แผนพรรณา ม.ปลาย

แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย วิชาภาษาไทย ท 33101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การเขียนเพื่อสื่อสาร เวลาเรียน 3 คาบ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 การเขียนบรรยายและพรรณนา เวลา 50 นาที ครูผู้สอน นางสาวกานต์สินี พูลพิพัฒน์ โรงเรียนสตรีอ่างทอง ............................................................................................................................................................ 1. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด สาระที่2 การเขียน มาตรฐาน ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียน เรื่องราวในรูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมี ประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด ม.4-6/1 เขียนสื่อสารในรูปแบบต่าง ๆ ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ โดยใช้ ภาษาเรียบเรียงถูกต้อง มีข้อมูลและสาระส าคัญชัดเจน 2. สาระส าคัญ/ความคิดรวบยอด การเขียนเป็นทักษะการสื่อสารที่มีความส าคัญยิ่งในชีวิตประจ าวัน ท่ามกลางยุคสมัยที่เทคโนโลยี เจริญก้าวหน้า ช่องทางการติดต่อสื่อสารระหว่างกันมีหลากหลาย สามารถสื่อสารได้รวดเร็ว มนุษย์ยังคง แสดงความคิด ความเห็น ความรู้สึกผ่านทาง “ภาษา” เช่นเดิม ดังนั้น การเขียนจึงเป็นแนวทางให้รู้จักการ เลือกใช้ภาษาที่เหมาะสมตามโอกาสและผู้รับสาร เพื่อฝึกฝนการเขียนรูปแบบต่าง ๆ จนเกิดความช านาญ และน าไปใช้ในชีวิตประจ าวัน รวมทั้งเป็นประโยชน์ต่อการเรียนและการประกอบอาชีพในอนาคต 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้/ความเข้าใจ (K) - นักเรียนบอกลักษณะของการใช้ภาษาในการการบรรยายกับการใช้ภาษาในการพรรณนาได้ (K) 3.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) - นักเรียนเขียนบรรยายและเขียนพรรณนาได้(P) 3.3 ด้านคุณลักษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) - มีมารยาทในการเขียน (A)

4. สาระการเรียนรู้ 4.1 การบรรยาย หมายถึง การเล่าเรื่อง การกล่าวถึงเหตุการณ์ที่ต่อเนื่องกันโดยชี้ให้เห็นถึงฉาก หรือ สถานที่และเวลาที่เกิดเหตุการณ์ สาเหตุที่ก่อให้เกิดเหตุการณ์ สภาพแวดล้อม บุคคลที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผลที่ เกิดจากเหตุการณ์นั้น กล่าวอีกนัยหนึ่ง การบรรยายชี้ให้เห็นว่า ใคร ท าอะไร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร เพื่ออะไร และผลที่ตามมาเป็นอย่างไร เนื้อหาที่บรรยายอาจเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องสมมติ เรื่องจริง เช่น ประวัติความ เป็นมาของบุคคล สถานที่ กิจกรรม ธรรมชาติและเรื่องจากประสบการณ์ เรื่องสมมติ เช่น นิทาน นิยาย และ เรื่องสั้นที่มีการเล่าเรื่อง เป็นต้น 4.2 การพรรณนา หมายถึง การให้รายละเอียดของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นบุคคล วัตถุ สถานที่ หรือ เหตุการณ์ช่วงใดช่วงหนึ่ง โดยมุ่งให้ผู้อ่านผู้ฟังนึกเห็นภาพอย่างแจ่มชัด เกิดจินตนาการตามที่ผู้ส่งสารประสงค์ 5. สมรรถนะส าคัญของผู้เรียน 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการคิด 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 6.1 ใฝ่เรียนรู้ 6.2 มุ่งมั่นในการท างาน 7. กิจกรรมการเรียนรู้ กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้(Inquiry Method : 5E) ร่วมกับเทคนิคการ เขียน 3 ขั้นตอน ก่อนเรียนครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (7 นาที) 1. นักเรียนทบทวนความรู้เรื่องที่เรียนในคาบที่แล้วเรื่องการใช้ภาษาในการอธิบาย ครูพูดคุยกับ นักเรียนเพื่อทบทวนความเข้าใจ ดังนี้ 1.1 การอธิบาย คืออะไร (การท าให้บุคคลอื่นเข้าใจในความจริง ความสัมพันธ์ หรือ ปรากฎการณ์ต่าง ๆ ทั้งที่เป็นปรากฏการณ์ทางสังคมและปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ) 1.2 การอธิบายมีกี่วิธี อะไรบ้าง ( การอธิบายมี 5 วิธี) 1) การชี้แจงตามล าดับขั้น (การอธิบายกิจกรรม การปฏิบัติ การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่ เป็นกระบวนการหรือเป็นกรรมวิธี) 2) การใช้ตัวอย่าง (การอธิบายสิ่งที่เข้าใจยาก โดยการยกตัวอย่างประกอบเพื่อให้เกิด ความเข้าใจได้ง่ายขึ้น)

3) การเปรียบเทียบความเหมือนกันและความต่างกัน (การอธิบายสิ่งที่มีความแปลกใหม่ ที่ผู้อ่านหรือผู้ฟังยังไม่คุ้นเคยมาก่อน โดยผู้อธิบายหาสิ่งที่ผู้อ่านหรือผู้ฟังคุ้นเคย อยู่แล้วมาเทียบเคียง โดยชี้ให้เห็นว่าสิ่งใหม่ที่จะอธิบายให้เข้าใจนั้น มีอะไรบ้างที่ คล้ายคลึง มีอะไรบ้างที่แตกต่างกับสิ่งที่คุ้นเคยหรือรู้จักอยู่แล้ว) 4) การชี้สาเหตุและผลลัพธ์ที่สัมพันธ์กัน (การอธิบายเรื่องที่มีความสัมพันธ์กันตามหลัก เหตุและผล) 5) การให้นิยาม (การอธิบายความหมายของค าหรือค าศัพท์ เพื่อให้เกิดความเข้าใจ ตรงกัน) 1.3 นักเรียนท าแบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง การใช้ภาษาในการบรรยายและการใช้ภาษาในการ พรรณนา ใน Google Form 5 ข้อ โดยใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต สแกนคิวอาร์โค้ด โดยครูก ากับ เวลาในการท าแบบทดสอบก่อนเรียน 2. ครูกล่าวถึงการเรียนครั้งที่แล้วว่า การอธิบาย คือการสื่อสารที่มีจุดประสงค์เพื่อสร้างความรู้ความ เข้าใจ แล้วเชื่อมโยงสู่การเรียนในวันนี้ว่าจะเรียนเกี่ยวกับการเขียนเพื่อสื่อสารอีก 2 วิธีคือ การเขียนบรรยาย และการเขียนพรรณนา ขั้นที่ 2 ส ารวจค้นหา (9 นาที) นักเรียนเข้ากลุ่ม 4 คนตามที่ได้จัดไว้ในคาบเรียนที่แล้ว จากนั้นในกลุ่ม 4 คน ให้แบ่งกลุ่มย่อยเป็น 2 คู่ ให้แต่ละคู่ช่วยกันศึกษาความรู้เกี่ยวกับการใช้ภาษาในการบรรยายและการใช้ภาษาในการพรรณนาจาก หนังสือเรียน ดังนี้ - คู่ที่ 1 ศึกษา เรื่อง การใช้ภาษาในการบรรยาย - คู่ที่ 2 ศึกษา เรื่อง การใช้ภาษาในการพรรณนา ขั้นที่ 3 อธิบายความรู้(17 นาที) 1. นักเรียนแต่ละคู่กลับมารวมกลุ่ม 4 คน แล้วแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันโดยให้คู่ที่ 1 ช่วยกันอธิบายเรื่อง การใช้ภาษาในการบรรยายให้คู่ที่ 2 ฟังและซักถามจนเข้าใจ โดยครูควบคุมเวลาในการท า กิจกรรม หลังจากนั้นครูให้สัญญาณให้คู่ที่ 2 ช่วยกันอธิบายเรื่องการใช้ภาษาในการพรรณนา ให้กลุ่มที่ 1 ฟัง จากนั้นซักถามกันจนเข้าใจ โดยครูควบคุมเวลาในการท ากิจกรรม เมื่อทั้ง 2 กลุ่ม พูดคุยแลกเปลี่ยนครบแล้ว ให้ทุกคนในกลุ่มพูดคุยซักถามทั้ง 2 ประเด็นจนมีความเข้าใจตรงกัน 2. ตัวแทนนักเรียนอธิบาย ความหมายของการใช้ภาษาในการบรรยาย (การกล่าวถึงเหตุการณ์ที่ ต่อเนื่องกันโดยชี้ให้เห็นถึงฉาก หรือสถานที่และเวลาที่เกิดเหตุการณ์ สาเหตุที่ก่อให้เกิดเหตุการณ์ สภาพแวดล้อม บุคคลที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผลที่เกิดจากเหตุการณ์นั้น) และการใช้ภาษาในการ พรรณนา (การให้รายละเอียดของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นบุคคล วัตถุ สถานที่ หรือเหตุการณ์ ช่วงใดช่วงหนึ่ง โดยมุ่งให้ผู้อ่านผู้ฟังนึกเห็นภาพอย่างแจ่มชัด)

3. นักเรียนท ากิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ภาษาในการบรรยายและการใช้ภาษาใน การพรรณนา โดยการตอบค าถาม นักเรียนเตรียมบัตรค าตอบจากในแฟ้มเอกสารประจ ากลุ่ม 2 แผ่น ได้แก่ บัตรค า “บรรยาย” และ “พรรณนา” จากนั้นครูขึ้นโจทย์ข้อความใน Power Point นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันคิดแล้วตอบว่าโจทย์ข้อความแต่ละข้อเป็นการ “บรรยาย” หรือ “พรรณนา” โดยแต่ละกลุ่มยกบัตรค าขึ้นมาตอบ หากกลุ่มใดตอบผิดให้ครูอธิบายเพิ่มเติม เพื่อให้ แน่ใจว่านักเรียนเข้าใจลักษณะและสามารถจ าแนกการใช้ภาษาในการบรรยายกับการพรรณนาได้ เพื่อเข้าสู่กิจกรรมต่อไป 4. นักเรียนศึกษาใบความรู้ เรื่อง เทคนิคการเขียน 3 ขั้นตอนที่ครูจัดท าขึ้น เพื่อช่วยพัฒนาทักษะ การเขียนของนักเรียน และเพื่อเป็นพื้นฐานในการเขียนบรรยายและเขียนพรรณนา เทคนิคการ เขียน 3 ขั้นตอน ประกอบไปด้วย ขั้นตอนที่ 1 จากภาพสู่ค า ขั้นตอนที่ 2 จากค าสู่ประโยค และขั้นตอนที่ 3 จากประโยคสู่ข้อความ โดยครูควบคุมเวลาในการศึกษาใบความรู้จากนั้น นักเรียนและครูพูดคุยเกี่ยวกับเทคนิคการเขียน 3 ขั้นตอนจนเข้าใจตรงกัน ขั้นที่ 4 ขยายความเข้าใจ (16 นาที) นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันท าใบงานที่ 1 เรื่อง เทคนิคการเขียน 3 ขั้นตอน ที่ครูจัดท าขึ้น ขณะที่ นักเรียนท ากิจกรรมครูคอยช่วยเหลือและให้ค าแนะน าทุกกลุ่มเป็นระยะ ๆ และครูคอยก ากับเวลาในแต่ละ ขั้นตอนให้ทุกกลุ่มเริ่มขั้นตอนต่อไปพร้อม ๆ กัน ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล (9 นาที) 1. ตัวแทนนักเรียน 2 กลุ่ม ออกมาน าเสนอความก้าวหน้าของการท าใบงานที่ 1 เรื่อง เทคนิค การเขียน 3 ขั้นตอน ที่หน้าชั้นเรียน ครูสะท้อนผลให้แต่ละกลุ่มและเสนอแนะให้นักเรียนทุกกลุ่ม ท าใบงานที่ 1 ให้สมบูรณ์ และแนะน าการน าเทคนิคการเขียน 3 ขั้นตอนไปปรับใช้กับการเขียน อื่น ๆ ในชีวิตประจ าวัน 2. นักเรียนท าแบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การบรรยายและการพรรณนา ใน Google Form 5 ข้อ โดยใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตสแกนคิวอาร์โค้ด โดยครูก ากับเวลาในการท า แบบทดสอบหลังเรียน 3. ครูมอบหมายนักเรียนจับคู่ เพื่อท าชิ้นงาน“เล่าเรื่องเมืองอ่างทอง” โดยให้นักเรียนในแต่ละคู่ ช่วยกันเลือกสถานที่ท่องเที่ยว อาหาร หรือผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจในจังหวัดอ่างทอง คู่ละ 1 อย่าง แล้วเขียนบรรยายและพรรณนาสิ่งนั้น โดยใช้ความรู้เรื่องการใช้ภาษาในการบรรยายและพรรณนา และเทคนิคการเขียน 3 ขั้นตอนที่ได้ศึกษาไป ออกแบบการน าเสนอลงในกระดาษ A4 พร้อมทั้ง แจ้งเกณฑ์การประเมินชิ้นงานดังกล่าวให้นักเรียนทราบ 8. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 8.1 แบบทดสอบก่อนเรียนใน Google Form 8.2 หนังสือเรียนหลักภาษาและการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร ม.6

8.3 บัตรค า “บรรยาย” “พรรณนา” 8.4 Power Point Slides 8.5 ใบความรู้เทคนิคการเขียน 3 ขั้นตอน 8.6 ใบงานที่ 1 เรื่อง เทคนิคการเขียน 3 ขั้นตอน 8.7 แบบทดสอบหลังเรียนใน Google Form 9. ภาระงาน / ขิ้นงาน 1) ใบงานที่ 1 เรื่อง เทคนิคการเขียน 3 ขั้นตอน 2) ชิ้นงาน “เล่าเรื่องเมืองอ่างทอง” 10. การวัดและประเมินผล สิ่งที่ต้องการวัด วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1. ด้านความรู้ การใช้ภาษาในการบรรยาย และการพรรณนา การท าแบบทดสอบ ก่อนเรียนและหลังเรียน แบบทดสอบก่อนและ หลังเรียนใน Google Form ผ่านเกณฑ์การประเมินร้อย ละ 60 ขึ้นไป ( 3 ข้อขึ้นไป จาก 5 ข้อ ถือว่าผ่าน) 2. ด้านทักษะกระบวนการ การเขียนบรรยายและเขียน พรรณนา การตรวจสอบการท า ใบงานที่ 1 และการ ตรวจสอบชิ้นงาน “เล่า เรื่องเมืองอ่างทอง” - แบบประเมินการท าใบ งานที่ 1 เรื่อง เทคนิคการ เขียน 3 ขั้นตอน - แบบประเมินชิ้นงาน “เล่าเรื่องเมืองอ่างทอง” - ผ่านเกณฑ์การประเมิน ร้อยละ 60 ขึ้นไป - ผ่านเกณฑ์การประเมิน ร้อยละ 60 ขึ้นไป 3. ด้านคุณลักษณะ/ เจตคติ/ค่านิยม มารยาทในการเขียน การสังเกตพฤติกรรม การเขียน แบบสังเกตพฤติกรรมการ เขียน ผ่านเกณฑ์ประเมิน ระดับคุณภาพ “ดี” 4. สมรรถนะส าคัญของ ผู้เรียน - ความสามารถในการ สื่อสาร - ความสามารถในการคิด การประเมิน ความสามารถในการ สื่อสารและการคิด แบบประเมิน ความสามารถในการ สื่อสารและการคิด ผ่านเกณฑ์ประเมิน ระดับคุณภาพ “ดี” 5. คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งมั่นในการท างาน - การสังเกต คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ - แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ ผ่านเกณฑ์ประเมิน ระดับคุณภาพ “ดี”

11. บันทึกผลการจัดการเรียนรู้8 ตัวชี้วัด ตัวชี้วัดที่1 ผู้เรียนสามารถเข้าถึงสิ่งที่เรียนและเข้าใจบทเรียน 1. ผลการจัดการเรียนรู้ ครูคิดริเริ่มออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้เทคนิควิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้(Inquiry Method : 5E) ร่วมกับเทคนิคการเขียน 3 ขั้นตอน ท าให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ เรื่องการใช้ภาษาในการบรรยาย และการใช้ภาษาในการพรรณนา อีกทั้งนักเรียนจะได้ฝึกทักษะการเขียนโดยใช้เทคนิคการเขียน 3 ขั้นตอน ที่ครูสร้างขึ้น โดยนักเรียนร่วมกันศึกษาเรื่องการใช้ภาษาในการบรรยาย และการใช้ภาษาในการพรรณนา จากหนังสือเรียน หลักภาษาและการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร ม. 6 โดยจับคู่ คู่ที่ 1 ศึกษาเรื่อง การใช้ภาษาใน การบรรยาย และคู่ที่ 2 ศึกษาเรื่อง การใช้ภาษาในการพรรณนา แล้วให้นักเรียนแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน จากนั้น ให้คู่ที่ 1 ช่วยกันอธิบายเรื่องการใช้ภาษาในการบรรยายให้คู่ที่ 2 ฟังและซักถามจนเข้าใจ แล้วคู่ที่ 2 ช่วยกัน อธิบายเรื่องการใช้ภาษาในการพรรณนาให้กลุ่มที่ 1 ฟัง จากนั้นซักถามกันจนเข้าใจ เมื่อทั้ง 2 กลุ่มพูดคุย แลกเปลี่ยนครบแล้ว ให้ทุกคนในกลุ่มพูดคุยซักถามทั้ง 2 ประเด็นกันจนนักเรียนมีความเข้าใจตรงกัน และเกิด ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ การใช้ภาษาในการบรรยาย และการใช้ภาษาในการพรรณนา แล้วครูตรวจสอบ ความเข้าใจโดยให้นักเรียนตอบค าถามจากสื่อ Power Point พบว่า นักเรียนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงสิ่งที่เรียน และเข้าใจได้เป็นอย่างดี โดยตอบค าถามทั้ง 6 ข้อได้ถูกต้อง เมื่อนักเรียนมีความเข้าใจการใช้ภาษาใน การบรรยาย และการใช้ภาษาในการพรรณนา แล้วนักเรียนศึกษาใบความรู้เรื่องเทคนิคการเขียน 3 ขั้นตอน จนเกิดความเข้าใจ และฝึกทักษะการเขียนโดยการท าใบงานที่ 1 เรื่องเทคนิคการเขียน 3 ขั้นตอน และให้ ตัวแทนนักเรียนออกมาน าเสนอใบงานที่ 1 หน้าชั้นเรียน พบว่านักเรียนทุกกลุ่มสามารถเขียนบรรยายและการ เขียนพรรณนาได้อย่างถูกต้องตรงตามขั้นตอน 2. ปัญหาและอุปสรรค มีนักเรียนบางกลุ่มเขียนบรรยายและการเขียนพรรณนาจากใบงานไม่เสร็จตามเวลา 3. แนวทางแก้ไขปัญหา ครูให้ค าแนะน าเพิ่มเติมกับนักเรียนในการท าใบงานและให้นักเรียนท าใบงานนอกเวลา แล้วน ามาส่งใน วันถัดไป 4. ผลการแก้ปัญหาที่ส่งผลลัพธ์ที่ดีต่อผู้เรียน นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนวิชาภาษาไทย มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ภาษาในการบรรยาย และพรรณนา และนักเรียนสามารถเขียนบรรยายและเขียนพรรณนาได้ ตามเทคนิควิธีสอนแบบสืบเสาะหา ความรู้(Inquiry Method : 5E) ร่วมกับเทคนิคการเขียน 3 ขั้นตอน

ตัวชี้วัดที่2 ผู้เรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้หรือประสบการณ์เดิมกับการเรียนรู้ใหม่ 1. ผลการจัดการเรียนรู้ ครูทบทวนความรู้ เรื่องการใช้ภาษาในการอธิบาย โดยการพูดคุยซักถามนักเรียน และให้นักเรียนทุกคน ได้ท าแบบทดสอบก่อนเรียน เรื่องการใช้ภาษาในการบรรยายและพรรณนา จาก Google Form 5 ข้อ โดยใช้ โทรศัพท์สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต สแกนคิวอาร์โค้ด และครูคิดริเริ่มออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้เทคนิค วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้(Inquiry Method : 5E) ร่วมกับเทคนิคการเขียน 3 ขั้นตอน จากการร่วมกัน ศึกษาเรื่องการใช้ภาษาในการบรรยาย และการใช้ภาษาในการพรรณนา และศึกษาใบความรู้เรื่องเทคนิค การเขียน 3 ขั้นตอน และได้พัฒนาทักษะการเขียนบรรยายและการเขียนพรรณนาจากการท าใบงานที่ 1 เรื่องเทคนิคการเขียน 3 ขั้นตอน และนักเรียนได้ท าแบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การบรรยายและการพรรณนา ใน Google Form 5 ข้อ โดยใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนหรือไอแพดสแกนผ่านคิวอาร์โค้ด ผลการทดสอบ หลังเรียน พบว่า นักเรียนทุกคนผ่านเกณฑ์การประเมินการท าแบบทดสอบหลังเรียน แสดงให้เห็นว่า นักเรียน สามารถเชื่อมโยงความรู้เดิมเรื่อง การใช้ภาษาในการอธิบาย กับการเรียนรู้เรื่องใหม่ เรื่องการใช้ภาษาในการ บรรยาย และการใช้ภาษาในการพรรณนาได้ 2. ปัญหาและอุปสรรค นักเรียนขาดความมั่นใจในการตอบค าถาม 3. แนวทางแก้ไขปัญหา ครูผู้สอนใช้เทคนิคการเสริมแรงทางบวกโดยการปรบมือหรือกล่าวค าชื่นชมให้ก าลังใจ เมื่อนักเรียน ตอบค าถามได้ เพราะจะช่วยให้นักเรียนมีก าลังใจและมีความมั่นใจในการตอบค าถามต่อไป 4. ผลการแก้ปัญหาที่ส่งผลลัพธ์ที่ดีต่อผู้เรียน หลังจากที่ครูผู้สอนใช้การเสริมแรงทางบวกโดยการชื่นชมหรือให้ก าลังใจเมื่อนักเรียนตอบค าถามได้ ถูกต้อง ท าให้นักเรียนเกิดความมั่นใจในการตอบค าถามและท าให้บรรยากาศในชั้นเรียนเป็นบรรยากาศที่ ส่งเสริมการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดีและพร้อมที่จะเรียนรู้ในเนื้อหาต่อไป

ตัวชี้วัดที่3 ผู้เรียนได้สร้างความรู้เองหรือได้สร้างประสบการณ์ใหม่จากการเรียนรู้ 1. ผลการจัดการเรียนรู้ 1.1 นักเรียนได้สร้างความรู้เองหรือได้สร้างประสบการณ์ใหม่ จากกิจกรรมการเรียนรู้ที่ครูคิดริเริ่มขึ้น คือเทคนิควิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้(Inquiry Method : 5E) ร่วมกับเทคนิคการเขียน 3 ขั้นตอน โดย การศึกษาหาความรู้ได้ด้วยตนเองจากหนังสือเรียน และใบความรู้ และมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อนในกลุ่ม จนสามารถเขียนบรรยายและเขียนพรรณนาในใบงานที่ 1 เรื่องเทคนิคการเขียน 3 ขั้นตอนได้ 1.2 นักเรียนได้ท ากิจกรรมกลุ่ม ได้ลงมือปฏิบัติโดยช่วยกันอธิบายความรู้เรื่องการใช้ภาษาในการ บรรยายและการพรรณนา และช่วยกันท าใบงานที่ 1 เรื่อง เทคนิคการเขียน 3 ขั้นตอน 2. ปัญหาและอุปสรรค นักเรียนบางคนไม่กล้าแสดงความคิดเห็นภายในกลุ่มของตนเอง 3. แนวทางแก้ไขปัญหา ครูผู้สอนมีบทบาทเป็นโค้ชของนักเรียนในชั้นเรียน ครูจึงมีหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือเข้าไปดูแลกระตุ้นให้ นักเรียนแต่ละคนมีบทบาทและกล้าแสดงความคิดเห็นภายในกลุ่มของตนเอง 4. ผลการแก้ปัญหาที่ส่งผลลัพธ์ที่ดีต่อผู้เรียน นักเรียนกล้าที่จะแสดงความคิดเห็นภายในกลุ่มมากขึ้น นักเรียนในกลุ่มมีความใส่ใจ เห็นคุณค่า ซึ่งกัน และกัน เกิดกระบวนการท างานเป็นทีม ช่วยกันท างาน ช่วยกันคิดช่วยกันท าได้เป็นอย่างดี ท าให้ทุกคนเกิด ความภาคภูมิใจและมีความสุขในการท ากิจกรรมกลุ่ม

ตัวชี้วัดที่4 ผู้เรียนได้รับการกระตุ้นและเกิดแรงจูงใจในการเรียนรู้ 1. ผลการจัดการเรียนรู้ นักเรียนได้รับแรงกระตุ้นและเกิดแรงจูงใจในการเรียนรู้เริ่มตั้งแต่การน าเข้าสู่บทเรียน ครูผู้สอนมีการ พูดคุยสนทนาและใช้ค าถามกระตุ้นนักเรียนเพื่อสร้างแรงจูงใจ และมีการใช้แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่องการใช้ ภาษาในการบรรยายและพรรณนา จาก Google Form 5 ข้อ โดยใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต สแกนคิวอาร์โค้ด เพื่อประเมินความรู้ก่อนเรียน และครูคิดริเริ่มใช้รูปแบบเทคนิควิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ร่วมกับเทคนิคการเขียน 3 ขั้นตอน โดยการศึกษาหาความรู้ได้ด้วยตนเองจากหนังสือ เรียน และใบความรู้ และมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อนในกลุ่ม จนสามารถเขียนบรรยายและเขียนพรรณนา ในใบงานที่ 1 เรื่องเทคนิคการเขียน 3 ขั้นตอนได้ ท าให้นักเรียนเกิดความเข้าใจ มีแรงจูงใจ และกระตือรือร้น ในการเรียนรู้มากขึ้น 2. ปัญหาและอุปสรรค นักเรียนบางคนขาดสมาธิในการท ากิจกรรม ท าให้เสียเวลาในการท าใบงานที่ 1 3. แนวทางแก้ไขปัญหา ครูคอยกระตุ้นให้นักเรียนมีสมาธิในการท ากิจกรรมอย่างสม ่าเสมอ โดยหมั่นตรวจสอบการท างานของ นักเรียนทุกกลุ่ม 4. ผลการแก้ปัญหาที่ส่งผลลัพธ์ที่ดีต่อผู้เรียน นักเรียนทุกคนมีสมาธิในการท ากิจกรรมกลุ่มมากขึ้น

ตัวชี้วัดที่5 ผู้เรียนได้รับการพัฒนาทักษะความเชี่ยวชาญจากการเรียนรู้ 1. ผลการจัดการเรียนรู้ ครูคิดริเริ่มออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้เทคนิควิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้(Inquiry Method : 5E) ร่วมกับเทคนิคการเขียน 3 ขั้นตอน ซึ่งครูได้ริเริ่มเทคนิคการเขียน 3 ขั้นตอน เพื่อแก้ปัญหาทักษะในด้าน การเขียนของนักเรียนโดยเฉพาะ หลังจากที่นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ เรื่อง การใช้ภาษาในการบรรยายและ การใช้ภาษาในการพรรณนาแล้ว ต่อจากนั้นนักเรียนศึกษาใบความรู้เรื่องเทคนิคการเขียน 3 ขั้นตอน และท าใบงานที่ 1 เรื่องเทคนิคการเขียน 3 ขั้นตอน พบว่า นักเรียนสามารถเขียนบรรยายและเขียนพรรณนา จากการท าใบงานที่ 1 ได้ตามเกณฑ์การประเมิน จึงถือว่านักเรียนได้รับการพัฒนาทักษะความเชี่ยวชาญ ในด้านการเขียนบรรยายและการเขียนพรรณนาจากกระบวนการเรียนรู้ซึ่งนักเรียนชื่นชอบและมีความสุขใน การท าใบงานที่ 1 2. ปัญหาและอุปสรรค 2.1 นักเรียนส่วนใหญ่มีคลังค าศัพท์ในการเขียนน้อย นักเรียนบางกลุ่มเขียนค าผิด 2.2 นักเรียนบางกลุ่มยังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเรื่องประโยคที่สมบูรณ์ 2.3 การแต่งประโยคยังขาดความสละสลวย ติดการใช้ส านวนต่างประเทศ 3. แนวทางแก้ไขปัญหา 3.1 ครูเสนอแนะแนวทางการเพิ่มคลังค าศัพท์และการแต่งประโยคหรือการเขียนข้อความให้สละสลวย ให้กับนักเรียนโดยการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมจากการอ่านหนังสือหรือสื่อที่มีคุณภาพต่าง ๆ ให้มากขึ้น ฝึกฝน ทักษะการเขียนในชีวิตประจ าวันให้มากขึ้น และแนะน าการใช้พจนานุกรมเพื่อตรวจสอบการเขียนค าศัพท์ให้ ถูกต้อง และควรระมัดระวังเรื่องการเขียนสะกดค าให้มากขึ้น 3.2 ครูทบทวนเรื่องประโยคให้นักเรียนหลังจากให้ข้อมูลสะท้อนกลับจากการประเมินใบงานแล้ว 4. ผลการแก้ปัญหาที่ส่งผลลัพธ์ที่ดีต่อผู้เรียน นักเรียนทุกกลุ่มสามารถพัฒนาทักษะการเขียนบรรยายและเขียนพรรณนาได้จากการท าใบงานที่ 1 เรื่องเทคนิคการเขียน 3 ขั้นตอนและสามารถน าค าแนะน าต่าง ๆ ไปปรับใช้กับการเขียนอื่น ๆ ใน ชีวิตประจ าวันได้ ท าให้นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อการเขียนมากขึ้น

ตัวชี้วัดที่6 ผู้เรียนได้รับข้อมูลสะท้อนกลับเพื่อปรับปรุงการเรียน 1. ผลการจัดการเรียนรู้ นักเรียนได้รับข้อมูลสะท้อนกลับเพื่อปรับปรุงการเรียนรู้ โดยมีการถามตอบเรื่อง การใช้ภาษาในการ บรรยายและการใช้ภาษาในการพรรณนาโดยใช้สื่อ Power Point โดยนักเรียนได้รับข้อมูลสะท้อนกลับทันที หลังจากการตอบ ว่าตอบถูกหรือผิด มีการสะท้อนผลการน าเสนอหน้าชั้นเรียนห้กับตัวแทนกลุ่มที่ออกมา น าเสนอทันที มีการทดสอบความรู้หลังเรียน เรื่องการใช้ภาษาในการบรรยายและพรรณนา จาก Google Form 5 ข้อ โดยครูแจ้งผลการประเมินการทดสอบหลังเรียนให้ทราบในคาบเรียนถัดไป มีการประเมินใบงานที่ 1 และ ชิ้นงาน เล่าเรื่องเมืองอ่างทอง โดยแจ้งผลการประเมินใบงานและชิ้นงานให้นักเรียนทราบในคาบเรียน ถัดไป ท าให้นักเรียนมีก าลังใจและมีความมุ่งมั่นมีความสนใจใฝ่รู้ใฝ่เรียน 2. ปัญหาและอุปสรรค 2.1 นักเรียนบางคนมีลายมือที่อ่านยาก 2.2 นักเรียนบางคนยังมีความเขินอายในการออกมาน าเสนองานหน้าชั้นเรียน 3. แนวทางแก้ไขปัญหา 2.1 ครูผู้สอนให้ข้อมูลสะท้อนกลับพร้อมทั้งค าแนะน าเรื่องลายมือเป็นรายบุคคล 2.2 ครูผู้สอนให้ก าลังใจกับนักเรียน อีกทั้งเสริมแรงทางบวกด้วยการปรบมือและให้คะแนนเพิ่มเติมใน การน าเสนอชิ้นงานของนักเรียน 4. ผลการแก้ปัญหาที่ส่งผลลัพธ์ที่ดีต่อผู้เรียน 4.1 นักเรียนน าข้อมูลสะท้อนกลับและค าแนะน าเรื่องลายมือ ไปปรับใช้ในการท าชิ้นงานและการเขียน อื่น ๆ ในชีวิตประจ าวัน 4.2 นักเรียนมีความกล้าที่จะน าเสนอผลงานหน้าชั้นเรียนมากขึ้น

ตัวชี้วัดที่7 ผู้เรียนได้รับการพัฒนาการเรียนรู้ในบรรยากาศชั้นเรียนที่เหมาะสม 1. ผลการจัดการเรียนรู้ 1.1 นักเรียนได้รับแบบอย่างที่ดีในการใช้ภาษาจากครูผู้สอน ครูและนักเรียนยิ้มแย้มแจ่มใสร่าเริง มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน มีการทักทายสวัสดีห้องเรียนมีแสงสว่างที่พอเหมาะต่อการท ากิจกรรมกลุ่มและ เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ 1.2 ครูคิดออกแบบกิจกรรม และใช้สื่อการสอนที่หลากหลาย เช่น แบบทดสอบก่อน – หลังเรียน ใน Google Form , บัตรค า , Power Point Slides , ใบความรู้ , ใบงาน ท าให้นักเรียนเกิดความสนุกสนาน และตื่นเต้นสนใจในการท ากิจกรรม เกิดบรรยากาศที่ดีในการเรียนรู้ 1.3 นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมมือกันท ากิจกรรมกลุ่ม ได้แก่ การศึกษาเรื่องการใช้ภาษาในการบรรยาย และพรรณนา การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การช่วยกันตอบค าถาม การท าใบงานที่ 1 และการน าเสนอใบงานที่ 1 ท าให้เกิดความสามัคคีและความสนุกสนาน เกิดบรรยากาศที่ดีในห้องเรียน 2. ปัญหาและอุปสรรค นักเรียนบางคนมักคุยนอกเรื่องในระหว่างการท างานกลุ่ม ท าให้บรรยากาศการท างานกลุ่มเสีย 3. แนวทางแก้ไขปัญหา ครูผู้สอนเดินไปให้ค าแนะน าและสอบถามความก้าวหน้าในการท างานกลุ่มเป็นระยะ ๆ เพื่อควบคุม บรรยากาศในการท างานกลุ่มให้เป็นไปอย่างเหมาะสม 4. ผลการแก้ปัญหาที่ส่งผลลัพธ์ที่ดีต่อผู้เรียน เกิดบรรยากาศที่ดีในการท างานเป็นกลุ่มของนักเรียนทั้งห้อง ส่งผลให้การจัดการเรียนรู้ในด้านการ พัฒนาทักษะการเขียนมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น นักเรียนมีความสุขในการท างาน

ตัวชี้วัดที่8 ผู้เรียนก ากับการเรียนรู้และมีการเรียนรู้แบบน าตนเอง 1. ผลการจัดการเรียนรู้ 1.1 นักเรียนแต่ละกลุ่มสามารถก ากับตนเอง ก ากับการเรียนรู้แบบน าตนเองได้โดยการร่วมกันศึกษา เรื่อง การใช้ภาษาในการบรรยายและการใช้ภาษาในการพรรณนา และศึกษาใบความรู้เรื่องเทคนิคการเขียน 3 ขั้นตอน และได้พัฒนาทักษะการเขียนบรรยายและการเขียนพรรณนาจากการท าใบงานที่ 1 เรื่องเทคนิคการ เขียน 3 ขั้นตอน หลังจากที่นักเรียนแต่ละกลุ่มได้รับมอบหมายให้ท าใบงานที่ 1 นักเรียนได้มีการประเมินใบ งานที่ 1 ภายในกลุ่มของตนเอง 1.2 นักเรียนได้รับมอบหมายให้ท าชิ้นงาน เล่าเรื่องเมืองอ่างทอง เป็นการบ้าน 2. ปัญหาและอุปสรรค นักเรียนบางคนยังขาดความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบชิ้นงาน 3. แนวทางแก้ไขปัญหา ครูแจ้งผลการประเมินชิ้นงานของนักเรียน พร้อมทั้งแนะแนวทางการออกแบบชิ้นงานอย่างสร้างสรรค์ 4. ผลการแก้ปัญหาที่ส่งผลลัพธ์ที่ดีต่อผู้เรียน นักเรียนน าข้อมูลสะท้อนกลับจากการท าชิ้นงานไปปรับใช้ในงานชิ้นต่อไปและนักเรียนมีทัศนคติที่ดีต่อ การท างาน

12. บันทึกผลการจัดการเรียนรู้ตามตัวชี้วัด 12.1 การประเมินด้านความรู้(K) นักเรียนสามารถบอกลักษณะของการใช้ภาษาในการการบรรยายกับการใช้ภาษาในการ พรรณนาได้ โดยท าแบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การบรรยายและการพรรณนา จ านวน 5 ข้อ ใน Google Form จ านวนนักเรียนที่ผ่านการประเมิน 29 คน คิดเป็นร้อยละ 100 จ านวนนักเรียนที่ไม่ผ่านการประเมิน - คน คิดเป็นร้อยละ - 12.2 การประเมินด้านทักษะกระบวนการ (P) นักเรียนสามารถใช้ภาษาในการเขียนบรรยายและเขียนพรรณนาได้ โดยตรวจสอบจากการ ท าใบงานที่ 1 และชิ้นงาน “เล่าเรื่องเมืองอ่างทอง” - ใบงานที่ 1 เรื่อง เทคนิคการเขียน 3 ขั้นตอน จ านวนนักเรียนที่ผ่านการประเมิน 29 คน คิดเป็นร้อยละ 100 จ านวนนักเรียนที่ไม่ผ่านการประเมิน - คน คิดเป็นร้อยละ - - ชิ้นงาน “เล่าเรื่องเมืองอ่างทอง” จ านวนนักเรียนที่ผ่านการประเมิน 29 คน คิดเป็นร้อยละ 100 จ านวนนักเรียนที่ไม่ผ่านการประเมิน - คน คิดเป็นร้อยละ - 12.3 การประเมินด้านคุณลักษณะ (A) นักเรียนทุกคนมีมารยาทในการเขียน ใฝ่เรียน ใฝ่รู้ มีความมุมานะในการท างาน ซึ่งอาจจะ ช้าหรือเร็วต่างกันไป ก็ถือว่าทุกคนมีความพยายามในการท ากิจกรรมในชั้นเรียนและมีส่วนร่วมกับทุก กิจกรรม จ านวนนักเรียนที่ผ่านการประเมิน 29 คน คิดเป็นร้อยละ 100 จ านวนนักเรียนที่ไม่ผ่านการประเมิน - คน คิดเป็นร้อยละ - 12.4 ปัญหาและข้อเสนอแนะ ปัญหาในการจัดการเรียนรู้และข้อเสนอแนะขอรวบรวมไว้ที่บันทึกผล 8 ตัวชี้วัดด้านบน ลงชื่อ ........................................... ผู้สอน (นางสาวกานต์สินี พูลพิพัฒน์)

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนเรื่อง การบรรยายและการพรรณนา

บัตรค า

Power Point Slide ข้อความโจทย์การบรรยาย การพรรณนา

ใบความรู้ เรื่อง เทคนิคการเขียน 3 ขั้นตอน หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การเขียนเพื่อสื่อสาร การใช้ภาษาบรรยายและพรรณนา การเขียนเป็นทักษะการสื่อสารที่มีความส าคัญยิ่งในชีวิตประจ าวัน ท่ามกลางยุคสมัยที่เทคโนโลยี เจริญก้าวหน้า ช่องทางการติดต่อสื่อสารระหว่างกันมีหลากหลาย สามารถสื่อสารได้รวดเร็ว มนุษย์ยังคง แสดงความคิด ความเห็น ความรู้สึกผ่านทาง “ภาษา” เช่นเดิม ดังนั้น การเขียนจึงเป็นแนวทางให้รู้จักการ เลือกใช้ภาษาที่เหมาะสมตามโอกาสและผู้รับสาร เพื่อฝึกฝนการเขียนรูปแบบต่าง ๆ จนเกิดความช านาญ และน าไปใช้ในชีวิตประจ าวัน รวมทั้งเป็นประโยชน์ต่อการเรียนและ การประกอบอาชีพในอนาคต ในที่นี้ขอ แนะน าเทคนิคการเขียน 3 ขั้นตอน ดังนี้ เทคนิคการเขียน 3 ขั้นตอน ขั้นตอนที่ 1 จากภาพสู่ค า ในกรณีที่เป็นการเขียนบรรยายภาพให้นักเรียนเขียนค าที่เกี่ยวข้องกับภาพ โดยมีเทคนิคคือ ให้นักเรียนวิเคราะห์ดูว่าในภาพประกอบด้วยอะไรบ้าง เขียนออกมาให้ได้มากที่สุด อย่างน้อยควรได้ 10 – 15 ค า ในกรณีที่มีเป็นประเด็นหรือหัวข้อเป็นจุดเริ่มต้น ให้คิดค าที่เกี่ยวข้องกับประเด็นหรือหัวข้อนั้น ให้ได้มากที่สุด อย่างน้อยควรได้ 10 – 15 ค า นักเรียนสามารถใช้หลักการหลากค า เพื่อให้ได้ค าที่หลากหลายมากขึ้นได้ เมื่อเวลาที่ต้องน าไป แต่งประโยคในขั้นตอนที่ 2 นักเรียนจะมีคลังค าในการแต่งประโยคมากขึ้น (การหลากค า คือ การเปลี่ยนแปลงรูปของค าบางค าให้เป็นค าอื่น เพื่อหลีกเลี่ยง การใช้ค าซ ้า ๆ กันในที่ ใกล้เคียงกัน หรือเพื่อเน้นค าอันมีนัยส าคัญที่ต้องการสื่อแก่ผู้อ่านให้ เช่น มนุษย์ กับ คน บ้าน กับ เรือน รอ กับ คอย ป่า กับ ดง (พจนานุกรม 2542 หน้า 1091)) ขั้นตอนที่ 2 จากค าสู่ประโยค ในขั้นตอนที่ 2 ให้น าค าที่ได้ในขั้นตอนที่ 1 มาแต่งประโยคให้ได้มากที่สุด ใน 1 ประโยคอาจใช้ค า ที่คิดได้มากกว่า 1 ค า โดยให้นักเรียนแยกประโยคออกเป็นการบรรยายหรือพรรณนาด้วย อย่างน้อยชนิดละ 3 – 5 ประโยค

ขั้นตอนที่ 3 จากประโยคสู่ข้อความ/ย่อหน้า ในขั้นตอนที่ 3 จากประโยคสู่ข้อความ ให้นักเรียนคัดเลือกประโยคในขั้นตอนที่ 2 น ามาเรียบ เรียงเป็นข้อความให้มีความความสอดคล้องกลมกลืนกัน ซึ่งอาจไม่ได้น ามาใช้ทุกประโยค ลักษณะของงาน เขียนที่ดี มี 3 ประการ ได้แก่ เอกภาพ สารัตถภาพ และสัมพันธภาพ ตัวอย่างการใช้เทคนิคการเขียน 3 ขั้นตอนในการเขียนบรรยายภาพ ภาพถ่ายโดย Leung Kwok Tung Ktleung: https://www.pexels.com/th-th/photo/3054187/ ขั้นตอนที่ 1 จากภาพสู่ค า นักเรียนจะเห็นได้ว่าในภาพนี้ประกอบไปด้วย ชาวประมง แห เรือ เรือหาปลา ดวงอาทิตย์ ดวงตะวัน แสง แสงแดด บึงน ้า ผืนน ้า เวิ้งน ้า สายน ้า เขา ภูเขา ทิวเขา ท้องฟ้า ไซหาปลา นก ยามเย็น

ขั้นตอนที่ 2 จากค าสู่ประโยค บรรยาย พรรณนา ยามเย็นที่ดวงตะวันก าลังจะลับเหลี่ยมเขา ยามเย็นที่ดวงตะวันทอแสงสีส้มอ่อน ชาวประมงขับเรือหาปลาไปตามจุดต่าง ๆ ในบึงน ้า ไกลออกไปกลางเวิ้งน ้า เรือล าหนึ่งแล่นฉิวบนผืนน ้าใต้ เงาแสงของยามเย็น ชาวประมงจอดเรือเมื่อถึงบึงน ้าในจุดที่มีปลาชุกชุม แสงแดดยามเย็นเริ่มกระจายทั่วท้องฟ้าและสะท้อน บนผืนน ้าเป็นสีส้มระยิบระยับ ชาวประมงทอดแห โดยเหวี่ยงแหออกไปให้กว้างมาก ที่สุด ชาวประมงใช้สองมือเหวี่ยงแหพร้อมกับโน้มกายไป ข้างหน้า นกกินปลา 2 – 3 ตัวมาเกาะเรือของชาวประมงเพื่อ รอกินปลา ปากแหที่ถูกเหวี่ยงออกไปกางออกกว้างเหมือนกับ กระโปรงของสาวนักเต้นที่ก าลังเต้นเหวี่ยงสุดแรง ขั้นตอนที่ 3 จากประโยคสู่ข้อความ ยามเย็นที่ดวงตะวันก าลังจะลับเหลี่ยมเขา ชาวประมงขับเรือหาปลาไปตามจุดต่าง ๆ ในบึงน ้า แสงแดดยามเย็นเริ่มกระจายทั่วท้องฟ้าและสะท้อนบนผืนน ้าเป็นสีส้มระยิบระยับ ไกลออกไปกลางเวิ้งน ้า เรือ ล าหนึ่งแล่นฉิวบนผืนน ้าใต้เงาแสงของยามเย็น ชาวประมงจอดเรือเมื่อถึงบึงน ้าในจุดที่มีปลาชุกชุม กางแหที่ พาดไว้บนไหล่แล้วใช้ทั้งสองมือเหวี่ยงแหพร้อมกับโน้มกายไปข้างหน้าเพื่อให้ปากแหบานกว้างที่สุด แหที่ถูก หว่านออกไปบานออกคล้ายกับกระโปรงของสาวนักเต้นที่หมุนเป็นวงกว้างอยู่กลางอากาศเพียงชั่วขณะก่อนที่ จะหล่นถึงผืนน ้า นกกินปลา 2 – 3 ตัวมาเกาะเรือของชาวประมงเพื่อรอกินปลา ***นักเรียนสามารถน าเทคนิคการเขียน 3 ขั้นตอนนี้ไปปรับใช้ในการเขียนได้ทุกประเภท***

ใบงานที่ 1 เรื่อง เทคนิคการเขียน 3 ขั้นตอน ค าชี้แจง ให้นักเรียนใช้ภาพต่อไปนี้เขียนบรรยายและพรรณนาโดยใช้เทคนิคการเขียน 3 ขั้นตอน ภาพถ่ายโดย Denniz Futalan: https://www.pexels.com/th-th/photo/1389986/ ขั้นตอนที่ 1 จากภาพสู่ค า ค าชี้แจง ให้นักเรียนช่วยกันคิดค าจากที่เห็นในภาพนี้ อย่างน้อย 10 ค า ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________

ขั้นที่ 2 จากค าสู่ประโยค ค าชี้แจง ให้นักเรียนน าค าในขั้นตอนที่ 1 มาแต่งประโยค ที่ใช้ภาษาแบบบรรยายอย่างน้อย 3 ประโยค และ ประโยคที่ใช้ภาษาแบบพรรณนาอย่างน้อย 3 ประโยค บรรยาย พรรณนา ขั้นที่ 3 จากประโยคสู่ข้อความ ค าชี้แจง ให้นักเรียนน าประโยคที่ได้จากขั้นที่ 2 มาเรียบเรียงให้เป็นข้อความ โดยเขียนให้มีความความ สอดคล้องกลมกลืนกัน ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ รายชื่อสมาชิก ............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................

แบบทดสอบหลังเรียนเรื่อง การบรรยายและการพรรณนา ใน Google Form

แบบประเมินการท าใบงานที่ 1 เรื่อง เทคนิคการเขียน 3 ขั้นตอน วิชาภาษาไทย ท 33101 โรงเรียนสตรีอ่างทอง ค าชี้แจง ให้ครูผู้สอนประเมินใบงานที่ 1 เรื่อง เทคนิคการเขียน 3 ขั้นตอน ของนักเรียนโดยใส่คะแนนในช่อง รายการประเมิน กลุ่มที่ รายชื่อสมาชิก ขั้นตอนที่ 1 ขั้นตอนที่ 2 ขั้นตอนที่ 3 อักขรวิธี ความเป็นระเบียบ รวมคะแนน ระดับคุณภาพ ผลการประเมิน ลงชื่อ ....................................................... (นางสาวกานต์สินี พูลพิพัฒน์) ครู

เกณฑ์การประเมินการท าใบงานที่ 1 เรื่อง เทคนิคการเขียน 3 ขั้นตอน ประเด็นการประเมิน เกณฑ์การให้ระดับคะแนน 4 3 2 1 1. ขั้นตอนที่ 1 เขียนค า 10 ค าขึ้นไป ที่เกี่ยวข้องกับภาพ ได้ค า 9 ค า ที่ เกี่ยวข้องกับภาพ ได้ค า 8 ค า ที่ เกี่ยวข้องกับภาพ ได้ค า 7 ค าหรือน้อย กว่า 7 ค า ที่ เกี่ยวข้องกับภาพ 2. ขั้นตอนที่ 2 เขียนบรรยายได้3 ประโยคขึ้นไป เขียนพรรณนาได้3 ประโยคขึ้นไป เขียนบรรยายได้ 2 ประโยค เขียนพรรณนาได้ 3 ประโยค หรือเขียนบรรยายได้ 3 ประโยค เขียนพรรณนาได้ 2 ประโยค เขียนบรรยายได้ 2 ประโยค เขียนพรรณนาได้2 ประโยค เขียนบรรยายได้ 1 ประโยค เขียนพรรณนาได้ 2 ประโยค หรือเขียนบรรยายได้ 2 ประโยค เขียนพรรณนาได้ 1 ประโยค 3. ขั้นตอนที่ 3 - เรียบเรียงประโยค ถูกตองชัดเจน สละสลวย - ประกอบด้วย ประโยคบรรยายและ พรรณนาอย่างน้อย 3 ประโยคหรือ มากกว่านั้น - เรียบเรียงประโยค สับสนวกวน 1 ประโยค - ประกอบด้วย ประโยคบรรยาย 2 ประโยคและ พรรณนา 3 ประโยค หรือประกอบด้วย ประโยคบรรยาย 3 ประโยคและ พรรณนา 2 - เรียบเรียงประโยค สับสนวกวน 2 ประโยค - ประกอบด้วย ประโยคบรรยาย 2 ประโยคและ พรรณนา 2 ประโยค - เรียบเรียงประโยค สับสนวกวน 3 ประโยค - ประกอบด้วย ประโยคบรรยาย 2 ประโยคและ พรรณนา 1 ประโยค หรือประกอบด้วย ประโยคบรรยาย 1 ประโยคและ พรรณนา 2 4. อักขรวิธี เขียนถูกตองทุกค า ครบถวน เขียนผิด 1 - 2 ค า เขียนผิด 3 - 4 ค า เขียนผิด 5 ค าขึ้นไป 5. ความเป็นระเบียบ เรียบร้อย - งานมีความ เรียบร้อย สวยงาม - ตัวหนังสือสวย อ่านง่าย - ไมมีรอยลบ หรือ ขีดฆา - ตัวหนังสืออ่านง่าย - มีรอยลบ หรือ ขีดฆา 1 - 3 แหง - ตัวหนังสือพออ่าน ได้ - มีรอยลบ หรือ ขีดฆา มากกวา 3 แหง - ตัวหนังสืออ่านยาก

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 16 – 20 ดีมาก 11 – 15 ดี 6 – 10 พอใช้ 0 – 5 ปรับปรุง เกณฑ์การผ่าน ตั้งแต่ระดับคุณภาพ ดี ขึ้นไป

แบบประเมินชิ้นงาน “เล่าเรื่องเมืองอ่างทอง” วิชาภาษาไทย ท 33101 โรงเรียนสตรีอ่างทอง ค าชี้แจง ให้ครูผู้สอนประเมินชิ้นงาน “เล่าเรื่องเมืองอ่างทอง” ของนักเรียนโดยใส่คะแนนในช่องรายการ ประเมิน ลงชื่อ ....................................................... (นางสาวกานต์สินี พูลพิพัฒน์) ครู กลุ่มที่ รายชื่อสมาชิก ตรงตามวัตถุประสงค์ ความถูกต้องสมบูรณ์ ความคิดสร้างสรรค์ ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ตรงตามก าหนดเวลา รวมคะแนน ระดับคุณภาพ ผลการประเมิน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14

เกณฑ์การประเมินชิ้นงาน “เล่าเรื่องเมืองอ่างทอง” ประเด็นการ ประเมิน เกณฑ์การให้ระดับคะแนน 4 3 2 1 1. ตรงตามจุดประสงค์ ที่ก าหนด - เรียบเรียงประโยค ถูกตองชัดเจน สละสลวย - ประกอบด้วย ประโยคบรรยายและ พรรณนาอย่างน้อย 3 ประโยคหรือ มากกว่านั้น - เรียบเรียงประโยค สับสนวกวน 1 ประโยค - ประกอบด้วย ประโยคบรรยาย 2 ประโยคและ พรรณนา 3 ประโยค หรือประกอบด้วย ประโยคบรรยาย 3 ประโยคและ พรรณนา 2 - เรียบเรียงประโยค สับสนวกวน 2 ประโยค - ประกอบด้วย ประโยคบรรยาย 2 ประโยคและ พรรณนา 2 ประโยค - เรียบเรียงประโยค สับสนวกวน 3 ประโยค - ประกอบด้วย ประโยคบรรยาย 2 ประโยคและ พรรณนา 1 ประโยค หรือประกอบด้วย ประโยคบรรยาย 1 ประโยคและ พรรณนา 2 2. ความถูกต้อง สมบูรณ์ การเขียนสะกดค าถูก ทั้งหมด มีการเขียนสะกด ค าผิด 1 -2 ค า มีการเขียนสะกดค าผิด 3 - 4 ค า มีการเขียนสะกด ค าผิด 5 ค าขึ้นไป 3. ความคิดสร้างสรรค์ ผลงานแสดงออกถึง ความคิดสร้างสรรค์ แปลกใหม่และเป็น ระบบ ผลงานมีแนวคิดแปลก ใหม่แต่ยังไม่เป็นระบบ ผลงานมีความหน้า สนใจ แต่ยังไม่มี แนวคิดแปลกใหม่ ผลงานไม่แสดง แนวคิดใหม่ 4. ความเป็นระเบียบ เรียบร้อย ผลงานมีความเป็น ระเบียบแสดงออกถึง ความประณีต ผลงานส่วนใหญ่มี ความเป็นระเบียบแต่ ยังไม่ข้อบกพร่อง เล็กน้อย ผลงานมีความเป็น ระเบียบ แต่มี ข้อบกพร่องบางส่วน ผลงานส่วนใหญ่ไม่ เป็นระเบียบและมี ข้อบกพร่อง 5. ตรงตาม ก าหนดเวลา ส่งชิ้นงานตรงตาม วันที่ก าหนด ส่งชิ้นงานช้ากว่าที่ ก าหนด 1-2 วัน ส่งชิ้นงานช้ากว่าที่ ก าหนด 3-5 วัน ส่งชิ้นงานช้ากว่าที่ ก าหนด 5 วันขึ้นไป เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 16 – 20 ดีมาก 11 – 15 ดี 6 – 10 พอใช้ 0 – 5 ปรับปรุง เกณฑ์การผ่าน ตั้งแต่ระดับคุณภาพ ดี ขึ้นไป

แบบสังเกตพฤติกรรมการเขียน วิชาภาษาไทย ท 33101 โรงเรียนสตรีอ่างทอง ค าชี้แจง ให้ครูผู้สอนสังเกตพฤติกรรมการเขียนของนักเรียน แล้วใส่คะแนนในช่องรายการประเมิน เลขที่ รายชื่อ คะแนน ระดับคุณภาพ ผลการประเมิน ลงชื่อ ....................................................... (นางสาวกานต์สินี พูลพิพัฒน์) เกณฑ์การประเมินพฤติกรรมการเขียน ประเด็นการ ประเมิน เกณฑ์การให้ระดับคะแนน 4 3 2 1 พฤติกรรมการเขียน มีสมาธิในการเขียน ตั้งใจเขียน ผลงาน สะอาดดีมาก มีสมาธิในการเขียน ตั้งใจเขียน ผลงาน สะอาดดี มีสมาธิในการเขียน ตั้งใจเขียนเป็น บางครั้ง ผลงานมีรอยลบ บางแห่ง ไม่มีสมาธิในการ เขียน ไม่ตั้งใจเขียน เป็น บางครั้ง ผลงานมี รอยลบหลายแห่ง เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ คะแนน ระดับคุณภาพ 4 ดีมาก 3 ดี 2 พอใช้ 1 ปรับปรุง เกณฑ์การผ่าน ตั้งแต่ระดับคุณภาพ ดี ขึ้นไป

แบบประเมินสมรรถนะส าคัญของผู้เรียน (ความสามารถในการสื่อสารและความสามารถในการคิด) วิชาภาษาไทย ท 33101 โรงเรียนสตรีอ่างทอง ค าชี้แจง ให้ครูผู้สอนสังเกตพฤติกรรมการเขียนของนักเรียน แล้วใส่คะแนนในช่องรายการประเมิน เลขที่ รายชื่อ รายการประเมิน รวมคะแน น คะแนนเฉลี่ย ระดับคุณภาพ ผลการประเมิน ความสามารถ ในการสื่อสาร ความสามารถ ในการคิด ลงชื่อ ....................................................... (นางสาวกานต์สินี พูลพิพัฒน์) ครู

เกณฑ์การประเมินสมรรถนะส าคัญของผู้เรียน ประเด็นการประเมิน เกณฑ์การให้ระดับคะแนน 4 3 2 1 ความสามารถในการสื่อสาร 1. ใช้ภาษาในการ สื่อสารได้อย่าง เหมาะสม และบรรลุ เป้าหมาย พฤติกรรมที่ปฏิบัติ นั้นชัดเจนและ สม ่าเสมอ พฤติกรรมที่ปฏิบัติ นั้นชัดเจนและ บ่อยครั้ง พฤติกรรมที่ปฏิบัติ บางครั้ง พฤติกรรมที่ไม่เคย ปฏิบัติ ความสามารถในการคิด 1. สามารถวิเคราะห์ สังเคราะห์ และ รวบรวมข้อมูลแล้ว น าข้อมูลมาใช้ในการ ปฏิบัติงาน พฤติกรรมที่ปฏิบัติ นั้นชัดเจนและ สม ่าเสมอ พฤติกรรมที่ปฏิบัติ นั้นชัดเจนและ บ่อยครั้ง พฤติกรรมที่ปฏิบัติ บางครั้ง พฤติกรรมที่ไม่เคย ปฏิบัติ เกณฑ์การประเมินระดับคุณภาพ คะแนนเฉลี่ย 4 หมายถึง ดีมาก คะแนนเฉลี่ย 3 หมายถึง ดี คะแนนเฉลี่ย 2 หมายถึง พอใช้ คะแนนเฉลี่ย 1 หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์การผ่าน ตั้งแต่ระดับ “ดี” ขึ้นไป

แบบประเมินนคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน วิชาภาษาไทย ท 33101 โรงเรียนสตรีอ่างทอง ค าชี้แจง ให้ครูผู้สอนสังเกตพฤติกรรมการเขียนของนักเรียน แล้วใส่คะแนนในช่องรายการประเมิน เลขที่ รายชื่อ รายการประเมินใฝ่เรียนรู้ รวมคะแนน คะแนนเฉลี่ย ระดับคุณภาพ ผลการประเมิน มุ่งมั่นในการท างาน ลงชื่อ ....................................................... (นางสาวกานต์สินี พูลพิพัฒน์) เกณฑ์การให้คะแนน 4 หมายถึง พฤติกรรมที่ปฏิบัตินั้นชัดเจนและสม ่าเสมอ 3 หมายถึง พฤติกรรมที่ปฏิบัตินั้นชัดเจนและบ่อยครั้ง 2 หมายถึง พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง 1 หมายถึง พฤติกรรมที่ไม่เคยปฏิบัติ เกณฑ์การประเมินระดับคุณภาพ คะแนนเฉลี่ย 4 หมายถึง ดีมาก คะแนนเฉลี่ย 3 หมายถึง ดี คะแนนเฉลี่ย 2 หมายถึง พอใช้ คะแนนเฉลี่ย 1 หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์การผ่าน ตั้งแต่ระดับ “ดี” ขึ้นไป