หน่วยที่ หัวเรื่อง เศร สภาพปัญหา 1. ปัญหาราคาผลผ 2. การทำบัญชีราย 3. ปัญหารายได้ไม่ 4. ปัญหาค่าครองชี 5. ปัญหาการว่างง ประเด็น/ปัญหา/สิ่งที่ควรรู้ 1. ประชาชนประสบปัญหาการประกอบอาชีพ รายได้ไม่พอ กับรายจ่าย 2. ประชาชนไม่ได้น้อมนอมหลักปรัชญาไปใช้ในการ ดำเนินชีวิตประจำวัน 3. ประชาชนส่วนใหญ่ไม่มีการวางแผน การ ดำรงชีวิต จึงทำให้เกิดปัญหาการว่างงาน และ ปัญหาหนี้สิน วิชา โครงงานเพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้ ทร02006 หัวเรื่อง 1. โครงงานเพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้ เนื้อหา 4. ทักษะและกระบวนการที่จำเป็นในการทำ โครงงานเพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้ (การหา ข้อมูลการลือกใช้ข้อมูลการจัดทำข้อมูล การ นำเสนอข้อมูล การพัฒนาต่อยอดความรู้) กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ให้ผู้เรียนศึกษาแนวทางใน ประยุกต์ใช้ในวิถีชีวิตของตนเรายจ่ายของตนเอง และครอบ ตนเองและครอบครัว 2. ให้ผู้เรียนศึกษาการพัฒนาท โครงงานเพื่อพัฒนาทักษะการ การจัดทำข้อมูล การนำเสนอ 3. ให้ผู้เรียนฝึกพูด ฟัง การสน และศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับ ปรัชญ แผนผังหน่วยการเรียนรู้แบบบูรณาการ หลักสูตรการ ระดับประถมศึก
2 ด้านเศรษฐกิจ รษฐกิจดี วีถีพอเพียง ผลิตทางการเกษตรตกต่ำ ยรับรายจ่าย ม่พอกับรายจ่าย ชีพสูง งาน วิชา ภาษาอังกฤษพื้นฐาน พต11001 หัวเรื่อง 11. ภาษาอังกฤษสำหรับอาชีพแม่บ้าน เนื้อหา : อาชีพแม่บ้านเข้าใจและใช้ ภาษาอังกฤษในเรื่อง - การทักทาย การตอบรับ และการแนะนำ ตนเอง - การกล่าวลา และการตอบรับการกล่าวลา - จำนวนนับและลำดับที่ - คำศัพท์เกี่ยวกับอาชีพแม่บ้าน - การขอร้องและการขอโทษ การนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไป องและครอบครัว และวิเคราะห์รายรับบครัว พร้อมทั้งวางแผนการใช้จ่ายของ ทักษะและกระบวนการที่จำเป็น ในการทำ รเรียนรู้ (การหาข้อมูลการลือกใช้ข้อมูล ข้อมูล การพัฒนาต่อยอดความรู้) นทนาภาษาอังกฤษสำหรับอาชีพแม่บ้าน ญาของเศรษฐกิจพอเพียง วิชา เศรษฐกิจพอเพียง ทช11001 หัวเรื่อง ครอบครัวพอเพียง เนื้อหา : 2. ครอบครัวพอเพียง 1. แนวทางในการนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ไปประยุกต์ใช้ในวิถีชีวิตของตนเองและครอบครัว 3. รายรับ-รายจ่ายของตนเอง และครอบครัว 4. การวางแผนการใช้จ่ายของตนเองและ ครอบครัว 6. หลักการในการให้คำปรึกษาแนะนำสมาชิกใน ครอบครัวเห็นคุณค่าของการนำเอาหลักเศรษฐกิจ พอเพียงไปใช้ในการดำเนินชีวิต รศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กษา ภาคเรียนที่ 2/2564
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กศน. แบบบูรณากา ครั้งที่ วัน/เดือน/ปี ตัวชี้วัด เนื้อหาสาระการเรียนรู้ 1. อธิบายแนวทางในการนำ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงไปประยุกต์ใช้ในวิถี ชีวิตของตนเองครอบครัว 3. วิเคราะห์สภาพรายรับ รายจ่ายของครอบครัวได้ 4. วางแผนการจัดทำบันทึก รายรับรายจ่ายของตนเอง และครอบครัวอย่างเป็น ระบบ 6. ให้คำแนะนำสมาชิกใน ครอบครัวเห็นคุณค่าและ นำไปประยุกต์ใช้การดำเนิน ชีวิตได้ วิชาเศรษฐกิจพอเพียง 2. ครอบครัวพอเพียง 1. แนวทางในการนำปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ ในวิถีชีวิตของตนเองและ ครอบครัว 3. รายรับ-รายจ่ายของตนเอง และครอบครัว 4. การวางแผนการใช้จ่ายของ ตนเองและครอบครัว 6. หลักการในการให้คำปรึกษา แนะนำสมาชิกในครอบครัวเห็น คุณค่าของการนำเอาหลัก เศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในการ ดำเนินชีวิต หัว วิถี
าร ตามรูปแบบ ONIE MODEL ระดับประถมศึกษา หัวเรื่อง ประเด็น/ปัญหา/สิ่งที่ควรรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ วเรื่อง เศรษฐกิจดี ถีพอเพียง 1. ประชาชนประสบปัญหา การประกอบอาชีพรายได้ไม่ พอกับรายจ่าย 2. ประชาชนไม่ได้น้อมนอม หลักปรัชญาไปใช้ในการ ดำเนินชีวิตประจำวัน 3. ประชาชนส่วนใหญ่ไม่มี การวางแผน การดำรงชีวิต จึงทำให้เกิดปัญหาการ ว่างงาน และปัญหาหนี้สิน ขั้นที่ 1 1. ครูครูซักถามนักศึกษาเรื่องความ พอเพียง ความเป็นมา ความหมาย หลักการ แนวคิดของปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงที่ให้นักศึกษาไปศึกษา 2. ครูให้นักศึกษา ศึกษาใบความรู้ 1. แนวทางในการนำปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ในวิถีชีวิต ของตนเองและครอบครัว 3. การทำบัญชีรายรับ รายจ่ายของ ตนเองและครอบครัว 4. การวางแผนการใช้จ่ายของตนเอง และครอบครัว 5. การน้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงไป ใช้ในการดำเนินชีวิต 3. ครูแบ่งกลุ่มนักศึกษาให้ศึกษาใบความรู้ และใบงานที่ตามหัวข้อ 4. ครูและนักศึกษาสรุปบทเรียนร่วมกัน
ครั้งที่ วัน/เดือน/ปี ตัวชี้วัด เนื้อหาสาระการเรียนรู้ 1. ผู้เรียนมีความรู้ความ ความเข้าใจ สามารถ เตรียมการและดำเนินการ จัดทำโครงงานเพื่อพัฒนา ทักษะการเรียนรู้ได้ 2. ผู้เรียนมีความรู้ความ เข้าใจ มีเจตคติที่ดี และ สามารถสะท้อนความคิดเห็น ต่อโครงงานเพื่อพัฒนาทักษะ การเรียนรู้ วิชา โครงงานเพื่อพัฒนาทักษะ การเรียนรู้ ทร02006 4. ทักษะและกระบวนการที่ จำเป็นในการทำโครงงานเพื่อ พัฒนาทักษะการเรียนรู้ (การหา ข้อมูลการลือกใช้ข้อมูลการจัดทำ ข้อมูล การนำเสนอข้อมูล การ พัฒนาต่อยอดความรู้) หั วิถี
หัวเรื่อง ประเด็น/ปัญหา/สิ่งที่ควรรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ หัวเรื่อง เศรษฐกิจดี ถีพอเพียง 1. ประชาชนประสบปัญหา การประกอบอาชีพรายได้ ไม่พอกับรายจ่าย 2. ประชาชนไม่ได้น้อม นอมหลักปรัชญาไปใช้ใน การดำเนินชีวิตประจำวัน 3. ประชาชนส่วนใหญ่ไม่มี การวางแผน การดำรงชีวิต จึงทำให้เกิดปัญหาการ ว่างงาน และปัญหาหนี้สิน ขั้นที่ 2 1. ครูให้ผู้เรียนทําแบบทดสอบก่อนเรียน เพื่อทราบพื้นฐานความรู้เดิมของ ผู้เรียน โดยให้ทําลงในสมุดบันทึกกิจกรรมการ เรียนรู้และตรวจสอบคําตอบจากเฉลย แบบทดสอบ เฉลยและแนวตอบกิจกรรม ท้ายหน่วยการเรียน 2. นักศึกษาและครูร่วมกันสรุปองค์ความรู้ “ความรู้เกี่ยวกับโครงงาน” โดยใช้สื่อ ยู ทูป จากนั้นให้นักศึกษาสรุปเป็นแผนที่ ความคิด 3. ครูแนะให้นักศึกษาไปศึกษาเพิ่มเติม เรื่อง “ความรู้เกี่ยวกับโครงงาน จาก บทเรียนผ่านเว็บ ในชั่วโมงค้นคว้า และ เชื่อมโยงเนื้อหา ไปสู่การใช้ภาษาอังกฤษ เพื่อการสื่อสารด้านอาชีพ
ครั้ง ที่ วัน/เดือน/ ปี ตัวชี้วัด เนื้อหาสาระการเรียนรู้ ใช้ภาษาอังกฤษทักทาย ตอบ รับการทักทาย แนะนำตนเอง กล่าวลา ตอบรับการกล่าวลา ใช้จำนวนนับ ลำดับที่ คำศัพท์ เกี่ยวกับอาชีพ แม่บ้าน ของร้อง และขอโทษ วิชา ภาษาอังกฤษพื้นฐาน พต11001 เรื่อง 11. ภาษาอังกฤษสำหรับ อาชีพแม่บ้าน เนื้อหา : อาชีพแม่บ้านเข้าใจและ ใช้ภาษาอังกฤษในเรื่อง - การทักทาย การตอบรับ และ การแนะนำตนเอง - การกล่าวลา และการตอบรับ การกล่าวลา - จำนวนนับและลำดับที่ - คำศัพท์เกี่ยวกับอาชีพแม่บ้าน หั วิถี
หัวเรื่อง ประเด็น/ปัญหา/สิ่งที่ควรรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ หัวเรื่อง เศรษฐกิจดี ถีพอเพียง 1. ประชาชนประสบปัญหา การประกอบอาชีพรายได้ ไม่พอกับรายจ่าย 2. ประชาชนไม่ได้น้อม นอมหลักปรัชญาไปใช้ใน การดำเนินชีวิตประจำวัน 3. ประชาชนส่วนใหญ่ไม่มี การวางแผน การดำรงชีวิต จึงทำให้เกิดปัญหาการ ว่างงาน และปัญหาหนี้สิน 4. ครูให้ผู้เรียนศึกษาคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ที่เกี่ยวกับอาชีพแม่บ้าน การทักทาย การ ตอบรับ และการแนะนำตนเอง การกล่าว ลา และการตอบรับการกล่าวลา จำนวน นับและลำดับที่ พร้อมทั้งจัดทำเป็นรายงาน 5. ครูให้ผู้เรียนฝึกท่องคำศัพท์ และใช้ คำศัพท์ ในการสนทน
ใบความรู้ที่ 1 ความพอเพียง 1.1 ความเป็นมา ความหมาย หลักการ แนวคิดของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 1.2 การแสวงหาความรู้ ความเป็ นมา ความหมาย และหลักแนวคิด ความเป็นมา ความหมาย หลักแนวคิด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชได้พัฒนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อที่จะให้พสกนิ การชาวไทยได้เข้าถึงทางสายกลางของชีวิตและเพื่อคงไว้ซึ่งทฤษฎีของการพัฒนาที่ยั่งยืน ทฤษฎีนี้เป็นพื้นฐานของ การดำรงชีวิตซึ่งอยู่ระหว่าง สังคมระดับท้องถิ่นและตลาดระดับสากล จุดเด่นของแนวปรัชญานี้คือ แนวทางที่ สมดุล โดยชาติสามารถทันสมัยและก้าวสู่ความเป็นสากลได้โดยปราศจากการต่อต้านกระแสโลกาภิวัฒน์ ปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง มีความสำคัญในช่วงปีพ.ศ. 2540 เมื่อปีที่ประเทศไทยต้องการรักษาความมั่นคงและเสถียรภาพ เพื่อที่จะยืนหยัดในการพึ่งตนเองและพัฒนานโยบายที่สำคัญเพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ของประเทศโดยการสร้าง แนวคิดเศรษฐกิจที่พึ่งตนเองได้ซึ่งคนไทยจะสามารถเลี้ยงชีพโดยอยู่บนพื้นฐานของความพอเพียง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำริว่า “มันไม่ได้มีความจำเป็นที่เราจะกลายเป็นประเทศ อุตสาหกรรมใหม่ (NIC) พระองค์ได้ทรงอธิบายว่า ความพอเพียงและการพึ่งตนเอง คือ ทางสายกลางที่จะป้องกัน การเปลี่ยนแปลงความไม่มั่นคงของประเทศได้ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง “การพัฒนาประเทศจำเป็นต้องทำตามลำดับขั้น ต้องสร้างพื้นฐาน คือ ความพอมีพอกิน พอใช้ของ ประชาชนส่วนใหญ่เป็นเบื้องต้นก่อน โดยใช้วิธีการและใช้อุปกรณ์ที่ประหยัด แต่ถูกต้องตามหลักวิชาเมื่อได้พื้นฐาน มั่นคงพร้อมพอควรและปฏิบัติได้แล้วจึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญและฐานะเศรษฐกิจขั้นที่สูงขึ้นโดยลำดับ ต่อไป หากมุ่งแต่จะทุ่มเทสร้างความเจริญ ยกเศรษฐกิจขึ้นให้รวดเร็วแต่ประการเดียว โดยไม่ให้แผนปฏิบัติการ สัมพันธ์กับสภาวะของประเทศและของประชาชนโดยสอดคล้องด้วย ก็จะเกิดความไม่สมดุลในเรื่องต่างๆ ขึ้น ซึ่ง อาจกลายเป็นความยุ่งยากล้มเหลวได้ในที่สุด” พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ณ หอประชุมมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ วันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2517 เศรษฐกิจพอเพียง เป็นกรอบแนวคิด ซึ่งมุ่งให้ทุกคนสามารถพึ่งพาตัวเองได้ รวมถึงการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น จนเกิดความยั่งยืน คำว่า พอเพียง คือ การดำเนินชีวิตแบบทางสายกลาง โดยตั้งอยู่บนหลักสำคัญสามประการ คือ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการมีภูมิคุ้มกันที่ดี ความพอประมาณ คือ การดำรงชีวิตให้เหมาะสม ซึ่งเราควรจะมีความพอประมาณทั้งการหารายได้ และพอประมาณในการ ใช้จ่าย ความพอประมาณในการหารายได้ คือ ทำงานหารายได้ด้วยช่องทางสุจริต ทำงานให้เต็มความสามารถ ไม่ เบียดเบียนผู้อื่น ส่วนความพอประมาณในการใช้จ่าย หมายถึง การใช้จ่ายให้เหมาะกับฐานะความเป็นอยู่ ไม่ใช้จ่าย ฟุ่มเฟือยหรือใช้จ่ายเกินตัว และในขณะเดียวกัน ก็ใช้จ่ายในการดูแลตนเอง และครอบครัวอย่างเหมาะสม ไม่อยู่ อย่างลำบาก และฝืดเคืองจนเกินไป
ความมีเหตุผล ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกิจ หรือการดำรงชีวิตประจำวัน เราจำเป็นต้องมีการตัดสินใจตลอดเวลา ซึ่งการ ตัดสินใจที่ดี ควรตั้งอยู่บนการไตร่ตรองถึงเหตุ รวมทั้งคำนึงถึงผลที่อาจตามมาจากการตัดสินใจอย่างรอบคอบ ไม่ใช่ตัดสินใจตามอารมณ์ หรือจากสิ่งที่คนอื่นบอกมาโดยปราศจากการวิเคราะห์ การมีภูมิคุ้มกันที่ดี คือ การเตรียมตัวให้พร้อมรับกับความเปลี่ยนแปลง ในโลกที่ไม่มีอะไรแน่นอน ทั้งสภาพลม ฟ้า อากาศที่ ไม่เอื้ออำนวยต่อการทำเกษตร การเปลี่ยนแปลงในบริษัทคู่ค้า การเลิกจ้างพนักงานในบริษัทใหญ่ หรือแม้แต่ความ ไม่แน่นอนของสถานการณ์ทั้งในและต่างประเทศที่มีผลต่อการลงทุน เราจึงจำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะดำรงอยู่ได้ด้วย การพึ่งพาตนเอง และตั้งอยู่ในความไม่ประมาทอยู่เสมอ เช่น เตรียมแผนสำรองสำหรับแต่ละสถานการณ์ การมี รายได้หลายทางเพื่อลดความเสี่ยงในวันที่ถูกเลิกจ้าง หรือการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน โดยการดำรงชีวิต ตามหลักการทั้งสามข้อนั้น จำเป็นต้องมีความรู้และคุณธรรมประกอบด้วย ความรู้ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันที่เหมาะสม เช่น ความรู้ในการประกอบวิชาชีพช่วยให้ธุรกิจและการงานเจริญก้าวหน้า หรือความรู้ในการลงทุนช่วยสร้าง ภูมิคุ้มกันให้นักลงทุน ทั้งนี้ ความรู้และประสบการณ์ จะช่วยทำให้เราตัดสินใจได้อย่างเป็นเหตุเป็นผล ถึงแม้ว่า พื้นฐานความคิดและประสบการณ์ที่แตกต่างกันอาจทำให้เหตุผลของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน แต่หากทุกคนยึดมั่น อยู่ในหลักคุณธรรม ก็จะทำให้การอยู่ร่วมกันในสังคมเป็นไปอย่างสงบสุข อย่างที่กล่าวมาข้างต้น การพึ่งพาตัวเอง ได้เป็นเพียงส่วนเริ่มต้นของการพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง โดยเมื่อทุกคนสามารถดูแลตัวเอง และครอบครัวได้แล้ว ขั้นต่อไปอาจทำการพัฒนาธุรกิจ โดยมีการรวมกลุ่มกันในวิชาชีพเดียวกัน เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และให้ความ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในการรวมกลุ่มกันนั้น ไม่จำกัดเฉพาะการรวมกลุ่มของชาวบ้าน เกษตรกร ในรูปของ สหกรณ์ การทำงานในเมืองก็สามารถมีการรวมกลุ่มกันได้ เช่น การแบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ในการทำธุรกิจ ของกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน การแลกเปลี่ยนแนวคิดการลงทุน เพื่อเป็นการต่อยอดความรู้ รวมไปจนถึงการ แบ่งปันความช่วยเหลือส่งกลับคืนสู่สังคม ไปสู่กลุ่มที่ยังต้องการความช่วยเหลืออยู่ เช่น กิจกรรมจิตอาสา เพื่อสร้าง สังคมที่เข้มแข็งและอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข จะเห็นได้ว่า แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงนั้น เป็นแนวคิดที่ตั้งอยู่บนความไม่ประมาท ด้วยการใช้ความรู้และ คุณธรรม เพื่อให้เกิดการพึ่งพาตัวเองได้ และเผื่อแผ่ไปถึงสังคม ซึ่งเราสามารถนำหลักการปฏิบัติไปปรับใช้ได้ทั้งใน ชีวิตการทำงาน และการดำรงชีวิต
ความหมายของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาชี้ถึงแนวการดำรงอยู่ และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับตั้งแต่ระดับ ครอบครัว ระดับชุมชนจนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนา และบริหารประเทศให้ดำเนินไปใน ทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัตน์ ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจำเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีพอสมควร ต่อการมีผลกระทบใดๆ อันเกิด จากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอก และภายใน ทั้งนี้จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวัง อย่างยิ่ง ในการนำวิชาการต่าง ๆ มาใช้ในการวางแผน และการดำเนินการทุกขั้นตอน และขณะเดียวกันจะต้อง เสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของคนในชาติโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐ นักทฤษฎี และนักธุรกิจในทุกระดับให้มีสำนึกใน คุณธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต และให้มีความรอบรู้ที่เหมาะสม ดำเนินชีวิต ด้วยความอดทน ความเพียร มีสติ ปัญญา และความรอบคอบ เพื่อให้สมดุล และพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และกว้างขวางทั้ง ด้านวัตถุ สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกได้เป็นอย่างดี การนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไป ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนี้ เป็นกรอบแนวความคิดและทิศทางการพัฒนาระบบเศรษฐกิจมหภาคของไทย ซึ่ง บรรจุอยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 (พ.ศ. 2550-2554)เพื่อมุ่งสู่การพัฒนาที่สมดุล ยั่งยืน และมีภูมิคุ้มกัน เพื่อความอยู่ดีมีสุข มุ่งสู่สังคมที่มีความสุขอย่างยั่งยืน หรือที่เรียกว่า สังคมสีเขียว (Green Society) ด้วยหลักการดังกล่าว แผนพัฒนาฯฉบับที่ 10 นี้จะไม่เน้นเรื่องตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ ยังคงให้ความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจแบบทวิลักษณ์ หรือระบบเศรษฐกิจที่มีความแตกต่างกันระหว่างเศรษฐกิจ ชุมชนเมืองและชนบท ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล เรียกสิ่งนี้ว่า วิกฤตเศรษฐกิจพอเพียง คือ ความไม่รู้ว่าจะนำปรัชญา นี้ไปใช้ทำอะไร กลายเป็นว่าผู้นำสังคมทุกคน ทั้งนักการเมืองและรัฐบาลใช้คำว่า เศรษฐกิจพอเพียง เป็นข้ออ้างใน การทำกิจกรรมใด ๆ เพื่อให้รู้สึกว่าได้สนองพระราชดำรัสและให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดี หรือพูดง่ายๆ ก็คือ เศรษฐกิจ พอเพียง ถูกใช้เพื่อเป็นเครื่องมือเพื่อตัวเอง ซึ่งความไม่เข้าใจนี้อาจเกิดจากการสับสนว่าเศรษฐกิจพอเพียงกับ ทฤษฎีใหม่นั้นเป็นเรื่องเดียวกัน ทำให้มีความเข้าใจว่า เศรษฐกิจพอเพียงหมายถึงการปฏิเสธอุตสาหกรรมแล้ว กลับไป รัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนี้ ได้รับการเชิดชูสูงสุด จาก สหประชาชาติ (UN)โดยนายโคฟี อันนัน ในฐานะ เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ได้ทูลเกล้าฯถวายรางวัล The Human Development Lifetime Achievement Award แก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อ 26 พฤษภาคม2549 และได้มีปาฐกถาถึงปรัชญา
เศรษฐกิจพอเพียงว่าเป็นปรัชญาที่สามารถเริ่มได้จากการสร้างภูมิคุ้มกันในตนเอง สู่หมู่บ้าน และสู่เศรษฐกิจในวง กว้างขึ้นในที่สุด เป็นปรัชญาที่มีประโยชน์ต่อประเทศไทยและนานาประเทศ โดยที่องค์การสหประชาชาติได้ สนับสนุนให้ประเทศต่างๆที่เป็นสมาชิก 166 ประเทศยึดเป็นแนวทางสู่การพัฒนาประเทศแบบยั่งยืน หลักแนวคิด ของเศรษฐกิจพอเพียง การพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง คือการพัฒนาที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของทางสายกลาง และความไม่ประมาท โดยคำนึงถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ตลอดจนใช้ ความรู้ความรอบคอบ และคุณธรรม ประกอบการวางแผน การตัดสินใจ และการกระทำ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีหลักพิจารณาอยู่ 5 ส่วน ดังนี้กรอบแนวคิด เป็นปรัชญาที่ชี้แนะแนว ทางการดำรงอยู่ และปฏิบัติตนในทางที่ควรจะเป็น โดยมีพื้นฐานมาจากวิถีชีวิตดั้งเดิมของสังคมไทย สามารถนำมา ประยุกต์ใช้ได้ตลอดเวลา และเป็นการมองโลกเชิงระบบที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และเป็นการมองโลก เชิงระบบที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มุ่งเน้นการรอดพ้นจากภัย และวิกฤต เพื่อความมั่นคง และความยั่งยืน ของการพัฒนา คุณลักษณะ เศรษฐกิจพอเพียงสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติตนได้ในทุกระดับ โดยเน้น การปฏิบัติบนทางสายกลาง และการพัฒนาอย่างเป็นขั้นตอน คำนิยาม ความพอเพียงจะต้องประกอบด้วย 3 คุณลักษณะ พร้อม ๆ กันดังนี้ ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีที่ไม่น้อยเกินไป และไม่มากเกินไปโดยไม่เบียดเบียนตนเอง และ ผู้อื่น เช่นการผลติ และการบริโภคที่อยู่ในระดับพอประมาณ ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับของความพอเพียงนั้น จะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผล โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้องตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้น ๆ อย่างรอบคอบ การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบ และการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นโดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ ต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งใกล้ และไกล เงื่อนไข การตัดสินใจและการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ให้อยู่ในระดับพอเพียงนั้น ต้องอาศัยทั้งความรู้ และ คุณธรรมเป็นพื้นฐาน กล่าวคือ เงื่อนไขความรู้ประกอบด้วย ความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน ความ รอบคอบที่จะนำความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผน และความระมัดระวังในขั้น ปฏิบัติ เงื่อนไขคุณธรรม ที่จะต้องเสริมสร้างประกอบด้วย มีความตระหนักในคุณธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริต และมีความอดทน มีความเพียร ใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต
แนวทางปฏิบัติ/ผลที่คาดว่าจะได้รับ จากการนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ คือ การ พัฒนาที่สมดุล และยั่งยืน พร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงในทุกด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ความรู้ และเทคโนโลยี เศรษฐกิจพอเพียงกับทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดำริ เศรษฐกิจพอเพียง และแนวทางปฏิบัติของทฤษฎีใหม่ เป็นแนวทางในการพัฒนาที่นำไปสู่ความสามารถใน การพึ่งตนเอง ในระดับต่าง ๆ อย่างเป็นขั้นตอน โดยลดความเสียงเกี่ยวกับความผันแปรของธรรมชาติ หรือการ เปลี่ยนแปลงจากปัจจัยต่าง ๆ โดยอาศัยความพอประมาณ และความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี มีความรู้ ความเพียร และความอดทน สติ และปัญญา การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และความสามัคคีเศรษฐกิจพอเพียง ความหมายกว้างกว่าทฤษฎีใหม่ โดยที่เศรษฐกิจพอเพียงเป็นกรอบแนวคิดที่ชี้บอกหลักการ และแนวทางปฏิบัติ ของทฤษฎีใหม่ ในขณะที่ แนวพระราชดำริเกี่ยวกับทฤษฎีใหม่ หรือเกษตรทฤษฎีใหม่ ซึ่งเป็นแนวทางการ พัฒนาการเกษตรอย่างเป็นขั้นตอนนั้น เป็นตัวอย่างการใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงในทางปฏิบัติ ที่เป็นรูปธรรม เฉพาะในพื้นที่ที่เหมาะสม ทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดำริ อาจเปรียบเทียบกับหลักเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งมีอยู่ 2 แบบ คือ แบบพื้นฐาน กับ แบบก้าวหน้า ขั้นที่1 ที่มุ่งแก้ปัญหาของเกษตรกรที่อยู่ห่างไกลแหล่งน้ำ ต้องพึ่งน้ำฝน และประสบความเสี่ยงจากการที่ น้ำไม่พอเพียง แม้กระทั่งสำหรับการปลูกข้าวเพื่อบริโภค และมีข้อสมมติว่า มีที่ดินพอเพียงในการขุดบ่อเพื่อ แก้ปัญหาในเรื่องดังกล่าว จากการแก้ปัญหาความเสี่ยงเรื่องน้ำ จะทำให้เกษตรกรสามารถมีข้าวเพื่อการบริโภคยัง ชีพในระดับหนึ่ง และใช้ที่ดินส่วนอื่น ๆ สนองความต้องการพื้นฐานของครอบครัว รวมทั้งขายในส่วนที่เหลือเพื่อมี รายได้ที่จะใช้เป็นค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ไม่สามารถผลิตเองได้ ทั้งหมดนี้เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันในตัวให้เกิดขึ้นในระดับ ครอบครัว อย่างไรก็ตาม แม้กระทั่ง ในทฤษฎีใหม่ขั้นที่ 1 ก็จำเป็นที่เกษตรกรจะต้องได้รับความช่วยเหลือจาก ชุมชนราชการ มูลนิธิ และภาคเอกชน ตามความเหมาะสมความพอเพียงในระดับชุมชน และระดับองค์กรเป็น เศรษฐกิจพอเพียงแบบก้าวหน้า ซึ่งครอบคลุมทฤษฎีใหม่ ขั้นที่2 เป็นเรื่องของการสนับสนุนให้เกษตรกรรวมพลังกันในรูปกลุ่มหรือสหกรณ์ หรือการที่ธุรกิจต่าง ๆ รวมตัวกันในลักษณะเครือข่ายวิสาหกิจ กล่าวคือ เมื่อสมาชิกในแต่ละครอบครัว หรือองค์กรต่าง ๆ มีความพอเพียง ขั้นพื้นฐานเป็นเบื้องต้นแล้วก็จะรวมกลุ่มกันเพื่อร่วมมือกันสร้างประโยชน์ให้แก่กลุ่ม และส่วนรวมบนพื้นฐานของ การไม่เบียดเบียนกัน การแบ่งปันช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ตามกำลังและความสามารถของตน ซึ่งจะสามารถทำให้ ชุมชนโดยรวม หรือเครือข่ายวิสาหกิจนั้น ๆ เกิดความพอเพียงในวิถีปฏิบัติอย่างแท้จริงความพอเพียงใน ระดับประเทศ เป็นเศรษฐกิจพอเพียงแบบก้าวหน้า ซึ่งครอบคลุมทฤษฎีใหม่ ขั้นที่3 ซึ่งส่งเสริมให้ชุมชน หรือเครือข่ายวิสาหกิจ สร้างความร่วมมือกับองค์กรอื่น ๆ ในประเทศ เช่น บริษัทขนาดใหญ่ ธนาคาร สถาบันวิจัย เป็นต้น การสร้างเครือข่ายความร่วมมือในลักษณะเช่นนี้ จะเป็นประโยชน์ ในการสืบทอดภูมิปัญญา แลกเปลี่ยนความรู้ เทคโนโลยี และบทเรียนจากการพัฒนา หรือ ร่วมมือกันพัฒนา ตาม แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงทำให้ประเทศอันเป็นสังคมใหญ่อันประกอบด้วยชุมชน องค์กร และธุรกิจต่าง ๆ ที่ ดำเนินชีวิตอย่างพอเพียงกลายเป็นเครือข่ายชุมชนพอเพียงที่เชื่อมโยงกันด้วยหลักไม่เบียดเบียน แบ่งปัน และ ช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ในที่สุด ประการที่สำคัญของเศรษฐกิจพอเพียง พอมีพอกิน ปลูกพืชสวนครัวไว้กินเองบ้าง ปลูกไม้ผลไว้หลังบ้าน 2-3 ต้น พอที่จะมีไว้กินเองในครัวเรือน เหลือจึงขายไป พออยู่พอใช้ทำให้บ้านน่าอยู่ ปราศจากสารเคมี กลิ่น
เหม็น ใช้แต่ของที่เป็นธรรมชาติ (ใช้จุลินทรีย์ผสมน้ำถูพื้นบ้าน จะสะอาดกว่าใช้น้ำยาเคมี) รายจ่ายลดลง สุขภาพ จะดีขึ้น (ประหยัดค่ารักษาพยาบาล) พออกพอใจ เราต้องรู้จักพอ รู้จักประมาณตน ไม่ใคร่อยากใคร่มีเช่นผู้อื่น เพราะเราจะหลงติดกับวัตถุ ปัญญาจะไม่เกิด “การจะเป็นเสือนั้นมันไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่เราพออยู่พอกิน และมี เศรษฐกิจการเป็นอยู่แบบพอมีพอกิน แบบพอมีพอกิน หมายความว่า อุ้มชูตัวเองได้ ให้มีพอเพียงกับตัวเอง” พระ ราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
ใบความรู้ที่2 การวางแผนการประกอบอาชีพอย่างพอเพียง 1. ความพอเพียงตามแนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียง - ความเป็นมาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาที่ชี้แนวทางการดำรงอยู่และปฏิบัติตนที่พระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสแก่พสกนิกรชาวไทยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2517 เพื่อที่จะให้พสกนิกรชาวไทยได้เข้าถึง สายกลางของชีวิต เพื่อคงไว้ซึ่งทฤษฎีของการพัฒนาที่ยั่งยืน - จุดเด่น คือ แนวทางที่สมดุลโดยธรรมชาติสามารถก้าวทันสมัยสู่ความเป็นสากลได้โดยปราศจากการต่อต้าน กระแสโลกาภิวัฒน์ซึ่งคนไทยจะสามารถเลี้ยงชีพโดยอยู่บนพื้นฐานของความพอเพียง - ความพอเพียงและการพึ่งตนเอง คือ ทางสายกลางที่จะป้องกันการเปลี่ยนแปลงความไม่มั่นคงในประเทศและ เป็นที่มาของนิยาม 3 ห่วง 2 เงื่อนไข ซึ่งประกอบด้วย 1. ความพอประมาณ คือ ความพอดีไม่มากเกินไปและไม่น้อยเกินไป โดยไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น 2. ความมีเหตุผล คือ การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับของความพอเพียงนั้นจะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผล โดย พิจารณาจากเหตุผลปัจจัยที่เกี่ยวข้องตลอดจนคำนึงถึงผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้น ๆ อย่าง รอบคอบ 3. มีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัวเอง คือ การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ โดย คำนึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่าง ๆ เงื่อนไขความรู้ เงื่อนไขคุณธรรม รอบรู้ รอบคอบ ระมัดระวัง ซื่อสัตย์ สุจริต ขยัน อดทน แบ่งเป็น ชีวิต เศรษฐกิจ สังคม สมดุล มั่นคง ยั่งยืน 2. การนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ - การนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในประเทศ ถูกบรรจุลงในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 (พ.ศ. 2550 – 2554 ) เพื่อมุ่งสู่การพัฒนาที่สมดุล ยั่งยืน มีภูมิคุ้มกัน เพื่อความอยู่ดีมีสุข มุ่งสู่สังคม ที่ยั่งยืนต่อไป - การนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในต่างประเทศ ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนผ่านทาง สำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ (สพร.) มีหน้าที่คอยประสานงานรับความช่วยเหลือทาง วิชาการด้านต่าง ๆจากต่างประเทศมาสู่ภาครัฐแล้วถ่ายทอดต่อไปยังภาคประชาชนและยังส่งผ่านความรู้ที่มีไปยัง ประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ - การนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน สามารถนำไปใช้ได้กับสังคมโดยรวม ไม่ใช่เฉพาะครอบครัวหรือชุมชนเท่านั้น ซึ่งก็คือเราสามารถนำวิธีการของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในระดับ บุคคลทั่วไป ก็คือ ความสามารถในการดำรงชีวิตอย่างไม่เดือดร้อน มีความเป็นอยู่อย่างประมาณตนตามฐานะโดย สามารถเลี้ยงตัวเองได้บนพื้นฐานของการประหยัด
3. การวางแผนการประกอบอาชีพแบบพอเพียง - กรอบแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง การที่ต้องการให้ทุกคนพยามยามที่จะหาความรู้และสร้าง ตนเองให้มั่นคงนี้ เพื่อตนเอง เพื่อที่จะให้ ตัวเองมีความเป็นอยู่ที่ก้าวหน้า มีความสุข พอมีพอกินเป็นชั้นหนึ่งและขั้นต่อไป ก็คือ ให้มีเกียรติว่ายืนได้ด้วย ตัวเอง พยายามไม่ก่อความชั่วให้เป็นเครื่องทำลายตัวเอง ทำลายผู้อื่น พยายามลด พยายามละความชั่วที่ ตนเองมีอยู่ พยามยามก่อความดีให้แก่ตัวอยู่เสมอ พยายามรักษาและเพิ่มพูนความดีที่มีอยู่นั้นให้งอกงามสมบูรณ์ขึ้น - หลักสำคัญของความพอดี 5 ประการ 1. ความพอดีด้านจิตใจ: ต้องเข้มแข็ง พึ่งตนเองได้มีจิตสำนึกที่ดีเอื้ออาทร นึกถึงผลประโยชน์ส่วนรวม 2. ความพอดีด้านสังคม: ต้องมีความช่วยเหลือเกื้อกูลกัน สร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชน รู้จักผนึกกำลัง และที่สำคัญมีกระบวนการเรียนรู้ที่เกิดจากรากฐานที่มั่นคงและแข็งแรง 3. ความพอดีด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม: รู้จักใช้และจัดการอย่างฉลาด รอบคอบ เพื่อให้ เกิดความยั่งยืนสูงสุด 4. ความพอดีด้านเทคโนโลยี: รู้จักใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมให้สอดคล้องกับความต้องการ และควร พัฒนาเทคโนโลยีจากภูมิปัญญาชาวบ้านก่อน 5. ความพอดีด้านเศรษฐกิจ : เพิ่มรายได้ลดรายจ่าย ดำรงชีวิตอย่างพอควร พออยู่ พอมี สมควร ตามอัตตภาพและฐานะของตน - ทฤษฎีใหม่ เป็นแนวทางในการบริหารจัดการที่ดินและน้ำเพื่อการเกษตรในที่ดินขนาดเล็กให้เกิด ประโยชน์สูงสุด วิธีการแก้ก็คือ แบ่งพื้นที่การเกษตรออกเป็น ขั้นที่ 1 ทฤษฎีใหม่ขั้นต้น สถานะพื้นฐานทางการเกษตร มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเสถียรภาพของการผลิต เมื่อเข้าใจหลักการ และได้ลงมือปฏิบัติตามจนได้ผลแล้ว เกษตรกรก็จะพัฒนาตนเองจากขั้น พออยู่พอกิน ไปสู่ ขั้นพออันมีจะกิน ขั้นที่2 ทฤษฎีใหม่ขั้นกลาง จะเป็นการรวมพลังกันในรูปกลุ่มหรือสหกรณ์ ร่วมแรง ร่วมใจกันดำเนินการใน ด้าน - ด้านการผลิต - ด้านการตลาด - ด้านความเป็นอยู่ - ด้านสวัสดิการ - ด้านการศึกษา - ด้านสังคมและศาสนา ขั้นที่3 ทฤษฎีใหม่ขั้นก้าวหน้า เกษตรกรจะมีรายได้ ฐานะมั่นคง อาจพัฒนาก้าวหน้าไปสู่ขั้นติดต่อ ประสานงานเพื่อจัดหาทุนหรือแหล่งทุน 4. เครือข่ายดำเนินชีวิตแบบพอเพียง ในการพัฒนาประเทศจำเป็นต้องทำตามลำดับขั้น เริ่มด้วยการสร้างพื้นฐาน คือ ความมีกินมีใช้ของ ประชาชนก่อนด้วยวิธีการที่ประหยัด ระมัดระวังแต่ถูกต้องตามหลักวิชา
ใบความรู้ที่ 3 การวางแผนการเรียนรู้ และการทำโครงงานการประกอบอาชีพ กระบวนการ 3 ห่วง 2 เงื่อนไข เป็นบทสรุปของเศรษฐกิจพอเพียง นั่นเอง คือ สรุปให้เข้าใจได้ง่ายๆ ดังต่อไปนี้ 3 ห่วง คือ ทางสายกลาง ประกอบไปด้วย ดังนี้ ห่วงที่ 1 คือ พอประมาณ หมายถึง พอประมาณในทุกอย่าง ความพอดีไม่มากหรือว่าน้อยจนเกินไปโดย ต้องไม่เบียดเบียนตนเอง หรือผู้อื่นให้เดือดร้อน ห่วงที่ 2 คือ มีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับของความพอเพียงนั้น จะต้องเป็นไปอย่างมี เหตุผลโดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้นๆ อย่าง รอบคอบ ห่วงที่ 3 คือ มีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัวเอง หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลง ด้านการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นโดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่างๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งใกล้ และไกล 2 เงื่อนไข ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ได้แก่ เงื่อนไขที่ 1 เงื่อนไขความรู้คือ มีความรอบรู้เกี่ยวกับ วิชาการต่างๆที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน ความ รอบคอบที่จะนำความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการ วางแผน และความระมัดระวังใน ขั้นตอนปฏิบัติ คุณธรรมประกอบด้วย มีความตระหนักในคุณธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริต และมีความอดทน มี ความเพียร ใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต เงื่อนไขที่ 2 เงื่อนไขคุณธรรม คือ มีความตระหนักในคุณธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริตและมีความอดทน มี ความเพียร ใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต “เศรษฐกิจพอเพียงจริงๆ คือ หลักการดำเนินชีวิตที่จริงแท้ที่สุด กรอบแนวคิดของหลักปรัชญามุ่งเน้น ความมั่นคงและความยั่งยืนของการพัฒนา อันมีคุณลักษณะที่สำคัญ คือ สามารถประยุกต์ใช้ในทุกระดับ ตลอดจน ให้ความสำคัญกับคำว่าความพอเพียง ที่ประกอบด้วย ความพอประมาณ ความมีเหตุมีผล มีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ภายใต้เงื่อนไขของการตัดสินใจและการดำเนินกิจกรรมที่ต้องอาศัยเงื่อนไขความรู้และเงื่อนไขคุณธรรม” “หากทุกฝ่ายเข้าใจกรอบแนวคิด คุณลักษณะ คำนิยามของเศรษฐกิจพอเพียงอย่างแจ่มชัดแล้ว ก็จะง่าย ขึ้นในการนำไปประยุกต์ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติ และจะนำไปสู่ผลที่คาดว่าจะได้รับ คือ การพัฒนาที่สมดุลและยั่งยืน พร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงในทุกด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ความรู้และเทคโนโลยี
ใบความรู้ที่ 4 การสร้างเครือข่ายดำเนินชีวิตแบบพอเพียง การเผยแพร่แนวคิดการบริหารจัดการตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง กิจกรรมเศรษฐกิจพอเพียง การดำเนินชีวิตแบบยึดทางสายกลาง ไม่เบียดเบียนตนเองผู้อื่นรวมทั้งสิ่งแวดล้อมต้องอยู่ด้วยกันอย่าง สมดุล ไม่ดำเนินชีวิตที่เกินพอดี เช่น เป็นเกษตรทฤษฎีใหม่ เกษตรผสมผสานไร่นาสวนผสม วนเกษตร เกษตร อินทรีย์ เกษตรชีวภาพ เกษตรกรรมธรรมชาติ ถ้าผลผลิตที่ได้จากการทำเกษตรมีมากทำให้ล้นตลาดราคาอาจ ตกต่ำ ก็ทำการแปรรูปผลผลิตนั้น ๆ การเผยแพร่ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในระดับบุคคล/ครอบครัว โดยการประยุกต์ใช้เศรษฐกิจพอเพียงระดับบุคคล/ครอบครัวจะเริ่มต้นจากการเสริมสร้างคนให้มีการ เรียนรู้ วิชาการและทักษะต่าง ที่จำเป็น เพื่อให้สามารถรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ พร้อมทั้งเสริมสร้าง คุณธรรมจนมีความเข้าใจและตระหนักถึงคุณค่าของการอยูร่วมกันของคนในสังคม แลอยู่ร่วมกับระบบนิเวศวิทยา อย่างสมดุล การนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน การดำเนินชีวิตในระบบเศรษฐกิจพอเพียงในระดับบุคคล เป็นความสามารถในการดำเนินชีวิตอย่างไม่ เดือดร้อน มีความเป็นอยู่อย่างพอประมาณตนตามฐานะ ตามอัตภาพและที่สำคัญ ไม่หลงใหลตามกรดะแสวัตถุ นิยม มีอิสรภาพในการประกอบอาชีพ เดินทางสายกลาง ทำกิจกรรมที่เหมาะสมกับตัวเอง และสามารถพึ่งพา ตนเองได้ ส่วนเศรษฐกิจพอเพียงระดับเกษตรกรเป็นเศรษฐกิจเพื่อการเกษตรที่เน้นการพึ่งพาตนเอง การเผยแพร่ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในระดับชุมชน ชุมชนพอเพียง ประกอบด้วย บุคคล/ครอบครัวต่าง ๆ ที่มีความพอเพียงแล้ว คือมีความรู้และคุณธรรม เป็นกรอบในการดำเนินชีวิตจนสามารถพึ่งตนเองได้ บุคคลเหล่านี้มารวมกลุ่มกันทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่สอดคล้อง เหมาะสมกับสถานภาพ ภูมิสังคมของแต่ละชุมชน โดยพยายามใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ที่มีอยู่ในชุมชนให้เกิดประโยชน์ สูงสุด ผ่านการร่วมแรง ร่วมใจ ร่วมคิด ร่วมทำ แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับบุคคลหลายสถานภาพ ในสิ่งที่จะสร้าง ประโยชน์สุขของคนส่วนรวม และความก้าวหน้าของชุมชนอย่างมีเหตุผล โดยอาศัยสติ ปัญญา ความสามารถของ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เศรษฐกิจพอเพียงระดับชุมชน/กลุ่มหรือองค์กร เศรษฐกิจพอเพียงแบบก้าวหน้า จะเน้นที่ความพอเพียงในระดับชุมชน/กลุ่มหรือองค์กรเมื่อสมาชิกในแต่ ละครอบครัวหรือองค์กรต่าง ๆ มีความพอเพียงในขั้นตอนพื้นฐานเป็นเบื้องต้นแล้วก็จะร่วมกลุ่มกันเพื่อร่วมมือกัน สร้างประโยชน์ให้แก่กลุ่มและส่วนรวมบนพื้นฐานของการเบียดเบียนกัน การแบ่งปันช่วยเหลือซึ่งกันและกันตาม กำลังและความสามารถของตนซึ่งจะสามารถทำให้ชุมชนโดยรวมหรือเครือข่ายวิสาหกิจนั้น ๆ เกิดความพอเพียงใน วิถีปฏิบัติอย่างแท้จริง
ใบความรู้ที่ 5 กระบวนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมของโลกในปัจจุบัน โดยเฉพาะกระแสของโลกาภิวัตน์ และการ แข่งขันในระบบทุนนิยม ส่งผลให้ประเทศไทยต้องเผชิญกับความท้าทายจากรอบด้าน และจึงต้องยืนหยัดอยู่ใน สังคมโลกให้ได้อย่างเข้มแข็ง และไม่สูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง ดังนั้น ในกระบวนการการจัดทำแผนพัฒนา เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 10 (พ.ศ.2550 – 2554) จึงได้มุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับการนำหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงมาใช้เป็นแนวทางหลักในการกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไปสู่ความสมดุลยั่งยืน และมี ภูมิคุ้มกันที่ดี " วารสารเศรษฐกิจและสังคมได้รับเกียรติจาก ดร.จิรายุ อิสรางกูร ณ อยุธยา ประธานอนุกรรมการการ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงได้กรุณาอธิบาย ความหมาย หลักการและแนวคิดรวมไปถึงกระบวนการขับเคลื่อน เศรษฐกิจพอเพียงที่ผ่านมาของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง และการสร้างขบวนการขับเคลื่อน เศรษฐกิจพอเพียงร่วมกับภาคีการพัฒนาต่างๆ ไว้อย่างน่าสนใจ ดังนี้ ไทยยังขาดภูมิคุ้มกันในการรับมือการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม ประเทศไทยหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเผชิญกับการไหลเข้ามาของกระแสโลกาภิวัตน์ และโดยเนื้อแท้ ยังมี ความไม่พร้อมที่จะรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงในทุกด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมออย่างดีพอ เห็น ได้จากปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่วิกฤตเศราฐกิจ ปี 2540 ที่สะท้อนให้เห็นว่า ประเทศไทยยังขาดความรู้เท่า ทันต่อการเปลี่ยนแปลง หลงระเริงไปกับสิ่งฉาบฉวย หรือกล่าวได้ว่า ยังขาดความภูมิคุ้มกันที่ดี การขาดความภูมิคุ้มกัน คือยังพึ่งพาตนเองไม่ได้ และขาดความพอดีอยู่ ซึ่งหากขยายความออกไป อธิบาย ได้ว่า สังคมไทยยังขาดความพอดี ในเรื่องสำคัญรวม 5 ประการ คือ
ขาดความพอดีด้านจิตใจ : คนส่วนมากมีสภาวะจิตใจไม่เข้มแข็ง ยังไม่สามารถพึ่งตนเองได้ ขาดจิตสำนึกที่ ดีไม่มีความเอื้ออาทร ไม่รู้จักประนีประนอม นึกถึงแต่ผลประโยชน์ส่วนตัว ขาดความพอดีด้านสังคม :ไม่ค่อยช่วยเหลือเกื้อกูลกันชุมชนขาดความเข้มแข็ง และที่สำคัญไม่มี กระบวนการเรียนรู้ที่เกิดจากฐานรากที่มั่นคงและเข้มแข็ง ขาดความพอดีด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม : ยังใช้และจัดการอย่างขาดความรอบคอบ และที่ สำคัญใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในประเทศ อย่างไม่เป็นขั้นตอน ขาดความพอดีด้านเทคโนโลยี: ยังไม้รู้จักใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมให้สอดคล้องกับความต้องการ และควร พัฒนาเทคโนโลยีจากภูมิปัญญาชาวบ้านของเราเอง และสอดคล้องเป็นประโยชน์ต่อสภาพแวดล้อม ขาดความพอดีด้านเศรษฐกิจ : ส่วนใหญ่ดำรงชีวิตอย่างฟุ่มเฟือย หรือเกินฐานะของตน เศรษฐกิจพอเพียง : ปรัชญาอันทรงค่าจากพ่อของปวงชนชาวไทย “เศรษฐกิจพอเพียง” (Sufficiency Economy) เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระ ราชดำรัสชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดนานกว่า 25 ปี ตั้งแต่ก่อนวิกฤตการณ์ ทางเศรษฐกิจขึ้น พระองค์ท่านได้ทรงเน้นย้ำว่าเป็นแนวทางการแก้ไขเพื่อให้ประเทศรอดพ้นจากปัญหาต่างๆ สามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์และความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ทั้งนี้ สศช. จึงได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิจากสาขาต่างๆ มาร่วมกันระดมความคิดและยกร่างคำนิยามของ เศรษฐกิจพอเพียงโดยประมวลและกลั่นกรองจากพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่องเศรษฐกิจ พอเพียง ซึ่งพระราชทานในวโรกาสต่างๆ รวมทั้งพระราชดำรัสอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้นำไปเผยแพร่ เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2542 เพื่อเป็น แนวทางปฏิบัติของทุกฝ่ายและประชาชนโดยทั่วไป รวมถึงได้อัญเชิญมาเป็นปรัชญานำทางในการจัดทำแผนพัฒนา ฯ ฉบับที่ 9 อีกด้วย โดยนิยามของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีสาระสำคัญ ดังนี้ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาชี้แนวการดำรงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับตั้งแต่ระดับ ครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดำเนินไปในทางสายกลางโดยเฉพาะ การพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัตน์ ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจำเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีพอสมควรต่อการมีผลกระทบใดๆ อันเกิดจากการ เปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายใน ทั้งนี้จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังอย่างยิ่ง ในการนำวิชาการต่างๆ มาใช้ ในการวางแผนและการดำเนินการทุกขั้นตอน และขณะเดียวกันจะต้องเสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของคนในชาติ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐ นักทฤษฎีและนักธุรกิจในทุกระดับให้มีสำนึกในคุณธรรม ความซื่อสัตย์สุจริตและให้มี ความรู้ที่เหมาะสม ดำเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มีสติ ปัญญา และความรอบคอบเพื่อให้สมดุลและ พร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวางทั้งด้านวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม จากโลกภายนอกได้เป็นอย่างดี
“หากพิจารณาพระราชดำรัสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทาน เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2548 ที่ ผ่านมายิ่งทำให้เห็นว่า พระองค์ทรงให้ความสำคัญกับเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงมากเพียงใด ทรงเชื่อมั่นว่า การจะ รับมือกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ได้ นั้น ประเทศไทยต้องใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญานำทาง และน่ายินดี ที่ว่า หลังจากนั้นหลายหน่วยงานได้น้อมนำพระราชดำรัสข้างต้นไปยึดถือปฏิบัติ” เศรษฐกิจพอเพียงสามารถรับมือกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ได้จริงหรือ อย่างไรก็ตาม แม้หน่วยงานและประชาชนที่เริ่มตื่นตัว และต้องการจะนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ แต่ ส่วนใหญ่ยังมีความเข้าใจที่หลากหลายและไม่ชัดเจน ถึงความหมายและหลักแนวคิดที่แท้จริงของปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง ทำให้เกิดคำถามขึ้นว่า ปรัชญาแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงสามารถนำมาใช้ได้จริงมากน้อย เพียงใดตามมาความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับหลักการของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้อย่างเกิดสัมฤทธิผลกับทุกๆ ฝ่าย โดยหลักการของเศรษฐกิจพอเพียง คือการพัฒนาที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของทางสายกลางและความไม่ประมาท ในการนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ให้เกิดผลต่อการพัฒนานั้น ต้องเข้าใจ “กรอบแนวคิด” ว่าเป็น ปรัชญาที่ชี้แนะแนวทางการดำรงอยู่และปฏิบัติตนในทางที่ควรจะเป็น โดยมีพื้นฐานมาจากวิถีชีวิตดั้งเดิมของ สังคมไทยสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ตลอดเวลา และเป็นการมองโลกเชิงระบบที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มุ่งเน้นการรอดพ้นจากภัยและวิกฤต เพื่อความมั่นคงและความยั่งยืนของการพัฒนา ขณะเดียวกัน ก็ต้องเข้าใจ คุณลักษณะว่าเศรษฐกิจพอเพียงสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติตนได้ในทุกระดับ โดยเน้นการปฏิบัติบน ทางสายกลางและการพัฒนาอย่างเป็นขั้นตอน 3 ห่วง 2 เงื่อนไข : หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ที่สำคัญที่สุด ทุกคนควรเข้าใจ “คำนิยาม” ว่าความพอเพียงจะต้องประกอบด้วย 3 ห่วง และ 2 เงื่อนไข โดย 3 ห่วง คือ ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไปโดยไม่เบียดเบียนตนเอง และผู้อื่น เช่นการผลิตและการบริโภคที่อยู่ในระดับพอประมาณ ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับของความพอเพียงนั้น จะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผลโดย พิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้นๆ อย่างรอบคอบ การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงด้านการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นโดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่างๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งใกล้และไกล ส่วน 2 เงื่อนไข คือการตัดสินใจและการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ให้อยู่ระดับพอเพียงนั้น ต้องอาศัยทั้งความรู้ และคุณธรรมเป็นพื้นฐาน ประกอบไปด้วย - เงื่อนไขความรู้หมายถึง ความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน ความรอบคอบที่ จะนำความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการ วางแผน และความระมัดระวังในขั้นตอนปฏิบัติ - เงื่อนไขคุณธรรม ที่จะต้องเสริมสร้าง ประกอบด้วย มีความตระหนักในคุณธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริต และมีความอดทน มีความเพียร ใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต
ใบความรู้ที่ 6 ทักษะและกระบวนการที่จำเป็นในการทำโครงงานเพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้ แนวคิดของโครงงานเพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้ การเรียนรู้แบบโครงงานเป็นการเรียนรู้ที่ให้ความสำคัญต่อผู้เรียน ในการเลือกเรียนสิ่งต่างๆ ด้วยตนเอง ทั้งเนื้อหา วิธีการ โดยมีครูเป็นผู้คอยอำนวยความสะดวก ช่วยเหลือให้ผู้เรียนได้ประสบความสำเร็จในการเรียน ทั้ง ในแง่ของความรู้ด้านวิชาการ และความรู้ที่ใช้ในการดำเนินชีวิตและการทำงานในอนาคตเป็นผู้ที่มีความสมดุลทั้ง ด้านจิตใจ ร่างกาย ปัญญา อารมณ์ และสังคม การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ผู้เรียนได้เรียนเรื่องการจัดทำโครงงาน นั้น นอกจากจะมีคุณค่าทางด้านการฝึกให้ผู้เรียนมีความรู้ความชำนาญและมีความมั่นใจในการนำเอาวิทยาศาสตร์ ไปใช้ในการแก้ปัญหาหรือค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ ด้วยตนเองแล้วยังให้คุณค่าอื่นๆ คือ 1) รู้จักตอบปัญหาโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ไม่เป็นคนที่หลงเชื่องมงายไร้เหตุผล 2) ได้ศึกษาค้นคว้าหาความรู้ในเรื่องที่ตนสนใจ ได้อย่างลึกซึ้งกว่าการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของครู 3) ทำให้ผู้เรียนได้แสดงออกถึงความสามารถพิเศษของตนเอง 4) ทำให้ผู้เรียนเกิดความสนใจเรียนในกลุ่มสาระการเรียนรู้นั้นๆ มากยิ่งขึ้น 5) ผู้เรียนได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ การเรียนรู้โดยใช้โครงงาน สามารถช่วยให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะสำคัญๆ ดังนี้ 1) สัมพันธภาพระหว่างบุคคล (Interpersonal skill) 2) การแก้ปัญหาและความขัดแย้ง (Conflict resolution) 3) ความสามารถในการถกเถียงเจรจาเพื่อนำไปสู่การตัดสินใจ (Consensus on decision)
4) เทคนิคการติดต่อสื่อสารระหว่างบุคคลที่มีประสิทธิภาพ (Effective interpersonal Communication techniques) 5) การจัดการและการบริหารเวลา (Time management) 6) เตรียมผู้เรียนเพื่อจะออกไปทำงานร่วมกับผู้อื่น 6.1) ทักษะในแง่ความรู้เกี่ยวกับความสามารถในการควบคุมจิตใจและควบคุมตนเอง (Discipline knowledge) 6.2) ทักษะเกี่ยวกับกระบวนการกลุ่ม (Group-processskill) 7) ช่วยให้ผู้เรียนได้มีความรู้มากขึ้น มีมุมมองหลากหลาย(Multi perspective) อันจะนำไปสู่ ความสามารถทางสติปัญญา การรับรู้ ความเข้าใจ การจดจำ และความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดี ยิ่งขึ้น 8) เพิ่มความสามารถในการเข้าใจสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้น อันนำไปสู่ความสามารถในการคิดวิเคราะห์และทักษะ การสื่อสาร (Criticalthinking and Communication skill) (Freeman, 1995) 9) ช่วยสนับสนุนการพัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีม จากการเรียนรู้จากประสบการณ์(Experiential learning) (Kolb, 1984) 10) การเรียนแบบโครงงานช่วยให้เกิดการเรียนรู้แบบร่วมมือกัน (Cooperative learning)ในกลุ่มของ ผู้เรียน ซึ่งผู้เรียนแต่ละคนจะแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกันในการเรียน โดยอาศัยกระบวนการ กลุ่ม(group dynamic)
แนวคิดสำคัญ การเรียนรู้แบบโครงงานเป็นการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงหลักการพัฒนาการคิดแบบบลูม (Blom) ทั้ง 6 ขั้น คือ ความรู้ความจำ (Knowledge) ความเข้าใจ (Comprehension) การนำไปใช้ (Application) การวิเคราะห์ (Analysis) การสังเคราะห์ (Synthesis) การประเมินค่า (Evaluation) และยังเป็นกระบวนการเรียนรู้ตั้งแต่ การ วางแผนการเรียนรู้ การออกแบบการเรียนรู้ การสร้างสรรค์ประยุกต์ใช้ผลผลิต และการประเมินผลงานโดยผู้สอนมี บทบาทเป็นผู้จัดการเรียนรู้ แคทซ์และชาร์ด (Katz and Chard, 1994) กล่าวถึงการสอนแบบโครงงานว่า วิธีการสอนนี้ มีจุดมุ่งหมายที่จะพัฒนาผู้เรียนทั้งชีวิตและจิตใจ (Mind) ซึ่งชีวิตจิตใจในที่นี้หมายรวมถึง ความรู้ ทักษะ อารมณ์ จริยธรรมและความรู้สึกถึงสุนทรียศาสตร์ และได้เสนอว่าการจัดการเรียนการสอนโดยใช้การสอนแบบ โครงงานว่าควรมีเป้าหมายหลัก 5 ประการ คือ 1) เป้าหมายทางสติปัญญาและเป้าหมายทางจิตใจของผู้เรียน (Intellectual Goals and the Life of the Mind) คือการจัดการเรียนการสอนแบบเตรียมความพร้อม มุ่งให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมอย่าง หลากหลาย และการมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งต่างๆ รอบตัว ผู้เรียนควรจะได้เข้าใจประสบการณ์และสิ่งแวดล้อมรอบ ตัวอย่างลึกซึ้ง ดังนั้นเป้าหมายหลักของการเรียนระดับนี้ จึงเป็นการมุ่งให้ผู้เรียนพัฒนาความรู้ ความเข้าใจโลก ที่ อยู่รอบๆ ตัวเขา และปลูกฝังคุณลักษณะการอยากรู้อยากเรียนให้กับผู้เรียน 2) ความสมดุลของกิจกรรม (Balance of Activities) การสอนแบบโครงงานจะทำให้ผู้เรียน ได้ปฏิบัติ กิจกรรมที่เหมาะสมทั้งกิจกรรมทางวิชาการ ใช้กิจกรรมเป็นสื่อทำให้เกิดการเรียนรู้ เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ทำ กิจกรรมค้นหาความรู้ เป็นการเรียนรู้ผ่านการเล่นและการมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมต่างๆ ที่อยู่รอบตัว 3) สถานศึกษาคือส่วนหนึ่งของชีวิต (School as Life) การเรียนการสอนในสถานศึกษาต้องเป็นส่วนหนึ่ง ในชีวิตของผู้เรียนไม่ใช่แยกออกจากชีวิตประจำวันโดยทั่วไป กิจกรรมในสถานศึกษาจึงควรเป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง กับการดำเนินชีวิตปกติ การมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมและผู้คนรอบๆ ตัวผู้เรียน 4) ศกร.เป็นชุมชนหนึ่งของผู้เรียน (Community Ethos in the Class) ทุกคนมีลักษณะเฉพาะตัวการ สอนแบบโครงงานเปิดโอกาสให้ผู้เรียนแต่ละคนได้แสดงออกถึงคุณลักษณะ ความรู้ ความเข้าใจ ความเชื่อของเขา ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบนี้จึงเกิดการแลกเปลี่ยน การมีปฏิสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง ผู้เรียนได้เรียนรู้ความ แตกต่างของตนกับเพื่อนๆ 5) การจัดกิจกรรมการเรียนรู้เป็นสิ่งที่ท้าทายครู (Teaching as a Challenge) ในการจัดกิจกรรมการ เรียนรู้แบบโครงงาน ครูไม่ใช่ผู้ถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้เรียน แต่เป็นผู้คอยกระตุ้น ชี้แนะ และให้ความสะดวกในการ เรียนรู้ของผู้เรียน โครงงานบางโครงงานครูเรียนรู้ไปพร้อมๆ กับผู้เรียน ครูร่วมกันคิดหาวิธีแก้ปัญหา ลงมือปฏิบัติ ไปด้วยกัน ถือเป็นการเรียนรู้ร่วมกัน
ใบความรู้ที่ 7 ภาษาอังกฤษสำหรับอาชีพแม่บ้าน
ใบงานที่1 วิชาเศรษฐกิจพอเพียง (ทช 11001) ระดับประถมศึกษา กิจกรรม ให้ผู้เรียนทำกิจกรรมต่อไปนี้ 1) การดำเนินชีวิตของผู้เรียนสอดคล้องกับหลักแนวคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอย่างไร 1. ความพอประมาณ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………....................... 2. รู้เหตุรู้ผล ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………....................... 3. ภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………….......................... 4. เงื่อนไขความรู้ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………....................... 5. เงื่อนไขคุณธรรม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………..……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………...............................................
ใบงานที่2 วิชาเศรษฐกิจพอเพียง (ทช 11001) ระดับประถมศึกษา 1. ผู้เรียนได้ข้อคิดอะไรบ้างจากกรณีตัวอย่าง “สร้างชีวิตใหม่อย่างพอเพียงด้วยบัญชีครัวเรือน ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………….…………………………………………………………………………………………………………… 2. ผู้เรียนได้จัดทำบัญชีครัวเรือนหรือไม่ อย่างไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………......…………………………………………............................................... 3. ในชุมชนผู้เรียนมีใครจัดทำบัญชีครัวเรือน ยกตัวอย่าง 1 ครอบครัวว่าเขาจัดทำอย่างไรและได้ผล อย่างไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ใบงานที่3 วิชาเศรษฐกิจพอเพียง (ทช 11001) ระดับประถมศึกษา ให้ผู้เรียนตอบคำถามต่อไปนี้ 1. การบันทึกบัญชีครัวเรือน หมายถึงผู้เรียนและครอบครัวมีการวางแผนการใช้จ่ายอย่างไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. รายรับ หมายถึงอะไร พร้อมยกตัวอย่าง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. รายจ่าย หมายถึงอะไร พร้อมยกตัวอย่าง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. ผู้เรียนมีวิธีลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้อย่างไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. ผู้เรียนมีวิธีการออมเงินอย่างไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………..……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
6. ให้ผู้เรียนบันทึกบัญชีครัวเรือนตามรายการดังต่อไปนี้ 1 พ.ย 60 ขายผลไม้ได้เงิน 1,900 บาท 3 พ.ย 60 ขายผลไม้ได้เงิน 1,500 บาท 5 พ.ย 60 จ่ายค่าของใช้ในบ้าน 500 บาท 7 พ.ย 60 จ่ายค่าน้ำ-ค่าไฟ 400 บาท 10 พ.ย 60 จ่ายค่าปุ๋ย 600 บาท 15 พ.ย 60 จ่ายค่าอาหาร 500 บาท 20 พ.ย 60 ขายผลไม้ 1,800 บาท 25 พ.ย 60 จ่ายค่าซ่อมรถ 300 บาท 27 พ.ย 60 จ่ายค่าของใช้ 700 บาท กิจกรรมที่3 ให้ผู้เรียนบันทึก รายรับ-รายจ่ายของครอบครัวใน 1 เดือน ลงในแบบบันทึก แบบบันทึกรายรับ-รายจ่าย วัน เดือน ปี รายการ รายรับ (บาท) รายจ่าย (บาท) คงเหลือ (บาท) ยอดรวมรายรับ ยอดรวมรายจ่าย คงเหลือ สรุปผลการบันทึกรายรับ-รายจ่ายของครอบครัว 1. ครอบครัวของฉันมีรายรับ O มากกว่า O น้อยกว่า รายจ่ายอยู่ ....................... บาท 2. ในระยะเวลา 1 เดือน O ครอบครัวของฉันมีเงินออมจำนวน ................... บาท O ครอบครัวของฉันไม่มีเงินออม 3. รายจ่ายที่ควรปรับลด ได้ แก่ 1) .................................จำนวนเงิน ................................บาท เพราะ ......................................... 2) .................................จำนวนเงิน ................................บาท เพราะ ......................................... 3) ..................................จำนวนเงิน ................................บาท เพราะ ......................................... ฉันสามารถลดรายจ่ายได้ทั้งหมด ................................ บาท
ใบงานที่4 วิชาเศรษฐกิจพอเพียง (ทช 11001) ระดับประถมศึกษา ให้ผู้เรียนวางแผนชีวิตของตนเองด้านอาชีพและด้านชีวิตครอบครัว โดยคำนึงถึงหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง แผนชีวิต รายละเอียดแผนชีวิต 1. แผนชีวิต 1. จะประกอบอาชีพ .......................................................................................... ............................................................................................................................. . 2. ปัจจัยที่พิจารณา ............................................................................................. ทุนเป็นอย่างไร .............................................................................................. ............................................................................................................................. ความรู้ความสามารถ ..................................................................................... ............................................................................................................................. ตลาด ................................................................................................................. .............................................................................................................................. อุปกรณ์ ............................................................................................................ ............................................................................................................................... 2. แผนครัวเรือน 1. ที่อยู่อาศัย ....................................................................................................... ............................................................................................................................. 2. สุขภาพ ........................................................................................................... ............................................................................................................................. 3. การศึกษา (ของตนเอง/คนในครอบครัว) ...................................................... ............................................................................................................................... 4. ลดรายจ่าย ............................................................................................................................. ................................................................................................................................ 5. รายได้ ............................................................................................................... ............................................................................................................................. . 6. การมีส่วนร่วมกับสังคม ..................................................................................... ............................................................................................................................. 7. หลักธรรมในการดำเนินชีวิต ............................................................................ .............................................................................................................................
ใบงานที่5 วิชาเศรษฐกิจพอเพียง (ทช 11001) ระดับประถมศึกษา ผู้เรียนและครอบครัวมีแผนการปรับปรุงวิถีชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอย่างไร เรื่องที่ต้องการปรับปรุง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………......................................... วิธีการปรับปรุง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………...................................... เมื่อปรับปรุงแล้วจะเกิดผล .......................................................................................................................................................................... ผลการปรับปรุง .......................................................................................................................................................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… บุคคลที่มีส่วนร่วมในการปรับปรุง ........................................................................................................... ................................................................ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหาอุปสรรค .......................................................................................................................................... ................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
แนวทางแก้ไข ............................................................................................................. .............................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
แบบทดสอบหลังเรียน วิชาเศรษฐกิจพอเพียง (ทช 11001) ระดับประถมศึกษา คำชี้แจง เลือกคำถามที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว 1. เศรษฐกิจพอเพียงเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร ก. การเกษตร ข. การค้าขาย ค. การดำเนินชีวิต ง. การอุตสาหกรรม 2. หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตของคนกลุ่มใด ก. พ่อค้า นักธุรกิจ ข. นักเรียน นักศึกษา ค. ข้าราชการ นักการเมือง ง. ประชาชนทุกคน 3. เป้าหมายหลักแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงคือข้อใด ก. พึ่งพาตนเองเป็นหลัก ข. ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ค. มีอาชีพเกษตรกรรมทุกครอบครัว ง. ใช้จ่ายแต่สิ่งจำเป็นต่อการดำเนินชีวิต 4. คำว่า “เดินทางสายกลาง” ตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง หมายถึงการดำเนินชีวิตแบบใด ก. รู้จักคำว่าพอดี พอประมาณ ข. ลดรายจ่าย และเพิ่มรายได้ให้สมดุล ค. ประหยัดรายจ่ายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ง. ดำเนินชีวิตแบบใดก็ได้ขอเพียงแต่ให้มีความสุข 5. การเตรียมตัวให้พร้อมที่จะเผชิญผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ หมายถึงข้อใด ก. การมีประสบการณ์ ข. การมีความรู้ ความสามารถ ค. มีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ง. มีคุณธรรม จริยธรรม 6. ข้อใดคือเงื่อนไขที่สำคัญของเศรษฐกิจพอเพียง ก. มีความรู้ มีคุณธรรม ข. มีคุณธรรม จริยธรรม ค. มีเหตุผล มีความรอบคอบ ง. มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี มีเหตุผล
7. ข้อใดคือวิธีการจัดสรรเงินหรือวางแผนการใช้จ่ายที่ดีที่สุด ก. จัดสรรจ่ายให้เท่ากับรายได้ ข. การบันทึกรายรับ-รายจ่าย ค. ปรึกษาเพื่อนบ้านก่อนซื้อ ง. เปรียบเทียบคำโฆษณาตามหนังสือพิมพ์ 8. ข้อใดถูกต้องที่สุดในการจดบันทึกรายรับ-รายจ่าย ก. จดทุกครั้ง ข. จดทุกวันเว้นวัน ค. จดทุกเดือน ง. จดทุกอาทิตย์ 9. การใช้จ่ายที่เหมาะสมกับฐานะความเป็นอยู่หรือความสามารถของตนตรงกับสำนวนในข้อใด ก. มือใครยาวสาวได้สาวเอา ข. นกน้อยสร้างรังแต่พอตัว ค. ฝนทั่งให้เป็นเข็ม ง. น้ำขึ้นให้รีบตัก 10. ข้อใดสัมพันธ์กับ “ เกษตรทฤษฎีใหม่” มากที่สุด ก. การบริหารจัดการเกษตรกรที่ยากจน ข. การจัดระบบวิถีชีวิตของเกษตรกรใหม่ ค. การเกษตรผสมผสานในที่ดินที่มีอยู่จำกัด ง. การบริหารจัดการที่ดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด
แบบทดสอบท้ายบทเรียน วิชาเศรษฐกิจพอเพียง (ทช 11001) ระดับประถมศึกษา คำชี้แจง เขียนเครื่องหมาย / หน้าข้อความที่ถูก และเขียนเครื่องหมาย + หน้าข้อความที่ผิด ___________1. แนวเศรษฐกิจพอเพียงมีไว้สำหรับผู้ที่ประกอบอาชีพทางการเกษตรเท่านั้น ___________2. ความพอเพียง หมายถึงความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจำเป็นที่ จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี ___________3. แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงเน้นให้ประชาชนพึ่งตนเองเป็นหลัก ___________4. แนวเศรษฐกิจพอเพียงสามารถนำมาปรับใช้ได้กับตนเองและครอบครัวเท่านั้น ___________5. แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงสามารถนำมาปรับใช้ได้กับบุคคลทุกระดับทุกอาชีพ ___________6. การออมคือ การสะสมเงินทีละเล็กละน้อยให้พอกพูน ___________7. ธนาคารออมสินให้แนวคิดในทางออมว่า ออม 1 ส่วน ใช้ 2 ส่วน ___________8. แผนชีวิตคือ แผนของผู้ที่ต้องการกู้เงินธนาคารมาลงทุน
ใบงานที่ 6 1. ให้ผู้เรียนอธิบายหลักการสำคัญในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ โครงงาน ............................................................................................................................. ................................................ ................................................................................... .......................................................................................... ............................................................................................................................................. ................................ ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................ 2. แนวคิดที่สำคัญของ แคทซ์และชาร์ด (Katz and Chard, 1994) กล่าวถึงการสอนแบบโครงงานว่าอย่างไร ................................................................................................ ............................................................................. ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................. ................................................ ........................................................................ ..................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................. ................................................ 3. การเรียนรู้แบบโครงงานเป็นการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงหลักการพัฒนาการคิดแบบบลูม (Blom) ทั้ง 6 ขั้น คือ ............................................................................................................................. ................................................ .......................................................................................................................................... ................................... ............................................................................................... .............................................................................. ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................................................. ................ ....................................................................................... ...................................................................................... ......................................................................................................................................................................... .... ............................................................................................................................. ................................................ ................................................................ ............................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................ 4. การเรียนรู้โดยใช้โครงงาน สามารถช่วยให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะสำคัญๆ อาทิเช่น ............................................................................................................................. ................................................ ....................................................................................................................................... ...................................... ............................................................................ ................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................
ใบงานที่ 7 ภาษาอังกฤษสำหรับอาชีพแม่บ้าน
หน่วยที่ 4 ด้านสังคม สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี ประเพณี หัวเรื่อง ศิลปะ ประเพณี วิถีชุมชน สภาพปัญหา 1. การขาดความเข้าใจเกี่ยวกับการวิพากษ์ วิจ วัฒนธรรม ประเพณี 2. การขาดจิตนาการเกี่ยวกับศิลปะ การนำวัส สวยงาม 3. ประชาชนมองไม่เห็นคุณค่าความสำคัญ คว ประเพณีรวมไปถึงความงามและ ความไพเราะ พื้นบ้าน 4. การขาดความตระหนักถึงความสำคัญของวั ความงามและ ความไพเราะของดนตรีและเพล 5. การขาดความรู้ทางด้านภาษา ท่าทางและน แผนผังหน่วยการเรียนรู้แบบบูรณาการ หลักสูตรการศึ ระดับประถมศึกษา ภา ศิลปศึกษา ทช11003 หัวเรื่อง ทัศนศิลป์ พื้นบ้าน เนื้อหา - ความงามและความซาบซึ้งของงาน ทัศนศิลป์พื้นบ้านที่เกิด จากเส้น สี จุดแสงเงารูปร่างและรูปทรง ที่เกิด จากการ เลียนแบบ ลอกแบบ มาจาก ธรรมชาติ - รูปแบบและความงามของงาน ทัศนศิลป์พื้นบ้านที่เกิดจาก - ความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ที่ นำวัตถุหรือวัสดุสิ่งของ ต่าง ๆ มา ตกแต่งที่อยู่อาศัย สถานที่และ สิ่งแวดล้อม - ความคิดสร้างสรรค์ที่นำวัตถุหรือ วัสดุสิ่งของต่าง ๆ มา ตกแต่งที่อยู่ อาศัย สถานที่และสิ่งแวดล้อม - คุณค่าความสำคัญความดีงามของ วัฒนธรรม ประเพณีและ ความ สวยงาม ของโบราณวัตถุ โบราณสถาน ในท้องถิ่นที่เรา เกิด หัวเรื่อง ดนตรีพื้นบ้าน เนื้อหา - ลักษณะและประเภทของเครื่อง ดนตรีพื้นบ้านประเภทต่าง ๆ - คุณค่าของความงามและ ความไพเราะของดนตรีและเพลง พื้นบ้าน - คุณค่าความรักหวงแหนและ ตัวอย่างภูมิปัญญาตลอดจนการ ร่วม กิจกรรมถ่ายทอดของภูมิปัญญา ทางดนตรีและเพลง พื้นบ้าน หัวเรื่อง นาฏศิลป์พื้นบ้าน เนื้อหา - ความคิดเห็นและความรู้สึก เกี่ยวกับการแสดงนาฏศิลป์ พื้นบ้านประเภทต่างๆ - ภาษา ท่าทางและนาฎยศัพท์ เนื้อหาเสริมวิชา ภาษาอังกฤษ พต1100 เรื่อง 1. คำศัพท์ที่เกี่ยวกับสี 2 เนื้อหาเสริมวิชา โครงงานเพื่อพัฒนาทักษะการ เรื่อง 1. กระบวนการทำโครงงาน 2. การต
และศิลปะ วัฒนธรรม จารณ์ คุณค่าทางศิลปะ สดุต่างๆ มาตกแต่งสถานที่ให้ วามดีงามของ วัฒนธรรม ะของดนตรีและเพลง วัฒนธรรม ประเพณีรวมไปถึง ลง พื้นบ้าน นาฎยศัพท์ ศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 าคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ประเด็นปัญหา/สิ่งจำเป็นที่ต้องเรียนรู้ 1. ทัศนศิลป์ 2. ความซาบซึ้งของงาน ทัศนศิลป์พื้นบ้าน 3. การตกแต่งสถานที่ต่าง ๆ 4. วัฒนธรรม ประเพณี ดนตรีและเพลงพื้นบ้าน 5. ภาษา ท่าทางและนาฎยศัพท์ กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูและผู้เรียนร่วมกันพูดคุยเรื่อง ทัศนศิลป์, ดนตรี,เพลง, วัฒนธรรมประเพณีภายในท้องถิ่น พร้อมกับให้ นักศึกษา ยกตัวอย่าง เพลง, วัฒนธรรม ประเพณี ในท้องถิ่นที่นักศึกษาเคย เข้าร่วม 2. ครูให้ผู้เรียนสืบค้นข้อมูลจาก ใบความรู้ หนังสือหรืออินเทอร์เน็ต เกี่ยวกับทัศนศิลป์, ดนตรี,เพลง, วัฒนธรรมประเพณีภายในท้องถิ่น แล้วสรุปผลการสืบค้น 3. ครูและนักศึกษา ร่วมกันอภิปราย-วิเคราะห์-วิพากษ์เกี่ยวกับ ทัศนศิลป์, ดนตรี,เพลง, วัฒนธรรมประเพณีภายในท้องถิ่น 4. ครูและผู้เรียนสรุปสาระสำคัญทั้งในเรื่องของ ทัศนศิลป์, ดนตรี, เพลง, วัฒนธรรมประเพณีภายในท้องถิ่น และนำความรู้ที่ได้ไปปรับ ใช้กับแนวทางในการอนุรักษ์ทัศนศิลป์, ดนตรี,เพลง, วัฒนธรรม ประเพณีภายในท้องถิ่น 5. จัดทำรูปเล่มรายงาน/ชิ้นงาน และรวบรวมไว้ในแฟ้มสะสมงาน 01 2. สัญลักษณ์ต่างๆ รเรียนรู้ทร02006 ตกแต่งบอร์ดโครงงาน
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กศน. แบ ระดับประถมศึกษา ภาคเรี หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ศิล ที่ วัน/ เดือน/ ปี ตัวชี้วัด เนื้อหาสาระการเรียนรู้ หั - สามารถจินตนาการและ อธิบาย วิธีการนำความงาม จากธรรมชาติให้ออกมาเป็น ความงามทางทัศนศิลป์อย่าง ง่าย ๆ - อธิบาย วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์รูปแบบและ คุณค่าของงาน ทัศนศิลป์ พื้นบ้านในเรื่องของต่างๆ หัวเรื่อง ทัศนศิลป์ พื้นบ้าน เนื้อหา - ความงามและความซาบซึ้งของ งาน ทัศนศิลป์พื้นบ้านที่เกิดจาก เส้น สี จุดแสงเงารูปร่างและ รูปทรง ที่เกิด จากการ เลียนแบบ ลอกแบบ มาจาก ธรรมชาติ - รูปแบบและความงามของงาน ทัศนศิลป์พื้นบ้านที่เกิดจาก - ความคิดสร้างสรรค์ของ มนุษย์ที่ นำวัตถุหรือวัสดุสิ่งของ ต่าง ๆ มา ตกแต่งที่อยู่อาศัย สถานที่และ สิ่งแวดล้อม - ความคิดสร้างสรรค์ที่นำ วัตถุหรือ วัสดุสิ่งของต่าง ๆ มา ตกแต่งที่อยู่ อาศัย สถานที่และ สิ่งแวดล้อม หน่วยที่ 4 ประเพณี วิ สภาพปัญ 1. การขาด เกี่ยวกับกา วิจารณ์ คุณ วัฒนธรรม 2. การขาด เกี่ยวกับศิล วัสดุต่างๆ สถานที่ให้ส 3. การมอง ความสำคัญ ของ วัฒนธ รวมไปถึงค ความไพเร และเพลง
บบบูรณาการ ตามรูปแบบ ONIE Model รยนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ปะ ประเพณี วิถีท้องถิ่น หัวเรื่อง ประเด็น/ปัญหา/สิ่งที่ ควรเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ หมาย เหตุ 4 ศิลปะ วิถีชุมชน หา ดความเข้าใจ ารวิพากษ์ ณค่าทางศิลปะ ประเพณี ดจิตนาการ ลปะ การนำ มาตกแต่ง สวยงาม งไม่เห็นคุณค่า ญ ความดีงาม ธรรม ประเพณี ความงามและ าะของดนตรี พื้นบ้าน ประเด็นปัญหา/ สิ่งจำเป็นที่ต้องเรียนรู้ 1. ทัศนศิลป์ 2. วัฒนธรรม ประเพณี ดนตรีและเพลงพื้นบ้าน 3. ความซาบซึ้งของงาน ทัศนศิลป์พื้นบ้าน 4. การตกแต่งสถานที่ ต่างๆ 5. ภาษา ท่าทางและ นาฎยศัพท์ ขั้นที่ 1 กำหนดสภาพปัญหาการ เรียนรู้ 1. ครูและผู้เรียนร่วมกันพูดคุยเรื่อง ทัศนศิลป์, ดนตรี,เพลง, วัฒนธรรม ประเพณีภายในท้องถิ่น พร้อมกับ ให้ นักศึกษา ยกตัวอย่าง เพลง, วัฒนธรรม ประเพณี ในท้องถิ่นที่ นักศึกษาเคยเข้าร่วม ขั้นที่ 2 แสวงหาข้อมูลและจัด กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูให้ผู้เรียนสืบค้นข้อมูลจาก ใบความรู้ หนังสือหรืออินเทอร์เน็ต เกี่ยวกับทัศนศิลป์, ดนตรี,เพลง, วัฒนธรรมประเพณีภายในท้องถิ่น แล้วสรุปผลการสืบค้น 2. ครูและนักศึกษา ร่วมกัน อภิปราย-วิเคราะห์-วิพากษ์ เกี่ยวกับทัศนศิลป์, ดนตรี,เพลง,
- ความงามที่เกิดจาก ความคิด สร้างสรรค์ของ มนุษย์ที่นำวัตถุหรือ สิ่งของ ต่าง ๆ เข้ามาเสริมแต่ง ร่างกาย มนุษย์ - อธิบายคุณค่าความสำคัญ ความดีงาม ของวัฒนธรรม ประเพณีแล ะ ความสวยงาม ของโบราณวัตถุและ โบราณสถานของท้องถิ่น - อธิบายลักษณะและ ประเภทของ เครื่องดนตรี พื้นบ้านประเภทต่างๆ - อธิบาย วิเคราะห์วิพากษ์ วิจารณ์คุณค่าของความงาม และความไพเราะ ของดนตรี และเพลงพื้นบ้าน - อธิบาย วิเคราะห์วิพากษ์ วิจารณ์คุณค่าของรักและ ความหวงแหน ตลอดจนร่วม - คุณค่าความสำคัญความดีงาม ของ วัฒนธรรม ประเพณีและ ความ สวยงาม ของโบราณวัตถุ โบราณสถาน ในท้องถิ่นที่เราเกิด หัวเรื่อง ดนตรีพื้นบ้าน เนื้อหา - ลักษณะและประเภทของเครื่อง ดนตรีพื้นบ้านประเภทต่าง ๆ - คุณค่าของความงามและ ความ ไพเราะของดนตรีและเพลง พื้นบ้าน - คุณค่าความรักหวงแหนและ ตัวอย่างภูมิปัญญาตลอดจนการ ร่วม กิจกรรมถ่ายทอดของภูมิ ปัญญา ทางดนตรีและเพลง พื้นบ้าน หัวเรื่อง นาฏศิลป์พื้นบ้าน เนื้อหา - ความคิดเห็นและความรู้สึก เกี่ยวกับการแสดงนาฏศิลป์ พื้นบ้านประเภทต่างๆ 4. การตระ ความสำคัญ วัฒนธรรม ไปถึงความ ไพเราะขอ เพลง พื้นบ้ 5. การขาด ทางด้านภา และนาฎย