The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by suwannaduck, 2022-04-29 10:30:01

หลักสูตร โครงสร้าง และคำอธิบายรายวิชา วิชาภาษาไทยพื้นฐาน รหัสวิชา ท33101

1-2_merged_merged

กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
ทำไมต้องเรียนภาษาไทย

ภาษาไทยเป็นเอกลักษณ์ของชาติ เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมอันก่อให้เกิดความเป็นเอกภาพและ
เสริมสร้างบุคลกิ ภาพของคนในชาติ ใหม้ ีความเป็นไทย เป็นเครอ่ื งมือในการตดิ ต่อส่ือสาร เพอื่ ความเข้าใจและ
ความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ทำให้สามารถประกอบธุระ การงาน และดำรงชีวิตร่วมกันในสังคมประชาธิปไตยได้
อย่างสันติสุขและเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้ ประสบการณ์จากแหล่งข้อมูลสารสนเทศต่าง ๆ เพ่ือ
พัฒนาความรู้ พัฒนากระบวนการคิด วิเคราะห์ วิจารณ์ และสร้างสรรค์ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม
และความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ตลอดจนนำไปใช้ในการพัฒนาอาชีพให้มีความมั่นคงทาง
เศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังเป็นสื่อแสดงภูมิปัญญาของบรรพบุรุษด้านวัฒนธรรม ประเพณี และสุนทรียภาพ เป็น
สมบัตอิ นั ล้ำคา่ ควรแกก่ ารเรยี นรู้ อนุรักษ์ และสืบสานใหค้ งอยู่คู่ชาตไิ ทยตลอดไป

เรียนรอู้ ะไรในภาษาไทย

ภาษาไทย เป็นทักษะท่ีต้องฝึกฝนจนเกิดความชำนาญในการใชภ้ าษาเพื่อการส่ือสาร การเรยี นรอู้ ยา่ ง
มีประสิทธิภาพ และเพ่ือนำไปใชใ้ นชีวติ จริง

• การอ่าน การอ่านออกเสยี งคำ ประโยค การอ่านบทร้อยแก้ว คำประพันธ์ชนดิ ต่าง ๆ
การอา่ นในใจ เพื่อสรา้ งความเขา้ ใจและการคิดวเิ คราะห์ สังเคราะห์ความร้จู ากสง่ิ ที่อ่าน เพอ่ื นำไปปรับใช้ใน
ชีวติ ประจำวัน

• การเขียน การเขยี นสะกดตามอกั ขรวธิ ี การเขยี นสอ่ื สารโดยใชถ้ ้อยคำและรปู แบบตา่ ง
ๆ ของการเขียน ซึ่งรวมถึงการเขียนเรียงความ ย่อความ รายงานต่าง ๆ การเขียนตามจิ นตนาการ การ
วิเคราะห์ วิจารณก์ ารเขยี นเชงิ สรา้ งสรรค์

• การฟัง การดู และการพูด การฟงั และดูอยา่ งมวี ิจารณญาณ การพูดแสดงความคิดเห็น
ความรู้สึก พูดลำดับเรื่องราวต่าง ๆ อย่างเป็นเหตุเป็นผล การพูดในโอกาสต่าง ๆ ทั้งเป็นทางการและไม่เป็น
ทางการ การพูดส่ือโน้มน้าวจิตใจ

• หลักการใชภ้ าษาไทย ธรรมชาตแิ ละกฎเกณฑข์ องภาษาไทย การใชภ้ าษาใหถ้ ูกตอ้ ง
เหมาะสมกับโอกาส และบุคคล การแต่งบทประพันธ์ประเภทต่าง ๆ และอิทธิพลของภาษาต่างประเทศใน
ภาษาไทย

• วรรณคดแี ละวรรณกรรม วเิ คราะหว์ รรณคดี และวรรณกรรมเพื่อการศึกษาข้อมลู
แนวความคดิ คณุ คา่ ของงานประพันธ์ และความเพลดิ เพลิน การเรียนรแู้ ละทำความเข้าใจในบทเห่ บทร้องเล่น
ของเด็ก เพลงพื้นบ้านที่เป็นภูมิปัญญาไทยที่มีคุณค่าของไทย ซึ่งถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิด ค่านิยม
ขนบธรรมเนียมประเพณี เรอื่ งราวของสงั คมในอดตี และความงดงามของภาษา เพื่อกอ่ ใหเ้ กดิ ความซาบซึ้งและ
ภมู ิใจ ในบรรพบรุ ุษท่ไี ด้สั่งสมมาจนถงึ ปจั จบุ ัน

คณุ ภาพผูเ้ รียน
จบชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 6

• อ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว และบทร้อยกรองเป็นทำนองเสนาะได้ถูกต้องและเข้าใจ
ตีความ แปลความ และขยายความเรื่องที่อ่านได้ วิเคราะห์วิจารณ์เรื่องที่อ่าน แสดงความคิดเห็นโต้แย้งและ
เสนอความคิดใหม่จากการอ่านอย่างมีเหตุผล คาดคะเนเหตุการณ์จากเรื่องที่อ่านได้ เขียนกรอบแนวคิด ผัง
ความคิด บันทึก ย่อความ และเขียนรายงานจากสิ่งที่อ่าน สังเคราะห์ ประเมินค่า และนำความรู้จากการอ่าน
มาพัฒนาตน พัฒนาการเรียน และพัฒนาความรู้ทางอาชีพ และนำความรู้ ความคิด ไปประยุกต์ใช้ในการ
แกป้ ัญหาในการดำเนนิ ชีวิต มีมารยาทและมนี ิสยั รกั การอา่ น

• เขียนส่ือสารในรูปแบบต่าง ๆ โดยใชภ้ าษาไดถ้ ูกต้องตามวตั ถุประสงค์ ยอ่ ความจาก
สื่อที่มีรูปแบบและเนื้อหาหลากหลาย เรียงความแสดงแนวคิดเชิงสร้างสรรค์โดยใช้โวหารต่าง ๆ เขียนบันทึก
รายงานการศึกษา ค้นคว้าตามหลักการเขียนทางวิชาการ ใช้ข้อมูลสารสนเทศในการอ้างอิง ผลิตผลงานของ
ตนเองในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งสารคดีและบันเทิงคดี รวมทั้งประเมินผลงานเขียนของผู้อื่นแนะนำมาพัฒนางาน
เขยี นของตนเอง

• ต้ังคำถามและแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกบั เรอ่ื งท่ีฟงั และดู มวี ิจารณญาณในการเลอื ก
เร่อื งทฟ่ี ังและดู ประเมินส่ิงที่ฟัง และดู นำไปประยุกตใ์ ช้ในการดำเนนิ ชีวติ มที กั ษะการพดู ในโอกาสต่าง ๆ ท้ัง
ที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการโดยใช้ภาษาที่ถูกต้อง พูดแสดงทรรศนะ โต้แย้ง โน้มน้าว และเสนอ
แนวความคดิ ใหม่อย่างมเี หตุผล รวมทั้งมมี ารยาทในการฟงั ดูและพูด

• เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษา อทิ ธิพลของภาษา และลักษณะของภาษาไทย ใช้คำและ
กลุ่มคำสร้างประโยคได้ตรงตามวัตถุประสงค์ แต่งคำประพันธ์ประเภทกาพย์ โคลง ร่ายและฉันท์ ใช้ภาษาได้
เหมาะสมกับกาลเทศะและใช้คำราชาศัพท์และคำสุภาพได้อย่างถูกต้อง วิเคราะห์หลักการ สร้างคำใน
ภาษาไทย อิทธิพลของภาษาต่างประเทศในภาษาไทยและภาษาถ่ิน วิเคราะห์และประเมินการใช้ภาษาจากสอ่ื
ส่งิ พมิ พ์และสอ่ื อิเลก็ ทรอนกิ ส์

• วเิ คราะห์วจิ ารณ์ วรรณคดี และวรรณกรรมตามหลักการวิจารณ์วรรณคดีเบื้องต้น รู้
และเข้าใจลักษณะเด่นของวรรณคดี ภูมิปัญญาทางภาษาและวรรณกรรมพื้นบ้าน เชื่อมโยงกับการเรียนรู้ทาง
ประวตั ิศาสตร์และวถิ ไี ทย ประเมินคุณคา่ ดา้ นวรรณศลิ ป์ และนำขอ้ คจิ ากวรรณกรรมไปประยุกต์ใช้ในชวี ิตจริง

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรูแ้ ละความคิดเพื่อนำไปใชต้ ัดสินใจ
แก้ปญั หาในการดำเนนิ ชวี ิตและมนี สิ ัยรักการอา่ น
สาระที่ 1 การอา่ น
มาตรฐาน ท.1.1

สาระที่ 2 การเขยี น ใชก้ ระบวนการเขียน เขียนสอื่ สาร เขยี นเรียงความ ยอ่ ความ
มาตรฐาน ท 2.1 และเขียนเรื่องราวในรูปแบบตา่ ง ๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศ
และรายงานการศึกษาคน้ ควา้ อย่างมปี ระสิทธิภาพ

สาระที่ 3 การฟงั การดู และการพดู
มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลือกฟังและดอู ย่างมวี ิจารณญาณ และพดู แสดงความรู้
ความคดิ และความรสู้ ึกในโอกาสตา่ ง ๆ อยา่ งมวี ิจารณญาณ
และสร้างสรรค์

สาระท่ี 4 หลกั การใชภ้ าษาไทย
มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปลยี่ นแปลง
ของภาษาและพลงั ของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษา
ภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบตั ิของชาติ

สาระท่ี 5 วรรณคดีและวรรณกรรม
มาตรฐานที่ ท 5.1 เขา้ ใจและแสดงความคดิ เหน็ วจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทย
อยา่ งเหน็ คุณคา่ และนำมาประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ติ ประจำวนั



สาระที่ 1 มาตรฐาน และตัวชี้วัด
มาตรฐาน ท 1.1 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2564

ตวั ชี้วัด การอา่ น
ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรแู้ ละความคดิ เพือ่ นำไปใชต้ ัดสนิ ใจ
แกป้ ัญหาในการดำเนนิ ชวี ติ และมนี ิสยั รักการอ่าน

1. อา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแก้ว และบทร้อยกรองได้อย่างถูกต้อง ไพเราะ
และเหมาะสมกบั เรื่องทอ่ี ่าน

2. ตีความ แปลความ และขยายความเรอ่ื งที่อ่าน
3. วเิ คราะห์ และวจิ ารณเ์ รื่องทอี่ ่านในทกุ ๆ ดา้ นอย่างมเี หตผุ ล
4. คาดคะเนเหตกุ ารณ์จากเรื่องที่อา่ น และประเมินค่า เพ่ือนำความรู้

ความคดิ ไปใชต้ ดั สินใจแกป้ ญั หาในการดำเนนิ ชวี ิต
5. วิเคราะห์ วิจารณ์ แสดงความคดิ เห็นโตแ้ ยง้ กับเรื่องท่ีอา่ น

และเสนอความคิดใหม่อย่างมีหตผุ ล
6. ตอบคำถามจากการอา่ นประเภทต่างๆ ภายในเวลาที่กำหนด
7. อา่ นเร่ืองตา่ ง ๆ แลว้ เขียนกรอบแนวคิด ผงั ความคดิ บันทึก ย่อความ

และรายงาน
8. สงั เคราะห์ความรู้ จากการอา่ นส่ือสง่ิ พิมพ์ ส่อื อเิ ล็กทรอนกิ ส์ และ

แหล่งเรยี นรู้ตา่ ง ๆ มาพฒั นาตน พฒั นาการเรียน และพัฒนาความรู้
ทางอาชพี
9. มีมารยาทในการอา่ น

สาระที่ 2 การเขยี น
มาตรฐาน ท 2.1 ใช้กระบวนการเขยี นเขยี นสอ่ื สาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขยี น
เร่อื งราวในรูปแบบตา่ งๆ เขยี นรายงานขอ้ มูลสารสนเทศ
ตวั ชว้ี ดั และรายงานการศึกษาค้นคว้าอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ

1. เขียนสอ่ื สารในรปู แบบต่างๆ ได้ตรงตามวตั ถุประสงค์ โดยใช้ภาษา
เรียบเรียงถูกต้อง มขี ้อมูล และ สาระสำคัญชดั เจน

6. เขียนรายงานการศึกษา ค้นคว้าเรอื่ งที่สนใจ ตามหลกั การเขยี น
เชิงวชิ าการ และใช้ข้อมลู สารสนเทศอ้างอิงอยา่ งถกู ต้อง

8. มีมารยาทในการเขียน

สาระท่ี 3 การฟงั การดู และการพูด
มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลอื กฟงั และดอู ย่างมีวจิ ารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคดิ
และความรสู้ กึ ในโอกาสต่างๆ อยา่ งมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์
ตัวชีว้ ัด
1. สรุปแนวคดิ และแสดงความคิดเหน็ จากเร่ืองท่ีฟงั และดู
2. วเิ คราะห์ แนวคดิ การใชภ้ าษา และความน่าเชอ่ื ถือ จากเรอื่ งที่ฟงั และดู

อย่างมเี หตุผล
3. ประเมินเรือ่ งที่ฟัง และดู แลว้ กำหนดแนวทางนำไปประยุกต์ใช้

ในการดำเนินชวี ติ
5. พูดในโอกาสต่าง ๆ พูดแสดงทรรศนะ โต้แย้ง โน้มน้าวใจ และเสนอแนวคดิ ใหม่

ด้วยภาษาถูกต้องเหมาะสม
6. มมี ารยาทในการฟัง การดู และการพูด

สาระที่ 4 หลักการใช้ภาษาไทย
มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษา
และพลังของภาษา ภูมปิ ัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทย
ตัวช้ีวัด ไว้เป็นสมบตั ิของชาติ

1. อธิบายธรรมชาตขิ องภาษา พลงั ของภาษา และลักษณะของภาษา
2. ใชค้ ำและกล่มุ คำสร้างประโยคตรงตามวตั ถปุ ระสงค์
4. แตง่ บทรอ้ ยกรอง
5. วเิ คราะห์อิทธิพลของภาษาตา่ งประเทศและภาษาถ่ิน
6. อธิบายและวิเคราะห์ หลกั การสร้างคำในภาษาไทย

สาระท่ี 5 วรรณคดีและวรรณกรรม
มาตรฐาน ท 5.1 เข้าใจและแสดงความคดิ เห็น วิจารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมไทย
อยา่ งเห็นคุณค่าและนำมาประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ จริง

ตัวชว้ี ัด 1. วเิ คราะหแ์ ละวจิ ารณ์ วรรณคดแี ละวรรณกรรมตามหลักการวิจารณ์
เบอื้ งตน้

2. วเิ คราะห์ลักษณะเด่นของวรรณคดีเช่ือมโยง กับการเรียนรู้
ทางประวัติศาสตร์และวถิ ชี ีวิตของสังคมในอดีต

3. วเิ คราะห์และประเมนิ คุณค่าด้านวรรณศิลป์ของวรรณคดี
และวรรณกรรมในฐานะ ท่ีเปน็ มรดกทางวัฒนธรรมของชาติ

4. สังเคราะห์ข้อคิดจากวรรณคดแี ละวรรณกรรมเพือ่ นำไปประยกุ ต์ใช้
ในชวี ิตจรงิ

5. รวบรวมวรรณกรรมพ้ืนบา้ นและอธบิ ายภูมิปญั ญาทางภาษา
6. ทอ่ งจำและบอกคุณค่าบทอาขยานตามที่กำหนดและบทรอ้ ยกรอง

ที่มีคณุ ค่าตามความสนใจและนำไปใช้อ้างอิง

ตวั ช้วี ัดและสาระกา
ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี

สาระท่ี 1 การอา่ น
มาตรฐาน ท 1.1 ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรู้และความคดิ เพอ่ื นำไปใช

ตวั ช้วี ัด

1. อ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ และบทร้อยกรองได้อยา่ งถกู ต้อง ไพเราะ และเหมาะสม
กับเร่อื งท่ีอ่าน

2. ตีความ แปลความ และขยายความเรอ่ื งทอ่ี ่าน
3. วิเคราะห์ และวิจารณ์เร่ืองท่อี ่านในทุก ๆ ด้านอยา่ งมเี หตผุ ล
4. คาดคะเนเหตกุ ารณ์จากเร่ืองที่อ่าน และประเมินค่า เพ่ือนำความรู้ความคิด

ไปใชต้ ดั สนิ ใจแกป้ ัญหาในการดำเนนิ ชีวิต
5. วิเคราะห์ วจิ ารณ์ แสดงความคดิ เห็นโต้แยง้ กบั เร่ืองท่ีอ่าน และเสนอความคิดใหม่

อยา่ งมีหตุผล
6. ตอบคำถามจากการอา่ นประเภทตา่ ง ๆ ภายในเวลาที่กำหนด
7. อ่านเรื่องตา่ ง ๆ แลว้ เขยี นกรอบแนวคิด ผงั ความคิด บนั ทึก ยอ่ ความ และรายงาน

8. สงั เคราะห์ความรู้จากการอา่ นสอื่ สิ่งพมิ พ์ สือ่ อิเลก็ ทรอนกิ สแ์ ละแหลง่ เรียนร้ตู า่ ง ๆ
มาพัฒนาตน พฒั นาการเรียน และพฒั นาความรู้ทางอาชพี

9. มีมารยาทในการอ่าน

ารเรยี นรู้แกนกลาง
การศกึ ษา 2564

ชต้ ดั สนิ ใจ แก้ปัญหาในการดำเนนิ ชวี ิต และมีนิสัยรกั การอา่ น

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
ม  การอา่ นออกเสียง ประกอบดว้ ย

- บทร้อยแกว้ ประเภทตา่ งๆ เชน่ บทความ นวนยิ าย และความเรียง
- บทรอ้ ยกรอง เช่น โคลง ฉนั ท์ กาพย์ กลอน รา่ ย และลิลิต
 การอ่านจบั ใจความจากสื่อตา่ ง ๆ จากแหลง่ ข้อมูลที่หลากหลาย
 การอ่านจับใจความจากส่ือตา่ ง ๆ จากแหลง่ ข้อมลู ที่หลากหลาย
 การอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ จากแหล่งข้อมลู ท่ีหลากหลาย

 การอา่ นจบั ใจความจากสื่อตา่ ง ๆ จากแหล่งข้อมูลทหี่ ลากหลาย

 การอ่านจับใจความจากสื่อตา่ ง ๆ จากแหลง่ ข้อมลู ท่ีหลากหลาย
 การอ่านจับใจความจากส่ือต่าง ๆ จากแหลง่ ข้อมลู ที่หลากหลาย
ๆ  การอ่านจับใจความจากส่ือต่าง ๆ จากแหลง่ ข้อมูลทห่ี ลากหลาย

 มารยาทในการอา่ น

สาระที่ 2 การเขียน
มาตรฐาน ท 2.1 ใชก้ ระบวนการเขยี นเขียนสอื่ สาร เขยี นเรยี งความ ยอ่ ควา
และรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมปี ระสิทธิภาพ

ตัวชี้วดั
1. เขยี นส่ือสารในรูปแบบต่างๆ ไดต้ รงตามวัตถปุ ระสงค์ โดยใช้ภาษาเรียบเรียง

ถูกต้อง มีข้อมูล และสาระสำคัญชดั เจน

6. เขยี นรายงานการศกึ ษาค้นคว้าเรื่องที่สนใจตามหลักการเขยี นเชิงวิชาการ
และใช้ข้อมูลสารสนเทศอ้างองิ อยา่ งถูกต้อง

8. มีมารยาทในการเขียน

าม และเขียนเรื่องราวในรปู แบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศ

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
 การเขียนส่ือสารในรูปแบบตา่ ง ๆ
 การเขยี นรายงานเชงิ วิชาการ
 มารยาทในการเขยี น

สาระท่ี 3 การฟัง การดู และการพดู
มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลือกฟงั และดอู ย่างมวี จิ ารณญาณ และพดู แสดงคว

ตัวชี้วัด
1. สรปุ แนวคดิ และแสดงความคิดเห็นจากเรื่องท่ฟี งั และดู
2. วเิ คราะห์ แนวคดิ การใชภ้ าษา และความน่าเชื่อถอื จากเร่อื งที่ฟงั และดู

อย่างมเี หตผุ ล
3. ประเมนิ เรอ่ื งท่ีฟัง และดู แลว้ กำหนดแนวทางนำไปประยุกต์ ใชใ้ นการดำเนินชีวติ
5. พูดในโอกาสต่าง ๆ พดู แสดงทรรศนะ โต้แย้ง โน้มน้าวใจ และเสนอแนวคิดใหม่

ด้วยภาษาถูกต้องเหมาะสม
6. มมี ารยาทในการฟัง การดู และการพดู

วามรู้ ความคดิ และความรู้สกึ ในโอกาสตา่ งๆ อยา่ งมีวจิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์

สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง
 การพดู สรุปแนวคิด และการแสดงความคิดเหน็ จากเรื่องท่ีฟงั และดู
 การวเิ คราะหแ์ นวคดิ การใช้ภาษา และความนา่ เชือ่ ถือจากเร่ืองทฟี่ ังและดู

 การประเมนิ เร่ืองที่ฟงั และดู เพ่ือกำหนดแนวทางนำไปประยกุ ตใ์ ช้
 การพูดในโอกาสตา่ งๆ

 มารยาทในการฟัง การดู และการพูด

สาระท่ี 4 หลักการใช้ภาษาไทย
มาตรฐาน ท 4.1 เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแป
ไว้เป็นสมบตั ิของชาติ

ตวั ชี้วัด
1. อธบิ ายธรรมชาตขิ องภาษา พลังของภาษา และลักษณะของภาษา

2. ใช้คำและกลุ่มคำสรา้ งประโยคตรงตามวตั ถุประสงค์
4. แตง่ บทรอ้ ยกรอง

5. วิเคราะห์อิทธิพลของภาษาตา่ งประเทศและภาษาถ่นิ
6. อธิบายและวิเคราะหห์ ลักการสรา้ งคำในภาษาไทย

ปลงของภาษาและพลังของภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทย

สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง
 ธรรมชาตขิ องภาษา
 พลงั ของภาษา
 ลักษณะของภาษา
 การใชค้ ำและกลมุ่ คำสรา้ งประโยค
 กาพย์ โคลง รา่ ย และฉันท์
 อิทธิพลของภาษาตา่ งประเทศ และภาษาถิ่น
 หลกั การสรา้ งคำในภาษาไทย

สาระที่ 5 วรรณคดแี ละวรรณกรรม
มาตรฐาน ท 5.1 เขา้ ใจและแสดงความคิดเหน็ วิจารณว์ รรณคดีและวรรณ

ตัวชว้ี ดั
1. วเิ คราะหแ์ ละวิจารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรมตามหลักการวจิ ารณ์เบอ้ื งตน้
2. วเิ คราะห์ลักษณะเด่นของวรรณคดีเชื่อมโยง กับการเรียนรทู้ าง ประวตั ิศาสตร์และวถิ

ชวี ิตของสังคมในอดีต
3. วิเคราะหแ์ ละประเมนิ คณุ ค่าด้านวรรณศลิ ปข์ องวรรณคดีและวรรณกรรมในฐานะ

ท่ีเป็นมรดกทางวฒั นธรรมของชาติ
4. สังเคราะหข์ ้อคดิ จากวรรณคดแี ละวรรณกรรมเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในชวี ิตจริง
5. รวบรวมวรรณกรรมพื้นบ้านและอธิบายภูมิปญั ญาทางภาษา

6. ท่องจำและบอกคุณค่าบทอาขยานตามท่ีกำหนดและบทรอ้ ยกรองที่มีคุณค่า
ตามความสนใจและนำไปใชอ้ ้างอิง

ณกรรมไทยอย่างเหน็ คุณค่าและนำมาประยุกต์ใช้ในชวี ติ จริง

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
 หลักการวิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรมเบือ้ งตน้
ถี  การวเิ คราะหล์ ักษณะเดน่ ของวรรณคดแี ละวรรณกรรมเกี่ยวกบั เหตุการณ์

ประวตั ิศาสตร์ และวถิ ชี วี ิตของสังคมในอดตี
 การวเิ คราะหแ์ ละประเมินคุณค่าวรรณคดีและวรรณกรรม

- ด้านวรรณศลิ ป์
 การสังเคราะห์วรรณคดีและวรรณกรรม
 วรรณกรรมพ้นื บา้ นท่ีแสดงถงึ

- ภาษากบั วัฒนธรรม
- ภาษาถ่นิ
 บทอาขยานและบทร้อยกรองทม่ี ีคุณค่า
- บทอาขยานตามทีก่ ำหนด
- บทร้อยกรองตามความสนใจ

ตัวชวี้ ัดและสาระกา

สาระที่ 1 การอ่าน
มาตรฐาน ท 1.1 ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความร้แู ละความคิดเพือ่ นำไปใช

ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง

1. อา่ นออกเสียงบทร้อย  การอ่านออกเสยี ง ประกอบด้วย  หลักการอ่านออ

แกว้ และบทรอ้ ยกรอง - บทรอ้ ยแก้วประเภทตา่ งๆ เชน่ - บทร้อยแกว้

ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ไพเราะ บทความ นวนยิ าย และความเรยี ง - บทรอ้ ยกรอง

และเหมาะสมกบั เรอื่ ง - บทร้อยกรอง เชน่ โคลง ฉันท์

ทีอ่ ่าน กาพย์ กลอน รา่ ย และลิลติ

2. ตคี วาม แปลความ และ  การอา่ นจบั ใจความจากส่อื ตา่ ง ๆ  หลักการอ่านจับ

ขยายความเรือ่ งท่ีอา่ น จากแหล่งขอ้ มลู ที่หลากหลาย  หลักการอ่านตคี

 หลกั การอ่านแป

 หลกั การอ่านขย

3. วเิ คราะห์ และวิจารณ์  การอ่านจบั ใจความจากสอ่ื ต่าง ๆ  หลกั การอา่ นวิเ

เรอ่ื งทอ่ี ่านในทุก ๆ จากแหล่งข้อมลู ท่หี ลากหลาย - ความเปน็ มาหรือป

ดา้ นอยา่ งมเี หตุผล - ลกั ษณะคำประพัน

- เร่อื งยอ่

- เนื้อเรอื่ ง โครงเรื่อ

การเดินเรื่อง การใ

การแต่ง วิธคี ิดสรา้ ง

- แนวคดิ จุดมงุ่ หมา

- คณุ ค่าของวรรณก

 หลักการอา่ นวจิ

ารเรียนรูแ้ กนกลาง

ช้ตัดสินใจ แกป้ ัญหาในการดำเนนิ ชีวิต และมนี ิสยั รกั การอา่ น

K P A
อกเสียง  อา่ นออกเสยี ง  อา่ นออกเสยี ง

บใจความ - บทรอ้ ยแกว้ ไดถ้ กู ต้อง
ความ - บทรอ้ ยกรอง ไพเราะ และ
ปลความ เหมาะสม
ยายความ  อา่ นจบั ใจความ กับเรอื่ งท่ีอ่าน
เคราะหเ์ รอื่ งในทุก ๆ ดา้ น  อา่ นตคี วาม
ประวตั ิ  อา่ นแปลความ  อ่านวิเคราะห์
นธ์  การอ่านขยายความ และวจิ ารณ์
 อา่ นวิเคราะห์ เรอ่ื งที่อ่าน
อง ตวั ละคร ฉาก วธิ ีการแต่ง ลักษณะ  อา่ นวิจารณ์ อย่างมเี หตุผล
ช้ถ้อยคำ สำนวนในเรื่องท่วงทำนอง
งสรรค์ ทศั นะหรอื มุมมองของผ้เู ขียน
าย เจตนาของผู้เขยี นทฝ่ี ากไวใ้ นเร่อื ง
กรรม
จารณ์เร่ืองที่อ่านในทุก ๆ ดา้ น

ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

4. คาดคะเนเหตกุ ารณ์  การอ่านจบั ใจความจากสือ่ ตา่ ง ๆ  หลกั การคาดคะ

จากเรอ่ื งท่ีอ่าน และ จากแหลง่ ขอ้ มลู ที่หลากหลาย  หลกั การประเม

ประเมินค่า เพอ่ื นำ

ความรู้ ความคิดไปใช้

ตดั สนิ ใจแก้ปญั หาในการ

ดำเนนิ ชวี ติ

5. วเิ คราะห์ วจิ ารณ์  การอ่านจบั ใจความจากสอื่ ตา่ ง ๆ  หลักการอ่านวเิ

แสดงความคิดเห็น จากแหล่งข้อมลู ท่หี ลากหลาย  หลักการอา่ นวิจ

โต้แยง้ กบั เรื่องทอี่ ่าน  หลักการแสดงค

และเสนอความคิดใหม่ (โต้แย้ง / สนบั สน

อยา่ งมีหตุผล  หลกั การเสนอค

6. ตอบคำถามจากการ  การอ่านจับใจความจากสอื่ ต่าง ๆ  หลกั การตอบคำ
อ่านประเภทตา่ งๆ
ภายในเวลาที่กำหนด จากแหลง่ ข้อมลู ท่หี ลากหลาย - ระดบั ความจำ

- ระดบั เข้าใจ

- ระดับประยกุ ต

- ระดบั วเิ คราะ

- ระดบั ประเมนิ

- ระดับสรา้ งสร

7. อา่ นเรื่องต่าง ๆ  การอา่ นจบั ใจความจากสอ่ื ต่าง ๆ  หลกั การอ่านสร
แลว้ เขยี นกรอบแนวคดิ
ผงั ความคิด บันทึก จากแหลง่ ขอ้ มูลทห่ี ลากหลาย  หลักการอ่านจบั
ยอ่ ความ และรายงาน  หลักการอ่านวิเ
 การเขยี นแผนผ
 การเขียนกรอบ

K P A
ะเนเหตกุ ารณ์
มินค่า  คาดคะเนเหตกุ ารณ์  นำไปใช้
 ประเมินค่า ตัดสินใจ
เคราะห์
จารณ์ แกป้ ัญหาในการ
ความคิดเหน็ กับเรื่องทีอ่ า่ น ดำเนินชวี ติ
นนุ )
ความคิดใหม่  อา่ นวเิ คราะห์  มเี หตุผล
 อ่านวจิ ารณ์
ำถาม  แสดงความคดิ เหน็  ตอบคำถาม
ำ กบั เร่ืองทอ่ี า่ น ภายใน
เวลาทีก่ ำหนด
ตใ์ ช้ (โตแ้ ย้ง / สนบั สนนุ )
ห์  เสนอความคดิ ใหม่
นคา่
รรค์  ตอบคำถามจากการ
อา่ น
รปุ ความรู้
บใจความ - ระดบั ความจำ
เคราะห์ - ระดับเข้าใจ
ผงั ความคดิ - ระดับประยกุ ตใ์ ช้
บแนวคดิ - ระดบั วเิ คราะห์
- ระดับประเมินคา่
- ระดับสร้างสรรค์

 อ่านสรปุ ความรู้
 อา่ นจับใจความ
 อา่ นวิเคราะห์
 เขียนแผนผัง
ความคดิ

ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง

 หลกั การวเิ คราะ
 หลกั การเขียนบ
 หลักการเขยี นย
 หลกั การเขยี นร

8. สังเคราะห์ความรู้  การอา่ นจับใจความจากส่อื ต่าง ๆ  หลักการสังเครา

จากการอา่ นสอื่ สง่ิ พมิ พ์ จากแหลง่ ขอ้ มูลท่หี ลากหลาย

สือ่ อิเล็กทรอนิกส์และ

แหลง่ เรยี นรู้ตา่ ง ๆ

มาพฒั นาตน พัฒนา

การเรยี น และพฒั นา

ความรทู้ างอาชีพ

9. มีมารยาทในการอา่ น  มารยาทในการอา่ น  มารยาทในการ

K P A
ะห์ปญั หา
บนั ทกึ  เขียนกรอบแนวคดิ  การนำความรู้
ย่อความ  วเิ คราะห์ปัญหา จากการอ่าน
รายงาน  เขียนบันทึก
าะหค์ วามรู้  เขียนย่อความ - มาพัฒนาตน
 เขยี นรายงาน - พัฒนาการเรยี น
รอา่ น - พฒั นาความรู้
 สงั เคราะห์ความรู้ ทางอาชพี

 มมี ารยาทในการ  มีมารยาท
อ่าน ในการอา่ น

สาระท่ี 2 การเขียน
มาตรฐาน ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียนเขยี นสอ่ื สาร เขยี นเรยี งความ ยอ่ ควา
และรายงานการศกึ ษาค้นควา้ อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ

ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง

1. เขียนส่ือสารในรปู แบบ  การเขียนส่ือสารในรูปแบบ  หลักการเขยี น
 หลกั การใชภ้ า
ต่างๆ ไดต้ รงตาม ต่าง ๆ
- การใชค้ ำ
วตั ถุประสงค์ โดยใช้ - การใชส้ ำนวน
- การใชภ้ าพพ
ภาษาเรยี บเรียง
 หลกั การเขียน
ถูกต้อง มขี ้อมูล และ  หลกั การเขียนเ
 หลกั ใช้ข้อมลู ส
สาระสำคัญชัดเจน
 มารยาทในการ
6. เขียนรายงานการศึกษา  การเขยี นรายงานเชงิ วชิ าการ

คน้ ควา้ เร่ืองทส่ี นใจ

ตามหลักการเขยี น

เชิงวชิ าการ และใช้ข้อมลู

สารสนเทศอา้ งองิ

อย่างถูกต้อง

8. มีมารยาทในการเขยี น  มารยาทในการเขียน

าม และเขียนเร่อื งราวในรปู แบบตา่ งๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศ

K PA
นส่ือสารในรูปแบบต่าง ๆ
าษาในงานเขียน  เขียนสื่อสารใน  เขยี นได้ตรงตาม
วัตถปุ ระสงค์
น รปู แบบตา่ ง ๆ
พจน์  ใชภ้ าษาในงานเขยี น  เขียนใชภ้ าษา
เรียบเรียงถกู ต้อง
นรายงานการศกึ ษาค้นคว้า
เชิงวชิ าการ  มขี ้อมลู และ
สารสนเทศอ้างอิง
สาระสำคญั ชดั เจน

 เขียนรายงาน
การศึกษาค้นคว้า

รเขียน  มมี ารยาท  มีมารยาท

ในการเขียน ในการเขียน

สาระที่ 3 การฟงั การดู และการพดู
มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลือกฟงั และดูอย่างมวี จิ ารณญาณ และพดู แสดงคว

ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง

1. สรุปแนวคิด และแสดง  การพดู สรุปแนวคิด และการ  หลักการพูดสรปุ

ความคดิ เหน็ จากเรือ่ ง แสดง

ที่ฟังและดู ความคดิ เหน็ จากเรื่องที่ฟงั และดู

2. วิเคราะห์ แนวคิด  การวิเคราะห์แนวคิด  หลกั การวิเคราะ

การใชภ้ าษา และ การใชภ้ าษา และความ - แนวคดิ

ความน่าเชอื่ ถือ น่าเชอ่ื ถือจากเรื่องท่ฟี งั และดู - การใชภ้ าษา

จากเร่อื งที่ฟังและดู

อยา่ งมเี หตผุ ล

3. ประเมินเรอ่ื งท่ีฟัง  การประเมินเรื่องท่ีฟังและดู  หลักการประเมนิ

และดู แล้วกำหนด เพือ่ กำหนดแนวทางนำไป

แนวทางนำไปประยุกต์ ประยกุ ตใ์ ช้

ใชใ้ นการดำเนินชวี ิต

5. พดู ในโอกาสต่าง ๆ  การพูดในโอกาสต่างๆ  หลักการพดู ในโอ

พูดแสดงทรรศนะ  หลักการพดู แสด

โตแ้ ย้ง โนม้ น้าวใจ - พดู สนับสนุน

และเสนอแนวคิดใหม่ - พูดโต้แยง้

ด้วยภาษาถกู ต้อง  หลักการพดู โนม้

เหมาะสม  หลักการพดู เสน

วามรู้ ความคดิ และความรู้สกึ ในโอกาสตา่ งๆ อย่างมีวจิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์

K P A
ปแนวคดิ  พดู สรุปแนวคิด

ะห์  วิเคราะห์  มเี หตผุ ล

- แนวคิด

- การใช้ภาษา

น  ประเมนิ เรอ่ื งทีฟ่ ังและดู  นำไประยกุ ต์
 ประยกุ ตใ์ ช้ ในการดำเนินชวี ิต ใชใ้ นการดำเนนิ
อกาสต่าง ๆ
ดงทรรศนะ ชีวิต

มนา้ วใจ  พดู ในโอกาสต่าง ๆ  ใชภ้ าษา
นอแนวคดิ ใหม่  พูดแสดงทรรศนะ ถูกต้อง
เหมาะสม
- พดู สนับสนุน
- พดู โตแ้ ย้ง
 พดู โน้มน้าวใจ
 พูดเสนอแนวคิดใหม่

ตัวช้ีวัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

6. มีมารยาทในการฟัง  มารยาทในการฟัง การดู และ  มารยาทในการฟ
การดู และการพดู การพูด

K P A
ฟัง การดู และการพูด
 มมี ารยาทในการฟงั การดู  มมี ารยาท
และการพดู ในการฟัง การดู
และการพูด

สาระท่ี 4 หลกั การใชภ้ าษาไทย
มาตรฐาน ท 4.1 เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแป
ไว้เปน็ สมบตั ิของชาติ

ตวั ชวี้ ัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง  ธรรมชาติของภาษ
 ธรรมชาติของภาษา  พลังของภาษา
1. อธบิ ายธรรมชาติ  พลงั ของภาษา  ลักษณะของภาษา
ของภาษา พลังของ  ลกั ษณะของภาษา
ภาษา และลักษณะ  หลกั การใชค้ ำ แล
ของภาษา  การใช้คำและกลุ่มคำสรา้ ง
ประโยค  ฉันทลกั ษณ์ของบ
2. ใชค้ ำและกลมุ่ คำสรา้ ง  หลกั การแต่งบทร
ประโยคตรงตาม  กาพย์ โคลง ร่าย และฉันท์
วัตถปุ ระสงค์

4. แต่งบทร้อยกรอง

5. วเิ คราะห์อทิ ธิพลของ  อิทธพิ ลของ  อิทธิพลของภาษาต
 อทิ ธิพลของภาษาถ
ภาษาต่างประเทศและ ภาษาต่างประเทศ

ภาษาถ่นิ และภาษาถน่ิ

6. อธิบายและวิเคราะห์  หลักการสร้างคำใน  หลักการสรา้ งคำใ
หลักการสรา้ งคำใน ภาษาไทย
ภาษาไทย

ปลงของภาษาและพลังของภาษา ภูมปิ ัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทย

K P A
ษา
า . อธิบายธรรมชาตขิ องภาษา
ละกลุม่ คำสรา้ งประโยค  อธิบายพลังของภาษา
 อธบิ ายลักษณะของภาษา
บทร้อยกรองชนิดตา่ ง ๆ
ร้อยกรอง  ใช้คำ และกลุ่มคำสรา้ ง  ตรงตาม
าตา่ งประเทศในภาษาไทย ประโยค วัตถุประสงค์
าถิน่ ในภาษาไทย
 อธิบายฉันทลักษณข์ องบท
ในภาษาไทย ร้อยกรอง ชนดิ ตา่ ง ๆ
 แตง่ บทร้อยกรอง

 วเิ คราะห์อิทธิพลของ
ภาษาต่างประเทศ ในภาษาไทย

 วิเคราะห์อิทธิพลของภาษาถนิ่
ในภาษาไทย

 อธบิ ายการสรา้ งคำใน
ภาษาไทย
 วิเคราะหก์ ารสรา้ งคำใน
ภาษาไทย

สาระที่ 5 วรรณคดีและวรรณกรรม
มาตรฐาน ท 5.1 เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วจิ ารณ์วรรณคดแี ละวรรณ

ตัวชีว้ ดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง

1. วิเคราะห์และวิจารณ์  หลักการวเิ คราะห์และวิจารณ์  หลกั การวเิ คราะห์ว

วรรณคดแี ละวรรณกรรม วรรณคดแี ละวรรณกรรม  หลกั การวิจารณว์ รร

ตามหลักการวิจารณ์ เบ้อื งต้น

เบ้อื งต้น

2. วเิ คราะหล์ ักษณะเดน่  การวิเคราะห์ลกั ษณะเดน่ ของ  หลักการวิเคราะหล์

ของวรรณคดีเชื่อมโยง วรรณคดแี ละวรรณกรรม วรรณกรรม

กับการเรียนรทู้ าง เกยี่ วกบั เหตุการณป์ ระวัตศิ าสตร์  หลกั การเชอ่ื มโยงล

ประวตั ศิ าสตรแ์ ละวถิ ี และวิถชี ีวิตของสงั คมในอดตี เหตกุ ารณป์ ระวัตศิ าส

ชวี ิตของสังคมในอดตี ในอดตี

3. วเิ คราะหแ์ ละประเมนิ  การวิเคราะหแ์ ละประเมนิ  คุณคา่ ดา้ นวรรณศลิ
วรรณกรรม
คณุ ค่าด้านวรรณศลิ ป์ คณุ คา่  หลักการวเิ คราะห์ค

ของวรรณคดีและ วรรณคดแี ละวรรณกรรม ของวรรณคดีและวรร
มรดกทางวัฒนธรรมข
วรรณกรรมในฐานะ - ด้านวรรณศลิ ป์  หลกั การประเมนิ คุณ
ของวรรณคดแี ละวรร
ท่ีเป็นมรดก มรดกทางวัฒนธรรมข

ทางวฒั นธรรมของชาติ  ขอ้ คิดจากวรรณคด

4. สงั เคราะห์ข้อคิดจาก  การสงั เคราะห์วรรณคดแี ละ
วรรณคดีและ วรรณกรรม
วรรณกรรมเพ่ือนำไป
ประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ติ จรงิ

ณกรรมไทยอย่างเห็นคณุ คา่ และนำมาประยุกต์ใช้ในชวี ติ จริง

KP A

วรรณคดีและวรรณกรรม  วิเคราะห์วรรณคดแี ละ
รณคดีและวรรณกรรมเบอ้ื งตน้ วรรณกรรม

 วิจารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรม

ลกั ษณะเด่นของวรรณคดแี ละ  วเิ คราะห์ลกั ษณะเดน่ ของ

ลักษณะเด่นของวรรณคดกี ับ วรรณคดี และวรรณกรรม
สตร์และวิถีชวี ติ ของสงั คม
 เช่อื มโยงลกั ษณะเด่นของ
ลป์ของวรรณคดีและ
วรรณคดี
คณุ ค่าด้านวรรณศลิ ป์
รณกรรมในฐานะทเี่ ปน็ กบั เหตุการณ์ประวตั ศิ าสตรแ์ ละ
ของชาติ
ณคา่ ดา้ นวรรณศิลป์ วิถชี ีวิตของสงั คมในอดตี
รณกรรมในฐานะที่เปน็
ของชาติ  วเิ คราะหค์ ณุ คา่ ดา้ นวรรณศลิ ป์
ดีและวรรณกรรม
ของวรรณคดแี ละวรรณกรรม

ในฐานะท่ีเปน็ มรดกทางวฒั นธรรม

ของชาติ

 ประเมินคุณคา่ ดา้ นวรรณศลิ ป์

ของวรรณคดแี ละวรรณกรรม

ในฐานะทเี่ ปน็ มรดกทางวฒั นธรรม

ของชาติ

 สังเคราะหข์ อ้ คิดจากวรรณคดี  นำไป

และวรรณกรรม เพอ่ื นำไป ประยกุ ต์ใช้

ประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ จริง ในชวี ติ จริง

ตัวชี้วดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง  วรรณกรรมพ้ืนบา้ น
 ภมู ิปัญญาทางภาษ
5. รวบรวมวรรณกรรม  วรรณกรรมพน้ื บา้ นทแ่ี สดงถึง
พน้ื บา้ นและอธบิ ายภมู ิ - ภาษากับวฒั นธรรม  บทอาขยานและบท
ปญั ญาทางภาษา - ภาษาถิน่  คุณค่าของบทอาขย

6. ทอ่ งจำและบอกคุณคา่  บทอาขยานและบทร้อยกรอง - คณุ คา่ ด้านวรรณศ
บทอาขยานตามที่ ท่ีมคี ุณค่า - คณุ ค่าดา้ นสังคม
กำหนดและ - บทอาขยานตามที่กำหนด
บทรอ้ ยกรองทีม่ ีคณุ ค่า - บทรอ้ ยกรองตามความ
ตามความสนใจและ สนใจ
นำไปใช้อา้ งอิง

K P A

ษา  รวบรวมวรรณกรรมพน้ื บ้าน
 อธิบายภมู ปิ ัญญาทางภาษา
ทร้อยกรองที่มคี ณุ คา่
ยาน  ทอ่ งจำบทอาขยานและ  เลอื กตาม
ศิลป์
บทรอ้ ยกรอง ความสนใจ

 บอกคณุ ค่าของบทอาขยาน  นำไปใชอ้ ้างองิ

 นำบทอาขยานและบทร้อยกรอง

ไปใช้อา้ งอิง

คำอธบิ ายรายวชิ าพ้ืนฐาน

กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย รหัสวชิ า ท 33101 รายวชิ า ภาษาไทยพืน้ ฐาน
จำนวน 1 หนว่ ยกิต
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 40 ชั่วโมง / ภาคเรียน

ศึกษาวรรณคดีและวรรณกรรมจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ โดยสอดแทรกวรรณกรรมท้องถิ่น ในเขต
พัฒนาเศรษฐกิจพิเศษกาญจนบุรีและทวาย ประเทศสมาชิกอาเซียน และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ใจความสำคัญ ความคิด ข้อคิด แนวคิด คุณค่า และความน่าเชื่อถือของวรรณกรรม ภูมิปัญญาทางภาษา
หลักการใช้ภาษา ธรรมชาติ พลังและลักษณะของภาษา อิทธิพลของภาษาต่างประเทศและภาษาถิ่น การแต่ง
และอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง การใช้คำสร้างคำในภาษาไทย และสร้างประโยคตาม
วัตถุประสงค์ หลักการเขยี นเชิงวชิ าการ การสื่อสารในรูปแบบ และโอกาสตา่ ง ๆ หลักการสังเคราะห์ วเิ คราะห์
และวจิ ารณข์ องวรรณคดีและวรรณกรรมเบ้ืองตน้ ในทุก ๆ ดา้ น ดว้ ยการอ่าน เขยี น ฟงั ดู พดู และส่ือสารด้วย
รูปแบบต่าง ๆ การรายงานการศึกษาค้นคว้า ตอบคำถาม บันทึก ย่อความ ตีความ แปลความ ขยายความ
วิเคราะหแ์ ละวิจารณ์ คาดคะเน ประเมนิ คา่ แสดงทรรศนะ เสนอแนวคดิ และสังเคราะหน์ ำความรไู้ ปปรับใช้ใน
ชีวิต โดยบูรณาการความรู้ ทักษะและประสบการณ์ตา่ ง ๆ มุ่งเน้นการใชภ้ าษาไทยเพื่อการสื่อสาร และพัฒนา
ศักยภาพของผู้เรียน ผ่านการเรียนรู้ตามองค์ความรู้ของศาสตร์พระราชา ควบคู่กับการเรียนรู้ผ่านการทำงาน
แบบรวมพลังเป็นทีม และมีภาวะผู้นำ การเรียนรู้แบบลงมือทำ Active Learning การสร้างความรู้ด้วยตนเอง
Constructivism บนพ้ืนฐานของการพฒั นาทกั ษะ และกระบวนการคดิ ขน้ั สงู ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี พ.ศ.
2561 - 2580 เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นเขา้ ใจ และสามารถถอดประสบการณ์ ความรู้ คุณค่า ขอ้ คิด นำมาปรับใช้ในการ
ดำเนินชีวติ ตระหนกั ถงึ มารยาทและกาลเทศะในการรับ และส่งสาร เกดิ สุนทรยี ภาพและความซาบซ่ึงในภาษา
และตระหนักรู้ถึงภาพสะท้อนประวตั ิศาสตร์และความเชือ่ ของบรรพบุรุษ จากวรรณคดีและวรรณกรรมไทยใน
ฐานะมรดกของชาติ สามารถถ่ายทอดด้วยภาษาที่ถูกต้อง ชัดเจน สมเหตุสมผล โดยมีข้อมูล สาระสำคัญ และ
สารสนเทศอ้างองิ ตรงตามวัตถปุ ระสงค์

รหัสตัวชีว้ ัด
ท 1.1 ม.4 - 6 /1 ท 1.1 ม.4 - 6 /2 ท 1.1 ม.4 - 6 /3 ท 1.1 ม.4 - 6 /4 ท 1.1 ม.4 - 6 /5
ท 1.1 ม.4 - 6 /6 ท 1.1 ม.4 - 6 /7 ท 1.1 ม.4 - 6 /8 ท 1.1 ม.4 - 6 /9
ท 2.1 ม.4 - 6 /1 ท 2.1 ม.4 - 6 /6 ท 2.1 ม.4 - 6 /8
ท 3.1 ม.4 - 6 /1 ท 3.1 ม.4 - 6 /2 ท 3.1 ม.4 - 6 /3 ท 3.1 ม.4 - 6 /5 ท 3.1 ม.4 - 6 /6
ท 4.1 ม.4 - 6 /1 ท 4.1 ม.4 - 6 /2 ท 4.1 ม.4 - 6 /4 ท 4.1 ม.4 - 6 /5 ท 4.1 ม.4 - 6 /6
ท 5.1 ม.4 - 6 /1 ท 5.1 ม.4 - 6 /2 ท 5.1 ม.4 - 6 /3 ท 5.1 ม.4 - 6 /4 ท 5.1 ม.4 - 6 /5
ท 5.1 ม.4 - 6 /6

รวมท้ังหมด 33 ตัวชี้วัด

สมรรถนะหลกั ท่ี 1 ภาษาไทยเพอื่ การสื่อสาร

สมรรถนะรองที่ 7 ทักษะการคดิ ขน้ั สูง และนวัตกรรม
สมรรถนะรองที่ 9 การทำงานแบบรวมพลังเปน็ ทีม และมภี าวะผ้นู ำ

รายวชิ า ภาษาไทยพนื้ ฐาน โครงสร้างร
ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 6
จำนวน 40 ช่ัวโมง รหัสวิช
ภาคเร

หน่วย ชือ่ หน่วย มาตรฐาน / สมรรถนะการเรียนรู้ ป
ที่ ตวั ชีว้ ดั ค
สมรรถนะท่ี 1 น
1 ภาษาและท่มี าของ ท 1.1 ม.4 – 6 /1 ภาษาไทยเพอ่ื การสื่อสาร
ภาษา ท 4.1 ม.4 – 6 /1 ก
ท 4.1 ม.4 – 6 /2 สมรรถนะยอ่ ยที่ 5 ป
พฤติกรรมบง่ ชี้ 5.1 ห

2 ภาษาเพอ่ื พฒั นา ท 1.1 ม.4 – 6 /5 สมรรถนะท่ี 1 ส
ชวี ติ ท 1.1 ม.4 – 6 /6 ภาษาไทยเพอ่ื การสอื่ สาร ส
ท 2.1 ม.4 – 6 /1 ค
ท 3.1 ม.4 – 6 /5 สมรรถนะยอ่ ยท่ี 4 ค

ท 4.1 ม.4 – 6 /1 พฤติกรรมบ่งชี้ 4.1 ใ



รายวิชาพืน้ ฐาน กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย
จำนวน 1.0 หน่วยกติ
ชา ท33101
รยี นท่ี 1

สาระสำคญั เวลา น้ำหนกั

ชว่ั โมง คะแนน

ภาษาเป็นเครื่องมือที่สำคัญมนุษย์ โดยลักษณะของภาษาจะ 5 5

ประกอบดว้ ยเสยี งและความหมาย เพ่อื ใช้ในการสื่อสาร ถ่ายทอด

ความคิด ความรู้สึก และพัฒนาศักยภาพของตนเอง ทั้งวัจ

นภาษา และอวจั นภาษา

เสียงและรูปภาษาในภาษาไทยมีลักษณะ เฉพาะที่ใช้กันใน

กลุ่มคนไทย ที่เกิดจากการนำพยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ มา

ป ร ะ ก อ บ ส ร ้ า ง เ ป ็ น ค ำ เ พ ื ่ อ ใ ช ้ ส ื ่ อ ใ น ก า ร ส ื ่ อ ค ว า ม ห ม า ย ท่ี

หลากหลาย และสะท้อนถึงบรบิ ททางวฒั นธรรมไทย

ภาษาเป็นเครื่องมือในการดำรงชีวิตของมนุษย์ มนุษย์จึง 2 5

สามารถเรียนรู้ภาษาเพื่อเป็นเครื่องมือของการสื่อสารและ

สามารถพฒั นาภาษาของตนช่วยให้คนร้จู ักคิดและแสดงออกของ

ความคิดดว้ ยการพดู การเขียน และการกระทำซ่ึงเป็นผลจากการ

คิด ช่วยดำรงสังคมให้มนุษย์อยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสงบสุข มี

ไมตรีต่อกัน ช่วยเหลือกัน ด้วยการใช้ภาษาติดต่อสื่อสารกันช่วย

ให้คนปฏิบัติตนตามกฎเกณฑ์ของสังคม เกิดการพัฒนา ใช้ภาษา

ในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ใช้ภาษาในการเรียนรู้ แสวงหา

ความรู้ และชว่ ยจรรโลงใจ

หน่วย ชือ่ หน่วย มาตรฐาน / สมรรถนะการเรียนรู้
ที่ ตัวชวี้ ดั
สมรรถนะท่ี 1 ใ
3 พนิ ิจความ ท 1.1 ม.4 – 6 /3 ภาษาไทยเพ่ือการส่ือสาร ค
ตามวรรณคดี ท 1.1 ม.4 – 6 /7 ส
ท 1.1 ม.4 – 6 /9 สมรรถนะยอ่ ยที่ 1 ค
4 ภาษา ท 2.1 ม.4 – 6 /6 พฤตกิ รรมบง่ ชี้ 1.1 และ 1.2 เ
ส่ือวัฒนธรรม ท 3.1 ม.4 – 6 /2 ไ
ท 5.1 ม.4 – 6 /1 สมรรถนะยอ่ ยท่ี 3 ว
5 นทิ าน ตำนาน ท 5.1 ม.4 – 6 /2 พฤตกิ รรมบง่ ชี้ 3.2 ว
สามกก๊ ท 5.1 ม.4 – 6 /3
ท 5.1 ม.4 – 6 /4 สมรรถนะที่ 1 ห
ภาษาไทยเพื่อการส่ือสาร แ
ท 1.1 ม.4 – 6 /7 ค
ท 4.1 ม.4 – 6 /5 สมรรถนะย่อยที่ 5
ท 4.1 ม.4 – 6 /6 พฤติกรรมบ่งช้ี 5.1 5.2 และ 5.3 ว

ท 5.1 ม.4 – 6 /5 สมรรถนะท่ี 1 น
ภาษาไทยเพ่อื การสอ่ื สาร
ท 1.1 ม.4 – 6 /1 ย
ท 1.1 ม.4 – 6 /2 สมรรถนะยอ่ ยท่ี 1 ร
ท 1.1 ม.4 – 6 /3 พฤติกรรมบ่งช้ี 1.1 1.2 และ 1.3 ผ
ท 1.1 ม.4 – 6 /4 ข
ท 1.1 ม.4 – 6 /5 ต
ท 1.1 ม.4 – 6 /6

สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั

ชว่ั โมง คะแนน

วรรณคดี และวรรณกรรม เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากการใช้ภาษา 10 15

ในการบันทึกเรื่อง การจรรโลงจิตใจและถ่ายทอดความรู้สึกนึก

คิด และสะทอ้ นบรบิ ททางสังคม ความเชื่อ และสิ่งแวดลอ้ มในยุค

สมัยของกวี วรรณคดีและวรรณกรรมไทยจึงมีบทบาทและมี

ความสำคัญมากกว่าการสร้างความบันเทิง และการใช้เป็น

เครอื่ งมือในการสอนใจ ดังนัน้ การศกึ ษาวรรณคดแี ละวรรณกรรม

ไทยจงึ เป็นส่ิงสำคัญทจ่ี ะทำให้ผู้เรยี นไดฝ้ ึกฝนทักษะการอา่ น การ

วิเคราะห์ และศึกษาองค์ความรู้ที่สะท้อนผ่านวรรณคดีและ

วรรณกรรม

การศึกษาวัฒนธรรมไทย สามารถศึกษาได้จากแหล่งข้อมูลที่ 3 5

หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวรรณคดี และวรรณกรรมไทย ท่ี

แต่งขึ้นในแต่ละยุคสมัย อันเป็นเรื่องราวที่บอกเล่าสภาพสังคม

ความคิดความเชอ่ื และลกั ษณะเฉพาะในสงั คมแต่ละยุคสมยั

นอกจากนั้นการศึกษาภาษา ที่ใช้ในการวรรณคดีและ

วรรณกรรม ก็สามารถสะท้อนวัฒนธรรมของสังคม และชาติ

ต่าง ๆ ผ่านเสียง ถ้อยคำ และวัฒนธรรมเฉพาะในการใช้คำ

นน้ั ๆ

สามก๊กเป็นนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ ซึ่งได้รับการยก 10 15

ย่องจากวรรณคดสี โมสรใหเ้ ปน็ ยอดของความเรยี งนิทานคู่กับ

ราชาธิราช เพราะมีศิลปะการประพันธ์ในการดำเนินเรื่องให้

ผู้อ่านตื่นเต้นไปกับเหตุการณ์ ใช้ถ้อยคำแสดงถึงพฤติกรรม

ของตัวละครภาษาสั้นกะทัดรัด เข้าใจง่าย สำหรับสามก๊ก

ตอน

หนว่ ย ชอ่ื หน่วย มาตรฐาน / สมรรถนะการเรยี นรู้ ก
ที่ ตัวช้ีวัด ด
5 นทิ าน ตำนาน สมรรถนะย่อยที่ 2 น
สามกก๊ (ต่อ) ท 1.1 ม.4 – 6 /7 พฤติกรรมบ่งช้ี 2.1 2.2 อ
ท 1.1 ม.4 – 6 /9 ค
6 ซ้ึงซาบ ท 3.1 ม.4 – 6 /1 สมรรถนะท่ี 1
กาพยเ์ หเ่ รอื ท 3.1 ม.4 – 6 /3 ภาษาไทยเพ่ือการสื่อสาร โ
ท 3.1 ม.4 – 6 /5 สมรรถนะยอ่ ยที่ 1 ก
ท 3.1 ม.4 – 6 /6 พฤติกรรมบง่ ชี้ 1.1 และ 1.2 ย
ท 4.1 ม.4 – 6 /2 สมรรถนะย่อยท่ี 3 ภ
ท 4.1 ม.4 – 6 /5 พฤติกรรมบ่งชี้ 3.1 ส
ท 5.1 ม.4 – 6 /1
ท 5.1 ม.4 – 6 /2 ก
ท 5.1 ม.4 – 6 /3 ช
ท 5.1 ม.4 – 6 /4

ท 1.1 ม.4 – 6 /1
ท 1.1 ม.4 – 6 /2
ท 1.1 ม.4 – 6 /3
ท 1.1 ม.4 – 6 /6
ท 1.1 ม.4 – 6 /7
ท 1.1 ม.4 – 6 /9
ท 2.1 ม.4 – 6 /1
ท 3.1 ม.4 – 6 /1
ท 4.1 ม.4 – 6 /4
ท 5.1 ม.4 – 6 /1

สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนัก

ชวั่ โมง คะแนน

กวนอูไปรับราชการโจโฉ เป็นตอนท่ีแฝงคติธรรมในการ

ดำเนินชีวติ ผ่านตัวละครกวนอู และตัวละคร ต่าง ๆ ในเรื่อง

นอกจากนั้นยังสะท้อนวัฒนธรรมผ่านภาษาจีนที่เข้ามา

อิทธิพลทางสังคมในภาษาไทย และแสดงให้เห็นถึง

ความสำคญั ของการใช้ภาษาในการพูดโนม้ นา้ วใจผคู้ น

กาพย์เห่เรือ เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดมาตั้งแต่ 10 15
โบราณที่ประกอบในการเห่ขบวนพยุห-ยาตราทางชลมารค
กาพย์เห่เรือ ฉบับเจ้าฟ้ากุ้งเป็นกาพย์เห่เรือ ฉบับที่ได้รับการ
ยกย่องว่ามีการใช้ภาษาไพเราะ สะท้อนความอัจฉริยะทาง
ภาษาของกวี นอกจากน้นั ยงั สะท้อนความคิด ความเช่ือ และ
สภาพสงั คมในสมัยนัน้

การศกึ ษากาพย์เห่เรือ จึงเป็นการศกึ ษาความอจั ฉริยะใน
การใช้ภาษาของกวี ความงดงามของขบวนพยุหยาตราทาง
ชลมารค และภาพสะทอ้ น

หนว่ ย ชื่อหน่วย มาตรฐาน / สมรรถนะการเรียนรู้

ที่ ตวั ชี้วดั

6 ซึ้งซาบ ท 5.1 ม.4 – 6 /2 ข

กาพย์เห่เรอื (ตอ่ ) ท 5.1 ม.4 – 6 /3 ท

ท 5.1 ม.4 – 6 /4 อ

ท 5.1 ม.4 – 6 /5

ท 5.1 ม.4 – 6 /6

รวม

คะแนนสอบ กลางภาค และปลาย

รวมทั้งหมด

สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนกั

ชว่ั โมง คะแนน

ของสังคมในสมัยอยุธยา อักทั้งยังเป็นการสร้างสุนทรียภาพ

ทางกวี ผ่านความงดงามทางภาษา แก่ผู้เรียนให้เกิดจากการ

อา่ นเน้อื เรือ่ ง และอ่านทำนองเสนาะ

ยภาคเรยี น 40 60
40
100


Click to View FlipBook Version