1
เอกสารประกอบวิชาสัมมนา
เรือ่ ง
มะนาวปลอดสาร ปลอ่ ยตามธรรมชาติ
เรยี บเรียงโดย
นางสาวอารีนา อามะ
ระดบั ชนั้ ประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ชน้ั สูงปีท่ี 2
ประเภทวชิ าเกษตรศาสตร์ สาขาวชิ าเกษตรศาสตร์ สาขางานเกษตรศาสตร์
วทิ ยาลยั เทคโนโลยกี ารเกษตรและประมงปตั ตานี
2
เอกสารประกอบวิชาสัมมนา
เรอื่ ง
การปลกู มะนาว
เสนอ
ครูรตั น์พภี รณ์ ทองประพันธ์
จัดทาโดย
นางสาวอารีนา อามะ
ระดับช้นั ประกาศนียบัตรวชิ าชีพช้ันสูง ช้ันปที ่ี 2
ประเภทวชิ าเกษตรศาสตร์ สาขาวชิ าเกษตรศาสตร์ สาขางานเกษตรศาสตร์
เอกสารเลม่ นี้เป็นส่วนหน่ึงของรายวชิ าการสัมมนาทางดา้ นการเกษตร
รหัส 63305010003
ภาคเรยี นท่ี1 ปีการศึกษา 2564
วทิ ยาลยั เทคโนโลยีการเกษตรและประมงปตั ตานี
สานักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
ก
คานา
การปลกู มะนาวเป็นโครงงานท่ีบรู ณาการการเรยี นร้จู ากสถานที่ จริงในชุมชน โดยได้น้อมนาปรัชญา
เศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในสถานศึกษา โดยเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญเพื่อมุ่งเน้นให้นักเรียนได้รู้ จักพืชผลไม้
นอกจากนั้นยังมุ่งหวังที่จะกระตุ้นให้นักเรียน หัน มาสนใจการผลิตบริโภคในครัวเรือนด้วยตนเอง เพ่ือลด
คา่ ใชจ้ า่ ย โดยไดเ้ รยี นร้ดู ว้ ยวิธีปฏิบัติจริง สามารถฝึกความอดทนในการทางาน การทางานร่วมกับผู้อ่ืน และ
สามารถนาไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั
รายงานฉบับน้ีจดั ทาขนึ้ เพื่อประกอบการสมั มนาทางดา้ นเกษตร ขา้ พเจา้ หวงั ว่าเอกสารประกอบการ
สมั มนา ฉบับนมี้ ปี ระโยชน์ต่อผู้สนใจท่ีจะปลูกและศึกษาหาความร้ใู นการปลกู มะนาวนาไปใชใ้ ห้เกิดผลสัมฤทธิ์
ตามความคาดหวังไว้
ถา้ หากรายงานฉบับนมี้ ผี ิดพลาดประการใด ข้าพเจา้ ตอ้ งขออภยั ณ โอกาสน้ดี ้วย ทงั้ นห้ี วังว่าเอกสาร
ฉบบั นีจ้ ะเปน็ ประโยชนแ์ กผ่ ู้ที่สนใจไม่มากกน็ อ้ ย
นางสาวอารีนา อามะ
ผจู้ ัดทาสัมมนารายวชิ า
สารบญั ข
เรอ่ื ง หน้า
คานา (ก)
สารบญั (ข) , (ค)
บทนา 1-2
ลกั ษณะทว่ั ไป 2-3
ชื่อของมะนาว 3
พนั ธุ์ที่นิยมปลูกในประเทศไทย 3
พนั ธม์ุ ะนาวไข่ 4-5
มะนาวไข่ 5
พนั ธุ์มะนาวแปน้ 6-7
มะนาวแปน้ 7
พนั ธมุ์ ะนาวหนัง 8-9
มะนาวหนงั 9
พันธ์มุ ะนาวทราย 10-11
มะนาวทราย 11
ลกั ษณะของต้นมะนาว 12-15
สรรพคุณของมะนาว 15-16
ประโยชนข์ องมะนาว 16
คณุ ค่าทางโภชนาการของมะนาว 16
โทษของมะนาว 17
ข้อมูลทางโภชนาการของมะนาว ต่อ 100 กรัม 17
สรรพคุณทางยา 17-18
ปลูกมะนาวอยา่ งไรให้ได้ผลดี 18
การเตรยี มกง่ิ พนั ธ์ุ 19
การเตรยี มพืน้ ที่ปลกู 20
การปลูกแบบทีด่ อน 21
การปลกู แบบทลี่ มุ่ 21
การยกรอ่ งเพือ่ ปลูกมะนาว 21-22
วธิ ีปลูก
เรื่อง ค
การให้นา้ หนา้
การใหป้ ุ๋ย
การพรวนดนิ ดายหญา้ 22
การปลิดดอก 22
การตัดแต่งกง่ิ 23
การกาจดั วัชพชื 23
โรคและแมลงท่สี าคญั ของมะนาว 23
การเกบ็ เก่ียว 23
23-26
27
1
มะนาว
ชื่อสามญั Lime
ช่ือวิทยาศาสตร์ Citrus aurantiifolia (Christm.) Swingle จัดอยู่ในวงศส์ ม้ (RUTACEAE)
อาณาจกั ร Plantae
หมวด Magnoliophyta
ชน้ั Magnoliopsida
อนั ดับ Sapindales
วงศ์ Rutaceae
สกุล Citrus
สปีชีส์ C. aurantifolia
ลักษณะทวั่ ไป
มะนาว เปน็ ไมผ้ ลชนิดหนงึ่ ผลมีรสเปรย้ี วจัด จัดอยู่ในสกลุ ส้ม (Citrus) ผลสีเขียว เมื่อสุฏจัดจะเป็นสี
เหลือง เปลือกบาง ภายในมีเน้ือแบ่งกลีบๆ ชุ่มน้ามาก นับเป็นผลไม้ท่ีมีคุณค่า นิยมใช้เป็นเครื่องปรุงรส
นอกจากนี้ยงั ถอื วา่ มีคณุ ค่าทางโภชนาการและทางการแพทย์ด้วยผลมะนาวโดยทั่วไปมีขนาดเสน้ ผา่ นศูนยก์ ลาง
ประมาณ 4 – 4.5 เซนตเิ มตร ตน้ มะนาวเป็นไมพ้ ุ่มเต้ยี สงู เตม็ ทีร่ าว 5 เมตร ก้านมีหนามเล็กน้อย มักมีใบดก
2
ใบยาวเรยี วเล็กนอ้ ย คลา้ ยใบส้ม ส่วนดอกสขี าวอมเหลือง ปกตจิ ะมดี อกผลตลอดทั้งปี แต่ในช่วงหน้าแล้ง จะ
ออกผลน้อย และมีนา้ น้อยมะนาวเป็นพืชพ้นื เมอื งในภมู ิภาคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ ผู้คนในภมู ภิ าคน้รี จู้ กั และ
ใช้ประโยชนจ์ ากมะนาวมาช้านาน น้ามะนาวนอกจากใช้ปรุงรสเปรยี้ วในอาหารหลายประเภทแล้ว ยังนามาใช้
เปน็ เครื่องด่ืม ผสมเกลือ และนา้ ตาล เป็นน้ามะนาว ซ่งึ เป็นท่รี ูจ้ ักกนั ดีทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศทั่ว
โลก นอกจากน้ีเครอ่ื งด่มื แอลกอฮอล์บางชนิดยังนิยมฝานมะนาวเปน็ ชิ้นบางๆ เสยี บไว้กับขอบแกว้ เพ่ือใช้แต่ง
รสในผลมะนาวมีนา้ มันหอมระเหยถึง 7% แต่กล่ินไม่ฉุนอย่างมะกรูด น้ามะนาวจึงมีประโยชน์สาหรับใช้เป็น
สว่ นผสมนา้ ยาทาความสะอาด เครือ่ งหอม และการบาบดั ดว้ ยกลนิ่ (aromatherapy) หรือน้ายาลา้ งจาน สว่ น
คุณสมบตั ิทส่ี าคญั ทว่าเพิ่งได้ทราบเมื่อไม่ช้านานมาน้ี (ราวคริสต์ศตวรรษที่ 19) ก็คือ การป้องกันและรักษา
โรคลักปิดลักเปิด ซึ่งเคยเป็นปัญหาของนักเดินเรือมาช้านาน ภายหลังได้มีการค้นพบว่าสาเหตุท่ีมะนาว
สามารถช่วยป้องกันโรคลกั ปดิ ลกั เปดิ เพราะในมะนาวมไี วตามินซเี ปน็ ปรมิ าณมากมะนาวมีน้ามนั หอมระเหยที่
ใหก้ ล่ินสดชื่น เพราะมีส่วนประกอบของสารซิโตรเนลลัล (Citronellal) ซิโครเนลลิล อะซีเตต (Citronellyl
Acetate) ไลโมนีน (Limonene) ไลนาลูล (Linalool) เทอร์พีนีออล (Terpeneol) ฯลฯ รวมทั้งมีกรดซิตริค
(Citric Acid) กรดมาลิก (Malic Acid) และกรดแอสคอร์บิก (Ascorbic Acid) ซ่ึงถือเป็นกรดผลไม้ (AHA :
Alpha Hydroxy Acids) กลมุ่ หนึง่ เปน็ ทยี่ อมรับวา่ ช่วยใหผ้ ิวหน้าท่ีเส่ือมสภาพหลุดลอกออกไป พร้อมๆ กับ
ชว่ ยกระตุ้นการสรา้ งเซลล์ใหมๆ่ ช่วยใหร้ อยดา่ งดาหรอื รอยแผลเป็นจางลง
ช่อื ของมะนาว
มะนาวก็เหมอื นกับส้มทั้งหลาย ที่มีปัญหาในการจัดหมวดหมู่และแยกแยะทางอนุกรมวิธาน สาหรับชื่อ
วทิ ยาศาสตร์ทค่ี ุ้นเคยของมะนาว ก็คือ Citrus aurantifolia Swingle หรือ "Citrus aurantifolia" ( Christm
& Panz ) Swing." แตย่ งั มชี ื่ออืน่ ๆ อีก ดงั น้ี
1. C. acida Roxb.
2. C. lima Lunan
3. C. medica var. ácida Brandis
4. Limonia aurantifolia Christm
สาหรับช่ือสามัญน้ัน ในหลายภาษาก็เรียกช่ือแตกต่างกันไป เช่น ในภาษาอังกฤษ เรียก Mexica lime,
West Indian lime, และ Key lime หรอื เรยี ก lime ส้ันๆ กไ็ ด้ สาเหตุท่ีมีหลายชอ่ื อาจเปน็ เพราะเป็นพืชต่าง
ถนิ่ จงึ ไมม่ ชี ่ือดงั้ เดิมในภาษาน้ันๆ ทาใหเ้ กดิ การเสนอชือ่ อืน่ ๆ มาหลายช่อื ก็เปน็ ได้ สว่ นในประเทศไทยยงั เรียก
อกี หลายช่ือ เช่น โกรยชะม้า, ปะนอเกล, ปะโหนง่ กลยาน, มะนอเกละ, มะเน้าด์เล, มะล่ิว, ส้มมะนาว, ลีมานี
3
ปหี ์, หมากฟา้ อน่งึ คาวา่ เลมอน (lemon) ในภาษาอังกฤษ หมายถึง ผลสม้ อกี ชนดิ หน่งึ ที่หัวทา้ ยมน ไมใ่ ช่ผล
กลมอย่างมะนาวท่ีเรารู้จักกันดี สาหรับ มะนาวเทศ (Triphasia trifolia) นั้น เป็นพืชในวงศ์เดียวกัน
(Rutaceae) กับมะนาว แต่ต่างสกุล ส่วน มะนาวควาย หรือ ส้มซ่า (Citrus medica Linn. Var. Linetta.)
เปน็ พืชสกุลสม้ เช่นเดียวกัน แต่ต่างชนิด (สปีชีส์) กัน ส้มนาวเป็นภาษาใต้ที่ใช้เรียกมะนาว เช่นเดียวกับทาง
ภาคอสี านเรียกผลไมบ้ างอยา่ งวา่ "บกั "ในการข้ึนต้น เช่นบกั มว่ งท่ีหมายถงึ มะมว่ ง คาวา่ ส้มในภาษาใตจ้ ะใชเ้ รียก
ผลไม้บางชนดิ ท่มี ีรสเปรี้ยว อยา่ ง ส้มนาว ส้มขาม เป็นต้น
พันธ์ุท่นี ยิ มปลูกในประเทศไทย
1. มะนาวไข่ ผลกลม หัวทา้ ยยาว มีสีอ่อนคลา้ ยไข่เปด็ ขนาด 2-3 เซนตเิ มตร เปลอื กบาง
2. มะนาวแป้น ผลใหญ่ คอ่ นขา้ งกลมแป้น เปลือกบาง มีนา้ มาก นิยมใชบ้ รโิ ภคมากกว่าพนั ธอ์ุ นื่ ๆ ในเชิง
พาณชิ ย์จะปลกู มะนาวพันธแุ์ ปน้ ราไพและพันธแ์ุ ปน้ ดกพเิ ศษ สามารถบงั คบั ใหอ้ อกฤดแู ลง้ ไดง้ า่ ย
3. มะนาวหนงั ผลออ่ นกลมยาวหัวท้ายแหลม เมื่อโตเต็มที่ผลจะมีลักษณะกลมค่อนข้างยาว มีเปลือก
หนา ทาให้เกบ็ รักษาผลได้นาน
4. มะนาวทราย ทรงพมุ่ สวยใชเ้ ปน็ ไมป้ ระดับ ให้ผลตลอดปีแต่ไม่คอ่ ยนิยมบริโภค เพราะน้ามีรสขมเจือ
ปน
มะนาวพันธอ์ุ ่ืน ๆ ไดแ้ ก่ มะนาวตาฮิติ, มะนาวหวาน, มะนาวปีนัง, มะนาวโมฬี, มะนาวพม่า, มะนาว
เต้ยี และมะนาวหนัง เป็นต้น (มะนาวบางพันธอ์ุ าจเรยี กได้หลายช่ือ แต่ในท่ีนี้ไม่ได้สืบค้นเพ่ือจาแนก
เอาไว้)
พันธม์ุ ะนาวไข่
4
ภาพท่ี 1 : มะนาวไข่
มะนาวไข่
เป็นมะนาวพ้ืนเมืองพันธ์ุหน่ึงของไทย มีขนาดเเละลักษณะคล้ายมะนาวหนังเกือบทุกอย่าง ผลอ่อนมี
ลักษณะกลมยาว หัวท้ายเเหลมจะค่อยๆมนเข้าเมื่อโตขึ้น เม่ือโตเต็มท่ีจะมีลักษณะกลมมนเป็นส่วนใหญ่
หวั เเละก้นมจี กุ ไม่เเหลม ผิวเรียบเปลือกบางใส มีสีเขียวเข้ม เมื่อเเก่จัดมีสีเหลืองอมเขียว ผลมีขนาดโตกว่า
มะนาวหนงั ออกผลดก มีนา้ มาก มีรสเปรยี วเเละมกี ล่ินหอม มีเมลด็ ค่อนขา้ งน้อย มะนาวไขเ่ ปน้ มะนาวทต่ี ลาด
นิยมมาก ปลูกงา่ ยไดร้ าคาดี ขอ้ ดขี องมะนาวไข่คอื จะออกผลทปี่ ลายกิง่ ซงึ่ สะดวกต่อการเก็บผล
ลกั ษณะ
เป็นมะนาวพืน้ เมอื งพนั ธ์ุหน่งึ ของไทย ผลออ่ นมีลกั ษณะกลมยาว หวั ทา้ ยเเหลมจะคอ่ ยๆมนเข้าเม่ือโต
ข้ึน ตดิ ผลดกตลอดปี เปลือกบาง กล่ินหอม นิยมนามาประกอบอาหาร ต้นพันธุ์ไม่เห่ียวเฉา ไม่หัก สภาพยัง
สวย
ดอก
ภาพท่ี 2 : ดอกมะนาวไข่
เมอ่ื ออกดอก ดอกจะมีสขี าวเม่อื ดอกบานกลบี ในจะเห็นมีปลายแหลม เกสรตวั ผู้มีสีเหลือง ความกว้างดอกจะ
กว้างประมาณ 2 – 3 เซ็นติเมตร และเมื่อดอกมะนาวได้รับการผสม จะการเป็นผลและพบว่าผลอ่อน มี
ลักษณะกลมคล้ายหัวไม้ขีด และเมอ่ื ผลมะนาวแป้นโตข้นึ จะเรมิ่ กลมมนสวยงาม ผวิ เปลือกมะนาวจะเรยี บและ
บาง เมล็ดมลี กั ษณะเรียบ มะนาวแป้นน้จี ะมีรสเปรยี้ วและมีกล่ินหอมมากและเป็นทีน่ ิย
5
ผล
ภาพที่ 3 : ผลมะนาวไข่
ผลรปู รีเลก็ น้อยไมก่ ลมมนหรือกลมแป้น เปลอื กผลบาง ใหน้ า้ เยอะ มีเมล็ดน้อย ติดผลเป็นพวง จงึ มบี างคน
เรยี กมะนาวไขพ่ วง มีกล่นิ หอมของน้ามะนาว มะนาวไข่เป็นพันธุท์ นตอ่ โรคแมลงโดยธรรมชาติ
พันธมุ์ ะนาวแปน้
ภาพท่ี 4 : มะนาวแปน้
6
มะนาวแป้น
เป็นมะนาวพ้ืนเมืองของไทยท่ีตลาดนิยมมากที่สุดพันธุ์หน่ึง จึงมีผู้ปลูกกว้างขวาง และคัดพันธุ์ที่มี
ลักษณะดเี พมิ่ ข้ึนอกี หลายพนั ธุ์ สามารถให้ผลไดต้ ลอดทง้ั ปี ผลมีขนาดใหญ่แต่เล็กว่ามะนาวหนัง ทรงผลกลม
แปน้ สวยงาม
ลกั ษณะ
มะนาวแปน้ มลี ักษณะลาต้นท่ีสูงถึง 3 เมตร แตกก่ิงก้านสาขามากไม่เป็นระเบยี บ มีหนามกิง่ ก้านมาก
ตน้ ทีป่ ลูกจากกิง่ ตอนจะใหผ้ ลตง้ั แต่ปแี รก แตจ่ ะให้ผลตดิ มากในปที ่ี 3-5 เปน็ พันธุ์ท่ีออกดอกติดผลง่าย ติดผล
ตกประมาณ 500 ผล/ตน้ /ปี เม่อื อายไุ ด้ 5 ปี เก็บเกี่ยวผลไดต้ ลอดทง้ั ปี แตจ่ ะใหผ้ ลมากในชว่ งเดือนพฤษภาคม
ดอก
ภาพที่ 5 : ดอกมะนาวแป้น
ดอกมะนาวแปน้ เม่ือออกดอก ดอกจะมีสขี าวเมอื่ ดอกบานกลีบในจะเห็นมีปลายแหลม เกสรตัวผู้มีสีเหลือง
ความกว้างดอกจะกว้างประมาณ 2 – 3 เซ็นติเมตร และเม่ือดอกมะนาวได้รับการผสม จะการเป็นผลและ
พบวา่ ผลออ่ น มลี ักษณะกลมคลา้ ยหวั ไม้ขีด และเม่ือผลมะนาวแป้นโตขึ้นจะเริ่มกลมมนสวยงาม ผิวเปลือก
มะนาวจะเรียบและบาง เมล็ดมีลกั ษณะเรียบ มะนาวแปน้ น้ีจะมีรสเปร้ียวและมีกล่ินหอมมากและเป็นที่นยิ ม
7
ผล
ภาพท่ี 6 : ผลมะนาวแป้น
ผลออ่ นของ “มะนาวแปน้ ” มสี เี ขยี ว ผลแก่จดั มีสเี หลอื ง ผวิ ผลไมเ่ รยี บ เปลือกบาง มกี ลีบผลประมาณ 10-13
กลบี เนือ้ ก้งุ มีขนาดเลก็ เบยี ดกันแน่น มีน้ามาก รสเปรี้ยวจัด น้ามีกล่ินหอม เป็นท่ีนิยมของผู้บริโภค จานวน
เมลด็ มนี ้อยคือประมาณ 10 เมลด็ /ผล เมล็ดมขี นาดเล็ก สีน้าตาล ลักษณะรี หัวปา้ น ทา้ ยแหลม
พนั ธมุ์ ะนาวหนัง
ภาพที่ 7 : มะนาวหนัง
8
มะนาวหนัง
เปน็ พืชพนื้ เมอื งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้ ผู้คนในภูมิภาคน้ีรู้จักและใช้ประโยชน์จากมะนาว
หนังมาชา้ นาน นา้ มะนาวนอกจากใช้ปรงุ รสเปรย้ี วในอาหารหลายประเภทแล้ว ยังนามาใช้เป็นเคร่ืองด่ืม ผสม
เกลือ และน้าตาล เป็นน้ามะนาว ซึง่ เปน็ ท่รี ู้จกั กนั ดีทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศทัว่ โลก
ลักษณะ
มลี กั ษณะเปน็ ไมพ้ ุ่มขนาดเลก็ ต้นมีความสงู ประมาณ 2 – 5 เมตร แตกกิง่ ท่ีไม่เปน็ ระเบียบ ก่ิงอ่อนมี
ลกั ษณะเปน็ เหลย่ี มสีเขียวจาง และเมื่อโตขึน้ จะมีลกั ษณะกลมและมสี ีที่เข้มขนึ้ จนเป็นสนี ้าตาลในที่สดุ ตามลา
ตน้ และกิ่งจะมีหนามแหลมกระจายท่วั ไป ลกั ษณะของใบมะนาวพันธ์ุหนังนี้ เมื่อยังออกจะมีสีเขียวอ่อนเกือบ
ขาว และจะมสี เี ขยี วเขม้ ขน้ึ เม่อื ใบมะนาวแก่ขนึ้ ผิวใบจะมคี วามละเอยี ดเป็นมนั และมีรูปไข่ ปลายใบค่อนข้าง
ป้าน และมันจะมีร่องต้ืนและลึกสลับกัน ทาให้แลดูเป็นหยักละเอียดๆ แผ่นใบมีความก ว้างประมาณ 4
เซน็ ตเิ มตร ยาวประมาณ 7 เซนติเมตร
ดอก
ภาพที่ 8 : ดอกมะนาวหนงั
ดอกมะนาวพันธห์ุ นงั เมอ่ื ออกดอก ดอกจะมีสเี ขียวในตอนแรก และเม่อื โตขนึ้ ดอกมะนาวจะเปลี่ยนเป็นสีขาว
เมื่อดอกบานกลีบในจะเห็นมีปลายแหลม เกสรตัวผู้มีสีเหลือง ความกว้างดอกจะกว้างประมาณ 2 – 3
เซ็นติเมตร และเม่อื ดอกมะนาวได้รับการผสม จะการเป็นผลและพบว่าผลอ่อน มีลักษณะกลมยาว คล้ายลูก
9
รักบ้ี และเมอ่ื ผลมะนาวหนงั โตข้ึนจะเรม่ิ กลมมนข้ึน เมอ่ื ผลมะนาวโตเต็มท่ีจะมีลักษณะกลมยาว หัวท้าย มน
และมีจุกเลก็ ๆทห่ี วั ผวิ เปลอื กมะนาวจะเรียบและบาง เมล็ดทีลักษณะเรียบ มะนาวพันธุ์หนังนี้จะมีรสเปรี้ยว
และมีกล่ินหอมมาก
ผล
ภาพที่ 9 : ผลมะนาวหนงั
เม่ือดอกมะนาวได้รบั การผสม จะการเปน็ ผลและพบว่าผลอ่อน มลี ักษณะกลมยาว คล้ายลูกรักบ้ี และเม่ือผล
มะนาวหนังโตขนึ้ จะเริ่มกลมมนข้ึน เม่อื ผลมะนาวโตเต็มทจ่ี ะมลี ักษณะกลมยาว หัวทา้ ย มนและมจี ุกเลก็ ๆทห่ี ัว
ผวิ เปลือกมะนาวจะเรียบและบาง เมลด็ ทีลกั ษณะเรียบ มะนาวพนั ธ์ุหนังนจี้ ะมีรสเปรี้ยวและมกี ลิ่นหอมมาก
พนั ธุ์มะนาวทราย
ภาพท่ี 10 : มะนาวทราย
10
มะนาวทราย
ทรงพุ่มสวยใช้เป็นไมป้ ระดับ ให้ผลตลอดปแี ตไ่ มค่ อ่ ยนิยมบรโิ ภค เพราะนา้ มีรสขมเจือปน
ลกั ษณะ
มะนาวเปน็ ไม้ผลยืนต้นขนาดเล็กมลี กั ษณะเปน็ ทรงพุ่มมีความสูงเฉลีย่ 10 - 20 ฟุต ดอกมะนาวมีเกสร
ตวั ผูม้ ากมายถึง 20-40 อนั เชอ่ื มติดกันเปน็ กลุ่ม กลมุ่ ละ 4-8 อัน
ดอก
ภาพท่ี 11 : ดอกมะนาวทราย
เมื่อออกดอก ดอกจะมสี ีเขยี วในตอนแรก และเมอื่ โตขน้ึ ดอกมะนาวจะเปล่ียนเป็นสีขาว เมื่อดอกบานกลีบใน
จะเห็นมีปลายแหลม เกสรตัวผู้มีสีเหลือง ความกว้างดอกจะกว้างประมาณ 2 – 3 เซ็นติเมตร และเม่ือดอก
มะนาวได้รับการผสม จะการเป็นผลและพบว่าผลออ่ น มลี ักษณะกลมยาว
11
ผลภาพท่ี 12 : ผลมะนาวทราย
ปลายเมล็ดแหลม มีรสขม เมล็ดของมะนาวอยู่ในผลมะนาว ซึ่งเมล็ดสามารถนาไปขยายพันธ์ุได้.คุณค่าทาง
โภชนาการของมะนาว
ลักษณะของต้นมะนาว
ตน้ มะนาว เป็นพชื พน้ื เมอื งของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้ โดยเฉพาะในประเทศไทย
สาหรับการปลกู มะนาวน้ัน สามารถขยายพนั ธไ์ ดโ้ ดยการปกั ชา ทาบกงิ่ และ การเพาะเมล็ดพันธ์ุ ต้นมะนาวมี
หลากหลายสายพันธ์ุ ซง่ึ มคี ณุ สมบัตทิ แ่ี ตกตา่ งกัน สาหรบั ลักษณะของตน้ มะนาว มีลกั ษณะดังน้ี
1. ลาต้นของมะนาว ลักษณะเป็นไมพ้ ุม่ มีความสูงประมาณ 2 เมตร เปลือกของลาต้นมีสอง สี เปลือก
ออ่ นสีเขยี ว เปลอื กแก่มีสีนา้ ตาล ลาตน้ มหี นามแหลมคม ซงึ่ หนามมักอยู่ตามซอกใบ
2. ใบมะนาว เปน็ ใบเด่ียว เรยี งสลบั กนั ตามก่ิงกา้ นของลาตน้ ใบมลี ักษณะรี ผิวใบเรยี บ มันวาว สเี ขยี วสด
ปลายใบแหลม
3. ดอกมะนาว ลกั ษณะเปน็ ดอกเดีย่ ว ดอกออกเป็นชอ่ มีสีขาว คลา้ ยรปู ทรงกระบอก
4. ผลมะนาว พฒั นามาจากดอกมะนาว ผลสดมะนาวมีลกั ษณะกลม ผิวเรียบ มีสีเขียว ภายในผลชุ่มน้า
ผิวเปลือกของมะนาวมีตอ่ มนา้ มนั ท่ผี วิ
5. เมล็ดมะนาว ลักษณะของเมล็ดคลายหยดน้า ปลายเมล็ดแหลม มีรสขม เมล็ดของมะนาวอยู่ในผล
มะนาว ซ่งึ เมลด็ สามารถนาไปขยายพนั ธุ์ได้
12
สรรพคุณของมะนาว
มะนาว เปน็ สมุนไพรใกลต้ ัวท่ีคนไทยคุ้นเคยกนั ดี สามารถนามาใชป้ ระโยชนด์ ้านการบารุงรา่ งกายและ
การรกั ษาโรค สรรพคุณของมะนาว สามารถใช้ได้แทบทุกส่วนของต้น ทั้ง ใบมะนาว รากมะนาว เปลือกผล
มะนาว น้ามะนาว โดย สรรพคุณของมะนาว มีรายละเอียด ดังน้ี
1. ใบมะนาว สามารถแกไ้ อ ช่วยฆา่ เชือ้ โรคในลาคอ ชว่ ยขับปสั สาวะ แกอ้ าการเวียนหัว รักษาไข้ทับระดู
ชว่ ยบารุงเลอื ด
2. รากมะนาว สามารถช่วยฆ่าเชื้อโรคในลาคอ แก้อาการเวียนหัว ช่วยขับปัสสาวะ แก้ไอ รักษาไข้ทับ
ระดู ชว่ ยบารุงเลอื ด
3. เปลือกผลมะนาว สามารถแกเ้ วยี นหวั รักษาหดู ช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหารอกั เสบ
4. น้ามะนาว สามารถ แก้ปวดท้อง แก้ท้องร่วง ช่วยขับพยาธิไส้เดือน ช่วยแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ เป็นยา
ระบาย แกท้ ้องผกู ชว่ ยขับปัสสาวะ รกั ษาโรคนิ่ว รักษาอาการระดขู าว ช่วยรักษาอาการลน้ิ เป็นฝ้า ใช้
เป็นน้ายาบ้วนปาก ช่วยลดอาการเหงือกบวม ช่วยบรรเทาอาการคอแห้ง ช่วยขับเสมหะ เป็นยา
อายุวัฒนะ ช่วยการเจริญอาหาร รักษาโรคความดันโลหิตสูง รักษาเลือดออกตามไรฟัน ช่วยบารุง
โลหิต รักษาโรคโลหิตจาง แก้โรคเหน็บชา รักษาอาการร้อนใน ช่วยบารุงกาลัง บรรเทาอาการ
ออ่ นเพลีย ช่วยบรรเทาอาการปวดตามขอ้ รักษาโรคผวิ หนัง รักษาโรคกลาก รักษาโรคเกล้ือน รักษา
หดิ รักษาโรคน้ากัดเท้า ชว่ ยรกั ษาแผล รกั ษาแผลน้าร้อนลวก ช่วยบรรเทาอาการคันหนังศีรษะ ช่วย
กระต้นุ ประสาท
5. น้ามนั หอมระเหยจากมะนาว ช่วยลดความเครียด ทาให้หลับง่าย ช่วยกระตุ้นประสาท ช่วยบรรเทา
โรคหอบหืด ทาความสะอาดจมกู
6. ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ
7. ช่วยแก้อาเจยี น เปน็ ลมวงิ เวยี นศีรษะ เมาเหลา้ ได้
8. ชว่ ยรกั ษาโรคความดนั โลหิตสงู และต่า
9. แกอ้ าการวิงเวียนหลังคลอดบุตร
10. แก้อาการลมเงียบ ด้วยการเอาใบมะนาวมาตม้ กนิ กบั ยาหอม
11. แกโ้ รคตาแดง
13
12. ใชเ้ ปน็ ยาแก้ไขก้ ็ไดเ้ หมอื กนั ดว้ ยการนาใบมาห่นั เป็นฝอย ๆ แล้วนามาชงในน้าเดือด ดื่มเปน็ นา้ ชาหรอื
ใชอ้ มกล้วั คอเพอ่ื ช่วยฆา่ เชื้อโรค
13. ใช้ในการแก้ไขท้ ับระดู ดว้ ยการเอาใบมะนาวประมาณ 100 ใบมาตม้ กิน
14. สามารถช่วยรกั ษาโรคลกั ปิดลักเปิดหรอื เลอื ดออกตามไรฟันได้ เพราะในมะนาวมีวติ ามนิ ซีสงู มาก
15. มะนาวชว่ ยในการขบั เสมหะ
16. ช่วยแก้ไอหรืออาการไอท่ีมีเลือดปนออกมา ซง่ึ จะช่วยบรรเทาอาการลงได้ดใี นระดับหนึ่ง
17. ชว่ ยบรรเทาอาการต่อมทอนซิลอกั เสบ
18. ช่วยบรรเทาอาการเสียงแหบแห้ง
19. ชว่ ยลดอาการเหงอื กบวม
20. ใช้เปน็ ยาบ้วนปาก ด้วยการใช้นา้ มะนาว 3-4 หยด กจ็ ะทาใหช้ อ่ งปากสะอาดมากย่ิงขึ้น
21. ช่วยแก้ลนิ้ เป็นฝา้ ด้วยการใช้สาลีชุบน้ามะนาวเช็ดท่ลี ิ้นวันละ 2-3 ครั้ง
22. ช่วยในการขจัดคราบบุหรี่
23. แกเ้ ลบ็ ขบ ดว้ ยการนามะนาวมาผา่ สว่ นหัวแล้วคว้านเอาเน้ือข้างในออกเล็กน้อย แล้วใช้ปูนทาบาง ๆ
แลว้ เอานิ้วสอดเขา้ ไป
24. ก้างตดิ คอ ใหน้ า้ มะนาว 1 ลกู มาค้ันแลว้ เตมิ เกลือ ใสน่ ้าตาลเล็กน้อยแลว้ กรอกลงไปให้ตรงกับบริเวณ
ท่ีก้างติดคอ อมไวส้ ักครู่แลว้ คอ่ ย ๆ กลนื กา้ งปลาจะอ่อนตัวลงแล้วหลุดลงไปในกระเพาะ
25. ชว่ ยบรรเทาอาการทอ้ งอืด ทอ้ งเฟอ้ ปวดท้อง แนน่ ท้อง ด้วยการนานา้ มะนาวมาใชก้ ินกบั น้าตาล
26. แก้อาการทอ้ งร่วงด้วยการดม่ื นา้ มะนาว
27. ช่วยการขับพยาธไิ ส้เดือนด้วยการดม่ื น้าผง้ึ ผสมมะนาว
28. ช่วยรักษาอาการท้องผกู ด้วยการดื่มน้ามะนาวผสมเกลอื เลก็ น้อยกเ็ ป็นยาระบายชน้ั ดี
29. ช่วยรกั ษาโรคกระเพาะดว้ ยการนาเปลอื กมะนาวมาชงกบั นา้ อนุ่ และด่ืมเปน็ ยา
30. แก้อาการบิดด้วยการใชม้ ะนาวกับนา้ ผง้ึ อยา่ งละเท่า ๆ กนั แลว้ นามาดม่ื
31.แกอ้ าการปสั สาวะกะปรดิ กะปรอย ดว้ ยการใชใ้ บนะนาวสดต้มกับนา้ ตาลแดงแล้วนามาด่มื
32. ช่วยฟอกโลหิตด้วยการนาใบมะนาวต้มผสมกบั น้าแลว้ นามาดมื่ เป็นประจา
33. ชว่ ยบารงุ โลหิต รักษาโรคโลหติ จาง ดว้ ยการนาน้ามะนาวผสมกับน้าหวานและปรงุ ดว้ ยเกลอื ทะเล
พอสมควร ใสน่ ้าแข็งนามาดื่ม
34. แก้โรคเหน็บชา ร้อนใน กระหายนา้ ด้วยการดมื่ น้ามะนาว
35. ชว่ ยบรรเทาอาการออ่ นเพลียดว้ ยการดมื่ นา้ มะนาวผสมนา้ ตาล
14
36. การด่มื นา้ มะนาวจะช่วยบรรเทาอาการปวดข้อไดอ้ กี ดว้ ย
37. รักษาโรคผวิ หนงั ด้วยการนาน้ามะนาวมาทาบรเิ วณทเ่ี ปน็
38. บรรเทาอาการคันบรเิ วณผิวหนงั
39. แกส้ ังคัง ใช้มะนาวผ่าซีกแล้วนามาทาบริเวณดงั กลา่ วเปน็ ประจาก่อนเข้านอนและหลงั ตื่นนอน
40. แกป้ ญั หา กาก เกล้อื น หดิ ดว้ ยการนากามะถันมาตาใหล้ ะเอยี ดผสมกบั น้ามะนาว แล้วนามาทา
บรเิ วณดังกลา่ วหลงั อาบน้า
41. แก้หดู ด้วยการใชเ้ ปลือกมะนาวนามาหมักกบั นา้ สม้ สายชูประมาณ 2 วนั แลว้ นาเปลือกมาปิดทบั
บรเิ วณทเ่ี ปน็ หดู
42. แก้ฝแี ละอาการปวดฝี โดยใช้รากมะนาวสดมาฝนกบั เหล้าและนามาทา ขูดเอาผิวมะนาวผสมกับปนู
แดงปิดไว้
43. แก้ฝมี ะตอยดว้ ยการนามะนาวทง้ั ลกู มาควา้ นไสด้ า้ นในออกให้พอเอานว้ิ แหย่เข้าไปได้ แลว้ นาปูนกนิ
หมากทาเขา้ ไปในลกู มะนาวเล็กนอ้ ย แลว้ สวมนิว้ เข้าไป
44. รักษาโรคนา้ กัดเทา้ หรือปนู ซเี มนต์กดั เท้าดว้ ยการใชน้ ้ามะนาวทาบรเิ วณดังกล่าว ทงิ้ ไว้ใหแ้ หง้ แล้วล้าง
ออก
45. แก้ผวิ หนังฟกชา้ หัวโน อาการปวดบวม ปูดแดง ด้วยการนาน้ามะนาวกบั ดินสอพองมาผสมใหเ้ ข้ากัน
แลว้ ทาบรเิ วณดงั กลา่ ววนั ละ 1-2 คร้ัง
46. แกแ้ ผลไฟไหม้ นา้ รอ้ นลวก พุพองแสบรอ้ น ด้วยการใช้น้ามะนาวชโลมบรเิ วณดังกลา่ ว
47. แก้แผลบาดทะยกั ด้วยการใช้น้ามะนาวมาทาบรเิ วณทเี่ กดิ บาดแผล
48. ชว่ ยลดเลือนรอยแผลเปน็ ด้วยการใชน้ ้ามะนาวผสมดินสอพองให้เขา้ กนั แล้วนามาทาบรเิ วณทเี่ ปน็
รอยแผล
49. ช่วยบรรเทาอาการคันหนังศรี ษะ ด้วยการใช้น้ามะนาวนวดศีรษะใหท้ ว่ั แลว้ ค่อยสระผม
50. นา้ มะนาวชว่ ยดับกลนิ่ เต่าหรือกลน่ิ กายได้เหมอื นกนั โดยนาน้ามะนาวมาทาบรเิ วณรกั แร้
51. แก้พษิ จากแมลงสตั ว์กดั ต่อยและช่วยบรรเทาอาการเจบ็ ปวด
52. แกพ้ ิษจากการโดนงกู ัด
53. ปอ้ งกันภยั จากงดู ้วยการใช้เปลือกวางไวบ้ รเิ วณใกลท้ ่ีนอน ๆ งูจะไม่มารบกวนเพราะได้กลน่ิ มะนาว
54. แกแ้ มงคาเรอื งเขา้ หู ดว้ ยการใชน้ า้ มะนาวหยอดหู
55. หุงขา้ วให้ขาวและอร่อยขน้ึ ดว้ ยการใชน้ ้ามะนาวประมาณ 2-3 ชอ้ นนาไปซาวข้าว
56. ทอดไขใ่ ห้ฟูและนมิ่ มะนาว 4-5 หยดจะช่วยได้
57. มะนาวช่วยลดกลิน่ คาวจากปลาเมือ่ ทาอาหารและทาให้ปลาคงรปู ไมเ่ ละ
15
58. สาหรับแมค่ รวั ที่ห่นั หรอื เด็ดผกั เป็นประจา จะทาใหเ้ ลบ็ มอื เป็นสดี า นามะนาวมาถูจะชว่ ยปญั หา
ดังกลา่ วได้
59. หากใชม้ ดี ผา่ ปลกี ลว้ ย มดี จะมสี มี ่วงคล่า ลา้ งออกลาบาก นามานาวที่ผา่ แล้วมาถูตามใบมีด จะช่วยให้
มดี ของคณุ สะอาดดงั เดมิ
60. การเชือ่ มกลว้ ยหกั มกุ ใหน้ ่ารบั ประทาน เม่อื นา้ ตาลเดือดเป็นยางมะตมู แลว้ ให้บบี มะนาวครึ่งซกี ลงไป
จะช่วยให้กล้วยใส นา่ รบั ประทานมากยง่ิ ขึ้น
61. มะนาว 2-3 ลูกใสไ่ วใ้ นถังข้าวสารชว่ ยปอ้ งกนั มอดได้
62. เปลือกมะนาวสามารถนามาเชด็ ภาชนะให้เงางามขึ้นได้ เชน่ เคร่ืองเงนิ ทองเหลอื ง ทองแดง เปน็ ตน้
ประโยชนข์ องมะนาว
1. มะนาวช่วยบารงุ ผวิ พรรณให้เปลง่ ปล่งั สดใส
2. ชว่ ยบารุงตาของคุณใหส้ ดใสอยเู่ สมอ
3. มะนาวประกอบดว้ ยวิตามินและแร่ธาตหุ ลายชนดิ ทมี่ ีประโยชน์ตอ่ รา่ งกาย เช่น วติ ามินเอ วิตามินซี
ธาตแุ คลเซียม ธาตุฟอสฟอรสั กรดซิตริก กรดมาลกิ
4. ในผลมะนาว 1 ลกู จะมนี ้ามันหอมระเหยอยูม่ ากถงึ 7% ซงึ่ นามาใชป้ ระโยชนใ์ นการผสมเป็นน้ายาทา
ความสะอาดต่าง ๆ เชน่ น้ายาลา้ งจาน เป็นตน้
5. มะนาวมีน้ามันหอมระเหยทใ่ี หก้ ลน่ิ หอมสดช่นื (Aromatherapy)
6. มะนาวมีฤทธ์ิท่ชี ่วยในการกดั ดว้ ย ซึง่ ถือว่าเปน็ กรดผลไมอ้ ยา่ งหนึง่ (AHA) ท่ีเปน็ ทย่ี อมรบั ในการช่วย
เรง่ การผลัดเซลลผ์ วิ ท่เี ส่ือมสภาพออกไป
7. น้ามะนาวจะเป็นท่นี ยิ มใชก้ ันมากในบ้านเราในการนามาปรงุ รสชาติอาหาร
8. เพื่อใชแ้ ต่งรสชาตใิ ห้เครือ่ งดื่มแอลกอฮอล์บางชนิด โดยจะนยิ มฝานมะนาวออกเป็นชน้ิ บาง ๆ เสยี บไว้
กับขอบแกว้ น่นั เอง
9. สาหรบั ประโยชนข์ องเปลอื กมะนาวนัน้ เมื่อบีบน้าออกหมดแลว้ ใหน้ ามาทาบรเิ วณคาง เข่า ข้อศอก
สน้ เทา้ กจ็ ะชว่ ยใหผ้ วิ บริเวณเหลา่ นม้ี คี วามนมุ่ นวลเพ่มิ มากขนึ้ และนอกจากนย้ี งั ใชเ้ ปลือกผลแห้ง
นามาต้มเอาน้าด่มื เป็นยาแกจ้ ุกเสียดแน่นทอ้ ง ขบั เสมหะ บารุงกระเพาะได้อกี ด้วย
10. ประโยชนข์ องมะนาวสาหรบั ผทู้ ่เี ป็นสิวฝา้ มะนาวจะช่วยรักษาสวิ ของคณุ ใหล้ ดน้อยลงได้ เพราะ
มะนาวมฤี ทธเ์ิ ป็นกรดออ่ น ๆ จะทาใหล้ ดการอุดตันรูขมุ ขนจากสิวและยงั ชว่ ยในการขจดั ความมนั และ
เช้อื โรคบนใบหนา้ ได้ดว้ ย โดยคณุ สามารถนาดนิ สอพองกบั มะนาวมาผสมกันแลว้ ทาบรเิ วณสิวกอ่ น
นอนทุกวนั สิวจะคอ่ ย ๆ ยบุ ลงไปเอง
16
11. แก้ปญั หาผวิ แตกดว้ ยใชน้ า้ มะนาวมาทาบรเิ วณดังกล่าว
12. แกป้ ัญหาขาลาย สผี วิ ไมส่ ม่าเสมอ ดว้ ยการนาดนิ สอพองกบั มะนาวมาผสมกันแลว้ ทาทิ้งไว้กอ่ นนอน
แลว้ จึงลา้ งออกในตอนเช้า
13. แกป้ ญั หาสน้ เทา้ แตก ดว้ ยการนานา้ มะนาวมาทาบรเิ วณสน้ เทา้ วนั ละ 3 เวลา
14. การแปรรปู มะนาว มะนาวแปรรปู เปน็ อะไรไดบ้ ้าง ? เช่น นา้ มะนาวปรงุ อาหาร มะนาวแชอ่ ม่ิ ตากแหง้
นา้ มะนาวเข้มข้น มะนาว ผง เครอ่ื งดม่ื ผสมน้ามะนาว แยมมะนาว เยลลมี ะนาว แยมเปลอื กมะนาว
แยมนะนาวดอง มะนาวดองเค็ม มะนาวหวาน กิมจอ้ มะนาว เปลือกมะนาวสามรส เปลอื กมะนาวเส้น
ปรงุ รส เปลอื กมะนาวเช่อื ม เปลอื กมะนาวแช่อิม่ เปน็ ตน้
คณุ คา่ ทางโภชนาการของมะนาว
สาหรบั มะนาว นิยมใชป้ ระโยชน์จากน้ามะนาว ซึ่งนักโภชนาการได้ศึกษาคุณค่าทางโภชนาการของ
มะนาว ไดข้ อ้ มูลทีน่ า่ สนใจ ดงั น้ี
น้ามะนาว มีสารเคมสี าคญั เป็รสว่ นประกอบ คอื กรดมาลคิ ( Malic Acid ) กรดแอสคอร์บิก ( Ascorbic Acid
) และ กรดซติ รคิ ( Citric Acid )คณุ ค่าทางโภชนาการของผลมะนาว ขนาด 100 กรมั พบว่าให้พลังงานมากถึง
30 กิโลแคลอรี มสี ารอาหารสาคัญประกอบดว้ ย คารโ์ บไฮเดรต 10.5 กรมั นา้ ตาล 1.7 กรัม กากใยอาหาร 2.8
กรัม ไขมัน 0.2 กรัม โปรตีน 0.7 กรัม วิตามินบี1 0.03 มิลลิกรัม วิตามินบี2 0.02 มิลลิกรัม วิตามินบี3 0.2
มิลลิกรัม วิตามินบี5 0.217 มิลลิกรัม วิตามินบี6 0.046 มิลลิกรัม วิตามินบี9 8 ไมโครกรัม วิตามินซี 29.1
มิลลกิ รัม ธาตแุ คลเซยี ม 33 มิลลกิ รัม ธาตเุ หล็ก 0.6 มลิ ลิกรมั ธาตุแมกนีเซยี ม 6 มิลลกิ รัม ธาตฟุ อสฟอรัส 18
มิลลกิ รัม ธาตุโพแทสเซียม 102 มลิ ลิกรัม และ ธาตุโซเดียม 2 มลิ ลกิ รมั
โทษของมะนาว
การใชป้ ระโยชน์จากมะนาว มขี ้อควรระมดั ระวงั ในการใช้ประโยชน์จากมะนาว โทษของมะนาว มดี ังน้ี
1. น้ามะนาวมีความเปน็ กรด หากสมั ผสั เข้ากับผิวหนังอาจทาให้เกิดการระคายเคืองได้
2. สาหรบั คนทม่ี ีปญั หาโรคเกย่ี วกบั ระบบทางเดนิ อาหาร การรับประทานนา้ มะนาวสดๆ โดยไม่มกี ารเจือ
จากใหร้ สชาติออ่ นลง อาจทาให้เกิดการระคายเคร่ืองระบบทางเดินอาหารได้ เน่ืองจากน้ามะนาวมี
ความเป็นกรด
3. กรดจากน้ามะนาว ทาให้ฟนั กดั กร่อนง่าย ไมค่ วรอมน้ามะนาวไวใ้ นปากนานๆ
4. หากกนิ เปรยี้ วมากเกิน เป็นอนั ตรายต่อสุขภาพกระดูกได้
17
ข้อมูลทางโภชนาการของมะนาว ตอ่ 100 กรัม
1. พลังงาน 30 กโิ ลแคลอรี
2. คารโ์ บไฮเดรต 10.5 กรัม
3. น้าตาล 1.7 กรัม
4. เสน้ ใย 2.8 กรัม
5. ไขมนั 0.2 กรมั
6. โปรตนี 0.7 กรัม
7. วิตามินบี 1 0.03 มิลลิกรัม 3%
8. วิตามินบี 2 0.02 มิลลกิ รัม 2%
9. วติ ามนิ บี 3 0.2 มลิ ลกิ รัม 1%
10. วติ ามินบี 5 0.217 มลิ ลกิ รมั 4%
11. วิตามนิ บี 6 0.046 มลิ ลิกรมั 4%
12. วิตามินบี 9 8 ไมโครกรมั 2%
13. วติ ามินซี 29.1 มลิ ลิกรมั 35%
14. ธาตุแคลเซียม 33 มลิ ลิกรัม 3%
15. ธาตุเหล็ก 0.6 มิลลิกรัม 5%
16. ธาตแุ มกนเี ซียม 6 มลิ ลิกรมั 2%
17. ธาตฟุ อสฟอรสั 18 มลิ ลกิ รมั 3%
18. ธาตโุ พแทสเซียม 102 มลิ ลกิ รัม 2%
19. ธาตโุ ซเดียม 2 มลิ ลกิ รมั 0%
สรรพคุณทางยา
มะนาวเป็นผลไม้ท่มี ีกรดอินทรยี ห์ ลายชนิด เช่น กรดซิตริก กรดมาลิก วิตามินซี จากน้ามะนาว ส่วน
นา้ มนั หอมระเหยจากผวิ มะนาว มวี ิตามินเอและซี ทัง้ ยงั มธี าตแุ คลเซยี มและฟอสฟอรัสสูงกว่าในน้ามะนาวอีก
ดว้ ยมะนาวมีประโยชน์ใช้เป็นยาสมุนไพร ขับเสมหะ แก้ไอ เลือดออกตามไรฟัน เหงือกบวม
ปลูกมะนาวอยา่ งไรใหไ้ ดผ้ ลดี
มะนาว เป็นพืชทีป่ ลูกได้ดใี นดินเกอื บทกุ ชนิด แต่ถ้าตอ้ งการให้เจริญเติบโตและคณุ ภาพดี ควรปลูกใน
พน้ื ท่ที ี่เปน็ ดินรว่ นซยุ มีการระบายนา้ ดี มีอินทรยี วตั ถุผสมอย่มู าก และควรเลอื กพืน้ ที่ปลูกใกล้แหล่งนา้
18
การรจู้ ักสภาพพ้นื ทป่ี ลูกท่เี หมาะสม กง่ิ พันธุ์ การปลกู การดูแลรกั ษา จึงเป็นส่วนสาคัญในการปลูกมะนาวให้
ไดผ้ ลดี
การเตรยี มก่งิ พันธ์ุ
ภาพที่ 13 : กงิ่ มะนาว
กิ่งพันธมุ์ ะนาว
สว่ นใหญก่ ารปลูกมะนาว นิยมปลูกจากกิ่งตอน ดังนั้นก่ิงตอนก่อนที่จะนามาปลูก ควรได้รับการชา
เสยี กอ่ น เพือ่ ใหก้ ิง่ พนั ธต์ุ ง้ั ตวั เจริญแขง็ แรงพร้อมทน่ี าไปปลูกในหลุมท่เี ตรยี มไว้กิ่งที่ได้จากการชาและพร้อมท่ี
จะนาลงหลุม ควรนามาตดั แตง่ ก่ิงออกเสยี บา้ งใหเ้ หลือเพียงส่วนน้อย เพ่ือลดการระเหยของน้า และจะทาให้
การเจริญเติบโตดีข้ึน หากก่ิงพันธ์ุท่ีได้มามีลักษณะไม่สมบูรณ์ควรเล้ียงไว้ระยะหนึ่งจนกว่าจะแข็งแรง ถ้าก่ิง
พนั ธ์มุ โี รคตดิ มาควรตดั ออกทิง้ ไป เพื่อไม่ให้โรคระบาดเขา้ มาในสวนได้ และควรเตรยี มก่ิงพันธ์ุสารองไว้เผื่อต้น
ตาย จะได้ซ่อมทนั ทเี พ่อื ให้ต้นมะนาวเติบโตทนั กัน
19
ติดผลดก
อยา่ งไรกต็ าม การเลอื กก่ิงพนั ธุ์ที่ดี ควรเลือกให้เหมาะสมกับวัตถปุ ระสงค์ เช่น ปลูกเพื่อการค้า ปลูก
ไว้รับประทานเองภายในครัวเรือน เชน่ พนั ธ์แุ ป้นพจิ ิตร 1 ทนตอ่ โรคแคงเกอร์ สว่ นพันธ์ุตาฮิติ ผลใหญ่ น้ามาก
และไมม่ เี มลด็ เป็นต้น
ทง้ั นี้ หลังจากมีกิ่งพันธแ์ุ ล้ว ควรเลอื กก่ิงท่ีปราศจากโรคแคงเกอร์ เพ่อื ลดอตั ราเสี่ยงต่อโรคแคงเกอร์ ซึ่งเปน็ โรค
ทีร่ นุ แรงตอ่ ระบบการปลูกมะนาวมากท่สี ุด
การเตรียมพน้ื ทีป่ ลูก
ภาพที่ 14 : เตรยี มวัสดปุ ลกู ในวงบ่อซีเมนต์
การเลือกพืน้ ท่ีปลูก มะนาวสามารถข้ึนไดใ้ นพน้ื ที่เกือบทุกชนิดโดยจะปลูกในดินเหนียว ดินทราย ดินร่วนปน
ทราย หรือดนิ ลกู รังก็ขึน้ ได้ทงั้ น้นั ปลูกไดต้ งั้ แต่ทีด่ ินจนถงึ ทล่ี มุ่ แตท่ ี่สาคัญต้องระบายนา้ ดี เนื่องจากมะนาวไม่
ชอบน้าขัง การที่จะปลูกมะนาวให้เจริญงอกงามดีและให้ผลผลิตดีนั้น การปลูกในพ้ืนที่ที่มีดินร่วนซุย มี
อินทรียวตั ถุมากความเปน็ กรด-ด่างประมาณ 5.5-6.0
เม่ือเลือกพ้ืนท่ีได้แล้ว จาเป็นต้องเตรียมพื้นที่ให้โล่งเตียน เพ่ือสะดวกในการเตรียมหลุมปลูก และการปรับ
สภาพโครงสร้าง และคณุ สมบัติของดินให้เหมาะสมต่อการเจริญเตบิ โตของมะนาว โดยทั่วไปพ้ืนท่ีปลูกมะนาว
มี 2 ลักษณะ คือ พนื้ ทีด่ อนและพน้ื ที่ลุ่ม ซ่งึ การเตรยี มพื้นทจ่ี ะตา่ งกัน
20
การปลกู แบบที่ดอน
พ้ืนท่ีดอน ได้แก่ พื้นที่ท่ีใช้ปลูกพืชไร่ทั่วไป มีลักษณะเป็นเนินหรือที่ราบสูง ไม่มีน้าท่วมขังเป็น
เวลานานๆ ส่วนใหญ่มักเป็นดินร่วน ดินทราย ดินร่วนปนทรายหรือดินลูกรัง ซึ่งมีการระบายน้าดี หากมีน้า
เพยี งพอ มักจะมีต้นไมใ้ หญข่ ้ึนประปราย การเตรียมพื้นที่ปลูกจาเป็นต้องรื้อถอนออกให้หมด เหลือไว้เฉพาะ
ขอบแปลง เพ่ือเป็นไมก้ ันลม ทาการไถดินอยา่ งน้อย 2 คร้ัง ครั้งแรกไถดะให้ได้ดินก้อนโตและรอยไถท่ีลึก ท้ิง
ตากดนิ ไว้จนแหง้ จึงไถแปรยอ่ ยดินใหล้ ะเอียดย่ิงขึน้ ในกรณีดนิ ปลูกมอี นิ ทรยี ว์ ตั ถุอยูน่ ้อย ควรปรับปรุงดินด้วย
การทาป๋ยุ พชื สด โดยการปลูกพชื ตระกลู ถว่ั เชน่ ถว่ั ผี ถว่ั ลาย ใหท้ ่วั เมื่อดอกบานไถกลบ ทาเชน่ นห้ี ลายๆ ครั้ง
จนเห็นว่าดินมีสภาพดีเพียงพอ นอกจากนี้ควรตรวจสภาพความเป็นกรดและด่างของดิน ท่ีเหมาะสมอยู่
ระหว่าง 5.6-6.0 ถ้าดนิ เป็นกรด ใสป่ ูนขาวในอัตราท่เี หมาะสมเพอื่ ปรบั สภาพดิน
ภาพท่ี 15 : ปลูกยกร่องแบบลกู ฟูก
ในทด่ี ินบางแหง่ อาจมีชั้นหนิ อยู่ต้นื ๆ หรือบางแหง่ อาจมีหินดนิ ดานได้ เมื่อฝนตกน้าจะซึมลงลึกไม่ได้ ซึ่งทาให้
น้าท่วมหน้าดินอยา่ งรวดเรว็ หรอื ไหลลงสู่ท่ีตา่ หมด และเม่ือถึงฤดูแล้ง น้าท่ีอยู่ในชั้นดินที่ลึกๆ จะซึมผ่านชั้น
ดนิ ดานข้ึนมาชนั้ บนไดย้ าก ทาให้มะนาวเกดิ การขาดน้าไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว และอาจทาใหต้ ้นมะนาวโค่นล้มได้ง่าย
เพราะระบบรากตื้น สภาพดินดานมักเกิดจากการไถพรวนต้ืนๆ เพื่อปลูกพืชไร่หรือพืชอายุสั้นติดต่อกันเป็น
เวลานานๆ ทาให้ดินที่อยู่ใต้ระดับรอยไถจับตัวกันเป็นช้ันดินแห้งหรือชั้นดินดาน ดังนั้น ควรมีการไถพรวน
ระเบิดหน้าดนิ ดว้ ยไถสิ่ว เพอื่ ให้ชัน้ ดินดานแตกตัวเสียก่อน จะทาให้น้าไหลซึมลงไปเก็บกักไว้ในดินชั้นล่างได้
และเม่ือถงึ ฤดแู ลง้ น้าจะกลับซมึ ข้นึ มาสผู่ ิวดนิ เปน็ ประโยชน์
21
การปลกู แบบท่ลี ุม่
พ้ืนทม่ี กั จะเป็นท่ีลมุ่ น้าท่วมถงึ ในฤดูฝน ตามปกติจะมีระดับน้าใต้ดินสูง ส่วนใหญ่มักเป็นที่นามาก่อน
มกั จะเป็นท่ีราบลุ่มแม่นา้ ดินเหนียวจัดระบายน้ายาก จึงต้องมีการยกระดับดินให้สูงกว่าพ้ืนที่ราบโดยท่ัวไป
โดยทาเป็นรอ่ งปลกู จะทาใหร้ ากต้นไมป้ ลกู กระจายได้ลกึ ระหวา่ งแปลงดนิ เป็นรอ่ งน้า สามารถเก็บกกั นา้ ไว้ใช้
และขณะเดียวกันเป็นช่องทางระบายน้า โดยมคี นั ดนิ รอบแปลงปลูกท้ังหมด เพื่อเป็นแนวป้องกันน้าท่วมและ
รักษาระดับนา้ ตามต้องการได้
การยกร่องเพ่ือปลกู มะนาว
1. การไถปรับพืน้ ท่ี นยิ มทากนั ในหน้าแลง้ ส่วนใหญใ่ ชร้ ถแทรกเตอร์ขนาด 3-5 ผาน ไถปรับพน้ื ท่ใี ห้เรยี บ
ทาคันโอบลอ้ มพืน้ ทีท่ ง้ั หมด อาจใช้รถตกั ดนิ ขนาดใหญห่ รอื จ้างคนแทงดินข้ึนเป็นคันโอบ ความกว้าง
ของคันโอบหรอื คันล้อมประมาณ 6-8 เมตร ซ่งึ สามารถนารถยนต์เขา้ ไปบรรทุกผลผลติ ได้
2. การไถแหวก นิยมใชร้ ถแทรกเตอรไ์ ถ เปน็ แนวทางตามเชอื กทขี่ งึ ไว้หรอื แนวโรยปูนขาว จากนั้นจึงขุด
แทงร่องตามแนวที่ไถไว้
3. การแทงร่องหรอื ซอยรอ่ ง นิยมใช้แรงงานคนมากกว่ารถตักดิน เพราะร่องที่ได้จะมีดินที่ฟูไม่ทึบแน่น
ขนาดของแปลงดนิ หลังรอ่ งนิยมทากวา้ ง ประมาณ 6 เมตร ร่องน้ากว้าง 1.5 เมตร ลึก 1 เมตร และ
ก้นรอ่ งน้ากว้างประมาณ 0.5-0.7 เมตร แล้วตากดินให้แห้ง 1-2 เดือน จนเม็ดดินแห้ง (เรียกกว่าดิน
สุก) จึงทาประตูระบายน้าเข้าออก นิยมทาด้วยท่อคอนกรีตขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 12 นิ้ว (30.5
เซนติเมตร) ซึง่ ยังข้ึนกับขนาดสวน แล้วจงึ ระบายนา้ เข้าทม่ แปลงใหร้ ะดับน้าสงู กว่าแปลงดินประมาณ
10-20 เซนติเมตร ท้งิ ไว้ประมาณ 2 สปั ดาห์ เพ่อื ใหด้ นิ ยดึ ตึวดีข้นึ และเปน็ การฆ่าเชอ้ื โรคและแมลงที่
อยใู่ นดินด้วย จากนั้นระบายน้าออกจนดินเรม่ิ แหง้ (หมาด) ถา้ ดินเปน็ กรดให้โรยใส่ปูนขาวตามอตั ราที่
กาหนดตามความเปน็ กรดด่างของดนิ ปกติให้ใส่ปูนขาวก่อนปลูกต้นไม้ประมาณ 1 เดือน แล้วจึงทา
การวัดระยะหลุมปลกู
วธิ ีปลูก
ระยะปลูกที่เหมาะสมสะดวกตอ่ การปฏบิ ัตจิ ัดการสวน คือ ระยะระหวา่ งตน้ และระหวา่ งแถว เท่ากับ5 x5
หรอื 6×6 เมตร
การเตรียมหลุมปลูกต้นมะนาว ควรขุดหลุมใหม้ ขี นาดกวา้ ง ยาว และลึกประมาณ 80 เซนตเิ มตร หาเศษใบไม้
ใบหญ้าหรอื เศษฟางเกา่ ๆ ผเุ ปื่อยใสร่ องก้นหลมุ อดั ให้แนน่ หนาประมาณ 20 เซนติเมตร เพอื่ ให้ชว่ ยซบั น้าทีร่ ด
22
ลงไปเกบ็ ไว้ ให้มคี วามชุ่มชืน้ แก่รากมะนาว ช้นั ถดั ขน้ึ มาใส่ปุ๋ยคอกหนาประมาณ15 เซนติเมตร อาจใส่ปุ๋ย 20-
10-20 ประมาณ 2 ช้อนแกงผสมลงไปด้วย เพอื่ เป็นแหลง่ ธาตอุ าหารแกร่ าก กิง่ ตน้ พนั ธุ์ที่ใช้ควรผ่านการนาไป
ชาในกระบะเพาะชา หรือลงถุงชา ระยะหน่ึง ประมาณ 2-3 สัปดาห์ หลังตัดกิ่งตอนที่ออกรากดี จะช่วยลด
อัตราการตายหลงั ปลกู ลงได้มากกว่าการตัดก่งิ ตอนมาปลกู กอ่ นท่ีจะวางกิ่งพนั ธล์ุ งในหลมุ ตอ้ งกรีดถุงพลาสตกิ
ออกแล้วจงึ วางกิ่งให้อยู่ตรงกลางหลมุ
การปลกู ควรจดั รากใหแ้ ผ่ออกไปโดยรอบในลกั ษณะไม่หักพับ เม่อื วางก่งิ ตน้ ลงหลุมแล้ว ค่อยๆ โรยดินกลบไป
จนมิด ควรกลบให้ดินพูนสงู ขนึ้ เพอื่ ป้องกนั การแช่ขงั ของนา้ ในปากหลุม และกดดินรอบต้นให้แน่นพอสมควร
แลว้ รดน้า เพ่ือให้เมด็ ดินกระชับราก ควรปักไม้หลกั ผกู ยดึ ลาตน้ เพ่ือป้องกันการโยกคลอน
ควรปลูกตอนตน้ ฤดูฝน ฉะน้ัน ในช่วงเดอื นกุมภาพนั ธ์ถึงเมษายนผู้ปลูกจะต้องปรับพื้นที่ให้เรียบ หรือทาเป็น
คันร่องนนู แบบหลงั เตา่ เพอ่ื ไม่ใหน้ ้าขังในชว่ งฝนตกชกุ และชว่ ยระบายนา้ ออกไดโ้ ดยเร็ว
ระยะปลูก ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของดิน ถ้าดินอุดมสมบูรณ์ควรใช้ระยะ 6 x 6 เมตร พ้ืนที่ 1 ไร่ ปลูกได้
ประมาณ 44 ตน้ หากดินไม่อุดมสมบรู ณ์ ควรพูนดินใหส้ งู ขึน้ เพือ่ ไมใ่ ห้น้าขังในช่วงฝนตกชุก และช่วยระบาย
นา้ ออกได้โดยเรว็ แต่ปจั จุบันมีวธิ ีการปลูกทแ่ี ตกต่างไปตามสภาพของพืน้ ท่ี เพ่ือป้องกันไม่ให้มะนาวเกิดโรคได้
ง่าย เช่น การข้นึ ลูกฟกู สูง การปลูกมะนาวในวงบอ่ ซเี มนต์ เปน็ ตน้
การใหน้ ้า
ชว่ งปลกู ใหม่ๆ ควรให้น้าวันละคร้งั (กรณฝี นไม่ตก) หลงั จากต้นมะนาวตั้งตัวได้แลว้ การใหน้ ้าสามารถ
เวน้ ระยะนานข้นึ หลงั จากมะนาวออกดอกและกาลงั ตดิ ผลออ่ น เป็นช่วงทมี่ ะนาวต้องการน้ามาก
การใหป้ ุ๋ย ต้นทีใ่ หผ้ ลผลิตแลว้ แบ่งการใส่ปุ๋ย ดังนี้
1. บารงุ ต้น ใช้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ 16-16-16
2. สร้างตาดอก ใชป้ ๋ยุ สูตร 12-24-12 หรอื 9-24-24
3. บารงุ ผล ใช้ปุย๋ สตู ร 15-15-15 หนทอ 16-16-16
4. ปรงั ปรงุ คุณภาพ ใช้ปุ๋ยสตู ร 13-13-21
ส่วนปรมิ าณการใส่ปุ๋ยประมาณ 1 กิโลกรมั / ต้น / คร้งั
23
การพรวนดินดายหญ้า
ในฤดูฝนวัชพชื มักจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ถ้าหากไม่ถากถางออกเสียบ้างเป็นครั้งคราวก็จะไป
แยง่ อาหารตน้ มะนาวได้ ฉะนนั้ ควรดายหญ้าสัก 1-2 คร้ัง ในฤดูฝนกอ่ นใสป่ ๋ยุ ตอนปลายฤดูฝน จาเป็นอย่างย่ิง
ตอ้ งพรวนดินดายหญ้า สุม่ โคนต้นเพ่ือชว่ ยเกบ็ ความชุ่มชนื้ ในดนิ ไว้ เพราะไม่มฝี นตกมากนักในฤดหู นาวและฤดู
รอ้ น
การปลิดดอก
ในระยะ 1-2 ปีนับจากวันปลูก ถ้าหากตน้ มะนาวออกดอกในชว่ งน้คี วรจะปลดิ ทงิ้ เพราะตน้ มะนาวยงั
เลก็ ไม่มกี าลงั พอที่จะเล้ียงท้ังต้นและลูก ถ้าหากปล่อยให้ติดลูกต้นมะนาวอาจจะแคระแกรนไม่เจริญเติบโต
เท่าทค่ี วร หรือจะโทรมตายเรว็ กวา่ เท่าทีค่ วร ดงั นนั้ ควรจะใหต้ ้นมะนาวตดิ ผลไดเ้ มอื่ อายุ 3 ปี
การตดั แตง่ กง่ิ
หลงั เกบ็ เกยี่ วผลผลติ แลว้ ควรตดั กงิ่ ทเ่ี ป็นโรค กงิ่ แห้ง กิ่งท่ไี มม่ ีประโยชนอ์ อกให้หมด ในชว่ งอายุ 4 ปี
ควรตัดแต่งกิ่งออก 1 ส่วน 3 ของทรงพมุ่ เม่อื ต้นมะนาวอายุ 6 ปี ควรตัดแต่งก่ิงออก 1 ส่วน 2 ของทรงพุ่ม
การกาจัดวัชพืช
สามารถทาได้หลายวธิ ี เชน่ ถอน ถาง หรอื ใชเ้ ครื่องตัดหญ้าแตต่ อ้ งระวงั อยา่ ใหเ้ กิดบาดแผลตามโคน
ต้น หรือกระทบกระเทือนราก วิธีกาจัดวัชพืชอีกวิธีหน่ึงที่นิยมคือการใช้สารเคมี เช่น พาราชวิท ไกลโฟเสท
ดาวพอน เปน็ ตัน โดยการใช้จะตอ้ งระวงั อย่าใหส้ ารพวกน้ปี ลวิ ไปถกู ใบมะนาวเพราะอาจเกิดอันตรายได้ เช่น
ทาให้ ใบไหมเ้ หลอื งเป็นจดุ ๆ หรอื ไหม้ท้ังใบ ดังน้นั จงึ ควรฉีดพ่นตอนลมสงบ
โรคและแมลงทสี่ าคัญของมะนาว
โรคทส่ี าคญั
1. โรคแคงเกอร์
ลักษณะอาการ จะเกิดข้ึนได้แทบทุกส่วน ท้ังที่ใบ กิ่งก้าน และผล โดยอาการที่ใบและผล จะมี
ลกั ษณะคล้ายกนั คือจะเกดิ เป็นแผลกลม แล้วจะขยายใหญ่ ฟู นูนคล้ายฟองน้า มีสีเหลืองอ่อนถึงสี
เหลืองเขม้ ตอ่ มาจะเปล่ยี นเป็นสีนา้ ตาลเข้ม และจะแตกเป็นสะเก็ด มีวงแหวนสีเหลืองล้อมรอบแผล
ส่วนอาการท่ีกิ่งก้าน จะมีแผลฟูนูนสีเหลือง ต่อมาแผลจะ แตกแห้งเป็นสีน้าตาลขยายไปรอบๆ กิ่ง
24
รูปรา่ งแผลไม่แนน่ อน และไมม่ ีวงแหวนล้อมรอบ เม่ือต้นมะนาวเป็นโรคนี้มากๆ จะแสดงอาการต้น
โทรม แคระแกรน็ ใบร่วง ผลผลิตลดลง ก่ิงและต้นจะแหง้ ตายในท่ีสุด
การป้องกันกาจัด ตัดแต่งส่วนท่ีเป็นโรคเผาทาลาย ไม่ขยายพันธุ์จากต้นแม่ที่เป็นโรคแคงเกอร์
พยายามอยา่ ให้มะนาวเกิดบาดแผล และ ป้องกันแมลงท่ีเป็นพาหะ เช่น หนอนชอนใบ หรือฉีดพ่น
ดว้ ยสารเคมี กาจดั แมลงกลมุ่ คารบ์ าริล มาลาไธออน
ภาพท่ี 16 : โรคแคงเกอร์
2. โรคราดา
ลกั ษณะอาการ ใบ ก่ิงก้าน และผลจะมีราสีดา สกปรกกระด้างทาให้ผมไม่สวย ต้นมะนาวจะแคระ
แกร็น
ลักษณะอาการ ใบ กิ่งก้าน และผลจะมีราสีดา สกปรกกระด้างทาให้ผมไม่สวย ต้นมะนาวจะแคระ
แกรน็
การป้องกันกาจัด ทาลายส่วนท่ีเป็นโรคโดยการเผาไฟหรือใช้ สารเคมีกาจัดแมลงฉีดพ่นเพ่ือกาจัด
แมลงประเภทปากดูดชึ่งเป็นสาเหตุ ทาใหเ้ กดิ โรคราดา
25
ภาพท่ี 17 : โรคราดา
3. โรคกรนี นง่ิ (ใบแก้ว)
ลักษณะอาการ ใบจะด่างเป็นสีเหลอื ง หรือขาวใสระหวา่ งเสน้ ใบ ใบมีขนาดเลก็ ลง ในท่ีสดุ ใบและยอด
จะแห้งตาย ผลมขี นาดเล็ก นา้ หนักน้อย ต้นจะโทรม
การปอ้ งกนั กาจัด ทาลายส่วนที่เป็นโรคโดยการเผาไฟ ใส่ปุ๋ยที่มี ธาตุสังกะสีและ แมกนีเชียม ปรับ
สภาพความเป็นกรด-ด่างของดนิ ให้อยรู่ ะหว่าง 6.0-6.5
ภาพท่ี 18 : โรคกรนี นง่ิ
26
4. โรคยางไหล
ลกั ษณะอาการ มีอาการยางไหลบริเวญลาตน้ และกง่ิ กา้ น เปลอื กจะเน่าและแผลจะลุกลามไปถึงเนื้อ
ไม้
การปอ้ งกันกาจัด ควรตัดแต่งกิ่งและกาจัดวัชพืชเพื่อให้แสงแดดส่องได้ท่ัวถึง และควรทาบาดแผล
ด้วยสารทองแดงหรือกามะถนั ผสมปนู ขาว ถา้ มีการระบาดมากก็เผาทาลายเสยี
ภาพท่ี 19 : โรคยางไหล
5. โรครากเน่าและโคนเนา่
ลักษณะอาการ รากฝอยและรากแขนง จะเนา่ มสี นี ้าตาลหรือดา ลกั ษณะเหนียว ไมย่ ยุ่ เปลอื กของลา
ตน้ จะปริแตกออก โดยเฉพาะโคนตน้ และมียางไหลบริเวณขอบแผล เม่อื รากและต้นถูกทาลายมากๆ
จะทาให้ใบเหลอื งและรว่ งหล่น
การป้องกันกาจัด อย่าใหม้ นี ้าขงั บริเวณโคนตน้ และไม่ควรใส่ปยุ๋ หมกั หรอื ปุ๋ยคอกมากเกนิ ในช่วงฤดู
ฝน
ภาพที่ 20 : ครากเนา่ และโคนเน่า
27
การเกบ็ เกีย่ ว
การเก็บผลมะนาว ถ้าต้นเตี้ยหรือไม่สูงมากนัก ก็เก็บโดยใช้มือปลิด แต่ถ้าต้นสูง นิยมเก็บโดยใช้มีด
หรือตะขอผูกติดกับด้ามไม้รวกยาว ๆ คล้อง และกระตุกผลมะนาวลงมา แต่ถ้าต้องการให้ได้ผลมะนาวที่มี
คณุ ภาพ ไมบ่ อบชา้ กค็ วรจะใชต้ ะกรอ้ หวายในการเกบ็ เกี่ยว ควรเก็บในขณะทีผ่ ลเร่ิมแก่ โดยสงั เกตจากด้านขวั้
ของผลเร่ิมมีสีเหลืองเลก็ นอ้ ยผวิ เปลอื กจะเรยี บบางใส มีสเี ขยี วอ่อนกวา่ ผลท่ียังไม่แก่ เมื่อบีบดูจะค่อนข้างนุ่ม
มือ ไมค่ วรเกบ็ มะนาวทีแ่ กเ่ กินไป เพราะเปลอื กจะบางมาก ทาใหเ้ กิดความเสียหายในการขนส่งได้ง่าย อีกทั้ง
เมือ่ นาไปขายจะทาให้ขายได้ไมน่ านผลเน่าเสียหายไดเ้ ร็ว
28