The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

จิตวิญญาณแห่งความเป็นครู

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by padayanang, 2020-11-16 22:22:26

จิตวิญญาณแห่งความเป็นครู

จิตวิญญาณแห่งความเป็นครู

บทท่ี 5 จติ วิญญาณความเปน็ ครู

วิชาชีพครูถือเป็นวิชาชีพชั้นสูงท่ีมีความสาคัญและ เป็นกลไกหลักในพัฒนาทรัพยามนุษย์ให้แก่
ประเทศชาติ ผู้ประกอบวิชาชีพจะต้องใช้องค์ความรู้ในสาขาวิชา เฉพาะและวิชาชีพครูร่วมกับคุณลักษณะความ
เป็นครูที่สะท้อนการเป็นผู้มีจิตวิญญาณความเป็นครู จึงจะ สามารถส่ังสอนอบรมศิษย์ให้เป็นคนดี คนเก่ง มี
ความสุขและใฝ่เรียนรตู้ ลอดชีวิต รวมท้ังสร้างเสริมใหผ้ ู้เรียน สามารถพัฒนาคุณลักษณะตามท่ีสังคมต้องการได้
อย่างเต็มศักยภาพของผู้เรียนแต่ละบุคคล ดังพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธเิ บศร มหาภูมิ
พลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร ที่ไดพ้ ระราชทานแก่ครอู าวุโสในโอกาสเขา้ รบั พระราชทานเข็มเคร่ืองหมาย
เชิดชเู กียรติ ซึง่ มลี กั ษณะของครทู ่ดี ี ตอนหน่ึงว่า

“ครูท่ีแท้นน้ั ต้องเป็นผู้กระทาแต่ความดี ต้องหม่ันขยันและอตุ สาหะพากเพยี ร ต้องเอ้อื เฟื้อ เผ่ือแผ่ และ
เสียสละ ต้องหนกั แนน่ อดกล้ัน และ อดทน ต้องสารวม ระวังความประพฤตขิ องตนเอง ตนให้อยู่ในระเบียบแบบ
แผนอันดีงาม ต้องปลีกตัว ปลีกใจออกจากความสบาย และความสนุกร่ืนเริง ท่ีไม่ควรแก่เกียรติภูมิ ต้องตัง้ ใจให้
ม่นั คงและแน่วแน่ ตอ้ งซื่อสตั ย์ รักษาความจริงใจ ต้องเมตตา หวัง ดี ต้องวางใจเป็นกลาง ไม่ปล่อยไปตามอานาจ
อคติ ตอ้ งอบรมปัญญาใหเ้ พิม่ พูนสมบรู ณ์ขน้ึ ท้งั ในดา้ น วทิ ยาการ และความรู้ในเหตผุ ล”

แนวคิดทฤษฎีจติ วญิ ญาณความเป็นครู

คาว่าจิตวิญญาณ Spiritual หรือSpirituality มีรากศัพท์มาจากคาว่าSpiritus ในภาษา ลาติน หมายถึง
ลมหายใจผสมกับคาว่า Enthousiasmos มาจากรากศัพท์ของคาว่า Enthusiasm ที่หมายถึง The god within
หรือ พลังอานาจศักดิ์ สิทธิ์ ของชีวิต (โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์,2549) ดังน้ันคาว่า “จิตวิญญาณ” มาจากคาว่า
“จิต” และ “วิญญาณ” โดยสรุปหมายถึงส่ิงท่ีอยู่ในตน ทาให้เป็นบุคคลข้ึน เป็นความรู้แจ้งความรู้สึกตัว จิตใจ
(ราชบัณฑิตยสถาน, 2546)

นักวิชาการได้จาแนกความหมายของจิตวิญญาณไว้เปน็ 3 ประการ
1. ความเปน็ เอกัตตาหรือปจั เจกบุคคล หมายถึง ความเป็นตัวตนที่มีลักษณะเฉพาะของแต่ละบุคคล ซึ่งเกิด
จากการหยัง่ รู้นาไปสูก่ ารปฏบิ ัติและการเกิดศรทั ธาในเรอ่ื งใดเร่ืองหนึ่ง (ศุภลกั ษณ์ ทัดศรี และอารยา พรายแย้ม.
2554 : 61)
2. ความมีคุณค่าสูงส่ง หมายถึง ปัญญาหลักการของชวี ิต เช่น ความดี บุญกุศล คุณธรรม จริยธรรม การ
รู้จกั ผดิ ชอบช่ัวดมี จี ิตใจสงู ขึน้ (ประเวศ วะสี และ ประสิทธ์ิ อนุ่ หนองกุ่ง. 2555 : 12)

2

3. ความเป็นนามธรรม หมายถึง โครงสร้างหน่งึ ของมนษุ ยท์ ี่นอกเหนอื จากรา่ งกายและจิตใจ จับตอ้ งไม่ได้
พฒั นามาจากความผูกพันด้านจิตใจของมนษุ ย์กับสิ่งแวดล้อม เป็นแหล่งของความหวัง พลังใจที่เข้มแข็ง เป็นขุม
พลังของชวี ติ ทท่ี าให้ประสบความสาเร็จและมีความสุข (พัชนี สมกาลัง, 2556 : 93)

ประเวศ วะสี (2554 : 1) ไดใ้ ห้ความหมายของจิตวญิ ญาณวา่ “จิตวญิ ญาณ หรือจิตสูงนน้ั หมายถึง ความดี
การลดความเห็นแก่ตัวการเข้าถึงสิ่งสูงสุด ส่ิงสูงสุดทางพุทธ คือพระนิพพานหรือปัญญาหรือวิชชา ศาสนาอื่น
หมายถงึ พระผู้เป็นเจ้า” สถานะของมิตทิ างจิตวญิ ญาณ

รัตติกรณ์ จงวิศาล และคณะ(2557 : 1) ได้ให้ความหมายของจิตวิญญาณว่า จิตวิญญาณเป็นคาศัพท์ที่
พบว่ามีความแตกต่างกันตามวัฒนธรรม ศาสนา ภาษาและประวัติศาสตร์อย่างไรก็ตามมีลักษณะร่วมกันบาง
ประการ และมีความแตกตา่ งกันไปตามภาษาและวฒั นธรรมรวมทั้ง พบความคล้ายคลึงสอดคลอ้ งกันอยู่ในความ
ต่างเหล่าน้ัน เร่ืองจิตวิญญาณน้ีเป็นกระแสความคิดที่มีมาอย่างต่อเนื่องตามประวัติศาสตร์ของมนุษย์ โดยมี
จดุ สงู สดุ ของความรู้ท่ใี หค้ วามสาคัญกบั มติ ทิ างจติ วญิ ญาณกค็ ือศาสนธรรมตา่ งๆ

จากความหมายท่กี ล่าวมาขา้ งต้น สามารถสรุปความหมายของจิตวญิ ญาณ ได้ว่า ลักษณะของจิตอนั สงู ส่ง
ของบุคคล มคี วามกลา้ ทจ่ี ะยนื หยดั ทาในสิง่ ทีถ่ กู ต้อง มีความเมตตากรณุ า ลดความเห็นแก่ตัว รู้จักการใหอ้ ภัย และ
มีการตระหนกั รู้ รวมท้งั การมีความเชื่อและศรัทธาในตวั บคุ คลน้ันๆ ด้วยจิตใจอันบริสุทธิ์

ความหมายของจิตวิญญาณความเปน็ ครู

คาว่า จิตวญิ ญาณความเปน็ ครู (Teacher spirituality ) ในประเทศไทยน้ันเราใช้กันมากในวงการศกึ ษา
แต่อยา่ งไรก็ตาม ทางด้านจิตวิทยา Snyder และLopez (2007) ได้ให้ความหมายของคาว่า Spirituality ว่าเป็น
การหาหนทางที่นาไปสู่การเป็นท่ียอมรับและภาคภูมิในตนเอง นอกจากน้ี PaJak และ Blaise (1989) กล่าวว่า
จติ วิญญาณความเป็นครจู ะทาใหค้ รปู ระกอบอาชีพครูได้อย่างมีประสิทธิภาพ และครูท่ีมจี ิตวิญญาณความเป็นครู
มักจะมีความเป็นมิตร ดูแลเอาใจใส่ เข้าใจ และยอมรับและอดทนต่อนักเรียนของตน ดังนั้น การปฏิบัติตาม
จรรยาบรรณครูทั้ง 9 ประการ จึงเป็นหนทางสู่การพัฒนาจิตวิญญาณความเป็นครู(ธวัชชัย เพ็งพินิจ , 2550)
จติ วญิ ญาณความเปน็ ครูจึงเป็นความตระหนักถึงหน้าท่ีในความเป็นครูของตนเองเพื่อพัฒนานักเรียนและวิชาชีพ
ดังน้ันคาวา่ จติ วญิ ญาณ จึงแตกต่างจาก คาวา่ อุดมการณ์ เพราะอดุ มการณ์หมายถึงหลักการที่วางระเบยี บไว้เป็น
แนวปฏิบัติเพื่อให้บรรลุเป้าหมายท่ีกาหนดไว้ ดังนั้นอุดมการณ์จึงเป็นระบบแห่งความเชื่อในเรื่องใดเรื่องหน่ึงท่ี
สมาชิกของสงั คมนนั้ ๆยึดถอื รว่ มกนั อุดมการณค์ วามเป็นครูจึงเป็นเปา้ หมายที่ครูมรี ว่ มกนั ในวิชาชีพครู (ณฏั ฐภรณ์
หลาวทอง และปิยวรรณ วิเศษสุวรรณภมู ิ, 2553: 2)

1. ความหมายของคาว่าครู

3

พจนานุกรมฉบบั ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 อธิบายว่าครูคอื ผู้ส่ังสอนศิษย์ผู้ถ่ายทอดความรู้ให้แก่
ศษิ ย์ ในปัจจุบันคาว่า ครจู ะคอ่ นข้างหมายถึงอาชีพประการหน่ึงในสงั คมมากกวา่ จะหมายถึงบุคคล ครู มรี ากศัพท์
เป็นภาษาบาลี มาจากคาวา่ ครุ (คะรุ) ซึ่งแปลว่าหนักแนน่ และสนั สกฤตว่า คุรุ (คุ-ร)ุ ซึ่งแปลว่า ผู้ชแ้ี สงสว่าง แต่
โดยความหมายในภาษาไทยก็คือครูผู้สอนประสิทธ์ิประสาทความรู้ อบรมบ่มนิสัยศิษย์ให้เป็นคนดี ยกระดับ
วิญญาณความรู้ดีช่วั ให้แยกแยะความดคี วามชว่ั และรู้จกั การดารงชีวิตในแนวทางที่ถกู ตอ้ งมีคุณธรรม

พทุ ธทาสภิกขุ (2557) ได้ให้ความหมายของครู ว่าครใู นสมยั โบราณในประเทศอินเดยี ซึง่ เป็นเจา้ ของคานี้
เป็นคาทีส่ ูงมาก เปน็ ผู้เปิดประทางตวู ิญญาณ แล้วกน็ าไปเดินทางวิญญาณ ไปสู่คณุ ธรรมเบอื้ งสูง เป็นเร่ืองทางจิต
โดยเฉพาะ มิไดห้ มายถงึ เร่อื งวัตถุหรอื มรรยาท หรือแม้แตอ่ าชีพ จึงมีน้อยมาก ครูน้นั มักจะไปทาหนา้ ท่ีเปน็ ปุโรหิต
ของพระราชาหรืออสิ ระชนซึง่ มอี านาจวาสนา มหี น้าท่ีการงานอนั ใหญ่หลวง คาว่าครู มกั แปลกนั มาแตเ่ พยี งว่าเป็น
ผู้ควรเคารพ หรอื มีความหนกั ที่เป็นหนอี้ ยู่เหนอื ศีรษะ เป็นเจ้าหนีอ้ ยู่บนเหนอื ศีรษะของทกุ คน แต่เด๋ียวนี้กลายมา
เป็นผู้ประกอบวิชาชีพอยา่ งหน่ึง จากคาอธิบายดงั กล่าวนั้นครูในอดีตเป็นตาแหน่งที่สังคมยกย่องเป็นผู้เปิดประตู
ทางวิญญาณ วิญญาณศิษย์ทั้งหลายท่ียังปิดด้วยอวิชชา เปน็ การช่วยให้ศิษย์ทาลายอวิชชาท้ังหลายเพื่อได้พัฒนา
ความเปน็ มนษุ ย์ มชี ีวิตจติ ใจทส่ี งู กว่าสัตวท์ ั้งหลายนน้ั เอง ในแง่ของความหมายนี้

ธรรมนันทิกา แจง้ สว่าง (2554 : 7) ได้ให้ความหมายของครู วา่ เปน็ บุคลากรวิชาชพี ทีท่ าหนา้ ทีใ่ นการ
ส่งั สอนศิษย์หรือถา่ ยทอดความรู้ให้กับศิษย์มีหน้าท่ีหลักทางด้านการเรียนการสอนและการส่งเสรมิ การ
เรียนรู้ของผู้เรียนดว้ ยวิธีการตา่ งๆ ในสถานศึกษา เพ่ือให้ผเู้ รยี นเกิดความรอบรูเ้ จริญก้าวหน้าและพัฒนาในทุกๆ
ดา้ น รวมท้ังให้เปน็ ผทู้ ี่มศี ลี ธรรม จริยธรรม ตามทส่ี ังคมปรารถนา
จากความหมายของครูทไี่ ด้กล่าวมาข้างตน้ สามารถสรุปความหมายของครูได้ว่า ครูเปน็ บุคคลผู้ประสิทธิ์
ประสาทความรู้ อบรมบ่มนิสัยศิษย์ให้เป็นคนดี โดยการส่ังสอนให้รูจ้ ักการแยกแยะความดีความชั่ว และรจู้ ักการ
ดารงชีวิตในแนวทางทถ่ี ูกตอ้ งมคี ณุ ธรรม

2. ความหมายของจิตวญิ ญาณความเป็นครู
เมอ่ื นาความหมายของจิตวิญญาณ มารวมกับคาว่าครู สรุปได้ว่า จติ วิญญาณความเปนครู หมายถึง จิตสานกึ ตาม
กรอบคุณธรรมจริยธรรมซ่งึ ทาใหเ้ กิดการใฝรู้ คน้ หา สร้างสรรค์ ถา่ ยทอด ปลูกฝังและเปนแบบอยา่ งท่ดี ีทง้ั ของศษิ ย์
เพ่ือนร่วมงานและคนในสงั คม นอกจากนย้ี ังมีนักวิชาการได้ให้ความหมายของคาว่า จิตวิญญาณความเป็นครู ไว้
ดังนี้

ณัฏฐภรณ์ หลาวทอง และปิยวรรณ วิเศษสุวรรณภูมิ (2553: 37) ได้ให้ความหมายของจิตวิญญาณ
ความเปน็ ครูวา่ เป็นคุณลกั ษณะของบุคคลในการมีจิตใจทป่ี ฏบิ ัตติ นเพอื่ นาไปสู่การเป็นท่ียอมรับและภาคภูมิใจใน
การถ่ายทอดความรู้ให้แก่บุคคลอ่ืน ซ่ึงคุณลักษณะดังกล่าวประกอบด้วย ความรับผิดชอบในหน้าที่ ความรักใน
อาชพี ความรกั และเมตตาเพ่ือนมนษุ ย์ ความเสียสละ ความอดทน ความยตุ ิธรรม และการเป็นแบบอยา่ งทด่ี ี

4

ธรรมนันทิกา แจ้งสว่าง (2554 : 8) ได้ให้ความหมายของจิตวญิ ญาณความเป็นครูว่าเป็นคุณลักษณะทางจติ และ
พฤติกรรมการทางานท่ีสะท้อนถึงการเป็นครูที่ดี จิตวิญญาณความเป็นครูที่ปรากฏเป็นคุณลักษณะทางจิตน้ีจะ
เก่ียวข้องกับความคิดทีม่ ีตอ่ วิชาชีพครู ประกอบดว้ ยการเหน็ คณุ คา่ ของบทบาทหน้าท่ี การมีศรัทธาในวิชาชีพ และ
ยึดมั่นต่ออุดมการณ์ในการทางานเป็นครู มีความเข้าใจท้ังตนเองและผู้อ่ืน ในขณะที่จิตวิญญาณความเป็นครูที่
ปรากฏเป็นพฤติกรรมประกอบด้วย การปฏิบัติต่อนักเรียนด้วยความเมตตา ช่วยเหลือ เสียสละ อดทน การเป็น
แบบอย่างที่ดี รวมท้งั การพฒั นาตนเองโดยการแสวงหาความรเู้ พม่ิ เติม

สุพัตรา ไวทยะพิศาล(2554: 8) กล่าวถึงจิตวิญญาณความเป็นครู คือ ครูท่ีทาแต่ความดีคือ ต้อง
ขยันหมั่นเพียรและอุตสาหะพากเพยี ร ตอ้ งเอ้ือเฟื้อเผ่ือแผ่และเสยี สละ ต้องหนักแน่นอดทน และอดกล้ัน สารวม
ระวังความประพฤตปิ ฏิบตั ิของตนใหอ้ ยู่ในระเบยี บ แบบแผนท่ดี งี าม รวมท้งั ตอ้ งซื่อสตั ย์
สุพิชญา โคทวี(2557: 50) ไดก้ ล่าววา่ จติ วญิ ญาณความเปน็ ครู คือการเป็นครู ด้วยใจรกั มีความเมตตาตอ่ ศษิ ย์ มี
ความอดทน มคี ณุ ธรรมจริยธรรม และเป็นผทู้ ่มี ีความเสียสละ เพอ่ื ประโยชนส์ ว่ นรวม

จุมพล พูลภัทรชวี ิน (2558 :9) ให้ความหมายของจติ วิญญาณครแู ละจิตวิญญาณของผ้ทู ป่ี ระกอบวิชาชพี
อน่ื หมายถึง จิตสานึก ความคิด ทัศนคติ พฤติกรรมการแสดงออกท่ีดี ลุ่มลึกสงบเย็น ตาม กรอบของจริยธรรม
คุณธรรม ค่านยิ ม จารตี ประเพณี วัฒนธรรม และความคาดหวงั ของสังคม อันเป็นองค์รวม ธาตุแทข้ องบุคคลผูใ้ ฝร่ ู้
คน้ หา สรา้ งสรรค์ ถ่ายทอด ปลกู ฝัง และเปน็ แบบอยา่ งทดี่ ีของสังคมซึ่งมขี น้ึ ไดใ้ นทกุ คน

ธวัชชัย เพ็งพินิจ (2558 :1) กล่าวว่า จิตวิญญาณครูมีคุณลักษณะที่บ่งบอกให้เห็นถึง พฤติกรรมการ
ก้าวขา้ มขีดจากัดของบริบททางสังคมและสิ่งแวดล้อมของบคุ คล ในการก้าวเข้าสู่มิติทางวิญญาณ ท่ีเปิดกว้างต่อ
ความคดิ จติ ใจ มโนธรรมและภาพมายาคตขิ องวาทกรรมแหง่ อัตลกั ษณท์ ้งั ปวง

กล่าวโดยสรุปจิตวิญญาณความเป็นครู หมายถึง คุณลักษณะท่ีแสดงถึงพฤติกรรมที่เป็น ประจักษ์
นา่ ช่ืนชมและเป็นท่ียอมรับในการปฏบิ ัติหนา้ ที่ครู ทั้งที่เปน็ ทางการและไม่เปน็ ทางการ ด้วยคุณธรรม จริยธรรม
และความปรารถนาดี มคี วามเข้าใจทจี่ ะพฒั นาศษิ ย์ตามศักยภาพดว้ ยความจรงิ ใจเสียสละอย่างมีความสุข

องคป์ ระกอบและตวั บง่ ชี้จิตวญิ ญาณความเปน็ ครู

จากการศึกษาเอกสารและผลการวิจัยที่เกี่ยวข้องจิตวิญญาณความเป็นครูมีองค์ประกอบและตัวบ่งช้ีจิต
วิญญาณความเปน็ ครู ดงั นี้

กิตินันท์ โนสุและเสริมศักดิ์ วิศาลาภรณ์ (2558 : 60-61) ได้กล่าวถงึ องคป์ ระกอบของจิตวิญญาณความ
เปน็ ครู ดังน้ี

(1) องค์ประกอบดา้ นการพฒั นาตนเอง ประกอบด้วย
1) การใฝ่หาความรู้ เพื่อพัฒนาตนเองอยู่เสมอ

5

2) มีความขยนั หมน่ั เพยี รแสวงหาความรูใ้ หมๆ่
3) มกี ารแลกเปลีย่ นเรียนรกู้ บั ผู้อืน่ เพ่อื การพัฒนาตนเองทกุ ครั้งทม่ี โี อกาส
4) มกี ารพฒั นาตนเองเพื่อสรา้ งความก้าวหนา้ ในวชิ าชพี จนได้รับอนุมตั ิใหม้ ีหรือเล่ือน วทิ ยฐานะ
5) มีความพยายามแสวงหาโอกาสเข้ารับการอบรม เพื่อนาความรู้มาพัฒนางานใน หน้าท่ีให้
เจริญกา้ วหน้า
6) มีการพฒั นางานในวิชาชพี หรอื ได้รับการยกย่องชมเชย หรือรางวลั ท่เี กีย่ วกบั วิชาชพี ครู
7) มีการสรา้ งสรรคผ์ ลงานทางวชิ าการเพอ่ื บรกิ ารสังคม
8) มีความกระตือรอื ร้นในการค้นควา้ หาความรูเ้ พิม่ เตมิ เพ่อื พฒั นาศิษย์
9) มกี ารพัฒนาตนเองใหท้ ันตอ่ การพฒั นาทางวทิ ยาการ เศรษฐกิจ สังคมและการเมอื ง อยเู่ สมอ
10) มีการสารวจและปรับปรงุ แกไ้ ขตนเองอยูเ่ สมอ
(2) องค์ประกอบดา้ นความมเี มตตาในการปฏบิ ตั งิ าน ประกอบด้วย
1) การยอมรับความแตกตา่ งทางวัฒนธรรม ความคดิ และความเชื่อ
2) การสนบั สนุนความคดิ รเิ รม่ิ ในทางทถ่ี ูกต้องของเพ่ือนร่วมงาน
3) การใชแ้ นวทางในการแก้ปญั หา โดยวธิ ีการทางปัญญาและสันติวธิ ี
4) ปฏบิ ตั ิงานโดยอาศัยหลกั แหง่ เหตุผล ปราศจากอคติ
5) การยอมรบั ผลทีเ่ กดิ จากการกระทาของตน ด้วยความเต็มใจ
6) มีความเปน็ ประชาธปิ ไตย
7) การใช้หลักการและเหตุผลในการตดั สนิ ใจแกป้ ัญหา
8) การยอมรับความคิดทมี่ เี หตผุ ลโดยคานงึ ถงึ ประโยชน์สว่ นรวมเปน็ หลัก
9) ปฏบิ ตั ิงานโดนไม่เพกิ เฉยในเหตกุ ารณท์ จ่ี ะทาใหเ้ กดิ ผลเสยี ตอ่ งานในหน้าท่ี
(3) องค์ประกอบดา้ นความคิดริเร่มิ สรา้ งสรรค์
1) มีการตดิ ตามและประเมินผลผูเ้ รยี นในรูปแบบท่ีหลากหลาย
2) การใช้แหลง่ เรียนร้ทู ัง้ ในและนอกสถานศกึ ษามาเป็นสว่ นหนึง่ ในการจดั การเรียนการสอน
3) การแกไ้ ข ปรบั ปรุง ข้อบกพร่องท่เี กดิ ขึน้ จากการเรยี นการสอน
4) การใช้ผลการวิเคราะห์ วจิ ัย เพ่อื พัฒนางานในหน้าท่อี ยูเ่ สมอ
5) การสร้างโอกาสใหผ้ ู้เรียนสามารถเชื่อมโยงความรทู้ ี่ไดร้ ับจากการเรียนรู้กับประสบการณช์ ีวิต
จริง
6) การคิดค้นการสร้างส่อื นวัตกรรม การเรียนการสอนในรูปแบบใหมๆ่
7) การแสวงหาแนวทาง วธิ ีการปรบั ปรงุ งาน ทีร่ บั ผดิ ชอบอย่เู สมอ
8) มีความกล้า มุง่ ม่ันในการกระทาส่ิงตา่ งๆ ดว้ ยวธิ ีการที่แตกต่างจากเดมิ

6

(4) องคป์ ระกอบดา้ นการปฏบิ ตั ิตามจรรยาบรรณวิชาชพี ประกอบด้วย
1) การใหค้ วามรว่ มมอื ในกจิ การของสถาบันเปน็ อยา่ งดี
2) การอทุ ิศตนเพอ่ื ประโยชนต์ อ่ วิชาชพี ครู
3) มคี วามตงั้ ใจปฏิบัติงานเพอื่ ให้วชิ าชพี ครูเปน็ ทย่ี กย่อง
4) มีความจริงใจในความรบั ผิดชอบตอ่ วิชาชีพครู
5) การให้เกียรติแกผ่ ูร้ ว่ มวชิ าชพี ครู
6) การธารงเกียรติแกผ่ รู้ ่วมวิชาชพี ครู

(5) องคป์ ระกอบด้านวิรยิ ะ อตุ สาหะ ประกอบด้วย
1) มคี วามขยันตั้งใจในการทางานท่ไี ดร้ บั มอบหมาย
2) มคี วามกระตอื รือรน้ ในการทางาน
3) มีความเต็มใจอทุ ิศเวลาในการปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ี
4) การรจู้ กั หน้าทแ่ี ละปฏิบตั หิ นา้ ทอี่ ย่างเต็มความสามารถ
5) ปฏบิ ัตงิ านการสอนตรงเวลาเสมอๆ

(6) องคป์ ระกอบดา้ นความเมตตา กรุณา
1) มีความปรารถนาดีต่อศิษย์
2) มีความเออ้ื เฟอ้ื อาทรต่อศิษย์
3) มีความเมตตาต่อศิษย์
4) การยึดมน่ั ในคณุ ธรรม จริยธรรม ตามหลักศาสนา

(7) องคป์ ระกอบดา้ นความซื่อสตั ยต์ ่อวิชาชีพ ประกอบด้วย
1) การให้เกียรติผูอ้ ืน่ ทางวิชาการ โดยไม่นาผลงงานของผใู้ ดมาแอบอา้ งเป็นของตน
2) มีความตระหนักในคณุ ค่าศักด์ศิ รีของความเปน็ มนุษย์ โดยไม่คานึงถึง เชื้อชาติ ศาสนา และ

สถานภาพของบุคคล
3) ไมย่ อมใหน้ าผลงานทางวชิ าการของตนไปใชใ้ นทางทุจรติ
4) ไมแ่ สวงหาผลประโยชน์จากศษิ ยใ์ นการปฏิบตั ิหน้าท่ี
5) ตอ้ งปฏบิ ัตติ อ่ ศิษย์ทกุ คนดว้ ยความเสมอภาค

(8) องค์ประกอบดา้ นความดี ประกอบดว้ ย
1) มีความสภุ าพอ่อนโยน
2) มคี วามเอ้ือเฟื้อ เผื่อแผ่ ช่วยเหลอื ผู้อ่ืน
3) มีความเสียสละ
4) มคี วามเห็นอกเห็นใจผ้อู ่นื

7

(9) องคป์ ระกอบด้านความรกั ศรัทธาในวชิ าชพี ประกอบด้วย
1) มีความรักในวิชาชีพครูยิ่งกว่าวิชาชีพใด
2) มีความศรทั ธาในวชิ าชีพครมู ากกวา่ วิชาชพี อื่น
3) มีความมุ่งมนั่ ตัง้ ใจมาเป็นครเู ปน็ อันดบั แรก

(10) องค์ประกอบดา้ นการปฏิบัติการสอน ประกอบด้วย
1) การไดร้ บั การยกยอ่ งนบั ถือในเชงิ ภมู ปิ ญั ญา และเชาวนไ์ หวพริบในด้านการอบรม สัง่ สอน
2) การคิดค้น วธิ กี ารจดั การเรยี นการสอนใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพมากข้นึ
3) สามารถประยุกต์ความร้ทู ่มี อี ยู่ จัดการเรยี นการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสมกบั ศักยภาพของผู้เรยี น

ณฎั ฐภรณ์ หลาวทองและปิยวรรณ วิเศษสวุ รรณภูมิ (2553 :46-47) ได้กล่าวเกี่ยวกับองค์ประกอบของจิต
วญิ ญาณความเป็นครู ประกอบดว้ ย 4 องค์ประกอบ ดังนี้

องค์ประกอบท่ี 1 การปฏิบัติหน้าที่ครู เป็นการปฏิบัติหน้าท่ีที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็ม ความสามารถ
ไดแ้ ก่ การอบรมสงั่ สอนศษิ ยโ์ ดยคานงึ ถึงการพฒั นาศษิ ยไ์ ด้อย่างเต็มตามศักยภาพแนะ นอกจากนย้ี งั ต้องมีความรัก
ในอาชีพและปฏบิ ตั ติ นเป็นแบบอย่างท่ีดีแก่ผ้รู ่วมอาชพี

องค์ประกอบที่ 2 การปฏิบัติต่อศิษย์โดยเสมอภาค เป็นการปฏิบัติต่อศิษย์ทุกคนอย่าง ยุติธรรม และมี
เหตผุ ล โดยไม่คานงึ ถงึ อามิสสินจา้ ง หรอื ความสมั พนั ธส์ ่วนบคุ คล

องค์ประกอบที่ 3 ความเช่อื มน่ั ในศักยภาพของมนุษย์ เปน็ ความเชือ่ มนั่ และศรัทธาวา่ มนษุ ยท์ ุกคนเป็นคน
ดี และมศี ักยภาพในการเรยี นรูแ้ ละพฒั นาตนเอง

องค์ประกอบที่ 4 การเสียสละในงานครู เป็นการปฏิบัติหน้าที่สอนศิษย์อย่างเต็มใจ โดยไม่คานึงถึง
ประโยชนส์ ว่ นตนเป็นหลกั

อมรรัตน์ แกน่ สาร (2558) ศึกษาเร่ือง การพฒั นาตัวบ่งชี้จิตวญิ ญาณความเปนครูของครู สังกัดสานักงาน
คณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พบว่า จิตวิญญาณความเป นครูของครู สังกัดสานักงานคณะกรรมการ
การศกึ ษาข้ันพืน้ ฐานประกอบด้วย 7 องค์ประกอบหลักคือ

1) การปฏิบตั ิตามบทบาทหน้าท่ี
2) การมมี นุษยสมั พันธท์ ดี่ ีและมีความเปนกลั ยาณมติ ร
3) การเปนแบบอย่างท่ดี ี
4) การมีจติ วทิ ยาในการสอน
5) ความรกั และศรทั ธาในวชิ าชีพ
6) การมคี ุณธรรมและจรยิ ธรรม
7) ความผูกพนั ระหวา่ งครกู บั ศษิ ย์

8

จากองค์ประกอบของจิตวิญญาณความเป็นครูข้างต้นสามารถสรุปได้ว่า จิตวิญญาณความเปนครูมี
องคป์ ระกอบ 5 ด้าน ประกอบดว้ ย 1) คุณลกั ษณะสว่ นตวั และการมีคุณธรรม จรยิ ธรรม ไดแ้ ก่ ความวิรยิ ะอุตสาหะ
เมตตากรุณา ซื่อสัตย์ มีเหตุผล 2) การตระหนักรู้และปฏิบัติตนบนวิถีความเป นครู ได้แก่ การปฏิบัติตนตาม
จรรยาบรรณวิชาชีพครู การทางานเพ่ือเด็ก การเปนแบบอย่างท่ีดี 3) รักและศรัทธาในวิชาชีพครู 4) ความ
เชีย่ วชาญในการสอน และ 5) การพัฒนาตนเองอย่างต่อเน่อื ง

แนวทางการพัฒนาจิตวิญญาณความเปน็ ครู

นักวชิ าการได้เสนอแนวทางที่เกย่ี วข้องกับการพัฒนาจติ วิญญาณความเป็นครู ดงั น้ี
ธวชั ชยั เพง็ พนิ ิจ (2558 :1) กลา่ วถึงวธิ ีปฏบิ ัตสิ ูค่ วามถงึ พรอ้ มแหง่ จิตวิญญาณทช่ี ว่ ยในการ เสริมสร้างความ
ดอี ันเจรญิ งอกงามให้มีขึน้ ท้งั ต่อบคุ คลและสงั คมอย่างยั่งยืนประกอบดว้ ย
(1) มีความเจริญและสมดุลท้ังด้าน IQ และ EQ (I.Q. ย่อมาจาก Intelligence Quotient หมายถึงความ
เฉลียวฉลาดทางสตปิ ัญญา ส่วน E.Q. ยอ่ มาจาก Emotional Quotient หรือ Emotional Intelligence หมายถึง
ความฉลาดทางอารมณ)์ ซึง่ IQ นน่ั เกดิ จากการศกึ ษาคน้ คว้า วเิ คราะห์ พินจิ พิจารณา สร้างความรูใ้ ห้มีขึ้นในตัวเอง
ส่วน E.Q น่ันเกิดจากการฝึกฝนและพัฒนาภายในตัวตนของบุคคล ซึ่งคนที่มี IQ สูงหรือมีอัจฉริภาพเพียงอย่าง
เดียวน้ันอาจไมป่ ระสบความสาเร็จในชวี ิตได้ เพราะภาวะสังคมทเี่ ป็นพิษ ทาให้ 18 จิตใจคนแปรเปล่ียนไป สมอง
เฉือ่ ยชา ไม่รูจ้ ักจดั ระบบใหก้ บั ตวั เอง ทง้ั น้ีคนท่ปี ระสบความสาเร็จในชีวติ EQ มกั จะนา IQ ดังนั้นในความเป็นครู
ท้ังสองนีต้ ้องสมดลุ กนั มฉิ ะน้นั จะเปน็ ไปได้ยากท่ีจะพัฒนาผอู้ นื่ ได้
(2) ยดึ หลักศาสนธรรม ท้ังนีเ้ พราะศาสนธรรมเป็นหลักพืน้ ฐานในการดารงชีวิตร่วมกับผู้อืน่ ไมว่ ่าจะเปน็ ศีล
5 มรรค 8 (อัฏฐังคิกมรรค) พรหมวิหาร 4 อิทธิบาท 4 หิริ โอตัปปะ (ความละอายเกรงกลัว ต่อบาป) เป็นต้น
เพือ่ ให้การดาเนินชวี ิตไปด้วยความสขุ ุมลมุ่ ลึก มีสติ และขัดเกลาจิตใจให้มีความนบน้อม อ่อนโยน เมตตาจิต มี
จิตประภัสสร เช่ือมั่นในเรื่องผลแห่งกรรม (การกระทา) ดังพุทธพจน์ที่ว่า “ธม. โม สุจิณ. โณ สุขมา วหาติ ผู้
ประพฤตดิ ีแล้วยอ่ มนาความสขุ มาให้”
(3) เคารพตนเองและผอู้ ่ืน เชือ่ มั่นในส่งิ ทที่ า มองเห็นคณุ ค่าและศักดศิ์ รีความเปน็ มนุษย์ เชื่อ วา่ มนุษยท์ ุก
คนล้วนมีศักยภาพที่สามารถพฒั นาได้ รวมท้งั มีสานกึ ดีตอ่ สงั คม มงุ่ มนั่ ในการทาความดีในทุกขณะ มองโลกในแงด่ ี
ศรัทธาในพุทธพจนท์ ว่ี า่ “ทาดีได้ดี ทาชว่ั ได้ชัว่ ”
(4) ใชช้ ีวิตอยทู่ ั่วจักรวาล มคี ากล่าววา่ มนุษยเ์ ปน็ สตั ว์ชนิดเดยี วที่อยู่ทัว่ จักรวาล ท้ังน้ีเพราะ มนุษยม์ อี ดีต มี
ปัจจบุ ัน และมอี นาคต ดังน้นั ครูจะต้องเชื่อมโยงทั้ง 3 มิตนิ ้เี ข้าดว้ ยกนั โดยนาเอาอดตี มาเรยี ง ร้อยประสานเข้ากบั
ปัจจุบัน แล้วมองภาพอนาคต (Scenario) ท่ีพึงปรารถนาให้เห็น โดยมีสมมติฐานว่า อนาคต ท่ีดีมาจากการ
วางรากฐานของปจั จุบันท่พี ัฒนามาจากประสบการณข์ องอดีต

9

(5) ครึ่งหนึง่ ของชวี ิตอุทิศเพ่ือสงั คม คนเราไม่ได้เกิดมาด้วยตัวคนเดียวโดดๆ แต่ชีวิตคอื ผลรวมของความ
มงุ่ มน่ั จากส่ิงรอบตัว เพราะฉะนั้นชีวิตแต่ละชีวิตตา่ งติดหนี้สังคมอยูค่ รงึ่ ชีวติ การกระทาท่ียุติธรรมทัง้ ต่อตนเองและ
บุคคลอ่นื คือ การแบ่งผลประโยชน์ครึ่งหนงึ่ ของชีวิตคืนให้สงั คม เปิดกระบวนทัศน์ (Paradigm) ของตัวเองให้พ้น
กรอบของความเห็นแกต่ ัว ความยดึ ม่นั ถือมั่น และการไขว่ควา้ เพ่ือสนองตัณหา เฉพาะในช่วงชวี ิตของตัวเอง ต้อง
ระลกึ อยู่เสมอว่า มนุษยช์ าตินั้นมีระยะเวลาที่ยาวไกลมากนัก เราในฐานะ “ผมู้ าเยือน” จะหลงเหลืออะไรไวบ้ ้าง
นั่นจะเป็นคา“ขอบคณุ ” หรอื “ประณาม”

(6) ครูคือผู้สร้างค่านิยมกระแสสังคม การกระทาใดๆ จะต้องใส่ใจและรับผิดชอบต่อสังคม ไม่ใช่เพื่อ
สนองตอบต่อมายาคติของตนเองเท่าน้ัน ทั้งนี้เพราะบทบาทของครูนั้นมีอิทธิพลต่อการกาหนดค่านิยม ทัศนคติ
และกระแสสังคมอย่างหลกี เลีย่ งไม่ได้ ดงั น้นั ตวั อย่างที่ดียอ่ มมคี วามสาคญั เสมอ

เหตุทีจ่ ิตวญิ ญาณความเป็นครเู ป็นคณุ ลกั ษณะสาคัญของครมู ืออาชีพ

ศตวรรษที่ 21 เปนยุคแห่งเทคโนโลยี จึงทาให้วิธีเรยี น วธิ สี อน และส่ือการสอนเปลยี่ นแปลงไป ครูจะใช้
วิธีสอนแบบเดิม ท่ีมีครูเปนบุคคลสาคัญ (Teacher-centered Approach) คอื การถ่ายทอดความรู้ ความจาจาก
ครูไปสู่นักเรียน แบบที่เคยทามาในอดีตไม่ได้ เพราะการเรียนของคนในปัจจุบันเกิดขึ้นได้ทุกท่ี ทุกเวลาและไร้
ขอบเขตจากัด ดงั นั้นครูจาเปนตอ้ งพัฒนาตนเอง ใหส้ ามารถสร้างหรอื ผลิตส่อื การสอนท่ีใช้วิทยาการสมัยใหม่และ
สามารถดึงดดู ความสนใจของนักเรียนได้นานขึ้น เชน่ ส่ือผสม (Multimedia) เปนต้น ครูตอ้ งปรับเปลีย่ นบทบาท
ของตนมาเปน “ผู้สนับสนุนหรือผู้เอ้ืออานวย” (Facilitator) ให้นกั เรียนเกิด การเรียนรู้โดยนักเรียน มีบทบาทใน
การแสวงหาความร้ดู ้วยตนเอง เพ่ิมมากข้ึนหรือที่เรยี กวา่ การสอนแบบยึดนกั เรียนเปนสาคัญ (Student-centered
Approach) ครูท่ปี รับเปลี่ยนความคดิ และ วธิ ีทางานได้ดังกล่าวขา้ งต้น เชื่อแน่ว่านกั เรียนจะมผี ลสมั ฤทธิ์ ทางการ
เรียนเพิม่ ขน้ึ อยา่ งชดั เจนและครกู จ็ ะได้ชอ่ื ว่า “เปนมอื อาชีพ” อย่างไรกต็ ามการมผี ลสัมฤทธ์ิทางการเรียนเพิม่ ขนึ้ ก็
มิไดเ้ ปนเปาหมายหลักประการเดยี วของการจดั การศึกษาของชาติ หากแต่ ต้องมี “คุณลักษณะที่พึงประสงค์”หรือ
“เปนคนดี”อกี ด้วย

อาชีพครเู ปนอาชีพที่ทางานกบั คนเพ่อื พัฒนาหรือยกระดับศักยภาพและสภาพจิตของคนการสร้างคนดี
คนทม่ี ลี กั ษณะพงึ ประสงค์ จาเปนตอ้ งมแี บบอยา่ ง (Model) ที่ดี ตอ้ งใช้เวลาหลอ่ หลอม ปรับแต่งยาวนานตอ่ เน่ือง
ด้วยจิตท่ีมุ่งม่ันอดทน ไม่ละทิ้งอุดมการณ์ หรือหน้าท่ีในการพัฒนาศิษย์ ด้วยเหตุดังกล่าวครูมืออาชีพจึงต้อง
เปนมืออาชพี ท้งั ดา้ นวชิ าการและด้านการปฏิบตั ิหนา้ ทด่ี ้วยจติ วญิ ญาณในอันทจ่ี ะพัฒนาศิษย์อย่างรอบด้าน เพ่ือให้
เปนคนดี คนเกง่ และสามารถดารงชีวิตได้อยา่ งมีความสุข การท่ีจะเปนครูมืออาชีพนั้น ใจหรือจิตและวิญญาณ
จะตอ้ งมาเปนอันดับแรก เมอื่ มใี จให้กับงานสอน งานพฒั นานักเรยี น ก็จะเกิดความรกั ความศรัทธาและการยดึ ม่ัน
ในอุดมการณ์แห่งวิชาชีพ การพัฒนาตนเองอย่างต่อเน่ืองให้มีความรู้และทักษะในการสอน ประพฤติ ตัวดี

10

เปนแบบอย่างท่ีดี เอาใจใส่ดูแลและหวังดตี ่อศิษย์ การปฏิบัติ ดังกลา่ วเรยี กได้ว่าการปฏิบัติด้วยจิตวิญญาณความ
เปนครู เปนที่ทราบกันดีว่าการปฏิบัติหน้าท่ีด้วยใจ ด้วยจิตและวิญญาณจะทาให้ เกิดความตระหนักและมุ่งม่ัน
ทุ่มเทในการทางาน พยายามรักษา เกียรติและศักดิ์ศรีแห่งตนและวิชาชีพ (วัลนิกา ฉลากบาง, 2559: 3) ซ่ึง
สอดคล้องกับกัญญา โพธวิ ฒั น์ (2554) ที่ว่า สมรรถนะท่ีสาคัญของครูมอื อาชพี คือความศรัทธาในวิชาชีพครู การมี
ความสุขในการสอน การมุ่งม่ันพัฒนาตนเองและ การแสวงหาความรใู้ หม่อยู่เสมอ ดังนั้นจิตวิญญาณความเปนครู
จงึ เปนคุณลกั ษณะสาคญั ของครูมืออาชพี

คุณสมบัตขิ องครูตามแนวคดิ จิตวญิ ญาณความเปน็ ครู

ครตู อ้ งเดน่ ในเร่ืองวชิ าการ รูล้ กึ รจู้ รงิ รูก้ ว้าง ครูตอ้ งมศี ลิ ปะในการถ่ายทอดความรู้ และครตู ้องมีใจเมตตา
ตอ่ ศษิ ย์ รกั ศษิ ย์ดงั ลกู ซ่งึ สุเทพ ธรรมะตระกูล (2555, หน้า 24-27) ได้กลา่ วถึงคุณสมบัติ ดงั นี้

1. บุคลิกภาพดีการมีบุคลิกภาพที่ดี ไม่ว่าจะประกอบอาชีพการงานใด ก็เปรียบเสมือน ได้ประสบ
ความสาเร็จไปแล้วครงึ่ หน่ึง อาชพี ครูกเ็ ปน็ อีกอาชพี หนึ่งทตี่ ้องอาศัยบคุ ลิกภาพ เพอื่ ก้าวไปสคู่ วามเปน็ ครมู อื อาชีพ
ทีก่ ล่าวว่า บุคลิกภาพสามารถนาไปสู่การเป็นครูมืออาชพี ได้น้ัน ก็เพราะว่า นอกจากบุคลิกภาพท่ีดี จะสามารถ
สรา้ งความมั่นใจใหก้ ับตัวครเู องแล้ว ยังสามารถสรา้ ง ความประทบั ใจแรกพบ (First impression) ใหก้ ับผ้พู บเห็น
โดยท่ัวไปอีกด้วย โดยครูกับบุคลิกภาพ ที่ดีจะต้องเร่ิมจากการพัฒนาส่วนต่าง ๆ คือ 1) การพัฒนาพฤติกรรม
ภายนอกหรือรูปสมบัติ ได้แก่ รูปร่างหน้าตา การแต่งกาย กิริยาท่าทาง น้าเสียงและการพูด 2) การพัฒนา
พฤตกิ รรมภายใน หรือคุณสมบตั ปิ ระกอบด้วยส่วนต่าง ๆ ดงั น้ี ความเช่ือม่ันในตนเอง รวมไปถึงการมคี วามเช่ือม่ัน
ในการแตง่ กายและการวางตวั ท่เี หมาะสม ความแนบเนยี น บางครง้ั ครูจาเป็นตอ้ งใช้จติ วิทยา ในการพูดกบั นกั เรียน
ความกระตือรือร้น ความไว้วางใจได้ ครตู ้องมีความจาทด่ี ี ความยับยงั้ ชงั่ ใจ

ดังนั้น บุคลิกภาพทีดีกบั อาชีพครจู ึงขาดกันเสียมิได้ จึงอาจกล่าวได้ว่าครูคนใดมีบคุ ลิกภาพที่ดกี ็สามารถ
ประสบความสาเรจ็ ไปแลว้ คร่งึ หนึง่ ทเ่ี หลอื อกี คร่ึงหนงึ่ กน็ ่าจะเป็นความรูค้ วามสามารถเฉพาะตวั ของบุคคลนนั้ ๆ ท่ี
จะหลอมรวมกนั เพอ่ื สรา้ งความสาเร็จในชีวติ ใหก้ ับตนเอง

2. มีความเมตตาต่อศิษย์ ครูคือผู้มีเมตตาความเมตตาเป็นคุณธรรมท่ีสาคัญอีกประการหน่ึงของครูที่จะ
ขาดเสีย มิได้ ครูท่ีสอนศษิ ยด์ ว้ ยความเมตตาจะอย่ใู นดวงใจของศิษย์ทุกคน

2.1 เมตตาต่อศิษย์ ครูควรมีเมตตาต่อศิษย์ทุกคน และควรถือว่าศิษย์ทุกคนเป็นเสมือนลูก เสมือน
หลาน ความเมตตาท่มี ตี อ่ ศิษย์จะทาใหค้ รูมคี วามกระตือรอื ร้นในการสอน และสอน ด้วยความสุข เพราะในดวงจิต
ของครูมแี ต่ความปรารถนาดีท่ีต้องการให้ศิษย์มคี วามรู้ และมีอนาคตท่ดี ีในภายภาคหน้า ครูที่มีเมตตาจะพูดกับ
ศิษยด์ ว้ ยคาพดู ท่ีมคี วามไพเราะสุภาพ และออ่ นโยน และจะให้กาลังใจศษิ ย์อย่เู สมอ

11

2.2 เมตตาตอ่ ญาติ ครคู วรมีเมตตาต่อญาตพิ ่ีน้องด้วยการชว่ ยเหลือ อนุเคราะห์และ สนับสนุนให้ทุกคน
มีการศึกษา มีความกา้ วหน้าในชีวิตและการงาน และชว่ ยเหลือในการไกล่เกล่ีย ข้อพิพาทบาดหมางระหว่างเครือ
ญาติ มีเมตตาต่อญาตพิ ่ีนอ้ งจะทาใหค้ รเู ปน็ แบบอยา่ งทีด่ ขี องศิษย์ และของคนทกุ คน

2.3 เมตตาตอ่ มติ ร โดยธรรมชาติของอาชีพครู ครูจะมีแต่ผทู้ ีเ่ ปน็ มติ รทั้งทีร่ ู้จัก และไมร่ ูจ้ ัก ดงั นั้น ครูจึง
ตอ้ งมีเมตตาต่อมิตรทุกคน ด้วยการช่วยเหลอื การให้คาแนะนา และอืน่ ๆ ตามอัตภาพ การมเี มตตาต่อมิตรจะบ่ง
บอกถงึ การมีมนษุ ย์สมั พนั ธท์ ี่ดีของครู ทาให้ครูเปน็ ท่ีรัก และเคารพแกศ่ ษิ ย์ แกบ่ ุคคลทั่วไป

2.4 เมตตาต่อศัตรู การมเี มตตาต่อศัตรูถอื เป็นคุณธรรมข้ันสูงที่ครทู ุกคนพึงมี เน่ืองจากครูเป็นปูชนีย
บุคคล หมายความว่าเป็นบุคคลท่ีน่านับถือ ท่ีสาคัญคือครูเป็นตัวอย่างที่ดี ของศิษย์หากครูเป็นคนวู่วาม ใจร้อน
และชอบผูกพยาบาท ครูกจ็ ะเป็นตัวอย่างท่ีดไี ม่ได้ การมีเมตตา ต่อศัตรู คือการไมโ่ กรธ ไม่ผกู พยาบาท และการให้
อภัย

2.5 เมตตาตอ่ คนทกุ คน เมื่อครูคือผู้ที่มีหน้าท่ีอบรมส่ังสอน ครูจึงต้องมีความเมตตา ต่อคนทุกคนโดย
ไม่เลือกชั้นวรรณะบทบาทของครคู ือ บทบาทในการเผยแพรค่ วามเมตตาตอ่ ชาวโลกท้ังมวล

3. รอบรใู้ นสายวชิ าชพี ครูผู้สอนมคี วามรอบรูใ้ นทุกศาสตร์ เข้าใจ มีความเป็นครูอยใู่ นตัวตน มคี วามเป็น
ครูที่มี เจตจานงอยากสอนศิษย์ และเป็นมอื อาชีพที่สามารถชี้ชดั ในวิชาการ และครูตอ้ งสามารถชวนลูกศิษย์ใหล้ ง
มอื ปฏิบตั ไิ ด้ และต้องร้จู กั เสยี สละ ทุ่มเท และประยกุ ต์ งานต่าง ๆ เพื่อให้นวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นมา ทั้งน้ี ครูต้องกล้า
ที่จะให้โอกาสศิษย์ ตอ้ งกล้าหาญ ในเชงิ จริยธรรม ท่ีสาคัญต้องปลกู ฝังใหศ้ ิษยร์ า่ เริง เบกิ บาน แจม่ ใส

4. เทคนิคการสอนดี เทคนคิ วิธีการสอนและการปฏบิ ตั ติ นที่ดี 10 ประการสาหรบั ครู มีดังน้ี
4.1 ให้ความรกั แกน่ ักเรยี น พร้อม ๆ ไปกบั เน้ือหาวิชาเรียน ครูควรแนะนาวธิ ีเรยี นรู้ ใหแ้ ก่เดก็ ดูแลและ

เอาใจใส่นกั เรยี น ทาใหก้ ารเรยี นการสอนน้ันมคี วามหมายขึ้นมาจนเกิดเปน็ ความผูกพนั ระหว่างครูกบั ศษิ ย์
4.2 สอนให้นักเรียนเชื่อมโยงกบั ชีวิตจริง และฝึกให้นักเรียนคิดให้บ่อยท่ีสุด ให้ผูเ้ รียนเข้าใจว่าความรู้

ไม่ไดจ้ ากัดอยู่แต่ในเฉพาะหนังสือเทา่ นั้น ครูยังควรเช่ือมช่องว่างระหว่าง ทฤษฎีและการปฏิบตั ิทาให้นักเรียนเกิด
ความชานาญในเร่ืองท่ีนักเรียนสนใจ โดยครใู หค้ าปรึกษา ชว่ ยเหลือในการปฏิบตั ิ และเชื่อมโยงสภาพชวี ิตในชุมชน
ของนักเรยี นกับความรู้ท่ีศึกษาในโรงเรียน

4.3 ตง้ั ใจฟงั นักเรียน ครตู อ้ งรจู้ กั ตั้งคาถาม สามารถตอบขอ้ สงสัยแกน่ กั เรยี นได้ และ ควรระลกึ อยู่เสมอ
วา่ นักเรียนแต่ละคนในชั้นเรียนมคี วามแตกต่างกนั ครูควรกระตุ้นการตอบสนอง การเรียนรู้และการพฒั นาทักษะ
การส่ือสารให้แก่นกั เรียนด้วย

4.4 การจัดการเรียนรู้ต้องยืดหยนุ่ เปลี่ยนแปลงได้ มีการทดลอง การสอนท่ีหลากหลาย และ ครูควร
ปรับการสอนบ้างเม่ือมีวิธกี ารชว่ ยให้นักเรียนบางคนเรียนรู้ ได้ดีข้ึน และควรสร้างสมดุลระหว่างเน้ือหาและความ
ยดื หยุ่นในการสอน

4.5 สรา้ งบรรยากาศเป็นกันเอง ตอ้ งทาให้นักเรียนเกิดความรู้สกึ มีสว่ นร่วม

12

4.6 มีอารมณ์ขัน พยายามอย่าทาตัวให้เครียด การมีอารมณ์ขันจะช่วยทลายกาแพงระหว่ างครูกับ
นกั เรียนได้ ครคู วรเรยี นรูท้ ่ีจะผอ่ นคลาย บรรยากาศในห้องเรียน

4.7 เตรียมตวั ให้พรอ้ ม มคี วามเอาใจใส่ และอุทิศเวลาใหแ้ ก่การค้นคว้าหาวิธถี ่ายทอดความร้ดู ้านตา่ ง
ๆ ให้แก่นักเรยี น ครูดตี ้องมกี ารเตรียมการสอนมาอย่างดี มสี ื่อการสอนที่พรอ้ มและวิธีการสอนที่น่าสนใจ

4.8 ตอ้ งได้รบั การสนบั สนนุ อย่างจริงจงั จากผบู้ ริหาร ทัÊงในดา้ นทรพั ยากรและ บุคลากร ผู้บรหิ ารควร
ให้การเสริมแรงครูอยอู่ ย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดกาลังใจในการปฏิบตั ิหน้าที่ และสามารถทางานไดอ้ ยา่ งปราศจาก
อุปสรรคปญั หา

4.9 ร้จู กั ทางานรว่ มกับเพื่อนครู เพ่ือแลกเปลี่ยนประสบการณก์ ารจัดการเรยี น การสอน ตลอดจนการ
แกป้ ัญหาตา่ ง ๆ ของครูแต่ละคน

4.10 มีจินตนาการ จะเป็นครูท่ีดีได้จะต้องรู้จักใช้จินตนาการบ้าง เพราะจะมีผลต่อ ความคิดริเริ่ม
ใหม่ๆ ลองจ้องไปที่นักเรียนแถวหลังสุด นึกถึงเส้นประสาทท่ีเชื่อมต่อกันและ ประกอบกันมีรูปร่างรวมตัวเป็น
มนุษย์ การเรียนรู้ของคนเราคงจะพัฒนาไปเร่ือย ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง หากครูไม่หยุดน่ิงที่จะเรียนรู้และพัฒนา
ความสามารถของท้ังตนเองและนกั เรยี นไปพร้อม ๆ กัน ครู คอื วศิ วกรสังคมที่มีสว่ นสาคัญยิ่งในการสรา้ งคนรุ่น
ใหมท่ ี่สมบรู ณ์ขึ้นมา

5. มจี ิตอาสา จติ อาสา คอื หวั ใจของการบริการวชิ าการ การที่คนเราจะประสบผลสาเร็จ ไมว่ ่าในอาชีพ
การงาน หรือส่ิงท่ีม่งุ หวงั ได้ มิใช่แค่เพยี งเกิดจากความสามารถของตนเองเท่านั้น หากแต่เกิดจาก การฟมู ฟักของ
พอ่ แม่และครูบาอาจารยท์ ่ีพร่าอบรมบ่มนิสัยและถ่ายทอดวิชาความรู้ ตลอดจน ประสบการณ์ท่ีสะสมมา ลองนึก
ยอ้ นกลับไปจะพบว่า บูรพาจารย์ของเรา ท่านไม่ได้ทาหนา้ ท่ี แค่สอนหนังสือเท่าน้ัน แต่ท่านยังทาหน้าที่เสมือน
ญาตผิ ู้ใหญ่และเป็นพเ่ี ลี้ยงใหก้ บั ศิษยอ์ ีกด้วย เพราะท่านมหี ัวใจของการบรกิ ารอยตู่ ลอดเวลา แต่คนท่ีมีจติ วญิ ญาณ
เป็นครู ท่านทาไปโดยไมค่ ดิ หวังผลตอบแทนใด นอกจากอยากเห็นความกา้ วหนา้ เจริญรุ่งเรืองของศษิ ย์ท่านก็ปล้ืม
ใจแล้ว ด้วยท่านมีจิตเมตตาและมีจิตอาสา ที่ไม่รู้จักคาว่าเหน็ดเหนื่อยท้ังน้ีจิตอาสาของครูสัมฤทธ์ิผล และมี
ประสทิ ธิภาพในการใหบ้ ริการวชิ าการ มอี งคป์ ระกอบของ 5 ย.ร่วมด้วย คอื ย้ิมแยม้ ยกย่อง ยอมแพ้ ยืดหยุ่น ยืน
หยดั

ยนต์ ชุ่มจิต (2553, หน้า138-139) ได้ศึกษาคุณสมบัติของครูที่มีจิตวิญญาณความเป็นครู ควร
ประกอบดว้ ย ความประพฤติเรยี บร้อย ความรดู้ ี บคุ ลกิ ลกั ษณะและการแตง่ กายดี สอนดี ตรงเวลา มคี วามยุตธิ รรม
หาความร้อู ยูเ่ สมอ ร่าเริงแจม่ ใส ซื่อสัตย์ และเสียสละ

จึงสรุปได้วา่ คุณสมบตั ิของครูท่ีมจี ิตวิญญาณความเป็นครูน้ัน ประกอบด้วย 1) ความมีเมตตาต่อศิษย์ที่
รวมถงึ พฤตกิ รรมทนี่ กั ศกึ ษาได้รบั รู้จากครู/อาจารย์ และนาไปใช้ เป็นแบบอย่างในดา้ นการปลูกฝัง ดูแลเอาใจใส่ลกู
ศิษย์ ใหค้ วามช่วยเหลอื เป็นกันเอง รบั ฟัง ความคิดเห็นของนักศกึ ษา และแก้ไขขอ้ บกพร่องต่าง ๆ ให้กบั นักศึกษา
2) บคุ ลกิ ภาพดีคือ พฤติกรรมที่นักศึกษาแสดงออกดว้ ยความม่ันใจ มีการแตง่ กายถูกต้องตามกฎระเบียบ เป็ นแบ

13

บอย่างที่ดีแก่ศิษย์ท้ังกาย วาจา และใจ ระมัดระวังคาพูดของตนเอง ปรับตัวและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น 3)
ความรอบรู้ โดยนกั ศึกษามีความรอบรู้ในวชิ าชีพครู ในรายวิชาเอก และมคี วามกระตอื รือร้น ในการเรียน มคี วาม
เอื้อเฟ้ือ ช่วยเหลือผู้อื่น ค้นคว้าหาความรู้อยู่เสมอ4) เทคนิคการสอนดีและ มีความหลากหลาย และ5)
ความสามารถถ่ายทอดข้อมูลได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม นาความรู้และ ประสบการณ์จากการร่วมกิจกรรม/
โครงการต่าง ๆ สบู่ คุ คลอ่ืน ๆ ที่ร้จู ักได้ และ 6) มจี ติ อาสา มีหวั ใจของการบริการอยตู่ ลอดเวลา

ผลสัมฤทธขิ์ องจติ วญิ ญาณความเปน็ ครูมืออาชีพ

จิตวญิ ญาณความเปน็ ครู จะเกิดผลต่อตวั ครูทป่ี ฏบิ ัติงานด้วยความเสยี สละ อุทศิ ตนเพื่อการเรียนการสอน
หรือเพื่อการบรหิ าร เน้นที่ประโยชน์ของส่วนรวมและผลที่จะเกิดขน้ึ กับลกู ศิษย์ สังคม และผลสมั ทฤธ์จิ ิตวญิ ญาณ
ความเป็นครู จะเกิดขนึ้ จากการปฏบิ ตั งิ านจริง ๆ ไม่ได้เกิดข้ึนการมอบหมายหรือการมอบอานาจแตอ่ ย่างใด ดังนั้น
ผลสัมฤทธจิ์ ะเกดิ ต่อครู ดังน้ี

1. ช่วยพฒั นาหรอื ยกระดบั ความคดิ และทกั ษะทีจ่ าเปน็ ในการเรียนการสอน
2 มคี ณุ ธรรมจริยธรรม ศีลธรรม ความรับผดิ ชอบต่อหนา้ ท่ี และงานที่ได้รบั มอบหมาย
3. มีความยืดหยุน่ และเข้าใจในความเปลีย่ นแปลงของสงั คม
4. มองนักเรียนว่ามีศักด์ศิ รีความเปน็ มนษุ ย์และมีศกั ยภาพ
5 มคี วามสขุ และมคี วามภาคภมู ใิ จในอาชีพครู
6. ไดร้ บั การยอมรบั และความศรทั ธาจากสังคมและลูกศษิ ย์
กล่าวโดยสรุปว่า การพัฒนาตนเองอย่างตอ่ เน่ืองใหม้ คี วามรู้ โดยเฉพาะทักษะการใช้เทคโนโลยี และทักษะ
ในการสอน ประพฤตเิ ป็นแบบอย่างที่ดี เอาใจใส่ และหวงั ดีตอ่ ศิษย์ ปรารถนาใหศ้ ิษย์ทุกคนได้มีการงานทดี่ ีทาและ
เป็นคนดีของสังคม การปฏิบัตงิ านของครลู ักษณะดังกล่าวเรยี กไดว้ ่าการปฏบิ ัติด้วย “จิตวิญญาณความเป็นครู”
การปฏิบัติหน้าท่ี ของครูด้วยความวิริยะ มุ่งม่ันและทุ่มเทด้วยจิตและวิญญาณ อุทิศตนเพื่อการสอน และมีการ
พฒั นาสอ่ื การสอนตลอด ก็จะทาให้เกิดความตระหนกั และมุง่ มัน่ ทมุ่ เทในการทางาน พยายามรักษาศกั ด์ศิ รีแห่งตน
และวิชาชีพ และทส่ี าคญั คอื ความศรทั ธาในวชิ าชพี ครู มุ่งมน่ั พัฒนาตนเอง ฉะนั้น จติ วญิ ญาณความเปน็ ครู จึงเป็น
คุณลกั ษณะสาคญั ของครูมอื อาชีพ
ครูจะต้องมีการพัฒนาตนเอง และครูจะประสบผลดีต้องเกิดจากการพัฒนานั้น คือ “ใจ” หรือ
“จติ สานึก” มีใจรกั ต่ออาชีพครู และใจต้องพรอ้ ม ย่อมประสบความสาเรจ็ ตามเปา้ หมาย ครูท่ีไดร้ ับการพัฒนา จะ
มีมากน้อยเพียงใด ส่วนหน่ึงก็ขึน้ กับตน้ สังกัด จะให้โอกาสครูเหลา่ นีไ้ ด้มโี อกาศพัฒนาตนเองด้านการศึกษาหรอื ไม่
อย่างไร สังคมกาลังต้องการครูที่มีสานึกในความเป็นครู เสียสละ อดทน อุทิศตนในการสอนหรือการบริหาร ก็
นับว่าเปน็ “ครทู ่มี จี ติ วญิ ญาณความเป็นครู” ปฏบิ ัตหิ นา้ ที่และพฒั นาตนเองอยา่ งตอ่ เนอ่ื งระมัดระวังการประพฤติ

14

ปฏบิ ัติให้อยใู่ นหลักศีลธรรมและจรรยาบรรณวชิ าชพี ซ่ึงลักษณะ ดงั กล่าว จะนาไปสกู่ ารเป็น “ครมู ืออาชีพ” ควร
มีลักษณะ 3 ประการ ดังน้ี 1) แสวงหาความรู้ พัฒนาตนเองตลอดเวลา เน้นเจตนาที่จะให้ผู้ร่วมงานประสบ
ความสาเรจ็ ดว้ ยกัน 2) ความปรารถนาดี เปน็ ความคิดที่อยู่เหนือระดบั เหตุผลและตรรกะ เปน็ ความคดิ ทมี่ าจากจิต
วญิ ญาณหรอื จิตใตส้ านกึ 3) สรา้ งความเชื่อมนั่ ในตนเอง มงุ่ มัน่ ในการทางาน และศรัทธาในผลสาเร็จทีเ่ กิดจากการ
ปฏิบัติงาน หากครูปฏิบัติงานด้วยจิตใจที่มุ่งมั่น และประพฤติตนตามหลักจรรยาบรรณวิชาชีพ โดยท่ีครูจะต้อง
ดาเนินการเรยี นการสอนโดยการยึดจรรยาบรรณต่อวชิ าชีพ ตอ่ ผูเ้ รยี น และตอ่ ตนเอง

เอกสารอา้ งองิ

กติ นิ ันท์ โนสุ และเสรมิ ศกั ดิ์ วศิ าลาภรณ์. (2557). องค์ประกอบและตวั บง่ ช้ีจิตวิญญาณความเป็นครสู งั กัด
สานักงานเขตพื้นทีกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษาในจังหวดั ภาคเหนอื ตอนบน. วารสารการวิจยั กาสะลอง
คา มหาวิทยาลัยราชภฏั เชยี งราย, 8(1), 53-65.

ณัฏฐภรณ์ หลาวทองและปิยวรรณ วเิ ศษสุวรรณภมู .ิ (2553). การพฒั นาแบบวัดจติ วิญญาณความเป็นครู.
วารสารวธิ ีวิทยาการวิจัย, 23(1):25-54.

พจนานุกรมฉบบั ราชบัณฑติ ยสถาน พ.ศ. 2525. (2558). ความหมายของครู. สบื คน้ เมอื่ 28 สงิ หาคม 2562, จาก
https://sites.google.com/site/krutubtib/khru/khwam-hmaykhxng-kha-wa-khru

ยนต์ ชุ่มจิต. (2553). ความเป็นครู (พมิ พค์ รง้ั ที่ 5). กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร.์
วลั นิกา ฉลากบาง. (2559). จติ วิญญาณความเป็นครู: คณุ ลกั ษณะสาคัญของครมู อื อาชีพ. วารสาร

วิทยานพิ นธป์ รัชญาดุษฎีบัณฑิต, สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน, บัณฑิตวิทยาลัย,มหาวทิ ยาลัย
นเรศวร.
สพุ ชิ ญา โคทวี. (2557). การพฒั นารูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิดจติ ตปัญญาศึกษาเพ่ือสรา้ งเสริม
จติ วิญญาณความเป็นครู สาหรับนกั ศึกษาครศุ าสตร์ ในสังกัดมหาวทิ ยาลยั ราชภัฏ.
อมรรัตน์ แกน่ สาร. (2558). การพัฒนาตัวบ่งชี้จิตวิญญาณความเป็นครู ของครสู ังกัดสานักงานคณะกรรมการ
การศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน. วิทยานพิ นธป์ รัชญาดุษฎีบณั ฑติ , สาขาวิชาการบริหารการศกึ ษา, สานกั
บัณฑิตศกึ ษา, มหาวิทยาลัยราชภฏั สกลนคร.


Click to View FlipBook Version