The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

E-Bookการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม ชุดที่ 1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 0329, 2021-04-06 07:50:30

การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม

E-Bookการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม ชุดที่ 1

E – Book ชุดกจิ กรรมวทิ ยาศาสตร์
สาหรบั การศึกษาวิชาวิทยาศาสตรด์ ว้ ยตนเอง

เร่ือง การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3

ชดุ ที่ 1 โครโมโซมและการคน้ พบของเมนเดล

Scan Me

ทมี่ า : https://tkpj1234.blogspot.com/p/blog-page_17.htm
https://www.youtube.com/watch?v=GLv4YZhU5Jkl

ข้อปฏบิ ัตใิ นการใช้ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ ขอ้ ปฏบิ ัติในการใช้ชดุ กิจกรรมวิทยาศาสตร์
โดยใช้กระบวนการสืบเสาะความรู้สาหรับครู โดยใชก้ ระบวนการสบื เสาะความร้สู าหรบั นักเรียน

1. ชดุ กจิ กรรมวิทยาศาสตร์ ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 เรือ่ งการถ่ายทอดลักษณะทาง 1. ชดุ กจิ กรรมวิทยาศาสตร์นี้ คือ ชุดที่ 1 โครโมโซมและการคน้ พบของเมนเดล
พนั ธกุ รรม ประกอบดว้ ยชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ ท้งั หมด 3 ชดุ ดังน้ี จดั ทาขึ้นเพอ่ื ให้นักเรยี นได้เรยี นรู้โดยกระบวนการสบื เสาะด้วยตนเองให้ไดม้ ากที่สุด
มคี วามรอบรเู้ กิดทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละเกิดเจตคติท่ีดตี ่อวชิ า
ชุดกจิ กรรมวทิ ยาศาสตร์ชดุ ท่ี 1 โครโมโซมและการค้นพบของเมน วทิ ยาศาสตร์
เดล 2. นักเรียนจะต้องเรยี นรู้ดว้ ยตนเองใหไ้ ดม้ ากทส่ี ุดตามลาดับขั้นตอนของกจิ กรรม
ตา่ งๆ โดยมคี าแนะนา ดังน้ี
ชุดกิจกรรมวทิ ยาศาสตร์ชุดท่ี 2 โครโมโซมของมนุษยแ์ ละความ
ผิดปกตทิ างพันธุกรรม 2.1 อ่านและทาความเขา้ ใจการใช้ชุดกจิ กรรมวิทยาศาสตรใ์ หเ้ ขา้ ใจ
2.2 รว่ มกันศกึ ษา วางแผน ปฏบิ ัติกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยความรอบคอบ
ชดุ กิจกรรมวทิ ยาศาสตร์ชดุ ที่ 3 สิ่งมีชวี ิตดัดแปรพนั ธุกรรม 2.3 ใชเ้ วลาทากิจกรรมอย่างคุ้มค่า
2. ชดุ กจิ กรรมวทิ ยาศาสตร์น้ี คอื ชุดที่ 1 โครโมโซมและการคน้ พบของเมนเดล
ใชเ้ ป็นสือ่ การเรยี นรู้ ประกอบการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นเรียนรทู้ ่ี 1โครโมโซมและ
การค้นพบของเมนเดล
แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 2 โครโมโซมของมนษุ ยแ์ ละความผดิ ปกติทางพนั ธกุ รรม
และแผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 3 สิง่ มีชวี ติ ดัดแปรพันธุกรรม
3. ครคู วรศกึ ษาคาแนะนาในการชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ให้เข้าใจก่อนจดั กจิ กรรม
4. ครูตอ้ งชแี้ จงขน้ั ตอนการเรยี นโดยใช้ชดุ กจิ กรรมวิทยาศาสตร์ใหน้ ักเรยี น
เขา้ ใจทกุ คนกอ่ นดาเนนิ กิจกรรมตา่ ง ๆ
5. หากนกั เรียนมขี อ้ สงสัยในการเรยี นร้โู ดยใช้ชดุ กจิ กรรมวทิ ยาศาสตร์ ครคู วร
แนะนาเพมิ่ เตมิ อาจให้นักเรยี นไดป้ ฏิบัตกิ ิจกรรมทง้ั ในและนอกเวลาเรียนจะทาให้
ผูเ้ รยี นมีความรู้ความเขา้ ใจมากยง่ิ ขน้ึ

ครูผสู้ อน รงุ่ นภา นว่ มน้อย ครูผูส้ อน รุ่งนภา นว่ มนอ้ ย

ชุดกจิ กรรมวทิ ยาศาสตรโ์ ดยใช้กระบวนการสบื เสาะความรู้ แบบทดสอบก่อนเรยี น
ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 ชุดท่ี 1 เรอ่ื ง โครโมโซมและการคน้ พบของเมนเดล

เร่ือง การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม คาชแี้ จง 1. ข้อสอบเป็นแบบปรนัยมที ง้ั หมด 10 ขอ้ 10 คะแนน
ชดุ ที่ 1 โครโมโซมและการคน้ พบของเมนเดล 2. จงกาเคร่ืองหมาย X ทบั ตัวอักษร ก ข ค ง ท่ีถูกตอ้ งทสี่ ุดเพยี งขอ้ เดียว
สาระสาคญั
1. ข้อใดหมายถึงโครโมโซม
หน่วยพ้ืนฐานท่ีสาคัญของสิ่งมีชีวิตคือ เซลล์ ภายในประกอบด้วยไซโทพลาสซึม และ
นิวเคลียสอยู่ตรงกลางเซลล์ ภายในนิวเคลียสจะมีโครโมโซม ยีน (Gene) คือ หน่วย ก.ลักษณะซึ่งถ่ายทอดจากร่นุ หนึ่งไปสู่รนุ่ หน่ึง ข.สารพันธุกรรมซ่ึงกาหนดลกั ษณะต่างๆ

พันธุกรรมที่อยู่บนโครโมโซม มีลักษณะเรียงกันเหมือนสร้อยลูกปัด ทาหน้าที่ควบคุม ค.เปน็ ประเภทที่อยใู่ นบางที่ ง.โครโมโซมไมส่ มารถเปลย่ี นแปลงได้
ลกั ษณะตา่ งๆ ทางพันธกุ รรมจากพอ่ แม่โดยผ่านเซลล์สืบพันธุ์ ไปยังลูกหลาน ในคนจะมียีน
ประมาณ 50,000 ยีน ซึ่งยีนแต่ละตัวจะควบคุม ลักษณะต่างๆ ทางพันธุกรรมเพียงลักษณะ 2. คนปกติจะมจี านวนโครโมโซมเทา่ ใด
เดียว ยีนมีองค์ประกอบท่ีสาคัญเป็น กรดนิวคลีอิก ชนิดท่ีเรียกว่า ดีเอนเอ
(deoxyribonucleic acid : DNA) อันเกิดจากการต่อกันเป็นเส้นของโมเลกุลย่อยที่เรียกว่า ก. 23 คู่ 48 แทง่ ข. 23 คู่ 46 แทง่
นวิ คลีโอไทด์ (nucleotide)
ค. 24 คู่ 46 แท่ง ง. 24 คู่ 48 แทง่
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายการถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรมจากการผสมโดยพจิ ารณาลกั ษณะเดยี ว 3. สิง่ มีชวี ติ ประกอบดว้ ยหน่วยพื้นฐานคอื อะไร
ที่แอลลีลเดน่ ขม่ แอลลีลด้อยอยา่ งสมบรู ณ์ได้ (K)
2. อธิบายการเกิดจีโนไทป์ และฟี โนไทป์ ของลกู และคานวณอตั ราสว่ นการเกิดจีโนไทป์ ก.ยนี ข.โครโมโซม ค.เยื่อห้มุ เซลล์ ง.เซลล์
และฟี โนไทป์ ของรุ่นลกู ได้ (K)
3. อธิบายความแตกตา่ งของการแบง่ เซลล์แบบไมโทซสิ และไมโอซิส (K) 4. บิดาแหง่ พันธศุ าสตร์ คอื ใคร
4. สร้างโมเดลแสดงความสัมพนั ธ์ระหวา่ งยนี ดีเอ็นเอ และโครโมโซม (P)
5. สามารถทางานรว่ มกับผู้อน่ื ไดอ้ ย่างสร้างสรรค์ (A) ก.เกรเกอร์ โยฮันน์ เมนเดล ข.โยฮนั ต์ ฟรดี ริช มีเชอร์

เวลาที่ใช้ 3 ช่ัวโมง ค.ชาลส์ คารว์ นิ ง.ทอมสั มลั ทัส

5. โครโมโซม ประกอบดว้ ยอะไรบา้ ง

ก.โปรตนี และDNA

ข.นา้ ตาลและRNA

ค.นา้ ตาลและDNA

ง.โปรตีนและRNA

6. ขอ้ ใดไม่ใชส่ ว่ นประกอบของนิวคลีโอไทด์ในแตล่ ะหน่วย กระดาษคาตอบ

ก.นา้ ตาลเพนโทส ข.ไนโตรเจนเบส คาชแี้ จง ใหน้ ักเรียนทาเคร่อื งหมาย X ลงในช่องวา่ งให้ตรงกับคาตอบท่ี
นกั เรียนเลือก
ค.หมู่ฟอสเฟต ง.น้าตาลไรโบส
ข้อ ก ข ค ง
7. ขอ้ ใดหมายถงึ ลักษณะทางพันธกุ รรม 1
2
ก.ลักษณะของสิ่งมีชวี ติ ทค่ี วบคมุ โดยยีน ข.ลักษณะซง่ึ ถา่ ยทอดจากรนุ่ หนงึ่ 3
ไปยงั รนุ่ ตอ่ ไป 4
5
ค.ลกั ษณะสบื เนอ่ื งกันไปโดยอาศยั เซลลส์ ืบพันธุ์เป็นสื่อกลาง ง.ถูกทุกขอ้ 6
7
8. เพราะเหตใุ ดจึงตอ้ งใชฮ้ อร์โมนช่วยการขนุ วัว 8
9
ก.ชว่ ยใหว้ ัวตัวผสู้ รา้ งฮอรโ์ มนออกมามากๆ ข.ช่วยใหว้ วั พันธไุ์ ทยเกิดอาการ 10
เป็นสดั
คะแนนที่ได้
ค.ชว่ ยใหว้ วั พนื้ เมอื งเพศเมยี นา้ หนักเพ่ิมขน้ึ ง.ชว่ ยให้วัวตวั ผ้อู ยู่ในอาการสงบ .........................

9. ลกั ษณะใดตอ่ ไปนี้ไม่ถ่ายทอดทางพนั ธุกรรม

ก.ลกั ย้มิ และลกั ษณะตง่ิ หู ข.รปู รา่ งหน้าตา

ค.สตปิ ัญญา ง.ความรู้

10.กาหนดให้ A คมุ ลกั ษณะเด่น a คุมลกั ษณะด้อย

ถ้าผสม Aa × Aa

ผลลัพธ์ AA : Aa : aa = 1:2:1

ผลลัพธ์จากการผสมน้ี ขอ้ ใดกล่าวถกู ต้อง

ก.ถา้ มลี ูกจากการผสม 4 ตวั จะไดล้ ูกแสดงลกั ษณะเดน่ 3 ตัวและลักษณะดอ้ ย 1 ตวั

ข.จะมีโอกาสที่ลกู แสดงลักษณะเดน่ ¾ และลกั ษณะด้อย ¼

ค.จะไดล้ ูกชนดิ จโี นไทป์เหมือนพ่อแม่ ¾

ง.จะไดล้ ูกชนดิ ท่ีมฟี ีโนไทป์เหมอื นพ่อแม่ ½

โครโมโซม (Chromosome) ท่มี า : http://tumcrum3.blogspot.com/2014/01/blog-post_3270.html

หนว่ ยพืน้ ฐานท่ีสาคญั ของสิ่งมีชวี ิตคือ เซลล์ ภายในประกอบด้วยไซ
โทพลาสซมึ และนิวเคลียสอย่ตู รงกลางเซลล์ ภายในนิวเคลยี สจะมโี ครโมโซม ซึง่ มี
ลักษณะ เป็นเส้นใยบาง ๆ พันกันอยู่

แตล่ ะโครโมโซมจะมยี ีนท่ีกาหนดลกั ษณะตา่ งๆ ของสิ่งมชี ีวิตในส่ิงมีชีวติ แต่
ละชนิด จะมีจานวนโครโมโซมแตกต่างกันออกไป

โครโมโซมของร่างกายคนเรามีอยู่ 46 โครโมโซม เม่อื นามาจดั เป็นคู่
ได้ 23 คู่ มีโครโมโซมอยู่ 22 คู่ ทเี่ หมอื นกนั ทัง้ เพศหญงิ และเพศชาย เรยี ก
โครโมโซมทง้ั 22 คนู่ ีว้ ่า โครโมโซมร่างกาย(autosome)

ส่วนคทู่ ่ี 23 จะตา่ งกนั ในเพศหญงิ และเพศชายคือ ในเพศหญงิ โครโมโซม
คนู่ จ้ี ะเหมอื นกนั เรียกวา่ โครโมโซม XX

สว่ นในเพศชายโครโมโซมหน่งึ แท่งของคทู่ ี่ 23 จะเหมอื นโครโมโซม X ใน
เพศหญงิ สว่ นอีกโครโมโซมมีลักษณะแตกตา่ งกัน
ออกไป เรยี กวา่ โครโมโซม Y ส่วนโครโมโซมคู่ที่ 23 ในเพศชาย

เรยี กวา่ โครโมโซม XY ดังน้ันโครโมโซมคทู่ ี่ 23 ทง้ั ในเพศหญงิ และใน
เพศชาย จึงเป็นคูโ่ ครโมโซมทีก่ าหนดเพศใน มนษุ ยจ์ งึ เรียกว่า โครโมโซมเพศ
(sex chromosome)

การแบง่ เซลลใ์ นสิง่ มีชีวิตมี 2 แบบ คือ

1. การแบง่ เซลล์แบบไมโทซสี เป็นการแบง่ นวิ เคลียสของเซลลร์ า่ งกาย โดยการ 2. การแบ่งแบบไมโอซสี เปน็ การแบง่ เซลล์เพ่ือสร้างเซลลส์ บื พนั ธ์ุ กล่าวคือเปน็
แบ่งเซลล์เดมิ ออกเป็น 2 เซลลใ์ หม่ โดยท่นี วิ เคลยี สของทั้ง 2 เซลล์จะเท่ากบั เซลล์ การแบง่ นิวเคลียสของเซลล์ไข่ (egg) และเซลล์อสุจิ (sperm) การแบง่ เซลล์
เดิมดว้ ยเช่นกนั มวี ธิ ีแบ่งเป็นระยะต่างๆ ดงั ภาพ ดังกล่าวน้นี ิวเคลยี สมีการเปลย่ี นแปลง 2 ขั้นตอน คือ
ไมโอซสี I เซลลเ์ ดิมแบ่งออกเป็นเซลลใ์ หม่ โดยนวิ เคลียสของเซลลใ์ หม่จะมี
จานวนโครโมโซมครง่ึ หนึง่ ของเซลล์เดมิ
ไมโอซสี II เปน็ การแบง่ เซลล์เหมือนกบั การแบง่ เซลลแ์ บบไมโทซีส หลงั จากมกี าร
แบ่งเซลล์ในขนั้ นแ้ี ลว้ จะไดเ้ ซลลใ์ หม่ 4 เซลล์ และมีจานวนเซลล์เพยี งครงึ่ หน่งึ ของ
เซลลเ์ ดิม ซึ่งมีวิธแี บง่ เซลล์ ดังภาพ

ระยะอินเตอร์เฟส โครโมโซมมลี กั ษณะคล้ายเสน้ ใย เรยี กวา่ เส้นใยโครมาติน (a) ท่มี า ภาพ : Trueplookpanya
ระยะโปรเฟส โครโมโซมหดสน้ั เขา้ จงึ มองเห็นเปน็ เส้นโครโมโซมสน้ั ลง และ
มกี ารสร้างเสน้ ใยสปนิ เดิล (b – c)
ระยะเมทาเฟส โครโมโซมเรยี งตัวกันกลางเซลล์ (d)
ระยะแอนาเฟส โครมาตินของแตล่ ะโครโมโซมถูกดึงแยกจากกนั โดยเสน้ ใยสปิน
เดลิ (e)
ระยะเทโลเฟส เกิดการแบ่งไซโทพลาสซมึ โดยเยอื่ หุ้มเซลลค์ อดเขา้ หา
กัน จนกระทั่งเซลลแ์ ยกออกจากกัน (f)

ยีน (GENE)

คือ หน่วยพันธุกรรมท่อี ย่บู นโครโมโซม มีลักษณะเรียงกันเหมือนสร้อยลกู ปดั ทาหนา้ ที่ ฟีโนไทป์ (phenotype) หมายถึง ลักษณะทางพนั ธุกรรมของสิ่งมชี ีวิตที่
ควบคุมลักษณะต่างๆ ทางพนั ธกุ รรมจากพอ่ แมโ่ ดยผ่านเซลลส์ บื พนั ธุ์ ไปยังลกู หลาน ในคน
จะมียนี ประมาณ 50,000 ยีน ซึง่ ยนี แตล่ ะตัวจะควบคุม ลักษณะต่างๆ ทางพันธุกรรมเพยี ง อยภู่ ายใตก้ ารควบคุมของจีโนไทป์ ซ่ึงแสดงออกมาใหเ้ หน็ หรือปรากฏแก่
ลักษณะเดยี ว ยนี มีองค์ประกอบท่ีสาคญั เป็น กรดนวิ คลอี ิก ชนิดทีเ่ รยี กว่า ดเี อนเอ
(deoxyribonucleic acid : DNA) อนั เกดิ จากการตอ่ กนั เปน็ เส้นของโมเลกุลย่อยท่เี รียกว่านิ ภายนอก เชน่ จานวนชั้นของหนงั ตา ลักษณะสตี า สีผวิ ความสงู เปน็ ต้น
วคลีโอไทด์ (nucleotide) สว่ นเสน้ โมเลกลุ จะสัน้ หรอื ยาวเท่าใด ขน้ึ อยกู่ ับปรมิ าณของ
โมเลกลุ ยอ่ ยซง่ึ เราสามารถ อธิบายไดง้ ่ายๆวา่ one gene one expression ซง่ึ การแสดงออกของลักษณะทางพนั ธุกรรม
หมายถึง 1 ยนี สามารถแสดงออกได้ 1 ลักษณะเทา่ น้ัน
คขู่ องยีน เซลล์ของรา่ งกายของส่ิงมชี ีวติ จะมโี ครโมโซมทีท่ าหน้าทถี่ า่ ยทอดข้อมลู ทาง จากการทดลองการถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของเมนเดลกล่าวว่า “เมอ่ื มีอัล
พนั ธกุ รรมอยู่ 2 ชดุ เข้าด้วยกนั เรียกว่าโครโมโซมคูเ่ หมอื น และจากทก่ี ล่าวมาแล้ววา่ ยนี ซึ่ง
เป็นตัวควบคุมลกั ษณะทางพนั ธุกรรมจะอยบู่ นโครโมโซม ด้วยเหตุนี้ ถ้าพจิ ารณาลักษณะทาง ลีลทแ่ี ตกตา่ งกัน 2 อลั ลลี อลั ลีลหนง่ึ จะแสดงออกมาได้ดกี ว่า อีกอลั ลีลหนงึ่ อัลลีล
พนั ธุกรรมลกั ษณะใดลกั ษณะหนึ่ง เช่น ลกั ษณะสีของดอก จะพบว่าถา้ มยี ีนทค่ี วบคมุ
ลกั ษณะสีของดอกอยู่บนโครโมโซมแทง่ หน่ึง โครโมโซมที่เป็นคเู่ หมอื นก็จะมียีนที่ควบคุม ทีแ่ สดงออกมาไดด้ ีกว่า เรยี กว่า อัลลีลเดน่ (dominant allele) จะบดบงั อลั
ลักษณะสขี องดอกอยู่ด้วยเช่นกัน
อัลลีล (allele) คอื ยีนทคี่ วบคมุ ลกั ษณะเดียวกันแตต่ ่างรปู แบบกันถงึ แมจ้ ะอยูบ่ น ลลี ทีแ่ สดงออกมาไม่ดเี ท่า เรียกว่า อัลลีลดอ้ ย (recessive allele)" หรอื กล่าวได้
โครโมโซมค่เู หมอื นตรงตาแหนง่ เดยี วกนั ก็ตาม เช่น ลกั ษณะตง่ิ หู จะมียีนท่ีควบคุมอยู่ 2 อัล
ลีล หรือ 2 แบบ คืออลั ลลี ทคี่ วบคมุ การมตี ่งิ หู (ให้สญั ลกั ษณ์เปน็ B )และอลั ลีลทคี่ วบคมุ การ วา่ ลกั ษณะตา่ งๆ ทางพนั ธกุ รรมทเ่ี กดิ จากการจบั คขู่ องยนี จากพอ่ และแม่ และ
ไมม่ ตี งิ่ หู (ให้สญั ลกั ษณ์เปน็ b)
จีโนไทป์ (genotype) คือลักษณะการจับคู่กันของอัลลีลของยีนที่ควบคมุ ลักษณะทาง ถา่ ยทอดมาสรู่ ุ่นลูกหลาน จะมกี ารแสดงออกได้ 2 ลกั ษณะ ดงั น้ี
พันธกุ รรม ซึ่งมี 2 ลักษณะไดแ้ ก่
1. ลักษณะพนั ธุ์แท้ (homozygouse) เปน็ การจับคู่กันของยนี ท่ีมีอัลลลี เหมือนกนั เช่น อลั ลักษณะเดน่ (dominant) หมายถงึ ลักษณะทปี่ รากฏออกมาใน
ลีลควบคุมการมตี ง่ิ หู 2 อลั ลลี จับคูก่ ัน (BB) อัลลีลที่ควบคุมการไมม่ ตี ิ่งหจู บั คูก่ ัน (bb)
2. ลักษณะพันธ์ุทาง (heterozygouse) เป็นการจบั คกู่ นั ของยนี ที่มีอลั ลีลต่างกนั เช่น อัล ทกุ ๆ รุ่นอยา่ งเด่นชัด ซึ่งเกิดจากการจับคขู่ องอลั ลีลทีค่ วบคมุ ลกั ษณะเดน่
ลลี ควบคมุ การมตี ิ่งหจู บั คกู่ บั อัลลีลทค่ี วบคมุ การไมม่ ีติ่งหู (Bb)
เหมือนกันจับคกู่ ันหรอื อาจเกิดจากการท่ีอัลลลี ดอ้ ยถูกขม่ ด้วยอลั ลลี เดน่ ท่ีจับค่กู ัน

ลกั ษณะดอ้ ย (recessive) หมายถึง ลักษณะทีแ่ อบแฝงไมแ่ สดง

ออกมาให้เห็น เมื่ออยูค่ ูก่ ับลักษณะเด่น แต่จะแสดงออกเมอ่ื มีการเข้าคกู่ ับลักษณะ

ด้อย เหมือนกัน ซงึ่ โอกาสทจ่ี ะแสดงออกใหเ้ ห็นจะมนี ้อยกวา่ การแสดงออก ของ

ลกั ษณะเดน่ ท่ีมา ภาพ : Trueplookpanya

เพียงแค่แสกน QR Code
ง่ายนิดเดยี ว

เกรเกอร์โจฮันเมนเดล (Gregor Johann Mendel)

การคน้ พบของเมนเดล วิธีการถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธกุ รรรม
เมื่อปี พ.ศ. 2408 เกรเกอร์ โยฮัน เมนเดล บาทหลวงชาวออสเตรยี ซ่งึ ไดร้ ับยก
ยอ่ งว่าเป็นบดิ าแห่งพันธศุ าสตร์ ได้อธบิ าย ลักษณะบางอยา่ งของสิง่ มีชีวติ ที่ปรากฏ 1. ผา่ นโครโมโซมร่างกาย
ในรุ่นลกู อันเป็นผลมาจากการถ่ายทอด ลักษณะดังกล่าวจากพอ่ แม่ ผา่ นทางเซลล์
สืบพันธ์ุ เมนเดลทาการทดลองศึกษาการถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธุกรรม โดยการ ดงั ท่ที ราบแล้ววา่ โครโมโซมในส่ิงมชี ีวิตจะแบ่งออกเปน็ 2 ประเภท คอื โครโมโซม
ผสมพันธถุ์ ว่ั ลนั เตาท่มี ปี ระวตั ิว่าต้นสงู ทุกรุน่ กับตน้ เตย้ี เคระ ผลปรากฏวา่ รุ่นลูกหรือ
รนุ่ F1 (first filial generation) จะเป็นต้นสูงทงั้ หมดและเมอ่ื เมนเดลนาเอา ร่างกายและโครโมโซมเพศ โครโมโซมรา่ งกายมี 22 คู่ ซงึ่ พบวา่ การถ่ายทอด
เมล็ดท่ีเกิด จากการผสมพนั ธ์ุภายในดอกเดียวกนั ของรนุ่ F1 ไปเพาะเมล็ด ซึง่ เปน็
รุ่นหลาน หรือรุน่ F2 (second filial generation) เจรญิ เตบิ โตเปน็ ตน้ สูงมากกวา่ ลกั ษณะในโครโมโซมร่างกายแตล่ ะคจู่ ะเปน็ ไปตามกฎของเมน
ต้นเตี้ยแคระในอตั ราสว่ น 3 : 1 เมนเดลได้อธบิ ายผลการทดลองทเี่ กดิ ข้ึน
ว่า ลกั ษณะตน้ สงู ที่ปรากฏทกุ รุน่ เรียกวา่ ลักษณะเดน่ (dominant) สว่ น เดล ตัวอยา่ งเช่น ยีนทคี่ วมคุมลักษณะมีตงิ่ หู
ลกั ษณะต้นเตย้ี แคระทีม่ ีโอกาสปรากฏในบางร่นุ เรยี กว่า ลกั ษณะดอ้ ย (recessive)
กฏของเมนเดลน้ัน กล่าวไว้ 2 ขอ้ คือ 2. ผ่านโครโมโซมเพศ
1. กฏแหง่ การแยกตวั
มใี จความว่า “ ยนี แตล่ ะคู่ทค่ี วบคมุ แตล่ ะลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม ลกั ษณะพนั ธกุ รรมตา่ งๆ ทก่ี ลา่ วมาข้างตน้ เป็นการถา่ ยทอดลักษณะ พันธกุ รรม
ของสง่ิ มีชีวติ จะแยกตวั จากกนั เปน็ อสิ ระไปสเู่ ซลลส์ ืบพันธุแ์ ตล่ ะเซลล์ ”
2.กฏแห่งการรวมกลมุ่ กนั อยา่ งอสิ ระ ผ่านทางโครโมโซมร่างกาย แตจ่ ะมลี ักษณะพนั ธุกรรมบางอยา่ ง ทีจ่ ะถา่ ยทอดผ่าน
มีใจความว่า “ ในการสร้างเซลล์สืบพนั ธุ์ จะมีการรวมกลุ่มของ หนว่ ยควบคมุ
ลกั ษณะทางพันธกุ รรม (ยีนเดียวของทุกยนี ) ซ่งึ การรวม กลมุ่ นีเ้ กิดข้นึ อยา่ งอิสระ ” ทางโครโมโซมเพศ

การถ่ายทอดลกั ษณะพันธุกรรรมทางโครโมโซมเพศ จะเกยี่ วเนือ่ งกบั

โครโมโซม X เนอ่ื งจากมียีนทคี่ วบคมุ ลักษณะอ่ืนๆ เช่น ยีนกาหนดตาบอดสี ยนี

กาหนดการแขง็ ตวั ของเลอื ด เป็นตน้ เมือ่ มียนี ควบคุมลักษณะ ดังกล่าวใน

โครโมโซม X ขณะทโ่ี ครโมโซม Y ไมม่ ี จึงทาใหอ้ ลั ลีลดอ้ ยแสดงลกั ษณะ ออกมาได้

อย่างเตม็ ทใี่ นเพศชาย ซึง่ ต่างจากเพศหญงิ ที่มอี ลั ลลี เป็นคู่ แตถ่ ้ายีนใน เพศหญิง

มีอัลลลี ดอ้ ยเพยี งอัลลีลเดยี ว หญิงคนนน้ั จะเปน็ พาหะของโรค ตัวอย่าง เชน่ ยีน

กาหนดตาบอดสี ที่มา ภาพ : Trueplookpanya

เพยี งแคแ่ สกน QR Code
กฎของเมนเดลงา่ ยนิดเดยี ว

ใบกิจกรรมท่ี 1 คาถามทา้ ยกจิ กรรม
เร่อื ง โครโมโซม
1. โครโมโซมในภาพ เป็นโครโมโซมของ.....................................................
วธิ ีปฏิบัติกจิ กรรม 2. โดยดูจากโครโมโซมค่ทู ีเ่ ทา่ ไหร่..............................................................
1. ใหน้ ักเรียนแต่ละกล่มุ ศึกษาจานวนโครโมโซมในร่างกายและ 3. จากขอ้ 2 โครโมโซมค่นู ีเ้ รยี กวา่ ……………………………………………………...
เซลล์สืบพนั ธข์ุ องสิ่งมชี วี ิตชนดิ ต่างๆ ตอ่ ไปนี้
2. เติมตวั เลขแสดงจานวนโครโมโซมลงในตารางให้ถูกตอ้ ง
3. นักเรยี นร่วมกันสรุปผล

สง่ิ มชี วี ิต จานวนโครโมโซม (แทง่ )

มนุษย์ เซลลร์ า่ งกาย (2n) เซลล์สืบพันธุ์ (n)
สนุ ัข
แมลงหว่ี 46
ถ่ัวลันเตา
ข้าวโพด 39
ขา้ ว 8

7
20

12

ใบกจิ กรรมท่ี 2
เรื่อง พนั ธุศาสตรข์ องเมนเดล

วิธปี ฏบิ ตั ิกิจกรรม คาถามทา้ ยกจิ กรรม
1. ให้นักเรียนแต่ละกลมุ่ ศึกษาการผสมถ่วั ลันเตาตอ่ ไปน้ี 1. สขี องฝกั ในรุ่น F1
2. คิดอตั ราสว่ นท่ไี ด้ลงในแผนภาพ ......................................................................................................................................
3. นกั เรยี นร่วมกันสรุปผลจากการผสมถ่ัวลันเตาสีของฝักในรนุ่ ลกู F1 2. ดงั นั้นรุ่น F1 จะมี......................................................................................................
3. คิดเป็นอตั ราส่วนใด .......................................................

1. ในการผสมถ่ัวลนั เตาฝกั สเี ขยี วพนั ธ์ทุ างกบั ถว่ั ลนั เตาฝักสเี หลอื งพันธแ์ุ ท้ จะไดล้ กู มลี กั ษณะ
เป็นอย่างไรบา้ ง คดิ เป็นอตั ราสว่ นเท่าใด (กาหนดให้ G แทนยนี ทีค่ วบคุมลักษณะฝกั สีเหลือง)

ฝกั สีเขียวพันธุ์ทาง ฝกั สเี หลอื งพันธุแ์ ท้

รุน่ พ่อแม่ (P) Gg gg

เซลลส์ ืบพนั ธเุ์ พศผู้

ลูกรุ่นที่ 1 (F1)

แบบทดสอบหลังเรียน 6. ข้อใดไม่ใชส่ ่วนประกอบของนิวคลีโอไทด์ในแต่ละหน่วย
ชดุ ที่ 1 เรือ่ ง โครโมโซมและการค้นพบของเมนเดล
ก.น้าตาลเพนโทส ข.ไนโตรเจนเบส

คาชแ้ี จง 1. ข้อสอบเป็นแบบปรนัยมที ง้ั หมด 10 ขอ้ 10 คะแนน ค.หมฟู่ อสเฟต ง.นา้ ตาลไรโบส
2. จงกาเครือ่ งหมาย X ทับตัวอกั ษร ก ข ค ง ที่ถูกตอ้ งทสี่ ดุ เพยี งข้อเดยี ว
7. ขอ้ ใดหมายถงึ ลกั ษณะทางพันธกุ รรม

1. ข้อใดหมายถึงโครโมโซม ก.ลกั ษณะของส่งิ มชี วี ติ ท่ีควบคุมโดยยีน ข.ลกั ษณะซ่งึ ถา่ ยทอดจากรนุ่ หนง่ึ ไปยังรุ่นต่อไป

ก.ลักษณะซ่งึ ถา่ ยทอดจากรุ่นหนึง่ ไปสู่รนุ่ หน่ึง ข.สารพันธุกรรมซ่งึ กาหนดลักษณะต่างๆ ค.ลกั ษณะสืบเน่อื งกันไปโดยอาศยั เซลล์สืบพันธ์เุ ปน็ ส่ือกลาง ง.ถูกทุกขอ้

ค.เป็นประเภททอ่ี ยู่ในบางท่ี ง.โครโมโซมไม่สมารถเปล่ียนแปลงได้ 8. เพราะเหตุใดจึงต้องใช้ฮอรโ์ มนช่วยการขนุ ววั

2. คนปกติจะมีจานวนโครโมโซมเทา่ ใด ก.ชว่ ยใหว้ ัวตวั ผสู้ รา้ งฮอร์โมนออกมามากๆ ข.ช่วยให้ววั พนั ธไ์ุ ทยเกดิ อาการเป็นสัด

ก. 23 คู่ 48 แท่ง ข. 23 คู่ 46 แท่ง ค.ชว่ ยให้ววั พื้นเมืองเพศเมยี นา้ หนักเพม่ิ ขนึ้ ง.ช่วยให้วัวตวั ผ้อู ยูใ่ นอาการสงบ

ค. 24 คู่ 46 แท่ง ง. 24 คู่ 48 แท่ง 9. ลกั ษณะใดตอ่ ไปนี้ไมถ่ า่ ยทอดทางพันธกุ รรม

3. สงิ่ มชี วี ติ ประกอบด้วยหน่วยพ้นื ฐานคืออะไร ก.ลกั ยมิ้ และลกั ษณะติ่งหู ข.รูปรา่ งหน้าตา

ก.ยีน ข.โครโมโซม ค.เย่ือหุม้ เซลล์ ง.เซลล์ ค.สตปิ ัญญา ง.ความรู้

4. บดิ าแหง่ พนั ธุศาสตร์ คือใคร 10.กาหนดให้ A คมุ ลักษณะเด่น a คุมลกั ษณะด้อย

ก.เกรเกอร์ โยฮันน์ เมนเดล ข.โยฮันต์ ฟรดี รชิ มเี ชอร์ ถ้าผสม Aa × Aa

ค.ชาลส์ คารว์ นิ ง.ทอมัส มลั ทสั ผลลพั ธ์ AA : Aa : aa = 1:2:1

5. โครโมโซม ประกอบดว้ ยอะไรบ้าง ผลลพั ธ์จากการผสมนี้ ขอ้ ใดกลา่ วถกู ตอ้ ง

ก.โปรตนี และDNA

ข.น้าตาลและRNA ก.ถ้ามีลกู จากการผสม 4 ตัว จะได้ลกู แสดงลกั ษณะเด่น 3 ตัวและลักษณะดอ้ ย 1 ตวั

ค.น้าตาลและDNA ข.จะมีโอกาสท่ลี ูกแสดงลกั ษณะเดน่ ¾ และลกั ษณะด้อย ¼

ง.โปรตนี และRNA ค.จะไดล้ ูกชนดิ จีโนไทปเ์ หมอื นพอ่ แม่ ¾

ง.จะได้ลกู ชนดิ ท่ีมฟี ีโนไทป์เหมือนพ่อแม่ ½

กระดาษคาตอบ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น – หลังเรียน

คาช้แี จง ใหน้ ักเรียนทาเครอ่ื งหมาย X ลงในชอ่ งวา่ งใหต้ รงกับคาตอบที่ ขอ้ ก ข ค ง
นักเรียนเลือก 1X
2X
ขอ้ ก ข ค ง 3X
1 4X
2 5X
3 6X
4 7X
5 8X
6 9X
7 10 X
8
9
10

คะแนนทไ่ี ด้
..........................

เฉลยใบกิจกรรมที่ 1 เฉลยใบกิจกรรมที่ 2
เรอ่ื ง โครโมโซม เร่ือง พันธุศาสตรข์ องเมนเดล

สงิ่ มีชีวิต จานวนโครโมโซม (แท่ง) 1. ในการผสมถัว่ ลันเตาฝกั สเี ขียวพันธ์ทุ างกบั ถ่วั ลันเตาฝกั สีเหลืองพนั ธุ์แท้ จะไดล้ ูกมลี กั ษณะ
เป็นอย่างไรบา้ ง คิดเปน็ อัตราสว่ นเท่าใด (กาหนดให้ G แทนยีนทค่ี วบคุมลกั ษณะฝกั สีเหลือง)
มนุษย์ เซลล์ร่างกาย (2n) เซลลส์ ืบพันธุ์ (n)
สนุ ัข คาถามทา้ ยกิจกรรม
แมลงหว่ี 46 23 1. สขี องฝักในรุน่ F1
ถ่ัวลันเตา ...............สีเขียวพันธทุ์ าง , สีเขียวพนั ธทุ์ าง , สีเหลอื งพนั ธแ์ุ ท้ ,สเี หลอื งพันธุ์แท.้ ........
ขา้ วโพด 78 39 2. ดังน้นั รุ่น F1 จะม.ี ....2.....ลกั กษณะ คือ ..ฝักสีเขียวพันทาง และฝักสเี หลืองพันธแุ์ ท้....
ข้าว 84 3. คิดเป็นอัตราส่วนใด ..............1 : 1..............

14 7

20 10

24 12

คาถามท้ายกิจกรรม

1. โครโมโซมในภาพ เปน็ โครโมโซมของ...................หญิง..................................
2. โดยดูจากโครโมโซมคูท่ ี่เทา่ ไหร่..............................23....................................
3. จากข้อ 2 โครโมโซมคู่น้เี รียกว่า.....โครโมโซมเพศ.(Sex.Chromosome)…...

บรรณานกุ รม

รายวชิ าพ้นื ฐาน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฉบับปรบั ปรุง. (2560). วทิ ยาศาสตร์
ม.3 เล่ม 1. กรงุ เทพฯ: สกสค. โรงพิมพ์ สกสค. ลาดพร้าว.

สารานุกรมเสรี. (2558). โครโมโซม ม.3. [ออนไลน์]. เข้าถึงไดจ้ าก :
http://www.flook - coong.blogspot.com (วนั ทค่ี น้ ขอ้ มลู : 7 เมษายน

2563).
ส่ือการเรยี นการสอน วิทยาศาสตร์ ม.3. กฎของเมนเดล ตอนที่ 3. [ออนไลน์]. เข้าถึง
ได้จาก :

https://m.youtube.com (วันทคี่ ้นข้อมลู : 7 เมษายน 2563).


Click to View FlipBook Version