ใบความรทู้ ่ี 4
งานอาชีพดา้ นความคดิ สร้างสรรค์
กลุ่มอาชีพด้านความคดิ สรา้ งสรรค์
ความคิดสรา้ งสรรค์ คือ กระบวนการคดิ ของสมองซง่ึ มคี วามสามารถในการคิดไดห้ ลากหลายและแปลก
ใหมจ่ ากเดิม โดยสามารถนำไปประยกุ ต์ทฤษฎี หรอื หลักการได้อย่างรอบคอบและมีความถกู ต้อง จนนำไปสู่การ
คดิ คน้ และสร้างส่ิงประดิษฐ์ที่แปลกใหม่หรือรูปแบบความคิดใหม่ นอกจากลกั ษณะการคิดสรา้ งสรรค์ดงั กล่าวนแ้ี ล้ว
ยังมสี ามารถมองความคิดสร้างสรรค์ในหลาย ซ่ึงอาจจะมองในแงท่ เ่ี ปน็ กระบวนการคดิ มากกวา่ เนอื้ หาการคิด โดย
ทส่ี ามารถใช้ลกั ษณะการคิดสร้างสรรคใ์ นมิตทิ ่ีกวา้ งขึ้น เชน่ การมคี วามคดิ สร้างสรรคใ์ นการทำงาน การเรียน หรือ
กิจกรรมท่ีตอ้ งอาศัยความคิดสรา้ งสรรคด์ ว้ ย อยา่ งเช่น การทดลองทางวทิ ยาศาสตร์ หรือการเลน่ กีฬาท่ีต้อง
สร้างสรรคร์ ปู แบบเกมใหห้ ลากหลายไมซ่ ้ำแบบเดิม เพ่ือไม่ให้คู่ต่อส่รู ูท้ นั เปน็ ต้น ซง่ึ อาจกล่าวได้ว่าเปน็ ลกั ษณะการ
คิดสร้างสรรค์ในเชงิ วชิ าการ แตอ่ ยา่ งไรก็ตาม ลกั ษณะการคิดสร้างสรรค์ต่างๆ ท่ีกล่าวนั้นต่างก็อยูบ่ นพ้นื ฐานของ
ความคิดสร้างสรรค์ โดยทีบ่ ุคคลสามารถเชื่อมโยงนำไปใช้ในชีวติ ประจำวันได้ดี ซ่ึงหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้
พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ได้กำหนดมาตรฐานตวั ช้วี ัดด้านความคดิ สรา้ งสรรค์ไวใ้ นกลุ่มสาระการเรียนรู้การงาน
อาชพี และเทคโนโลยไี ว้หลายประการ ซึ่งความคดิ สรา้ งสรรค์ ควรจะประกอบไปดว้ ย 3 ประการ คือ
1. สิ่งใหม่ (new, original) เปน็ การคดิ ท่ีแหวกวงลอ้ มความคิดท่มี ีอยู่เดมิ ที่ไม่เคยมีใครคดิ ไดม้ าก่อน ไม่ได้
ลอกเลยี นแบบใคร แม้กระท่ังความคดิ เดิมๆ ของตนเอง
2.ใช้การได้ (workable) เปน็ ความคิดที่เกดิ จากการสรา้ งสรรค์ทลี่ ึกซงึ้ และสูงเกนิ กวา่ การใชเ้ พียง
"จนิ ตนาการเพ้อฝัน" คอื สามารถนำมาพัฒนาใหเ้ ป็นจริง และใช้ประโยชน์ได้อยา่ งเหมาะสม และสามารถ
ตอบสนองวตั ถปุ ระสงค์ ของการคดิ ได้เปน็ อยา่ งดี
3. มคี วามเหมาะสม เป็นความคิดทส่ี ะท้อนความมีเหตมุ ีผล ทเี่ หมาะสม และมีคณุ คา่ ภายใตม้ าตรฐานท่ี
ยอมรบั กันโดยทั่วไป
สง่ิ ที่สำคญั ท่ีสดุ สำหรับคนในอาชีพสรา้ งสรรค์
คนที่มีอาชพี สรา้ งสรรคซ์ ึ่งเป็นท่ีรูจ้ กั มากมายทำใหภ้ าพทางศิลปะมีชีวิต คณุ ลักษณะของพวกเขาไม่ไดเ้ ปน็
เพียงความพร้อมของความรูใ้ นดา้ นใดดา้ นหนงึ่ เท่านัน้ แตย่ ังรวมถึงความสามารถในการสร้างเพื่อสรา้ ง มีหลาย
กรณีท่ีทราบกันดีอยู่แล้วว่าผู้ที่ฝกึ ฝนตนเองดว้ ยพรสวรรค์และจินตนาการโดยไม่ไดร้ ับการศกึ ษาพเิ ศษ ไดส้ รา้ ง
ผลงานศิลปะชิ้นเอกอยา่ งแทจ้ ริง ยกตวั อยา่ งเชน่ กวี Leonid Martynov มกี ารศึกษาเพียง 4 ชั้นเรยี น แตพ่ ิสูจน์
ตวั เองวา่ เป็นปรมาจารยด์ า้ นเนือ้ เพลงเชงิ ปรชั ญาทยี่ อดเยีย่ ม
ใบความรูท้ ่ี 5
หลักการสำคญั สิทธิมนุษยชน
สทิ ธิมนุษยชน คอื สทิ ธแิ ละเสรภี าพข้นั พน้ื ฐานทีเ่ ป็นของพวกเราทกุ คน ไม่ว่าเราจะเปน็ ใคร หรอื อยู่ที่ไหน
บนโลกใบน้ี ไมว่ า่ คุณจะมีความเช่อื อะไร หรือใช้ชวี ิตแบบไหนกต็ าม
สทิ ธิมนุษยชนไมส่ ามารถถูกพรากไปได้ แต่บางคร้ังสิทธมิ นุษยชนอาจถูกจำกดั เชน่ ถา้ คุณทำผิดกฎหมาย
หรอื กระทำการทอี่ าจเปน็ อันตรายตอ่ ความมั่นคงของชาติ ทั้งนี้ สทิ ธิมนษุ ยชนนัน้ ตั้งอยู่บนพ้ืนฐานของคุณคา่ ความ
เป็นมนุษย์ เชน่ ความมีศกั ด์ิศรี ความยตุ ิธรรม ความเทา่ เทียม ความเคารพ และความเป็นอสิ ระ นอกจากนส้ี ิทธิ
มนุษยชนนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่แนวคิดทเี่ ปน็ นามธรรมเทา่ น้ัน เพราะสิทธิมนุษยชนคอื แนวคดิ ทไ่ี ด้รับการนยิ าม และ
ไดร้ ับการค้มุ ครองตามกฎหมาย
ปฏญิ ญาสากลวา่ ด้วยสิทธิมนษุ ยชน (The Universal Declaration of Human Rights)
ในปี 2491 หลังเกดิ สงครามโลกคร้ังที่สอง องค์การสหประชาชาตไิ ด้กำหนดปฏญิ ญาสากลว่าด้วยสิทธิ
มนษุ ยชนข้ึนเพื่อเป็นกรอบในการคมุ้ ครองสิทธขิ ้ันพืน้ ฐานของมนุษย์ทุกคน
ปฏญิ ญาสากลวา่ ด้วยสทิ ธมิ นษุ ยชน ไดแ้ บง่ สิทธแิ ละเสรีภาพออกเปน็ 30 หมวด เชน่ สิทธิในการแสวงหา
ทลี่ ้ีภยั สทิ ธิในการมีเสรีภาพจากการทรมาน สิทธแิ ละเสรีภาพในการแสดงออก และสิทธิในการศึกษา
ไมม่ ีใครสามารถพรากสทิ ธแิ ละเสรภี าพน้ีไปจากเราได้ เพราะสิทธแิ ละเสรภี าพนเี้ ป็นของพวกเราทุกคน
นับตง้ั แต่มีการกำหนดปฏญิ ญาน้ีขึน้ เมื่อเจ็ดสบิ ปที ่แี ล้ว ปฏญิ ญาสากลว่าดว้ ยสิทธมิ นุษยชนไดถ้ ูกใช้เป็น
รากฐานของกฎหมายสิทธมิ นุษยชนระหวา่ งประเทศทุกฉบับ
สทิ ธมิ นุษยชนข้ันพื้นฐาน
สิทธิมนุษยชนมีคณุ ลักษณะเฉพาะ ซ่ึงไดร้ ับการยอมรับโดยประชาคมโลก ดังนี้
มคี วามเปน็ สากล: สิทธมิ นุษยชนเป็นของมนษุ ย์ทุกคน
พรากไปไมไ่ ด้: สทิ ธิมนุษยชนไม่สามารถถกู พรากไปจากเราได้
ไมส่ ามารถแบง่ แยกได้ เพราะสทิ ธิทกุ สทิ ธลิ ว้ นเกย่ี วข้องกัน: รฐั บาลไม่สามารถเลือกทีจ่ ะเคารพสิทธใิ ด
สิทธิหนึ่งได้ สิทธิทุกสทิ ธติ ้องไดร้ บั การเคารพอย่างเทา่ เทยี มกนั
ทำไมคณุ ต้องสนใจสิทธิมนุษยชน
สทิ ธมิ นษุ ยชนไม่ไดเ้ ปน็ เพียงแคก่ ฎหมาย แต่สทิ ธมิ นุษยชนคือการตดั สินใจ และส่ิงที่เราประสบพบเจอในแต่ละวนั
ถา้ เราร้สู กึ ไมช่ อบใจในสง่ิ ทรี่ ฐั บาลทำ สว่ นใหญแ่ ลว้ พวกเราคงไม่รีรอท่จี ะเอาไปพดู กับเพ่ือนไม่วา่ จะในอินเตอรเ์ นต็
หรอื ในรา้ นเหลา้ การกระทำนี้อาจดูไม่มีความหมาย แต่มันคือสทิ ธมิ นุษยชน คือ สทิ ธิและเสรภี าพในการแสดงออก
โดยส่วนใหญแ่ ลว้ คนจะไมใ่ ห้ความสำคัญมื่อมีการเคารพสทิ ธมิ นุษยชนเกิดขน้ึ เด็กๆ หลายคนไม่ยอมตื่นนอนไป
โรงเรียนทง้ั ๆ ทีพ่ วกเขาได้รบั สิทธใิ นการศกึ ษา แตเ่ ด็กๆ ที่ต้องอพยพออกจากประเทศตัวเอง และถูกปฏเิ สธไม่ให้
ได้รบั การศกึ ษาคงมคี วามสขุ ที่ได้ไปโรงเรียนทุกวนั
สทิ ธมิ นุษยชนในประเทศไทย
ประเทศไทยเปน็ ภาคีสนธสิ ัญญาระหวา่ งประเทศด้านสทิ ธมิ นุษยชนแล้ว จำนวน 7 ฉบบั จากทัง้ หมด 9
ฉบับ ทําให้ประเทศไทยมีพนั ธะผูกพันในการปฏิบตั ิตามปฏิญญาสากลว่าดว้ ยสิทธมิ นุษยชน และสนธสิ ญั ญา
ระหวา่ งประเทศดา้ นสิทธิมนุษยชนทป่ี ระเทศไทยเป็นภาคี รวมไปถึงขอ้ ตกลงต่างๆ ทเี่ กิดข้ึนจากการประชุมระดบั
โลก โดยองค์กรของรฐั ที่มีหน้าที่หลักในการทำงานเพ่ือคุ้มครองสิทธมิ นุษยชนในประเทศไทย คือ กรมคมุ้ ครองสทิ ธิ
และเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม
รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับปจั จุบัน (พ.ศ. 2560) ได้ระบถุ ึงการคุ้มครองสิทธิมนษุ ยชนไวห้ ลาย
มาตราดว้ ยกัน เชน่ ในมาตรา 4 นั้นระบุวา่ "ศกั ด์ศิ รีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของบคุ คล
ย่อมไดร้ ับความคุ้มครอง" และ ในหมวดท่ี 3 ซึง่ เปน็ หมวดสิทธิและเสรภี าพของปวงชนชาวไทย มาตราที่ 25 ถงึ 49
ยงั ไดบ้ รรยายขอบเขตของสิทธแิ ละเสรภี าพของประชาชนไวใ้ นหลายดา้ นด้วยกัน เชน่ ความยุติธรรมทางอาญา
การศึกษา การไม่เลือกปฏบิ ัติ เสรภี าพในการแสดงออก การไม่กา้ วก่ายชวี ติ สว่ นตัว และขา้ วของเครอ่ื งใช้ส่วนตวั
เป็นตน้
สิทธิคือ อาํ นาจ ความถูกต้อง ความชอบธรรม อันเป็นประโยชนข์ องบคุ คล
• สิทธพิ นื้ ฐานเปน็ สทิ ธขิ องบุคคลในฐานะทเี่ ปน็ มนุษย์(สทิ ธมิ นุษยชน) และเปน็ สิทธิของบุคคล
(สิทธิพลเมือง)ในฐานะท่เี ป็นพลเมืองของประเทศตามการรับรองโดย กฎหมายของประเทศนน้ั ๆ
ประเภทของสิทธิมนุษยชน แบ่งได้ 5 ประเภท ทั้งน้ี เป็นไปตาม Universal Declaration of Human
Rights ไดแ้ ก่
1. สิทธพิ ลเมอื ง (Civil Rights) ได้แก่ สทิ ธใิ นชีวิตและร่างกาย เสรีภาพและความม่ันคงในชวี ิต ไม่ถูก
ทรมาน ไม่ถูกทำรา้ ยหรือฆา่ สทิ ธิในความเสมอภาคตอ่ หน้ากฎหมาย สทิ ธทิ ่จี ะได้รบั สญั ชาติ เปน็ ตน้
2. สิทธทิ างการเมือง (Political Rights) ไดแ้ ก่ สทิ ธิในการมสี ่วนรว่ มกับรฐั ในการดำเนนิ กจิ การท่เี ป็น
ประโยชนส์ าธารณะ เสรภี าพในการรวมกลุ่มเปน็ พรรคการเมือง เสรภี าพในการชุมนมุ โดยสงบ สทิ ธิการเลือกต้ัง
อยา่ งเสรี
3. สทิ ธทิ างสังคม (Social Rights) ได้แก่ สทิ ธิการไดร้ บั การศึกษา สิทธิการไดร้ บั หลกั ประกนั ด้านสขุ ภาพ
ไดร้ บั การพัฒนาบุคลิกภาพอย่างเตม็ ท่ี ไดร้ ับความม่ันคงทางสังคม มเี สรีภาพในการเลือกคู่ครอง และสร้าง
ครอบครัว เป็นตน้
4. สิทธิทางเศรษฐกจิ (Economic Rights) ไดแ้ ก่ สิทธิการมีงานทำ ได้เลือกงานอย่างอิสระ และไดร้ บั
คา่ จ้างทเ่ี หมาะสม สทิ ธิในการเปน็ เจา้ ของทรัพยส์ นิ เปน็ ต้น
5. สิทธิทางวัฒนธรรม (Cultural Rights) ได้แก่ การมีเสรภี าพในการใชภ้ าษาหรือสือ่ ความหมายในภาษา
ทอ้ งถิ่นของตน มเี สรีภาพในการแตง่ กายตามวัฒนธรรม การปฏบิ ัตติ ามวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นของตน การ
ปฏิบตั ติ ามความเชอ่ื ทางศาสนา การพักผ่อนหย่อนใจทางศิลปวฒั นธรรมและการบนั เทงิ ได้โดยไมม่ ีใครมาบบี บังคับ
เปน็ ต้น