The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานสรุปผลการทำกิจกรรมป.2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Sine Kanyanat, 2024-04-17 03:35:59

รายงานสรุปผลการทำกิจกรรมป.2

รายงานสรุปผลการทำกิจกรรมป.2

รายงานสรุปผลการทำกิจกรรม เพื่อขอรับตราพระราชทานโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย ระดับประถมศึกษา ปีการศึกษา 2566 จัดทำโดย นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 คุณครูที่ปรึกษา นางสาวกัญญาณัฐ วิชัยโย โรงเรียนอนุบาลสร้างคอม ตำบลสร้างคอม อำเภอสร้างคอม จังหวัดอุดรธานี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1


ก คำนำ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม โดยใช้ประสบการณ์ตรงของนักเรียน นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง โดยมีครูเป็นผู้คอยกระตุ้นเพื่อให้นักเรียนเกิด ความสนใจการเรียนรู้มากขึ้น การทดลองวิทยาศาสตร์เป็นกระบวนการแสวงหาความรู้ และค้นคว้า หาคำตอบ ในสิ่งที่นักเรียนเกิดความอยากรู้ หรือสงสัยด้วยการหาคำตอบด้วยวิธีการต่างๆ โดยธรรมชาติของเด็ก มีความ อยากรู้ อยากเห็น มีความคิดการกระทำเป็นของตนเอง ครูควรจัดประสบการณ์ให้นักเรียนได้สังเกต ได้สัมผัส ได้ทดลอง เพื่อตอบสนองธรรมชาติของการเรียนรู้ ช่วยให้เกิดความเจริญงอกงามทางปัญญา การได้คิด ได้ สังเกต ได้สำรวจได้ค้นคว้าทดลองและปฏิบัติจริงด้วยตนเอง จะช่วยให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ มีความเข้าใจใน ระยะยาวมากยิ่งขึ้น ขอขอบพระคุณ นายมงคล ทบพักตร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลสร้างคอม ศึกษานิเทศก์สำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 และคุณครูทุกท่านในโรงเรียนอนุบาลสร้างคอม ที่ให้ คำปรึกษา ให้ข้อแนะนำ ในการวางแผนการทำงานร่วมกัน ทำให้รายงานการจัดการเรียนรู้กิจกรรมบ้าน นักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย ระดับประถมศึกษา 8 กิจกรรม สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ผู้จัดทำหวังรายงานการจัดการเรียนรู้กิจกรรมบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย ระดับ ประถมศึกษา 8 กิจกรรมเล่มนี้ จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่นำไปใช้ และพัฒนาเด็กในระดับชั้นประถมศึกษาปีต่อไป จึงขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ นางสาวกัญญาณัฐ วิชัยโย ผู้จัดทำ


ข สารบัญ เรื่อง หน้า กิจกรรมที่ 1 การสร้างเรือ ๑ กิจกรรมที่ 2 ทุ่น 7 กิจกรรมที่ 3 การฉีดน้ำ 12 กิจกรรมที่ 4 ท่อส่งน้ำ 18 กิจกรรมที่ 5 ทะเลในกล่อง 23 กิจกรรมที่ 6 ภาพสะท้อน 28 กิจกรรมที่ 7 เปียกและเย็น 33 กิจกรรมที่ 8 การวิจัยเกี่ยวกับพืช 38


๑ จุดประสงค์ของกิจกรรม 1. การสังเกต บอกรูปร่างของเรือที่มีความแตกต่างกัน 2. สังเกตและบรรยายรูปร่างของเรือมีผลต่อการบรรทุกสิ่งของอย่างไร 3. สรางแบบจําลองเรือให้สามารถบรรทุกสิ่งของต่างๆ ได้ ขั้นตอนการจัดกิจกรรม ขั้นนำ 1. ครูตั้งคำถามจากการให้เด็กๆ ดูรูปเรือจากสื่อต่างๆ ว่า เด็กๆ รู้จักเรือโดยสารและเรือบรรทุกแบบใดบ้าง (เรือบรรทุกสินค้า เรือใบ เรือพาย เรือยนต์โดยสาร เป็นต้น) 2. ครูให้นักเรียนบอกลักษณะ อธิบายโครงสร้างของเรือตามความเข้าใจของตนเอง - เรือมีขนาดใหญ่กว้าง สี่เหลี่ยม ทรงสูง ลอยน้ำได้ - เรือมีที่นั่งช่องว่างสำหรับขนส่งสินค้าใต้ท้องเรือ 3. ครูให้นักเรียนวาดรูปออกแบบเรือตามความคิดสร้างสรรค์ของตนเองลงใบงานบันทึกกิจกรรม ขั้นทดลอง 4. ครูให้นักเรียนแบงกลุม กลุมละ 4-5 คน และชวยกันออกแบบสร้างเรือให้สร้างบรรทุกลูกแก้วและไม่ จมน้ำได้อยางไร โดยครูคอยใหความชวยเหลือ และตรวจสอบวานักเรียนสามารถใชเครื่องมือในการสร้างเรือได้ หรือไม่ อย่างไร 5. ครูให้นักเรียนบันทึกผลที่ได้ลงในแบบบันทึกกิจกรรม 6. ครูอธิบายลักษณะโครงสร้างของเรือที่ไม่จมน้ำและสามารถบรรทุกสิ่งของได้ใหนักเรียนได้แนวทางสู่การ สร้างเรือที่ถูกต้อง ขั้นสรุป 7. ครูให้นักเรียนบันทึกสิ่งที่พบเพิ่มเติมจากครั้งแรกลงในแบบบันทึกกิจกรรม 8. ครูให้ตัวแทนแตละกลุมนําเสนอผลที่ไดของกลุม โดยใชคําถามดังตอไปนี้ - เรือมีลักษณะโครงสร้างอย่างไร (สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยมหน้ากว้าง) - รูปทรงของเรือมีผลต่อน้ำหนักที่เรือสามารถบรรทุกได้หรือไม่ (มีผล หากเรือมีฐานไม่กว้างก็จะส่งผลต่อ การบรรทุกสิ่งของได้น้อยเช่นกัน แต่หากมีการสร้างพื้นที่เรือให้กระจายน้ำหนักก็จะทำให้เรือนั้นสามารถ บรรทุกสิ่งของได้มากตามอัตราส่วนฐานของพื้นที่เรือ) กิจกรรมที่ 1 เรื่อง การสร้างเรือ


๒ 1.วัสดุ-อุปกรณ์


๓ 2. ขั้นตอนปฏิบัติกิจกรรม 3. การนำสนอผลงาน 4. ผลงานที่สำเร็จ


๔ ผลการจัดกิจกรรม 1. ผลที่เกิดขึ้นตามจุดประสงค์ของกิจกรรม 1. นักเรียนได้ทักษะการสังเกต บอกรูปร่างของเรือที่มีความแตกต่างกัน 2. นักเรียนบรรยายรูปร่างของเรือมีผลต่อการบรรทุกสิ่งของได้ 3. นักเรียนสามารถสรางแบบจําลองเรือให้สามารถบรรทุกสิ่งของต่างๆ ได้ 2. ผลที่เกิดขึ้นตามพัฒนาการความสามารถพื้นฐาน ทักษะทางสังคม - รับฟงบุคคลอื่นและ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่งกันและกัน - ชวยเหลือและใหความ เคารพซึ่งกันและกัน ทักษะกระบวนการ - การสังเกตและอภิปราย ความแตกตางของเรือในแต่ละประเภทที่ใช้งาน - สรางและออกแบบจําลอง อธิบายสวนประกอบของเรือ ทักษะส่วนบุคคล - วางแผนและดําเนินกิจกรรม ดวยตนเองอยางอิสระ - เรียนรูการทํางานใหสําเร็จ ดวยความสามารถของตนเอง โดยอาศัยความรูที่ไดมาจาก การปฏิบัติดวย ตนเอง


๕ ตัวอย่างผลงานนักเรียน


๖ แบบบันทึกกิจกรรมนักเรียน


๗ จุดประสงค์ของกิจกรรม 1. เราใช้ทุ่นเพื่อทำอะไร 2. นักเรียนคิดว่าวัสดุอะไรที่ทำให้ทุ่นลอยน้ำได้ดี เพราะเหตุใด 3. นักเรียนจะทำอย่างไรให้มองเห็นทุ่นของตนเองได้ชัดเจนอย่างไร สีใดที่ควรใช้เป็นสีสำหรับทำ เครื่องหมาย ขั้นตอนการจัดกิจกรรม ขั้นนำ 1. ครูตั้งคำถามจากการให้เด็กๆ ดูรูปทุ่นจากสื่อต่างๆ แล้วให้นักเรียนสะท้อนความคิดจากสิ่งที่เห็นว่าคือ อะไร (ทุ่นลอย ทุ่นสำหรับผูกเรือ ทุ่นกันแนวคลื่น ลูกบอลลอยน้ำ ธงเตือน เป็นต้น) 2. ครูให้นักเรียนบอกลักษณะ อธิบายโครงสร้างของทุ่นตามความเข้าใจของตนเอง - ทุ่นเหมือนลูกบอลลอยน้ำสีแดง สีสดใสดึงดูดในการมองเห็นบนผิวน้ำ 3. ครูให้นักเรียนวาดรูปออกแบบทุ่นลอยตามความคิดสร้างสรรค์ของตนเองลงใบงานบันทึกกิจกรรม ขั้นทดลอง 4. ครูให้นักเรียนแบงกลุม กลุมละ 4-5 คน และชวยกันออกแบบสร้างทุ่นลอยน้ำ โดยครูคอยใหความชวย เหลือ และตรวจสอบวานักเรียนสามารถใชเครื่องมือในการสร้างทุ่นลอยได้หรือไม่ อย่างไร 5. ครูให้นักเรียนบันทึกผลที่ได้ลงในแบบบันทึกกิจกรรม 6. ครูอธิบายลักษณะโครงสร้างของทุ่นที่ไม่จมน้ำและแนวทางการสร้างทุ่นที่ถูกต้อง ขั้นสรุป 7. ครูให้นักเรียนบันทึกสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการลงมือทำทุ่นลงในแบบบันทึกกิจกรรม 8. ครูให้ตัวแทนแตละกลุมนําเสนอผลที่ไดของกลุม โดยใชคําถามดังตอไปนี้ - ทุ่นมีลักษณะโครงสร้างอย่างไร (เบา ลอยน้ำได้ มีสีที่สังเกตเห็นเด่นชัด) - วัสดุอะไรที่ทำให้ทุ่นลอยน้ำได้ดี เพราะเหตุใด (พลาสติกทรงกลมที่มีความแข็งแรง ทนทาน อาทิ ลูกโป่งเป่าลม ลูกบอล ลูกปิงปอง เป็นต้น เพราะวัสดุเหล่านี้มีน้ำหนักเบาลอยน้ำได้ดี) กิจกรรมที่ 2 เรื่อง ทุ่น


๘ 1.วัสดุ-อุปกรณ์


๙ 2. ขั้นตอนปฏิบัติกิจกรรม ๓. การนำสนอผลงาน 4. ผลงานที่สำเร็จ


๑๐ ตัวอย่างผลงานนักเรียน 1. ผลที่เกิดขึ้นตามจุดประสงค์ของกิจกรรม 1. นักเรียนได้ทักษะการสังเกต บอกลักษณะของทุ่นลอยน้ำได้ 2. นักเรียนสามารถเลือกวัสดุที่นำมาทำทุ่นที่มีผลต่อการลอยน้ำได้ 3. นักเรียนสามารถสรางแบบจําลองทุ่นที่มีสีเด่นชัดต่อการสังเกตได้ 2. ผลที่เกิดขึ้นตามพัฒนาการความสามารถพื้นฐาน ทักษะทางสังคม - รับฟงบุคคลอื่นและ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่งกันและกัน - ชวยเหลือและใหความ เคารพซึ่งกันและกัน ทักษะกระบวนการ - การสังเกตและอภิปรายความสำคัญของทุ่นได้ - สรางและออกแบบจําลอง อธิบายสวนประกอบของทุ่น ทักษะส่วนบุคคล - วางแผนและดําเนินกิจกรรม ดวยตนเองอยางอิสระ - เรียนรูการทํางานใหสําเร็จ ดวยความสามารถของตนเอง โดยอาศัยความรูที่ไดมาจาก การปฏิบัติดวย ตนเอง ผลการจัดกิจกรรม


๑๑ แบบบันทึกกิจกรรมนักเรียน


๑๒ จุดประสงค์ของกิจกรรม 1. สังเกตและอธิบาย ความแตกต่างของขวดน้ำแบบรูเดียวและหลายรูมีความแตกต่างกันอย่างไร 2. สังเกตและอธิบาย ความแตกต่างการออกแรงกดขวดน้ำ 3. การฉีดน้ำแบบไหนเหมาะสำหรับการนำไปใช้งานอะไรจึงจะเหมาะสมที่สุด ขั้นตอนการจัดกิจกรรม ขั้นนำ 1. ครูตั้งคำถามว่านักเรียนเคยเล่นปืนฉีดน้ำสงกรานต์หรือไม่ ลักษณะของปืนฉีดน้ำเป็นอย่างไร แล้วให้ นักเรียนสะท้อนความคิดเห็น (ปืนฉีดน้ำมีแรงดันน้ำไหลออกเมื่อเราออกแรงบีบ ปืนกระบอกน้ำขนาดเล็กน้ำ ไหลไม่เยอะไม่แรง ปืนกระบอกฉีดน้ำขนาดใหญ่น้ำจะไหลแรงตามการออกแรงบีบ) 2. ครูให้นักเรียนบอกลักษณะ อธิบายโครงสร้างของกระบอกฉีดน้ำตามความเข้าใจของตนเอง - กระบอกฉีดน้ำลักษณะคล้ายทรงปืนมีที่ใส่น้ำ มีที่กดออกแรงบีบให้น้ำไหลออกมา - กระบอกฉีดน้ำแบบมีรูเดียวน้ำจะไหลแรงไปได้ไกล - กระบอกฉีดน้ำแบบมีหลายรูน้ำจะไหลแรงไปได้ไม่ไกลแต่ปริมาณน้ำกระจายออกหลายทิศทาง 3. ครูให้นักเรียนวาดรูปออกแบบขวดฉีดน้ำตามความคิดสร้างสรรค์ของตนเองลงใบงานบันทึกกิจกรรม ขั้นทดลอง 4. ครูให้นักเรียนทุกคนออกแบบสร้างขวดฉีดน้ำจากอุปกรณ์ที่เตรียมไว้โดยครูคอยใหความชวยเหลือ และ ตรวจสอบวานักเรียนสามารถใชเครื่องมือในการสร้างขวดฉีดน้ำได้หรือไม่ อย่างไร 5. ครูให้นักเรียนบันทึกผลที่ได้ลงในแบบบันทึกกิจกรรม 6. ครูอธิบายลักษณะและแนวทางการทำขวดฉีดน้ำแบบรูเดียวหรือหลายรูให้นักเรียนเลือกใช้ในการ ทดลอง ขั้นสรุป 7. ครูให้นักเรียนบันทึกสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการลงมือทำขวดฉีดน้ำลงในแบบบันทึกกิจกรรม 8. ครูสุ่มตัวแทนนักเรียนให้มานําเสนอผลงานของตนเองที่ได้สร้างขึ้น โดยใชคําถามดังตอไปนี้ 8.1 ให้นักเรียนอธิบาย ความแตกต่างของขวดน้ำแบบรูเดียวและหลายรูมีความแตกต่างกัน อย่างไร เหมาะสำหรับการนำไปใช้งานประเภทไหนจึงจะเหมาะสมที่สุด (กระบอกฉีดน้ำแบบรูเดียวมีน้ำพุ่งได้ในระยะไกล ส่วนกระบอกฉีดน้ำแบบหลายรู จะมีน้ำพุ่งออกมาใน ปริมาณมากแต่น้อยกว่าแบบรูเดียว) 8.2 ให้นักเรียนอธิบาย ความแตกต่างการออกแรงกดขวดน้ำ - แรงที่กระทำต่อขวดจะถูกถ่ายโอนไปยังน้ำที่บรรจุอยู่ในขวด - ยิ่งเจาะรูเล็กลงเท่าไร แรงดันที่น้ำพุ่งออกมาจะมากขึ้นเท่านั้น - ยิ่งออกแรงกดมากเท่าไหร่ น้ำจะพุ่งไกลเท่านั้น - ยิ่งเจาะหลายรู แรงดันน้ำที่พุ่งออกมา จะมีระยะใกล้ แต่มีปริมาณน้ำมากกว่าแบบรูเดียว กิจกรรมที่ 3 เรื่อง การฉีดน้ำ


๑๓ 8.3 ให้นักเรียนบอกลักษณะการใช้งานการฉีดน้ำแบบไหนเหมาะกับเอาใช้ทำงานอะไร - ขวดน้ำแบบรูเดียวเหมาะกับน้ำที่ต้องใช้แรงดันเยอะไปได้ไกล เช่น สายยางฉีดน้ำ - ขวดน้ำแบบหลายรูเหมาะกับน้ำที่ไม่ไหลแรงแต่ต้องการกระจายของน้ำในหลายทิศทาง เช่น ฝักบัวรดน้ำ 1.วัสดุ-อุปกรณ์


๑๔ 3. การนำสนอผลงาน 4 .ผลงานที่สำเร็จ 2. ขั้นตอนปฏิบัติกิจกรรม


๑๕ ๑.ผลที่เกิดขึ้นตามจุดประสงค์ของกิจกรรม 1. นักเรียนสามารถอธิบาย แรงไหลของน้ำจากขวดน้ำแบบรูเดียวและหลายรูมีความแตกต่างกันอย่างไร 2. นักเรียนสามารถอธิบายความแตกต่างการออกแรงบีบขวดน้ำที่มีผลต่อแรงดันน้ำพุ่งค่อยหรือแรง 3. นักเรียนสามารถเลือกการฉีดน้ำไปใช้ในงานต่างๆ ที่เหมาะสมได้ ๒. ผลที่เกิดขึ้นตามพัฒนาการความสามารถพื้นฐาน ๒.๑ ทักษะทางสังคม - รับฟงบุคคลอื่นและ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่งกันและกัน - ชวยเหลือและใหความ เคารพซึ่งกันและกัน ๒.๒ ทักษะกระบวนการ - การคาดการณหรือ การพยากรณ - การบันทึกผลการทํา กิจกรรม - การสังเกตและการ อธิบายความแตกตางของ การเจาะรูขวดน้ำแบบรูเดียวหรือหลายรู - การวัดและการใชจํานวนโดยใชหนวยวัดที่ไมใชหนวยมาตรฐานและหนวยวัดที่เปนหนวย มาตรฐาน ๒.๓ ทักษะส่วนบุคคล - วางแผนและดําเนินกิจกรรมดวยตนเองอยางอิสระ - เรียนรูการทํางานใหสําเร็จดวยความสามารถของตนเอง โดยอาศัยความรูที่ไดมาจาก การ ปฏิบัติดวยตนเอง ผลการจัดกิจกรรม


๑๖ ตัวอย่างผลงานนักเรียน


๑๗ แบบบันทึกกิจกรรมนักเรียน


๑๘ จุดประสงค์ของกิจกรรม สังเกต ทดลอง และอธิบายวิธีการสร้างท่อส่งน้ำ ขั้นตอนการจัดกิจกรรม ขั้นนำ 1. ครูและนักเรียนร่วมสนทนา เรื่องท่อส่งน้ำในโรงเรียน ว่ามีระบบการทำงานอย่างไร และในบางจุดที่ ท่อส่งน้ำแตกเกิดจากปัญหาอะไร (ตอบตามประสบการณของนักเรียน เชน มีท่อวางเรียงต่อกันเป็นทอดๆ บาง จุดที่มีท่อแตกเนื่องจากพบปัญหาตัวเชื่อมข้อต่อหลุด) ขั้นทดลอง 2. ครูให้นักเรียนทุกคนแบ่งกลุ่มละ 4-5 คน ร่วมกันออกแบบสร้างท่อส่งน้ำจากอุปกรณ์ที่เตรียมไว้โดย ครูคอยใหความชวยเหลือ และตรวจสอบวานักเรียนสามารถใชเครื่องมือในการสร้างท่อส่งน้ำได้หรือไม่ อย่างไร 3. ครูให้นักเรียนบันทึกผลที่ได้ลงในแบบบันทึกกิจกรรม 4. ครูอธิบายลักษณะและแนวทางการทำท่อส่งน้ำในรูปแบบต่างๆ เช่น รูเดียวหรือหลายรูให้นักเรียน เลือกใช้ในการทดลอง ขั้นสรุป 5. ครูให้นักเรียนบันทึกสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการลงมือทำท่อส่งน้ำลงในแบบบันทึกกิจกรรม 6. ครูนักเรียนแต่ละกลุ่มมานําเสนอผลงานของตนเองที่ได้สร้างขึ้น โดยใชคําถามดังตอไปนี้ 6.1 นักเรียนคิดว่าที่ใดบ้างที่ต้องการท่อส่งน้ำ แนวทางคำตอบ (แปลงผัก สวนผลไม้ ท่อส่งน้ำดับเพลิง) 6.2 นักเรียนคิดว่าท่อส่งน้ำเชื่อมต่อกันด้วยวิธีใด แนวทางคำตอบ (ข้อต่อตัวเชื่อม กาว) 6.3 นักเรียนมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับการต่อสายยางในสวน แนวทางคำตอบ (การต่อสายยางทำให้สะดวกต่อการรดน้ำอย่างทั่วถึงโดยสามารถตั้งระบบ ควบคุมเปิดปิดได้ไม่เปลืองแรงงาน) 6.4 นักเรียนเคยเห็นท่อที่อยู่ใต้อ่างล้างจานหรือไม่อย่างไร แนวทางคำตอบ (เคย มีลักษณะเป็นท่อยาวๆ มีข้อต่อจากหัวก็อกน้ำลงมา) 6.5 นักเรียนคิดว่าพนักงานดับเพลิงต่อท่อส่งน้ำดับเพลิงได้อย่างไร แนวทางคำตอบ (มีรถบรรทุกน้ำแล้วต่อสายยางยาวๆ ไปยังดับไฟยังจุดต่างๆ) กิจกรรมที่ 4 เรื่อง ท่อส่งน้ำ


๑๙ 1.วัสดุ-อุปกรณ์


๒๐ 2. ขั้นตอนปฏิบัติกิจกรรม 3. การนำสนอผลงาน 4. ผลงานที่สำเร็จ


๒๑ 1. ผลที่เกิดขึ้นตามจุดประสงค์ของกิจกรรม นักเรียนได้สังเกต ทดลอง และสร้างท่อส่งน้ำได้ 2. ผลที่เกิดขึ้นตามพัฒนาการความสามารถพื้นฐาน ๒.๑ ทักษะทางสังคม - รับฟงบุคคลอื่นและ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่งกันและกัน - ชวยเหลือและใหความ เคารพซึ่งกันและกัน ๒.๒ ทักษะกระบวนการ - การคาดการณหรือ การพยากรณ - การบันทึกผลการทํากิจกรรม - การสังเกตและการอธิบายโครงสร้างของท่อส่งน้ำ - การวัดและการใชจํานวนโดยใชหนวยวัดที่ไมใชหนวยมาตรฐานและหนวยวัดที่เปนหนวย มาตรฐาน ๒.๓ ทักษะส่วนบุคคล - เขาใจและยอมรับความคิดเห็นซึ่งกันและกัน - วางแผนและดําเนินกิจกรรมดวยตนเองอยางอิสระ - เรียนรูการทํางานใหสําเร็จดวยความสามารถของตนเอง โดยอาศัยความรูที่ไดมาจากการปฏิบัติดวย ตนเอง ผลการจัดกิจกรรม ตัวอย่างผลงานนักเรียน


๒๒ แบบบันทึกกิจกรรมนักเรียน


๒๓ จุดประสงค์ของกิจกรรม 1. สังเกตและอธิบายส่วนประกอบของทะเล 2. สรางแบบจําลองและ อธิบายความสัมพันธ ของทะเล ขั้นตอนการจัดกิจกรรม ขั้นนำ 1. ครูและนักเรียนร่วมสนทนา เรื่องทะเล ว่ามีส่วนประกอบอะไรบ้าง (น้ำเค็ม คลื่นทะเล ทราย หิน สัตว์ น้ำ พืชน้ำ เป็นต้น) ขั้นทดลอง 2. ครูให้นักเรียนทุกคนแบ่งกลุ่มละ 4-5 คน ร่วมกันออกแบบสร้างทะเลจากอุปกรณ์ที่เตรียมไว้โดยครู คอยใหความชวยเหลือ และตรวจสอบวานักเรียนสามารถใชเครื่องมือในการสร้างทะเลที่มีคลื่นได้หรือไม่ อย่างไร 3. ครูให้นักเรียนบันทึกผลที่ได้ลงในแบบบันทึกกิจกรรม 4. ครูอธิบายลักษณะและแนวทางการสร้างทะเลว่ามีส่วนประกอบอะไรบ้าง (ทราย เปลือกหอย น้ำ) ขั้นสรุป 5. ครูให้นักเรียนบันทึกสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการลงมือสร้างแบบจำลองทะเลลงในแบบบันทึกกิจกรรม 6. ครูนักเรียนแต่ละกลุ่มมานําเสนอผลงานของตนเองที่ได้สร้างขึ้น โดยใชคําถามดังตอไปนี้ 6.1 พื้นผิวของทะเลและชายฝั่งประกอบด้วยอะไร แนวทางคำตอบ (น้ำเค็ม คลื่นทะเล ทราย หิน สัตว์น้ำ พืชน้ำ เป็นต้น) 6.2 วัตถุหรือสิ่งของที่มีน้ำหนักน้อยหรือเบาจะขยับ ลอย หรือเคลื่อนที่ได้ง่ายกว่าวัตถุหรือสิ่งของ ที่มีน้ำหนักมาก แนวทางคำตอบ (วัตถุที่มีน้ำหนักเบาจะลอย วัตถุที่มีน้ำหนักมากจะจม) 6.3 การที่นักเรียนเห็นน้ำขุ่นเนื่องจากมีวัสดุอะไรลอยอยู่ แนวทางคำตอบ (ทราย หิน ใบไม้ เป็นต้น) 6.4 ตะกอนสิ่งต่างๆ ที่ลอยในน้ำมีลักษณะ ความสัมพันธ์กันอย่างไร แนวทางคำตอบ (ยิ่งอนุภาคเล็กและเบา ก็ยิ่งจะทำให้น้ำตกตะกอนช้าลง) 6.5 นักเรียนสร้างคลื่นในทะเลได้อย่างไร แนวทางคำตอบ (สร้างแรงสั่นสะเทือนเขย่ากล่อง/กะละมัง) กิจกรรมที่ 5 เรื่อง ทะเลในกล่อง


๒๔ 1.วัสดุ-อุปกรณ์


๒๕ 2.ขั้นตอนปฏิบัติกิจกรรม 3. การนำสนอผลงาน 4. ผลงานที่สำเร็จ


๒๖ 1. ผลที่เกิดขึ้นตามจุดประสงค์ของกิจกรรม 1. นักเรียนสามารถบอกส่วนประกอบของทะเลได้ 2. สรางแบบจําลองและอธิบายความสัมพันธของทะเลที่เกิดคลื่นได้ 2. ผลที่เกิดขึ้นตามพัฒนาการความสามารถพื้นฐาน ๒.๑ ทักษะทางสังคม - รับฟงบุคคลอื่นและ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่งกันและกัน - ชวยเหลือและใหความ เคารพซึ่งกันและกัน ๒.๒ ทักษะกระบวนการ - บรรยายลักษณะพื้นผิวของทะเลและชายฝั่ง - วิเคราะห์วัตถุหรือสิ่งของที่มีน้ำหนักน้อยหรือเบาจะขยับ ลอย หรือเคลื่อนที่ได้ง่ายกว่าวัตถุ หรือสิ่งของที่มีน้ำหนักมาก ๒.๓ ทักษะส่วนบุคคล - วางแผนและดําเนินกิจกรรม ดวยตนเองอยางอิสระ - เรียนรูการทํางานใหสําเร็จ ดวยความสามารถของตนเอง โดยอาศัยความรูที่ไดมาจากการปฏิบัติดวย ตนเอง ผลการจัดกิจกรรม ตัวอย่างผลงานนักเรียน


๒๗ แบบบันทึกกิจกรรมนักเรียน


๒๘ จุดประสงค์ของกิจกรรม 1. สังเกต บอกลักษณะของเงา และ เปรียบเทียบความแตกต่างของภาพสะท้อน 2. สังเกต เปรียบเทียบ และ ระบุความแตกตางของเงาและภาพสะท้อน 3. อภิปรายและลงขอสรุป เกี่ยวกับเงาแตกต่างจากภาพสะท้อนอย่างไร ขั้นตอนการจัดกิจกรรม ขั้นนำ 1. ครูตั้งคำถามจากการสาธิตรูปแบบเงาต่างๆ ให้เด็กๆ ดู แล้วให้นักเรียนสะท้อนความคิดจากสิ่งที่เห็นว่า คืออะไร และเกิดขึ้นได้อย่างไร (เงา เกิดจากการที่วัตถุได้รับแสงตกกระทบมายังฉากรับจึงทำให้เกิดเงา เมื่อมี วัตถุกั้นแสงจะเกิดเงาบนฉากเป็นบริเวณมืดหลังวัตถุ กล่าวคือ เงาเกิดจากการที่ตัวกลางทึบแสงมาขวางกั้น ทางเดินของแสง โดยรูปร่างของเงาจะเป็นไปตามวัตถุที่มากั้นแสง) 2. ครูให้นักเรียนดูรูปภาพสะท้อน แล้วให้นักเรียนสะท้อนความคิดจากสิ่งที่เห็นว่าคืออะไร และเกิดขึ้นได้ อย่างไร (ภาพเงาสะท้อน เกิดเมื่อแสงตกลงมากระทบกับวัตถุแล้วส่องลงบนพื้นระนาบใสแล้วสะท้อนเข้าสายตา หรือเข้าหากล้อง ไม่ว่าจะเป็นสะท้อนจาก กระจก หรือ ผิวน้ำ โดยภาพเงาสะท้อนจะมีสีสันตามต้นแบบของ วัตถุ) ขั้นทดลอง 3. ครูให้นักเรียนแบงกลุม กลุมละ 4-5 คน และชวยกันออกแบบสร้างภาพสะท้อน โดยครูคอยให้ ความชวยเหลือ และตรวจสอบวานักเรียนสามารถภาพที่เกิดจากเงาสะท้อนได้หรือไม่ อย่างไร 4. ครูให้นักเรียนบันทึกผลที่ได้ลงในแบบบันทึกกิจกรรม 5. ครูอธิบายลักษณะการเกิดเงาและภาพสะท้อนที่ถูกต้อง ให้ชัดเจนในความแตกต่างที่สังเกตเห็น ขั้นสรุป 6. ครูให้นักเรียนบันทึกสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการลงมือสร้างภาพสะท้อนและเงาลงในแบบบันทึกกิจกรรม 7. ครูให้ตัวแทนแตละกลุมนําเสนอผลที่ไดของกลุม โดยใชคําถามดังตอไปนี้ - เงามีลักษณะอย่างไร (รูปร่างของเงาจะเป็นไปตามวัตถุที่มากั้นแสง สีดำทึบ) - ภาพสะท้อนมีลักษณะแตกต่างอย่างไรจากเงา (ภาพเงาสะท้อนจะมีสีสันตามต้นแบบของวัตถุ) กิจกรรมที่ 6 เรื่อง ภาพสะท้อน


๒๙ 1.วัสดุ-อุปกรณ์ 2.ขั้นตอนปฏิบัติกิจกรรม


๓๐ 3. การนำสนอผลงาน 4.ผลงานที่สำเร็จ


๓๑ 1. ทักษะทางสังคม - รับฟงบุคคลอื่นและ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่งกันและกัน - ชวยเหลือและใหความ เคารพซึ่งกันและกัน 2. ทักษะกระบวนการ - การสังเกตและการอธิบายความแตกตางของภาพสะท้อน - การสังเกตและการใชวัสดุ อุปกรณ์ในการทดลองเพื่อสังเกตผล - การจําแนกประเภท 3. ทักษะส่วนบุคคล - เขาใจและยอมรับการสร้างผลงานของตนเอง - วางแผนและดําเนินกิจกรรม ดวยตนเองอยางอิสระ - เรียนรูการทํางานใหสําเร็จ ดวยความสามารถของตนเอง โดยอาศัยความรูที่ไดมาจาก การปฏิบัติ ดวยตนเอง ผลการจัดกิจกรรม ตัวอย่างผลงานนักเรียน


๓๒ แบบบันทึกกิจกรรมนักเรียน


๓๓ จุดประสงค์ของกิจกรรม ๑. สังเกตและเปรียบเทียบ การรับความรูสึกของผิวหนังบริเวณตางๆ ที่สัมผัสกับน้ำเย็นหรือน้ำอุ่น ขั้นตอนการจัดกิจกรรม ขั้นทดลอง 1. นักเรียนจับกลุ่ม 4-5 คนเพื่อทำกิจกรรมร่วมกัน 2. แต่ละกลุ่มร่วมกันตอบคำถามต่อไปนี้ -จะมีความรู้สึกอย่างไรเมื่อเราสัมผัสผ้าที่แช่น้ำอุ่น (ตอบตามความคิด เชน แขนเราจะรู้สึกอุ่นตาม ผิวหนังรู้สึกร้อน เป็นต้น) -จะมีความรู้สึกอย่างไรเมื่อเราสัมผัสผ้าที่แช่น้ำเย็นที่มีน้ำแข็ง (ตอบตามความคิด เชน แขนเราจะ รู้สึกเย็นตาม ผิวหนังรู้สึกเย็น ขนลุก ร่างกายเริ่มหนาวเย็น เป็นต้น) -ผิวหนังบริเวณใดบ้างที่เราสามารถรับรู้ถึงอุณหภูมิต่างๆ ได้ดีทำไมถึงเป็นเช่นนั้น (ตอบตาม ความคิด เชน ฝ่ามือ หน้าผาก คอ ใต้รักแร้ ฝ่าเท้า เป็นต้น เนื่องจากผิวหนังบริเวณดังกล่าวมีชั้นผิวหนังที่บางจึง ทำให้เราสามารถรับรู้ถึงผิวสัมผัสของอุณภูมิร่ายกายต่อสิ่งเร้าภายนอกได้ดีกว่าส่วนอื่นๆ) ขั้นสรุป 3. ภายในกลุ่มเปรียบเทียบผลการสังเกตจากการทำกิจกรรมและร่วมกันตอบคำถามต่อไปนี้ - ความรู้สึกจากการใช้ผ้าเปียกและเย็นเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร (รูสึกแตกต่างกันผ้าเปียก รู้สึกชุ่มชื้น สดชื่น ส่วนผ้าเย็นรู้สึกหนาว) - บริเวณใดที่รับความรู้สึกได้ดีกว่ากัน รู้ได้อย่างไร (ฝ่ามือ ฝ่าเท้า หน้าผาก ใต้รักแร้ เพราะเมื่อผ้า ไปสัมผัสกับผิวหนังบริเวณดังกล่าวจะรู้สึกถึงอุณภูมิต่างๆ ตามผ้าได้ดี รวดเร็ว) - เมื่อแขนเปียกเด็กๆ รู้สึกอย่างไร อุ่นขึ้นหรือเย็นลง (รู้สึกเย็น) - ทราบหรือไม่ว่าทำไมเราถึงเหงื่อออกตอนที่ร่างกายร้อน (เพราะร่ายกายต้องระบายความร้อน ออกนอกร่างกายเพื่อทำให้อุณหภูมิภายในเย็นขึ้น) - คิดอย่างไรที่ว่าทำไมผ้าเปียกช่วยปกป้องเราจากความร้อนในฤดูร้อนได้(ช่วยได้ เพราะผ้าเปียก จะทำให้ร่างกายรู้สึกเย็นขึ้น สดชื่น ลดความร้อนในร่างกายได้) - ทำไมน้ำบนแขนถึงเย็นลง (เพราะน้ำมีการระเหยกลายเป็นไอจากความร้อนบริเวณโดยรอบ) - ทำไมน้ำอุ่นถึงเย็นลงหลังจากทิ้งไว้สักครู่ (เพราะน้ำมีการระเหยกลายเป็นไอจากความร้อน บริเวณโดยรอบ) 4. นักเรียนสรุปสิ่งที่ไดเรียนรูในประเด็นตอไปนี้ - ผิวหนังมีความสําคัญโดยใชในการรับสัมผัส - ผิวหนังบริเวณฝามือ ฝ่าเท้า หน้าผาก ใต้รักแร้ เป็นจุดที่บริเวณผิวหนังรับสัมผัสถ่ายเทอุณหภูมิ ต่างๆ ไดดี กิจกรรมที่ 7 เรื่อง เปียกและเย็น


๓๔ 1.วัสดุ-อุปกรณ์


๓๕ 2.ขั้นตอนปฏิบัติกิจกรรม 3. การนำสนอผลงาน 4. ผลงานที่สำเร็จ


๓๖ 1. ผลที่เกิดขึ้นตามจุดประสงค์ของกิจกรรม นักเรียนได้สังเกตและเปรียบเทียบ การรับความรูสึกของผิวหนังบริเวณตาง ๆ ที่ฝามือและหน้าผาก พบว่า บริเวณดังกล่าว สามารถรับความรูสึกถึงอุณหภูมิต่างๆ ได้ดี 2. ผลที่เกิดขึ้นตามพัฒนาการความสามารถพื้นฐาน ๒.๑ ทักษะทางสังคม - รับฟงบุคคลอื่นและ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่งกันและกัน - ชวยเหลือและใหความ เคารพซึ่งกันและกัน ๒.๒ ทักษะกระบวนการ - การสังเกตและอธิบายความแตกตางของการตอบสนองตอสิ่งเราในร่างกาย ๒.๓ ทักษะส่วนบุคคล - วางแผนและดําเนินกิจกรรมดวยตนเองอยางอิสระ - เรียนรูการทํางานใหสําเร็จดวยความสามารถของตนเองโดยอาศัยความรูที่ไดมาจากการปฏิบัติ ดวยตนเอง ผลการจัดกิจกรรม ตัวอย่างผลงานนักเรียน


๓๗ แบบบันทึกกิจกรรมนักเรียน


๓๘ จุดประสงค์ของกิจกรรม 1. สังเกต และอธิบายการลักษณะของใบไม้เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร 2. สังเกตและบอกโครงสร้างลักษณะของพืชใบเลี้ยงเดี่ยว พืชใบเลี้ยงคู่ ขั้นตอนการจัดกิจกรรม ขั้นนำ ๑. ครูให้นักเรียนอภิปรายรวมกัน เพื่อหาคําตอบในสิ่งที่สงสัย ดังนี้ - พืชแต่ละชนิดมีลักษณะใบไม้เหมือนกันหรือไม่ อย่างไร (ไม่เหมือนกัน พืชบางชนิดยาวเรียว พืชบางชนิดกลมมน บางชนิดขอบหยัก) - ใบไม้แต่ละชนิดมีส่วนประกอบโครงสร้างเหมือนและแตกตางกันอยางไร (ส่วนใหญ่ที่ เหมือนกันคือสีเขียว มีเส้นกลางใบ แต่บางชนิดก็มีใบสีเหลือง สีแดง สีชมพู โดยพืชใบเลี้ยงเดี่ยวจะมีเส้นใบ ขนาน ส่วนพืชใบเลี้ยงคู่จะมีเส้นใบร่างแห) - ถาตองการหาคําตอบวา “ใบไม้แต่ละชนิดมีลักษณะเหมือนกันหรือไม่ อย่างไร” นักเรียนจะทํา การทดลองอยางไรเพื่อตอบคําถามนี้(ออกไปสำรวจเก็บตัวอย่างใบไม้ชนิดต่างๆ ในโรงเรียนมาศึกษา) ขั้นทดลอง 2. ครูให้นักเรียนทุกคนออกไปสำรวจค้นคว้า ศึกษาลักษณะของใบไม้ชนิดต่างๆ โดยครูคอยใหคำแนะนำ ช่วยเหลือและตรวจสอบวานักเรียนสามารถศึกษาข้อมูลการวิจัยได้หรือไม่ อย่างไร 3. ครูให้นักเรียนบันทึกผลที่ได้ลงในแบบบันทึกกิจกรรม 4. ครูอธิบายลักษณะของใบไม้ที่นักเรียนควรนำมาศึกษาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อนๆ ขั้นสรุป 5. ครูให้นักเรียนบันทึกสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการลงมือศึกษาค้นคว้าลงในแบบบันทึกกิจกรรม 6. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปและอภิปรายผล โดยให้นักเรียนนําเสนอข้อมูล ผลงานของตนเองที่ได้ ศึกษา ค้นคว้า เรียนรู้มากับเพื่อนๆ ภายในห้อง โดยใชคําถามดังตอไปนี้ 6.1 อธิบาย ความแตกต่างของลักษณะใบไม้ที่สำรวจพบ (ใบไม้แต่ละชนิดมีลักษณะใบไม่ เหมือนกัน พืชบางชนิดใบยาวเรียว พืชบางชนิดใบกลมมน บางชนิดใบขอบหยัก โดยใบไม้ส่วนใหญ่มีสีเขียว) 6.2 บอกโครงสร้างลักษณะของพืชใบเลี้ยงเดี่ยว พืชใบเลี้ยงคู่ (พืชใบเลี้ยงเดี่ยวจะมีเส้นใบขนาน เช่น ใบมะม่วง ใบหม่อน ส่วนพืชใบเลี้ยงคู่จะมีเส้นใบร่างแห เช่น ใบไผ่ ใบหมาก) กิจกรรมที่ 8 เรื่อง การวิจัยเกี่ยวกับพืช


๓๙ 1.วัสดุ-อุปกรณ์


๔๐ 2.ขั้นตอนปฏิบัติกิจกรรม 3. การนำสนอผลงาน


๔๑ 1. ผลที่เกิดขึ้นตามจุดประสงค์ของกิจกรรม 1.1 นักเรียนได้ทักษะการสังเกต และอธิบายลักษณะของใบไม้ที่เหมือนหรือแตกต่างกันได้ 1.2 นักเรียนสามารถบอกโครงสร้างลักษณะของพืชใบเลี้ยงเดี่ยว พืชใบเลี้ยงคู่ 2. ผลที่เกิดขึ้นตามพัฒนาการความสามารถพื้นฐาน 2.1 ทักษะทางสังคม - รับฟงบุคคลอื่นและ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่งกันและกัน - ชวยเหลือและใหความเคารพซึ่งกันและกัน 2.2 ทักษะกระบวนการ - การทําความเขาใจและ ตั้งสมมติฐานการทดลอง และสงตอไปยังสมมติฐาน การทดลองอื่นๆ - พยากรณ์ลักษณะโครงสร้างของพืชของแตละคน - การบันทึกผลการทํากิจกรรม - การทดลอง - การสะทอนความเขาใจ เกี่ยวกับส่วนประกอบของพืชที่แตละคนมีความแตกตางกัน 2.3 ทักษะส่วนบุคคล - วางแผนและดําเนินกิจกรรมดวยตนเองอยางอิสระ - เรียนรูการทํางานใหสําเร็จดวยความสามารถของตนเอง โดยอาศัยความรูที่ไดมาจาก การปฏิบัติ ดวยตนเอง 4. ผลงานที่สำเร็จ ผลการจัดกิจกรรม


๔๒ ตัวอย่างผลงานนักเรียน


๔๓ แบบบันทึกกิจกรรมนักเรียน


๔๔


Click to View FlipBook Version