โครงงาน

40 3) ความสัมพันธ์ (Relationship) เอนทิตี้แต่จะต้องมีความสัมพันธ์ร่วมกัน โดยจะมีชื่อแสดงความสัมพันธ์ร่วมกันซึ่งจะใช้รูปภาพ สัญลักษณ์สี่เหลี่ยมรูปว่าวแสดงความสัมพันธ์ระหว่างเอนทิตี้และระบุชื่อความสัมพันธ์ลงในสี่เหลี่ยม ตัวอย่างเช่น รูปนี้แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างเอนทิตี้อาจารย์กับกลุ่มเรียน ดังภาพที่ 2.53 ภาพที่ 2.53 สัญลักษณ์ของ Relationship หมายเหตุ : จากแผนภาพแสดงความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูล,นางสาวยุพา จันทะมาศ,2561. เอนทิตี้จะต้องมีความสัมพันธ์ร่วมกัน โดยจะมีชื่อแสดงความสัมพันธ์ร่วมกันซึ่งจะใช้ รูปภาพสัญลักษณ์ สี่เหลี่ยมรูปว่าวแสดงความสัมพันธ์ระหว่างเอนทิตี้ ระดับชั้นของความสัมพันธ์(Relationship Degree) จะบอก ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเอนทิตี้ - ความสัมพันธ์เเบบหนึ่งต่อหนึ่ง (One - to - One Relationship) เป็นการแสดงความสัมพันธ์ของข้อมูลของเอนทิตี้หนึ่งว่ามีความสัมพันธ์กับข้อมูลอย่างมากหนึ่งข้อมูลกับอีก เอนทิตี้หนึ่งในลักษณะที่เป็นหนึ่งต่อหนึ่ง เช่น เอนทิตี้นักศึกษา กับเอนทิตี้โครงงานวิจัยมีความสัมพันธ์ กันเเบบหนึ่งต่อหนึ่งคือ นักศึกษาแต่ละคนทำโครงงานวิจัยได้ 1 โครงงานเท่านั้น เเละแต่ละโครงงานวิจัยมี นักศึกษารับผิดชอบได้ไม่เกิน 1 คน เป็นต้น ดังภาพที่ 2.54 ภาพที่ 2.54 ความสัมพันธ์เเบบหนึ่งต่อหนึ่ง หมายเหตุ : จากแผนภาพแสดงความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูล,นางสาวยุพา จันทะมาศ,2561. - ความสัมพันธ์เเบบหนึ่งต่อกลุ่ม (One - to - Many Relationship) เป็นการเเสดงความสัมพันธ์ของข้อมูลของเอนทิตี้หนึ่งว่ามีความสัมพันธ์กับข้อมูลหลายข้อมูลกับอีกเอนทิตี้หนึ่ง เช่น ความสัมพันธ์ของลูกค้าและคำสั่งซื้อเป็นเเบบหนึ่งต่อกลุ่ม คือ ลูกค้าแต่ละคนสามารถสั่งซื้อหลายคำสั่งซื้อ เเต่ละคำสั่งซื้อมาจากลูกค้าเพียงคนเดียว ดังภาพที่ 2.55 ภาพที่ 2.55 ความสัมพันธ์เเบบหนึ่งต่อกลุ่ม หมายเหตุ : จากแผนภาพอสดงความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูล,นางสาวยุพา จันทะมาศม2561.

41 - ความสัมพันธ์เเบบกลุ่มต่อกลุ่ม (Mony to Many Relationship) เป็นการแสดงความสัมพันธ์ของข้อมูลของสองเอนทิตี้ในลักษณะเเบบกลุ่มต่อกลุ่ม เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างคำ สั่งซื้อกับสินค้าเป็นแบบกลุ่มต่อกลุ่มคือ แต่ละคำสั่งซื้ออาจสั่งซื้อสินค้าได้มากกว่า 1 ชนิด และในสินค้าแต่ละ อาจปรากฎอยู่ในคำสั่งซื้อได้มากกว่า 1 คำสั่งซื้อ ดังภาพที่ 2.56 ภาพที่ 2.56 ความสัมพันธ์แบบกลุ่มต่อกลุ่ม หมายเหตุ : จากแผนภาพแสดงความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูล,นางสาวยุพา จันทะมาศ,2561. ภาพที่ 2.57 E-R Diagram ของรูปภาพ Crow’s Foot Model หมายเหตุ : จากแผนภาพแสดงความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูล,นางสาวยุพา จันทะมาศ,2561. ภาพที่ 2.57 E-R Diagram ของรูปแบบ Chen Model หมายเหตุ : จากแผนภาพแสดงความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูล,นางสาวยุพา จันทะมาศ,2561. 2.10 ระบบจัดการฐานข้อมูล My SQL เป็น database Server ที่เหมาะกับองค์กรขนาดเล็กขนาดกลางที่มีข้อมูลไม่มากนักและเป็นระบบ จัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (Relational Database Management System) ซึ่งเป็นฟรีแวร์ จึงได้รับความ นิยมอย่างมากในปัจจุบัน สามารถดาวน์โหลดโปรแกรมและซอร์สโค้ด(Source Code) ได้จากอินเทอร์เน็ตโดย ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย และสามารถแก้ไขได้ตามความต้องการ พร้อมทั้งยังสนับสนุนการใช้งานบน ระบบปฏิบัติการต่างๆ เช่น Unix, Mac และ Windows เป็นต้น(กิตติ ภักดีวัฒนะกุล.2552)

42 2.10.1 ชนิดข้อมูลใน MYSQL ชนิดของคอลัมน์พื้นฐานมี 3 ชนิดคือตัวเลข (Numeric) วันที่และเวลา (Data and Time) และ ตัวอักษร (String) แต่ละชนิดจะมีขนาดความกว้างของคอลัมน์ไม่เท่ากัน ดังนั้นเมื่อกำหนดคคอลัมน์ในตาราง บนฐานข้อมูลแล้วจะต้องคำนึงถึงชนิดของคอลัมน์ที่เหมาะสมกับข้อมูลด้วย คอลัมน์แต่ละชนิดมีรายละเอียด ดังนี้(กิตติ ภักดีวัฒนะกุล.2552) 1) ตัวเลข (Number) ชนิดของตัวเลขแบ่งได้เป็นเลขจำนวนเต็ม (Integer) โดยสามารถกำหนดความยาวของข้อมูล (M) ไว้ ภายในวงเล็บ [ ] ตัวอย่าง เช่น หากต้องการกำหนดความยาวเป็น 255 ให้แทน M ภายในวงเล็บด้วยเลข 255 ส่วนตัวเลขอีกชนิด คือ เลขจำนวนจริง (Floating Point) ที่แสดงเป็นตัวเลขทศนิยม เลขจำนวนจริงจะ ประกอบด้วยค่า M และ D ซึ่ง M คือ จำนวนเลขทั้งหมด (รวมจุดทศนิยม) และ D คือตัวเลขหลังจุดทศนิยมมี รายละเอียดดังภาพตารางต่อไปนี้ ภาพที่ 2.58 ตารางเเสดงชนิดของเลขจำนวนเต็ม ภาพที่ 2.59 ตารางเเสดงชนิดของเลขจำนวนจริง หมายเหตุ : - M คือ หากเป็นจำนวนเต็มจะหมายถึงความยาวของเลขจำนวนเต็มแต่หากเป็นจำนวนจริงจะ หมายถึงจำนวนเลขทั้งหมด (รวมจุดทศนิยม) - D คือ ตัวเลขหลังจุดทศนิยม

43 2) วันที่และเวลา (Date and Time) สามารถกำหนดให้คอลัมน์ใดๆ มีชนิดเป็นวันที่และเวลาได้โดยแสดงผลและรับข้อมูลได้ดังตารางต่อไปนี้ ภาพที่ 2.60 ตารางชนิดของวันที่และเวลา ภาพที่ 2.61 ตารางแสดงชนิดของ TIMESTAMP (M) 3) สตริง (String) ชนิดของตัวอักษรแบ่งเป็น 3 ชนิดดังนี้ - สตริงแบบธรรมดา ประกอบด้วยสตริงชนิด Char (fixed Length Character) และ Varchar (Variable Langth Character) ระบุความยาวของข้อมูลชนิดนี้ได้ คอลัมน์ที่มีชนิดเป็น Char จะเก็บทั้งหมด ของข้อมูลรวมทั้งค่าว่างด้วย (เก็บข้อมูลทั้งหมดเท่าขนาดที่กำหนด) เช่น ส่วน Varchar จะเก็บข้อมูลเท่ากับ ขนาดของข้อมูล - ข้อความและ BLOB ซึ่งมีขนาดใหญ่มากใช้สำหรับเก็บข้อความที่ยาวมากๆ หรือข้อมูลที่เป็นไบนารี (Binary) นิยมใช้เก็บรูปภาพ ดูรายละเอียดจากตารางแสดงชนิดของข้อความ BLOB - ENUM และ SET สตริงขนิด SET นั้นสามารถระบุค่าได้โดยการส่งผ่านค่า โดยระบุได้มากกว่า 1 ค่า เเต่ไม่เกิน 64 ค่า ส่วน EMUM (Enumeration) มีหลักการเหมือน SET ซึ่งยอมรับค่าที่ระบุได้มากกว่า 1 ค่า เเต่ไม่เกิน 65535 หรืออาจเป็นค่าว่าง (NULL) ก็ได้ รายละเอียดตารางต่อไปนี้ ภาพที่ 2.62 ตารางแสดงชนิดของสตริง

44 ภาพที่ 2.63 ตารางแสดงชนิดของข้อความและ BLOB ภาพที่ 2.64 ตารางแสดงชนิดของ ENUM และ SET สรุป เนื้อหาในบทนี้ได้กล่าวถึงการจัดการกับโครงสร้างของฐานข้อมูล ได้แก่ การสร้างฐานข้อมูลและตาราง การแสดงรายละเอียดในฐานข้อมูล การแก้ไขโครงสร้างของตารางรวมไปถึงการลบตารางและฐานข้อมูล นอกจากนี้ยังกล่าวถึงชนิดของตารางและข้อมูลใน My SQL เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ร่วมกับเนื้อหาของบทอื่นๆ ต่อไป (กิตติ ภักดีวัฒนะกุล.2552) 2.11 Xampp คืออะไร เป็นโปรแกรม Apache web server ไว้จำลอง web server เพื่อไว้ทดสอบ สคริปหรือเว็บไซต์ใน เครื่องของเรา โดยที่ไม่ต้องเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตและไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายใดๆ ง่ายต่อการติดตั้งและใช้งาน โปรแกรม Xampp จะมาพร้อมกับ PHP ภาษาสำหรับพัฒนาเว็บแอพลิเคชั่นที่เป็นที่นิยม , MySQL ฐานข้อมูล, Apache จะทำหน้าที่เป็นเว็บ เซิร์ฟเวอร์, Perl อีกทั้งยังมาพร้อมกับ OpenSSL , phpMyadmin ระบบ บริหารฐานข้อมูลที่พัฒนาโดย PHP เพื่อใช้เชื่อมต่อไปยังฐานข้อมูล สนับสนุนฐานข้อมูล MySQL และ SQLite โปรแกรม Xampp จะอยู่ในรูปแบบของไฟล์ Zip, tar, 7z หรือ exe โปรแกรม Xampp อยู่ภายใต้ ใบอนุญาตของ GNU General Public License แต่บางครั้งอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องของลิขสิทธิ์ในการ ใช้งาน จึงควรติดตามและตรวจสอบโปรแกรมด้วย 2.11.1 เวอร์ชั่นในปี 2022 โปรแกรม XAMPP เวอร์ชั่นล่าสุดคือ - XAMPP for Windows เวอร์ชั่น 7.4.29, 8.0.19 & 8.1.6 สามารถใช้งานได้ Windows 2008, 2012, Vista, 7, 8 หรือเวอร์ชั่นที่ใหม่กว่า ไม่รองรับ Windows XP or 2003 -XAMPP for Linux เวอร์ชั่น 7.4.29, 8.0.19 & 8.1.6 รองรับ Linux ทุกรุ่นส่วนใหญ่, including Debian, RedHat, CentOS, Ubuntu, Fedora, Gentoo, Arch, SUSE.

45 -XAMPP for OS X เวอร์ชั่น 7.4.29, 8.0.19, 8.1.6, 7.4.29, 8.0.19 & 8.1.6 รองรับ Mac OS X 10.6 หรือ เวอร์ชั่นที่ใหม่กว่า ดังถาพ 2.61 ภาพที่ 2.65 XAMPP for Windows 8.0.28, 8.1.17 & 8.2.4 2.12 Sublime Text คืออะไร Sublime Text เป็นโปรแกรมแก้ไขข้อความแชร์แวร์และซอร์สโค้ดสำหรับWindows, macOSและLinux รองรับภาษาโปรแกรมและภาษามาร์กอัป จำนวนมากโดย กำเนิด ผู้ใช้สามารถปรับแต่งด้วยธีมและขยายการ ทำงานด้วยปลั๊กอินซึ่งโดยทั่วไปแล้วชุมชนสร้างขึ้นและดูแลภายใต้ลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ฟรีเพื่ออำนวยความ สะดวกปลั๊กอิน Sublime Text มีPython API ตัวแก้ไขใช้ส่วนต่อประสานขั้นต่ำและมีคุณสมบัติสำหรับ โปรแกรมเมอร์รวมถึงการเน้นไวยากรณ์ที่กำหนดค่า ได้การพับโค้ดการค้นหาและแทนที่ที่รองรับนิพจน์ทั่วไป หน้าต่างเอาต์พุตของเทอร์มินัล และอื่นๆ เป็นซอฟต์แวร์ที่เป็นกรรมสิทธิ์แต่มีรุ่นทดลองใช้งานฟรี 2.12.1 รุ่น 1 Sublime Text 1.0 เปิดตัวเมื่อวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2551 เป็นแอปพลิเคชันสำหรับ ระบบปฏิบัติการ Windows รองรับแท็บและมุมมองไฟล์แบบเคียงข้างกัน รุ่น 2 Sublime Text 2.0.2 เปิดตัวเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2013 การเปลี่ยนแปลงจาก ซอฟต์แวร์เวอร์ชันแรกตามที่โปรโมตในบล็อกอย่างเป็นทางการของ Sublime รวมถึง การสนับสนุน จอภาพ Retina และฟังก์ชัน "ข้ามด่วนถัดไป" รุ่น 3 เวอร์ชัน 3 เข้าสู่เบต้าเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2013 ในตอนแรกมีให้เฉพาะผู้ใช้ที่ลงทะเบียน ที่ซื้อ Sublime Text 2 ในวันที่ 28 มิถุนายน 2013 เปิดให้บุคคลทั่วไปใช้งาน อย่างไรก็ตาม บิลด์การพัฒนา ล่าสุดยังคงต้องใช้รหัสการลงทะเบียน Sublime Text 3 เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2017 ในเดือนพฤษภาคม 2018 ตามมาด้วยเวอร์ชัน 3.1 และเวอร์ชัน 3.2 ในเดือนมีนาคม 2019 คุณสมบัติ หลักสองประการที่ Sublime Text 3 เพิ่ม ได้แก่ การทำดัชนีสัญลักษณ์และการจัดการบานหน้าต่าง การจัดทำ ดัชนีสัญลักษณ์ช่วยให้ Sublime Text สแกน ไฟล์และสร้างดัชนีเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับคุณสมบัติGoto

46 DefinitionและGoto Symbol ใน Project การจัดการบานหน้าต่างช่วยให้ผู้ใช้สามารถย้ายไปมาระหว่างบาน หน้าต่างผ่านปุ่มลัด รุ่น 4 เวอร์ชัน 4 เปิดตัวเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 คุณสมบัติใหม่ที่สำคัญ ได้แก่ การ เติมข้อความอัตโนมัติตามบริบททั้งโปรเจ็กต์ การเลือกหลายแท็บ และการสนับสนุนโหมดมืด เวอร์ชันใหม่ นำเสนอการเรนเดอร์แบบเร่งด้วยฮาร์ดแวร์โดยใช้ OpenGL สำหรับความละเอียดการแสดงผลขนาดใหญ่และ การรองรับ Apple M1 และ ARM64 ดั้งเดิม นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มประสิทธิภาพภายในและการอัปเดต เช่น โฮสต์ปลั๊กอิน Python 3.8 ใหม่และ API แบบขยายสำหรับการพัฒนาปลั๊กอินแบบขยาย 2.13 การประเมินระบบ การหาประสิทธิภาพสำหรับการวิจัยเชิงทดลองตามแนวทางการวิจัยด้านระบบสารสนเทศ โดยวิธี Black Box และ White Box การหาประสิทธิภาพ กล่าวได้ว่าเป็นตัวแปรการทดลองที่นิยมประเมินกันอย่าง แพร่หลายในการวิจัยเชิงทดลองทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ สำหรับแนวทางการวิจัยด้านระบบสารสนเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมประยุกต์ต่างๆขึ้นมาใหม่ เพื่อนำไปใช้กับบุคลากรหรือใช้ งานภายในองค์กร เช่น การพัฒนาระบบฐานข้อมูล ระบบสารสนเทศเพื่อ การจัดการระบบสนับสนุนการ ตัดสินใจระบบช่วยเหลือการบริหาร และระบบสารสนเทศอื่นๆ การหาประสิทธิภาพของระบบสารสนเทศที่ พัฒนาขึ้นใหม่นี้ ส่วนใหญ่จะนิยมใช้วิธี back Box และ White Box ซึ่งประยุกต์มาจากวิธีการทดสอบ ซอฟต์แวร์(Software testing) ในกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์เชิงวิศวกรรม 2.13.1 Blackbox เมื่อแปลความหมายตรงตัวก็คือ กล่องดำ ซึ่งหมายถึง การประเมินที่ไม่พิจารณา ภายในของระบบ อันได้แก่ตัวโปรแกรม โครงสร้าง ข้อมูล อัลกอริทึม การจัดการข้อมูล ตัวแปร นิพจน์ และ อื่นๆ (มนต์ชัย เทียนทอง 2548 : 198-200) การหาประสิทธิภาพ สำหรับรายการประเมินด้วยวิธี Black Box จะมีประเด็นหลักๆที่สำคัญดังนี้ 1) Functional Testing เป็นการทดสอบด้านหน้าที่และความถูกต้องในการทำงานของระบบแต่ละ ส่วนในลักษณะภาพรวม นับตั้งแต่ส่วนนำเข้าส่วนประมวลผลจนถึงส่วนแสดงผล 2) ความถูกต้องในการหรือไม่ ตั้งแต่ส่วนนำเข้า ส่วนประมวลผลจนถึงส่วนแสดงผลซึ่งมีลักษณะคล้าย กับการประเมินด้าน (Functional Test) แตกต่างกันที่การประเมินในด้านนี้จะต้องเปรียบเทียบ กับความต้องการหรือข้อกำหนดต่างๆที่มีอยู่ 3) Usability Testing เป็นการทดสอบด้านการใช้งาน เช่น ความง่ายในการติดตั้งการใช้งานในส่วน ต่างๆการปฏิสัมพันธ์การนำเสนอ และการแสดงผลลัพธ์และคู่มือ 4) Seculity Testing เป็นการทดสอบด้านความปลอดภัยของระบบ เช่นระบบพิสูจน์สิทธิ์การรักษา ความปลอดภัยและการเข้ารหัสเป็นต้น 5) Performance Testing การทดสอบด้านความสามารถในการทำงานของระบบ เช่น ความถูกต้อง ความรวดเร็ว สมรรถนะ และประสิทธิภาพโดยรวม เป็นต้น 2.13.2 White Box เมื่อแปลตามตัวก็คือ กล่องขาว ซึ่งหมายถึง การประเมินโดยพิจารณาภายในตัว โปรแกรมเพื่อทดสอบการทำงานของโปรแกรมว่ามีขั้นตอนอย่างไร อันได้แก่โครงสร้าง ข้อมูลอัลกอริทึม การ จัดการข้อมูล ตัวแปร นิพจน์ และอื่นๆ สำหรับรายการประเมินด้วยวิธี White Box จะมีประเด็นหลักๆ ที่สำคัญ ดังนี้ 1) Unit testing เป็นการทดสอบส่วนย่อยๆของโปรแกรมแต่ละส่วนอาจจะเป็นฟังก์ชัน 2) ใดๆหรือคลาสใดคลาสหนึ่ง โดยการกำหนดข้อมูลนำเข้าแล้วทดสอบส่วนแสดงผลที่ปรากฏ 3) นำเอา Unit แต่ละฟังก์ชันมารวมกันแล้วทดสอบการทำงาน เพื่อพิจารณาการไหลของข้อมูลและ การควบคุมแต่ละส่วน

47 4) System testing เป็นการทดสอบการทำงานทั้งระบบเพื่อทดสอบการทำงานของระบบที่ พัฒนาขึ้นโดยรวมการหาประสิทธิภาพด้วยวิธีBlack bok และ White bok สำหรับแนวทางการ วิจัยด้านระบบสารสนเทศ จึงเป็นการศึกษาผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น 2.14 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ปฐมพงษ์ หอมศรี และจักรพรรณ คงธนะ (2557) การพัฒนาระบบการจัดการสินค้าคงคลัง : กรณีศึกษาบริษัทติดตั้ง และบำรุงรักษาเครื่องจักรของโรงงาน SME เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหาร สินค้า คงคลัง และเพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงานในระบบสินค้าคงคลังจัดทำกลุ่มของสินค้า (Product Category) ลดปริมาณสินค้าที่ไม่มีการเคลื่อนไหว ลดปริมาณการจัดเก็บงบสินค้าและลดค่าใช้จ่ายในการ จัดเก็บลง คณะผู้วิจัยได้ใช้เครื่องมือในการหาสาเหตุและปัญหาโดยใบตรวจสอบ (Cheek Sheet) และ แผนผัง ก้างปลา (Ishikawa Diagram) เพื่อวิเคราะห์ปัญหาและค้นหาแนวทางแก้ไข ผลการวิเคราะห์ พบว่า บริษัทมีปัญหาเรียง ตามความสำคัญดังนี้ ปัญหาด้านสินค้าคงคลัง เกิดจากไม่มีการจัดทำระบบ สินค้าคงคลัง ไม่มีการบันทึกข้อมูล สินค้าคงคลัง ขาดการวางแผนการจัดซื้อ การจัดสินค้าไม่เป็น หมวดหมู่ จากปัญหาดังกล่าวคณะวิจัยได้ทำการ ใช้เครื่องมือการจัดการ ในการแก้ไขปัญหาดังนี้ การจัดทำใบ บันทึกรายการสินค้า (Stock card) การใช้ทฤษฎี ABC Analysis ทฤษฎี EOQ การกำหนด กระบวนการ การทำงานของการบริหารสินค้าคงคลัง แนวคิด 5 ส. สินค้าค้างสต๊อกมีการเปลี่ยนแปลง ด้านการบริหาร สินค้าคงคลัง สามารถทำงานอย่างเป็นระบบมากขึ้น มีการ ตรวจนับสินค้าคงคลังและ จัดทำใบบันทึก รายการสินค้า (Stock card) สินค้าคงคลังมีการจัดเรียงหมวดหมู่ ตามประเภท มีการวาง แผนการ จัดซื้อที่เหมาะสม และมีการระบายสินค้าค้างสต๊อก ผลจากการดำเนินงานทำ ให้ต้นทุนสินค้า ค้าง สต๊อกลดลง สรุปผลการวิจัยจากการนำเครื่องมือมาใช้ในการแก้ไขปัญหาด้านการบริหาร สินค้าคง คลัง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารสินค้าสินค้าคงคลังโดยลดการสั่งซื้อที่ซ้ำซ้อนสามารถคิดเป็น เงิน ลดลงได้1,533,600 บาท และปรับปรุงกระบวนการทำงานในระบบสินค้าคงคลังจัดทำกลุ่มของ 25 สินค้า (Product Category) ลดปริมาณสินค้าที่ไม่มีการเคลื่อนไหว ลดปริมาณการจัดเก็บงบสินค้าและ ลด ค่าใช้จ่าย ในการจัดเก็บงบลงสามารถคิดเป็นเงินลดลงได้ 671,700 บาท ไตรภพ จิตนาริน และแก้วใจ อาภรณ์พิศาล (2561) การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ วิเคราะห์ ออกแบบ และพัฒนาระบบจัดการคลังสินค้า กรณีศึกษาสินค้าแบรนด์ตรีสรา ผู้วิจัย ทำการศึกษาขั้นตอนการ ทำงานของการจัดการข้อมูลสินค้าเข้า คลังไม่ตรงกับความต้องการของ ผู้ประกอบการ และทำให้เกิดความ ล่าช้าและซับซ้อนในการสั่งซื้อ สินค้า จึงนำข้อมูลและปัญหาที่เกิด ขึ้นมาวิเคราะห์และออกแบบระบบการ จัดการคลังสินค้าให้จัดการ เก็บข้อมูลสินค้าอย่างเป็นระบบ โดย 26 เครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนาคือโปรแกรม Microsoft Visual Basic 2010 เป็นภาษาในการพัฒนา และใช้ ระบบจัดการฐานข้อมูล Microsoft SQL Server 2008 R2 ในการจัดเก็บข้อมูล ผลการวิจัยพบว่า ระบบงานนี้สามารถจัดเก็บข้อมูลหลัก เช่น ข้อมูลการ ซื้อ ขายสินค้า และข้อมูลลูกค้า เป็นต้น โดยการ จัดการข้อมูลสินค้า การรับสินค้าเข้าคลังสินค้า และการ ขาย สินค้า รวมทั้งการออกรายงานการขาย ประจำวัน และความพึงพอใจของผู้ใช้งานที่มีต่อระบบ จัดการคลังสินค้า กรณีศึกษาสินค้าแบรนด์ตรีสรา โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก การนำระบบงานนี้เข้า มาช่วยการจัดการข้อมูล สินค้า ทำให้การตรวจสอบ ฐานข้อมูลสินค้าเป็นไปได้อย่างรวดเร็วถูกต้อง แม่นยำ และสามารถนำไปใช้ ประโยชน์ได้จริง ธัชชัย ชอพฤกษา (2559) “การศึกษาแนวทางการพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการคลังสินค้า กรณีศึกษา บริษัทนิคสแลนด์เทรดดิ้ง จํากัด อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร” ผู้วิจัยมีวัตถุประสงคเพื่อ ศึกษา ปัญหาและวิเคราะห์สภาพปัญหาการดำเนินกิจกรรมภายในคลังสินค้าและหาแนวทางการพัฒนา ประสิทธิภาพ การจัดการคลังสินค้าของกรณีศึกษา ผลการศึกษาพบวาการจัดเก็บสินคาภายในคลังสินค้า ของกรณีศึกษานั้นมี การจัดเก็บที่ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ไม่มีการแบ่งโซน ไม่มีการแบ่งหมวดหมู่สินค้า การจัดเก็บไรรูปแบบ มี

48 การจัดเก็บสินค้าแบบเทกอง สินค้าที่มาก่อนจะถูกดันเขาไปเก็บไวด้านในสุดของคลังสินค้า และถูกแทนที่ด้วย สินค้าที่มาใหม่ ทำใหพื้นที่ภายในคลังนั้น ไม่เพียงพอในการจัดเก็บสินค้า บางรายการที่สั่งมาใหม่ ไม่สามารถขน เขามายังภายในคลังสินค้าได้เนื่องจาก สินค้าวางขวางทาง อย่างไม่เป็นระเบียบศึกษาได้นำข้อมูลมาวิเคราะห์ หาแนวทางในการพัฒนาประสิทธิภาพในงาน คลังสินค้าโดย การนำแนวคิดทฤษฎี ABC Analysis ซึ่งเป็น ทฤษฎีที่การแบ่งประเภทสินค้าตามลำดับ ความสำคัญ โดยใช มูลค่าของสินค้าที่ขายดีที่หมุนเวียนในรอบครึ่งปี โดยจะแบ่งสินค้าออกเป็น 3 ประเภท คือ ประเภท A เป็นของสินค้าที่มีมูลค่าหมุนเวียนในรอบครึ่งปสูงที่สุด ประเภท B มีมูลค่าปานกลาง ส่วนประเภท C มีมูลค่าต่ำสุด เพื่อใหมีแนวทางในการจัดกลุ่มของสินค้าแต่ละ ประเภท นำข้อมูล ที่ได้มาจากการวิเคราะห์มาทำการจัดหมวดหมู่สินค้าและทำการวัดผลการวิจัยโดย เปรียบเทียบ ประสิทธิภาพการดำเนินงานใน คลังสินค้าแบบเดิมและแบบเอบีซีว่าแบบไหนสามารถเพิ่ม ประสิทธิภาพ ในงานคลังสินค้ามากกว่ากัน การแยกประเภทสินค้าออกเป็นหมวดหมู่ตามแบบเอบีซีทำให สามารถจัด หมวดหมู่สินค้าในคลังสินค้าได้เป็น ระเบียบ สามารถแยกโซนการจัดเก็บสินค้าได้อย่างเหมาะสม สามารถออกแบบแผนผังการจัดเก็บสินค้า ภายในคลังสินค้าได้อย่างเป็นระบบ มีพื้นที่ภายในคลังสินค้า มาก ยิ่งขึ้น การเคลื่อนย้ายสินค้ามีความสะดวก ใชเวลาการดำเนินงานน้อยลงประหยัดเวลามากกว่าเดิม 27 ซึ่ง แตกต่างจากการจัดเก็บสินค้าแบบเดิม ที่ไม่มีการจัดหมวดหมู่ในการจัดเก็บสินค้า สินค้าวางไม่เป็น ระเบียบ มี พื้นที่ในการจัดเก็บสินค้าน้อย และใช้เวลาในการค้นหาสินค้านาน ดังนั้นจะเห็นได้ว่า การนำเอาระบบเอบีซีมา ใช้ในการจัดเก็บสินค้าภายใน คลังสินค้าของกรณีศึกษาทำให้การบริหารจัดการคลัง สินค้ามีประสิทธิภาพมาก ขึ้น และถ้าหากนำผลการศึกษาที่ได้ไปประยุกต์ใช้กับคลังสินค้าของกรณีศึกษา จะทำให้มีประสิทธิภาพใน กระบวนการจัดวางสินค้ามากยิ่งขึ้น เพื่อนำไปสู่ต้นทุนรวมที่ต่ำและผลกำไรที่สูงขึ้น ชาณิดา พิทยานนท์และ ธิดารัตน์ เตวัง (2560) งานวิจัยนี้ได้ศึกษาเพื่อปรับปรุงระบบด้าน การจัดการ คลังสินค้าของ บริษัท พี.เค บอยเลอร์ จำกัดทำให้พบว่าประสิทธิภาพในการดำเนินงานของ คลังสินค้ามีค่าที่ต่ำ ดั่งเช่นในกระบวนการเบิกจ่ายสินค้าซึ่งเป็นผลทำให้กระบวนการเบิกจ่ายสินค้ามีความล่าช้าอยู่เสมอ ดังนั้น เป้าหมายของงานวิจัยนี้เพื่อปรับปรุงคลังสินค้าในกระบวนการเบิกจ่าย โดยการปรับปรุงครั้งนี้ได้ดำเนินการโดย ใช้เทคนิคการวิเคราะห์แผนภูมิการไหลเพื่อพิจารณาขั้นตอนที่ ซ้ำซ้อนและทำการตัดขั้นตอนนั้นออกไปอีกทั้งได้ ทำการปรับปรุงตำแหน่ง ที่จัดเก็บสินค้าในคลังสินค้า โดยการใช้เทคนิคการควบคุมด้วยการมองเห็นเพื่อใช้ สัญลักษณ์ สีมาจัด ระเบียบคลังสินค้าให้เป็น หมวดหมู่ ทำป้ายบ่งชี้พร้อมสัญลักษณ์ลูกศรบอกตำแหน่งในการ วางสินค้าแต่ละประเภท เพื่อง่ายต่อการค้นหาสินค้านั้น ๆ ผลของการปรับปรุงครั้งนี้ทำให้สามารถลดเวลาการ ทำงานได้จาก 700 นาทีเป็น 220 นาที คิดเป็นเวลา เฉลี่ยในการปฏิบัติงานที่ลดลงได้68.57% เป็นผลทำให้ กระบวน การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นและลดความผิดพลาดในกระบวนการลง

49 บทที่ 3 วิธีการดำเนินงาน วิธีการดำเนินงานของโครงงานพัฒนาระบบการจัดการสต๊อกสินค้าร้านฮายาช็อป สร้างขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในการทำงานและช่วยแก้ปัญหาในระบบงาน ซึ่งมีขั้นตอนและวิธีการดำเนินการ ดังนี้ 3.1 ศึกษาและรวบรวมข้อมูล 3.2 การวิเคราะห์ระบบ 3.3 การออกแบบฐานข้อมูล 3.4 การพัฒนาระบบ 3.5 การเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลผลการประเมินระบบ 3.1 ศึกษาและรวบรวมข้อมูล จากการศึกษาและรวบรวมข้อมูลระบบสต๊อกสินค้าของร้านฮายาช็อป ทำให้ทราบถึงปัญหาของระบบ สต๊อกสินค้าร้านฮายาช็อป ภาพที่ 3.1 แผนผังปัญหาของระบบงานสต๊อกสินค้าฮายาช๊อป จากภาพที่ 3.1 แสดงภาพปัญหาของระบบงานสต๊อกสินค้าฮายาช๊อป ได้พบปัญหาการดำเนินงาน กิจการที่ยังมีการจดบันทึกรายการสินค้าลงในสมุด คำนวณโดยใช้เครื่องคิดเลขเพื่อตัดยอดต้นทุนและกำไรของ ร้าน ทั้งนี้ร้านฮายาช็อปยังขาดระบบในการบริหารจัดการระบบงานภายในร้าน ส่งผลทำให้การบันทึกข้อมูล สินค้า ข้อมูลการขายเกิดความผิดพลาดเนื่องจากอาจมีความซํ้าซ้อนของข้อมูลและเกิดการล่าช้าในการค้นหา ทำให้ขาดประสิทธิภาพ และไม่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า 1) ด้านเทคโนโลยี ไม่ได้นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาใช้ในการทำงาน 2) ด้านบุคลากรการปฏิบัติงานในระบบสต๊อคสินค้าของร้านมีการปรับปรุงข้อมูลในระบบไม่ตรงตาม สถานะของสินค้าในปัจจุบันเนื่องจากมีจำนวนของข้อมูลสินค้าที่มาก ทำให้การจัดการบันทึก ข้อมูลโดยบุคคลมีความล่าช้าและไม่เสร็จเรียบร้อยตามวันเวลา

50 3) ด้านการนำเข้าข้อมูล การนำเข้าสินค้าด้วยบิลสั่งซื้อยังพบปัญหาของกระดาษที่สูญหายและชำรุด 4) ด้านกระบวนการทำงาน ใช้เวลาในการค้นหาสินค้าภายในสต๊อกที่ล่าช้าการดำเนินงานกิจการยังมี การจดบันทึกรายการสินค้าลงในสมุด คำนวณโดยใช้เครื่องคิดเลขเพื่อตัดยอดต้นทุนและกำไรของร้าน ทำให้ร้านฮายาช็อปยังขาดระบบในการบริหารจัดการระบบงานภายในร้าน 3.2 การวิเคราะห์ระบบ 3.2.1 ออกแบบขั้นตอนการทำงานของระบบ ภาพที่ 3.2 การทำงานของระบบ จากภาพที่ 3.2 สามารถอธิบายได้ว่าการทำงานของร้านฮายาช็อป จัดระบบการทำงานที่มีการจัด ตำแหน่งของบุคคลให้ตรงตามตำแหน่งหน้าที่ของแต่ละฝ่ายที่รับผิดชอบซึ่งระบบช่วยให้การทำงานของ พนักงานเกิดข้อผิดพลาดน้อยลงและระบบมีประสิทธิภาพทำให้สินค้าในสต๊อกไม่คาดเคลื่อนมากเกินไปมี เปอร์เซ็นความถูกต้องมากขึ้น

51 3.2.2 แผนภาพกระแสข้อมูล (Data Flow Diagram) ของระบบ 1) แผนภาพกระแสข้อมูล ระดับ 0 (Data Flow Diagram Level 0) เป็นการออกแบบแผนภาพการ ไหลของข้อมูลระดับบนสุดที่แสดงภาพรวมการทำงานของระบบดังภาพที่ 3.3 ภาพที่ 3.3 context diagram Lavel 0 จากภาพข้างต้น สามารถอธิบายได้จาก Context Diagram ของระบบการจัดการสต๊อกสินค้าร้านฮา ยาช็อป ซึ่งสัญลักษณ์ Process จะใช้แทนการทำงาน ทุกขั้นตอนของระบบนี้ โดย External Agents ที่ เกี่ยวข้องกับระบบ ได้แก่ ผู้ดูแลระบบและพนักงานขาย ซึ่งมีข้อมูลรับเข้าและส่งออกระหว่าง External Agents ดังกล่าวกับระบบ ทำให้ทราบโดยภาพรวมว่าระบบการบริหารงานร้านฮายาช็อป ข้องเกี่ยวกับใครบ้าง สามารถอธิบายได้ดังนี้ พนักงานขาย - พนักงานขายจะป้อนข้อมูลการเข้าสู่ระบบไปยังระบบสต๊อกสินค้า - พนักงานขายป้อนข้อมูลการจัดการข้อมูลการขายไปยังระบบสต๊อกสินค้า - ระบบสต๊อกสินค้าจะทำการส่งข้อมูลรายละเอียดการขายไปยังพนักงานขาย - ระบบสต๊อกสินค้าจะทำการส่งข้อมูลรายการเคลื่อนไหวสินค้าไปยังพนักงานขาย ผู้ดูแลระบบ - ผู้ดูแลระบบป้อนข้อมูลการเข้าสู่ระบบไปยังระบบสต๊อกสินค้า - ผู้ดูแลระบบป้อนข้อมูลพนักงานเข้าสู่ระบบสต๊อกสินค้า - ผู้ดูแลระบบป้อนข้อมูลสินค้าเข้าสู่ระบบสต๊อกสินค้า

52 - ผู้ดูแลระบบป้อนข้อมูลนำเข้าสินค้าเข้าสู่ระบบสต๊อกสินค้า - ผู้ดูแลระบบป้อนข้อมูลเคลื่อนไหวสินค้าเข้าสู่ระบบสต๊อกสินค้า - ระบบสต๊อกสินค้าจะทำการส่งข้อมูลพนักงานไปยังผู้ดูแลระบบ - ระบบสต๊อกสินค้าจะทำการส่งข้อมูลรายละเอียดสินค้าไปยังผู้ดูแลระบบ - ระบบสต๊อกสินค้าจะทำการส่งข้อมูลรายการนำเข้าสินค้าไปยังผู้ดูแลระบบ - ระบบสต๊อกสินค้าจะทำการส่งข้อมูลเคลื่อนไหวสินค้าไปยังผู้ดูแลระบบ 2) แผนภาพกระแสข้อมูล ระดับ 1 (Data Flow Diagram Level 1) ของระบบแสดงให้เห็นถึงขั้นตอน การทำงานหลักของระบบทั้งหมด แสดงทิศทางการไหลของข้อมูลและแสดงรายละเอียดแหล่งจัดเก็บข้อมูล ดังภาพที่ 3.4 ภาพที่ 3.4 Data Flow Diagram Level 1 อธิบาย Data Flow Diagram Level 1 จาก DFD level 1 สามารถแบ่งขั้นตอนการทำงานภายในระบบออกเป็น 3 ระบบ ดังนั้นจึงแยก Process ที่ เกี่ยวข้องกับระบบ ดังรายละเอียดต่อไปนี้ Process 1 ระบบการเข้าสู่ระบบ ผู้ดูแลระบบ และ พนักงานขาย จะป้อนข้อมูลการเข้าสู่ระบบไปยังระบบการเข้าสู่ระบบ ระบบจะเก็บข้อมูลไว้ ในฐานข้อมูลและสามารถดึงข้อมูลมาปรับปรุงแก้ไขได้ Process 2 จัดการข้อมูลพื้นฐาน ผู้ดูแลระบบส่งข้อมูลพนักงาน,ข้อมูลสินค้า,ข้อมูลตำแหน่ง,ข้อมูลประเภทสินค้าไปยังระบบจัดการข้อมูล พื้นฐานและระบบจัดการข้อมูลพื้นฐานส่งข้อมูลเข้าไปเก็บไว้ในฐานข้อมูลและสามารถดึงข้อมูลมาปรับปรุงแก้ไข

53 ได้จากนั้นระบบจัดการข้อมูลพื้นฐานจะส่งรายละเอียดข้อมูลพนักงาน,รายละเอียดข้อมูลสินค้า,รายละเอียด ข้อมูลตำแหน่ง,รายละเอียดข้อมูลประเภทสินค้าและข้อมูลเคลื่อนไหวสินค้าไปยังผู้ดูแลระบบ Process 3 จัดการข้อมูลการขาย พนักงานขายส่งรายละเอียดข้อมูลการขายไปยังระบบจัดการข้อมูลการขายและนำไปจัดเก็บไว้ในฐานข้อมูล จากนั้นระบบส่งรายละเอียดข้อมูลการขายไปยังพนักงานขายและผู้ดูเเลระบบ 3) Data flow diagram level 2 Data flow diagram level 2 Process 1 เข้าสู่ระบบ ภาพที่ 3.5 Data flow diagram Lavel 2 Process 1 เข้าสู่ระบบ อธิบาย Data Flow Diagram Level 2 Process 1 การเข้าสู่ระบบ ผู้ดูแลระบบ และพนักงานขาย เข้าสู่ระบบ โดยมีการดึงข้อมูลมาจัดการปรับปรุงแก้ไข ตรวจสอบและ บันทึกจากฐานข้อมูลพนักงานเเล้วเเสดงผลข้อมูลการเข้าสู่ระบบไปยังผู้เข้าสู่ระบบ

54 Data flow diagram level 2 Process 2 จัดการข้อมูลพื้นฐาน ภาพที่ 3.6 Data flow diagram Lavel 2 Process 2 จัดการข้อมูลพื้นฐาน อธิบาย Data Flow Diagram Level 2 Process 2 สามารถแบ่งขั้นตอนการทำงานภายในระบบออกเป็น 4 ระบบ ดังนั้นจึงแยก Process ที่ เกี่ยวข้องกับระบบดัง รายละเอียดต่อไปนี้ Process 2.1 ระบบจัดการข้อมูลพนักงาน ผู้ดูแลระบบนำข้อมูลสมาชิกเข้าสู่ระบบจัดการพนักงานโดยมีการดึงข้อมูลมาจัดการแก้ไขจาก ฐานข้อมูลตำแหน่ง พนักงานและนำข้อมูลไปจัดเก็บไว้ในฐานข้อมูล Process 2.2 จัดการข้อมูลตำแหน่ง ผู้ดูแลระบบนำเข้าข้อมูลตำแหน่งเข้าสู่ระบบจัดการข้อมูลตำแหน่งโดยมีการดึงข้อมูลมา จัดการแก้ไขจากฐานข้อมูลตำแหน่ง พนักงาน และนำข้อมูลไปจัดเก็บไว้ในฐานข้อมูล Process 2.3 จัดการข้อมูลสินค้า ผู้ดูแลระบบนำเข้าข้อมูลสินค้าโดยมีการดึงข้อมูลมาจัดการแก้ไขจากฐานข้อมูลสินค้า ประเภทสินค้า เคลื่อไหวสินค้า นำเข้าสินค้า และนำข้อมูลไปจัดเก็บไว้ในฐานข้อมูล Process 2.4 จัดการข้อมูลประเภทสินค้า ผู้ดูแลระบบนำเข้าข้อมูลประเภทสินค้าโดยมีการดึงข้อมูลมาจัดการแก้ไขจากฐานข้อมูล ประเภทสินค้า สินค้า และนำข้อมูลไปจัดเก็บไว้ในฐานข้อมูล

55 Data flow diagram level 2 Process 3 จัดการข้อมูลการขาย ภาพที่ 3.7 Data flow diagram Lavel 2 Process 3 จัดการข้อมูลการขาย พนักงานขาย นำเข้าข้อมูลการขาย เข้าไปกรอกข้อมูลการขาย โดยมีการดึงข้อมูลการขาย,ข้อมูลสินค้า คงคลัง,ข้อมูลสินค้า มาตรวจสอบ เพิ่ม ลบ แก้ไขและบันทึกจากฐานข้อมูลสินค้า,ข้อมูลการเคลื่อนไหวสินค้า เเล้วเเสดงผลรายละเอียดการขายไปยังพนักงานขาย

56 4) Data flow diagram level 3 Data flow diagram level 3 Process 2.1 จัดการข้อมูลสมาชิก ภาพที่ 3.8 Data flow diagram level 3 Process 2.1 จัดการข้อมูลสมาชิก ผู้ดูแลระบบ นำเข้าข้อมูลสมาชิก เข้าไปกรอกข้อมูลพนักงาน โดยมีการดึงข้อมูลพนักงาน,ข้อมูล ตำแหน่ง มาตรวจสอบ เพิ่ม ลบ แก้ไขและบันทึกจากฐานข้อมูลพนักงาน,ข้อมูลสินตำแหน่งเเล้วเเสดงผล รายละเอียดข้อมูลพนักงานไปยังผู้ดูแลระบบ

57 Data flow diagram level 3 Process 2.2 จัดการข้อมูลตำแหน่ง ภาพที่ 3.9 Data flow diagram level 3 Process 2.2 จัดการข้อมูลตำแหน่ง ผู้ดูแลระบบ นำเข้าข้อมูลตำแหน่ง เข้าไปกรอกข้อมูลตำแหน่ง โดยมีการดึงข้อมูลตำแหน่ง,ข้อมูล พนักงาน มาตรวจสอบ เพิ่ม ลบ แก้ไขและบันทึกจากฐานข้อมูลตำแหน่ง,ข้อมูลพนักงานเเล้วเเสดงผล รายละเอียดข้อมูลตำแหน่งไปยังผู้ดูแลระบบ

58 Data flow diagram level 3 Process 2.3 จัดการข้อมูลสินค้า ภาพที่ 3.10 Data flow diagram level 3 Process 2.3 จัดการข้อมูลสินค้า ผู้ดูแลระบบ นำเข้าข้อมูลสินค้า เข้าไปกรอกข้อมูลสินค้า โดยมีการดึงข้อมูลสินค้า,ข้อมูลประเภทสินค้า, ข้อมูลการเคลื่อนไหวสินค้า มาตรวจสอบ เพิ่ม ลบ แก้ไขเเละบันทึกจากฐานข้อมูลสินค้า,ข้อมูลประเภทสินค้า, ข้อมูลการเคลื่อนไหวสินค้าเเล้วเเสดงผลรายละเอียดข้อมูลสินค้าไปยังผู้ดูแลระบบ

59 Data flow diagram level 3 Process 2.4 จัดการข้อมูลประเภทสินค้า ภาพที่ 3.11 Data flow diagram level 3 Process 2.4 จัดการข้อมูลประเภทสินค้า ผู้ดูแลระบบ นำเข้าข้อมูลประเภทสินค้า เข้าไปกรอกข้อมูลประเภทสินค้า โดยมีการดึงข้อมูลสินค้า, ข้อมูลประเภทสินค้า,ข้อมูลการเคลื่อนไหวสินค้า มาตรวจสอบ เพิ่ม ลบ แก้ไขและบันทึกจากฐานข้อมูลสินค้า, ข้อมูลประเภทสินค้า,ข้อมูลการเคลื่อนไหวสินค้าเเล้วเเสดงผลข้อมูลประเภทสินค้าไปยังผู้ดูแลระบบ

60 3.3 การออกแบบฐานข้อมูล 3.3.1 ตารางข้อมูล Data Table เป็นตารางแสดงถึงความสัมพันธ์กันระหว่างตารางกับตาราง เพื่อให้ ทราบถึงการออกแบบฐานข้อมูลที่ได้นำมาพัฒนาระบบในครั้งนี้ ตารางพนักงาน Tb_staff No Attribute Type Size Description Key Reference 1 staff_id int 6 รหัสพนักงาน PK 2 staff_name varcher 50 ชื่อพนักงาน 3 position_id int 3 รหัสตำแหน่ง FK position 4 staff_tel int 10 เบอร์โทร 5 staff_address varchar 100 ที่อยู่ 6 user_id int 10 ชื่อผู้ใช้ 7 password int 10 รหัสผ่าน 8 staff_status varchar 20 สถานะ 9 staff_update date วันที่อัปเดต 10 staff_record date วันที่บันทึก 11 staff_image varchar 255 รูปภาพพนักงาน ตารางที่ 3.1 ตารางพนักงาน

61 ตารางตำเเหน่ง Tb_position No Attribute Type Size Description Key Reference 1 position_id int 3 รหัสตำแหน่ง PK 2 position_name Varchar 30 ชื่อตำแหน่ง 3 position_status varchar 20 สถานะ 4 position_update date วันที่อัปเดต 5 position_record date วันที่บันทึก ตารางที่ 3.2 ตารางตำแหน่ง ตารางสินค้า Tb_product No Attribute Type Size Description Key Reference 1 product_id int 10 รหัสสินค้า PK 2 product_name varchar 100 ชื่อสินค้า 3 product_type_name vachar 30 ชื่อประเภทสินค้า FK product_type 4 product_size int 2 ขนาดสินค้า 5 product_color vachar 20 สีสินค้า 6 product_price decimal (18,2) ราคาขาย 7 quantity int 10 จำนวนสินค้า 8 product_cost decimal (18,2) ราคาทุน 9 product_image varchar 255 รูปภาพสินค้า 10 product_status varchar 20 สถานะ 11 product_update date วันที่อัปเดต 12 product_record date วันที่บันทึก ตารางที่ 3.3 ตารางสินค้า

62 ตารางประเภทสินค้า product_type No Attribute Type Size Description Key Reference 1 product_type_id int 4 รหัสประเภทสินค้า PK 2 product_type_name varchar 30 ชื่อประเภทสินค้า 3 product_type_status varchar 20 สถานะ 4 product_type_update date วันที่อัปเดต 5 product_type_record date วันที่บันทึก ตารางที่ 3.4 ตารางประเภทสินค้า ตารางรายละเอียดการขาย sale_detail No Attribute Type Size Description Key Reference 1 sale_id int 10 รหัสใบเสร็จ PK 2 product_id int 10 รหัสสินค้า fK product 3 product_price decimal (18,2) ราคาสินค้า 4 quantity int 10 จำนวนสินค้า 5 total decimal (18,2) ราคารวม ตารางที่ 3.5 ตารางรายละเอียดการขาย

63 ตารางการขาย (ใบเสร็จ) Tb_sale No Attribute Type Size Description Key Reference 1 sale_id int 10 รหัสใบเสร็จ PK 2 product_id int 10 รหัสสินค้า FK product 3 product_name varchar 100 ชื่อสินค้า 4 sale_date date วันที่ 5 sale_type varchar 20 ประเภทการชำระ 6 product_price decimal (18,2) ราคา 7 quantity int 10 จำนวน 8 product_value decimal (18,2) มูลค่า 9 total decimal (18,2) จำนวนเงินสุทธิ 10 sale_status varchar 20 สถานะ 11 staff_name varchar 100 ชื่อพนักงาน ตารางที่ 3.6 ตารางการขาย (ใบเสร็จ) ตารางเคลื่อนไหวสินค้า (Tb_product_transaction) No Attribute Type Size Description Key Reference 1 product_transaction_id Int 10 รหัสเคลื่อนไหวสินค้า PK 2 product_id Int 10 รหัสสินค้า FK product 3 product_color varchar 20 สีสินค้า 4 product_size Int 2 ขนาดสินค้า 5 product_trasaction_date Date วันที่ 6 beginning balance Int 10 ยอดยกมา 7 quantity_import Int 10 จำนวนสินค้าเข้า

64 ตารางเคลื่อนไหวสินค้า (Tb_product_transaction) (ต่อ) No Attribute Type Size Description Key Reference 8 quantity_export Int 10 จำนวนสินค้าออก 9 quantity_defetive Int 10 จำนวนสินค้าชำรุด 10 quantity_balance Int 10 จำนวนคงเหลือ ตารางที่ 3.7 ตารางเคลื่อนไหวสินค้า ตารางนำเข้าสินค้า ( Tb_product_receive ) No Attribute Type Size Description Key Reference 1 product_receive_id int 10 รหัสนำเข้าสินค้า PK 2 product_id int 10 รหัสสินค้า Fk product 3 product_name varchar 100 ชื่อสินค้า 4 quantity int 10 จำนวนรับเข้า 5 product_cost decimal 18,2 ราคาทุน 6 total decimal 18,2 ราคาสุทธิ 7 product_receive_date date วันที่รับเข้า ตารางที่ 3.8 ตารางนำเข้าสินค้า ตารางนำเข้าสินค้า ( Tb_receive_detail ) No Attribute Type Size Description Key Reference 1 product_receive_id int 10 รหัสนำเข้าสินค้า PK 2 product_id int 10 รหัสสินค้า Fk product 3 quantity int 10 จำนวนรับเข้า 4 product_cost decimal 18,2 ราคาทุน ตารางที่ 3.9 ตารางรายละเอียดนำเข้าสินค้า

65 3.3.2 แผนภาพ E-R Diagram Entity Relationship Diagram เป็นแบบจำลองที่ใช้อธิบายโครงสร้างของฐานข้อมูลซึ่งเขียนออกมา ในลักษณะของรูปภาพการอธิบายโครงสร้างและความสัมพันธ์ของข้อมูล ความสัมพันธ์ของเอนทิตี ที่ช่วยในการ ออกแบบฐานข้อมูลที่เกิดขึ้นในระบบ ดังภาพที่ 3.12 ภาพที่ 3.12 E-R Diagram

66 จากภาพที่ 3.12 จะอธิบายความสัมพันธ์ของข้อมูล ดังต่อไปนี้ 1) นำเข้าสินค้า ประกอบไปด้วย รหัสนำเข้าสินค้า, รหัสสินค้า, จำนวนรับเข้า, ราคาทุน,ราคาสุทธิ,วันที่รับเข้า 2) รายละเอียดนำเข้า ประกอบด้วย รหัสนำเข้าสินค้า,รหัสสินค้า,จำนวนรับเข้า,ราคาทุน 3) พนักงาน ประกอบด้วย รหัสพนักงาน, ชื่อพนักงาน, รหัสตำแหน่ง, เบอร์โทร, ที่อยู่, ชื่อผู้ใช้, รหัสผ่าน, สถานะ, วันที่อัปเดต, วันที่บันทึก, รูปภาพพนักงาน 4) ตำแหน่ง ประกอบด้วย รหัสตำแหน่ง, ชื่อตำแหน่ง, สถานะ, วันที่อัปเดต,วันที่บันทึก 5) เคลื่อนไหวสินค้า ประกอบด้วย รหัสเคลื่อนไหวสินค้า, รหัสสินค้า,สีสินค้า, ขนาดสินค้า, วันที่, ยอดยก มา, จำนวนสินค้าเข้า,จำนวนสินค้าออก,จำนวนสินค้าชำรุด,จำนวนสินค้าคงเหลือ 6) สินค้า ประกอบด้วย รหัสสินค้า, ชื่อสินค้า, ชื่อประเภทสินค้า, ขนาดสินค้า, สีสินค้า, ราคาขาย, จำนวน สินค้า, ราคาทุน, รูปภาพสินค้า,สถานะ ,วันที่อัปเดต,วันที่บันทึก 7) ประเภทสินค้า ประกอบด้วย รหัสประเภทสินค้า,ชื่อประเภทสินค้า,สถานะ,วันที่อัปเดต,วันที่บันทึก 8) การขาย ประกอบด้วย รหัสใบเสร็จ, รหัสสินค้า, ชื่อสินค้า, วันที่,ประเภทการชำระ, ราคา, จำนวน, มูลค่า, จำนวนเงินสุทธิ, สถานะ, ชื่อพนักงาน 9) รายละเอียดการขาย ประกอบด้วย รหัสใบเสร็จ, รหัสสินค้า, ราคาสินค้า,จำนวนสินค้า, ราคารวม

67 3.4 การพัฒนาระบบ จากการศึกษารวบรวมข้อมูล วิเคราะห์และออกแบบระบบ โดยมีกรอบแนวคิดในการพัฒนาระบบ จาก การศึกษาปัญหาตามบริบทสภาพแวดล้อมในการทำงานจริง ทั้งนี้ผู้จัดทำได้ดำเนินการพัฒนาระบบ โดยการ แบ่ง การออกแบบเป็นประเด็น ดังต่อไปนี้ 3.4.1 การสร้างตาราง การออกแบบความสัมพันธ์ของข้อมูลE-RDiagram ผู้จัดทำโครงงานได้วิเคราะห์ ความสัมพันธ์ของ ข้อมูลและดำเนินการจัดทำตารางข้อมูล ดังภาพที่ 3.13 ภาพที่ 3.13 สร้างฐานข้อมูของร้านฮายาช็อป (stock ) ประกอบด้วย ฐานข้อมูลตาราง position, product, product_receive, receive_detail, product_transaction, product_type, sale, sale_detail, staff

68 ภาพที่ 3.14 สร้างฐานข้อมูลตารางตำแหน่ง (position) โดยทำการกำหนดและใส่ข้อมูลในส่วน ชื่อเขตข้อมูล ชนิดข้อมูล และขนาดเขตข้อมูล ได้แก่ 1) position_id รหัสตำแหน่ง, ตัวเลข, จำนวน 3 ตัวอักษร โดยกำหนดเป็นคีย์หลักในฐานข้อมูลตำแหน่ง 2) position_name ชื่อตำแหน่ง, ข้อความยาว, จำนวน 30 ตัวอักษร 3) position_status สถานะตำแหน่ง, ข้อความยาว, จำนวน 20 ตัวอักษร 4) position_update วันที่บันทึก, วันที่ 5) position_record วันที่แก้ไข, วันที่

69 ภาพที่ 3.15 สร้างฐานข้อมูลตารางสินค้า (product) โดยทำการกำหนดและใส่ข้อมูลในส่วน ชื่อเขตข้อมูล ชนิดข้อมูล และขนาดเขตข้อมูล ได้แก่ 1) product_id รหัสสินค้า, ตัวเลข, จำนวน 10 ตัวเลข โดยกำหนดเป็นคีย์หลักในฐานข้อมูลสินค้า 2) product_name ชื่อสินค้า, ข้อความยาว, จำนวน 100 ตัวอักษร 3) product_type_name ชื่อประเภทสินค้า, ข้อความยาว, จำนวน 30 ตัวอักษร 4) product_size ขนาดสินค้า, ตัวเลข, จำนวน 2 อักษร 5) product_color สีสินค้า, ข้อความยาว, จำนวน 20 อักษร 6) product_price ราคาสินค้า, ทศนิยม,จำนวน 18,2 ตัวอักษร 7) quantity จำนวนสินค้า, ตัวเลข, จำนวน 10 ตัวอักษร 8) product_cost ราคาทุน, ทศนิยม, จำนวน 18,2 ตัวอักษร 9) product_image รูปภาพสินค้า,ข้อความยาว,จำนวน 255 ตัวอักษร 10) produt_status สถานะสินค้า,ข้อความยาว,จำนวน20จำนวนตัวอักษร 11) product_update วันที่บันทึก, วันที่ 12) product_record วันที่แก้ไข, วันที่

70 ภาพที่ 3.16 สร้างฐานข้อมูลตารางนำเข้าสินค้า (product_receive) โดยทำการกำหนดและใส่ข้อมูลในส่วน ชื่อเขตข้อมูล ชนิดข้อมูล และขนาดเขตข้อมูล ได้แก่ 1) product_receive_id รหัสนำเข้าสินค้า, ตัวเลข, จำนวน 10 ตัวเลขเป็นคีย์หลักในฐานข้อมูลนำเข้าสินค้า 2) product_id รหัสสินค้า, ตัวเลข, จำนวน 10 ตัวเลข 3) product_name ชื่อสินค้า, ข้อความยาว, จำนวน 100 ตัวอักษร 4) quantity จำนวนสินค้า, ตัวเลข, จำนวน 10 ตัวอักษร 5) product_cost ราคาทุน, ทศนิยม, จำนวน 18,2 ตัวอักษร 6) total ราคาสุทธิ, ทศนิยม, จำนวน 18,2 ตัวอักษร 7) product_receive_date วันที่รับเข้า, วันที่

71 ภาพที่ 3.17 สร้างฐานข้อมูลตารางรายละเอียดนำเข้าสินค้า (receive_detail) โดยทำการกำหนดและใส่ข้อมูลในส่วน ชื่อเขตข้อมูล ชนิดข้อมูล และขนาดเขตข้อมูล ได้แก่ 1) product_receive_id รหัสนำเข้าสินค้า, ตัวเลข, จำนวน 10 ตัวเลขเป็นคีย์หลักในฐานข้อมูลนำเข้าสินค้า 2) product_id รหัสสินค้า, ตัวเลข, จำนวน 10 ตัวอักษร 3) quantity จำนวนสินค้า, ตัวเลข, จำนวน 10 ตัวอักษร 4) product_cost ราคาทุน, ทศนิยม, จำนวน 18,2 ตัวอักษร

72 ภาพที่ 3.18 สร้างฐานข้อมูลตารางเคลื่อนไหวสินค้า (product_transaction) โดยทำการกำหนดและใส่ข้อมูลในส่วน ชื่อเขตข้อมูล ชนิดข้อมูล และขนาดเขตข้อมูล ได้แก่ 1) product_transaction_id รหัสเคลื่อนไหวสินค้า,ตัวเลข,จำนวน10ตัวเลขเป็นคีย์หลักในฐานข้อมูล เคลื่อนไหวสินค้า 2) product_id รหัสสินค้า, ตัวเลข, จำนวน 10 ตัวอักษร 3) product_color สีสินค้า, ข้อความยาว, จำนวน 20 ตัวอักษร 4) product_size ขนาดสินค้า, ตัวเลข, จำนวน 2 ตัวอักษร 5) product_transaction_date วันที่เคลื่อนไหวสินค้า, วันที่ 6) beginning_balance ยอดยกมา, ตัวเลข, จำนวน 10 ตัวอักษร 7) quantity_import จำนวนสินค้าเข้า, ตัวเลข, จำนวน10 ตัวอักษร 8) quantity_export จำนวนสินค้าออก, ตัวเลข, จำนวน10 ตัวอักษร 9) quantity_import จำนวนสินค้าชำรุด, ตัวเลข, จำนวน10 ตัวอักษร 10) quantity_balance จำนวนสินค้าคงเหลือ, ตัวเลข, จำนวน10 ตัวอักษร

73 ภาพที่ 3.19 สร้างข้อมูลตารางประเภทสินค้า (product_type) โดยทำการกำหนดและใส่ข้อมูลในส่วน ชื่อเขตข้อมูล ชนิดข้อมูล และขนาดเขตข้อมูล ได้แก่ 1) product_type_id รหัสประเภทสินค้า, ตัวเลข,จำนวน 4 ตัวอักษร เป็นคีย์หลักในฐานข้อมูล ประเภทสินค้า 2) product_type_name ชื่อประเภทสินค้า, ข้อความยาว, จำนวน 30 ตัวอักษร 3) product_type_statas สถานะประเภทสินค้า, ข้อความยาว, จำนวน 20 ตัวอักษร 4) product_type_update วันที่บันทึก, วันที่ 5) product_type_record วันที่แก้ไข, วันที่

74 ภาพที่ 3.20 สร้างฐานข้อมูลตารางการขาย (sale) โดยทำการกำหนดและใส่ข้อมูลในส่วน ชื่อเขตข้อมูล ชนิดข้อมูล และขนาดเขตข้อมูล ได้แก่ 1) sale_id รหัสใบเสร็จ, ตัวเลข,จำนวน 10 ตัวอักษร เป็นคีย์หลักในฐานข้อมูลการขาย 2) product_id รหัสสินค้า, ตัวเลข, จำนวน 10 ตัวอักษร 3) product_name ชื่อสินค้า, ข้อความยาว, จำนวน 100 ตัวอักษร 4) sale_date วันที่ออกใบเสร็จ, วันที่ 5) sale_type ประเภทการชำระ, ข้อความยาว, จำนวน 20 ตัวอักษร 6) product_price ราคาสินค้า, ทศนิยม, จำนวน 18,2 ตัวอักษร 7) quantity จำนวนสินค้า, ตัวเลข, จำนวน 10 ตัวอักษร 8) product_value มูลค่า, ทศนิยม, จำนวน 18,2 ตัวอักษร 9) total จำนวนเงินสุทธิ์, ทศนิยม, จำนวน 18,2 ตัวอัการ 10) sale_status สถานะการขาย, ข้อความยาว, จำนวน 20 ตัวอักษร 11) staff_name ชื่อพนักงงาน, ข้อความยาว, จำนวน 100 ตัวอักษร

75 ภาพที่ 3.21 สร้างฐานข้อมูลตารางรายละเอียดการขาย (sale_detail) โดยทำการกำหนดและใส่ข้อมูลในส่วน ชื่อเขตข้อมูล ชนิดข้อมูล และขนาดเขตข้อมูล ได้แก่ 1) sale_id รหัสใบเสร็จ,ตัวเลข,จำนวน10ตัวเลข เป็นคีย์หลักในฐานข้อมูลการขาย 2) sale_date วันที่ออกใบเสร็จ,วันที่ 3) product_id รหัสสินค้า, ตัวเลข, จำนวน 10 ตัวอักษร 4) product_price ราคาสินค้า, ทศนิยม, จำนวน 18,2 ตัวอักษร 5) quantity จำนวนสินค้า, ตัวเลข, จำนวน10 ตัวอักษร 6) total จำนวนเงินสุทธิ์, ทศนิยม, จำนวน 18,2 ตัวอักษร

76 ภาพที่ 3.22 สร้างฐานข้อมูลตารางพนักงาน (staff) โดยทำการกำหนดและใส่ข้อมูลในส่วน ชื่อเขตข้อมูล ชนิดข้อมูล และขนาดเขตข้อมูล ได้แก่ 1) staff_id รหัสพนักงาน, ตัวเลข, จำนวน 6 ตัวอักษร เป็นคีย์หลักในฐานข้อมูลพนักงาน 2) staff_name ชื่อพนักงาน, ข้อความยาว, จำนวน 50 ตัวอักษร 3) position_id รหัสตำแหน่ง, ตัวเลข 3 ตัวอักษร 4) staff_tel เบอร์พนักงาน, ตัวเลข, จำนวน 10 ตัวอักษร 5) staff_address ที่อยู่ , ข้อความยาว, จำนวน 100 ตัวอักษร 6) user_id ชื่อผู้ใช้, ตัวเลข, จำนวน 10 ตัวอักษร 7) password รหัสผ่าน, ตัวเลข, จำนวน 10 ตัวอักษร 8) staff_status สถานะพนักงาน, ข้อความยาว, จำนวน 20 ตัวอักษร 9) staff_update วันที่บันทึก, วันที่ 10) staff_record วันที่แก้ไข, วันที่ 11) staff_image รูปภาพพนักงาน, ข้อความยาว, จำนวน 255 ตัวอักษร

77 3.4.2 การออกแบบหน้าโปรแกรม 1. ออกแบบหน้าโปรแกรมของผู้ดูเเลระบบ ภาพที่ 3.23 หน้าโปรแกรมของผู้ดูเเลระบบ ส่วนที่ 1 ภาพที่ 3. 24 หน้าโปรแกรมของผู้ดูเเลระบบ ส่วนที่ 2

78 ภาพที่ 3.25 หน้าโปรแกรมของผู้ดูเเลระบบ ส่วนที่ 3 ภาพที่ 3. 26 หน้าโปรแกรมของผู้ดูเเลระบบ ส่วนที่ 4

79 2) ออกแบบหน้าโปรแกรมของพนักงาน ภาพที่ 3. 27 หน้าโปรแกรมของพนักงาน 3.5 การเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลผลการประเมินระบบ 3.5.1 ผลการประเมินความพึงพอใจการใช้บริการระบบสต๊อกสินค้าร้านฮายาช็อป ภาพที่ 3.28 ผลการประเมินความพึงใจการใช้บริการระบบ

80 3.5.2 ผลการประเมินประสิทธิภาพระบบสต๊อกร้านฮายาช็อป ภาพที่ 3.29 ผลการประเมินประสิทธิภาพการใช้ระบบ

81 บทที่ 4 ผลการดำเนินงานโครงงาน การพัฒนาระบบการจัดการสต๊อกสินค้าร้านฮายา เป็นระบบบริหารจัดการ คลังสินค้าจะช่วยอำนวย ความสะดวกในการบริหารจัดการ โดยแบ่งผู้ใช้ออกเป็น 3 ส่วน คือ ผู้ดูแลระบบและพนักงาน ในส่วนของผู้ดูแล ระบบจะทำหน้าที่ในการเข้าสู่ระบบและออกจากระบบ สามารถค้นหา เพิ่ม ลบ แก้ไข รายละเอียดของสินค้าได้ ในส่วนของพนักงานจะทำหน้าที่ในการเข้าสู่ระบบและออกจากระบบ ดูข้อมูล ราคาขายการของสินค้าได้ แก้ไข รายการขายได้ และสรุปยอดขายตามรหัสพนักงานได้ในส่วนของเจ้าของกิจการจะทำหน้าที่ในการเข้าสู่ระบบ และออกจากระบบ ดูข้อมูลราคาขายการของสินค้าได้ ดูรายการขายได้ ดูสรุปยอดขายตามรหัสพนักงานได้ เเละดูรายงานสินค้าคงคลังรายงานการขายเเละประวัติการเข้า-ออกสินค้าได้ 4.1 ผลการพัฒนาระบบการจัดการสต๊อกสินค้าร้านฮายาช็อป 4.2 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล ผลการพัฒนาระบบการจัดการสต๊อกสินค้าร้านฮายาช็อป จากการพัฒนา ระบบการจัดการสต๊อกสินค้าร้านฮายาช็อปดังต่อไปนี้ 4.1. ผลการพัฒนาระบบ ผู้จัดทำโครงงานได้ทำการพัฒนาระบบการจัดการสต๊อกคลังสินค้าร้าน ฮายาช็อป มีผลพัฒนาส่วนการ ทำงานของระบบและมีการทดสอบระบบ ได้แก่ หน้าข้อมูลสินค้า หน้าข้อมูลพนักงาน หน้าข้อมูลประเภทสินค้า หน้าข้อมูลตำแหน่ง หน้าข้อมูลนำเข้าสินค้า หน้าข้อมูลการเคลื่อนไหวสินค้า และหน้าข้อมูลรายงาน 4.1.1 หน้าล็อคอิน หน้าแรกของการเข้าสู่ระบบสต๊อกสินค้าร้านฮายาช็อป ผู้ดูแลระบบเเละพนักงาน กรอกชื่อผู้ใช้ และ รหัสผ่านเพื่อทำการเข้าสู่ระบบ ดังภาพที่ 4.1 ภาพที่ 4.1 หน้าล็อคอิน

82 หน้าแรกของการเข้าสู่ระบบสต๊อกสินค้าร้านฮายาช็อป ผู้ดูแลระบบกรอกชื่อผู้ใช้ และรหัสผ่านเพื่อทำ การเข้าสู่ระบบ 4.1.2 หน้าหลัก ภาพที่ 4.2 หน้าหลัก หน้าหลัก คือหน้าแรกของระบบสต๊อกสินค้าร้านฮายาช็อป ที่แสดงเมนูรายการทั้งหมดของผู้ดูเเลระบบ 4.1.3 หน้าฟอร์มเพิ่มสินค้า ภาพที่ 4.3 ฟอร์มเพิ่มสินค้า หน้าฟอร์มเพิ่มสินค้า เมื่อต้องการจัดการเพิ่มข้อมูลสินค้าให้กรอกข้อมูลสินค้า เมื่อกรอกข้อมูล เรียบร้อยแล้วกดปุ่มบันทึก

83 4.1.4 หน้ารายการข้อมูลสินค้า ภาพที่ 4.4 รายการข้อมูลสินค้า หน้ารายการข้อมูลสินค้า ผู้ดูแลระบบสามารถดูรายการข้อมูลสินค้า และสามารถเพิ่ม ลบ แก้ไข ข้อมูลสินค้าได้ 4.1.5 หน้ารายละเอียดสินค้า ภาพที่ 4.5 รายการข้อมูลสินค้า หน้ารายละเอียด ผู้ดูแลระบบสามารถดูรายละเอียดข้อมูลสินค้า

84 4.1.6 หน้าฟอร์มเพิ่มข้อมูลพนักงาน ภาพที่ 4.6 ฟอร์มเพิ่มข้อมูลพนักงาน หน้าฟอร์มเพิ่มข้อมูลพนักงาน เมื่อต้องการจัดการเพิ่มข้อมูลพนักงานให้กรอกข้อมูลพนักงาน เมื่อกรอกข้อมูล เรียบร้อยแล้วกดปุ่มบันทึก 4.1.7 หน้าข้อมูลพนักงาน ภาพที่ 4.7 ข้อมูลพนักงาน หน้าข้อมูลพนักงาน ผู้ดูแลระบบสามารถดูรายการข้อมูลพนักงาน และสามารถเพิ่ม ลบ แก้ไข ข้อมูลพนักงานได้

85 4.1.8 หน้ารายละเอียดข้อมูลพนักงาน ภาพที่ 4.8 รายละเอียดข้อมูลพนักงาน หน้ารายละเอียดข้อมูล ผู้ดูแลระบบสามารถดูรายละเอียดข้อมูลพนักงาน 4.1.9 หน้าฟอร์มเพิ่มประเภทสินค้า ภาพที่ 4.9 ฟอร์มเพิ่มประเภทสินค้า หน้าฟอร์มเพิ่มประเภทสินค้า เมื่อต้องการจัดการเพิ่มประเภทสินค้าให้กรอกข้อมูลประเภทสินค้า เมื่อ กรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้วกดปุ่มบันทึก

86 4.1.10 หน้ารายการประเภทสินค้า ภาพที่ 4.10 รายการประเภทสินค้า หน้ารายการประเภทสินค้า ผู้ดูแลระบบสามารถดูรายการประเภทสินค้า และสามารถเพิ่ม ลบ แก้ไข ข้อมูล รายการประเภทสินค้า 4.1.11 หน้าฟอร์มตำแหน่ง ภาพที่ 4.11 ฟอร์มเพิ่มตำแหน่ง

87 หน้าฟอร์มเพิ่มตำแหน่งพนักงาน เมื่อต้องการจัดการเพิ่มตำแหน่งพนักงานให้กรอกข้อมูลตำแหน่ง เมื่อ กรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้วกดปุ่มบันทึก 4.1.12 หน้าข้อมูลตำแหน่ง ภาพที่ 4.12 ข้อมูลตำแหน่ง หน้าข้อมูลตำแหน่ง ผู้ดูแลระบบสามารถดูข้อมูลตำแหน่ง และสามารถเพิ่ม ลบ แก้ไข ข้อมูลตำแหน่ง 4.1.13 หน้าฟอร์มนำเข้าสินค้า ภาพที่ 4.13 ฟอร์มนำเข้าสินค้า หน้าฟอร์มเพิ่มตำแหน่งพนักงาน เมื่อต้องการจัดการเพิ่มตำแหน่งพนักงานให้กรอกข้อมูลตำแหน่ง เมื่อ กรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้วกดปุ่มบันทึก

88 4.1.14 หน้ารายการนำเข้าสินค้า ภาพที่ 4.14 รายการนำเข้าสินค้า หน้าข้อมูลรายการนำเข้าสินค้า ผู้ดูแลระบบสามารถดูรายการนำเข้าสินค้า และสามารถเพิ่ม ลบ แก้ไข รายการนำเข้าสินค้า 4.1.15 หน้าข้อมูลการเคลื่อนไหวสินค้า ภาพที่ 4.15 ข้อมูลการเคลื่อนไหวสินค้า หน้าข้อมูลการเคลื่อนไหวสินค้า ผู้ดูแลระบบสามารถดูข้อมูลการเคลื่อนไหวสินค้าและสามารถเพิ่ม ลบ แก้ไข ข้อมูลการเคลื่อนไหวสินค้า

89 4.1.16 รายการข้อมูลการขาย ภาพที่ 4.16 รายการข้อมูลการขาย หน้ารายการข้อมูลการขาย ผู้ดูแลระบบสามารถดูข้อมูลการขายเเละรายละเอียดการขาย 4.1.17 รายละเอียดข้อมูลการขาย ภาพที่ 4.17 รายการข้อมูลการขาย หน้ารายละเอียดข้อมูลการขาย ผู้ดูแลระบบสามารถดูรายละเอียดการขายได้ 00