คู่มือนิสิตแพทย์ ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก โรงพยาบาลแพร่ ปีการศึกษา 2565

คูม ือนิสิตแพทย

ปการศกึ ษา ๒๕๖๕

ศูนยแ พทยศาสตรศึกษาชน้ั คลนิ กิ โรงพยาบาลแพร

เปนศูนยแ พทยฯ ในการสรา งผนู ำดานบรกิ ารสขุ ภาพ
ดว ยนวัตกรรมภายใตก ารบริการท่เี ปน เลิศ

คมู่ ือนสิ ติ แพทย์ ปกี ารศึกษา 2565

คำนำ

หลกั สูตรแพทยศาสตรบัณฑติ ไดจ้ ัดวธิ กี ารเรยี นรู้เพอื่ ใหบ้ รรลุวัตถปุ ระสงค์ ซ่งึ ครอบคลุมทั้งความร้พู นื้ ฐาน
ทางคลนิ ิก เนน้ การฝึกทักษะในการทำหัตถการต่างๆ และเจตคติที่ดีในการเป็นแพทย์ อีกทั้งนำความรู้ไปใช้ในการ
แกป้ ญั หาสขุ ภาพตา่ งๆ ไดเ้ พิ่มพูนความสามารถและความชำนาญมากขึ้น โดยจัดให้ฝึก ปฏิบตั แิ ละศกึ ษาจากผปู้ ่วย
จริง เน้นการเรียนรู้กระบวนการแก้ปัญหา (Problem solving) เป็นหลัก ด้านทักษะ ได้จัดให้มีการ สอนแสดง
วิธีการต่างๆ (manual skills) และให้นิสิตแพทย์ฝึกฝนโดยตนเอง จนเกิดความชำนาญตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้
ทางด้านเจตคตินั้นนิสิตแพทย์จะได้เรียนรู้จากการสังเกตจากอาจารย์ และแพทย์ รุ่นพ่ีในขณะท่ีปฏิบัติการดูแล
แกป้ ญั หาผปู้ ่วยท้งั ผปู้ ว่ ยนอกและผู้ปว่ ยใน

คู่มือนิสิตแพทย์เล่มนี้ จะมีข้อแนะนำหลักสูตรการเรียนการสอนทั้งภาคปฏิบัติ และภาคทฤษฎีปฏิทิน
การศึกษา รวมท้ังวิธีการเรียนและการวัดประเมินผลการเรียนของนิสิตแพทย์ มีการเน้นถึงกฎระเบียบและข้อ
ปฏิบัติต่างๆ ที่นสิ ิตแพทย์ตอ้ งปฏิบตั ิ ดังน้ัน งานพฒั นาหลกั สูตร ศูนย์แพทยศาสตรศกึ ษาช้ันคลินิก โรงพยาบาล
แพร่ หวงั เป็นอยา่ งยิง่ ว่าเอกสารฉบบั นี้ จะเปน็ คู่มือใหน้ ิสิตแพทย์ได้ใชป้ ระโยชนไ์ ดเ้ ปน็ อย่างดี

( ผศ.(พิเศษ) นพ.ประการณ์ องอาจบุญ )
ผู้อำนวยการศูนย์แพทยศาสตรศกึ ษาชน้ั คลนิ กิ

โรงพยาบาลแพร่

คมู่ อื นิสติ แพทย์ ปกี ารศึกษา 2565

สารบญั หนา้

คำนำ 1
สารบญั 14
หลกั สตู รแพทยศาสตรบณั ฑติ หลักสตู รปรับปรงุ พ.ศ.2562 16
วิชาเอกเลอื กเสรี 27
ข้อบังคบั มหาวทิ ยาลัยนเรศวร ว่าด้วย การศึกษาระดบั ปริญญาตรี พ.ศ.2549 29
Educational Outcome “ Seven – star doctors ” 30
วิสยั ทัศน์ พันธกิจ และค่านยิ ม 34
โครงสร้างศนู ย์แพทยศาสตรศกึ ษาช้ันคลนิ กิ
ปฏทิ ินการศึกษา 2565

ภาคผนวก 35
สทิ ธิผู้ปว่ ย 36
ขอ้ กำหนดพฤตกิ รรมด้านคุณธรรมจรยิ ธรรมสำหรับนิสิต 44
เคลด็ ลบั ของแพทย์ทีป่ ระสบความสำเร็จ
ระเบียบศูนย์แพทยศาสตรศึกษาช้ันคลนิ ิก โรงพยาบาลแพร่ วา่ ด้วย 46
หอพกั นสิ ิตแพทย์ พ.ศ. 2552 52
ระเบยี บของการใช้ห้องสมุดโรงพยาบาลแพร่ 55
ผูป้ ระสานงานและรับผดิ ชอบรายวิชา 56
เบอรโ์ ทรศัพท์

-1- คู่มือนิสติ แพทย์ ปีการศึกษา 2565

หลักสตู รแพทยศาสตรบณั ฑิต
หลกั สตู รปรับปรงุ พ.ศ. 2562

ชอ่ื สถาบันอดุ มศกึ ษา มหาวทิ ยาลัยนเรศวร คณะแพทยศาสตร์

ข้อมูลทั่วไป

1. ชือ่ หลกั สูตร

ช่ือหลกั สูตร (ภาษาไทย) หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑติ

(ภาษาอังกฤษ) Doctor of Medicine Program

2. ชื่อปริญญาและสาขาวชิ า

ภาษาไทย (ชื่อเต็ม) แพทยศาสตรบณั ฑิต

(ชื่อยอ่ ) พ.บ.

ภาษาอังกฤษ (ชอ่ื เต็ม) Doctor of Medicine

(ชอ่ื ยอ่ ) M.D.

3. ปรัชญา ความสำคัญ วัตถปุ ระสงค์ของหลักสตู ร

3.1 ปรชั ญาของหลกั สตู ร

สร้างบณั ฑติ แพทย์ทม่ี คี วามรแู้ ละทักษะในการส่งเสรมิ สุขภาพ ปอ้ งกนั โรค บาบัดรักษาและฟืน้ ฟูสภาพ ได้

ถกู ต้องตามหลักวิชาการอย่างเปน็ องค์รวม ด้วยจิตวิญญาณแห่งความเป็นมนุษย์ มคี วามสามารถในการใช้วิจำรณ

ญาณในการแก้ปัญหา การคิดวเิ คราะห์อย่างเป็นระบบ การทางานรว่ มกับผู้อื่นและสหวิชาชีพ มที กั ษะการส่อื สารท่ี

ดี มคี วามเป็นผู้นำ ใฝ่เรียนรู้และสามารถเรียนรู้ดว้ ยตนเองได้อย่างตอ่ เน่ืองตลอดชีวิต มีความรับผดิ ชอบ มีเจตคติ

อนั ดีงาม ปฏบิ ัติตนถูกตอ้ งตามหลักเวชจริยศาสตร์และกฎหมายบ้านเมือง ดำรงตนอยู่ในฐานะแพทย์และสมาชิก

ของสงั คมไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ตลอดจนสร้างประโยชนส์ ขุ แกช่ ุมชน สังคม ประเทศและมวลมนษุ ยชาติ

3.2 ความสำคัญของหลักสูตร

ปัจจุบันประเทศไทยมีจำนวนแพทย์ไม่เพียงพอและมีปัญหาความเหล่ือมล้าในการกระจำยของแพทย์ใน

ชุมชนเมืองและชุมชนท่ีห่างไกล เพ่ือให้การบริการสุขภาพท่ีมีคุณภาพแก่ประชาชนอย่างเท่าเทียมกันหลักสูตร

แพทยศาสตรบัณฑิต คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรจึงมีเป้าหมายเพ่ือผลิตบัณฑิตแพทย์ท่ีมีความรู้

ความสามารถ ทักษะ และเจตคติอนั ดีงามใหอ้ อกไปรบั ใชส้ ังคมและประเทศชาตติ ่อไป

3.3 วัตถปุ ระสงค์ของหลกั สูตร

เพือ่ สรา้ งบัณฑิตแพทย์ทมี่ ีความร้คู วามสามารถ ทกั ษะ และเจตคติ ตามเกณฑ์มาตรฐานผู้ประกอบวิชาชีพ

เวชกรรมของแพทยสภา พ.ศ. 2555 มาตรฐานคุณวุฒิระดบั ปริญญาตรี สาขาวิชาแพทยศาสตร์ พ.ศ.2561 และ

กรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา พ.ศ. 2552 รวมถึงมีทักษะของศตวรรษที่ 21 (21st century skills)

โดยมงุ่ เนน้ คณุ ลักษณะบัณฑติ ท่พี งึ ประสงค์ท่ีเรียกว่า “แพทยเ์ จ็ดดาว” (7-star doctor)

-2- คมู่ อื นสิ ติ แพทย์ ปีการศกึ ษา 2565

3.4 โครงสร้างหลกั สูตร
จำนวนหน่วยกิตรวมตลอดหลกั สตู ร 254 หน่วยกิต
โครงสร้างหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต หลักสูตรปรบั ปรุง พ.ศ. 2562 เปรียบเทียบกับเกณฑ์
มาตรฐานหลักสูตรระดับอุดมศึกษา พ.ศ. 2558 และมาตรฐานคุณวุฒิระดับปริญญาตรี สาขาวิชา
แพทยศาสตร์ พ.ศ. 2561

499412 -3- คู่มือนสิ ติ แพทย์ ปีการศึกษา 2565
499413
499414 ชน้ั ปีที่ 4 4 (4-0-8)
499415 4 (0-8-4)
499416 ทฤษฎที างอายุรศาสตร์ 1 4 (4-0-8)
499417 Theory in Medicine 1 4 (0-8-4)
499418 สมรรถนะทางอายรุ ศาสตร์ 1 3 (3-0-6)
499419 Competency in Medicine 1 3 (0-6-3)
499420 ทฤษฎที างศัลยศาสตร์ 1 3 (3-0-6)
499421 Theory in Surgery 1 3 (0-6-3)
499422 สมรรถนะทางศัลยศาสตร์ 1 4 (3-2-7)
499423 Competency in Surgery 1 3 (1-4-4)
499804 ทฤษฎที างกมุ ารเวชศาสตร์ 1 4 (2-4-6)
Theory in Pediatrics 1 4 (1-6-5)
สมรรถนะทางกมุ ารเวชศาสตร์ 1 2 (1-2-3)
Competency in Pediatrics 1 รวม 45 หนว่ ยกิต
ทฤษฎที างสูตศิ าสตรแ์ ละนรีเวชวทิ ยา 1
Theory in Obstetrics and Gynecology 1
สมรรถนะทางสูติศาสตรแ์ ละนรเี วชวิทยา 1
Competency in Obstetrics and Gynecology 1
รงั สีวิทยา
Radiology
เวชศาสตร์ชุมชนและอาชีวเวชศาสตร์
Community and Occupational Medicine
จิตเวชศาสตร์
Psychiatry
วิจยั ทางการแพทย์
Medical Research
ระบบสุขภาพศาสตร์ 4
Health Systems Science 4

499509 -4- ค่มู อื นสิ ติ แพทย์ ปกี ารศึกษา 2565
499510
499511 ชัน้ ปที ี่ 5 2 (2-0-4)
499512 2 (0-4-2)
499513 ทฤษฎที างอายรุ ศาสตร์ 2 2 (2-0-4)
499514 Theory in Medicine 2 2 (0-4-2)
499515 สมรรถนะทางอายรุ ศาสตร์ 2 2 (2-0-4)
499516 Competency in Medicine 2 2 (0-4-2)
499517 ทฤษฎที างศัลยศาสตร์ 2 2 (2-0-4)
499518 Theory in Surgery 2 2 (0-4-2)
499519 สมรรถนะทางศัลยศาสตร์ 2 3 (1-4-4)
499520 Competency in Surgery 2 2 (1-2-3)
499521 ทฤษฎที างกมุ ารเวชศาสตร์ 2 2 (1-2-3)
499522 Theory in Pediatrics 2 3 (1-4-4)
499523 สมรรถนะทางกมุ ารเวชศาสตร์ 2 4 (2-4-6)
4997xx Competency in Pediatrics 2 2 (1-2-3)
4997xx ทฤษฎที างสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา 2 2 (1-2-3)
4997xx Theory in Obstetrics and Gynecology 2 2 (x-x-x)
499805 สมรรถนะทางสูติศาสตรแ์ ละนรเี วชวทิ ยา 2 2 (x-x-x)
Competency in Obstetrics and Gynecology 2 2 (x-x-x)
ออร์โธปดิ ิกส์ 2 (1-2-3)
Orthopedics
โสต ศอ นำสกิ วิทยา
Otolaryngology
จักษวุ ทิ ยา
Ophthalmology
วสิ ญั ญวี ทิ ยา
Anesthesiology
เวชศาสตรค์ รอบครวั
Family Medicine
เวชศาสตร์ฟน้ื ฟู
Rehabilitation Medicine
เวชศาสตร์ฉุกเฉิน
Emergency Medicine
วชิ าเลือก 1
Elective Course 1
วชิ าเลือก 2
Elective Course 2
วชิ าเลอื ก 3
Elective Course 3
ระบบสขุ ภาพศาสตร์ 5
Health Systems Science 5

499810 -5- คมู่ อื นสิ ิตแพทย์ ปีการศกึ ษา 2565

การบริหารโครงการดิจิทัล 3 (3-0-6)
Digital Project Management รวม 45 หนว่ ยกิต

499608 ชั้นปีท่ี 6 6 (0-12-6)
499609 6 (0-12-6)
499610 เวชปฏบิ ตั ิทางอายุรศาสตร์ 6 (0-12-6)
499611 Clerkship in Medicine 6 (0-12-6)
499612 เวชปฏิบตั ิทางศัลยศาสตร์ 3 (0-6-3)
499613 Clerkship in Surgery 2 (0-4-2)
499614 เวชปฏบิ ัติทางกุมารเวชศาสตร์ 2 (1-2-3)
499615 Clerkship in Pediatrics 4 (0-8-4)
499616 เวชปฏิบัติทางสูติศาสตรแ์ ละนรเี วชวิทยา 3 (0-6-3)
4997xx Clerkship in Obstetrics and Gynecology 2 (x-x-x)
4997xx เวชปฏบิ ตั ิทางออร์โธปิดิกส์ 2 (x-x-x)
4997xx Clerkship in Orthopedics 2 (x-x-x)
499806 เวชปฏบิ ตั ิทางเวชศาสตรฉ์ ุกเฉิน 2 (1-2-3)
Clerkship in Emergency Medicine รวม 46 หน่วยกิต
นิตเิ วชศาสตร์
Forensic Medicine
เวชปฏบิ ตั ิท่วั ไป
Clerkship in General Practice
ภาษาอังกฤษสาหรับวิชาชพี แพทย์
English for Medical Profession
วชิ าเลือก 4
Elective Course 4
วิชาเลอื ก 5
Elective Course 5
วิชาเลอื ก 6
Elective Course 6
ระบบสขุ ภาพศาสตร์ 6
Health Systems Science 6

-6- คมู่ อื นิสิตแพทย์ ปกี ารศึกษา 2565

4. คำอธบิ ายรายวชิ า

499412 ทฤษฎีทางอายรุ ศาสตร์ 1 4 (4-0-8)
Theory in Medicine 1

ระบาดวทิ ยา สาเหตุ ปัจจยั เสี่ยง พยาธิกาเนิด พยาธิสรีรวิทยา อาการ อาการแสดง การส่งตรวจ
ทางรังสีวิทยาและทางห้องปฏิบัติการ การวินิจฉัยแยกโรค การวินิจฉัยโรค การรักษา การส่งเสริมสุขภาพและ

ป้องกันโรค ความปลอดภัยของผู้ป่วย การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล เน้นปัญหาและโรคท่ีพบบ่อยทางอายุรศาสตร์
การดแู ลผปู้ ว่ ยแบบองคร์ วม เวชศาสตร์เชิงประจักษ์ การคดิ เชงิ วิพากษ์ เวชจริยศาสตร์ ใฝ่เรียนรู้ตลอดชีวิต การทา
งานรว่ มกบั สหวชิ าชีพ บูรณาการกบั สาขาวิชาอืน่ ทีเ่ กี่ยวข้อง

499413 สมรรถนะทางอายรุ ศาสตร์ 1 4 (0-8-4)
Competency in Medicine 1

ทักษะทางคลินิกในการดูแลผู้ป่วยทางอายุรศาสตร์ เก่ียวกับการสัมภาษณ์ประวัติ การตรวจ
ร่างกาย การส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ การวินิจฉัยแยกโรค การวินิจฉัยโรค การดูแลผู้ป่วย การทำหัตถการ
พ้ืนฐานทางอายุรกรรม ความปลอดภัยของผู้ป่วย การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล การให้ความรู้และคำปรึกษาแก่

ผ้ปู ่วยและญาติ การดแู ลผู้ปว่ ยแบบองคร์ วม ใฝ่เรียนร้ตู ลอดชวี ิต ภาวะผู้นำ การทางานรว่ มกับสหวิชาชพี บูรณาการ
กบั สาขาวชิ าทีเ่ ก่ียวขอ้ ง

499414 ทฤษฎีทางศลั ยศาสตร์ 1 4 (4-0-8)

Theory in Surgery 1

ระบาดวิทยา สาเหตุและปัจจัยก่อโรค อาการวิทยา พยาธิกาเนิด พยาธิสรีรวิทยา การวินิจฉัย
แยกโรค การวนิ ิจฉัยโรค การส่งเสรมิ สขุ ภาพและป้องกนั โรค การฟืน้ ฟูสภาพ หตั ถการพืน้ ฐาน ทางศัลยกรรม เน้น
ปัญหาและโรคทางศัลยกรรมทั่วไปท่ีพบบ่อย เวชศาสตร์เชิงประจักษ์ การคดิ เชิงวิพากษ์ การดแู ลผู้ป่วยศัลยกรรม
ก่อนและหลังผ่าตัด ภาวะวิกฤติและฉุกเฉินทางศัลยกรรม การดูแลผู้ป่วยแบบองค์รวม บูรณาการกับสาขาวิชาที่
เกย่ี วข้อง

499415 สมรรถนะทางศลั ยศาสตร์ 1 4 (0-8-4)

Competency in Surgery 1

ทกั ษะทางคลินิกในการดูแลผู้ป่วยผา่ ตัด ได้แก่ การซกั ประวัติ ตรวจร่างกาย การวินิจฉัยแยกโรค

การวินิจฉัยโรค การส่งตรวจทางรังสีวิทยาและทางห้องปฏิบัติการ การทำหัตถการพื้นฐานทางศัลยกรรม การ
บันทึกเวชระเบียนและเอกสารทางการแพทย์ การให้ความรู้และคำปรึกษาแก่ผู้ป่วยและญาติเวชศาสตร์เชิง
ประจักษ์ การคดิ เชิงวิพากษ์ เวชจริยศาสตร์ ความปลอดภยั ของผูป้ ่วย การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล การดูแลผู้ป่วย

ศัลยกรรมก่อนและหลังผ่าตัด ภาวะวิกฤติและฉุกเฉินทางศัลยกรรม การดูแลผู้ป่วยแบบองค์รวม การทางาน
รว่ มกับสหวิชาชีพ บูรณาการกับสาขาวิชาอื่นที่เกยี่ วขอ้ ง

-7- คมู่ ือนสิ ติ แพทย์ ปกี ารศึกษา 2565

499416 ทฤษฎีทางกมุ ารเวชศาสตร์ 1 3 (3-0-6)
Theory in Pediatrics 1

การดแู ลเด็ก (เด็กแรกเกดิ จนถงึ วยั รุ่นอายุ 18 ปี) เก่ียวกับการเจรญิ เติบโตและพัฒนาการระบาด
วิทยา สาเหตุ อาการวิทยา พยาธิกาเนิด พยาธิสรีรวิทยา การวินิจฉัยแยกโรค การวินิจฉัยโรค การรักษา การ
ส่งเสรมิ สขุ ภาพและป้องกันโรค การฟ้ืนฟูสภาพ ความปลอดภยั ของผู้ป่วย การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล เน้นปญั หา

และโรคทพี่ บบ่อย การดแู ลผปู้ ่วยแบบองคร์ วม เวชศาสตร์เชิงประจกั ษ์ การคดิ เชิงวิพากษ์เวชจรยิ ศาสตร์ ใฝเ่ รียนรู้
ตลอดชวี ติ การทางานรว่ มกบั สหวิชาชีพ บูรณาการกับสาขาวชิ าอ่นื ทีเ่ ก่ียวข้อง

499417 สมรรถนะทางกมุ ารเวชศาสตร์ 1 3 (0-6-3)
Competency in Pediatrics 1

ทักษะทางคลินิกในการดูแลเด็ก (เด็กแรกเกิดจนถึงวัยรุ่นอายุ 18 ปี) เกี่ยวกับการซักประวัติ

ตรวจร่างกาย การวินิจฉัยแยกโรค การวินิจฉัยโรค การส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ การรักษา การบันทึกเวช
ระเบียน ทักษะการส่ือสาร การให้ความรู้และคำปรึกษาแก่ผู้ป่วยและญาติ การทำหัตถการทางกุมารเวชศาสตร์
ความปลอดภัยของผูป้ ่วย การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล เน้นปัญหาและโรคที่พบบ่อย การดูแลผู้ป่วยแบบองค์รวม
ใฝ่เรยี นรตู้ ลอดชีวิต ภาวะผู้นำ การทางานร่วมกบั สหวชิ าชีพ บูรณาการกับสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง

499418 ทฤษฎีทางสตู ิศาสตรแ์ ละนรีเวชวทิ ยา 1 3 (3-0-6)
Theory in Obstetrics and Gynecology 1

ระบาดวิทยา สาเหตุ ปัจจัยเสี่ยง พยาธิกำเนิด พยาธิสรีรวิทยา อาการ อาการแสดงการส่งตรวจ
ทางรังสีวิทยาและการตรวจทางห้องปฏิบัติการ การวินิจฉัยแยกโรค การวินิจฉัย โรค การรักษา การส่งเสริม

สุขภาพและป้องกันโรค ความปลอดภยั ของผู้ป่วย การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล เน้นปัญหาและโรค ที่พบบอ่ ยของ
สตรี การดูแลสตรีตัง้ ครรภ์ วางแผนครอบครวั บรู ณาการกบั สาขาวชิ าอ่ืนทเี่ กี่ยวข้อง

499419 สมรรถนะทางสูตศิ าสตร์และนรีเวชวทิ ยา 1 3 (0-6-3)
Competency in Obstetrics and Gynecology 1

ทักษะทางคลินิกในการดูแลสตรีเกี่ยวกับการซักประวัติ ตรวจร่างกาย การตรวจภายในการ
วินิจฉัยแยกโรค การวินิจฉัยโรค การส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ การรักษา การบันทึกเวชระเบียน ทักษะการ
ส่ือสาร การให้ความรู้และคำปรึกษาแก่ผู้ป่วยและญาติ การทำหัตถการทางสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยาความ

ปลอดภัยของผู้ป่วย การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล การดูแลผู้ป่วยแบบองค์รวม การแพทย์แบบเติมเต็มและ
การแพทย์ทางเลอื ก การทางานรว่ มกับสหวิชาชพี บรู ณาการกบั สาขาวชิ าทเ่ี ก่ียวข้อง

499420 รังสีวทิ ยา 4 (3-2-7)
Radiology

ความรู้พ้ืนฐานทางรงั สวี ิทยา ขอ้ บ่งชี้ ขอ้ ห้าม ภาวะแทรกซ้อน ข้ันตอนการตรวจ และการเตรยี ม
ผู้ป่วยในการตรวจทางรังสวี ิทยา การตรวจวนิ จิ ฉัยด้วยภาพถา่ ยรงั สีทั่วไป ฟลอู อโรสโคปอี ัลตราซาวด์ แมมโมกราฟ
ฟ่ี เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ และการตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า การแปลผลภาพทางรงั สวี ิทยาท่ีพบบ่อย ชีวฟิสกิ ส์
ฟิสกิ ส์กบั รังสีวทิ ยา ความรู้พ้นื ฐานทางรังสรี ่วมรักษา รงั สีรักษา เวชศาสตร์นิวเคลยี ร์ และการป้องกันอันตรายจาก
รงั สี บูรณาการกับสาขาวชิ าท่เี กย่ี วข้อง

-8- คู่มอื นสิ ิตแพทย์ ปีการศึกษา 2565

499421 เวชศาสตรช์ ุมชนและอาชวี เวชศาสตร์ 3 (1-4-4)
Community and Occupational Medicine

หลักการและการปฏิบัติทางเวชศาสตร์ชุมชนและอาชีวเวชศาสตร์ การเจ็บป่วยเนื่องจากการทา
งาน การค้นหาปัญหา และการจัดการแก้ไข

499422 จติ เวชศาสตร์ 4 (2-4-6)
Psychiatry

หลักและทักษะทางจิตเวชศาสตร์เกี่ยวกับการซักประวัติ ตรวจร่างกาย ตรวจสภาพจิต การ
วินิจฉัยโรคแยกโรค การวินิจฉัยโรค การรักษา ทักษะการส่ือสาร การส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค การฟ้ืนฟู

สภาพ การให้ความรู้และคำปรกึ ษาแก่ผปู้ ่วยและญาติ ความปลอดภัยของผู้ป่วย การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล การ
ดูแลผปู้ ว่ ยแบบองค์รวม การทางานร่วมกับสหวิชาชพี บูรณาการกบั สาขาวิชาทเ่ี ก่ียวขอ้ ง

499423 วจิ ัยทางการแพทย์ 4 (1-6-5)
Medical Research

ตั้งคำถามวิจัยทางการแพทย์ที่น่าสนใจ ค้นหาทบทวนวรรณกรรมโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์
เลือกวิธีวิจัยชนิดต่างๆ ในการตอบคำถามวิจัยท้ังการวิจัยเชิงปริมาณ การวิจัยเชิงคุณภาพ และการวิจัยทุติยภูมิ
วิเคราะหอ์ คตทิ ่ีเกิดขน้ึ ในการวิจัย ใช้สถิติทีเ่ หมาะสม พัฒนาโครงร่างวิจยั ท่ีสมบรู ณ์ กำหนดกลุ่มเป้าหมายจำนวน

ตัวอย่าง พัฒนาและตรวจสอบเครื่องมือท่ีใช้เก็บข้อมูล เก็บข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูล นำเสนอผลการวิจัย และ
จัดทำรายงานการวิจัย

499509 ทฤษฎีทางอายรุ ศาสตร์ 2 2 (2-0-4)
Theory in Medicine 2

ระบาดวิทยา สาเหตุ อาการวิทยา พยาธิกาเนิด พยาธิสรีรวิทยา การวินิจฉัยแยกโรค การ

วินิจฉัยโรค การรกั ษา การส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ความปลอดภัยของผปู้ ่วย การใช้ยาอย่าง สมเหตุสมผล
เน้นปัญหาและโรคทางอายุรศาสตร์ที่มีความซบั ซ้อน เวชศาสตร์เชงิ ประจักษ์ เวชจริยศาสตร์ การดูแลผปู้ ่วยแบบ
องคร์ วม บรู ณาการกบั สาขาวิชาอ่ืนท่ีเกี่ยวข้อง

499510 สมรรถนะทางอายรุ ศาสตร์ 2 2 (0-4-2)
Competency in Medicine 2

ทักษะทางคลินิกในการดูแลผู้ป่วยทางอายุรศาสตร์ เก่ียวกับการสัมภาษณ์ประวัติ การตรวจ
ร่างกาย การส่งตรวจทางรังสีวิทยาและทางห้องปฏิบัติการการทำหัตถการ การวินิจฉัยแยกโรค การวินิจฉัยโรค
การทำหตั ถการทางอายรุ ศาสตร์ การรักษา การส่งเสรมิ สุขภาพและปอ้ งกนั โรค การบนั ทึกเวชระเบียนและเอกสาร

ทางการแพทย์ ความปลอดภัยของผู้ป่วย การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล สำหรับโรคและภาวะผิดปกติทาง
อายุรศาสตร์ เวชศาสตร์เชงิ ประจักษ์ การคิดเชงิ วิพากษ์ การใหค้ วามรู้และคำปรกึ ษาแก่ผู้ปว่ ย ญาติและประชาชน

การดูแลผูป้ ่วยแบบองคร์ วม ความรับผิดชอบตอ่ ตนเอง ผ้ปู ่วยและสังคม การทางานรว่ มกบั สหวชิ าชีพบูรณาการกับ
สาขาวิชาอื่นทเ่ี กย่ี วขอ้ ง

-9- คู่มือนิสติ แพทย์ ปีการศกึ ษา 2565

499511 ทฤษฎีทางศลั ยศาสตร์ 2 2 (2-0-4)

Theory in Surgery 2

ระบาดวทิ ยา สาเหตุและปจั จยั กอ่ โรค อาการวทิ ยา พยาธิกาเนิด พยาธิสรีรวทิ ยาการวนิ จิ ฉัยแยก

โรค การวินิจฉัยโรค การส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค การฟื้นฟูสภาพ หัตถการพื้นฐานทางศัลยศาสตร์ เน้น
ปัญหาและโรคทางศัลยกรรมทั่วไปและศัลยกรรมเฉพาะทางท่พี บบ่อย เวชศาสตร์เชิงประจักษ์ การคิดเชิงวิพากษ์
การดแู ลผู้ปว่ ยศัลยกรรมท่ัวไปและเฉพาะทางท่ีพบบ่อยก่อนและหลังผ่าตดั ภาวะวิกฤตแิ ละฉุกเฉินทางศัลยกรรม
การดแู ลผู้ป่วยแบบองคร์ วม บรู ณาการกับสาขาวชิ าท่เี กีย่ วขอ้ ง

499512 สมรรถนะทางศลั ยศาสตร์ 2 2 (0-4-2)
Competency in Surgery 2

ทักษะทางคลินิกในการดูแลผู้ป่วยผ่าตัดโรคทางศัลยกรรมทั่วไปและศัลยกรรมเฉพาะทางท่ีพบ

บอ่ ย ได้แก่ การซักประวัติ ตรวจร่างกาย การวินิจฉัยแยกโรค การวินิจฉัยโรค การส่งตรวจทางรังสีวิทยาและทาง
ห้องปฏิบัติการ การทำหัตถการพื้นฐานทางศัลยกรรม การบันทึกเวชระเบียนและเอกสารทางการแพทย์การให้
ความรู้และคำปรึกษาแก่ผู้ป่วยและญาติ เวชศาสตร์เชิงประจักษ์ การคิดเชิงวิพากษ์ ความปลอดภัยของผู้ป่วย

เวชจริยศาสตร์ การดูแลผู้ปว่ ยศัลยกรรมทั่วไปและเฉพาะทางที่พบบ่อยกอ่ นและหลังผา่ ตัด ภาวะวกิ ฤติและฉุกเฉิน
ทางศลั ยกรรม การดูแลผู้ป่วยแบบองค์รวม การทางานรว่ มกบั สหวชิ าชีพ บูรณาการกับสาขาวิชาอ่ืนทีเ่ ก่ียวข้อง

499513 ทฤษฎีทางกุมารเวชศาสตร์ 2 2 (2-0-4)
Theory in Pediatrics 2

การดแู ลเดก็ (เดก็ แรกเกดิ จนถงึ วัยรุ่นอายุ 18 ป)ี เก่ียวกบั การเจรญิ เติบโตและพัฒนาการระบาด
วทิ ยา สาเหตุ อาการวทิ ยา พยาธกิ ำเนดิ พยาธิสรรี วิทยา การวินิจฉัยแยกโรค การวินิจฉัยโรค การรักษาการสร้าง
สง่ เสรมิ สุขภาพและปอ้ งกันโรค การฟื้นฟสู ภาพ ความปลอดภัยของผู้ป่วย การใชย้ าอย่างสมเหตสุ มผลเน้นปัญหา
และโรคท่ีมคี วามซบั ซ้อน เวชศาสตรเ์ ชงิ ประจกั ษ์ การคิดเชิงวิพากษ์ เวชจริยศาสตรก์ ารดูแลผปู้ ่วยแบบองคร์ วม

499514 สมรรถนะทางกุมารเวชศาสตร์ 2 2 (0-4-2)
Competency in Pediatrics 2

ทักษะทางคลินิกในการดูแลเด็ก (เด็กแรกเกิดจนถึงวัยรุ่นอายุ 18 ปี) เกี่ยวกับการซักประวัติ
ตรวจร่างกาย การวินิจฉัยแยกโรค การวินิจฉัยโรค การส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ การรักษา การบันทึกเวช

ระเบียน ทักษะการสื่อสาร การใหค้ วามรู้และคำปรึกษาแก่ผปู้ ่วยและญาติ การสง่ เสริมสขุ ภาพและปอ้ งกันโรคการ
ทำหัตถการที่ซับซ้อนทางกุมารเวชศาสตร์ ความปลอดภัยของผู้ป่วย การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล เวชจริยศาสตร์
การดแู ลผู้ป่วยแบบองค์รวม ใฝ่เรียนรู้ตลอดชีวิต ภาวะผู้นำ การทางานร่วมกบั สหวิชาชีพ บูรณาการกับสาขาวิชา

อน่ื ที่เกี่ยวข้อง

-10- คูม่ อื นิสติ แพทย์ ปีการศึกษา 2565

499515 ทฤษฎีทางสตู ศิ าสตรแ์ ละนรีเวชวทิ ยา 2 2 (2-0-4)
Theory in Obstetrics and Gynecology 2

ระบาดวทิ ยา สาเหตุ ปัจจัยเส่ียง พยาธกิ าเนิด พยาธิสรรี วทิ ยา อาการ อาการแสดง การส่งตรวจ
ทางรังสีวิทยาและทางห้องปฏิบัติการ การวินิจฉัยแยกโรค การวินิจฉัยโรค การรักษา การส่งเสริมสุขภาพและ
ปอ้ งกนั โรค ความปลอดภัยของผู้ปว่ ย การใช้ยาอย่างสมเหตสุ มผล เน้นปัญหาและโรคทซ่ี ับซ้อนของสูติศาสตร์และ

นรีเวชวิทยา มะเรง็ นรีเวช โรคระบบต่อมไรท้ ่อ การดูแลสตรีต้งั ครรภ์ท่ีมีภาวะแทรกซ้อน การดูแลผู้ป่วยแบบองค์
รวม บูรณาการกบั สาขาวิชาอนื่ ทีเ่ กีย่ วขอ้ ง

499516 สมรรถนะทางสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา 2 2 (0-4-2)
Competency in Obstetrics and Gynecology 2

ทักษะทางคลินิกในการดูแลสตรีเก่ียวกับการซักประวัติ ตรวจร่างกาย การตรวจภายในการ

วินิจฉยั แยกโรค การวินจิ ฉัยโรค การส่งตรวจทางหอ้ งปฏิบัติการ การรกั ษา การบันทกึ เวชระเบียน การสง่ ต่อผู้ป่วย
ทักษะการสื่อสาร การให้ความรู้และคำปรึกษาแก่ผู้ป่วยและญาติ การส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคการทำ
หตั ถการทางสตู ิศาสตร์และนรเี วชวิทยา ความปลอดภยั ของผูป้ ่วย การใชย้ าอย่างสมเหตุสมผล เน้นปัญหาและโรค

ท่ีมีความซบั ซ้อนของสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา การดแู ลผู้ป่วยแบบองค์รวม การทางานร่วมกับสหวชิ าชีพ บรู ณา
การกับสาขาวิชาอ่นื ท่ีเกี่ยวข้อง

499517 ออรโ์ ธปิดกิ ส์ 3 (1-4-4)
Orthopedics

อุบัติการณ์ สาเหตุ ปัจจัยเส่ียง อาการวิทยา พยาธิกาเนิด การจำแนกพยาธิสภาพ การส่งตรวจ
ทางรังสีวิทยาและทางห้องปฏิบัติการ การวินิจฉัยแยกโรค การวินิจฉัยโรค การรักษา การส่งเสริมสุขภาพและ
ป้องกันโรค หัตถการพื้นฐานทางออร์โธปิดิกส์ การฟื้นฟูสภาพ ความปลอดภัยของผู้ป่วย การใช้ยาอย่าง
สมเหตสุ มผล เวชจริยศาสตร์ การให้ความรูแ้ ละคำปรึกษาแกผ่ ปู้ ว่ ยและญาติ บรู ณาการกบั สาขาวิชาอ่นื ทเี่ กย่ี วข้อง

499518 โสต ศอ นำสิกวิทยา 2 (1-2-3)
Otolaryngology

ภาวะผิดปกติหรือโรคทางหู คอ จมูกท่ีพบบ่อย สาเหตุ ระบาดวิทยา อาการ อาการแสดงการ
วนิ จิ ฉัยแยกโรค การวนิ ิจฉัยโรค การรักษา การสง่ เสรมิ สุขภาพและปอ้ งกันโรค การฟื้นฟูสภาพความปลอดภัยของ

ผู้ป่วย การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล เวชจริยศาสตร์ การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม บูรณาการกับสาขาวิชาอื่นที่
เก่ยี วข้อง

499519 จกั ษุวทิ ยา 2 (1-2-3)
Ophthalmology

ความรู้พื้นฐานทางจักษุวิทยา การซักประวัติ การตรวจร่างกาย การวินิจฉัยแยกโรคการ

วินิจฉัยโรค การทำหัตถการ การรักษาโรคที่พบบ่อยทางจักษุวิทยา ความปลอดภัยของผู้ป่วย การใช้ยาอย่าง
สมเหตุสมผล การบันทึกเวชระเบยี น การสง่ ตอ่ ผปู้ ่วย การส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค การดูแลผ้ปู ่วยแบบองค์
รวม การรบั ผดิ ชอบตอ่ ตนเองและสงั คม บูรณาการกบั สาขาวิชาอ่ืนท่เี ก่ยี วขอ้ ง

-11- คมู่ อื นสิ ติ แพทย์ ปีการศกึ ษา 2565

499520 วิสญั ญีวทิ ยา 3 (1-4-4)
Anesthesiology

การเลอื กวิธีระงับความรสู้ กึ เภสัชวทิ ยาของยาระงบั ความรู้สกึ ชวี ฟิสิกส์ จลนพลศาสตร์ของกา๊ ซ

ทางการแพทย์ การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล การประเมินและเตรียมผู้ป่วยก่อนรับการระงับความรู้สึก การเฝ้า
ตดิ ตามระหว่างการระงับความรสู้ กึ การทำหัตถการ การดแู ลทางเดินหายใจ การดูแลหลงั การระงบั ความรสู้ ึก การ

ระงับปวด ฝึกปฏิบัติในการดูแลผู้ป่วยที่ไม่มีภาวะแทรกซ้อนร่วมกับทีมวิสัญญี การบันทึกเวชระเบียน การให้
ความรู้และคำปรึกษาแก่ผู้ป่วยและญาติ เวชศาสตรเ์ ชิงประจักษ์ เวชจริยศาสตร์ ความปลอดภัยของผูป้ ่วย บูรณา
การกับสาขาวชิ าอนื่ ทเ่ี กีย่ วขอ้ ง

499521 เวชศาสตร์ครอบครวั 4 (2-4-6)
Family Medicine

การดูแลผู้ปว่ ยโดยใช้หลกั การทางเวชศาสตร์ครอบครัว การสัมภาษณ์ประวัติ การ ตรวจร่างกาย
การวินิจฉัยโรค การส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ความปลอดภัยของผู้ป่วย การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล
การแพทย์แบบเตมิ เต็มและการแพทย์ทางเลอื ก การให้ความร้แู ละคำปรกึ ษาทางการแพทยก์ ารดูแลสขุ ภาพผู้ปว่ ยท่ี

บ้าน การดูแลผู้ป่วยแบบองค์รวม การดูแลโดยยึดผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางความสัมพันธภาพท่ีดีระหว่างแพทย์และ
ผู้ป่วย บรู ณาการกับสาขาวิชาอื่นที่เกี่ยวขอ้ ง

499522 เวชศาสตรฟ์ ืน้ ฟู 2 (1-2-3)
Rehabilitation Medicine

ความรู้พ้ืนฐานและทักษะทางคลินิกทางเวชศาสตรฟ์ ื้นฟู การตรวจประเมินทางคลินิกการฟื้นฟู
สมรรภภาพ ความบกพร่องและความทุพพลภาพทางร่างกาย การให้ความรู้และคำปรึกษาทางการแพทย์ การ
บันทึกเวชระเบียน การดูแลผู้ป่วยแบบองค์รวม ความปลอดภัยของผู้ป่วย เวชจริยศาสตร์บูรณาการกับสาขาวิชา
อนื่ ท่ีเกี่ยวข้อง

499523 เวชศาสตรฉ์ กุ เฉิน 2 (1-2-3)
Emergency Medicine

อาการวิทยา พยาธิกาเนิด พยาธิสรีรวิทยา การวินิจฉัยแยกโรค การวินิจฉัยโรค การสืบค้นทาง
ห้องปฏิบัติการ การรักษาเบือ้ งต้นสาหรับปญั หาท่ีรีบดว่ นในผปู้ ่วยอบุ ัตเิ หตุและฉุกเฉิน การส่งต่อผู้ปว่ ยหลักการใน

การบริหารจดั การอุบตั ภิ ยั หมู่ บูรณาการกบั สาขาวิชาอืน่ ท่ีเก่ียวขอ้ ง

499608 เวชปฏิบตั ิทางอายุรศาสตร์ 6 (0-12-6)
Clerkship in Medicine

การปฏิบัติงานทางอายุรศาสตร์ ได้แก่ การสัมภาษณ์ประวัติ การตรวจรา่ งกาย การส่งตรวจทาง
รังสีวิทยาและทางห้องปฏิบัติการ การทำหัตถการ การวินิจฉัยแยกโรค การวินิจฉัยโรค การรักษา การบันทึกเวช

ระเบียนและเอกสารทางการแพทย์ การส่งเสริมสขุ ภาพและปอ้ งกนั โรค การให้ความรแู้ ละคำปรึกษาแก่ผู้ปว่ ย ญาติ
และประชาชน ความปลอดภัยของผู้ป่วย การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล เวชศาสตร์เชิงประจักษ์ การคดิ เชิงวิพากษ์
เวชจริยศาสตร์ การดูแลผู้ป่วยแบบองค์รวม ความรับผิดชอบต่อตนเอง ผู้ป่วยและสังคม ภาวะผู้นำ การทางาน

ร่วมกบั สหวชิ าชพี บรู ณาการกบั สาขาวิชาอนื่ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง

-12- คมู่ อื นิสิตแพทย์ ปกี ารศกึ ษา 2565

499609 เวชปฏบิ ัติทางศัลยศาสตร์ 6 (0-12-6)
Clerkship in Surgery

การปฏิบัติงานทางศัลยศาสตร์ ได้แก่ การสัมภาษณ์ประวัติ การตรวจร่างกาย การส่งตรวจทาง

รังสีวิทยาและทางห้องปฏิบัติการ การทำหัตถการ การวินิจฉัยแยกโรค การวินิจฉัยโรค การรักษาการบันทึกเวช
ระเบียนและเอกสารทางการแพทย์ การส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค การฟ้ืนฟูสภาพ การให้ความรู้และ

คำปรึกษาแก่ผู้ป่วย ญาติ และประชาชน ความปลอดภัยของผู้ป่วย การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลเวชศาสตร์เชิง
ประจักษ์ การคิดเชิงวิพากษ์ เวชจรยิ ศาสตร์ การดูแลผู้ป่วยแบบองค์รวม ความรับผิดชอบต่อตนเอง ผู้ป่วย และ
สังคม ภาวะผู้นำ การทางานร่วมกบั สหวชิ าชพี บรู ณาการกบั สาขาวชิ าอนื่ ทเี่ ก่ยี วขอ้ ง

499610 เวชปฏบิ ัติทางกุมารเวชศาสตร์ 6 (0-12-6)
Clerkship in Pediatrics

การปฏิบัติงานทางกุมารเวชศาสตร์ ได้แก่ การสัมภาษณ์ประวัติ การตรวจร่างกาย การสง่ ตรวจ
ทางรังสีวิทยาและทางห้องปฏิบัติการ การทำหัตถการ การวินิจฉัยแยกโรค การวินิจฉัยโรค การรักษาการบันทึก
เวชระเบียนและเอกสารทางการแพทย์ การส่งเสริมสุขภาพและป้องกนั โรค การให้ความรู้และคำปรึกษาแก่ผู้ป่วย

ญาติ และประชาชน ความปลอดภัยของผู้ป่วย การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล เวชศาสตร์เชิงประจักษ์ การคิดเชิง
วพิ ากษ์ เวชจริยศาสตร์ การดแู ลผู้ป่วยแบบองค์รวม ความรับผดิ ชอบตอ่ ตนเอง ผู้ป่วยและสังคม ภาวะผู้นำ การทา

งานร่วมกับสหวชิ าชีพ บรู ณาการกับสาขาวชิ าอ่ืนทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง

499611 เวชปฏิบัติทางสูติศาสตรแ์ ละนรเี วชวิทยา 6 (0-12-6)
Clerkship in Obstetrics and Gynecology

การปฏิบัตงิ านทางสตู ิศาสตรแ์ ละนรเี วชวิทยา ได้แก่ การสัมภาษณ์ประวตั ิ การตรวจรา่ งกายการ
สง่ ตรวจทางรังสีวิทยาและทางห้องปฏิบัติการ การทำหัตถการ การวินิจฉัยแยกโรค การวินิจฉัยโรคการรักษา การ

ส่งต่อผปู้ ่วย การบันทึกเวชระเบียนและเอกสารทางการแพทย์ การส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค การให้ความรู้
และคำปรึกษาแกผ่ ปู้ ่วย ญาติ และประชาชน ความปลอดภยั ของผ้ปู ่วย การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล เวชศาสตรเ์ ชิง
ประจักษ์ การคิดเชิงวิพากษ์ เวชจริยศาสตร์ การดูแลผู้ป่วยแบบองค์รวมความรับผิดชอบต่อตนเอง ผู้ป่วยและ

สังคม ใฝเ่ รยี นรูต้ ลอดชีวติ ภาวะผู้นำ การทางานรว่ มกับสหวิชาชพี บรู ณาการกบั สาขาวชิ าอ่นื ท่ีเก่ียวข้อง

499612 เวชปฏิบตั ิทางออรโ์ ธปดิ กิ ส์ 3 (0-6-3)
Clerkship in Orthopedics

การปฏิบัติงานทางออร์โธปิดิกส์ ได้แก่ ได้แก่ การสัมภาษณ์ประวัติ การตรวจร่างกาย การส่ง
ตรวจทางรังสีวิทยาและทางห้องปฏิบัติการ การทำหัตถการ การวินิจฉัยแยกโรค การวินิจฉัยโรค การรักษาการ

บนั ทกึ เวชระเบียนและเอกสารทางการแพทย์ การสง่ เสริมสุขภาพและป้องกันโรค การให้ความรู้และคำปรึกษาแก่
ผ้ปู ว่ ย ญาติ และประชาชน ความปลอดภัยของผปู้ ่วย การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล เวชศาสตร์เชิงประจักษ์ การคิด

เชิงวิพากษ์ เวชจริยศาสตร์ การดูแลผู้ป่วยแบบองค์รวม ความรับผิดชอบต่อตนเอง ผู้ป่วยและสังคม ภาวะผู้นำ
การทางานรว่ มกับสหวชิ าชพี บูรณาการกบั สาขาวชิ าอ่ืนท่ีเก่ียวข้อง

-13- คู่มอื นิสิตแพทย์ ปกี ารศกึ ษา 2565

499613 เวชปฏบิ ัติทางเวชศาสตรฉ์ กุ เฉนิ 2 (0-4-2)
Clerkship in Emergency Medicine

การปฏิบัตงิ านท่แี ผนกผปู้ ่วยฉุกเฉิน เพ่ือให้มีความสามารถในการแก้ปัญหา ทกั ษะทางคลนิ กิ การ
วินิจฉัยแยกโรค การวินิจฉัยโรค การรักษา ทำหัตถการ การส่งตรวจทางรังสีวิทยาและทางห้องปฏิบัติการการฝึก
ทักษะปฏบิ ัตกิ ารกชู้ พี ผปู้ ่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉินขัน้ พื้นฐานและข้ันสงู การบรหิ ารจัดการอุบตั ภิ ัยหมู่การสง่ ต่อผู้ป่วย
การให้ความร้แู ละคำปรึกษาแก่ผปู้ ่วยและญาติ การทางานรว่ มกบั สหวิชาชพี บูรณาการกบั สาขาวิชาอน่ื ทเี่ กีย่ วข้อง

499614 นิติเวชศาสตร์ 2 (1-2-3)
Forensic Medicine

กฎหมายท่ีเกี่ยวข้องกับการแพทย์และการประกอบวิชาชีพของแพทย์ หลักการและวิธีพิสูจน์
ข้อเทจ็ จรงิ ทางการแพทย์ เพ่อื ชว่ ยแก้ปัญหาทางกฎหมายทงั้ ในการตรวจผูป้ ่วยทางนติ ิเวชศาสตร์ การชันสูตรพลิก

ศพ การตรวจหาสารพิษในส่ิงส่งตรวจจากผูป้ ่วยหรอื ศพ การตรวจวัตถพุ ยานในคดีทางเพศและวตั ถพุ ยานอ่นื ๆ

499615 เวชปฏบิ ตั ิทว่ั ไป 4 (0-8-4)
ชุมชน Clerkship in General Practice

การฝึกเวชปฏิบัติท่ัวไปในแผนกผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน แผนกฉุกเฉิน ห้องผ่าตัด ห้องคลอด และ

499804 ระบบสขุ ภาพศาสตร์ 4 2 (1-2-3)

Health Systems Science 4

การจัดการความเส่ียง ระบบประกันสุขภาพแห่งชาติ เศรษฐศาสตร์สาธารณสุข ระบบการเงิน

การคลังเพื่อสุขภาพ การเข้าถึงบริการทางานการแพทย์ที่จำเป็น ระบบข้อมูลสุขภาพ ทักษะการเป็นผู้นำการทา

งานรว่ มกบั สหวิชาชพี ในโรงพยาบาลระดบั ทุติยภูมิและตตยิ ภูมิ การสง่ เสรมิ สขุ ภาพและปอ้ งกนั โรค

499805 ระบบสขุ ภาพศาสตร์ 5 2 (1-2-3)

Health Systems Science 5

ความต้องการด้านสุขภาพในชุมชน กาลังคนด้านสุขภาพ ระบบข้อมูลสุขภาพ ภาวะผู้นำและ

ธรรมาภิบาล การเข้าถึงบริการทางการแพทย์ท่ีจำเป็น การส่งเสรมิ สขุ ภาพและปอ้ งกนั โรค การจัดการโครงการ

499806 ระบบสขุ ภาพศาสตร์ 6 2 (1-2-3)

Health Systems Science 6

การพัฒนาคุณภาพในการบริการสุขภาพ การจัดการความเสี่ยง การรบั รองคุณภาพโรงพยาบาล

การบริหารระบบสุขภาพแห่งชาติ ธรรมาภิบาล นโยบายสุขภาพแหง่ ชาติ เศรษฐศาสตร์สาธารณสุข ระบบการเงิน

การคลงั เพ่ือสขุ ภาพ การสง่ เสริมสุขภาพและป้องกนั โรค

499810 การบรหิ ารโครงการดิจทิ ลั 3 (3-0-6)

Digital Project Management

การบริหารโครงการนวัตกรรมบริการดิจิทัล การบริหารการผสมผสาน การบริหารขอบเขต

การบริหารเวลา การบรหิ ารต้นทุนและการประหยัดพลังงาน การบริหารคุณภาพ การบรหิ ารทรพั ยากรบุคคลการ

ติดต่อส่ือสารและการร่วมงาน การบริหารความเส่ียง การบริหารโครงการ การกำกับควบคุมโครงการ การปิด

โครงการ และการนำเสนอสารสนเทศของโครงการ

-14- คู่มอื นสิ ิตแพทย์ ปีการศึกษา 2565

วิชาเอกเลือก ไมน่ ้อยกวา่ 12 หน่วยกติ

กำหนดให้นิสิตแพทย์เลือกเรียน กลุ่มวิชาเลือก จำนวน 12 หน่วยกิต จากรายวิชาต่อไปนี้ หรือ

รายวชิ าเลอื กของคณะแพทยศาสตร์อื่น ทงั้ น้โี ดยไดร้ บั ความเหน็ ชอบจากมหาวิทยาลยั นเรศวร

กำหนดให้นิสิตเลือกเรียน จำนวน 12 หน่วยกิต จากรายวิชาต่อไปน้ี หรือ รายวิชาเลือกของคณะ

แพทยศาสตร์อื่น โดยไดร้ บั ความเห็นชอบจากมหาวทิ ยาลยั นเรศวร

499723 การปฏบิ ตั ิงานทางอายุรศาสตร์ 2 (0-4-2)

Practice in Medicine

499724 อายุรศาสตร์เฉพาะทาง 2 (0-4-2)

Specialty in Medicine

499725 อายรุ ศาสตร์ประยุกต์ 2 (0-4-2)

Applied Medicine

499726 ศลั ยศาสตรพ์ ้ืนฐาน 2 (0-4-2)

Basic Surgery

499727 ศลั ยศาสตร์ประยุกต์ 2 (0-4-2)

Applied Surgery

499728 กมุ ารเวชศาสตรท์ ั่วไป 2 (0-4-2)

General Pediatrics

499729 เวชศาสตร์ทารกแรกเกิด 2 (0-4-2)

Neonatology

499730 กมุ ารเวชศาสตรเ์ ฉพาะทาง 2 (0-4-2)

Specialty in Pediatrics

499731 กมุ ารเวชศาสตร์โรคตดิ เช้ือ 2 (0-4-2)

Pediatric Infectious Disease

499732 กุมารเวชศาสตร์โรคไต 2 (0-4-2)

Pediatric Nephrology

499733 กุมารเวชศาสตร์โรคโลหิตวทิ ยาและโรคมะเร็ง 2 (0-4-2)

Pediatric Hematology and Oncology

499734 กมุ ารเวชศาสตร์โภชนาการ 2 (0-4-2)

Pediatric Nutrition

499735 กมุ ารเวชศาสตร์ทางเดินอาหาร 2 (0-4-2)

Pediatric Gastroenterology

499736 กมุ ารเวชศาสตรป์ ระสาทวิทยา 2 (0-4-2)

Pediatric Neurology

499737 กมุ ารเวชศาสตร์พฒั นาการและพฤตกิ รรม 2 (0-4-2)

Pediatric Development and Behavior

499738 กุมารเวชศาสตร์โรคภมู ิแพ้และภมู ิคุม้ กนั 2 (0-4-2)

Pediatric Allergy and Immunology

499739 กุมารเวชศาสตร์ผปู้ ว่ ยนอก 2 (0-4-2)

Ambulatory Pediatrics

499740 -15- คู่มือนิสิตแพทย์ ปกี ารศกึ ษา 2565
499741
499742 กมุ ารเวชศาสตร์โรคระบบทางเดนิ หายใจและภาวะวิกฤต 2 (0-4-2)
499743 Pediatric Pulmonary Medicine and Critical Care 2 (0-4-2)
499744 สตู ิศาสตรท์ ว่ั ไป 2 (0-4-2)
499745 General Obstetrics 2 (0-4-2)
499746 นรีเวชศาสตร์ทว่ั ไป 2 (0-4-2)
499747 General Gynecology 2 (0-4-2)
499748 การผ่าตัดทางออรโ์ ธปดิ กิ ส์ 2 (0-4-2)
499749 Operative Orthopedics 2 (0-4-2)
499750 ออรโ์ ธปิดิกส์ผู้ป่วยนอก 2 (0-4-2)
499751 Ambulatory Orthopedics 2 (0-4-2)
499752 การปฏบิ ตั ิงานทางวสิ ัญญีวทิ ยา 2 (0-4-2)
499753 Practice in Anesthesiology 2 (0-4-2)
499754 เวชปฏบิ ตั ิครอบครวั 2 (0-4-2)
499755 Family Practice 2 (0-4-2)
499756 การดแู ลผู้ป่วยระยะสุดทา้ ย 2 (0-4-2)
499757 Palliative Care 2 (0-4-2)
499758 การแพทยแ์ บบเติมเตม็ และการแพทย์ทางเลือก 2 (0-4-2)
499759 Complementary and Alternative Medicine 2 (0-4-2)
รงั สวี ินิจฉยั 2 (0-4-2)
Diagnostic Radiology 2 (0-4-2)
จกั ษุวทิ ยาคลินกิ
Clinical Ophthalmology
โสต ศอ นำสิกวิทยาทวั่ ไป
General Otolaryngology
ประสบการณ์ทางนติ เิ วชศาสตร์
Experience in Forensic Medicine
ประสบการณค์ ลนิ ิกทางเวชศาสตร์ฉุกเฉิน
Clinical Experience in Emergency Medicine
จิตเวชศาสตรท์ ่วั ไป
General Psychiatry
จิตเวชศาสตรป์ ระยุกต์
Applied Psychiatry
การปฏิบัตงิ านทางเวชศาสตรฟ์ ้นื ฟู
Practice in Rehabilitation Medicine
การปฏบิ ัตงิ านทางพยาธวิ ทิ ยา
Practice in Pathology
การเรยี นรแู้ บบสหวิชาชพี
Interprofessional Education
แพทยศาสตรศึกษาเปรยี บเทยี บ
Comparative Medical Education

-16- คู่มอื นสิ ิตแพทย์ ปกี ารศึกษา 2565

ข้อบงั คับมหาวิทยาลยั นเรศวร
ว่าดว้ ย การศกึ ษาระดบั ปรญิ ญาตรี พ.ศ. ๒๕๔๙

...............................................................
โดยท่ีเป็นการสมควรปรับปรุงข้อบังคับมหาวิทยาลัยนเรศวร ว่าด้วย การศึกษาระดับปริญญาตรี
พ.ศ. ๒๕๔๕ ให้เกิดความเหมาะสมยงิ่ ขน้ึ
ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๔ (๒) แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยนเรศวร พ.ศ. ๒๕๓๓
และแก้ไขเพม่ิ เติม (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๑ โดยมติสภามหาวทิ ยาลัย ในคราวประชมุ คร้ังท่ี ๑๒๒ (๑/๒๕๔๙)
เมือ่ วนั ท่ี ๒๘ มกราคม ๒๕๔๙ จงึ ให้ออกขอ้ บังคบั ไวด้ ังตอ่ ไปน้ี
ข้อ ๑ ข้อบังคับน้ีเรียกว่า “ข้อบังคับมหาวิทยาลัยนเรศวร ว่าด้วย การศึกษาระดับปริญญาตรี
พ.ศ. ๒๕๔๙”
ขอ้ ๒ ขอ้ บงั คับนใ้ี หใ้ ชบ้ ังคบั กับนสิ ิตท่เี ข้าศกึ ษาตงั้ แตป่ ีการศกึ ษา ๒๕๔๙ เปน็ ตน้ ไป
ขอ้ ๓ ให้ยกเลิกขอ้ บงั คบั มหาวทิ ยาลยั นเรศวร วา่ ด้วย การศึกษาระดบั ปรญิ ญาตรี พ.ศ. ๒๕๔๕
บรรดาข้อบงั คบั ระเบยี บ คำส่งั หรอื ประกาศอ่นื ใดกำหนดไว้แล้วในขอ้ บงั คบั นี้ หรอื ซง่ึ ขดั หรือแย้งกบั ขอ้ บงั คบั น้ี
ใหใ้ ช้ข้อบังคับนแ้ี ทน
ขอ้ ๔ ในข้อบังคบั นี้

“มหาวิทยาลัย” หมายความวา่ มหาวทิ ยาลยั นเรศวร
“สภามหาวิทยาลัย” หมายความวา่ สภามหาวิทยาลยั นเรศวร
ขอ้ ๕ คณุ สมบตั ขิ องผู้เขา้ ศึกษา
๕.๑ สำเร็จชั้นประโยคมัธยมศึกษาตอนปลายหรอื เทียบเท่าซึ่งกระทรวงศึกษาธิการรับรอง ๕.๒
สำเร็จการศึกษาระดับอนุปรญิ ญาหรอื เทียบเท่าหรือระดับปรญิ ญาตรีหรอื เทียบเท่า จากสถาบันการศึกษา
ชนั้ สงู ทั้งในประเทศหรอื ตา่ งประเทศ ซงึ่ สภามหาวิทยาลยั รบั รอง
๕.๓ เปน็ ผูท้ มี่ รี ่างกายแขง็ แรง และไม่เปน็ โรคตดิ ต่อรา้ ยแรงอันเป็นอุปสรรคตอ่ การศกึ ษา
๕.๔ ไม่เคยตอ้ งโทษตามคำพิพากษาของศาลถึงท่ีสดุ ให้จำคกุ เว้นแตค่ วามผดิ ท่ีกระทำโดย
ประมาท หรือความผิดลหโุ ทษ
๕.๕ ไม่เคยถกู คดั ชื่อออก หรอื ถูกไล่ออกจากสถาบันการศึกษาใด ๆ เพราะความผิดทาง
ความประพฤติ
ข้อ ๖ การสอบคดั เลือก หรือการคัดเลอื กเข้าเปน็ นสิ ติ
๖.๑ มหาวิทยาลัยจะทำการสอบคัดเลือก หรือคัดเลือกผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอน
ปลายหรือเทียบเท่าเข้าเป็นนิสิตเป็นคราวๆ ไป ตามประกาศและรายละเอียดที่มหาวิทยาลัยหรือท่ี
สำนักงานคณะกรรมการการอดุ มศึกษากำหนด
๖.๒ มหาวิทยาลัยอาจทำการสอบคดั เลือก หรือคัดเลือกผู้ท่ีได้รบั อนุปรญิ ญาหรือเทียบเท่าหรือ
ผูท้ ่ีได้รับปริญญาตรีหรือเทียบเท่าเข้าเป็นนิสิตเพ่ือศึกษาขอรับปรญิ ญาตรีสาขาวิชาหน่ึง สาขาวิชาใดของ
มหาวิทยาลยั ตามระเบียบ หรอื ตามเงอื่ นไขของมหาวิทยาลยั ที่เกย่ี วกบั สาขาวชิ านนั้ ๆ

-17- คูม่ ือนสิ ติ แพทย์ ปกี ารศึกษา 2565

ข้อ ๗ การรบั โอนนิสติ หรอื นกั ศกึ ษาจากสถาบันการศกึ ษาอนื่
๗.๑ มหาวิทยาลยั อาจรบั โอนนิสติ หรือนักศึกษาจากสถาบนั อุดมศึกษาอื่นซึ่งมหาวิทยาลยั

รบั รอง
๗.๒ คุณสมบัตขิ องผู้ขอโอนมาเปน็ นสิ ติ ของมหาวทิ ยาลัย
๗.๒.๑ มีคุณสมบัตติ ามทีก่ ำหนดไวใ้ นข้อ ๕
๗.๒.๒ ไดศ้ ึกษาในสถาบนั การศกึ ษาทมี่ หาวทิ ยาลยั รับรองมาแลว้ ไม่น้อยกวา่ หน่ึงปี
การศกึ ษา
๗.๓ ผปู้ ระสงคท์ ี่จะขอโอนมาเปน็ นิสิตมหาวทิ ยาลยั ต้องปฏิบัติดังน้ี
๗.๓.๑ ยืน่ คำรอ้ งต่อมหาวทิ ยาลัยตามแบบฟอรม์ ทกี่ ำหนดโดยสง่ ถึงมหาวทิ ยาลยั ไม่
น้อยกว่าสามสบิ วนั กอ่ นวันลงทะเบยี นของภาคการศกึ ษาทป่ี ระสงค์จะเข้าศึกษา หรอื
๗.๓.๒ ให้สถานศึกษาเดิมจัดส่งระเบียนผลการเรียนและรายละเอยี ดเน้ือหารายวิชาท่ี
ได้เรียนไปแล้วมายังมหาวทิ ยาลัยโดยตรง
๗.๔ มหาวิทยาลัยอาจพิจารณาให้ความเห็นชอบรับโอน โดยผ่านการพิจารณาจากคณะหรือ

หนว่ ยงานท่เี ทียบเทา่
๗.๕ การเทยี บโอนหนว่ ยกิตและผลการเรยี น
๗.๕.๑ มหาวทิ ยาลัยจะพิจารณาเทียบโอนรายวิชาท่เี รียนมาโดยความเห็นชอบของคณะ
หรือหนว่ ยงานที่เทยี บเทา่ และต้องมีจำนวนหนว่ ยกติ ท่ขี อเทียบโอนไม่เกิน ๓ ใน ๔ ของหลักสตู ร
ทจ่ี ะขอเทียบโอน ทั้งนี้ ตอ้ งเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในประกาศมหาวทิ ยาลัย
๗.๕.๒ รายวิชาที่จะเทียบโอนเป็นหน่วยกิตสะสมจะต้องมีเน้ือหาวิชาอยู่ในระดับ
เดยี วกนั กับรายวชิ าของมหาวิทยาลยั และมีผลการเรียนเทยี บได้ไมต่ ่ำกวา่ ระดบั ขน้ั C

ข้อ ๘ การขอเขา้ ศึกษาเพ่อื ปริญญาท่ีสอง
๘.๑ ผู้ทส่ี ำเรจ็ การศกึ ษาระดับปรญิ ญาจากมหาวิทยาลัยนเรศวร หรือจากสถาบันอุดมศกึ ษา

อืน่ อาจขอเข้าศึกษาต่อเพื่อปริญญาตรสี าขาวิชาอ่ืนเป็นการเพ่ิมเติมได้ แต่ต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติตามที่
กำหนดไว้ในข้อ ๕

๘.๒ การแสดงความจำนงขอเข้าศกึ ษา ต้องปฏิบัติดงั นี้
๘.๒.๑ ย่ืนคำร้องต่อมหาวิทยาลัยตามแบบฟอร์มท่ีกำหนด โดยส่งถึงมหาวทิ ยาลัยได้

นอ้ ยกวา่ สามสบิ วันกอ่ นวนั ลงทะเบยี นของภาคการศกึ ษาท่ปี ระสงค์จะเขา้ ศึกษา
๘.๒.๒ การรับเข้าศึกษา มหาวิทยาลัยอาจพิจารณารับเข้าโดยผ่านความเห็นชอบของ

คณะ หรือหน่วยงานท่ีเทียบเท่า
๘.๓ การเทียบโอนหน่วยกติ

๘.๓.๑ การเทียบโอนหนว่ ยกิตให้นำขอ้ ๗.๕ มาใช้บงั คบั โดยอนโุ ลม
ข้อ ๙ การเข้าศึกษาระดับปริญญาตรีต่อเนื่อง มหาวิทยาลัยอาจทำการสอบคัดเลือก หรือคัดเลือก
บุคคลที่มคี ุณสมบตั ิตามที่กำหนดไว้ในขอ้ ๕ หรอื มคี ณุ สมบตั ติ ามทก่ี ำหนดไวใ้ นประกาศมหาวิทยาลยั
ขอ้ ๑๐ การรายงานตวั เป็นนสิ ติ

๑๐.๑ ผ้ทู ส่ี อบคัดเลือกได้ ผูท้ ่ีได้รบั การคัดเลือก ผทู้ ไ่ี ดร้ บั อนมุ ตั ใิ ห้โอนมาจากสถานศึกษาอน่ื
หรือผู้ที่ได้รับอนุมัติให้เข้าศึกษาต่อหรือผู้ท่ีเข้าศึกษาเพ่ือปริญญาที่สองจะต้องไปรายงานตัวและเตรียม
หลักฐานต่าง ๆ ตามที่กำหนดไว้ในประกาศมหาวิทยาลัย เพ่ือข้ึนทะเบียนเป็นนิสิตใน วัน เวลา ที่
มหาวทิ ยาลัยกำหนด

๑๐.๒ กรณีนิสิตไมไ่ ปรายงานตวั ตามวนั เวลาทมี่ หาวทิ ยาลัยกำหนด ให้ถือว่าสละสิทธิ์การเขา้ เป็น
นิสติ เวน้ แตไ่ ดร้ บั อนุมัติจากมหาวทิ ยาลัยเปน็ ราย ๆ ไป

-18- ค่มู ือนิสิตแพทย์ ปกี ารศึกษา 2565

๑๐.๓ เมื่อขึ้นทะเบียนเป็นนิสิตแลว้ มหาวิทยาลัยจะกำหนดรหสั ประจำตวั นสิ ิต โดยทางคณะ
จะจัดอาจารย์ที่ปรึกษาให้ และให้อาจารย์ที่ปรึกษามีหน้าที่ให้คำปรึกษา แนะนำ ตลอดจนแนะแนว
การศึกษาให้สอดคลอ้ งกบั แผนกำหนดการศกึ ษา
ขอ้ ๑๑ ระบบการจัดการศึกษา

๑๑.๑ มหาวิทยาลัยมีระบบการจดั การศึกษา โดยให้คณะ หรือภาควิชาท่ีมีหน้าที่เกี่ยวข้องกับ
สาขาวชิ าใด ๆ ใหก้ ารศกึ ษาในสาขาวชิ านนั้ แกน่ สิ ติ ทั้งมหาวิทยาลัย

๑๑.๒ สาขาวิชาหน่ึง ๆ ท่ีจัดสอนในมหาวทิ ยาลยั ประกอบดว้ ยหลายรายวชิ า
๑๑.๓ มหาวิทยาลัยใช้ระบบการจัดการศึกษา ระบบทวิภาค โดยแบ่งการจัดการศึกษา
ออกเป็น ๒ แบบ คอื

๑๑.๓.๑ แบบ ๒ ภาคการศึกษาต่อปีการศึกษา เป็นการจดั การศกึ ษาปกติ ซง่ึ เป็นภาค
การศึกษาบังคบั มีระยะเวลาศึกษาไมน่ ้อยกว่า ๑๕ สัปดาห์ มหาวิทยาลัยอาจเปิดภาคฤดูร้อน
ซ่ึงเป็นภาคการศึกษาไม่บังคับและใช้ระยะเวลาเรยี นประมาณ ๘ สปั ดาห์ โดยจัดช่ัวโมงเรยี นของ
แต่ละรายวิชา ให้มีจำนวนช่ัวโมงต่อหน่วยกิต ตามท่ีกำหนดไว้ในภาคการศึกษาปกติของระบบ
ทวิภาค

๑๑.๓.๒ แบบ ๓ ภาคการศึกษาต่อปีการศกึ ษา ใชร้ ะยะเวลาเรยี นไมน่ อ้ ยกว่า ๑๕
สปั ดาหต์ ่อภาคการศึกษาท้ังนี้ต้องจัดการเรียนให้มจี ำนวนชว่ั โมงต่อหนว่ ยกิต ตามที่กำหนดไวใ้ น
ภาคการศกึ ษาปกติของระบบทวภิ าค
๑๑.๔ กรณีที่หลักสูตรสาขาวิชาใด ประกอบด้วยรายวิชาท่ีจำเป็นต้องเปิดสอนในภาคฤดูร้อน
เพื่อการฝึกงานหรือฝึกภาคสนามหรือกรณีศึกษาให้ถือเสมือนว่าภาคฤดูร้อนเป็นส่วนหนึ่งของภาค
การศึกษาภาคบังคบั ดว้ ย
๑๑.๕ มหาวิทยาลัยใช้ระบบหน่วยกิตในการดำเนินการศึกษา จำนวนหน่วยกิตใช้แสดงถึง
ปรมิ าณการศึกษาของแต่ละรายวิชา
๑๑.๖ การคดิ หน่วยกติ

๑๑.๖.๑ รายวิชาภาคทฤษฎีที่ใช้เวลาบรรยายหรืออภิปรายปัญหาไม่น้อยกว่า ๑๕
ชั่วโมงตอ่ ภาคการศึกษาปกตใิ ห้มีคา่ เท่ากบั ๑ หนว่ ยกิต ระบบทวภิ าค

๑๑.๖.๒ รายวิชาภาคปฏิบัติ ท่ีใช้เวลาฝึกหรือทดลองไม่น้อยกว่า ๓๐ช่ัวโมงต่อภาค
การศกึ ษาปกติใหม้ ีค่าเทา่ กบั ๑ หน่วยกติ ระบบทวิภาค

๑๑.๖.๓ การฝึกงาน หรือการฝกึ ภาคสนามท่ีใช้เวลาฝึกไม่น้อยกว่า ๔๕ ช่ัวโมงต่อ
ภาคการศึกษาปกติ ใหม้ คี ่าเทา่ กบั ๑ หน่วยกิต ระบบทวิภาค

๑๑.๖.๔ การทำโครงงานหรือกจิ กรรมการเรียนอนื่ ใด ตามที่ไดร้ ับมอบหมายทใี่ ช้เวลา
ทำโครงงานหรือกิจกรรมนั้น ๆ ไม่น้อยกว่า ๔๕ ชั่วโมงต่อภาคการศึกษาปกติ ให้มีค่าเท่ากับ ๑
หน่วยกติ ระบบทวิภาค
๑๑.๗ มหาวิทยาลัยอาจกำหนดเง่ือนไขท่ีต้องผ่านก่อน (Prerequisite) สำหรับการ
ลงทะเบียนบางรายวิชา โดยนิสิตต้องมีผลการเรยี นระดับ D ข้ึนไป เพื่อให้นิสิตสามารถเรยี นรายวชิ าน้ัน
อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
๑๑.๘ รายวิชาหนงึ่ ๆ มรี หัสรายวชิ าและชื่อรายวชิ าทกี่ ำกับไว้
๑๑.๙ รหัสรายวิชาประกอบดว้ ย

๑๑.๙.๑ เลข ๓ ตวั แรก แสดงถงึ สาขาวชิ า
๑๑.๙.๒ เลขท่ี ๔ แสดงถงึ ระดับชั้นปีของการศึกษา
๑๑.๙.๓ เลขที่ ๕ แสดงถงึ หมวดหมู่ในสาขาวชิ า

-19- คูม่ อื นิสติ แพทย์ ปีการศกึ ษา 2565

๑๑.๙.๔ เลขที่ ๖ แสดงถงึ อนุกรมของรายวิชา
๑๑.๑๐ สภาพนสิ ติ แบง่ ออกได้ดงั นี้

๑๑.๑๐.๑ นิสิตปกติ ได้แก่ นสิ ติ ทม่ี ีผลการเรยี นและการสอบได้คา่ ระดบั
เฉลยี่ สะสมต้งั แต่ ๒.๐๐ ข้ึนไป

๑๑.๑๐.๒ นิสิตรอพินิจ ได้แก่ นิสิตท่ีมีผลการเรียนและการสอบได้ค่าระดับเฉล่ีย
สะสมต่ำกวา่ ๒.๐๐
๑๑.๑๑ การจำแนกสภาพนิสิต จะกระทำเมื่อสิ้นภาคการศึกษา ของการศึกษาในระบบทวิภาค
แบบ ๒ ภาคการศึกษาต่อปีการศึกษา หรือการศึกษาในระบบทวิภาค แบบ ๓ ภาคการศึกษาต่อปี
การศึกษาสำหรับผลการศกึ ษาภาคฤดูรอ้ นให้นำไปรวมกับผลการศึกษาถัดไปท่ีนิสิตผู้นนั้ ลงทะเบียนเรยี น
ยกเวน้ ผู้ทจ่ี บการศกึ ษาภาคฤดรู อ้ น
ข้อ ๑๒ หลกั สตู รสาขาวิชา
๑๒.๑ หลักสูตรระดบั ปริญญาตรีของแตล่ ะสาขาวชิ า ประกอบด้วย

๑๒.๑.๑ หมวดวิชาศึกษาทั่วไป เป็นกลุ่มรายวิชาท่ีมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีความรอบรู้
อย่างกว้างขวาง มีโลกทัศนท์ ่ีกวา้ งไกล มีความเข้าใจธรรมชาติ ตนเอง ผอู้ ่ืน และสังคม เปน็ ผู้ใฝ่รู้
สามารถคิดอย่างมีเหตุผล สามารถใช้ภาษาในการติดต่อสื่อสารความหมายได้ดี เป็นคนท่ี
สมบูรณ์ท้ังร่างกายและจิตใจ มีคุณธรรม ตระหนักในคุณค่าของศิลปวัฒนธรรมทั้งของไทยและ
ของประชาคมนำนำชาติ สามารถนำความรู้ไปใช้ในการดำเนินชีวิต และดำรงตนอยู่ในสังคมได้
เป็นอย่างดี โดยใหม้ จี ำนวนหน่วยกติ รวมไมน่ ้อยกว่า ๓๐ หน่วยกติ

๑๒.๑.๒ หมวดวชิ าเฉพาะสาขา เป็นกลมุ่ รายวิชาแกน วชิ าเฉพาะดา้ น วิชาพ้ืนฐาน
วชิ าชีพ และวิชาชีพทมี่ ุ่งหมายให้ผเู้ รยี นมคี วามรู้ ความเข้าใจและปฏบิ ตั งิ านได้ โดยให้มีหน่วยกติ
รวมดงั น้ี

๑๒.๑.๒.๑ หลักสูตรปริญญาตรี (๔ ปี) ใหม้ ีจำนวนหน่วยกิต หมวดวชิ าเฉพาะ รวมไม่
นอ้ ยกว่า ๘๔ หน่วยกติ

๑๒.๑.๒.๒ หลักสูตรปริญญาตรี (๕ ปี) ใหม้ ีจำนวนหนว่ ยกิต หมวดวชิ าเฉพาะ รวมไม่
นอ้ ยกว่า ๑๑๔ หน่วยกติ

๑๒.๑.๒.๓ หลักสูตรปริญญาตรี (ไม่น้อยกว่า ๖ ปี) ใหม้ ีจำนวนหน่วยกิต
หมวดวชิ าเฉพาะรวมไม่น้อยกว่า ๑๔๔ หนว่ ยกติ
๑๒.๑.๒.๔ หลกั สตู รปรญิ ญาตรี (ต่อเน่อื ง) ใหม้ จี ำนวนหนว่ ยกติ หมวดวิชา
เฉพาะรวมไมน่ อ้ ยกว่า ๔๒ หน่วยกิต

๑๒.๑.๓ หมวดวิชาเลือกเสรี เป็นรายวิชาที่เปิดโอกาสให้นิสิตเลือกเรียนรายวิชาใด ๆ
ในหลักสูตรปริญญาตรี เพื่อให้ผู้เรียนได้ขยายความรู้ทางวิชาการให้กว้างขวางออกไป ตลอดจน
เป็นการสง่ เสริมความถนัด และความสนใจของผู้เรยี นให้ไดม้ ากยง่ิ ขึ้น โดยให้มีจำนวนหน่วย
กติ รวมไมน่ อ้ ยกวา่ ๖ หนว่ ยกติ
๑๒.๒ หลกั สูตรปริญญาตรี (๔ ปี) ให้มีจำนวนหน่วยกิตรวมไม่น้อยกว่า ๑๒๐ หน่วยกิต ใหใ้ ช้
เวลาศึกษาอยา่ งมากไมเ่ กิน ๘ ปีการศกึ ษา สำหรับหลักสตู รท่ีเรียนเต็มเวลา และอย่างมากไม่เกิน ๑๒
ปีการศกึ ษา สำหรบั หลกั สูตรทเ่ี รียนไมเ่ ตม็ เวลา
๑๒.๓ หลกั สูตรปริญญาตรี (๕ ป)ี ใหม้ จี ำนวนหนว่ ยกิตรวมไมน่ อ้ ยกว่า ๑๕๐ หนว่ ยกติ
ให้ใช้เวลาศกึ ษาอย่างมากไม่เกิน ๑๐ ปีการศึกษา สำหรับหลักสตู รท่ีเรยี นเต็มเวลา และอย่างมากไม่เกิน
๑๕ ปกี ารศกึ ษา สำหรบั หลักสตู รท่เี รียนไม่เตม็ เวลา

-20- คู่มอื นิสติ แพทย์ ปีการศกึ ษา 2565

๑๒.๔ หลักสูตรปริญญาตรี (๖ ปี) ให้มีจำนวนหน่วยกิตรวมไม่น้อยกว่า ๑๘๐ หน่วยกิต ให้ใช้
เวลาศึกษาอย่างมากไม่เกนิ ๑๒ ปีการศึกษา สำหรับหลักสูตรท่ีเรียนเต็มเวลา และอย่างมากไมเ่ กิน ๑๘ ปี
การศึกษา สำหรับหลกั สตู รที่เรียนไมเ่ ตม็ เวลา

๑๒.๕ หลักสตู รปริญญาตรี (ต่อเนื่อง) ให้มีจำนวนหนว่ ยกติ รวมไมน่ อ้ ยกวา่ ๗๒ หนว่ ยกิต ใหใ้ ช้
เวลาศึกษาอย่างมากไมเ่ กิน ๔ ปีการศึกษา สำหรับหลักสูตรท่ีเรียนเต็มเวลา และอย่างมากไม่เกิน ๖ ปี
การศกึ ษา สำหรบั หลักสตู รทเ่ี รยี นไม่เตม็ เวลา

๑๒.๖ เพื่อให้การลงทะเบียนเรยี นรายวิชาสอดคล้องกบั หลักสูตรสาขาวิชา ให้อาจารย์ที่ปรึกษา
และนิสิตทำความเข้าใจหลกั สูตร สาขาวิชา และแผนการศึกษาน้ัน และให้อาจารย์ท่ีปรึกษาเป็นผู้ควบคุม
นิสิตลงทะเบยี นเรยี นรายวชิ าใหส้ อดคลอ้ งกบั หลักสูตร สาขาวิชา
ข้อ ๑๓ การลงทะเบียนเรยี น

๑๓.๑ การลงทะเบยี นเรยี น ให้เป็นไปตามทก่ี ำหนดไว้ในประกาศมหาวิทยาลัย หากนสิ ติ มา
ลงทะเบียนหลังวันท่ีมหาวิทยาลัยกำหนด จะต้องชำระค่าปรับตามท่ีกำหนดไว้ในประกาศ
มหาวิทยาลยั
๑๓.๒ การลงทะเบยี นรายวิชาใด ๆ นสิ ติ สามารถลงทะเบยี นเรยี นหรอื ลงทะเบยี นเพ่ิม – ถอน
รายวิชา ผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ด้วยตนเองตามวันเวลาท่ีกำหนดไว้ในประกาศ
มหาวทิ ยาลยั
๑๓.๓ การลงทะเบียนรายวิชาหลังกำหนด ให้กระทำได้ภายในระยะเวลาของการขอเพ่ิม
รายวิชา หากพน้ กำหนดนี้มหาวทิ ยาลัยอาจยกเลิกสทิ ธก์ิ ารลงทะเบียนรายวิชาในภาคการศึกษานัน้
๑๓.๔ การลงทะเบียนเรยี นจะสมบูรณ์กต็ ่อเมื่อได้ชำระคา่ ธรรมเนียมตา่ ง ๆ ตามท่ีกำหนดไวใ้ น
ประกาศมหาวทิ ยาลยั
๑๓.๕ วชิ าใดทีไ่ ด้รบั อกั ษร I หรือ P นสิ ติ ไมต่ อ้ งลงทะเบยี นเรยี นรายวชิ าน้นั ซ้ำอีก
๑๓.๖ การจัดการศึกษาในระบบทวิภาค แบบ ๒ ภาคการศึกษาต่อปีการศึกษา นิสิตสามารถ
ลงทะเบียนเรียนรายวิชาของแต่ละภาคการศึกษาปกตไิ ด้ไม่น้อยกว่า ๙ หน่วยกิต แตไ่ ม่เกิน ๒๒ หน่วยกิต
และสามารถลงทะเบยี นเรียนรายวชิ าสำหรบั ภาคฤดูร้อนได้ไม่เกิน ๙ หน่วยกิต
การจัดการศึกษาในระบบทวิภาค แบบ ๓ ภาคการศึกษาต่อปีการศึกษา นิสิตสามารถ
ลงทะเบียนเรียนรายวิชาของแต่ละภาคการศึกษาได้ไม่น้อยกว่า ๖ หน่วยกิต แต่ไม่เกิน ๑๕ หน่วยกิต
กรณีนสิ ิตต้องการลงทะเบียนเรียนน้อยกว่า ๙ หน่วยกิต หรือเกินกว่า ๒๒ หน่วยกิตสำหรับการ
จัดการศึกษาในระบบทวิภาค แบบ ๒ ภาคการศึกษาต่อปีการศึกษา ตามวรรคหน่ึงหรือต้องการ
ลงทะเบียนเรียนน้อยกว่า ๖ หน่วยกิต หรือ มากกว่า ๑๕ หน่วยกิต สำหรับการจัดการศึกษาในระบบ
ทวิภาค แบบ ๓ ภาคการศกึ ษาต่อปีการศึกษา ตามวรรคสอง ให้ยนื่ คำร้องขออนุมตั ติ ่อมหาวทิ ยาลัย
๑๓.๗ การลงทะเบียนท่ีผิดเงื่อนไข ให้ถือว่าการลงทะเบียนนั้นเป็นโมฆะ และรายวิชาท่ี
ลงทะเบียนผดิ เงอื่ นไขนั้นให้ไดร้ บั อกั ษร W
๑๓.๘ นสิ ติ อาจขอลงทะเบยี นเข้ารว่ มศึกษารายวิชาใด ๆ เพอ่ื เป็นการเพิ่มพนู ความรูไ้ ดโ้ ดยความ
เหน็ ชอบของอาจารย์ผูส้ อน และคณะ หรอื หนว่ ยงานทเี่ ทยี บเท่าท่ีรายวชิ านั้นสังกดั อยูย่ ินยอมและได้ยื่น
หลักฐานนั้นต่อมหาวิทยาลยั ทั้งนี้ นิสิตจะต้องชำระค่าหน่วยกิตรายวิชาน้ันตามที่กำหนดไวใ้ นประกาศ
มหาวทิ ยาลยั และนิสิตจะได้รบั ผลการเรียนเปน็ อักษร S หรือ U
๑๓.๙ ภาคการศึกษาปกตใิ ด หากนิสิตไม่ได้ลงทะเบียนเรยี นด้วยเหตใุ ด ๆ กต็ าม จะต้องขอลา
พักการศึกษาสำหรับภาคการศึกษานั้น โดยทำหนังสือขออนุมัติลาพักการศึกษาต่อคณบดี และจะต้อง
เสียค่าธรรมเนียมเพ่ือขึ้นทะเบียนเป็นนิสิต/เพ่ือรักษาสภาพนิสิตภายในสิบห้าวัน นับจากวันเปิดภาค
การศกึ ษา หากไม่ปฏิบตั ิตามดังกล่าว ต้องพ้นสภาพการเปน็ นสิ ติ

-21- คูม่ ือนิสิตแพทย์ ปกี ารศกึ ษา 2565

๑๓.๑๐ มหาวทิ ยาลัยอาจอนุมัติใหน้ ิสติ ท่ีพ้นสภาพนิสิต กลับเขา้ เปน็ นิสติ ใหม่ ถ้ามีเหตผุ ลอนั
สมควร โดยให้ถือระยะเวลาทีพ่ น้ สภาพนิสิตน้นั เป็นระยะเวลาพกั การศึกษา ในกรณีเชน่ น้ีนสิ ิตจะต้อง
ชำระคา่ ธรรมเนยี มเพ่ือข้ึนทะเบียนเป็นนิสิต รวมทั้งค่าธรรมเนยี มอ่นื ๆ ท่ีคา้ งชำระเสมือนเป็นผู้ลาพัก
การศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั ไมอ่ นุมตั ใิ หก้ ลับเข้าเปน็ นิสติ ตามวรรคก่อน หากพน้ กำหนดเวลาสองปนี ับจาก
วนั ท่นี สิ ติ ผ้นู น้ั พน้ สภาพการเปน็ นิสติ

๑๓.๑๑ ในกรณีมีโครงการแลกเปลย่ี นนสิ ิต นักศึกษาระหว่างสถาบันอุดมศึกษา หรือมีข้อตกลง
เฉพาะราย มหาวิทยาลัยอาจพิจารณาอนุมัติให้นิสิตลงทะเบียนเรียนรายวิชาที่เปิดสอนใน
สถาบนั อดุ มศกึ ษาอ่ืนแทนการลงทะเบียนเรียนในมหาวิทยาลัยนเรศวรท้ังหมด หรอื บางส่วนได้ หรืออาจ
พิจารณาอนุมัติให้ลงทะเบียนรายวิชาท่ีเปิดสอนในมหาวิทยาลัยนเรศวร โดยชำระค่าธรรมเนียมตามท่ี
กำหนดไวใ้ นประกาศมหาวทิ ยาลยั กไ็ ด้
ข้อ ๑๔ การเพม่ิ และถอนรายวชิ า

๑๔.๑ การเพิ่มรายวิชาจะกระทำได้ภายใน ๒ สัปดาห์แรกนับจากวันเปิดภาคการศึกษา หรือ
ภายใน ๑ สัปดาหแ์ รกนบั จากวันเปิดภาคฤดูรอ้ น

๑๔.๒ การถอนรายวิชาจะกระทำได้ภายในกำหนดเวลาไม่เกนิ ระยะเวลาร้อยละ ๗๕ ของเวลา
เรียนของภาคการศึกษานับตัง้ แต่วันเปิดภาคการศึกษา การถอนรายวิชาภายในกำหนดเวลาเดียวกันกับ
การเพ่ิมรายวิชาจะไม่ปรากฏอักษร W ในระเบียนผลการศึกษา แต่ถ้าถอนรายวิชาหลังกำหนดเวลาการ
เพ่ิมรายวชิ านิสติ จะได้รบั อกั ษร W

๑๔.๓ ขั้นตอนปฏิบัติในการเพิ่มและถอนรายวิชา ให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในประกาศ
มหาวทิ ยาลัย

๑๔.๔ การคำนวณค่าระดับขั้นสะสมเฉลี่ยของนิสิตที่ย้ายสาขาวิชา หรือย้ายคณะ ให้นำเอาผล
คูณของจำนวนหน่วยกิตกับค่าระดับข้ันของทุกรายวิชาที่ปรากฏในหลักสูตรสาขาวิชาที่รับเข้า ไม่ว่าจะ
เปน็ รายวชิ าที่เทียบให้หรอื ไม่ก็ตาม รายวิชาท่ีไม่ปรากฏในหลักสตู รสาขาวิชาที่รับเข้า ไม่วา่ นิสิตจะได้รับ
ค่าระดับข้ันใด จะไมน่ ำมาคำนวณค่าระดับขน้ั สะสมเฉล่ีย

๑๔.๕ การคำนวณค่าระดับข้ันสะสมเฉลี่ยของนิสิตท่ีโอนย้ายมาจากสถาบันอุดมศึกษาอ่ืนให้
คำนวณคา่ ระดบั ข้ันสะสมเฉลี่ยเฉพาะรายวิชาที่เรียนใหม่
ข้อ ๑๕ การวดั และการประเมินผลการศกึ ษา

๑๕.๑ มหาวทิ ยาลัยจัดให้มีการวัดผลการศึกษาภาคการศกึ ษาละไม่นอ้ ยกว่าหนึ่งครัง้
๑๕.๒ นิสิตต้องมีเวลาเรียนแตล่ ะรายวชิ าไมต่ ่ำกว่าร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนทั้งหมด จึงจะ
มสี ทิ ธ์ิได้รับการวัดและประเมินผลในรายวชิ าน้ัน ผูไ้ ม่มสี ิทธไ์ิ ดร้ ับการวัดและประเมินผลตามวรรคกอ่ น
จะไดร้ บั ระดับขน้ั F หรืออกั ษร U
๑๕.๓ มหาวิทยาลัยใช้ระบบระดับขั้นและค่าระดับขั้นในการวัดและประเมินผล นอกจาก
รายวิชาทก่ี ำหนดให้วัดและประเมินผลดว้ ยอกั ษร S และ U

-22- ค่มู อื นสิ ิตแพทย์ ปกี ารศึกษา 2565

๑๕.๔ สัญลักษณ์และความหมายของการวัดและประเมนิ ผลรายวชิ าต่าง ๆ ใหก้ ำหนด ดังนี้

สญั ลกั ษณ์ ความหมาย คา่ ระดบั ขน้ั

A ดเี ยยี่ ม (Excellent) ๔.๐๐

B+ ดีมาก (Very Good) ๓.๕๐

B ดี (Good) ๓.๐๐

C+ ดีพอใช้ (Fairly Good) ๒.๕๐

C พอใช้ (Fair) ๒.๐๐

D+ อ่อน (Poor) ๑.๕๐

D ออ่ นมาก (Very Poor) ๑.๐๐

F ตก (Failed) ๐.๐๐

S เป็นท่ีพอใจ (Satisfactory)

U ไม่เปน็ ที่พอใจ (Unsatisfactory)

I การวดั ผลยังไมส่ มบรู ณ์ (Incomplete)

P การเรยี นการสอนยังไมส่ น้ิ สุด (In Progress)

W การถอนรายวิชา (Withdrawn)

๑๕.๕ ระบบอกั ษรS และ U ใช้เฉพาะบางรายวิชาที่มหาวิทยาลัยกำหนด และประเมินผลด้วย

อักษร S และ U

๑๕.๖ อักษร I เปน็ สัญลักษณ์ที่แสดงว่านิสิตไม่สามารถเขา้ รับการวัดผลในรายวิชาน้ันให้เสร็จ

สมบูรณ์ได้ โดยมีหลักฐานแสดงว่ามีเหตุสุดวิสัยบางประการ การให้อักษร I ต้องได้รับความเห็นชอบ

จากอาจารย์ผู้สอนและการอนุมัติจากคณบดีที่รายวิชาน้ันสังกัดอยู่ นิสิตจะต้องดำเนินการขอรับการวัด

และประเมินผลเพื่อแก้อักษร I ให้สมบูรณ์ภายใน ๔ สัปดาห์นับแต่วันเปิดภาคการศึกษาถัดไปของการ

ลงทะเบียนเรียน หากพน้ กำหนดดงั กล่าวมหาวิทยาลยั จะเปลี่ยนอกั ษร I เปน็ ระดับข้ัน F หรอื อกั ษร U

๑๕.๗ อักษร P เป็นสัญลักษณท์ ่ีแสดงวา่ รายวิชานั้นยังมกี ารเรยี นการสอนต่อเน่ืองอยู่และไมม่ ี

การวัดและประเมินผลภายในภาคการศึกษาท่ีลงทะเบียนทั้งนี้ให้ใช้เฉพาะบางรายวิชาที่มหาวิทยาลัย

กำหนด อกั ษร P จะเปลย่ี นกต็ อ่ เม่ือมีการวดั และประเมินผล ภายในระยะเวลาไมเ่ กินวันสุดทา้ ยของการ

สอบไล่ประจำภาคในสองภาคการศึกษาถัดไปหากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวตามวรรคก่อนแล้ว

มหาวิทยาลัยจะเปล่ียนอกั ษร P เป็นระดบั ขั้น F หรืออักษร U

๑๕.๘ อกั ษร W เปน็ สัญลกั ษณ์ทแ่ี สดงวา่

๑๕.๘.๑ นิสิตไดถ้ อนรายวชิ าทล่ี งทะเบียนตามเง่ือนไขการลงทะเบยี น

๑๕.๘.๒ การลงทะเบยี นผิดเงอ่ื นไขและเป็นโมฆะ

๑๕.๘.๓ นสิ ิตถูกสัง่ พกั การศกึ ษาในภาคการศกึ ษานนั้

๑๕.๘.๔ มหาวิทยาลยั นเรศวรอนุมตั ใิ ห้นสิ ิตถอนทุกรายวชิ าที่ลงทะเบียน

๑๕.๙ อกั ษร S U I P และ W จะไมถ่ กู นำมาคำนวณหาคา่ ระดับขน้ั สะสมเฉลี่ย

๑๕.๑๐ การนับหนว่ ยกิตสะสม และการคำนวณหาคา่ ระดบั ขน้ั สะสมเฉล่ีย

๑๕.๑๐.๑การนับจำนวนหน่วยกติ สะสมเพื่อให้ครบหลักสูตร ให้นบั เฉพาะหน่วยกิตของ

รายวชิ าที่สอบได้เท่านั้น ในกรณีท่ีนสิ ิตลงทะเบียนเรยี นรายวิชาใดรายวชิ าหนึ่งมากกว่าหน่ึงคร้ัง

ใหน้ บั เฉพาะจำนวนหน่วยกติ คร้ังสดุ ทา้ ยท่ปี ระเมนิ ว่าสอบไดน้ ำไปคิดเปน็ หน่วยกติ สะสมเพยี งครั้ง

เดยี ว

๑๕.๑๐.๒ มหาวทิ ยาลยั จะคำนวณค่าระดบั ขน้ั สะสมเฉล่ยี จากหน่วยกติ และค่า

ระดบั ข้นั ของรายวชิ าทัง้ หมดทน่ี สิ ติ ไดล้ งทะเบยี นในแตล่ ะภาคการศกึ ษา

-23- ค่มู ือนิสติ แพทย์ ปกี ารศึกษา 2565

๑๕.๑๐.๓ การคำนวณค่าระดับขั้นสะสมเฉล่ียใหน้ ำเอาผลคณู ของจำนวนหน่วยกิตกับ
ค่าระดับขั้นของทุก ๆ รายวิชาตามข้อ ๑๕.๑๐.๑ มารวมกันแล้วหารดว้ ยจำนวนหน่วยกิตของ
รายวิชาท้ังหมด ยกเว้นข้อ ๑๕.๙ และในกรณีท่ีนิสิตลงทะเบียนเรียนรายวิชาใดรายวิชาหนึ่ง
มากกว่าหนึ่งครัง้ มหาวิทยาลัยจะคำนวณค่าระดับขั้นสะสมเฉลีย่ จากหน่วยกิตและค่าระดับข้นั ท่ี
นิสติ ลงทะเบียนเรยี นครงั้ สดุ ท้ายเพียงคร้งั เดยี ว
ข้อ ๑๖ การเรียนซำ้
๑๖.๑ รายวชิ าใดท่ีนิสติ สอบไดต้ ่ำกวา่ C นสิ ติ สามารถลงทะเบยี นเรียนซ้ำได้
๑๖.๒ รายวิชาบงั คับใดตามโครงสร้างหลักสตู รท่นี สิ ติ สอบได้ F นสิ ิตต้องลงทะเบียนเรียนซำ้
๑๖.๓ รายวิชาบงั คบั ใดตามโครงสรา้ งหลกั สตู รท่นี สิ ิตสอบได้ U นิสิตตอ้ งลงทะเบียนเรยี นซ้ำ
ขอ้ ๑๗ การลา
๑๗.๑ การลาป่วยและการลากิจ

นิสติ ผู้ใดมีกิจจำเป็น หรอื เจ็บป่วย ไม่สามารถเข้าชั้นเรียนในช่ัวโมงเรียนได้ ให้ยื่นใบลา
ตามแบบฟอร์มของมหาวิทยาลัยผ่านอาจารย์ท่ีปรกึ ษา แล้วนำไปขออนุญาตจากอาจารย์ผู้สอน
๑๗.๒ การลาพักการศึกษา

๑๗.๒.๑ นสิ ติ จะขออนญุ าตลาพกั การศึกษาไดใ้ นกรณตี อ่ ไปนี้
(๑) ถูกเรียกพล ระดมพลหรอื เกณฑเ์ ขา้ รบั ราชการทหาร
(๒) ได้รับทุนแลกเปลยี่ นนักศกึ ษาระหว่างประเทศ หรอื ทนุ อืน่ ใดซง่ึ มหาวิทยาลัย

เห็นสมควรสนบั สนุน
(๓) เจบ็ ป่วยหรือประสบอบุ ัติเหตุ
(๔) เหตุผลอ่ืน ๆ ท่ีคณะเหน็ สมควร
๑๗.๒.๒ นิสิตที่ประสงค์จะลาพักการศึกษาตลอดหนึ่งภาคการศึกษาปกติหรือมากกว่า

ให้ยื่นใบลาตามแบบฟอร์มของมหาวิทยาลัย พร้อมกับหนังสือยินยอมจากผู้ปกครองผ่าน
อาจารย์ท่ปี รกึ ษาถงึ คณบดีเพื่อพจิ ารณาอนมุ ตั ิ แลว้ แจ้งมหาวิทยาลยั เพื่อทราบต่อไป

๑๗.๒.๓ นิสิตท่ีลาพัก หรือถูกส่ังพักการศึกษาตลอดหนึ่งภาคการศึกษาปกติหรือ
มากกวา่ จะตอ้ งชำระคา่ ธรรมเนยี มเพอ่ื ข้ึนทะเบียนเปน็ นิสิตทุกภาคการศึกษา
๑๗.๓ การลาออก นิสิตท่ีประสงค์จะขอลาออก ต้องย่ืนใบลาพร้อมหนังสือยินยอม จาก
ผปู้ กครองผ่านอาจารย์ทปี่ รึกษาถึงคณบดี แลว้ เสนอมหาวิทยาลยั เพอ่ื พิจารณาอนมุ ัติ
ขอ้ ๑๘ การยา้ ยสาขาวิชา
๑๘.๑ การย้ายสาขาวิชาภายในคณะ ใหป้ ฏบิ ตั ติ ามเงื่อนไขของคณะและภาควชิ านน้ั
๑๘.๒ การยา้ ยสาขาวชิ าไปคณะอ่นื จะต้องปฏิบตั ิตามเง่อื นไขตอ่ ไปนี้

๑๘.๒.๑ นิสิตที่ประสงค์จะขอย้ายสาขาวิชาไปคณะอืน่ จะตอ้ งได้รับความเห็นชอบ
จากอาจารย์ที่ปรึกษา ภาควิชา และคณบดีคณะเดิม และได้เรียนตามแผนการศึกษา
ในคณะเดมิ มาแล้ว ไม่น้อยกวา่ สองภาคการศกึ ษาปกติ
๑๘.๒.๒ การย้ายสาขาวิชาไปคณะอืน่ จะต้องไดร้ บั ความเห็นชอบจากมหาวทิ ยาลยั
โดยผ่านการพิจารณาของคณะหรือหน่วยงานที่เทียบเท่าที่นิสิตสังกัดและจะรับย้ายไป
สงั กดั น้ัน ทั้งนใ้ี ห้ทำเปน็ ประกาศมหาวิทยาลัย
๑๘.๒.๓ การยา้ ยสาขาวิชาไปคณะอืน่ จะตอ้ งดำเนินการใหเ้ สรจ็ สิ้นกอ่ นวันลงทะเบยี น
เรียน
๑๘.๒.๔ เมื่อนิสิตได้ย้ายสาขาวิชาแล้ว รายวิชาท่ีเคยเรียนมาอาจนำมาคำนวณหาค่า
ระดับข้ันสะสมเฉลย่ี ในสาขาวชิ าใหม่ได้

-24- คู่มอื นิสติ แพทย์ ปีการศกึ ษา 2565

ขอ้ ๑๙ การพน้ สภาพนิสติ
นิสิตจะพ้นสภาพนิสิตด้วยเหตุดังต่อไปนี้
๑๙.๑ ตาย
๑๙.๒ ลาออก
๑๙.๓ โอนไปเปน็ นสิ ิต นักศึกษาสถาบนั การศกึ ษาอ่นื
๑๙.๔ ขาดคุณสมบัติของการเข้าเปน็ นสิ ิตขอ้ หนึ่งข้อใดตามทก่ี ำหนดไวใ้ นขอ้ ๕
๑๙.๕ ไมม่ าลงทะเบยี นเรยี นภายในเวลาท่ีมหาวิทยาลยั กำหนดตามขอ้ ๑๓.๙
๑๙.๖ มีความประพฤติไม่สมควรเป็นนิสิต หรือกระทำการอันก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่

มหาวทิ ยาลัย และมหาวิทยาลัยเหน็ สมควรใหถ้ อนชอ่ื จากทะเบียนนิสิต
๑๙.๗ เมื่อได้ขึ้นทะเบียนเป็นนิสติ มหาวทิ ยาลยั นเรศวรเป็นเวลา ๒ เทา่ ของเวลาทกี่ ำหนดไวใ้ น

แผนการศกึ ษาของสาขาวิชานั้นแล้วยงั ไม่สำเร็จการศกึ ษา
๑๙.๘ มผี ลการศกึ ษาอย่างใดอย่างหนึง่ ดังตอ่ ไปนี้
๑๙.๘.๑ เมื่อเรียนมาแล้วครบสองภาคการศึกษาปกติ ยังมีค่าระดับขั้นสะสมเฉล่ีย
ท้งั หมดไมถ่ งึ ๑.๕๐
๑๙.๘.๒ เมือ่ เรียนมาแล้วครบสีภ่ าคการศึกษาปกติ ยงั มีค่าระดับขัน้ สะสมเฉล่ยี ทง้ั หมด
ไม่ถึง ๑.๗๕
๑๙.๘.๓ เม่ือเรียนมาแล้วครบส่ีภาคการศึกษาข้ึนไป ยังมีค่าระดับขั้นสะสมเฉล่ีย
ท้ังหมดไม่ถึง ๑.๗๕

ขอ้ ๒๐ การเสนอให้ไดร้ ับปริญญาตรี
๒๐.๑ ในภาคการศึกษาสุดท้ายท่ีนิสิตจะสำเร็จการศึกษา นิสติ จะต้องย่ืนใบรายงานคาดว่าจะ

สำเร็จการศึกษา โดยผ่านอาจารย์ท่ีปรึกษาต่อมหาวิทยาลัยภายในระยะเวลา ๑ เดือน นับจากวัน
เปิดภาคเรียน

๒๐.๒ นสิ ติ ทีไ่ ด้รับการเสนอให้ไดร้ บั ปริญญาตรี ต้องมีคุณสมบตั ดิ งั ตอ่ ไปน้ี
๒๐.๒.๑ เรยี นรายวิชาตา่ ง ๆ ครบตามหลักสูตรและเง่ือนไขของสาขาวชิ านน้ั และ ไมม่ ี

รายวชิ าใดไดร้ บั อักษร I หรืออกั ษร P
๒๐.๒.๒ ใช้ระยะเวลาเรียนดงั น้ี
๒๐.๒.๒.๑ การศึกษาเพื่อปริญญาที่สอง สำเร็จการศึกษาได้ไม่ก่อน ๒ ภาค
การศึกษาปกติ สำหรับการลงทะเบียนเรียนเต็มเวลาและไม่ก่อน ๓ ภาคการศึกษา
ปกตสิ ำหรบั การลงทะเบยี นเรียนไม่เตม็ เวลา
๒๐.๒.๒.๒ หลักสูตรปริญญาตรี (ต่อเนือ่ ง ๒ ปี) สำเร็จการศึกษาได้ไม่ก่อน
๔ ภาคการศึกษาปกติ สำหรับการลงทะเบียนเรียนเต็มเวลาและไม่ก่อน ๘ ภาค
การศึกษาปกติ สำหรับการลงทะเบยี นเรยี นไม่เตม็ เวลา
๒๐.๒.๒.๓ หลักสูตรปริญญาตรี ๔ ปี สำเร็จการศึกษาได้ไม่ก่อน ๖ ภาค
การศกึ ษาปกติ สำหรับการลงทะเบียนเรียนเตม็ เวลาและไมก่ อ่ น ๑๔ ภาคการศกึ ษา
ปกติ สำหรับการลงทะเบยี นเรยี นไม่เตม็ เวลา
๒๐.๒.๒.๔ หลักสูตรปริญญาตรี ๕ ปี สำเร็จการศึกษาได้ไม่ก่อน ๘ ภาค
การศึกษาปกติ สำหรับการลงทะเบยี นเรียนเต็มเวลาและไมก่ ่อน ๑๗ ภาคการศกึ ษา
ปกติ สำหรบั การลงทะเบยี นเรียนไม่เตม็ เวลา

-25- คมู่ อื นิสิตแพทย์ ปกี ารศกึ ษา 2565

๒๐.๒.๒.๕ หลักสูตรปริญญาตรี ๖ ปี สำเร็จการศึกษาได้ไมก่ อ่ น ๑๐
ภาคการศึกษาปกติ สำหรบั การลงทะเบียนเรียนเต็มเวลาและไมก่ อ่ น ๒๐ ภาค
การศกึ ษาปกติ สำหรับการลงทะเบยี นเรยี นไมเ่ ต็มเวลา

๒๐.๒.๒.๖ นิสิตที่ขอเทียบโอนรายวิชาหรือประสบการณ์ หรือประสบการณ์
วิชาชีพ ต้องใช้เวลาศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยนเรศวรทั้งหลักสูตรอย่างน้อย ๑ ปี
การศึกษา
๒๐.๒.๓ มีคา่ ระดับขน้ั สะสมเฉล่ียตลอดหลักสูตรไมน่ อ้ ยกว่า ๒.๐๐
๒๐.๓ ในกรณที ่นี ิสติ ประสงค์จะไม่ขอสำเร็จการศกึ ษาดว้ ยเหตหุ นึ่งเหตุใด มหาวทิ ยาลัยอาจ
พิจารณาอนุมตั ริ าย ๆ ไป
๒๐.๔ นสิ ิตท่ีจะไดร้ ับการเสนอชื่อให้ได้รบั ปรญิ ญาเกียรตนิ ยิ ม นอกจากเป็นผู้มคี ุณสมบัตติ ามที่
กำหนดไว้ในข้อ ๒๐.๒ แล้ว ต้องไม่เป็นนิสิต หรือนักศึกษาที่โอนมาจากสถาบันอ่ืนและต้องมีคุณสมบัติ
เพ่มิ เตมิ ดังตอ่ ไปนี้
๒๐.๔.๑ มีค่าระดับข้ันสะสมเฉลี่ยตลอดหลักสูตรต้ังแต่ ๓.๕๐ ขึ้นไป จะได้รับเกียรติ
นยิ มอันดับหนึ่ง แต่ถ้ามีค่าระดบั ข้ันสะสมเฉล่ยี ตลอดหลักสตู รตง้ั แต่ ๓.๒๐ ถึง ๓.๔๙ จะได้รับ
เกยี รตินิยมอันดบั สอง
๒๐.๔.๒ ไม่เคยได้รับระดับข้ัน F หรืออักษร U และต้องไม่ลงทะเบียนเรียนซ้ำใน
รายวิชาใด
ข้อ ๒๑ การอนุมัติปริญญา สภามหาวิทยาลัยนเรศวรจะพิจารณาอนุมัติปริญญาเม่ือส้ินทุกภาค
การศกึ ษา
ข้อ ๒๒ การให้เหรียญรางวัลแก่ผู้เรียนดี ให้คณะเสนอชื่อนิสิตที่เรียนดีต่อมหาวิทยาลัย เพื่อขอรับ
รางวลั เรยี นดตี ลอดหลักสตู รและเหรยี ญรางวัลเรียนดปี ระจำปี ภายใต้เง่ือนไขต่อไปน้ี
๒๒.๑ เหรียญรางวลั เรยี นดตี ลอดหลักสตู ร
๒๒.๑.๑ เหรียญทอง ให้กับนิสิตท่ีเรียนดีตลอดหลักสูตร และไม่เคยได้รับระดับข้ัน F
หรืออักษร U หรืออักษรอ่ืนใดที่เทียบเท่าในรายวิชาใดทั้งสถาบันเดิม และในมหาวิทยาลัย
นเรศวร และมีค่าระดบั ข้ันสะสมเฉล่ียจากสถาบนั เดิมและในมหาวิทยาลัยนเรศวรของแต่ละแห่ง
ไม่นอ้ ยกวา่ ๓.๗๕
๒๒.๑.๒ เหรียญเงิน ให้กับนิสิตที่เรียนดีตลอดหลักสูตร และไม่เคยได้รับระดับข้ัน F
หรืออกั ษร U หรืออักษรอื่นใดที่เทยี บเทา่ ในรายวิชาใดทัง้ สถาบนั เดิมและในมหาวทิ ยาลัยนเรศวร
และมีค่าระดับข้ันสะสมเฉล่ียจากสถาบันเดิม และในมหาวิทยาลัยนเรศวรของแต่ละแห่งไม่น้อย
กว่า ๓.๕๐
๒๒.๒ เหรยี ญรางวัลเรยี นดีประจำปี
เหรยี ญทองแดง ให้กบั นิสิตท่ีเรียนดีประจำปีการศึกษาหน่ึง ๆ โดยลงทะเบียนเรียนสองภาคการศึกษา
ปกติ ในปีการศึกษาน้ันไม่น้อยกว่า ๓๐ หน่วยกิต และไม่เคยได้รับระดับขั้น F หรืออักษร U ในปี
การศึกษานนั้ และต้องมีค่าระดับขนั้ สะสมเฉล่ียในปีการศึกษานัน้ ๆ ๓.๕๐ ขน้ึ ไป
ขอ้ ๒๓ การประกนั คุณภาพหลักสตู ร ใหท้ ุกหลักสตู รกำหนดระบบการประกันคณุ ภาพของหลักสูตร
ให้ชัดเจน ซึ่งอยา่ งนอ้ ยประกอบด้วยประเดน็ หลัก ๔ ประเดน็ คอื
๒๓.๑ การบริหารหลักสูตร
๒๓.๒ ทรพั ยากรประกอบการเรียนการสอนและการวจิ ัย
๒๓.๓ การสนบั สนุนและการให้คำแนะนำนสิ ติ
๒๓.๔ ความตอ้ งการของตลาดแรงงาน สงั คม และ/หรอื ความพึงพอใจของผูใ้ ช้บัณฑิต

-26- คมู่ ือนสิ ิตแพทย์ ปกี ารศึกษา 2565

ข้อ ๒๔ การพฒั นาหลกั สูตร ให้ทกุ หลักสูตรมกี ารพฒั นาหลกั สูตรใหท้ นั สมัยแสดงการปรับปรงุ ดชั นี
ดา้ นมาตรฐานและคุณภาพการศกึ ษาเป็นระยะ ๆ อย่างน้อยทุก ๆ ๕ ปี และมีการประเมินเพื่อพัฒนาหลักสูตร
อย่างตอ่ เนอื่ งทุก ๕ ปี

บทเฉพาะกาล
ข้อ ๒๕ นสิ ติ ที่เขา้ ศึกษากอ่ นขอ้ บังคับนี้ ประกาศใช้ให้ใช้บงั คับเดมิ ต่อไปจนสำเรจ็ การศกึ ษา
ข้อ ๒๖ ให้อธิการบดรี ักษาการใหเ้ ป็นไปตามข้อบังคับน้ีและเพื่อการน้ีให้มีอำนาจประกาศได้ การใดท่ี

มิได้กำหนดไว้ในข้อบังคับนี้ หรือไม่เป็นไปตามข้อบังคับนี้ ให้อธิการบดีมีอำนาจวินิจฉัยส่ังการตามท่ีเห็นสมควร
แลว้ รายงานให้สภามหาวิทยาลัยทราบ

ประกาศ ณ วันที่ ๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๙

ไขศรี ศรีอรณุ
(ศาสตราจำรย์เกียรติคุณ คณุ หญงิ ไขศรี ศรอี รุณ)

นายกสภามหาวิทยาลยั นเรศวร

-27- คูม่ ือนิสิตแพทย์ ปกี ารศึกษา 2565

Educational Outcome “ Seven – star doctors : C-H-I-L-L-M-D ”

คณุ ลกั ษณะของบัณฑติ แพทยม์ หาวทิ ยาลัยนเรศวรท่พี งึ ประสงค์ 7 ดา้ น
C : Communicator
H : Humanistic doctor
I : Information technology integrator
L : Leader
L : Lifelong learner
M : Medical care provider
D : Decision maker

(1) ผูใ้ หบ้ รบิ าลทางการแพทย์ (Medical care provider) มีความสามารถในด้านตา่ งๆ ดังน้ี

(1.1) วิทยาศาสตร์การแพทย์พื้นฐาน (Basic biomedical sciences) ได้แก่ Anatomy, Biochemistry,
Biophysics, Cell biology, Genetics, Embryology, Immunology, Microbiology, Molecular biology,
Pathology, Pharmacology และ Physiology สามารถประยุกต์ใช้ความรู้วิทยาศาสตร์การแพทย์พน้ื ฐานในการ
บริบาลผู้ปว่ ย

(1.2) การวินิจฉยั ไดแ้ ก่ การสัมภาษณ์ประวัติ (History taking) การตรวจร่างกาย (Physical examination)
การสืบค้น (Investigations) การวินิจฉัยแยกโรคและวินิจฉัยโรค (Differential diagnosis and diagnosis)
สามารถประมวลผลข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์ประวัติ การตรวจร่างกาย การตรวจทางห้องปฏิบัติการและทาง
รังสีวทิ ยา เพือ่ นำมาสกู่ ารวินจิ ฉัยแยกโรคและวินจิ ฉยั โรค

(1.3) หัตถการทางการแพทย์ (Procedures) สามารถระบุข้อบ่งชี้ ข้อห้าม ภาวะแทรกซ้อน การเตรยี มผูป้ ่วย
และการทำหตั ถการเพ่อื นำไปสู่การวินจิ ฉยั และ/หรอื การดแู ลรกั ษาผปู้ ่วย

(1.4) การดูแลรักษาผู้ป่วย (Patient management) การส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค (Health
promotion and disease prevention) สามารถให้การดูแลรักษาและฟื้นฟูสภาพผู้ป่วยอย่างเหมาะสม รวมถึง
การส่งเสรมิ สขุ ภาพและป้องกนั โรคแก่ผู้ปว่ ย ครอบครวั ชมุ ชนและประชาชน

(1.5) ความปลอดภัยของผู้ป่วย (Patient safety) การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล (Rational drug use)
สามารถดูแลผู้ป่วยโดยคำนึงถึงการลดความเส่ียงที่เกิดข้ึน จากภัยหรืออันตรายที่ไม่ควรเกิดข้ึน จากการบริบาล
สุขภาพ และสามารถดูแลผ้ปู ่วยใหไ้ ดร้ บั การรักษาดว้ ยยาที่เหมาะสมและคุ้มค่า

(1.6) การแพทย์แบบเติมเต็มและการแพทย์ทางเลือก (Complementary and alternative medicine)
สามารถนำการแพทยแ์ บบเตมิ เต็มและการแพทย์ทางเลือกมาร่วมใช้ในการบริบาลผปู้ ว่ ยอยา่ งเหมาะสม

(1.7) ระบบสุขภาพและระบบคุณภาพของโรงพยาบาล (Health care system and accreditation)

สามารถทางานในระบบสุขภาพได้เป็นอย่างดีและนำความรู้ด้านระบบคุณภาพของโรงพยาบาลมาประยุกต์ใช้
อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ตลอดจนสามารถเปน็ ผนู้ ำในระบบสขุ ภาพ

(2) ผตู้ ดั สนิ ใจอย่างเป็นระบบ (Decision maker) มีความสามารถในด้านตา่ งๆ ดังนี้

(2.1) เวชศาสตร์เชิงประจักษ์ (Evidence-based medicine) สามารถประเมินคุณภาพหลักฐานและการ
ประยุกต์ใช้เอกสาร การทดลอง และผลทางวิทยาศาสตร์ที่ได้รับการยอมรับ เพ่ือใช้ในการตัดสินใจทางคลินิก
เกีย่ วกับการบรบิ าลผู้ปว่ ย

-28- คูม่ อื นสิ ติ แพทย์ ปีการศกึ ษา 2565

(2.2) การคิดเชิงวิพากษ์ (Critical thinking) สามารถฝึกปฏิบัติการตั้งคำถาม การให้เหตุผลและการโต้แย้ง
รวมถึงความสามารถในการวิเคราะห์และประเมินงานวิจัยอย่างเป็นระบบ (Critical appraisal) เพ่ือนำมา
ประยุกต์ใช้สำหรับวิชาชีพแพทย์

(2.3) การวิจัยทางการแพทย์ (Medical research) สามารถทำวิจัยทางการแพทย์โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัย
(Research methodology) และชวี สถติ ิ (Biostatistics) ทีเ่ หมาะสม

(3) ผู้สื่อสารเชิงวิชาชพี (Communicator) มคี วามสามารถในด้านตา่ งๆ ดงั นี้

(3.1) การให้ความรู้และคำปรึกษาทางการแพทย์แก่ผู้ป่วย ญาติ และประชาชน (Health education and
counseling) สามารถให้ความรูแ้ ละคำปรกึ ษาทางการแพทย์แกผ่ ปู้ ่วย ญาติ และประชาชนอยา่ งเหมาะสม

(3.2) การบันทึกเวชระเบียนและเอกสารทางการแพทย์ (Medical record and medical documents)
สามารถบันทกึ เวชระเบียนและเอกสารทางการแพทยไ์ ด้อย่างถูกต้องและครบถ้วน

(4) แพทยท์ ีม่ ีจิตวญิ ญาณแห่งความเป็นมนุษย์ (Humanistic doctor) มคี วามสามารถในดา้ นต่างๆ ดงั นี้

(4.1) จรยิ ธรรมทางการแพทยแ์ ละกฎหมายทางการแพทย์ (Medical ethics and law) สามารถประพฤตติ น
ตามหลักจรยิ ธรรมและกฎหมายทางการแพทย์ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

(4.2) การดูแลอย่างเป็นองค์รวม (Holistic care) สามารถให้การดูแลผู้ป่วยโดยยึดผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง
คำนึงถึงการสรา้ งสมั พันธภาพที่ดีระหว่างแพทยแ์ ละผปู้ ่วยรวมท้งั ญาติ (Doctor-patient relationship)

(4.3) ความรับผิดชอบต่อตนเอง ผู้ป่วยและสังคม (Responsibility and social accountability) สามารถ
ประพฤตติ นตามบทบาท หนา้ ที่ และมคี วามรบั ผิดชอบต่อตนเอง ผูป้ ว่ ยและสังคม

(5) ผูบ้ ูรณาการเทคโนโลยสี ารสนเทศ (Information technology integrator) มคี วามสามารถในดา้ นต่างๆ
ดงั นี้

(5.1) การใช้ดิจิทัลเพ่ือการสืบค้นข้อมูล (Digital literacy) สามารถใช้สารสนเทศ สื่อและเทคโนโลยี
(Information media and technology) เพ่ือการสบื คน้ ขอ้ มูลได้อยา่ งเหมาะสม

(5.2) นวัตกรรมบริการดิจิทัล (Digital service innovation) สามารถใช้นวัตกรรมบริการดิจิทัลได้อย่าง
เหมาะสมและมปี ระสิทธิภาพ

(6) ผูน้ ำ (Leader) มคี วามสามารถในด้านต่างๆ ดังนี้

(6.1) ภาวะผู้นำและการทางานร่วมกับผู้อื่น (Leadership and teamwork) สามารถทางานเป็นทีมร่วมกับ
ผอู้ ื่น เป็นผู้นำและสมาชิกกลมุ่ ท่ดี ี เพือ่ ให้การดำเนินการต่างๆ บรรลุเป้าหมาย

(6.2) การทางานกับสหวิชาชีพ (Interprofessional collaboration) สามารถทางานร่วมกับสหวชิ าชีพ เช่น
พยาบาล เภสชั กร นักกายภาพบำบัด ในการบรบิ าลสุขภาพได้เปน็ อยา่ งดี

(7) ผู้ใฝ่เรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong learner) มีความสามารถ ทักษะในการพัฒนาความรู้ความสามารถ และ
พฤติกรรมในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม และการดำเนินชีวิตของตนเองอย่างต่อเนื่อง ( Continuous
professional and personal development)

-29- ค่มู อื นสิ ติ แพทย์ ปีการศึกษา 2565

คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

วิสัยทัศน์

โรงเรยี นแพทยท์ ใ่ี ชน้ วตั กรรม สร้างผนู้ ำด้านระบบสุขภาพ

Vision

Innovative Medical School to Provide the Leader in Health System

พนั ธกิจ

ผลิตบัณฑิตแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ท่ีมีความรู้ ความสามารถ มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม สร้างงานวจิ ัยและ
นวัตกรรม เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ ให้บริการทางการแพทย์ระดับมาตรฐานสากล รวมถึงการบริการวิชาการเพ่ือ
สงั คม และทำนศุ ิลปวฒั นธรรมอนั ดีงาม

Mission

To provide medical graduates and health care providers with knowledge, competency, moral
and ethics. To generate practical research and innovation. To provide international standard of
medical services according to academic services for the society and support a graceful culture.

ค่านยิ ม

Core Value MEDNU

Medical Innovation สร้างนวตั กรรมดา้ นการแพทย์
Ethic มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม
Devote มีความเสยี สละ อทุ ิศตนเพอื่ ประโยชนส์ ว่ นรวม

Network สร้างเครอื ข่ายและพนั ธมติ ร
Unity สามคั คี สามารถทางานเปน็ ทีม และมคี วามเปน็ น้ำหนึง่ ใจเดยี วกัน

Core Competency MED NU

1. การสรา้ งเครือข่ายระบบสุขภาพทีม่ งุ่ เน้นชมุ ชน (Community Network)
2. การดูแลรักษาโรคซับซ้อน (Super Tertiary Care)

ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชน้ั คลินกิ โรงพยาบาลแพร่

วิสัยทศั น์

เปน็ ศนู ย์แพทย์ฯ ในการสร้างผ้นู ำด้านบรกิ ารสุขภาพ ดว้ ยนวตั กรรมภายใต้การบริการทเี่ ปน็ เลิศ

พนั ธกจิ

1. ผลิตแพทยท์ ม่ี ีคณุ ภาพ ได้มาตรฐานสากล และมคี ุณธรรมจรยิ ธรรมแหง่ วิชาชพี
2. จดั การเรียนการสอนโดยใชน้ วัตกรรมดา้ นการเรยี นการสอน
3. ผลิตวิจยั ดา้ นแพทยศาสตรแ์ ละด้านคลนิ กิ

-30- คมู่ ือนสิ ิตแพทย์ ปกี ารศึกษา 2565

โครงสรา้ งศนู ยแ์ พทยศาสตรศึกษาชนั้ คลนิ ิก

อาคำรศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก โรงพยาบาลแพร่ ตั้งอยู่ เลขท่ี 144 ถนนช่อแฮ ตำบลในเวียง อำเภอ

เมือง จังหวัดแพร่ โดยสำนักงานศูนย์แพทยศาสตรศึกษาช้ันคลินิก อยู่ ณ ช้ัน 2 ของอาคำรวิทยบริการศูนย์

แพทยศาสตรศึกษาช้นั คลินกิ

ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาช้ันคลินิก เป็นหน่วยงานหน่ึงของโรงพยาบาลแพร่ ขึ้นตรงต่อผู้อำนวยการ

โรงพยาบาลแพร่ โดยมีคณะผบู้ ริหาร ดงั น้ี

นายแพทย์ดนัย ภัทรเธยี รสกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแพร่

ผศ.(พิเศษ)นพ.ประการณ์ องอาจบุญ ผู้อำนวยการศนู ย์แพทยศาสตรศกึ ษาชัน้ คลินิก

งานบรหิ ารทั่วไป และงานฝึกอบรมหลังปรญิ ญา

นายแพทยว์ ีรพงษ์ ปรางค์เจรญิ รองผอู้ ำนวยการศนู ยแ์ พทยศาสตรศกึ ษาชน้ั คลนิ ิก

ด้านพฒั นาการศกึ ษา /ผชู้ ่วยผูอ้ ำนวยการศนู ย์แพทย์

ดา้ นการประกนั คณุ ภาพการศึกษาและงานด้าน

บริหารความเสีย่ ง

แพทยห์ ญิงจริ ะพร วงษ์สมบูรณ์ ผชู้ ว่ ยผอู้ ำนวยการศูนย์แพทยด์ า้ นพัฒนาอาจารย์

ดา้ นแพยศาสตรศึกษา

นายแพทย์สมิทธ์ ทองประเสริฐ ผชู้ ว่ ยผู้อำนวยการศูนยแ์ พทย์ดา้ นกิจการนิสิต

ผศ.(พเิ ศษ)นพ.พรชยั ล้มิ กมลทพิ ย์ ผู้ชว่ ยผอู้ ำนวยการศูนย์แพทยด์ ้านงานพัฒนาวจิ ัย

แพทยศาสตรศกึ ษา

หนา้ ท่คี วามรบั ผิดชอบของศนู ย์แพทยศาสตรศกึ ษาชั้นคลนิ กิ

ศูนยแ์ พทยศาสตรศึกษาช้ันคลินิก แบ่งงานรบั ผิดชอบเปน็ ฝ่ายต่าง ๆ ดังน้ี

ฝา่ ยบริหารงานทว่ั ไป นางสาวณพนิ ปภา ภัคศภุ ร /นางกฤษณา นอ้ ยบตุ รแกว้ /

นางสาววิชชุเวช ปินกันทำ /นางสาวกลั ยรัตน์ ปญั ญาโน

ฝา่ ยบรหิ ารการศกึ ษา นางกฤตวรรณ ทองมี / นางจริ าพรรณ ฝึกหัด

ฝา่ ยวดั และประเมินผลการศกึ ษา นางกฤตวรรณ ทองมี /นายจาตุรงค์แสงสร้อย

ฝา่ ยกจิ การนิสิต นายพิสทุ ธิพ์ งษ์ พงษต์ ระกลู /นายจาตรุ งค์แสงสร้อย

ฝ่ายประกนั คณุ ภาพการศกึ ษา นายจรญั ชยั สสี ด /นายภัทการ ภทั รการกจิ

และงานวิจัย

ฝ่ายบรหิ ารการศกึ ษาหลังปรญิ ญา นางจิราพรรณ ฝกึ หดั /นายจรญั ชัย สสี ด /

นายพสิ ุทธ์พิ งษ์ พงษต์ ระกลู

ฝา่ ยเทคโนโลยีและสื่อการเรยี นการสอน นายนพดล คนงาม /นายณัฎฐชิต วงศ์หนัก /

นางธนภรณ์ ขันคำนันต๊ะ

-31- คู่มือนิสิตแพทย์ ปกี ารศกึ ษา 2565

บุคลากรทป่ี ฏบิ ตั งิ าน 8 ตำแหน่ง 17 อัตรา ประกอบด้วย
6 อตั รา
1. นักวิชาการศกึ ษา
1 อัตรา (พนกั งานราชการ)
- พนกั งานราชการ 3 อัตรา 2 อตั รา (พนกั งานกระทรวงสาธารณสุข)
1 อตั รา (พนกั งานกระทรวงสาธารณสขุ )
- พนักงานมหาวทิ ยาลัย 2 อตั รา 1 อตั รา (พนักงานกระทรวงสาธารณสขุ )
1 อัตรา (จ้างเหมาบรกิ าร)
- พนกั งานกระทรวงสาธารณสุข 1 อัตรา 1 อตั รา (จ้างเหมาบริการ)
4 อัตรา
2. บรรณารกั ษ์

3.นายชา่ งเทคนคิ

4. เจ้าพนักงานธุรการ

5. เจา้ พนกั งานการเงนิ และบัญชี

6. เจา้ พนักงานพัสดุ

7. ผ้ชู ว่ ยนกั วิจัย

8. พนักงานท่วั ไป

- พนักงานกระทรวงสาธารณสขุ 3 อตั รา

- จ้างเหมาบรกิ าร 1 อัตรา

-32- คู่มอื นสิ ิตแพทย์ ปกี ารศึกษา 2565

อาจารย์แพทยศ์ ูนยแ์ พทยศาสตรศกึ ษาช้นั คลนิ ิก โรงพยาบาลแพร่
ภาควิชาอายุรศาสตร์

อ.นพ.สมพงษ์ ตันติธนวฒั น์ อ.พญ.ศรัณยา สุคนั ธไชยวงศ์
อ.นพ.เอกชยั อนันตพรรค อ.พญ.รุ้งรวี นิพฐิ วัธนะผล
อ.นพ.มงคล มะระประเสริฐศักด์ิ อ.นพ.วรี พงษ์ ปรางค์เจริญ

อ.พญ.ปาริชาติ นยิ มทอง อ.นพ.วุฒกิ ร ศิริพลบั พลา
อ.พญ.ตติพร ทัศนำพทิ กั ษ์ อ.พญ.นัฏกานท์ มโนยานะ
อ.พญ.ปิยธิดา พริบไหว อ.พญ.ปภาณิน กาศวิลาศ
อ.นพ.ธนินท์ จิรโชติชนื่ ทวชี ัย อ.พญ.ณัฐธิดา มะโนรส
อ.พญ.ธนพร สุธราพนั ธ์ อ.พญ.วลัยกร คำเขยี ว
อ.นพ.อนิ ทชั ศรีอสั ดร อ.นพ.ภรัณยู พลอยเจริญ

ภาควชิ าศัลยศาสตร์

อ.นพ.ฉตั รชยั สิริชยานุกุล อ.ผศ.(พิเศษ)นพ.วชิ ิน โชตปิ ฏเิ วชกลุ
อ.นพ.ภานมุ าศ ขวญั เรือน
อ.นพ.อลงกรณ์ ไชยกลาง อ.พญ.กวิสรา ดอกพิกุล
อ.นพ.ภทั ราวธุ วฒุ กิ ลุ ภกั ดี อ.นพ.ตนั ตกิ ร เสนวริ ชั
อ.พญ.วชิ ชดุ า ลิมปอิ งั คนันต์
อ.นพ.เชาวนว์ ทิ ย์ ภู่ภัทรกุล อ.นพ.อนสุ รณ์ กองก่อ (ลาศกึ ษาตอ่ )
อ.นพ.จิรทีปต์ หอมเนียม อ.พญ.ธนพร เนือ่ งพืช
อ.นพ.กติ ติศักด์ิ สุธิบุตร

ภาควิชาสูติศาสตร์-นรเี วชวิทยา

อ.พญ.ฐติ มิ า ธรรมรงค์กุล อ.ผศ.(พิเศษ)นพ.ประการณ์ องอาจบญุ
อ.นพ.ธงชัย มลี อื การ อ.พญ.วริ ัชนี สวุ ฒั นำนนท์
อ.นพ.ปฐม จักรบตุ ร อ.พญ.นวลอนงค์ วงศข์ ันแก้ว

อ.พญ.ปวณี า พังสวุ รรณ อ.นพ.สุกฤษฏ์ิ วงศว์ ิวัฒน์

ภาควชิ ากมุ ารเวชศาสตร์

อ.พญ.นนั ทวัลย์ ตนั ตธิ นวฒั น์ อ.ผศ.(พิเศษ) นพ.พรชัย ล้ิมกมลทิพย์
อ.นพ.วรการ พทิ ักษก์ จิ รณกร อ.พญ.พจนพร งามประภาสม
อ.นพ.วันชนะ จนิ ดาคำ อ.พญ.จริ ะพร วงษส์ มบรู ณ์

อ.พญ.กลุ ภสั สร์ ล้ิมสมุทรเพชร อ.นพ.กรภทั ร ปญุ ญพัฒนว์ รโชติ

ภาควชิ าศัลยกรรมกระดกู

อ.นพ.ลักษณ์ ปภนิ วิชกุล อ.นพ.ยอดปติ ิ ตงั้ ตรงจติ ร
อ.นพ.เพม่ิ ศกั ด์ิ จริ ยศบญุ ยศกั ดิ์
อ.นพ.ยศวจั ต้ังตรงจติ ร อ.นพ.เกรียงไกร สวุ รรณากาศ

อ.นพ.ณทั กร เผ่าพงศท์ อง อ.นพ.กวี ลิ้มสมุทรเพชร

-33- คู่มือนิสิตแพทย์ ปีการศึกษา 2565

ภาควิชาจักษวุ ิทยา

อ.นพ.ทวีศกั ดิ์ วิริยานุรักษ์ อ.พญ.วลยั พร ยติพลู สุข
อ.พญ.สรุ ารกั ษ์ วรี ัชธนัทพงศ์ อ.พญ.ดาว ลือวฒั นำนนท์
อ.พญ.กาญจนำ โอสถาเลศิ

ภาควชิ าโสต ศอ นำสกิ วิทยา อ.นพ.สวุ ัฒณ์ กติ ตบิ วรกุล

อ.นพ.ณฏั ฐธนิน เศรษฐวนชิ ย์
อ.พญ.จณิ า ตีระวณชิ ย์

ภาควิชาเวชศาสตรฟ์ ้นื ฟู

อ.พญ.ช่นื ชนก นิพฐิ วัธนะผล

ภาควชิ ารังสวี ิทยา

อ.พญ.นงเยาว์ พิทกั ษ์กิจรณกร อ.พญ.เพชรรัตน์ ทรวงแกว้
อ.พญ.บุษยรตั น์ ศิริยา อ.นพ.ไพศาล จนั ทรน์ วล
อ.พญ.สดุ าพิม ปรางคเ์ จรญิ

ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชนครอบครัวและอาชีวเวชศาสตร์

อ.พญ.จฑุ ารตั น์ ไกรขจรกิตติ อ.พญ.ปิยฉตั ร ดีสุวรรณ

อ.พญ.ศรรี ตั น์ มากมาย อ.นพ.จิรวัฒน์ สีตื้อ
อ.พญ.ภญิ ญดา ถานะวุฒิพงศ์ อ.นพ.สิทธิชัย ข้ามเจ็ด

ภาควชิ าจติ เวชศาสตร์

อ.นพ.สมทิ ธ์ ทองประเสรฐิ อ.พญ.รรนิ ธร ธัญญานุวตั ิ
อ.พญ.นฤมล บดั ติยา อ.พญ.เอฬณิ า คำออน

ภาควิชาวิสญั ญีวทิ ยา

อ.พญ.ศิวพร จนั ทร์ประสทิ ธ์ิ อ.พญ.ชนำนำถ แยม้ พราม
อ.พญ.พรพนิต ผุดเพชรแกว้ อ.พญ.มิ่งสกลุ แดนโพธิ์
อ.พญ.สาวกิ า ภิญโญ

ภาควชิ าเวชศาสตร์ฉกุ เฉนิ และอบุ ัตเิ หตุ

อ.นพ.จกั รพันธ์ ธรรมเมธากาญจน์ อ.นพ.ธวชั ชัย แสนสี
อ.พญ.กลั ยากร เรือนปิงวงั อ.พญ.วริยา เหมอื งจำ

ภาควิชานติ ิเวชศาสตร์

อ.พญ.แสงระวี ขวา้ งแปน้ อ.นพ.ภทั รชั รัตนะชีวะกุล

-34- ค่มู ือนิสิตแพทย์ ปกี ารศกึ ษา 2565

ปฏิทินการศึกษา ๒๕๖๕

- วันเข้าหอนสิ ิตแพทย์ ปี 4 วนั ท่ี 24-25 เมษายน 2565
- วนั ปฐมนเิ ทศนิสิตแพทย์ ปี 4 วันท่ี 26 เมษายน - 6 พฤษภาคม 2565
- วนั เปดิ ภาคเรียนที่ 1 นสิ ิตแพทย์ ปี 4 วนั จันทร์ที่ 9 พฤษภาคม 2565

- วนั สอบวัดผลและปิดภาคเรยี นกลางปี นิสิตแพทย์ ปี 4 วันท่ี 3-9 ตุลาคม 2565
- วันเปิดภาคเรียนที่ 2 นสิ ิตแพทย์ ปี 4 วันจนั ทรท์ ี่ 4 ตลุ าคม 2565

- วันเปิดภาคเรยี นท่ี 1 นสิ ิตแพทย์ ปี 5 วนั จันทรท์ ่ี 9 พฤษภาคม 2565

- วนั สอบวัดผลและปิดภาคเรียนกลางปี นิสิตแพทย์ ปี 5 วนั ที่ 3-9 ตุลาคม 2565

- วนั เปิดภาคเรยี นที่ 2 นสิ ิตแพทย์ ปี 5 วันจนั ทรท์ ี่ 4 ตลุ าคม 2565

- วนั ปฐมนิเทศนสิ ิตแพทย์ ปี 6 วนั ที่ 26 เมษายน - 6 พฤษภาคม 2565
- วันเปิดภาคเรยี นที่ 1 นสิ ิตแพทย์ ปี 6 วนั จนั ทร์ท่ี 9 พฤษภาคม 2565
- วนั ปดิ ภาคเรยี นกลางปีครงั้ ที่ 1 นิสติ แพทย์ ปี 6 วนั ที่ 5-11 ธนั วาคม 2565

- วนั เปดิ ภาคเรียนท่ี 2 นิสิตแพทย์ ปี 6 วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม 2565

- วันไหว้ครู ครั้งท่ี 1/2565 วันพฤหสั บดีที่ 16 มิถนุ ายน 2565
ครัง้ ท่ี 1/2565
- วันมหดิ ล วนั ศุกรท์ ี่ 23 กนั ยายน 2565
- วันสอบ National License Part I วนั เสาร์ท่ี 23 เมษายน 2565
- วนั สอบ National License Part II วนั อาทิตยท์ ่ี 24 เมษายน 2565

- ปดิ เทอมสอบ Comprehensive Part III (OSCE) วันที่ 4-10 ธันวาคม 2565

- ปดิ เทอมสอบ National License Part III (OSCE) วนั ท่ี 29 มกราคม-4 กุมภาพันธ์ 2566

- วันสอบ National License Part III (OSCE) ครั้งที่ 1/2565 วนั อาทิตย์ที่ 8 มกราคม 2566

- วันสอบ National License Part III (OSCE) ครั้งที่ 2/2566 วนั อาทติ ยท์ ่ี 5 กมุ ภาพันธ์ 2566

- วนั สอบ National License Part III (OSCE) คร้ังที่ 3/2565 วันอาทติ ย์ที่ 5 มนี าคม 25656

- วนั สอบ National License Part III (OSCE) คร้ังที่ 4/2565 วนั อาทิตยท์ ่ี 2 เมษายน 2566

- วนั สอบ Comprehensive (MCQ) ปี 5 วนั อาทิตยท์ ่ี 12 มนี าคม 2566

- วันสอบ Comprehensive (OSCE) ปี 6 วันศุกร์ท่ี 9 ธนั วาคม 2565

- วนั สอบ National License Part III and Comprehensive (MEQ) วนั เสารท์ ่ี 15 มกราคม 2565

• หมายเหตุ ตารางอาจมกี ารเปลย่ี นแปลงได้ตามความเหมาะสมของสถานการณ์

-35- ค่มู ือนิสิตแพทย์ ปกี ารศึกษา 2565

สทิ ธผิ ู้ป่วย

เพือ่ ให้ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งผปู้ ระกอบวิชาชพี ด้านสุขภาพกบั ผปู้ ว่ ย ต้ังอย่บู นพน้ื ฐานของความเขา้ ใจ
อันดีและเปน็ ที่ไว้วางใจซงึ่ กันและกนั แพทยสภา สภาการพยาบาล สภาเภสัชกรรม ทนั ตแพทยสภา
คณะกรรมการควบคมุ การประกอบโรคศลิ ปะ จึงไดร้ ่วมกนั ออกประกาศรบั รองสิทธขิ องผู้ปว่ ยไว้ดงั ต่อไปนี้

1. ผู้ปว่ ยทุกคนมีสทิ ธิพนื้ ฐานที่จะไดร้ ับบริการดา้ นสุขภาพ ตามที่บัญญัติไวใ้ นรัฐธรรมนูญ
2. ผู้ป่วยมีสิทธิท่ีจะได้รับบริการจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ เนื่องจากความ

แตกต่างด้านฐานะ เช้ือชาติ สัญชาติ ศาสนำ สังคม ลัทธิการเมือง เพศ อายุ และ ลักษณะของความ
เจ็บปว่ ย
3. ผู้ป่วยท่ีขอรับบริการด้านสุขภาพมีสิทธิท่ีจะได้รับทราบข้อมูลอย่างเพียงพอ และเข้าใจชัดเจน จากผู้
ประกอบวชิ าชีพด้านสขุ ภาพเพอ่ื ให้ผปู้ ่วยสามารถเลือกตัดสินใจในการยินยอมหรือไม่ยินยอมใหผ้ ู้ประกอบ
วชิ าชีพด้านสขุ ภาพปฏบิ ัตติ อ่ ตน เวน้ แตเ่ ปน็ การช่วยเหลือรีบด่วนหรอื จำเป็น
4. ผปู้ ่วยท่ีอยู่ในภาวะเสยี่ งอันตรายถึงชีวิต มีสทิ ธิทจ่ี ะไดร้ ับการช่วยเหลือรีบด่วนจากผู้ประกอบวิชาชีพด้าน
สขุ ภาพโดยทันทตี ามความจำเปน็ แก่กรณี โดยไมค่ ำนงึ วา่ ผ้ปู ว่ ยจะร้อง ขอความช่วยเหลือหรือไม่
5. ผ้ปู ่วยมีสิทธิทจ่ี ะได้รบั ทราบช่ือ สกลุ และประเภทของผปู้ ระกอบวชิ าชีพด้านสุขภาพทเ่ี ป็น ผู้ให้บริการแก่
ตน
6. ผู้ป่วยมีสิทธิท่ีจะขอความเห็นจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพอื่น ที่มิได้เป็นผู้ให้บริการแก่ตน และมี
สทิ ธิในการขอเปลี่ยนผู้ใหบ้ ริการ และสถานบริการได้
7. ผปู้ ว่ ยมสี ิทธิที่จะไดร้ บั การปกปิดข้อมลู เกย่ี วกับตนเอง จากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพโดยเคร่งครดั เว้น
แต่จะได้รบั ความยินยอมจากผูป้ ่วยหรอื การปฏบิ ัติหน้าที่ตามกฎหมาย ผ้ปู ่วยมีสทิ ธทิ ่ีจะได้รบั ทราบข้อมูล
อย่างครบถ้วน
8. ในการตัดสินใจเข้าร่วมหรือถอนตัวจากการเป็นผู้ถูกทดลองในการทำวิจัยของผู้ประกอบวิชาชีพด้าน
สุขภาพ
9. ผปู้ ่วยมีสิทธิที่จะได้รับทราบข้อมูลเก่ียวกบั การรักษาพยาบาลเฉพาะของตนท่ีปรากฏใน เวชระเบียนเมื่อ
รอ้ งขอ ทั้งน้ี ข้อมูลดงั กล่าวต้องไม่เป็นการละเมดิ สทิ ธสิ ่วนตัวของบุคคลอน่ื
10.บดิ า มารดา หรือผู้แทนโดยชอบธรรม อาจใช้สิทธิแทนผู้ป่วยท่เี ป็นเด็กอายุยังไม่เกิน สิบแปดปีบริบรู ณ์ ผู้
บกพร่องทางกายหรือจิต ซง่ึ ไมส่ ามารถใชส้ ทิ ธดิ ว้ ยตนเองได้

-36- คู่มอื นสิ ติ แพทย์ ปีการศกึ ษา 2565

ขอ้ กำหนดพฤตกิ รรมด้านคุณธรรมจรยิ ธรรมสำหรบั นิสติ
ศูนย์แพทยศาสตรศกึ ษาชนั้ คลินิก โรงพยาบาลแพร่

คุณธรรมจริยธรรม เป็นคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ และเป็นปัจจัยสำคัญของคุณภาพบัณฑิต ตามเจตนำ
รมณ์ของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ และกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ รวมทั้ง ความ
คาดหวังของผใู้ ช้บณั ฑิตและสังคม

เพ่ือส่งเสริมและพัฒนาพฤติกรรมด้านคุณธรรมจริยธรรมของนิสิต ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก
โรงพยาบาลแพร่ ให้มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ และเป็นบัณฑิตที่เก่งและดี ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก
โรงพยาบาลแพร่ จงึ ได้กำหนดพฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรมจริยธรรมสำหรับนิสติ ใหน้ สิ ิตยดึ ถือปฏิบตั ิ 9 ขอ้ ดังนี้

1.ซอื่ สัตย์สุจริต คิดแต่เรื่องดี มีความจรงิ ใจต่อผอู้ ื่น
2. เสียสละ มีน้ำใจ เหน็ แกป่ ระโยชนส์ ว่ นรวม มจี ติ สาธารณะ
3. มีวนิ ยั ตรงตอ่ เวลา มคี วามรับผิดชอบตอ่ ตนเองและผอู้ นื่
4. ขยัน หมน่ั เพยี ร ใฝ่เรียนรู้ พัฒนาตนเองอย่เู สมอ
5. มคี วามอตุ สาหะ อดทน อดกล้ัน อดออม ควบคมุ อารมณแ์ ละตอบสนองได้อยา่ งเหมาะสม
6. มีกริ ิยามารยาทดี มีสมั มาคำรวะ อ่อนนอ้ มถ่อมตน แตง่ กายสภุ าพเรียบร้อย
7. มคี วามสามคั คี สามารถพง่ึ ตนเองและชว่ ยเหลือผ้อู ่ืนได้
8. เคำรพและปฏบิ ตั ิตามกฎระเบียบขององคก์ รและมหาวิทยาลยั
9.เปน็ แบบอยา่ งที่ดี มจี รรยาบรรณทางวิชาการและวิชาชพี
พฤติกรรมด้านจริยธรรม

1) พฤติกรรมตามคุณธรรมและค่านิยมต่างๆ เช่น พฤติกรรมซ่ือสัตย์ พฤติกรรมสามัคคี พฤติกรรมการ
แต่งกาย พฤติกรรมมีวนิ ัย ฯลฯ

2) พฤตกิ รรมการให้รางวลั ส่งเสรมิ ผู้อ่นื และพฤตกิ รรมการลงโทษผูอ้ ื่น

3) พฤติกรรมทางศาสนำ เช่น พฤติกรรมการรักษาศลี พฤติกรรมให้ทำน ให้อภัย ฯลฯ

4) พฤติกรรมทำเพื่อสว่ นรวม กฎหมาย หลกั การขน้ั สูง

พฤตินสิ ัย เจตคติ คุณธรรมและจรยิ ธรรมแห่งวชิ าชพี (Professional habits, Attitudes, Moral, and
Ethics)

1.1 พฤตนิ สิ ยั ในการทางาน (work habits) และความรับผิดชอบต่อวชิ าชีพ
- ตรงตอ่ เวลา และรับผิดชอบตอ่ การนดั หมาย
- รับผิดชอบต่อผูป้ ว่ ยและงานท่ไี ดร้ บั มอบหมาย
- สามารถทางานเปน็ ทีม
- พยายามหลีกเลีย่ งไมใ่ ห้เกิดความขัดแยง้ ในการทางานและหาขอ้ ยตุ ิโดยสันติวิธี
- สามารถวางแผน จัดระบบงาน และตดิ ตามประเมนิ ผล
- รู้ขีดจำกดั ความสามารถของตนเอง
- ยอมรับขอ้ ผิดพลาดของตนเองและพยายามแก้ไข
- ยอมรบั ขอ้ ผิดพลาดของผูอ้ นื่ และให้ความช่วยเหลอื และแนะนำตามความเหมาะสม

-37- คมู่ อื นิสิตแพทย์ ปีการศึกษา 2565

1.2 รับผิดชอบในการให้ความจรงิ แก่ผู้ปว่ ย รักษาความลบั และเคำรพในสิทธิของผปู้ ่วย
1.3 ปกปอ้ งและพิทกั ษ์สิทธิประโยชนข์ องผ้ปู ว่ ย
1.4 แสดงเจตคตทิ ดี่ ีตอ่ การให้บรกิ ารสุขภาพแบบองคร์ วมแกป่ ระชาชนทกุ ระดับ
1.5 ปฏบิ ัตติ ามข้อบงั คบั แพทยสภาวา่ ด้วยการรกั ษาจริยธรรมแหง่ วชิ าชพี เวชกรรม
1.6 มคี ุณธรรม และจริยธรรมทเ่ี หมาะสมต่อการประกอบวิชาชีพแพทย์
1.7 ซอ่ื สัตย์สจุ รติ ในการประกอบวชิ าชพี เวชกรรม

-38- คู่มือนสิ ิตแพทย์ ปกี ารศึกษา 2565

-39- คู่มือนสิ ิตแพทย์ ปกี ารศึกษา 2565

-40- คู่มือนสิ ิตแพทย์ ปกี ารศึกษา 2565

-41- คู่มือนสิ ิตแพทย์ ปกี ารศึกษา 2565

-42- คู่มือนสิ ิตแพทย์ ปกี ารศึกษา 2565

-43- คู่มือนสิ ิตแพทย์ ปกี ารศึกษา 2565

-44- คู่มอื นสิ ิตแพทย์ ปีการศึกษา 2565

เคลด็ ลับของแพทยท์ ป่ี ระสบความสำเร็จ

1. Treat the patients as you want yourself and your family to be treated. เอา

ใจเขามาใส่ใจเรา เม่ือใดที่ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะทำอย่างไร ให้คิดเสมือนกับว่าเรากำลังดูแลตัวเราเอง
ดูแลคนท่ีเรารกั หรือญาตพิ น่ี อ้ งเรา

2. First do no harm. อย่าทำให้ซ้ำร้าย คนเราทำผิดได้ แต่ผิดแล้วต้องจำ ต้องเรียนรู้เพื่อที่จะไม่ทำ

ผดิ ซ้ำ เมื่อใดก็ตามท่ีเราพลาด ส่ิงแรกท่ีต้องทำคือยอมรับผิด ต้องรีบปรึกษากับเพื่อนร่วมงานและผู้ป่วย
เพื่อแก้ไขปัญหาให้ดที ี่สดุ การเป็นมนุษยท์ ีส่ มบรู ณจ์ ะส่งเสรมิ ใหเ้ ราเปน็ แพทยท์ ่ดี ีย่งิ ขึ้น

3. Learning medicine has no end. วิชาแพทย์เป็นวิชาที่เรียนไม่รู้จักจบ ต้องหมั่นศึกษาหา

ความรแู้ ละตดิ ตามความกา้ วหน้าตลอดชีวติ

4. You can learn from anyone. เราสามารถเรยี นร้ไู ด้จากคนทุกคน เม่ือไมร่ ู้ต้องไม่กลัวที่จะถาม

ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามตั้งแต่แพทย์ประจำบ้าน, นักศึกษาแพทย์ด้วยกันเองไม่ว่าจะเป็นรุ่นพ่ีหรือรุ่นน้อง,
พยาบาล, ผชู้ ว่ ยพยาบาล, พนักงานวทิ ยาศาสตร์ ไม่จำเป็นจะต้องรอถามอาจารย์หรอื ผู้อาวุโสกวา่ เท่าน้ัน

5. Learn from your patients. ต้องเรียนจากผู้ป่วย ความเจ็บป่วยนั้นเกิดกับตัวผู้ป่วยเอง ดังน้ัน

เขาย่อมรู้ดีกว่าใคร เปิดโอกาสให้ผ้ปู ่วยพูด เราต้องตั้งใจฟัง ถ้ารบั รู้ส่ิงที่เขาบอก เราจะให้การวินิจฉัยโรค
ได้ และเม่ือใดที่การรกั ษาของเราใช้ไม่ได้ผล..โรคลุกลามมากขึ้น..วิธีทีด่ ีที่สุดคือให้รีบกลับไปดูผู้ป่วย..แล้ว
เรามักจะได้คำตอบ ใหค้ วามสนใจกบั ส่งิ ทผ่ี ูป้ ว่ ยเลา่ ให้ฟงั …อย่ามวั แตส่ นใจแตต่ ัวโรคทเี่ ขาเปน็

6. There is no substitute for accurate history taking and performing good
physical examination เทคโนโลยีไม่ใช่สิ่งท่ีจะใช้ทดแทนการซักประวัติและตรวจร่างกายได้

อย่าเชอ่ื ผลการตรวจทางห้องปฏบิ ัตกิ ารใดๆ จนกวา่ จะได้ตรวจสอบข้อมลู ให้ถูกต้องดว้ ยตนเองทกุ ครั้ง

7. Become involved in all aspects of patient care. ดูแลผู้ป่วยทั้งตวั ไม่ดูผู้ป่วยแบบแยก

สว่ นหรือดูเฉพาะบางปัญหาท่ีสนใจ การใส่ใจกับปัญหาท้ังหมดของผู้ป่วยจะทำให้เรามีโอกาสเรียนรู้มาก
ขนึ้

8. Follow up on patients that you cared เกาะติดผู้ป่วยท่ีเคยรักษาอย่างเหนียวแนน่ ตาม

ดจู นจบ แมว้ า่ ผปู้ ว่ ยจะพน้ ความรบั ผิดชอบและถกู ส่งตอ่ ไปอย่ภู ายใตก้ ารดูแลของแพทย์คนอน่ื แลว้ กต็ าม

9. Do the right things เราทุกคนรู้ว่าอะไรดีหรือไม่ดี … ทำในส่ิงที่ถูกต้อง ท้ังต่อผู้ป่วย เพ่ือนแพทย์

เจา้ หนา้ ที่ และผรู้ ่วมงาน

10. Focus on skillful communication and education เน้นทักษะในการส่ือสารเพื่อสรา้ ง

ความเขา้ ใจและการเรียนรู้ ไมใ่ ชค่ อยกล่าวโทษซ่ึงกันและกนั

11. Keep your eye open ต้องเปิดหูเปิดตา อย่ามุ่นอยู่กับงานในความรับผิดชอบของตัวเองโดยไม่

สนใจกับส่ิงอ่ืน ต้องใส่ใจกับเหตุการณ์หรือความเคลื่อนไหวที่เกิดข้ึนภายในหอผู้ป่วย โรงพยาบาล
แม้กระทง่ั ปัญหาทีเ่ กดิ ข้ึนกับสงั คมภายนอก

12. Challenge yourself by continually asking “why”…? ท้าทำยตัวเอง ตั้งคำถามถาม

ตัวเองบอ่ ยๆว่า “ทำไม” และพยายามหาคำตอบมาให้ได้

-45- คมู่ ือนสิ ติ แพทย์ ปีการศึกษา 2565

13. Get comfortable with the phrases, I don’t know” and “I need help. ต้อง

กล้าที่จะยอมรับว่าตัวเอง “ไม่รู้” และไม่อายที่จะถามหาความช่วยเหลือ คนเราไม่มีใครรู้ดีในทุกๆอย่าง
จะเป็นแพทยท์ ีด่ ีต้องรตู้ วั เองวา่ “รู้จริง” หรือ “ไม่รู้” ถ้าไมร่ ้กู ็ต้องถาม อย่ากระทำไปโดยท่ไี มร่ ู้ เพราะเป็น
บ่อเกดิ แห่งความผิดพลาด

14. Once you stop reading, you are already outdate. ถ้าหยุดอ่านหนังสือเม่ือใดก็

กลายเป็นหมอตกรุ่นทันที โดยธรรมชาติ ความรู้ที่บรรจุอยู่ในสมอง เราจะลดลงทุกวัน วิธีการเดียวท่ีจะ
ทำให้ความรไู้ มล่ ดลงคอื ตอ้ งเตมิ ลงไปใหม่ทกุ วนั โดยการอา่ น

15. Nobody, but YOU are responsible for you. ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน เราต้องรบั ผิดชอบตัว

เราเอง ไม่มใี ครรบั ผดิ ชอบแทนเราได้ อยา่ หวงั พ่งึ พา คนอ่ืนหรอื หวงั จะใหค้ นอ่นื ช่วยอยรู่ ่ำไป

16. The knowledge does not arrive with your white coat. ความรู้ไม่ได้เกาะติดมากับ

เสื้อกาวน์ การสวมเสื้อกาวน์หรือพก stethoscope ไม่ได้หมายความว่าจะมีความรู้มากกว่าคนที่ไม่มี
โอกาสสวมเส้อื กาวน์ ความร้เู ปน็ ส่งิ ทเ่ี ราตอ้ งแสวงหาและเรยี นร้ดู ว้ ยตนเองอย่างสม่ำเสมอทกุ วัน



วชิ าแพทย์..เป็ นวชิ าท่ีมีมนต์วิเศษอย่างหนง่ึ
ความสาเร็จ..ไม่ได้เกดิ จากความสามารถในการใช้เทคโนโลยีทท่ี ันสมัย

ส่วนใหญ่เกดิ จากปฏิสมั พนั ธ์กับผ้ปู ่ วย…
ใช้คาพูดและการสัมผัสทอ่ี ่อนโยน…การทีน่ ่ังลงข้างๆผู้ป่ วย…
ให้เกยี รตเิ ขาในฐานะมนษุ ย์ท่ีมีศกั ด์ศิ รี…ไม่ใช่เหน็ เขาเป็ นโรค

แพทย์ทมี่ ีคุณลักษณะเช่นนี้..
อาจทาให้อาการของผู้ป่ วยหายไปได้มากกว่าครึ่งทั้งท่ยี ังไม่ได้สั่งการรักษา

ซึ่งไม่ต่างไปจากนกั เล่นมายากลเท่าใดนกั __



-46- คมู่ อื นิสิตแพทย์ ปกี ารศกึ ษา 2565

ระเบยี บศูนยแ์ พทยศาสตรศึกษาชัน้ คลินิก โรงพยาบาลแพรว่ ่าด้วย หอพกั นิสิตแพทย์
พ.ศ. 2552

เพ่อื ความเหมาะสมและมปี ระสิทธภิ าพในการดำเนนิ กจิ การหอพักนสิ ติ แพทย์ จงึ กำหนด
ระเบยี บวา่ ด้วยหอพักนสิ ิตแพทย์ ไว้ดังน้ี
ข้อ 1 ระเบียบนี้เรยี กว่า“ระเบียบศูนยแ์ พทยศาสตรศกึ ษาชน้ั คลินกิ โรงพยาบาลแพร่วา่ ด้วย หอพักนิสิต

แพทย์ พ.ศ. 2552”
ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใชต้ ง้ั แต่วันถัดจากวันประกาศเปน็ ตน้ ไป
ข้อ 3 คำสง่ั ประกาศ ระเบียบและข้อบงั คบั อน่ื ใดทเ่ี กยี่ วกับหอพกั นสิ ิตซง่ึ ขัดกับ หรอื แย้งกับประกาศน้ี ให้

ถือตามระเบยี บน้ี

หมวดท่ี 1 วัตถุประสงค์
ข้อ 4 วัตถปุ ระสงคข์ องหอพกั นิสิตแพทย์

4.1 เพือ่ เอื้ออำนวยตอ่ การศกึ ษาภาคปฏบิ ัติการทางคลินิกของนสิ ิตแพทยช์ น้ั ปีท่ี 4, 5, 6
4.2 เพื่อส่งเสริมให้นิสิตรู้จักการอยรู่ ่วมกันโดยเคำรพสทิ ธิซงึ่ กันและกัน มนี ำ้ ใจ มคี วามสามัคคี มี
ระเบยี บวนิ ัย มคี วามรับผิดชอบต่อตนเองและต่อส่วนรวม
4.3 เพ่ืออำนวยประโยชน์ในดา้ นสนั ทนำการแก่นสิ ติ

หมวดที่ 2 สิทธแิ ละหน้าที่
ข้อ 5 ผู้มีสทิ ธ์ิเขา้ พักอาศัยในหอพกั ตอ้ งมีคุณสมบัติ ดงั ต่อไปน้ี

5.1 นสิ ิตแพทย์ชั้นปที ่ี 4, 5, และ 6
5.2 เป็นผ้ทู ่ีศูนยแ์ พทยศาสตรศกึ ษาชน้ั คลนิ กิ อนุญาตใหเ้ ข้าพกั ได้
ข้อ 6 ผูข้ าดคณุ สมบัติในการเปน็ ผอู้ าศยั ในหอพัก ได้แก่
6.1 ไม่ปฏบิ ัติตามกฎระเบียบของหอพัก เม่ือได้รับการวา่ กลา่ วตักเตือนจากกรรมการประจำหอพัก
และอาจารย์ทีป่ รึกษาหอพกั แลว้ ยังไมป่ ฏบิ ัติตาม โดยอาจารย์ที่ปรกึ ษาหอพกั พิจารณาเห็นว่าไม่สมควรพกั
ในหอพกั ตอ่ ไป
6.2 เปน็ โรคตดิ ต่อระยะอันตราย ไม่สามารถให้พักอาศัยในหอพกั โดยความเหน็ ชอบของแพทย์
ผู้รักษาและอาจารย์ท่ปี รกึ ษาหอพกั
6.3 มีความผิดปกติทางจิตใจ ไมส่ มควรใหพ้ กั อาศัยในหอพกั โดยความเหน็ ชอบของจติ แพทยแ์ ละ
อาจารย์ท่ปี รกึ ษาหอพกั

-47- คู่มือนสิ ิตแพทย์ ปีการศกึ ษา 2565

ขอ้ 7 หน้าที่ของผอู้ าศัย
7.1 จ่ายค่าธรรมเนียมหอพกั ตามระเบียบของศนู ย์แพทยศาสตร์ศึกษาชนั้ คลินกิ โรงพยาบาลแพร่
7.2 รับผิดชอบในการชดใชค้ า่ เสยี หายของทรพั ยส์ ินภายในหอ้ งพักของตน
7.3 รับผดิ ชอบทรัพย์สินสว่ นตัวในบรเิ วณหอพกั เอง
7.4 ปฏิบัตติ ามประกาศศูนย์แพทยศาสตร์ศึกษาช้ันคลนิ กิ วา่ ดว้ ยระเบียบหอพกั นิสิตปี 2552
7.5 รกั ษาความสะอาดและดูแลทรัพย์สินและอปุ กรณข์ องหอพกั ให้คงสภาพดีอยเู่ สมอ
7.6 เขยี นใบส่งซ่อมครุภณั ฑป์ ระจำห้องพักทชี่ ำรุดและสงให้เจา้ หน้าท่ีประจำหอพักเพื่อดำเนนิ การ
ซอ่ มแซมต่อไป
7.7 เมอื่ มปี ัญหาเกิดขึ้นภายในหอพกั ให้แจ้งตอ่ กรรมการประจำหอพัก เพอ่ื ดำเนินการแก้ไขปญั หาตามท่ี
เห็นสมควร แล้วรายงานตอ่ อาจารย์ที่ปรกึ ษาหอพัก

หมวดท่ี 3 คณะกรรมการประจำหอพกั
ข้อ 8 องคป์ ระกอบ

1) ตัวแทนแพทย์พีเ่ ล้ยี ง 2 คน
2) ตัวแทนแพทยเ์ พมิ่ พนู ทักษะ 2 คน
3) ตวั แทนนิสิต 3 คน
ขอ้ 9 ผู้สมัครเปน็ กรรมการประจำหอพัก ต้องมคี ุณสมบตั ดิ งั ตอ่ ไปน้ี
9.1 เปน็ ผทู้ ่ีมีสทิ ธิ์พกั ในหอพัก
9.2 ไม่เคยมีประวตั ใิ นการละเมิดระเบยี บหอพกั
ขอ้ 10 คณะกรรมการประจำหอพักมีอำนาจและหนา้ ท่ี ดงั ต่อไปนี้
10.1 ดแู ลความเปน็ ระเบียบเรียบรอ้ ยในหอพกั
10.2 เรียกประชมุ ผู้ทพ่ี กั ในหอพกั เมื่อมเี หตุจำเป็นโดยแจ้งให้อาจารย์ท่ีปรกึ ษาหอพกั ทราบล่วงหนา้ กอ่ น
ทกุ คร้งั
10.3 พจิ ารณาและดำเนนิ งานเกีย่ วกับกิจกรรมในหอพัก โดยความเห็นชอบของอาจารย์ทปี่ รกึ ษาหอพกั
10.4 ชว่ ยดแู ลความสะอาดของอาคำรและบรเิ วณหอพัก
10.5 ช่วยสอดสอ่ งดแู ล ยบั ย้งั ห้ามปราม มใิ หบ้ ุคคลภายนอกข้นึ ไปบนหอพัก
10.6 ช่วยไกลเ่ กลีย่ ขอ้ พิพาทต่างๆ ของผทู้ ีพ่ กั ในหอพกั
10.7 เสนอแนะข้อคิดเห็นตา่ งๆ เกี่ยวกับหอพัก และกจิ กรรมในหอพักต่ออาจารย์ท่ีปรึกษา
ข้อ 11 กรรมการนกั ศกึ ษาประจำหอพกั มีวาระครง้ั ละ 1 ปี โดยให้มกี ารเลอื กตง้ั คณะกรรมการประจำหอพกั
โดยการเลอื กต้ังท่วั ไป และดำเนนิ การให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคมของทุกปี