E – Book ชุดกจิ กรรมวิทยาศาสตร์
สาหรับการศึกษาวชิ าวทิ ยาศาสตร์ดว้ ยตนเอง
วทิ ยาศาสตร์เพิม่ เติม 2
ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 2
ชุดที่ 1 แรงและการเคลื่อนท่ี
Scan Me
ท่มี า : https://www.google.com/url?sa=i&url=http%3A%2F%2Fwww.krusarawut.net
ขอ้ ปฏบิ ัติในการใช้ชุดกจิ กรรมวิทยาศาสตร์ ข้อปฏบิ ัติในการใช้ชดุ กจิ กรรมวิทยาศาสตร์
โดยใช้กระบวนการสบื เสาะความรู้สาหรบั ครู โดยใชก้ ระบวนการสบื เสาะความรู้สาหรับนกั เรียน
1. ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 2 วิทยาศาสตร์เพมิ่ เติม 2 1. ชดุ กจิ กรรมวทิ ยาศาสตรน์ ี้ คือ ชดุ ท่ี 1 แรงและการเคลือ่ นท่ี
ประกอบดว้ ยชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ ทงั้ หมด 2 ชุด ดงั น้ี จดั ทาขึน้ เพ่ือใหน้ กั เรยี นไดเ้ รยี นรูโ้ ดยกระบวนการสบื เสาะด้วยตนเองให้ไดม้ ากทส่ี ดุ
มคี วามรอบรู้เกดิ ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และเกิดเจตคติทีด่ ตี ่อวิชา
ชุดกิจกรรมวทิ ยาศาสตร์ชดุ ท่ี 1 แรงและการเคลอ่ื นที่ วทิ ยาศาสตร์
ชดุ กจิ กรรมวทิ ยาศาสตร์ชดุ ท่ี 2 เครอื่ งกล 2. นกั เรียนจะตอ้ งเรยี นร้ดู ้วยตนเองใหไ้ ดม้ ากทส่ี ดุ ตามลาดบั ขน้ั ตอนของกิจกรรม
2. ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตรน์ ี้ คือ ชุดท่ี 1 แรงและการเคลอ่ื นที่ ต่างๆ โดยมคี าแนะนา ดังนี้
ใชเ้ ป็นสื่อการเรยี นรู้ ประกอบการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นเรยี นรูท้ ่ี 1 ปรมิ าณส
เกลาร์ ปริมาณเวกเตอร์ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 2 การหาเวกเตอรล์ พั ธ์ แผนการ 2.1 อา่ นและทาความเขา้ ใจการใช้ชดุ กจิ กรรมวิทยาศาสตร์ใหเ้ ขา้ ใจ
จัดการเรยี นรทู้ ่ี 3 ผลของแรงท่กี ระทาตอ่ วตั ถุ และแผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 4 การ 2.2 รว่ มกนั ศึกษา วางแผน ปฏิบตั ิกจิ กรรมตา่ ง ๆ ดว้ ยความรอบคอบ
เคล่อื นท่ีแบบตา่ งๆ 2.3 ใช้เวลาทากจิ กรรมอย่างคมุ้ ค่า
3. ครูควรศึกษาคาแนะนาในการชดุ กิจกรรมการเรยี นรใู้ หเ้ ขา้ ใจก่อนจัดกิจกรรม
4. ครตู ้องชี้แจงขนั้ ตอนการเรยี นโดยใชช้ ดุ กจิ กรรมวิทยาศาสตร์ใหน้ ักเรียน
เขา้ ใจทกุ คนกอ่ นดาเนนิ กิจกรรมตา่ ง ๆ
5. หากนกั เรยี นมีขอ้ สงสยั ในการเรยี นรู้โดยใชช้ ดุ กิจกรรมวทิ ยาศาสตร์ ครคู วร
แนะนาเพ่มิ เติม อาจให้นักเรยี นได้ปฏบิ ตั ิกิจกรรมทงั้ ในและนอกเวลาเรยี นจะทาให้
ผ้เู รียนมีความรคู้ วามเข้าใจมากย่ิงขน้ึ
ครผู ู้สอน รุ่งนภา น่วมนอ้ ย ครูผ้สู อน รุ่งนภา นว่ มน้อย
ชดุ กิจกรรมวทิ ยาศาสตร์โดยใชก้ ระบวนการสบื เสาะความรู้ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
วทิ ยาศาสตรเ์ พ่ิมเติม 2 ชุดที่ 1 เร่ือง แรงและการเคล่อื นที่
ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 2
คาชแ้ี จง 1. ข้อสอบเปน็ แบบปรนยั มที ้งั หมด 10 ขอ้ 10 คะแนน
ชุดท่ี 1 แรงและการเคลือ่ นท่ี 2. จงกาเคร่อื งหมาย X ทบั ตวั อักษร ก ข ค ง ที่ถูกตอ้ งท่สี ุดเพยี งขอ้ เดียว
สาระสาคัญ 1.ปริมาณสเกลาร์มลี ักษณะอยา่ งไร
แรงสามารถทาให้วัตถุเปลี่ยนสภาพการเคลื่อนท่ี แรง (Force) เป็นปริมาณ ก.ไม่มขี นาดและทิศทาง ข.มีทัง้ ขนาดและทิศทาง
เวกเตอร์ ทม่ี ีทั้งขนาดและทิศทาง หน่วยของแรงในระบบ (SI) เป็นนิวตัน แรง 1 นิวตัน
เทา่ กับขนาดของแรงทส่ี ามารถให้มวล 1 กโิ ลกรัม เคลอ่ื นทีไ่ ปตามแนวแรงดว้ ย ความเร็ว ค.มเี ฉพาะทิศทาง ง.มีเฉพาะขนาด
เปล่ียนไป 1 เมตรต่อวินาทีในเวลา 1 วินาที สัญลักษณ์แทนแรงนิยมใช้ F หรือ F
ปริมาณทางฟิสิกส์แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ปริมาณสเกลาร์ ปริมาณเวกเตอร์ แรง 2.ข้อใดเป็นปรมิ าณเวกเตอร์
ลัพธ์ คือผลรวมของแรงหลายๆแรงท่ีกระทาต่อวัตถุน้ัน การหาเวกเตอร์ลัพธ์ โดยแทน
แรงด้วยลูกศร ความยาวของลูกศรจะแทนขนาดของแรง และทิศของลูกศรจะแทน ก.พื้นที่ ข.เวลา
ทศิ ทางของแรงที่กระทา และวตั ถจุ ะเคลือ่ นท่ไี ปตามทศิ ของแรงลพั ธ์
ผลของแรงทกี่ ระทาต่อวตั ถุ ค.อุณหภมู ิ ง.แรง
การเคลือ่ นที่แบบต่างๆ
3.ข้อใดไม่ใช่แรงพืน้ ฐานตามธรรมชาติ
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธบิ ายความหมายของปริมาณสเกลาร์ ปรมิ าณเวกเตอร์ การหาเวกเตอร์ลัพธ์ (K) ก.แรงแม่เหล็ก ข.แรงจากปฏกิ ริ ยิ าเคมี
2. อธบิ ายแรงในชีวิตประจาวนั ผลของแรงที่กระทาต่อวตั ถุ ยกตวั อยา่ งการเคลื่อนทข่ี องวตั ถุ
ลักษณะการเคลอ่ื นทแี่ บบต่างๆของวตั ถุ รวมทั้งนาความร้ไู ปใช้ประโยชน์และการคานวณ (K) ค.แรงดึงดูดระหวา่ งมวล ง.แรงไฟฟา้
4. เขยี นรูปและการคานวณการหาเวกเตอร์ลพั ธ์ (P)
5. สามารถทางานร่วมกบั ผู้อืน่ ได้อยา่ งสร้างสรรค์ (A) 4.แรงมหี น่วยเป็นอย่างไร
เวลาทใ่ี ช้ 2 ช่วั โมง ก.กรมั ข.เมตร
ค.นิวตนั ง.วนิ าที
5.นักวทิ ยาศาสตร์ที่ศกึ ษาเกยี่ วกับแรงและการเคลือ่ นท่คี อื ใคร
ก.นวิ ตนั ข.ดารว์ นิ
ค.เมนเดล ง.เอดสิ ัน
6.เมื่อกล้ิงวตั ถไุ ปบนพื้น ทาไมวัตถุจงึ หยดุ เคลอื่ นท่ี กระดาษคาตอบ
ก.แรงทก่ี ลง้ิ เปน็ ศนู ย์ ข.วตั ถสุ มั ผสั และถ่ายเทพลงั งานใหพ้ ื้น คาชแี้ จง ให้นักเรียนทาเครอ่ื งหมาย X ลงในชอ่ งว่างใหต้ รงกับคาตอบท่ี
นกั เรียนเลือก
ค.วัตถุไมม่ คี วามเร็ว ง.มีแรงเสยี ดทานบนพื้นต้านการเคลือ่ นท่ี
ขอ้ ก ข ค ง
7.ถา้ พ้นื ไม่มแี รงเสยี ดทาน จะเป็นอยา่ งไร 1
2
ก.คนจะเดินไมไ่ ด้ ข.วัตถจุ ะไมห่ ยุดน่ิง 3
4
ค.รถจะวงิ่ ได้โดยไมต่ ้องใช้เครื่องยนต์ ง.วตั ถจุ ะเคลอื่ นทไ่ี ด้ดีกวา่ เดิม 5
6
8.ขอ้ ใดใชห้ ลกั แรงเสยี ดทานมากทส่ี ดุ 7
8
ก.ไม้ 2แผ่นวางซ้อนกัน ข.กลิง้ ลกู กลมบนพื้นเอียง 9
10
ค.ป้ายโฆษณาวางพงิ กาแพง ง.ตะปตู อกไมใ้ ห้ติดแน่น
คะแนนท่ีได้
9.วตั ถุในข้อใดทาให้เกิดแรงเสียดทานมากทส่ี ดุ .........................
ก.วัตถทุ ่ีมีพนื้ ผวิ เรียบ ข.วัตถทุ ่มี พี นื้ ผวิ ขรุขระ
ค.วตั ถุทีม่ ีมวลมาก ง.วตั ถุทม่ี มี วลนอ้ ย
10.ขอ้ ใดมคี วามหมายเกย่ี วกบั กฏของนิวตนั ข้อท่ี 1
ก.แรงกริ ยิ าเทา่ กบั แรงปฏกิ ริ ิยา
ข.พลงั งานไม่สูญหายไปจากโลก
ค.แรงทใี่ ชใ้ นการเคล่ือนท่ีมคี ่าเทา่ กบั แรงตา้ นการเคล่ือนท่ี
ง.ความเรง่ และแรงลัพธ์มที ศิ ทางเดยี วกัน
แรง (Force)
ปรมิ าณที่กระทาต่อวัตถุ มีผลทาให้วัตถุเปลี่ยนรูปร่าง ทิศทาง รวมท้ังการเคล่ือนท่ีไป 2. เวกเตอร์ตรงข้าม
จากเดิม แรงยังทาใหว้ ตั ถุเกดิ ความเรง่ และสามารถทาใหว้ ัตถุเคลื่อนที่เร็วข้ึน ชา้ ลง หรือแม้แต่ เวกเตอรท์ ่ตี รงข้ามกบั A กค็ อื – A กค็ อื เปน็ เวกเตอรท์ ี่มขี นาดเทา่ กนั แต่ทิศทางตรง
หยุดนิ่งก็ได้ แรงยังแบ่งออกเป็นแรงที่กระทาบนพื้นผิวของวัตถุ เช่น แรงดึง แรงผลัก แรงยก
กับแรงที่ไม่กระทาบนผิวของวัตถุ แต่กระทาบนเน้ือวัตถุทุกตาแหน่ง เช่น แรงแม่เหล็ก แรง ขา้ ม
ทางไฟฟา้ แรงโน้มถ่วงของโลก แรงนวิ เคลยี ร์ หนว่ ยของแรง คอื นิวตนั (N) หรอื kg.m/s2 AA
ปรมิ าณทางฟิสกิ ส์
1. ปรมิ าณสเกลาร์ (Scalar quantities) คอื ปริมาณทบี่ อกแตข่ นาดอย่างเดยี วก็ได้ความหมาย การรวมเวกเตอร์
สมบูรณ์ ไม่ต้องบอกทิศทาง เชน่ ระยะทาง มวล เวลา ปริมาตร ความหนาแน่น งาน พลังงาน
ฯลฯ
2. ปริมาณเวกเตอร์ (Vector quantities) คือ ปริมาณที่บอกท้ังขนาดและทิศทาง จึงจะได้
ความหมายสมบรู ณ์ เชน่ การกระจดั ความเร่ง ความเร็ว แรง โมเมนตมั ฯลฯ
เวกเตอร์ (Vector quantities) หมายถึง ปริมาณท่ีบอกทั้งขนาดและทิศทางจึงจะได้
ความหมายที่สมบูรณ์ เช่น แรง ความเร็ว ความเร่ง การกระจัด โมเมนตัม ซึ่งสัญลักษณ์ของ
เวกเตอร์ คือ การแสดงขนาดและทิศทางของปริมาณเวกเตอร์โดยใช้ลูกศรเป็นตัวแทน
แบง่ เปน็
- ขนาดของปรมิ าณเวกเตอร์แทนดว้ ยความยาวของลกู ศร
- ทิศทางของปริมาณเวกเตอรแ์ ทนดว้ ยทิศทางของหัวลูกศร
- สญั ลกั ษณ์ของปรมิ าณเวกเตอรใ์ ช้ตวั อักษรมลี ูกศรครึ่งบนชจี่ ากซา้ ยไปขวา
สมบัตขิ องเวกเตอร์
1. การเทา่ กันของเวกเตอร์
เวกเตอร์ 2 เวกเตอร์จะเทา่ กนั เม่ือเวกเตอร์ท้ังสองมขี นาดเทา่ กันและมีทศิ ทางเดียวกัน
ที่มา : http://tumcrum3.blogspot.com/2014/01/blog-post_3270.html
ขนาดและทิศทางของแรง มวลกบั น้าหนกั
มวล เปน็ ปริมาณทแ่ี สดงวา่ วัตถุกอ้ นน้ันสามารถต่อตา้ นการเปลี่ยนแปลงสภาพเคล่อื นท่ี ได้
ถ้ามแี รงตั้งแต่ 2 แรง หรอื มากกว่ามากระทาตอ่ วตั ถุชิน้ เดยี วกัน ผลรวมของแรงทั้งหมดจะ มากหรือน้อยแค่ไหน เป็นปรมิ าณสเกลาร์ หนว่ ยเป็น kg
เปรยี บเสมอื นแรงเดียวเทา่ นนั้ กระทาต่อวตั ถุ ซง่ึ เราเรียกว่า แรงลพั ธ์ โดยวัตถุจะเคลอ่ื นที่ไป น้าหนัก เป็นปริมาณที่แรงโน้มถ่วงกระทาตอ่ มวล เปน็ ปรมิ าณเวกเตอร์ หนว่ ยเปน็ N
ตามทิศทางของแรงลัพธ์
1. แรงมที ิศทางเดยี วกัน W = mg
วัตถจุ ะเคล่ือนทไี่ ปในทิศทางเดียวกับแรงทก่ี ระทา
กฎการเคลอื่ นท่ีของนวิ ตนั
2. แรงมีทิศทางตรงข้ามกัน
วัตถุจะเคลื่อนทไ่ี ปในทิศทางทม่ี แี รงท่กี ระทาที่มากกว่า
การวดั ขนาดของแรงอาจทาไดห้ ลายวิธี วิธีหนึ่งท่ที าได้ง่ายคอื การใชเ้ ครือ่ งชงั่ สปริง ดงั รูป
ท่ีมา : http://tumcrum3.blogspot.com/2014/01/blog-post_3270.html
แรงลพั ธ์ (resultant force) แรงท่ีกระทาตอ่ วัตถุมที ิศทางตรงข้ามกันและขนานกัน แรงลพั ธ์ มีขนาดเท่ากับผลต่างของแรง
ย่อย ส่วนทิศทางของแรงลัพธไ์ ปในทิศทางแรงที่มขี นาดมากกวา่
การรวมแรง คอื การนาแรงย่อยหลายแรงท่กี ระทาตอ่ วตั ถุเดียวกนั มารวมกันแบบเวกเตอร์
โดยแรงรวมสุดท้ายทไ่ี ด้ เรยี กวา่ แรงลพั ธ์ R
การรวมเวกเตอร์ของแรง
วิธีการวาดรูปแบบหางต่อหัว คอื หาได้โดยนาหางของแรงท่สี องไปต่อหวั ลกู ศรของแรงแรก
และนาหางของแรงทีส่ ามไปตอ่ กับหัวของแรงที่สอง ทาเช่นนี้ไปเรือ่ ยๆจนครบ แรงลัพธท์ ่ีไดค้ อื
แรงท่ลี ากจากหางของแรงแรกไปยังหัวของแรงสดุ ท้าย
แรงทีก่ ระทาตอ่ วตั ถุมที ิศทางเดียวกันและขนานกนั แรงลพั ธ์ มขี นาดเทา่ กบั ผลบวก แรงท่ีกระทาตอ่ วตั ถใุ นแนวทางท่ไี มข่ นานกนั หาเวกเตอร์โดยการสร้างรูปสเ่ี หลย่ี มด้านขนานท่ี
ของแรงย่อย ส่วนทิศทางของแรงลพั ธ์ไปในทิศทางเดียวกนั กบั แรงย่อย ใชแ้ ทนเวกเตอรล์ พั ธ์
แรงทีก่ ระทาต่อวัตถุ แรงสองแรงทามุมต่อกนั
ใช้ทฤษฎีรปู ส่เี หลย่ี มด้านขนาน เมอ่ื มีแรง 2 แรงกระทารว่ มกนั ทจี่ ดุ ๆ หน่งึ โดยแรงทง้ั สองทา
มุม Ø ต่อกัน จะแสดงขนาดและทิศทางของแรง 2 แรงด้วยความยาวดา้ นทัง้ สองด้าน ของรปู
สี่เหลี่ยมดา้ นขนาน ผลรวมของแรงทงั้ สองน้ี คือ แรงลพั ธ์ น่ันคือ เส้นทแยงมุมของสเ่ี หลี่ยม
ด้านขนาน
เพียงแค่แสกน QR Code
ท่มี าแ: hรtงtpแ:/ล/tuะmกcาruรmเค3.ลblือ่ogนspทot่ี .cงo่าmย/2น0ดิ14เ/ด01ีย/bวlog-post_3270.html
ใบกิจกรรมที่ 1 คาถามทา้ ยกจิ กรรม
เรื่อง การวัดขนาดของแรง 1. แรง หมายถงึ
………………………………………………………………………………………………………….…………….
วธิ ปี ฏิบตั กิ จิ กรรม …………………………………………………………………………………………………………………….….
1. ให้นกั เรยี นแต่ละกลุ่มศึกษากจิ กรรม ตอ่ ไปนี้ 2. ปริมาณเวกเตอร์
2. ตอบคาถามใหถ้ กู ต้อง หมายถึง………………………………………………………………………………………………………….….
3. นกั เรยี นรว่ มกนั สรุปผล ……………………………………………………………………………………………………………..……….….
จากรปู คา่ ที่อ่านไดจ้ ากเครอื่ งชง่ั ลสปริงเป็นคา่ ของอะไร และในการดึงแตล่ ะคร้งั สปริง 3. ปริมาณสเกลาร์
จะยืดออกเท่ากันหรอื ไม่อย่างไร หมายถงึ ………………………………………………………………………………………………………….……
………………………………………………………………………………………………………….……………. …………………………………………………………………………………………………………..…………….….
…………………………………………………………………………………………………………………….…. 4. แรงลพั ธ์
………………………………………………………………………………………………………….……………. หมายถึง………………………………………………………………………………………………………….…
…………………………………………………………………………………………………………………….…. ……………………………………………………………………………………………………………………...….
5. กฎของความเฉื่อยของนวิ ตนั อธิบายว่า
………………………………………………………………………………………………………….…………….
…………………………………………………………………………………………………………………….….
………………………………………………………………………………………………………….…………….
…………………………………………………………………………………………………………………….….
ใบกิจกรรมที่ 2 2. จากรปู จงหาผลรวมของแรงและทิศทาง
เรอื่ ง แรง 2.1
วธิ ีปฏิบัตกิ จิ กรรม
1. ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกล่มุ ศึกษาแรง ผลรวมของแรง ต่อไปนี้
2. ตอบขอ้ ความทก่ี าหนดให้ถกู ตอ้ ง
3. นกั เรียนรว่ มกนั สรปุ ผลจากการตอบคาถาม
1. ข้อความตอ่ ไปนี้ถกู หรอื ผดิ ………………………………………………………………………………………………………….…………….
…....…………. 1. แรงมีหนว่ ยเปน็ กิโลกรมั …………………………………………………………………………………………………………………….….
…....…………. 2. ผลรวมของแรงย่อยหลายแรงที่กระทาตอ่ วตั ถุเรยี กว่า แรงลัพธ์ 2.2
…....…………. 3. ถ้าวตั ถหุ ยดุ นิง่ แสดงวา่ ไมม่ ีแรงมากระทาต่อวตั ถุนน้ั
…....…………. 4. การรวมแรงเพือ่ หาแรงลัพธท์ าไดโ้ ดยไม่ตอ้ งคานึงถึงทิศทางของแรง ………………………………………………………………………………………………………….…………….
…....…………. 5. แรงเป็นปริมาณสเกลาร์ …………………………………………………………………………………………………………………….….
…....…………. 6. แรงที่กระทาตอ่ วัตถใุ นแนวระดับ คือ แรงเสียดทาน
…....…………. 7. เมอื่ มแี รง 2 แรงมากระทาตอ่ วัตถทุ ก่ี าลงั หยุดนิ่ง จะทาให้วตั ถุเคลื่อนทไี่ ป
ข้างหน้าเสมอ
…....…………. 8. เมอ่ื ใชเ้ ครอ่ื งช่งั สปริงแขวนวัตถุ ค่าทอ่ี า่ นได้จากเครอื่ งช่งั สปรงิ คอื
นา้ หนกั ของวตั ถุ
ใบกจิ กรรมที่ 3 คาถามท้ายกิจกรรม
เรือ่ ง เวกเตอร์ 1. การออกแรงผลกั วัตถทุ หี่ ยุดนง่ิ ให้เคลือ่ นที่ วตั ถนุ ั้นจะเคลอ่ื นที่ไปในทศิ ทางใด
………………………………………………………………………………………………………….…………….
วิธีปฏบิ ตั ิกจิ กรรม …………………………………………………………………………………………………………………….….
1. ให้นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ ศึกษาเวกเตอร์ ต่อไปนี้ 2. ถ้าแรงทีก่ ระทาบนกล่องใบหน่งึ มีความสมดลุ กันแลว้ การเคลอื่ นทขี่ องกลอ่ งจะมีลกั ษณะ
2. การรวมเวกเตอรข์ องแรงโดยการเขียนรปู และคานวณ อยา่ งไร………………………………………………………………………………………………………….……
3. นักเรยี นรว่ มกนั สรปุ ผลจากการหาเวกเตอรล์ พั ธ์ …………………………………………………………………………………………………………………….…….
3. จากรปู เวกเตอร์ใดเป็นเวกเตอร์ลัพธ์
1. กาหนดให้ u , v , w เปน็ เวกเตอร์ 3 เวกเตอร์ ท่ีมีขนาดและทศิ ทาง ดงั นี้
4. ถ้าออกแรงดึงชนดิ เดยี วกนั แต่มีลักษณะการจดั วางตา่ งกนั ดังภาพ แรงท่ีใชใ้ นการดึง
uv w เพอ่ื ใหว้ ัตถเุ คลอื่ นท่มี ีค่าต่างกนั หรือไม่ อยา่ งไร (ถา้ ลากผา่ นพ้ืนทม่ี ีแรงเสียดทาน)
………………………………………………………………………………………………………….……………. ………………………………………………………………………………………………………….…………….
…………………………………………………………………………………………………………………….…. …………………………………………………………………………………………………………………….….
………………………………………………………………………………………………………….…………….
…………………………………………………………………………………………………………………….….
………………………………………………………………………………………………………….…………….
…………………………………………………………………………………………………………………….….
………………………………………………………………………………………………………….…………….
5. จากรูป จงหาเวกเตอร์ลพั ธ์ 7. จากรูป เม่ือใช้เครอื่ งช่งั สปริง 3 อนั ดงึ วงแหวนจนหยุดนง่ิ แรงรวมทง้ั 2 แรง จะ
เทา่ กับแรงทอ่ี ยูต่ รงขา้ มหรือไม่อย่างไร
………………………………………………………………………………………………………….……………. ………………………………………………………………………………………………………….…………….
…………………………………………………………………………………………………………………….…. …………………………………………………………………………………………………………………….….
………………………………………………………………………………………………………….……………. ………………………………………………………………………………………………………….…………….
…………………………………………………………………………………………………………………….…. …………………………………………………………………………………………………………………….….
………………………………………………………………………………………………………….…………….
…………………………………………………………………………………………………………………….…. 8. แรงย่อยขนาด 50 นวิ ตนั และ 40 นวิ ตนั กระทาต่อวัตถพุ ร้อมกนั ไปทางทศิ เหนือ
………………………………………………………………………………………………………….……………. และทิศตะวนั ออกตามลาดบั จะทาใหว้ ตั ถนุ ้นั เคลอ่ื นทไ่ี ปทางทิศใด
6. แรงขนาด 10 และ 15 นวิ ตนั มีทศิ ทางไปทางทศิ ตะวนั ตก และแรงขนาด 20 และ 25 นวิ ………………………………………………………………………………………………………….…………….
ตนั มีทศิ ทางไปทางทิศตะวนั ออก แรงลพั ธ์จะมีขนาดและทิศทางอยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………………………….….
………………………………………………………………………………………………………….…………….
………………………………………………………………………………………………………….……………. …………………………………………………………………………………………………………………….….
…………………………………………………………………………………………………………………….…. ………………………………………………………………………………………………………….…………….
………………………………………………………………………………………………………….……………. …………………………………………………………………………………………………………………….….
…………………………………………………………………………………………………………………….…. ………………………………………………………………………………………………………….…………….
………………………………………………………………………………………………………….…………….
…………………………………………………………………………………………………………………….….
………………………………………………………………………………………………………….…………….
แบบทดสอบหลังเรยี น 6.เมื่อกล้ิงวตั ถไุ ปบนพื้น ทาไมวัตถุจึงหยดุ เคล่อื นท่ี
เร่ือง แรงและการเคลอ่ื นที่
ก.แรงทก่ี ล้งิ เป็นศูนย์ ข.วตั ถสุ ัมผสั และถา่ ยเทพลังงานใหพ้ ้ืน
คาช้แี จง 1. ข้อสอบเปน็ แบบปรนยั มที งั้ หมด 10 ขอ้ 10 คะแนน ค.วตั ถไุ ม่มีความเร็ว ง.มแี รงเสยี ดทานบนพ้นื ต้านการเคลอื่ นที่
2. จงกาเคร่ืองหมาย X ทับตวั อกั ษร ก ข ค ง ที่ถกู ตอ้ งท่สี ดุ เพียงขอ้ เดยี ว
7.ถ้าพนื้ ไม่มแี รงเสียดทาน จะเป็นอย่างไร
1.ปริมาณสเกลาร์มีลักษณะอย่างไร ก.คนจะเดนิ ไม่ได้ ข.วตั ถุจะไมห่ ยุดนง่ิ
ก.ไมม่ ขี นาดและทศิ ทาง ข.มที งั้ ขนาดและทศิ ทาง ค.รถจะวิง่ ได้โดยไม่ตอ้ งใชเ้ คร่ืองยนต์ ง.วตั ถุจะเคลอ่ื นที่ไดด้ กี ว่าเดิม
ค.มเี ฉพาะทศิ ทาง ง.มเี ฉพาะขนาด 8.ข้อใดใช้หลักแรงเสียดทานมากที่สุด
2.ขอ้ ใดเป็นปริมาณเวกเตอร์ ก.ไม้ 2แผ่นวางซอ้ นกัน ข.กล้งิ ลูกกลมบนพ้ืนเอียง
ก.พน้ื ที่ ข.เวลา ค.ปา้ ยโฆษณาวางพงิ กาแพง ง.ตะปตู อกไมใ้ หต้ ิดแนน่
ค.อุณหภูมิ ง.แรง 9.วตั ถใุ นขอ้ ใดทาใหเ้ กิดแรงเสียดทานมากที่สุด
3.ข้อใดไมใ่ ช่แรงพ้ืนฐานตามธรรมชาติ ก.วัตถุท่มี พี ื้นผิวเรยี บ ข.วตั ถทุ ี่มีพื้นผวิ ขรขุ ระ
ก.แรงแมเ่ หล็ก ข.แรงจากปฏิกิริยาเคมี ค.วัตถทุ ่มี มี วลมาก ง.วัตถุที่มมี วลนอ้ ย
ค.แรงดึงดูดระหว่างมวล ง.แรงไฟฟา้ 10.ข้อใดมคี วามหมายเกยี่ วกับกฏของนวิ ตนั ข้อท่ี 1
4.แรงมีหน่วยเปน็ อยา่ งไร ก.แรงกริ ิยาเทา่ กบั แรงปฏิกริ ิยา
ก.กรัม ข.เมตร
ค.นวิ ตนั ง.วนิ าที ข.พลงั งานไมส่ ูญหายไปจากโลก
5.นกั วิทยาศาสตร์ทศ่ี กึ ษาเก่ยี วกบั แรงและการเคลื่อนทีค่ ือใคร ค.แรงท่ีใช้ในการเคลอ่ื นท่ีมีคา่ เทา่ กับแรงต้านการเคล่อื นที่
ก.นิวตนั ข.ดารว์ ิน ง.ความเรง่ และแรงลพั ธม์ ีทิศทางเดียวกนั
ค.เมนเดล ง.เอดิสัน
กระดาษคาตอบ เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน – หลังเรียน
คาช้แี จง ใหน้ ักเรียนทาเครอ่ื งหมาย X ลงในชอ่ งวา่ งใหต้ รงกับคาตอบที่ ขอ้ ก ข ค ง
นักเรียนเลือก 1X
2X
ขอ้ ก ข ค ง 3X
1 4X
2 5X
3 6X
4 7X
5 8X
6 9X
7 10 X
8
9
10
คะแนนทไ่ี ด้
..........................
เฉลยใบกิจกรรมท่ี 1 เฉลยใบกจิ กรรมท่ี 2
เร่อื ง การวัดขนาดของแรง เร่ือง แรง
จากรูป ค่าท่ีอ่านไดจ้ ากเคร่ืองช่ังลสปรงิ เปน็ คา่ ของอะไร และในการดึงแตล่ ะคร้งั สปริง 1. ขอ้ ความต่อไปน้ถี ูกหรอื ผดิ
จะยืดออกเท่ากนั หรอื ไม่อย่างไร
…………………………แรงทเี่ ราดึง ตาช่ังสปริง…………………………………………………………. …....…×………. 1. แรงมีหน่วยเปน็ กโิ ลกรมั
……………………ไมเ่ ทา่ กัน ยิ่งน้าหนกั ทด่ี ึงมาก สปริงก็จะยดื ออกมาก………………………. …....…√………. 2. ผลรวมของแรงย่อยหลายแรงท่ีกระทาต่อวัตถเุ รียกว่า แรงลพั ธ์
…....…×………. 3. ถ้าวตั ถหุ ยุดนิง่ แสดงว่า ไมม่ ีแรงมากระทาต่อวตั ถนุ นั้
คาถามทา้ ยกิจกรรม …....…×………. 4. การรวมแรงเพือ่ หาแรงลพั ธท์ าได้โดยไมต่ ้องคานงึ ถึงทศิ ทางของแรง
1. แรง หมายถงึ ...........ปริมาณที่กระทาตอ่ วัตถุ มผี ลทาใหว้ ัตถุเปลย่ี นรปู รา่ ง ทศิ ทาง …....…×………. 5. แรงเป็นปริมาณสเกลาร์
รวมถงึ การเคลื่อนท่ไี ปจากเดมิ (N) เป็นเวกเตอร์.......................................... …....…√………. 6. แรงทกี่ ระทาตอ่ วัตถุในแนวระดับ คอื แรงเสยี ดทาน
2. ปริมาณเวกเตอร์ หมายถงึ ........ปรมิ าณท่ตี ้องบอกท้ังขนาดและทิศทาง จงึ จะได้ …....…×………. 7. เม่อื มแี รง 2 แรงมากระทาต่อวตั ถทุ ่ีกาลังหยุดน่ิง จะทาใหว้ ัตถุเคล่อื นท่ไี ป
ความหมายทีส่ มบรู ณ์ เช่น แรง.....................................................
3. ปรมิ าณสเกลาร์ หมายถงึ ........ปรมิ าณท่บี อกแคข่ นาดเพียงอย่างเดยี ว ก็จะได้ ขา้ งหนา้ เสมอ
ความหมายทีส่ มบูรณ์ เช่น เวลา มวล.....................................................
4. แรงลพั ธ์ หมายถงึ ........ผลรวมของแรงย่อยๆ..................................................... …....…√………. 8. เมื่อใช้เคร่อื งช่งั สปรงิ แขวนวัตถุ ค่าทอ่ี ่านได้จากเครอ่ื งชงั่ สปริง คือ
5. กฎของความเฉื่อยของนวิ ตัน อธบิ ายว่า........วตั ถจุ ะรกั ษาสภาพหยุดนิ่ง หรอื เคลือ่ นที่
ดว้ ยความเรว็ คงที่ ไปตลอดนอกจากจะมีแรงลพั ธ์ท่ี ≠0 มากระทา (∑F = 0).................. นา้ หนักของวตั ถุ
2. จากรปู จงหาผลรวมของแรงและทศิ ทาง
2.1
……………∑F = 50 – 20 = 30 N ไปขา้ งบน………………
2.2
……………∑F = 50 – 15 - 25 = 10 N ไปทางขวา………………
เฉลยใบกิจกรรมท่ี 3 คาถามทา้ ยกิจกรรม
เรอื่ ง เรอ่ื ง เวกเตอร์ 1. การออกแรงผลกั วตั ถทุ ่ีหยดุ น่งิ ใหเ้ คล่ือนที่ วัตถุน้ันจะเคลือ่ นทีไ่ ปในทิศทางใด
...........เคล่อื นท่ไี ปทิศเดียวกับทศิ ของแรงลัพธ์........................
1. กาหนดให้ u , v , w เปน็ เวกเตอร์ 3 เวกเตอร์ ทม่ี ขี นาดและทศิ ทาง ดงั น้ี 2. ถา้ แรงทก่ี ระทาบนกลอ่ งใบหน่งึ มีความสมดุลกันแล้ว การเคลื่อนที่ของกล่องจะมลี ักษณะ
อย่างไร...∑F = 0 หยดุ นิง่ หรือเคลอื่ นท่ีด้วยความเรว็ คงที่ (ตามกฎขอ้ 1 ของนวิ ตนั ).
3. จากรูปเวกเตอรใ์ ดเป็นเวกเตอรล์ พั ธ์
วิธีการวาดรปู แบบหางต่อหวั C + B = A (เวกเตอรล์ พั ธ์)
4. ถ้าออกแรงดึงชนิดเดยี วกนั แตม่ ีลักษณะการจดั วางตา่ งกนั ดงั ภาพ แรงท่ใี ชใ้ นการดงึ
เพ่อื ให้วัตถุเคลอ่ื นทมี่ คี า่ ตา่ งกนั หรอื ไม่ อย่างไร (ถ้าลากผ่านพ้ืนทีม่ ีแรงเสียดทาน)
…………………..…ตา่ งกนั โดย ใชแ้ รงในรปู ท่ี 2 มากกวา่ รปู ท่ี 1…………………………….
5. จากรูป จงหาเวกเตอร์ลพั ธ์ 7. จากรูป เม่อื ใชเ้ คร่ืองชง่ั สปริง 3 อนั ดึงวงแหวนจนหยุดนิ่ง แรงรวมทงั้ 2 แรง จะ
………………………………… เท่ากับแรงทีอ่ ยตู่ รงข้ามหรือไมอ่ ยา่ งไร
……………………………………….
6. แรงขนาด 10 และ 15 นวิ ตนั มีทิศทางไปทางทศิ ตะวันตก และแรงขนาด 20 และ 25 นวิ …………..เทา่ กนั (ทศิ ตรงขา้ มกนั ) ใช้วิธเี ส้นทแยงมมุ ของส่เี หลย่ี มด้านขนาน………………….
ตัน มที ิศทางไปทางทศิ ตะวนั ออก แรงลพั ธ์จะมีขนาดและทศิ ทางอยา่ งไร 8. แรงย่อยขนาด 50 นวิ ตัน และ 40 นิวตัน กระทาตอ่ วัตถพุ รอ้ มกนั ไปทางทศิ เหนือ
และทศิ ตะวนั ออกตามลาดับ จะทาให้วัตถนุ นั้ เคลื่อนทไ่ี ปทางทิศใด
……....... …………....
……….. …………..
บรรณานกุ รม
รายวชิ าพน้ื ฐาน วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ฉบบั ปรบั ปรุง. (2560). วทิ ยาศาสตร์
ม.2 เลม่ 1. กรุงเทพฯ: สกสค. โรงพมิ พ์ สกสค. ลาดพร้าว.
วิทยาศาสตร์ ม.2. แรงและแรงลัพธ์. [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ได้
จาก : https://www.youtube.com/watch?v=ZKekJ9tT_ME
(วนั ที่ค้นขอ้ มลู : 1 พฤษภาคม 2563).
สอื่ การเรียนการสอน วทิ ยาศาสตร์ ม.2. แรงและการเคลือ่ นท่ี. [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ได้
จาก : https://www.youtube.com/watch?v=ZKekJ9tT_ME
(วันท่ีค้นขอ้ มูล: 1 พฤษภาคม 2563).