กฎ ก.พ.
วาดว ยการเลื่อนขั้นเงนิ เดอื น
พ.ศ. 2544
------------------------
เพ่ือใหขาราชการพลเรือนสามัญผูปฏิบัติราชการมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลใน
ระดบั อันเปนประโยชนต อ ประเทศชาติ ไดรับบาํ เหน็จความชอบโดยการเล่อื นข้ันเงินเดอื น
ก.พ.จึงเห็นสมควรวางหลักเกณฑและวิธีการพิจารณาเล่ือนข้ันเงินเดือน เพ่ือให
ผูบังคับบัญชานําไปใชประกอบการพิจารณาเลื่อนข้ันเงินเดือนใหเกิดความเปนธรรม ไดมาตรฐาน
และเปนสิ่งจูงใจใหขาราชการเกิดความกระตือรือรนท่ีจะปฏิบัติหนาที่ของตนอยางมีประสิทธิภาพ
และประสิทธิผลดียิ่งขึ้น รวมท้ังดําเนินการเพ่ือใหผูที่ไมต้ังใจปฏิบัติหนาท่ีราชการ หรือมีความ
ประพฤติที่ไมเหมาะสมไดเกิดความสํานึก โดยไดรับการปฏิบัติที่แตกตางจากผูที่ปฏิบัติหนาที่
ราชการอยางมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล รักษาวินัย และปฏิบัติตนเหมาะสมกับการเปน
ขา ราชการ
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 8(5) และมาตรา 72 แหงพระราชบัญญัติระเบียบ
ขา ราชการพลเรอื นพ.ศ.2535 ก.พ. จึงออกกฎ ก.พ. ซ่ึงไดรบั อนุมตั จิ ากคณะรัฐมนตรีไวดังตอ ไปน้ี
ขอ 1 กฎ ก.พ. นีใ้ หใชบ งั คับตั้งแตว นั ท่ี 1 เมษายน 2544 เปน ตน ไป
ขอ 2 ใหยกเลกิ
(1) กฎ ก.พ.ฉบับที่ 10(พ.ศ.2538) ออกตามความในพระราชบัญญัติระเบียบ
ขาราชการพลเรอื น พ.ศ.2535 วา ดว ยการเลือ่ นข้นั เงินเดอื น
(2) กฎ ก.พ.ฉบับท่ี 14(พ.ศ.2539) ออกตามความในพระราชบัญญัติระเบียบ
ขา ราชการพลเรือน พ.ศ.2535 วา ดว ยการเลื่อนขนั้ เงนิ เดอื น
ขอ 3 ในกฎ ก.พ. น้ี
"ป" หมายความวา ปงบประมาณ
"คร่งึ ปแ รก" หมายความวา ระยะเวลาต้ังแตว นั ที่ 1 ตลุ าคม ถึงวันที่ 31 มีนาคม
"ครงึ่ ปห ลัง" หมายความวา ระยะเวลาต้งั แตวันท่ี 1 เมษายนถึงวนั ที่ 30 กนั ยายน
"ครึ่งปท่ีแลวมา" หมายความวา ระยะเวลาคร่ึงปแรกหรือครึ่งปหลัง ที่ผาน
มา แลว แตก รณี
"อธิบดี" หมายความรวมถึงหัวหนาสวนราชการท่ีมีฐานะเปนกรม และ
รัฐมนตรีเจาสังกดั สาํ หรบั สํานกั งานเลขานุการรัฐมนตรแี ละราชบณั ฑติ สถานดว ย
ขอ4 ใหผูบังคับบัญชาและผูที่ไดรับมอบหมายประเมินประสิทธิภาพและ
ประสิทธิผลการปฏิบัติงานของขาราชการพลเรือนสามัญปละสองคร้ังตามหลักเกณฑและวิธีการท่ี
ก.พ.กาํ หนด
ขอ 5 การเล่อื นขน้ั เงินเดือนขาราชการพลเรือนสามัญ ใหเ ล่ือนปล ะสองครั้ง ดงั น้ี
(1) คร้งั ทหี่ นึง่ ครงึ่ ปแ รก เล่อื นวันที่ 1 เมษายนของปท ่ีไดเ ล่ือน
(2) ครัง้ ที่สองครงึ่ ปห ลงั เลื่อนวันท่ี 1 ตุลาคมของปถ ัดไป
ขอ 6 การเล่ือนข้ันเงินเดือนขาราชการพลเรือนสามัญ ใหเล่ือนไดไมเกินข้ันสูงของ
อนั ดับเงนิ เดือนสาํ หรบั ตาํ แหนง ท่ีไดรับแตง ตงั้ เวน แต
(1) ผูท่ีไดรับแตงตั้งใหดํารงตําแหนงในระดับตํ่ากวาเดิมโดยไดรับเงินเดือนใน
อนั ดบั และขน้ั ทีไ่ ดรับอยเู ดิม ใหเลื่อนไดไ มเ กนิ ขนั้ สูงของอนั ดับเงนิ เดือนเดิม
(2) ผูที่ไดรับเงินเดือนถึงขั้นสูงของอันดับและไดรับเงินเดือนในอันดับท่ีสูงข้ึน
อกี หนึ่งอันดับ ใหเ ลื่อนไดไมเ กนิ ขน้ั สงู ของอันดบั เงนิ เดือนน้ัน
ขอ 7 ขาราชการพลเรือนสามัญซึ่งจะไดรับการพิจารณาเล่ือนข้ันเงินเดือนคร่ึงข้ันใน
แตล ะครั้งตอ งอยูใ นหลกั เกณฑดงั ตอ ไปน้ี
(1) ในคร่ึงปที่แลวมาไดปฏิบัติงานตามหนาท่ีของตนดวยความสามารถ และ
ดวยความอุตสาหะจนเกิดผลดีหรือความกาวหนาแกราชการ ซึ่งผูบังคับบัญชาไดพิจารณาประเมิน
ตามขอ 4 แลว เห็นวาอยูใ นเกณฑท่สี มควรจะไดเ ลื่อนขั้นเงินเดอื นครึง่ ข้นั
(2) ในคร่ึงปที่แลวมาจนถึงวันออกคําส่ังเลื่อนข้ันเงินเดือนตองไมถูกสั่งลงโทษ
ทางวินัยที่หนักกวาโทษภาคทัณฑ หรือไมถูกศาลพิพากษาในคดีอาญาใหลงโทษในความผิดท่ี
เก่ียวกับการปฏิบัติหนาท่ีราชการ หรือความผิดที่ทําใหเส่ือมเสียเกียรติศักด์ิของตําแหนงหนาท่ี
ราชการของตนซึ่งมิใชค วามผิดทไี่ ดก ระทาํ โดยประมาทหรือความผดิ ลหโุ ทษ
ในกรณีที่ขาราชการพลเรือนสามัญผูใดอยูในหลักเกณฑที่สมควรไดเล่ือนขั้น
เงินเดือนและไดถูกงดเล่ือนขั้นเงินเดือนเพราะถูกส่ังลงโทษทางวินัยหรือถูกศาลพิพากษาใน
คดีอาญาใหลงโทษในกรณีน้ันมาแลว ใหผูบังคับบัญชาเลื่อนขั้นเงินเดือนประจําครึ่งปตอไปใหผู
นนั้ ตั้งแตวันที่ 1 เมษายน หรอื วันท่ี 1 ตุลาคมของครัง้ ท่ีจะไดเลือ่ นเปนตนไป
(3) ในครงึ่ ปท่ีแลว มาตองไมถกู สง่ั พักราชการเกินกวาสองเดอื น
(4) ในคร่งึ ปทแี่ ลวมาตอ งไมขาดราชการโดยไมมเี หตผุ ลอนั สมควร
(5) ในครึ่งปท่ีแลวมาไดรับบรรจุเขารับราชการมาแลวเปนเวลาไมนอยกวาส่ี
เดือน
(6) ในครึ่งปที่แลวมาถาเปนผูไดรับอนุญาตใหไปศึกษาในประเทศ หรือไป
ศึกษาฝกอบรม หรือดูงาน ณ ตางประเทศ ตามระเบียบวาดวยการใหขาราชการไป
ศกึ ษา ฝกอบรม และดูงาน ณ ตางประเทศ ตองไดปฏบิ ตั หิ นาท่ีราชการในคร่ึงปท ่แี ลว มาเปน เวลาไม
นอ ยกวา สเี่ ดอื น
(7) ในคร่ึงปที่แลวมาตองไมลา หรือมาทํางานสายเกินจํานวนครั้งที่อธิบดี
ผูบังคับบัญชาหรือผูซึ่งไดรับมอบหมายจากอธิบดีกําหนดเปนหนังสือไวกอนแลว โดยคํานึงถึง
ลักษณะงานและสภาพทอ งทอ่ี นั เปน ทีต่ ัง้ ของแตละสว นราชการหรอื หนว ยงาน
(8) ในคร่ึงปที่แลวมาตองมีเวลาปฏิบัติราชการหกเดือน โดยมีวันลาไมเกินยี่สิบ
สามวนั แตไมร วมถึงวนั ลาดังตอไปน้ี
(ก) ลาอุปสมบท หรือลาไปประกอบพิธีฮัจย ณ เมืองเมกกะ ประเทศ
ซาอดุ ิอาระเบยี เฉพาะวนั ลาทมี่ สี ิทธิไดร บั เงินเดือนระหวางลาตามกฎหมายวาดวยการจา ยเงนิ เดอื น
(ข) ลาคลอดบตุ รไมเกนิ เกา สิบวนั
(ค) ลาปวยซึ่งจําเปนตองรักษาตัวเปนเวลานานไมวาคราวเดียวหรือหลาย
คราวรวมกันไมเกนิ หกสบิ วันทาํ การ
(ง) ลาปวยเพราะประสบอันตรายในขณะปฏิบัติราชการตามหนาที่หรือ
ในขณะเดินทางไปหรือกลับจากปฏิบัตริ าชการตามหนาที่
(จ) ลาพกั ผอน
(ฉ) ลาเขา รบั การตรวจเลือกหรอื เขา รบั การเตรยี มพล
(ช) ลาไปปฏบิ ตั งิ านในองคก ารระหวางประเทศ
การนับจํานวนวันลาไมเกินยี่สิบสามวันสําหรับวันลากิจสวนตัวและวันลาปวยท่ี
ไมใ ชวนั ลาปว ยตาม (8) (ง) ใหนบั เฉพาะวนั ทําการ
ขอ 8 ขา ราชการพลเรอื นสามัญซง่ึ จะไดร บั การพิจารณาเล่ือนขั้นเงินเดือนหนึ่งขั้นใน
แตละคร้ัง ตองเปนผอู ยใู นหลักเกณฑที่จะไดรับการพิจารณาเลือ่ นข้นั เงนิ เดอื นคร่ึงขนั้ ตามขอ 7 และ
อยใู นหลกั เกณฑป ระการใดประการหน่ึงหรอื หลายประการดังตอไปนดี้ วย
(1) ปฏิบัติงานตามหนาท่ีไดผลดีเดน มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล อัน
กอ ใหเกดิ ประโยชนและผลดยี ่งิ ตอ ทางราชการและสังคมจนถือเปน เปนตวั อยางทีด่ ีได
(2) ปฏิบัติงานโดยมีความคิดริเร่ิมในเรื่องใดเรื่องหน่ึง หรือไดคนควาหรือ
ประดิษฐส ่งิ ใดสิง่ หนง่ึ ซง่ึ เปนประโยชนต อทางราชการเปนพเิ ศษ และทางราชการไดดําเนินการตาม
ความคิดริเริ่มหรอื ไดร ับรองใหใ ชการคน ควา หรือสิ่งประดิษฐน ัน้
(3) ปฏิบัติงานตามหนาท่ีท่ีมีสถานการณตรากตรําเส่ียงอันตรายมาก หรือมีการ
ตอ สทู เี่ สย่ี งตอความปลอดภัยของชวี ิตเปนกรณพี เิ ศษ
(4) ปฏิบัติงานท่ีมีภาระหนาที่หนักเกินกวาระดับตําแหนงจนเกิดประโยชนตอ
ทางราชการเปนพเิ ศษ และปฏิบัติงานในตําแหนงหนา ท่ีของตนเปนผลดีดว ย
(5) ปฏิบัติงานตามตําแหนงหนาที่ดวยความตรากตรําเหน็ดเหน่ือย ยากลําบาก
เปนพิเศษ และงานนั้นไดผลดยี ่งิ เปน ประโยชนตอ ทางราชการและสังคม
(6) ปฏิบัติงานที่ไดรับมอบหมายใหกระทํากิจกรรมอยางใดอยางหนึ่งจนสําเร็จ
เปนผลดยี ง่ิ แกประเทศชาติ
ขอ 9 การพจิ ารณาเลอื่ นขน้ั เงินเดอื นขาราชการพลเรอื นสามัญตามขอ 7 และขอ 8 ให
ผูบังคับบัญชาชั้นตนหรือผูที่ไดรับมอบหมายนําผลการประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลการ
ปฏิบัติงานท่ีไดดําเนินการตามขอ 4 มาเปนหลักในการพิจารณาเล่ือนข้ันเงินเดือนครั้งที่หน่ึงและ
ครง้ั ที่สอง โดยพิจารณาประกอบกับขอ มูลการลา พฤตกิ รรมการมาทํางาน การรักษาวินัย การปฏิบัติ
ตนเหมาะสมกบั การเปนขาราชการ และขอ ควรพจิ ารณาอื่นๆ ของผูนั้น แลวรายงานผลการพิจารณา
น้นั พรอ มดว ยขอมูลดังกลาวตอ ผูบงั คบั บญั ชาช้ันเหนือข้ึนไปตามลําดับจนถึงผูมีอํานาจสั่งเล่ือนขั้น
เงินเดือน
ในการพจิ ารณารายงานตามวรรคหนง่ึ ใหผูบ ังคับบญั ชาช้ันเหนือแตละระดับที่ไดรับ
รายงานเสนอความเหน็ เพ่ือประกอบการพิจารณาของผมู ีอาํ นาจสงั่ เลือ่ นข้ันเงนิ เดือนดว ย
ขอ 10 การพิจารณาผลการปฏิบัติงานและผลสัมฤทธิ์ของงาน ใหนับชวงเวลาการ
ปฏบิ ัติราชการและการปฏิบัติงานในองคการระหวางประเทศตามขอ 7(8)(ช) ในครึ่งปที่แลวมาเปน
เกณฑ เวนแตผูอยูในหลักเกณฑตามขอ 7(5) หรือ (6) ใหนับชวงเวลาปฏิบัติราชการไมนอยกวาสี่
เดอื นเปน เกณฑพ ิจารณา
ในกรณีทขี่ าราชการพลเรอื นสามัญผใู ดโอน เลื่อนตําแหนง ยา ย สับเปล่ียนหนาที่ ไป
ชวยราชการในตางกระทรวง ทบวง กรม ไดรับมอบหมายใหปฏิบัติงานนอกเหนือหนาที่หรืองาน
พิเศษอื่นใด หรือลาไปปฏิบัติงานในองคการระหวางประเทศตามขอ 7(8)(ช) ในครึ่งปท่ีแลวมา ให
นําผลการปฏิบัติราชการและการปฏิบัติงานของผูนั้นทุกตําแหนงและทุกแหงมาประกอบการ
พิจารณาดว ย
ขอ 11 ในการพจิ ารณาเล่อื นขัน้ เงินเดือนแตละครั้ง ใหผ ูมอี าํ นาจส่ังเลื่อนขนั้ เงนิ เดอื น
พิจารณารายงานผลจากผูบังคับบัญชาตามขอ 9 ถาเห็นวาขาราชการพลเรือนสามัญผูใดอยูใน
หลักเกณฑท่ีจะไดรับการพิจารณาเลื่อนข้ันเงินเดือนคร่ึงข้ันตามขอ 7 และปฏิบัติตนเหมาะสมกับ
การเปนขาราชการ ใหเลื่อนข้ันเงินเดือนใหแกผูน้ันคร่ึงข้ัน ถาเห็นวาขาราชการผูน้ันมีผลการ
ปฏบิ ตั งิ านอยใู นหลักเกณฑตามขอ 8 ใหเ ล่ือนข้ันเงินเดือนใหแกผนู นั้ หนึ่งขัน้
ในกรณีที่ขาราชการพลเรือนสามัญผูใดไดรับการเล่ือนขั้นเงินเดือน คร่ึงปแรกไมถึง
หนึ่งข้ัน ถาในการพิจารณาเล่ือนข้ันเงินเดือนคร่ึงปหลัง ผูมีอํานาจส่ังเล่ือนขั้นเงินเดือนไดพิจารณา
ผลการปฏิบัติงานคร่ึงปแรกกับคร่ึงปหลังรวมกันแลวเห็นวามีมาตรฐานสูงกวาการที่จะไดรับการ
เลื่อนข้ันเงินเดือนหนึ่งขั้นสําหรับปนั้น ผูมีอํานาจสั่งเล่ือนขั้นเงินเดือนอาจมีคําสั่งใหเล่ือนขั้น
เงินเดือนรวมทั้งปของขาราชการผูน้ันเปนจํานวนหนึ่งข้ันครึ่งได แตผลการปฏิบัติงานท้ังปของ
ขาราชการผนู ้นั จะตอ งอยใู นหลักเกณฑป ระการใดประการหน่งึ หรอื หลายประการดังตอไปน้ีดว ย
(1) ปฏิบัติงานตามหนาท่ีไดผลดี มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล อัน
กอ ใหเ กิดประโยชนและผลดตี อ ทางราชการและสงั คม
(2) ปฏิบัติงานโดยมีความคิดริเริ่มในเร่ืองใดเรื่องหนึ่งหรือไดคนควาหรือ
ประดษิ ฐส ่งิ ใดสิง่ หน่งึ ซ่ึงเปนประโยชนต อ ทางราชการ
(3) ปฏิบัตงิ านตามหนาท่ีทม่ี ีสถานการณตรากตําเสี่ยงอนั ตราย หรอื มีการตอสู
ทเ่ี สี่ยงตอความปลอดภยั ของชีวิต
(4) ปฏบิ ัติงานทม่ี ภี าระหนา ที่หนักเกนิ กวา ระดบั ตําแหนง จนเกิดประโยชนต อ
ทางราชการและปฏิบัตงิ านในตาํ แหนงหนาท่ีของตนเปนผลดีดว ย
(5) ปฏิบัติงานตามตําแหนง หนาท่ดี วยความตรากตราํ เหนด็ เหน่ือย ยากลําบาก
และงานน้ันไดผลดเี ปน ประโยชนต อทางราชการและสงั คม
(6) ปฏิบัติงานที่ไดรับมอบหมายใหกระทํากิจการอยางใดอยางหนึ่งจนสําเร็จ
เปน ผลดแี กประเทศชาติ
ในกรณีท่ีขาราชการพลเรือนสามัญผูใดมีผลการปฏิบัติงานอยูในเกณฑท่ีควรจะ
ไดร ับการเลือ่ นข้ันเงินเดอื นครง่ึ ปแรกหนง่ึ ข้ัน แตไมอาจสั่งเลอ่ื นข้นั เงนิ เดอื นหนึง่ ข้ันใหได เพราะมี
ขอจํากัดเกี่ยวกับจํานวนเงินท่ีจะใชเลื่อนข้ันเงินเดือนของสวนราชการนั้น ถาในการเลื่อนขั้น
เงนิ เดือนครงึ่ ปหลัง ขาราชการผูน้นั มผี ลการปฏิบตั งิ านอยใู นเกณฑไดรับการเล่ือนข้ันเงินเดือนหนึ่ง
ขั้นอกี และไมมขี อ จํากัดเกย่ี วกับจาํ นวนเงนิ ท่ีจะใชเล่ือนขน้ั เงินเดือนในคราวน้ัน ผูมีอํานาจส่ังเล่ือน
ขั้นเงนิ เดือนอาจมคี าํ สั่งใหเ ลือ่ นขน้ั เงนิ เดือนรวมทัง้ ปของขาราชการผนู ้ันเปน จาํ นวนสองข้ันได
ขอ 12 การพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนคร่ึงปใหแกขาราชการพลเรือนสามัญ ซึ่งใน
ครึ่งปที่แลวมาไดรับอนุญาตใหลาไปปฏิบัติงานในองคการระหวางประเทศตามขอ 7(8)(ช) ใหผูมี
อํานาจสั่งเล่ือนขั้นเงินเดือนพิจารณาส่ังเล่ือนไดครั้งละไมเกินครึ่งข้ันเมื่อผูนั้นกลับมาปฏิบัติหนาที่
ราชการ โดยใหส่ังเลื่อนยอนหลังไปในแตละคร้ังที่ควรจะไดเล่ือน ท้ังน้ี ใหมีการประเมินผลการ
ปฏบิ ัติงานตามหลักเกณฑแ ละวิธกี ารทอ่ี ธบิ ดผี บู ังคบั บญั ชากําหนด
ขอ 13 ในการพจิ ารณาเลือ่ นขน้ั เงินเดือนแตล ะครง้ั ถา ผูมีอํานาจส่ังเล่ือนขั้นเงินเดือน
เห็นสมควรใหขาราชการพลเรือนสามัญผูใดไดเลื่อนขั้นเงินเดือน แตปรากฏวาไดมีคําส่ังแตงตั้ง
คณะกรรมการสอบสวนขาราชการผูนั้นวากระทําผิดวินัยอยางรายแรงกอนมีคําสั่งเลื่อนขั้น
เงินเดือน ใหผูมีอํานาจสั่งเล่ือนขั้นเงินเดือนรอการเล่ือนข้ันเงินเดือนไวกอน และใหกันเงินสําหรับ
เลื่อนข้ันเงินเดือนไวดวย เม่ือการสอบสวนและการพิจารณาแลวเสร็จใหผูมีอํานาจสั่งเลื่อนขั้น
เงินเดือนพิจารณาดงั นี้
(1) ถาผูถูกแตงตั้งคณะกรรมการสอบสวนไมมีความผิด หรือจะตองถูก
ลงโทษภาคทัณฑ ใหส่ังเลื่อนขั้นเงินเดือนท่ีรอการเล่ือนไวได ถาไดรอการเลื่อนขั้นเงินเดือนไวเกิน
หนึ่งครั้งใหสั่งเล่ือนข้ันเงินเดือนยอนหลังไปในแตละครั้งที่ไดรอการเล่ือนข้ันเงินเดือนไว แมวาผู
นั้นจะไดอ อกจากราชการไปแลวก็ตาม
(2) ถาผถู ูกแตงต้งั คณะกรรมการสอบสวนจะตองถูกลงโทษตัดเงินเดือน หรือ
ลดขั้นเงินเดือน ใหงดเล่ือนข้ันเงินเดือนที่รอการเล่ือนไว ถาไดรอการเล่ือนขั้นเงินเดือนไวเกินหน่ึง
คร้ังใหงดเล่ือนขั้นเงินเดือนท่ีรอการเล่ือนไวในคร้ังที่จะถูกลงโทษ ถาผูนั้นไดออกจากราชการไป
แลวดวยเหตุอื่นที่มิใชเพราะเหตุเกษียณอายุตามกฎหมายวาดวยบําเหน็จบํานาญขาราชการ ใหงด
เล่ือนขั้นเงินเดือนในคร้ังท่ีจะไดเลื่อนขั้นเงินเดือนคร้ังสุดทาย แตถาเปนผูพนจากราชการไปเพราะ
เหตุเกษียณอายุตามกฎหมายวาดวยบําเหน็จบํานาญขาราชการ ใหงดเลื่อนข้ันเงินเดือนท่ีผูมีอํานาจ
สั่งเล่ือนขั้นเงินเดือนไดรอการเลื่อนขั้นเงินเดือนไวในวันท่ี 30 กันยายนของคร่ึงปสุดทายกอนที่ผู
นั้นจะพนจากราชการ สวนในคร้ังอ่ืนใหสั่งเล่ือนขั้นเงินเดือนยอนหลังไปในแตละครั้งท่ีไดรอการ
เล่ือนขั้นเงนิ เดอื นไว
(3) ถาผถู ูกแตงต้ังคณะกรรมการสอบสวนจะตองถูกลงโทษปลดออก หรือไล
ออกจากราชการ หรือจะตองถูกส่ังใหออกจากราชการเพราะมีมลทินหรือมัวหมอง ใหงดเลื่อนข้ัน
เงนิ เดือนทกุ ครัง้ ที่ไดร อการเล่ือนขัน้ เงนิ เดือนไว
การพิจารณาเล่ือนข้ันเงินเดือนตาม (1) (2) และ (3) สําหรับผูที่ถูกแตงต้ัง
คณะกรรมการสอบสวนวากระทาํ ผดิ วนิ ัยอยางรายแรงหลายกรณี ใหแยกพิจารณาเปน กรณีๆ ไป
ขอ 14 ในการพิจารณาเลือ่ นขนั้ เงนิ เดอื นแตละครัง้ ถา ผูมีอํานาจส่ังเลื่อนขั้นเงินเดือน
เห็นสมควรใหขาราชการพลเรือนสามัญผูใดไดเล่ือนข้ันเงินเดือน แตปรากฏวาผูน้ันถูกฟอง
คดีอาญาในความผิดท่ีเกี่ยวกับการปฏิบัติหนาท่ีราชการ หรือความผิดที่ทําใหเส่ือมเสียเกียรติศักด์ิ
ของตําแหนงหนาท่ีราชการของตน ซึ่งมิใชความผิดท่ีไดกระทําโดยประมาท ความผิดลหุโทษ หรือ
ความผิดที่พนักงานอัยการรับเปนทนายแกตางให และศาลไดประทับฟองคดีน้ันแลวกอนมีคําส่ัง
เลอ่ื นข้ันเงินเดอื น ใหผมู อี ํานาจสง่ั เลอ่ื นขนั้ เงนิ เดือนรอการเล่ือนข้ันเงินเดือนไวกอน และใหกันเงิน
สําหรับเล่ือนข้ันเงินเดือนไวดวย เมื่อศาลไดมีคําพิพากษาแลว ใหผูมีอํานาจสั่งเลื่อนข้ันเงินเดือน
พจิ ารณาดงั นี้
(1) ถาศาลพิพากษาวาผูนั้นไมมีความผิด ใหสั่งเล่ือนข้ันเงินเดือนท่ีรอการ
เลื่อนไวได ถาไดร อการเลือ่ นขั้นเงนิ เดอื นไวเ กินหน่งึ ครงั้ ใหสง่ั เล่อื นขัน้ เงนิ เดอื นยอนหลังไปในแต
ละครง้ั ท่ีไดร อการเลอื่ นขนั้ เงินเดือนไว แมวา ผนู ้ันจะไดอ อกจากราชการไปแลวก็ตาม
(2) ถาศาลพิพากษาใหลงโทษเบากวาโทษจําคุก ใหงดเล่ือนขั้นเงินเดือนท่ีรอ
การเล่อื นไว ถา ไดรอการเลื่อนข้นั เงินเดือนไวเกินหนึ่งครั้ง ใหงดเลื่อนขั้นเงินเดือนท่ีรอการเล่ือนไว
ในครั้งท่ีศาลพิพากษาใหลงโทษ ถาผูนั้นไดออกจากราชการไปแลวดวยเหตุอื่นที่มิใชเพราะเหตุ
เกษียณอายุตามกฎหมายวาดวยบําเหน็จบํานาญขาราชการ ใหงดเล่ือนข้ันเงินเดือนในคร้ังที่จะได
เล่ือนขั้นเงินเดือนคร้ังสุดทาย แตถาเปนผูพนจากราชการไปเพราะเหตุเกษียณอายุตามกฎหมายวา
ดวยบําเหน็จบํานาญขาราชการ ใหงดเลื่อนข้ันเงินเดือนท่ีผูมีอํานาจสั่งเลื่อนข้ันเงินเดือนไดรอการ
เลื่อนข้ันเงินเดือนไวในวันที่ 30 กันยายนของคร่ึงปสุดทายกอนท่ีผูน้ันจะพนจากราชการ สวนใน
ครง้ั อ่นื ใหสัง่ เลอื่ นขั้นเงนิ เดอื นยอ นหลังไปในแตล ะคร้ังที่ไดร อการเล่ือนขัน้ เงนิ เดอื นไว
(3) ถาศาลพิพากษาใหลงโทษจําคุกหรือโทษหนักกวาจําคุก ใหงดเลื่อนข้ัน
เงินเดอื นทกุ ครั้งท่ไี ดร อการเลอ่ื นข้นั เงินเดอื นไว
การพิจารณาเล่ือนข้ันเงินเดือนตาม (1) (2) และ (3) สําหรับผูที่ถูกฟองคดีอาญา
หลายคดี ใหแยกพจิ ารณาเปน คดี ๆ ไป
ขอ 15 ในกรณีที่ผูมีอํานาจสั่งเลื่อนข้ันเงินเดือนไดรอการเล่ือนข้ันเงินเดือน
ขา ราชการพลเรอื นสามญั ผูใ ดไวเพราะเหตุถูกแตงตัง้ คณะกรรมการสอบสวนตามขอ 13 และเหตุถูก
ฟองคดีอาญาตามขอ 14 ใหผูมีอํานาจดังกลาวรอการเล่ือนข้ันเงินเดือนผูน้ันไวจนกวาการสอบสวน
และการพิจารณาทางวินัยแลวเสร็จ และจนกวาศาลมีคําพิพากษาแลวจึงใหผูมีอํานาจสั่งเลื่อนข้ัน
เ งิ น เ ดื อ น พิ จ า ร ณ า ก า ร เ ล่ื อ น ข้ั น เ งิ น เ ดื อ น ต า ม ข อ 13(1) (2) ห รื อ (3) ห รื อ ต า ม ข อ
14(1) (2) หรือ (3) แลวแตกรณี ท้ังนี้ โดยถือเกณฑจํานวนคร้ังท่ีจะตองงดเล่ือนขั้นเงินเดือนท่ี
มากกวาเปนหลักในการพิจารณา เวนแตผูนั้นไดพนจากราชการไปแลวตามผลของการถูกแตงต้ัง
คณะกรรมการสอบสวนตามขอ 13 หรือตามผลของการถูกฟองคดีอาญาตามขอ 14 กรณีใดกรณี
หน่ึง จึงจะพิจารณาการเล่ือนข้ันเงินเดือนที่รอการเลื่อนไวไดตามผลของกรณีนั้นโดยไมตองรอผล
ของอกี กรณีหน่ึง
ขอ 16 ในกรณีท่ีผูมีอํานาจส่ังเล่ือนขั้นเงินเดือนพิจารณาเห็นสมควรเล่ือนข้ัน
เงินเดือนใหขาราชการพลเรือนสามัญผูใด แตผูนั้นจะตองพนจากราชการไปเพราะเหตุเกษียณอายุ
ตามกฎหมายวาดวยบําเหน็จบํานาญขาราชการ ใหผูมีอํานาจส่ังเลื่อนขั้นเงินเดือนสั่งเล่ือนข้ัน
เงินเดือนเพ่ือประโยชนในการคํานวณบําเหน็จบํานาญใหผูนั้นในวันท่ี 30 กันยายนของครึ่งป
สดุ ทา ยกอนที่จะพนจากราชการ
ขอ17 ในกรณีท่ีผูมีอํานาจส่ังเล่ือนขั้นเงินเดือนพิจารณาเห็นสมควรเล่ือนข้ัน
เงินเดือนใหขาราชการพลเรือนสามัญผูใด แตผูน้ันไดตายในหรือหลังวันท่ี 1 เมษายนหรือ
วันที่ 1 ตุลาคม หรือออกจากราชการไมวาดวยเหตุใดๆ หลังวันที่ 1 เมษายน หรือวันท่ี 1 ตุลาคม แต
กอนที่จะมีคําสั่งเล่ือนข้ันเงินเดือนในแตละครั้ง ผูมีอํานาจสั่งเลื่อนข้ันเงินเดือนจะส่ังเล่ือนข้ัน
เงินเดือนใหผูนั้นยอนหลังไปถึงวันที่ 1 เมษายน หรือวันที่ 1 ตุลาคมของคร่ึงปท่ีจะไดเลื่อนนั้นก็
ได แตถาผูน้ันไดพนจากราชการเพราะเหตุเกษียณอายุตามกฎหมายวาดวยบําเหน็จบํานาญ
ขาราชการไปกอนท่ีจะมีคําสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือนเพ่ือประโยชนในการคํานวณบําเหน็จบํานาญ ผูมี
อาํ นาจสงั่ เล่ือนข้ันเงินเดอื นจะสง่ั เลื่อนขนั้ เงินเดือนใหผ ูน น้ั ยอ นหลงั ไปถงึ วันท่ี 30 กันยายนของครง่ึ
ปสุดทายที่จะไดเ ลือ่ นนนั้ กไ็ ด
ขอ18 ขาราชการพลเรือนสามัญผูใดไมอยูในหลักเกณฑท่ีจะเลื่อนข้ันเงินเดือนได
คร่ึงขั้นตามขอ 7 เน่ืองจากขาดคุณสมบัติเก่ียวกับระยะเวลาการปฏิบัติราชการ การลา หรือการมา
ทํางานสายตามที่กําหนดในกฎ ก.พ. นี้ แตผูมีอํานาจสั่งเลื่อนข้ันเงินเดือนพิจารณาเห็นสมควรเล่ือน
ข้ันเงินเดือนใหโดยมีเหตุผลเปนกรณีพิเศษ ใหผูมีอํานาจสั่งเลื่อนข้ันเงินเดือนเสนอ อ.ก.พ.
กระทรวง เพอ่ื พิจารณาอนมุ ตั ใิ หส ง่ั เล่ือนขน้ั เงินเดอื นเปนการเฉพาะรายได
นอกจากกรณีตามวรรคหนึ่ง ขาราชการพลเรือนสามัญผูใดไมอยูในหลักเกณฑท่ีจะ
เล่อื นขั้นเงินเดอื นไดตามกฎ ก.พ. น้ี แตผมู ีอํานาจสัง่ เล่ือนขั้นเงินเดือนพิจารณาเห็นสมควรเลื่อนข้ัน
เงินเดือนใหโดยมีเหตุผลเปนกรณีพิเศษ ใหผูมีอํานาจส่ังเล่ือนข้ันเงินเดือนเสนอ ก.พ. เพื่อพิจารณา
อนมุ ตั ิใหส ัง่ เล่อื นขน้ั เงนิ เดอื นเปน การเฉพาะราย
ขอ 19 ขาราชการพลเรือนสามัญผูใดถูกรอการเล่ือนขั้นเงินเดือนไวกอน
กฎ ก.พ. น้ี ใชบังคับ เนื่องจากอยูในระหวางถูกแตงตั้งคณะกรรมการสอบสวนวากระทําผิดวินัย
หรือถูกฟองคดีอาญา ถา การสอบสวนและการพิจารณากรณีทางวินัยเสร็จส้ินลง หรือคดีอาญาศาลมี
คําพิพากษาเมื่อกฎ ก.พ. นี้ ใชบังคับแลว และเปนเวลาภายหลังวันที่ 31 มีนาคม 2544 การพิจารณา
เล่ือนขั้นเงินเดือนท่ีรอการเลื่อนไวสําหรับผูน้ัน ใหเปนไปตามหลักเกณฑและวิธีการที่กําหนดใน
กฎ ก.พ. นี้ แตถาการสอบสวนและการพิจารณากรณีทางวินัยหรือคดีอาญาน้ัน เสร็จส้ินลงกอนส้ิน
วันท่ี 31 มีนาคม 2544 การพิจารณาเลื่อนข้ันเงินเดือนที่รอการเลื่อนไวสําหรับผูนั้น ใหเปนไปตาม
หลักเกณฑและวิธีการท่ีกําหนดในกฎ ก.พ.ฉบับท่ี 10(พ.ศ.2538) ออกตามความในพระราชบัญญัติ
ระเบียบขาราชการพลเรือน พ.ศ.2535 วาดวยการเลื่อนขั้นเงินเดือน ซึ่งแกไขเพิ่มเติมโดยกฎ ก.พ.
ฉบับท่ี 14(พ.ศ.2539) ออกตามความในพระราชบัญญัติระเบียบขาราชการพลเรือน พ.ศ.2535 วา
ดว ยการเล่ือนขนั้ เงินเดือน
ขอ 20 การเล่ือนขั้นเงินเดือนในวันท่ี 1 เมษายน 2544 ใหนําผลการปฏิบัติงานและ
ขอมูลเกี่ยวกับการลา พฤติกรรมการมาทํางาน การรักษาวินัย การปฏิบัติตนเหมาะสมกับการเปน
ขาราชการ และขอควรพิจารณาอ่ืน ตั้งแตวันท่ี 1 กรกฎาคม 2543 ถึงวันท่ี 31 มีนาคม 2544 ท่ี
ขาราชการผูน้ันมีอยูกอนกฎ ก.พ. น้ี ใชบังคับ และผูบังคับบัญชาไดพิจารณาไวตามกฎ ก.พ.ฉบับ
ท่ี 10 (พ.ศ.2538) ออกตามความในพระราชบัญญตั ิระเบียบขาราชการพลเรือน พ.ศ.2535 วาดวยการ
เล่ือนขั้นเงินเดือน ซึ่งแกไขเพิ่มเติมโดยกฎ ก.พ.ฉบับที่ 14(พ.ศ.2539) ออกตามความใน
พระราชบัญญัติระเบียบขาราชการพลเรือน พ.ศ.2535 วาดวยการเล่ือนขั้นเงินเดือนมาประกอบการ
พิจารณาส่ังเล่ือนขั้นเงินเดือนตามกฎ ก.พ. นี้ได ท้ังนี้สําหรับผูท่ีไดรับบรรจุเขารับราชการ
ใหม บรรจุกลับ หรือผูที่ไดรับอนุญาตใหไปศึกษาในประเทศ หรือไปศึกษา ฝกอบรม หรือดู
งาน ณ ตางประเทศ ตองไดปฏิบัติหนาที่ราชการมาแลวนับถึงวันที่ 31 มีนาคม 2544 เปนเวลาไม
นอ ยกวา สี่เดอื น
ใหไ ว ณ วันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2544
ปองพล อดิเรกสาร
(นายปองพล อดเิ รกสาร)
รองนายกรฐั มนตรี
ผรู ับมอบหมายจากนายกรฐั มนตรี
ประธาน ก.พ.
หมายเหตุ ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา ฉบบั กฤษฎีกา เลม 118 ตอนที่ 32 ก
วันท่ี 23 พฤษภาคม 2544