The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือครูโรงเรียนอรุโณทัย ปีการศึกษา 2565

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by CMD HotKeYs, 2022-05-19 07:28:42

คู่มือครูโรงเรียนอรุโณทัย ปีการศึกษา 2565

คู่มือครูโรงเรียนอรุโณทัย ปีการศึกษา 2565

คู่มอื ครู

ปกี ารศึกษา 2565

ช่ือ-สกลุ .......................................................................................

สารบญั 1
4
โรงเรยี นอรโุ ณทยั - ขอ้ มลู พืน้ ฐาน 5
โครงสร้างการบริหาร 7
ตราและสัญญาลักษณ์ วิสัยทัศน์ พนั ธกิจ 9
เป้าหมาย กลยทุ ธ์ วตั ถปุ ระสงคข์ องการจดั ตั้งสถานศึกษา 19
แผนผงั พฒั นาคุณภาพการศึกษา 19
นโยบายส่งเสรมิ และเพ่ิมคณุ ภาพการศึกษา 20
นโยบายสง่ เสริมและเพ่ิมคณุ ภาพการจัดศกึ ษาโรงเรยี นอรโุ ณทยั /ค่านิยม 12 ประการ 21
สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียน 22
แนวทางในการไปสู่เปา้ หมาย 22
ระเบยี บครุ ุสภาว่าดว้ ยจรรยาบรรณครู 24
เกณฑ์มาตรฐานวชิ าชีพครูของกระทรวงศึกษาธกิ าร 25
คณุ สมบัติของครเู อกชนตามคุณภาพมาตรฐาน 25
ระเบยี บปฏบิ ตั แิ ละหน้าท่คี รูโรงเรยี นอรุโณทัย ลาปาง 25
27
หมวดท่ี 1 ระเบียบวา่ ด้วยคณุ ภาพครู 28
หมวดที่ 2 ระเบยี บวา่ ด้วยหนา้ ทคี่ รู 28
หมวดท่ี 3 ระเบียบว่าดว้ ยชั่วโมงการสอน และชัว่ โมงว่าง 28
หมวดท่ี 4 ระเบยี บว่าด้วยการจดั สอนแทน 30
หมวดท่ี 5 ระเบยี บว่าด้วยหอ้ งพกั ครู 32
หมวดที่ 6 ระเบียบว่าดว้ ยการลา 32
หมวดท่ี 7 ระเบียบว่าดว้ ยวินยั และการรักษาวินัย 34
หมวดที่ 8 ระเบยี บวา่ ด้วยการศกึ ษาต่อ 36
หมวดที่ 9 ระเบียบวา่ ดว้ ยการแตง่ กาย 38
หมวดท่ี 10 ระเบยี บว่าดว้ ยการลงโทษครู 39
หมวดที่ 11 ระเบียบวา่ ดว้ ยการเลิกสญั ญาจา้ ง และคา่ ชดเชย 39
หมวดท่ี 12 ระเบยี บวา่ ดว้ ยค่าใช้จา่ ยในการเดนิ ทางไปปฏบิ ตั ิงานนอกสถานท่ี 39
หมวดที่ 13 ระเบียบวา่ ดว้ ยบทบาทและภาระงานของบุคลากรในโรงเรยี น 40
40
* ผู้อานวยการโรงเรยี น 42
* ผชู้ ว่ ยผู้อานวยการ 42
* หวั หน้าชว่ งช้นั 43
* หัวหนา้ กลุ่มสาระ 43
* ครูผู้สอน 44
* ครูประจาชน้ั 44
* งานเทคโนโลยสี ารสนเทศ
* งานอนามยั
* งานแนะแนว
* งานหอ้ งสมดุ

สารบญั (ต่อ) 45

บทบาทหนา้ ทผ่ี ชู้ ว่ ยผบู้ รหิ ารฝ่าย จิตตาภบิ าล 46
บทบาทหน้าท่ีผู้ชว่ ยผบู้ ริหารฝ่าย บริหาร 48
บทบาทหนา้ ที่ผชู้ ่วยผู้บริหารฝ่าย วิชาการ 50
บทบาทหน้าที่ผ้ชู ว่ ยผบู้ ริหารฝ่าย กิจกรรมนกั เรียน 52
บทบาทหนา้ ทผ่ี ชู้ ่วยผบู้ ริหารฝา่ ย บคุ ลากร 53
บทบาทหน้าทผ่ี ู้ช่วยผบู้ ริหารฝา่ ย บรกิ าร 53
บทบาทหนา้ ที่ผชู้ ่วยผบู้ รหิ ารฝ่าย แผนและนโยบาย 54
บทภาวนา เชา้ /เยน็ 55
มาร์ช อรโุ ณทยั / อรณุ รุ่ง

โรงเรยี นอรโุ ณทัย
ข้อมูลพ้นื ฐาน

ข้อมูลทั่วไป
โรงเรียนอรุโณทัย ที่ต้ัง เลขที่ ๒๙๔ ถนนฉัตรไชย ตาบลสบตุ๋ย อาเภอเมือง จังหวัดลาปาง รหัสไปรษณีย์

๕๒๑๐๐ สังกัด สานักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชนโทรศัพท์ ๐๕๔-๓๑๘๖๑๙ โทรสาร๐๕๔-๓๑๘๖๒๐ E-
mail : arunothai๒๙๔@gmail.com Website :at.ac.thได้รับอนุญาตให้เปิดสอนอย่างเป็นทางการ เมื่อวันท่ี ๑๗
พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๙๕ เปิดสอนระดับชั้นปฐมวัย ถึง ระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๖ สังกัดสานักงานศึกษาธิการจังหวัด
ลาปาง

ในปี พ.ศ. ๒๔๙๔ บาทหลวงเอเทียน กรางซ์ พระสงฆ์คณะมิสซังต่างประเทศแห่งกรุงปารีส ได้รับมอบหมาย
จากมิสซังแห่งกรุงเทพฯ ให้มาดารงตาแหน่งเจ้าอาวาสวัดลาปาง ได้สร้างวัดบนท่ีดิน จานวน ๑๑ ไร่ ๓ งาน ๙๓.๕
ตารางวา ท่ีคหบดีเยบีน้อย ถวายโดยมอบที่ดินผืนน้ีเป็นศาสนสถานมีช่ือว่า “วัดโรมันคาทอลิกลาปาง” โดยใช้อาคาร
สองช้ัน คร่ึงตึกคร่ึงไม้ เป็นสถานท่ีประกอบพิธีกรรม พร้อมทั้งก่อตั้งโรงเรียนอรุโณทัย โดยใช้อาคารช้ันล่าง ได้รับทุน
จากพระสังฆราชแห่งมิสซัง กรุงเทพฯ และความร่วมมือจากคณะศิษย์เก่าเซนต์คาเบรียลและด้วยความอนุเคราะห์จาก
ภคินีคณะพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าแห่งกรุงเทพฯได้ส่งภคินีอังเยลีกา มาช่วยดูแลวัดและช่วยงานด้านการสอนและยัง
ได้รับความร่วมมือจากโรงเรียนโซนต์โยเซฟ ส่งหม่อมหลวงสรรคฤดี ชุมแสง และคุณครูประเสริฐศรี มาช่วยสอนวันที่
๑๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๙๕ โรงเรียนอรโุ ณทยั ได้รับอนุญาตให้เปิดอย่างเปน็ ทางการ ตงั้ แต่ระดับช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๑
ถึงชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๔ โดยมนี ายประยูร ภมรศิริ ดารงตาแหน่งครใู หญ่ มนี ักเรยี นชายหญิงรวมท้ังส้ิน ๑๖๐ คน ครู
จานวน ๔ คน ต่อมานายประยูร ภมรศิริ ได้ลาออกจากตาแหน่งครูใหญ่ บาทหลวงเอเทียน กรางซ์ จึงได้ขอให้ภคินี
คณะพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าแห่งกรุงเทพฯ มาช่วยดาเนินการต่อโดย ซิสเตอร์วาเลรี ทองหล่อ ตระกูลเง็ก ดารง
ตาแหนง่ ผู้จดั การและครูใหญ่

นับแต่น้ันมาภคินีพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าแห่งกรุงเทพฯได้รับมอบหมายจากสังฆมณฑลเชียงใหม่ให้บริหาร
โรงเรยี นเร่ือยมา

ในปีการศึกษา ๒๕๕๙ ถึง ปกี ารศึกษา ๒๕๖๑ ซสิ เตอร์ ดร. อรวรรณ จันทร์ชลอ มารบั หน้าที่ในตาแหน่ง ผลู้ ง
นามแทนผู้รับใบอนุญาต ผู้จัดการ ซ่ึงผู้อานวยการ เม่ือมีการปรับเปล่ียนหน้าที่ตามวาระ และความเหมาะสมจากคณะ
ภคินีพระหฤทัยของพระเยซูเจา้ แห่งกรุงเทพฯ

ในปกี ารศึกษา ๒๕๖๒ มติท่ปี ระชุมคณะกรรมการมสิ ซงั โรมนั คาทอลิกกรุงเทพฯ คร้ังที่ 4/2562 เมอ่ื วนั ท่ี 10
พฤษภาคม พ.ศ. 2562 ณ สานักงานมิสซังโรมันคาทอลิกกรุงเทพฯ ว่าด้วย เร่ือง ขอเปลี่ยนแปลงผู้ลงนามแทนผู้รับ
ใบอนุญาตโรงเรียนอรุโณทัย ด้วยซิสเตอร์อรวรรณ จันทร์ชลอ ผู้ลงนามแทนผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนอรุโณทัย มีการ
เปลี่ยนแปลงตามหน้าที่ ตามวาระและความเหมาะสม และเปล่ียนแปลงผู้ลงนามแทนผู้รับใบอนุญาต จึงมีมติขอ
เปลี่ยนแปลงผลู้ งนามแทนผ้รู ับใบอนญุ าตโรงเรยี นอรุโณทัย จากซสิ เตอรอ์ รวรรณ จนั ทร์ชลอ เป็น ซิสเตอร์พรรณี ภู่-
เรือนหงษ์ ต้ังแต่วันท่ี13 เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2562 และคาส่ังโรงเรียนอรุโณทัย ท่ี อท. 039/2562 เร่ืองการ
แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารโรงเรียนแทนตาแหน่งท่ีว่าง ซิสเตอร์พรรณี ภู่เรือนหงษ์ มารับหน้าที่ ในตาแหน่งผู้ลงนาม
แทนผู้รับใบอนญุ าต ซสิ เตอร์เบญญาภา ไทยแกว้ รอด มารับหนา้ ทใ่ี นตาแหน่งผูจ้ ัดการ/ผู้อานวยการ โรงเรยี นอรโุ ณทัย
เปิดทาการภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2562 วันพุธที่ 15 พฤษภาคม 2562 การดาเนินงานด้านบริหารกิจการ
โรงเรียนของซิสเตอร์เบญญาภา ไทยแก้วรอด การพัฒนาโรงเรียนของผู้บริหาร มีการจัดระบบโครงสร้างอย่างชัดเจน
เป็นระบบ พัฒนาในทุกด้าน ทุกฝ่ายอย่างเด่นชัด บุคลากรมีขวัญกาลังใจ นักเรียนมีความสุขในการมาโรงเรียน การ
บรหิ ารงานยดึ หลักธรรมาภบิ าลและเน้นการบรหิ ารแบบมสี ่วนร่วมในการดาเนนิ งาน

ปีการศกึ ษา 2563 บาทหลวงไพศาล เตม็ อรุณรงุ้ มารับตาแหน่ง ผู้ลงนามแทนผู้รบั ใบอนญุ าตแทน

ซิสเตอร์พรรณี ภู่เรือนหงษ์ ซ่ึงย้ายไปประจาการทอ่ี ่นื และซสิ เตอรเ์ บญญาภา ไทยแกว้ รอด รับตาแหน่งเป็นผจู้ ัดการ /
ผู้อานวยการ โรงเรียนอรโุ ณทยั ปีนเ้ี น้นเรอ่ื ง “คุณธรรมเดน่ เลศิ วชิ าการ สงิ่ แวดลอ้ มงาม สะอาดตาทวั่ โรงเรยี น ครู
นักเรยี น ชุมชน มคี วามสุข” ส่งเสริมคณะครไู ด้พฒั นาตนเอง และคณะครูไดร้ ับรางวัล “ผบู้ รหิ ารและครโู รงเรียนเอกชน
ดเี ดน่ ” ในงานวนั การศึกษาเอกชน “การศึกษาเอกชนยกกาลังสองสู่ Next Normal” ด้านอาคารสถานท่ี มีปรบั ภูมทิ ัศน์
ตกแต่งไม้ดอกไมป้ ระดับรอบบรเิ วณโรงเรยี น อย่างสวยงาม จัดทาระบบคดั กรองการแพรร่ ะบาดของเช้อื โรคไวรัสโคโร
น่า 2019 (covid - 19) กิจกรรมตปู้ นั สุข โดย การจัดเครือ่ งอปุ โภค บริโภคใหแ้ กผ่ ู้ท่ีได้รับผลกระทบการแพร่ระบาด
ของเช้ือโรคไวรัสโคโรนา่ 2019 (covid - 19) ในพน้ื ทจ่ี ังหวัดลาปาง และกิจกรรมพนื้ ทส่ี เี ขยี วภายในโรงเรียน โดยจัด
ใหม้ พี ื้นที่สเี ขยี ว เช่น สวนสมนุ ไพร แปลงเกษตรสวนครัวรมิ รั้วกินได้ จัดทาแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรยี น จดั ทาตารางหมาก
ฮอสไทย ผลติ น้ายากนั ยุง และผลิตน้ายาลา้ งมือใชเ้ องอยา่ งเพยี งพอ

ปีการศึกษา 2564 บาทหลวงไพศาล เตม็ อรุณรุง้ ดารงตาแหน่ง ผลู้ งนามแทนผู้รบั ใบอนุญาต และ
ซิสเตอร์เบญญาภา ไทยแก้วรอด ดารงตาแหนง่ ผจู้ ดั การ / ผู้อานวยการ โรงเรยี นอรุโณทัย ในปีการศึกษาน้ีไดม้ ีการ
พฒั นาด้านการจดั ทาระบบคัดกรองการป้องกนั การแพรร่ ะบาดของเช้อื โรคไวรสั โคโรนา่ ๒๐๑๙ (Covid – ๑๙) อย่าง
ตอ่ เนื่อง และมนี โยบายสร้างนกั เรยี นใหเ้ ป็นบุคคลแหง่ การเรียนรู้ มีคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานการศึกษาของ
สถานศกึ ษา มคี วามสามารถด้านภาษาและเทคโนโลยี สู่ความเปน็ สากล รกั -ซอ่ื สตั ย์-เมตตา คงไวซ้ ่งึ ความเปน็ ไทย รักษ์
สิ่งแวดลอ้ ม ดารงชวี ิตอย่างพอเพียงและมีความสุข อีกทัง้ มีการพฒั นานวัตกรรมทางการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน โดยเข้ารว่ ม
โครงการ Innovation For Thai Education (IFTE) นวัตกรรมทางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน จังหวัดลาปาง งาน Lampang
Education Innovation สานกั งานศึกษาธกิ ารจังหวดั ลาปาง ประเภทการจดั การเรียนรู้กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ไดร้ บั รางวลั ระดบั ดีมาก ด้านการบรหิ าร โดยใชน้ โยบาย 3 D ประกอบดว้ ย คณุ ลกั ษณะ 3 ด้าน คือ ยดึ มัน่ ประชาธิปไตย
มคี ณุ ธรรม ความเป็นไทย และห่างไกลยาเสพติด ดา้ นวชิ าการ จะนากจิ กรรมหมอภาษา ประกอบด้วย หมอภาษาไทย
หมอภาษาอังกฤษ และหมอภาษาจนี มาบรู ณาการเข้าไปในการจดั การเรยี นการสอน และกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น ด้าน
เทคโนโลยี มีการปรับปรุง พัฒนาระบบสาระสนเทศให้ทันสมยั สบื คน้ ไดง้ ่ายและรวดเร็ว ดา้ นอาคารสถานที่ ได้พฒั นา
ปรบั ปรุงอาคารจอร์นปอนด์ เพอ่ื รองรับการเปดิ อาคารหอพักบ้านเณร ของฝ่ายการศึกษาสงั ฆมณฑลเชียงใหม่ พร้อมทั้ง
ทาสีลานอาคารสวุ รรณสมโภช

ปีการศึกษา 2565 บาทหลวงไพศาล เต็มอรุณรุ้ง ดารงตาแหน่งผู้ลงนามแทนผู้รับใบอนุญาต ต่อจากปี
การศึกษา 2564 ซิสเตอร์เบญญาภา ไทยแก้วรอด ดารงตาแหน่ง ผู้จัดการ/ผู้อานวยการโรงเรียนอรุโณทัย และในปี
การศึกษาน้ีไดป้ รบั ปรุง พัฒนาระบบคดั กรองอยา่ งตอ่ เน่อื ง เพือ่ เป็นการป้องกันการแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เช้ือไวรสั โคโร
นา 2019 ให้เข้มงวดมากกว่าเดิมทุกจุดในบริเวณโรงเรียน มีนโยบายให้นาความรู้เก่ียวกับโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา
2019 สอดแทรกในการจัดการเรียนการสอน ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และนาไปใช้ในชีวิตจริงอย่างถูกต้อง ปลอดภัย
“สบายใจได้ แต่ อย่าวางใจ ” สร้างนักเรียนให้เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ มีคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานการศึกษาของ
สถานศึกษา มีความสามารถด้านเทคโนโลยีสู่ความเป็นสากล มีความรัก ซื่อสัตย์ เมตตา คงไว้ในความเป็นไทย รักษ์
สง่ิ แวดล้อม ดารงชวี ติ อยู่อย่างพอเพียง และมีความสุข พฒั นาดา้ นนวตั กรรมทางการศึกษาขั้นพื้นฐาน เข้าร่วมโครงการ
Innovation For Thai Education (IFTE) ของจงั หวัดลาปาง ประเภทการจดั การเรียนการสอนในรายวชิ าภาษาไทย
ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน ผู้บริหารมีนโยบายสถานศึกษา 3 D ให้นักเรียนเป็นบุคคลที่มีคุณลักษณะ 3 ด้าน ของ
กระทรวงศึกษาธิการ คอื ยดึ ม่ันประชาธปิ ไตย (Democracy) มีคณุ ธรรมความเปน็ ไทย (Decency) และหา่ งไกลยาเสพ
ตดิ (Drug-Feer)

ด้านวิชาการนาเอากิจกรรมหมอภาษาทั้ง 3 หมอทป่ี ระกอบด้านหมอภาษาไทย หมอภาษาองั กฤษ และหมอ
ภาษาจนี มาชว่ ยจัดการเรยี นการสอน เพ่ือใหน้ กั เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรตู้ ามความสามารถ ความถนดั ของนักเรียน
มากขน้ึ ด้านเทคโนโลยี จัดซ้อื เครื่อง Computer , Printer เครื่องใชส้ านกั งาน พัฒนาระบบสารสนเทศใหท้ นั สมยั

สบื คน้ ไดง้ ่าย รวดเร็ว จดั ทา Web Site ของโรงเรยี นให้เปน็ ปจั จบุ นั ตดิ ตงั้ ระบบ Wifi จานวน 6 จุด ตกึ พระแม่เจา้
ท้งั 3 ช้นั ดา้ นอาคารสถานที่ ทาสลี านสุวรรณสมโภช ซอ่ มแซมเพดานอาคารอารกั ขเทวดา ปรับปรงุ อาคารจอรน์ ปอนด์
เพอื่ รองรบั การเปิดอาคารหอพกั บ้านเณร ของฝ่ายการศึกษาสงั ฆมณฑลเชยี งใหม่ จดั ทาหน้าโตะ๊ เรยี นโดยปูโฟมกิ ้าสขี าว
ทุกตัว ให้กับนกั เรียน พฒั นาสวนพฤกษศาสตร์ในโรงเรียน จดั บรรยากาศให้รม่ รื่น สะอาดสวยงาม พัฒนาครบู ุคลากร
และสง่ เสริมไดร้ ับรางวลั ผู้บริหารดีเดน่ ครูดศี รสี ถาบนั ของคณะกรรมการสถานศึกษาเอกชน ซิสเตอร์เบญญาภา ไทย
แก้วรอด และครดู เี ดน่ แต่ละชว่ งชั้น จานวน 7 ทา่ น นักเรียนได้รบั รางวลั ระดบั ชาติในกลมุ่ สาระภาษาไทย จานวน 2
คน ฝา่ ยบริหารดาเนนิ การจดั สรร ครู บคุ ลากร ตามสายงาน และสาขาวชิ าท่ตี ้องการบรรจุ มอบหมายหนา้ ท่ีความ
รบั ผิดชอบ อกี ทั้งจัดทาคู่มือครู และค่มู ือนกั เรียนในปกี ารศึกษา 2565

โครงสรา้ งการบริหาร
โรงเรียนอรโุ ณทยั แบ่งโครงสรา้ งการบริหารงานเปน็ 7 ด้าน ได้แก่ ด้านงานจิตตาภิบาล ด้านงานบรหิ าร ด้าน

งานวิชาการ ดา้ นงานกิจการนักเรียน ด้านงานบุคลากร ดา้ นงานทรพั ยากรเพื่อการเรยี นรู้ และดา้ นงานประกนั คณุ ภาพ
ภายในสถานศึกษา ทง้ั นีใ้ ช้หลักการบริหาร/เทคนิคการบรหิ ารแบบมีสว่ นร่วมและพฒั นาตามกระบวนการ PDCA

โครงสรา้ งการบริหาร

สังฆมณฑลเชียงใหม่ (ผู้รับใบอนญุ าต)

สมาคมผู้ปกครองและ ผลู้ งนามแทนผู้รบั ใบอนญุ าต คณะกรรมการบรหิ าร
ครโู รงเรยี นอรุโณทัย โรงเรียน

ผ้จู ัดการ/ผอู้ านวยการโรงเรียน

ฝ่าย ฝ่าย บริหาร ฝ่าย วิชาการ ฝ่าย ฝา่ ย ฝ่าย บรกิ าร ฝ่าย แผน
จติ ตาภิบาล บคุ ลากร
- งานสารบรรณ - งานหลักสูตร กจิ กรรม - งานพัฒนา และนโยบาย
- งานอภบิ าลใน - งานการเงิน - งานการเรยี น - งานสรรหา บริเวณโรงเรียน
โรงเรียน - งานการบญั ชี การสอน - งานนกั ปเกรคียรนอง บคุ ลากร - งานอาคารเรยี น - งานกาหนด
- งานกิจกรรม - งานพสั ดุ - งานส่อื / - งานพัฒนา - งานอาคาร มาตรฐานโรงเรยี น
คาทอลกิ ครุภัณฑ์ นวตั กรรม - งานกิจกรรม บคุ ลากร ประกอบ - งานจัดทาค่มู อื
- งานศาสน - งานทะเบยี น - งานวดั และ นักเรยี น - งานสวัสดกิ าร - งานหอ้ ง ประกนั คุณภาพ
สมั พันธ์ - งานสารสนเทศ ประเมินผล - งานบรกิ าร บุคลากร ประกอบ ภายในโรงเรียน
- งานสังคม - งานห้องสมดุ นักเรียน - งานมาตรฐาน - งานซอ่ มบารงุ - งานจดั ทาแผน
สงเคราะห์ - งานนเิ ทศ - งานสวัสดกิ าร วชิ าชพี ครู พฒั นาคณุ ภาพ
- งานแพร่ธรรม ภายในโรงเรยี น นกั เรียน การศกึ ษา
- อนบุ าล - งานแนะแนว - งานจัดทาแผน
ปฏบิ ตั กิ าร
ประจาปี
- การประเมนิ
ภายในโรงเรยี น

หัวหนา้ ระดบั / หวั หน้าสายชั้น /ครูประจาช้ัน
นกั เรียน

ตราและสัญลักษณ์ของโรงเรียน

ตราประจาโรงเรียน หมายถงึ ความรัก ความอดทน ความเสียสละ ความร่งุ โรจน์
ของชวี ิต

ไมก้ างเขน หมายถงึ องค์พระเยซูเจ้าเปน็ ความรักความเสยี สละต่อมวล
มนุษย์ ความอดทนต่อ ความทุกข์ยากเพ่ือความอยู่
รอดของมวลมนษุ ย์

ดวงอาทติ ย์ หมายถงึ การเร่ิมต้นชีวิตใหม่ท่ดี ี เปรียบเสมอื นแสงอาทิตย์ทสี่ ่อง
สวา่ งและความอบอุ่นของยามเช้า

เอกลักษณ์ของโรงเรียน (School’s Identity)
ผเู้ รยี นมีความสามารถดา้ นภาษาและเทคโนโลยี เด่นคุณธรรม

อตั ลักษณข์ องบุคลากรโรงเรยี น ( School’s Identity)
รกั ซอ่ื สตั ย์ เมตตา ความหมาย
รัก หมายถึง ความดีงามทม่ี อบให้ผ้อู ่ืนดว้ ยความบรสิ ทุ ธใิ์ จ
ซ่ือสตั ย์ หมายถึง ซื่อตรง ไมค่ ดโกง มีความจรงิ ใจต่อผ้อู ื่นท้ังต่อหนา้ และลบั หลัง
เมตตา หมายถึง ความเป็นมิตร ความปรารถนาดีตอ่ บุคคลอืน่ โดยไม่เฉพาะเจาะจง

ปรชั ญาของโรงเรยี น (School’s Philosophy)
คณุ ธรรม นาความรู้ คสู่ ันตสิ ุข ความหมาย
ม่งุ พฒั นานักเรียนให้เป็นบุคคลทมี่ ีคณุ คา่ ด้านคุณธรรม จริยธรรม มีระเบยี บวนิ ัย มคี วามรบั ผดิ ชอบ มคี วาม

ประพฤติดี มีความซ่ือสัตย์สจุ รติ อนั เปน็ พืน้ ฐานการดารงชีวิต สง่ เสรมิ พฒั นาผูเ้ รยี นให้มีความรดู้ า้ นวชิ าการและวิชาชีพ
พน้ื ฐานสามารถนาความรไู้ ปพัฒนาตนเองและสังคมอยา่ งมสี นั ตสิ ุข

คาขวัญของโรงเรียน (Scholl’s Slogan)
วนิ ยั ดี มจี รรยา ศึกษาเยย่ี ม ความหมาย
วินัยดี หมายถึง การมรี ะเบียบวนิ ัยในตนเอง และการอยรู่ ่วมกันในสงั คม
มจี รรยา หมายถงึ การมีกิริยาวาจาสภุ าพอ่อนน้อม ถ่อมตนและมสี ัมมาคารวะ
ศึกษาเยย่ี ม หมายถึง การมีความเปน็ เลิศทางวิชาการ

ดอกไม้ประจาโรงเรยี น (Scholl Flowers)
ดอกเออ้ื งผ้ึง ความหมาย ความอ่อนนอ้ ม ถ่อมตน ความอ่อนชอ้ ย งดงามตามแบบฉบบั
ของกุลสตรีภาคเหนือ

สีประจาโรงเรยี น
สเี หลือง – สีขาว
สเี หลอื ง หมายถงึ แสงสวา่ งของดวงอาทติ ย์
สขี าว หมายถงึ ศาสนาทีส่ ะอาด บริสทุ ธิ์

วสิ ัยทัศน์ (Vision)
โรงเรียนอรโุ ณทัย เปน็ สถานศึกษาแห่งการเรยี นรู้ ม่งุ พัฒนานักเรยี นเปน็ คนดี มีความรับผิดชอบ กตัญญู เมตตา

มีจติ อาสา เป็นคนเก่ง โดยจัดการเรียนรผู้ เู้ รยี นเป็นสาคญั มีระบบการบริหารจดั การอย่างเปน็ ระบบ ครบู ุคลากรได้รับ
การพัฒนาเต็มตามศกั ยภาพ จัดบรรยากาศใหเ้ อ้ือตอ่ การเรียนรู้ และใชเ้ ทคโนโลยผี สมผสานกบั ภมู ปิ ัญญาท้องถิน่ เปิด
โอกาสให้ผู้เกีย่ วข้องทุกฝา่ ยมีสว่ นรว่ มจัดการศกึ ษาดารงชีวติ อยู่อย่างพอเพยี ง และมคี วามสขุ

พนั ธกิจ : MISSION
1. สง่ เสริมผเู้ รียนมสี ุขภาวะท่ีดี มีศกั ยภาพทางด้านศลิ ปะ ดนตรี กฬี า ห่างไกลยาเสพติดและดาเนินชีวิตอยา่ ง

มีความสขุ ภายใต้ยุคเศรษฐกิจและสังคม ๔.๐ พร้อมรับการเปลยี่ นแปลงทีเ่ ปน็ พลวัตรของโลก
2. ปลกู ฝงั ผ้เู รยี นมีคุณธรรม จริยธรรม คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ปลกู ฝงั จิตสานึกทถ่ี ูกตอ้ งเกย่ี วกบั การ

ปกครองระบอบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษตั ริยเ์ ปน็ ประมขุ
3. พฒั นาผูเ้ รียนให้มีความสามารถด้านภาษาและเทคโนโลยี สู่ความเปน็ สากล แสวงหาความร้อู ย่าง ตอ่ เน่ือง
4. พัฒนาผเู้ รียนให้มีความสามารถในการคิดอยา่ งเปน็ ระบบ คดิ สรา้ งสรรค์ ตัดสินใจแก้ปัญหาอย่าง

สมเหตสุ มผล
5. สง่ เสรมิ ให้ผู้เรียนมคี วามรู้และทักษะที่จาเปน็ ตามหลักสูตร
6. พฒั นาผู้เรียนให้มีทกั ษะในการทางาน รักการทางาน สามารถทางานรว่ มกบั ผู้อื่นได้ และมเี จตคติทีด่ ตี ่อ

อาชีพสุจรติ
7. พฒั นาครูตามมาตรฐานวชิ าชีพ
8. โรงเรยี นมกี ารบริหารจัดการอยา่ งเป็นระบบ
9. ส่งเสริมสนับสนุนให้ชมุ ชนมีส่วนร่วมในการจดั การศึกษา ประสานความรว่ มมือระหวา่ งโรงเรยี น ผปู้ กครอง

ชมุ ชนและสรา้ งภาคเี ครือขา่ ย
10. พฒั นาหลักสตู รสถานศกึ ษา และกจิ กรรมตามบรบิ ทของท้องถ่นิ และสากล โดยคานึงถึงความแตกตา่ ง

ระหว่างบคุ คลทส่ี ่งเสรมิ ความเป็นไทยในสังคมพหวุ ัฒนธรรมการอนุรักษ์ทรพั ยากรและส่ิงแวดล้อมโดยใช้ประโยชน์ จาก
เครอื ข่ายและชุมชน โดยบรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

11. สง่ เสริมแหลง่ เรยี นรู้ ทั้งในและนอกสถานศึกษา เพื่อใหเ้ ปน็ บคุ คลแหง่ การเรียนรตู้ ลอดชวี ติ
12. ส่งเสรมิ กิจกรรม โครงการพเิ ศษทด่ี าเนนิ การตามปรัชญา วิสยั ทศั น์ของโรงเรียน

เป้าหมาย: Goal
๑. ผู้เรียนมีศกั ยภาพทางด้านศิลปะ ดนตรี กีฬา มีสุขภาพ อนามยั ท่ีดี หา่ งไกลยาเสพติดและดาเนินชวี ิตอยา่ งมี

ความสขุ ภายใตย้ ุคเศรษฐกจิ และสังคม ๔.๐พร้อมรบั การเปล่ียนแปลงท่ีเปน็ พลวตั รของโลก
๒. ผเู้ รยี นมีคุณธรรมจรยิ ธรรม และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ มจี ติ สานึกที่ถูกต้องเก่ยี วกับการปกครองระบอบ

ประชาธปิ ไตยโดยมีพระมหากษัตริยเ์ ป็นประมุข
๓. ผ้เู รียนมีความสามารถด้านภาษาและเทคโนโลยีและแสวงหาความรู้อยา่ งตอ่ เนื่อง
๔. ผู้เรียนมคี วามสามารถในการคดิ อยา่ งเปน็ ระบบ คดิ สรา้ งสรรค์ ตัดสินใจแก้ปัญหาอยา่ งสมเหตสุ มผล
๕. ผู้เรยี นมีความรู้ ทกั ษะทจ่ี าเปน็ ตามหลักสูตรมุง่ สู่ความเป็นสากล
๖. ผู้เรียนมที กั ษะในการทางาน รกั การทางาน ทางานรว่ มกับผูอ้ ่นื ได้ และมีเจตคติทด่ี ีต่ออาชพี สจุ ริต
๗. ครมู ีความรู้และทักษะเปน็ ไปตามมาตรฐานวชิ าชพี รักการเรียนรอู้ ย่างต่อเน่อื งตลอดชีวติ
๘. โรงเรียนมีการบรหิ ารจัดการอย่างเปน็ ระบบ มคี ุณภาพตามมาตรฐานสากล

๙. ส่งเสริม สนับสนุนใหโ้ รงเรยี นเป็นสังคมแหง่ การเรียนรู้ โดยประสานความร่วมมือกับบุคคล องค์กร ชุมชนุ
ทุกภาคส่วน

๑๐. โรงเรียนมีการพัฒนาหลกั สูตรและกิจกรรมตามบริบทของทอ้ งถิ่นและสากล
๑๑. โรงเรยี นมอี าคาร สถานที่ บรรยากาศ และสภาพแวดล้อมที่เอื้อและสง่ เสริมใหผ้ ู้เรยี นได้พัฒนาเต็ม
ศักยภาพ
๑๒. โรงเรียนมีการดาเนินการใหบ้ รรลตุ ามอัตลักษณ์ เอกลักษณ์ และจุดเนน้ ตามแนวทางการปฏิรปู การศึกษา
เพอ่ื ยกระดับคุณภาพใหส้ งู ขนึ้

กลยทุ ธ์ (Strategies)
กลยทุ ธ์ที่๑ พัฒนาคุณภาพผเู้ รียน
กลยทุ ธท์ ี่ ๒ พัฒนาคุณภาพการศึกษา
กลยุทธท์ ี่ ๓ สรา้ งเสรมิ สังคมแห่งการเรียนรู้
กลยทุ ธ์ท่ี ๔ สง่ เสรมิ อตั ลกั ษณ์ของสถานศึกษาใหโ้ ดดเด่น
กลยทุ ธท์ ่ี ๕ พฒั นาคุณภาพสถานศึกษาตามแนวทางปฏิรูปการศึกษา

วตั ถปุ ระสงค์ของการจดั ตง้ั สถานศกึ ษา
1. ปลกู ฝงั สง่ เสรมิ คุณธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นยิ มอนั พึงประสงค์ ตลอดจนอนุรักษ์วฒั นธรรมและประเพณีแก่

นักเรยี น และบุคลากรของโรงเรยี นอยา่ งต่อเนื่อง
2. จดั การศึกษาโดยเปิดโอกาสใหผ้ ู้เรยี นมคี วามเสมอภาคทางการศึกษาอยา่ งเต็มศักยภาพของแต่ละบุคคล

สอดคลอ้ งกับพระราชบัญญัติการศึกษาแหง่ ชาติ
3. พัฒนาระบบการบรหิ ารและการจดั การใหม้ ีคุณภาพมาตรฐาน และทันสมยั
4. ส่งเสริมความเปน็ เลิศทางวิชาการในด้านภาษาต่างประเทศ คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
5. พฒั นาบคุ ลากรทางการศึกษาให้มคี วามรู้ ความสามารถในการจดั การศึกษาให้ทนั ต่อเหตุการณ์ อย่างมี

ประสิทธภิ าพ
6. พฒั นาอาคารสถานที่ให้สวยงาม ปลอดภยั เปน็ แหลง่ สง่ เสริมสขุ ภาพกายและจติ เอ้ือต่อการจดั กิจกรรมการ

เรยี นรู้อยา่ งพอเพยี ง และมีประสทิ ธภิ าพ
7. ส่งเสริมความร่วมมอื ระหว่างโรงเรียน และชมุ ชน เฝา้ ระวังสถานศกึ ษาใหเ้ ปน็ แหล่งปลอดยาเสพติด และ

อบายมุขต่างๆ

“เธอและฉนั เป็นสว่ นหน่ึงของโรงเรียนอรโุ ณทัย เรามาช่วยกนั ทาให้บา้ นหลงั น้ี
อบอนุ่ เตบิ โต ด้วยความรัก และความเปน็ หนง่ึ เดีย่ วกัน”

สภาพความสาเรจ็ ท่ีคาดว่าจะเกดิ ขนึ้
กลยุทธ์ท่ี๑ พัฒนาคณุ ภาพผู้เรยี น
ตามหลักสูตรและค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ

ตัวชีว้ ดั ความสาเร็จ กลยุทธร์ ะดบั โครงการ กลยทุ ธร์ ะดบั แผนงาน กลยทุ ธร์ ะดบั องค์กร
(กิจกรรม) (โครงการ) (แผนงาน)

- นกั เรียนรอ้ ยละ 80 ข้ึนไป - กจิ กรรมวันครู - โครงการส่งเสรมิ และ - พฒั นาผู้เรยี น

เข้าร่วมกจิ กรรมทกุ กจิ กรรม - กิจกรรมวนั แสดงความกตัญญู ปลกู ฝงั คุณธรรม - สนบั สนนุ การ
เรียนรู้
- นกั เรยี นไดร้ ับความรู้และ ตอ่ ผ้กู ่อตงั้ โรงเรยี น จรยิ ธรรมคุณลกั ษณะอัน

ประสบการณ์ตรง สามารถ - แสดงความกตญั ญูตอ่ ผู้บรหิ าร พงึ ประสงค์และค่านยิ ม

นาไปปฏิบัตใิ นชีวติ ประจาวัน โอกาสวนั ครสิ ต์มาส และวนั ข้ึน ๑๒ ประการ

ได้อย่างเหมาะสมกับ ปใี หม่ และวันฉลองศาสนนาม

สถานการณ์ได้อย่างมี - ฉลองแม่พระองค์อุปถมั ภข์ อง

ประสิทธภิ าพอยู่ในระดับดี วดั และโรงเรยี น

มาก - ฉลองบญุ ราศนี ิโคลาสบญุ เกิด

กฤษบารุง

- รดน้าดาหัวผใู้ หญ่ตาม

ประเพณวี ันสงกรานต์

- กิจกรรมเฉลิมพระนมพรรษา

12 สงิ หาคม และวันแม่

แหง่ ชาติ

- กจิ กรรมวันคลา้ ยวันพระราช

สมภพของพระบาทสมเด็จพระ

พระ บรมชนกาธิเบศรมหาภมู ิ

พลอดลุ ยเดชมหาราชบรมนาถ

บพติ ร

- นกั เรยี นทกุ ระดับช้นั มี - เลือกตงั้ คณะกรรมการ - โครงการสง่ เสรมิ

ความรเู้ ก่ียวกบั วธิ กี ารใช้สทิ ธิ์ นกั เรยี น ต้ังแต่ระดับอนบุ าล - ประชาธิปไตย

ในการเลือกต้งั คณะกรรมการ ระดับข้นั พ้ืนฐาน

นกั เรยี น ตลอดจนสิทธแิ ละ - จัดบอรด์ ใหค้ วามร้เู ก่ยี วกับ

หนา้ ท่ขี องการใช้ บทบาทหน้าที่ของประชาชน

กระบวนการประชาธปิ ไตย ไทยในระบบประชาธปิ ไตย

ในการดาเนนิ ชวี ิตประจาวนั - กกต. จังหวดั ให้ความรู้เก่ยี ว

รว่ มกบั ผู้อนื่ อย่างสนั ตสิ ุข กับวิธีการลงคะแนนโดยใช้ระบบ

เทคโนโลยี

- ใหน้ กั เรยี นฝึกปฏิบตั ิจรงิ ตาม

กระบวนการลงคะแนนเลอื กตั้ง

จนสาเรจ็ ลุลวงตามข้ันตอน

ตัวช้วี ดั ความสาเรจ็ กลยุทธร์ ะดับโครงการ กลยุทธร์ ะดับแผนงาน กลยุทธร์ ะดบั องคก์ ร
(กจิ กรรม) (โครงการ) (แผนงาน)

- การบูรณาการหลักการใช้กระ
บวนการประชาธิปไตยในการอยู่
รว่ มกนั ในชีวติ ประจาวนั เข้าไป
ในการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
ของกลุม่ สาระต่างๆ

- นกั เรียนทกุ คนได้เรียนรู้ - กิจกรรมหน้าเสาธงทุกเชา้ ก่อน - โครงการส่งเสรมิ และ - พฒั นาผเู้ รียน
แนว ทางปฏบิ ตั ิคนสามารถ
นาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั ได้ เขา้ หอ้ งเรียน ปลกู ฝงั คุณธรรม
ตามศักยภาพ
- การเขา้ ค่ายคุณธรรม จรยิ ธรรมคณุ ลกั ษณะอนั

- กจิ กรรมรบั น้องช้ัน ม.4 พงึ ประสงค์และคา่ นิยม

- ปฐมนิเทศนกั เรยี น ๑๒ ประการ

- ประกวดระเบยี บวินัยในการ

เข้าแถว และเดินแถว

- กจิ กรรมเด็กดี ศรอี รุโณทัย

- กิจกรรมวันไหว้ครู

- นกั เรียนทุกระดับชนั้ มี - ประกวดมารยาทไทย - โครงการส่งเสรมิ และ - พฒั นาผเู้ รยี น
อนุรักษว์ ันสาคัญ
ประสบการณ์ตรงจากการเข้า - กจิ กรรมถวายเทยี นจานา

รว่ มกิจกรรม สามารถนา พรรษา โอกาสวนั อาสาฬหบชู า

ประสบการณ์ท่ีได้รับไปใชใ้ ห้ และวนั เข้าพรรษา

เกดิ ประโยชนแ์ ก่ตนเอง - จาลองสถานการณ์ กจิ กรรม

สงั คม และเห็นคุณค่าของ วนั ลอ่ งสะเปาจาวละกอน ให้

การอนุรักษว์ ฒั นธรรม นกั เรียนทกุ คนได้รว่ มกิจกรรม

ประเพณที ้องถิ่น สามารถ ภายในโรงเรยี น(ประเพณลี อย

ปฏิบตั ิตนไดอ้ ย่างเหมาะสม กระทง)

กับกาลเทศะ - จัดกจิ กรรมบรู ณาการ การ

เรียนรู้เก่ยี วกบั ประเพณีวนั

สงกรานต์

กลยทุ ธ์ท่ี ๒ พัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษา

ตวั ช้ีวัดความสาเรจ็ กลยุทธ์ระดับโครงการ กลยทุ ธ์ระดบั แผนงาน กลยทุ ธร์ ะดบั องค์กร
(กจิ กรรม)
- นักเรียนมคี วามกระตือ รอื (โครงการ) (แผนงาน)
ร้น ม่งุ มัน่ ใฝเ่ รียนร้อู ยู่ใน - มอบทนุ การศกึ ษา เสรมิ แรง
ระดบั ดี กระตุ้นให้ผู้เรยี น ใฝเ่ รียนรู้ - โครงการยกระดับ - สนบั สนนุ การ

ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียน รู้ เรียนรู้

ทุกกลมุ่ สาระการเรียนรู้

- นกั เรยี นมีความรักและผกู - กจิ กรรม วันสาเรจ็ การศึกษา - โครงการกิจกรรมพัฒนา - สนบั สนุนการ
พนั ตอ่ สถาบนั ตอ่ เพื่อรว่ มรนุ่ ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 6 ผู้เรยี น เรยี นรู้
ผู้ปกครองมคี วามชืน่ ชม ยนิ ดี
และภาคภมู ิใจ

- นักเรยี นแสดงออก ด้าน - กิจกรรมส่งเสรมิ ความสามารถ - โครงการยกระดับ - สนับสนนุ การ
สุนทรภี าพได้อย่างเต็ม
ศกั ยภาพ ดา้ นสุนทรียภาพ ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน รู้ เรยี นรู้

ทกุ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้

- นกั เรียนมีความสขุ มีความ - กิจกรรมเอ้ืองผึง้ เกม - โครงการโรงเรียน - พฒั นาผ้เู รียน
รัก มีความสามัคคี และมี สง่ เสริมสขุ ภาพ
ความคิดสรา้ งสรรค์และมี
สขุ ภาพรา่ ง กาย และจติ อยู่
ในระดบั ดมี าก

- นักเรียนร้อยละ 80 ขนึ้ ไป - กิจกรรมบนั ทึกจิตอาสา - โครงการยกระดับ - พฒั นาผเู้ รียน
เปน็ ผ้มู ีจติ อาสาทาตนใหเ้ ป็น ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น รู้ - สนับสนนุ การ
ประโยชนแ์ ก่ส่วนรว่ ม ทกุ กล่มุ สาระการเรียนรู้ เรียนรู้

- นกั เรยี นเข้ารว่ มกจิ กรรม - กิจกรรมวนั เดก็ - โครงการสง่ เสรมิ และ - พฒั นาผเู้ รียน
อย่างมีความสุข สนุกสนาน อนรุ ักษ์วันสาคัญ

- นกั เรียนร้อยละ 80 ขึ้นไป - จัดกจิ กรรม การทดสอบ - โครงการโรงเรียน - พัฒนาผเู้ รียน

มพี ัฒนาการด้านร่างกายอยู่ สมรรถภาพด้านร่างกาย อารมณ์ สง่ เสรมิ สุขภาพ

ระดับดมี าก จิตใจและสงั คม

ตวั ชี้วัดความสาเรจ็ กลยทุ ธ์ระดบั โครงการ กลยทุ ธร์ ะดับแผนงาน กลยุทธ์ระดบั องค์กร
(กจิ กรรม)
- นักเรียนรอ้ ยละ 80 ข้นึ ไป มี (โครงการ) (แผนงาน)
พัฒนาการดา้ นสติปญั ญาอยใู่ น - กิจกรรมตวิ ข้อสอบทุก
ระดับดมี าก ระดับช้ัน - โครงการยกระดับผล - สนบั สนนุ การ

สัมฤทธิ์ทางการเรียนรูท้ ุก เรยี นรู้

กลุม่ สาระการเรยี นรู้ - พัฒนาผู้เรยี น

- นักเรยี น เรยี นรแู้ นวคดิ ตาม - บูรณาการหลักปรัชญาของ - โครงการสถานศึกษา - แผนงานการเรยี น
ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งอย่าง เศรษฐกิจพอเพียงกับกจิ กรรม พอเพียง การสอน
หลากหลาย สามารถนาไปใชใ้ น การเรียนรทู้ กุ กล่มุ สาระ - แผนงานพัฒนา
ชวี ิตประจาวันไดอ้ ยา่ งเป็น ผเู้ รยี น
รูปธรรม ร้อยละ 80 ข้ึนไป - แผนงานสนับสนุน
การเรยี นรู้
- นกั เรยี น ร้อยละ 80 ขน้ึ ไป มี - กิจกรรมรักการอา่ น - โครงการสง่ เสริม
นิสยั รักการอ่าน สามารถอ่าน ประสบการณเ์ รยี นรู้และ - แผนงานสนับสนนุ
คล่องและจบั ใจความสาคญั ทักษะชวี ิต การเรยี นรู้
จาก การอ่านได้อยู่ในระดับดี - แผนงานพัฒนา
มาก ผูเ้ รยี น

- นกั เรยี นมปี ระสบการณ์ - ลูกเสอื /เนตรนาร/ี ผู้บาเพ็ญ - กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น
เรียนรู้ มีทกั ษะชวี ิตในการอยู่
ร่วมกนั และมีความคิดในเชิง ประโยชน์/นักศึกษาวชิ าทหาร - โครงการสง่ เสรมิ - แผนงานสนับสนุน
สรา้ งสรรค์ การเรยี นรู้
- ทศั นศึกษา ประสบการณ์เรียนรู้และ - แผนงานพัฒนา
ผ้เู รียน
- ชมรม / ชมุ นมุ ทักษะชวี ติ

- English Camp

- Science / Math Camp

- กจิ กรรม Open house

- นักเรยี นทกุ ระดบั ชน้ั ไดร้ บั การ - กจิ กรรมเยยี่ มบา้ น - โครงการระบบดแู ล - แผนงานพฒั นา
ผ้เู รียน
ดแู ลเอาใจใส่อย่างท่วั ถงึ - กจิ กรรมปฐมนเิ ทศนักเรยี น ช่วยเหลอื นกั เรยี น - แผนงานบริหาร
จัดการ
- กิจกรรมปฐมนเิ ทศ
- แผนงานพฒั นา
ผู้ปกครอง ผเู้ รยี น
- แผนงานบริหาร
- นกั เรียนรอ้ ยละ 90 ขึ้นไป - กจิ กรรมวนั เอดสโ์ ลก - โครงการสรา้ งเสรมิ จัดการ

หา่ งไกลจากยาเสพติดและ - กจิ กรรมวนั งดสบู บุหร่ี ภูมิคุ้มกันและต่อต้านยา

อบายมุขทุกชนิด - กจิ กรรมวนั ตอ่ ตา้ นยาเสพติด เสพตดิ

- กจิ กรรมการต่อตา้ นการคา้

มนุษย์

ตวั ชี้วัดความสาเรจ็ กลยทุ ธร์ ะดบั โครงการ กลยุทธร์ ะดับแผนงาน กลยุทธ์ระดบั องคก์ ร
(กิจกรรม) (โครงการ) (แผนงาน)

- นักเรยี นมจี ติ สานึกในการดแู ล - ประกวดความสะอาด - โครงการรกั ษ์ - แผนงานสนับสนุน
การเรยี นรู้
รกั ษาสิง่ แวดลอ้ มอยู่ในระดับดี ห้องเรยี น ส่ิงแวดล้อม - แผนงานพฒั นา
ผเู้ รยี น
มาก - กจิ กรรมแยกขยะ - แผนงานบริหาร
จดั การ
- กจิ กรรม Big Cleaning Day

- จดั กจิ กรรมตามมาตรฐาน

10 องค์ประกอบ

- การจดั กจิ กรรมโรงเรยี น - กิจกรรมตามโครงการ - โครงการโรงเรียน - แผนงานสนับสนุน
ส่งเสริมสุขภาพ ได้คุณภาพ โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ ส่งเสรมิ สขุ ภาพ การเรยี นรู้
มาตรฐาน ผ่านเกณฑก์ าร - กิจกรรมสว้ มสขุ สนั ต์/สขุ าน่า - แผนงานพัฒนา
ประเมินอยใู่ นระดับดีเยย่ี ม ใช้ ผู้เรยี น
- กิจกรรม อย.นอ้ ย - แผนงานบริหาร
- กจิ กรรมเด็กอรุโณทยั แกม้ ใส จดั การ
ใส่ใจสุขภาพ

กลยุทธ์ที่ ๓ สร้างเสริมสังคมแหง่ การเรยี นรู้

ตวั ชว้ี ัดความสาเร็จ กลยุทธ์ระดบั โครงการ กลยุทธ์ระดับแผนงาน กลยุทธ์ระดับองคก์ ร
(กิจกรรม) (โครงการ) (แผนงาน)

- ครมู ีความรู้ ความสามารถใน - กิจกรรมปฐมนิเทศครแู ละ - โครงการ พฒั นา - แผนงานพฒั นาครู

การจดั กระบวนการเรียนรู้ การ บุคลากร บคุ ลากร

วัดผล ประเมนิ ผล ตลอดจน - กิจกรรมประชุมฝ่ายบรหิ าร/

การจัดกิจกรรมเสรมิ ประชมุ ครู/บุคลากร

ประสบการณ์การเรียนรู้ - กิจกรรมอบรม/ประชุม/

สง่ เสริมให้ผู้เรยี นไดร้ ับการ สมั มนา

พัฒนาอยา่ งเต็มศักยภาพ - กิจกรรมพฒั นาบุคลากร

- นักเรียนทกุ ระดับช้นั มี - กิจกรรมปรับแผนการจดั การ - โครงการยกระดับ - แผนงานพฒั นา
ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น ผ้เู รยี น
เพิ่มขนึ้ ร้อยละ 3 ทุกกลุ่มสาระ เรยี นรู้แตล่ ะภาคเรียนให้สอด ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนรู้
การเรยี นรู้ - แผนพฒั นาผเู้ รยี น
คล้องกับจุดประสงค์การเรยี น ทกุ กลุ่มสาระการเรยี นรู้

รขู้ องสังฆมณฑลกรุงเทพ ฯ

กาหนดรวมถงึ แนวขอ้ สอบ

O-Net และข้อสอบ NT

- จัดชั่วโมงตวิ ขอ้ สอบทกุ

ระดับช้ัน

- กิจกรรมส่งเสริมการอ่านจบั - สง่ เสรมิ การอ่านจับ

ใจความสาคญั การคดิ ใจความสาคัญ การคดิ

วิเคราะห์ และการเขียนสรุป วเิ คราะห์ และการเขียน

ความอยา่ งตอ่ เน่ือง สรุปความอย่าง

- กจิ กรรมแข่งขนั อัจฉริยภาพ - สง่ เสริมอจั ฉรยิ ภาพดา้ น

ทางคณิตศาสตร์ ภาษาไทย และ

- กจิ กรรมแข่งขนั คิดเลขเร็ว คณิตศาสตร์

- กิจกรรมทดสอบก่อนและ - ตรวจสอบและประเมนิ

หลงั เรยี น ผ้เู รียน

- กจิ กรรมทดสอบปลายภาค

ปลายปี

- นักเรยี นมีความรู้เกี่ยวกับกลุ่ม - จดั แหล่งเรยี นรอู้ าเซียนใน - โครงการพัฒนา - แผนพัฒนาผู้เรียน
หลักสตู รสถานศึกษา
ประเทศอาเซยี นอยา่ ง สถานศึกษา ระดบั การศึกษาขั้น
พน้ื ฐาน
ครอบคลุม - Asean Weekly

- Asean Camp

ตัวชีว้ ัดความสาเร็จ กลยุทธ์ระดับโครงการ กลยุทธ์ระดับแผนงาน กลยทุ ธ์ระดบั องคก์ ร
(แผนงาน)
- ครูร้อยละ 80 สามารถใช้ (กจิ กรรม) (โครงการ)
ภาษา เพื่อการสอ่ื สารได้อย่าง - แผนงานปรับปรุง
น้อย 3 ภาษา - สง่ เสริมใหค้ รูไทยเขา้ สอนคู่ - โครงการ พัฒนา และพัฒนา
- แผนงานการเรยี น
กบั ครูท่ีสอนภาษาตา่ งประเทศ บุคลากร การสอน

เพ่อื ฝึกฟัง และการใช้ภาษา

พูดในการสื่อสารกบั นักเรยี น

เป็นการเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง

- ใหค้ รูทุกคนฝึกใช้

ภาษาอังกฤษ/ภาษาจนี ส่ือสาร

กับครทู ส่ี อนภาษาต่างประเทศ

ในสถานศกึ ษา

กลยทุ ธท์ ่ี ๔ ส่งเสริมอัตลกั ษณ์ของสถานศึกษาให้โดดเด่น

ตัวช้วี ดั ความสาเรจ็ กลยุทธ์ระดบั โครงการ กลยทุ ธร์ ะดบั แผนงาน กลยทุ ธ์ระดบั องคก์ ร
(กิจกรรม) (โครงการ) (แผนงาน)

- นักเรยี นร้อยละ ๙๐ มี - กจิ กรรมการอบรมพฒั นา - โครงการสง่ เสรมิ และ - แผนพัฒนาผเู้ รยี น
ปลูกฝังคณุ ธรรม
จิตสานกึ ด้านคุณธรรม คุณธรรมจรยิ ธรรม จริยธรรมคณุ ลักษณะอนั - แผนพัฒนาผเู้ รยี น
พึงประสงค์และค่านยิ ม
จรยิ ธรรมท่ีดตี อ่ ตนเองและผ้อู ่ืน ๑๒ ประการ - แผนพฒั นาผู้เรียน
- โครงการส่งเสริมและ
- นักเรียนนาหลกั คุณธรรม - กจิ กรรมบันทึกทาความดี ปลกู ฝังคุณธรรม - แผนพัฒนาผ้เู รียน
จริยธรรมท่ดี ไี ปพัฒนาคณุ ภาพ จรยิ ธรรมคุณลักษณะอนั
ชวี ิตใหด้ ขี ึน้ พงึ ประสงค์และค่านยิ ม
๑๒ ประการ
- นักเรียนโรงเรยี นอรโุ ณทัย - กิจกรรมบันทึกจิตอาสา - โครงการสง่ เสรมิ และ
รอ้ ยละ ๘๐ มีจิตสานึกที่ดแี ละ ปลกู ฝงั คุณธรรม
มจี ติ สาธารณะ จริยธรรมคณุ ลักษณะอนั
พงึ ประสงค์และคา่ นยิ ม
- นกั เรยี นโรงเรียนอรุโณทัย - กจิ กรรมสง่ เสริมความรัก ๑๒ ประการ
ร้อยละ ๙๐ ข้ึนไป เกดิ ความรัก สถาบันพระมหากษตั รยิ ์ - โครงการสง่ เสริมและ
และเคารพในสถาบนั ปลูกฝงั คณุ ธรรม
พระมหากษัตริย์ จรยิ ธรรมคุณลักษณะอนั
พึงประสงค์และคา่ นยิ ม
๑๒ ประการ

กลยุทธ์ท่ี ๕ พัฒนาคณุ ภาพสถานศกึ ษาตามแนวทางปฏิรูปการศึกษา

ตวั ช้ีวัดความสาเร็จ กลยุทธ์ระดับโครงการ กลยุทธ์ระดบั แผนงาน กลยุทธ์ระดับองคก์ ร
- โรงเรียนมีหลกั สูตรสถาน (กิจกรรม) (โครงการ) (แผนงาน)
ศกึ ษาทีค่ รอบคลมุ หลักสูตร
ท้องถนิ่ แนวปรชั ญาของ - กิจกรรมพัฒนาหลักสตู ร - พฒั นาหลักสตู ร - แผนงานการเรยี น
เศรษฐกิจพอเพียงและคา่ นยิ ม สถานศกึ ษา สถานศกึ ษา ระดับ การสอน
หลักของคนไทย 12 ประการ - กิจกรรม พัฒนาแผนการ การศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน - แผนงานปรับปรุง
สามารถนาไปใชบ้ รู ณาการการ จดั การเรยี นรู้ ๘ กลุ่มสาระ และพัฒนา
จดั กจิ กรรมการเรียนรทู้ กุ กลมุ่ การเรยี นรู้ - โครงการการประกนั
สาระ สอดคล้องกับนโยบาย คณุ ภาพภายในโรงเรียน - แผนงานปรับปรุง
ปฏริ ูปการศกึ ษา ปกี ารศกึ ษา - กจิ กรรมกาหนดและ และพฒั นา
2563 ประกาศมาตรฐานของ - โครงการ สรา้ งขวญั และ
- สถานศึกษามีโครงสรา้ งการ โรงเรยี น กาลังใจ - แผนงานบริหาร
บรหิ ารแผนพฒั นาสถานศึกษา - กจิ กรรมจดั ทาคูม่ อื ประกัน จัดการ
แผนงานปฏิบตั งิ านประจาปี ที่ คณุ ภาพภายในโรงเรียน
ใชเ้ ปน็ แนวทางในการบรหิ าร - กจิ กรรมพฒั นาแผนพฒั นา
จดั การท่ชี ดั เจน คุณภาพการศึกษา ๕ ปี
- กจิ กรรมจดั ทาแผนปฏิบตั ิ
- ครรู ้อยละ 80 ขึน้ ไป มีขวญั การประจาปี ๒๕๖3
กาลงั ใจในการปฏิบตั ิหน้าที่ - การนาแผนพฒั นาคุณภาพ
อยา่ งเต็มศกั ยภาพ การศึกษาและแผนปฏิบัติการ
ประจาปีไปสู่การปฏิบตั ิ
- การประเมินคณุ ภาพภายใน
โรงเรยี น
- จดั ทารายงานประจาปีSAR
- เผยแพร่รายงานประจาปีตอ่
สาธารณชน
- กจิ กรรมครดู ี/ครสู อนนาน/
เงินเดอื นครู
- กจิ กรรมตรวจสุขภาพ
ประจาปี
- กจิ กรรมงานเล้ียงสังสรรค์
ประจาป/ี โบนสั
- กจิ กรรมทัศนศึกษาครแู ละ
บคุ ลากร

ตัวช้ีวัดความสาเรจ็ กลยุทธ์ระดบั โครงการ กลยุทธ์ระดับแผนงาน กลยุทธร์ ะดับองคก์ ร
(กจิ กรรม)
(โครงการ) (แผนงาน)

- ทางโรงเรยี นได้รับความ - การเขา้ รว่ มประชมุ สมั มนา - โครงการพัฒนาบุคลากร - แผนบริหารจัดการ

รว่ มมอื จากหน่วยงานท้ังภาครัฐ ร่วมกับหนว่ ยงานตา่ งๆ ท้งั

ภาคเอกชน และองคก์ รส่วน ภาครัฐและเอกชน

ท้องถ่นิ ในการสง่ เสริมและ - ทา MOU กบั หน่วยงาน - โครงการโรงเรยี นส่งเสรมิ - พัฒนาผูเ้ รียน

พฒั นาคณุ ภาพการจัด ทางการศึกษา ท้งั ภาครัฐภาค สุขภาพ

การศกึ ษาอย่างต่อเนอ่ื ง เอกชนการปกครองสว่ นทอ้ ง

ถนิ่ และภูมปิ ัญญาท้องถนิ่

- โรงเรยี นและชุมชน รวมถงึ - กจิ กรรมสมาคมผปู้ กครอง - โครงการสัมพันธช์ มุ ชน - แผนบริหารจัดการ

หนว่ ยงานทีเ่ กี่ยวข้องมี และครู

ความสมั พนั ธ์อันดีต่อกัน - กิจกรรมประสานงาน/

สนบั สนนุ กจิ กรรมของ

สมาคมศิษยเ์ ก่า

- กิจกรรมมฑุ ิตาจิตครูอาวุโส

- กิจกรรมดาหวั ศษิ ย์เก่และ

ครูอาวุโส

- กิจกรรมราตรเี หลืองขาว - โครงการกิจกรรมพฒั นา

ผู้เรยี น

- กิจกรรมวันครสิ ต์มาสและ - โครงการส่งเสริมและ

วนั ขนึ้ ปใี หม่ อนุรกั ษ์วนั สาคัญ

- กจิ กรรมการรดนา้ ดาหัว

ผู้ใหญ่ตามประเพณเี ทศกาล

สงกรานต์

มาตรฐานการศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน
มาตรฐานการศึกษา ระดบั การศึกษาขั้นพ้นื ฐาน จานวน ๓ มาตรฐาน ได้แก่

มาตรฐานท่ี 1 คณุ ภาพของผเู้ รียน
๑.๑ ผลสัมฤทธิท์ างวชิ าการของผู้เรยี น
๑) มคี วามสามารถในการอา่ น การเขียน การส่ือสารและการคิดคานวณ
๒) มีความสามารถในการวเิ คราะห์และคดิ อย่างมวี ิจารณญาณ อภิปราย แลกเปล่ียนความคิดเหน็
และแกป้ ญั หา
๓) มีความสามารถในการสร้างนวัตกรรม
๔) มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สาร
๕) มีผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นตามหลกั สูตรสถานศึกษา
๖) มคี วามรู ทกั ษะพื้นฐาน และเจตคตทิ ่ีดีต่องานอาชีพ
๑.๒ คณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ของผ้เู รียน
๑) การมีคุณลกั ษณะและค่านิยมทด่ี ีตามที่สถานศึกษากาหนด
๒) ความภมู ิใจในท้องถน่ิ และความเปน็ ไทย
๓) การยอมรับท่ีจะอยรู่ ว่ มกันบนความแตกต่างและหลากหลาย
๔) สุขภาวะทางรา่ งกายและจติ สงั คม

มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจดั การ
๒.๑ การมเี ป้าหมายวิสัยทศั น์ และพันธกิจที่สถานศึกษากาหนดชดั เจน
๒.๒ มีระบบบริหารการจัดการคณุ ภาพของสถานศึกษา
๒.๓ ดาเนินงานพฒั นาวชิ าการท่เี นน้ คณุ ภาพของผูเ้ รยี นรอบดา้ น ตามหลกั สูตรสถานศกึ ษาทกุ กลมุ่
เป้าหมาย
๒.๔ พฒั นาครแู ละบุคลากรให้มคี วามเชีย่ วชาญทางวิชาชพี
๒.๕ จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสงั คมท่เี ออื้ ตอ่ การจดั การเรียนรูอ้ ย่างมีคุณภาพ
๒.๖ จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบรหิ ารจัดการและการจัดการเรียนรู้

มาตรฐานท่ี ๓ กระบวนการจัดการเรียนการสอนทเี่ นน้ ผูเ้ รียนเปน็ สาคัญ
๓.1 จัดการเรยี นรู้ผา่ นกระบวนการคิดและปฏิบัตจิ ริง สามารถนาไปประยกุ ต์ใช้ในชีวติ ได้
๓.2 ใชส้ ื่อ เทคโนโลยสี ารสนเทศ และแหลง่ เรียนรู้ทเี่ อื้อต่อการเรยี นรู้
3.๓ มีการบรหิ ารจัดการชั้นเรียนเชิงบวก
๓.๔ ตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเปน็ ระบบ และนาผลมาพัฒนาผูเ้ รยี น
๓.๕ มีการแลกเปล่ยี นเรยี นรู้และใหข้ ้อมูลสะท้อนกลับเพื่อพัฒนา และปรับปรุงการจดั การเรียนรู้

“คนเรามีสองหู แตม่ ีเพียงหนึ่งปาก
เพ่ือทจ่ี ะฟงั ให้มากขน้ึ จงพดู ใหน้ อ้ ยลง และลงมือทาให้มากขึน้ ”

นโยบายของการจดั การศึกษาของสงั ฆมณฑลเชยี งใหม่
1. ต้องเป็นการศึกษา เพื่อพฒั นาคุณภาพชีวติ โดยเน้นให้ผู้เรียนศรัทธาในศาสนา มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และมี

ความสุขุมรอบคอบ รักและซาบซ้งึ ในคณุ ค่าของศลิ ปวฒั นธรรมและมรดกของชาติ
2. ให้นักเรียนรู้จักตนเอง รู้จักเข้าใจผู้อื่น และยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น มีวินัย มีความเป็นผู้นาและผู้

ตามที่ดี มีความเห็นอกเห็นใจผู้อ่ืน และพยายามช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษา เศรษฐกิจ สังคม และพร้อมที่จะ
ชว่ ยเหลือในกจิ กรรมทง้ั ทางดา้ นการศกึ ษา และดา้ นอื่นๆ อันอานวยประโยชนแ์ กป่ วงชน

3. ใหผ้ ู้เรียนมีความรู้ทักษะพน้ื ฐานในการดารงชวี ิต และในการประกอบอาชีพสามารถพ่ึงตนเองและดารงชีวิต
อย่างเป็นสุข เป็นพลเมืองดี ภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เป็นผู้ทีมี
ความมัธยัสถ์ ขยันหมัน่ เพยี ร อดทน ไมย่ อ่ ท้อต่ออุปสรรค มุ่งมน่ั ทจ่ี ะประกอบอาชพี สุจริต

4. ให้ผู้เรียนมีความรักและความกตัญญูต่อสถาบันของตน สามารถผนึกกาลังรับผิดชอบร่วมกับผู้อ่ืน รู้จัก
ปรบั ตวั เรียนรู้ท่จี ะเป็นผ้ใู ห้ และผเู้ สียสละ เพอื่ ความเจริญของส่วนรวม

5. ให้ร้จู กั การสังเกต พจิ ารณา ใฝ่หาความรู้ และคน้ คว้าเหตุผล สง่ เสรมิ ด้านจนิ ตนาการ การเสรมิ สร้างปัญญา
ความสามารถ และประสบการณ์ในด้านต่างๆ เน้นกระบวนการเรียนรู้แบบวิทยาศาสตร์ และการใช้เทคโนโลยีท่ี
เหมาะสมเพอื่ การพฒั นาประเทศ และการรกั ษาคณุ ภาพของสง่ิ แวดล้อม

6. เสริมสร้างความเข้าใจและให้นักเรียนมีพฤติกรรมท่ีถูกต้องเกี่ยวกับโภชนาการ การกีฬา การออกกาลังกาย
การพักผ่อน การนันทนาการ การใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ มีสุขนิสัยท่ีดีที่ถูกต้อง เพื่อประโยชน์ของส่วนตัวและ
สว่ นรวม

นโยบายส่งเสรมิ และเพิม่ คุณภาพการจัดการศึกษา โรงเรยี นอรโุ ณทัย ปกี ารศึกษา 2565
1. พัฒนาระบบการบรหิ ารจัดการตามหลักธรรมาภบิ าล และมีสว่ นรว่ มให้เกิดประสทิ ธิภาพสูงสดุ
2. ยกระดบั ผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ใหส้ ูงขน้ึ ร้อยละ 3
3. ส่งเสริมให้ครูผู้สอนจัดกิจกรรมการเรียนรู้ พัฒนาศักยภาพผู้เรียน โดยใช้กระบวนการ STEM ศึกษาทุก

ระดับชั้น ส่งเสริมสมรรถนะด้านการใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนรู้กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ต้ังแต่ระดับ
อนุบาล ถึงระดับมัธยมศกึ ษาปีที่ 3 และพฒั นาการใชภ้ าษาองั กฤษ เพ่ือการสอื่ สารทกุ ระดับชนั้

4. พัฒนาศักยภาพบุคลากรในสถานศึกษา และผู้เรียนต้ังแต่ระดับช้นั อนบุ าลปที ่ี 1 ถึง ระดับชั้นมัธยมศึกษาปี
ท่ี 6 ใหส้ ามารถใช้ภาษาเพือ่ การสอ่ื สารได้อยา่ งนอ้ ย 3 ภาษา มีความพร้อมกา้ วส่อู าเซียน

5. เตรียมความพรอ้ มผู้เรียน ระดบั ชัน้ มัธยมศกึ ษาตอนต้น เพื่อการศึกษาต่อในระดับช้นั มัธยมศึกษาตอนปลาย
และอาชีวศึกษาอย่างเตม็ ศักยภาพ

6. พัฒนาครูให้มีคุณภาพตามมาตรฐานจรรยาบรรณวิชาชีพครู มีความรู้ ความสามารถในการจัดกระบวนการ
เรียนรู้อย่างมีประสทิ ธิภาพ และประสทิ ธิผล เหมาะสมกับสภาพผ้เู รียน

7. ปรบั ปรงุ อาคารเรียน และภูมิทัศน์ ให้มนั่ คงแขง็ แรง ปลอดภัย และสวยงาม

คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ของนกั เรยี น โรงเรียนอรุโณทัย

1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ 2. ซอ่ื สัตย์ สุจริต

3. มวี ินยั 4. ใฝ่เรียนรู้

5. อยู่อย่างพอเพียง 6. มุ่งมน่ั ในการทางาน

7. รักความเปน็ ไทย 8. มีจิตสาธารณะ

9. มคี วามกตัญญตู ่อผู้มีพระคุณ 10. มีความเมตตา

คา่ นิยมหลักของคนไทย 12 ประการ
1. มคี วามจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตรยิ ์
2. มีความซ่ือสัตย์ เสียสละ และอดทน
3. มคี วามกตญั ญูต่อผู้มีพระคุณ
4. ใฝ่เรียนรู้
5. รกั ษาวฒั นธรรมประจาชาติ
6. ปฏิบัตติ ามหลักธรรมของศาสนาทต่ี นเองนับถือ
7. มคี วามรู้เก่ยี วกบั การปกครองในระบอบประชาธิปไตย
8. เคารพและปฏบิ ัตติ ามระเบยี บข้อบังคบั ของกฎหมาย
9. ยึดหลักการปฏิบัติตนตามแนวพระราชดารสั ฯ
10. ดาเนินชีวติ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
11. ดแู ลสขุ ภาพกายและสุขภาพจิตให้เข้มแขง็
12. มีจิตอาสารูจ้ ักคดิ สรา้ งสรรคใ์ นสิง่ ทด่ี ี เพื่อประโยชน์ของสว่ นรวม

สมรรถนะของผูเ้ รียน 5 ประการ ตามหลกั สตู รสถานศึกษา
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร เป็นความสามารถในการรบั และส่งสาร มวี ฒั นธรรมในการใช้ภาษาถ่ายทอด

ความคดิ ความรู้ ความเข้าใจ ความรสู้ ึก และทัศนะของตนเอง เพอื่ แลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร และประสบการณ์อนั จะ
เป็นประโยชนต์ อ่ การพัฒนาตนเองและสงั คม รวมท้ังการเจรจาต่อรอง เพ่อื ขจัดและลดปัญหาความขัดแย้งตา่ งๆ การ
เลอื กรับหรอื ไมร่ ับข้อมลู ข่าวสาร ด้วยหลกั เหตุผลและความถูกต้องตลอดจนการเลือกใช้วิธกี าร สื่อสาร ทีม่ ปี ระสิทธิภาพ
โดยคานงึ ถึงผลกระทบต่อตนเองและสงั คม

2. ความสามารถในการคิด เปน็ ความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ การคิดสงั เคราะห์ การคดิ อย่างสร้างสรรค์
การคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ และการคดิ เปน็ ระบบ เพื่อนาไปสกู่ ารสรา้ งองค์ความรู้ หรือสารสนเทศเพือ่ การตัดสนิ ใจ
เกี่ยวกับตนเองและสงั คมได้อย่างเหมาะสม

3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา เป็นความสามารถในการแกป้ ญั หาและอปุ สรรคตา่ งๆทีเ่ ผชิญไดอ้ ย่าง
ถกู ต้องเหมาะสมบนพ้ืนฐานของหลกั เหตุผล คณุ ธรรม และขอ้ มลู สารสนเทศ เข้าใจความสมั พนั ธแ์ ละการเปลี่ยน แปลง
ของเหตุการณ์ต่างๆในสังคม แสวงหาความรู้ ประยกุ ต์ความรู้มาใช้ในการป้องกนั และแก้ไขปัญหาและมีการตัดสนิ ใจท่ีมี
ประสิทธิภาพโดยคานึงถงึ ผลกระทบ ที่เกิดขึ้นต่อตนเอง สังคมและสง่ิ แวดล้อม

4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ เป็นความสามารถในการนากระบวนการต่างๆ ไปใชใ้ นการดาเนิน
ชวี ิตประจาวนั การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรอู้ ยา่ งตอ่ เนื่อง การทางาน และการอยรู่ ่วมกันในสังคมดว้ ยการสรา้ งเสริม
ความสัมพันธ์อันดรี ะหว่างบุคคล การจดั การปัญหาและความขดั แย้งตา่ งๆ อย่างเหมาะสม การปรับตวั ให้ทนั กับการ
เปลยี่ นแปลงของสงั คมและสภาพแวดลอ้ ม และการรู้จกั หลกี เลยี่ งพฤติกรรมไม่พึงประสงคท์ ี่สง่ ผลกระทบต่อตนเองและ
ผอู้ ่ืน

5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เปน็ ความสามารถในการเลือก และใช้เทคโนโลยดี ้านตา่ งๆ และมีทักษะ
กระบวนการด้านเทคโนโลยี เพอ่ื การพฒั นาตนเองและสงั คม ในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การทางานอย่างสรา้ งสรรค์
ถกู ต้อง เหมาะสม และมคี ณุ ธรรม

แนวทางในการไปสู่เป้าหมาย
ตัวบ่งชก้ี ารสอนของครู

1. ครเู ตรยี มการสอนท้ังเนื้อหาและวิธกี าร
2. ครจู ัดส่ิงแวดล้อมและบรรยากาศท่ีปลุกเรา้ ใจ จงู ใจ และเสรมิ แรงใหน้ ักเรียนเกิดการเรยี นรู้
3. ครเู อาใจใสน่ กั เรียนเปน็ รายบคุ คลและแสดงความเมตตาตอ่ นกั เรียนอยา่ งท่วั ถึง
4. ครูจดั กิจกรรมและสถานการณใ์ หน้ ักเรยี นได้กล้าแสดงออกและคิดอย่างสรา้ งสรรค์
5. ครูสง่ เสริมให้นักเรยี นฝึกคิด ฝึกทาฝกึ ปรบั ปรงุ ตนเอง
6. ครูสง่ เสรมิ กจิ กรรมแลกเปล่ยี นเรยี นรจู้ ากกลุม่ พร้อมท้ังสงั เกตส่วนดีและปรับปรงุ ส่วนด้อยของ

นกั เรียน
7. ครูใชส้ อ่ื การสอนเพอ่ื ฝกึ การคิด การแก้ปัญหาและคน้ พบความรู้
8. ครใู ชแ้ หล่งการเรียนร้ทู ห่ี ลากหลาย และเช่ือมโยงกบั ประสบการณช์ ีวิตจรงิ
9. ครูฝึกกริ ิยามารยาท และวนิ ยั ตามวถิ ีวัฒนธรรมไทย
10. ครสู งั เกตและประเมนิ พัฒนาการของนกั เรยี นอย่างต่อเนื่อง

ตัวบ่งชก้ี ารเรยี นของนักเรียน
1. นกั เรียนมีประสบการณต์ รงสมั พันธก์ บั ธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ ม
2. นกั เรียนฝึกปฏบิ ตั ิจนคน้ พบความถนดั และวิธีการของตนเอง
3. นกั เรียนทากิจกรรมแลกเปลย่ี นเรยี นรจู้ ากกลุม่
4. นักเรยี นฝึกคดิ อย่างหลากหลายและสร้างสรรคจ์ ินตนาการ ตลอดจนได้แสดงอยา่ งชดั เจนและมีเหตผุ ล
5. นักเรียนรับการเสรมิ แรงให้คน้ หาคาตอบแกป้ ญั หาทั้งด้วยตนเองและรว่ มดว้ ยชว่ ยกนั
6. นกั เรยี นได้ฝกึ คน้ รวบรวมขอ้ มูลและสรา้ งสรรค์ความร้ดู ้วยตนเอง
7. นักเรยี นเลือกทากจิ กรรมตามความสามารถ ความถนดั และความสนใจของตนเองอยา่ งมคี วามสุข
8. นักเรียนฝึกตนเองให้มีวินยั และรบั ผดิ ชอบในการทางาน
9. นักเรยี นฝกึ ประเมินปรับปรุงตนเอง และยอมรบั ผ้อู ื่น ตลอดจนใสใ่ จใฝห่ าความรู้อย่างตอ่ เนื่อง

“ชีวติ ที่ทรงคุณค่า
การดารงชีวติ ทีด่ ีงาม เป็นทเี่ ชื่อถือศรัทธาของสงั คม
จะตอ้ งเปน็ ผูร้ เู้ ป็นผู้มีปญั ญา มีคุณธรรม จรยิ ธรรม ทด่ี ีงามควบคกู่ นั ไป
มคี วามรู้สูง แต่ขาดคณุ ธรรมจริยธรรมความตกตา่ จะตามมา
มคี ณุ ธรรมจริยธรรมอันงดงามแต่ขาดความร้คู วามสามารถทางดา้ นสตปิ ญั ญา ชวี ิตก็จะไมส่ มบรูณ์”

จรรยาบรรณของครูโรงเรียนอรุโณทยั

จรรยาบรรณตอ่ ตนเอง
1. ครอู รโุ ณทยั ตอ้ งมวี ินัยในตนเอง พัฒนาตนเองด้านวิชาชีพ บุคลกิ ภาพ และวิสยั ทัศน์ และวิจารณญาณของ

ความเป็นครใู ห้เป็นครูมืออาชีพ ก้าวทันต่อการพฒั นา ทางวิทยาการ เศรษฐกิจ สงั คม และการเมอื งอยูเ่ สมอ
จรรยาบรรณตอ่ วชิ าชีพ
2. ครตู อ้ งรกั ศรทั ธา ซื่อสตั ย์สจุ รติ รับผิดชอบตอ่ วิชาชพี และเป็นสมาชิกทีด่ ีขององคก์ รวิชาชพี
จรรยาบรรณต่อผรู้ บั บริการ
3. ผปู้ ระกอบวิชาชพี ทางการศึกษา ต้องรกั เมตตา จรงิ ใจ เอาใจใสช่ ่วยเหลือ สง่ เสรมิ ใหก้ าลงั ใจแกศ่ ิษยแ์ ละ

ผรู้ บั บริการ ตามบทบาทหนา้ ที่โดยเสมอหน้า
4. ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศกึ ษา ต้องสง่ เสริม ให้เกิดการเรียนรู้ ทกั ษะ และนสิ ยั ทถ่ี ูกต้องดงี ามแก่ศษิ ย์และ

ผ้รู บั บริการ ตามบทบาทหนา้ ที่ อย่างเต็มความสามารถด้วยความบรสิ ทุ ธิ์ใจ
5. ผปู้ ระกอบวชิ าชีพทางการศึกษา ต้องประพฤติตนเปน็ แบบอย่างท่ีดี ท้งั ทางกาย วาจา และจติ ใจ
6. ผู้ประกอบวชิ าชีพทางการศกึ ษา ต้องไม่กระทาตนเป็นปฏิปักษต์ ่อความเจริญทางกาย สตปิ ญั ญา จิตใจ

อารมณ์ และสงั คมของศิษยแ์ ละผู้รับบริการ
7. ผ้ปู ระกอบวิชาชีพทางการศกึ ษา ต้องให้บริการด้วยความจริงใจ และเสมอภาค โดยไม่เรยี กรบั หรอื ยอมรบั

ผลประโยชน์จากการใช้ตาแหน่งหนา้ ท่ีโดยมิชอบ
จรรยาบรรณต่อผู้ร่วมประกอบวิชาชีพ
8. ผปู้ ระกอบวิชาชพี ทางการศกึ ษา พงึ ชว่ ยเหลอื เกือ้ กูลซึ่งกันและกนั อย่างสร้างสรรค์ โดยยดึ ม่นั ในระบบ

คณุ ธรรม สร้างความสามัคคีในหมู่คณะ
จรรยาบรรณตอ่ สังคม
9. ผู้ประกอบวชิ าชพี ทางการศกึ ษา พึงประพฤติปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผูน้ าในการอนุรักษ์และพัฒนาเศรษฐกจิ สงั คม

ศาสนา ศลิ ปวัฒนธรรม ภมู ปิ ัญญาส่งิ แวดล้อม รกั ษาผลประโยชนข์ องสว่ นรวม และยดึ มน่ั ในการปกครองระบอบ
ประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษัตริยท์ รงเป็นประมุข

เกณฑม์ าตรฐานวิชาชีพครูของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร
มาตรฐานที่ 1 ปฏิบตั กิ ิจกรรมทางวชิ าการเกยี่ วกับการพัฒนาวชิ าชพี ครอู ยู่เสมอ

คาอธบิ าย การปฏบิ ตั ิกจิ กรรมทางวิชาการเกี่ยวกับการพัฒนาวชิ าชีพครอู ยเู่ สมอ หมายถึง การศกึ ษาคน้ ควา้
เพือ่ พัฒนาตนเอง การเผยแพร่ผลงานทางวิชาการและการเขา้ รว่ มกิจกรรมทางวิชาการ ทอี่ งค์กรหรือหนว่ ยงานหรือ
สมาคมจดั ข้นึ เชน่ การประชุม การอบรม การสมั มนา และการประชุมปฏิบตั ิการ เปน็ ต้น ทง้ั นีต้ อ้ งมีผลงานหรอื รายงาน
ท่ปี รากฏชัดเจน

มาตรฐานท่ี 2 ตดั สินใจปฏบิ ตั ิกจิ กรรมต่างๆ โดยคานงึ ถึงผลท่จี ะเกดิ กบั ผู้เรียน
คาอธบิ าย ตดั สินใจปฏิบตั กิ จิ กรรมต่างๆ โดยคานึงถึงการเลอื กอย่างชาญฉลาด ด้วยความรกั และความหวังดี

ต่อผู้เรียน ดังน้ัน ในการเลือกกจิ กรรมการเรียนการสอนและกจิ กรรมอื่นๆ ครตู ้องคานึงถงึ ประโยชนท์ ี่จะเกิดแก่ผเู้ รยี น
เปน็ หลกั

มาตรฐานท่ี 3 มงุ่ มั่นพฒั นาผ้เู รยี นเตม็ ศกั ยภาพ
คาอธิบาย มุง่ มัน่ พัฒนาผเู้ รยี น หมายถงึ การใชค้ วามพยายามอย่างเต็มความสามารถของครู ทจ่ี ะให้ผู้เรยี นเกิด

การเรยี นรใู้ หม้ ากที่สุด ตามความถนัด ความสนใจ ความตอ้ งการ โดยการวเิ คราะห์ วนิ ิจฉัยปัญหาความต้องการทแ่ี ท้จรงิ
ของผเู้ รียน ปรับเปล่ียนวธิ กี ารสอนทจี่ ะให้ได้ผลดกี ว่าเดิม รวมทั้งการส่งเสริมพฒั นาการด้านต่างๆ ตามศักยภาพของ
ผู้เรียนแตล่ ะอยา่ งเปน็ ระบบ

มาตรฐานที่ 4 พัฒนาแผนการสอนใหส้ ามารถปฏบิ ัติได้เกดิ ผลจรงิ
คาอธิบาย การเลอื กปรับปรุง หรอื สร้างแผนการสอน บันทึกการสอน หรอื เตรยี มการสอนในลักษณะอ่ืนๆ

สามารถนาไปใชใ้ นการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอนให้ผ้เู รียนบรรลวุ ตั ถุประสงคข์ องการเรยี น

มาตรฐานท่ี 5 พัฒนาสือ่ การเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพอยู่เสมอ
คาอธบิ าย การประดิษฐ์คดิ ค้น ผลติ เลือกใช้ปรับปรงุ เครือ่ งมือ อุปกรณ์ เอกสารสงิ่ พิมพ์ เทคนิควิธีการตา่ งๆ

เพือ่ ใหผ้ ้เู รียนบรรลจุ ุดประสงคข์ องการเรยี นรู้

มาตรฐานที่ 6 จดั กจิ กรรมการเรียนการสอนโดยเน้นผลถาวรที่เกิดแกผ่ ู้เรียน
คาอธบิ าย การจดั การเรียนการสอนทีม่ งุ่ เน้นใหผ้ เู้ รยี นประสบผลสาเร็จในการแสวงหาความรู้ ตามสภาพความ

แตกต่างของบุคคล ดว้ ยการปฏบิ ัติจรงิ และสรุปความรทู้ ้ังหลายไดด้ ้วยตนเอง ก่อใหเ้ กิดค่านยิ ม และนิสัยในการปฏิบตั ิ
จนเป็นบคุ ลกิ ภาพถาวรตดิ ตัวผเู้ รียนตลอดไป

มาตรฐานที่ 7 รายงานผลการพฒั นาคุณภาพของผเู้ รียนไดอ้ ย่างมีระบบ
คาอธิบาย การรายงานผลการพฒั นาผู้เรยี นทเี่ กดิ จากการปฏิบตั กิ ารเรยี นการสอนใหค้ รอบคลมุ สาเหตุ ปจั จัย

และการดาเนินงานทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง โดยครนู าเสนอรายงานการปฏบิ ตั ิ ในรายละเอียด ดังน้ี
1. ปัญหาความต้องการของผู้เรียนทต่ี ้องไดร้ บั การพฒั นา และเปา้ หมายของการพฒั นาผู้เรยี น
2. เทคนคิ วธิ ีการ หรือนวตั กรรมการเรียนการสอนทน่ี ามาใชเ้ พื่อการพัฒนาคุณภาพของผเู้ รยี นและขน้ั ตอน

วธิ ีการใช้เทคนิควิธีการหรอื นวตั กรรมน้ันๆ
3. ผลการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนตามวิธีการทีก่ าหนดทเ่ี กดิ กับผเู้ รยี น
4. ขอ้ เสนอแนะแนวทางใหม่ๆ ในการปรับปรุงและพัฒนาผู้เรยี นใหไ้ ดผ้ ลดีย่งิ ข้นึ

มาตรฐานที่ 8 ปฏบิ ัติตนเป็นแบบอย่างทด่ี ีแกผ่ เู้ รยี น
คาอธบิ าย การปฏบิ ัตติ นเปน็ แบบอย่างท่ดี ี หมายถึง การแสดงออก การประพฤติและปฏิบัตใิ นด้านบคุ ลกิ ภาพ

ท่ัวไป การแต่งกาย กิริยา วาจา และจรยิ ธรรมทเ่ี หมาะสมกับความเปน็ ครอู ย่างสม่าเสมอ ท่ีทาให้ผเู้ รียนเล่ือมในศรัทธา
และถือเปน็ อย่าง

มาตรฐานที่ 9 รว่ มมือกับผอู้ ื่นในสถานศกึ ษาอย่างสร้างสรรค์
คาอธบิ าย การรว่ มมือกับผู้อ่ืน ในสถานศึกษาอยา่ งสรา้ งสรรค์ หมายถงึ การตระหนักถงึ ความสาคัญ รับฟัง

ความคิดเหน็ ยอมรับในความรู้ ความสามารถ ใหค้ วามรว่ มมือในการปฏิบตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ ของเพ่ือรว่ มงานด้วยความเตม็
ใจ เพ่อื ใหบ้ รรลุเป้าหมายของสถานศึกษาและรว่ มรบั ผลที่เกดิ ข้นึ จากการกระทาน้ัน

มาตรฐานท่ี 10 รว่ มมือกับผู้อน่ื อยา่ งสร้างสรรคใ์ นชมุ ชน
คาอธบิ าย การรว่ มมือกับผู้อ่ืนอย่างสรา้ งสรรค์ในชมุ ชน หมายถงึ การตระหนกั ในความสาคญั รับฟังความ

คิดเหน็ ยอมรับในความรู้ความสามารถของบคุ คลอ่ืน ในชมุ ชนและร่วมมือปฏิบตั ิงานเพ่ือพัฒนางานของสถานศึกษา ให้
ชมุ ชนและสถานศึกษามีการยอมรับซ่ึงกันและกนั และปฏิบัติงานร่วมกนั ดว้ ยความสนใจ

มาตรฐานท่ี 11 แสวงหาและใช้ขอ้ มลู ข่าวสารในการพัฒนา
คาอธิบาย การแสวงหาและใชข้ อ้ มูลขา่ วสารในการพัฒนา หมายถึง การคน้ หา สงั เกต จดจาและรวบรวมข้อมลู

ข่าวสาร ตามสถานการณ์ของสงั คมทุกด้าน โดยเฉพาะสารสนเทศเกีย่ วกบั วชิ าชพี ครู สามารถวิเคราะห์ วจิ ารณ์อย่างมี
เหตผุ ล และใชข้ ้อมูลประกอบการแก้ปัญหา พฒั นาสังคมได้อยา่ งเหมาะสม

มาตรฐานที่ 12 สรา้ งโอกาสใหผ้ เู้ รยี นรู้ในทุกสถานการณ์
คาอธบิ าย การสร้างโอกาสให้ผเู้ รียน ไดเ้ รียนร้ใู นทุกสถานการณ์ หมายถึง การสร้างกิจกรรม การเรยี นรู้โดยการ

นาเอาปญั หา หรือความจาเป็นในการพัฒนาต่างๆ ท่ีเกดิ ข้ึนในการเรยี นและการทากจิ กรรมต่างๆในโรงเรียนมากาหนด
เป็นกจิ กรรมการเรยี นรู้ เพื่อนาไปสกู่ ารพฒั นาของผเู้ รยี นท่ีถาวร

คุณสมบตั ิของครูเอกชนตามคุณภาพมาตรฐาน

มาตรฐานท่ี 21 “ครูมีวิญญาณความเป็นครู มีคุณธรรม จริยธรรม”
ตวั บ่งช้ี 1. ครมู คี วามเอ้ืออาทร เขา้ ใจและเอาใจใสผ่ ู้เรยี นทกุ คนอย่างสม่าเสมอเทา่ เทยี มกัน

2. ครูมีมนษุ ยสมั พันธ์ควบคมุ อารมณ์ได้ และรับฟังความคดิ เห็นผู้อื่น
3. ครูมคี วามรับผดิ ชอบ ซื่อสัตย์ ตรงตอ่ เวลา อุทิศตนให้กับการพฒั นาผู้เรยี น
4. ครูวางตนเหมาะสมเปน็ แบบอยา่ งท่ดี ีในเร่ืองความประพฤติบคุ ลิกภาพ
5. ครูมีทศั นคติทดี่ ีตอ่ อาชีพครู

มาจรฐานท่ี 22 “ครมู คี วามสามารถในการจดั การเรยี นการสอนอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ และเนน้ ผเู้ รยี นเปน็
สาคัญ”

ตัวบ่งช้ี 1. ครรู เู้ ปา้ หมายของหลักสตู ร และเป้าหมายการจดั การศึกษา
2. ครมู คี วามรู้ ความสามารถในการพฒั นาหลักสตู ร จดั ทาแผนและกระบวนการเรียนการสอนที่

เน้นผู้เรยี นเป็นสาคัญ
3. ครูมีความรู้ ความสามารถในการประเมินผลการเรียนการสอน ปละผลการประเมนิ พัฒนา

คุณภาพ

มาตรฐานท่ี 23 “ครมู ีความสามารถในการแสวงหาความรู้ คดิ วเิ คราะห์ และสรา้ งองคค์ วามรู้ เพือ่ พัฒนาการ
เรยี นการสอน”

ตวั บง่ ช้ี 1. ครมู นี ิสยั รกั การแสวงหาความรูแ้ ละขา่ วสารข้อมลู จากแหล่งตา่ งๆ เพ่ือนามาพฒั นาการเรียน
การสอน
2. ครมู ีความสามารถในการศึกษา วิจยั เพ่อื พัฒนากระบวนการเรยี นการสอน
3. ครมู ีความสามารถในการคิด วิเคราะหป์ ญั หา และแก้ไขสถานการณ์ได้

มาตรฐานท่ี 24 “ครมู ีคุณวฒุ ิ ความรู้ ตรงกับสายงานท่ีรบั ผิดชอบ”

ระเบยี บปฏิบัติและหนา้ ที่ครูโรงเรียนอรโุ ณทยั

หมวดท่ี 1 ระเบียบวา่ ด้วยคุณภาพครู

1. ครูทุกคนต้องยดึ มนั่ และศรัทธาในสถาบนั
2. ครูต้องมีความรู้ ความเช่ยี วชาญ มีความสามารถในการสอน
3. ครตู อ้ งพฒั นาตนเองใหก้ ้าวหน้าทนั สมัยอยูเ่ สมอ
4. ครูเปน็ ผู้ใฝห่ าความรู้ ถ่ายทอดความรู้ และสัง่ สอนศิษยโ์ ดยไม่ปิดบังอาพราง
5. ครเู ป็นผูม้ คี วามยุติธรรม โดยใหค้ วามรัก ความเอาใจใส่ต่อศิษยอ์ ยา่ งทั่วถึง
6. ครตู อ้ งรู้และเขา้ ใจพัฒนาการของเด็กวัยตา่ งๆและส่งเสริมพัฒนาการทุกด้านของศษิ ยต์ ามความถนัด
และความสามารถของแต่ละบุคคล
7. ครูจะต้องเป็นผ้อู นรุ ักษ์โดยปลูกฝัง/รกั ษา/เปน็ แบบอย่าง/สบื ทอดวัฒนธรรมทดี่ งี ามของโรงเรียนและ
สังคม
8. ครตู อ้ งปฏบิ ัติตามกฎเกณฑร์ ะเบียบของโรงเรยี น และแสดงออกซ่งึ ความมีนา้ ใจตอ่ โรงเรยี น
9. ไม่ประพฤติผิดจรรยาบรรณครู
10. ครูเปน็ ผยู้ ดึ มนั่ และสง่ เสริมใหศ้ ิษยเ์ ป็นผ้เู ล่อื มใสศรทั ธาการปกครองในระบอบประชาธปิ ไตย อันมี
พระมหากษตั ริย์เป็นประมุข และเลื่อมใสศรัทธาในสถาบัน

หมวดที่ 2 ระเบียบว่าดว้ ยหนา้ ที่ครู

2.1 การลงเวลาทาการ
1. ลงเวลาปฏิบตั ิงานตามปกติไม่เกิน 7.15 น. ถ้าเกิน 7.15 น ถือว่ามาสาย ในกรณีที่มาสาย 5 คร้ัง เป็นลา

กจิ 1 วนั และลงเวลากลบั ต้งั แตเ่ วลา 16.45 น. ถ้าลงเวลากลับกอ่ นกาหนด 6 คร้ัง นบั เป็นลากิจ 1 วนั
2. ครูต้องอยู่ประจา ทางานตามหน้าที่ตลอดเวลาราชการ เม่ือออกนอกบริเวณโรงเรียนต้องขออนุญาตจาก

ผ้อู านวยการหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลและต้องสแกนนิว้ มือลงเวลาบันทึกในสมุดออกนอกโรงเรียนทุกครั้ง

2.2 ปฏบิ ัติหน้าทเี่ วรประจาวัน
1. ลงเวลาปฏิบัติหน้าที่เวรประจาวันไม่เกิน 07.00 น. ถ้าเกินเวลา 07.00 น. ถือว่ามาสาย ในกรณีมาสาย

เวร 3 คร้ัง นับเป็นลากิจ 1 วัน และลงเวลากลับตั้งแต่เวลา 17.00 น. ถ้าลงเวลากลับก่อนกาหนดหรือไม่ลงเวลากลบั
6 ครง้ั นบั เปน็ ลากิจ 1 วนั

2. ครเู วรต้องมาปฏบิ ัตหิ นา้ ที่ให้ทนั เวลา ตามทโี่ รงเรียนกาหนด โดย
ช่วงเช้า 07.00 - 07.45 น.
ช่วงพักเลก็ 10.05 - 10.25 น.
ชว่ งพกั เทยี่ ง 12.15 - 13.05 น.
ชว่ งหลังเลกิ เรียน 16.00 - 17.00 น. (วนั พฤหัสบดี ชว่ งเวลา 15.00 - 17.00 น.)

3. ต้องบนั ทึกรายงานการปฏิบัติหนา้ ทอ่ี ยา่ งละเอียด ลงในสมดุ เวรกอ่ นกลับบ้านทุกครัง้
4. ควบคุม ดแู ล ตักเตอื นนักเรียน ใหป้ ระพฤติตามระเบียบวนิ ยั ของโรงเรียนเสมอ
5. ในกรณที ี่ครูไม่สามารถมาปฏิบัตหิ น้าทไี่ ด้ ต้องแจง้ ใหห้ ัวหนา้ เวรประจาวันทราบก่อนทุกครงั้ (กรณีลากิจ
ล่วงหนา้ ใหท้ าการแลกเปลยี่ นเวรประจาวันใหเ้ รียบร้อย)
6. ครูเวรไมม่ ีสิทธอิ นุญาตให้นักเรียนออกนอกบรเิ วณโรงเรยี นโดยไมม่ ใี บอนุญาตของหวั หนา้ เวร หากมเี หตุ
จาเปน็ เร่งด่วนจริงๆ ก่อนจะอนญุ าตให้นักเรยี นออกนอกบริเวณโรงเรียน ครเู วรจะตอ้ งบันทึก ชอ่ื - สกุล ชั้น สาเหตทุ ี่
ลา เวลาออก และเวลากลับให้ชดั เจนในสมดุ บนั ทกึ เวรรายวัน
7. หากมอี บุ ตั เิ หตุเกดิ ขน้ึ ในจุดที่รับผดิ ชอบ ครเู วรจะต้องรับผิดชอบบนั ทกึ ถงึ สาเหตุ และการดาเนินการแก้ไข
ต่อผบู้ รหิ ารอยา่ งละเอยี ด หรอื รายงานด้วยวาจาหากเปน็ ไปได้ นอกเหนือจากการบันทึกประจาวนั

2.3 การคุมแถว
1. ควบคมุ การเข้าแถวของนักเรยี นทกุ คร้งั ในกรณีเคารพธงชาติ หรือกจิ กรรมต่างๆ ให้ครูประจาชั้นยืนหนา้

แถว ครูคูช่ ้นั ยืนด้านหลงั แถวไมพ่ ูดคยุ กนั (เม่ือมีการสวดมนต์ ควรพนมมือสวดมนต์หรอื อยู่ในทา่ สงบ/สารวม) โดย
ปฏบิ ัตติ ามแนวทางท่ีโรงเรียนกาหนดดังน้ี

- ช่วงเช้า เข้าแถวเคารพธงชาติ ครปู ระจาชั้น(หน้าแถว)และครูคชู่ ัน้ (หลงั แถว)
- ช่วงพักกลางวนั ก่อนเข้าเรียน ครูประจาวิชา
* หมายเหตุ ครตู ้องไปก่อนเพลงมารช์ โรงเรียนจะจบ

2.4 การเขา้ ร่วมประชุมประจาเดอื น
1. ครทู ุกคนต้องเข้าร่วมประชมทกุ ครัง้ ท่ีโรงเรียนกาหนด และไมก่ ลับก่อนเวลา หากมีความจาเปน็ ตอ้ งขอ

อนญุ าตต่อประธานในทปี่ ระชุมก่อนจะเรม่ิ การประชุม พรอ้ มท้ังบนั ทึกไว้ท่ีใบลงเวลาด้วย(ชอ่ งหมายเหตุ) และครูทุกคน
มีสมดุ บนั ทึกการประชมุ เป็นหลกั ฐานชัดเจน หากกลบั ก่อนเวลาโดยไมม่ กี ารลาหรือไม่เข้าประชุม 1 คร้ัง ถอื วา่ ขาดการ
ปฏิบตั หิ นา้ ที่ 1 วัน และใหส้ ่งสมดุ บันทกึ การประชุมใหผ้ อู้ านวยการตรวจสอบภาคเรยี นละ 1 คร้งั

2. ห้ามเปิดเคร่อื งมือสื่อสารใดๆในขณะทีร่ บั ฟังการประชมุ หากพบจะถือวา่ ครูฝ่าฝืนระเบียบของโรงเรียน
3. ขาดการประชุมโดยไม่มีเหตุจาเป็น/กลับก่อนเลิกการประชมุ โดยไม่ขออนุญาตผู้อานวยการเกิน 5 คร้งั ถือ
ว่าละทิ้งหนา้ ท่ี

2.5 หนา้ ที่โดยทั่วไป
1. เมอื่ เห็นสิ่งผดิ ปกติ หรอื นาความเส่อื มเสยี มาสหู่ ม่คู ณะหรือโรงเรยี นควรรายงานให้ผอู้ านวยการทราบ
2. ห้ามครูเรีย่ ไรหรอื เกบ็ เงินจากนกั เรยี นไมว่ า่ กรณีใดๆ นอกจากได้รบั อนญุ าตจากผู้อานวยการกอ่ น
3. ครตู อ้ งมคี วามกระตือรือร้นในการปฏิบัติหนา้ ทด่ี ้วยความเสียสละ ซือ่ สตั ย์ อดทนและรบั ผิดชอบ ส่งงานที่

ได้รับมอบหมายตามกาหนด
4. ควรแสดงความเคารพและใหเ้ กยี รติซึง่ กนั และกนั เพ่ือเป็นแบบอยา่ งทีด่ ีแก่นกั เรียน
5. ครตู ้องแสดงออกซึ่งความมนี ้าใจ และอยรู่ ่วมกนั อยา่ งฉันท์พนี่ ้อง
6. รว่ มมือกบั อบรมใหน้ ักเรยี นมรี ะเบียบวนิ ยั ปลูกฝงั คุณธรรม จรยิ ธรรมอันดีงามแก่นักเรียนอย่างสมา่ - เสมอ

ใหน้ ักเรียนเกดิ ความศรัทธาและรกั สถาบนั
7. ปลูกฝงั ใหน้ ักเรยี นรู้จกั รักษาสุขอนามัยสว่ นบคุ คล ชุมชน และอนรุ ักษส์ ่ิงแวดล้อม พร้อมทั้งตดิ ตามผลอย่าง

สมา่ เสมอ
8. ทางานวดั ผลดา้ นวชิ าการ ตามทีไ่ ดร้ บั มอบหมายอยา่ งเต็มความสามารถ และมีคุณภาพ
9. ประพฤติตนเป็นแบบอยา่ งท่ีดีของนักเรียน และครูพึงหลีกเลีย่ งการพูดนินทาผู้อ่นื ทุกโอกาส
10. ครชู ว่ ยสอดสอ่ ง ตรวจตรา ไมใ่ หน้ ักเรียนนาอาวธุ รปู ภาพ หนงั สือหรือส่งิ ต่างๆท่ีไม่เก่ียวข้องกับการเรยี น

การสอนมาโรงเรียน หากพบครูมสี ทิ ธิดาเนินการได้ตามระเบียบ และความเหมาะสม หรือแจ้งที่ครปู ระจาช้นั /หวั หน้า
ฝ่ายปกครอง/ผบู้ รหิ าร

11. ใหค้ วามรว่ มมอื กับทางโรงเรยี นในการจัดกิจกรรมตา่ งๆทุกโอกาส
12. การมอบหมายให้นักเรียนมาทางานท่โี รงเรียนในวันหยดุ ครเู จ้าของงานจะต้องรับผิดชอบ ดแู ลและ
ควบคุมการทางานทุกคร้ัง โดยออกหนังสือแจ้งผปู้ กครองทราบทุกคร้งั

หมวดท่ี 3 ระเบียบวา่ ด้วยช่ัวโมงการสอน และชั่วโมงว่าง

3.1 ชั่วโมงสอน
1. ครปู ระจาช้ันหรอื ประจาวิชา ทเ่ี ขา้ สอนแต่ละครง้ั ต้องสารวจจานวนนกั เรยี นในห้องเรยี นก่อนสอนทกุ ครั้ง

และบันทึกสถติ กิ ารมาเรยี นของนักเรียนอย่างเป็นปจั จบุ ัน
2. ระหว่างชั่วโมงสอน ต้องควบคมุ ใหน้ กั เรยี นอยู่ในระเบียบวนิ ยั ตามความเหมาะสมของวชิ านน้ั ๆ
3. ครทู เ่ี ข้าสอนทกุ คาบเรียน จะบนั ทึกการสอนในสมุดรายคาบดว้ ยตนเองทุกคร้งั ไมค่ วรให้นกั เรยี นบันทกึ ให้

ครู และครูเพียงแค่เซน็ ชอ่ื เทา่ น้นั
4. ในขณะทาการสอน ถา้ ผู้ปกครองหรือบุคคลอ่ืนๆมาพบครู ให้รอพบที่ห้องธุรการ และพบไดใ้ นชวั่ โมงวา่ งจาก

การสอนเทา่ นัน้ ไม่ควรรบั แขกในหอ้ งเรยี น และไมค่ วรท้ิงนักเรยี นเพ่ือไปพบแขก
5. ให้งานเด็กตามความเหมาะสม และตรวจงานดว้ ยความละเอยี ดรอบคอบ อยา่ งสม่าเสมอและเปน็ ปัจจบุ นั
6. ผลงานทีเ่ ปน็ รายบคุ คลของนกั เรียน เมือ่ ตรวจแลว้ ให้คืนผลงานแกน่ กั เรยี นตามโอกาสท่เี หมาะสม
7. ครผู ูส้ อนต้องรักษา ดูแลอุปกรณก์ ารเรยี นการสอน ให้อยสู่ ภาพดี พร้อมท่จี ะใช้งานได้เสมอ
8. ไม่ทางานอื่นท่ไี ม่เกยี่ วข้องกับการเรยี นการสอนในห้องเรียน
9. นกั เรียนท่ีต้องเปลย่ี นคาบเรยี นไปยงั ห้องปฏิบตั ิการตา่ งๆ หรือเปลี่ยนสถานทเ่ี รยี น ใหค้ รปู ระจาวิชา มารับ/

ดแู ลการเขา้ แถวให้เรียบร้อย เปน็ ต้น ครูสอนคอมพวิ เตอร์ ครูวทิ ยาศาสตร์ ให้มารับแถวนักเรียนท่ีชั้นเรยี น เพ่ือป้องกัน
ไม่ให้นักเรียนขาดระเบียบวินัยหรือเกดิ เหตุการณ์อนั ไมพ่ ึงประสงค์

10. เข้าสอนและออกสอนให้ตรงเวลาทุกครง้ั และรบั ผดิ ชอบการสอนอย่างเตม็ ท่ี

11. หลงั เลิกเรียนหรอื สอนเสรมิ ทุกครัง้ ให้ครูท่ีสอนดูแลนักเรยี นและปดิ ไฟ แอร์ พัดลม ประตู หน้าต่างให้
เรยี บรอ้ ยทุกคร้ัง และนานักเรยี นทกุ คนลงจากอาคารเรียน หากตรวจพบวา่ ห้องไหนมนี ักเรยี นอยบู่ นอาคารเรียนหรือไม่
ปิดไฟ แอร์ พดั ลม ถอื เปน็ ความบกพรอ่ งในหน้าทีข่ องครทู ี่สอนในชว่ งน้ันๆ

12. หา้ มเปดิ เคร่อื งมอื สื่อสารใดๆ ในขณะปฏบิ ัติหน้าที่การสอน หากพบจะถือวา่ ครูฝ่าฝืนระเบยี บของโรงเรยี น
และมผี ลต่อการพิจารณาจรรยาบรรณครู
3.2 ชว่ั โมงวา่ งจากการสอน

ชัว่ โมงวา่ ง ครคู วรอยใู่ นหอ้ งทางาน / ตามจดุ พกั ด้วยการตรวจสมดุ และเตรยี มการสอน ไม่เข้าไปคุยกบั ครทู ี่
กาลังทาการสอนในช้นั เรยี นหรอื ตามระเบยี งโดยไม่จาเปน็ และไมค่ วรเสียงดังรบกวนผูอ้ ื่น ถ้าจะออกไปทาธุระสว่ นตัว
นอกโรงเรียนต้องปฏิบตั ิตามระเบียบการออกนอกบริเวณโรงเรยี น โดยการสแกนน้วิ มือและบนั ทึกขอ้ ความลงในสมุด
บนั ทึกให้เรยี บร้อยตามเวลาจรงิ

หมวดที่ 4 ระเบยี บวา่ ดว้ ยการจัดสอนแทน

1. ฝา่ ยวิชาการเท่าน้ันทจี่ ดั สอนแทน หรอื ไดร้ ับอนุญาตจากผู้อานวยการ
2. ครทู ีไ่ ดร้ บั คาสั่งจากทางโรงเรียน ให้ไปสัมมนาหรือลากิจ ใหแ้ ลกคาบสอนกบั เพ่ือนครใู ห้เรียบร้อย และแจง้
ให้วชิ าการทราบทุกครั้ง เพื่อดาเนนิ การตามข้อ 1
3. ครไู มม่ ีสทิ ธ์ิในการแลกคาบสอนดว้ ยตนเองโดยไม่แจ้งให้ฝา่ ยวิชาการทราบก่อน

หมวดที่ 5 ระเบยี บวา่ ด้วยห้องพกั ครู

1. รักษาความสะอาดและความเปน็ ระเบียบเรียบร้อย ในส่วนท่ีเปน็ บริเวณของตน เช่น โตะ๊ เกา้ อี้ ชน้ั วางของ
หรอื สิง่ ตา่ งๆ

2. รกั ษาความสงบ ไม่สง่ เสียงดังรบกวนการทางานของผ้อู ่ืน
3. ไม่รับแขกหรือบคุ คลภายนอกในห้องพักครู
4. หา้ มบคุ คลภายนอกหรือครู นาเอาของมาขายในห้องพักครู หรอื ขายนักเรยี น ก่อนได้รับอนญุ าตจาก
ผอู้ านวยการ
5. ไม่อนญุ าตให้รบั ประทานอาหารในหอ้ งพกั ครู ให้รบั ประทานได้เฉพาะท่โี รงอาหารหรือสถานทีจ่ ดั ให้เทา่ นัน้
6. ครูจะตอ้ งอยูใ่ นที่ทท่ี างโรงเรยี นจดั ใหเ้ ทา่ น้ัน ไม่มกี ารเปลี่ยนหรอื โยกย้ายทน่ี ่งั กอ่ นได้รับอนญุ าตจาก
ผอู้ านวยการ

หมวดที่ 6 ระเบยี บว่าดว้ ยการลา

วนั ทางาน วนั หยุดและการลา
1. กาหนดวนั ทางานปกตขิ องโรงเรียนมีดงั นี้
1.1 วนั และเวลาท่ีโรงเรยี นเปิดทาการสอนตามทไ่ี ด้รบั อนุญาต
1.2 วันและเวลาท่ีโรงเรียนกาหนดให้ครูและบุคลากรมาปฏิบัติงานของโรงเรียนหรือมาช่วยงานของ

โรงเรียนในระหว่างวันหยุดประจาภาคหรือวันที่โรงเรียนกาหนดให้ครูและบุคลากรมาช่วยงานของโรงเรียนในวันหยุด
ตามข้อที่สองได้ตามระเบียบของสานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนกระทรวงศึ กษาธิการ

2. กาหนดเวลาทางานปกตขิ องโรงเรียนใหเ้ ป็นไปตามเกณฑ์ดังนี้
2.1 โรงเรียนท่ีทาการสอนตามหลักสูตรก่อนประถมศึกษาและหลักสูตรการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน

กาหนดเวลาทางานปกติสัปดาห์ละ 45 ชั่วโมงท้ังน้ีรวมเวลาหยุดพักกลางวัน 1 ชั่วโมงด้วยแล้วโรงเรียนใดมีความ

จาเป็นต้องกาหนดเวลาทางานนอกเหนือจากท่ีกาหนด ให้ขออนุญาตจากคณะกรรมการฝ่ายการศึกษาเป็นรายๆไป
2.2 ครูและบุคลากรจะต้องไปถงึ โรงเรยี นก่อนเวลาทางานปกติไมน่ ้อยกว่า 15 นาทีและกลบั หลงั จาก

เวลาทางานปกตไิ มน่ อ้ ยกวา่ 15 นาทสี าหรบั ครเู วรใหป้ ฏบิ ัตติ ามระเบยี บของโรงเรยี น
3. กาหนดวันหยดุ ทางานในปกี ารศึกษาหน่งึ ของโรงเรียนมดี ังนี้
3.1 วันหยุดประจาสปั ดาหต์ ามทไี่ ดร้ ับอนญุ าต
3.2 วันหยุดประจาภาคเรยี น
3.3 วันหยุดตามประเพณี
3.4 วนั หยดุ ตามประกาศหรือตามคาส่งั ของทางราชการ
3.5 วนั ทีโ่ รงเรียนสง่ั ให้หยุด
4. ในรอบหนึ่งปเี มอื่ มีเหตจุ าเป็นครแู ละบคุ ลากรลาหยดุ ไดด้ ังนี้
4.1 ลากจิ ได้ไม่เกนิ 10 วนั ตลอดปีการศกึ ษา (รวมการขอไปรับปรญิ ญา)
4.2 ลาปว่ ย
4.3 กรณีเจบ็ ปว่ ยธรรมดาให้สามารถลาไดไ้ ม่เกิน 15 วันทางาน
4.4 กรณกี ารเจ็บปว่ ยทตี่ อ้ งเข้ารับการรกั ษาตัวในโรงพยาบาลใหล้ าได้ไม่เกิน 60 วันทางาน
4.5 การลาคลอดบุตรสามารถลาได้ ครรภ์ ละไม่เกิน 90 วนั โดยไดร้ ับเงินเดอื นไมเ่ กนิ 45 วนั
4.6 ลาเพ่ือการอุปสมบทสามารถลาได้เม่ือทาการสอนมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี โดยการลาได้ไม่เกิน

120 วนั และลาเพื่ออุปสมบทได้เพียงครัง้ เดยี วเท่านัน้
4.7 การลาเพ่ือไปประกอบพธิ ที างศาสนาใดๆ ให้อยู่ในดลุ ยพนิ จิ ของผูอ้ านวยการของโรงเรียนนน้ั ๆ

5. การแจ้งการลาหยุดและการนับวันเวลาของการลาหยุดถือปฏิบัติตามกฎระเบียบของสานักงาน
คณะกรรมการการสง่ เสรมิ การศึกษาเอกชนกระทรวงศึกษาธิการโดยมีกาหนดระยะเวลาแจง้ การลาดงั นี้

5.1 การลากิจให้ยื่นใบลาล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งวันในกรณีจาเป็นและไม่สามารถยื่นใบลาได้ตาม
กาหนดให้แจง้ การลาโดยเร็วทส่ี ุด

5.2 การลาปว่ ยให้แจง้ การลาปว่ ยใหโ้ รงเรียนทราบในโอกาสแรกทล่ี าปว่ ยเว้นแตเ่ หตุสดุ วสิ ัยและให้ส่ง
ใบลาในวันแรกที่มาทางานถ้าเป็นการลาป่วยต้ังแต่สามวันทางานขึ้นไปต้องมีใบรับรองแพทย์ซึ่งเป็นผู้ท่ีได้ข้ึนทะเบียน
และรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบอาชีพเวชกรรมแนบไปกับใบลาดว้ ยในกรณีที่ไม่อาจแสดงใบรบั รองแพทย์ได้ต้องชี้แจง
เหตุผลให้ผู้มีอานาจอนุญาตการลาทราบ (กรณี ลาดับการแจ้งลา 1. ฝ่ายบุคคล 2. ฝ่ายวิชาการ 3. ผู้จัดการ/
ผอู้ านวยการโรงเรยี น)

5.3 การลาคลอดบุตรเป็นการลาของสตรีซึง่ มคี รรภ์ในชว่ งเวลาก่อนคลอดหรอื หลังคลอด
(ก) กรณลี าก่อนคลอด ใหส้ ง่ ใบลาล่วงหน้าหรือสง่ ในวนั คลอด
(ข) กรณไี ม่ไดล้ าก่อนคลอดใหแ้ จ้งการลาภายใน 3 วัน
(ค) เมอื่ ไดร้ ับอนุญาตให้ลาคลอดบตุ ร และไดห้ ยุดงานไปแล้วแต่ไม่ได้คลอดตามกาหนดให้ถือ

เปน็ การลากจิ
(ง) ลาอุปสมบทหรือลาเพ่ือไปประกอบพิธีทางศาสนาใดใดให้ยื่นใบลาล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 3

เดือนแต่ถ้าโรงเรยี นยังหาครแู ทนไมไ่ ดโ้ รงเรยี นอาจยับยงั้ การลานนั้ ไวก้ ่อนเพื่อให้ลาในปีต่อไปก็ได้
6. การนับวันลาตามขอ้ กาหนด
6.1 ครูทมี่ าทางานสายหรือการกลับ กอ่ นเวลารวม 5 ครง้ั โรงเรยี นจะถือเปน็ วนั ลากิจหนึง่ วนั
6.2 วันท่ีครูและบุคลากรไม่สามารถทางานได้เนื่องจากการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยที่เกิดข้ึน

เนื่องจากการทางานให้แกโ่ รงเรยี นไม่ให้ถอื เป็นวนั ลาป่วย

6.3 การนับเวลาให้นับวันหยุดท่ีคั่นระหว่างวันลา เป็นวันลาด้วยทั้งวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ วันหยุด
นกั ขตั ฤกษ์ เว้นแต่การลาป่วยทตี่ ้องพักรกั ษา ทโ่ี รงพยาบาล

การคิดเวลา สาย ลา ของครู เพ่ือพจิ ารณาหักเงนิ เดอื น เงินโบนัสประจาปี และเพิม่ โบนัสประจาปี
1. มาทางานสาย 5 คร้ัง หรอื กลบั บ้านกอ่ นเวลา 5 คร้ัง คิดเป็นลากจิ 1 วนั
2. การออกนอกโรงเรียนทุกครั้งให้แจ้งต่อผู้อานวยการ/หัวหน้าฝ่ายบุคคล ด้วยวาจาก่อน จึงสแกนน้ิวมือและ

เซ็นออก เม่ือกลับเข้ามาต้องรายงานด้วยวาจาก่อนสแกนนิ้วมือเซ็นเข้า ยกเว้นกรณีฉุกเฉิน ให้แจ้งฝากไว้ท่ีหัวหน้างาน
บุคคล หรือหัวหน้าฝ่ายวิชาการ หากมีการตรวจสอบพบว่าไม่ทาตามระเบียบ 5 ครั้ง คิดขาด 1 วัน (ไม่มีการเซ็น
ย้อนหลงั )

3. ไม่สง่ ใบลาแต่ละครัง้ นับเปน็ 2 เทา่ ของวนั ลา
4. มาลงเวลาปฏบิ ตั งิ านหลงั 10.25 น. ถือวา่ ขาดงาน ครึ่งวนั
5. ให้ครูสารวจเวลาการทางานของตนเอง หากมขี ้อสงสยั ตดิ ต่อทฝ่ี า่ ยบคุ คล

*หมายเหตุ กรณี ท่ีไม่ต้องสแกนน้ิวมือ และไม่ต้องแจ้ง คือ ช่วงเวลาพักรับประทานอาหารกลางวัน 1 ชั่วโมง
เทา่ นนั้

กรณี ผู้ที่ขาดการปฏิบัติหนา้ ที่ทุกกรณี ทางโรงเรียนจะพิจารณาหักจากเงินเดือน ของเดือนน้ันๆและเงินโบนสั
ประจาปี โดยคิดเวลาต้งั แต่วนั แรกทโ่ี รงเรียนกาหนดให้มาปฏิบตั งิ าน ถงึ สิ้นเดือนธันวาคม ผทู้ ีข่ าดหลงั เดือนธนั วาคมจบ
ถงึ สน้ิ ปีการศึกษา คือ วนั ท่ี 31 มีนาคม จะยกยอดทข่ี าดไป สมทบในปกี ารศึกษาตอ่ ไป

หมวดท่ี 7 ระเบยี บว่าด้วยวนิ ัยและการรกั ษาวินยั

1. ครแู ละบุคลากรทางการศึกษาต้องรักษาวินัยตามที่กาหนดเป็นข้อหา้ มและข้อปฏิบัติในหมวดนโ้ี ดยเคร่งครัด
อยูเ่ สมอ

2. ครูและบุคลากรทางการศกึ ษาต้องสภุ าพเรยี บร้อยและปฏบิ ัตติ ามคาส่ังของผู้บงั คับบญั ชาซึง่ ส่ังการในหน้าท่ี
โดยชอบโดยไม่ขัดขืนหรือหลีกเล่ียง ถ้าเห็นว่าการปฏิบตั ิตามคาสง่ั ใดจะทาให้เสียหายแก่โรงเรยี นหรือไม่เป็นการรักษา
ผลประโยชน์ของโรงเรียนควรเสนอความเห็นเพื่อให้ผู้บงั คับบัญชาทบทวนคาสงั่ ทันทีหากผู้บังคับบัญชายืนยันให้ปฏบิ ตั ิ
ตามคาสง่ั เดมิ ผูอ้ ยู่ใตบ้ งั คับบัญชาตอ้ งปฏบิ ตั ิตาม

3. ครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องปฏิบัติหน้าท่ีตามระเบียบข้อบังคับข้อกาหนดนโยบายมติคาสั่งและแบบ
ธรรมเนียมของโรงเรียน

4. ครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องปฏิบัติหน้าที่ท่ีได้รับมอบหมายให้เกิดผลดีหรือเกิดความก้าวหน้าแก่
โรงเรยี นระมัดระวังรักษาทรัพย์สนิ และผลประโยชน์ของโรงเรยี น

5. ครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องอุทิศเวลาให้แก่โรงเรียนใช้ความอุตสาหะวิริยะภาพเต็มสติกาลัง ของ
ตนเองด้วยความมุ่งหมายให้กิจการนั้นนั้นบรรลุถึงซึ่งความสาเร็จต้องปฏิบัติงานตรงตามเวลากาหนดจะละทิ้งหรือ
ทอดทิ้งหนา้ ท่มี ไิ ด้

6. ครูและบคุ ลากรทางการศึกษาต้องรักษาความลับของโรงเรียน
7. ครูและบุคลากรทางการศกึ ษาต้องประพฤติและปฏบิ ัตติ ามจรรยาและมารยาทแหง่ วชิ าชีพของตน
8. ครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องรักษาความสามัคคีและช่วยเหลือกันในการปฏิบัติหน้าท่ีให้เกิดผลดีต่อ
โรงเรยี น

9. ครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องไม่รายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชาการรายงานโดยปกปิดข้อความซ่ึงควร
ตอ้ งแจง้ ถอื เป็นการรายงานเท็จดว้ ย

10. ครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องปฏิบัติหน้าท่ีด้วยความซ่ือสัตย์สุจริตห้ามอาศัยหรือยอมให้ผู้อ่ืนอาศัย
อานาจหน้าท่ีของตนไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมหาประโยชนใ์ ห้แก่ตนเองหรอื ผู้อ่ืน การปฏิบัติหรือละเว้นการปฏบิ ตั ิ
หน้าท่เี พอื่ ให้ตนเองหรือผอู้ นื่ ไดป้ ระโยชน์ทม่ี ิควรได้ถือเปน็ การทุจรติ ต่อหน้าท่ี

11. ครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องไม่ปฏิบัติงานอ่ืนใดซ่ึงจะเป็นการขัดกับวัตถุประสงค์และผลประโยชน์
ของโรงเรยี น

12. ครูและบคุ ลากรทางการศึกษาต้องไม่ประพฤติให้เส่อื มเสียแกช่ อื่ เสียงของตนหรือแก่ชื่อเสยี งของโรงเรียนท่ี
มลี ักษณะความผดิ ดังน้ี

(1) แตง่ กายไมส่ ภุ าพผิดระเบยี บทที่ างโรงเรียนกาหนดไวไ้ ด้มีการตักเตือนแต่ไม่แกไ้ ข
(2) ลบหลูด่ มู ิ่นศาสนาอื่นท้ังทางตรงและทางออ้ ม
(3) แสดงความรกั และให้สทิ ธิพิเศษแก่นักเรียนเกนิ ความเหมาะสมจนเปน็ เหตุให้ เสยี การปกครอง
(4) ทาโทษเด็กโดยใช้ถ้อยคาท่ีรุนแรงหยาบคายหรือก้าวร้าวไปถึงเรื่องส่วนตัวของนักเรียนพ่อแม่วงศ์
ตระกลู
(5) ลงโทษนกั เรียนรนุ แรงจนได้รับบาดแผลหรือปรากฏรอ่ งรอยให้เห็น
(6) เบยี ดบงั เวลาราชการและละเมิดสิทธิ ของผ้อู นื่
(7) มีพฤติกรรมเบ่ียงเบนทางเพศโดยแสดงออกในทางที่เส่ือมเสียไม่ว่าจะเป็นด้านวาจาหรือการ
กระทา
(8) ประพฤติตนเปน็ คนเสเพลดื่มสรุ ายาเมาและเสพสิ่งเสพติด
(9) ประพฤติทางชู้สาวหรือประกอบอาชีพท่ีไมเ่ หมาะสมกบั ฐานะของครูทั้งในและนอกโรงเรยี น
(10) เปน็ ผหู้ มกมุ่นในการพนนั มหี น้สี ินรงุ รงั หรอื กระทาความผดิ ทางอาญา
(11) ยุยงส่งเสริมหรือสนับสนุนให้ครูหรือนักเรียนเดินขบวนเรียกร้องหรือนัดหยุดเรียนหรือก่อความ
ไมส่ งบตอ่ สว่ นรวม
(12) มพี ฤติกรรมสอ่ ในทางทจุ รติ เพื่อนักเรยี น
13. การกระทาผดิ วินยั ในกรณตี อ่ ไปนี้ถอื เปน็ การกระทาผดิ วินัยอย่างรา้ ยแรง
(1) ละทิ้งหน้าทหี่ รือขาดงานติดต่อในคราวเดียวกนั เป็นเวลาเกนิ กวา่ เจ็ดวันด้วยไม่มเี หตผุ ลอนั สมควร
(2) ทจุ ริตต่อหนา้ ท่ี
(3) จงใจปฏบิ ัติหรอื กระทาใดใดอนั เป็นเหตใุ ห้เกิดความเสยี หายแกโ่ รงเรยี นอย่างรา้ ยแรง
14. ผู้บังคบั บัญชามหี นา้ ที่ต้องเสริมสร้างและพฒั นาให้ผู้อย่ใู ต้บังคับบัญชามวี ินัยและดูแลระมัดระวังให้ผู้อยู่ใต้
บงั คบั บัญชาปฏิบัติตามวนิ ัยถ้ารูว้ ่าผ้ใู ตบ้ งั คบั บญั ชากระทาผดิ วนิ ัยจะตอ้ งดาเนินการทางวนิ ยั
15. การลงโทษครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้บังคับบัญชาต้องสั่งลงโทษให้เหมาะสมกับความผิดในคาสั่ง
ลงโทษให้แสดงข้อเท็จจริงและเหตุผลให้ชัดเจนว่าผู้ถูกลงโทษกระทาความผิดในกรณีใดตามข้อใดและระวังอย่าให้
เป็นไปด้วยพยาบาทหรือโดยโทสะจริต หรือลงโทษผู้ไม่มคี วามผิด การลงโทษอย่างใดอย่างหน่งึ ในข้อ 1-13 ตอ้ งทาการ
สอบสวนในมูลกรณีท่ีถูกกล่าวหาและให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหาช้ีแจงข้อเท็จจริงทั้งนี้เพื่อความเป็นธรรมแก่ผู้ถูกกล่าวหา
ก่อนสั่งลงโทษกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ผู้อานวยการเป็นผู้สอบสวนและในกรณีท่ีผู้ถูก
กลา่ วหาเป็นผ้อู านวยการให้ผรู้ บั ใบอนุญาตผู้จดั การเปน็ ผู้สอบสวน
16. ครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาผใู้ ดกระทาผิดวินัยไมร่ า้ ยแรงให้ผู้บงั คับบัญชาสั่งลงโทษภาคทัณฑ์งดการข้ึน
เงินเดือนหรือตัดเงินเดือนให้เหมาะสมกับความผิดถ้ามีเหตุอันควรรถยนต์จะนามาประกอบการพิจารณารถโทษก็ได้ใน

กรณีที่กระทาผิดวินัยเล็กน้อยถ้าผู้บังคับบัญชาเห็นว่ามีเหตุอันควรงดโทษจะงดโทษให้โดยการว่ากล่าวตักเตือนหรือให้
ทาทณั ฑ์บนเปน็ หนังสอื ไวก้ อ่ นก็ได้ การลงโทษตามขอ้ นีผ้ บู้ งั คบั บญั ชาใดจะมีอานาจสัง่ ลงโทษผใู้ ตบ้ ังคบั บญั ชาได้เพียงใด
ใหเ้ ป็นไปตามทคี่ ณะกรรมการบรหิ ารโรงเรียนกาหนด

17. ครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาผู้ใดกระทาผดิ วินัยอย่างรา้ ยแรงให้ผู้อานวยการเสนอลงโทษให้ออกต่อคณะ
กรรมการบริหารโรงเรียนกอ่ นส่งั ลงโทษครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาผใู้ ดได้กระทาผิดวินยั อย่างรา้ ยแรงใหผ้ ู้อานวยการ
แตง่ ตงั้ คณะกรรมการขน้ึ ทาการสอบสวนโดยไมช่ ักชา้ กอ่ นเสนอลงโทษตามวรรคทห่ี นึง่

หมวดท่ี 8 ระเบียบว่าดว้ ยการศึกษาต่อ

1. ครูหรือบุคลากรทางการศึกษาที่ประสงค์จะไปศึกษาต่อหรือการอบรมระยะยาวเพ่ือเพิ่มวุฒิการศึกษา
จะตอ้ งได้รับการอนุญาตจากผอู้ านวยการก่อน

2. ครูหรือบุคลากรทางการศึกษาทีจ่ ะไปศึกษาต่อหรืออบรมระยะยาวจะต้องมีคุณสมบตั ดิ ังน้ี
2.1 ตอ้ งเป็นครหู รือบุคลากรทางการศึกษาในโรงเรียนมาแล้วอย่างน้อย 3 ปี
2.2 ตอ้ งไปศึกษาตอ่ ในสาขาทโ่ี รงเรยี นตอ้ งการ
2.3 ปฏิบัติหน้าที่ของตนด้วยความสามารถและด้วยความอุตสาหะจนเกิดผลดีและความก้าวหน้าต่อ

โรงเรยี น
2.4 เป็นผมู้ คี ณุ สมบตั คิ รบถ้วนตามมาตรฐานวชิ าชีพ
2.5 ไม่เคยต้องโทษหรอื ภาคทัณฑ์ตามระเบียบขอ้ บงั คับของโรงเรียน

หมวดที่ 9 ระเบยี บว่าด้วยการแต่งกาย วันพธุ วนั พฤหสั บดี วันศุกร์
พืน้ เมือง
1. การแตง่ กาย เส้ือกฬี าสี 2021 ลกู เสือ
กางเกงวอร์ม เนตรนารี
วันจนั ทร์ วนั องั คาร ผ้บู าเพญ็
นักศกึ ษาวิชาทหาร
ครชู าย/ครูหญิง ฟอรม์ เอกชน เส้ือสีม่วงเอกชน
หญงิ กระโปรง
ชายกางเกง

* หมายเหตุ 1. กระโปรงครูหญิง ทรงตรง ยาวคลมุ เข่า ไม่รัดรปู หรือยาวจนกรอมข้อเท้า ไม่ผ่าแยก หน้า/หลัง
ในลกั ษณะท่ีแยกผ้าขาดออกจากกัน

2. กางเกงครชู ายและครูหญงิ ไม่อนุญาตให้สวมกางเกงยนี ส์ หรือกางเกงรัดรูป
3. ทรงผม ครชู าย รองทรง สภุ าพ ไมท่ าสีผมฉดู ฉาด

ครู หญิง ถา้ ผมยาว ให้รวบ ผกู โบว์ หรอื ตดิ กิ๊บพองาม หรอื เกล้ามวยเหมาะสม
กับวัย สุภาพ ไม่ไวผ้ มปรกหน้า ลกั ษณะรงุ รงั หรอื ทาสีผมฉูดฉาด

4.รองเท้า ครชู าย คทั ชูสดี า
ครูหญงิ คัทชสู ดี า , นา้ ตาล , นา้ เงนิ หรอื รดั สน้ ส้นสงู – ตา่ พองาม
(หา้ ม สวมรองเทา้ แตะเดินไปมา นอกจากอยู่ในหอ้ งพักครู)

5. เคร่อื งประดับ ไม่ใสต่ มุ้ หู เปน็ พวงระย้า วงกลมใหญ่ ตุ้มหสู ฉี ดู ฉาดตามแฟช่ัน ไม่สวม
เครอื่ งประดบั มากมาย

6. ป้ายช่ือครู ต้องแขวนตดิ ตัวตลอดเวลาทาการ
(หมวดการแตง่ กายอาจมกี ารปรบั เปลย่ี นได้ตามความเหมาะสม)

“แสงสว่างจากคบเพลิงกีร่ อ้ ยดวง พันดวง
หรอื แม้แต่แสงสว่างจากดวงอาทติ ย์

ไมเ่ ท่าแสงสวา่ ง ท่ีครนู าทางให้แกศ่ ษิ ย์”

2. เครอ่ื งแบบผู้บงั คับบญั ชาลกู เสอื - เนตรนารี ตามข้อบังคบั คณะลกู เสอื แห่งชาติ
เครอื่ งแบบผูบ้ ังคบั บญั ชาลูกเสอื
1. หมวก มี 2 แบบ คอื
1.1 หมวกปีกกวา้ งสีกากี มีหนงั สือหรอื วัตถเุ ทียมสีน้าตาลแกก่ ว้าง 3 ซม. พนั รอบหมวก มีเข็มขดั สนี า้ ตาลแก่
ดา้ นซ้าย ปกี กวา้ ง 2 ข้าง เจาะรสู าหรับรอ้ ยสายรดั ดา้ นหลังศีรษะ สายรัดทาด้วยเชือกถักสีเดียวกับหมวกผูกเปน็ ปมไว้
ข้างหลัง มตี ราหนา้ หมวกรปู ตราคณะลูกเสอื แห่งชาติ ทาด้วยโลหะสที อง
หมายเหตุ หมวกปีกกว้าง ใชเ้ ฉพาะผู้บงั คบั บัญชาทีผ่ ่านการอบรมวชิ าผกู้ ากบั กับลกู เสือประเภทสามญั หรือของผู้
กากับลกู เสือที่ไดร้ ับตัง้ แตใ่ ห้เป็นผ้กู ากบั กลุ่มหรือรองผ้กู ากับกล่มุ ขึน้ ไป
1.2 หมวกทรงอ่อนมตี ราหน้าหมวกรูปตราคณะลกู เสอื แห่งชาติ ทาดว้ ยโลหะสีทอง เวลาสวมใหต้ รงหนา้ หมวก
อยู่เหนอื ค้วิ ซ้าย ผู้กากบั สารอง สามัญ และวสิ ามญั ใชส้ เี ขียว สามญั รนุ่ ใหญใ่ ชส้ เี ลือดหมู
2. เสอ้ื เส้ือคอพบั สีกากี แขนสนั้ เหนอื ศอกผา่ อกตลอด อกเสื้อทาเป็นสาบกวา้ ง 3.5 ซม. มีกระดุมเหนือเขม็ ขัด
4 ดมุ อกมีกระเปา๋ ปะข้างละ 1 กระเป๋า มแี ถบตรงก่ึงกลางตามทางด่ิง ปก(ฝากระเปา๋ ) รูปมนชายกลางแหลมเจาะรงั ดุม
กง่ึ กลางกระเป๋า 1 ดมุ มอี ินทรธนู สเี ดยี วกับเสอ้ื อย่เู หนอื บา่ ทง้ั 2 ข้าง ด้านทเี่ ยบ็ ติดกับตะเขบ็ ไหล่ เสื้อกว้าง 3.5 ซม.
คอกว้าง 2.5 ซม. ปลายมนมีดุมทป่ี ลายอนิ ทรธนู ทางด้านคอด้านละ 1 ดุม ดมุ ลักษณะกลมแบนทาดว้ ยวตั ถุสนี า้ ตาลแก่
ใหส้ อดชายเสื้ออยู่ภายในกางเกง(ชาย) กระโปรง(หญิง) ตามระเบียบว่าดว้ ยการแต่งกายของผ้กู ากับลูกเสือหญงิ
หมายเหตุ ผกู้ ากบั ท่ผี ่านการอบรมวิชาผูก้ ากับลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ มีอินทรธนสู เี ลอื ดหมู วิสามญั อินทรธนูสเี ขียว
สวมทบั อนิ ทรธนูของตัวเสื้อ
3. กางเกง สกี ากี ขาสัน้ เหนอื เขา่ ประมาณ 5 ซม. สว่ นกวา้ งของขากางเกง เม่ือยนื ตรงห่างจากขา ตง้ั แต่
8 - 12 ซม. ปลายขาพบั เข้ากว้าง 5 ซม. ผา่ ตรงสว่ นหน้ามีกระเป๋าตามตะเขบ็ ขา้ งละ 1 กระเป๋า และมีหรู อ้ ยเข็มขัดยาว
ไมเ่ กิน 6 ซม. กวา้ ง 1 ซม.
4. ผา้ ผกู คอ รูปสามเหลย่ี มหน้าจั่ว ด้านฐานกว้าง 100 ซม. ด้านตงั้ 75 ซม. สีตามสีประจาภาคการศึกษา 15
เป็นสีชมพู มเี คร่ืองหมายของจังหวัดท่ีสงั กดั อยู่ที่ชายผา้ มุมยอดของสามเหลี่ยม มีผ้าขลิบสีน้าเงิน ขนาด 2 ซม. ขลบิ
รอบด้านข้างสามเหลยี่ ม 2 ด้าน มวี อกเกิล้ หนัง ทาเปน็ หว่ งกลิ เวลล์ สวมรัดผ้าผกู รออยใู่ ต้คาง ห่างจากคาง 1 กามอื เมื่อ
ตามองตรง
5. เขม็ ขัด หนงั สนี า้ ตาลกวา้ ง 4 ซม. หัวชนดิ หัวขัด ทาดว้ ยโลหะสีทองมีดนุ รูปตราคณะลูกเสือแหง่ ชาติ ภายใน
กรอบชอ่ ชัยพฤกษ์
6. ถุงเทา้ สกี ากี ยาวพับขอบไว้ใต้เข่า ได้พับขอบมีรอยรดั ถุงตดิ พขู่ ้างละ 2 พู่ สีตามประเภททอ่ี บรม เชน่ สามญั
สีเขยี ว สามญั ร่นุ ใหญ่สีเลือดหมู วิสามญั สเี ลือดนก
7. รองเทา้ หนังหรอื ผ้าใบสีนา้ ตาลแก่ ไม่มีลวดลาย หุ้มส้น มีสายผูก

8. เคร่ืองหมายสังกดั แถบผา้ สีแดงกวา้ ง 1.5 ซม. ยาว 7 ซม. ชื่อ สกลุ กอง(ชอ่ื ร.ร.) สขี าวติดโคง้ ตามไหลเ่ ส้ือ
ข้างขวา หา่ งจากตะเขบ็ ไหล่ 1 ซม.

9. เคร่ืองหมายตาแหน่ง ทาด้วยโลหะรูปโล่ ยาว 5.5 ซม. กว้าง 3 ซม. มตี ราคณะลูกเสือแหง่ ชาตสิ ีทองพน้ื
และขอบตามตาแหนง่ และประเภท ดงั นี้

9.1 กรรมการพิเศษลกู เสือประจาจงั หวัด พน้ื มว่ ง ขอบสีเหลือง
9.2 กรรมการพิเศษลูกเสือประจาอาเภอ พื้นสมี ว่ ง ขอบสีแดง
9.3 ผอู้ านวยการ และรองผู้อานวยการลูกเสอื โรงเรียน พื้นสีม่วง

9.4 ผกู้ ากับกลุ่มลูกเสอื พนื้ สีเขียว ขอบสีขาว
9.5 รองผกู้ ากับกลุ่มลูกเสอื พนื้ สแี ดง ขอบสขี าว
9.6 ผ้กู ากบั ลกู เสอื พนื้ สีเขยี ว มีอกั ษร ล.ร. , ล.ญ. หรือ ล.ว. ติดเครอ่ื งหมายท่ีก่งึ กลางกระเป๋าเส้ือขา้ ง
ขวา(สามัญ ไม่มีอกั ษร)
9.7 รองผู้กากับลูกเสอื พื้นสีแดง มีอักษร ล.ร. , ล.ญ. หรอื ล.ว. ตดิ เครอื่ งหมายที่ก่งึ กลางกระเป๋าเสอื้
ขา้ งขวา(สามัญ ไม่มีอักษร)
10. ป้ายชื่อ ติดท่ีอกเสื้อเหนือกระเป๋าด้านขวา แบบตามท่ีโรงเรยี นกาหนด
11. เครอ่ื งหมายวิชาผูก้ ากับลูกเสือขัน้ วดู แบดจ์ ทาดว้ ยไม้ รอ้ ยดว้ ยเชอื กหนัง
- ขน้ั A.T.C หรือ วูดแบดจ์ (W.B.)
- ขน้ั A.L.C หรือ ผู้ชว่ ยผใู้ ห้การอบรม 3 ท่อน
- ขนั้ L.T. หรอื ผใู้ ห้การฝึกอบรม 4 ท่อน
12. เครอื่ งหมายอืน่ ๆ ตดิ ประกอบเครื่องหมายแบบได้ตามสทิ ธทิ ่ีไดร้ บั เช่น เครือ่ งหมายลูกเสือโลก
เครื่องหมายสมี ่วง มีดอกเฟอเดอรี สขี าวตดิ กึ่งกลางกระเป๋าเสื้อข้างซ้าย ผ้บู งั คบั บญั ชาเนตรนารจี ราจร เขม็ ขดั ทอง ตดิ ท่ี
อกเส้ือข้างขวาเหนอื ป้ายชื่อปีกโดดหอตามแบบทเี่ จา้ หนา้ ท่ีสงั กดั แจกให้ติดท่ีอกเส้ือขา้ งขวาเหนอื ป้ายช่ือ ฯลฯ
13. ใหค้ รูท่สี อนตัง้ แตร่ ะดับชัน้ ป.1 - ม.3 แต่งชุดลกู เสือทกุ คน เพอื่ เป็นแบบอย่างท่ีดสี าหรบั นักเรียนถงึ ไม่มี
คาบสอน แตเ่ วลาจดั กิจกรรมเข้าคา่ ยลูกเสือครูทุกคนจะต้องแตง่ ชุดลูกเสือในเวลา เปดิ / ปิดกอง ครหู ญงิ มธั ยมปลาย
แต่งชุดผบู้ าเพญ็ ประโยชนต์ ามระเบยี บ

หมวดท่ี 10 ระเบียบว่าด้วยการลงโทษครู

ก. ลกั ษณะความผดิ
1. แต่งกายไมส่ ุภาพ ผิดระเบียบที่ทางโรงเรยี นกาหนดไว้ ได้รบั การตักเตือน แต่ไมแ่ กไ้ ข
2. ลบหลดู่ ูหมน่ิ ศาสนาอื่น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
3. แสดงความรัก และให้สทิ ธิพเิ ศษแก่นักเรียนเกินความเหมาะสม จนเปน็ เหตุให้เสยี การปกครอง
4. ทาโทษเด็กโดยใชถ้ ้อยคารุนแรง หยาบคาย หรือก้าวรา้ วไปถงึ เร่ืองสว่ นตัวของนกั เรียน พ่อ - แม่ วงศต์ ระกลู

และใช้วาจาท่ีทาร้ายจิตใจเดก็
5. ลงโทษนกั เรยี นรนุ แรง จนได้รับบาดแผล หรอื ปรากฏรอ่ งรอยให้เห็น
6. ละทิ้งหน้าทโ่ี ดยไม่แจง้ ตอ่ ผบู้ ริหารเป็นเวลาเกนิ 7 วนั
7. มพี ฤติกรรมเบ่ยี งเบนทางเพศ โดยแสดงออกในทางเสอ่ื มเสยี ท้งั วาจา และความประพฤติ
8. ประพฤตติ นเป็นคนเสเพล ดม่ื สรุ า เสพสง่ิ เสพติด จนไมส่ ามารถครองสติได้
9. ประพฤตติ นทางชู้สาวหรอื ประกอบอาชีพไม่เหมาะสมกับฐานะทางครูทง้ั ในและนอกโรงเรยี น

10. เป็นผหู้ มกมุน่ ในการพนัน มหี น้ีสินรุงรังเปน็ เหตุให้เจ้าหนท้ี วงตามอยูเ่ สมอ เป็นเหตุให้เสียภาพพจนข์ องครู
และสถาบนั รวมถึงการเล่นการพนัน และขายของในสถานศกึ ษา

11. ยกั ยอกเงินอนั พึงเปน็ ส่วนของโรงเรียน เชน่ ค่าเทอม และอน่ื ๆ ทง้ั เจตนาและไม่เจตนา ทาใหผ้ ู้ปกครอง
เดอื ดร้อน และเสยี ภาพพจนค์ รแู ละสถาบัน

12. กระดา้ งกระเดอื่ งตอ่ ผูบ้ ริหาร/ผบู้ งั คบั บัญชา
13. ยุยง ส่งเสริม หรือสนับสนุนให้ครูหรอื นกั เรยี นเดนิ ขบวนเรียกรอ้ ง นัดหยุดเรยี น หรอื ก่อความไมส่ งบต่อ
สว่ นรวม
14. มีพฤตกิ รรมส่อในทางทจุ ริตเพอ่ื นักเรยี น
15. ประกอบอาชญากรรมทาร้ายร่างกายผอู้ ื่น ก่อการทะเลาะวิวาท
16. ยักยอกทรัพยห์ รือลักขโมย
17. ประพฤตปิ ฏิบัติในเร่ืองสวนทางกับนโยบายของโรงเรยี น
18. ถกู ผู้ปกครองร้องเรียนเร่ืองตา่ งๆ โดยมีมูลความจรงิ อันเปน็ เหตใุ หโ้ รงเรยี นเส่อื มเสียชือ่ เสยี ง

ข. ระเบยี บการลงโทษ ระเบียบการสั่งลงโทษครูอรุโณทยั มดี งั นี้
ขัน้ ที่ 1 ภาคทัณฑ์ (บันทึกความผดิ เปน็ ลายลักษณ์อักษร)
ขั้นที่ 2 ตัดเงินเดือน
ขั้นที่ 3 งดการข้ึนเงนิ เดือน
ขัน้ ท่ี 4 ใหอ้ อก

1. การลงโทษอย่างใดอย่างหนึ่ง
ผู้อานวยการ มอี านาจลงโทษตามความเหมาะสมของแต่ละกรณี โดยผา่ นความเห็นชอบของคณะกรรม การ

บริหารและจะต้องไม่เป็นไปโดยพยาบาทหรือโดยโทสจริตหรือลงโทษผไู้ ม่มีความผดิ ให้ถอื หลักความยุติธรรม
2. การส่ังลงโทษในข้อหาวา่ กระทาผิดอย่างใดอย่างหนึ่ง

ตอ้ งทาการสอบสวนในมูลกรณี ที่ถูกกลา่ วหาและใหโ้ อกาสผู้ถูกกล่าวหาช้แี จงข้อเท็จจริง ท้งั นีเ้ พอ่ื ใหค้ วามเป็น
ธรรมแก่ผู้ถูกกล่าวหาก่อนมีคาสั่งลงโทษ ในกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นครู ให้ผู้อานวยการเป็นประธานและ
กรรมการบริหารเป็นผู้ดาเนินการสอบสวน ในกรณีท่ีถูกกล่าวหาเป็นผู้อานวยการ ให้ผู้รับใบอนุญาตเป็นประธาน
ผจู้ ดั การ กรรมการบรหิ าร เปน็ ผดู้ าเนินการสอบสวน
3. ในกรณที ี่ปรากฏวา่ ครูประพฤติผิดจรรยาบรรณครู

หรอื ไม่ปฏบิ ตั ติ นตามวินัยหรือหน้าท่ี ซึ่งเป็นความผดิ เล็กน้อยหรอื มีเหตุอนั ควรลดหย่อน ซึ่งไม่ถึงต้องลงโทษตดั
เงินเดือน หรอื ระงับการข้ึนอัตราเงินเดือนประจาปี หรือลดเงนิ เดอื น ถา้ ผู้มีอานาจสั่งลงโทษ หรอื เหน็ สมควรลงโทษ ให้
สั่งลงโทษโดยการตาหนโิ ทษเปน็ ลายลกั ษณ์อกั ษร หรอื ภาคทณั ฑ์ตามควรแกก่ รณี
4. การส่งั ลงโทษตดั เงินเดอื น หรอื การขนึ้ อตั ราเงนิ เดอื นประจาปี หรือ ลด เงนิ เดือน เป็นเวลาไมเ่ กนิ 3 เดอื น

4.1 โทษตดั เงนิ เดอื นไดค้ ร่งึ หนง่ึ ไมเ่ กินร้อยละ 3 ของเงนิ เดือน และเป็นเวลาไมเ่ กนิ 3 เดือน
4.2 โทษระงบั การขึ้นอัตราเงนิ เดอื นประจาปี จะส่งั ลงโทษระงับการขน้ึ อตั ราเงินเดือนปีต่อปี โดยอยู่ใน ดลุ ย
พนิ ิจของผ้บู รหิ าร
4.3 โทษลดเงินเดอื น จะสัง่ ลงโทษลดเงินเดือนได้คร่ึงหนึ่งไม่เกินร้อยละ 3 ของเงนิ เดือน

5. คาสั่งลงโทษทุกกรณี
ใหท้ าเปน็ หนังสอื ตามแบบที่สานักคณะกรรมการการศึกษาเอกชนกาหนด และเมือ่ ได้ส่ังลงโทษประการใดไป

แล้ว ให้แจง้ คาส่งั ลงโทษใหผ้ ู้ถูกลงโทษทราบ และรายงานให้ผรู้ ับใบอนุญาต พร้อมด้วยสาเนาคาสั่งลงโทษภายใน 30 วนั
นับแตว่ ันออกคาสั่ง
หมายเหตุ การลงโทษในกรณีต่างๆ ใหค้ ณะกรรมการบริหารมีสว่ นพิจารณาให้ความเห็นชอบกอ่ นทกุ ครง้ั

หมวดท่ี 11 ระเบียบวา่ ดว้ ยการเลิกสญั ญาจ้าง และค่าชดเชย

1. สญั ญาจา้ งครูหรอื บคุ ลากรทางการศกึ ษาส้ินสุดเมือ่
(1) ตาย
(2) ได้รับใบอนุญาตให้ลาออกโดยแจง้ ตอ่ ผูอ้ านวยการล่วงหนา้ ไม่น้อยกว่า 30 วนั
(3) ถูกส่ังให้ออก
(4) กระทาผิดเงื่อนไขดงั ต่อไปนี้
(4.1) กรณีทคี่ รหู รือบคุ ลากรทางการศึกษาจะไปสมคั รสอบบรรจคุ รูหรอื บคุ ลากรทาง

การศึกษาจะต้องแจ้งใหท้ างโรงเรยี นทราบเป็นลายลักษณอ์ ักษร (โดยความเห็นชอบหรอื ไม่ ของผู้บรหิ าร)
(4.2) ผู้สมัครเป็นครหู รอื บุคลากรทางการศึกษาปดิ บังหรือใหค้ วามเทจ็ ในกรณีปฏิบัติขัดแยง้

กับระเบียบของโรงเรียนท่วี ่าครหู รือบคุ ลากรทางการศึกษาท่ีจะมาสมัครบรรจคุ รทู ีโ่ รงเรียนตอ้ งไม่มชี ่ือขึ้นบัญชบี รรจุไว้
กบั ทางราชการ

(5) พิการหรอื เจบ็ ปว่ ยทาให้ไม่อาจปฏิบตั หิ น้าท่ีของตนได้โดยสม่าเสมอ(ทง้ั น้ีโดยความเห็นชอบจาก
การพจิ ารณาของคณะกรรมการบรหิ ารโรงเรยี น)

(6) อายคุ รบ 60 ปี (ผอู้ านวยการโรงเรยี นอาจพิจารณาว่าใหท้ าหนา้ ท่ีต่อไปได้ไมเ่ กิน 2 ปหี าก
พิจารณาว่าเหมาะสม) กต็ ่ออายกุ ารทางานได้ตามความเหมาะสม(ส่วนค่าตอบแทน)

2. โรงเรยี นหรอื ครหู รือบุคลากรทางการศกึ ษาอาจบอกเลิกสัญญาการเป็นครหู รือบุคลากรทางการศกึ ษาโดย
บอกกลา่ วลว่ งหน้าเปน็ หนังสอื ให้อีกฝา่ ยหนึง่ ทราบในเม่ือถึงหรอื ก่อนจะถึงกาหนดจ่ายเงินเดอื นคราวหน่ึงคราวใด
เพอ่ื ให้เปน็ ผลเลิกสญั ญาเมื่อถึงกาหนดจ่ายเงนิ เดือนคราวถัดไปขา้ งหน้าก็ได้แต่ไมจ่ าเป็นตอ้ งบอกกลา่ วล่วงหนา้ เกินสาม
เดือน

3. โรงเรียนจา่ ยคา่ ชดเชยใหแ้ ก่ครหู รอื บุคลากรทางการศกึ ษาท่ีเลิกสญั ญาการเปน็ ครูหรอื บุคลากรทาง
การศึกษาดังต่อไปน้ี

(1) ครแู ละบุคลากรทางการศึกษาที่ทางานตดิ ตอ่ กนั ครบ 120 วนั แต่ไมค่ รบ 1 ปี จา่ ยใหไ้ มน่ ้อยกว่า
1 เดอื นของเงินเดือนเดือนสดุ ท้าย

(2) ครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ทางานตดิ ตอ่ กันครบ 1 ปีแตไ่ ม่ครบ 3 ปจี า่ ยใหไ้ ม่น้อยกวา่ 3
เดือนของเงนิ เดือนเดือนสุดท้าย

(3) ครแู ละบุคลากรทางการศึกษาท่ีทางานติดตอ่ กันครบ 3 ปี แตไ่ ม่ครบ 6 ปี จ่ายให้ไม่นอ้ ยกว่า 6
เดือนของเงินเดือนเดือนสดุ ท้าย

(4) ครแู ละบุคลากรทางการศึกษาท่ีทางานติดตอ่ กันครบ 6 ปี แตไ่ ม่ครบ 10 ปี จา่ ยให้ไม่นอ้ ยกวา่ 8
เดอื นของเงินเดือนเดือนสดุ ท้าย

(5) ครูและบุคลากรทางการศึกษาท่ีทางานติดต่อกนั ครบ 10 ปีขึ้นไปจา่ ยให้ไม่น้อยกวา่ 10 เดอื น
ของเงนิ เดอื นเดือนสุดท้าย

4. โรงเรยี นจา่ ยคา่ ชดเชยใหแ้ กค่ รูและบุคลากรตามข้อ 4 ในกรณีดงั ต่อไปน้ี

(1) โรงเรียนเลกิ ล้มกจิ การ
(2) โรงเรียนยบุ ชน้ั เรียนหรอื ลดหอ้ งเรียน
(3) โรงเรยี นหยุดกจิ การชว่ั คราว
(4) โรงเรียนบอกเลิกสัญญาโดยทค่ี รูไมไ่ ด้กระทาผดิ
การนบั ระยะเวลาเพ่ือจ่ายคา่ ชดเชยใหน้ บั ต้งั แตว่ นั ทไี่ ด้รับอนุญาตใหท้ าหนา้ ทีค่ รหู รือบรรจเุ ข้าทาการสอน
จนถงึ วนั ทอี่ นญุ าตให้โรงเรียนเลิกล้มกิจการ ยบุ ช้นั เรียน ลดห้องเรียน หรือหยดุ กจิ การช่ัวคราวหรอื วันทเี่ ลกิ สัญญาการ
เป็นครหู รอื บุคลากรทางการศึกษา
5. โรงเรียนไมต่ อ้ งจ่ายคา่ ชดเชยใหแ้ กค่ รหู รอื บุคลากรทางการศกึ ษาซง่ึ เลิกสัญญาการเป็นครู หรือบคุ ลากรทาง
การศึกษาในกรณีหน่ึงกรณีใดดังตอ่ ไปน้ี
(1) ทุจริตต่อหน้าที่หรอื กระทาผดิ อาญาโดยเจตนาแก่ผู้ รับใบอนุญาต
(2) จงใจทาให้โรงเรยี นได้รับความเสียหาย
(3) ประมาทเลินเล่อเปน็ เหตุใหผ้ ูร้ ับใบอนุญาตไดร้ ับความเสียหายอยา่ งร้ายแรง
(4) ฝา่ ฝนื ระเบยี บว่าดว้ ยจรรยามารยาทและวินัยตามระเบียบประเพณีของครูและบุคลากรทางการ
ศึกษาตามที่คุรุสภากาหนด
(5) ฝ่าฝืน ระเบยี บของกระทรวงศึกษาธกิ ารวา่ ด้วยจรรยามารยาทวนิ ัยและหน้าทขี่ องผู้รบั ใบอนุญาต
ผู้จัดการครูใหญ่หรือครูโรงเรียนเอกชนพ.ศ. 2526
(6) ฝ่าฝนื ระเบียบของโรงเรียนหรอื คาส่ังโดยชอบดว้ ยกฎหมายและเป็นธรรมของผรู้ บั ใบอนญุ าตและ
โรงเรียนได้ตกั เตือนเป็นหนงั สือแล้วเว้นแต่ในกรณีทีร่ ้ายแรงผู้รบั ใบอนุญาตไมจ่ าเปน็ ต้องตักเตือน
(7) มคี วามประพฤติไมเ่ หมาะสมแกต่ าแหน่งหนา้ ท่ี
(8) ละท้ิงหนา้ ท่ีเป็นเวลาเจด็ วันติดต่อกนั โดยไมม่ ีเหตุอนั สมควร
(9) ได้รับโทษจาคกุ ตามคาพิพากษาถงึ ทีส่ ุดให้จาคุกเว้นแต่เป็นโทษสาหรบั ความผดิ ท่ีได้กระทาโดย
ประมาทหรือความผดิ ลหุโทษ
6. ครูและบคุ ลากรทางการศึกษาไมม่ สี ทิ ธิไดร้ ับคา่ ชดเชยเพราะเหตุดังต่อไปน้ี
(1) ลาออกโดยสมคั รใจ
(2) ครชู าวต่างชาตทิ ี่ออกเพราะเหตทุ ี่ครบกาหนดตามสัญญาจา้ ง
(3) ออกจากการเป็นครหู รอื บุคลากรทางการศึกษา
(4) ถกู เพิกถอนใบอนุญาตให้เป็นครู
(5) โรงเรียนบอกเลิกสัญญาจ้างเนือ่ งจากไม่ผ่านการทดลองปฏิบตั งิ านตามกาหนดเวลา 120 วนั นบั
แต่วนั ได้รบั อนุญาตการสอนหรืออนญุ าตบรรจเุ พราะเหตุมีความประพฤตไิ ม่ดีหรอื ไม่มคี วามรคู้ วามสามารถทีจ่ ะปฏบิ ัติ
หน้าทีไ่ ดต้ ามทต่ี กลงตามสัญญาจ้าง

หมวดท่ี 12 ระเบียบวา่ ด้วยคา่ ใชจ้ ่ายในการเดนิ ทางไปปฏิบตั ิงานนอกสถานท่ี
1. คา่ ใช้จ่ายในการเดนิ ทาง

การเดินทางไปนอกสถานทม่ี ี 2 ประเภท คอื
1. ในเขตอาเภอเมอื ง จงั หวดั ลาปาง
2. นอกเขตอาเภอเมือง จังหวัดลาปาง และตา่ งจังหวดั

1.1 การปฏบิ ตั ิงานในเขตพื้นท่ีจังหวดั ลาปาง
1. ครูทเี่ ดนิ ทางไปปฏิบตั งิ านนอกสถานที่ในเขตจังหวดั ลาปาง ในวนั ปฏบิ ัตงิ านตามปกติ ไม่ต้องไปลง

เวลาปฏบิ ัตงิ านทโ่ี รงเรยี น แตถ่ ้าไปปฏิบตั งิ านในชว่ งหลงั พักกลางวันต้องไปลงเวลาปฏิบตั งิ านทโ่ี รงเรียน
2. ถา้ สถานท่ีปฏบิ ตั ิงานนั้น มีบริการอาหารกลางวนั หรืองานน้ันเสร็จส้นิ ก่อนอาหารกลางวนั โดยไม่

ค้างคืน ณ สถานท่ปี ฏิบัตงิ าน เบิกค่าเดินทางได้ตามความเป็นจริง ในกรณดี งั กล่าวข้างตน้ ถา้ สถานที่ท่ีไปปฏบิ ตั ิงานนนั้
ไม่ไดบ้ ริการอาหารกลางวัน ให้เบิกคา่ อาหารได้ 50 บาท

3. ครทู ่ีเดินทางไปปฏิบัติงานนอกสถานท่ีในจังหวัดลาปางในวนั หยุดประจาสัปดาห์ หรอื หยุดวนั นักขัต
ฤกษ์และสถานท่ที ี่ไปปฏบิ ัตงิ านน้นั มบี ริการอาหารกลางวัน และไมต่ ้องคา้ งคืน โรงเรียนเป็นค่าพาหนะตามความเป็น
จรงิ คา่ เบย้ี เล้ยี ง 100 บาท

1.2 การปฏบิ ตั งิ านต่างจงั หวัด
1. ครทู เ่ี ดนิ ทางไปปฏบิ ัตหิ น้าทน่ี อกสถานท่ีต่างจงั หวดั ในวันปฏบิ ัติงาน และไม่คา้ งคนื ณ สถานที่

ปฏิบตั ิงานโรงเรียนจ่ายคา่ เบ้ยี เล้ยี ง 100 บาท คา่ พาหนะจ่ายตามความเปน็ จริง
2. ครูที่เดินทางไปปฏิบตั ิหน้าทตี่ า่ งจังหวัด ในวนั หยดุ ประจาสัปดาห/์ วนั หยดุ นักขัตฤกษ์ เบิกค่าใชจ้ ่าย

ในการเดนิ ทาง ดังนี้
2.1 ค่าเดินทาง ได้แก่ ค่าพาหนะต่างๆ จะจ่ายตามความเปน็ จรงิ การเดนิ ทางให้เดินทางโดย รถไฟ

ปรบั อากาศ หรอื รถทัวร์
* คา่ เบย้ี เลีย้ ง วนั ละ 100 บาท
* ค่าทีพ่ ัก จ่ายตามความเป็นจรงิ โดยให้พกั ในท่ที ีเ่ หมาะสม สะดวกในการเข้ารว่ มสมั มนา

2. ขั้นตอนในการเบกิ คา่ ใช้จา่ ยในการเดินทาง
ใหผ้ ชู้ ว่ ยฝา่ ยฯ ทีส่ ง่ บุคลากรไปปฏิบัติงานนอกสถานท่ี เสนอเรื่องอนุมัติ บุคลากร ค่าใช้จา่ ยต่อผู้บริหาร และทา

เรื่องเบกิ จ่ายงบประมาณตามระเบยี บ ตามโครงการทฝ่ี า่ ยธุรการ - การเงิน โดยยื่นล่วงหนา้ อย่างน้อย 3 วนั
ยกเวน้ กรณีเร่งดว่ น เม่ือบุคคลดงั กลา่ วในวรรคต้น ได้เดินทางกลบั มาแลว้ ให้นาหลกั ฐานตา่ งๆ เกีย่ วกับการ

เดนิ ทาง เช่น ใบเสรจ็ ตา่ งๆ แสดงต่อฝา่ ยการเงิน ภายใน 3 วัน นับตงั้ แตว่ ันท่ีเดนิ ทางกลับมาปฏบิ ตั ิงานตามปกติ

3. การเดนิ ทางไปปฏบิ ตั งิ านนอกสถานท่ี โดยรถโรงเรียน หรอื รถส่วนตัว
ในกรณที ่ีครูตอ้ งเดนิ ทางไปติดต่องานหรือไดร้ ับมอบหมายให้ไปดาเนนิ กจิ กรรมต่างๆของโรงเรียนในเขตอาเภอ

เมือง จังหวดั ลาปาง ให้ใชบ้ รกิ ารรถของโรงเรยี น ถา้ ไม่สามารถจะใช้รถของโรงเรียนได้ อาจใชร้ ถสว่ นตวั ท้งั ท่เี ป็นรถจัก
ยานยนต์ รถยนต์ ใหเ้ บกิ ค่าน้ามันรถได้ตามความเปน็ จริง โดยใหค้ รตู ดิ ต่อเบิกค่านา้ มนั จากฝ่ายการเงนิ หลังจากท่ไี ด้รบั
อนุมัติจากผู้บรหิ ารเรยี บรอ้ ยแล้ว

หมวดท่ี 13 ระเบียบว่าด้วยบทบาทและภาระงานของบุคลากรในโรงเรยี น
ผูอ้ านวยการโรงเรียน

บทบาทหน้าทแ่ี ละความรบั ผิดชอบ
1. ควบคมุ ดแู ลรบั ผิดชอบดาเนนิ กิจการของโรงเรยี น และเลิกลม้ กจิ การโรงเรียนใหเ้ ป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ คาสัง่ ประกาศ และนโยบายของทางราชการ
2. ส่งเสริมให้ชุมชนมสี ่วนร่วมในการจดั การศึกษา ตลอดจนให้การสนับสนนุ กจิ กรรมตา่ งๆของชมุ ชน
3. สนับสนนุ และส่งเสริมใหค้ รไู ดร้ บั การพัฒนาตนแบะพฒั นางานอยา่ งต่อเน่ือง

4. สนบั สนนุ ให้มีการเผยแพร่ข่าวสารทางราชการที่เกย่ี วกับสทิ ธแิ ละผลประโยชน์ทผ่ี บู้ ริหาร หรอื ครพู งึ ได้รบั
5. ตอ้ งไม่กระทาการใดๆ อันอาจก่อใหเ้ กิดความเดือดร้อน ราคาญแกผ่ ู้อืน่ ในการดาเนินกิจกรรมของโรงเรยี น
6. เอาใจใสช่ ่วยเหลอื ให้บุคลากรให้ปฏิบตั หิ นา้ ที่อย่างเตม็ ความสามารถ มปี ระสิทธิภาพ มีขวญั กาลังใจ
7. จัดหาอุปกรณก์ ารสอน หนังสือคมู่ ือการสอน การประเมินผลหลักสตู ร เครื่องมือเครื่องใช้ วสั ดคุ รภุ ัณฑ์
ตา่ งๆอยา่ งเพยี งพอ และเอือ้ ต่อการจัดการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ
8 ดแู ลควบคมุ สนับสนนุ ใหม้ ีการซ่อมแซมทรพั ย์สินทต่ี อ้ งใชเ้ กย่ี วกบั กิจการของโรงเรียน รวมทัง้ อาคารสถานท่ี
และอ่ืนๆทีจ่ าเป็น เพอื่ ให้อยใู่ นสภาพที่ใช้การได้ดี เพยี งพอและปลอดภยั
9. ควบคมุ ดูแล และระมดั ระวังมใิ ห้นักเรยี นทะเลาะววิ าท หรือก่อความเดือดร้อน ราคาญแกผ่ อู้ ่นื
10. สง่ เสริมความสมั พันธท์ ี่ดี ความสามคั คี ระหวา่ งบา้ นและโรงเรยี น เพื่อให้การเรียน การพฒั นาผ้เู รียน
ดาเนนิ ไปอย่ามปี ระสทิ ธิภาพ
11. ประพฤตปิ ละปฏิบตั ิตาเปน็ แบบอยา่ งท่ีดีมีคณุ ธรรมจริยธรรมและการครองตนครองคนและครองงาน
12. เป็นผูน้ าในดา้ นการเปลย่ี นแปลง เพ่อื การพฒั นาอยา่ งทันสมยั
13. นิเทศตดิ ตามคุณภาพของครูให้เปน็ ไปตามจรรยาบรรณครอู ยา่ งมีคุณภาพมาตรฐาน
14. เสรมิ สร้างความรกั ความสามคั คีในหมู่คณะ
15. สง่ เสริมสนับสนุน การจดั การศึกษาของโรงเรยี นให้เป็นไปตามนโยบายของโรงเรียน และได้คณุ ภาพ
มาตรฐานการศึกษาของกระทรวงศึกษาธกิ ารกาหนด

ผู้ชว่ ยผ้อู านวยการ
บทบาทหนา้ ทแ่ี ละความรบั ผิดชอบ
1. เป็นท่ีปรกึ ษาของผบู้ รหิ ารเก่ียวกับงานนนั้ ๆ และรว่ มจดั ทาแผนงบประมาณประจาปี แผนปฏิบัตงิ าน

ประจาปี ปฏิทนิ ปฏบิ ัตงิ านประจาปี และเข้ารว่ มประชุม เพื่อตดิ ตามความก้าวหนา้ ของงานบริหาร สัปดาห์ละ 1 ครั้ง
ตามที่กาหนดรว่ มกนั

2. นิเทศ ตดิ ตามผลการปฏิบัตงิ านตามนโยบาย และแผนปฏิบตั ิงานของโรงเรยี น
3. ใหค้ าแนะนาปรึกษาแกบ่ คุ ลากรในฝ่าย และบุคลากรอน่ื ๆอยา่ งสม่าเสมอ และทั่วถึง
4.ส่งเสริมให้บุคลากรในสายงาน สร้างผลงานอยา่ งต่อเน่ือง
5. ประสานงานกับหวั หน้างาน และหน่วยงานอืน่ ๆ เพอื่ ประสิทธภิ าพของการดาเนนิ งาน
6. จัดทาปฏทิ นิ ปฏบิ ตั งิ านประจาปี และปฏิทนิ สายงานท่ีรับผิดชอบ
7. ให้ความร่วมมือ ประชาสมั พันธ์ เผยแพร่ความรู้ และกจิ กรรมของโรงเรียนสู่ชมุ ชน
8. ร่วมวางแผน และจดั ทาแผนงานโครงการประจาปใี นฝา่ ย
9. สรุปผลการนาแผนประจาปไี ปสกู่ ารปฏบิ ัติ เพื่อหาจดุ อ่อน จุดแข็ง ของโรงเรียน รวบรวมปญั หา ขอ้ คิดเห็น
ต่างๆ เพ่ือเป็นแนวทางส่กู ารพฒั นา
10. ปฏบิ ตั หิ น้าท่อี ื่นๆ ตามท่ีได้รบั มอบหมาย

หวั หนา้ งานช่วงชนั้ หมายถงึ หวั หน้างานอนุบาล ( อ.1 - อ.3 )

หวั หน้างานชว่ งชัน้ ประถมศึกษา ( ป.1 - ป.6 )

หวั หนา้ งานชว่ งชน้ั มธั ยมศกึ ษา ( ม.1 - ม.6 )

บทบาทหนา้ ท่แี ละความรบั ผิดชอบ
1. รบั งานต่างๆ จากผู้บริหาร ผูช้ ่วยผบู้ ริหารต่างๆ เพื่อนาไปประสานงานกับครูในช่วงช้ันตามสายงานที่

รับผดิ ชอบ
2. ประสานานตา่ งๆ หรอื รวบรวมขอ้ มูลภายในชว่ งช้นั นาเสนอผูช้ ว่ ยผูอ้ านวยการ ผ้อู านวยการตามลาดับใน

สายงานทีร่ บั ผิดชอบ
3. รว่ มพจิ ารณา ปรึกษาหารือกบั ผ้ชู ว่ ยผอู้ านวยการฝา่ ยต่างๆ ตามความเหมาะสม
4. แนะนาชแี้ จง และใหค้ าปรึกษาแก่ครใู นชว่ งชั้นอยา่ งต่อเนอื่ ง
5. สอดสอ่ งดแู ลคณุ ภาพของครใู นชว่ งชน้ั ให้เปน็ ไปตามนโยบายของโรงเรียน
6. เอาใจใสส่ อดส่องดแู ลนกั เรียนในช่วงชั้นของตนอย่างใกลช้ ิด ใหน้ ักเรยี นมีคณุ ภาพในทุกดา้ นตามนโยบาย

ของโรงเรียน และเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานการศึกษาของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร
7. เสรมิ สร้างความสามคั คี และสง่ เสรมิ ใหค้ รูในชว่ งชัน้ ปฏิบตั หิ นา้ ท่อี ย่างเตม็ ความสามารถ
8. รบั ผิดชอบงานในชว่ งชัน้ ของตนใหส้ าเร็จ และบรรลุตามท่ีได้รับมอบหมาย
9. ประชุมสรุปงาน และเสนอแนวทางในกรพัฒนางานในแตล่ ะช่วงช้นั ทกุ สปั ดาห์ ตรวจสอบงานเอกสาร

ในช่วงช้นั ให้เรียบร้อยถกู ต้อง กอ่ นสง่ ฝ่ายวชิ าการ หรือผู้อานวยการทุกคร้ัง
10. มปี ฏสิ ัมพันธท์ ่ีดตี อ่ ผปู้ กครองในช่วงช้ัน
11. งานอื่นๆ ทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย

หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ : บทบาทหนา้ ที่และความรบั ผิดชอบ
1. ทาการสอนในหมวดวิชาที่รบั ผดิ ชอบอยา่ น้อย 12 คาบ/สัปดาห์ และเป็นกรรมการบรหิ ารหลักสูตรและงาน

วชิ าการของสถานศึกษา
2. ควบคุมและติดตามดแู ลการเรยี นการสอนในกลมุ่ สาระการเรยี นรูข้ องตน ให้ดาเนนิ ตามหลักสตู รและตาม

ระเบยี บของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร
3. รว่ มมอื กบั ฝา่ ยวชิ าการวเิ คราะหแ์ ผนการสอน การใชท้ รัพยากรแหลง่ การเรยี นร้ตู ่างๆ ทั้งในและนอก

สถานศกึ ษา จัดกจิ กรรมเพื่อส่งเสรมิ การเรยี นการสอน และร่วมมือกบอาคารสถานที่จัดบรรยากาศ การเรยี นรู้ในบริเวณ
โรงเรียนตามแต่ละกลมุ่ สาระการเรยี นรู้

4. จัดอัตรากาลังและจัดครเู ข้าสอนวชิ าต่างๆ ในกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ชว่ ยในการจัดตารางสอนมอบหมาย
กจิ กรรมนักเรยี น งานกจิ กรรมพิเศษ งานพิเศษของกลมุ่ สาระการเรียนรใู้ ห้ครูในกลมุ่ สาระการเรียนรู้ร่วมกันปฏิบัติ

5. จัดให้ครูในกลมุ่ สาระการเรียนรู้ทกุ คนมีแผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาทุกรายวชิ า มบี ันทึกหลงั สอนทุกวิชา
มกี ารศึกษาวิเคราะห์จุดประสงค์การเรียนรูร้ ายวชิ าทต่ี นสอน กาหนดเวลาทใ่ี ช้ ลักษณะการประเมนิ น้าหนกั คะแนน
กาหนดจุดประสงคท์ จ่ี ะวัดผลระหวา่ งภาควัดผลปลายภาคจัดใหค้ รผู สู้ อนประเมินผลการเรยี นและจดั สอนซ่อมเสรมิ
ใหแ้ ก่นักเรียนทม่ี ีพ้นื ฐานความรู้ต่าควบคุมและตดิ ตามการเก็บคะแนนระหวา่ งภาคและปลายภาค

6. ช่วยวางแผนงานวชิ าการ วเิ คราะห์นโยบายและมาตรการต่างๆ จัดทาแผนปฏบิ ัติการ กาหนดงบประมาณ
รายจา่ ย ประสานงานดูแลให้มกี ารปฏบิ ัตติ ามแผน และดาเนนิ การใหม้ ีการประเมนิ ผลงานและโครงการตา่ งๆ ตาม
แผนปฏิบัติการของแตล่ ะกลุ่มสาระการเรียนรู้ จดั ทาแผนปฏิบตั งิ านประจาเดือนของกลุ่มสาระการเรียนรู้

7. วเิ คราะห์จุดมุ่งหมายของหลกั สูตร และจดุ ประสงค์การเรยี นรูใ้ นกลุ่มสาระการเรยี นรูท้ ีร่ บั ผดิ ชอบ ตดิ ตาม
ดูแลกิจกรรมเพ่ือพัฒนาการเรียนการสอนใหส้ นองหลักการ และบรรลจุ ุดมุ่งหมายของหลกั สตู ร

8. นิเทศงานวชิ าการในกลมุ่ สาระการเรียนรทู้ ่ีรบั ผดิ ชอบ เพื่อปรบั ปรุงการเรียนการสอนและการใช้วัสดุ
อปุ กรณ์เปน็ สือ่ การเรียนการสอน มีหน้าทน่ี ิเทศติดตามผลการเรยี นการสอน และเอกสารนิเทศร่วมกบั ผู้ช่วย
ผ้อู านวยการฝ่ายวิชาการ

9. จัดทาบัญชีสอื่ การเรียนการสอน วสั ดคุ รุภัณฑ์ หนงั สือ อปุ กรณก์ ารเรียนการสอนของกล่มุ สาระการเรยี นรู้
จดั ระบบการเกบ็ รกั ษา การนาไปใช้ การปรบั ปรุงซ่อมวสั ดุอปุ กรณ์ เพื่อให้อยูใ่ นสภาพที่ใช้การได้อยู่เสมอ หาวิธกี ารใหม่
เทคนิคและสิ่งปะดษิ ฐใ์ หม่ๆด้านการเรียนการสอน (Instruction Aid) หรือโสตทศั นวสั ดุ (Audiovisual Material) มาใช้

10. จัดให้มกี ารพัฒนาครทู างด้านวชิ าการในแตล่ ะกลุม่ สาระการเรียนรู้อยา่ งทั่วถึง เชน่ การแสวงหาแนวทาง
ใหมๆ่ ในการเรียนการสอน นานวตั กรรมทางการศึกษา (Innovation) และเทคนิคสง่ิ ประดิษฐใ์ หม่ๆททางวทิ ยาศาสตร์
(Innotech) มาใชจ้ ดั ให้มรการสร้าง การผลติ หรอื การจดั หา บารงุ รกั ษาและการซ่อมบารงุ วัสดกุ ารเรียนการสอน

11. ดาเนินการให้ครผู ้สู อนในกลุ่มสาระการเรียนร้ทู าการวิเคราะหข์ ้อสอบ เพ่ือปรับปรงุ การเรียนการสอน
ขอ้ สอบท่ที าการวเิ คราะห์และใหเ้ กบ็ เขา้ คลงั ข้อสอบของโรงเรียนทุกรายวิชา

12. ควบคุมและจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน เอสง่ เสริมความรู้ในหลักสูตรให้กว้างขวางย่งิ ขึ้น ส่งเสรมิ ความรู้
ความคิดในด้านวชิ าการโดยใช้วิธีหลากหลาย

13. ตดิ ตาม ดูแลการประเมนิ ผลงานโครงการตามแผนปฏิบัติการของกลุ่มสาระการเรียนรูเ้ มือ่ งานและ
โครงการเสร็จส้ิน

14. จัดให้มีการประชมุ ครใู นกลมุ่ สาระการเรียนรู้ เพื่อแจง้ ข่าวสารหรอื ข้อปฏบิ ตั ิร่วมกันศกึ ษาคน้ ควา้ วเิ คราะห์
วจิ ัยหาแนวทางปรบั ปรุง ข้อบกพรอ่ งในการทางานและงานวิชาการของกลุ่มสาระการเรยี นรกู้ าหนดข้อตกลงแนวทาง
ปฏิบตั ิงาน และติดต่อประสานงานด้านวชิ าการกับหน่วยงานอ่นื ๆ ท้ังภายในและภายนอกโรงเรียน เพ่ือสรา้ ง
ความสมั พันธ์อนั ดีต่อกนั มีสมุดบันทึกรายงานการประชุมตามแบบฟอรม์ ท่ีกาหนดไว้ และสง่ รายงานผชู้ ่วย ผู้อานวยการ
ฝ่ายวชิ าการเมอื่ สิน้ ภาคเรียน

15. ร่วมกบั ครใู นกลุม่ สาระการเรยี นรู้ ประเมนิ คัดเลอื กหนงั สือเอกสารประกอบการเรียนการสอน ก่อนสน้ิ ปี
การศกึ ษา

16. ปฏบิ ัตงิ านอ่ืนๆ ตามทโ่ี รงเรียนมอบหมาย
ครูผ้สู อน : บทบาทหนา้ ท่ีและความรบั ผิดชอบ

1. ศกึ ษาหลักสตู รแกนกลาง วิเคราะห์หลักสูตร และจดั ทาหลักสูตรสถานศกึ ษา
2. วางแผนสร้างหนว่ ยการเรียนรู้ กาหนดกจิ กรรมการเรียนรู้
3. จดั ทาแผนการเรยี นรู้ทเี่ นน้ การพฒั นาเป็นรายบุคคล เปดิ โอกาสให้ผู้เรียนปฏบิ ตั ิจริง แสดงออกอย่างอิสระ
และมีสว่ นร่วมทกุ กจิ กรรม
4. จัดทาและพัฒนาสื่อการเรียนรูใ้ ห้ผ้เู รยี นเกิดการเรียนรู้ท้ังภายในและภายนอกสถานศึกษา จัดหาแหลง่ การ
เรียนรอู้ น่ื ๆ ในชมุ ชน เชน่ หอ้ งสมดุ พิพธิ ภัณฑ์ สวนสาธารณะ แหลง่ ผลติ ศิลปหัตถกรรมพน้ื บ้าน ฯลฯ
5. พัฒนาตนเองให้เป็นบุคคลท่ีใฝ่เรยี นรู้ ทันตอ่ เหตุการณ์
6. เปน็ แบบอย่างทด่ี ี มีคุณธรรมจริยธรรม ปฏิบัติดีต่อเพื่อนครู และนกั เรยี น
7. จัดสภาพแวดล้อมของหอ้ งเรยี นและสถานศึกษาใหเ้ ออ้ื ตอ่ การเรียนรู้ ใหม้ ีบรรยากาศดึงดดู ความสนใจ ทา้
ทายให้ผู้เรียนอยากมีส่วนร่วม
8. จัดการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ท่สี อดคล้องกบั สภาพจริงของผเู้ รยี น โดยประเมินจากการปฏิบตั ิ การ
สังเกต การสมั ภาษณ์ จากแฟ้มสะสมผลงาน ฯลฯ
9. จดั ทาวิจัยในชั้นเรยี น เพอื่ พัฒนาหลกั สตู รและกระบวนการเรียนรู้

10. จัดทาขอ้ มลู ผูเ้ รียนเปน็ รายบคุ คล โดยให้มีการประสานกันระหว่างสถานศกึ ษา บ้าน และชุมชน เพ่ือการ
พฒั นาใหม้ ีคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์

11.ปฏิบัตติ ามระเบยี บข้อบังคับในมาตรฐานวชิ าชีพครู ของกระทรวงศกึ ษาธกิ ารและมาตรฐานการศึกษา
แห่งชาติ

ครูประจาชน้ั : บทบาทหน้าทแ่ี ละความรบั ผิดชอบ
1. ดแู ลการเขา้ แถวของนักเรียนทุกครัง้ ที่มีการเขา้ แถว ก่อนเข้าหอ้ งเรยี น
2. ระหวา่ งการสอนจะต้องดูแลนักเรียนใหอ้ ยู่ในระเบียบวนิ ัยตามความเหมาะสม
3. ปลกู ฝงั ใหน้ กั เรียนรู้จกั ความสะอาด และความเปน็ ระเบียบเรยี บรอ้ ยในการทางาน สมุดงาน หอ้ งเรยี น การ

แต่งกาย และอน่ื ๆ เพ่ือสรา้ งลักษณะนิสยั ทด่ี ีในการดาเนินชีวติ ประจาวัน
4. เข้ารว่ มประชุมตามหมวดวิชา และตามแผนงานต่างๆ ท่ีสงั กดั อยู่
5. ปฏบิ ตั ิตนใหเ้ ป็นแบบอยา่ งท่ดี ีงามแก่นกั เรียน ทง้ั ในด้านความประพฤติ กริ ิยา วาจาและการแต่งกาย
6. จะต้องรายงานให้หัวหนา้ ชว่ งชั้น ผูบ้ รหิ ารโรงเรียนทราบทันที เมื่อมเี หตุการณ์ท่ีอาจเป็นภัยหรอื กอ่ ให้ เกดิ

ความเสยี หายตอ่ นักเรียน ผูป้ กครอง หรือโรงเรยี น
7.รว่ มมือและประสานงานกบั หัวหนา้ งานช่วงชนั้ หวั หน้าฝา่ ยตา่ งๆและปฏิบัติตามคาสงั่ มตขิ องฝา่ ยบริหาร
8. ทาสมุดวดั ผล สมดุ รายงานประจาตัวนักเรยี น และเอกสารต่างๆของฝา่ ยวิชาการให้เรยี บรอ้ ยเปน็ ปัจจบุ นั

และส่งตรงตามเวลาทีก่ าหนด
9. ทาสมดุ ประจาตวั นักเรยี นและส่งให้ผปู้ กครองลงช่ือรบั ทราบเป็นประจา หลังการอบรมทุกครัง้ พร้อมทงั้

รายงานพฤตกิ รรมของนักเรียน
10. อ่านบนั ทึกของครูปะจาวิชาในแต่ละช่วั โมง และตรวจเชค็ การลงลายมือชอื่ ของครูประจาวชิ าในสมุดบนั ทึก

การเขา้ สอนแตล่ ะวนั ก่อนจะนาส่งฝ่ายวิชาการ
11. รบั ผดิ ชอบในการเก็บเงินทกุ ประเภทตามทีโ่ รงเรียนมอบหมายให้
12. รับผิดชอบตรวจเช็ค และใหค้ าแนะนา การจัดทาแฟ้มผลงานนักเรียนทุกคน
13. ตดิ ตามเอาใจใส่อบรมดแู ล นกั เรียนอย่างใกล้ชดิ ท้งั ด้านการเรยี นและความประพฤติ
14. ชว่ ยเหลอื นกั เรียนทเี่ รยี นอ่อน และตดิ ตามผลอย่างใกล้ชิด
15. จดั ทาบนั ทึกสขุ ภาพนักเรยี น และระเบยี นสะสมให้เรยี บร้อย และเป็นปัจจบุ นั
16. ทาบญั ชเี รียกช่อื นักเรียนให้เปน็ ปจั จุบนั ถกู ต้อง สะอาดเรียบรอ้ ย และสง่ ทุกวนั ศกุ ร์ ตดิ ตอ่ ประสานงานกบั

ฝา่ ยวิชาการ ทะเบยี น เมื่อมีการเปลยี่ นแปลงการเข้า - ออก ของนกั เรยี น
17. แจง้ สถติ ิการมา - ขาด ของนักเรียนบนกระดานสถติ ิหน้าหอ้ งทุกเชา้ ไม่เกิน 15 นาที หลังจากเข้าแถวเรียน

แล้ว ครคู วรเป็นผบู้ นั ทึกเอง

งานเทคโนโลยีสารสนเทศ : บทบาทหน้าทแี่ ละความรบั ผิดชอบ
1. บรกิ ารและจัดเตรยี มดา้ นโสตทศั นศึกษาในโอกาสที่มกี ิจกรรมต่างๆ ของโรงเรยี น เชน่ การประชมุ ฝึกอบรม

การเรียนการสอน หรอื การแสดงนิทรรศการ การแข่งขันทางวชิ าการ ฯลฯ
2. ใหค้ าปรกึ ษาแนะนาครูในการใช้เคร่ืองมือโสตทศั นศึกษาอยา่ งถูกต้องและมีประสทิ ธภิ าพ
3. บนั ทึกเสียง ถ่ายภาพ ตลอดจนการจดั เก็บภาพไว้อยา่ งเปน็ ระบบ
4. บารงุ รักษาระบบเครอื่ งเสยี ง อปุ กรณ์โสตทัศนศึกษาและจัดเตรยี มให้พร้อมทจ่ี ะใชไ้ ด้ทกุ เม่ือ
5. จดั ทาสมดุ บนั ทึกการใชโ้ สตทศั นูปกรณ์ และควบคุมดูแลรักษา จดั หอ้ งโสตทัศนศึกษาใหอ้ ยใู่ นสภาพดีเสมอ

6. จัดทาสถิติ ทะเบียนอุปกรณ์โสตทัศนศึกษาทุกอยา่ งใหเ้ ปน็ ปัจจบุ ัน
7. จดั ทาประมาณการ การใช้จ่ายเกี่ยวกบั วัสดอุ ุปกรณ์ เพ่ือเสนอใหผ้ ูอ้ านวยการพิจารณาจดั ซื้อ
8. จัดระบบฐานข้อมูลของสถานศึกษาให้เปน็ ปัจจบุ นั
9. จดั ระบบเครือข่ายข้อมลู สารสนเทศเช่ือมโยงภายในสถานศึกษา
10. พัฒนาบุคลากรผูร้ ับผิดชอบระบบเครือข่ายข้อมลู สารสนเทศใหม้ ีความรูค้ วามสมารถ และทักษะในการ
ปฏิบัติงาน
11. ประสานงานระบบเครือขา่ ยข้อมูลสารสนเทศกับสถานศกึ ษาอืน่ และหน่วยงานตน้ สงั กัด
12. ประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านสารสนเทศ และนาผลการประเมินไปปรบั ปรงุ พัฒนาตอ่ ไป
13. ปฏบิ ตั งิ านอ่ืนๆ ทีไ่ ด้รับมอบหมาย

งานอนามยั : บทบาทหนา้ ท่ีและความรบั ผิดชอบ
1. ให้บรกิ ารปฐมพยาบาลเบื้องต้น และนาส่งโรงพยาบาลตามความเหมาะสม
2. ติดต่อประสานงานกับฝา่ ยสาธารณะสุข และการตรวจสุภาพของนกั เรยี น
3. ดแู ลวสั ดใุ นห้องพยาบาลให้เพยี งพอต่อ การบริการสะดวก สะอาดถกู หลักอนามยั
4. จัดเกบ็ เอกสารข้อมูลต่างๆ ดา้ ยอนามัยโรงเรียน
5. จดั เผยแพรค่ วามร้ดู ้านอนามัยส่วนบคุ คล และอนามัยเพ่ือสว่ นรวม
6. จัดทาสถิติการเข้าใชบ้ ริการหอ้ งพยาบาลใหเ้ ป็นปัจจุบนั
7. จดั ทาข้อมูลนกั เรียนทกุ ระดับชน้ั ตามเกณฑ์มาตรฐานของกระทรวงสาธารณสขุ
8. โครงการอาหารกลางวัน/นม
9. จดั ทาบัญชีพัสดุเวชภณั ฑย์ า
10. เฝ้าระวังลูกนา้ ยงุ ลาย/บอ่ ดักไขมัน
11. งานอนื่ ๆที่ไดร้ บั มอบหมาย

งานแนะแนว : บทบาทหนา้ ที่และความรับผดิ ชอบ
1. ร่วมกับผ้อู านวยการและผู้ช่วยผู้อานวยการฝา่ ยวชิ าการวางแผนการดาเนนิ การแนะแนว
2. ประสานความรว่ มมอื กับผอู้ านวยการ ครู และผเู้ กย่ี วข้องท้ังในและนอกสถานศึกษาในการจัดกิจกรรมแนะ

แนวและบริการตา่ งๆ รวมทั้งกิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี น
3.เปน็ ทป่ี รึกษาแก่ครแู ละผู้เก่ียวขอ้ งทุกคนในการให้ความรู้เทคนคิ กระบวนการแนะแนวตามหลกั จติ วิทยาและ

การแนะแนว
4. เป็นแกนนาใหค้ วามรู้ คาแนะนาแก่ครู ผูป้ กครองและผู้เกีย่ วขอ้ งในการรจู้ กั และเข้าใจนักเรียนดว้ ยวธิ กี าร

ตา่ งๆ เชน่ การใชร้ ะเบียนสะสม การใชแ้ บบทดสอบ การสังเกต การสัมภาษณ์ การเยี่ยมบา้ น ฯลฯ
5. เปน็ ผใู้ ห้คาปรกึ ษาแกน่ ักเรยี นครอบคลุมทงั้ ด้านการเรยี น อาชีพ ครอบครวั และสังคมเปน็ รายกลุ่มและ

รายบคุ คล
6. ใหค้ าปรกึ ษาเปน็ รายบุคคล จดั ทากรณศี ึกษา (Case Study) และประสานงานกบั ผเู้ กยี่ วข้องทัง้ ในและนอก

สถานศึกษา ใหด้ แู ลช่วยเหลือกลมุ่ พิเศษ
7. ประสานงานกับผู้ปกครอง ชมุ ชนในการดูแลชว่ ยเหลือ ส่งเสรมิ และพัฒนาผเู้ รียนตามความถนัด
8. จดั ทาระเบยี นสะสมนักเรียน เพอื่ เป็นขอ้ มลู ในการศกึ ษานักเรยี น
9. จดั ทดสอบความถนดั นักเรียนในด้านต่างๆ เช่น ความถนัดทางการเรยี น และอาชีพ

10. จัดเอกสารแนะแนว จดั นทิ รรศการ บรกิ ารด้านสารสนเทศใหแ้ กน่ กั เรยี น
11. ชว่ ยเหลือหรอื จดั หาทุนการศึกษา/รายได้ให้นักเรียนที่ประสบปญั หาทางดา้ นเศรษฐกิจ
12. จดั แนะแนวนกั เรยี นในการเลอื กเข้าศึกษาต่อและแนะแนวทางการประกอบอาชพี
13. เป็นผรู้ ะสานงานกบั ผูเ้ ก่ียวข้องท้งั ในและนอกสถานศึกษา เป็นระบบเครือข่ายในการดาเนนิ งานแนะแนว
และการดูแลช่วยเหลือนกั เรียน
14. ตดิ ตามผลนักเรียนทจ่ี บการศกึ ษาแล้วในดา้ นการศึกษาตอ่ การประกอบอาชีพและประสบความสาเร็จใน
ชวี ติ
15. ประสานงานกับครูและมีสว่ นรว่ มในการติดตาม และรายงานผลการดาเนนิ งานต่อผู้อานวยการ
16. ประชาสัมพนั ธ์ผลการศกึ ษาต่อในระดับอดุ มศกึ ษาต่อสาธารณะ ตดิ ประกาศผลความสาเร็จในการ
ประกอบอาชีพ หรือความสาเรจ็ ในชีวติ ของศิษย์
17. ปฏิบัตงิ านอืน่ ๆ ตามทโี่ รงเรียนไดร้ ับมอบหมาย

งานห้องสมดุ : บทบาทหนา้ ทแ่ี ละความรับผดิ ชอบ
1. จดั ปฐมนิเทศนกั เรยี นใหม่ เก่ียวกบั การใช้ห้องสมดุ และบรกิ ารของหอ้ งสมดุ
2. ให้ความรว่ มมอื กับฝ่ายวชิ าการในการให้ความรเู้ กยี่ วกับการใช้ห้องสมดุ
3. รว่ มมือกบั ครปู ระจาวิชาในการนานักเรียนใชห้ ้องสมุดเปน็ กลุม่ หรอื เปน็ ชัน้
4. ให้ความชว่ ยเหลือแก่หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้และครู เกีย่ วกบั รายการหนังสอื ใหมท่ ่เี กีย่ วขอ้ งกับ

หลักสูตร
5. ใหบ้ ริการ ยืม - คืน หนงั สือ และวสั ดุเพ่ือการศึกษา แนะนาหนงั สือใหม่ พร้อมท้ังให้บรกิ ารตอบคาถาม

เก่ยี วกับข่าวสาร
6. จดั ทาทะเบียนหนงั สือ จดั หมู่หนังสือ ทาบตั รรายการ จัดทาดรรชนีวารสาร และบัญชีพัสดุหอ้ งสมุด
7. จดั รวบรวมสงิ่ พิมพท์ างวิชาการ เพื่อใชเ้ ป็นเอกสารอ้างอิงสาหรับครู
8. ควบคุมดแู ลการใช้วสั ดอุ ปุ กรณ์ จัดเก็บรักษา ซ่อมแซมหนังสือ สิง่ พมิ พ์ต่างๆในห้องสมุด และการใชบ้ ริการ

ของนักเรยี นใหม้ รี ะบบ ระเบียบ และมีประสิทธิภาพ
9. จดั กจิ กรรมสง่ เสริมการอา่ นใหก้ ับนกั เรยี นภายในและภายนอกโรงเรยี น
10. จดั ทาสถิตขิ อ้ มลู เก่ียวกับการใชบ้ ริการ
11. จดั ประชมุ เจ้าหนา้ ท่ี หรอื ครู ในงานห้องสมดุ เปน็ ประจาสม่าเสมอ
12. สารวจความต้องการของผใู้ ช้บริการ และจัดทาแผนงานหอ้ งสมุด
13. สารวจความคดิ เห็นและประเมนิ ผลการปฏิบัติงานการให้บรกิ ารของห้องสมดุ กับผู้ใชบ้ รกิ าร
14. จัดทางบประมาณประจาปขี องห้องสมุด
15. รายงานผลงานประจาปตี ่อผู้บงั คับบัญชา
16. ปฏบิ ัตงิ านอืน่ ๆ ตามท่โี รงเรยี นได้มอบหมาย

บทบาทผู้ชว่ ยผบู้ ริหาร

1 ฝา่ ยจติ ตาภิบาล
1. งานบรหิ าร
1.1 จัดทาแผนปฏบิ ัตงิ านประจาปีฝ่ายจิตตาภบิ าล/สรปุ ผลการดาเนนิ งานการประชมุ ต่อผ้อู านวยการ
1.2 ประชมุ คณะกรรมการฝ่ายจติ ตาภิบาล
1.3 เข้าประชุมคณะกรรมการดาเนินการบรหิ ารโรงเรยี น เดอื นละ 2 คร้งั ตามทก่ี าหนดไวใ้ นปฏิทนิ

ปฏบิ ัตงิ านประจาปขี องโรงเรียน
1.4 ประชุมครูประจาเดือน ตามกาหนดไว้ในปฏิทนิ ปฏิบัติงานประจาปขี องโรงเรียน

2. งานคาสอน
2.1 สอนคาสอนครูและนักเรียนคาทอลิกสปั ดาห์ละ 1 ครัง้ ตามกาหนดไวใ้ นปฏิทิน
2.2 กิจกรรมยวุ ธรรมทูตและกิจกรรม YCS สัปดาหล์ ะ 1 ครงั้ ตามกาหนดไว้ในปฏิทิน
2.3 กจิ กรรมศาสนสมั พนั ธ์ จัดตามโอกาสที่เหมาะสม
2.4 การแข่งขนั เปดิ พระคมั ภีร์ปลี ะ 1 ครงั้ ตามที่กาหนดการของสงั ฆมณฑลเชียงใหม่
2.5 ฝกึ อบรมการอา่ นพระวาจา / การแบ่งปันพระวาจา 7 ขน้ั ตอน เดือนละ 1 ครั้ง
2.6 ส่งเข้าคา่ ย YCS ระดบั สังฆมณฑลและระดบั ชาติ
2.7 จัดค่ายคาสอนนกั เรียนคาทอลกิ ช่วงเดือนเมษายน ของปี

3. งานศาสนกิจ
3.1 พิธมี ิสซาทุกวนั ศกุ รต์ น้ เดือน/โอกาสพเิ ศษ
3.2 การรับศลี อภัยบาปทกุ วันพฤหสั บดีต้นเดือน
3.3 การซ้อมร้องเพลงศักด์สิ ิทธิท์ ุกวนั ศกุ ร์สปั ดาห์สดุ ทา้ ยของเดือน
3.4 วจนพธิ ีกรรมโอกาสพเิ ศษตา่ งๆ

4. งานฟน้ื ฟจู ติ ใจ
4.1 การฟ้นื ฟูจิตใจและการแสวงบุญของครคู าทอลิกตามท่ีกาหนดไว้ในปฏิทนิ เดือนตุลาคม
4.2 การฟ้ืนฟจู ิตใจนักเรียนคาทอลิกระดับประถมศึกษา เดือนสงิ หาคม ระดับ มธั ยมศึกษา

เดือนกนั ยายน และระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย เดอื นพฤศจกิ ายน
5. งานสรา้ งบรรยากาศในสถานศึกษา โอกาสวนั สาคัญทีเ่ ก่ียวขอ้ งกับศาสนา
5.1 เปิดเพลงศักดสิ์ ทิ ธิ์ ก่อนเคารพธงชาติ
5.2 สมโภชพระหฤทัย (19 มถิ นุ ายน)
5.3 กิจกรรมวนั ครสิ ต์มาส (14 – 24 ธันวาคม)
6. จดั กิจกรรมวนั ฉลองนักบุญท้ังหลาย
6.1 ฉลองแมพ่ ระประจักษแ์ หง่ ลรู ์ด (11 กมุ ภาพันธ)์
6.2 ฉลองบุญราศี นโิ คลาสบญุ เกดิ กฤษบารุง (5 มกราคม)
6.3 วันกตัญญตุ าคุณพอ่ เอเทียน กรางซ์ (2 พฤศจิกายน)
6.4 ฉลองนกั บุญมักดาเลนา เดปสั ซี (25 พฤษภาคม)
6.5 ฉลองนกั บญุ เทเรซา แห่งพระกุมารเยซู (1 ตุลาคม)

7. งานแพรธ่ รรม
7.1 จัดบอรด์ ความรู้ ทกุ สัปดาห์
7.2 การสอนคาสอนแกผ่ ู้ที่สนใจ
7.3 จดั มมุ ศึกษา ค้นควา้ ในหอ้ งศาสนสัมพันธ์
7.4 จดั ฉายภาพยนต/์ การ์ตนู เกย่ี วกับศาสนาในหอ้ งจติ ตาภบิ าลชว่ งพกั กลางวัน
7.5 จดั ฉายภาพยนต์เน่ืองในวันสาคัญต่างๆ ทางศาสนาในห้องประชมุ
7.6 ติดพระวาจาทางชีวติ ตามสถานที่ตา่ งๆ เหมาะสมกบั สถานการณ์

8. งานสงั คมสงเคราะห์
8.1 กจิ กรรมรัก เสยี สละ แบ่งปนั
8.2 กิจกรรมจติ อาสา
8.3 กจิ กรรมธารนา้ ใจแก่ผยู้ ากไร้และด้อยโอกาส
8.4 สมั ผัสชีวิตชมุ ชน

2 ฝ่ายบรหิ าร
1. งานธุรการ – การเงนิ
1.1 จดั ทาแผนงานโครงการพฒั นางานธรุ การ – การเงิน
1.2 การประชุมคณะกรรมการบรหิ ารโรงเรียนและคณะกรรมการภาคี 4 ฝ่าย
1.3 รับเงินค่าธรรมเนียมการเรยี น เงนิ อดุ หนนุ เงินรายไดอ้ ื่นๆ เขา้ บญั ชี เงินฝากธนาคาร
1.4 จา่ ยเงินคา่ ยใช้จ่ายตา่ งๆ ตามท่ีได้รับอนุมตั ิใหจ้ า่ ย พร้อมเกบ็ หลกั ฐานจากผูร้ บั เงินทุกครั้ง
1.5 บันทกึ บัญชีรายรบั – รายจ่าย ประจาวนั
1.6 สรุปรายรบั – รายจา่ ย เสนอผบู้ รหิ ารทุกวัน
2. งานสารบรรณ
2.1 จดั ทาหนังสอื ติดต่อกับหน่วยงานภายนอก ลงทะเบียนหนงั สอื ออกให้เป็นปัจจบุ นั
2.2 ลงทะเบยี นรบั หนงั สือเขา้ ให้เป็นปัจจุบัน สาเนาหนังสอื ใหผ้ ูเ้ กี่ยวข้องตามหนงั สอื เขา้ เพื่อทราบ

และถือปฏบิ ัตติ ามกาหนดเวลา
2.3 จัดทา คาส่งั ประกาศ ของโรงเรียน และเก็บรวบรวมคาสัง่ ตา่ งๆ อย่างเป็นระบบ
2.4 จัดทาหนังสอื ประสานงานภายในหนว่ ยงาน การนดั หมายและอืน่ ๆ

3. งานข้อมูลสารสนเทศ
3.1 จัดทาตาราง สถติ ิ ขอ้ มูลต่างๆ ของโรงเรยี น ได้แก่
3.1.1 ข้อมลู ครแู ละบุคลากร
3.1.2 ขอ้ มลู นักเรยี น ข้อมลู ห้องเรียน
3.1.3 ขอ้ มลู นกั เรยี นออกกลางคัน
3.1.4 ข้อมลู นักเรียนท่สี าเรจ็ การศึกษา
3.2 บันทึกรายชอ่ื ผบู้ ริหาร ครู บคุ ลากรทางการศกึ ษา และนกั เรียนลงในระบบ PSIS (รายงาน วันที่

10 มิถนุ ายน และ วันท่ี 10 พฤศจิกายน ของทุกป)ี
4. งานพัสดุ ครภุ ณั ฑ์
4.1 จดั ซ้ือ จัดหาพสั ดุ ครุภัณฑ์
4.2 จดั ทาทะเบียนเบกิ จ่ายพัสดคุ รุภณั ฑ์

4.3 จดั ทาทะเบียนวสั ดุ ครุภณั ฑ์
4.4 ให้บรกิ ารเบกิ จ่ายวสั ดุ ครุภณั ฑ์ แก่ครแู ละบุคลากรทางการศึกษา
5. งานประชาสัมพันธ์
5.1 ประชาสมั พันธโ์ รงเรยี นในทุกมิติ วารสาร แผ่นพับ วีดีโอ รูปภาพถ่าย ป้ายไวนิลต่างๆ และ
ประชาสัมพนั ธ์ลงใน เว็บไซด์ ของโรงเรยี น
5.2 จดั ทาวารสาร อรุณกานต์
6. งานสวัสดิการ
6.1 บรกิ ารจัดทาเอกสารเบิกเงินคา่ การศกึ ษาบุตรครู บุคลากร พนักงาน
6.2 จดั ทาเอกสารเบกิ เงนิ คา่ รักษาพยาบาลครู บุคลากรทางการศึกษา
6.3 จัดทาหนงั สือสง่ ตัวครูเข้ารักษาในโรงพยาบาล (คนไข้ใน)
6.4 บรกิ ารเอกสารสาคญั อ่ืนๆ แก่ครู บคุ ลากรทางการศึกษา ตามทรี่ ้องขอ
6.5 จดั สวัสดิการอ่นื ๆ ตามโอกาสและความเหมาะสม
7. งานบรกิ ารทัว่ ไป
7.1 บริการถ่ายเอกสาร
7.2 บรกิ ารยานพาหนะ
7.3 งานรถโรงเรยี น ดแู ล บารุงรกั ษายานพาหนะ

3. ฝ่ายวิชาการ
1. งานครูประจาชน้ั
1.1 ดูแลเอาใจใสน่ ักเรียนเก่ียวกบั กฎ ระเบยี บวินยั ของโรงเรียน เช่น การเข้าแถวเคารพธงชาติ การ

เดนิ แถวขนึ้ หอ้ งเรยี น การซ้ือส่งิ ของ การซื้ออาหาร เปน็ ต้น
1.2 ให้ความรู้ แนะนาในเรือ่ งกิริยามารยาทตา่ งๆ เชน่ มารยาทในการอยรู่ ว่ มกับผู้อนื่ มารยาทในการ

รบั ประทานอาหาร การใชห้ ้องน้า หอ้ งสว้ ม มารยาทในการเดนิ ขึ้นลงบันได เป็นต้น
1.3 กาหนดเรื่อง การทาความสะอาดหอ้ งเรียน จัดตารางเวร แนะนาเรอ่ื งความรบั ผดิ ชอบ
1.4 แนะนา การดูแลและรักษาสมบัติของโรงเรยี น การประหยดั พลังงาน น้า ไฟฟ้า
1.5 จัดทาสมุดบันทึกการสอนรายชวั่ โมง เอกสารประจาชั้น เอกสารที่เก่ยี วขอ้ งกบั นักเรียน
1.6 แนะนา การจดั เกบ็ หนงั สอื เรยี น อุปกรณ์ในห้องเรียนให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
1.7 แตง่ ต้ังหวั หน้าหอ้ ง รองหวั หนา้ ห้อง ให้ความรู้บทบาทภาวะผ้นู า ภาวะผตู้ าม
1.8 เป็นทปี่ รึกษาให้นกั เรียนในทกุ ๆด้าน ดูแลนักเรยี นตามระบบดูแลชว่ ยเหลอื นกั เรยี น
1.9 ประสานงานกับผูป้ กครองอย่างสมา่ เสมอ และใหข้ ้อมูลเชิงพัฒนาร่วมกับผ้ปู กครอง
1.10 ประสานงานกบั ฝา่ ยอ่ืนๆ ในโรงเรยี น เพ่ือให้ไดข้ ้อมลู ในการพฒั นานักเรยี น
1.11 สรปุ รายงานผลการดาเนนิ งานครปู ระจาชั้น ประจาปีการศึกษา

2. งานหัวหนา้ งานวิชาการ ระดบั ชั้น
2.1 จัดทาตารางเรียนของแต่ละหอ้ งเรยี นในระดับชั้น
2.2 จัดทาตารางสอนของครใู นระดับช้ัน
2.3 ทดสอบความสามารถในการอา่ นภาษาไทย ภาษาองั กฤษ
2.4 จดั สอนแทนในระดบั ชนั้ เมอ่ื มีครูในระดบั ช้ัน ลา

2.5 ตรวจสอบเอกสารวิชาการในระดับช้นั เช่น แบบบนั ทกึ รายคาบ ปพ.5 ปพ.6 แผนการจัดการ
เรียนรู้ หรือ เอกสารที่เกีย่ วข้อง

2.6 ตดิ ตาม รวบรวมเอกสารทางวชิ าการ ส่งฝ่ายวิชาการตามกาหนดเวลา
2.7 กากบั ติดตาม ดูแล ใหค้ าแนะนา ช่วยเหลือ และรว่ มแก้ปัญหาท่เี กดิ ขึ้นกบั ครูในระดับชัน้
2.8 สรปุ และรายงานผลการดาเนนิ งาน หัวหน้าระดบั ชนั้ ประจาปกี ารศึกษา
3. งานทะเบียนและงานวัดผล ประเมินผล
3.1 จัดทา ตรวจสอบเอกสาร ข้อมูลนักเรยี น
3.2 ตดิ ตาม การจดั ทาทะเบียนนกั เรยี นในระดับช้ัน ให้ครบทกุ หอ้ ง
3.3 จัดทาฐานข้อมลู นกั เรยี นลงโปรแกรมในระบบ
3.4 จัดทาเอกสารทางการเรยี นของนักเรียน แสดงผลการเรียน แสดงการจบการศึกษาในแตล่ ะปี
ตลอดจนนักเรียนท่ลี าออกระหว่างปี
3.5 จดั ทาแบบรายงานข้อมลู นกั เรียนชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 บนั ทึกในโปรแกรม GPA ของ สช.
3.6 รบั ผิดชอบ จัดเกบ็ รักษาเอกสารหลักฐาน ผลการเรยี นของนักเรียน
3.7 จดั ทาทะเบียนนักเรียน เขา้ ออก ให้เปน็ ปัจจบุ นั
3.8 รบั ผดิ ชอบ จดั เกบ็ รักษาเอกสารหลกั ฐาน ผลการเรยี นของนักเรียน
3.9 จัดเตรยี มนักเรยี นในการสอบ O-NET
3.10 ติดตามผลการเรียนของนกั เรียน ร่วมกบั ครปู ระจาช้ัน หวั หนา้ ระดบั ชนั้ ในการแก้ปญั หาผลการ
เรียนของนักเรยี น
3.11 จัดทาหลกั ฐานข้อมูลผลการเรยี นของนักเรียนทุกคน บนั ทึกในโปรแกรมของนักเรียน
3.12 ตรวจสอบวุฒิของนกั เรยี น ให้ถูกต้อง
3.13 จดั ซ้ือ เอกสารหลักฐานทางการศกึ ษา
3.14 ติดตาม การวดั และประเมินผลการเรยี น ใหเ้ ป็นไปตามระเบยี บการวัดและประเมินผล
3.15 ใหค้ วามรู้ ความเขา้ ใจ การวัดและประเมินผลตามสภาพจรงิ
3.16 การติดตาม แก้ไขผลการเรียนของนักเรียนท่ตี ดิ 0 ร มส.
3.17 ประสานงานร่วมกบั ฝ่ายวิชาการ ใหก้ ารดาเนินงานการวัดและประเมนิ ผล เปน็ ไป อยา่ งมี
ประสิทธภิ าพ
3.18 สรุป รายงานผลการดาเนินงานวดั และประเมนิ ผลประจาปกี ารศกึ ษา
4. งานห้องสมดุ
4.1 ศึกษาและวางแผนในการพฒั นางานห้องสมุด
4.2 สารวจความต้องการหนังสือ เม่อื สิ้นปีการศึกษา และจัดทาโครงการจัดซื้อ จัดหาหนังสอื ในปี
การศึกษาต่อไป เสนอผบู้ ริหาร เพอ่ื ดาเนนิ การ
4.3 จัดระบบการยืมหนังสือ การรักษาหนังสือของห้องสมุด
4.4 จดั ทาทะเบยี นหนงั สอื ให้มีเลขกากบั สามารถสบื ค้นหาไดอ้ ยา่ งรวดเร็วและสะดวก
4.5 จัดทาสถติ ิหนังสือในหอ้ งสมดุ แยกตามหมวดหนังสอื
4.6 จัดทาผงั แสดงแหล่งหนังสอื แตล่ ะประเภทไว้ใหช้ ดั เจน
4.7 จัดทาสถติ กิ ารใชห้ อ้ งสมุด เปรียบเทยี บ 5 ปีติดตอ่ กัน โดยจัดทาเป็นกราฟ
4.8 จดั ทาสถิติการยมื หนังสอื หอ้ งสมุด เปรียบเทยี บ 5 ปีติดตอ่ กัน โดยจัดทาเป็นกราฟ
4.9 ติดตามหนงั สือท่ีคา้ งสง่


Click to View FlipBook Version