเซนติเมตร = 1 2 × (2 ×100) × (2.5×100) ตารางเซนติเมตร = 25,000 ตารางเซนติเมตร เนื่องจาก พื้นที่รูปแปดเหลี่ยม แบ่งเป็นรูปสามเหลี่ยม 8 รูป จะได้ว่า 8 × 25,000 = 200,000 ตาราง เซนติเมตร แสดงว่า พื้นที่ห้องทำงาน 10,000 ตารางเซนติเมตร เท่ากับ 1 ตารางเมตร ดังนั้น ห้องทำงาน มีพื้นที่จริง 200,000 ÷ 10,000 = 20.00 ตารางเมตร ออกแบบ ห้องรับแขก จากแปลนบ้านเป็นรูปเรขาคณิตชนิด รูปแปดเหลี่ยม การหาพื้นที่จะต้องแบ่งเป็นรูป สามเหลี่ยม 8 รูป มีความยาวฐานจริง 4 เซนติเมตร ความสูง 10 เซนติเมตร ซึ่งใช้มาตราส่วน 2 : 100 จะได้ 2 ซม. : 100 ซม. = 4 ÷ 2 ซม. : 5 ÷ 2 ซม. = 2 ซม. : 2.5 ซม. พื้นที่ของรูปสามเหลี่ยม = 1 2 × ฐาน × สูง ตารางเซนติเมตร = 1 2 × (2 × 100) + (2.5 × 100) ตาราง เซนติเมตร = 25,000 ตาราง เซนติเมตร เนื่องจาก พื้นที่รูปแปดเหลี่ยม แบ่งเป็นรูปสามเหลี่ยม 8 รูป จะได้ว่า 8 × 25,000 = 200,000 ตาราง เซนติเมตร แสดงว่า พื้นที่ห้องรับแขก 10,000 ตารางเซนติเมตร เท่ากับ 1 ตารางเมตร ดังนั้น ห้องรับแขก มีพื้นที่จริง 200,000 ÷ 10,000 = 20.00 ตารางเมตร


17 ออกแบบ เฉลียงหน้าบ้าน จากแปลนบ้านเป็นรูปเรขาคณิตชนิด รูปสิบเหลี่ยม การหาพื้นที่จะต้องแบ่งเป็นรูป สามเหลี่ยม 2 รูป มีความยาวฐานจริง 4 เซนติเมตร ความสูง 5 เซนติเมตร และรูป สี่เหลี่ยมผืนผ้า จำนวน 2 รูป แบ่งเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ารูปใหญ่ จำนวน 1 รูป มีความกว้างแทนความ ยาวจริง 5 เซนติเมตร มีความยาว 20 เซนติเมตร และรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ารูปเล็ก จำนวน 1 รูป มีความ ความกว้างแทนความยาวจริง 5 เซนติเมตร มีความยาว 8เซนติเมตร ซึ่งใช้มาตราส่วน 2 : 100 พื้นที่ของรูปสามเหลี่ยม 2 รูป จะได้ 2 ซม. : 100 ซม. = 4 ÷ 2 ซม. : 5 ÷ 2 ซม. = 2 ซม. : 2.5 ซม. พื้นที่ของรูปสามเหลี่ยม = 1 2 × ฐาน × สูง ตารางเซนติเมตร = 1 2 × (2 × 100) + (2.5 × 100)ตารางเซนติเมตร = 25,000 ตารางเซนติเมตร เนื่องจาก พื้นที่สิบเหลี่ยมแบ่งเป็นรูปสามเหลี่ยม 2รูป จะได้ว่า 2 × 25,000 = 50,000 ตาราง เซนติเมตร แสดงว่า พื้นที่รูปสามเหลี่ยม 2 รูป 10,000 ตารางเซนติเมตร เท่ากับ 1 ตารางเมตร จะได้ว่า รูปสามเหลี่ยม 2 รูป มีพื้นที่จริง 50,000 ÷ 10,000 = 5 ตารางเมตร พื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้ารูปใหญ่ จะได้ 2 ซม. : 100 ซม. = 5 ÷ 2 ซม. : 20 ÷ 2 ซม. = 2.5 ซม. : 10 ซม. พื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า = กว้าง × ยาว = (2.5 × 100) × (10×100) ตารางเซนติเมตร = 250 × 1,000 ตารางเซนติเมตร = 250,000 ตารางเซนติเมตร แสดงว่า พื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้ารูปใหญ่ 10,000 ตารางเซนติเมตร เท่ากับ 1 ตารางเมตร จะได้ว่า สี่เหลี่ยมผืนผ้ารูปใหญ่ มีพื้นที่จริง 250,000 ÷ 10,000 = 25 ตารางเมตร พื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้ารูปเล็ก จะได้ 2 ซม. : 100 ซม. = 5 ÷ 2 ซม. : 8 ÷ 2 ซม. = 2.5 ซม. : 4 ซม. พื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า = กว้าง × ยาว


18 = (2.5 × 100) × (4×100) ตารางเซนติเมตร = 250 × 400 ตารางเซนติเมตร = 100,000 ตารางเซนติเมตร แสดงว่า พื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้ารูปเล็ก 10,000 ตารางเซนติเมตร เท่ากับ 1 ตารางเมตร จะได้ว่า สี่เหลี่ยมผืนผ้ารูปเล็ก มีพื้นที่จริง 100,000 ÷ 10,000 = 10 ตารางเมตร ดังนั้น เฉลียงหน้าบ้าน มีพื้นที่จริง 5 + 25 + 10 = 40.00 ตารางเมตร ออกแบบ บันไดหน้าบ้าน จากแปลนบ้านเป็นรูปเรขาคณิตชนิด รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีความกว้างแทนยาวจริง 4 เซนติเมตร ความยาว 8 เซนติเมตร ซึ่งใช้มาตราส่วน 2 : 100 จะได้ 2 ซม. : 100 ซม. = 4 ÷ 2 ซม. : 8 ÷ 2 ซม. = 2 ซม. : 4 ซม. พื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า = กว้าง × ยาว = (2 × 100) × (4 × 100) ตารางเซนติเมตร = 200 × 400 ตารางเซนติเมตร = 80,000 ตารางเซนติเมตร แสดงว่า พื้นที่บันไดหน้าบ้าน 10,000 ตารางเซนติเมตร เท่ากับ 1 ตารางเมตร ดังนั้น บันไดหน้าบ้าน มีพื้นที่จริง 80,000 ÷ 10,000 = 8 ตารางเมตร ออกแบบพื้นที่ผนังทั้งหมด โดยกำหนดให้ความสูงของบ้านทั้งหลัง แทนความยาวจริง 7 เซนติเมตร จากแปลนบ้าน รูปร่างพื้นที่ของบ้าน จะเป็นฐานรูปเรขาคณิตที่สามารถสร้างเป็นผนังเมื่อกำหนดความสูงดังกล่าว และใช้มาตราส่วน 2 : 100 ดังนั้นพื้นที่ผนังจะเป็นรูปเรขาคณิตสามมิติ ประกอบด้วย ปริซึมสี่เหลี่ยม และปริซึมแปดเหลี่ยม พื้นที่ของผนังทั้งหมด เท่ากับ 487.50 ตารางเมตร ออกแบบหลังคาบ้านทั้งหมด โดยกำหนดรูปร่างของหลังคาให้สอดคล้องกับรูปร่างพื้นที่และผนังของบ้าน ดังนั้นหลังคาบ้าน จะประกอบด้วยรูปเรขาคณิตสามมิติ ชนิด ปริซึมสามเหลี่ยม และพีระมิดฐานแปดเหลี่ยม โดยใช้ความ ยาวคานทั้งหมด 210 เมตร สรุปผลจากการออกแบบบ้าน ประกอบด้วย กำหนดพื้นที่ กว้าง 15 เมตร ยาว 20 เมตร และ จัดสัดส่วนห้องตามความต้องการ โดยการกำหนดให้มีห้องนอน 3 ห้อง ห้องน้ำ 4 ห้อง ห้องครัว 1 ห้อง ห้องซักล้าง 1 ห้อง ห้องโถงใหญ่ 1 ห้อง ห้องรับแขก 1 ห้อง และห้องทำงาน 1 ห้อง รวมถึง เฉลียงและบันไดหน้าบ้านโดยจะใช้วิธีการนำรูปเรขาคณิตมาออกแบบรูปร่างของพื้นที่บ้าน คำนวณ พื้นที่โดยใช้ความรู้ เรื่อง การหาพื้นที่ของรูปเรขาคณิตสองมิติ และเขียนแผนผังกำหนดให้ มาตราส่วน


19 2 : 100 หมายความว่า ความยาวในแปลนบ้าน 2 หน่วย แทนความยาวจริง 100 หน่วยจะได้ว่า ถ้า ความยาวในแปลนบ้าน 2 เซนติเมตร แทนความยาวจริง 100 เซนติเมตร ดังนั้นบ้านทั้งหลังมีพื้นที่ใช้ สอยทั้งหมด 288 ตารางเมตร จากพื้นที่จริง 300 ตารางเมตรและมีพื้นที่ของผนังทั้งหมด เท่ากับ 487.50 ตารางเมตร 3.2.2 สร้างบ้านตามแบบ ภาพที่ 15 วัดขนาดกล่องนม ภาพที่ 16 ตัดกล่องนมตามรอยจากการวัด ภาพที่ 17 ตัดกล่องนมตามแบบบ้าน ภาพที่ 18 นำกล่องนมแปะติดกับกระดาษชานอ้อย ภาพที่ 19 แปะติดกล่องนมตามสัดส่วนของห้อง ภาพที่ 20 แปะติดกล่องนมตามสัดส่วนของห้อง


20 ภาพที่ 21 เตรียมประตู – หน้าต่าง ภาพที่ 22 ประกอบประตู – หน้าต่าง ภาพที่ 23ตัดกระดาษลังเพื่อใช้ทำหลังคาทรงปั้นหยา ภาพที่ 24 นำองค์ประกอบแต่ละส่วนประกอบกัน ภาพที่ 25 บ้านโมเดลทั้งหลังแทนของจริง 3.3 คำนวณการใช้กล่องนมในการสร้างโครงงานคณิตศาสตร์เรื่อง บ้านนักคิด โดยใช้เรขาคณิต สร้างสรรค์ ประกอบด้วย 3.3.1. กล่องนมที่ดื่มเสร็จแล้ว ห้องนอน 3 ห้อง ใช้กล่องนมไป ห้องละ 3 ชิ้น ห้องนอน 3 ห้อง ใช้ไป 3 × 3 = 9 ชิ้น ห้องน้ำ 4 ห้อง ใช้กล่องนมไปห้องละ 0.5 ชิ้น ห้องน้ำ 4 ห้อง ใช้ไป 0.5 × 4 = 2 ชิ้น ห้องครัว 1 ห้อง ใช้กล่องนมไปห้องละ 3ชิ้น ห้องครัว1 ห้อง ใช้ไป 3 × 1 = 3 ชิ้น ห้องซักล้าง 1 ห้อง ใช้กล่องนมไปห้องละ 1 ชิ้น ห้องซักล้าง 1 ห้อง ใช้ไป 1 × 1 = 1ชิ้น


21 ห้องโถงใหญ่ 1 ห้อง ใช้กล่องนมไป ห้องละ 4 ชิ้น ห้องโถงใหญ่ 1 ห้อง ใช้ไป 4×1 = 4 ชิ้น ห้องรับแขก 1 ห้อง ใช้กล่องนมไป ห้องละ 3 ชิ้น ห้องรับแขก 3 ห้อง ใช้ไป 3×1 = 3 ชิ้น ห้องทำงาน 1 ห้อง ใช้กล่องนมไป ห้องละ 3 ชิ้น ห้องทำงาน 1 ห้อง ใช้ไป 3×1 = 3 ชิ้น รวมใช้กล่องนมทั้งหมด 25 ชิ้น 3.3.2 กระดาษลังนมโรงเรียน หลังคา 5 ชุด ใช้กระดาษลังนมโรงเรียน ทั้งหมด 3 ใบ รวมใช้กระดาษลังนมโรงเรียนทั้งหมด 3 ใบ 3.3.3 เผยแพร่โครงงานคณิตศาสตร์เรื่อง บ้านนักคิด โดยใช้เรขาคณิตสร้างสรรค์ภายในโรงเรียน และใช้แบบสอบถามความพึงพอใจสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 13 คน เพื่อแลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็นร่วมกัน และนำข้อมูลที่ได้ มาพัฒนา แก้ไข ปรับปรุงในการ ดำเนินการต่อไป ภาพที่ 26 เผยแพร่โมเดลบ้านในโรงเรียน ภาพที่ 27 แลกเปลี่ยนเรียนรู้ในห้องเรียน


22 บทที่ 4 ผลการดำเนินการ การทำโครงงานคณิตศาสตร์ เรื่อง บ้านนักคิด โดยใช้เรขาคณิตสร้างสรรค์ เป็นการนำความรู้ รูปเรขาคณิตมาออกแบบรูปร่างของบ้าน แล้วหาพื้นที่ของรูปเรขาคณิตสองมิติ ในการกำหนดพื้นที่ใช้ สอย และเขียนมาตราส่วนเป็นแผนผังบนแปลนบ้านต่อความกว้าง ความยาว ความสูงจริง โดยนำขยะ ภายในโรงเรียน มาสร้างบ้านตามแบบที่ได้กำหนดไว้ รวมถึงศึกษาความพึงพอใจต่อโครงงานดังกล่าว ได้ผลดังนี้ 1. ได้เรียนรู้วิธีการนำรูปเรขาคณิตมาออกแบบรูปร่างของบ้าน และใช้ความรู้เรื่องการหา พื้นที่ของรูปเรขาคณิตสองมิติในการกำหนดพื้นที่ใช้สอยซึ่งพื้นที่ใช้สอยทั้งหมดของโมเดลบ้านมีพื้นที่ 288 ตารางเมตร จากพื้นที่จริง 300 ตารางเมตร ตรงกับแผนผัง ต่อความกว้าง ความยาว ความสูงจริง บนแปลนบ้าน 2. สามารถสร้างบ้านตามแบบแปลนที่ออกแบบได้จริง และนำไปใช้ในการสร้างบ้านในชีวิต จริงได้ 3. สามารถลดขยะกล่องนมภายในโรงเรียนจำนวน 25 ชิ้น ลังนมโรงเรียน จำนวน 3 ชิ้น และ นำมาใช้ประโยชน์กับการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์ 4. ผู้ตอบแบบสอบถาม คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีความพึงพอใจ ต่อโครงงาน คณิตศาสตร์ เรื่อง บ้านนักคิด โดยใช้เรขาคณิตสร้างสรรค์ จากกลุ่มตัวอย่าง 13 คน ในแต่ละประเด็น เป็นดังนี้ 4.1 ความพึงพอใจต่อโครงงานคณิตศาสตร์ เรื่อง บ้านนักคิด โดยใช้เรขาคณิตสร้างสรรค์ 4.1.1 ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ต่อโครงงานคณิตศาสตร์ เรื่อง บ้านนักคิด โดยใช้เรขาคณิตสร้างสรรค์ ตารางที่ 1แสดงความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6ต่อโครงงานคณิตศาสตร์ เรื่อง บ้านนัก คิด โดยใช้เรขาคณิตสร้างสรรค์ ประเด็นความคิดเห็น ค่าเฉลี่ย S.D. แปลผล ด้านข้อมูล/เนื้อหา 1. มีความถูกต้องของเนื้อหา และทันสมัย 4.62 0.50 มากที่สุด 2. เนื้อหาสนับสนุนคามก้าวหน้าเพิ่มพูนความรู้ใหม่ 4.65 0.49 มากที่สุด 3. เนื้อหามีความชัดเจนและครอบคลุม เข้าใจง่าย 4.54 0.65 มากที่สุด ภาพรวมด้านข้อมูล/เนื้อหา 4.60 0.41 มากที่สุด


23 ประเด็นความคิดเห็น ค่าเฉลี่ย S.D. แปลผล ด้านรูปแบบ 1. สีและขนาดตัวอักษรตัวอักษร อ่านง่าย ชัดเจน เหมาะสม และถูกต้อง 4.81 0.40 มากที่สุด 2. ภาพ สี และการออกแบบมีความเหมาะสม 4.85 0.37 มากที่สุด 3. มีความน่าสนใจ เหมาะสม กลมกลืน ดึงดูดใจ 4.65 0.69 มากที่สุด 4. ภาษาที่ใช้มีความเหมาะสมและถูกต้องชัดเจน 4.81 0.40 มากที่สุด 5. รูปภาพที่ใช้เหมาะสมกับเนื้อหาและสื่อการเรียนรู้ได้ดี 4.69 0.62 มากที่สุด ภาพรวมด้านรูปแบบ 4.76 0.27 มากที่สุด ด้านการนำไปใช้ประโยชน์ 1 เนื้อหาและข้อมูลสามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้ 4.35 0.69 มาก 2 มีความเหมาะสอดคล้องกับเรื่องที่ต้องการใช้งาน 4.92 0.27 มากที่สุด 3 ทำให้เกิดการค้นพบความรู้ด้วยตนเอง 4.46 0.76 มาก 4 ประหยัดเวลา ลดการอธิบายส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเอง 4.69 0.47 มากที่สุด 5 นำมาใช้ตรวจสอบว่าผู้เรียนสามารถเรียนรู้หรือเข้าใจสิ่งที่เรียนไปมาก น้อยเพียงใด 4.92 0.27 มากที่สุด 6. นำไปเป็นของประดับตกแต่งบ้าน 4.88 0.43 มากที่สุด ภาพรวมด้านการนำไปใช้ประโยชน์ 4.71 0.29 มากที่สุด ภาพรวมทุกด้าน 4.70 0.24 มากที่สุด จากตารางที่ 1 ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6ต่อโครงงานคณิตศาสตร์ เรื่อง บ้านนักคิด โดยใช้เรขาคณิตสร้างสรรค์มีความพึงพอใจในภาพรวมทุกด้านอยู่ในระดับมากที่สุด (̅= 4.70 , .. = 0.24) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีอันดับความพึงพอใจ ด้านรูปแบบ สูงสุด(̅= 4.76 , .. = 0.27) ด้านการนำไปใช้ประโยชน์ (̅= 4.71, .. = 0.29) และด้าน ข้อมูล/เนื้อหา (̅= 4.60 , .. = 0.41) ตามลำดับจากมากไปน้อย


24 บทที่ 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ สรุปผลและอภิปรายผล จากการทำโครงงานคณิตศาสตร์ เรื่องบ้านนักคิด โดยใช้เรขาคณิตสร้างสรรค์ โดย คณะทำงานเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีวัตถุประสงค์ดังนี้1) เพื่อศึกษาวิธีการนำรูป เรขาคณิตมาออกแบบรูปร่างของบ้าน และใช้ความรู้เรื่องการหาพื้นที่ของรูปเรขาคณิตสองมิติในการ กำหนดพื้นที่ใช้สอย รวมถึงเขียนมาตราส่วนเป็นแผนผัง ต่อความกว้าง ความยาว ความสูงจริงบน แปลนบ้าน 2) เพื่อสร้างบ้านตามแบบแปลน 3) เพื่อลดขยะภายในโรงเรียนและนำมาใช้ประโยชน์กับ การเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ต่อโครงงาน บ้านนักคิด โดยใช้เรขาคณิตสร้างสรรค์จากการดำเนินการพบว่า การนำรูปเรขาคณิตมาออกแบบ รูปร่างเพื่อกำหนดพื้นที่ของบ้านได้แก่ รูปเรขาคณิตสองมิติ 3 ชนิด ประกอบด้วย รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส รูปแปดเหลี่ยม และรูปเรขาคณิตสามมิติ ประกอบด้วย พีระมิดฐานแปดเหลี่ยม ปริซึมสามเหลี่ยม ปริซึมสี่เหลี่ยม และปริซึมแปดเหลี่ยม สามารถสร้างแปลนบ้านตามที่ออกแบบไว้ และนำไปใช้ในการสร้างบ้านได้จริงโดยมีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 288 ตารางเมตร จากพื้นที่จริง 300 ตารางเมตร มีการลดปริมาณกล่องนมที่เป็นขยะภายในโรงเรียนจากการสร้างโมเดลบ้าน จำนวน 25 ชิ้น กระดาษลังนมโรงเรียน จำนวน 3 ใบ และจากการตอบแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ต่อโครงงานบ้านนักคิด โดยใช้เรขาคณิตสร้างสรรค์ จากกลุ่มตัวอย่าง 13 คน ในแต่ละประเด็น พบว่า ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีความพึงพอใจในภาพรวม ทุกด้านอยู่ในระดับมากที่สุด (̅= 4.70 , S.D. = 0.24) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ผู้เข้าร่วม กิจกรรมมีอันดับความพึงพอใจ ด้านรูปแบบ สูงสุด (̅4.76 , S.D. = 0.27) ด้านการนำไปใช้ ประโยชน์(̅= 4.71 , S.D. = 0.29) และด้านข้อมูล/เนื้อหา (̅=4.60 , S.D. = 0.41) ตามลำดับ จากมากไปน้อย ข้อเสนอแนะ 1. ควรใช้โปรแกรมง่าย ๆ ในการสร้างแบบ 2. อาจมีการประมาณราคาของบ้าน 3. สามารถนำแบบบ้านนี้ไปให้วิศวกร หรือ สถาปนิคเขียนในโปรแกรมและขายได้


25 บรรณานุกรม กระทรวงศึกษาธิการ . ตัวชี้วัดและสาระสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุงเทพมหานคร. (2560) กระทรวงศึกษาธิการ . หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ เล่ม 1 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร. ( 2563). กระทรวงศึกษาธิการ . หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ เล่ม 2 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร. ( 2563). มูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชูปถัมภ์. 2565 “รูปเรขาคณิต 2 มิติ.” (ระบบอนไลน์). https://dltv.ac.th/teachplan/lists/3/2000 สืบค้นเมื่อวันที่18 พฤศจิกายน 2565 มูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชูปถัมภ์. 2565 “รูปเรขาคณิต 3 มิติ.” (ระบบอนไลน์).https://dltv.ac.th/teachplan/lists/6/2000 สืบค้นเมื่อวันที่18 พฤศจิกายน 2565 สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา. สารานุกรมวิชาชีพครู เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษ 80 พรรษา. กรุงเทพมหานคร. (2552). Admin. “รับสร้างบ้านสวย” (ระบบอนไลน์). www.รับสร้างบ้านอุบลศรีสะเกษ.com สืบค้นเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 เวลา 11.45 น. Admin. “รับสร้างบ้าน” (ระบบอนไลน์). www.ttmconstruction.com สืบค้นเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 เวลา 11.45 น. DRAWINGS HOME. “ขั้นตอนการเขียนแปลนพื้น” (ระบบอนไลน์). https://househandmake.blogspot.com/2014/06/editfloor.html สืบค้นเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565


26 ภาคผนวก


27 ภาคผนวก ก แปลนบ้าน


28


29 ภาคผนวก ข สร้างบ้านตามแบบแปลน


30 ภาพที่ 13 วัดขนาดกล่องนม ภาพที่ 14 ตัดกล่องนมตามรอยจากการวัด ภาพที่ 15 ตัดกล่องนมตามแบบบ้าน ภาพที่ 16 นำกล่องนมแปะติดกับกระดาษชานอ้อย ภาพที่ 17 แปะติดกล่องนมตามสัดส่วนของห้อง ภาพที่ 18 แปะติดกล่องนมตามสัดส่วนของห้อง ภาพที่ 19 เตรียมประตู – หน้าต่าง ภาพที่ 20 ประกอบประตู - หน้าต่าง


31 ภาพที่ 21 ตัดกระดาษลังเพื่อใช้ทำหลังคาทรงปั้นหยา ภาพที่ 22 นำองค์ประกอบแต่ละส่วนประกอบกัน ภาพที่ 23 บ้านโมเดลทั้งหลังแทนของจริง


32 ภาคผนวก ค เครื่องมือประเมินความพึงพอใจในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ต่อโครงงานบ้านนักคิด โดยใช้เรขาคณิตสร้างสรรค์


33 แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียน ต่อโครงงานบ้านนักคิด โดยใช้เรขาคณิตสร้างสรรค์ โรงเรียนมหิดล สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 3


34


Click to View FlipBook Version