The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือ
การปฏิบัติงานแพทย์ใช้ทุนเพิ่มพูนทักษะ
ชั้นปีที่ 1 ประจำปี 2565
โรงพยาบาลแพร่

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by dolmecphrae, 2022-05-18 23:29:08

คู่มือ การปฏิบัติงานแพทย์ใช้ทุนเพิ่มพูนทักษะ ชั้นปีที่ 1 ประจำปี 2565 โรงพยาบาลแพร่

คู่มือ
การปฏิบัติงานแพทย์ใช้ทุนเพิ่มพูนทักษะ
ชั้นปีที่ 1 ประจำปี 2565
โรงพยาบาลแพร่

(1.1) แบบประเมนิ ทกั ษะทางคลนิ กิ สำหรับแพทย์เพม่ิ พูนทักษะ
Entrustable professional activities (EPA)

ชอ่ื แพทยเ์ พม่ิ พูนทักษะ........................................................... ชื่ออาจารยผ์ ู้ประเมนิ .........................................................

สถานที่  OPD  IPD

Clinical setting  Medicine  Pediatrics  Surgery  Orthopedics  ER  Family
Medicine  OBGYN
Clinical problem ; Diagnosis………………………………
Category: RS  CVS  Gastro Neuro  Pain  Psychy  Other ระบ.ุ .................................

Complexity of case:  Low  Average  High
ขอ้ แนะนา 1) ไม่จาเป็นตอ้ งประเมินทกุ หัวขอ้ ในผปู้ ่วยแต่ละราย แลว้ แต่บรบิ ทของ setting 2) สามารถนาแบบประเมินจากผปู้ ่วยหลายราย มารวมประเมิน

ความสามารถในขอ้ ต่างๆได้ 3) ควรทาอย่างนอ้ ย 2 ครงั้ คือ ระหว่าง rotation เพ่ือ feedback แกไ้ ข และ ปลาย rotation เพื่อประเมินแบบ

summative outstanding average below ประเมนิ หมายเหตุ
average ไม่ได้
ทักษะทางคลนิ ิก

1.ซกั ประวตั ิและตรวจรา่ งกายผปู้ ่วยไดอ้ ยา่ งกระชบั ครอบคลมุ เป็นขนั้ ตอน

2.เลอื กใชว้ ิธกี ารตรวจทางหอ้ งปฏิบตั กิ ารตา่ งๆ อยา่ งเหมาะสม คมุ้ ค่า

3.วินจิ ฉยั แยกโรคอยา่ งเป็นระบบ และวินจิ ฉยั โรคไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง

4.ประเมินและรกั ษาผปู้ ่วยทีม่ อี าการเลวลงหรืออาการหนกั เฉียบพลนั ได้ เนน้ ใน ER/trauma
อยา่ งเหมาะสม โดยตระหนกั ถึงขอ้ จากดั ของตน และขอความชว่ ยเหลอื ได้

ทนั เวลา(กรณีฉกุ เฉิน ตอ้ งทาเป็นอนั ดบั แรก) *

5.เลอื กใชย้ าและวิธีการรกั ษาทสี่ มเหตผุ ล เพอื่ ความปลอดภยั ของผปู้ ่วย
แบบองคร์ วม
6. ทาหตั ถการที่จาเป็นตอ่ การวนิ จิ ฉัยและการรกั ษาไดอ้ ยา่ งถกู วิธี

7.ส่งต่อและจาหน่ายผปู้ ่วยไดอ้ ยา่ งปลอดภยั เนน้ care plan &
8.ใหข้ อ้ มลู และคาปรกึ ษาแก่ผปู้ ่วยและญาติ home care ใน
FM

9.สือ่ สารและทางานเป็นทีมกบั เพือ่ นรว่ มงาน

10.แนะนาแผนการป้องกนั และสรา้ งเสริมสขุ ภาพทีเ่ หมาะสม (ถา้ ม)ี FM
11.บนั ทกึ ขอ้ มลู ในเวชระเบียนไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง

ระดับการประเมินความสามารถโดยรวม =  ขอ้ ควรพฒั นา
❑ ระดับ 1 ไมผ่ า่ น= ยังไมส่ ามารถอนุญาตให้ลงมือปฏิบัติได้ (ใหส้ ังเกตการณเ์ ทา่ นน้ั )
❑ ระดบั 2 ไม่ผ่าน= สามารถปฏิบัติงานไดภ้ ายใต้การควบคุมของอาจารยอ์ ย่างใกลช้ ดิ
❑ ระดบั 3 ไม่ผา่ น= สามารถปฏิบตั งิ านไดเ้ อง ภายใตก้ ารชแี้ นะของอาจารย์
❑ ระดับ 4 ผา่ น= สามารถปฏิบัติงานไดเ้ อง โดยมอี าจารย์ให้ความชว่ ยเหลือเมอ่ื ต้องการ
❑ ระดับ 5 ผา่ น = สามารถปฏบิ ัติงานไดเ้ อง และควบคุมผทู้ ี่มปี ระสบการณ์นอ้ ยกว่า

ลายเซ็นอาจารย์ ....................................

วันที่................เดือน..............พศ …....

(1.2) แบบประเมินทกั ษะทางหตั ถการสำหรับแพทย์เพิ่มพูนทกั ษะ
Direct observation of procedural skills (DOPS)

ชอ่ื แพทยเ์ พิ่มพนู ทักษะ................................. ชือ่ อาจารยผ์ ปู้ ระเมิน................................................

สถานที่  OPD  IPD  OR

Clinical setting  Medicine  Pediatrics  Surgery  Orthopedics  ER  Family Medicine  OB GYN
Diagnosis………………………………….
Procedure…………………………………….
Complexity of case:  Low  Average  High

ทกั ษะหตั ถการ ถูกต้อง ถกู ตอ้ ง ไม่ถูกตอ้ ง/ ประเมนิ ไมไ่ ด้ หมายเหตุ
1.บอกขอ้ บง่ ชี้ กายวภิ าคทเี่ ก่ยี วขอ้ งและเทคนคิ การทาหตั ถการ สมบรู ณ์ เป็ นสว่ นใหญ่ ถูกตอ้ งเพยี ง

เล็กน้อย

2.ขอ inform consent

3.เตรยี มการกอ่ นทาหตั ถการอย่างเหมาะสม

4.ใหย้ าแกป้ วดอยา่ งเหมาะสม

5.ทาหตั ถการไดอ้ ยา่ งถกู วิธี

6.ใชเ้ ทคนิคปลอดเชอื้

7.ขอความช่วยเหลอื อยา่ งเหมาะสม

8.การดแู ลรกั ษาหลงั จากทาหตั ถการ

9.ทกั ษะการส่อื สารและทางานเป็นทมี กบั เพือ่ นรว่ มงาน

10.ดแู ลผปู้ ่วยดว้ ยจรยิ ธรรมวชิ าชพี

ระดบั การประเมินความสามารถโดยรวม =  ขอ้ ควรพฒั นา

❑ ระดบั 1 ไมผ่ า่ น = ยังไม่สามารถอนญุ าตให้ลงมอื ปฏบิ ตั ิได้ (ให้สงั เกตการณเ์ ท่านนั้ )
❑ ระดบั 2 ไม่ผ่าน= สามารถปฏิบัตงิ านไดภ้ ายใต้การควบคุมของอาจารยอ์ ย่างใกล้ชดิ
❑ ระดับ 3 ไม่ผ่าน= สามารถปฏิบตั ิงานไดเ้ อง ภายใตก้ ารชแ้ี นะของอาจารย์
❑ ระดับ 4 ผา่ น= สามารถปฏบิ ัติงานไดเ้ อง โดยมอี าจารย์ให้ความชว่ ยเหลอื เมอื่ ต้องการ
❑ ระดับ 5 ผา่ น= สามารถปฏิบัติงานไดเ้ อง และควบคมุ ผทู้ ม่ี ีประสบการณ์นอ้ ยกวา่

ลายเซน็ อาจารย.์ ..............................................
วันท.่ี .................เดือน..................................พศ...............

(1.3) แบบประเมินพฤตนิ ิสัยในการปฏิบตั งิ านตามหลักจริยธรรมแหง่ วชิ าชีพสำหรบั แพทย์เพิ่มพูนทักษะ

Multisource feedback

ช่อื แพทยเ์ พ่ิมพนู ทกั ษะ.......................................................................................................
ช่อื ผปู้ ระเมนิ ................................................ อาจารย์  แพทยป์ ระจาบา้ น/ แพทยพ์ เี่ ลยี้ ง  พยาบาล  อ่นื ๆ ระบ.ุ ..........................
สถานท่ี  OPD  IPD

Clinical setting  Medicine  Pediatrics  Surgery  Orthopedics  ER  Family Medicine  OB GYN

ชว่ งเวลาท่แี พทยเ์ พิ่มพนู ทกั ษะปฏบิ ตั ิงาน..............................................วนั ท่ใี หค้ วามเหน็ ..............................................................

พฤตกิ รรม Outstanding Average Below average ประเมิน หมายเหตุ
ไม่ได้
ตอ้ งไม่ได้ตำ่ กว่า
1.ซอื่ สตั ย์ average
ต้องไมไ่ ดต้ ่ำกว่า
2.รบั ผดิ ชอบ average

3.ตรงตอ่ เวลา ต้องไม่ไดต้ ำ่ กว่า
4. แตง่ กายสภุ าพ average
5.ทกั ษะในการสอ่ื สารกบั ผปู้ ่วยและญาติ
6.ทกั ษะในการสอ่ื สารและมนษุ ยสมั พนั ธก์ บั เพื่อนรว่ มงาน
7.ดแู ลผปู้ ่วยดว้ ยจริยธรรมวิชาชพี

8.อนื่ ๆ ระบ.ุ ...................

ขอ้ ควรพฒั นา

ลายเซ็นอาจารย์
............................................................................................

วนั ท.ี่ ......................เดอื น...........................พศ....................

ข้อมูลประสบการณ์การเรยี นร-ู้ หตั ถการ

เกณฑ์ความรคู้ วามสามารถและ E-Logbook

1. ปรบั ปรุงเกณฑค์ วามรู้ความสามารถในการประเมินเพื่อรับใบอนญุ าตเปน็ ผูป้ ระกอบวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.

2555 เฉพาะในสว่ นของหตั ถการของบัณฑติ แพทยแ์ ละแพทยเ์ พ่มิ พนู ทักษะเท่านน้ั ตามประกาศแพทยสภา

ที่ 12/2555

ประกาศแพทยสภา
ที่ 12/2555

เรือ่ ง เกณฑ์ความร้คู วามสามารถในการประเมินเพอื่ รับใบอนุญาตเป็นผปู้ ระกอบวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2555
(Medical Competency Assessment Criteria for National License 2012) (ฉบบั ท่ี 2)
พ.ศ.2563

ตามที่ แพทยสภา ได้กำหนดเกณฑ์ความรู้ความสามารถในการประเมินเพ่ือรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบ
วชิ าชีพเวชกรรม ตั้งแต่ พ.ศ.2555 เป็นต้นมานั้น ทั้งน้ี เพื่อให้ทันต่อยุคสมัยและสอดคล้องกับเวชปฏิบัติในยุคปัจจุบัน
แพทยสภาจึงได้มอบให้กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท) ดำเนินการทบ ทวนเกณฑ์ความรู้
ความสามารถฯ พ.ศ.2555 เฉพาะในส่วนท่ี 2 ข. ความรู้ความสามารถทางวิชาชีพทักษะทางคลินิก หมวดที่ 3 ขอ้ 3.4
การทำหัตถการที่จำเป็นหรือมีส่วนช่วยในการแก้ปัญหาสุขภาพ จำนวน 95 หัตถการ โดยแบ่งระดับทักษะหัตถการ
เป็นหัตถการสำหรบั บัณฑติ แพทย์และแพทย์เพิ่มพูนทักษะ ตามหลักการจดั การศกึ ษาทีม่ ุ่งผลลพั ธ์ (Outcome-based
education) และแนวทางของการกำหนดสมรรถนะที่ผูเ้ รียนสามารถปฏิบัติไดด้ ้วยตนเองดว้ ยระดับของการกำกับดแู ล
ทต่ี ่างกนั (Entrustable Professional Activites) และโดยความเห็นชอบจากท่ีประชมุ คณะกรรมการแพทยสภา คร้ัง
ท่ี 3/2563 วนั ท่ี 12 มนี าคม พ.ศ. 2563

(1) ให้ยกเลิกประกาศแพทยสภา ที่ 12/2555 เรื่องเกณฑ์ความรู้ความสามารถในการประเมินเพื่อรับ
ใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2555 (Medical Competency Assessment Criteria
for National License 2012) เฉพาะในส่วนที่ 2 ข. ความรู้ความสามารถทางวิชาชีพทักษะทางคลินิก
หมวดที่ 3 ขอ้ 3.4 การทำหัตถการที่จำเปน็ หรือมสี ว่ นช่วยในการแก้ปญั หาสุขภาพ

(2) ใหใ้ ช้ขอ้ ความในเอกสารแนบทา้ ยประกาศฉบบั นแี้ ทน

จึงขอประกาศใหท้ ราบโดยทั่วกัน

ประกาศ ณ วนั ท่ี 25 มีนาคม 2563

(ศาสตราจารย์เกียรติคณุ แพทยห์ ญิงสมศรี เผา่ สวัสด)ิ์
นายกแพทยสภา

รบั รองโดยคณะกรรมการแพทยสภาในการประชมุ ครง้ั ที่ 3/2563 วันท่ี 12 มนี าคม 2563

เกณฑ์ความรคู้ วามสามารถในการประเมิน

เพ่ือรบั ใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวชิ าชพี เวชกรรม พ.ศ.2555
(Medical Competency Assessment Criteria for National License 2012) (ฉบับท่ี 2) พ.ศ.2563
3.4 การทำหัตถการท่ีจำเป็นหรอื มสี ว่ นชว่ ยในการแกป้ ัญหาสขุ ภาพ โดยแบง่ ระดบั หัตถการไว้ 4 ระดับ ดังน้ี

3.4.1 หตั ถการระดบั ท่ี 1 หมายถงึ หตั ถการระดบั แพทยศาสตรบณั ฑติ (พบ.) แบง่ เปน็
3.4.1.1 หัตถการระดับท่ี 1.1 (พบ.1) คือ หัตถการที่สถาบันผลิตแพทย์ต้องสอนและประเมินนิสิตนักศึกษา

แพทย์ จนทำให้เช่ือมั่นได้ว่าเมื่อนิสิตนักศึกษาแพทย์ทุกคนจบหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต สามารถอธิบายข้อบ่งชี้ ข้อห้าม
สภาพและเง่ือนไขท่ีเหมาะสม ข้ันตอนการกระทำ ภาวะแทรกซ้อนท่ีอาจจะเกิดได้ถูกต้อง สามารถทำได้ด้วยตนเอง วินิจฉัย
และดแู ลบำบดั ภาวะแทรกซอ้ นได้ หตั ถการระดับท่ี 1.1 (พบ.1) มีจำนวนทงั้ ส้นิ 30 หตั ถการ

3.4.1.2 หัตถการระดับท่ี 1.2 (พบ.2) คือ หัตถการท่ีสถาบันผลิตแพทย์ต้องสอนนิสิตนักศึกษาแพทย์
จนทำให้เช่ือม่ันได้ว่าเม่ือนิสิตนักศึกษาแพทย์ทุกคนจบหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต สามารถอธิบายข้อบ่งชี้ ข้อห้าม สภาพ
และเง่ือนไขท่ีเหมาะสม ขั้นตอนการกระทำ ภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดได้ถูกต้อง สามารถทำได้โดยอาจ ขอคำแนะนำใน
บางกรณี หรอื สามารถทำได้ภายใต้การกำกับดูแล วินิจฉัยและดูแลบำบัดภาวะแทรกซ้อนได้ หัตถการระดับที่ 1.2 (พบ.2) มี
จำนวนทงั้ สน้ิ 32 หตั ถการ

3.4.2 หตั ถการระดบั ท่ี 2 หมายถึง หัตถการระดบั แพทยเ์ พม่ิ พนู ทักษะ (พท.)
3.4.2.1 หัตถการระดับที่ 2.1 (พท.1) คือ หัตถการที่บัณฑิตแพทย์สามารถอธิบายข้อบ่งชี้ ข้อห้าม สภาพ

และเง่ือนไขท่ีเหมาะสม ขั้นตอนการกระทำ ภาวะแทรกซ้อนท่ีอาจจะเกิดได้ถูกต้อง และโรงพยาบาลในโครงการเพิ่มพูนทักษะต้อง
กำกับดูแลและประเมินแพทย์เพิ่มพูนทักษะ จนทำให้เช่ือมั่นได้ว่าเม่ือจบโครงการฯ แพทย์เพ่ิมพูนทักษะทุกคนสามารถทำ
หัตถการระดบั น้ีได้ดว้ ยตนเอง วนิ ิจฉยั และดแู ลบำบดั ภาวะแทรกซอ้ นได้

หัตถการระดับที่ 2.1 (พท.1) มีจำนวนท้ังสิ้น 18 หัตถการ ซึ่งทุกหัตถการในระดับนี้จัดให้เป็นหัตถการระดับที่
1.2 (พบ.2) ด้วย ตามผูร้ บั ผิดชอบในการสอน

3.4.2.2 หัตถการระดับที่ 2.2 (พท.2) คือ หัตถการท่ีบัณฑิตแพทย์สามารถอธิบายข้อบ่งชี้ ข้อห้าม สภาพ
และเง่อื นไขทเี่ หมาะสม ขนั้ ตอนการกระทำ ภาวะแทรกซอ้ นทอี่ าจจะเกิดไดถ้ ูกต้อง และโรงพยาบาลในโครงการเพ่มิ พนู ทักษะ
ตอ้ งกำกับดูแลแพทยเ์ พมิ่ พูนทกั ษะ จนทำให้เชือ่ ม่ันได้ว่าเมื่อจบโครงการฯ แพทย์เพ่ิมพูนทกั ษะทุกคนสามารถทำไดโ้ ดยอาจ
ขอคำแนะนำในบางกรณี หรอื สามารถทำไดภ้ ายใตก้ ารกำกับดูแล วินิจฉยั และดแู ลบำบัดภาวะแทรกซ้อนได้

หตั ถการระดับท่ี 2.2 (พท.2) มีจำนวนทง้ั สิน้ 15 หัตถการ ซงึ่ 11 หัตถการในระดบั นจ้ี ัดใหเ้ ป็นหัตถการระดับท่ี
1.2 (พบ.2) ดว้ ย ตามผู้รับผดิ ชอบในการสอน

3.4.3 หตั ถการระดบั ท่ี 3 หมายถงึ หตั ถการทม่ี คี วามซับซ้อน และอาจทำในกรณีที่จำเปน็ ไดแ้ ก่ หตั ถการที่
บัณฑิตแพทยส์ ามารถอธบิ ายขอ้ บง่ ชี้ ขอ้ หา้ ม สภาพและเงือ่ นไขทีเ่ หมาะสม ขน้ั ตอนการกระทำ ภาวะแทรกซ้อนทีอ่ าจจะเกดิ
ไดถ้ ูกต้อง สามารถให้คำแนะนำปรกึ ษาแก่ผ้ปู ว่ ยได้ถกู ตอ้ ง และเม่ือผา่ นการเพม่ิ พนู ทกั ษะ สามารถทำได้รว่ มกบั แพทยท์ มี่ ี
ประสบการณ์ หัตถการระดับท่ี 3 มีจำนวนทัง้ สน้ิ 13 หัตถการ

3.4.4 หัตถการระดบั ที่ 4 หมายถึง หตั ถการท่มี ีความซับซ้อน และ/หรืออาจเกิดอันตราย จำเป็นต้องอาศัยการ
ฝึกฝน ไดแ้ ก่ หตั ถการทบ่ี ัณฑิตแพทยส์ ามารถอธิบายขอ้ บง่ ช้ี ข้อหา้ ม สภาพและเงอ่ื นไขที่เหมาะสม ขั้นตอนการกระทำ
ภาวะแทรกซ้อนทีอ่ าจจะเกิดไดถ้ ูกต้อง สามารถใหค้ ำแนะนำปรกึ ษาแกผ่ ปู้ ว่ ยได้ถกู ตอ้ ง และเมอื่ ผา่ นการเพ่มิ พนู ทกั ษะ เคย
เหน็ หรือเคยชว่ ย หตั ถการระดับที่ 4 มจี ำนวนทั้งสน้ิ 7 หตั ถการ

แนวทางการปฏิบตั ิสำหรับโรงพยาบาลซึง่ เปน็ สถานที่ปฏบิ ัตงิ านตามโครงการแพทย์เพิ่มพูนทกั ษะ
1. หัตถการสำหรบั แพทยเ์ พ่ิมพนู ทักษะ ระดับ 2.1 (พท.1)
ในช่วง 1 ปีของโครงการเพิ่มพูนทักษะ แพทย์ประจำโรงพยาบาล / แพทย์ที่ปรึกษา / แพทย์พ่ีเลี้ยงต้องกำกับดูแลให้

แพทย์เพ่ิมพูนทักษะทุกคนได้ฝึกทำทักษะหัตถการระดับ 2.1 (พท.1) และประเมินทักษะหัตถการของแพทย์เพิ่มพูนทักษะทุก
คนระหว่างการปฏิบัติงาน (workplace-based assessment) ในกลุ่มงานต่างๆ ที่แพทย์ผู้น้ันหมุนเวียนไปฝึก เพื่อทำให้วงการ
แพทย์และสังคมเชื่อมั่นได้ว่าเมื่อจบโครงการน้ี (วันสุดท้ายของการเป็นแพทย์เพ่ิมพูนทักษะ) แพทย์เพิ่มพูนทักษะทุกคน
สามารถอธบิ ายขอ้ บ่งช้ี ข้อห้าม ขน้ั ตอนการกระทำ และภาวะแทรกซ้อนทอ่ี าจจะเกดิ ได้ถูกต้อง สามารถทำหตั ถการระดับ 2.1
(พท.1) ไดด้ ้วยตนเอง ภายใต้วิสยั และพฤตกิ ารณ์ในกรณีน้นั ๆ วนิ จิ ฉัยและดแู ลบำบัดภาวะแทรกซ้อนได้

เนื่องจากทุกหัตถการระดับ 2.1 (พท.1) น้ี ถูกจัดให้เป็นหัตถการระดับ 1.2 (พบ.2) ด้วย ดังนั้น โรงพยาบาลในโครงการ
แพทย์เพิ่มพูนทักษะพึงตระหนักว่าสถาบันผลิตแพทย์ได้สอนและประเมินหัตถการระดับน้ีให้แก่นิสิตนักศึกษาแพทย์มาแล้ว
อยา่ งไรก็ตาม เนื่องจากความสามารถ ประสบการณ์ และความม่ันใจในการทำหตั ถการแต่ละอย่างของบัณฑิตแพทย์แต่ละคน
มีความแตกต่างกัน ดังน้ัน แพทย์ประจำโรงพยาบาล / แพทย์ที่ปรึกษา / แพทย์พี่เล้ียงในโครงการเพม่ิ พูนทกั ษะพึงประเมิน
ความสามารถในการทำหัตถการระดับน้ีเป็นครั้งแรกของบัณฑิตแพทย์ และกำกับดูแล / ให้คำแนะนำตามสมควร เพื่อความ
ปลอดภัยของผ้ปู ่วย

2. หตั ถการสำหรับแพทย์เพิ่มพนู ทกั ษะ ระดับท่ี 2.2 (พท.2)
ในช่วง 1 ปีของโครงการเพ่ิมพูนทักษะ แพทย์ประจำโรงพยาบาล / แพทย์ที่ปรึกษา / แพทย์พ่ีเล้ียงต้องกำกับดูแลให้
แพทย์เพิ่มพูนทักษะได้ฝึกทำทักษะหตั ถการระดับที่ 2.2 (พท.2) เพื่อทำให้วงการแพทย์และสังคมเช่อื ม่ันได้ว่าเมอื่ จบโครงการน้ี
(วันสุดท้ายของการเป็นแพทย์เพ่ิมพูนทักษะ) แพทย์เพ่ิมพูนทักษะทุกคนสามารถอธิบายขั้นตอนการกระทำ และ
ภาวะแทรกซ้อนท่ีอาจจะเกิดได้ถกู ตอ้ ง สามารถทำได้โดยอาจขอคำแนะนำในบางกรณี หรือสามารถทำได้ภายใตก้ ารกำกับ
ดแู ล ภายใตว้ สิ ยั และพฤติการณ์ในกรณีน้นั ๆ วินจิ ฉัยและดูแลบำบดั ภาวะแทรกซ้อนได้
โรงพยาบาลในโครงการแพทย์เพ่ิมพูนทักษะพึงตระหนักว่าสถาบันผลิตแพทย์ได้สอนและประเมินบางหัตถการระดับที่
2.2 (พท.2) ให้แก่นิสิตนักศึกษาแพทย์มาแล้ว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความสามารถ ประสบการณ์ และความมั่นใจในการทำ
หตั ถการแต่ละอย่างของบัณฑิตแพทย์แต่ละคนมีความแตกตา่ งกนั ดงั นั้น แพทยป์ ระจำโรงพยาบาล / แพทย์ที่ปรึกษา / แพทย์พ่ี
เลย้ี งในโครงการเพ่มิ พูนทักษะพงึ ประเมนิ ความสามารถในการทำหัตถการระดบั นี้เปน็ คร้ังแรกของบัณฑิตแพทย์ และกำกับดแู ล
/ ให้คำแนะนำตามสมควร เพือ่ ความปลอดภยั ของผปู้ ว่ ย
3. องคค์ วามรู้ (ที่ควรสอนภาคปฏบิ ัติรว่ มดว้ ย) มากกว่าท่ีจะเป็นทักษะหตั ถการ (procedural skills)
เช่นเดียวกับหัตถการระดับท่ี 2.1 (พท.1) และระดับท่ี 2.2 (พท.2) โรงพยาบาลในโครงการแพทย์เพ่ิมพูนทักษ ะพึง
ตระหนักว่าสถาบันผลิตแพทย์ได้สอนองค์ความรู้และฝึกภาคปฏิบัติ ในหัวข้อเหล่าน้ีให้แก่นิสิตนักศึกษาแพทย์มาแล้ว อย่างไรก็
ตาม เน่ืองจากความสามารถ ประสบการณ์ และความม่ันใจในการปฏิบัติของบัณฑิตแพทย์แต่ละคนมีความแตกต่างกัน ดังนั้น
แพทย์ประจำโรงพยาบาล / แพทย์ที่ปรึกษา / แพทย์พี่เลี้ยงในโครงการเพ่ิมพูนทักษะพึงประเมินความสามารถในการปฏิบัติใน
หวั ข้อเหล่าน้ีเป็นครง้ั แรกของบัณฑติ แพทย์ และกำกบั ดูแล / ให้คำแนะนำตามสมควร เพือ่ ความปลอดภัยของผู้ปว่ ย
4. หัตถการระดับท่ี 3
ในช่วง 1 ปขี องโครงการเพ่ิมพูนทักษะ แพทย์ประจำโรงพยาบาล / แพทย์ทีป่ รึกษา / แพทยพ์ ี่เล้ียงควรกำกับดูแลให้แพทย์
เพมิ่ พนู ทกั ษะไดฝ้ กึ ทำทกั ษะหตั ถการระดบั น้ี จนสามารถทำได้รว่ มกบั แพทย์ท่มี ีประสบการณ์
1. หัตถการระดับท่ี 4
ในช่วง 1 ปีของโครงการเพิ่มพูนทักษะ แพทย์ประจำโรงพยาบาล / แพทย์ท่ีปรึกษา / แพทย์พ่ีเล้ียงควรหาโอกาสให้แพทย์
เพ่ิมพนู ทกั ษะไดเ้ หน็ หรอื ไดช้ ่วยทำทักษะหัตถการระดบั นี้

สรปุ หัตถการของแพทยเ์ พิ่มพูนทักษะ
หัตถการของแพทย์เพ่ิมพูนทักษะ จำนวน 86 หัตถการ เป็นหัตถการท่ีคณะกรรมการแพทยสภาได้รับรองใน

การประชุมคร้ังท่ี 3/2563 วันท่ี 12 มีนาคม 2563 และนายกแพทยสภาได้ลงนามประกาศในวันท่ี 25 มีนาคม 2563
เปน็ แนวทางสำหรับสถาบนั การผลิตแพทย์

(1) หัตถการสำหรบั บัณฑิตแพทย์ ระดบั ที่ 1.1 (พบ.1)
(2) หัตถการสำหรบั บัณฑติ แพทย์ ระดบั ท่ี 1.2 (พบ.2)
(3) หัตถการสำหรับแพทย์เพ่ิมพนู ทกั ษะ ระดับ 2.1 (พท.1)
(4) หตั ถการสำหรับแพทย์เพม่ิ พนู ทกั ษะ ระดบั 2.2 (พท.2)
หมายเหตุ :
หัตถการดังกล่าวเป็นหัตถการที่มีการคาบเก่ียวระหว่างแพทย์ Extern และแพทย์เพ่ิมพูนทักษะ ซ่ึงในแต่ละ
สถาบันท่ีปฏิบัติงานต้องจัดให้แพทย์ Extern และแพทย์เพิ่มพูนทักษะ ได้มีความรู้ ได้เห็น ได้ช่วย หรือได้ทำด้วย
ตนเองตามแต่กรณี ในกรณีที่ไมม่ ีหัตถการดังกล่าว สถาบันสามารถดำเนินการเพ่ือให้มีประสพการณ์การเรียนร้จู ากส่ือ
การเรยี นการสอน หรอื สอื่ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ได้

การบันทึกข้อมูล

เพ่ือประโยชน์ตอ่ ตวั แพทย์เพิ่มพนู ทักษะเอง ให้บนั ทึกข้อมูลประสบการณ์การเรยี นรแู้ ละหัตถการลงใน (TMC e-
logbook) เพือ่ จะไดท้ ราบประสบการณ์การเรยี นรูข้ องตนเอง (Self Assessment) และใช้เป็นขอ้ มูลประกอบการ
พิจารณาสมัครเขา้ รับการฝกึ อบรมแพทยป์ ระจำบา้ นของสถาบันฝึกอบรม

TMC e-logbook

หตั ถการสาหรบั แพทย์ ในโครงการแพทย์เพิ่มพูนทักษะ

ในระดับ ๒.๑ และ ๒.๒ จาแนกรายแผนกต่างๆ

Gynecology

หัตถการระดับ 2.1
1. ลำดบั ที่ 3 Cervical dilatation and uterine curettage
2. ลำดับที่ 4 Contraceptive drug implantation and removal
3. ลำดับท่ี 8 Insertion of intrauterine contraceptive device
4. ลำดบั ท่1ี 0 Manual vacuum aspiration
5. ลำดบั ที่14 Removal of foreign body from vagina in adult
6. ลำดบั ท1่ี 5 Removal of intrauterine contraceptive device
7. ลำดบั ท1่ี 6 Tubal ligation & resection (postpartum)
8. ลำดับที่17 Ultrasonography, gravid uterus

หตั ถการระดบั 2.2
1. ลำดับที่2 Breech assistance delivery
2. ลำดับที่5 Marsupialization of Bartholin’s cyst
3. ลำดับท่ี6 Manual Removal of Placenta
4. ลำดบั ท่7ี Polypectomy (cervical)
5. ลำดบั ท่1ี 3 Removal of foreign body from vagina in child
6. ลำดบั ที่15 Vacuum extraction

Surgery

หตั ถการระดับ 2.1
1. ลำดับที2่ Biopsy of skin, superficial mass (see also in Medicine list)
2. ลำดับท5่ี Debridement of wound
3. ลำดับที่7 Excision of benign tumor and cyst of skin and subcutaneous tissue

หตั ถการระดบั 2.2
1. ลำดับท1่ี Appendectomy

Orthopedics

หตั ถการระดบั 2.1
1. ลำดบั ท9่ี Joint aspiration, knee (see also in Medicine list)
2. ลำดบั ท1่ี 1 Plaster of Paris technique

หัตถการระดบั 2.2
1. ลำดบั ท่8ี Reduction of finger or shoulder dislocations

Medicine

หัตถการระดบั 2.1
1. ลำดบั ท1่ี Abdominal paracentesis
2. ลำดับท2่ี Biopsy of skin, superficial mass (see also in Surgery list)
3. ลำดบั ท9่ี Joint aspiration, knee (see also in Orthopedics list)
4. ลำดบั ที่12 Pleural paracentesis (Thoracocentesis)
5. ลำดับท่ี18 Venesection or central venous catheterization

หตั ถการระดบั 2.2
1. ลำดบั ท3่ี Intraosseous access (see also in Pediatrics list)

Pediatrics

หตั ถการระดับ 2.1
1. ลำดบั ท่ี6 Endotracheal intubation (children)

หัตถการระดับ 2.2
1. ลำดับท3ี่ Intraosseous access (see also in Medicine list)
2. ลำดับที่4 Lumbar puncture (children)
3. ลำดับที่14 Umbilical vein catheterization

ENT
หัตถการระดับ 2.1

1. ลำดบั ที่13 Posterior nasal packing
หัตถการระดบั 2.2

1. ลำดับท่ี10 Removal of foreign body from ear (simple case)
2. ลำดบั ที่11 Removal of foreign body from nose (simple case)
3. ลำดบั ที่12 Removal of foreign body from throat (simple case)

Eye

หัตถการระดบั 2.1
None

หัตถการระดบั 2.2
1. ลำดับท่9ี Removal of foreign body from conjunctiva (simple case)

หลักเกณฑข์ องแพทยสภาในการออกประกาศนียบัตรใหแ้ พทย์เพ่มิ พูนทักษะ
ก. ประกาศนยี บัตรผูผ้ า่ นโครงการเพิม่ พนู ทักษะตามเกณฑข์ องแพทยสภา

เลขท่ี ๐๐๐๐/๐๐๐๐

ประกาศนยี บตั รน้ใี หไ้ วเ้ พอ่ื แสดงวา่

แพทย์ .................................................................

ไดผ้ า่ นการปฏบิ ตั งิ านเพม่ิ พนู ทกั ษะตามเกณฑข์ องแพทยสภา
ระหวา่ งวนั ท่ี ........ เดอื น............ พ.ศ........ - วนั ท่ี ........ เดอื น............ พ.ศ

..............

มเี กยี รตแิ ละสทิ ธแิ หง่ ประกาศนยี บตั รน้ที กุ ประการ
ใหไ้ ว้ ณ วนั ท่ี ........ เดอื น............ พ.ศ. .............

(พลอากาศตรนี ายแพทยอ์ ทิ ธพร คณะเจรญิ ) (ศาสตราจารยเ์ กยี รตคิ ณุ แพทยห์ ญงิ สมศรี เผ่าสวสั ด)ิ ์

เลขาธกิ ารแพทยสภา นายกแพทยสภา

ข. ข้นั ตอนการขอใบแทน/ขอเพ่มิ เติม ประกาศนียบตั รฯ

ขน้ั ตอนการดำเนนิ การ คา่ ธรรมเนียม

การขอใบแทน/ 1. ยน่ื คำขอใบแทนประกาศนียบัตรฯ ทสี่ ำนักงานเลขาธิการ คำขอ
ขอเพม่ิ เติม
ประกาศนยี บัตรฯ แพทยสภา 100 บาท / ฉบับ

คณุ ศศพิ ร ภาสบุตร ฝา่ ยฝกึ อบรมและสอบฯ

2. แพทยร์ ับใบแทนทสี่ ำนักงานฯ หรอื จดั สง่ ให้ตามทแี่ จง้ ไว้ ใบแทน/เพิม่ เตมิ

หมายเหตุ กรณีไมส่ ามารถมาตดิ ต่อดว้ ยตนเองได้ 500 บาท / ฉบับ

ใหส้ ่งเอกสารคำขอใบแทน/ขอเพิ่มเติม ดาวน์โหลดท่เี ว็บไซต์

www.tmc.or.th เขา้ หัวข้อบริการสมาชกิ เข้าหวั ขอ้ ฝึกอบรม กรณีใหจ้ ัดส่งทาง

และสอบ เข้าหวั ข้อแบบคำขอตา่ งๆ พร้อมส่งสำเนาการโอน ไปรษณีย์ EMS ตอ้ งจา่ ย

เงิน เข้าบญั ชแี พทยสภา ธนาคารไทยพาณชิ ย์ จำกดั เพิ่ม 100 บาท / ฉบับ

(มหาชน) สาขากระทรวงสาธารณสขุ

เลขทีบ่ ญั ชี 340 2 01174 4 มาท่ีคุณศศิพร ภาสบุตร

ฝา่ ยฝึกอบรมและสอบฯ สำนักงานเลขาธกิ ารแพทยสภา

ชน้ั 12 อาคารวิชาชพี สขุ ภาพ กระทรวงสาธารณสขุ ซ.

บำราศนราดูร ต.ตลาดขวญั อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000

หรือทอ่ี ีเมล์ [email protected]

โทร 0 2590 1880 โทรศัพท์เคลอ่ื นท่ี 08 9693 7909

ค. คำขอใบแทน/ขอเพิม่ เตมิ ประกาศนยี บัตรฯ

เขียนที่ พ.ศ.
วนั ที่ เดอื น

ชือ่ - สกุล ผขู้ อ (นาย, นาง, นางสาว)

ชอื่ เดิม สกลุ เดิม

ทีอ่ ยูป่ ัจจุบนั เลขท่ี หมทู่ ี่ ตรอก/ซอย ถนน

ตำบล อำเภอ จงั หวดั

รหสั ไปรษณยี ์ เบอร์โทรศพั ท์

เป็นผ้ปู ระกอบวิชาชพี เวชกรรม ใบอนุญาตเลขท่ี ออกให้ ณ วนั ที่

เขา้ ปฏบิ ัตงิ านเพมิ่ พนู ทักษะปี พ.ศ. ที่

โรงพยาบาล จังหวัด

เลขทป่ี ระกาศนียบตั รฯ ออกให้ ณ วันที่ (หากไมท่ ราบใหเ้ ว้นว่างไว)้

คำขอ 100 บาท/ฉบบั ใบแทน 500 บาท/ฉบับ ค่าจดั สง่ ไปรษณีย์ EMS 100 บาท/ฉบบั

การขอรับเอกสาร
❑ มารับเองท่สี ำนกั งานฯ
❑ ใหจ้ ัดสง่ ตามทอี่ ยูน่ ี้

ลายมือช่อื ผขู้ อ

สำหรับเจา้ หน้าท่ี

แพทยสภาไดอ้ อกประกาศนียบตั รฯ ให้แลว้ เมอ่ื วนั ท่ี

ชำระเงนิ ตามใบเสร็จเล่มที่ เลขาธกิ ารแพทยสภา
ลงช่ือ
เลขท่ี วันท่ี

ง. คำขอแปลประกาศนยี บตั รฯและสำเนาเป็นภาษาอังกฤษ

เขยี นท่ี พ.ศ.
วนั ที่ เดือน

ชอ่ื - สกุล ผู้ขอ (นาย, นาง, นางสาว)

ชื่อเดิม สกุลเดมิ

ท่อี ย่ปู จั จบุ นั เลขที่ หม่ทู ่ี ตรอก/ซอย ถนน

ตำบล อำเภอ จงั หวดั

รหัสไปรษณยี ์ เบอรโ์ ทรศัพท์

เป็นผู้ประกอบวชิ าชีพเวชกรรม ใบอนุญาตเลขท่ี ออกให้ ณ วนั ที่

ขอแปลประกาศนยี บัตรผ้ผู า่ นการปฏิบตั ิงานเพ่ิมพูนทักษะตามเกณฑ์ของแพทยสภาเปน็ ภาษาองั กฤษ

ค่าคำขอ 100 บาท

ฉบับจรงิ จำนวน ฉบบั (ฉบบั ละ 500 บาท) รวมเปน็ เงนิ บาท

ฉบับรบั รองสำเนาจำนวน ฉบับ (ฉบบั ละ 200 บาท) รวมเป็นเงิน บาท

คา่ จัดส่งไปรษณีย์ EMS 100 บาท / ฉบบั

ได้แนบสำเนาประกาศนียบตั รฯ ฉบบั ภาษาไทยมาพรอ้ มคำขอฯ น้ีแล้ว

ช่ือและชือ่ สกลุ ภาษาองั กฤษของผ้ขู อแปล (โปรดเขยี นตวั พิมพใ์ หญ่) คือ

การขอรับเอกสาร

❑ มารับเองท่สี ำนักงานฯ

❑ ให้จัดส่งตามที่อยนู่ ี้

สำหรบั เจา้ หน้าที่ ลายมือชอ่ื ผูข้ อ
ชำระเงินตามใบเสรจ็ เล่มที่
ลงชื่อ เลขที่ วันที่

เอกสารแนบหมายเลข 12
แพทย์ผู้มสี ิทธิขอสมัครเขา้ โครงการแพทย์เพม่ิ พูนทกั ษะ

คณุ สมบัตขิ องแพทยผ์ ูม้ ีสิทธิสมคั รเข้าโครงการแพทยเ์ พิม่ พนู ทักษะ
1. สัญชาติไทย
2. สำเร็จการศึกษาหลักสูตรแพทยศาสตร์บัณฑิต ภาครัฐ ภาคเอกชน หรือสถาบันแพทยศาสตร์บัณฑิตของ
ต่างประเทศทแี่ พทยสภารบั รอง
3. ได้รับใบอนญุ าตประกอบวชิ าชพี เวชกรรมของแพทยสภา

การเขา้ โครงการแพทยเ์ พม่ิ พนู ทักษะของแพทย์ผชู้ ดใช้ทนุ ตามพันธะสัญญาของรัฐ
1. หนว่ ยงานตน้ สงั กดั ของสถาบันหลักปฏบิ ตั งิ านเพิม่ พนู ทกั ษะ ตรวจสอบคณุ สมบตั ิแพทย์
2. หน่วยงานตน้ สงั กดั ส่งเอกสารเขา้ โครงการฯ มาทีส่ ำนักงานเลขาธกิ ารแพทยสภา
3. คณะอนกุ รรมการพจิ ารณาสนบั สนนุ ฯ รบั ทราบ

การสมคั รเขา้ โครงการแพทย์เพม่ิ พนู ทกั ษะของแพทย์ จบจากสถาบันการศกึ ษาเอกชน หรือต่างประเทศ
1. แพทย์สามารถสมัครกับสถาบันหลักปฏิบัตงิ านเพิ่มพูนทักษะ
2. สถาบนั หลกั ปฏิบัติงานเพิม่ พูนทักษะ ตรวจสอบคุณสมบัติ และทั้งนี้ต้องไม่เกนิ ศักยภาพท่ีแพทยสภารับรอง
3. สถาบนั หลกั ปฏิบตั ิงานเพิม่ พูนทกั ษะ ขออนุมัติหนว่ ยงานตน้ สงั กดั
4. สถาบนั หลักปฏิบัตงิ านเพิม่ พูนทกั ษะ แจ้งสำนกั งานเลขาธิการแพทยสภา
5. คณะอนุกรรมการพิจารณาสนับสนุนฯ รบั ทราบ

การสมัครเข้าโครงการแพทย์เพิ่มพูนทักษะ ของ แพทย์ท่ีหมดพันธะสัญญาชดใช้ทุน ด้วยการชดใช้เงิน โดยมิได้
ไปปฏบิ ัติงานชดใช้ทุน

1. แพทย์สามารถสมคั รกบั สถาบันหลักปฏบิ ตั งิ านเพ่ิมพนู ทักษะ
2. สถาบันหลักปฏบิ ัตงิ านเพ่ิมพูนทกั ษะ ตรวจสอบคณุ สมบัติ และ ทั้งนี้ตอ้ งไม่เกินศกั ยภาพท่ีแพทยสภารับรอง
3. สถาบนั หลักปฏิบัติงานเพ่ิมพนู ทักษะ ขออนมุ ตั หิ น่วยงานต้นสงั กดั
4. สถาบนั หลกั ปฏบิ ัตงิ านเพม่ิ พูนทักษะ แจ้งสำนักงานเลขาธิการแพทยสภา
5. คณะอนกุ รรมการพิจารณาสนบั สนนุ ฯ รับทราบ

การสมัครกลับเขา้ โครงการฯใหม่ ของแพทย์ลาออกจากโครงการฯ
1. แพทย์ทำหนังสือ ขออนุมัติกลับเข้าปฏิบัติงานเพิ่มพูนทักษะ พร้อมท้ังแสดงเหตุผลการลาออก
และแบบประเมินผลในสาขาทีป่ ฏบิ ตั ิงานมาแลว้ ส่งสำนกั งานเลขาธกิ ารแพทยสภา
2. คณะอนกุ รรมการพจิ ารณาสนับสนนุ การเพ่ิมพูนทักษะแพทย์ฯ พจิ ารณาอนมุ ัติ

การขออนมุ ตั กิ ลับเขา้ ปฏบิ ัติงานเพิ่มพูนทักษะ
แพทย์ทีเ่ ข้าปฏิบัตงิ านเพมิ่ พนู ทักษะไม่ครบทกุ สาขาวิชาตามท่ีแพทยสภากำหนด ตามรายละเอยี ดในโครงการ

แพทย์เพิ่มพูนทักษะ ในข้อ 2.3 แล้วขอลาออกจากโครงการแพทย์เพิ่มพูนทักษะ หากมีความประสงค์จะเข้า
ปฏบิ ัติงานเพมิ่ พนู ทักษะใหม่ หรือปฏิบัติงานฯ เพิ่มเตมิ ตอ้ งทำหนังสือขออนุมัตพิ ร้อมทั้งแสดงเหตุผลการลาออก และ
แบบประเมินผลในสาขาที่ปฏิบัติงานมาแล้ว เสนอต่อคณะอนุกรรมการพิจารณาสนับสนุนการเพ่ิมพูนทักษะแพทย์ฯ
เพ่ือพจิ ารณาอนุมตั ใิ ห้กลับเข้าปฏิบัตงิ านต่อไป ดงั น้ี

1. กรณที ี่แพทย์ปฏิบตั งิ านเพิม่ พูนทักษะมาแล้วมากกว่า 6 เดอื น แลว้ ขอลาออกด้วยเหตผุ ลใดกต็ าม
หากมีความประสงค์จะกลับเข้าปฏิบัติงานฯ เพิ่มเติม สามารถขออนมุ ัติกลับเข้าปฏิบัติงานฯ เพิ่มเตมิ ต่อในสาขาวิชา
ทย่ี งั ไม่ไดป้ ฏบิ ัตงิ านฯ ใหค้ รบไดใ้ นปีเดยี วกันกับปีทเี่ ร่ิมเขา้ ปฏิบตั ิงานฯ กอ่ นการลาออก โดยสามารถสมัครเข้ารับการ
ปฏิบัตงิ านฯ ในโรงพยาบาลใดก็ไดท้ ่ีแพทยสภารบั รอง และไม่เกินศักยภาพ

2. กรณแี พทยท์ ไ่ี ดร้ ับการจัดสรรไปปฏิบัตงิ านเพิม่ พนู ทกั ษะในโรงพยาบาลตา่ งๆ แตย่ งั ไมไ่ ด้เร่ิม
ปฏิบัติงานฯ แล้วลาออกโดยการชดใช้เงิน หรือไม่ไปรายงานตัวเข้าปฏิบัติงานฯ หรือปฏิบัติงานฯมาแล้วน้อยกว่า 6
เดือน หากมีความประสงค์จะกลับเข้าปฏิบัติงานฯ ไม่สามารถขออนุมัติกลับเข้าปฏิบัติงานฯ ได้ในปีเดียวกันกับปีท่ี
ได้รับจัดสรรเข้าปฏิบัติงานฯ ในครั้งแรกก่อนการลาออกได้ แต่สามารถขออนุมัติกลับเข้าปฏิบัติงานฯ ได้ในปีถัดไปใน
โรงพยาบาลใดกไ็ ดท้ ี่แพทยสภารบั รอง โดยให้ปฏิบตั งิ านฯ เพม่ิ เติมในสาขาวิชาท่ียงั ไม่ไดป้ ฏิบัติงานฯ ต่อให้ครบ สว่ นผู้
ทไี่ ม่เคยปฏบิ ตั งิ านฯ มากอ่ นเลยกใ็ ห้เร่มิ ปฏิบัติงานฯ ตัง้ แตต่ น้ ท้ังน้ีโรงพยาบาลนน้ั ๆ ต้องรบั แพทยไ์ ว้ไมเ่ กนิ ศักยภาพ

3. กรณีท่ีแพทย์หมดพนั ธะการชดใช้ทุนกอ่ นการจดั สรรไปปฏบิ ตั ิงานยังหน่วยงานตา่ งๆ หากมีความ
ประสงค์จะเข้าปฏิบัติงานเพ่ิมพูนทักษะ สามารถเข้าปฏิบัติงานฯ ได้ในปีเดียวกันกับปีที่หมดพันธะการชดใช้ทุนใน
โรงพยาบาลใดก็ไดท้ แ่ี พทยสภารบั รอง ท้ังน้ีโรงพยาบาลนั้นๆ ต้องรับแพทยไ์ ว้ไมเ่ กินศักยภาพ

เมอื่ ประธานคณะอนกุ รรมการพิจารณาสนับสนุนการเพิ่มพนู ทักษะแพทย์ตามโครงการแพทย์เพ่ิมพูนทักษะ
อนมุ ัตใิ ห้กลบั เข้าปฏบิ ัตงิ านฯ แล้ว จะมีหนงั สอื แจ้งแพทยใ์ หท้ ราบ จากนัน้ ใหแ้ พทยผ์ ขู้ ออนุมตั ิดำเนินการติดตอ่ ขอเข้า
โครงการแพทย์เพ่ิมพูนทักษะ โดยประสานกับหน่วยงานต้นสังกัดของโรงพยาบาลท่ีได้รับการรับรองเป็นสถาบัน
ปฏิบัติงานเพ่ิมพูนทักษะ เพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การรับแพทย์เข้าปฏิบัติงานเพ่ิมพูนทักษะของหน่วยงานต้น
สังกดั แหง่ นั้นๆ และแจง้ แพทยสภาเพอื่ ทราบต่อไป

ตารางการเข้าปฏบิ ตั ิงานเพม่ิ พนู ทกั ษะของแพทย์

ปีทไี่ ด้รับอนญุ าต สถานภาพของแพทย์
ให้ปฏิบตั ิงานเพิม่ พนู ทักษะ

ปีเดียวกันกับท่ีจบการศึกษา 1. แพทย์ผู้ชดใชท้ ุนตามพันธะสญั ญาของรัฐ

หรือ ปีที่หมดพันธะสัญญา หรือ 2. แพทย์ จบจากสถาบนั การศึกษาเอกชน หรือ ต่างประเทศ

ปเี ดียวกนั กบั ที่ลาออก 3. แพทย์ท่ีหมดพันธะสัญญาชดใช้ทุนด้วยการชดใช้เงิน ก่อนได้รับการ

จัดสรรไปปฏิบตั ิงานเพม่ิ พูนทักษะ

4. แพทย์เพ่ิมพูนทักษะที่ปฏิบัติงานเพ่ิมพูนทกั ษะมาแล้วมากกว่า 6 เดือน

แลว้ ลาออกจากโครงการฯ ขอสมคั รกลับเข้าใหม่

ปีถัดไปจากหมดพันธะสัญญา 1. แพทย์ท่ีหมดพันธะสัญญาชดใช้ทุนด้วยการชดใช้เงิน และได้รับการ

หรอื ปีถดั ไปจากปที ่ลี าออก จัดสรรไปปฏิบัติงานเพ่ิมพูนทักษะแล้ว แต่ยงั ไม่ไดไ้ ปปฏบิ ัติงานแล้ว

ลาออกโดยการชดใชเ้ งิน หรอื ไมไ่ ปรายงานตัวเขา้ ปฏิบัตงิ าน

2. แพทย์เพิ่มพูนทักษะท่ปี ฏิบัติงานเพิ่มพูนทักษะมาแลว้ นอ้ ยกว่า 6 เดอื น

แล้วลาออกจากโครงการฯ ขอสมัครกลบั เข้าใหม่

เอกสารแนบหมายเลข 13

หนังสอื ขออนุมัตกิ ลบั เข้าปฏิบตั ิงานเพิ่มพนู ทกั ษะ

สถานท่ีตดิ ต่อ……………………………………………………………………

เบอรโ์ ทรศัพท์ของแพทย์ที่ขออนมุ ัติ………………………………………………

วนั ท่ี เดือน พ.ศ.

เรอ่ื ง การขออนุมตั ิกลับเข้าปฏบิ ัติงานเพิม่ พูนทักษะ

เรยี น ประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาสนับสนุนการเพิ่มพนู ทกั ษะแพทย์ฯ

ข้าพเจา้ (ชื่อ - สกลุ ของแพทยท์ ขี่ ออนมุ ตั ิ หากมีการเปล่ียนชอื่ - สกลุ ให้ใสข่ อ้ มูลดว้ ย)

จบแพทยศาสตรบณั ฑิตจาก วันท่ี เดือน พ.ศ.

ได้รับใบอนญุ าต ประกอบวิชาชพี เวชกรรมตามข้อบงั คบั ของแพทยสภา เลขที่

วนั ท่ี เดือน พ.ศ.

เขา้ ปฏบิ ัติงานเพ่ิมพูนทกั ษะท่โี รงพยาบาล จังหวัด

วนั ที่ เดอื น พ.ศ. ไดป้ ฏบิ ตั งิ านเพม่ิ พูนทกั ษะมาแลว้ ดังนี้

1. สาขา วันท่ี เดือน พ.ศ. ถงึ วนั ท่ี เดอื น พ.ศ.
พ.ศ.
2. สาขา วันท่ี เดือน พ.ศ. ถงึ วันท่ี เดือน พ.ศ.
พ.ศ.
3. สาขา วันท่ี เดอื น พ.ศ. ถงึ วันที่ เดือน

4. สาขา วันท่ี เดือน พ.ศ. ถงึ วนั ท่ี เดือน

ใหแ้ นบสำเนาการประเมินผลการปฏบิ ตั งิ านเพม่ิ พูนทกั ษะในสาขาดังกล่าวมาพร้อมกันดว้ ย
เนอ่ื งจาก (ระบเุ หตุผลท่ีได้ลาออกจากการปฏบิ ัติงานเพิ่มพูนทักษะ)

จึงได้ลาออกจากการปฏิบัตงิ านเพิ่มพูนทักษะ ตงั้ แต่วนั ท่ี เดือน พ.ศ.

ขณะนี้มคี วามประสงคข์ ออนมุ ตั ิกลบั เขา้ ปฏิบตั งิ านเพม่ิ พนู ทักษะ ใหม่ / เพมิ่ เตมิ

จึงเรียนมาเพ่ือโปรดพิจารณาอนมุ ตั ิ จะเป็นพระคณุ ยิ่ง

ขอแสดงความนับถือ

(ชอ่ื - สกุล แพทย์ทข่ี ออนุมัติ)

เอกสารแนบหมายเลข 14

ขอ้ บงั คบั แพทยสภา
ว่าดว้ ยประกาศนยี บตั รการฝึกอบรมหัตถการและการรกั ษาสำหรบั แพทย์

ทีป่ ฏบิ ัตงิ านในโรงพยาบาลชมุ ชน พ.ศ. 2563

เพื่อส่งเสริมการฝึกอบรมให้แพทย์ท่ีปฏิบัติงานในโรงพยาบาลชุมชน มีความรู้ความสามารถในการรักษาที่ได้
มาตรฐานวิชาชีพเวชกรรมอย่างมีคณุ ภาพ สามารถคมุ้ ครองความปลอดภัยของประชาชนได้

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 (2) และมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (3) (ค) (ฉ) ประกอบกับมาตรา 25 วรรค
หน่ึง (1) แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 คณะกรรมการแพทยสภาโดยความเห็นชอบของสภานายก
พเิ ศษ จึงออกขอ้ บังคบั แพทยสภา ดงั ตอ่ ไปนี้

ข้อ 1 ขอ้ บังคับนี้เรียกวา่ “ข้อบงั คับแพทยสภาว่าด้วยประกาศนียบัตรการฝึกอบรมหัตถการและการรักษา
สำหรับแพทยท์ ่ีปฏบิ ัตงิ านในโรงพยาบาลชมุ ชน พ.ศ. 2563”

ข้อ 2 ขอ้ บงั คับนใี้ ห้ใชบ้ งั คบั ตั้งแตว่ นั ถดั จากวันประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเป็นตน้ ไป
ขอ้ 3 ในข้อบงั คับนี้
“แพทย์” หมายความวา่ ผ้ปู ระกอบวิชาชพี เวชกรรมตามกฎหมายวา่ ด้วยวชิ าชพี เวชกรรม
“แพทย์ผู้เข้ารับการฝึกอบรม” หมายถึง แพทย์ใช้ทุนปีที่ 1 หรือปีท่ี 2 แพทย์ท่ีปฏิบัติงานในโรงพยาบาล
ชุมชน แพทย์ท่ีปฏิบัติงานในโรงพยาบาลศูนย์หรือโรงพยาบาลทั่วไป หรือแพทย์ที่สนใจจะปฏิบัติงานในโรงพยาบาล
ชมุ ชน ไม่ว่าจะเป็นแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไปหรอื แพทย์ที่ได้รับวุฒิบัตรหรือหนังสืออนุมัติสาขาต่างๆ ของแพทยสภาและ
ให้หมายความรวมถงึ แพทย์ตามประกาศแพทยสภา
“หลักสูตร” หมายความว่า หลักสูตรหัตถการและการรักษาประเภทต่างๆ สำหรับฝึกอบรมแพทย์ท่ี
ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลชุมชน ตามทแี่ พทยสภากำหนดหรือรับรอง
“สถานที่ฝึกอบรม” หมายความว่า สถานพยาบาลในพื้นท่ีใกล้เคียงกับโรงพยาบาลชุมชน และเป็นสถานที่
ฝึกอบรมตามหลักสูตรประเภทต่างๆ สำหรับแพทย์ผู้เข้ารับการฝึกอบรมท่ีปฏิบัติงานในโรงพยาบาลชุมชนดังกล่าว
ได้แก่ โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน และให้หมายความรวมถึงหน่วยงานฝึกอบรมอื่นใด
ตามทแ่ี พทยสภากำหนดหรอื รบั รอง
“หัตถการ” หมายความว่า หัตถการที่เก่ียวกับการตรวจวินิจฉัยด้วยเครื่องมือต่างๆ หัตถการเก่ียวกับวิสัญญี
การผ่าตัด การใช้อปุ กรณท์ างการแพทยใ์ นสาขาทางการแพทยต์ า่ งๆ และหัตถการอืน่ ใดตามประกาศแพทยสภา
“การรักษา” หมายความว่า การรักษาทางอายุรกรรม กุมารเวชกรรม เวชศาสตร์ครอบครัว เวชศาสตรช์ ุมชน
เวชศาสตร์ฉกุ เฉิน การรักษาเฉพาะโรค การรกั ษาผู้ปว่ ยในหอผู้ป่วยวกิ ฤต และการรักษาอนื่ ใดตามประกาศแพทยสภา

“ประกาศนียบัตร” หมายความว่า เอกสารที่แพทยสภาแสดงคุณวุฒิประเภทต่างๆ ในการประกอบวิชาชีพ
เวชกรรมเกยี่ วกบั หัตถการและการรกั ษาของแพทย์ทีป่ ฏบิ ตั งิ านในโรงพยาบาลชมุ ชน

“คณะอนุกรรมการ” หมายความว่า คณะอนุกรรมการฝึกอบรมหลกั สูตรหัตถการและการรักษา
สำหรบั แพทย์ที่ปฏบิ ตั งิ านในโรงพยาบาลชุมชน

หมวด 1
หลกั สูตรหตั ถการและการรักษา
ข้อ 4 วตั ถุประสงค์
(1) เพื่อผลิตแพทย์ให้มีความรู้ ความสามารถ ความพร้อม และเจตคตทิ ่ีดใี นการทำหตั ถการ
และการรักษาประเภทต่างๆ ตามความต้องการทางการแพทยข์ องประชาชนในพนื้ ท่ี โดยใช้โรงพยาบาลชมุ ชนเป็นฐาน
เพอื่ ใหเ้ ปน็ ท่ีพ่ึงของประชาชน และรวมทงั้ เพอ่ื การพฒั นาโรงพยาบาลชุมชนสืบต่อไป
(2) เพื่อพฒั นาความรู้ ความสามารถของแพทย์ในโรงพยาบาลชมุ ชน
(3) เพื่อเตรยี มความพรอ้ มในการพัฒนาหลกั สูตรต่อยอดให้แพทยโ์ รงพยาบาลชมุ ชนทผ่ี ่าน
หลกั สตู รหัตถการและการรักษาใหเ้ ป็นหลกั สูตรวุฒบิ ตั รหรือหนังสืออนมุ ตั ิ ประเภทตา่ งๆ ของแพทยสภา
(4) เพื่อสนับสนุนให้แพทย์ท่ีปฏิบัติงานในโรงพยาบาลชุมชนพร้อมที่จะปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องจาก
การเปน็ แพทย์ใช้ทนุ เพ่ือปฏบิ ัตงิ านในฐานะขา้ ราชการ พนกั งานของรัฐ หรอื ตำแหน่งอ่นื ใดในโรงพยาบาลชุมชนน้นั ๆ
(5) เพ่ือป้องกันการลาออกของแพทย์ใช้ทุนในโรงพยาบาลชุมชน ที่ต้องการมาศึกษาต่อเน่ือง ใน
สถาบันฝึกอบรมเฉพาะทางเพ่อื รับวฒุ ิบตั ร หรอื หนงั สอื อนมุ ัตใิ นสาขาตา่ งๆ ของแพทยสภา
(6) เพือ่ สนับสนนุ ใหแ้ พทย์โรงพยาบาลชมุ ชนสามารถประกอบวิชาชีพสว่ นตวั ในการดูแล
ตนเองและครอบครัวได้
ขอ้ 5 วิธกี ารการฝึกอบรมหลกั สตู รประเภทต่างๆ ใหเ้ ปน็ ไปตามทส่ี ถานฝกึ อบรมกำหนด และแพทย์ผเู้ ขา้ รับ
การฝึกอบรมสามารถปฏิบัติได้ และไม่เป็นอุปสรรคต่อภาระงานประจำ หรือใช้วิธีการสะสมประสบการณ์เก่ียวกับ
หตั ถการและการรักษาตามประกาศแพทยสภา
ข้อ 6 สถานท่ีฝึกอบรม ประเภท และระยะเวลา ในการฝึกอบรมหลักสูตรหัตถการและการรักษาท่ี
โรงพยาบาลชุมชน ใหเ้ ป็นไปตามประกาศแพทยสภา
ข้อ 7 ให้แพทยสภาประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประเมินและติดตามผลการ
ปฏบิ ัติงานของแพทย์ผไู้ ด้รับประกาศนยี บตั รหลกั สูตรตา่ งๆ ตามความเหมาะสม

ข้อ 8 หมวด 2
ดงั ตอ่ ไปนี้ คณะอนุกรรมการ
ให้มีคณะอนุกรรมการประกอบด้วย ที่ปรึกษา จำนวน 8 คน และอนุกรรมการ จำนวน 17 คน

(1) ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่ปรึกษา

(2) ประธานราชวิทยาลยั ศลั ยแพทยแ์ ห่งประเทศไทย หรือผู้แทน ทป่ี รึกษา

(3) ประธานราชวทิ ยาลยั สตู ินรแี พทยแ์ ห่งประเทศไทย หรือผู้แทน ทปี่ รกึ ษา

(4) ประธานราชวิทยาลยั อายรุ แพทย์แหง่ ประเทศไทย หรอื ผแู้ ทน ทป่ี รึกษา

(5) ประธานราชวทิ ยาลยั กุมารแพทยแ์ ห่งประเทศไทย หรอื ผูแ้ ทน ที่ปรกึ ษา

(6) ประธานราชวทิ ยาลยั วสิ ญั ญีแพทย์แหง่ ประเทศไทย หรือผู้แทน ที่ปรกึ ษา

(7) ประธานราชวิทยาลัยรงั สแี พทยแ์ หง่ ประเทศไทย หรือผูแ้ ทน ทป่ี รกึ ษา

(8) ประธานราชวิทยาลยั แพทยเ์ วชศาสตรค์ รอบครวั แหง่ ประเทศไทย หรอื ผแู้ ทน ที่ปรึกษา

(9) ประธานวทิ ยาลัยแพทยฉ์ ุกเฉนิ แห่งประเทศไทย หรอื ผู้แทน ท่ีปรกึ ษา

(10) นายกแพทยสภา หรือผู้แทน ประธานอนุกรรมการ

(11) คณบดคี ณะแพทยศาสตรใ์ นส่วนกลาง รองประธานอนุกรรมการคนท่ี 1

(12) คณบดีคณะแพทยศาสตรใ์ นส่วนภมู ิภาค รองประธานอนุกรรมการคนที่ 2

(13) กรรมการแพทยสภาซง่ึ ได้รับการเลือกตงั้ อนุกรรมการ

โดยสมาชกิ แพทยสภา 2 คน

(14) หวั หนา้ ผตู้ รวจราชการกระทรวงสาธารณสุข หรือผ้แู ทน อนุกรรมการ

(15) ประธานชมรมโรงพยาบาลศนู ย์/ โรงพยาบาลทว่ั ไป หรอื ผู้แทน อนกุ รรมการ

(16) ประธานชมรมผอู้ ำนวยการโรงพยาบาลชุมชน หรือผูแ้ ทน อนกุ รรมการ

(17) ผอู้ ำนวยการสำนกั งานระบบสุขภาพปฐมภูมิ หรือผู้แทน อนุกรรมการ

(18) ผ้อู ำนวยการสำนักงานบรหิ ารโครงการร่วมผลิตแพทยเ์ พิม่ อนกุ รรมการ

เพื่อชาวชนบท (สบพช.) หรอื ผู้แทน

(19) ผทู้ รงคุณวุฒิจากสมาชกิ แพทยสภา ท่ีไดร้ ับการแต่งต้ัง อนุกรรมการ

โดยคณะกรรมการแพทยสภา 5 คน

(20) เลขาธิการแพทยสภา อนุกรรมการและเลขานกุ าร

(21) ผู้ชว่ ยเลขาธกิ ารแพทยสภา 1 คน อนุกรรมการและผชู้ ่วยเลขานกุ าร

(22) หัวหนา้ ฝา่ ยฝกึ อบรมและสอบ แพทยสภา ผชู้ ว่ ยเลขานกุ าร

(23) เจา้ หนา้ ทีฝ่ า่ ยฝกึ อบรมและสอบ แพทยสภา ผูช้ ่วยเลขานุการ

ใหค้ ณบดีคณะแพทยศาสตรใ์ นสว่ นกลาง ตาม (10) และสว่ นภูมิภาค ตาม (11) เลอื ก กันเองแล้ว

เสนอชื่อคนทไี่ ด้รบั เลือกเป็นรองประธานอนกุ รรมการคนท่ี 1 และคนที่ 2 ตามลำดับ

ข้อ 9 คณะอนกุ รรมการมอี ำนาจหนา้ ที่ดังต่อไปนี้

(1) กำหนดหรอื รบั รองหลักสูตรประเภทต่างๆ

(2) แตง่ ตง้ั คณะทำงานท่เี ก่ยี วกบั หลกั สูตร ตาม (1)

(3) กำหนดคณุ สมบตั ิแพทยผ์ ู้เข้ารับการฝกึ อบรมในแตล่ ะหลกั สตู ร

(4) กำหนดคณุ สมบตั ิของสถานท่ฝี ึกอบรมในแตล่ ะหลกั สูตร
(5) เสนออตั ราค่าธรรมเนยี มในการฝกึ อบรมในแต่ละหลักสูตร
(6) เสนองบประมาณรายรบั -รายจ่ายในการฝกึ อบรมหลักสตู รตา่ งๆ
(7) ประเมนิ และติดตามผลการปฏิบัติงานของแพทย์ผไู้ ดร้ ับประกาศนยี บัตรหลกั สตู รต่างๆ
(8) รายงานผลดำเนินการตามหลักสูตรต่างๆ ประจำปีตอ่ แพทยสภา
(9) หนา้ ที่อ่นื ๆ ตามทีแ่ พทยสภามอบหมาย

หมวด 3
การจัดเกบ็ คา่ ธรรมเนียมการฝกึ อบรม
ขอ้ 10 ในการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการฝกึ อบรมหลักสูตรต่างๆ ให้เปน็ ไปตามประกาศแพทยสภา

หมวด 4
แพทยผ์ เู้ ขา้ รับการฝกึ อบรม
ข้อ 11 ให้แพทย์ผ้เู ข้ารับการฝกึ อบรมปฏิบัติงานตามระเบียบและเวลาท่ีสถานท่ีฝึกอบรมกำหนด ท้งั นี้ต้องไม่
เปน็ ภาระกับการปฏิบัติงานปกตขิ องแพทย์ผู้เขา้ รบั การฝึกอบรม
ข้อ 12 ให้สถานท่ีฝึกอบรมกำหนดแพทย์ผู้สอนและให้มีแพทย์พี่เลี้ยงเพื่อดูแล ให้คำปรึกษาและเป็นผู้
ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ของสถานท่ีฝึกอบรม โดยให้แพทย์ผู้เข้ารับการฝึกอบรม แพทย์ผู้สอนและแพทย์พ่ี
เลีย้ ง ไดร้ บั คา่ ตอบแทนตามประกาศแพทยสภา

หมวด 5
แพทยผ์ ู้มปี ระสบการณ์เกยี่ วกบั หตั ถการและการรกั ษา
ข้อ 13 ให้คณะกรรมการแพทยสภาแต่งตั้งคณะอนุกรรมการประเมินแพทย์ผู้มีประสบการณ์เกี่ยวกับ
หัตถการและการรักษาประเภทต่างๆ ของแพทยสภา เพอื่ ใหแ้ พทยสภาออกประกาศนียบตั รทเ่ี กย่ี วข้อง

ประกาศ ณ วนั ท่ี 9 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ศาสตราจารยเ์ กยี รติคณุ แพทย์หญิงสมศรี เผา่ สวัสด์ิ
นายกแพทยสภา


Click to View FlipBook Version