เรียนรู้สิทธิพื้ นฐาน กฎหมายคุัมครอง และ หน่วยงานต่างๆ
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4
สิทธิผู้บริโภค
กลุ่มที่ 4
สมาชิกกลุ่ม 4
นายภูษณ สืบวงษา ม.5/3 เลขที่ 6
นางสาวภัทราวดี นามมูลตรี ม.5/3 เลขที่ 14
นางสาวณัฐธิดา นาอุดม ม.5/3 เลขที่ 19
นางสาวพรรณวรท ผิวขาว ม.5/3 เลขที่ 24
นางสาววรกานต์ บุญยกาญจนพล ม.5/3 เลขที่ 27
นางสาวนฤมล พลยุทธ์ ม.5/3 เลขที่ 40
นางสาวบอยก้า ศิริวัฒน์ ม.5/3 เลขที่ 41
1. สิทธิพื้ นฐานและบทบาทของผู้บริโภค
ผู้บริโภค หมายถึง ผู้ซื้อหรือผู้ได้รับบริการ
1.1 สิทธิพื้ นฐานของ
จากผู้ประกอบการ และรวมถึงผู้ซึ่งได้รับเสนอ
ผู้บริโภค
หรือชักชวนจากผู้ประกอบการ เพื่อให้ซื้อสินค้า
หรือบริการด้วย
ผู้บริโภคทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับการคุ้มครองดูแลตามกฎหมายอย่าง
เท่าเทียมกัน นอกจากนี้ พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค
พ.ศ.2522 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่2) พ.ศ.2541 ได้บัญญัติสิทธิของผู้
บริโภคที่จะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายไว้ 5 ประการ ดังนี้
สิทธิของผู้บริโภค
ที่ได้รับการคุ้มครอง
1.สิทธิที่จะได้รับข่าวสารรวมทั้งคำ
2. สิทธิที่จะมีอิสระในการเลือก
3. สิทธิที่จะได้รับความปลอดภัย
พรรณนาคุณภาพที่ถูกต้องและ
สินค้าหรือบริการ จากการใช้สินค้าหรือบริการ
เพี ยงพอเกี่ยวกับสินค้าและบริการ
ต่างๆ ได้แก่ สิทธิที่จะเลือกซื้อสินค้า
ได้แก่ สิทธิที่จะได้รับสินค้าหรือ
หรือรับบริการโดยความสมัครใจ
บริการที่ปลอดภัย มีสภาพและ
ได้แก่ สิทธิที่จะได้รับการโฆษณา
ของผู้บริโภคและปราศจากการ
คุณภาพได้มาตรฐานเหมาะสมแก่
หรือการแสดงฉลากตามความเป็น
ชักจูงใจอันไม่เป็นธรรม การใช้ ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อ
จริงและปราศจากพิ ษภัยแก่ผู้
ชีวิตร่างกายหรือทรัพย์สิน
บริโภค รวมตลอดถึงสิทธิที่จะได้
รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า
สิทธิของผู้บริโภค
ที่ได้รับการคุ้มครอง
4. สิทธิที่จะได้รับความเป็นธรรม
5. สิทธิที่จะได้รับการพิ จารณา
ในการทำสัญญา และชดเชยค่าเสียหาย
หากผู้บริโภคได้รับอันตรายจาก
ได้แก่ สิทธิที่จะได้รับการ
สินค้าหรือบริการที่ซื้อไป ถือว่าผู้
คุ้มครองและชดใช้ค่าเสียหาย
ประกอบธุรกิจกระทำผิด
เมื่อมีการละเมิดสิทธิของผู้
กฎหมาย และผู้บริโภคมีสิทธิที่จะ
บริโภคตามข้อ 1. 2. 3. และ 4.
เรียกร้องให้ผู้ประกอบธุรกิจ
ดังกล่าว
ชดใช้ค่าเสียหายได้ตามกฎหมาย
1.2 บทบาทของผู้
1. มีความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเลือกซื้อสินค้า
บริโภคในการ
และบริการ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกที่ผู้บริโภค
ปกป้องสิทธิของตน จำเป็นต้องรู้ เพื่อรักษาสิทธิของตนเอง หากพบว่า
สินค้าหรือบริการขาดคุณภาพมีส่วนประกอบที่ไม่ได้
ผู้บริโภค คือบุคคลทั่วไปที่ไปซื้อสินค้าหรือบริการ
มาตรฐาน มีการโฆษณาเกินจริงหรือล่อลวง ก็ควร
จากผู้ประกอบธุรกิจต่างๆ ทั้งที่เป็นเครื่อง
แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อุปโภคและบริโภค ซึ่งในการทำธุรกิจนั้น มีผู้
ประกอบการจำนวนมากที่ทำการค้าอย่างสุจริต
2. มีความรู้และเข้าใจถึงสิทธิผู้บริโภคที่บัญญัติไว้
แต่มีผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อย ที่ผลิตสินค้า
ในกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค หากผู้บริโภคพบว่ามี
และบริการที่มุ่งเน้นแต่ประโยชน์ทางการค้า ทำให้
การละเมิดสิทธิผู้บริโภคหรือถูกเอารัดเอาเปรียบ ผู้
ผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อน เพื่ อป้องกันการ
บริโภคสามารถนำความรู้ดังกล่าวไปใช้เพื่ อดำเนิน
ถูกเอารัดเอาเปรียบ ผู้บริโภคก็ควรที่จะปกป้อง
การร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่ อช่วยแก้
สิทธิของตนเอง ดังนี้ ปัญหาได้
3. ให้คำแนะนำเกี่ยวกับสิทธิผู้บริโภค ให้ความรู้
เกี่ยวกับการเลือกซื้อสินค้าและบริการแก่บุคคลอื่นๆ
ให้ทุกคนมีความรู้ความเข้าใจถึงสิทธิผู้บริโภค เพื่อไม่
ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบธุรกิจ และเพื่อ
ปกป้องสิทธิของตนเอง
2. กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค
มีวัตถุประสงค์สำคัญอยู่ 3 ประการ คือ เพื่ อให้ผู้บริโภคได้รับ
ความปลอดภัย ความเป็นธรรมและความประหยัด ซึ่งรัฐได้ตรา
กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคไว้หลายฉบับ เพื่ อปกป้องประชาชนไม่ให้
ได้รับอันตราย การถูกรัดเอาเปรียบ จากการบริโภคสินค้าหรือ
บริการที่ไม่ได้มาตรฐาน และเพื่ อเป็นการลงโทษหรือปราบปรามมิให้
ผู้ประกอบการบางรายคำนึงแต่ผลประโยชน์ส่วนตัว
สำหรับกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค ได้รับการตราออกมาใน
ลักษณะต่างๆ ทั้งที่เป็นพระราชบัญญัติ กฎกระทรวง ประกาศ
ระเบียบ คำสั่ง เราจึงควรเรียนรู้กฎหมายซึ่งมีบทบาทเกี่ยวข้อง
อย่างมากกับการดำเนินชีวิตประจำวันของเราในภาพรวม ดังนี้
กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค
ตัวอย่าง พระราชบัญญัติเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค
พระราชบัญญัติเครื่องสำอาง
ตัวอย่างบางมาตรา
พ.ศ.2535
มาตรา 33 เครื่องสำอางที่มีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดใน
มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ พ.ศ.2535 เป็นกฎหมาย
ต่อไปนี้ ให้ถือว่าเป็นเครื่องสำอางที่ไม่ปลอดภัยในการใช้
ที่ใช้บังคับโดยตรงในการกำกับดูแลให้ผู้ประกอบ
ธุรกิจด้านเครื่องสำอางปฏิบัติตาม การไม่กระทำ
1) เครื่องสำอางที่มีสารอาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้
ตามที่กฎหมายกำหนดหรือกระทำฝ่าฝืนข้อกำหนดที่
เจือปนอยู่ด้วย
กฎหมายห้ามไว้เป็นความผิด มีบทกำหนดโทษ ซึ่ง
จุดมุ่งหมายของกฎหมายก็เพื่ อกำกับดูแล
2) เครื่องสำอางที่มีวัตถุที่ห้ามใช้ตามมาตรา 5 (4)
ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่จำหน่ายในประเทศให้มี
กำหนดชื่อวัตถุที่ห้ามใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตเครื่อง
คุณภาพ ปลอดภัย และได้มาตรฐาน สำอาง
3) เครื่องสำอางที่ผลิตหรือใช้ภาชนะบรรจุไม่ถูก
สุขลักษณะอันอาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้
4) เครื่องสำอางที่มีสารอันสลายตัวทั้งหมดหรือแต่
บางส่วน ภายหลังที่บรรจุภาชนะแล้ว และทำให้เกิดเป็นพิษ
อันอาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้
กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค
ตัวอย่าง ประกาศ ระเบียบ คำสั่งที่เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค
คำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่
ตัวอย่างบางมาตรา
15/2551 เรื่องห้ามขายสินค้า ภาชนะสำหรับ
ปรุงหรือบรรจุอาหารที่ใช้ตะกั่วเป็นตัวประสาน
ข้อ 2 ห้ามขายสินค้าภาชนะสำหรับปรุงหรือบรรจุ
อาหารที่ใช้ตะกั่วเป็นตัวประสานรอยเชื่อมต่อ
รอยเชื่อมต่อ
เจตนารมณ์ของคำสั่งฉบับนี้ เพื่อป้องกันผู้บริโภคมิให้
ได้รับอันตรายจากพิษของสารตะกั่ว เนื่องจากมีเหตุอัน
น่าเชื่อว่าสินค้าภาชนะสำหรับปรุงหรือบรรจุอาหารที่ใช้
ตะกั่วเป็นตัวประสานรอยเชื่อมต่อเป็นสินค้าที่อาจเป็น
อันตรายแก่ผู้บริโภค และเป็นกรณีไม่อาจป้องกัน
อันตรายที่เกิดจากสินค้านั้นได้ จึงมีมติให้มีคำสั่งห้าม
ขายสินค้าภาชนะสำหรับปรุงหรือบรรจุอาหารที่ใช้ตะกั่ว
เป็นตัวประสานรอยเชื่อมต่อเป็นการถาวร
3. หน่วยงานดูแลคุ้มครองผู้บริโภค
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับงานคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค ได้แก่
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
1 (สคบ.) สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เป็นหน่วยงานซึ่งมีฐานะ
เทียบเท่ากรมสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี อำนาจและหน้าที่ของ
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคตามพระราชบัญญัตินั้นมี
อยู่ 7 ประการ ซึ่งได้ปฏิบัติการเพื่อช่วยเหลือผู้บริโภค ดังนี้
1. รับเรื่องราวร้องทุกข์จากผู้บริโภค ที่ได้รับความเดือด
ร้อนหรือเสียหาย
2. ติดตามและสอดส่องพฤติการณ์ของผู้ประกอบธุรกิจ
ซึ่งกระทำการใด ๆ อันมีลักษณะเป็นการละเมิดสิทธิของผู้
บริโภค
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (ต่อ)
3. สนับสนุนหรือทำการศึกษาและวิจัยปัญหาเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคร่วมกับสถาบันการศึกษา
4. ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการศึกษาแก่ผู้บริโภค ในทุกระดับการศึกษาเกี่ยวกับความปลอดภัยและ
อันตรายที่อาจจะได้รับจากสินค้า
5. ดำเนินการเผยแพร่วิชาการ และให้ความรู้และการศึกษาแก่ผู้บริโภค เพื่อสร้างนิสัยในการบริโภคที่เป็นการ
ส่งเสริมพลานามัย ประหยัด และใช้ทรัพยากรของชาติให้เป็นประโยชน์มากที่สุด
6. ประสานงานกับส่วนราชการ หรือหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการควบคุมส่งเสริม
7. ปฏิบัติการอื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการหรือคณะกรรมการเฉพาะเรื่องมอบหมาย ที่สำคัญและเป็นประโยชน์
อย่างยิ่ง คือ การแจ้งหรือโฆษณาข่าวสาร เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการที่อาจก่อให้เกิดความเสียหาย
2 สำนักงานคณะกรรมการ
อาหารและยา (อย.)
สังกัดกระทรวงสาธารณสุข
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเป็นส่วนราชการมีฐานะการ
ปกป้องและคุ้มครองสุขภาพประชาชนจากการบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพ
โดยผลิตภัณฑ์สุขภาพเหล่านั้นต้องมีคุณภาพมาตรฐานและปลอดภัย
3 สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.)
สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม
สมอ. มีอำนาจหน้าที่ในการปฏิบัติงานตามพระราชบัญญัติมาตรฐาน
ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 มติคณะรัฐมนตรี นโยบายรัฐบาล
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นโยบายและแผนแม่บทของ
กระทรวงอุตสาหกรรม
4 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ 5 สำนักมาตรฐานและการตรวจสอบ
สินค้าเกษตร (สมก.)
สังกัดกระทรวงสาธารณสุข
- ศึกษาวิจัยและพัฒนาทางห้องปฏิบัติการเพื่อ
สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
สนับสนุนการแก้ไขปัญหาด้านการสาธารณสุขและ
ได้กำหนดให้ สมก. มีอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบ ดังนี้
เศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งตรวจวิเคราะห์เพื่อ
ประเมินความเสี่ยงและเตือนภัยทางสุขภาพ 1. กำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตร สินค้าแปรรูป และ
สินค้าอาหาร
- การตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์สุขภาพ เพื่อ
คุ้มครองผู้บริโภคตามกฎหมายรวมทั้งเป็นห้อง
2. กำกับ ดูแล และเฝ้าระวังด้านความปลอดภัยด้าน
ปฏิบัติการอ้างอิงการตรวจชันสูตร อาหาร
- การพัฒนาและรับรองคุณภาพมาตรฐานทาง
3. ออกใบอนุญาต และรับรองผู้รับรองมาตรฐาน
ห้องปฏิบัติการของรัฐและเอกชนด้านการแพทย์
4. ประสานงานและร่วมเจรจาแก้ไขปัญหาด้านเทคนิค
และสาธารณสุขตามมาตรฐานสากล มาตรการที่มิใช่ภาษี และการกำหนดมาตรฐานระหว่าง
ประเทศ
5. เป็นศูนย์กลางข้อมูลสารสนเทศด้านมาตรฐานสินค้า
เกษตร สินค้าเกษตรแปรรูปและอาหาร
6. ทำหน้าที่ฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการมาตรฐาน
สินค้าเกษตรและอาหาร
Thank you for your
attention