แบบทดสอบวัดผลปลายภาค รายวิชา สุขศึกษา

รายวิชาสุขศึกษา1 รหัสวิชา พ21101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน้า 1 (1) 1. Nervous system คือ ระบบใดของร่างกาย 1. ระบบประสาท 2. ระบบต่อมไร้ท่อ 3. ระบบผิวหนัง 4. ระบบขับถ่าย 2. สมองจะเจริญเติบที่เมื่ออายุเท่าไร 1. 12 – 15 ปี 2. 15 – 18 ปี 3. 18 – 20 ปี 4. 22 – 25 ปี 3. สมองส่วนหน้า ทำหน้าที่ อะไร 1. รับความรู้สึก 2. การเคลื่อนไหว 3. การทรงจำ 4. ควบคุมการหลับตื่น 4. Endocrine system คือ ระบบใด ในร่างกาย 1. ระบบประสาท 2. ระบบต่อมไร้ท่อ 3. ระบบผิวหนัง 4. ระบบกระดูก 5. ไขสันหลัง ทำหน้าที่ อะไร 1. รับความรู้สึก 2. การเคลื่อนไหว 3. การทรงจำ 4. ควบคุมการหลับตื่น 6. ประสาทสมอง ทำหน้าที่ อะไร 1. รับความรู้สึก 2. การเคลื่อนไหว 3. การทรงจำ 4. ควบคุมการหลับตื่น (2) 7. Endocrine system คือ ระบบใด ในร่างกาย 1. ระบบสั่งการของร่างกาย 2. ระบบผลิตสารควบคุมการทำงานร่างกาย 3. ระบบห่อหุ้มร่างกาย 4. ระบบโครงสร้างร่างกาย 8. ฮอร์โมน คืออะไร 1. สารควบคุมการทำงานของร่างกาย 2. สารที่ร่างกายไม่ต้องการ 3. สารที่เกิดความไม่ปกติของร่างกาย 4. สารถ่ายทอดจากพันธุกรรม 9. ต่อมใต้สมองเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าอะไร 1. ต่อมพาราไทรอยด์ 2. ต่อมพิทูอิทารี 3. ต่อมไทรอยด์ 4. ต่อมไพเนียล 10. เวลาตื่นเต้นหรือตกใจ ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนที่ชื่อว่า อะไร 1. นอร์อะดรีนาลิน 2. ออกซิโทซิน 3. อะดรีนาลิน 4. เอฟิเนฟริน 11. อวัยวะใดในร่างกายของคนเราที่ทำหน้าที่เป็นทั้งต่อม มีท่อและต่อมไร้ท่อ 1. ไขสันหลัง 2. ตับอ่อน 3. อัณฑะ 4. สมอง 12. โรคคอพอกเกี่ยวข้องกับต่อมไร้ท่อใดในร่างกาย 1. ต่อมพาราไทรอยด์ 2. ต่อมไทรอยด์ 3. ต่อมไทมัส 4. ต่อมเพศ 13. ในเพศหญิง มีรังไข่ ทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนชนิดใด 1. เทสโทสเตอโรน 2. กลูคากอน 3. โพรแลกติน 4. เอสโตรเจน (3) 14. ข้อใดเป็นการเจริญเติบโตของวัยรุ่นที่มีผลมาจาก สภาพแวดล้อมทางสังคม 1. รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ทุกวัน 2. คึกคะนองจนเกิดอุบัติเหตุ 3. ออกกำลังกายกับเพื่อน 4. เด็กก้าวร้าวเพราะพ่อแม่

รายวิชาสุขศึกษา1 รหัสวิชา พ21101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน้า 2 15. พัฒนาการของวัยรุ่นในข้อใดที่เป็นภัยต่อสังคม 1. ฝันเปียกทุกวัน 2. มีรูปร่างกำยำ 3. เก็บตัวอยู่คนเดียว 4. คิดนอกกรอบ 16. ใครไม่ได้ปฏิบัติตนตามหลักสุขบัญญัติแห่งชาติ 1. พบจิตแพทย์ทุกวันเพื่อดูแลสุขภาพจิต 2. หมั่นหากิจกรรมที่แปลกใหม่ทำอยู่เสมอ 3. ตรวจสุขภาพประจำปีทุกปี 4. พบทันตแพทย์ปีละ 2 ครั้ง 17. บุคคลในข้อใดมีการพัฒนาตนเองให้เจริญเติบโตสมวัย 1. นั่งสมาธิทั้งวันทั้งคืนเพื่อพัฒนากายและจิต 2. เข้าใจผู้อื่นมากกว่าเข้าใจตนเอง 3. เข้ากับคนง่ายและชอบทำงานเป็นกลุ่ม 4. โลกส่วนตัวสูงและชอบทำกิจกรรมคนเดียว 18. การลดน้ำหนักในข้อใดที่ปลอดภัยและได้ผลดีที่สุด 1. การควบคุมอาหารทุกมื้อ 2. การออกกำลังกายทุกวัน 3. การใช้ยาลดความอ้วน 4. การงดรับประทานอาหารบางมื้อ 19. ภาวการณ์เจริญเติบโต ใด ที่เป็นไปตามช่วงของวัยรุ่น 1. เริ่มมีหน้าอกและสะโพกผาย 2. เริ่มมีประจำเดือน 3. มีน้ำหนักและส่วนสูงลดลง 4. มีผมหงอกขึ้นหลายเส้น 20. การลดน้ำหนักในข้อใดที่ปลอดภัยและได้ผลดีที่สุด 1. การงดรับประทานอาหารบางมื้อ 2. การใช้ยาลดความอ้วน 3. การออกกำลังกายทุกวัน 4. การควบคุมอาหารทุกมื้อ

รายวิชาสุขศึกษา3 รหัสวิชา พ22101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน้า 1 (1)1. ปัจจัยใดที่มีอิทธิพลต่อพัฒนาการของวัยรุ่น 1. การออกกำลังกาย 2. การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ 3. การพักผ่อนนอนหลับ 4. ถูกทุกข้อ 2. ข้อใดกล่าวถูกต้อง 1. วัยรุ่นชายจะเจริญเติบโตเร็วกว่าหญิง 2. วัยรุ่นหญิงจะเจริญเติบโตเร็วกว่าชาย 3. การเจริญเติบโตขึ้นอยู่กับพันธุกรรม 4. วัยรุ่นชายกับหญิงมีการเติบโตไม่แตกต่างกัน 3. การเจริญเติบโตและพัฒนาการด้านความสูงขึ้น อยู่กับ ปัจจัยใด 1. พันธุกรรม 2. การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ 3. การออกกำลังกาย 4. ถูกทุกข้อ 4. พัฒนาการของวัยรุ่นผู้หญิงที่เห็นชัดเจน คือ 1. น้ำหนักลด ผอมลง 2. เกิดสิวบนใบหน้าและแผ่นหลัง 3. สะโพกและหน้าอกขยาย 4. เรียบร้อย สุขุมเป็นผู้ใหญ่ 5. ปัจจัยที่ส่งเสริมด้านการปรับตัวของวัยรุ่น คือ 1. แสวงหาความรู้ใหม่ๆ 2. ความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของตน 3. การพุดคุยสอบถามบอกเล่าจากเพื่อน 4. พ่อแม่ ครูคอยแนะนำความรู้ที่ถูกต้อง (2) 6. ข้อใดไม่ใช่พัฒนาการหรือการเปลี่ยนแปลงในวัยรุ่น เพศชาย 1. มีกลิ่นตัวแรง 2. เสียงแตกห้าว 3. ทรวงอกกว้าง สะโพกขยาย 4. ไหล่ขยายก้าง 7. วัยใดที่มีปัญหาด้านอารมณ์มากที่สุด 1. วัยทารก 2. วัยเด็ก 3. วัยรุ่น 4. วัยผู้ใหญ่ 8. พัฒนาการเร็วหรือช้าต่างกัน ขึ้นอยู่กับสิ่งใด 1. เจตคติ 2. การเรียนรู้ 3. วุฒิภาวะ 4. ข้อ ข,ค เป็นคำตอบที่ถูก 9. อิทธิพลที่มีต่อการปรับตัวและพัฒนาการของวัยรุ่นคือ 1. การอบรมเลี้ยงดู 2. อาหาร 3. สิ่งแวดล้อม 4. ถูกทุกข้อ 10. ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตมากที่สุด คือ 1. พันธุกรรม 2. สิ่งแวดล้อม 3. เชื้อชาติ 4. โภชนาการ (3) 11. ผู้ใหญ่ควรแสดงออกอย่างไรเพื่อให้เกิดคุณค่าที่ดี ที่สุดต่อวัยรุ่น 1. เป็นที่ปรึกษาที่ดีต่อวัยรุ่น 2. เป็นแบบอย่างที่ดีต่อวัยรุ่น 3. ให้เกียรติเด็กวัยรุ่นเสมอผู้ใหญ่คนหนึ่ง 4. ให้โอกาสเด็กวัยรุ่นได้แสดงออกอย่างอิสระ 12. ข้อใดเป็นมารยาทที่สุภาพบุรุษพึงปฏิบัติต่อสุภาพสตรี มากที่สุด 1 เดินนำหน้า 2. สละที่นั่งให้ 3. ให้ของขวัญ 4. ลงจากรถทีหลัง 13. การวางตัวของวัยรุ่นเพศชายต่อเพศหญิงข้อใดถือว่าไม่ เหมาะสม 1. ลดการคุยโอ้อวด 2. หาโอกาสลวนลามผู้หญิง 3. ฟังเรื่องราวของผู้หญิงมากกว่าเรื่องของตน 4. ไม่มีข้อใดถูก 14. ข้อใดแสดงว่านาวีมีสัมพันธภาพที่ไม่ดีกับเพื่อน 1. เพื่อนเลือกให้เป็นหัวหน้าห้อง 2. เพื่อนมักชวนไปเที่ยวอยู่เสมอ 3. เพื่อนมักกล่าวคำชมเชยเมื่อช่วยเหลือเพื่อน 4. เพื่อนมีความเกรงใจไม่กล้าเรียกให้ช่วยงาน

รายวิชาสุขศึกษา3 รหัสวิชา พ22101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน้า 2 15. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของการเบี่ยงเบนอารมณ์ทางเพศ 1. การสนใจการศึกษาเล่าเรียน 2. การเข้าร่วมในกิจกรรมนันทนาการ 3. การออกกำลังกายเพื่อช่วยผ่อนคลาย 4. การเปลี่ยนความรู้สึกมาชอบเพศเดียวกัน (4) 16. ทุกข้อคือผลเสียของการแต่งกายล่อแหลมยกเว้นข้อ ใด 1. ทำให้ถูกข่มขืน 2. ทำให้เป็นจุดสนใจ 3. ทำให้เกิดอาชญากรรม 4. ทำให้เกิดการลวนลามอนาจาร 17. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของการเบี่ยงเบนอารมณ์ทางเพศ 1. การสนใจการศึกษาเล่าเรียน 2. การเข้าร่วมในกิจกรรมนันทนาการ 3. การออกกำลังกายเพื่อช่วยผ่อนคลาย 4. การเปลี่ยนความรู้สึกมาชอบเพศเดียวกัน 18. ข้อใดมีความหมายตรงกับทักษะการตัดสินใจเพื่อ ป้องกันปัญหาพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสมมากที่สุด 1. ปฏิเสธการไปเที่ยวกับเพื่อนชาย 2. ไม่ยอมพาเพื่อนชายไปพบพ่อแม่ 3. ปฏิเสธการไปติวหนังสือกับเพื่อน ๆ ที่บ้าน 4. ตั้งใจเรียนโดยไม่สนใจเพศตรงข้าม 19. แนวทางใดที่วัยรุ่นควรยึดถือเป็นแบบอย่างในการ มี พฤติกรรมที่ไม่เลียนแบบสื่อ 1. เชื่อฟังพ่อแม่และปฏิบัติตาม 2. รู้จักวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียและฉลาดเลือก 3. ปฏิบัติตามประเพณีและวัฒนธรรมทุกเรื่อง 4. ฟังเพื่อน ๆ ที่ชักชวนและทำตามเพื่อนส่วนมาก 20. ในปัจจุบันวัยรุ่นมีพฤติกรรมใดที่ไม่เหมาะสม 1. ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย 2. ทำตัวดีไม่เที่ยวเตร่ 3. ทำตัวทันสมัย ใส่ใจเรียน 4. ทำตัวเป็นผู้นำในการเที่ยวเตร่

รายวิชาสุขศึกษา5 รหัสวิชา พ32101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หน้า 1 (1)1. พัฒนาการ หมายถึง 1. การเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ 2. การเสื่อมสภาพของร่างกาย 3. การทดแทนส่วนของร่างกาย 4. ความแตกต่างของร่างกาย 2. วัยทารก หมายถึง 1. เด็กอายุ 1 ปี 2. เด็กที่อยู่ในครรภ์ 3. เด็กแรกเกิด 4. เด็กเกิน 2 ปีขึ้น 3. ช่วงวัยทารก เริ่มตั้งแต่อายุเท่าไรถึงอายุเท่าไร 1. แรกคลอดถึง 1 ปี 2. แรกคลอดถึง 2 ปี 3. แรกคลอดถึง 3 ปี 4. แรกคลอดถึง 4 ปี 4. วัยทารก แบ่งออกเป็นกี่ช่วง 1. 2 ช่วง 2. 3 ช่วง 3. 4 ช่วง 4. 5 ช่วง 5. ช่วงวัยทารกแรกเกิด เริ่มตั้งแต่อายุเท่าไรถึงอายุเท่าไร 1. ตั้งแต่คลอดถึง 2 สัปดาห์ 2. ตั้งแต่คลอดถึง 3 สัปดาห์ 3. ตั้งแต่คลอดถึง 4 สัปดาห์ 4. ตั้งแต่คลอดถึง 5 สัปดาห์ (2) 6. อายุ 7-12 ปี หมายถึง ช่วงวัยไหน 1. วัยเด็ก 2. เด็กวัยเรียน 3. วัยรุ่น 4. วัยผู้ใหญ่ 7. อายุ 2-6 ปี หมายถึง ช่วงวัยไหน 1. วัยเด็ก 2. เด็กวัยเรียน 3. วัยรุ่น 4. วัยผู้ใหญ่ 8. อายุ 13-20 ปี หมายถึง ช่วงวัยไหน 1. วัยเด็ก 2. เด็กวัยเรียน 3. วัยรุ่น 4. วัยผู้ใหญ่ 9. อายุ 21-60 ปี หมายถึง ช่วงวัยไหน 1. วัยเด็ก 2. เด็กวัยเรียน 3. วัยรุ่น 4. วัยผู้ใหญ่ 10. ฟันน้ำนมเริ่มขึ้น คือ พัฒนาการ วัยใด 1. วัยเด็ก 2. เด็กวัยเรียน 3. วัยรุ่น 4. วัยผู้ใหญ่ (3) 11. ความสัมพันธ์ที่แสดงออกต่อเพื่อนในช่วงวัยรุ่น ตอนปลายจะมีลักษณะอย่างไร 1. ไม่ไว้วางใจกัน 2. มั่นคงและราบเรียบ 3. มีความเชื่อมั่นต่อกันน้อย 4. มีความเข้าใจกันดีเป็นบางช่วง 12. การส่งเสริมพฤติกรรมให้ลูกที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นเกิดการ เรียนรู้ให้ครบทุกด้าน ควรทำอย่างไร 1. คอยจ้ำจี้จ้ำไช 2. เป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูก 3. ให้รางวัลในพฤติกรรมที่ดี 4. สังเกตจุดอ่อน และช่วยสร้างทักษะใหม่ที่สามารถ เอาชนะจุดอ่อนได้ 13. ข้อใดเป็นผลดีที่เกิดจากการฝึกให้วัยรุ่นจัดการกับ ความเสี่ยงด้วยตนเอง 1. มองโลกในแง่ดี 2. รู้จักความผิดพลาด 3. เข้าใจโลกและชีวิตมากขึ้น 4. เรียนรู้วิธีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี

รายวิชาสุขศึกษา5 รหัสวิชา พ32101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หน้า 2 14. ข้อใดเป็นการหาพฤติกรรมทดแทนมาแทนที่พฤติกรรม ที่ไม่ต้องการอย่างเหมาะสม 1. การเรียนพิเศษอย่างหนัก 2. การเล่นกีฬาผาดโผน 3. การเล่นเกมออนไลน์ 4. การเล่นดนตรี 15. ข้อใดไม่ใช่บทบาทของโรงเรียนที่มีต่อวัยรุ่น 1. แนะแนวให้คำปรึกษา 2. จัดกิจกรรมที่เน้นเพียงความบันเทิง 3. ประยุกต์ประเด็นร่วมสมัยในเวลาเรียน 4. เป็นศูนย์กลางกิจกรรมนอกเวลาราชการ (4) 16. ข้อใดกล่าวถึงอนามัยเจริญพันธุ์ไม่ถูกต้อง 1. สภาวะที่สมบูรณ์พร้อมสำหรับการสืบทอดเผ่าพันธุ์ 2. การมีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอ 3. การมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย 4. การมีความพึงพอใจทางเพศ 17. การวางแผนครอบครัวมีประโยชน์อย่างไร 1. ช่วยให้ครอบครัวอบอุ่น 2. ช่วยให้เลือกคู่ครองได้อย่างเหมาะสม 3. ช่วยให้ครอบครัวมีความพร้อมในด้านต่างๆ 4. ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการจัดงานแต่งงาน 18. โรคในข้อใดเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทั้งหมด 1. โรคเอดส์ โรคซิฟิลิส 2. โรคมะเร็ง โรคแผลริมอ่อน 3. โรคธาลัสซีเมีย โรคหนองใน 4. โรคเบาหวาน โรคดาวน์ซินโดรม 19. หญิงตั้งครรภ์ควรปฏิบัติตนอย่างไร 1. ออกไปสังสรรค์นอกบ้านกับเพื่อนสนิท 2. นอนพักผ่อน และเคลื่อนไหวร่างกายให้น้อยที่สุด 3. หลีกเลี่ยงการดื่มสุรา และสารเสพติดทุกชนิด 4. ออกกำลังกายอย่างหนักเป็นประจำทุกวัน 20. ข้อใดไม่ใช่ผลจากการที่มารดาเสพสารเสพติดขณะ ตั้งครรภ์ 1. ทารกคลอดก่อนกำหนด 2. ทารกในครรภ์ติดสารเสพติดด้วย 3. ทารกสมองพิการ มีปัญหาด้านพัฒนาการ 4. ทารกมีร่างกายแข็งแรง

รายวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา3 รหัสวิชา พ41101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หน้า 1 (1) 1.ส่วนที่เล็กที่สุดของร่างกายมนุษย์ คือ 1. อะตอม 2. เซลล์ 3. เนื้อเยื่อ 4. อวัยวะ 2. Skeletal system คือ ระบบอะไร 1. ระบบกล้ามเนื้อ 2. ระบบผิวหนัง 3. ระบบกระดูก 4. ระบบหายใจ 3. ผิวหนังที่หลุดออกกล้ายเป็น ขี้ไคล คือ ผิวหนังอะไร 1. หนังเทียม 2. หนังแท้ 3. หนังกำพร้า 4. ไม่มีข้อถูก 4. การดื่มน้ำที่ช่วยรักษาผิวหนังได้ดีควรดื่มวันละกี่แก้วต่อ วัน 1. 2-3 แก้ว 2. 4-5 แก้ว 3. 6-8 แก้ว 4. 10-12 แก้ว 5. สารที่อยู่ในกระดูกมากที่สุด คือ สารอะไร 1. เกลือแร่ 2. ฟอสเฟต 3. แมกนีเซียม 4. แคลเซียม (2) 6.สุขภาพ หมายถึง 1. ภาวะที่ดำรงสภาพความสมบูรณ์ กาย ใจ 2. ภาวะการณ์ที่มีความสุข กาย ใจ 3. การประกอบการให้มีความสุข กาย ใจ 4. สภาพแห่งความสุข กาย ใจ 7. การมี สุขภาพดี หมายถึง 1. ความสมบูรณ์ของกายและใจ 2. ความเพียบพร้อมทุกอย่าง 3. การมีความสุขทางกาย 4. การสะสมความสบาย 8. การที่จะทำให้มีสุขภาพดีเริ่มจากอะไร 1. การดูแลที่ดีด้วยตัวเอง 2. การเลี้ยงดูที่ดีจากครอบครัว 3. การมีชุมชนที่เห็นความสำคัญด้านสุขภาพ 4. การที่ภาครัฐมีนโยบายด้านสุขภาพที่ดี 9. อะไร ไม่ใช่แนวคิดในการดูแลสุขภาพ 1. การดูแลสุขภาพของตนเอง 2. การดูแลสุขภาพของครอบครัว 3. การดูแลสุขภาพของชุมชน 4. การดูแลสุขภาพของภาครัฐ 10. การปฏิบัติตามแนว สุขบัญญัติแห่งชาติเป็นการดูแล สุขภาพในระดับใด 1. การดูแลสุขภาพตนเอง 2. การดูแลสุขภาพครัวครอบ 3. การดูแลสุขภาพชุมชน 4. การดูแลสุขภาคจากภาครัฐ (3) 11. ข้อใด เป็นความหมายของคำว่า พฤติกรรมทางเพศ 1. ความคิด ทัศนคติและการแสดงออกของบุคคล เกี่ยวกับเรื่องเพศ 2. ความสามารถในการให้ความรู้ ความเข้าใจในด้าน พฤติกรรมทางเพศ 3. กลุ่มคนที่ร่วมมือกัน อยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน และมี วัฒนธรรมที่เด่นชัด 4. สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อการดำเนินชีวิต

รายวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา3 รหัสวิชา พ41101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หน้า 2 12. ข้อใด แสดงถึงอิทธิพลของครอบครัวที่มีต่อพฤติกรรม ทางเพศ 1. ทำให้เด็กมีความมั่นใจ กล้าแสดงออก 2. ทำให้เด็กรู้สึกอบอุ่นใจ 3. ทำให้เด็กรู้วิธีการวางตัวต่อเพศตรงข้าม 4. ถูกทุกข้อ 13. ข้อใดกล่าวได้ถูกต้อง 1. วัยรุ่น ชอบอยู่คนเดียว ไม่ค่อยชอบเข้ากลุ่มเพื่อน 2. วัยรุ่น ชาย มีความสนใจเพศของตนเองมากกว่า เพศตรงข้าม 3. วัยรุ่นชอบทำตัวให้เป็นที่ยอมรับของกลุ่มเพื่อน 4. วัยรุ่นหญิงชอบกิจกรรมที่ทะลุดุดัน 14. วัฒนธรรมใดของชาวตะวันตก ที่เด็กวัยร่นไม่ควรนำเอา มาเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต 1. การตรงต่อเวลา 2. การกอดจูบในที่สาธารณะ 3. ความสามัคคีกันในหมู่คณะ 4. ความมั่นใจในตนเอง 15. เมื่อนักเรียนมีอารมณ์ทางเพศ นักเรียนควรระบาย อารมณ์ทางเพศแบบใดจึงจะเหมาะสมที่สุด 1. ชวนเพื่อนไปดูภาพยนต์ 2. ชวนเพื่อนไปเล่นกีฬาที่ชอบ 3. ชวนเพื่อนไปดื่มสุรา 4. ชวนเพื่อนไปเที่ยวผับ (4) 16. สิ่งใดต่อไปนี้มีอิทธิพลมากที่สุดในการสร้างค่านิยม ในเรื่องเพศที่ถูกต้อง 1. ขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมของสังคม 2. ระบบการศึกษาและประสบการณ์ 3. กระบวนการขัดเกลาและถ่ายทอดทางสังคม 4. การอบรมสั่งสอนจากพ่อแม่และสถาบันครอบครัว 17. บุคคลใดปฏิบัติตนตามค่านิยมเรื่องเพศได้เหมาะสม 1. นิด ชอบหยอกล้อกับเพื่อนชายแบบถึงเนื้อถึงตัว 2. แนน ไม่อยู่กับเพื่อนชายสองต่อสองในที่ลับตาคน 3. นุ่น นัดเพื่อนชายไปชมคอนเสิร์ตในตอนกลางคืน 4. หนอน ให้เพื่อนชายจับมืออยู่บ่อยครั้ง 18. ถ้านักเรียนต้องการมีความรักในวัยเรียนสิ่งที่ควรทำคือ ข้อใด 1. ทำตามความต้องการของตนเอง 2. ทำตามความต้องการของคนที่ตนรัก 3. ปฏิบัติตนตามคำแนะนำของเพื่อนสนิท 4. ยึดหลักประเพณีและวัฒนธรรมของสังคมไทย 19. เมื่อนักเรียนมีปัญหาเกิดขึ้นในชีวิตแต่ไม่กล้าบอกพ่อแม่ ควรทำอย่างไร 1. ปรึกษาครู 2. ปรึกษาเพื่อนสนิท 3. ปรึกษาเพื่อนชาย 4. ปรึกษาเพื่อนทางอินเทอร์เน็ต 20. การปฏิบัติตามค่านิยมในเรื่องเพศตามวัฒนธรรมไทยมี ผลดีอย่างไร 1. มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร 2. ครอบครัวแตกแยก 3. ทำแท้งเถื่อน 4. ลดปัญหาท้องไม่พร้อมในวัยเรียน

รายวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา รหัสวิชา พ42101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 หน้า 1 (1) 1. Digestive system คือ 1. ระบบย่อยอาหาร 2. ระบบขับถ่าย 3. ระบบหายใจ 4. ระบบไหลเวียนโลหิต 2. ฟันน้ำนม มีกี่ซี่ 1. 20 ซี่ 2. 22 ซี่ 3. 24 ซี่ 4. 32 ซี่ 2. ท่อปัสสาวะเพศหญิง ยาวประมาณ เท่าไร 1. 4 ซม. 2. 5 ซม. 3. 6 ซม. 4. 7 ซม. 4. ปอดแต่ละข้างมีถุงลมประมาณเท่าไร 1. 100 ล้านถุง 2. 150 ล้านถุง 3. 200 ล้านถุง 4. 250 ล้านถุง 5. อะไรไม่ใช่หน้าที่ของระบบไหลเวียนโลหิต 1. นำก๊าซออกซิเจนไปให้เซลล์ 2. ควบคุมอุณหภูมิ 3. ควบคุมการเป็นกรดเป็นด่าง 4. สร้างภูมิคุ้มกันโรค 6. กระเพาะปัสสาวะ จะรับน้ำปัสสาวะได้ประมาณเท่าไร 1. 200 ซี.ซี. - 400 ซี.ซี. 2. 300 ซี.ซี. - 500 ซี.ซี. 3. 400 ซี.ซี. - 600 ซี.ซี. 4. 500 ซี.ซี. - 700 ซี.ซี. (2) 7. 1. การวางแผนดูแลสุขภาพของบุคคลคืออะไร 1. กระบวนการมนการตัดสินใจที่จะตรวจสุภาพ 2. การกำหนดแนวปฏิบัติเพื่อให้มีสุขภาพดี 3. การวางกรอบชีวิตของบุคคล 4. กระบวนการในการเลือกว่าตนเองจะมีสุภาพ อย่างไร 8. จุดหมายปลายทางของการวางแผนดูแลสุขภาพคืออะไร 1. การกินดีอยู่ดี 2. การมีชีวิตที่ยืนยาว 3. การมีการดูแลสุขภาพตามสุขบัญญัติ 4. การมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี 9. ข้อใดมีผลโดยตรงต่อสุขภาพ ทางด้านคุณค่าของการ วางแผนดูแลสุขภาพของบุคคลในครอบครัว มากที่สุด 1. ช่วยพยากรณ์อนาคตเกี่ยวกับภาวะสุขภาพ 2. ช่วยลดภาวะการเจ็บป่วย พิการและเสียชีวิต 3. ช่วยลดภาระและการประหยัดทรัพยากร 4. ช่วยสร้างความเข้มแข็งและมั่นคง 10. กลวิธีการปรับปรุงแก้ไขพฤติกรรมเพื่อการดูแลสุขภาพ ในข้อใดน่าจะได้ผลมากที่สุด 1. การเตือนความจำ 2. การวางกรอบพฤติกรรม 3. การให้คำมั่นสัญญา 4. การควบคุมตนเอง 11. ข้อใด ไม่ใช่ ข้อดีของการออกกำลังกาย 1. ลดความเครียด 2. ทำให้นอนไม่หลับ 3. ช่วยผ่อนคลายภาวการณ์ปวดประจำเดือน 4. ทำให้ผิวสวย

รายวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา รหัสวิชา พ42101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 หน้า 2 12. การวางแผนดูแลสุขภาพของบุคคลในครอบครัวเป็น หน้าที่ของใคร 1. แม่ 2. พ่อ 3. พ่อ แม่ ลูก 4. ทุกคนในครอบครัว 13. การดูแลสุขภาพของบุคคลในครอบครัวข้อใดสำคัญ ที่สุด 1. การพักผ่อนหลับนอน 2. การป้องกันโรค 3. การรับประทานอาหาร 4. การรักษาความสะอาด 14. ปัญหาความขัดแย้งเรื่องเพศในข้อใด เป็นปัญหาที่พบ มากที่สุด 1. ปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศ 2. ปัญหาการมีพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสม 3. ปัญหาการเบี่ยงเบนทางเพศ 4. ปัญหาการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร 15. ข้อใดเป็นลักษณะปัญหาของครอบครัวที่เกิดจากการมี ช่องว่างระหว่างวัย 1. เกิดการทะเลาะวิวาทกัน 2. มีความขัดแย้ง ขาดความปรองดอง 3. เกิดการหย่าร้าง หรือแยกทางกันของคู่สมรส 4. มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันมาก 16. เมื่อเพื่อนผิดหวังในความรัก นักเรียนควรใช้ทักษะใด ในการช่วยแก้ปัญหาให้กับเพื่อน 1. ทักษะการต่อรอง 2. ทักษะการสื่อสารและสร้างสัมพันธภาพ 3. ทักษะการตัดสินใจและการแก้ปัญหา 4. ทักษะการปฏิเสธ 17. หลักของการสร้างมนุษย์สัมพันธ์คือข้อใด 1. เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม 2. เอาใจเขามาใส่ใจเรา 3. ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน 4. น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า 18. ปฏิเสธด้วยคำตอบน่าเชื่อถือ ท่าทีจริงจัง ข้อใด กล่าว ถูกต้อง 1. คนฐานะดีมักไม่ค่อยมีสัมพันธภาพที่ดีกับบุคคลอื่น 2. ระดับการศึกษาสูงส่งเสริมให้คนในสังคมขาด สัมพันธภาพระหว่างกัน 3. สัมพันธภาพทำให้การดำเนินชีวิตของคนในสังคมมี ความราบรื่น 4. ไม่มีข้อใดถูกต้อง 19. สิ่งสำคัญที่สุดในการสร้างเสริมสัมพันธภาพที่ดีภายใน ครอบครัวคืออะไร 1. การไปเที่ยวร่วมกัน 2. มีพ่อและแม่อยู่ครบ 3. ฐานะทางการเงิน 4. ความเข้าใจ 20. ข้อใด ไม่ใช่ ความขัดแย้ง 1. การเคารพสิทธิของผู้อื่น 2. ความไม่ลงรอยกันในด้านความคิดหรือการกระทำ 3. การแข่งขันหรือทำลายกัน 4. ความรู้สึกของตัวบุคคลหรือกลุ่มคนตั้งแต่ 2 คนขึ้น ไปที่แตกต่างกัน

รายวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา รหัสวิชา พ43101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หน้า 1 (1)1.Nervous System คือ ระบบใด ของร่างกาย 1. ระบบขับถ่าย 2. ระบบสืบพันธ์ 3. ระบบประสาท 4. ระบบต่อมไร้ท่อ 2. สมองส่วนหน้า ทำหน้าที่ อะไร 1. ด้านความทรงจำ 2. ควบคุมการทรงตัว 3. ควบคุมการขบเคี้ยว 4. ควบคุมการหายใจ 3. รังไข่ จะทำหน้าที่ อะไร 1. สร้างประจำเดือน 2. ผลิตไข่ 3. สร้างสเปิร์ม 4. สร้างเชื้ออสุจิ 4. ฮอร์โมน คืออะไร 1. สารควบคุมการทำงานของร่างกาย 2. สารที่ร่างกายไม่ต้องการ 3. สารที่เกิดความไม่ปกติของร่างกาย 4. สารถ่ายทอดจากพันธุกรรม 5. ต่อมไต้สมอง จะผลิตฮอร์โมนอะไร 1. ฮอร์โมนการเจริญเติบโต 2. ฮอร์โมนการทำงานของไต 3. ฮอร์โมนการควบคุมน้ำในร่างกาย 4. ฮอร์โมนการเผาผลาญในร่างกาย 6. ถุงอัณฑะ ทำหน้าที่อะไร 1. รักษาอุณหภูมิตัวอสุจิ 2. สร้างตัวอสุจิ 3. เคลื่อนตัวอสุจิ 4. เก็บตัวอสุจิ (2)7. แนวร่วม คือ อะไร 1. คิดตามเขา 2. เห็นเหมือนกัน 3. อยู่เหมือนเขา 4. กินเหมือนกัน 8. พันธมิตรเพื่อสุขภาพ คือ อะไร 1. ร่วมกลุ่มสังสรรค์ 2. ร่วมกลุ่มประท้วง 3. ร่วมกลุ่มเสี่ยงโชค 4. ร่วมกลุ่มเต้นแอโรบิก 9. อะไร ไม่ใช่ แนวคิดหลักสำคัญในการสร้างเสริมสุขภาพ ในชุมชน 1. เกิดความตระหนักต่อปัญหาชุมชน 2. ร่วมกันวางแผน ดำเนินการ และประเมิน 3. ประธานคนเดียวในการตัดสินใจ 4. การเป็นกลุ่มเป็นก้อน 10. เงิน คือ ข้อใด ในหลักสำคัญการ มีแนวคิดในการสร้าง เสริมสุขภาพในชุมชน 1. ความเข้มเเข็งของชุมชน 2. ทุนทางสังคม 3. การเข้าใจร่วมกัน 4. การมีส่วนร่วมของชุมชน (3) 11.ข้อใด คือ แนวทางการสร้างเสริมสุขภาพและลด พฤติกรรมเสี่ยงของคนในชุน 1. หลัก 6 อ. 2. สุขบัญญัติแห่งชาติ 3. หลัก 4 พ. 4. ถูกทุกข้อ

รายวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา รหัสวิชา พ43101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หน้า 2 12. การจัดสิ่งแวดล้อมให้เอื้อต่อสุขภาพ คือ การดำเนินงาน สร้างเสริมสุขภาพในชุมชน ตามหลัก นโยบาย ๖ อ ในข้อใด 1. อนามัย 2. อาหาร 3. ออกกำลังกาย 4. อโรคยา 13. การออกกำลังกาย คือ บทบาทของการมีส่วนร่วมใน การสร้างเสริมและพัฒนาสุขภาพของบุคคลในชุมชน ใน ด้านใด 1. การให้ความร่วมมือในป้องกันโรค 2. การสร้างเสริมสุขภาพ 3. การเข้ารับบริการสุขภาพของประชาชน 4. การเข้ารับการพัฒนาศักยภาพอาสาสมัคร (4) 14. คอยอบรมสั่งสอนให้รู้ถึงโทษและภัยของสารเสพติด คือเเนวคิดในการป้องกันสารเสติด ในลักษณะใด 1. ป้องกันครอบครัว 2. ป้องกันเพื่อนบ้าน 3. ป้องกันร่วมมือกับราชการ 4. ป้องกันตนเอง 15. เเจ้งเบาะแสการจำหน่ายสารเสพติด คือเเนวคิดในการ ป้องกันสารเสติด ในลักษณะใด 1. ป้องกันเพื่อนบ้าน 2. ป้องกันครอบครัว 3. ป้องกันร่วมมือกับราชการ 4. ป้องกันตนเอง 16. "ซึมเศร้า ชอบเก็บตัว" เป็นโทษที่เกิดจากการใช้สารเสพ ติด ตามข้อใด 1. โทษจากสารเสพติดต่อเศรษฐกิจ 2. โทษจากสารเสพติดต่อตนเอง 3. โทษจากสารเสพติดต่อครอบครัว 4. โทษจากสารเสพติดต่อสังคม 17. "สูญเสียรายได้ของครอบครัว" เป็น โทษที่เกิดจากการ ใช้สารเสพติด ตามข้อใด 1. โทษจากสารเสพติดต่อตนเอง 2. โทษจากสารเสพติดต่อเศรษฐกิจ 3. โทษจากสารเสพติดต่อสังคม 4. โทษจากสารเสพติดต่อครอบครัว 18. "บ่อนทำลายเศรษฐกิจ" เป็น โทษที่เกิดจากการใช้สาร เสพติด ตามข้อใด 1. โทษจากสารเสพติดต่อเศรษฐกิจ 2. โทษจากสารเสพติดต่อตนเอง 3. โทษจากสารเสพติดต่อสังคม 4. โทษจากสารเสพติดต่อครอบครัว 19. "ก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรมต่างๆ" เป็น โทษที่เกิด จากการใช้สารเสพติด ตามข้อใด 1. โทษจากสารเสพติดต่อเศรษฐกิจ 2. โทษจากสารเสพติดต่อครอบครัว 3. โทษจากสารเสพติดต่อตนเอง 4. โทษจากสารเสพติดต่อสังคม 20. "มีนิสัยเกียจคร้าน " เป็น โทษที่เกิดจากการใช้สารเสพ ติด ตามข้อใด 1. โทษจากสารเสพติดต่อตนเอง 2. โทษจากสารเสพติดต่อสังคม 3. โทษจากสารเสพติดต่อครอบครัว 4. โทษจากสารเสพติดต่อเศรษฐกิจ