The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ม- 2 2ดารเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kantima2511, 2022-01-16 02:04:30

ม 2 การเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก

ม- 2 2ดารเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก

~5~

บตั รเน้อื หาท่ี 1.1
สวนประกอบและโครงสรา งของโลก

สวนประกอบของโลก

โลกของเราประกอบดวย 4 สวนใหญ ๆ ไดแก ธรณภี าค อุทกภาค ชวี ภาค และบรรยากาศ
ระบบทงั้ 4 มคี วามสมั พันธก ันอยางตอ เนอ่ื งตงั้ แตอดตี จนถึงปจจุบนั

1. ธรณภี าค (lithosphere) 2. อทุ กภาค (hydrosphere)
ไดแ ก สวนทีเ่ ปน ดิน หิน แร ไดแ ก สวนท่เี ปน นา้ํ

สวนประกอบของโลก

4. บรรยากาศ (atmosphere) 3. ชีวภาค (biosphere)
ไดแก สวนท่เี ปน อากาศ ไดแ ก สว นทเ่ี ปน สิง่ มีชวี ิตตาง ๆ

ความสมั พนั ธข องระบบตาง ๆ ของโลก
ที่มา : www.slideshare.net

~6~

โครงสรางของโลก

โครงสรา งของโลก
ท่มี า : sites.google.com

นักธรณีวิทยาไดแ บงลกั ษณะโครงสรา งของโลกออกเปน 3 ช้ัน ดังน้ี ช้ันเปลอื กโลก (crust)
ชน้ั เนื้อโลกหรอื แมนเทิล (mantle) และชั้นแกน โลก (core)

ช้นั ตาง ๆ ของโลก บรเิ วณทีพ่ บ และความหนา สวนประกอบหรือลกั ษณะสําคญั

1. ชัน้ เปลือกโลก - ชัน้ นอกสดุ ของโลก เปนเสมือน - สว นทอ่ี ยภู ายนอกทเี่ ปนแผนดนิ
(crust) ผวิ ดานนอกที่ปกคลมุ โลก และน้ํา
แบง เปน 2 สวน
ดงั นี้ - หนาประมาณ 6 – 25 กิโลเมตร - สวนทีเ่ ปน หนิ แขง็ ซึ่งฝงลึกลงไปใต
ผิวดิน และผวิ น้าํ

1.1 เปลอื กโลกสว นบน - ตั้งแตผ ิวเปลือกลงไป ไดแ ก - สว นใหญเ ปนหนิ ไซอัล (Sial)

1. เปลอื กโลกภาคพนื้ ทวปี ซ่ึงเปน หินแกรนิต

(Continental Crust) หมายถึง - สว นทเี่ ปน ทวปี สวนใหญป ระกอบ

สว นทเี่ ปน แผน ดินทงั้ หมด ดวยธาตซุ ิลิคอน (Si) และ

2. เปลือกสมุทร (Oceanic อะลูมเิ นียม (Al)

Crust)

1.2 เปลอื กโลกสว นลาง - ถัดจากเปลอื กโลกสวนบนลงมา - เปนหินไซมา (Sima) ซ่งึ เปนหนิ

หรือเปลือกโลกใตมหาสมทุ ร บะซอลด อยตู ามเปลอื กโลกในสวน

หมายถงึ เปลือกโลกสว นท่ีถกู ที่เปนทองมหาสมทุ ร และรองอยใู ต

ปกคลุมดว ยนาํ้ หินไซอลั ประกอบดว ยธาตุซลิ คิ อน

(Si) และแมกนเี ซยี ม (Mg)

~7~

ชั้นตาง ๆ ของโลก บรเิ วณท่พี บ และความหนา สวนประกอบหรือลกั ษณะสาํ คญั

2. ช้นั เนื้อโลก - อยูถ ดั จากเปลือกโลกลงไปจนถงึ - สว นมากเปนของแขง็

หรอื แมนเทิล แกนโลก - ประกอบดว ยหนิ ตาง ๆ เขน

(mantle) - หนาประมาณ 3,000 กโิ ลเมตร หินเพรโิ ดไทด (Peridotile) หนิ อคั

แบง เปน 2 สวน ตราเบสกิ (Ultrabasic) ซึ่งเปนหิน

ดงั นี้ อคั นีชนดิ หนึ่ง

- ประกอบดว ยธาตซุ ิลกิ อน (Si)

เหลก็ (Fe) และอลูมเิ นยี ม (Al)

2.1 เนอ้ื โลกสว นบน - ชั้นเน้ือโลกสวนบนกบั ชั้นเปลือก - เปน หินที่เย็นตวั แลว และบางสวนมี

โลก รวมตัวกันเรียกวา “ธรณี รอยแตก เนอื่ งจากความเปราะ

ภาค” (Lithosphere) แปลวา - เปน ชนั้ ของหนิ หลอมละลายรอ น

ชัน้ หนิ หรือ หินหนดื ทเ่ี รียกวา แมกมา ซง่ึ

- มคี วามหนาประมาณ 100 หมนุ วนอยภู ายในโลกอยางชา ๆ

กิโลเมตร นบั จากผิวโลกลงไป

2.2 เน้อื โลกสว นลา ง - ชน้ั เน้อื โลกถดั ลงไปเรียกวาชนั้ - เปน ช้นั ของหนิ หลอมละลายรอน

“ฐานธรณภี าค” หรอื หนิ หนดื ทเี่ รียกวา “แมกมา”

(Asthenosphere) ซึ่งหมนุ วนอยูภายในโลกอยา งชา ๆ

- ท่คี วามลกึ 100 – 350 - ชัน้ เนอ้ื โลกท่ีอยูถัดลงไปอีกเปน ช้ัน

กโิ ลเมตร ลางสดุ อยทู ่คี วามลึกตง้ั แต 350 –

2,900 กิโลเมตร เปนช้นั ท่เี ปน

ของแข็งรอ นแตแ นน และหนดื

กวา ตอนบน มีอณุ หภมู สิ ูงตัง้ แต
ประมาณ 2,250 – 4,500 ๐C

3. ช้ันแกนโลก (core) - ชน้ั ในสุดของโลก - มคี วามหนาแนนมาก

แบงออกเปน 2 สวน - หนาประมาณ 3,440 กโิ ลเมตร - สว นใหญป ระกอบดว ยธาตุเหล็ก

คอื (Fe) และนเิ กิล (Ni)

- มที ้งั สว นทีเ่ ปนของแขง็ และ

ของเหลว (หนิ หนืด)

3.1 แกนโลกชนั้ นอก - อยูลึกจากผิวโลกประมาณ - เปนช้นั ของเหลวรอน อุณหภมู ิ
ประมาณ 2,200 ๐C
(Outer Core) 2,900 – 5,000 กิโลเมตร

- ความหนาแนน สมั พทั ธ ประมาณ

12.0

- ประกอบดว ยสารเหลวของโลหะ

เหลก็ และนิเกลิ

3.2 แกน โลกช้ันใน - อยถู ดั จากแกนโลกชนั้ นอกจนถงึ - อยใู นสภาพของแข็ง เนอ่ื งจากมี

(Inner Core) จดุ ศนู ยกลางของโลก ความดัน และอณุ หภูมสิ งู มาก
ประมาณ 5,000 ๐C

~8~

บัตรกิจกรรมท่ี 1.1
สวนประกอบและโครงสรา งของโลก

คําชแ้ี จง ใหน กั เรียนปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตามบตั รกจิ กรรม บันทกึ ผลกิจกรรม วิเคราะหผล
และสรุปผลการทํากจิ กรรมเกี่ยวกบั สวนประกอบและโครงสรางของโลก

กิจกรรมเรอื่ ง ชวยกนั สรางโลกและสวนประกอบของโลก

วสั ดุ – อปุ กรณ
1. ดินนาํ้ มันสตี าง ๆ
2. มดี คัตเตอร

ข้นั ตอนการทาํ กจิ กรรม
1. ใหนกั เรียนแบงกลุม
2. ใหนกั เรียนในแตล ะกลุม จดั เตรียมดินนํา้ มนั สตี าง ๆ สาํ หรับใชทําชน้ั ตาง ๆ
ของโลก
3. ใหนักเรยี นในแตละกลุมปนดนิ นา้ํ มัน และตกแตงดินน้าํ มันใหส วยงามตามความคิด
ของนักเรียน เพอื่ ใหไ ดล ูกโลกที่ประกอบดวย ชั้นเปลอื กโลก ชั้นเนอื้ โลก
และชนั้ แกนโลก
4. ตัดลกู โลกที่ทาํ ขน้ึ จากผิวภายนอกเขาไปภายในขนาด ¼ ของลกู โลก
5. บันทกึ ผลการทาํ กจิ กรรม และวาดภาพประกอบ
6. อภิปรายรว มกนั ภายในกลุมเกย่ี วกบั สวนประกอบ ความสําคัญ และความแตกตาง
ของชน้ั ตา ง ๆ ของโลก
7. นาํ เสนอขอมูลและลกู โลกทจี่ ดั ทําขึ้นในชน้ั เรียน
8. ใหนักเรยี นแตล ะคนตอบคําถามทายกจิ กรรม

~9~

บัตรบันทกึ กิจกรรมท่ี 1.1
สวนประกอบและโครงสรา งของโลก

สมาขกิ ในกลุม
1. .................................................................................... ประธาน
2. .................................................................................... รองประธาน
3. ....................................................................................
4. ....................................................................................
5. ....................................................................................
6. .................................................................................... เลขา

กิจกรรมเร่อื ง ........................................................................................................................................
จุดประสงค ........................................................................................................................................
ปญหา ........................................................................................................................................

........................................................................................................................................
สมมติฐาน ........................................................................................................................................

........................................................................................................................................
บันทึกผลการทาํ กจิ กรรม

สรปุ ผลการทาํ กิจกรรม
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................

~ 10 ~

คําถามทายกิจกรรมที่ 1.1

คาํ ชีแ้ จง จงนําตวั อักษรหนาขอ ความทางขวามอื มาเติมลงใน  หนาขอ ความทางซายมอื ที่มี
ความสัมพนั ธก ัน

1. เสน ผานศนู ยกลางโลกในแนวด่ิง ก. แกนโลกชน้ั ใน
ข. 12,755 กิโลเมตร
2. พ้นื ผวิ โลกสวนทเี่ ปน พ้ืนดิน
ค. แมนเทลิ
3. สวนทีเ่ ปน ช้นั นอกสดุ ของโลก ง. 71% ของพ้ืนผวิ โลก

4. หนิ ไซมาซงึ่ ประกอบดวยสารประกอบซลิ ิกอล จ. แกนโลก
และแมกนเี ซยี ม ฉ. เปลอื กโลกสวนบน
ช. 12,711 กโิ ลเมตร
5. ช้นั ของโลกท่ีอยูถัดจากเปลอื กโลก หนา
ประมาณ 3,000 กโิ ลเมตร ซ. 1 ใน 4 ของพ้นื ผวิ โลก
ฌ. เปลอื กโลกช้นั ลาง
6. ชัน้ ของโลกที่มสี ถานะเปนของเหลว ญ. แกน โลกชั้นนอก
ประกอบดว ยธาตุเหลก็ และนิเกิล
ฎ. เปลอื กโลก
7. ชั้นในสดุ ของโลกทีม่ ีความหนาประมาณ
3,440 กโิ ลเมตร

8. ชั้นของโลกที่มีความหนาแนนมากที่สุด

9. ช้ันของโลกทีเ่ รียกวา เปลอื กทวีปและเปลอื ก
สมุทร

10. เสน ผานศูนยกลางของโลกในแนวนอน

เกณฑก ารใหค ะแนน
ตอบถกู 1 ขอ ได 1 คะแนน
คะแนนที่ได................คะแนน
(ลงชื่อ).................................ผูป ระเมนิ

ชือ่ ................................................................เลขที่...............ชัน้ มัธยมศกึ ษาปท่ี 2

~ 11 ~

บัตรเนื้อหาท่ี 1.2
แผนเปลอื กโลก

เปลือกโลกมลี ักษณะเปน แผน หินแข็งตอ กนั เหมือนกบั ภาพตอ (Jigsaw) ขนาดใหญ ซง่ึ มอี ยู
ประมาณ 13 แผน แตละแผน เรียกวา “แผนเปลือกโลก” (Plate)

แผน เปลือกโลกทอี่ ยูใตทะเล หรือ มหาสมทุ รเรยี กวา “แผนมหาสมทุ ร” (Oceanic plate) จะมี
ความหนานอยกวาแผน เปลอื กโลกทอ่ี ยูใตท วปี ทเี่ รียกวา “แผนทวีป” (Continental plate)

การแบงแผนเปลือกโลกขนาดใหญ
ท่มี า : www.manager.co.th

การแบง แผน เปลือกโลกขนาดใหญ

1. แผน อเมรกิ าเหนือ 8. แผนโคคอส

2. แผนนาซคา 9. แผนแปซฟิ ก

3. แผนแอนตารก ตกิ 10. แผนสคอเทยี

4. แผน อเมรกิ าใต 11. แผน แครเิ บยี น

5. แผน ยูเรเซยี น 12. แผนอะราเบียน

6. แผนแอฟรกิ ัน 13. แผน ฟลปิ ปนส

7. แผน อินโดออสเตเลยี น

~ 12 ~

การเคลอื่ นที่ของแผนเปลือกโลก
อลั เฟรด เวเจเนอร (Alfred Wegener) นักวทิ ยาศาสตรช าวเยอรมัน กลาววา เมื่อประมาณ

เกือบ 200 ลานปม าแลว ทวีปตาง ๆ เคยอยูรวมกนั เปนทวีปใหญเพียงทวปี เดียวเรยี กวา “พนั เจีย”
(Pangea) ตอมาเม่อื ประมาณ 60 ลา นปท ผ่ี านมา แผน ดนิ แยกจากกันมากขึ้นจนเห็นเปน ทวปี ตาง ๆ
เกอื บใกลเ คียงกบั ปจ จบุ ัน

โลกเมอื่ ประมาณ 200 ลานปกอ น โลกเม่อื ประมาณ 60 ลานปก อน
ท่ีมา : portal.edu.chula.ac.th ท่มี า : www.l3nr.org

โลกปจจุบันประกอบดว ย 7 ทวีป
ไดแ ก แอฟริกา อเมรกิ าใต เอเชยี ยโุ รป แอนตารก ติก ออสเตรเลีย อเมริกาเหนือ

โดยมีทะเล และมหาสมุทรค่ันระหวา งทวีป ยกเวน ทวปี อเมริกาเหนือตอ กบั อเมริกาใต
และทวีปยุโรปตอ กบั ทวีปเอเชีย

ลกั ษณะการเคลอ่ื นทขี่ องแผนเปลือกโลก
ลักษณะการเคลอ่ื นท่ีของแผนเปลอื กโลก มีรูปแบบการเคลอ่ื นที่ 3 แบบ ดังนี้

แยกออกจากกัน ชนกัน รอยเลอ่ื น

ทม่ี า : portal.edu.chula.ac.th

1. แผนเปลือกโลกเคลือ่ นทีแ่ ยกออกจากกัน (divergent boundary) เกิดข้นึ บรเิ วณ

มหาสมทุ รมากกวา พ้ืนทวีป เพราะพนื้ มหาสมทุ รจะบางกวาพื้นทวีปทําใหแ มกมาจะพยายามดันตวั ออกมา

ตามรอยตอแผนเปลอื กโลกไดงา ยกวา เชน รอยตอของแผน อเมริกาเหนือกบั แผน ยเู รเชยี

2. แผน เปลอื กโลกเคลือ่ นทีเ่ ขาหากนั (convergent boundary) กรณที ่ีเปน แผน เปลือกโลก

พ้นื มหาสมทุ รชนกันจะเกดิ แผนดนิ ไหวในมหาสมทุ ร ถาแผนเปลอื กโลกเกิดการซอนเกยกัน มีโอกาสทาให

เกิดคล่ืนยกั ษซ ึนามไิ ด กรณแี ผนเปลอื กโลกพืน้ มหาสมุทรชนกบั แผนพ้ืนทวปี แผนพ้ืนมหาสมทุ รจะมุดตวั ลง

ใตแผน พ้นื ทวีป จงึ เกดิ แนวสันเขาหรือเทือกเขาได และอาจเกดิ ภูเขาไฟได กรณแี ผนพ้ืนทวีปชนกันเอง เชน

แผนออสเตรเลยี ที่ชนกบั แผนยูเรเชีย พ้ืนดินจะถกู อดั และเกดิ การโกง ตวั ข้ึน กลายเปนแนวเทือกเขา เชน

เทือกเขาหมิ าลยั

3. แผนเปลอื กโลกเคลอ่ื นทส่ี วนทางกัน (transform boundary) การเคล่ือนท่ีสวนทางกันจะ

ทาํ ใหเกดิ รอยเปนแนวยาวขนาดใหญ เรยี กวา“รอยเลอื่ น” เชน รอยเลอ่ื ยแชนแอนเดรียสในรฐั แคลฟิ อรเ นีย

ทเี่ กิดจากแผนเปลือกโลกอเมรกิ าเหนือกับแผน แปซฟิ ก

~ 13 ~

ผลกระทบจากการเคล่อื นทข่ี องเปลือกโลก

1. รอยคดโคง (fold)
เกดิ จากการทแ่ี ผนเปลอื กโลกชนกนั และออกแรงดนั

ซงึ่ กนั และกนั จนเกดิ ความเครียดในหินเปนเวลานานหลายพันป
ชน้ั หนิ ที่ อยบู นแผน เปลอื กโลกจะเกดิ การบิด คดโคง โกง งอ
หรือหกั พบั

ที่มา : www.pinterest.com

2. รอยเล่ือน (fault)
เกิดจากการที่แผนเปลอื กโลกเคลอื่ นที่สวน

ทางกัน ทาํ ใหเ กิดบรเิ วณรอยตอ ของแผนเปลอื กโลกทง้ั
สองเกิดเปน รอยแนวยาว

ทีม่ า : โลกของเรา - WordPress.com

3. แนวเทือกเขา (mountain range)

เม่ือเปลอื กโลกเคล่อื นทีเ่ ขา ชนกัน เปลือกโลกทเี่ บากวา
มุดตัวลงไปใตแผน เปลอื กโลกทีห่ นากวา เกดิ การ โกงตัวข้ึนของ
แผนเปลอื กโลกดา นบน จึงเกดิ เปนแนวเทอื กเขา เชน

เทอื กเขาหนิ มาลัย

ท่มี า : board.trekkingthai.com

4. แผนดนิ ไหว (earthquake)
การเคลอื่ นตัวของแผน เปลือกโลกทกุ รูปแบบ

มโี อกาสทาใหเ กิดแผนดินไหวทัง้ ส้นิ แตการเคลอ่ื นที่
เขาชนกนั ของ แผนเปลือกโลกมีโอกาสทาใหเ กดิ
แผนดนิ ไหวรุนแรงขนาด 7 – 8 ริกเตอร

ที่มา : Sites - Google

5. สนึ ามิ (tsunami)

เปน กลมุ คล่ืนนาทเ่ี กิดขึ้นจากการยา ยทข่ี องปริมาณนาํ้
กอนใหญใ นมหาสมุทร สาเหตเุ กิดจากแผนดินไหว

ทีม่ า : www.clipmass.com

~ 14 ~

บัตรกจิ กรรมท่ี 1.2
แผนเปลอื กโลก

คําชแ้ี จง ใหนกั เรียนปฏบิ ัติกจิ กรรมตามบตั รกจิ กรรม บันทึกผลกจิ กรรม วิเคราะหผ ล
และสรปุ ผลการทํากิจกรรมเกยี่ วกับแผนเปลือกโลก

กิจกรรมเรอื่ ง เปลือกโลกเคลอ่ื นท่ไี ดอยางไร

วัสดุ – อุปกรณ 5. สีผสมอาหาร
1. ถาดสังกะสรี ูปสีเ่ หล่ียมผืนผา 6. นํ้า
2. ขาต้ัง 7. กระดาษ
3. ตะเกยี งแอลกอฮอล
4. หลอดหยด

ขน้ั ตอนการทาํ กิจกรรม
1. ใหนักเรียนแบงกลมุ
2. ใหน กั เรยี นในแตล ะกลมุ จัดเตรยี มวสั ดุ – อปุ กรณ และวางแผนการดําเนินงานตาม
บัตรกจิ กรรม
3. ใหนกั เรยี นในแตล ะกลมุ เติมนา้ํ ลงในถาดใหล ึกประมาณ 2 ซม. นาํ ตะเกียง
แอลกอฮอลลนกน ถาดที่บรเิ วณกง่ึ กลางถาด
4. หยดสีผสมอาหาร 1 หยด ลงในนาํ้ ใหต รงกับตาํ แหนงไสตะเกยี ง สังเกตและ
บนั ทกึ ผลการเปลี่ยนแปลงของสีผสมอาหาร
5. หยดสีผสมอาหาร 1 หยด ลงในนาํ้ เชน เดี่ยวกบั ขั้นตอนท่ี 2 แลว หยอนเศษ
กระดาษขนาดประมาณ 0.5 × 0.5 ซม. จาํ นวน 2 – 3 ช้ิน ลงบนผิวนํา้ บริเวณ
เดียวกบั ทหี่ ยดสี ระวังอยา ใหเ ศษกระดาษซอ นกัน สงั เกตและบันทึกผลการ
เปล่ียนแปลงของเศษกระดาษ
6. อภิปรายรวมกันภายในกลมุ เกยี่ วกับการเคลือ่ นทขี่ องแผนเปลือกโลก
7. นําเสนอขอมูลในชน้ั เรียน
8. ใหน กั เรยี นแตละคนตอบคําถามทายกิจกรรม

~ 15 ~

บตั รบันทกึ กิจกรรมท่ี 1.2
แผนเปลือกโลก

สมาขกิ ในกลมุ

1. .................................................................................... ประธาน

2. .................................................................................... รองประธาน

3. ....................................................................................

4. ....................................................................................

5. ....................................................................................

6. .................................................................................... เลขา

กิจกรรมเรื่อง ........................................................................................................................................

จุดประสงค ........................................................................................................................................

ปญ หา ........................................................................................................................................

........................................................................................................................................

สมมตฐิ าน ........................................................................................................................................

........................................................................................................................................

บันทกึ ผลการทาํ กจิ กรรม

รายการกจิ กรรม การเปลย่ี นแปลงท่ีเกิดขน้ึ ภาพประกอบ

1. หยดสผี สมอาหารลง ..................................................................

ในน้าํ ..................................................................

..................................................................

..................................................................

..................................................................

2. เมอ่ื หยอนกระดาษ ..................................................................

ลงบนผิวน้ํา ..................................................................

..................................................................

..................................................................

..................................................................

สรุปผลการทํากจิ กรรม

......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................

~ 16 ~

คําถามทา ยกิจกรรมที่ 1.2

คาํ ช้แี จง จงเขยี นเครอ่ื งหมาย หนาขอ ความที่เหน็ ดวย และเครอื่ งหมาย  หนา ขอความทไ่ี มเหน็ ดวย

1. การเคลอื่ นทข่ี องเปลือกโลกเกดิ จากการเคล่ือนทข่ี องหินหนดื
2. แผนเปลอื กโลกทอี่ ยูใตมหาสมุทรมคี วามหนาแนน มากกวาแผนเปลอื กโลกสวนทเี่ ปน ทวปี
3. การเกดิ แนวหินใหมเ ปน ผลจากการทหี่ นิ หนดื ในชัน้ แกนโลกดนั ขึน้ มาตามรอยตอระหวา ง

แผน เปลอื กโลกใตมหาสมทุ รแอตแลนติก
4. การทม่ี หี ินหนดื ดนั ขน้ึ มาตามรอยตอ ระหวางแผน เปลือกโลกของทวปี อเมรกิ า ทวีปยุโรป

และทวปี แอฟริกา เปน ผลทําใหท วปี ทัง้ สามหางกันมากขึ้นเรื่อย ๆ
5. แรงดนั และแรงพยงุ แผนเปลือกโลกใตม หาสมุทรเกิดจากหินหนืดในช้นั แมนเทลิ
6. ภเู ขาหิมาลัยเกดิ จากการชนกนั ของแผนออสเตรเลยี กบั แผน แอนตารกติก
7. หนิ หนดื ในช้ันแมนเทิลไดร บั ความรอนจากแกนโลก จงึ ทําใหเ กิดการเคลื่อนท่ีไหลวนชา ๆ
8. การชนกนั ของแผนเปลือกโลกใตมหาสมทุ รอินเดีย ทาํ ใหเกดิ กระบวนการยบุ ตัว
9. หนิ หนืดสามารถแทรกตวั ขน้ึ มาตามรอยตอระหวางแผนเปลอื กโลกสวนทเ่ี ปนทวปี ไดดีกวา

แผนเปลือกโลกทอี่ ยใู ตมหาสมทุ ร
10. แผน เปลอื กโลกทอี่ ยูใตมหาสมุทร ไดแ ก แผน ออสเตรเลยี

เกณฑก ารใหคะแนน
ตอบถูก 1 ขอ ได 1 คะแนน
คะแนนทีไ่ ด................คะแนน
(ลงชอ่ื ).................................ผปู ระเมิน

ชอื่ ................................................................เลขท่.ี ..............ชนั้ มัธยมศกึ ษาปท ่ี 2

~ 17 ~

บตั รเนื้อหาที่ 1.3
การเปลย่ี นแปลงของเปลือกโลก

การเปลยี่ นแปลงของเปลือกโลก
แผนเปลอื กโลกมีการเคลอ่ื นทอ่ี ยตู ลอดเวลา และแตล ะแผน มีทศิ ทางการเคล่ือนที่ตาง ๆ เรา

สามารถแบงการเคล่ือนท่ขี องเปลอื กโลกออกเปน 3 แบบ คอื เคลื่อนท่ีมาชนกัน เคล่อื นทแี่ ยกจากกนั
และเคล่ือนทแี่ บบสวนกัน ซ่งึ มีผลทําใหเ กิดกระบวนการทางธรณีวทิ ยา ดงั ตอไปน้ี

1. การคดโคงโกง งอ
ในธรรมชาตริ อยคดโคงโกงงอ เกิดจากแผนเปลอื กโลก 2 แผน เคลือ่ นทช่ี นกนั ซ่ึงมแี รงดันมหาศาล
ทาํ ใหช นั้ หนิ ตรงบรเิ วณที่แผน เปลอื กโลกชนกันเกดิ การคดโคง โกงงอขน้ึ รอยคดโคง โกง งอน้ไี มไ ดเ กดิ ขึน้ ทนั ที
แตจะตอ งใชเวลาเปนพันป และตอ งไดร ับพลงั งานอยางตอเนือ่ ง ถารอยคดโคง โกงอชั้นหินเกดิ ข้ึนติดตอกัน
เปนบริเวณกวางกินพน้ื ทม่ี าก ก็อาจกลายเปนเทอื กเขา เชน เทือกเขาหมิ าลยั ในทวีปเอเชยี เทือกเขาภพู าน
ในภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือของไทย เทอื กเขาแอลปในทวปี ยุโรป หรือเทือกเขารอ็ คก้ใี นทวปี อเมรกิ าเหนอื
เปนตน

รอยคดโคงโกง งอสวนมากจะเกดิ ในชน้ั ของหินตะกอน
ทีม่ า : https://jaiaivaree.wordpress.com/โลกของเรา

เทอื เขาหมิ าลยั เกิดจากการคดโคงโกง งอของเปลอื กโลก
ท่มี า : https://pornprom082.wordpress.com/tag

~ 18 ~
2. การยกตวั และยุบตัว
พลงั งานทส่ี ะสมอยภู ายในเปลอื กโลก เมื่อมมี ากขนึ้ จะไปดนั เปลือกโลกใหเ กิดรอยแยก หรอื รอย
แตกในชนั้ หิน เรยี กวา รอยเล่อื น (Fault) ซง่ึ จะเกิดขึ้นอยา งรนุ แรงกวา การเกิดคดโคงโกงงอ และเปน
สาเหตุท่ีทาํ ใหเ กดิ แผน ดินไหว รอยเล่อื นทเี่ กิดข้ึนและทําใหแ ผน เปลือกโลกมกี ารเปล่ียนแปลงอยา งเหน็ ได
ชดั คอื การยกตวั ของแผนเปลือกโลกทเ่ี กิดจากรอยเลอ่ื นแบบปกตกิ ลายเปนภเู ขา เรียกวา Block
mountain โดยยอดเขาจะมลี กั ษณะราบและไหลเ ขาจะชัน เชน ภูกระดึง จงั หวัดเลย และอีกแบบ คือ การ
ยบุ ตัวของแผน เปลอื กโลกกลายเปนแองหรอื หบุ เขาเรยี กวา rift valleys ซ่ึงเกดิ จากรอยเลื่อนแบบยอน

ทม่ี า : http://www.slideshare.net/Moukung/3-50748121

ภูกระดงึ จังหวดั เลย
ทมี่ า : www.youtube.com

~ 19 ~

3. การผพุ ังอยูกับท่ี

การผพุ งั อยกู บั ที่ หมายถึง กระบวนการทท่ี ําใหวัสดผุ สุ ลายออกเปน ช้นิ เลก็ ๆ โดยมกี ารเปลีย่ น
แปลงขนาด และองคป ระกอบเคมขี องอนภุ าคทส่ี ลายตัว เชน การผุพงั หรือการหกั พงั ของหนิ ท้งั บน
พ้ืนดนิ และใตผ วิ โลกลงไป ซ่งึ เปน ผลเนือ่ งมาจาก ปจ จยั ทางกายภาพทางเคมี และชวี ภาพ ดังน้ี

3.1 ปจจัยทางกายภาพ ทมี่ า : www.ux1.eiu.edu
ช้ันหินที่มีรอยแยก หรอื รอยแตกจะมนี ้าํ แทรกอยู

เมื่ออุณหภูมิเปลีย่ นแปลง เชน ในเวลากลางคืนอากาศเย็นจดั
น้าํ จะกลายเปน น้าํ แข็งมปี ริมาณเพ่ิมขึ้น ดันใหร อยแยกขยาย
ตวั มากขึ้น และทาํ ใหชนั้ หนิ ทอี่ ยดู า นลา งแตก เม่อื ถงึ ตอน

กลางวนั นา้ํ แข็งละลาย น้ําจะแทรกไปตามรอยแตกใหม
พอตกกลางคนื นาํ้ แข็งตัว รอยแตกก็ขยายและชัน้ หนิ ก็จะ
เกดิ รอยแตกเพม่ิ มากขึ้น ในทสี่ ดุ ช้ันหนิ จะแตกออกเปน ช้นิ ๆ

เกิดการผุพงั

3.2 ปจ จัยทางเคมี

นํา้ ฝนเปนปจ จัยสําคัญทที่ าํ ใหเ กิดการผุพงั ทางเคมีได
งาย และดีที่สุด โดยเฉพาะในเขตรอ น ปฏิกิริยาเกิดขึ้นได
รวดเร็ว และการผพุ ังของหินกเ็ กิดขนึ้ อยา งรวดเรว็ เชนกัน ไดแก

ปฏิกริ ยิ าไฮโดรไลซสิ ปฏกิ ริ ิยาออกซเิ ดชัน และปฏิกิรยิ า
คารบ อเนชัน
ท่มี า : www.xn--12cg1cxchd0a2gzc1c5d5a.com

3.3 ปจจยั ทางชวี ภาพ
พืชเปนตวั การทําใหช้นั หินเกิดการผพุ งั ไดม าก

เชน รากพชื ที่ชอนไชไปในรอยแตกของหนิ เม่อื พืชโตขึ้น
รากพืชก็โตข้นึ ดวย ทาํ ใหหินแตกเปน ชนั้ ๆ นอกจากน้มี นษุ ย
กน็ บั เปนตัวการทท่ี ําใหห นิ ผพุ งั หรือแตกสลายไปไดอ ยา งรวดเร็ว

มากกวาตัวการอืน่ ๆ

ทม่ี า : http://fieldtrip.ipst.ac.th

~ 20 ~

4. การกรอ น
การกรอน เปน การพงั ทลายของชน้ั หิน เนือ่ งจากลม ฝน แมน ํ้า ลําธาร ธารน้ําแขง็ คล่นื เปน ตน

ทีม่ า : www.outdoor.co.th ที่มา : travel.mthai.com

5. การพัดพาและทับถม

ดนิ หนิ เม่ือถกู กดั กรอน จะถกู น้าํ หรือลมพัดพาไปสทู ต่ี ํ่ากวา เกดิ การทับถมเปน ลักษณะตาง ๆ
หลายแบบ เชน ตะกอนรปู พดั เกดิ จากกระแสนํ้าไหลลงมาจากภเู ขาสงู ลงสรู องนา้ํ ทําใหดนิ ทบั ถมในรอง
นํ้านน้ั และกระจายตวั คลา ยพัด ตะกอนดินดอนสามเหลย่ี ม เกดิ จากตะกอนทบั ถมกนั ท่ีปากแมนา้ํ กลาย
เปนรปู สามเหลี่ยม ทาํ ใหฐานของดินดอนสามเหล่ยี มโคง ขนึ้ มา เนินทรายในท่ตี า งๆ กระแสลมนั้นจะพดั พา
ตะกอนในท่ีราบสงู ภูเขา หรือทะเลทราย ไปทับถมกนั เกิดเปนพืน้ ทใ่ี หม เกดิ เปน ดนิ ดอนปากแมน ้ํา เชน
แมน ํ้าเจา พระยา

ที่มา : www.baanjomyut.com ทม่ี า : elearning.stkc.go.th

~ 21 ~

บัตรกิจกรรมที่ 1.3
การเปลยี่ นแปลงของเปลอื กโลก

คําชแี้ จง ใหนักเรียนปฏิบตั กิ จิ กรรมตามบตั รกิจกรรม บันทกึ ผลกิจกรรม วิเคราะหผ ล
และสรุปผลการทาํ กิจกรรมเกีย่ วกบั การเปลยี่ นแปลงของเปลือกโลก

กิจกรรมเรอื่ ง การกรอ นโดยปฏกิ ิรยิ าเคมี

วัสดุ – อปุ กรณ 5. นา้ํ กล่นั
1. หินปูนขนาดเล็ก
2. กรดซัลฟว ริก 6. ถว ยกระเบอ้ื ง
3. ตะเกียงแอลกอฮอล 7. บกิ เกอรขนาด 50 ลบ.ซม.
4. หลอดทดลองขนาดกลาง

ขน้ั ตอนการทํากจิ กรรม
1. ใหน กั เรียนแบงกลุม
2. ใหน กั เรียนในแตล ะกลุมจดั เตรียมวัสดุ – อุปกรณ และวางแผนการดาํ เนนิ งานตาม
บัตรกิจกรรม
3. ใหนกั เรียนในแตล ะกลุม ใสหินปนู ขนาดเล็ก ลงในบกิ เกอรข นาด 50 ลบ.ซม. ใบท่ี 1
และใบท่ี 2 ใบละประมาณ 5 ลบ.ซม.
4. ใสก รดซัลฟวรกิ ประมาณ 6 ลบ.ซม. ลงในบิกเกอรใ บท่ี 1 และนํ้ากลั่นประมาณ
5 ลบ.ซม. ลงในบกิ เกอรใบท่ี 2 ทง้ิ ไวประมาณ 2 นาที
5. จากนัน้ รนี ของเหลวจากบกิ เกอรท ง้ั สอง ลงในหลอดทดลองขนาดกลาง หลอดที่ 1
และหลอดที่ 2 ตามลําดับ สงั เกตของเหลวในหลอดทดลองท้ังสอง บนั ทึกผล
6. นําของเหลวจากหลอดทดลองท้ังสอง หลอดละประมาณ 1 ลบ.ซม. มาตมใน
ถวยกระเบอ้ื งจนแหง เปรียบเทียบสิง่ ทีห่ ลอื อยูใ นถว ยกระเบอ้ื ง บนั ทึกผล
7. อภปิ รายรวมกันภายในกลมุ เกยี่ วกบั การเคลือ่ นทข่ี องแผน เปลอื กโลก
8. นําเสนอขอมลู ในชนั้ เรียน
9. ใหนักเรียนแตละคนตอบคาํ ถามทา ยกิจกรรม

~ 22 ~

บตั รบนั ทกึ กิจกรรมท่ี 1.3
การเปลย่ี นแปลงของเปลือกโลก

สมาขกิ ในกลมุ

1. .................................................................................... ประธาน

2. .................................................................................... รองประธาน

3. ....................................................................................

4. ....................................................................................

5. ....................................................................................

6. .................................................................................... เลขา

กจิ กรรมเรอ่ื ง ........................................................................................................................................

จุดประสงค ........................................................................................................................................

ปญ หา ........................................................................................................................................

........................................................................................................................................

สมมตฐิ าน ........................................................................................................................................

........................................................................................................................................

บันทกึ ผลการทํากิจกรรม

รายการกิจกรรม ผลการสังเกตกอ นตม ผลการสงั เกตหลงั ตม

1. ของเหลวจากกรด .......................................................... ..........................................................

ซัลฟวรกิ ลงใน .......................................................... ..........................................................

หนิ ปนู .......................................................... ..........................................................

.......................................................... ..........................................................

.......................................................... ..........................................................

2. ของเหลวจาก .......................................................... ..........................................................

นํา้ กล่ันลงใน .......................................................... ..........................................................

หนิ ปูน .......................................................... ..........................................................

.......................................................... ..........................................................

.......................................................... ..........................................................

สรุปผลการทํากิจกรรม

......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................

~ 23 ~

คําถามทา ยกิจกรรมที่ 1.3

คําช้แี จง ใหนักเรยี นตอบคาํ ถามตอ ไปนี้
1. การกรอ น (Erosion) คือ ......................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
2. การพดั พา (Transportation) คอื .............................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
3. การทบั ถม (Deposition) คอื ....................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
4. การผพุ งั อยกู บั ที่ คือ ...................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
5. ดูภาพ แลว บอกวาเกย่ี วของกบั ลกั ษณะการเปลี่ยนแปลงของเปลอื กโลกแบบใด

ทม่ี า : www.xn--12cg1cxchd0a2gzc1c5d5a.com ทม่ี า : plate-tectonic.narod.ru ทม่ี า : www.thaifly.com

…………………………………………. …………………………………………. ………………………………………….

ทม่ี า : petmaya.com ทมี่ า : www.oknation.net ทม่ี า : www.p-esan.com

…………………………………………. …………………………………………. ………………………………………….

เกณฑก ารใหค ะแนน
ตอบถกู 1 ขอ ได 1 คะแนน
คะแนนที่ได................คะแนน
(ลงชื่อ).................................ผปู ระเมิน

ชือ่ ................................................................เลขที่...............ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปท ่ี 2


Click to View FlipBook Version