แนวคดิ และทฤษฎีวา่ ดว้ ยจิตวญิ ญาณและอดุ มการณ์ของผู้นำ
และการสร้างเสรมิ จติ วญิ ญาณและอุดมการณข์ องผบู้ รหิ าร
เสนอ
อาจารย์ ดร.พสิ ษิ ฐ์ ยอดวันดี
จดั ทำโดย
กลุม่ ที่ ๑
๑. นายนภสินธ์ุ ดวงประภา รหสั ๖๕๑๙๕๑๐๐๐๒
๒. นางสาวสุวมิ ล ใจมา รหัส ๖๕๑๙๕๑๐๐๐๕
รายงานน้ีเปน็ สว่ นหน่งึ ของวชิ าหน่วยการเรยี น EDA ๕๒๐๑ : ผนู้ ำทางการศกึ ษา
ยุคใหมแ่ ละจรรยาบรรณวิชาชพี สำหรบั ผบู้ รหิ าร
Educational Leader in Modern Age and Professional Ethics for
Educational Administrators
ภาคการศกึ ษา ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕
แนวคดิ และทฤษฎีวา่ ดว้ ยจิตวญิ ญาณและอดุ มการณ์ของผู้นำ
และการสร้างเสรมิ จติ วญิ ญาณและอุดมการณข์ องผบู้ รหิ าร
เสนอ
อาจารย์ ดร.พสิ ษิ ฐ์ ยอดวันดี
จดั ทำโดย
กลุม่ ที่ ๑
๑. นายนภสินธ์ุ ดวงประภา รหสั ๖๕๑๙๕๑๐๐๐๒
๒. นางสาวสุวมิ ล ใจมา รหัส ๖๕๑๙๕๑๐๐๐๕
รายงานน้ีเปน็ สว่ นหน่งึ ของวชิ าหน่วยการเรยี น EDA ๕๒๐๑ : ผนู้ ำทางการศกึ ษา
ยุคใหมแ่ ละจรรยาบรรณวิชาชพี สำหรบั ผบู้ รหิ าร
Educational Leader in Modern Age and Professional Ethics for
Educational Administrators
ภาคการศกึ ษา ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕
คำนำ
รายงานนี้ เป็นสว่ นหน่งึ ของวชิ าหนว่ ยการเรยี น EDA ๕๒๐๑ : ผ้นู ำทางการศกึ ษายุคใหม่
และจรรยาบรรณวิชาชีพสำหรบั ผบู้ รหิ าร Educational Leader in Modern Age and Professional
Ethics for Educational Administrators ภาคการศึกษา ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๕ ซึง่ มีเนื้อหาเก่ียวกับ
เรื่อง แนวคิดและทฤษฎวี ่าดว้ ยจติ วิญญาณและอุดมการณ์ของผู้นำและการสร้างเสริมจิตวิญญาณและ
อุดมการณ์ของผู้บริหาร ภายในเล่มรายงานกล่าวถึง ความหมายของจิตวิญญาณ ความหมายของ
อุดมการณ์ ภาวะผู้นำ ความหมายของภาวะผู้นำเชิงจิตวิญญาณ และอุดมการณ์ (Spiritual and
ideological Leadership) ความสำคัญของภาวะผู้นำเชิงจิตวิญญาณ องค์ประกอบของภาวะผู้นำเชิง
จิตวิญญาณ แนวทางการสร้างภาวะผู้นำเชิงจิตวิญญาณ การฝึกฝนและอบรม การสร้างภาพลักษณ์
"SAT Brandings" ผู้บริหารสถานศึกษาต้องมีจิตสาธารณะ (Mind service) และบทสรุปเกี่ยวกับ
แนวคิดและทฤษฎีว่าด้วยจิตวิญญาณและอุดมการณ์ของผู้นำและการสร้างเสริมจิตวิญญาณและ
อดุ มการณข์ องผ้บู ริหาร
ในการนี้ขา้ พเจ้าได้รวบรวมข้อมลู สรปุ องค์ความรู้จากการศึกษาเอกสารและงานวิจัยต่าง
ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อรายงานต่ออาจารย์ ดร.พิสิษฐ์ ยอดวันดี อาจารย์ประจำวิชา เพื่อเป็นร่องรอย
หลักฐานการพัฒนาตนเองและสำหรับศึกษาค้นคว้าในภายหลัง และหวังว่ารายงานฉบับนี้จะเป็น
ประโยชน์แก่ผสู้ นใจต่อไป
คณะผูจ้ ัดทำ กลมุ่ ท่ี ๑
สารบญั หน้า
ก
คำนำ ข
สารบญั ๑
สว่ นท่ี ๑ แนวคิดและทฤษฎีว่าดว้ ยจติ วิญญาณและอดุ มการณ์ของผนู้ ำ ๑
๒
๑. ความหมายของจิตวญิ ญาณ ๓
๒. ความหมายของอดุ มการณ์ ๔
๓. ภาวะผนู้ ำ
๔. ความหมายของภาวะผ้นู ำเชงิ จิตวิญญาณ และอดุ มการณ์ (Spiritual ๕
๖
and ideological Leadership) ๘
๕. ความสำคัญของภาวะผนู้ ำเชิงจติ วญิ ญาณ ๑๑
๖. องคป์ ระกอบของภาวะผู้นำเชิงจิตวิญญาณ ๑๑
๗. แนวทางการสร้างภาวะผนู้ ำเชิงจติ วิญญาณ ๑๑
ส่วนที่ ๒ การสร้างเสรมิ จิตวญิ ญาณและอดุ มการณ์ของผูบ้ รหิ าร ๑๒
๑. การฝึกฝนและอบรม ๑๔
๒. การสรา้ งภาพลกั ษณ์ "SAT Brandings" ๑๕
๓. ผู้บริหารสถานศกึ ษาต้องมีจิตสาธารณะ (Mind service) ๑๖
สว่ นที่ ๓ บทสรปุ ๑๗
เอกสารอ้างองิ
ภาคผนวก
- Power Point นำเสนอ งานชิน้ ท่ี ๑ กลมุ่ ท่ี ๑
บทนำ
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ หมวดที่ ๑ มาตรา ๖ กล่าวว่าการจัด
การศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้
และคุณธรรมมีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข
(กระทรวงศึกษาธิการ,๒๕๔๖:๓) อีกทั้งการกำหนดเป้าหมายและแนวทางการพัฒนาในแผนพัฒนา
เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) โดยหนึ่งในเป้าหมายที่กำหนดไว้คือ
คนไทยมีคุณลักษณะเป็นคนไทยที่สมบูรณ์ มีวินัย มีทัศนคติและพฤติกรรมตามบรรทัดฐานที่ดีของ
สังคม มีความเป็นพลเมืองที่ตื่นรู้มีความสามารถในการปรับตัวได้อย่างรู้เท่าทันสถานการณ์ มีความ
รับผิดชอบและทำประโยชน์ต่อส่วนรวม มีสุขภาพกายและใจท่ีดี มีความเจริญงอกงามทางจิตวญิ ญาณ
(สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, ๒๕๕๙: ๑) และจากพระบรม
ราโชวาท ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ใน
พิธีพระราชทานปริญญาบตั รแก่นิสิตและนักศึกษาวิทยาลัยการศึกษา ณ วิทยาลัยการศึกษา ประสาน
มติ ร วนั จันทรท์ ี่ ๒๗ พฤศจกิ ายน ๒๕๑๕ ความตอนหน่ึงว่า
... การให้การศกึ ษานั้น กถ่าวโดยวัตถุที่แท้จริง คอื การสร้างสรรคค์ วามรู้ ความคดิ พร้อม
ทั้งคุณสมบัติและจิตใจที่สมบูรณ์ให้เกิดขึ้นในตัวบุคคล เพื่อช่วยให้เขาสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่าง
มั่นคงและราบรื่น ทั้งสามารถบำเพ็ญประโยชน์สุขเพื่อตนเพื่อส่วนรวมได้ตามควรแก่อัตภาพ ผู้ทำ
หน้าทด่ี ้านการศึกษาทกุ ฝา่ ยทุกระดบั ควร จะไดม้ ุ่งทำงานเพอ่ื วัตถุประสงค์นย้ี ง่ิ วา่ สงิ่ อน่ื ..." (เกษม วัฒน
ชัย, ๒๕๖๐: ๙)
จากข้อความและพระบรมราโชวาทข้างต้นกล่าวได้ว่าเป้าหมายสำคัญของการศกึ ษาต้อง
เป็นไปเพื่อพัฒนาคนให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์อันประกอบไปด้วยความรู้ ความดี มีความสุขและเป็น
ประโยชน์ดังนั้นการบริหารสถานศึกษาจึงเปืนกระบวนการของผู้บริหารสถานศึกษาที่ดำเนินการเพ่ือ
ปลูกฝังคุณลักษณะดังกล่าวให้เกิดขึ้นแก่ผู้เรียน โดยผู้บริหารจะต้องใช้ภาวะผู้นำของตนเพื่อนำพา
สถานศึกษาใหบ้ รรลุตามวตั ถุประสงค์หรอื เปา้ หมายท่ีกำหนดไว้
ภาวะผู้นำเชิงจิตวิญญาณ (Spiritial Leadership) เป็นหนึ่งในภาวะผู้นำที่มุ่งให้
ความสำคัญในเรื่องการเห็นคุณค่าที่แท้จริงและศักยภาพของความเป็นมนุษย์ พัฒนามาจากรูปแบบ
ทฤษฎีแรงจงู ใจภายใน ซง่ึ เป็นอีกรูปแบบหนึง่ ในการพฒั นาภาวะผู้นำ ทั้งยงั เปน็ แนวทางการพฒั นาการ
เปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์ใหเ้ กิดขึน้ ใหม่ในการพัฒนาองค์การ เพื่อสร้างศักยภาพในการเปลี่ยนแปลง
องค์การเชิงบวกในการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพและยังเพิ่มประสิทธิภาพความสามารถในการอยู่
ร่วมกันของมนุษย์อย่างมีความสุขดังที่เคลน (Klenke, K. ๒๐๐๓: ๕๖-๖๐) ได้กล่าวไว้ว่า ตัวชี้วัดจาก
ผลงานวิจัยของวงการธุรกิจหรือค้านสุขภาพได้สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการผู้นำเชิงจิตวิญญาณ
เนื่องจากเปีนการตอบสนองความพึงพอใจการรับรู้ถึงความแตกต่างของบุคคลในองค์การ ความเข้าใจ
ในจติ วิญญาณความเป็นอยู่ แมใ้ นวงการศกึ ษาเองก็เช่นเดียวกนั องค์การทัง้ ภาครฐั และเอกชนสามารถ
มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมให้สมาชิกในองค์การเกิดการพัฒนาเติบโตค้านจิตวิญญาณควบคู่ไปกับ
ทักษะและความรู้ด้านอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตในสังคมร่วมสมัย ในที่นี้ได้นำเสนอประเด็น
เกี่ยวกับการบริหารสถานศึกษาด้วยภาวะผู้นำเชิงจิตวิญญาณ ๔ ประเด็น ได้แก่ ความหมาย
ความสำคัญ องค์ประกอบ และแนวทางการสร้างภาวะผู้นำเชิงจิตวิญญาณของผู้บริหารสถานศึกษา
อันจะเป็นแนวคิดและแนวทางในการบริหารงานให้มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล เกิดประโยชน์
สงู สดุ ตอ่ สถานศึกษาในการส่งเสรมิ และพฒั นาผู้เรียนต่อไป
คณะผจู้ ัดทำ กลมุ่ ที่ ๑
๑
ส่วนท่ี ๑
แนวคิดและทฤษฎีว่าดว้ ยจิตวญิ ญาณและอดุ มการณ์ของผูน้ ำ
๑. ความหมายของจิตวิญญาณ
คำว่า "จิตวญิ ญาณ (Spirit)" มาจากคำวา่ "จติ " และ "วญิ ญาณ" โดยสรุปหมายถึงส่ิงท่ีอยู่
ใน ตนเอง ทำใหเ้ ปน็ บุคคลขน้ึ เป็นความรแู้ จง้ ความรู้สกึ ตวั จิตใจ นักวิชาการไดจ้ ำแนกความหมายของ
จติ วญิ ญาณไว้เป็น ๓ ประการ
๑) ความเป็นเอกัตตาหรือปัจเจกบุคคล หมายถึง ความเป็นตัวตนที่มีลักษณะ เฉพาะ
ของแต่ละบุคคล ซง่ึ เกิดจากการหย่ังรนู้ ำไปสกู่ ารปฏิบตั แิ ละการเกิดศรทั ธาในเรื่องใดเร่ืองหนึ่ง
๒) ความมีคุณค่าสูงส่ง หมายถึง ปัญญาหลักการของชีวิต เช่น ความดี บุญกุศล
คุณธรรมจริยธรรม การรจู้ กั ผิดชอบชวั่ ดีมจี ิตใจสูงข้ึน
๓) ความเป็นนามธรรม หมายถึง โครงสร้างหน่ึงของมนุษย์ท่ีนอกเหนือจากร่างกายและ
จิตใจ จับต้องไม่ได้ พัฒนามาจากความผูกพันด้านจิตใจของมนุษย์กับสิ่งแวดล้อม เป็นแหล่งของ
ความหวงั พลงั ใจทีเ่ ขม้ แขง็ เปน็ ขมุ พลังของชวี ติ ทที่ ำให้ประสบความสำเรจ็ และมคี วามสขุ
วิญญาณความเป็นครูเป็นคุณลักษณะที่แสดงทางด้านพฤติกรรมส่วนตัวและ พฤติกรรม
ส่วนรวมเป็นที่ประจักษ์แก่สังคมและเป็นที่ยอมรับในการปฏิบัติหน้าที่ครูด้วยคุณธรรม จริยธรรมและ
ความปรารถนาที่จะพัฒนาศิษย์ตามศักยภาพพร้อมกับตระหนักถึงการพัฒนาองค์ รวมด้วยความ
เสียสละ มีความคิดสร้างสรรค์เป็นแบบอย่างที่ดีของสังคมและเป็นผู้มีจิตใจใฝ่ต่อ การศึกษา พัฒนา
ตนเองสอดรับกับแนวคิดสุทัศน์ สังคะพันธ์ การปฏิรูปคุณภาพการศึกษาเป็นส่วนหนึ่ง ที่จะต้องให้
ความสำคัญกบั การยกระดบั คุณภาพของครู ซึ่งถอื ได้วา่ เป็นองคป์ ระกอบสำคญั ท่สี ุดอีกประการหนึ่งใน
ระบบการศึกษา ทั้งนี้เนื่องจากครูมี ความสำคัญในการใช้กลวิธีทางการศึกษาที่หลากหลายที่จะทำให้
ผู้เรียนมีความรู้ วิทยาการใน การช่วยฝึกให้มีทักษะชำนาญการเฉพาะด้าน เพื่อนำประกอบอาชีพ
รวมทั้งปลูกฝังให้ผู้เรียนได้รู้ คุณค่าของศิลปะวัฒนธรรม และประเพณีของชาติตลอดจนมีความสำนึก
และความรับผิดชอบใน การรักษาความมั่นคง ความมีเสถียรภาพและเอกราชของประเทศชาติ ซึ่งครู
ถือว่าเป็นวิชาชีพที่ มีองค์ประกอบสำคัญ คือ เป็นวิชาชีพที่ให้บริการแก่สังคมในลักษณะแบบจำ
เฉพาะเจาะจงด้วย การใช้กระบวนการแห่งปัญญาในการให้บริการ มีวิธีการศึกษาอบรมให้ความรู้
กว้างขวางลึกซึ้ง โดยใช้ระยะเวลายาวนานพอสมควร ให้มีเสถียรภาพในการใช้วิชาชีพนั้น ๆ ตรงตาม
มาตรฐาน วิชาชีพมีจรรยาบรรณวิชาชีพ และมีสถาบันแห่งวิชาชีพเป็นศูนย์กลางในการสร้างสรรค์
จรรโลง ความเปน็ มาตรฐานวิชาชพี
แนวคิดของ พระครูสังฆรักษ์จักรกฤษณ์ ภูริปญฺโญ พระครูโสภณพุทธิศาสตร์ พระครู
โอภาสนนทกิตต์ิ สมศกั ด์ิ บุญ และพรี วัฒน์ ชัยสุข กล่าววา่ การพัฒนาตนเองอย่างต่อเน่ืองให้มีความรู้
โดยเฉพาะทักษะการใช้ เทคโนโลยี และทักษะในการสอน ประพฤติเป็นแบบอย่างที่ดี เอาใจใส่ และ
หวงั ดตี ่อศษิ ย์ ปรารถนาให้ศษิ ย์ทุกคนได้มีการงานที่ดีทำและเป็นคนดีของสังคม การปฏิบัติงานของครู
๒
ลักษณะดังกล่าวเรียกได้ว่าการปฏิบัติด้วย "จิตวิญญาณความเป็นครู" การปฏิบัติหน้าที่ ของครูด้วย
ความวิริยะ มุ่งมั่นและทุ่มเทด้วยจิตและวิญญาณ อุทิศตนเพื่อการสอน และมีการพัฒนาสื่อการสอน
ตลอด ก็จะทำให้เกิดความตระหนักและมุ่งมั่นทุ่มเทในการทำงาน พยายามรักษาศักดิ์ศรีแห่งตนและ
วิชาชีพ และที่สำคัญคือ ความศรัทธาในวิชาชีพครู มุ่งมั่นพัฒนาตนเองครูจะต้องมีการพัฒนาตนเอง
และครูจะประสบความสำเร็จต่อหน้าที่การงานที่ปฏิบัติ อยู่ จะต้องเกิดจากการพัฒนา "ใจ" หรือ
"จิตสำนึก" มีใจรักต่ออาชีพครู และใจต้องพร้อมที่ จะเสียสละเพื่อสังคมจึงจะประสบความสำเร็จตาม
เปา้ หมาย ครูทไ่ี ดร้ บั การพฒั นาน้ัน จะมีมาก นอ้ ยเพยี งใดในแต่ละปีสว่ นหนง่ึ ก็ขึ้นกับตน้ สังกัด จะทำให้
โอกาสของครูเหล่านี้ไดม้ ีโอกาส พัฒนาตนเองด้านการศึกษาหรอื ไม่อย่างไร สังคมกำลังต้องการครทู ี่มี
สำนกึ ในความเป็นครู เปน็ ผเู้ สียสละ อดทน อทุ ศิ ตนในการสอน หรอื การบรหิ าร กน็ บั วา่ เป็น "ครูที่มจี ิต
วิญญาณ ความเป็นครู" ปฏิบัติหน้าที่และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องระมดั ระวงั การประพฤติปฏบิ ัตใิ ห้
อยู่ ในหลักศีลธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ ซึ่งลักษณะ ดังกล่าว จะนำไปสู่การเป็น "ครูมือ อาชีพ"
ควรมีลกั ษณะ ๓ ประการ
๑) แสวงหาความรู้พัฒนาตนเองตลอดเวลา เน้นเจตนาที่จะ ให้ผู้ร่วมงานประสบ
ความสำเรจ็ ดว้ ยกนั
๒) ความปรารถนาดี เป็นความคิดท่ีอยู่เหนือระดับ เหตผุ ลและตรรกะ เป็นความคิดที่มา
จากจิตวญิ ญาณหรอื จิตใต้สำนึก
๓) สร้างความเชื่อมั่นใน ตนเอง มุ่งมั่นในการทำงาน และศรัทธาในผลสำเร็จที่เกิดจาก
การปฏบิ ตั งิ าน
สรุปได้ว่า จิตวิญญาณ หมายถึง สภาวะการรับรู้ด้านดี เชิงบวก สูงส่ง ที่อยู่ภายในจิตใจ
ของมนุษย์ โดยจะแสดงออกมาในด้านการใช้สติปัญญา ประสบการณ์ อารมณ์ และการกระทำเพื่อให้
บรรลุผลสำเรจ็ ตามทีต่ ัง้ เปา้ หมายไว้
๒. ความหมายของอดุ มการณ์
อุดมการณ์ (Ideology) เป็นแนวคิดสำคัญที่นำมาศึกษาวาทกรรมวิเคราะห์เชิงวิพากษ์
อดุ มการณ์จะถ่ายทอดผ่านภาษาท่สี ะทอ้ นชุดความคิดของคนในสังคมใดสังคมหนึง่ ทยี่ ึดถือปฏิบัติและ
เป็นสิ่งทีส่ ามารถเอื้อประโยชน์ต่อคนบางกลุ่ม อุดมการณ์จึงเป็นกรอบความคิดที่ สมาชิกในกลุ่มนำไป
ตีความร่วมกัน และประกอบสร้างความเข้าใจและการรับรู้ของสมาชิกในกลุ่ม ซึ่งเป็นตัวกำหนดวิถี
ปฏิบตั ิในชวี ิตประจำวันและปฏสิ ัมพนั ธ์กับสมาชิกในกล่มุ อน่ื
อุดมการณ์ (Ideology) เป็นแนวคิดที่สำคัญแนวคิดหนึ่งของการศึกษาวาทกรรม
วิเคราะห์เชิงวิพากษ์ ศิริพร ภักดีผาสุก ได้กล่าวถึงการพัฒนาการของแนวคิดเรื่องอุดมการณ์ว่า
คำศัพท์ที่สร้างขึ้นโดยนักปรัชญาชาวฝรั่งเศสชื่อ Destutt de Tracy ในช่วงปลายคริสต์วรรษที่ ๑๘
หมายถึงสาขาวิชาที่จะทำให้คนตระหนักถึงอคติหรือความลำเอียงต่าง ๆ ที่มีในสังคม ทั้งนี้ความ
ตระหนักรู้ดังกล่าวจะช่วยนำสังคมไปสู่ความยุติธรรมและความก้าวหน้า ต่อมาคำนี้ได้มีผู้นำไปใช้ใน
ความหมายที่ขยายออกไปเป็น ๖ ความหมาย คือ หากเป็นความหมายที่เป็นกลาง อุดมการณ์ คือ ชุด
๓
ความคิดทีส่ ัมพันธก์ นั อยา่ งเปน็ ระบบ แตห่ ากเป็นความหมายในเชิงวิพากษ์ อุดมการณ์ คอื ชุดความคดิ
ของคนในสงั คม หนึ่ง ๆ ยดึ ถอื ปฏิบตั ิ และเปน็ ส่ิงท่ีเอื้อประโยชนต์ ่อคนบางกลมุ่
อุดมการณ์ (Ideology) หมายถึง ความคิด ความเชื่อในการมองสิ่งหนึ่งสิ่งใด หรือเป็น
ความคิดของชนชั้นผู้นำที่เสนอต่อสมาชิกของสังคมเพื่อให้เกิดการยอมรับและถือปฏิบัติ เช่น ในกรณี
ของอดุ มการณ์ทางการเมอื ง (Political ideology) ในระบอบการเมอื งการปกครองแบบประชาธิปไตย
จะมีความคิดความเชื่อเกี่ยวข้องกับสิทธิเสรีภาพที่เท่าเทียมกันของคนในสังคมการยอมรับหลกั เหตผุ ล
การยอมรับเสยี งข้างมาก และเคารพเสยี งข้างนอ้ ย เปน็ ต้น
สรุปได้ว่า อุดมการณ์ หมายถึง ความเชื่อหรือแนวคิดของบุคคลที่มีต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดย
ได้รับการยอมรับร่วมกันจากสังคมเพื่อเป็นแนวทางให้กับคนที่จะประพฤติปฏิบัติตนตามระเบียบ
หลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้จากการศึกษาและทำความเข้าใจกับ
ความหมายของจิตวิญญาณและอุดมการณ์จึงสรุปได้ว่าทั้งสองอย่างนี้มีความเหมือนกันในเรื่องของ
สภาวะที่อยู่ภายในของมนุษย์ที่แสดงออกโดยผ่านกระบวนการทางด้านการรับรู้ การใช้ความคิดและ
สติปัญญาเพื่อทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดให้ประสบความสำเร็จแต่ต่างกันตรงที่ จิตวิญญาณจะเน้นและให้คุณค่า
กับจิตใจทส่ี ูงส่งเป็นตวั นำ พร้อมทีจ่ ะอทุ ศิ ตนเสียสละเพื่อให้เปา้ หมายสำเร็จลุล่วง ส่วนอดุ มการณ์จะให้
ความสำคัญกับความเชื่อและแนวคิดที่อยู่บนพื้นฐานของหลักการ ระเบียบ โดยการยอมรับของคนใน
กลุ่มหรือองค์กร มีความสำคัญต่อการประพฤติปฏิบัติตนและดำเนินชีวิต เป็นทางเลือกที่ใช้ในกำหนด
รูปแบบของการปฏิบัติตนทย่ี ่ังยนื และสามารถยึดเหน่ยี วคนในกล่มุ ไว้ด้วยกนั
๓. ภาวะผนู้ ำ
โดยทั่วไปนักวิชาการมักจะถือว่า "ผู้นำ " (Leaders) เป็นตัวบุคคลหรือกลุ่มบุคคล
(Persons) สว่ น "ภาวะผูน้ ำ" (Leadership) นนั้ เป็นสิง่ ท่แี สดงออกมา (Actions) จากบคุ คลท่เี ป็นผู้นำ
อย่างเป็นกระบวนการ ดังนั้น การจะเข้าใจความหมายของ "ผู้นำ" มักจะไม่เป็นปัญหามากนัก ทั้งน้ี
เพราะจะรู้ว่าใครเป็นผู้นำนั้น ก็มักจะพิจารณาจากตำแหน่ง (Position) ของบุคคลหรือกลุ่มบุคคล
ดังกล่าว การทำความเข้าใจเกี่ยวกับภาวะผู้นำหรือความเป็นผู้นำ (Leadership) นั้นเป็นเรื่องยาก แต่
อยา่ งไรกต็ าม นกั วชิ าการได้ให้ความหมายของภาวะผู้นำเอาไวต้ า่ งๆ กนั หลายทรรศนะดังนี้
ประสาน , ห. และ ทิพวรรณ , ห. (๒๕๔๐) กล่าววา่ ภาวะผู้นำ หมายถึง กระบวนการท่ี
ผู้นำใชอ้ ทิ ธิพลหรอื อำนาจทตี่ นมอี ยู่ในการซักนำหรือโนม้ นา้ วให้ผู้ใต้บังคบั บัญชาภายในองค์การหรือใน
กลุม่ คนในสถานตา่ ง ๆ เพือ่ ให้สมาชกิ ของกลุ่มได้ปฏบิ ตั ิหน้าที่ของตนอย่างมปี ระสิทธภิ าพที่สุดให้บรรลุ
เปา้ หมายขององค์การ
สมยศ, น. (๒๕๓๘) กล่าวว่า ภาวะผู้นำ หมายถึง กระบวนการของการสั่งการและใช้
อิทธิพลต่อกจิ กรรมตา่ ง ๆ ของกลุ่มสมาชกิ ภายในองคก์ าร
พยอม (๒๕๓๔) กล่าวว่า ภาวะผู้นำ ภาวะผู้นำเป็นกระบวนการที่บุคคลหนึ่ง(ผู้นำใช้
อิทธิพลและอำนาจของตนกระตุ้นชี้นำให้บุคคลอื่น (ผู้ตาม) มีความกระตือรือร้น เต็มใจทำในสิ่งที่เขา
ตอ้ งการ โดยมีเปา้ หมายขององค์การเปน็ จดุ หมายปลายทาง
เมื่อเปรียบเทียบความหมายของคำว่าผู้นำกับภาวะผู้นำพบว่า มีความแตกต่างและ
คล้ายคลึงกันที่ผู้นำหมายถึงบุคคลส่วนภาวะผู้นำหมายถึงการใช้กระบวนการของความสามารถของ
๔
บุคคลที่ใช้อิทธิพลของตนในการชักชวน ชี้นำหรือชักจูงผู้อื่นให้ร่วมมือร่วมใจกับตนในการ ปฏิบัติงาน
อยา่ งใดอย่างหนึง่
๔. ความหมายของภาวะผ้นู ำเชงิ จิตวญิ ญาณ และอดุ มการณ์ (Spiritual and
ideological Leadership)
คำว่าภาวะผู้นำเชิงจิตวิญญาณมีผู้ให้ความหมายไว้หลากหลาย เช่น Fry (๒๐๐๓: ๑๙-
๖๒๒) ในฐานะผู้พฒั นาทฤษฎีภาวะผู้นำเชิงจิตวญิ ญาณได้ให้ความหมายของภาวะผู้นำเชิงจติ วิญญาณ
ว่า เป็นค่านิยมทัศนคติและพฤติกรรมที่จำเป็นในการกระตุ้นตนเองและผู้อื่นเพื่อให้พวกเขารู้สึกถึง
ความอยูร่ อดทางจติ วิญญาณ การสื่อความหมายและความเป็นสมาชกิ ภาพ อีกทง้ั Zohar ๒๐๐S: ๔๕-
๕๑) ก็ได้กล่าวว่า ภาวะผู้นำเชิงจิตวิญญาณ หมายถึง ความสามารถในการเข้าถึงจุดมุ่งหมายหรือ
ความสำคัญของชีวิตหรือคุณค่าที่ลึกซึ้งขึ้น แล้วทำตามวัตถุประสงค์ของตนและปลูกฝังความสำคัญ
จุดมุ่งหมาย และคุณค่าเหล่านั้นในการดำรงชีวิตที่ดีขึ้น สร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น YuIk (๒๐๑๐ อ้างถึงใน
รัตติกรณ์ จงวิศาล, ๒๕๕๖: ๓๐๘-๓๐๙) ได้ให้ความหมายของภาวะผู้นำเชิงจิตวิญญาณ ไว้เช่นกันว่า
เป็นสิ่งที่ช่วยให้ผู้อื่นเกิดความพึงพอใจในความต้องการสองประการคือ ความรู้แจ้งถึงเหตุผลอันลึกซ้งึ
ด้วยปัญญา และมิตรกาพในการทำงาน ในประเทศไทยพระธรรมโกศาจารย์ (ประยูร ธมฺมจิตโต,
๒๕๔๙: ๓๘-๓๙) ได้ให้ความหมายของภาวะผู้นำเชิงจิตวิญญาณโดยยึดหลักของธรรมะว่า เป็นผู้นำที่
ยืดหลักสตั บรุ ุษ มีสัมมาทิฐิ เป็นผู้ปฏิบัติชอบคำรงตนอยูใ่ นศลี ธรรมทำโลกนีแ้ ละโลกหนใ้ ห้แจ้งชดั ดว้ ย
ปัญญาอันยิ่งด้วยตนเองแล้วสอบผู้อื่นให้รู้ตาม ใช้สติปัญญาในการจัดการส่วนรวม ณัฐวุฒิ พงศ์สิริ
(๒๕๕๓: ออนไลน์) กล่าวว่าภาวะผู้นำเชิงจิตวิญญาณ หมายถึง คุณลักษณะของผู้ที่มีความโดดเด่นใน
ตัวเองในแง่ของการเป็นคนที่กล้าที่จะตั้งคำถามกับตัวเอง เป็นผู้สร้างพลังขับเคลื่อนทางสังคมด้วย
ความเสียสละ ก้าวข้ามผลประโยชน์ของตนและพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อความยุดิธรรมและความเสมอภาค
ในงานหรือในสังคม พัชนี สมกำลังและยุทธชยั ไชยสิทธิ์ (๒๕๕๕: ๑๖-๒๕) ได้ร่วมกันนิยามภาวะผ้นู ำ
เชงิ จิตวญิ ญาณไว้วา่ เปน็ ลักษณะ ของบุคคลทดี่ ำเนนิ ชวี ติ อยู่บนพ้นื ฐานความเช่ือ ความศรทั ธาต่อสิง่ ใด
สิ่งหนึ่งอย่างมั่นคง มีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งที่ตนยึดเหนี่ยวศรัทธาจนกระทั่งสัมผัสถึงจิตวิญญาณบริสุทธิ์ที่
กระตุ้นเร้าภายในจิตใจ ซึ่งได้แก่ ความรัก การให้อภัย สันติสุข ความอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นต้น และ
ดำเนินชีวิตตามจิตวิญญาณบรสิ ุทธิ์นั้น ส่งผลให้บุคคลนั้น ๆ เข้าใจความจริงแท้ของชีวิตอยา่ งลึกซึ้ง มี
แรงบันดาลใจเพื่อประโยชน์สุขของส่วนรวม ในด้านวิจารณ์ พาณิช (๒๕๕๖) กล่าวถึงภาวะผู้นำเชงิ จิต
วิญญาณว่า หมายถึง การมุ่งฝึกฝนกล่อมเกลาจิตใจให้เข้าสู่ความดีงาม ความมีคุณธรรมจริยธรรม
เคารพผู้อื่น เอื้อเฟื้อ เห็นอกเห็นใจผู้อื่น คละความเห็นแก่ตัวและกิเลสตัณหาทุกชนิด อีกนัยหนึ่งของ
การให้ความหมายจาก รภัสศา พิมพา (๒๕๕๗) และ ณัฐณิชา หงส์ชัย (๒๕๕๙) ภาวะผู้นำเชิงจิต
วิญญาณ เป็นการที่ผู้นำจูงใจให้ผู้อื่นเกิดความศรัทธาในตนเอง เกิดความเชื่อมั่นและไว้วางใจ จน
สามารถสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนางานได้ ซึ่งเป็นผลมาจากพฤดิกรรมของการผู้นำที่เป็น
แบบอยา่ งท่ีดีและเห็นคุณค่าผู้อื่นมีความสามารถในการเขา้ ถึงจุดมุ่งหมายหรือส่ิงที่สำคัญที่สุดของชีวิต
ได้เปน็ อย่างดี มีความคดิ สรา้ งสรรคท์ ่ีจะทำแตส่ ่ิงดี ๆ เพ่ือตนเองและผู้อืน่
๕
สิ่งหน่งึ ท่ีจะช่วยใหผ้ ู้บริหารสถานศกึ ษาทำงานไดส้ ำเร็จลลุ ว่ งไปไดด้ ้วยดี ก็คอื การมีภาวะ
ผู้นำเพราะ ๑) เป็นการแสดงออกถึงความสามารถในการชักจูง โน้มน้าวบุคลากรในสถานศึกษาให้
ทำงานเพื่อสถานศึกษาด้วยความเต็มใจและสำเร็จตามเป้าหมาย (ภูริกานต์ วัจน์ประภาศักด์ิ, ๒๕๕๗)
๒) เป็นการสรา้ งวุฒภิ าวะและจติ สำนกึ ท่ดี สี ำหรบั การทำงนภายใตส้ ถานการณ์ที่กดดนั และบบี บังคับให้
สำเร็จลุล่วง ๓) เป็นแรงผลักดันภายในที่สำคัญเพื่อใช้รับมือกับปัญหาและวิกฤตต่าง ๆ ๔) บ่งบอกถึง
สภาวะการทำงานที่มีวิสัยทัศน์ (Vison) มุมมอง (Perception) ความคิดสร้างสรรค์ (Idea) อุทิศตน
เสยี สละกบั การพฒั นาคุณภาพการศกึ ษา
นอกจากนี้ ภาวะผู้นำเชิงจติ วิญญาณและอุดมการณ์ยังให้ความสำคัญกับคุณค่าทีแ่ ท้จริง
และศักยภาพของความเป็นมนุษย์ พัฒนามาจากรูปแบบทฤษฎีแรงจูงใจภายในเพื่อสร้างศักยภาพใน
การเปลี่ยนแปลงองค์กรเชิงบวกในการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพภาวะผู้นำเชิงจิตวิญญาณมี
องค์ประกอบสำคญั ๓ ประการคอื วิสัยทศั น์(Vision) ความหวงั /ศรัทธา (Hope/Faith) และความรักท่ี
เหน็ แกผ่ ู้อื่น (Altruistic Love) (Fry, ๒๐๐๓)
กล่าวโดยสรุป ภาวะผู้นำเชิงจิตวิญญาณ เป็นคุณลักษณะ พฤติกรรมหรือกระบวนการ
ของผู้นำที่มีความเชื่อมั่นศรัทธาในคุณธรรม ความดีงามอย่างมั่นคง เป็นแบบอย่างในการนำความรัก
ความเมตตาสกู่ ารกระทำท่เี ป็นประ โยชนต์ อ่ ผ้อู ื่น จนกลายเป็นแรงบันคาลใจใหผ้ ูอ้ ืน่ ได้คน้ พบศักยภาพ
อันยิ่งใหญ่ที่ซ่อนอยู่ในตนเอง และมีความมั่นคงอยู่กับการอุทิศตนเพื่อบรรลุเป้าหมายและคุณค่าที่
แท้จริงของชีวิตที่เป็นเรือ่ งความดีงามความภาคภูมิใจในคุณค่าแห่งตนมากกว่าความสำเร็จในทางวัตถุ
หรือรปู ธรรม
๕. ความสำคัญของภาวะผนู้ ำเชิงจติ วิญญาณ
กระแสความสนใจเรื่องจิตวิญญาณในประเทศไทยและต่างประเทศ เริ่มมาจากองค์การ
อนามัยโลกมีกรประชุมสมัชชาเมื่อปี ค.ศ. ๑๙๙ ได้เสนอแนวคิดใหม่เกี่ยวกับสุขภาพว่า สุขภาพ คือ
สุขภาวะที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สังคมและจิตวิญญาณ ถือว่าเป็นการประชุมครั้งสำคัญที่องค์กร
ระดับโลกกล่าวถึงความคิดเรื่องจิตวิญญาณที่มีความหมายมากกว่าสิ่งที่สัมผัสหรือรับรู้ได้ในเชิง
ประจักษ์แบบวัตถสุ ำหรับมิติของสังคมไทยพงศเ์ ทพ สธุ ีรวฒุ ิ (๒รร๒: ออนไลน์) ได้กลา่ วถึงสถานการณ์
ของสังคมไทยที่เกย่ี วข้องกับสุขภาพวะทางจิตวิญญาณ ในประเดน็ ท่วี ่าจิตวิญญาณของคนและสังคมอยู่
ในระดับวิกฤตมากและมากขึ้นทุกขณะ ผู้คนจำนวนมากไม่เข้าใจสาระสำคัญของการมีชีวิต บุคคล
เหลา่ นั้นกำลังหลงทางอยู่กับวัฒนธรรมของวตั ถุ เป็นทาสของการบริ โภค เป็นทาสของการตลาคอย่าง
แทจ้ รงิ วถิ ีชวี ติ แบบนจี้ ะนำไปสู่ความโลภ โกรธ หลง ความเหน็ แก่ตัว ความขดั แย้ง สังคมจงึ ตอ้ งการสุข
ภาวะทางจิตวิญญาณของคนอันจะเป็นรากฐานที่ทำให้สังคมเกิดสุขภาวะในที่สุด ส่วนเรื่องภาวะผู้นำ
เชิงจิตวิญญาณเป็นหนึ่งในภาวะผู้นำแนวใหม่หรือภาวะผู้นำร่วมสมัยที่มุ่งความสำคัญในเรื่องการเห็น
คุณค่าที่แท้จริงและศักยภาพของความเป็นมนุษย์ ซึ่งปัจจุบันมีหนังสือและบทความที่เขียนเกี่ยวกับ
ภาวะผู้นำเชิงจิตวิญญาณมากขึ้นและยงั สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของภาวะผู้นำเชิงจิตวิญญาณทง้ั
ในแวดวงของนักวชิ าการ แพทย์และนักการศึกษา เนือ่ งจากเป็นส่ิงท่ีแต่ละบุคคลหรือองค์การได้ค้นหา
หนทางที่จะเชื่อม โยงชีวิตการทำงานกับความเข้าใจในมิดิจิตวญิ ญาณ ตามที่ Conger และ Kanungo
๖
(๑๙๙๘) ได้กล่าวถึงความสำคัญของภาวะผู้นำเชิงจิตวิญญาณว่า เป็นการสร้างวิสัยทัศน์ซึ่งมีความ
สอดคลอ้ งในเชิงกลยทุ ธ์ การเพิ่มขีดความสามารถของทีมและระดบั บคุ คล เพือ่ สง่ เสริมความมุ่งมั่นของ
องคก์ ารและผลิตภาพที่สูงข้นึ ซงึ่ Astin และ Astin (๒๐๐๐) ก็ได้เน้นความสำคัญของภาวะผู้นำเชิงจิต
วิญญาณว่า ผู้นำในอนาคตไม่เพียงแด่จะต้องมีความรู้และทักษะใหม่ แต่จะต้องแสดงให้เห็นถึงระดับ
ของภูมิปัญญาทางอารมณ์และวุฒิภาวะทางจิตวิญญาณที่สูงอีกด้วยอีกทั้ง Fry (๒๐๐๓: ๖๑๙-๖๒๒)
ระบุว่าผู้นำที่ให้คุณค่าในเรื่องความซ่ือสัตย์ การให้อภัย ความเห็นอกเหน็ ใจและการช่วยเหลือผู้อื่นนัน้
จะมีทัศนคติและพฤติกรรมที่แตกต่างอย่างยิ่งต่อผู้ตามเมื่อเทียบกับผู้นำที่ให้คุณค่าหรือพึงพอใจต่อ
ความเห็นแก่ตัวหรือความทะเยอทะยานส่วนตัว ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าภาวะผู้นำเชิงจิตวิญญาณ เป็นผู้ท่ี
สร้างบรรยากาศในการเพิ่มแรงจูงใจของผู้ตาม บรรยากาศในที่นี้ประกอบด้วยการเชื่อมโยงและความ
เข้าใจซึ่งกันและกันระหว่างผู้นำและผู้ตาม ซึ่งส่งผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมในการทำงาน และ
เขายังได้กล่าวอีกว่าภาวะผู้นำเชิงจิตวิญญาณเป็นหนึ่งในความต้องการอันยิ่งใหญ่ในการดำรงอยู่ของ
ผู้คนและเกี่ยวข้องในการนำทั้งผู้นำและผู้ตามไปสู่ความผาสุกทางจิตวิญญาณ เช่นเดียวกับ Yukl
(๒๐๑๐ อ้างถึงในรัตดิกรณ์ จงวิศาล, ๒๕๕๖: ๓๐๘-๓๐๙ ) ที่ได้อธิบายเพิ่มเดิมว่า ภาวะผู้นำเชิงจิต
วิญญาณจะช่วยเพิ่มแรงจูงใจภายใน ความมั่นใจและความผูกพันกับองค์การ อีกทั้งยังสามารถส่งเสริม
ให้การทำงานมีความหมาย โดยเชื่อมโยงกับค่านิยมของผู้ตามและเอกลักษณ์ของพวกเขา สอดคล้อง
กับแนวคิดของ พัชนี สมกำลัง (๒๕๕๓: ๑๖-๒๕) ที่ว่าภาวะผู้นำเชิงจิตวิญญาณจึงเป็นสุดยอดแห่ง
คุณลักษณะส่วนบุคคลที่พึงประสงคแ์ ละควรพัฒนาให้เกิดขึ้นกบั บคุ คลในทุกอาชีพ โดยฉพาะวิชาชีพท่ี
มีปรชั ญาและอดุ มการณเ์ พ่ือผลประโยชน์ของมวลมนุษยภ์ าวะผนู้ ำเชงิ จิตวิญญาณคือรูปแบบความเป็น
พืน้ ฐานของการพฒั นาศักยภาพของบุคคลจากภายในสภู่ ายนอกโดยการพัฒนาในเรื่องความเช่อื ความ
ศรัทธา ต่อคุณธรรมความถูกต้องดีงามเป็นพื้นฐานและด้วยความเข้มแข็งแห่งศรัทธานั้นได้กลายเป็น
พลงั ขบั เคลือ่ นให้กระทำสงิ่ ท่ีถูกต้องและเปน็ คุณประ โยชน์อย่างแทจ้ ริงแก่สว่ นรวมและแบบอย่างชีวิต
นี้ ได้กลายเป็นแรงบันคาลใจให้กับทึมงานในการอุทิศตนเพื่อเป้าหมายและคุณค่าที่แท้จริงแห่งงาน
โดยปราศจากการบงั คับ
ดังนนั้ หากผูบ้ ริหารสถานศกึ ษาเห็นความสำคัญของการมภี าวะผ้นู ำเชงิ จติ วิญญาณในการ
บริหารสถานศึกษา ก็จะส่งผลให้เกิดความพึงพอใจ ความรัก และความไว้วางใจระหว่างบุคลากรใน
สถานศกึ ษารวมถึงผ้มู ีส่วนไดส้ ว่ นเสียในการจดั การศึกษาของสถานศึกษา ซ่ึงจะนำมาสู่ความร่วมมือใน
การส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกัน ความทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจให้กับการคำเนินการต่าง ๆ เพื่อบรรลุผล
ตามเป้าหมายอันเป็นประโยชนต์ ่อสว่ นรวม
๖. องค์ประกอบของภาวะผู้นำเชิงจิตวญิ ญาณ
ในทศั นะของ Fry มีองค์ประกอบของภาวะผนู้ ำเชิงจติ วิญญาณ ๓ องค์ประกอบ คอื
๑. วิสัยทัศน์ (Vision) Fry เป็นการมองภาพอนาคตของผู้นำและสมาชิกในองค์การ
และการกำหนดจุดหมายปลายทางทีเ่ ชื่อม โยงกบั ภารกิจ ค่านิยม และความเชอ่ื เขา้ ด้วยกนั กับการมุ่งสู่
จดุ หมายปลายทางท่ีต้องการ การกำหนดวิสัยทัศน์ท่ชี ดั เจนจะช่วยกระตุ้นใหส้ มาชิกทุกคนมีความรู้สึก
น่าสนใจ มีความผูกพัน มุ่งม่ันปฏิบัติตามด้วยความเต็มใจ ท้าทาย เกิดความหมายในชีวิตการทำงาน
๗
มีการทำงานและมีชีวิตอยูอ่ ย่างมีเป้าหมายด้วยความภมู ิใจ และทุ่มเทเพื่อคุณภาพของผลงานท่ปี ฏิบัติ
อกี ท้งั ยงั ช่วยกำหนดมาตรฐานของชีวติ องค์การ และสังคมท่ีแสดงถึงการมชี วี ติ ทม่ี ีคุณภาพ องค์การท่ีมี
คุณภาพ และสังคมทเี่ จริญก้าวหนา้ มคี วามเปน็ เลิศในทกุ ค้าน นอกจากนีเ้ ขายงั ได้กลา่ วถงึ ความสามารถ
ในการกำหนดวิสัยทัศน์ของภาวะผู้นำเชิงจิตวิญญาณ ในประเด็นที่สำคัญในเรื่องการสื่อสารไปยังผู้มี
ส่วนได้ส่วนเสีย (Broad appeal to key stakeholders) การกำหนดจุดมุ่งหมายและวิธีคำเนินการ
(Defines the destination and journey) การสะท้อนให้เห็นอุดมคติ (Reflect high ideals)
เสริมสร้างความหวังและความศรทั ธา (Encourages hope/faith) และการกำหนดมาตรฐานความเป็น
เลศิ (Establishes a standard of excellence)
ลักษณะวิสัยทัศน์ที่ดีที่ผู้บริหารสถานศึกษาควรคำนึงถึงคือ วิสัยทัศน์นั้นต้องเป็นสิ่ง
สะท้อนค่านิยมหลัก (Core Value) ของสถานศึกษา ท่ีทำใหเ้ ห็นความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งท่ีสำคัญท่ีสุดของ
บุคลากรทุกฝ่ายในสถานศึกษา เป็นสิ่งสะท้อนวัตถุประสงค์หลัก (Core Purpose) ของการดำรงอยู่
ของสถานศึกษา (เหตุผลหลักของการคงอยู่ของสถานศึกษา) เป็นสิ่งสะท้อนจุดหมายปลายทางของ
วิสัยทศั น์ หรือเปา้ หมายทีจ่ นิ ตนาการ/ใฝฝ่ ันไว้ในอนาคต (Visionary Goal) เปน็ สง่ิ ชน้ี ำ ปลุกเร้า สร้าง
แรงบันคาลใจแก่ครแู ละบุคลากรในการคำเนินงานเพ่ือให้บรรลุความสำเรจ็ ที่ต้องการ เชอ่ื ม่ันว่ามีความ
เป็นไปได้ที่จะทำให้เกิดขึน้ และเป็นคำม่ันสัญญาของผู้บริหารที่แสดงถึงการตัดสินใจและความมุ่งมั่นที่
ต้องรับผิดชอบ ดังนั้นการกำหนดวิสัยทัศนจ์ ึงเป็นความรับผิดชอบโดยตรงของผู้บริหารสถานศึกษาใน
ฐานะผู้นำ และหากผู้บริหารมีคุณลักษณะของภาวะผู้นำเชิงจิตวิญญาณก็จะส่งผลให้วิสัยทัศน์ของ
สถานศกึ ษาเปน็ ไปในแนวทางของการเห็นคุณคา่ ท่แี ท้จริงและศักยภาพของความเป็นมนุษย์ทีส่ มบูรณ์
๒. ความหวัง/ศรทั ธา (Hope / Faith) Fry กล่าวว่า ความหวงั หมายถึง ความปรารถนา
ท่ีจะเตมิ เต็มและศรัทธาเป็นการยนื ยันความหวัง ดงั นัน้ บคุ คลต้องไม่มีแค่เพยี งความหวังเท่าน้ันแต่ต้อง
มีความศรทั ธาในความหวงั ทแ่ี น่วแน่ ซึ่งความศรทั ธาเกดิ จากความรสู้ กึ เช่อื มนั่ ในท่นี ้คี วามหวัง / ศรทั ธา
ของภาวะผู้นำเชิงจิตวิญญาณ แสดงออกในเรื่องของความอดทน (Endurance) ความขยันหมั่นเพียร
(Perseverance) ทำในสิ่งท่จี ำเป็น (Do what it takes) ยดึ มัน่ ในเปา้ หมาย (Stretch Goals) และการ
คาดหวงั ในผลลัพธ์ (Expectation of reward / victory)
เห็นได้ว่าความหวัง/ศรัทธา เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญของภาวะผู้นำเชิงจิต
วญิ ญาณในอนั ท่ีจะทำใหเ้ ป้าหมายบรรลุผล ผู้บริหารสถานศึกษาจำต้องยึดมั่นในเป้าหมายที่ต้ังไว้โดยมี
การคาดหวังในผลลัพธ์ที่ชัดเจน เป็นรูปธรรม ส่วนกระบวนการหรือวิธีการที่จะทำให้บรรลุเป้าห มาย
น้ันตอ้ งอาศัยทงั้ ความขยันพากเพยี ร ความอดทน การจดั ลำดับความสำคญั และทำในส่งิ ทจี่ ำเป็นในการ
ทำงาน
๓. ความรักท่ีเห็นแก่ผู้อืน่ (Altruistic Love) เป็นความรกั ที่ให้ความสำคัญต่อคนอ่ืนก่อน
อยากเห็นผู้อื่นมีความสุขความสำเร็จในชีวิตตามที่เขาต้องการ โดยไม่หวังว่าจะยึดเอาเป็นของตน ใน
การอธิบายของ Fry ไดก้ ล่าวถงึ ความสำคญั ของคณุ ลักษณะภาวะผ้นู ำเชิงจิตวิญญาณว่า เปน็ วฒั นธรรม
เป็นค่านิยมหลักและเป็นเหตุผลเพื่อการคำรงอยู่ ซึ่งไม่ได้เจาะจงในด้านของศาสนา แต่ความเชื่อใน
พลังทส่ี งู กว่าและการมีความรักโดยไม่หวังผลก็เป็นองค์ประกอบหนึ่งของความรักที่เห็นแก่ผู้อ่ืนเช่นกัน
นอกจากนี้ยังประกอบไปด้วย การให้อภัย (Forgiveness) ความเมตตา (Kindness) ความซื่อสัตย์
๘
(Integrity) การเอาใจใส่และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น (Empathy / Compassion) ความเชื่อใจและภักดี
(Trust / Loyalty) และความอ่อนน้อมถ่อมตน (Humility)
เมื่อพิจารณาจากองค์ประกอบของความรักที่เห็นแก่ผู้อื่นข้างต้นพบว่า เป็น
คณุ ลกั ษณะของความรกั ที่ขา้ มพ้นความยึดมั่นถือตนของผ้นู ำ เช่น การให้อภัย คือ การยกโทษให้ ไม่ถือ
โทษ การไม่ถือเอาความผิดของคนอื่นในสิ่งที่เขาได้กระทำผิดต่อเรามาประณามซ้ำเติมหรือทำให้เขา
ต้องเสียใจ ความเมตตาหมายถึง ความรักและความเอ็นดู ความปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุข ความ
ซื่อสัตย์ คือ การประพฤติตรงและจริงใจ ไม่คิดคดทรยศ ไม่คดโกงและไม่หลอกลวงผู้อื่น นอกจากนี้ยัง
มีการเอาใจใส่และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ความเชื่อใจและความอ่อนน้อมถ่อมตน เหล่านี้ส้วนเป็นสิ่งท่ี
สำคญั ของการมีภาวะผ้นู ำเชิงจติ วญิ ญาณของผ้บู ริหารสถานศึกษา
องค์ประกอบของภาวะผู้นำเชิงจิตวิญญาณทั้งสามองค์ประกอบมีความสัมพันธ์
เชื่อมโยงกันอย่างยิ่ง หากเปรียบวิสัยทัศน์เปีนดั่งจุดหมายปลายทาง พาหนะที่จะช่วยขับเคลื่อนไปสู่
เป้าหมายก็คือความหวัง/ศรัทธา ที่ประกอบด้วยลิ่วล้อของความอดทน ขยันหมั่นเพียร ยึดมั่นในเป้าห
มาย ส่วนนำ้ มนั เช้ือเพลงิ ที่จะชว่ ยให้พาหนะมีกำลังที่จะขับเคล่ือนก็เปรยี บได้กับความรักที่เห็นแก่ผู้อ่ืน
การบรหิ ารสถานศกึ ษาให้ประสบความสำเร็จอย่างมคี วามสุขกเ็ ช่นเดยี วกัน
๗. แนวทางการสร้างภาวะผนู้ ำเชงิ จิตวญิ ญาณ
แนวทางการสร้างภาวะผู้นำเชิงจิตวิญญาณนั้น ผู้บริหาร จะต้องมีการเรียนรู้และพัฒนา
ตนเองอยา่ งต่อเนื่อง โดย วจิ ารณ์ พาณิช (๒๕๕๖) ไดอ้ ธบิ ายถงึ วิธีการพฒั นาภาวะผู้นำเชิงจิตวิญญาณ
ผา่ นชอ่ งทางต่าง ๆ ท่ีอาจนำมาประยุกดีใช้กับการพัฒนาผูบ้ รหิ ารสถานศึกษาได้ ดงั น้ี
๑. การเป็นผู้นำเชิงจิตวิญญาณผ่านการเรียนการสอนหรือการฝึกอบรม ต้องเป็นการ
เรียนรู้บูรณาการ เป็นการเรียนรู้ของคนทั้งตัวทั่วพร้อม ซึ่งอาจอธิบายว่า เปีนทั้งการเรียนรู้ภายนอก
และการเรียนรู้ภายในตน ซึ่งการเรียนรู้ภายในตนในที่นี้ หมายถึง การเรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเองในค้าน
อารมณ์ จติ ใจ และจติ วิญญาณ สว่ นการเรียนรูบ้ รู ณาการนน้ั ตอ้ งม่งุ พัฒนาผเู้ รียนอยา่ งน้อย ร ดา้ นไป
พร้อม ๆ กัน ได้แก่ พัฒนาการค้านพุทธิปัญญา (intellectual development) พัฒนาการด้าน
อารมณ์ (emotional development) พฒั นาการด้านสงั คม (social development) พฒั นาการดา้ น
กายภาพ (physical development) และพัฒนาการด้านจติ วิญญาณ (spiritual development)
การเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ เป็นการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะเพื่อการดำรงชีวิตที่ดีใน
ศตวรรษที่ ๒๑ ซึ่งเป็นยุคที่โลกมีเครื่องอำนวยความสะดวกในการดำรงชีวิตอย่างมากมาย ง่ายต่อการ
คำรงชวี ติ ทดี่ แี ต่เคร่ืองอำนวยความสะดวกเหลา่ น้นั มาพร้อมกับมายาคติ ความหลอกลวง หรือลอ่ หลอก
ต่าง ๆ นานา คนที่จิตใจไม่เข้มแข็งก็จะตกเป็นเหยื่อได้โดยง่าย การมีจิตใจที่เข้มแข็งต้องมีการพัฒนา
ทางจิตวิญญาณควบคไู่ ปกบั การพัฒนาทางปัญญา และทักษะดา้ นอ่ืน ๆ แบบที่แยกกนั ไม่ออก ผบู้ รหิ าร
สถานศึกษาจะมีภาวะผู้นำเชิงจิตวิญญาณได้อย่างแท้จริง ก็ต่อเมื่อสามารถบริหารสถานศึกษาเพ่ือ
จัดการเรียนรู้ให้ผู้เรียนทั้งด้านพุทธิปัญญาและจิตวิญญาณควบคู่กัน การเรียนรู้ฝึกฝนอย่างบูรณาการ
ต้องคำเนินการตั้งแต่เด็กเล็กจนเติบโตรวมถึงการเรียนรู้ตลอดชีวิต ดังนั้นทักษะ ในการฝึกฝนตนเอง
หรือเรียนรู้ดว้ ยตนเองใน มิตขิ องจติ วิญญาณจึงมีความสำคญั ยิ่ง
๙
๒. การเป็นผู้นำเชิงจิตวิญญาณผ่านพฤติกรรมองค์การ สัมผัสได้จากการกระทำทีส่ ะ ท้อ
นความมีจิตใจสูง ได้แก่ ความซื่อสัตว์สุจริต การเห็นแก่ส่วนรวม (เห็นแก่ตัวน้อย) มุ่งทำประ โยชน์แก่
ส่วนรวมมากกว่าประ โยชน์ส่วนตน มีความประพฤติที่อยู่ในศีลธรรมจริยธรรมอันดีงาม รวมท้ัง
จริยธรรมวชิ าการและจรยิ ธรรมในฐานะองคก์ ารหนงึ่ ในสังคม
การมีภาพลักษณ์ขององค์การที่สะท้อนความเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณที่ดี ได้มาจาก
การกระทำทั้งขององค์กร และจากการกระทำของสมาชิกเป็นรายคน กระบวนการคัดเลือกครูและ
บุคลากรผู้บริหารสถานศึกษาต้องกัดเลือกผู้ทเี่ ชื่อได้ว่า มีระดบั พฒั นาการทางจิตวญิ ญาณอยู่ในระดับดี
และ สามารถพัฒนาจิตใจให้ขึ้นสู่ระดับสูงยิ่งขึ้นได้เข้ามาอยู่ในสถานศึกษา และเมื่อเข้ามาแล้วก็เข้าสู่
กระบวนการพัฒนาด้านจติ วิญญาณรว่ มกัน นั่นหมายความว่าครูและบุคลากรทุกคนจะต้องยึดถอื แนว
ทางการเปน็ ผเู้ รียนร้เู พ่ือพฒั นาตนเองรอบคา้ นรวมถึงดา้ นการพัฒนาจิตวญิ ญาณ
๓. การเป็นผู้นำเชิงจติ วญิ ญาณผ่านการกระทำเพ่ือสงิ่ ที่สูงสง่ มิตขิ องการยกระดับทางจิต
วิญญาณตีความได้หลายแบบ แบบหนึ่งคือการลดตวั ตน หันไปดำรงชีวิตหรือกระทำเพือ่ สิง่ ท่ีสูงส่งกวา่
การกระทำเพียงเพือ่ ให้มีชวี ิตรอดไปวนั หนึ่ง ๆ หรือเพื่อเป้าหมายที่สูงสง่ กว่าผลประโยชน์ส่วนตน การ
ลดตัวตนเช่นนี้ มีผลให้จิตบริสุทธิ์ขึ้น เป้าหมายของการดำเนินการต่าง ๆ บริสุทธิ์ขึ้น ไม่เจือปนด้วย
กิเลสตณั หาเพ่ือผลประโยชนส์ ่วนตนใหน้ ้อยทีส่ ุด มนษุ ยเ์ รามี "สัมผัสทหี่ ก" ที่สัมผัสความบริสุทธ์ิเช่นน้ี
ได้ ผู้บรหิ ารสถานศึกษาท่ีมีคณุ สมบัตเิ ชน่ นี้จะ ไดร้ บั การขอมรับนับถือไป โดยปริยายหรอื โดยอตั โนมัติ
๔. การเปน็ ผู้นำเชงิ จติ วิญญาณผ่านความสัมพนั ธ์ใกล้ชิดกับสังคมและชมุ ชน สถานศึกษา
เป็นหนว่ ยงานท่ีทำงานใกล้ชดิ กับชุมชน สงั คม หน่วยงาน องค์กรทั้งภาครฐั และเอกชน ในบทบาทของ
ผใู้ หบ้ ริการ การทส่ี ถานศึกษาได้ทำงานร่วมกับสังคมจะเป็นโอกาสใหส้ ถานศึกษาได้ทำงานวิชาการหรือ
การพัฒนาความรู้ และการพัฒนาทางจิตวิญญาณไปด้วย เน่อื งจากการทำงานเพ่ือประโยชน์ของชุมชน
เปน็ การทำเพ่ือให้ผลที่ไดเ้ กิดข้นึ แกส่ ว่ นรวม มิใชข่ องผ้ใู ดผู้หนง่ึ เป็นการเฉพาะ การกระทำในลักษณะน้ี
จึงเปน็ ช่องทางของการยกระดบั จิตใจใหล้ อยอยู่เหนอื ความเป็นบคุ คลหนึง่ บคุ คลใด
เมื่อการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงจิตวิญญาณผ่านการเรียนการสอนนำไปสู่การพัฒนา
ผู้เรียนทั้งด้านพุทธิปัญญาและจิตวิญญาณควบคู่กันไป การเป็นผู้นำเชิงจิตวิญญาณผ่านพฤติกรรม
องค์การก็จะทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่สะท้อนความมีจิตใจสูงของบุคลากรในสถานศึกษานำมาซึ่งความ
เช่ือม่ันศรัทธานอกเหนือจากน้ีการเป็นภาวะผูน้ ำเชิงจิตวิญญาณผ่านการทำเพื่อส่ิงทีส่ ูงสง่ ยงั สามารถนำ
ผู้บริหารสถานศึกษากระทำตนเพื่อประโยชน์ต่อผู้อื่นละทิ้งความเห็นแก่ตัว และการเป็นผู้นำเชิงจิต
วิญญาณผ่านความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสังคมและชุมชน ก็จะทำให้เกิดความเอื้อเงื้อเกื้อหนุนซึ่งกันและ
กนั อนั เป็นฐานสำคัญในการพฒั นาสถานศึกษาในมิติอื่น ๆ ตอ่ ไป
กล่าวโดยรวมหากสถานศกึ ษาเป็นแหล่งศึกษาเรยี นรู้ฝึกฝนศิลปะวิทยาการอย่างเป็น
องค์รวมบทบาทด้านจิตวิญญาณยอ่ มบูรณาการอยู่ในส่ิงที่เรียกว่า "การศึกษา" อยู่แล้วในตัว และหาก
"การศกึ ษา" ดำเนนิ อยา่ งถูกต้อง คอื ดำเนินการผ่านการคลุกคดีเช่ือมโยง (engagement) กับภาคส่วน
ต่าง ๆ ในสงั คมสถานศกึ ษาย่อมมี โอกาสพฒั นาตนเองดา้ นจิตวิญญาณรว่ มกนั ไปกับการทำหน้าที่เป็น
ผู้นำทางจิตวิญญาณใหแ้ กส่ งั คม
นอกจากนี้ยังมีแนวความคิดในการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงจิตวิญญาณที่เน้นการพัฒนา
ตนเองจากภายในและจากคา่ นิยมเชิงจิตใจในการทำงาน (ศักดส์ิ ินี เอมะศิริ, ๒๕๕๗: ๑๓๙-๑๕๔) ดังนี้
๑๐
๑. ด้านการรู้จักตัวตนที่แท้จริงของตนเอง ผู้บริหารควรคิดทบทวนถึงเป้ามายของชีวิต
ตัวเองอยู่เสมอ หมั่นตั้งคำถามกับตนเอง เช่น เกิดมาทำไม มีชีวิตอยู่เพื่ออะไร นอกจากนี้ควรมอง
สถานการณ์ของชุมชน สังคม และ โลกที่กำลังเผชิญอยู่ จะใช้ชีวิตอย่างไรให้มีคุณค่าต่อทั้งตนเองและ
ผอู้ ื่น เป็นตน้ และเมือ่ คน้ หาคำตอบได้แล้วกจ็ ะ ทำให้ผู้บริหารสถานศกึ ษาได้กันพบเปา้ หมายสูงสุดของ
ชีวิตตน จะเห็นความสัมพันธ์ของตัวเองกับธรรมชาติที่ไม่แยกจากกัน จะพบความปรารถนาและแรง
บันดาลใจในสิ่งท่ีอยากทำ และรวู้ า่ การทำเรื่องยากหรือเรื่องที่ไมเ่ คยทำมาก่อนเพียงลำพังคนเดียวอาจ
ไม่สำเร็จ จึงต้องอาศัยทีมงานมารว่ มทำด้วย ซงึ่ เป็นทีม่ าของการจูงใจ ชกั ชวน และสร้างแรงบันดาลใจ
ให้ทีมงานของตนอยากทำสิ่งที่ดี ๆ ที่เป็นประ โยชน์ ซึ่งต้องเป็นสิ่งที่ค้นพบด้วยตนเอง การค้นพบ
คุณค่าของความเป็นมนุษย์ที่แท้จริงจะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นค้นพบแรงบันดาลใจของ
ตนเอง และรว่ มทางไปดว้ ยกนั
ดังนั้น ผู้บริหารสถานศึกษาที่มภี าวะผู้นำเชิงจติ วิญญาณต้องทำให้ทีม ซึ่งก็คือครูและ
บุคลากรในสถานศึกษาเกิดการพัฒนา เจริญงอกงามเติบโตข้ึนไปตามความรู้ความสามารถ หรือ
ศกั ยภาพของแต่ละบุคคล โดยยดึ มนั่ ในคุณธรรม ความดงี าม มีความเมตตา เห็นแกป่ ระโยชน์ส่วนรวม
และสิ่งที่จะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับครูและบุคลากรในสถานศึกษาได้ดีที่สุดคือ การเป็น
แบบอย่างท่ีดี
๒. ด้านการเปล่ียนแปลงตัวเองจากภายใน ผู้บริหารสถานศึกษาจะต้องเอาชนะตวั เองใน
เร่ืองตา่ ง ๆ เชน่ ความวติ กกงั วล ความกลวั ความโกร ธ ความมีวินัยในตนเอง เป็นตน้ การเปลย่ี นแปลง
ตัวเองจากภายในเป็นกระวนการพัฒนาตนเองให้เติบโตขึ้น ยิ่งใหญ่ขึ้น การเป็นผู้นำคือการเดินทางสู่
ภาวะองค์รวม คือเห็นว่าทุกสรรพสิ่งล้วนมีชีวิต มนุษย์เราไม่ได้มีมุมมองแต่ในด้านเหตุและผลอย่าง
เดียว แต่มีความรัก ความปรารถนา ความสุข ความอบอุ่น และความปีติยินดีซึ่งเป็นอีกด้านหนึ่งของ
ชีวิตที่มีความสำคัญซึ่งการพัฒนาตนเองจากภายในจึงเป็นหนทางนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงด้านจิต
วิญญาณ
ผู้บริหารสถานศึกษาสามารถพัฒนาตนเองจากภายในผ่านการภาวนาและการ
ใคร่ครวญ ใช้แนวคิดหลัก ๓ ด้านเป็นแนวทางในการเรียนรู้และ พัฒนา ได้แก่ แนวคิดเชิงศาสนา
แนวคิดเชิงมนุษยนิยมและแนวคิดเชิงองค์รวมบูรณาการ ทั้งนี้เพื่อให้เกดิ การเปลี่ยนแปลงตนเองอย่าง
ลกึ ซ้ึงของระดับจิตสำนึกเกิดปัญญาตื่นรู้ และมีความรกั ความเมตตา ซงึ่ จะนำไปสกู่ ารเปลี่ยนแปลงของ
สถานศกึ ษา ชุมชนและสงั คมไดต้ ่อไป
๓. ด้านความชัดเจนถึงค่านิยมส่วนตัว และหลักการแห่งความสำเร็จที่ยึดถือในการ
พัฒนาตนเองไปสู่ภาวะผู้นำเชิงจิตวิญญาณนั้น ผู้บริหารสถานศึกษาควรกำหนดค่านิยมของตนเองใน
ทางบวกโดยยดึ หลักของคุณธรรม ความดงี าม เช่น ความรกั ความเมตตา ความเสียสละ มีความซ่ือสัตย์
สจุ ริตเปน็ ตน้ รวมไปถึงการมีหลกั การ ในการดำเนินชีวิตทีม่ ุง่ ไปสเู่ ปา้ หมายหรือความสำเรจ็ เช่น ความ
อดทน ความเพียรพยายาม ความรับผิดชอบ เป็นต้น รวมไปถึงมีความสามารถในการสร้างคุณค่าใหม่
สิ่งใหม่ที่ดีกว่าเดิม โดยมุ่งมั่นในการทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเอง ตลอดจนการดูแลรักษากายและจิตใจ
ของตนให้เป็นปกติ
๑๑
ส่วนท่ี ๒
การสรา้ งเสรมิ จิตวิญญาณและอุดมการณ์ของผบู้ ริหาร
ผู้รายงานขออนญุ าตนำเสนอแนวทางการพฒั นาภาวะผนู้ ำเชงิ จิตวิญญาณและอุดมการณ์
ดงั รายละเอยี ดดังต่อไปน้ี (Fry, ๒๐๐๓), (Natnicha & Penvara, ๒๐๑๗)
๑. การฝกึ ฝนและอบรม
เพื่อก่อให้เกิดการพัฒนาวิสัยทัศน์ ( Breakthrough Training of Vision) แบ่งได้สอง
สว่ น คอื
๑) การพฒั นาทางด้านภายใน (Internal Training) เพราะเปน็ สิง่ ทีไ่ มส่ ามารถประเมินได้
จากการมองเหน็ ภายนอกแตต่ ้องสัมผัสจากผลของพฤติกรรม เชน่ อารมณแ์ ละจติ ใจที่อยู่ในตวั เรา ต้อง
มี การฝกึ และควบคุมไมใหแ้ ปรปรวนจนทำให้บุคคลรอบขา้ งอึดอัดหรือความหวาดกลัวเม่ือต้องทำงาน
รว่ มกนั โดยอาจจะใช้หลักธรรมต่าง ๆ เพอ่ื มาช่วยขดั เกลาจติ ใจ เชน่ อริยสจั ๔ อิทธบิ าท ๔ และมรรค
๘ เป็นต้น และ
๒) การพฒั นาภายนอก (External Training) เมอื่ มีสติแล้วปญั ญาก็จะเกิดโดยการมองไป
ถึงอนาคตสำหรับ การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศของสถานศึกษาว่าควรจะมีแนวทางเป็นเช่นไรกับ
การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและไม่มีขีดจำกัด เพราะความรู้และแนวความคิดแบบเดิมอาจล้าสมัยใน
สถานการณ์ปัจจุบัน ผู้บริหารจึงต้องเรียนรู้เพื่อกำหนดกลยุทธ์หรือวางเป้าหมายพัฒนาการเรียนการ
สอนออนไลน์ หรือ การใช้สื่อการสอนดิจิทัลให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียน ซึ่งผู้บริหาร
จะต้องเปิดโลกทัศน์แห่งการเรียนรู้ทางด้านเทคโนโลยีหรือการจัดการสอนออนไลน์ที่ใช้ Platform
Google Meet และ Zoom ที่ประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับแล้วนำความรู้ที่ได้มา
ประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานเพื่อให้เกิดเป็นวิสัยทัศน์ของกลุ่มต่อไป (Anderson & Anderson,
๒๐๐๑)
๒. การสรา้ งภาพลักษณ์ "SAT Brandings"
เพื่อสร้างความเลื่อมใสศรัทธาให้กับผู้ร่วมงานสำหรับการเข้าไปนั่งในหัวใจของครู
นกั เรียน และผปู้ กครอง ประกอบดว้ ย ๓ ภาพลักษณ์ คอื
๑) ด้านจติ ใจ (Spirit Branding)
๒) ด้านจรยิ ธรรมทางวชิ าการ (Academic Ethics Branding) และ
๓) ดา้ นเทคโนโลยี (Technology Branding)
๑๒
๒.๑ ผู้บริหารสถานศึกษาต้องสร้างภาพความเป็นผู้นำทางด้านจิตใจ (Spirit Branding)
ที่มีจิตใจสูงส่ง น่าเคารพ แก่ผู้คนที่อยู่รอบข้างผ่านพฤติกรรมในด้านการบริหารงาน (ลัดดา จุลวงศ์
และศักดิ์ชยั นริ ญั ทวี, ๒๕๖๔) เชน่ มคี วามซอื่ สตั ยส์ จุ ริต มคี วามโปรง่ ใสและไมแ่ สวงหาผลประโยชน์ใด
ๆ ทมี่ คิ วรจะได้รบั เพราะในปัจจบุ นั อิทธิพลของสงั คมมเิ ดีย (Social media) มีความออ่ นไหวและสร้าง
ผลกระทบได้อย่างรวดเรว็ ถา้ ผบู้ ริหารปฏบิ ตั ิตนเปน็ แบบอย่างที่ดี ก็จะไดร้ ับเสยี งชื่นชมและยกย่องแต่
ในทางกลับกันก็อาจเป็นดาบสองคมในการทำร้ายตนเองเมื่อทำในสิ่งที่ผิดศีลธรรม เป็นต้น (แพง ชิน
พงศ,์ ๒๕๖๒)
๒.๒ ผู้บริหารจะต้องสร้างภาพการมีจริยธรรมทางด้านวิชาการ (Academic Ethics
Branding) โดยการส่งเสริม สนับสนุน สร้างแรงบันดาลใจให้กับครูในการจัดทำผลงานให้เป็นไปตาม
ความรูค้ วามสามารถ ไม่คดั ลอกผลงานของผู้อื่นมาเป็นผลงานตนเองเพ่ือเลื่อนวิทยฐานะหรือรับรางวัล
จากหน่วยงานใด และตระหนักถึงการรักษาชื่อเสียงเกียรติยศ ความภาคภูมิใจกับผลงานของตนเอง
เป็นต้น
๒.๓ ผู้บริหารต้องสร้างภาพความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี (Technology Banding)
เนื่องจากในอดีตเมื่อมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการจัดการการเรียนการสอนในระยะแรก ๆ นั้น
ผูบ้ ริหารยงั ขาดความรู้ความเข้าใจ เห็นวา่ เปน็ อุปสรรคมากกวา่ เป็นโอกาสในการพัฒนาการศึกษาทำให้
เกิดการไม่ยอมรับอย่างจริงจังแต่เนื่องจากในวิถีชีวิตใหม่เทคนโลยีกลายเป็นเครื่องมือหลักในการ
ทำงานภายใต้สถานการณ์ที่ไม่สามารถพบปะหรือติดต่อสื่อสารได้อย่างเมื่อก่อน จึงจำเป็นต้องใช้
เทคโนโลยีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้โดยเฉพาะการศึกษาต้องจัดเตรียมบริบทให้เป็นสถานศึกษาแห่ง
เทคโนโลยีไม่ว่าจะเป็นห้องปฏิบัติการต่าง ๆ ที่ต้องจัดให้มีเพียงพอกับความต้องการ อุปกรณ์เสริมทั้ง
Software, Hardware และระบบอินเตอร์เน็ตซึ่งส่ิงเหลา่ นีเ้ ป็นโครงสร้างพืน้ ฐานทางด้านเทคโนโลยีที่
จะขาดเสียมิได้ ดังนั้น ผู้บริหารต้องบริหารจัดการสิ่งเหล่านีใ้ ห้เข้าไปเปน็ ส่วนหนึ่งของสถานศึกษาโดย
สอดคล้องกับความต้องการของชุมและท้องถิ่นเพื่อให้ไม่เกิดความเหลื่อมล้ำและเป็นอุปสรรคในการ
พัฒนาการศกึ ษาในอนาคต (สุนนั ทา สมใจ และวิชดุ า กิจธรธรรม, ๒๕๖๑)
เมอ่ื ผู้บรหิ ารสถานศึกษาสามารถสรา้ ง"SAT Brandings" นีใ้ หเ้ กิดขึ้นได้ ก็ยอ่ มจะสง่ ผลไป
ยงั คนอื่น ๆ รับรู้และสมั ผสั ได้ถงึ ความสำเร็จและการยอมรบั จากสังคมว่าเป็นผลงานท่ีเกิดจากผู้บริหาร
สถานศึกษาได้ใช้จติ วิญญาณและอุดมการณใ์ นการปฏิบัตงิ านทา่ มกลางสถานการณ์ที่คนไทยโหยหากับ
ความหวงั และศรัทธากับการศกึ ษาไทยในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรค COVID -๑๙
๓. ผู้บริหารสถานศกึ ษาต้องมจี ิตสาธารณะ (Mind service)
กล่าวคือ ต้องเป็นผนู้ ำของการอุทิศตน เสยี สละ ทำงานเพอ่ื ส่วนรวมมากกว่าส่วนตนโดย
ใหบ้ ุคคลต่าง ๆ สมั ผัสไดถ้ ึงการทุ่มเทจริงจังกับการทำงาน มจี ิตอาสา ให้บรกิ ารกบั ชมุ ชนในดา้ นต่าง ๆ
เปน็ ผู้นำในการเข้าร่วมกจิ กรรมบำเพญ็ ประโยชน์ ใหค้ วามรู้ เม่อื มหี น่วยงานภายนอกมาร้องขอ อำนวย
ความสะดวกแกผ่ ู้ปกครองหรือบุคคลภายนอกที่มาติดต่อราชการด้วยความเป็นมติ รเม่ือสถานศึกษาตก
อยู่ในความยากลำบากของสถานการณ์ COVID -๑๙ ผู้บริหารต้องเสนอตัวเพื่อจัดการกับปัญหาหรือ
แก้ไขข้อผิดพลาดได้อย่างรวดเร็ว รวมไปถึงการพัฒนางานในหน้าที่ของตนเองอย่างสม่ำเสมอ เท่าน้ี
๑๓
ผู้บริหารก็จะได้ความรักและความศรัทธา ผู้ร่วมงานกจ็ ะซึมซับและเห็นคณุ ค่าของการเสียสละนั้นเปน็
สิ่งสำคัญในการนำพาสถานศึกษาไปสู่ความสำเร็จในอนาคต พร้อมที่จะร่วมแรงร่วมใจในการทำงาน
อย่างเต็มกำลังความสามารถเพื่อพฒั นาสถานศกึ ษาใหเ้ ป็นเลิศในทุก ๆ ด้าน
๑๔
ส่วนที่ ๓
บทสรุป
ผู้บริหารสถานศึกษาสามารถพัฒนาตนเองให้เป็นผู้นำเชิงจิตวิญญาณ ได้โดยผ่านการ
ฝึกอบรม ผ่านพฤติกรรมองค์กร ผ่านการกระทำที่สูงส่ง และผ่านความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับชุมชนและ
สังคม นอกจากนี้ยังมีแนวทางในการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงจิตวิญญาณ ในด้านการรู้จักตัวตนที่แท้จริง
ของตนเอง ด้านการเปลี่ยนแปลงตัวเองจากภายใน และด้านความชัดเจนถึงค่านิยมส่วนตัวและ
หลักการแห่งความสำเร็จที่ยึดถือ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการบริหารสถานศึกษาให้ประสบความสำเรจ็
มากยง่ิ ขึน้ ต่อไป
ภาวะผู้นำเชิงจิตวิญญาณจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรบั ผู้บริหารสถานศึกษา บุคลากร
ในสถานศึกษาจะเกิดความรัก และความไว้วางใจกันในการทำงาน การที่ผู้นำประพฤติตัวเป็น
แบบอย่าง น่ายกย่องเคารพนับถือ และทำให้ผู้ตามเกิดความภาคภูมิใจเมื่อร่วมงานกัน รวมถึงผู้มีส่วน
ได้ส่วนเสียในการจัดการศึกษาของสถานศึกษาจะนำมาสู่ความรว่ มมือในการส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกัน
เกิดการทุ่มเททั้ง แรงกายแรงใจให้กับการดำเนินการต่าง ๆ เพื่อบรรลุผลตามเป้าหมายอันเป็น
ประโยชน์ต่อส่วนรวม อีกทั้ง ผู้บริหารสถานศึกษาที่มีภาวะผู้นำเชิงจิตวิญญาณจะยึดม่ันในคุณธรรม
ความดีงาม มีความเมตตา ตลอดจน การกระทำตนเป็นแบบอย่างที่ดีกระทำสิ่งที่ถูกต้องและเป็น
คุณประโยชน์อย่างแท้จริงแก่ส่วนรวมก็จะ กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ทีมงานทำงานอย่างอุทิศตนเพอ่ื
เป้าหมายและคุณค่าท่ีแท้จริงแหง่ งาน โดย ปราศจากการบังคับเกดิ การพัฒนาเกิดความเจริญงอกงาม
เตบิ โตขึน้ ไปตามความรู้ ความสามารถ หรอื ศกั ยภาพของแตล่ ะบคุ คล
ผู้บริหารสถานศึกษาต้องตระหนักถึงการพัฒนาตนเองให้เป็นผู้นำที่มีจิตวิญญาณและ
อุดมการณ์ในวิถีชีวิตใหม่โดยคำนึงถึงองค์ประกอบที่สำคัญ เช่น การมีวิสัยทัศน์ การสร้างความหวัง
ความศรัทธาและเสียสละ (Fry, ๒๐๐๓) โดยมีสามแนวทางในการพัฒนาได้แก่
๑) การพัฒนาวิสัยทัศน์ ด้านภายในเพื่อให้ได้มาซึ่งสมาธิ สติปัญญา และการฝึกฝน
ทางด้านภายนอกโดยต้องเข้ารับการอบรมพัฒนาในศาสตรต์ ่าง ๆ อย่างสม่ำสมอ เช่น ด้านการบริหาร
การจัดการ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การพัฒนาหลักสูตรและเสริมสร้างประสบการณ์ในการนำไป
ประยกุ ตใ์ ช้บรหิ ารสถานศกึ ษาให้มีประสทิ ธิภาพ
๒) สร้าง "SAT Brandings" เพื่อให้มีภาพลักษณ์ที่ดีและได้รับการยอมรับจากทุกภาค
ส่วน เช่น การสร้างภาพให้เป็นผู้ที่มีจิตใจสูงส่ง ให้เป็นผู้มีจริยธรรมทางวิชาการและเป็นผู้นำด้าน
เทคโนโลยี
๓) มีจิตสาธารณะโดยผู้บริหารจะต้องอุทิศตนในการทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวม
มากกว่าส่วนตน พร้อมทั้งให้บริการแก่สังคมในด้านต่าง ๆเมื่อผู้บริหารทำได้ตามหลักการแนวปฏิบัติ
ดังที่กล่าวมา ก็พอที่จะเชื่อใจได้ว่า จิตวิญญาณและอุดมการณน์ ัน้ ก็เกิดขึ้นได้อยา่ งแนน่ อนและจะเป็น
พลังภายในทีจ่ ะกระตนุ้ ใหผ้ บู้ รหิ ารทำงานตามท่ีได้ต้ังเปา้ หมายไว้ใหส้ ำเร็จได้แม้จะเผชิญกับปัญหาและ
อุปสรรคใด ๆ กต็ าม
เอกสารอา้ งอิง
กรุงเทพธุรกิจ. (๒๕๖๔). เรียนออนไลน์กับ ปัญหาสุขภาพที่เด็กไทยต้องเจอแก้ยังไงดี?.(ออนไลน์).
เข้าถึง ได้จาก: https//: www.bangkokbinews.com/news/๙๕๗๐๐๑. (วันท่ี ค้น
ข้อมลู ๑๔ กนั ยายน ๒๕๖๔).
โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์. (๒๕๖๐).จิตวิญญาณศาสนาและความเป็นมนุษย์. นนทบุรี: สำนักพิมพ์
โอ เอสพริน้ ตงิ้ เฮา้ ส์ จำกัด.
ชัยอนันต์ สมุทรวนิช. (๒๕๒๓). อุดมการณ์ทางการเมือง. (พมิ พค์ ร้งั ท่ี ๒). กรุงเทพฯ: สำนักพมิ พ์บรรณ
กจิ .
ประเวศ วะสี และคนอื่น ๆ. (๒๕๔๔). สู่สุขภาพทางสังคมและจิตวิญญาณ. สำนักงานปฏิรูประบบ
สขุ ภาพแหง่ ชาต.ิ กรงุ เทพฯ.
แพง ชินพงศ์. (๒๕๖๒).อิทธิพลของ Social media ทค่ี นไทยต้องร.ู้ (ออนไลน์). เข้าถงึ ได้จากhttps//:
ผจู้ ดั การออนไลน์ mgronline.com/qo/detail. (วนั ท่ีค้นขอ้ มลู ๑๘ กันยายน ๒๕๖๔).
ภูริกานต์ วัจน์ประภาศักดิ์ (๒๕๕๗). ภาวะผู้นำเชิงจิตวิญญาณ บุคลิกภาพห้าองค์ประกอบวัฒนธรรม
องค์การและผลการปฏิบัตงิ านของพนักงานระดบั บังคบั บัญชาบริษทั อุตสาหกรรมกระดาษ
แห่งหนึ่ง ในจังหวัดกาญจนบุรี .วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต,
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร.์
มูลนิธิคีนันแห่งเอเชีย. (๒๕๖๔).การแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ สร้างผลกระทบต่อการศึกษาไทยท่ี
สำคัญ ๓ ประการ. (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก:https://www.kenan- asia.org/th/covid-
๑๙-education. (วันที่คน้ ข้อมลู ๑๕ กันยายน ๒๕๖๔).
รัตนา แก้วบัวเผื่อ และวิษณุ ทรัพย์สมบัติ. (๒๕๖๔). แนวทางการจัดการเรียนการสอนและการวัดผล
ประเมินผลให้มีความยึดหยุ่นในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโร
นา ๒๐๑๙ (Covid-๑๙).(ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก: https//:www. obec.go.th/wp-con-
tent/uploads แนวปฏิบัติการจัดการเรียนการสอนและการวัดผลประเมินผล๑. pdf.
(วนั ทคี่ น้ ข้อมูล ๑๗ กันยายน ๒๕๖๔).
ลัดดา จุลวงค์ และศักดิ์ชัย นิรัญทวี. (๒๕๖๔). การบริหารสถานศึกษาด้วยภาวะผู้นำเชิงจิตวิญญาณ.
วารสารวิชาการและวจิ ัย ๑๕๑), ๑๗-๓๐.
วงศ์พันธ์ อมรินทรเ์ ทวา. (๒๕๖๔). เพราะการศกึ ษาหยุดไมไ่ ด้ตา่ งประเทศเรยี นกันอย่างไรในช่วงโควิด.
(ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก: https:/www.eef.or.th/education-abroad-covid/สถาบัน
พระปกเกล้า. (๒๕๖๔). อุดมการณ์. (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก:
https://www.wiki.kpi.ac.th/index.php?title=อุดมการณ์. (วันที่ค้นข้อมูล ๑๐
กนั ยายน ๒๕๖๔).
สมเดจ็ พระญาณสงั วร สมเดจ็ พระสงั ฆราช. (๒๕๕๑). จติ -วญิ ญาณ ในพระพุทธศาสนา. (พิมพ์คร้ังที่๓).
กรงุ เทพฯ: สำนกั พิมพ์มหามกุฎราชวทิ ยาลัย.
สุนันทา สมใจ และวิชุดา กิจธรรม. (๒๕๖๑). การบรหิ ารสถานศกึ ษาดว้ ยภาวะผู้นำทางดา้ นเทคโนโลยี.
วารสารวิทยาลัยดสุ ติ ธานี, ๑๒(๑), ๓๕๐-๓๖๓.
สุวิมล มธุรส. (๒๕๖๔). การจัดการศึกษาในระบบออนไลน์ New normal covid-๑๙. วารสารรัชต
ภาคย,์ ๑๕(๔๐), ๓๓-๔๒.
สำนักงานราชบัญฑิตยสภา. (๒๕๖๔). อุดมการณ์. (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก:
https://www.legacy.orst. go.th/?knowledge =อุดมการณ์-๗-พฤษภาคม-๒๕๕๖.
(วันทีค่ น้ ขอ้ มลู ๑๙ กันยายน ๒๕๖๔).
อนันต์ ฉิมยงค์ และคณะ. (๒๕๖๔). ภาวะผู้นำเชิงจิตวิญญาณและอุดมการณ์ของผู้บริหารสถานศึกษา
ในวถิ ีชีวติ ใหม.่ วารสารคุณภาพชวี ติ กับกฎหมาย.
Fry, L.W. (๒๐๐๓). Spiritual Leadership and Organizational Performance: An Exploratory
Study. Tarleton State University, Central Texas.
ภาคผนวก
Power Point นำเสนอ งานช้นิ ท่ี ๑ กลมุ่ ท่ี ๑