The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

3.การใช้ผังก้างปลาวิเคราะหปัญหาโครงงาน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by rujroadk, 2021-11-24 09:20:58

3.การใช้ผังก้างปลาวิเคราะหปัญหาโครงงาน

3.การใช้ผังก้างปลาวิเคราะหปัญหาโครงงาน

Keywords: ผังก้างปลา,Fish Bone Daigram

แผนผังกา้ งปลา
Fish Bone Diagram

รศ.ดร.รจุ โรจน์ แกว้ อไุ ร

แผนผังก้างปลาคอื อะไร
แผนผังก้างปลา (Fish Bone Diagram) เป็นแผนผงั ทีใ่ ช้ในการวเิ คราะห์ความสัมพันธร์ ะหวา่ ง

ปัญหาและสาเหตุ ดังนัน้ จงึ เรียกอีกอย่างหน่ึงว่า แผนผังสาเหตแุ ละผล (Cause and Effect
Diagram) ผงั ก้างปลาเปน็ เครือ่ งมือหน่ึงในผังกราฟิก (Graphic Diagram) ทชี่ ่วยให้ผใู้ ชว้ เิ คราะห์
ความสมั พนั ธข์ องปญั หา สาเหตใุ หญ่ สาเหตรุ อง และสาเหตุย่อย ในภาพรวมได้

ประโยชน์ของผังกา้ งปลา

1. ใชส้ ำหรบั วิเคราะห์คน้ หาสาเหตแุ ห่งปัญหา
2. ใช้เพือ่ ศึกษา ทำความเขา้ ใจ ประเด็นปญั หา กบั สาเหตหุ ลัก สาเหตรุ องและสาเหตยุ อ่ ย

3. ใชเ้ พือ่ วิเคราะห์ภาพรวมของปญั หาที่ครอบคลมุ กระบวนการทั้งหมด
3. ใชเ้ ปน็ เครือ่ งมือในการระดมสมอง การทำงานเป็นทีมที่ต้องการมุมมองท่หี ลากหลายจากทมี งาน

วธิ กี ารวิเคราะห์และเขียนผังก้างปลา

แผนผังก้างปลาเปน็ เครื่องมอื ในการระดมสมองสนับสนุนการทำงานเปน็ ทีม ดังนัน้ ควรใช้วธิ กี ารวาง
แผนการระดมความคดิ จากทีมงาน โดยมกี ารดำเนินการตามขน้ั ตอนดงั ต่อไปน้ี

1. กำหนดทมี และสมาชิกของทีม
2. แนะนำวธิ ีการใช้แผนผงั ก้างปลา พร้อมแสดงตวั อย่างประกอบ
3. กำหนดประโยคปัญหาท่ีหัวปลา
4. ระดมความคดิ วิเคราะห์สาเหตุ โดยอาจเขียนจากสาเหตุย่อยๆ
5. ระดมความคิดสังเคราะห์จัดกลมุ่ สาเหตุต่างๆ เข้าด้วยกนั เปน็ สาเหตุรอง
6. วิเคราะห์หาสาเหตหุ ลกั ของปัญหา
7. จดั ลำดบั ความสำคัญของสาเหตุ
8. ใช้จดุ เนน้ สำหรับสาเหตหุ ลักที่สำคัญ
9. นำปัญหาทีส่ ำคัญเขียนเปน็ ผังก้างปลาใหม่ ที่วเิ คราะห์ปัญหาย่อยลงไปสปู่ ญั หาท่แี ท้จริง

การกำหนดหัวข้อปัญหาทีห่ ัวปลา
การกำหนดหวั ข้อปัญหาควรกำหนดปัญหาใหช้ ัดเจนถึงปัญหาท่ีแท้จรงิ และมีความเปน็ ไปได้ โดยเขียน

ในรูปของปัญหากวา้ งๆ ก่อนวิเคราะหล์ งสปู่ ญั หาท่ีแทจ้ ริง หรือปญั หาท่สี ำคญั ถา้ กำหนดประโยคปญั หานี้ไม่
ชัดเจนตัง้ แต่แรกแลว้ จะทำให้เราใช้เวลามากในการค้นหา สาเหตุ และจะใช้เวลานานในการทำผังก้างปลา
ตัวอยา่ งการกำหนดปญั หา เช่น

• นิสิตไม่นิยมใช้จักรยาน
• ปรมิ าณขยะเหลือใช้จำนวนมาก
• สินค้าท่ผี ลติ จำหน่ายได้ไมด่ ี
• คนท้ิงขยะโดยไม่แยกประเภท
• นักเรยี นไม่สนใจการเรียน
• นักเรยี นคดิ วเิ คราะหไ์ มไ่ ด้

การวิเคราะห์สาเหตหุ ลักบนกา้ งปลา

ในการวเิ คราะหส์ าเหตหุ ลักบนกา้ งปลา จะช่วยจดั กลมุ่ ของสาเหตใุ หส้ ามารถวิเคราะห์สาเหตยุ ่อยได้
ง่าย ซึง่ การทำงานสว่ นใหญส่ าเหตหุ ลักๆ จะเกิดจากประเด็นหลัก 4-6 ประเดน็ ซึ่งอาจเร่ิมจาก
การวิเคราะห์ทางธรุ กิจหรอื อุตสาหกรรม

ในการวเิ คราะหส์ าเหตุหลักบนก้างปลาในทางธรุ กิจและอุตสาหกรรมปัญหาสว่ นใหญเ่ กิดจาก 5 Ms
คอื 1) คน (Man) 2) วัสดุหรือสารสนเทศ (Material, Information) 3) เครือ่ งจกั รหรือเทคโนโลยี (Machine
or technology) 4) วิธกี าร (Method) และ 5) เคร่อื งมือวัด (Measurement)

การวเิ คราะหท์ างการศกึ ษา
ในการวิเคราะห์สาเหตุหลักบนกา้ งปลาในทางการศึกษาอาจวิเคราะห์จากผู้เกีย่ วขอ้ งทางการศึกษา

เชน่ ผบู้ รหิ าร ผเู้ รียน ผสู้ อน วธิ ีการเรียนการสอน ส่อื และเทคโนโลยี การวัดผล

การวิเคราะห์ทางดา้ นการตลาด

ในการวเิ คราะห์สาเหตหุ ลักบนกา้ งปลาในทางด้านการตลาด ใช้หลกั 7 P’s ในการวเิ คราะห์ ซ่ึงประกอบไป
ด้วย 1) Product/Service 2) Price 3) Place 4)Promotion 5)People/personnel 6)Process 7)Physical

Evidence

นอกจากนีย้ งั สามารถใช้สาเหตหุ ลักเปน็ 5S’s Surrounding, Supplier, System Skill และ
Safety ก็ได้ หรอื อาจจะเปน็ MILK Management, Information, Leadership, Knowledge ก็ได้

ผังกา้ งปลาประกอบดว้ ยส่วนต่างๆ ดงั ตอ่ ไปนี้
- สว่ นปัญหาหรือผลลัพธ์ (Problem or Effect) ซง่ึ จะแสดงอยทู่ ีห่ ัวปลา
- สว่ นสาเหตุ (Causes) จะสามารถแยกยอ่ ยออกไดอ้ ีกเปน็
o สาเหตุหลกั
o สาเหตรุ อง
o สาเหตุยอ่ ย
ซ่ึงสาเหตุหลักจะกำหนดไว้ด้านบนของก้างปลาแตล่ ะก้าง โดยแต่ละสาเหตุหลกั แตกประเดน็ เปน็ สาเหตุ

รอง เขยี นเปน็ กา้ งแตล่ ะกา้ งของกา้ งปลา โดยใช้เทคนคิ การระดมความคดิ เพอื่ จะได้สาเหตขุ องปัญหาท่แี ทจ้ รงิ
คือ การถาม ทำไม ทำไมจึงเป็นเชน่ นนั้ เพราะเหตใุ ดจึงส่งผลเช่นน้ัน ทำไมคนจึงมีนิสัยแบบนัน้ ทำไมจึงใช้
วธิ ีการแบบนน้ั ในการเขยี นแต่ละสาเหตยุ อ่ ยเป็นกา้ งย่อยๆ ของกา้ งปลา ยงั คงถามคาํ ถามเดมิ วา่ ทาํ ไมจงึ เกดิ ขึน้

อยา่ งต่อเนือง และลงระดบั ลกึ จนถึงสาเหตขุ องปัญหา

เทคนคิ 5-Whys เป็นวิธงี า่ ยๆ ทถ่ี กู นาํ มาใชเ้ พ่อื วิเคราะหส์ าเหตขุ องปัญหา โดยเจาะลกึ ใหถ้ ึงรากแก่นท่แี ทจ้ รงิ ของ
ปัญหานนั้ ๆ ผ่านการถามคาํ ถาม 5 คาํ ถามท่ีเจาะลงไปไปเรือ่ ยๆ... เช่น

= = > เรม่ิ จากปัญหาท่วี า่ “นกั เรยี นคนหนง่ึ มาเรยี นสายบ่อยๆ”

คำถำมท่ี 1 : ทาํ ไมถงึ มาทาํ งานสาย? คาํ ตอบ : เพราะวา่ ต่นื สาย

คำถำมท่ี 2 : ทาํ ไมถงึ ตนื่ สาย? คาํ ตอบ : เพราะวา่ นอนดกึ

คำถำมท่ี 3 : ทาํ ไมนอนดกึ คาํ ตอบ : เพราะว่าชว่ ยแม่ขายของตอนกลางคืน

คำถำมท่ี 4 : ทาํ ไมชว่ ยแมข่ ายของตอนกลางคอื คาํ ตอบ : เพราะพอ่ ไมช่ ่วยงาน

คำถำมท่ี 5 : ทาํ ไมพอ่ จงึ ไม่ชว่ ยงาน คาํ ตอบ : เพราะพอ่ ชอบด่ืมสรุ า
จากตวั อยา่ ง แสดงใหเ้ ห็นวา่ เทคนคิ การใชค้ าํ ถาม 5-Whys เป็นอีกวิธีหน่งึ ทช่ี ว่ ยใหเ้ จาะลกึ ไปถึงสาเหตขุ องปัญหา
ท่แี ทจ้ รงิ แตก่ ารใชเ้ ทคนิคนผี้ ใู้ ชต้ อ้ งเขา้ ใจระดบั ของคาํ ถามท่เี จาะลกึ ถึงตน้ ตอของปัญหา ผนู้ าํ ท่เี ป็นผถู้ ามคาํ ถาม ถา้ ถาม
คาํ ถามไมด่ ี ถามคาํ ถามไม่ถกู ตอ้ ง หรือไม่มคี วามรูเ้ ฉพาะในปัญหาท่กี าํ ลงั เจาะอยู่ ก็จะทาํ ใหก้ ารเจาะนนั้ ไปผดิ ทศิ ผดิ ทาง
หรอื เจาะไมล่ กึ พอ

ตวั อยา่ งผงั กา้ งปลา

หลักการเบอื้ งต้นของแผนภูมิกา้ งปลา (fishbone diagram) คือการใสช่ อื่ ของปัญหาท่ีต้องการ
วเิ คราะห์ ลงทางด้านขวาสุดหรือซา้ ยสุดของแผนภูมิ โดยมีเสน้ หลกั ตามแนวยาวของกระดูกสนั หลัง จากน้นั ใส่
ชอ่ื ของสาเหตุยอ่ ย ซึง่ เป็นสาเหตขุ องปัญหาหลกั 3 - 6 หวั ข้อ โดยลากเป็นเสน้ ก้างปลา (sub-bone) ทำมุม
เฉยี งจากเสน้ หลัก เสน้ ก้างปลาแตล่ ะเสน้ ให้ใสช่ ่ือของสิ่งท่ที ำให้เกดิ ปัญหาน้ันข้นึ มา ระดับสาเหตุของปัญหา
สามารถแบ่งย่อยลงไปได้อีก ถา้ ปัญหานั้นยังมสี าเหตทุ ่เี ป็นองค์ประกอบย่อยลงไปอีก โดยทว่ั ไปมกั จะมีการแบง่
ระดบั ของสาเหตุย่อยลงไปมากท่ีสุด 4 – 5 ระดบั เมื่อมีข้อมลู ในแผนผังก้างปลาทส่ี มบรู ณแ์ ลว้ จะทำให้
มองเห็นภาพขององคป์ ระกอบทั้งหมด ท่จี ะเปน็ สาเหตขุ องปัญหาทีเ่ กิดขึน้

ข้อดีข้อเสียของผงั ก้างปลา

ขอ้ ดีของผังกา้ งปลา
1. ไม่ต้องเสยี เวลาแยกความคิดตา่ ง ๆ ทีก่ ระจัดกระจายของแต่ละสมาชิก แผนภมู ิกา้ งปลาจะชว่ ย
รวบรวมความคดิ ของสมาชิกในทีม
2. ทำให้ทราบสาเหตหุ ลัก ๆ และสาเหตยุ ่อย ๆ ของปัญหา ทำใหท้ ราบสาเหตทุ ่ีแท้จริงของปัญหา
ข้อเสีย
1. ความคิดไมอ่ ิสระเนื่องจากมแี ผนภูมิกา้ งปลาเป็นตัวกำหนดซงึ่ ความคิดของสมาชิกในทีมจะมา
รวมอย่ทู แี่ ผนภมู กิ ้างปลา
2. ต้องอาศยั ผู้ทม่ี ีความสามารถสูง จึงจะสามารถใชแ้ ผนภมู ิก้างปลาในการระดมความคดิ

กำรประเมนิ องคป์ ระกอบของกำรวิเครำะหส์ ำเหตแุ ละปัญหำดว้ ยผังกำ้ งปลำ

1. ควรมีองคป์ ระกอบของการวิเคราะหค์ รบคอื 1)ปัญหา 2)สาเหตหุ ลกั 3 )สาเหตรุ อง 4)สาเหตุ
ย่อย

2. การกำหนดหัวข้อปญั หาควรกำหนดปัญหาให้ชัดเจนถงึ ปญั หาท่ีแท้จริงและมีความเป็นไปได้
3. การกาํ หนดสาเหตหุ ลกั ควรครอบคลมุ ประเด็นต่างๆ ท่เี ก่ียวขอ้ ง โดยใชห้ ลกั 5 M’s, 7 P’s

,5 S’s
4. ใชเ้ ทคนิคการระดมความคิดเพื่อจะได้สาเหตุของปญั หาท่ีแทจ้ ริง คือ การถาม ทำไม
5. ความสมั พนั ธข์ องเหตุ สง่ ผลตอ่ ปัญหาโดยตรง

คณุ สมบตั ิของการคิดวิเคราะห์

การคิดวเิ คราะหน์ ัน้ จะต้องมีคณุ สมบตั ิ 8 ประการ (Center for Critical Thinking, 1996 : 8-9 อ้าง
ถงึ ใน วนิช สธุ ารัตน.์ 2547 : 128-130 ) ดังตอ่ ไปนี้

1. ความชดั เจน (Clarity) ความชดั เจนของปัญหาเป็นจดุ เร่มิ ตน้ สำคัญของการคิด เช่น ตัวอยา่ งของ
ปญั หาท่ตี งั้ ข้ึนมาเพอื่ ตรวจสอบความชัดเจน เช่นยังมเี รอื่ งอะไรอีกในส่วนนี้ทเ่ี รายังไมร่ สู้ ามารถยกตัวอย่างมา
อ้างองิ ได้หรือไม่ สามารถอธิบายขยายความส่วนนนั้ ใหม้ ากขึน้ ได้หรือไม่

2. ความเที่ยงตรง (Accuracy) เปน็ คำถามท่บี อกวา่ ทกุ คนสามารถตรวจสอบได้ถูกต้องตรงกนั
หรือไม่ เชน่ จรงิ หรือ เปน็ ไปไดห้ รอื ทำไมถึงเป็นไปได้ สามารถตรวจสอบได้หรือไม่ตรวจสอบอยา่ งไร เราจะหา
ขอ้ มลู หลกั ฐานได้อย่างไร ถา้ ตรงนนั้ เปน็ เรื่องจริงเราจะทดสอบมนั ได้อย่างไร

3. ความกระชับ ความพอดี (Precision) เปน็ ความกะทัดรัด ความเหมาะสม ความสมบูรณข์ อง
ขอ้ มูล เช่น จำเปน็ ตอ้ งหาข้อมลู เพมิ่ เติมในเรื่องน้ีอีกหรอื ไม่ ทำให้ดูดกี ว่านี้ได้อีกหรือไม่ ทำใหก้ ระชบั กวา่ น้ไี ด้
อกี หรือไม่

4. ความสัมพนั ธ์เกี่ยวขอ้ ง (Relevance) เป็นการตง้ั คำถามเพื่อคิดเชื่อมโยงหาความสัมพันธ์ เชน่
สง่ิ นน้ั เกีย่ วข้องกบั ปัญหาอย่างไร มันเกดิ ส่งิ ตา่ งๆ ข้ึนตรงน้ันไดอ้ ยา่ ง ผลทเ่ี กดิ ขน้ึ ตรงน้นั มนั มีที่มาอยา่ งไร ตรง
ส่วนนั้นชว่ ยใหเ้ ราเข้าใจอะไรได้บ้าง

5. ความลกึ (Depth ) หมายถงึ ความหมายในระดับทล่ี กึ ความคิดลึกซ้ึง การตั้งคำถามท่ีสามารถ
เชอ่ื มโยงไปยงั การคิดหาคำตอบที่ลกึ ซึ้ง ถือวา่ คำถามนัน้ มีคุณคา่ ยงิ่ เช่น ตัวประกอบอะไรบา้ งที่ทำให้ตรงนเ้ี ปน็
ปญั หาสำคญั อะไรทีท่ ำให้ปัญหาเรื่องนี้มันซับซอ้ น สงิ่ ใดบา้ งท่ีเปน็ ความลำบากหรือความย่งุ ยากท่ีเราจะต้อง
พบ

6. ความกว้างของการมอง (Breadth ) เป็นการทดลองเปลยี่ นมุมมอง โดยใหผ้ อู้ ื่นชว่ ยเช่น จำเป็น
จะตอ้ งมองสิ่งนจ้ี ากด้านอน่ื คนอื่น ดว้ ยหรือไม่ มองปญั หานโ้ี ดยใชว้ ิถีทางอ่นื ๆ บ้างหรือไม่ ควรจะให้
ความสำคัญของความคิดเห็นจากบคุ คลอ่นื หรอื ไม่ ยงั มขี ้อมลู อะไรในเร่ืองน้ีอกี หรือไม่ทไ่ี มน่ ำมากลา่ วถึง

7. หลักตรรกวทิ ยา (Logic ) มองในดา้ นของความคดิ เหน็ และการใช้เหตผุ ล เช่นทกุ เรื่องท่ีเรารู้ เรา
เขา้ ใจตรงกันหมดหรอื ไม่ ส่งิ ท่ีพูดมีหลักฐานอา้ งองิ หรือไม่ สิ่งทีส่ รุปนั้นเป็นเหตุผลทสี่ มบรู ณห์ รือไม่ ส่ิงที่กลา่ ว
อา้ งมีขอบขา่ ยครอบคลุมรายละเอยี ดท้งั หมดหรือไม่

8. ความสำคญั (Significance ) ซึง่ หมายถงึ การต้งั คำถามเพ่ือตรวจสอบวา่ ส่ิงเหล่าน้นั มี
ความสำคญั อย่างแท้จริงหรือไม่ ท้ังนี้เนือ่ งจากในบางครง้ั พบวา่ ความสำคญั เปน็ สิ่งที่เราต้องการจะใหเ้ ปน็
มากกว่าเปน็ ความสำคญั จริงๆ เช่น ส่วนไหนของความจรงิ ท่ีสำคัญที่สดุ ยงั มเี ร่ืองอ่ืน ๆ ท่ีมีความสำคัญอยู่อกี
หรือไม่ น่ีคอื ปญั หาทสี่ ำคัญท่ีสุดในเรอื่ งน้ีใชห่ รอื ไม่ ตรงน้ีเป็นจดุ สำคัญท่คี วรให้ความสนใจหรือเปลา่

ดังน้นั จะเหน็ ไดว้ ่า การคดิ วิเคราะหจ์ ะเกิดความสมบูรณไ์ ด้นัน้ นอกจากจะต้องอาศยั ความสามารถใน
การใหเ้ หตุผลอยา่ งถกู ต้องแล้ว เรอื่ งของเทคนิคการตั้งคำถามเพ่ือการวเิ คราะห์กม็ คี วามสำคญั ทไี่ ม่ย่ิงหย่อน
กว่ากนั โดยทอ่ี งคป์ ระกอบท้ังสองสว่ นน้จี ะทำงานประสานสัมพนั ธก์ นั อย่างกลมกลืนในทุกๆ ขัน้ ตอนของ
กระบวนการคดิ วิเคราะห์ ส่วนประกอบทงั้ สองส่วนจะต้องไปดว้ ยกัน คุณคา่ ความสวยงาม ความลงตัว รวมทงั้
ประโยชนอ์ ย่างสมบูรณจ์ ึงจะเกิดข้ึนได้

เอกสารอ้างองิ
Fishbone (Ishikawa) Diagram (2015) http://asq.org/learn-about-quality/cause-analysis-
tools/overview/fishbone.html


Click to View FlipBook Version