The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงาน วัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรมสากล

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by saengsuwan07, 2021-10-22 01:53:51

รายงาน วัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรมสากล

รายงาน วัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรมสากล

วฒั นธรรมไทยและวฒั นธรรมสากล

พชั ราภรณ์ แสงสุวรรณ กลุ่ม 23 เลขท่ี 10
พมิ ลพา กองอรรถ กลุม่ 23 เลขที่ 11

รายงานนเ้ี ปน็ ส่วนหน่งึ ของการศกึ ษาวิชาการการคน้ ควา้ และการเขียนรายงานเชิงวิชาการ
ภาควชิ าวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์
มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564





คำนำ

รายงานฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อการเขียนรายงานอย่างถูกต้องและสมบูรณ์ และเป็นส่วนหนึ่งของ
การศึกษารายวิชาการศึกษาค้นคว้าและการเขียนรายงานเชิงวิชาการ ยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ใน
อีกหลายรายวิชาที่มีการเขียนรายงาน รานงานฉบับนี้ที่ผู้จัดทำเลือกคือ “วัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรม
สากล” ในปัจจุบันมีการรับวฒั นธรรมมากมาย และยังมีการเผยแพร่วัฒนธรรมอีกด้วย จึงได้จัดทำขึ้นเพือ่
ศึกษาความเป็นมาของวัฒนธรรม และความรู้อีกมากมาย ดังนั้น จึงมีความจำเป็นอย่างมากที่จะนำเสนอ
รานงานฉบับน้ี ใหท้ ุกคนได้รบั ความรอู้ ย่างถกู ต้องของวฒั นธรรม

รายงานเล่มน้ีกล่าวถึงเนื้อหาเกี่ยวกับความหมายของวัฒนธรรม ความสำคัญ ลักษณะ การเลือกรับ
วฒั นธรรม สำหรับผู้ทตี่ ้องการทราบเกยี่ วกบั วฒั นธรรมไทยและวฒั นธรรมสากล

ขอขอบคุณผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. พนิดา สมประจบ ที่กรุณาให้ความรู้และให้ความแนะนำในการ
เขียนรายงานมาโดยตลอด และต้องขอขอบคุณสื่อออนไลน์และห้องสมุดออนไลน์หรือสำนักวิทยบริการ
ของมหาวิยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ทีใ่ ห้ความรู้ความเข้าใจในการหาข้อมูลในการทำเล่มรายงานนี้
รวมไปถึงขอขอบคุณท่านเจ้าของหนงั สือที่ผู้จดั ทำรายงานได้อ้างองิ ถึง หากมีสิ่งผิดพลาดประการใด คณะ
ผจู้ ัดทำขอน้อมรับไวเ้ พ่ือปรบั ปรุงแกไ้ ขต่อไป

คณะผูจ้ ัดทำ
14 ตุลาคม 2564



สารบัญ ค

คำนำ หน้า
สารบัญภาพประกอบ
บทท่ี ค
1 บทนำ จ

1.1 ความหมายของวัฒนธรรมไทย 1
1.1.1 องคป์ ระกอบของวัฒนธรรม
1.1.2 ประเภทของวฒั นธรรม 1
2
1.2 ความสำคญั ของวัฒนธรรมไทย 3
1.3 ลักษณะของวฒั นธรรมไทย 3
2 วฒั นธรรมสากล 5
2.1 ความหมายของวัฒนธรรมสากล 9
2.2 การเลอื กรับวัฒนธรรมสากล 10
10
2.2.1 ข้อดีและข้อเสขี ของการรับวัฒนธรรม 11
3 อิทธิพลและประเพณี 17
18
3.1 อิทธพิ ลของวฒั นธรรมสากลต่อสังคมไทย 18
3.1.1 ปัจจยั ท่มี ผี ลเกอื้ หนนุ ต่อวฒั นธรรม 19
19
3.2 ประเพณีไทยและสากล 22
3.2.1 ประเพณีไทย 31
3.2.2 ประเพณสี ากล

4 บทสรปุ



สารบัญภาพประกอบ จ

ภาพ หน้า
ท่ี
1 ครอบครวั 2
2 การอย่รู ่วมกนั ในสังคม 2
3 การไหว้ 4
4 วฒั นธรรมสากล 17
5 การเรยี นรู้ 17
6 ประเพณี 19
7 ประเพณโี กนจุก 21
8 ประพณีลอยกระทง 21
9 วนั ขึน้ ปใี หม่ 22
10 เทศกาลโฮล่ี 23
11 วินเทอรไ์ ลท์ 24
12 เทศกาลนำ้ แข็งเมอื งฮาร์บิน 24
13 เทศกาลบอลลูน 25
14 เทศกาลเผาหุ่น 26
15 เทศกาลโคมไฟผงิ ชี 26
16 งานคารน์ วิ ลั 27
17 อ็อกโทเบอร์เฟสต์ 27
18 เทศกาลชา้ ง 28
19 เทศกาลอฐู เมืองพชุ คาร์ 28





บทที่ 1

บทนำ

ปัจจุบนั การแพร่หลายของวัฒนธรรมเพิม่ มากข้ึน วัฒนธรรมต่างชาติได้เขา้ มามีบทบาทในสังคมไทยของเราขึ้นซึ่ง
เราอยากให้ทุกคนได้รับความร้เู ก่ียวกับวัฒนธรรมต่าง ๆ และนำไปดำเนินในชีวติ ได้อยา่ งเหมาะสม

1.1 ความหมายของวัฒนธรรมไทย

วัฒนธรรมไทยได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรม อินเดีย จีน และขอม ตลอดจนวิญญาณนิยม ศาสนาพุทธ และ
ศาสนาฮินดู วัฒนธรรมหมายถึง วิถีการดำรงชีวิตที่ดีงาม ความคิด ความเชื่อต่าง ๆ ค่านิยม จารีตประเพณี พิธีกรรม
และภูมิปัญญา ซึ่งสังคมไทยได้ร่วมกันสร้างสรรค์ สั่งสมสืบทอดตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ปรับปรุง
ปรับแก้ไขให้เกิดความสมบรู ณ์ของวัฒนธรรมเพื่อที่จะให้เกิดความเจริญงอกงามแกผ่ ู้คณะและคนในสังคมท้องถ่ินต่าง ๆ
ทั้งทางด้านจิตใจ และด้านวัตถุเป็นผลิตผลของมนุษย์ในอดตี ตกทอดมาใหค้ นรุ่นใหม่ไดส้ านต่อและยังนำไปดำเนนิ ไดใ้ น
ชีวิตประจำวัน วัฒนธรรมในแตล่ ะท้องถ่ินยังคงแสดงถงึ เอกลักษณ์ที่ดงี ามของสังคมในท้องถิ่นนนั้ ๆ วัฒนธรรมดำรงอยู่
ได้เพราะการศึกษาเรียนรู้ของมนษุ ย์สามารถศึกษาหาความรู้ไดต้ ลอดไม่มีการสิ้นสุดตัง้ แตอ่ ดีตจนถึงปัจจุบันมนุษย์ยังมี
ความคิดสร้างสรรคพ์ ัฒนาส่ิงใหม่ ๆ นำมาประยุกตใ์ ชไ้ ด้ในชีวติ ประจำวนั

คนไทยเน้นและการให้คุณค่าในรูปแบบมารยาทเพื่อรักษาความสัมพันธ์เป็นรูปแบบที่คนส่วนใหญ่ปฏิบัติกันและ
สืบทอดมายาวนานสังคมไทยเป็นสังคมที่เผชิญหน้าที่เลี่ยงการวิจารณ์ในทีส่ าธารณะการเสียหน้าเปน็ ความเสื่อมเสยี แก่
คนทอดมายาวนานสังคมไทยเปน็ สังคมทีเ่ ผชิญหนา้ ทีเ่ ลีย่ งการวิจารณ์ในที่สาธารณะการเสียหน้าเปน็ ความเส่ือมเสียแก่
คนไทยจงึ เลย่ี งการเผชญิ หน้าและมุ่งประนปี ระนอมในสถานการณล์ ำบาก หากทั้งสองฝา่ ยเกิดความไมเ่ ห็นดว้ ย การไหว้
เป็นการแสดงความทักทายและแสดงความเคารพของผู้น้อยต่อผู้ใหญ่ตามประเพณีและมีแบบพิธีเข้มงวด คนไทยใช้ชื่อ
ต้นไม่ใช้นามสกุล และใช้คำว่า “คุณ” ก่อนชื่อ คนไทยยังมีการเคารพแบบลำดับขั้นตอน ความสัมพันธ์ที่นิยามได้ว่า
บคุ คลหน่งึ สูงกวา่ อกี คนหนงึ่ พอ่ และแม่สงู กว่าลูก ครอู าจารย์สงู กวา่ นักเรียนนกั ศึกษา เม่ือคนไทยพบคนแปลกหน้า จะ
พยายามจัดให้อยู่ในลำดับช้ันทันทีเพื่อให้ทราบวา่ ควรปฏิบัติด้วยอย่างไรเป็นต้น วัฒนธรรมรวมทุกสิ่งทุกอย่างทีม่ นุษย์
สร้างขึ้นมาด้วยความคิดความเข้าใจของมนุษย์ นับตั้งแต่ภาษา ขนบธรรมเนียมประเพณี ศาสนา กฎหมาย ศิลปะ
จริยธรรม ตลอดจนวิทยาการและเทคโนโลยีต่าง ๆ อาจกล่าวได้ว่าวัฒนธรรมเป็นเครื่องมือที่มนุษย์ คิดค้นข้ึนมาเพื่อ
ช่วยให้มนุษย์สามารถดำรงชีวิตอยู่ต่อไปได้ เพราะการที่มนุษย์จะดำรงชีพอยู่ได้มนุษย์จะต้องรู้จักใช้ประโยชน์จาก
ธรรมชาติและจะต้องมีการรู้จักควบคุมความประพฤติของมนุษย์ด้วยกันเอง วัฒนธรรมคือคำตอบที่มนุษย์ในสังคมคิด
ขึน้ มาเพ่อื ทีจ่ ะแก้ไขปัญหาเหล่าน้ี ตอ้ งรู้จกั ควบคุมให้ได้ คดิ ใหเ้ ป็น ทำความเข้าใจอยเู่ สมอ

2

เน้อื หาของวฒั นธรรมคือ วฒั นธรรมเปน็ พฤตกิ รรมทเี่ กดิ จากการเรยี นรู้ของมนุษย์, วัฒนธรรมมลี ักษณะเป็นสิ่ง
เหนอื อินทรยี ์ (superorganic), วฒั นธรรมเปน็ มรดกทางสังคม, วัฒนธรรมเปน็ แบบแผนของการดำเนินชีวิต

ครอบครัวเป็นเสาหลักของสังคมไทยและชีวิตครอบครัวมักอยู่ใกล้ชิดกว่าวัฒนธรรมตะวนั ตก ครอบครัวไทยเป็น
ลำดับชัน้ ทางสังคมอย่างหนึ่ง และเด็กถูกสอนให้เคารพบิดามารดา สงั คมคาดหวังให้สมาชิกครอบครัวดูแลผู้อาวุโสและ
บา้ นพักคนชราและโรงพยาบาลเป็นทางเลือกสดุ ท้าย คนชรามกั อยบู่ ้าน อย่กู บั ครอบครัวและหลานและเกีย่ วข้องในชีวิต
ครอบครัว

ภาพท่ี 1 ครอบครวั (ผจู้ ดั การออนไลน์, 2562 : ออนไลน์)
วัฒนธรรมในปัจจุบันก็ยังคงเป็นสิ่งที่มีความเจริญงอกงามอยากที่จะให้คนรุ่นยุคปัจจุบันได้รับไปประยุกต์ใช้ใน
ชีวิตประจำวันของเราได้ ตามที่กล่าวมาคือยังสามารถที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ออกมาได้ตลอดไม่มีการสิ้นสุด การ
เรียนรู้ก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นเดียวกับความคิดจิตใจของเรา วัฒนธรรมเป็นสิ่งที่สั่งสมตั้งแต่อดีตมาจนถึงของยุคปัจจุบัน
และเปน็ ที่ทราบกันดีอยู่แล้ววา่ วฒั นธรรมตา่ ง ๆ มแี คใ่ นสังคมมนุษยเ์ ท่านัน้ สตั วจ์ ะไม่มีวัฒนธรรมเหมือนมนุษย์หรือไม่
สารถที่จะสร้างวัฒนธรรมขึ้นมาได้ แต่มนุษย์มีวัฒนธรรมหรือสามารถสร้างวัฒนธรรมขึ้นมาได้ สาเหตุนั้นมาจากการ
เปรียบเทียบสัตว์ ในการมองสิ่งต่าง ๆ มีความสามารถใช้มือและนิ้วอย่างอิสระ มีความคิดที่สามารถคิดค้นเรียนรู้ได้ดี
และสามารถที่จะถ่ายทอดโดยใช้ภาษาพูดและภาษาเขียน มีความจำ มีการทดลองและยังประดิษฐ์สิ่งต่าง ๆ มากมาย
รวมทงั้ ยงั สามารถปรบั ตัวให้เขา้ กบั สงั คมหรือการอยูร่ ่วมกนั ไดด้ ี ส่งิ เหลา่ นีจ้ งึ ทำให้มนษุ ยแ์ ตกต่างจากสัตว์

ภาพที่ 2 การอยูร่ วมกนั ในสังคม (สำนักงานกองทนุ สนับสนนุ การสร้างเสรมิ สขุ ภาพ, 2557 : ออนไลน)์

1.1.1 องคป์ ระกอบของวัฒนธรรม
วฒั นธรรมเปน็ ผลมาจากการท่ีมนุษย์ได้เข้าควบคุมธรรมชาตแิ ละพฤติกรรมของมนุษย์ ทำใหต้ ้องมีการจัดระเบียบ

ทางสังคม ระบบความเชื่อ ศิลปกรรม ค่านิยมและวิยาการต่าง ๆ อาจแยก องค์ประกอบของวัฒนธรรมได้เป็น 4
ประการ

3

องคม์ ติ (Concept) บรรดาความคิด ความเชอ่ื ความเขา้ ใจ ความคดิ เห็น ตลอดจนอุดมการณ์ตา่ ง ๆ

องคพ์ ธิ กี าร (Usage) หมายถงึ ขนบธรรมเนียม ประเพณที ่แี สดงออกในรูปพธิ กี รรม

องค์การ (Organization) หมายถงึ กลมุ่ ที่มีการจดั อยา่ งเป็นระเบยี บหรือมโี ครงสรา้ งอย่างเป็นทางการ มกี ารวาง

กฎเกณฑร์ ะเบียบข้อบงั คับและวัตถปุ ระสงคไ์ ว้อย่างแนน่ อน

องคว์ ตั ถุ (Instrumental and Symbolic Objects) ได้แก่ วฒั นธรรมทางวตั ถทุ ัง้ หลาย เชน่ บา้ น โบสถ์ วิหาร

รวมตลอดถึงเครื่องมอื เครือ่ งใช้

1.1.2 ประเภทของวัฒนธรรม
วัฒนธรรมทางวตั ถุ (Material Culture) หมายถึง สิ่งของหรือวัตถุอันเกิดจากความคดิ และการประดษิ ฐ์ขึ้นมา
ของมนุษย์, วัฒนธรรมที่ไม่ใช่ทางวัตถุ (Non-material) หมายถึง วัฒนธรรมที่แสดงออได้โดยทัศนะ ประเพณี
ขนบธรรมเนยี ม การปฏบิ ัตสิ บื ต่อกันมาและเป็นทีย่ อมรับในกล่มุ ของตน ว่าดีงามเหมาะสม

1.2 ความสำคญั ขอวฒั นธรรม
วัฒนธรรมมีความสำคญั เปน็ อยา่ งมากต่อสังคมไทย คือ ทำใหเ้ กดิ ความสมามัคคีความเป็นอันหน่ึงอันเดียวกัน

สังคมที่มีวัฒนธรรมเดียวกันจะมีความผูกพันกันมาก เกิดความเป็นปึกแผ่น เป็นเครื่องสร้างระเบียบแก่สังคม เป็น
การกำหนดพฤติกรรมของสมาชิกในสังคมไทย ให้มีระเบียบแบบแผนที่ดีชัดเจนมากขึ้นรวมไปถึงผลของการแสดง
พฤตกิ รรมตลอดจนถึงการสร้างแบบแผนของสังคมทำให้ความคิด ความเชือ่ และค่านิยมของสมาชิกใหอย่ใู นรูปแบบ
เดียวกันและวัฒนธรรมทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ มากมาย สังคมที่มีวัฒนธรรมเดียวกันย่อมที่จะมี
ความ จงรักภักดีและอุทิศตนให้กับสังคมทำให้สังคมนั้นอยู่รอด วัฒนธรรมยังเป็นตัวกำหนดสถาบัน เช่น สถาบัน
ครอบครัวของแต่ละสังคมต่างกันไปอย่างสิ้นเชิง ทั้งนี้เนื่องจากวัฒนธรรมในสังคมเป็นตัวที่กำหนดรูปแบบ เช่น
วัฒนธรรมไทยกำหนดรูปแบบความสัมพันธ์ของครอบครวั เปน็ แบบสามภี รรยาเดียว ในสังคมอื่นเขาอาจมีภรรยาได้
หลายคนหรือหญิงอาจมีสามีได้หลายคน เป็นต้น และวัฒนธรรมยงั เปน็ เครื่องช่วยในการแกป้ ัญหาและสนองความ
ตอ้ งการของมนุษย์ มนษุ ย์ไมส่ ามารถดำรงชีวิตภายใต้ส่ิงแวดล้อมได้อยา่ งสมบรู ณ์ ดงั น้ันมนษุ ย์ต้องแสวงหาความรู้
ความคิดสร้างสรรค์ที่ตนได้รับ การประดิษฐ์คิดค้นสิ่งต่าง ๆ ที่นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุดในชีวิตประจำวัน
และทำมาเพื่อสนองความตอ้ งการของมนุษย์ใหม้ ากทสี่ ดุ

วัฒนธรรมช่วยให้ประเทศชาติก้าวหน้าหากสังคมใดมีวัฒนธรรมที่ดีงามเหมาะสม เช่น ความมีระเบียบวินัย
ขยัน ประหยัด อดทน การเหน็ ประโยชนส์ ว่ นรวมมากกว่าสว่ นตน สงั คมน้นั ยอ่ มที่จะเจริญกา้ วหน้าได้อย่างรวดเร็ว
และวัฒนธรรมเป็นเครื่องแสดงเอกลักษณ์ของชาตทิ ี่แสดงให้เห็นว่าสงั คมไทยแตกตา่ งจากสังคมอื่น เช่นวัฒนธรรม

4

ทางด้านการทักทาย คนไทยทักทายกันด้วยการยกมือไหว้ สังคมญี่ปุ่นใช้การโค้งคำนับเป็นการทักทาย สังคมทาง
ตะวันตกใชก้ ารจับมือ

ภาพท่ี 3 การไหว้(วัยร่นุ -M Thai, 2563 : ออนไลน์)
วัฒนธรรมการไหว้ของคนไทยแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมการไหว้ของสังคมไทยเป็นสิ่งที่ดีงามและยังเป็น
เอกลักษณ์ของสังคมไทยอีกด้วยการไหว้เป็นการทักทายที่น้อมนอบสวยงามถือได้ว่าการไหว้เป็นความสำคัญของ
สังคมไทยเป็นอย่างมาก"ไปลา-มาไหว้” มารยาทไทยที่เป็นวัฒนธรรมการทักทายเวลาพบปะกันหรือลาจากกัน"การ
ไหว้”เป็นการแสดงถึงความมีสัมมาคารวะและการให้เกียรติซึ่งกันและกันนอกเหนือจากการกล่าวคำว่า
"สวัสดี” ศาสตราจารย์ ดร.กาญจนา นาคสกุล ราชบัณฑิต ได้เคยเขียนเรือ่ งนี้ไว้ว่า คนไทยเป็นคนที่มีอุปนิสัยอ่อนนอ้ ม
มีสัมมาคารวะ การไหว้เป็นการแสดงความมีสัมมาคารวะอย่างหนึ่ง และเป็นธรรมเนียมการทักทายและแสดงความ
เคารพ เมื่อจะไปโรงเรียนและเมือ่ กลับจากโรงเรียนมาถึงบ้านลูกจะไหว้พ่อแม่ถ้ามีผู้ปกครองก็ไหวผ้ ู้ปกครอง เมื่อไปถึง
โรงเรียนและเมื่อกลับจากโรงเรียนเด็กจะไหว้ครู การไหว้ทำให้ผู้ใหญ่รักและเอ็นดู คนที่พบเห็นก็ชื่นชม ในภาษาไทยมี
คำกล่าวถึงผู้ที่มีสัมมาคารวะและได้รับการอบรมมรรยาทให้รู้จักไหว้ว่า รู้จัก "ไปลามาไหว้” หมายความว่า เมื่อมาถึงก็
ไหว้ เมื่อจะไปก็ลา วัฒนธรรมในเรื่องของการไหว้นั้น มีความเป็นมาอย่างไร ไม่มีหลักฐานที่ระบุไว้แน่ชัด นายพะนอม
แก้วกำเนิด อดีตเลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น กรมส่งเสริมวัฒนธรรม) ได้ให้
ความเห็นว่า การไหว้นั้นเกิดจากธรรมชาติของมนุษย์ที่จะแสดงความรัก ความเคารพต่อกัน เนื่องจากมนุษย์มีสมอง มี
พฒั นาการที่แตกต่างจากส่ิงมชี ีวิตอ่ืน ๆ จึงมีความคิดว่าทำอยา่ งไรจะมีชวี ิตความเปน็ อยู่ทดี่ ีขึ้น จะกินอาหารอย่างไรจึง
จะดีต่อสุขภาพ แต่งตัวอย่างไรจึงจะเหมาะสม ที่อยู่อาศัยทำอย่างไรจึงจะปลอดภัย รวมไปถึงเมื่อเจอกันจะทักทาย จะ
แสดงความรักต่อกันอย่างไรดี โดยธรรมชาติแล้วการสัมผสั ถูกเนื้อต้องตวั กัน เป็นภาษาท่าทางท่แี สดงออกถึงความรักที่
มีตอ่ กนั สัตวเ์ ลี้ยงอย่างสนุ ัขหรือแมวมักจะแสดงความรักกบั เจ้าของด้วยการเข้ามาสัมผัสคลอเคลยี ด้วย มนุษย์ก็เช่นกัน
ที่มีการแสดงความรักต่อกันด้วยการโอบกอด หลายประเทศทางยุโรปใช้การสัมผัสมือเมื่อพบกัน บางประเทศใช้แก้ม
สัมผัสกัน ใช้หน้าผากสัมผัสกัน หรือใช้จมูกสัมผัสกันก็มี แต่ทางแถบเอเชียนัน้ การสัมผัสถูกเนื้อต้องตัวผู้อื่นนั้นถอื ว่าไม่

5

สุภาพนักคนทางแถบเอเชียจึงใช้การสัมผัสตัวเองเป็นการแสดงการทักทายหรือทำความเคารพเช่นชาวจีนใชม้ ือทั้งสอง
ข้างสัมผัสกันเพื่อแสดงการคารวะ อินเดียใช้ฝ่ามือทั้งสองประนมประกบกันเหมือนดอกบัวตูมเพื่อแสดงความเคารพ
และบูชาของไทยเรานา่ จะรบั วฒั นธรรมน้มี าจากอนิ เดียนำมาปรบั ปรนให้เหมาะกบั วิถชี ีวิตของคนไทยจงึ เกิดเปน็

วฒั นธรรมการไหว้ที่แบ่งเปน็ ระดบั ต่าง ๆ ขน้ึ มา โดยใชม้ อื กับใบหนา้ เป็นตวั แบ่งระดบั "การไหว้” เป็นภาษาทา่ ทางท่ีใช้
แสดงความเคารพทักทาย โดยการยกมือสองข้างประนมพร้อมกับยกขึ้นไหว้ในระดับต่าง ๆ นอกจากนี้ยังแสดงออกถึง
ความหมายของ การขอบคุณ การขอโทษ การยกย่อง การระลึกถึง และอีกหลายความหมายสุดแท้แต่โอกาส การไหว้
เป็นการแสดงมิตรภาพ มิตรไมตรี ที่เป็นขนบธรรมเนียมประเพณี เป็นวัฒนธรรมที่งดงาม รวมทั้งเป็นสิ่งที่แสดงถึง
เอกลักษณ์ และเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของคนไทย ที่ปัจจุบันกำลังเลือนหายและถูกละเลยอย่างน่าเสียดายประเทศ
ไทยซึ่งเคยได้ช่ือวา่ มวี ัฒนธรรมท่ีงดงามเป็นดินแดนแห่งรอยยิ้ม (Land of Smile) ทีผ่ ู้คนร้จู ักไปทวั่ โลก กำลังสูญเสียสิ่ง
เหล่านไ้ี ป ทั้งทก่ี ารไหว้เป็นมารยาทแบบไทย ๆ ทเี่ ราคุ้นเคยกันมาตั้งแต่เด็ก เมอ่ื พดู ถงึ เรื่องการไหว้ หลายคนคิดว่าเป็น
เรื่องที่น่าเบื่อ ไม่ทันสมัย อายที่จะปฏิบัติ หรือไม่ก็กลัวว่าจะไหว้ผิดบ้าง กลัวถูกมองว่าประหลาดบ้าง แต่ในความเป็น
จริงแล้วเรื่องของมารยาทไทยนั้นไม่มีคำว่าผิดหรือถูก มีแต่ความนุ่มนวล สวยงามหรือไม่เท่านั้น ดังนั้นวิธีการปฏิบัติจึง
เปน็ เพยี งแนวทาง ทผ่ี ้ปู ฏิบตั ิสามารถนำไปปรบั ปรน ประยุกต์ใช้ใหเ้ หมาะสมกับเวลาและสถานที่

มารยาทในการไหว้ เป็นวฒั นธรรมไทยท่คี นรุ่นใหมอ่ าจจะมองขา้ มไป ดว้ ยเหตุผลหลายประการ แตโ่ ดยสำนกึ ของ
ความเปน็ คนไทยแล้ว เช่ือวา่ ในสว่ นลึกของจติ ใจทกุ คน ยังเห็นสิ่งนี้เป็นสิ่งดงี ามอยู่ เพยี งแต่ กระแสวัฒนธรรมตะวนั ตกท่ี
เขา้ มาทางสอ่ื ต่าง ๆ ถาโถมมาอย่างมากมาย จนทำให้เยาวชนของเราหลงใหลไปบา้ ง ทำให้หลงลมื สงิ่ ดงี ามท่ีเป็นมรดก
ทางวัฒนธรรมไปปจั จบุ ันจะเห็นว่าหลายหน่วยงานหนั กลบั มาใหค้ วามสนใจความเป็นไทยมากข้นึ เห็นได้ชดั ตาม
ห้างสรรพสนิ คา้ หรอื รา้ นสะดวกซ้อื ที่มอี ยู่มากมาย ที่พนกั งานไหวแ้ สดงการต้อนรบั และขอบคณุ ลูกค้า ถึงแมจ้ ะไหว้ไดถ้ ูก
บา้ งไม่ถูกบา้ ง ไหวไ้ ด้สวยบา้ งไมส่ วยบ้าง แต่ก็ทำให้เกดิ ความร้สู ึกอบอนุ่ เปน็ กนั เองเสมือนญาติพีน่ ้องกนั มากข้ึน

1.3 ลกั ษณะของวัฒนธรรมไทย

วัฒนธรรมเกิดจากการเรียนรู้วัฒนธรรมนั้นไม่ใช่สิ่งที่ติดตัวมนุษย์มาตั้งแต่ กำเนิดและไม่ใช่สิ่งที่ถ่ายทอดทาง
พนั ธุกรรมได้ เช่นการสร้างทอี่ ย่อู าศัยของมนุษย์ย่อมแตกต่างไปจากรงั ของผ้ึงเพราะผ้ึงสร้างรงั โดยสญั ชาตญาณที่เป็นไป
เองตามธรรมชาติ โดยไม่ต้องมีการเรียนรู้หรือไม่ต้องมีการสั่งสอน แต่การสร้างที่อยุ่อาศัยของมนุษย์นั้นเกิดจากการ
เรียนรเู้ กดิ จากความคิดของมนุษยใ์ นสังคมน้นั ๆมนุษย์ลว้ นหาความรมู้ ีความคิดสร้างสรรค์อยู่เสมอการเรียนรู้ของมนุษย์
ไม่มีการส้นิ สดุ

วัฒนธรรมเป็นมรดกของสังคม ในแต่ละสังคมอาจจะมีวัฒนธรรมที่แตกต่างกันออกไป วัฒนธรรมนั้นเป็นผลของ
การถ่ายทอดของสมาชกิ ในสังคมรนุ่ หนงึ่ ไปสู่อีกรุ่นหน่ึง สบื มาเปน็ ทอด ๆ การถา่ ยทอดนน้ั ตอ้ งใชเ้ วลา และมีสอ่ื กลางใน
การสื่อสารนั่นคือการใช้ภาษาช่วยให้มนุษย์ได้แสดงความรู้สึกนึกคิดและสามารถเข้าใจผู้อื่นได้ ช่วยให้การถ่ายทอด
วัฒนธรรมสบื ต่อมาเปน็ มรดกทางสงั คม

6

วัฒนธรรมเปน็ แบบแผนในการดำรงชีวติ บคุ คลที่เกิดมาในสังคมใดสังคมหนึ่งกต็ ้องเรียนร้วู ัฒนธรรมของสังคมนั้น
ๆ ซึ่งวัฒนธรรมในสังคมจะมีความแตกต่างกันออกไป มีวัฒนธรรมทีไ่ ม่เหมือนกัน ซึ่งต้องอาศัยการเรียนรู้ของมนษุ ย์ใน
สังคมนัน้ ๆ และไม่สามารถทจี่ ะนำมาเปรยี บเทยี บได้วา่ วฒั นธรรมในสงั สังนน้ั อันไหนจะดกี ว่ากัน เพราะวา่ แต่ละ

วัฒนธรรมยอ่ มมีความเหมาะสมไปตามสภาพแวดล้อมของสังคมนั้น เช่น วัฒนธรรมไทยก็มแี บบแผนการดำเนินชวี ิตใน
ลกั ษณะหน่งึ ไม่ว่าจะเป็นด้านการทักทายหรือจะเปน็ การแต่งกาย อาหารการกิน ความเป็นอยู่ในแตล่ ะสังคม ซึ่งแตกตา่ ง
จากวฒั นธรรมชาวญป่ี นุ่ ดงั นัน้ วถิ ขี องไทยและของญี่ปุ่นจะมีความแตกต่างกนั ออกไปในลกั ษณะของตน

วัฒนธรรมเป็นสิ่งที่เปล่ียนแปลงได้ตลอดเวลา เปลี่ยนจากความคิดค้นของมนุษย์ มีการคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ หรือ
ปรับปรงุ วฒั นธรรมท่มี อี ยู่แล้วใหด้ ขี ึ้นทนั สมัยข้ึนกวาเดิมเปลีย่ นให้เหมาะกับสถานการณต์ ่าง ๆ จึงทำให้วฒั นธรรมมีการ
เปลย่ี นแปลงอยเู่ สมอตลอดเวลา

วัฒนธรรมมีลกั ษณะเปน็ การแสดงถงึ รูปแบบของความคิด ในการแสดงถึงพฤติกรรมของมนุษย์ เปน็ ผลมาจากการ
ช่วยกันกำหนดรูปแบบของความคิดในการแสดงพฤติกรรมของสมาชิกในสังคม โดยที่สมาชิกมีการรับรู้ร่วมกัน และมี
การประพฤตติ ามแนวคิดนัน่

วัฒนธรรมมิใช่ของผู้ใดผู้หนึ่ง วัฒนธรรมนั้นเป็นของส่วนรวมทุกคนสามารถปฏิบัติร่วมกันได้ วัฒนธรรมซึ่งเกิด
จากที่มนุษย์อยู่ร่วมกันในสังคม และสร้างรูปแบบในการดำเนินชีวิตในสังคมร่วมกัน วัฒนธรรมจึงไม่ใช่สิ่งที่สมาชิกใน
สงั คมคนใดคนหนึง่ ยอมรับและปฏิบตั ิเท่านั้น





บทท่ี 2

วฒั นธรรมสากล

วัฒนธรรมสากล ส่วนใหญ่มาจากวัฒนธรรมทางฝั่งตะวันตกหรือทางฝั่งยุโรป ที่เป็นพฤติกรรมที่คนต่าง
วัฒนธรรมเห็นกันว่าควรมาปรับใช้ในบางอย่างหรือบางพฤติกรรมที่เป็นสากลแล้วอาจจะดูไม่สุภาพในบางเชื้อชาติก็
เป็นได้ ถือว่าเป็นแนวทางในการเรียนรู้วัฒนธรรมต่างชาติเพื่อประโยชน์ในการทำตัวให้สอดคล้องเวลาที่เราไปเยือน
ดนิ แดนของเขา เชน่

1.การนงั่ ไขว่หา้ ง ชาวอาหรับถอื วา่ เปน็ กิริยาที่น่ารงั เกยี จมาก ท่ีน่ังยน่ื เทา้ ขา้ งหนง่ึ ไปข้างหน้าต่อหน้าคู่สนทนา เท้าควร
วางราบไปกบั พนื้ ทัง้ สองข้างจงึ จะเป็นการสุภาพมากกวา่

2. การให้นามบัตร นามบัตรที่ดีไม่ควรที่จะพิมพ์อักษรย่อ ด้านหลังของนามบัตรควรพิมพ์รายละเอียดที่ติดต่อได้เป็น
ภาษาองั กฤษ การพิมพย์ ศหรือตำแหน่งเปน็ เรื่องท่ีควรกระทำเพราะเป็นการสรา้ งความประทบั ใจแกผ่ ู้ทไี่ ดร้ บั ขณะที่เรา
ย่นื นามบตั รใหผ้ ใู้ ด ไม่ควรย่นื ด้วยมือซ้าย ประเทศญ่ีปุ่นเมื่อจะมอบนามบัตรให้ใคร จะย่นื ให้ทง้ั สองมือ ถือเป็นการมอบ
ใหผ้ ู้อืน่ อย่างเต็มใจ

3. การสนทนาด้วยเรื่องทั่ว ๆ ไป เป็นหัวข้อที่ควรกระทำก่อนสนทนาเรื่องของธุรกิจอย่างจรงิ จังชาวญี่ปุ่นถือเป็นธรรม
เนยี มท่ตี อ้ งปฏบิ ตั ใิ หค้ วามรสู้ ึกท่ดี ีโดยนยิ มดื่มน้ำชากนั ก่อนวกเขา้ หาเร่อื งของธุรกิจต่อไป

4. การสวมกอด การสวมกอดกนั เปน็ เรื่องธรรมดาสามญั ของชนประเทศแถบละตนิ อเมริกาและชาวสลาฟโดยทว่ั ไป เช่น
ชายกอดชาย หญิงกอดหญิง เป็นรูปแบบแสดงความยินดีต่อกันเปรียบได้กับการสัมผัสมือของชาวตะวันตก อย่างไรก็
ตามธรรมเนียมดังกล่าวนี้หากเป็นชาวต่างชาติอื่น ๆ การจะกระทำกิริยาดังกล่าวต้องใคร่ครวญอย่างรอบคอบและดู
ความเหมาะสมดว้ ย

5. การสบตา ชาวตะวนั ออกกลาง ชาวสเปน และชาวยโุ รป นยิ มมองสบตาเมื่อสนทนากัน ส่วนชาวเอเชียโดยเฉพาะชาว
ญ่ีปนุ่ การมองสบตาถือเปน็ การไมส่ ุภาพและอาจทำให้คูส่ นทนาไม่พอใจได้

6. การใชม้ ือ ชาวตะวนั ออกกลางและชาวตะวนั ออกไกลถือวา่ การช้นี วิ้ เป็นกริ ยิ าที่ไมส่ ุภาพ การผายมอื ควรเป็นสิ่งท่ีควร
กระทำมากกวา่ ขณะเดียวกันการยกหัวแมม่ ือข้นึ ถือเปน็ กิรยิ าท่ีไมส่ ภุ าพสำหรบั ชาวออสเตรเลยี การใช้น้ิวหัวแม่มือและ
นิ้วชี้ทำสัญลักษณ์เป็นวงกลมประเทศในแถบละตินอเมริกันถือเสมือนว่าเป็นการให้นิ้วกลางของชนอเมริกัน และใน
ประเทศญ่ปี นุ่ หมายความวา่ เงินทอง ส่วนในประเทศฝรัง่ เศสหมายถงึ ความไร้สาระ

10

7. การสมั ผสั มอื ชาวอาหรบั ชาวสเปนหรอื อเมริกาใต้ และชาวกรซี นิยมสัมผสั มอื หลาย ๆ ครงั้ ระหว่างพบปะสนทนา
กัน ชาวฝรง่ั เศสจะสัมผัสมอื เพียงเบา ๆ และรวดเรว็ และไม่นิยมสมั ผัสมือกบั ผอู้ าวุโสกว่า ชาวเยอรมันนยิ มสมั ผัสมือกับ
ทกุ คนท้ังเม่ือแรกพบและลาจากกนั และในการสนทนาทั่วไปท่ีไม่เป็นทางการนน้ั สภุ าพบุรุษจะสมั ผัสมือกับสุภาพสตรี
ไดต้ ่อเมื่อได้สมั ผสั มือผอู้ าวุโสในงานน้นั แลว้

8. ระยะห่างของคู่สนทนา ชาวอเมริกันจะยืนสนทนาห่างกันประมาณ 1 ฟุต ถึง 3 ฟุต ชาวสเปนหรือละตินอเมริกัน
และชาวตะวันออกกลางจะยืนสนทนากันอย่างใกล้ชิด แต่ชาวเอเชียและแอฟริกันจะเว้นระยะห่างจากกันมาก
เชน่ เดียวกนั กับการยืนสนทนากับสภุ าพสตรี

2.1. ความหมายของวัฒนธรรมสากล

วฒั นธรรมสากลหรอื วฒั นธรรมนานาชาติ หมายถงึ วฒั นธรรมท่เี ป็นทย่ี อมรบั กนั ทว่ั ไปอย่างกวา้ งขวางหรือเปน็
อารยธรรมทไี่ ดร้ ับปฏบิ ตั ติ ามกันท่วั โลก เชน่ การแตง่ กายชุดสากล การใช้ภาษาองั กฤษเปน็ ภาษากลางในการ
ตดิ ตอ่ ส่อื สาร การปกครองในระบอบประชาธปิ ไตย การค้าเสรี การใชเ้ ครื่องจักรกล ระบบการสื่อสารที่ทนั สมัย ความรู้
ทางวทิ ยาศาสตร์ และมารยาทในการสมาคม เป็นต้น

2.2 การเลอื กรับวฒั นธรรมสากล

1) เลือกรบั วัฒนธรรมสากลท่จี ำเป็นตอ่ การดำเนินชีวิตประจำวนั

วัฒนธรรมสากล เช่น ภาษาอังกฤษ คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
ตลอดจนระบบระเบียบการค้าขายระหว่างประเทศ มีความสำคัญในการติดต่อสัมพันธ์ระหว่างคนไทยและคนต่างชาติ
อย่างมาก จงึ จำเป็นต้องศึกษาหาความรู้ให้ถ่องแท้ เลือกรบั เฉพาะวฒั นธรรมที่ดี เหมาะกบั สังคมไทยเพื่อเป็นประโยชน์
ต่อการดำเนินชีวิตของคนไทยในยุคปัจจบุ นั

2) พิจารณาถึงข้อดีและข้อเสียควบคกู่ นั ไป

เนื่องจากสงิ่ ประดษิ ฐ์และนวัตกรรมจากวัฒนธรรมภายนอกมที ้ังข้อดแี ละขอ้ เสีย หรอื กล่าวอนี ยั หนึง่ คือ
ก่อให้เกิดคุณอนันต์และโทษมหันต์ ซึ่งถ้าหากเราศึกษาให้ดีใช้ให้เป็นประโยชน์ก็จะก่อให้เกิดความสะดวกสบาย ช่วย
แก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที และตอบสนองความต้องการในด้านต่าง ๆ ได้ดังใจ แต่ผลเสียกม็ ีอยู่มาก เช่น ทำให้มนุษย์เกิด
ความฟุ้งเฟ้อ ให้ความสำคัญทางด้านวัตถุมากกว่าจิตใจ เกิดการแก่งแย่งแข่งขันกัน อีกทั้งส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อม
เนอื่ งจากต้องใชท้ รัพยากรธรรมชาตอิ ยา่ งมากและมีการปลอ่ ยของเสียออกมาเปน็ จำนวนมาก

3) มกี ารร่วมมอื คน้ คว้า เผยแพร่ รวมถึงการประยกุ ตใ์ ชภ้ ูมิปญั ญาไทย

โดยสืบค้นจากคำบอกกล่าวของผู้เฒ่า ผู้อวุโส และผู้รู้ จากนิยาย นิทานชาวบ้าน คัมภีย์ทางศาสนา
วรรณคดปี ระเภทต่าง ๆ คำคม สุภาษติ คำพงั เพย รวมถึงการสังเกตและเปรยี บเทียบการดำเนนิ ชีวติ ความสมั พันธ์

11

ระหว่างบุคคลในสงั คม และความสัมพันธ์กับสิง่ แวดล้อม โดยได้จัดระบบความรู้ เพื่อสร้างเป็นองค์ความรู้ขึ้น พร้อมท้ัง
เผยแพรใ่ หท้ กุ ภาคส่วนได้ตระหนักถึงความสำคัญของภูมปิ ญั ญาไทย

4) มกี ารพัฒนาและผสมผสานวัฒนธรรมไทยใหเ้ หมาะสมกบั สมยั ปัจจบุ ัน

เราจะเห็นได้วา่ ภมู ิปญั ญาไทยหลายเรื่องได้กลายเปน็ ภูมปิ ัญญาสากล เชน่ อาหารไทยไดร้ ับความนิยม
ทั่วโลก มีการผสมผสานภูมิปัญญาไทยกับภูมิปัญญาตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านสถาปัตยกรรม เช่น โบสถ์วัด
เบญจมบพิตรดุสิตวนาราม พระทนี่ ัง่ จกั รีมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวงั พระทน่ี ่งั อนนั ตสมาคม และสถาปัตยกรรม
แบบชิโน-โปรตุกีส ในจังหวัดภูเก็ต เป็นต้น การผสมผสานอย่างลงตัวของภูมิปัญญาไทยกับภูมิปัญญาตะวันตก ได้
กลายเปน็ มรดกสำคัญของวัฒนธรรมร่วมสมยั ของไทย

2.2.1 ข้อดแี ละข้อเสยี ของการรับวัฒธรรมสากล

1. ข้อดีต่อบุคคล การท่องเที่ยวเป็นกจิ กรรมพื้นฐานที่มนษุ ย์ต้องการที่สุด รัฐบาลทุกประเทศและมนษุ ย์ทุกคน
ควรส่งเสริมสนับสนุน เป็นการเปิดโลกทัศน์ทีทำให้มนุษย์มีทัศนคติที่กว้างไกล และยังป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม
ระหว่างคนในชาติ และนานาชาติ ส่งผลใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจทีด่ ีต่อกันและกัน

1.1.1 ข้อเสียต่อบุคคล การท่องเที่ยวทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมมีผลให้เกิดความสูญเสียวัฒนธรรม
ประจำชาติ และการรบั วฒั นธรรมอนั ไมพ่ งึ ประสงค์ เชน่ การแต่งกาย การกนิ อยู่ การดำรงชวี ติ ฯลฯ

2. ข้อดีต่อเศรษกิจ รายได้ที่เกิดจากกิจการท่องเที่ยวแม้ว่าจะออกมาในรูปของเม็ดเงินไม่เด่นชัดนัก แต่เป็นที่
ยอมรับกันว่า เมื่อนักท่องเที่ยว เดินทางเข้าไปเยือนสถานที่แห่งใด ๆ ก็ตาม จะต้องมีการใช้จ่ายเพื่อเป็นค่าบริการ
อาหาร ท่ีพกั อาศัย และอ่นื ๆ ซ่งึ รายได้ ดงั กล่าวในทางเศรษฐกิจเรียกว่า “ รายได้จำบัง ” ประโยชนท์ างด้านเศรษฐกิจ
ทเี่ กดิ ข้ึนจาการท่องเที่ยวจะชว่ ยให้ลดภาวะการขาดดลุ ในการชำระเงิน เนือ่ งจากการลงทนุ ทางดา้ นกิจการท่องเที่ยวจะ
ใช้เงินไม่มากนัก แต่จะได้ ผลตอบแทนออกมาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศที่กำลังพัฒนาหรือด้อยพัฒนา
จะมีวัตถุดิบเพื่อ การท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติและวัฒนธรรมอยู่มาก เมื่อมีการจัดการที่ดีจะมีนักท่องเที่ยวทั้งต่างถ่นิ
และต่างแดน เดินทางเข้ามาใช้บริการมากขึ้น นั่นหมายถึงรายได้ที่เข้าสู่ประเทศในรูปแบบหนึ่ง ในขณะเดียวกัน
ประเทศเหล่าน้ี จำเปน็ ต้องสง่ั ซอ้ื สินค้าอุตสาหกรรมเข้ามาเพ่ือพัฒนาประเทศ จงึ ทำให้เกิดภาวะขาดดลุ การชำระเงินอยู่
ในระดบั สูง รายได้ทไ่ี ดร้ ับจการท่องเทย่ี วจงึ ช่วยผอ่ นปรนและลดภาวการณข์ าดดุลการชำระเงนิ ได้ในระดบั หนึ่ง

2.1.ขอ้ เสยี ตอ่ เศรษกิจ จากการที่นักทอ่ งเทย่ี วเดินทางเข้าไปใชส้ ถานที่บริการเก่ยี วกบั การท่องเท่ียวมาก ค่าใชจ้ ่าย
ในการให้บริการสูงขึ้น ดังนั้น เมืองตากอากาศ หรือเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญจะมีค่าครองชีพสูงกว่าในบริเวณใกล้เคียง
มาก ตัวอย่าง เช่น ค่าครองชีพของเมืองพัทยา หรือภูเก็ต ซึ่งจะทำให้ประชาชนที่มีรายได้ปานกลางหรือต่ำดำเนินชีวติ
อยู่ในเมอื งพัทยาและภูเกต็ เป็นไปด้วยความยากลำบาก เปน็ ต้น

12

3. ข้อดีทางการเมือง การไปมาหาสู่กัน หรือการมีโอกาสเดินทางไปเยี่ยมเยือนกันอยู่เสมอ จะส่งผลทำให้กลุ่มชน
ตา่ ง ๆ เกิดความเขา้ ใจดีต่อกนั ถ้าหากผทู้ ่เี ขา้ มาเยือนนน้ั ไม่แสดงอาการดูถูกเหยียดหยามกลุ่มชนหรือประเทศท่ีมีความ
เจริญทางด้านวัตถุต่ำกวา่ ดังนั้น การขยายกิจการท่องเที่ยวเข้าไปสู่ภูมิภาคหรือประเทศต่าง ๆ มากเท่าไร และเมื่อมี
ชาวตา่ งถน่ิ หรือตา่ งแดนเดินทางเข้ามาท่องเทีย่ วมากขึ้น นอกจากเปน็ ลดสภาพการอยอู่ ยา่ งโดดเด่ยี วแลว้ เม่ือกลุ่มชน
เหล่านั้นมีโอกาสพบปะสังสรรค์กัน อยู่ตลอดเวลา จะทำให้ความเป็นมิตรกระชับมั่นยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อความมั่นคง
ทางดา้ นการเมืองในท้องถนิ่ ในประเทศ หรอื ระหว่างประเทศได้เชน่ กัน

3.1 ข้อเสียทางการเมือง การเดินทางของกลุ่มชนเข้าไปท่องเที่ยวต่างแดนที่เห็นความเจริญก้าวหน้าทางด้าน
การเมือง ประชากรของเขามีความเป็นอิสระและเสรีภาพสูง จึงทำให้นักท่องเที่ยวเหล่านั้นนำกลับมาเปรียบเทียบกับ
ประเทศของตนและในที่สุดจะกลายเป็นชนวนนำไปสู่การต่อต้านรัฐบาลที่ปกครองประเทศต่อไป นอกจากนี้การเดิน
ทางเข้าไปท่องเที่ยวในกลุ่มชนที่มีพื้นฐานทุกด้านแตกต่างกัน แม้จะอยู่ในประเทศเดียวกันก็ไม่เกิดผลดีแต่อย่างไร
กล่าวคอื อาจจะนำไปสู่ความเข้าใจผดิ และเกิดความไมไ่ ว้วางใจซึ่งกนั และกันได้

4. ข้อดีทางสังคม ช่วยให้ประชาชนได้เห็นถึงความสำคัญของศิลปวัฒนธรรมประเพณีของแต่ละท้องถิ่นที่เดินทางไป
ถึง ซึ่งเปรียบเสมือนการทำให้เกิดความเข้าใจกันระหว่างประชาชน การท่องเที่ยวทำให้ได้รับทราบถึงอารยธรรมท่ี
แตกต่างกันออกไป ซึ่งเปรียบเสมือนการเรียนรู้ด้วยตนเองที่ผดิ แผกแตกต่างไปจากชวี ิตประจำวัน และสถานที่ที่ตนเอง
เคยพบเห็นอยเู่ ปน็ ประจำ นอกจากน้ีผ้ทู อี่ ย่ใู นท้องถนิ่ ก็ทราบถึงส่งิ แปลก ๆ ใหม่ ๆ ท่คี นเดินทางไป ถงึ มีพฤติกรรม หรือ
อารยธรรมเป็นเช่นไร เพื่อนำเอาส่วนที่ดีมาปรับปรุงแก้ไขให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ฉะนั้น จึงสรุปได้ว่าการท่องเที่ยวทำ
ประโยชนใ์ หแ้ กผ่ ูเ้ ดนิ ทางและผู้ท่ีอยู่ในท้องถนิ่

4.1 ขอ้ เสยี ทางสังคม ดา้ นศลี ธรรม จากความแตกต่างของนกั ท่องเที่ยวกับชาวพนื้ เมือง จึงทำใหน้ ักท่องเทีย่ วเหล่าน้ัน
สร้างปัญหาสังคมเกิดขึ้น ไม่ว่าทางด้านอาชญากรรม โสเภณี ยาเสพติด และการประพฤติผิดทางด้านศีลธรรมอื่น ๆ ก็
ตาม อาจจะกลา่ วไดว้ า่ กิจการทอ่ งเทย่ี วจะเปน็ ตัวเรง่ ทีท่ ำใหเ้ กิดความเข้มของปัญหาสงั คมดงั กลา่ ว
ความรู้สึกที่ไม่ดีต่อนักท่องเที่ยวจากความแตกต่างทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และระดับการศึกษา จะทำให้
ชาวพื้นเมืองหรือชาวชนบทมีความรู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อย และด้อยโอกาสกว่าชาวเมือง แม้ว่าชาวพื้นเมืองเหล่านั้นจะ
พยายามยกฐานะตวั เองข้ึนมา แต่โอกาสตา่ ง ๆ ไมเ่ อื้ออำนวยจงึ ส่งผลทำใหช้ าวพ้ืนเมืองมีความรู้สึกไม่ดีต่อนักท่องเที่ยว
เหลา่ น้ัน

13

5. ข้อดีทางวัฒนธรรม-ขนบธรรมเนียมประเพณี เนื่องจากขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมบางประการของ
ประเทศกำลงั จะจางหายไปจากสังคมของคนไทยในปัจจุบนั ไม่ว่าจะเปน็ การละเล่น การแสดง ประเพณีหรอื เทศกาลต่าง
ๆ สิ่งเหล่านี้ถือได้ว่าเป็นวัตถุดิบที่สำคัญของการท่องเที่ยว ทั้งนี้เพราะจะเป็นสิ่งดึงดูดใจนักท่องเที่ยวต่างถิ่นหรือต่าง
แดนมาก ซึ่งตามความรู้สึกของนักท่องเที่ยวเหล่านั้นจะถือว่าเป็นของแปลกและใหม่ ตัวอย่างเช่น ประเพณีเผ่าเทียน
เล่นไฟ ที่จังหวัดสุโขทัย ประเพณีแห่เทียนพรรษาจังหวัอุบลราชธานี เทศกาลสงกรานต์ จังหวัดเชียงใหม่ และงานบุญ
เซิ้งบั้งไฟ จังหวัดยโสธร เป็นต้น ซึ่งประเพณีหรือเทศกาลเหล่านี้ ถ้าหากไม่มีการฟื้นฟูขึ้นมาในที่สุดก็ จะหมดไปจาก
สังคมไทย เพื่อขนบธรรมเนียมประเพณี ยังคงอยู่กับสังคมไทย และมีคุณค่าต่อการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่ง
ประเทศไทย(ททท.) ได้รว่ มมือกบั ศนู ยว์ ัฒนธรรมจงั หวัดและหนว่ ยงานท่ีเกี่ยวขอ้ งอืน่ ๆ ฟืน้ ฟกู ารละเล่น การแสดง และ
ประเพณีต่าง ๆ เหล่านี้ขึน้ มา ซึ่งนอกจากจะเป็นการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมแล้ว ยังถือว่าเป็นวตั ถุดิบท่ีสำคัญของ
กิจการท่องเท่ียวในลำดบั ต่อไปด้วย

5.1 ข้อเสียทางวัฒนธรรม-ขนมธรรมเนียมประเพณี ความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรมจะถูกนำมาใช้เพื่อประโยชน์
ทางด้านการค้า เพื่สนองตอบความพึงพอใจของนักท่องเที่ยว เช่น การลอกเลียนแบบวิธีการดำเนินชีวิตของชาวชนบท
ชาวพื้นเมือง หรือชาวเขาเผ่าต่าง ๆ ซึ่งนำมาแสดงตามศูนย์การค้าในกรุงเทพฯ หรือเมืองอื่น ๆ ยิ่งไปกว่านั้น ในบาง
ทอ้ งถนิ่ ท่มี นี ักทอ่ งเท่ียวต่างแดน หรอื ตา่ งถิน่ เข้าไปใช้บริการมาก ๆ จะเป็นสว่ นหน่ึงทีท่ ำให้ชาวพ้นื เมอื งเสยี สิทธทิ ีพ่ งึ ได้

เช่น ชายหาดบางแห่งในเกาะภูเก็ตจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับชาวต่างประเทศโดยเฉพาะและไม่ต้อนรับ
นกั ท่องเทีย่ วท่เี ป็นคนพ้ืนเมือง ทั้ง ๆ ท่สี ถานท่ีเหลา่ น้เี ป็นของคนไทยอยา่ งแท้จริง

6. ข้อดีทางด้านสภาพแวดล้อม ได้รับความสนใจจากหน่วยงานของรัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องมากยิ่งขึ้น มีการปรับปรุง
สภาพแวดลอ้ มให้เหมาะสมหรอื มีการเขา้ ควบคุมเพอื่ ใหค้ งสภาพท่ีดเี หมอื นเดิมใหม้ ากที่สดุ หรืออยา่ งนอ้ ยก็ให้เกิดความ
เสียหายน้อยที่สดุ

6.1 ข้อเสียทางสภาพแวดล้อม จากการที่ประชากรเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ มากเกินกว่าที่สถานท่ี
ท่องเที่ยวแห่งนั้น จะรองรับได้ จะส่งทำให้สถานที่ท่องเที่ยวเสื่อมโทรมหรือถูกทำลายมากเกินกว่าที่จะบูรณะให้คืนสู่
สภาพเดิมได้ ยิ่งไปกว่าน้ัน การที่นักท่องเที่ยวนำสิ่งปฏกิ ูลต่าง ๆ ที่เกิดจากเศษอาหารและวัสดุทีใ่ ช้ในสถานที่ท่องเท่ยี ว
หรือแหล่งน้ำ ในบริเวณใกล้เคียง จะทำให้เกิดมลพิษ ซึ่งจะทำให้ทัศนียภาพที่สวยงาม โดยทั่วไปถูกทำลาย อย่างไรก็
ตามการป้องกันมิใหส้ ิง่ แวดลอ้ มของสถานที่ท่องเที่ยวถูกทำลาย อาจจะกระทำได้โดย

- มกี ารวางแผนการจัดการและการควบคุมทดี่ ี

- นำเอาหลกั การอนุรกั ษส์ ถานทท่ี ่องเท่ยี วมาใช้

- ต้องได้รับความรว่ มมือจากนกั ทอ่ งเที่ยวอยา่ งแท้จริง

14

จากที่กล่าวแล้วข้างต้นจะเห็นว่า กิจการท่องเที่ยวมิได้ก่อให้เกิดผลดีเท่านั้น แต่จะทำให้เกิดผลเสียได้เช่นกัน การ
วางแผนเกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่ดี และให้ความรู้เกี่ยวกับขนบธรรมเนียมประเพณีที่ถูกต้อง จะช่วยลดผลกระทบที่เกดิ
จากการท่องเที่ยวได้มาก อย่างไรก็ดี ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกได้เล็งเห็นว่า กิจกรรมการท่องเที่ยวสามารถทำรายได้ให้
ประเทศหรือท้องถิ่นเป็นจำนวนมากจึงพยายามพัฒนาและส่งเสริมกิจการท่องเที่ยวเพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวต่างช าติ
หรอื ต่างถ่ินเดินทางเข้ามาใช้บริการมากยิ่งข้ึน เพื่อเกบ็ เกยี่ วผลประโยชน์ที่พึงไดร้ บั จากนักท่องเท่ียวต่อไป นอกจากนี้ยัง
ช่วยในการประชาสัมพันธ์ประเทศหรือท้องถิ่นของตนให้เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปอีกด้วยแม้ว่ากิจการท่องเที่ยวจะส่งผล
กระทบในทางลบเกดิ ขึน้ บา้ งก็ตาม

สงิ่ ท่ีสามารถนำมาประยกุ ต์ใช้ทที่ ำใหเ้ กดิ การพฒั นา

1. การนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับ การศึกษา พัฒนาระบบการศึกษาไทยให้มีความก้าวหน้าและมีความ
เป็นสากลมากยิง่ ขึ้น เปิดมุมมองใหม่ของการศกึ ษาไทย ดว้ ยเทคโนโลยีทมี คี วามสร้างสรรค์

2. ทางด้านการแพทย์ พัฒนาระบบการักษาให้มีประสทิ ธิภาพที่ดียิง่ ขึน้ พร้อมรับต่อความต้องการและความ
จำเป็นของประชาชนคนไทย มกี ารรักษาทีท่ ันท่วงที พรอ้ มรบั มือทกุ เหตุการณ์ การเจบ็ ปว่ ยและอบุ ตั ิเหตุ

3. ทางด้านเศรษฐกิจ มีการส่งเสริมอาชีพให้แก่บุคคล กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น และการส่งออกสินค้าของ
ประเทศ เพ่อื การหมนุ เวยี นทางการตลาดและเศรษฐกจิ ของประเทศ





บทท่ี 3
อิทธพิ ลและประเพณี

3.1 อิทธพิ ลของวฒั นธรรมสากลต่อสังคมไทย
สังคมไทยได้รับวัฒนธรรมมาจากวัฒนธรรมสากลมากมาย การเห็นประโยชน์ต่อวัฒนธรรม ถ้าทำแล้วได้รับ

ประโยชนม์ ากประชาชนกจ็ ะรักษาและปฏบิ ัตวิ ัฒนธรรมนน้ั ๆ สืบสานตอ่ กันมา นำมาประยุกต์ใชใ้ หเ้ หมาะสมตามแต่ละ
ถ่นิ วัฒนธรรมสากลมีอิทธิพลเปน็ อย่างมากต่อสังคมไทย มกี ารนำมาคดิ สร้างสรรคใื นรปู แบบใหม่ๆแต่ก็ยังคงวัฒนธรรม
ไว้อยู่ มีการปรับเปลี่ยนมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละสังคม บางวัฒนธรรมอาจจะไม่เหมาะกับสังคมไทยก็อาจจะไม่ได้
รับมา บางสิ่งบางอยา่ งเหมาะสมก็นำมาปรบั เปลี่ยนรวมวัฒนธรรมเขา้ ไว้ดว้ ยกัน คนไทยเราก็ยังคงวัฒนธรรมของเราไว้
วัฒนธรรมที่รับมาในสมัยก่อน เช่น ปกติคนไทยสมัยโบราณจะใช้มือในการทานข้าว แต่พอได้มีการแลกเปลี่ยน
วัฒนธรรมก็มกี ารนำชอ้ นมาตักทานข้าวแทนการใช้มือ นกี่ เ็ ปน็ วัฒนธรรมที่เราได้รบั มาประยุกต์ใช้และก็ยังคงใช้มาจนถึง
ในยคุ ปัจจุบัน ในปจั จบุ นั นคี้ นรนุ่ ใหมก่ ็ได้มีการรบั วัฒนธรรมมาปรับใช้กนั ในสังคม มกี ารเลือกรบั วฒั นธรรมมาให้เข้ากับ
ทุกยุคทกุ สมัย วัฒนธรรมการแต่งตัวเพ่ิมขนึ้ แฟชั่นมคี วามหลากหลายมากยง่ิ ขึ้น เราเลือกรบั วฒั นธรรมแต่ละอยา่ งมาใช้
หรือนำมาประยุกต์ใช้แล้วเราทุกคนควรให้เกียรติกับวัฒนธรรมนั้น ๆ ด้วย ควรปฏิบัติให้เกียรติกันและกันเราทุกคนจึง
จะอย่รู ว่ มกันในวฒั นธรรมท่ีหลากหลายไดด้ ียิ่งขนึ้ และยงั คงสืบสานวัฒนธรรมของสังคมเราดว้ ย อยา่ งตอ่ มาเป็นอิทธิพล
ของศาสนาคนไทยส่วนมากนับถือศาสนาพุทธ และก็จะมีอีกหลายศาสนาที่คนไทยได้นับถอื วัฒนธรรมมมีรากฐานมาก
จากพุทธศาสนา เป็นมรดกอันล้ำค่าของคนไทยทกุ คนท่ีแสดงใหเ้ ห็นวิถีชีวติ ของคนไทย ถือเป็นเอกลักษณท์ ี่แสดงความ
เป็นชาติไทยทแ่ี ตกต่างจากชาติอ่ืน มีลักษณะเฉพาะท่ีช้ชี ัดแสดงความเป็นชาติไทย เชน่ ภาษา ขนบธรรมเนียมประเพณี
ที่แสดงออกมาทางพิธีกรรม ศิลปะแขนงต่าง ๆ ความอ่อนน้อมถ่อมตน การมีน้ำใจต่อกัน ถึงแม้วัฒนธรรมไทยจะมีการ
ผสมผสานกับวัฒนธรรมต่างชาติตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันแต่ก็ได้เลือกสรรค์เอาสิ่งที่ดีมาใช้ให้เข้ากับวัฒนธรรมไทย
ก่อใหเ้ กิดความภาคภมู ใิ จในความเปน็ ชาติ

ภาพท่ี 4 วัฒนธรรมสากล (FMCP English, 2557 : ออนไลน์)

18

3.1.1 ปจั จัยที่มีผลและเก้ือหนุนต่อวฒั นธรรม
1. สอดคลอ้ งหรือเข้ากับความประพฤติท่มี ีอยเู่ ดิม
2. อิทธิพลของศาสนา คนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ พระพุทธศาสนาจงึ มีอทิ ธิพลต่อคนไทยมาก
3. การเหน็ คุณประโยชน์ หากประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่าทำแลว้ ได้ประโยชน์ ประชาชนจะรกั ษาและปฏิบตั ิ
วฒั นธรรมนัน้ ๆ
4. กล่มุ ผลประโยชน์ เปน็ กลุ่มท่ีตอ้ งรกั ษาวัฒนธรรมของตน บคุ คลเหล่าน้เี ห็นว่าวฒั นธรรมไทยเป็นของดีอยู่
แล้ว จึงพยายามส่งเสริมและคดั คา้ นการเปล่ยี นแปลงใด ๆ ท่ที ำลายวฒั นธรรมทีต่ นเห็นวา่ ดี และจะ
สนบั สนุนส่งเสรมิ การเปล่ยี นแปลงทที่ ำให้วัฒนธรรมทีต่ นสง่ เสริมนนั้ ดีขึ้น
5. ตวั แทนของวฒั นธรรม
6. สภาพทางเศรษฐกิจ หากเศรษฐกิจรงุ่ เรือง ไม่ขาดแคลน คนจะมจี ิตใจสบาย ความปกติสุขจะเกิดขึ้น

สงิ่ ทีบ่ น่ั ทอนวัฒนธรรม ไดแ้ ก่ ความรสู้ กึ หรืออารมณ์ กล่มุ ผลประโยชน์หรอื กลุ่มทตี่ ่อตา้ นวัฒนธรรมใดกต็ ามที่ทำ
ให้ตนเสยี ผลประโยชน์ ทัศนคติ เจตคตแิ มว้ ่าจะเห็นว่าวัฒนธรรมนนั้ ดี แตไ่ มเ่ ต็มใจรับเพราะลำบากยุ่งยากหรือไมค่ ุ้นเคย
การไมเ่ ห็นคุณประโยชน์ของวัฒนธรรม ความเจรญิ ก้าวหนา้ ทางเทคโนโลยี สภาพทางเศรษฐกิจ การแรน้ แค้นยากจนทำ
ให้กอ่ ให้เกิดปญั หาความเสื่อมโทรมทางดา้ นศลี ธรรม

ภาพที่ 5 การเรยี นรู้ (Tueetor, 2563 : ออนไลน์)

19

3.2 ประเพณีไทยและสากล
3.2.1 ประเพณีไทย
ประเพณีไทย มีความหมายรวมถึง แบบความเชือ่ ความคิด การกระทำ ค่านิยม ทัศนคติ ศีลธรรมจารีต ระเบียบ

แบบแผน และวิธีการกระทำสิ่งต่าง ๆ ตลอดจนถึงการประกอบพิธีกรรม ในโอกาสต่าง ๆ ที่กระทำกันมาแต่ในอดีต
ลักษณะสำคัญของประเพณี คือ เป็นสิ่งท่ีปฏบิ ัตเิ ชือ่ ถือมานาน จนกลายเป็นแบบอย่างความคิดหรือการกระทำทีส่ ืบตอ่
กนั มาและยงั มีอทิ ธิพลอยใู่ นปจั จุบนั

ประเพณเี กดิ จากความเชือ่ ในสงิ่ ทมี่ ีอำนาจเหนือมนษุ ย์ เชน่ อำนาจของดนิ ฟา้ อากาศ และเหตกุ ารณ์ที่เกดิ ขน้ึ โดย
ไม่ทราบสาเหตตุ ่าง ๆ ฉะน้นั ประเพณคี อื ความประพฤตสิ ่วนรวมทถี่ ือกันเป็นธรรมเนียมหรือเป็นระเบียบแบบแผนและ
สืบต่อกันมาจนเป็นพิมพ์เดียวกันและอยู่ได้เพราะมีสิ่งใหม่มาเสริม ประเพณีคือ ความประพฤติที่สืบต่อกันมาจนเป็นท่ี
ยอมรับของคนสว่ นมากในหมู่คณะ เปน็ นิสยั สงั คม ซึ่งเกดิ จากการท่ีต้องเอาอย่างจากบุคคลอื่น ๆ ทอ่ี ย่รู อบ ๆ ตน หาก
จะกล่าวถึงประเพณีไทยก็หมายถึง นิสัยสังคมของคนไทยซึ่งได้รับมรดกตกทอดมาแต่ดั้งแต่เดิมและม องเห็นได้ในทุก
ภาคของไทย ประเพณีเป็นเรื่องของความประพฤติของกลุ่มชน ยึดถือเป็นแบบแผนสืบต่อกันมานาน ถ้าใครประพฤติ
นอกแบบจะถือเป็นการผิดประเพณี เป็นการแสดงเอกลักษณ์ของชาติอีกอย่างหนึ่ง ประเพณีและวัฒนธรรมนั้นถือว่า
เปน็ ของสว่ นรวมทีป่ ระชาชนในสงั คมในหมู่คณะชว่ ยสร้างกนั ขน้ึ มา แต่ประเพณเี ป็นวัฒนธรรมเง่ือนไขที่ชัดเจน กลา่ วได้
คือเป็นสิ่งที่สังคมสร้างขึ้นเป็นมรดก คนรุ่นหลังจะได้สืบสานประเพณีและวัฒนธรรมต่อไปเรื่อย ๆ และนำมาปรับปรุง
แกไ้ ขให้ดมี ากย่ิงข้ึน รวมทัง้ เปน็ การแพรใ่ ห้สังคมอ่ืน ๆ ไดร้ ับรู้และสามารถนำไปปรบั ใช้ได้อีกด้วย

ภาพท่ี 6 ประเพณี (Thai ticket major, 2560 : ออนไลน)์

20

กำเนดิ ประเพณไี ทย

ประเพณีไทยไม่ไดอ้ ยู่โดยธรรมชาติ แต่เป็นสิง่ ที่คนหรือสังคมส่วนรวมร่วมสรา้ งกันมาแลว้ ถ่ายทอดให้แก่กัน ท่าน
พระยาอนุมานราชธน ได้กล่าวถึงกำเนิดของประเพณีไทยว่า “เกิดจากความประพฤติหรือการกระทำของใครคนหน่ึง
หรือหลายคนซึ่งเป็นประโยชน์และความจำเป็นตามที่ต้องการจากการกระทำเช่นนั้น คนอื่นเห็นดีก็ทำตามอย่างแบบ
เดียวกัน และสบื ต่อเป็นสว่ นรวมมาชา้ นาน จนกลายเป็นสว่ นสำคัญของวฒั นธรรมแห่งชาตขิ ึ้น”

ประเพณีไทยท่ีปฏบิ ัติหรอื งดเวน้ ปฏิบัติกนั ในสงั คมนัน้ มี 3 ลักษณะ

1. จารตี ประเพณีหรือกฎศีลธรรม (Mores) หมายถึงสง่ิ ทส่ี งั คมใดสังคมหน่ึงยึดถือและปฏบิ ตั ิสืบตอ่ กันมานานและ
สบื มาอย่างต่อเน่ืองและมัน่ คง เปน็ เรื่องราวของความถูกผิด มเี รื่องของศีลธรรมเข้ามาร่วมดว้ ยใครฝา่ ฝนื หรือ
เฉยเมยถือว่าเปน็ การละเมดิ กฎของสงั คมนั้น ๆ ผิดประเพณีของสงั คม จารตี ประเพณีหรือกฎของศีลธรรมของ
แต่ละสังคมยอ่ มไมเ่ หมอื นกันสงั คมไทยเห็นวา่ การมีความสมั พันธ์ก่อนแต่งงานถือว่าผิดจารีตประเพณี แต่ชาว
สวเี ดนเห็นวา่ เป็นเร่อื งธรรมดา ดงั นัน้ จารตี ประเพณีเปน็ เรื่องของแต่ละสังคมท่ีจะปฏิบัตกิ ันจะใชค้ ่านยิ มของ
สงั คมใดสังคมหน่งึ ไปตดั สินไม่ได้

2. ขนบธรรมหรอื สถาบัน (Institution) เป็นระเบียบแบบแผนทส่ี ังคมได้กำหนดไวแ้ ลว้ ปฏบิ ัติสืบมา คอื รู้กันเอง
ไม่ไดว้ างเปน็ ระเบยี บแบบแผนไว้วา่ ควรปฏิบตั ิกันอยา่ งไร มักใช้คำว่าสถานแทนขนบธรรมเนยี มประเพณีซึ่งคน
ในสงั คมมีความพอใจ เป็นเร่ืองทปี่ ฏบิ ัติสบื ต่อกนั มา มีข้อกำหนดบังคับเอาไว้ เชน่ สถาบนั การศกึ ษา มคี รู
ผเู้ รยี น เจา้ หนา้ ที่ มรี ะเบียบการรับสมคั รเข้าเรียน การสอบไล่ ประเพณีเก่ียวกับการเกดิ การบวช การแตง่ งาน
การตาย มกี ฎเกฑณ์ของประเพณีวางไว้ แตอ่ าจจะเปล่ยี นแปลงไดเ้ มื่อจำเป็น

3. ธรรมเนียมประเพณหี รอื ประเพณีนิยม (Convention) เป็นแนวทางการปฏิบัติในการดำเนินชีวติ ประจำวนั กนั
มาจนเคยชนิ แต่ต้องไม่ขัดแยกกนั เป็นเรอ่ื งท่ที ุกคนควรทำแม้มีผูฝ้ า่ ฝนื หรอื ทำผดิ กไ็ มถ่ ือวา่ เป็นเร่อื งสำคัญ แต่
อาจจะถกู ตำหนิได้ว่าไมม่ มี ารยาท ไม่ร้จู กั กาลเทศะ เชน่ การแตง่ กาย การรบั ประทานอาหาร

ประเภทของประเพณไี ทยที่สำคญั บางอย่าง

1. ประเพณีไทยทีเ่ กี่ยวกบั ครอบครัว เช่น เรอื่ งทำขวญั เดือน โกนจุก ทำบญุ ข้ึนบา้ นใหม่ บวช แตง่ งาน ตาย เป็น
ตน้

21

ภาพที่ 7 ประเพณีโกนจกุ (สยามรฐั , 2564 : ออนไลน)์
2. ประเพณเี กี่ยวกบั สว่ นรวม เน่ืองดว้ ยเทศกาลคือ คราวสมยั ท่ีกำหนดขึ้นเปน็ ประเพณี เพื่อทำบุญและร่นื เริง

เชน่ ตรษุ สงกรานต์ เข้าพรรษา สารท ออกพรรษา ลอยกระทง ทอดผา้ ปา่ ทอดกฐิน เปน็ ตน้ นอกจากน้ยี ังมี
ประเพณที ่ีจัดข้ึนในแตล่ ะจังหวัดอกี ดว้ ย

ภาพท่ี 8 ประเพณลี อยกระทง (M Thai, 2562 : ออนไลน)์
3. รฐั พิธแี ละพระราชพิธี เนอ่ื งจากประเพณีไทยตา่ ง ๆ มีรายละเอียดมากจึงขอย่อสรปุ เฉพาะประเพณสี ำคัญ ที่

เปน็ ประเพณีครอบครัวและประเพณีสว่ นรวม

22

3.2.2 ประเพณีสากล
เปน็ ประเพณแี ละวัฒนธรรมทีม่ ีการยอมรบั กนั กว้างขวาง เป็นทรี่ ้กู ันกนั ทว่ั โลกและแพรห่ ลายเปน็ อารย

ธรรมท่ปี ฎบิ ัติกันทว่ั โลก เช่น การแตง่ กายชดุ สากล การคา้ เสรี เปน็ การปฏบิ ตั ิกันอยา่ งกว้างขวาง เป็นท่รี จู้ กกนั ดี
มกี ารนำมาปฏิบัตใิ นประเทศตัวเอง มกี ารรบั วฒั นธรรมประเพณมี าประยุกต์ใช้ ประเพณีท่ีสำคัญได้แก่
1. วันขนึ้ ปใี หม่ ความหมายของวันขนึ้ ปใี หม่

วันขน้ึ ปีใหม่ ตามความหมายในพจนานกุ รมให้ความหมายคำว่า "ป"ี หมายถึง เวลาชว่ั โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์
คร้ังหนึ่งราว 365 วัน หรอื เวลา 12 เดอื นตามสุริยคติ ดังนั้น "ปีใหม่" จึงหมายถึง การข้นึ รอบใหมห่ ลังจาก 12 เดือน
หรือ 1 ปคี วามเป็นมาของ วนั ข้ึนปีใหม่ วนั ข้นึ ปใี หม่ มีประวัตคิ วามเปน็ มาซึ่งเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมยั ตามความ
เหมาะสม ตั้งแต่ในสมัยเริ่มแรกเมอ่ื ชาวบาบโิ ลเนยี เรมิ่ คดิ ค้นการใช้ปฏทิ ินโดยอาศัยระยะต่าง ๆ ของดวงจันทร์เป็น
หลกั ในการนบั เมื่อครบ 12 เดือน ก็กำหนดว่าเป็น 1 ปี และเพื่อใหเ้ กิดความพอดรี ะหวา่ งการนับปตี ามปฏทิ ินกับปีตาม
ฤดูกาล จงึ ไดเ้ พ่ิมเดือนเขา้ ไปอกี 1 เดือน เป็น 13 เดือนในทกุ ๆ 4 ปี ตอ่ มาชาวอียิปต์ กรกี และชาวเซมติ ิก ได้นำการ
ปฏบิ ตั ขิ องชาวบาบิโลเนยี มาดัดแปลงแก้ไขอีกหลายคราวเพื่อให้ตรงกับฤดูกาลมากยิ่งขน้ึ จนถึงสมัยของกษตั ริยจ์ เู ลยี ต
ซซี าร์ (ประมาณ 46 ปี กอ่ นครสิ ต์ศกั ราช) ได้นำความคิดของนักดาราศาสตร์ชาวอียิปตช์ อื่ โยซิเยนิส มาปรบั ปรุงใหห้ นง่ึ
ปมี ี 365 วัน โดยทกุ ๆ 4 ปี ให้เตมิ เดือนที่มี 28 วัน เพ่ิมขึ้นอกี 1 วนั เปน็ 29 วนั คือเดือนกมุ ภาพันธ์ เรียกว่า
อธกิ สรุ ทิน เม่ือเพ่ิมใหเ้ ดือนกุมภาพนั ธ์มี 29 วนั ให้ทกุ ๆ 4 ปี แต่วันในปฏิทินกย็ งั ไมค่ ่อยตรงกับฤดูกาลนกั คือเวลาใน
ปฏิทนิ ยาวกว่าปตี ามฤดูกาล เปน็ เหตใุ หฤ้ ดกู าลมาถงึ ก่อนวันในปฏทิ ิน และในวันท่ี 21 มีนาคม ตามปปี ฏทิ นิ ของทกุ ๆ
ปี จะเป็นชว่ งทมี่ เี วลากลางวนั และกลางคนื เทา่ กัน คือเปน็ วนั ท่ีดวงอาทิตย์จะขนึ้ ตรงทิศตะวันออก และลบั ลงตามทิศ
ตะวันตก วันนีท้ ว่ั โลกจงึ มชี ว่ งเวลาเทา่ กับ 12 ช่วั โมงเทา่ กนั เรยี กว่า วนั ทวิ าราตรเี สมอภาคมีนาคม (Equinox in
March) แต่ในปี พ.ศ. 2125 วนั Equinox in March กลบั ไปเกิดข้นึ ในวันที่ 11 มีนาคม แทนท่ีจะเป็นวนั ที่ 21 มนี าคม
ดังนั้นพระสันตะปาปาเกรกอร่ที ่ี 13 จึงทำการปรบั ปรุงแก้ไขหกั วันออกไป 10 วนั จากปีปฏทิ ิน และใหว้ ันหลงั จากวนั ท่ี
4 ตุลาคม พ.ศ. 2125 แทนที่จะเปน็ วันท่ี 5 ตุลาคม ก็ให้เปล่ยี นเปน็ วนั ที่ 15 ตุลาคมแทน (ใช้เฉพาะในปี พ.ศ. 2125)
ปฏิทนิ แบบใหม่น้จี ึงเรียกวา่ ปฏิทินเกรกอเรย่ี น จากนั้นไดป้ รับปรุงประกาศใช้ วันที่ 1 มกราคม เปน็ วนั เริ่มตน้ ของปีเป็น
ต้นมา

ภาพท่ี 9 วันขนึ้ ปี ใหม่ (ข่าวสดออนไลน,์ 2563 : ออนไลน)์

23

2. เทศกาลโฮลี่
เทศกาล Holi หรือ Festival of Colors จดั ขึน้ เป็นประจำทกุ ปใี นอินเดยี และประเทศทั่วโลกท่มี ีชาวฮนิ ดอู าศัยอยู่ เพ่ือ
เป็นการตอ้ นรบั ฤดใู บไมผ้ ลิและเป็นการเฉลิมฉลองชวี ติ ใหม่ แม้วา่ จะไมม่ ีพธิ ีกรรมทางศาสนาเข้ามาเก่ยี วข้องมากนัก แต่
ดูเหมือนวา่ ชาวฮินดแู ละนักท่องเท่ียวทุกคนจะพร้อมใจกันมาสาดผงสใี ส่กันอยา่ งสนกุ สนาน ทีส่ ำคัญมนั ยงั เป็นเทศกาล
ที่ไม่แบง่ แยกชนชน้ั วรรณะกันดว้ ย นบั เป็นอีกหนง่ึ สสี นั ของประเทศอนิ เดยี ทีน่ อกจากจะสร้างความคร้ืนเครงให้ผ้คู นใน
ประเทศแลว้ ยังดึงดูดนกั ทอ่ งเทีย่ วได้มากทีเดยี ว

ภาพที่ 10 เทศกาลโฮลี่ (วกิ ิพเี ดยี , 2557 : ออนไลน์)

3. วนิ เทอร์ไลท์
เทศกาล Winter Light Festival จัดขึน้ เปน็ ประจำทุกปีท่เี มืองคนุ าวะ จังหวดั มิเอะ ประเทศญี่ปุ่น จดุ เดน่ อย่ทู ี่
แสงไฟจากหลอดไฟ LED กว่า 7 ล้านดวง ท่สี อ่ งประกายหลากสีสันในสวนพฤกษาศาสตร์ Nabana no Sato
ที่สำคัญยงั เป็นมติ รตอ่ สง่ิ แวดลอ้ มดว้ ยการใช้พลังการแสงอาทิตย์ สมกบั เปน็ ประเทศแห่งเทคโนโลยจี รงิ ๆ ซึง่
เทศกาล Winter Light Festival จะจดั ขน้ึ เปน็ เวลากว่า 4 เดอื น โดยเริ่มต้ังแต่กลางเดือนพฤศจิกายนถึง
กลางเดือนมนี าคม ใครท่ีมาญี่ปุ่นกอ็ ยา่ ลมื แวะเวียนมาเท่ียวกันบ้างนะคะ รบั รองว่ามนั จะเปน็ อกี เทศกาลท่จี ะ
ทำใหค้ ณุ ตืน่ ตาตน่ื ใจแน่นอน

24

ภาพท่ี 11 วนิ เทอร์ไลท์ (Travel M-Thai, 2562 : ออนไลน์)

และยังมีประเพณีและเทศกาลต่างๆอีกมากมาย ที่เรายังไม่ได้นำเสนอ ทั้งหมดทั้งมวลที่เรานำมาเป็นประเพณี
สากลที่คนให้ความสำคัญเปน็ อย่างมากโดยเฉพาะวันข้ึนปีใหม่ เป็นประเพณีสากลที่ทั่วโลกนำไปประยุกต์กบั สงั คมของ
ตัวเอง มีประเพณีต่าง ๆ อีกมายมายที่บางคนยังไม่ทราบ ทุก ๆ ประเพณีทุก ๆ เทศกาลมีความสำคัญเป็นอย่างมาก
ความคิดสรา้ งสรรค์การสืบทอดตั้งแตอ่ ดีตจนถึงปัจจุบนั สบื ทอดกันมาเป็นรุ่น ๆ และปรับเปลีย่ นไปตามความเหมาะสม
ของแต่ละประเทศแต่ละสังคม ทุกสังคมล้วนมีความแตกต่างกันทางด้านประเพณีและวัฒนธรรม และเราทุกคนควรให้
เกยี รติแต่ละประเพณีให้เกียรติความแตกต่างกันในด้านวัฒนธรรมด้วย ประเพณีสากลมคี วามหลากหลายเป็นอย่างมาก
และก็มีความแตกต่างกบั วัฒนธรรมไทยของเราอีกด้วย แต่เราคนไทยกม็ ีการรับวฒั นธรรมต่างชาติมาด้วย เช่น วันขึ้นปี
ใหมข่ องสากลคอื 1 มกราคม แต่วันขนึ้ ปีใหมข่ องไทยจรงิ ๆ แลว้ เป็นวันสงกรานตข์ องเราท่มี ีมาแตด่ ั้งแตเ่ ดิม การเลน่ น้ำ
สงกรานต์ต่างชาติสากลให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ตัวอย่างเช่น คนไทยในประเทศเกาหลี ก็มีการจัดสงกรานต์ให้กับ
คนไทยด้วยกัน คนเกาหลีกม็ ีการมาร่วมสนกุ กับประเพณีของเราอีกดว้ ย เป็นการเผยแพรค่ วามเป็นไทยใหต้ ่างชาติได้รับ
รู้

25

ภาพท่ี 12 เทศกาลนำ้ แขง็ เมืองฮารบ์ นิ ( Travel M-Thai, 2562 : ออนไลน)์
ฮาร์บิน (Harbin) เมอื งหลวงของมณฑลเหยหลงเจียง (Heilongjiang) อยทู่ างตะวันออกเฉยี งเหนือของประเทศจีน และ
เป็นเจ้าภาพจัดเทศกาลน้ำแข็ง และหิมะอันเย็นยะเยือกนี้ ส่วนไฮไลท์ของงาน คือ การแกะสลักน้ำแข็งมหึมา มโหฬาร
ติดไฟประดับประดาปราสาทน้ำแข็งให้สอ่ งแสงสวยหลากสีสันในตอนกลางคนื นอกจากนี้ยังมีการแสดงตะเกียงน้ำแขง็
เลอ่ื นนำ้ แขง็ เรือใบนำ้ แข็ง ฮอ็ กกีน้ ้ำแขง็ ฟตุ บอลนำ้ แขง็ และอื่น ๆ อีกมากมายเท่าท่ีจะสามารถโยงไปกบั น้ำแขง็ ได้

ภาพที่ 13 เทศกาลบอลลูน (Travel M- Thai, 2562 : ออนไลน์)
เทศกาลบอลลนู น้ีเป็นเทศกาลท่ยี ิ่งใหญ่มาก ๆ เลยทเี ดยี ว จะจดั ขึ้น 9 วันติดต่อกนั ของทกุ ปี คือตัง้ แต่วันท่ี 5-13
ตลุ าคม ท่ามกลางอากาศทร่ี ้อนระอุ จะมีบอลลูนหลากหลายรูปแบบ เตม็ ไปด้วยจนิ ตนาการ และสีสนั ลอยคว้างอยใู่ น
อากาศเปน็ พันธุ ๆ ลกู เป็นงานเทศกาลบอลลนู ทีย่ ่งิ ใหญ่ทสี่ ุดในโลกเลยกว็ ่าได้… สามารถดงึ ดูดผเู้ ขา้ ร่วมงานหลายหมื่น
คนเลยทเี ดียว ไฮไลท์ของเทศกาลน้กี ค็ ือ การลอยบอลลนู ในช่วงกลางคืน รวมไปถึงการแสดงลอยบอลลูนหมู่ (Mass
Ascension) ลอยขนึ้ สู่ท้องฟ้าพร้อมกับเสยี งเพลงชาติอเมริกาทีด่ ังกระหึ่มขึน้ อยา่ งพร้อมเพรียงกัน

26

ภาพท่ี 14 เทศกาลเผาหนุ่ (Travel M- Thai, 2562 : ออนไลน)์
วาเลนเซีย เป็นเมืองใหญอ่ ันดับที่ 3 ของประเทศสเปน รองจากมาดริด และบาร์เซโลนา่ นอกจากนที้ ่าเรอื ของวาเลนเซีย
ยงั เปน็ ทา่ เรอื ทางธรุ กิจที่มีเสน้ ทางเยอะเปน็ อันดับ 5 ของยโุ รป และเปน็ ทา่ เรือทใ่ี หญ่ที่สดุ ในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
อีกด้วย และยังเป็นเมืองทีม่ ีเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ ก็คือ เทศกาลเผาหุ่น หรือ Las Fallas (ลาส ฟายาส) เป็นภาษาท้องถิ่น
ของวาเลนเซยี แปลวา่ ไฟ โดยไฮไลท์ของเทศกาลน้ี จะเป็นการสรา้ งสรรค์ และทำลายหุ่นยกั ษ์ท่ีทำขึน้ จากกระดาษ เป็น
งานเฉลิมฉลองตามประเพณี ซึ่งจัดขึ้นมาเพือ่ ระลึกถงึ Saint Josept ในเมืองวาเลนเซยี งานจะจัดขึน้ 5 วัน 5 คืน โดย
จะมีทั้งพิธีทางประวัติศาสตร์, พิธีทางศาสนา และการแสดงตัวการ์ตูน หุ่น ต่างๆ จากนั้นจะเริ่มจุดไฟเผาหุ่น หรือตัว
การต์ นู กระดาษฉลองจนสว่างสไวไปท่ัวเมือง ในแต่ละปีเขตตา่ ง ๆ ของวาเลนเซยี จะทำหนุ่ กระดาษ ซ่ึงใช้เวลา 1 ปีเต็ม
ในการออกแบบสร้าง และทาสีอย่างสวยงาม เพ่อื ประกวดชงิ รางวัล

ภาพท่ี 15 เทศกาลโคมไฟผิงชี (Travel M- Thai, 2562 : ออนไลน์)
ใครกร็ ู้กนั ดีวา่ เทศกาลที่ยิง่ ใหญข่ องชาวจนี ก็คอื “เทศกาลตรุษจนี ” และที่กรงุ ไทเป ประเทศไต้หวนั กจ็ ะมีการปลอ่ ย
โคมลอยหลายพันดวงขึ้นไปสวา่ งไสวอยกู่ ลางทอ้ งฟา้ ยามค่ำคืนพร้อมใจเขยี นคำอธษิ ฐาน และส่งความปรารถนาดขี อง

27

พวกเขาส่สู วรรค์ เชื่อกันว่าโคมลอย หรอื ที่รจู้ ักกันในช่ือ “โคมขงหมงิ ” ถูกประดษิ ฐ์ขนึ้ โดยขงเบ้ง ทป่ี รึกษาดา้ น
การทหารคนสำคญั ในประวตั ิศาสตร์ยคุ สามกก๊ เพื่อใชเ้ ปน็ เครือ่ งมือสอื่ สารของกองทัพ โดยในเขตผิงซนี ัน้ ประเพณกี าร
ปลอ่ ยโคมลอยเร่ิมข้ึนเมื่อหลายร้อยปีก่อนหน้าน้ี เม่ือมีกลุ่มโจรปรากฏตวั ขึ้นบนภูเขา โดยชาวบ้านจะซ่อนตัวอยู่ในบ้าน
และจะปล่อยโคมลอยเพื่อเปน็ สญั ญาณบอกว่าปลอดภยั แลว้ หลงั กลุ่มโจรจากไป

ภาพท่ี 16 งานคารน์ วิ ัล (Travel M- Thai, 2562 : ออนไลน์)
งานคาร์นิวลั แห่งเมืองริโอ เดอจาเนโร ประเทศบราซิล The Carnaval in Rio de Janeiro หรือ Rio Carnival นั่นเอง
เป็นงานเฉลมิ ฉลองที่ยิ่งใหญ่ และมีชื่อเสียงที่สดุ ของโลกก็ว่าได้ แน่นอนว่าเราจะได้สัมผสั ถงึ จิตวิญญาณแหง่ แซมบ้าอัน
เป็นตำนานของบราซิล สะท้อนออกมาได้เยี่ยมยอดที่สุดผ่านวงดนตรีในขบวนพาเหรดที่นำโดยมือกลอง และนักร้อง
สว่ นไฮไลท์ย่งิ ใหญ่สดุ ๆ ของงานคือ การแข่งขนั เต้นระบำแซมบา้ ของโรงเรียนสอนเต้นแถวหน้าของบราซิล 12 แหง่ ซึ่ง
จะมาประชนั กัน ปลี ะครงั้ ทง้ั ลลี าท่าเต้น ความเริดหรอู ลงั การของเสือ้ ผา้ หนา้ ผม ความคิดสรา้ งสรรค์ และความงดงาม
ของขบวนรถแห่ ณ สนามกีฬาแซมโบโดรม (Sambadrome) เทศกาลนี้จะจัดขึ้นก่อนจะเริ่มเทศกาลมหาพรต (Lent)
ของชาวครสิ ตน์ กิ ายโรมันคาทอลิกประมาณ 5 วนั จะอยใู่ นชว่ งเดอื นกมุ ภาพันธ์ของทกุ ปี

ภาพท่ี 17 ออ็ กโทเบอรเ์ ฟสต์ (Travel M- Thai, 2562 : ออนไลน์)

28

เทศกาลย่ิงใหญท่ ี่มีผู้คนจากท่ัวโลกเขา้ ร่วมเทศกาลถงึ 6 ล้านคนทกุ ปี ออ็ กโทเบอร์เฟสต์ เปน็ เทศกาลประจำปีที่จัดขน้ึ
เปน็ เวลา 16 วัน ในเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี ซง่ึ จดั ขนึ้ ปลายเดือนกันยายนถึงตน้ เดือนตุลาคมของทุกปี ถือเปน็ 1
ในเทศกาลทม่ี ีช่ือเสยี งที่สดุ ในเยอรมนี และเป็นเทศกาลท่ีใหญ่ท่สี ดุ ของโลกเลยทีเดยี ว เปน็ เทศกาลที่ทุกคนจะได้แต่งตัว
แบบเยอรมนั แท้ ๆ พร้อมดื่มด่ำไปกบั เบียร์เยอรมนั

ภาพท่ี 18 เทศกาลช้าง (Travel M- Thai, 2562 : ออนไลน)์
ช้างมคี วามสำคญั เสมอมาในสังคมของชาวอินเดยี และเพื่อเป็นการแสดงความขอบคณุ ตอ่ พระพฆิ เนศวร เทพในศาสนา
พราหมณ์ท่ีมเี ศียรเป็นช้าง ผูซ้ ึ่งเปน็ องค์สำคัญในการประกอบพธิ กี รรมต่าง ๆ และเปน็ เหมือนผนู้ ำของเหลา่ ชา้ งท้งั หลาย
จงึ เกดิ เทศกาลช้างที่เมืองชัยปุระน้ขี นึ้ เป็นเทศกาลชา้ งที่คึกครื้น จะมกี ารนำชา้ งนับรอ้ ยเชอื กมาตกแต่งด้วยผ้าสีสัน
สดใส เพอ่ื จำลองเปน็ ขบวนพาเหรดของมหาราชาให้นักทอ่ งเทีย่ วชม

ภาพที่ 19 เทศกาลอูฐเมืองพุชคาร์ (Travel M- Thai, 2562 : ออนไลน)์

29

“การชมุ นมุ ครง้ั ยง่ิ ใหญท่ ส่ี ดุ ของชนเผ่าของอนิ เดยี ” เพราะวา่ เปน็ เทศกาลทจี่ ะมีอฐู กว่า 20,000 ตัวบนทะเลทราย
ราชาสถาน (Rajasthan dessert) เปน็ งานร่นื เรงิ ของเมืองพุชคาร์ ซง่ึ รวบเขา้ กับเทศกาลค้าอฐู (Camel Fair) ทส่ี ำคัญ
และยิ่งใหญ่ระดบั ประเทศของอนิ เดีย โดยจะเป็นการเดนิ ทางมาพบกันระหว่างพ่อคา้ และคนขายอฐู นอกจากน้ยี ังมผี ู้
แสวงบญุ ทีเ่ ดนิ ทางมาอาบนำ้ และใช้นำ้ ในทะเลสาบท่ีถอื กันวา่ ศกั ด์ิสิทธิ์



31

บทที่ 4

บทสรปุ

วัฒนธรรมคือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมาตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน ความเชื่อ ความคิด มีการปรับเปลี่ยนมาเรื่อย ๆ
ตามยุคสมัย มีการรับวัฒนธรรมต่างชาติมาปรับเปลี่ยนให้เข้าและให้เหมาะสมกับสังคมที่เราอยู่ มีการผสมผสาน
วฒั นธรรมตา่ ง ๆ เข้าด้วยกนั มากมาย วฒั นธรรมสากลกเ็ ป็นท่ีรู้จกั กนั ทว่ั โลก มกี ารนำไปประยุกต์ใช้เพอ่ื ให้เกดิ ประโยชน์
แก่สังคมแต่ละสังคมมากที่สุด เราก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่มีวัฒนธรรมเป็นของถิ่นเราเอง เราก็ควรรักษาให้คงอยู่และให้
เกียรติวัฒนธรรมที่เรารับมาปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสังคมที่เราอาศัยอยู่ วัฒนธรรมไทยมีความสำคัญเป็นอย่างมาก
ต่อคนไทย อยา่ งเช่น การไหว้ ก็เป็นวัฒนธรรมอย่างหน่ึงทีส่ ืบทอดมาช้านาน และกย็ ังคงเป็นเอกลักษณ์ของชาติไทยอีก
ด้วย วัฒนธรรมสากลทนี่ ำมาผสมผสานให้เข้ากันเชน่ การพูดภาษาองั กฤษ เป็นท่ีรกู้ นั ท่ัวโลกวา่ ภาษาองั กฤษเป็นสิ่งที่คน
ทั่วโลกใหก้ ารยอมรับและนำไปใช้กับประเทศตน วัฒนธรรมสากลกย็ ังคงมีอีกหลายประเพณีหลายวัฒนธรรมท่ีแตกตา่ ง
กันออกไป มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีก็คือทำให้เกิดประโยชน์แก่สังคมตนเองมากที่สุด ข้อเสียก็อาจจะมีความขัดแย้ง
ตามมาเมื่อมีการผสมผสานวัฒนธรรม การที่จะปรับตัวได้เราต้องค่อย ๆ ศึกษาเรียนรู้ ความเข้าใจต่าง ๆ เป็นต้น ทั้งนี้
วัฒนธรรมก็เป็นสิ่งที่สำคัญกับคนทุก ๆ คน ทุก ๆ เชื่อชาติ จึงอยากให้ทุกคนรักษาวัฒนธรรมให้คงอยู่สืบไป เพราะทุก
คนล้วนแล้วแตม่ ีวัฒนธรรม วฒั นธรรมนน้ั เกดิ จากการเรียนรู้ของมนุษย์ ความคิด ทศั นคติ ความเชือ่ ของแต่ละสงั คม

31

31

บรรณานุกรม

“ความหมาย ลกั ษณะและความสำคญั ของวัฒนธรรม” [ออนไลน์]. เขา้ ถึงได้จาก:
https://sites.google.com/site/politicsthais/cultucal/khwam-hmay-khwam-sakhay-khxng-wathnthrrm,

ม.ป.ป. [สืบคน้ เมื่อ 10 สงิ หาคม 2564].

“การไหว้ มารยาทไทยทีค่ วรสบื ทอด” [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก:
http://www.culture.go.th/culture_th/mobile_detail.php?cid=11&nid=583 , ม.ป.ป. [สบื ค้นเม่อื 10
สงิ หาคม 2564].

“ความหมายวัฒนธรรม” [ออนไลน์]. เข้าถงึ ได้จาก: https://wiki.m-culture.go.th/wikipedia/index.php/
ความหมายวฒั นธรรมไทย , 2562 [สืบคน้ เมื่อ 10 สิงหาคม 2564].

“วฒั นธรรมหมายถงึ อะไร” [ออนไลน์]. เข้าถงึ ได้จาก: https://zazana.com/1200 , 2015 [สืบคน้ เมื่อ 12 สงิ หาคม
2564].

“วัฒนธรรมไทยคืออะไร - วฒั นธรรมไทย” [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก:
https://sites.google.com/site/site59007/wathnthrrm-thiy-khux-xari , ม.ป.ป. [สบื ค้นเมอ่ื 12 สงิ หาคม 2564].

“ประเพณีไทย - สากล” [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก: http://arp-kanmcth007.simplesite.com , ม.ป.ป. [สืบคน้ เมื่อ
12 สงิ หาคม 2564].

“การอนุรักษ์วฒั นธรรม” [ออนไลน์]. เข้าถงึ ได้จาก: http://tanasitict4.blogspot.com/?m=1 , 2013 [สบื ค้นเมือ่ 13
สงิ หาคม 2564].

“ความแตกต่างระหวา่ งวัฒนธรรมไทยกบั วฒั นธรรมสากล” [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ได้จาก:
https://sites.google.com/site/30282juthathip/khwam-etek-tang-rahwang-wathnthrrm-thiy-kab-
wathnthrrm-sakl , ม.ป.ป. [สบื ค้นเมอ่ื 13 สิงหาคม 2564].

“วัฒนธรรมสากล” [ออนไลน์]. เข้าถึงไดจ้ าก:
https://km.nssc.ac.th/files/1705301414383793_17060613134955.pdf , ม.ป.ป. [สบื ค้นเม่ือ 14 สิงหาคม
2564].

“ภาษาพูด ภาษาเขยี น” [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ได้จาก: https://sites.google.com/site/thailandslanguage/phasa-
phud-phasa-kheiyn , ม.ป.ป. [สบื ค้นเมื่อ 14 สงิ หาคม 2564].

31

“ภาษาศาสตร์” [ออนไลน์]. เข้าถงึ ไดจ้ าก: https://th.m.wikipedia.org/wiki/ , ม.ป.ป. [สืบค้นเมื่อ 15 สงิ หาคม
2564].

“ความหมายของประเพณีไทย” [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก:
https://sites.google.com/site/aphidetschool/khwam-hmay-khxng-prapheni-thiy , 2017 [สบื คน้ เมือ่ 16
สงิ หาคม 2564].

“อิทธิพลของวัฒนธรรมต่างชาตทิ ่มี ีต่อสงั คมไทย” [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ได้จาก:
https://sites.google.com/site/61raksawathnthrrmpraphenithiy/home/xiththiphl-khxng-wathnthrrm-
tang-chati-thi-mi-tx-sangkhm-thiy , ม.ป.ป. [สบื คน้ เมอ่ื 17 สงิ หาคม 2564].

“ความสำคญั ของวัฒนธรรมไทย” [ออนไลน์]. เข้าถงึ ไดจ้ าก:
https://sites.google.com/site/praphenithiy8862/wathnthrrm-thiy , ม.ป.ป. [สบื ค้นเม่อื 18 สิงหาคม 2564].

“ความหมายของวัฒนธรรม” [ออนไลน์]. เข้าถึงไดจ้ าก: https://www.gotoknow.org/posts/377088 , 2010
[สืบค้นเมอื่ 18 สิงหาคม 2564].

“ความสำคญั ของวัฒนธรรมไทย” [ออนไลน์]. เข้าถงึ ได้จาก: https://9a20237.wordpress.com/category/
วัฒนธรรมไทย/ความสำคญั ของวฒั นธรรมไท/ , 2554 [สบื ค้นเมอื่ 18 สงิ หาคม 2564].

“ความสำคญั ของวฒั นธรรมไทย” [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก:
https://sites.google.com/site/xeklaksnthiyyvc2016/khwam-sakhay-khxng-wathnthrrm , ม.ป.ป. [สบื คน้
เมื่อ 19 สงิ หาคม 2564].

“วธิ กี ารเลือกรบั วฒั นธรรมสากล” [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ไดจ้ าก:
https://sites.google.com/site/acharaporn12677/withi-kar-leuxk-rab-wathnthrrm-sakl , ม.ป.ป. [สืบค้นเม่อื
20 สงิ หาคม 2564].

“ลกั ษณะและความสำคญั ของวัฒนธรรมไทยและสากล” [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ได้จาก: http://smws.ac.th/client-
upload/saimoon/uploads/filesf , ม.ป.ป. [สบื คน้ เมื่อ 21 สิงหาคม 2564].

“วฒั นธรรมสากลหรือวัฒนธรรมนานาชาติ หมายถึง” [ออนไลน์]. เข้าถึงไดจ้ าก:
https://km.nssc.ac.th/files/1705301414383793_17060613134955.pdf , ม.ป.ป. [สืบคน้ เม่ือ 22 สงิ หาคม
2564].

31


Click to View FlipBook Version