The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ketwadee.ploy, 2021-10-22 11:18:44

หนานทิพย์ช้าง วีรบุรุษผู้กล้าสู่ความศรัทธาของชาวเขลางค์

ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

"หนานทิพย์ช้าง" วีรบุรุษผู้กล้า

สู่ความศรัทธาของชาวเขลางค์

จัดทำโดย
นางสาว เกตุวดี ปินตาเครือ

บทนำ

ล้านนา หมายถึง ดินแดนที่มีนานั บล้าน ซึ่งมีความสอดคล้องกับล้านช้าง อาณาจักรล้านนามีความสำคัญทาง
ประวัติศาสตร์ ประกอบด้วยเมืองสำคัญกระจัดกระจายตามเขตที่ราบลุ่มสายสำคัญต่างๆ จึงประกอบด้วยคนหลายเชื่อชาติ
เช่น ลัวะ ถือเป็นบรรพบุรุษของคนล้านนา ลื้อ ยอง มอญ เงี้ยวหรือไทใหญ่ เป็นต้น คำว่า “ล้านนา”ปรากฏขึ้นในสมัย
พญากือนา ต่อมาจึงถูกใช้เรียกชื่อกษัตริย์ผู้ครองดินแดนล้านนา

ดินแดนล้านนาอยู่ในเขตภาคเหนื อของประเทศไทย ประกอบด้วย เมืองต่างๆ แบ่งตามสภาพภูมิศาสตร์ออกเป็นสองกลุ่ม
คือ กลุ่มเมืองล้านนาตะวันตก ประกอบด้วย เมืองเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง เชียงราย และพะเยา และกลุ่มเมืองล้านนาตะวัน
ออก ประกอบด้วย เมืองแพร่และน่ าน ปัจจุบันล้านนา หมายถึง ดินแดน 8 จังหวัดภาคเหนื อ ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่
ลำพูน ลำปาง เชียงราย พะเยา แพร่ น่ าน และแม่ฮ่องสอน

ประวัติศาสตร์ล้านนามีความซับซ้อนและเกิดเหตุการณ์สำคัญต่างๆ มากมาย ซึ่งประกอบด้วย 4 ช่วงเวลา คือ ล้านนายุค
ต้น (พ.ศ. 1839-1898) ล้านนายุครุ่งเรือง (พ.ศ. 1898-2068) ล้านนาภายใต้การปกรองของพม่า (พ.ศ. 2068-2101) และ
ล้านนากับการเป็นส่วนหนึ่ งของอาณาจักรสยาม

ในส่วนนี้ จะเป็นการศึกษาประวัติศาสตร์ล้านนาช่วงรอยต่อระหว่างยุคล้านนาภายใต้การปกครองของพม่ากับยุคที่ล้านนา
เป็นส่วนหนึ่ งของอาณาจักรสยาม ซึ่งจะมุ่งประเด็นเนื้ อหาไปที่จังหวัดลำปางในยุคสมัยนั้ นและกล่าวถึงบทบาทบรรพบุรุษ
คนสำคัญ คือ หนานทิพย์ช้าง ที่ท่านได้ช่วยกอบกู้บ้านเมืองจากการอยู่ภายใต้อำนาจของพม่า อีกทั้งเพื่อเป็นการเทิดทูน
และแสดงถึงความศรัทธาต่อบรรพบุรุษที่ช่วยกอบกู้บ้านเมืองได้สำเร็จ

เนื้อหา 01 ล้านนาภายใต้การปกรองของพม่า
ประกอบด้วย

02 พระประวัติพระยาสุลวะลือไชยสงคราม

(ทิพย์ช้าง)

03 การกอบกู้บ้านเมืองจากพม่า
ของชาวเมืองลำปางเเละการมีบทบาท

ของหนานทิพย์ช้าง

เนื้อหา 04 วีรกรรมของหนานทิพย์ช้าง
ประกอบด้วย
ในเอกสารลายลักษณ์ อักษรท้องถิ่น



05 ความศรัทธาพ่อเจ้าทิพย์ช้าง

ในมุมความเชื่อของชาวลำปาง

06 สถานที่สำคัญอันเกี่ยวเนื่ อง

กับประวัติศาสตร์

ล้านนาภายใต้การปกรองของพม่า
พ ศ( . . 2068-2101)

ล้านนาภายใต้การปกรองของพม่า
(พ.ศ. 2068-2101)

เมื่อพระเจ้าบุเรงนองยึดครองเมืองเชียงใหม่ได้แล้ว ในระยะแรกนั้ น
พม่าไม่ได้เข้ามาปกครองโดยตรง แต่ยังได้มอบหมายให้พระเจ้าเมกุฏิ
ปกครองบ้านเมืองตามเดิมในฐานะเมืองประเทศราชของพม่า
ซึ่งเชียงใหม่จะต้องส่งเครื่องบรรณาการให้แก่พม่าปีละหนึ่ งครั้ง
เป็นอย่างน้ อย

ต่อมาพม่าได้ปลดพระเจ้าเมกุฏิออกจากตำแหน่ งเจ้าเมือง
ขณะเดียวกันพระเจ้าไชยเชษฐาจากล้านช้างได้ยกทัพมาโจมตีเชียงแสน
และพยายามสร้างพันธมิตรกับหัวเมืองไทใหญ่ต่างๆ ดังนั้ นพม่าจึงได้
แต่งตั้งพระนางราชเทวี หรือพระนางวิสุทธิเทวี เข้ามาปกครอง
เมืองเชียงใหม่โดยตรง

ล้านนาภายใต้ การปกครองของล้านนาในช่วงเวลาที่พม่ายึดครองนั้ น
การปกรองของพม่า จะมีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองเชียงใหม่ และพม่ายังแต่งตั้งตำแหน่ ง
นาซ้ายเเละนาขวา มีหน้ าที่คอยดูแลและเก็บภาษี ตลอดจน
(พ.ศ. 2068-2101) การควบคุมหัวเมืองต่างๆ พันธะสำคัญประการหนึ่ งของเมือง
ฐานะประเทศราช คือ ต้องเกณฑ์ส่วยจากเมืองต่างๆ ส่งไปยังพม่า
และต้องช่วยพม่าในยามศึกสงคราม อำนาจของพม่าในเชียงใหม่
ไม่ใช่เป็นอำนาจที่ถาวร ดังนั้ นตลอดระยะเวลาที่พม่าปกครอง
ล้านนาได้มีกบฏของเมืองต่างๆ จึงทำให้ในปี พ.ศ. 2244
พม่ามีนโยบายแบ่งแยกการปกครองล้านนาออกเป็นสองส่ วน
โดยส่ วนแรกได้แยกเมืองเชียงแสนออกจากอำนาจของเมือง
เชียงใหม่ โดยให้เมืองเชียงแสนขึ้นตรงต่อกรุงอังวะ แต่ก็ไม่
สามารถแก้ปัญหาการกบฏในเมืองต่างๆ ได้

พระประวัติ
พระยาสุลวะลือไชยสงคราม

(ทิพย์ช้าง)

เดิมเป็นสามัญชนชาวบ้านปงยางคก จังหวัดลำปาง
เกิดในราวปี พ.ศ. 2217 ประกอบอาชีพเป็นพรานช้างป่า
มีเชี่ยวชาญด้านการใช้อาวุธ ชาวบ้านจึงขนานนามว่า
"หนานทิพย์ช้าง" และในปี พ.ศ. 2275 ได้รับการสถาปนา
ให้เป็นเจ้าผู้ครองนครลำปาง นามว่า “เจ้าทิพย์จักรหลวง
หรือพระเจ้าสุละวะฤาไชยสงคราม” สมรสกับแม่พิมพา
มหาเทวี มีบุตรธิดารวมทั้งหมด 6 คน คือ เจ้าชายอ้าย
เจ้าชายแก้ว เจ้านางคำ เจ้าชายคำภา เจ้าชายพ่อเรือน
และเจ้านางกลม พระเจ้าสุลวะฤาไชยสงครามทรงครอง
นครลำปางนาน 27 ปี ถึงพิราลัย ในปี พ.ศ. 2302

" การกอบกู้บ้านเมืองจากพม่า
ของชาวเมืองลำปาง"

ระหว่าง พ.ศ. 2272 - 2275 ดินแดนล้านนาได้
รับความเดือนร้อนจากพม่าส่ งผลให้ล้านนา
เกิดความวุ่นวายเป็นอย่างมาก ขณะนั้ นพม่า
ได้เข้ายึดเมืองลำพูน เชียงแสน และเชียงราย
ตามลำดับ ส่วนทางเชียงใหม่มีเจ้าองค์ดำพยายาม
รวบรวมกำลังต่อสู้กับพม่า แต่ทางลำปางนั้ น
มีเพียงขุนเมืองทั้ง 4 รักษาราชการแทนเจ้าเมือง
ที่มุ่งแต่จะแก่งแย่งอำนาจกัน จากสถานการณ์
ดังกล่าวสร้างความเดือดร้อนให้กับราษฎร

"การกอบกู้บ้านเมืองจากพม่า
ของชาวเมืองลำปาง"

จนเรื่องไปถึงพระภิกษุบ้านนายาง พระภิกษุรูปนี้ แกร่งกล้าด้วยวิชาอาคม มีความรู้ทางไสยศาสตร์
จึงได้เข้าร่วมกับภิกษุวัดสามขาและวัดบ้านฟ่อน ร่วมกันวางแผนกอบกู้บ้านเมืองจากพม่า เมื่อทัพพม่า
ภายใต้การนำของท้าวมหายศยกทัพมายังเมืองลำปางจึงได้เข้าปะทะกันอย่างจัง กองทัพลำปางสู้ไม่ได้
จึงแตกหนี ไปที่วัดพระธาตุลำปางหลวงและพม่าได้ตามไปล้อมไว้ การกอบกู้บ้านเมืองภายใต้การนำ
ของพระภิกษุครั้งนี้ ไม่สำเร็จ

เมื่อได้รับชัยชนะแล้วท้าวมหายศก็ยกทัพเข้ามาตั้งอยู่ในวัดพระธาตุลำปาง
หลวง แล้วจึงมีบัญชาให้ทหารออกไปเรียกเก็บเงินภาษีชาวบ้าน บังคับเอา
ข้าวของทรัพย์สิน เงินทอง ต่อมาท้าวมหายศจึงคิดหาวิธีปกครองเมืองลำปาง
โดยการหลอกอุบายฆ่าขุนเมืองลำปางทั้ง 4 คน ส่วนชาวบ้านเมื่อเห็นหัวหน้ า
ถูกฆ่าตายจึงได้หนี ไปอาศัยอยู่ตามที่ต่างๆ ครั้งนั้ นเมืองลำปางจึงไม่ต่างจาก
เมืองร้าง

"สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ
การกอบกู้บ้านเมืองจากพม่า

ของหนานทิพย์ช้าง"

ในเวลาต่อมา พระมหาเถระวัดพระเจ้าชมพู (วัดพระแก้วดอนเต้า)
ขออาสาเข้าปราบพม่า จึงได้ปรึกษาหาลือกับญาติโยมและสานุศิษย์
จากนั้ นพระมหาเถระวัดชมพูได้มองเห็นหนานทิพย์ช้าง ซึ่งมีอาชีพ
เป็นพรานป่า เป็นผู้มีปัญญาเฉลียวฉลาด กล้าหาญ มีกำลังฝีมือ
ทั้งยังชำนาญในการใช้อาวุธปืน จึงอยากให้เป็นผู้นำกำลังเข้าต่อสู้
กับพม่า แต่หนานทิพย์ช้างเกรงว่าถ้ากู้บ้านกู้เมืองสำเร็จแล้วจะมีปัญหา
เรื่องการครองบ้านเมือง จึงขอคำสัญญาว่า ถ้าทำศึกชนะแล้วต้องยก
บ้านยกเมืองให้ตนครอง ชาวบ้านก็พร้อมใจตกลงในคำสัญญาดังกล่าว

"สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ การกอบกู้บ้านเมืองจากพม่า
ของหนานทิพย์ช้าง"

หนานทิพย์ช้างได้นำกำลังคน 300 คน ไปล้อมทัพเจ้ามหายศที่วัดพระธาตุลำปางหลวง
กองทัพเมืองลำปางเดินทางไปถึงก็เป็นเวลาดึกสงัดแล้ว หนานทิพย์ช้างจึงวางกำลังคนอยู่เฝ้าจุดสำคัญ
ของพวกพม่า แล้วรอบเข้าทางท่อระบายน้ำทางทิศตะวันตกของวัดพระธาตุลำปางหลวงเเละปลอมตัว
เป็นผู้ถือหนั งสือจากเมืองลำพูน ออกอุบายว่าเป็นหนั งสือของชายาท้าวมหายศ ขณะนั้ นท้าวมหายศ
ทหารคนสนิ ท และนางบำเรอกำลังเล่นหมากรุกที่วิหารหลวงในวัดพระธาตุลำปางหลวงอยู่
หนานทิพย์ช้างจึงทำทียื่นหนั งสือให้แล้วถอยมาพอระยะ จึงใช้ปืนยิงท้าวมหายศเสียชีวิตคาวงหมากรุก
ซึ่งลูกปืนทะลุไปถูกกรงเหล็กที่ล้อมพระธาตุไว้ (ปัจจุบันนี้ ยังมีรอยเหลืออยู่)

"ร่องรอย
ของวีรบุรุษ"

"สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ
การกอบกู้บ้านเมืองจากพม่า

ของหนานทิพย์ช้าง"

กองทัพท้าวมหายศแตกกระจัดกระจายและทหาร
ถูกฆ่าตายเป็นจำนวนมาก หนานทิพย์ช้างกลับออกมา
ทางท่อระบายน้ำทางเดิม เมื่อขับไล่ปราบกองทัพพม่า
แตกพ่ายไปแล้ว พระมหาเถรวัดพระเจ้าชมพูพร้อมด้วย
ประชาราษฎร์ชาวเมืองนครลำปางพร้อมใจกันตั้งพิธี
สรงน้ำมุรธาภิเษกให้หนานทิพย์ช้างเป็นเจ้าผู้ครอง
เมืองนครลำปาง ใน พ.ศ. 2275

"หนานทิพย์ช้าง
กับคติของชาวล้านนา"

"บ่ใจ้เจื้อเจ้าก่ออย่าหวังเป๋นพระญา บ่ใจ้เจื้อเสนาก่ออย่าหวัง
เป๋นอำมาตย์ บ่ใจ้เจื้อคนแกล้วอาจก่ออย่าหวังเป๋นขุนหาญ บ่ใจ้เจื้อ
นั กก๋านก่ออย่าหวังเป๋นเถ้าแก่"

หนานทิพย์ช้างซึ่งเป็นเพียงสามัญชนรู้สึ กว่าตนเองไม่มีสิ ทธิธรรม
ในการปกครอง จึงต้องอาศัยความชอบธรรมโดยการแต่งตั้งของกษัตริย์พม่า และได้รับการเฉลิม
พระนามเป็น "พระยาไชยสงคราม" ในปี พ.ศ. 2278 บางตำราจึงมักออกพระนามรวมกันเป็นพระยา
สุลวะลือไชยสงคราม หรือ พระเจ้าทิพย์จักรสุละวะฤๅไชยสงคราม พระองค์ปกครองนครลำปาง
ได้ 27 ปี จึงถึงแก่พิราลัยในปี พ.ศ. 2302

" วีรกรรมของหนานทิพย์ช้าง
ในเอกสารลายลักษณ์อักษร

ท้องถิ่น "

" ตำนานพื้นบ้านภาคเหนือ "


นภัสนันท์ พุ่มสุโข

ในปี พ.ศ. 2275 เป็นยุคที่ลำปางว่างจากเจ้าผู้ครองนคร ท้าวมหายศจากนครลำพูน ซึ่งขณะนั้ น
อยู่ภายใต้การปกครองของพม่าได้ยกกองทัพมาตีนครลำปาง และมาตั้งค่ายทหารในวัดพระธาตุลำปาง
หลวง เหตุการณ์ครั้งนี้ หนานทิพย์ช้าง วีรบุรุษของเมืองลำปางได้แข็งข้อนำกำลังเข้าต่อสู้ โดยได้แอบ
เข้ามาที่วัดพระธาตุลำปางหลวง ใช้ปืนยิงท้าวมหายศถึงเเก่ชีวิตและได้ตีทัพลำพูนแตกพ่ายไป
ปัจจุบันยังปรากฏรอยลูกปืนอยู่บนเสารั้วทองเหลืองที่ล้อมองค์พระธาตุเจดีย์ วีรกรรมของหนาน
ทิพย์ช้างครั้งนี้ ทำให้หนานทิพย์ช้างได้สถาปนาขึ้นเป็น เจ้าพระยาสุลวะลือไชย ครองนครลำปาง
เป็นบรรพบุรุษของสกุลเจ้าเจ็ดตน

" ตำนานสิบห้าราชวงศ์
ผูกที่ 6 "

ความศรัทธาพ่อเจ้าทิพย์ช้างในมุมความเชื่อชาวลำปาง

ด้านไสยศาสตร์

" พระยันต์ฟ้าฟีก "

หรือคาถาตาลหิ้น เป็นพระคาถาอันศักดิ์สิทธิ์ยิ่งยวด
เป็นการดึงเอาหัวใจของพระคาถาไจยะเบงชร (ชินบัญชร)
ออกมา 8 อักขระ มีอานุภาพเรื่องแคล้วคลาดป้องกันภัย
ภยันตรายต่างๆ

ความศรัทธาพ่อเจ้าทิพย์ช้างในมุมความเชื่อชาวลำปาง

" เหรียญพระยาสุลวะลือไชยสงคราม "

หลวงพ่อเกษม เขมโก เกจิอาจารย์ชื่อดังเมืองลำปางได้เมตตา
ปลุกเสกเหรียญพระยาสุลวะลือไชยสงคราม (หนานทิพย์ช้าง)
ขึ้นมา เพื่อให้ชาวลำปางได้ระลึกถึงพระเกียรติคุณอันยิ่งใหญ่
ในฐานะเจ้าผู้ครองนครลำปาง

ด้านสถาปัตยกรรม

" อนุสาวรีย์พ่อเจ้าทิพย์ช้าง
ณ วัดพระธาตุลำปางหลวง "

ชาวเมืองลำปางได้สร้างอนุสาวรีย์พระยาสุลวลือไชย
สงครามขึ้น ณ วัดพระธาตุลำปางหลวง อ.เกาะคา
เพื่อสืบสานตำนานหนานทิพย์ช้าง ผู้นำในการกอบกู้
นครลำปาง วีรกรรมของหนานทิพย์ช้าง ใช้ปืนยิง
ท้าวมหายศ แม่ทัพพม่าที่วัดพระธาตุลำปางหลวง
เเละในทุกวันที่ 18 ก.ค.ของทุกปี กลุ่มลูกหลานสกุล
เจ้าเจ็ดตน จะมีการจัดงานป๋าเวณีพ่อเจ้าทิพย์ช้างขึ้น
ที่วัดพระธาตุลำปางหลวง

" อนุสาวรีย์พ่อเจ้าทิพย์ช้าง
ณ ตำบลพระบาท "

อนุสาวรีย์พระยาสุลวะลือไชยสงคราม ตั้งอยู่ที่ริมถนน
ซุปเปอร์ไฮเวย์ลำปาง-งาว ตำบลพระบาท จังหวัดลำปาง
ซึ่งประชาชนชาวลำปาง และผู้สืบสกุล ณ ลำปาง ร่วมกันสร้างขึ้น
เพื่อเทิดพระเกียรติพระคุณพ่อเจ้าทิพย์ช้างผู้ที่กอบกู้อิสรภาพ
และสถาปนาความเป็นปึกแผ่นมั่นคงให้แก่นครลำปาง เมื่อวันที่
15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2527 สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวง
ชินวราลงกรณ์ เสด็จทรงประกอบพิธีเททอง และสมเด็จพระนาง
เจ้าสิริกิติ์ ได้เสด็จพระราชดำเนิ นทรงประกอบพิธีเปิดอนุสรณ์
สถานแห่งนี้ ดังนั้ นวันที่ 15 กุมภาพันธ์ของทุกปี เทศบาล
นครลำปางและหน่ วยงานต่างๆ ในจังหวัดลำปางจะร่วมกันทำพิธี
บวงสรวงเจ้าพระยาสุลวฤๅไชยสงคราม (พ่อเจ้าทิพย์ช้าง) ซึ่งจะมี
การประกอบพิธีทางศาสนา บำเพ็ญกุศลอุทิศถวายพ่อเจ้า
ทิพย์ช้าง

" ศาลเจ้าพ่อทิพย์ช้าง
ณ วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม "

อยู่ทางทิศใต้ของวัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม พระวิญญาณ
ของเจ้าพ่อทิพย์ช้างได้เข้าประทับบอกให้ลูกหลานสกุล ณ ลำปาง
ให้สร้างศาลขึ้นตรงที่ตั้งศาลปัจจุบันนี้ เป็นสถานที่สักการะ
เพื่อเป็นที่สิ งสถิตของดวงวิญญาณของพระองค์ท่านผู้ทรงกอบกู้
อิสรภาพล้านนาไทย ปฐมวงศ์ของเชื้อเจ้าเจ็ดตน ต้นตระกูล
ณ ลำปาง ณ ลำพูน ณ เชียงใหม่ และเชื้อเจ็ดตน

" อนุสรณ์สถานพ่อเจ้าทิพย์ช้าง "

อนุสรณ์สถานบ้านหนาดคำแห่งนี้ เคยเป็นอาณาบริเวณพื้นที่คุ้มเจ้าหลวงของพระเจ้าทิพย์จักร หรือ
เจ้าพระยาสุลวลือไชยสงคราม กับ แม่เจ้าพิมพาราชเทวี ซึ่งเป็นองค์ปฐมวงศ์ "ราชวงศ์ทิพย์จักราธิวงศ์”
ซึ่งสภาวัฒนธรรมจังหวัดลำปาง ได้ดำเนิ นการจัดสร้างขึ้น
เมื่อช่วงปี 2550 - 2554 บริเวณบ้านหนาดคำ ตำบลบ้านเอื้อม
อำเภอเมืองลำปาง เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระเกียรติคุณและ
คุณงามความดีของเจ้าพระยาสุลวลือไชยสงคราม
และแม่เจ้าพิมพาราชเทวี ที่ได้เคยมีคุณูปการต่อประชาชน
และนครลำปาง

สถานที่ " วัดพระธาตุลำปางหลวง "
สำคัญ
อันเกี่ยว เมื่อปี พ.ศ. 2275 สมัยนั้ นพม่าเรืองอำนาจได้แผ่อิทธิพล
เนื่องกับ ปกครองอาณาจักรล้านนา โดยแต่งตั้งเจ้าผู้ครองนครอยู่ภายใต้
ประวัติศาสตร์ การปกครองของกษัตริย์พม่า ท้าวมหายศเจ้าผู้ครองนครลำพูน
ได้ยกกำลังมายึดนครลำปาง โดยได้มาตั้งค่ายอยู่ภายใน
วัดพระธาตุลำปางหลวง ครั้งนั้ น หนานทิพย์ช้าง ได้รวบรวมพล
ทำการต่อสู้ทัพเจ้ามหายศ โดยลอบเข้ามาในวัดและใช้ปืนยิง
ท้าวมหายศ ปัจจุบันยังปรากฏรอยลูกปืนอยู่บนรั้วทองเหลือง
ที่ล้อมองค์พระธาตุเจดีย์

" รอยกระสุนปืน


ของหนานทิพย์ช้าง

ที่ใช้สังหาร
ท้าวมหายศ "

" วัดปงยางคก "

เป็นวัดที่มีความเป็นมาเก่าแก่แห่งหนึ่ งของ
จังหวัดลำปาง ภายในวัดเต็มไปด้วยคุณค่า
แห่งศิลปกรรมที่ควรค่าแก่การเก็บรักษา อาทิ
วิหารจามเทวีที่มีมาตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวี
เมื่อ พ.ศ. 1253 เป็นวิหารไม้ที่สวยงาม มีลักษณะ
เป็นหลังคาสามชั้น เดิมเป็นแป้นไม้เกล็ด
โครงสร้างของวิหารทั้งขื่อ คา เสา เขียนลายทอง
ซึ่งต่างจากวิหารทั่วๆ ไป ฝาผนั งวิหารด้านขวามือ
จะมีรอยดาบที่เกิดจากรอยดาบของการรบ
ระหว่างหนานทิพย์ช้างกับท้าวมหายศ สันนิ ษฐาน
ว่าอาจจะมีการต่อสู้ ที่วัดปงยางคกก่อนเกิดการ
ต่อสู้ กันอีกครั้งที่วัดพระธาตุลำปางหลวง

บรรณานุกรม

GEUKMA. (2 ตุลาคม 2021). เรียกใช้เมื่อ 3 ตุลาคม 2564 จาก GEUKMA: https://www.geukma.com/634/
Paleeriam, K. (2564, กุมภาพันธ์ 8). -. Retrieved ตุลาคม 3, 2564, from Blogger:
http://historyofthethaination.blogspot.com/2021/02/blog-post_8.html

กระทรวงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. (ม.ป.ป.). เรียกใช้เมื่อ 3 ตุลาคม 2564 จาก amazing THAILAND:
https://thai.tourismthailand.org/Attraction/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B
8%B0%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8
%95%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. (ม.ป.ป.). เรียกใช้เมื่อ 3 ตุลาคม 2564 จาก amazing THAILAND:
https://thai.tourismthailand.org/Attraction/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B8%87%E0%
B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%81

ข่าวสด online. (26 เมษายน 2555). เรียกใช้เมื่อ 3 ตุลาคม 2564 จาก
http://www.lampang.go.th/travel/weblp/page/page1.html

ชาญณรงค์ ปันเต. (8 มกราคม 2563). เรียกใช้เมื่อ 3 ตุลาคม 2564 จาก สปช.3:
https://region3.prd.go.th/region3_ci/topic/news/1228

เชียงใหม่นิ วส์. (15 กรกฎาคม 2561). ลำปางสืบสานตำนาน”พ่อเจ้าทิพย์ช้าง” วีรบุรุษแห่งเขลางค์นคร ต้นตระกูลเจ้าเจ็ด
ตน. เชียงใหม่นิ วส์, หน้ า -.

บรรณานุกรม

นภัสนั นท์ พุ่มสุโข. (2548). ตำนานพื้นบ้านภาคเหนื อ. กรุงเทพฯ: สำนั กพิมพ์บ้านหนั งสือ.
พระครูพิพิธพัฒนาภิรัต. (2536). ตำนานพระบรมธาตุดอนเต้า วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม. ม.ป.ท.: สำนั กงานบริษัทคน
เมืองเหนื อ จำกัด.

เรียบง่าย ธีม. (3 ตุลาคม 2564). เข้าถึงได้จาก Blogger.com:
http://historyofthethaination.blogspot.com/2021/02/blog-post_8.html

ลานนาสไนเปอร์. (11-17 มกราคม 2562). ตำนานเจ้าพ่อทิพย์ช้าง. ลานนาโพสต์, หน้ า -.
สงวน โชติสุขรัตน์ . 2553. “ทิพย์ช้าง” ใน ตำนานเมืองเหนื อ. นนทบุรี :ศรีปัญญา, หน้ า 277-283.
สำนั กงานวัฒนธรรม จังหวัดลำปาง. (12 กรกฎาคม 2559). เรียกใช้เมื่อ 3 ตุลาคม 2564 จาก กระทรวงวัฒนธรรม:
https://www.m-culture.go.th/lampang/ewt_news.php?nid=1555&filename=index
สำนั กงานวัฒนธรรม จังหวัดลำปาง. (20 มีนาคม 2563). เรียกใช้เมื่อ 3 ตุลาคม 2564 จาก กระทรวงวัฒนธรรม:
https://www.m-culture.go.th/lampang/ewt_news.php?nid=2178&filename=index
สุรพล ดำริห์กุล. (2539). แผ่นดินล้านนา. (อภิวันทน์ อดุลยพิเชฎฐ์, บ.ก.) กรุงเทพฯ: เมืองโบราณ.

บรรณานุกรมภาพ

กระทรวงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. (ม.ป.ป.). วัดปงยางคก. [Image]. สืบค้น 3 ตุลาคม 2564, จาก
https://th.readme.me/p/33054

พระยันต์ฟ้าฟีก. [Image]. สืบค้น 3 ตุลาคม 2564, จาก http://g-pra.com/auctionc/view.php?aid=21408165
พรมารดา. (2016). เหรียญพระยาสุลวะลือไชยสงคราม. [Image]. สืบค้น 3 ตุลาคม 2564, จาก
http://pralanna.com/boardpage.php?topicid=85194
สำนั กงานชลประทานที่ 2. (2560).วัดพระธาตุลำปางหลวง. [Image]. สืบค้น 3 ตุลาคม 2564,
จาก http://www.ori2.go.th/mainori2/index.php/all-news/tourist-area/903-lampanghlong
อาณาจักรล้านนา (พ.ศ. 1839 - 2442). [Image]. สืบค้น 3 ตุลาคม 2564, จาก
https://sites.google.com/site/sukhothaymeuxngkea/xanacakr-lan-na-ph-s-1839---2442
อนุสาวรีย์พระยาสุลวะลือไชยสงคราม. [Image]. สืบค้น 3 ตุลาคม 2564, จาก https://m.facebook.com/media/set
อนุสาวรีย์พระยาสุลวะลือไชยสงคราม. [Image]. สืบค้น 3 ตุลาคม 2564, จาก https://www.wikiwand.com/th
เชียงใหม่นิ วส์. (2563). อนุสรณ์สถานพ่อเจ้าทิพย์ช้าง. [Image]. สืบค้น 3 ตุลาคม 2564, จาก
https://www.chiangmainews.co.th/page/archives/1224668/
Blog Gang. (2556). รอยดาบของการรบระหว่างหนานทิพย์ช้างกับท้าวมหายศ. [Image]. สืบค้น 3 ตุลาคม 2564, จาก
https://www.bloggang.com
GEUKMA. (2021). อนุสาวรีย์พระยาสุลวะลือไชยสงคราม และรอยกระสุนของหนานทิพย์ช้าง วัดพระธาตุลำปางหลวง.
[Image]. สืบค้น 3 ตุลาคม 2564, จาก https://www.geukma.com/634/

บรรณานุกรมภาพ

Lampangsiteblog. (ม.ป.ป.). วัดพระธาตุลำปางหลวง. [Image]. สืบค้น 3 ตุลาคม 2564,
จาก https://lampangsiteblog.wordpress.com

Luoman. (2564). พระยาไชยสงคราม (ทิพย์ช้าง). [Image]. สืบค้น 3 ตุลาคม 2564,
จาก http://historyofthethaination.blogspot.com/2021/02/blog-post_8.html


Click to View FlipBook Version