The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by chatreewr chatreewr, 2019-11-14 08:34:14

2562-2

2562-2

2-5-19

สมรรถนะสาคญั คุณลักษณะ แนวทางการจดั แนวการวัด
ของผู้เรียน อันพงึ ประสงค์ การเรยี นรู้ และประเมนิ ผล

1. ความสามารถใน ดา้ นจติ วทิ ยาศาสตร์ 1. นาเข้าสู่บทเรียน โดย ด้านความรู้
การส่อื สาร 1. ความซอื่ สัตย์ ยกตวั อย่างและอภิปราย การชนของวัตถใุ นแนวตรง
2.ความสามารถใน เก่ยี วกับการชนท่เี กิดข้ึน
การคดิ 2. ความมุง่ ม่นั อดทน ในชีวติ ประจาวัน ในแนวตรงทั้งแบบยืดหยุน่
3. ความสามารถใน 3. ความรอบคอบ 2. อภปิ รายรว่ มกนั เพอ่ื ไม่ยืดหยุ่น และการดีดตัว
การแก้ปัญหา 4. ความอยากรอู้ ยากเหน็ ทบทวนความรู้เกี่ยวกับ แยกจากกนั ของวัตถุ
เม่ือไม่มีแรงภายนอกกระทา
โมเมนตมั และพลงั งานจลน์ และกฎการอนรุ ักษ์
จากนน้ั ใหน้ ักเรียนทดลอง โมเมนตัม จากการอภปิ ราย
เพือ่ ศกึ ษาการชนของวัตถุใน
หนึ่งมิติทง้ั แบบยืดหยุน่ ไม่ ร่วมกัน การสรปุ การทา
ยดื หยุ่น และการดีดตัวแยก แบบฝกึ หดั และแบบทดสอบ
จากกนั ของวตั ถุ จากน้ัน ด้านทกั ษะ

อภปิ รายรว่ มกนั จนสรปุ ได้ 1. การวดั การทดลอง การ
วา่ เมือ่ ไม่มีแรงภายนอก ตีความหมายขอ้ มลู และ
กระทาตอ่ วตั ถุ การชนทุก ลงข้อสรปุ ความร่วมมอื การ
แบบและการดดี ตัวแยกจาก ทางานเป็นทีมและ
กันของวัตถเุ ปน็ ไปตามกฎ
การอนุรกั ษโ์ มเมนตมั ภาวะผู้นาจากการอภิปราย
ร่วมกนั การทาการทดลอง
สาหรบั การชนแบบยดื หยุ่น และรายงานผลการทดลอง
ผลรวมพลงั งานจลน์ของ 2. การสอื่ สารสารสนเทศ
ระบบมีคา่ คงตัว และการรเู้ ทา่ ทนั ส่ือ จาก
แต่การชนแบบไม่ยืดหยุ่น การนาเสนอผล
ผลรวมพลงั งานจลนข์ อง
ระบบมีค่าไมค่ งตวั 3. การใช้จานวน ในการหา
ปรมิ าณต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวข้อง
3. ยกสถานการณเ์ ก่ียวกับ กับการชนของวัตถุและการ
กฎการอนุรกั ษ์โมเมนตมั ใน ดีดตวั แยกจากกนั ของวัตถุ
หน่ึงมิติทพ่ี บใน เมอื่ ไม่มแี รงภายนอกกระทา
ชวี ิตประจาวัน จากน้นั ให้ จากการทาแบบฝกึ หดั
นักเรียนอภิปรายร่วมกัน
และนาเสนอผล และแบบทดสอบ
ด้านจติ วิทยาศาสตร์
4. ยกตัวอย่างการคานวณ
ปริมาณตา่ ง ๆ ที่เก่ยี วข้อง 1. ความซื่อสัตย์ ความ
กับการชนของวัตถุและ รอบคอบ จากรายงานผล
การดีดตวั แยกจากกันของ การทดลอง
2. ความมุ่งมั่นอดทนและ
ความอยากรอู้ ยากเห็น



2-5-20

วตั ถใุ นหนึ่งมิตเิ ม่ือไม่มีแรง จากการทาการทดลองและ
การอภิปรายร่วมกัน
ภายนอกกระทา โดยให้
นักเรยี นร่วมกันเสนอแนวคดิ
และหลกั การในการ
แก้ปัญหา
5. ใหน้ ักเรียนสรปุ เพอ่ื
ตรวจสอบความรูค้ วามเขา้ ใจ

ผลการเรยี นรู้ นกั เรียนทาอะไรได้ นักเรียน ประเภท
รู้อะไร ตัวช้ีวัด
9. อธบิ าย วเิ คราะห์ และ
คานวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ท่ี ดา้ นทกั ษะ ดา้ นความรู้ ความรู้ (K)
เกยี่ วข้องกับการเคล่อื นท่ี ทกั ษะกระบวนการทาง 1. การเคลื่อนทแ่ี บบโพรเจก กระบวนการ
แบบโพรเจกไทล์ วทิ ยาศาสตร์ (P)
และทดลองการเคลื่อนที่ 1. การวดั (ระยะในแนวด่ิงทีว่ ตั ถุ ไทล์เป็นการเคลือ่ นที่ เจตคติ (A)
แบบโพรเจกไทล์ เคลอื่ นที่ได้) ของวัตถใุ นสองมิติ โดยแนวการ
2. การทดลอง เคล่อื นทเ่ี ป็นวิถโี คง้ พาราโบลา
3. การจัดกระทาและสือ่ และการเคลอื่ นที่ในแนวราบ
ความหมายข้อมลู (เขยี นกราฟจาก มีความเรว็ คงตวั ส่วนการ
ขอ้ มูลการเคล่อื นท่ขี องวัตถุ) เคลอ่ื นทใ่ี นแนวดงิ่ เปน็ การ
4. การตีความหมายขอ้ มูลและลง
ขอ้ สรุป(การสรปุ ผลการทดลอง) เคล่ือนท่ีด้วยความเร่งคงตัว
5. การใชจ้ านวน (ปริมาณที่ 2. ในกรณกี ารเคลอ่ื นที่แบบ
เกีย่ วข้องกบั การ โพรเจกไทลใ์ นสนามโนม้ ถว่ ง
เคล่อื นทแ่ี บบโพรเจกไทล์) ของโลก การเคลือ่ นท่ีในแนว
ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ดง่ิ เป็นการเคลือ่ นท่แี บบเสรี
1. การสอ่ื สารสารสนเทศและการ
รูเ้ ท่าทนั ส่อื (การอภปิ รายร่วมกนั
และการนาเสนอผล)
2. ความร่วมมือ การทางานเปน็

ทมี และภาวะผู้นา

2-5-21

สมรรถนะสาคญั คุณลกั ษณะ แนวทางการจัด แนวการวัด
ของผู้เรียน อนั พงึ ประสงค์ การเรยี นรู้ และประเมินผล

1. ความสามารถใน ดา้ นจติ วทิ ยาศาสตร์ 1. นาเข้าสู่บทเรียน โดย ด้านความรู้
การส่อื สาร 1. ความซ่อื สตั ย์ สาธิตการโยนวตั ถุให้ การเคลื่อนท่แี บบโพรเจก
2.ความสามารถใน เคลื่อนท่แี บบโพรเจกไทล์
การคดิ 2. ความมงุ่ มน่ั อดทน ให้นักเรียนอภิปรายรว่ มกนั ไทล์ ในกรณที ว่ี ัตถุมี
3. ความสามารถใน 3. ความรอบคอบ เกย่ี วกับแนวการเคล่ือนท่ี ความเรว็ ต้นในแนวราบและ
การแก้ปัญหา 4. ความอยากรู้อยากเหน็ และสาเหตุทที่ าให้ ทามุมกับแนวราบ
โดยสังเกตจากการอภิปราย
การเคลอื่ นท่ีเป็นแนวโคง้ ร่วมกัน และการ
และนาเสนอผล วเิ คราะห์
2. ให้นกั เรยี นทดลอง เพือ่ ด้านทกั ษะ
ศกึ ษาความสัมพนั ธ์การ
เคล่ือนทใ่ี นแนวดิง่ และ 1. การวดั การทดลอง การ
แนวระดบั ของวัตถทุ ี่กาลงั จดั กระทาและสอ่ื ความหมาย
ข้อมูล การตคี วามหมาย
เคล่อื นที่แบบโพรเจกไทล์ ขอ้ มูลและลงขอ้ สรปุ ความ
อภิปรายรว่ มกันจนสรุปไดว้ า่ รว่ มมอื การทางานเป็นทมี
การเคลอื่ นที่แบบโพรเจก และภาวะผ้นู า จากการ
ไทล์เป็นวถิ ีโคง้ พาราโบลา
3. ให้ความรวู้ า่ การเคลื่อนที่ อภปิ รายรว่ มกนั และรายงาน
แบบโพรเจกไทล์ ผลการทดลอง
2. การส่อื สารสารสนเทศ
ประกอบดว้ ยการเคลือ่ นที่ และการร้เู ท่าทันสื่อ จากการ
ในแนวราบทม่ี คี วามเร็วคงตัว อภิปรายร่วมกนั และนาเสนอ
ส่วนในแนวด่งิ มีความเร่งคง ผล
ตัวซึ่งเป็นความเร่งโนม้ ถว่ ง
ของโลก 3. การใช้จานวน ในการหา
4. อภิปรายรว่ มกนั เกยี่ วกบั ปริมาณตา่ ง ๆ ที่เก่ยี วข้อง
กบั การเคลอื่ นทีแ่ บบโพรเจก
การกระจัดและความเรว็ ของ ไทล์ จากแบบฝกึ หัดและ
วัตถุทเี่ คล่ือนท่แี บบ แบบทดสอบ
โพรเจกไทล์ ซึง่ มี ด้านจติ วิทยาศาสตร์
ความสมั พันธ์ตามสมการ
แนวระดับแนวดิ่ง 1. ความซื่อสตั ย์และความ
5. ยกตัวอย่างการคานวณ รอบคอบ จากรายงานผล

ปรมิ าณตา่ ง ๆ ท่เี กยี่ วข้อง การทดลอง
กับการเคลอื่ นท่ีแบบ 2. ความมุง่ มั่นอดทนและ
โพรเจกไทล์ทง้ั ในกรณีทว่ี ัตถุ ความอยากร้อู ยากเห็น
มีความเร็วตน้ ในแนวราบ จากการทดลอง และการ
อภิปรายรว่ มกัน



2-5-22

และทามมุ กับ

แนวราบ โดยให้นกั เรียน
ร่วมกันเสนอแนวคิดและ
หลักการในการแกป้ ญั หา
6. ให้นกั เรียนสรปุ เพือ่
ตรวจสอบความรคู้ วามเข้าใจ

ผลการเรยี นรู้ นักเรียนทาอะไรได้ นักเรยี น ประเภท
รอู้ ะไร ตัวชว้ี ัด

10. ทดลอง และอธิบาย ดา้ นทักษะ ดา้ นความรู้ ความรู้ (K)
ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ ง ทกั ษะกระบวนการทาง 1. วัตถทุ ี่เคลอื่ นทีแ่ บบวงกลม กระบวนการ
แรงส่ศู นู ย์กลาง รศั มขี อง วิทยาศาสตร์ จะมแี รงกระทา ในทศิ ทางเข้าสู่ (P)
การเคลือ่ นที่ 1. การวัด (คาบการแกวง่ ของวตั ถุ) ศูนย์กลาง ซึ่งมคี วามสัมพนั ธ์ เจตคติ (A)
อตั ราเร็วเชิงเส้น อตั ราเรว็ 2. การทดลอง กบั มวล อตั ราเร็ว และรศั มกี าร
เชิงมมุ และมวล 3. การใชจ้ านวน (ปริมาณต่าง ๆ เคลื่อนทข่ี องวัตถุ
ของวัตถุ ในการเคลอื่ นท่ี ท่ีเกยี่ วข้องกับการเคล่อื นท่ีแบบ 2. การโคจรของดาวเทยี มอธบิ
แบบวงกลมในระนาบ วงกลม) ายได่โ ดยใชค้ วามรู้
ระดบั รวมท้งั คานวณ 4. การจดั กระทาและสอ่ื เกีย่ วกบั การเคลอ่ื นทีแ่ บบ
ปรมิ าณตา่ ง ๆ ทีเ่ กีย่ วขอ้ ง ความหมายข้อมูล(เขียนกราฟที่
และประยุกต์ใช้ความร้กู าร เก่ียวข้องกับแรงสศู่ ูนย์กลาง วงกลม
เคล่ือนทแ่ี บบวงกลมในการ รศั มีการเคลือ่ นทแี่ ละคาบ)
อธบิ ายการโคจรของ 5. การตคี วามหมายขอ้ มลู และลง
ดาวเทยี ม ข้อสรุป
(การสรุปผลการทดลอง)
ทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21
1. การสอ่ื สารสารสนเทศและการ
ร้เู ท่าทันสอ่ื
(การอภิปรายรว่ มกนั และการ
นาเสนอผล)
2. ความรว่ มมอื การทางานเปน็

ทมี และภาวะผนู้ า

2-5-23

สมรรถนะสาคญั คุณลกั ษณะ แนวทางการจดั แนวการวัด
ของผู้เรยี น อันพึงประสงค์ การเรยี นรู้ และประเมนิ ผล

1. ความสามารถใน ดา้ นจติ วิทยาศาสตร์ 1. นาเขา้ ส่บู ทเรยี น โดยการ ดา้ นความรู้
การส่ือสาร 1. ความซ่อื สตั ย์ สาธิตการเคลือ่ นทีเ่ ป็น การเคลื่อนท่ีแบบวงกลมใน
2.ความสามารถใน วงกลมของวัตถุ นาวัตถุ
การคิด 2. ความมุ่งม่ันอดทน ผกู กับเชือกแลว้ เหวย่ี งวัตถุ ระนาบระดบั ดว้ ย
3. ความสามารถใน 3. ความรอบคอบ ใหเ้ คลื่อนทีเ่ ป็นวงกลมใน อตั ราเรว็ คงตัว จากการ
การแก้ปัญหา 4. ความอยากรู้อยากเหน็ ระนาบระดบั ให้นกั เรียน อภปิ รายร่วมกันและการ
เขยี น
สังเกตแนวการเคล่อื นทขี่ อง ผังมโนทัศน์
วตั ถุและแรงดึงในเส้นเชือก ด้านทกั ษะ
เมอื่ เหวี่ยงวัตถดุ ว้ ยอัตราเรว็
ท่ีแตกตา่ งกัน จากน้นั 1. การวัด การทดลอง การ
อภปิ รายรว่ มกันเก่ยี วกบั
แรงท่ีกระทาต่อวัตถุและ จัดกระทาและสอ่ื ความหมาย
ขอ้ มลู การตีความหมาย
ทศิ ทางของความเร็วของวัตถุ ข้อมูลและลงขอ้ สรปุ
และนาเสนอผล ความร่วมมอื การทางานเป็น
2. ให้ความรเู้ กีย่ วกับแรงสู่ ทมี และภาวะผนู้ าจากการ
ศูนยก์ ลาง ความเร่งสู่ อภปิ รายรว่ มกนั และรายงาน
ศูนย์กลาง คาบ ความถแ่ี ละ
อัตราเรว็ ของวัตถทุ ่เี คลอ่ื นที่ ผลการทดลอง
2. การส่ือสารสารสนเทศ
แบบวงกลมในระนาบระดับ และการรเู้ ทา่ ทันสอื่ จากการ
ด้วยอัตราเรว็ คงตัว อภปิ รายร่วมกนั และการ
3. ใหน้ ักเรยี นทดลอง เพ่ือ นาเสนอผล
ศึกษาการเคล่อื นที่แบบ 3. การใชจ้ ำนวน ในการ
วงกลมของวตั ถุ จากนนั้
วิเคราะหผ์ ลการทดลองและ หาปรมิ าณต่า ง ๆ ท่ีเ
กีย่ วขอ้ งกบั
อภิปรายร่วมกนั จนสรปุ ได้ การเคลื่อนที่แบบวงกลม
ว่า แรงสู่ศูนย์กลาง จากแบบฝกึ หดั และ
รัศมีของการเคลอ่ื นที่ แบบทดสอบ
อัตราเร็วและมวลของวัตถุ ด้านจติ วทิ ยาศาสตร์
ในการเคลอื่ นที่
แบบวงกลม มีความสัมพนั ธ์ 1. ความซอ่ื สตั ยแ์ ละความ
รอบคอบ จากรายงานผล
ตามสมการ
4. ใหค้ วามรเู้ กีย่ วกับ การทดลอง
อตั ราเร็วเชิงมมุ ซึ่งมี 2. ความม่งุ ม่ันอดทนและ
ความสมั พนั ธก์ ับอตั ราเรว็ เชิง ความอยากรอู้ ยากเห็น
จากการทดลองและการ
อภปิ รายร่วมกัน



2-5-24

เส้น

ตามสมการ จากนน้ั อภปิ ราย
รว่ มกนั จนสรุปได้
ความสมั พนั ธ์
ตามสมการ
5. ยกตัวอย่างการเคล่ือนท่ี
แบบวงกลมของวัตถุ เชน่

การเคลอื่ นทข่ี องรถยนต์
รถจกั รยานยนตท์ ่กี าลังเลี้ยว
โค้งบนถนนราบและถนน
เอียง การโคจรของ
ดาวเทยี มเป็นวงกลมรอบ
โลก และการเคลอื่ นท่ีของ

ดาวเทียมท่มี วี งโคจร
คา้ งฟา้ ให้นักเรียนอภิปราย
ร่วมกันและนาเสนอผล
6. ยกตัวอยา่ งการคานวณ
ปริมาณต่าง ๆ ทเ่ี กี่ยวขอ้ ง
กบั การเคล่อื นทีแ่ บบ

วงกลมของวัตถุ โดยให้
นกั เรียนร่วมกนั เสนอแนวคิด
และหลกั การในการ
แกป้ ัญหา
7. ใหน้ กั เรยี นสรุป เพ่ือ
ตรวจสอบความรคู้ วามเขา้ ใจ

2.6 แบบบนั ทึกแนวทางกา

2-6-1

ารวัดผลประเมนิ ผลรายวิชา

แบบบันทึกการวเิ คราะห์กิจ

สาระการเ

วิชาฟสิ ิกส์ 2 รหสั วิชา

ผลการเรียนรู้ นกั เรยี นทาอะไรได้ นกั เรียนรอู้ ะไร

1. อธิบายสมดลุ กลของ ดา้ นทกั ษะ ดา้ นความรู้ 1. นาเขา้
วตั ถุ โมเมนตแ์ ละ ทักษะกระบวนการทาง 1. เม่อื แรงลพั ธ์ท่กี ระทาตอ่ วัตถเุ ป็น การเลื่อน
ผลรวมของโมเมนต์ที่มี วทิ ยาศาสตร์ ศูนย์วัตถุ ให้นักเรยี
ต่อการหมนุ แรงค่คู วบ 1. การสังเกต (แรงทก่ี ระทาต่อ จะอยู่ในสมดลุ ต่อการเลอ่ื นทแ่ี ละ เกยี ่ วกับ
และผลของแรงคคู่ วบที่ วตั ถเุ มื่อวตั ถอุ ยใู่ นสมดุลกล) เมือ่ ผลรวมโมเมนต์ทีก่ ระทาต่อวตั ถุ สมดลุ จล
มตี ่อสมดลุ ของวตั ถุ 2. การวดั (การอ่านคา่ แรงจาก เปน็ ศนู ยว์ ัตถจุ ะอยู่ในสมดุลต่อการ
เขียนแผนภาพของแรง เคร่ืองชัง่ สปริง) หมุน 2. ใหน้ ัก
ทกี่ ระทาตอ่ วัตถุอสิ ระ 3. การใช้จานวน (หาแรงและ อภปิ ราย
เมอ่ื วตั ถอุ ยูใ่ นสมดุลกล โมเมนต์ของแรงเม่อื วัตถุอยูใ่ น 2. การแสดงแรงที่กระทาต่อวตั ถุทา ทง้ั สามต
และคานวณปรมิ าณ สมดุลกล) ได้โดยการ 3. อภปิ ร
ตา่ ง ๆ ทีเ่ กยี่ วขอ้ ง 4. การทดลอง เขยี นแผนภาพของแรงท่กี ระทาต่อ ยกตวั อย
รวมท้ังทดลองและ 5. การจดั กระทาและส่อื วัตถุอิสระและใช้หาแรงทีก่ ระทาต่อ ประตทู ต่ี
อธิบายสมดลุ ของแรง ความหมายข้อมลู (การเขยี น วัตถทุ อ่ี ยู่ในสมดุลกล
สามแรง เวกเตอรแ์ ทนแรงและการรวม 3. เม่ือมแี รงคคู่ วบกระทาต่อวัตถุ ในสถานก
เวกเตอร์) 4. ใหน้ ัก
6. การตีความหมายและลง แรงลพั ธข์ องแรงคคู่ วบน้ันจะเปน็ จนสรุปได
ข้อสรปุ (เกี่ยวกับสมดุลกลของ ศนู ย์ ทาให้วัตถสุ มดลุ 5. ให้ควา
วตั ถุ การอภิปรายเกีย่ วกับแรง ตอ่ การเล่ือนที่ แตไ่ ม่สมดุลต่อการ สมดุลต่อ
ค่คู วบ) หมนุ 6. ยกสถ
ทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 4. เมือ่ มีแรงคู่ควบหลายคูก่ ระทาตอ่
1. การสือ่ สารสารสนเทศและ วตั ถุแลว้ ทีก่ ระทา
การรเู้ ท่าทนั สื่อ(การอภิปราย 7. ยกตัว
รว่ มกันและการนาเสนอผล) ทาใหว้ ตั ถุสมดลุ ตอ่ การหมุน ผลรวม ขณะเล้ยี
2. ความร่วมมือ การทางาน โมเมนต์ของแรงคูค่ วบเปน็ ศูนย์ เกีย่ วกบั แ
นาเสนอผ
เปน็ ทีมและภาวะผูน้ า 8. อภปิ ร

กระทาต

9. ต้งั คาถ
ร่วมกันจ
ตอ่ การห

โดยมีค่าไ
10. ยกส
เขียนแผน

ของวัตถุ
กระทาต

2-6-2

จกรรมการจดั การเรียนรู้ตามตัวช้ีวัด แนวการวัดและประเมนิ ผล
เรียนรู้วทิ ยาศาสตร์
า ว 30202 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 ด้านความรู้
1. สมดลุ กล สมดลุ สถติ สมดลุ จลน์ สมดลุ ตอ่
แนวการจดั การเรียนรู้ การเลอื ่ นที่สมดลุ ต่อการหมุน และโมเมนต์ของ
แรง จากการเขยี นผังมโนทศั น์ การอภปิ ราย
าสูบ่ ทเรียน โดยยกตวั อยา่ งเหตุการณท์ ี่เกย่ี วข้องกบั สมดุลต่อ รว่ มกัน การทา
นทีข่ องวัตถุ และเขียนแผนภาพของแรงท่ีกระทาต่อวัตถุอสิ ระ แบบฝกึ หดั และแบบทดสอบ
ยนอภิปรายรว่ มกัน จนสรปุ ไดว้ ่าแรงลัพธท์ กี่ ระทาต่อวตั ถุเป็นศนู ยจ์ ากนัน้ ใหค้ วามรู้ 2. สมดุลกล การเขยี นแผนภาพของแรงท่ีกระทา
บสมดุลตอ่ การเลื่อนที่ซ่งึ มีท้ังสมดุลสถิตย์สถติ และ
ลน์ ต่อวตั ถอุ สิ ระ เมอ่ื วัตถอุ ยู่ในสมดุลกล จากการทา
กเรยี นทดลอง เพือ่ ศกึ ษาสมดุลของแรงสามแรง จากนน้ั ใหน้ ักเรยี น แบบฝกึ หดั และแบบทดสอบ
ยรว่ มกนั จนสรปุ ได้ว่าวัตถุท่ีสมดลุ ตอ่ การเล่อื นที่ แนวแรง 3. แรงคคู่ วบ จากการสรปุ การทาแบบฝกึ หัด
ต้องพบกันท่ีจดุ หน่งึ และแรงลัพธท์ ี่กระทาตอ่ วัตถุมคี า่ เป็นศูนย์ และ
รายร่วมกนั เพ่ือทบทวนความรเู้ กี่ยวกับโมเมนต์ โดยให้นักเรียน แบบทดสอบ
ย่างสถานการณ์โมเมนต์ท่ีมผี ลต่อการหมุน เชน่ การใช้แรงผลัก 4. ผลของแรงคูค่ วบท่ีมีตอ่ สมดลุ ของวตั ถุ จาก
ตาแหนง่ ต่างๆ จากน้ันอภปิ รายรว่ มกันเกยี่ วกบั การหาโมเมนต์
การณ์ต่างๆ ซง่ึ เปน็ ไปตามสมการ การสรปุ
กเรียนยกสถานการณเ์ ก่ียวกับสมดุลต่อการหมุน และอภปิ รายรว่ มกนั การทาแบบฝกึ หัดและแบบทดสอบ
ด้ว่า วัตถุจะสมดลุ ต่อการหมุนเมื่อผลรวมโมเมนตเ์ ปน็ ศูนย์ ด้านทักษะ
ามรเู้ กี่ยวกับสมดลุ กลวา่ วัตถุอาจจะอยู่ในสมดุลต่อการเลือ่ นที่หรอื
อการหมุน ในกรณีท่ีวตั ถอุ ย่ใู นสมดุลทง้ั สองแบบจดั เป็นสมดลุ สมบรู ณ์ 1. การสงั เกต การวัด การทดลอง การจัดกระทา
ถานการณเ์ กี่ยวกับสมดุลกล และใหน้ กั เรียนเขียนแผนภาพของแรง และ
าต่อวัตถอุ สิ ระ อภปิ รายรว่ มกนั และนาเสนอผล สื่อความหมายข้อมูล การตีความหมายขอ้ มลู และ
วอย่างสถานการณ์เกย่ี วกบั แรงคู่ควบ เชน่ การหมุนพวงมาลยั รถยนต์ ลงข้อสรุป ความรว่ มมอื การทางานเป็นทีมและ
ยวโคง้ หรอื การบดิ ลูกบดิ ประตู จากนน้ั ใหน้ ักเรียนอภิปรายร่วมกนั ภาวะผนู้ า จากการอภิปรายร่วมกนั การทาการ
แรงในการหมนุ พวงมาลยั รถยนต์ หรือแรงท่ใี ช้บิดลูกบิด และ
ผล ทดลอง
รายรว่ มกนั จนสรปุ ได้วา่ แรงคคู่ วบเกดิ จากแรงสองแรงท่มี ขี นาดเท่ากนั และรายงานผลการทดลอง
ต่อวตั ถุในทิศทางตรงขา้ มและแนวแรงขนานกนั 2. การสื่อสารสารสนเทศและการรู้เทา่ ทนั สอื่
ถามเกีย่ วกับผลของแรงคูค่ วบที่มีต่อสมดลุ ของวตั ถุ จากนั้นอภิปราย จากการ
จนสรปุ ไดว้ ่าแรงคู่ควบทาให้วัตถสุ มดุลต่อการเลื่อนที่ แต่ไมส่ มดลุ อภิปรายรว่ มกนั และการนาเสนอผล
หมนุ เน่ืองจากมโี มเมนต์ของแรงคูค่ วบ เป็นไปตามสมการ 3. การใช้จานวน ในการหาปรมิ าณต่าง ๆ ท่ี
ไมข่ ้นึ กบั จุดหมนุ
สถานการณ์เกย่ี วกบั สมดลุ ของวัตถุทมี่ ีแรงคคู่ วบกระทา และใหน้ ักเรยี น เก่ยี วขอ้ ง
นภาพของแรงทีก่ ระทาตอ่ วัตถุอสิ ระ เพือ่ นามาอธบิ ายสมดุล กับสมดลุ กล จากรายงานผลการทดลอง การทา
จากน้ัน อภปิ รายรว่ มกันจนสรุปไดว้ ่า เม่ือมแี รงค่คู วบหลายคู่ แบบฝึกหดั และแบบทดสอบ
ตอ่ วัตถุ แลว้ ทาให้วัตถุสมดลุ ตอ่ การหมนุ ผลรวมโมเมนตข์ อง ด้านจติ วิทยาศาสตร์
1. ความซื่อสตั ย์และความรอบคอบ จากรายงาน

แรงคู่ควบ

11. ยกต
โดยใหน้ ัก
12. ให้น
ประโยชน
13. ให้น

บเป็นศนู ย์ 2-6-3

ตัวอย่างการคานวณปริมาณตา่ ง ๆ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกับสมดุลกล แรงคคู่ วบ ผลการทดลอง
กเรียนร่วมกันเสนอแนวคดิ และหลกั การในการแก้ปัญหา 2. ความมงุ่ มัน่ อดทน จากการทาการทดลองและ
นกั เรียนยกตัวอย่างการนาความรเู้ ร่ืองสมดลุ กลและแรงคคู่ วบไปใช้ การอภิปรายรว่ มกัน
นใ์ นชวี ิตประจาวนั
นกั เรียนสรปุ เพื่อตรวจสอบความรูค้ วามเขา้ ใจ

ผลการเรยี นรู้ นักเรียนทาอะไรได้ นกั เรียนรู้อะไร 1. นาเขา้
เลือ่ นท่ีโ
2. สังเกต และอธิบาย ดา้ นทักษะ ดา้ นความรู้
สภาพการเคลือ่ นท่ขี อง ทกั ษะกระบวนการทาง 1. ศนู ย์กลางมวลเปน็ จดุ ที่เสมอื น แรงหลาย
วตั ถเุ มอื่ แรงทก่ี ระทาตอ่ วิทยาศาสตร์ เปน็ ที่รวมมวล ไดว้ า่ แนว
วตั ถผุ ่านศูนยก์ ลางมวล 1. การสังเกต (ตาแหน่งของ ของวัตถทุ ้ังก้อน อาจอยู่ภายในหรือ ว่าตาแห
ของวัตถุ และผลของ ศูนยก์ ลางมวลและ ภายนอก 2. ใหค้ ว
ศูนยถ์ ่วงทม่ี ตี ่อ ศูนยถ์ ว่ งของวัตถุ) วตั ถุก็ได้ เมอ่ื ออกแรงกระทาผ่าน ตาแหน่ง
เสถยี รภาพของวตั ถุ 2. การตคี วามหมายข้อมลู และ ศนู ยก์ ลางมวล กระทาผ
ลงข้อสรุป (จากการ ของวัตถุ ทาใหว้ ัตถุมกี ารเลื่อนทีโ่ ดย
ทากจิ กรรม) ไม่หมนุ ทีก่ ระทา
ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 แต่ถา้ แนวแรงที่กระทาต่อวัตถไุ ม่ 3. ให้นกั
1. การสอื่ สารสารสนเทศและ ผา่ นศนู ย์กลาง รูปทรงใด
การรู้เท่าทันสื่อ มวลของวัตถุ วตั ถุจะเกดิ การหมุน ตาแหน่ง
(การอภิปรายรว่ มกนั และการ 2. ศูนยถ์ ว่ งของวตั ถเุ ป็นจุดทเี่ สมือน จุดแขวน
นาเสนอผล) เป็นตาแหน่ง รวมของว
2. ความร่วมมอื การทางาน ทร่ี วมน้าหนกั ของวัตถุ ถา้ สนามโน้ม
ถว่ งมคี ่า ไมว่ ่าจะแ
เป็นทมี และภาวะผ้นู า สม่าเสมอศนู ยก์ ลางมวลกับศูนย์ถ่วง ก็ตาม เร
จะเป็น 4. ให้คว
ตาแหน่งเดียวกนั ศูนย์กลา
3. ตาแหน่งของศนู ย์ถ่วงมผี ลต่อ จนทาให
เสถยี รภาพของวตั ถุ ศูนยถ์ ่วง

5. ใหน้ กั
ต่อวัตถทุ
ระดบั ขอ
หากศูนย
ตา่ กวา่ ระ
วตั ถุจะอ

6. ยกสถ
อภปิ ราย
เสถยี รภา
มากกว่าว
7. ใหน้ กั
ชวี ติ ประ

8. ใหน้ ัก

2-6-4

แนวการจดั การเรยี นรู้ แนวการวัดและประเมนิ ผล

าสูบ่ ทเรยี น โดยใหน้ ักเรียนออกแรงผลักวตั ถุทต่ี าแหนง่ ทท่ี าให้วัตถุ ดา้ นความรู้
ดยไมห่ มนุ แลว้ ลากเสน้ แนวแรงบนวตั ถนุ นัั ้ จากนนั ้ ทาซ่าโดยออก ศนู ย์กลางมวล และศูนยถ์ ว่ งของวัตถรุ ูปทรงใด ๆ
จากการนาเสนอชน้ิ งาน การสรุป การทา
ย ๆ แนวท่ีทาให้วัตถุเลื่อนทไ่ี ปโดยไม่หมนุ อภิปรายรว่ มกัน จนสรุป แบบฝกึ หดั
วแรงเหลา่ นัน้ จะมาตัดกันท่ีตาแหนง่ หน่ึง โดยใหค้ วามรเู้ พิ่มเตมิ และแบบทดสอบ
หน่งน้ัน เรยี กว่า ศูนยก์ ลางมวล ดา้ นทักษะ
วามรเู้ กี่ยวกับวตั ถแุ ข็งเกร็ง ตาแหน่งของศนู ย์กลางมวลจะอยทู่ ่ี การสังเกต การส่ือสารสารสนเทศและการรู้เท่า
งเดิมตลอด ซึง่ อาจอยู่ภายในหรือภายนอกวัตถุก็ได้ เม่ือออกแรง ทนั สื่อ
ผา่ นศนู ย์กลางมวล วตั ถุจะมีการเลือ่ นทีโ่ ดยไม่หมุน แต่ถา้ แนวแรง ความรว่ มมือ การทางานเปน็ ทีมและภาวะผูน้ า
และการตีความหมายข้อมลู และลงข้อสรปุ จาก
าตอ่ วัตถุไมผ่ ่านศูนย์กลางมวล วตั ถุจะเกิดการหมุน การ
กเรยี นทากิจกรรมเกย่ี วกบั การหาศนู ย์ถว่ งของวัตถุ โดยการนาวัตถุ ทากิจกรรมและการอภปิ รายร่วมกัน
ด ๆ มาแขวน จากนั้นลากเสน้ ตามแนวเสน้ เชอื ก ทาซา้ โดยเปล่ียน ดา้ นจติ วทิ ยาศาสตร์
งท่ีแขวนวัตถุ สังเกต อภิปรายรว่ มกนั จนสรปุ ไดว้ า่ เมอื่ เปลยี่ น ความอยากรอู้ ยากเห็น จากการอภปิ รายร่วมกัน
นวัตถุ แนวแรงดงึ ดูดของโลกทก่ี ระทาต่อวตั ถุจะตัดกันที่จุดหน่ึงซึง่ เสมือนว่าน้าหนกั และ
วัตถุท้ังหมดจะอยทู่ ่ีจุดตัดของแนวแรง และแรงดึงดูดของโลกต้องกระทาผา่ นจดุ นี้ การทากจิ กรรม

แขวนวัตถใุ นตาแหน่งใด
รยี กตาแหน่งน้วี า่ ศนู ย์ถ่วงของวัตถุ
วามร้วู า่ ในกรณีสนามโนม้ ถว่ งมคี า่ สม่าเสมอท่ัวปริมาตรของวตั ถุ
างมวลกบั ศูนย์ถว่ งจะอยูท่ ี่ตาแหน่งเดยี วกนั แต่ถ้าวัตถมุ ีขนาดใหญ่
หแ้ ตล่ ะสว่ นของวัตถุนนั้ อยู่ในสนามโนม้ ถ่วงทมี่ คี า่ ไม่สม่าเสมอ
งและศนู ย์กลางมวลจะอยคู่ นละตาแหน่งกนั

กเรยี นทากิจกรรมเก่ียวกบั เสถียรภาพของวัตถุ โดยออกแรงกระทา
ทมี่ ีความสูงให้วัตถุขยบั หมนุ หรอื เอยี งไปจากเดมิ เลก็ น้อย สงั เกต
องศูนย์ถ่วงทีเ่ ปล่ยี นไปจากเดิม อภปิ รายร่วมกนั จนสรุปได้วา่
ย์ถ่วงสูงข้ึนกว่าระดับเดมิ วตั ถุจะอยใู่ นสมดลุ เสถียร ถา้ ศูนย์ถ่วง
ะดบั เดมิ วัตถุอยู่ในสมดุลไมเ่ สถียร และถา้ ศนู ยถ์ ่วงอยู่ระดับเดิม
อยู่ในสมดลุ สะเทนิ

ถานการณ์ เช่น รถบรรทุกผลผลิตทางการเกษตร รถโดยสารสองชนั้
ยร่วมกนั เกยี่ วกบั ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งศนู ยถ์ ่วงของวัตถุกบั
าพของวตั ถุ จนสรปุ ไดว้ ่า วตั ถุที่มีศูนยถ์ ่วงตา่ จะมีเสถยี รภาพ
วัตถทุ ม่ี ีศนู ย์ถว่ งสูง
กเรยี นยกตัวอยา่ งการนาความรูเ้ รื่องศนู ย์กลางมวลและศูนยถ์ ่วงไปใช้ประโยชน์ใน
ะจาวนั

กเรียนสรปุ เพ่ือตรวจสอบความรคู้ วามเข้าใจ



2-6-5

ผลการเรยี นรู้ นกั เรียนทาอะไรได้ นักเรียนรอู้ ะไร 1. นาเข้า
วิชาฟิสิก
3. วิเคราะห์ และ ด้านทักษะ ดา้ นความรู้
คานวณงานของแรงคง ทักษะกระบวนการทาง 1. เม่อื มแี รงคงตวั กระทาต่อวัตถุ เคลื่อนท
ตัว จากสมการและพนื้ ท่ี วิทยาศาสตร์ แลว้ ทาให้วัตถุ ในกรณที
ใตก้ ราฟความสัมพันธ์ 1. การตคี วามหมายข้อมูลและ เคล่อื นที่จะเกิดงาน โดยหางานได้ และนาเส
ระหว่างแรงกบั ตาแหน่ง ลงข้อสรปุ (การหางานจากพน้ื ท่ี จากความ 2. ให้คว
รวมท้งั อธบิ าย และ ใตก้ ราฟ) สัมพนั ธร์ ะหว่างขนาดของแรงและ ทกี่ ระทา
คานวณกาลังเฉลี่ย 2. การใช้จานวน (หางานจาก ขนาดของ กบั แรงแ
สมการหรือพ้ืนทใ่ี ตก้ ราฟ) การกระจดั ในแนวเดียวกันหรือหา
ทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21 ได้จาก 3. ใหค้ ว
1. การสื่อสารสารสนเทศและ พืน้ ท่ใี ตก้ ราฟระหว่างแรงและการ ความสมั
การรูเ้ ท่าทันสอื่ กระจัด ในแนวเด
(การอภิปรายร่วมกันและการ 2. งานท่ที าในหนึ่งหนว่ ยเวลาเป็น 4. ยกสถ
นาเสนอผล) ปรมิ าณที่ ให้ความ
2. ความรว่ มมือ การทางาน บ่งบอกกาลงั กาลงั เฉล

เปน็ ทีมและภาวะผนู้ า 5. ยกตัว
แรงคงต
6. ใหน้ ัก

2-6-6

แนวการจัดการเรียนรู้ แนวการวัดและประเมินผล

าสู่บทเรยี น โดยการทบทวนความรู้เกี่ยวกบั งานในความหมายของ ดา้ นความรู้
กส์ จากน้นั ยกตวั อย่างเก่ียวกบั งานในกรณีทีแ่ รงขนานกับแนวการ งานและกาลัง จากการสรปุ การทาแบบฝึกหัด
ทแ่ี ละแรงทามมุ กับแนวการเคล่ือนท่ขี องวตั ถุ แล้วตั้งคาถามว่างาน และ
ทง้ั สองมีค่าแตกต่างกนั หรือไม่ อยา่ งไร ใหน้ ักเรียนอภปิ รายร่วมกัน แบบทดสอบ
สนอผล ดา้ นทักษะ
วามรูแ้ ละอภปิ รายร่วมกนั เก่ียวกบั การหางานเน่อื งจากแรงคงตวั 1. การส่ือสารสารสนเทศและการร่เู ท่าทนั สอื ่
าตอ่ วัตถใุ ห้เคลอ่ื นทใ่ี นแนวตรง จนสรปุ ได้ความสัมพันธร์ ะหว่างงาน
และการกระจัดท่ีอยใู่ นแนวเดียวกนั ตามสมการ ความรว่ มมอื
การทางานเปน็ ทมี และภาวะผ้นู า การ
วามรู้และอภิปรายรว่ มกันเกย่ี วกบั การหางานจากพืน้ ทใ่ี ตก้ ราฟ ตคี วามหมาย
มพนั ธร์ ะหวา่ งแรงกับการกระจดั (โดยแรงและการกระจัดอยู่ ข้อมลู และลงขอ้ สรปุ จากการอภิปรายรว่ มกนั
ดียวกัน) และ
ถานการณ์การทางานท่ีมีปริมาณงานเท่ากันแตใ่ ช้เวลาตา่ งกนั จากนนั้ การนาเสนอผล
มรเู้ รอื่ ง กาลงั อภิปรายรว่ มกนั จนสรุปได้ความสมั พนั ธร์ ะหว่าง
ล่ียกบั งานและเวลา ตามสมการ 2. การใชจ้ านวน ในการหาปรมิ าณต่าง ๆ ที่
วอยา่ งการคานวณปริมาณตา่ ง ๆ ทเ่ี กย่ี วข้องกับงานและกาลังเนื่องจาก เกยี่ วข้อง
ตวั โดยให้นกั เรียนร่วมกนั เสนอแนวคดิ และหลกั การในการแกป้ ญั หา กบั งานและกาลงั จากการทาแบบฝกึ หัดและ
กเรียนสรุป เพื่อตรวจสอบความรคู้ วามเขา้ ใจ แบบทดสอบ
ดา้ นจติ วิทยาศาสตร์
ความอยากรู้อยากเหน็ จากการอภปิ รายร่วมกัน

ผลการเรยี นรู้ นักเรียนทาอะไรได้ นกั เรียนรู้อะไร 1. นาเขา้
พลังงาน
4. อธิบายและคานวณ ด้านทักษะ ดา้ นความรู้
พลังงานจลน์ พลังงาน ทกั ษะกระบวนการทาง 1. พลังงานจลนเ์ ปน็ พลงั งานของ อภิปราย
ศกั ย์ พลงั งานกล วทิ ยาศาสตร์ วตั ถุที่กาลัง 2. ให้นัก
ทดลองหาความสัมพนั ธ์ 1. การวัด (ระยะห่างระหว่าง เคลือ่ นท่ี พลงั งานศกั ย่เ ปน็ พลงั พลังงาน
ระหว่างงานกับพลังงาน จุดบนแถบกระดาษและคา่ ท่ี งานท่เี กยี ่ วขอ้ ง ตามสมก
จลน์ ความสัมพนั ธ์ อ่านได้จากเครื่องช่งั สปรงิ ) กับตาแหนง่ หรอื รปู ร่างของวัตถุ (ในกรณ
ระหว่างงานกับพลงั งาน 2. การใชจ้ านวน (ปริมาณตา่ ง ผลรวมของ 3. อภิปร
ศกั ยโ์ น้มถว่ ง ๆ ท่เี ก่ียวขอ้ งกบั พลงั งานจลน์ พลงั งานจลน์และพลงั งานศกั ย์
ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ ง พลังงานศกั ย์โน้มถ่วงและ เรียกวา่ พลังงานกล เปล่ยี นแ
ขนาดของแรงท่ใี ช้ดึง พลงั งานศกั ยย์ ดื หยุ่น) 2. งานและพลังงานมคี วามสัมพันธ์ 4. ใหน้ กั
สปริงกับระยะทส่ี ปริง 3. การทดลอง กนั โดยงาน ใหน้ ักเรีย
ยดื ออกและ 4. การจัดกระทาและสอ่ื ทีท่ ามผี ลทาให้วตั ถมุ ีการ ได้ความ
ความสัมพันธร์ ะหวา่ ง ความหมายข้อมลู เปล่ยี นแปลงพลงั งาน ( เปน็ งา
งานกบั พลงั งานศกั ย์ (การเขียนกราฟความสัมพันธท์ ่ี จลน์ พลังงานศักย์โน้มถว่ ง หรอื 5. ให้นกั
ยดื หยุ่น รวมทง้ั อธิบาย เก่ยี วขอ้ งกบั แรง งานและ พลงั งานศกั ย์ยืดหย่นุ
ความสัมพันธร์ ะหว่าง พลังงาน) ดึงสปรงิ
งานของแรงลพั ธแ์ ละ 5. การตีความหมายขอ้ มลู และ เกย่ี วกับ
พลังงานจลน์ และ ลงข้อสรุป(การสรุปผลการ และ(เปน็
คานวณงานที่เกดิ ขน้ึ ทดลอง) 6. ใหค้ ว
จากแรงลพั ธ์ ทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 อภิปราย
1. การสือ่ สารสารสนเทศและ เสน้ ทางก
การรู้เท่าทนั ส่ือ
(การอภิปรายร่วมกันและการ 7. ยกตัว
นาเสนอผล) โดยให้น
2. ความร่วมมือ การทางาน 8. ให้นัก

เปน็ ทีมและภาวะผ้นู า

2-6-7

แนวการจดั การเรยี นรู้ แนวการวัดและประเมินผล

าส่บู ทเรยี นโดยให้ความร้เู ก่ยี วกับความหมายและท่มี าของพลังงานจลน์ ด้านความรู้
นศักย์โนม้ ถว่ ง พลงั งานศกั ยย์ ืดหย่นุ และพลังงานกล จากน้นั ร่วมกนั พลังงานจลน์ พลังงานศักยโ์ นม้ ถ่วง พลังงานศกั ย์
ยจนสรุปได้ความสมั พันธ์ ตามสมการ ยดื หยุน่ พลงั งานกลและความสมั พนั ธ์ระหวา่ ง
กเรยี นทดลองเพ่อื ศกึ ษาความสมั พันธร์ ะหวา่ งงานของแรงลัพธ์และ งาน
นจลน์ จากนั้นใหน้ ักเรียนอภิปรายร่วมกัน จนสรุปไดค้ วามสมั พันธ์
การ ของแรงลพั ธก์ บั พลงั งานจลน์ จากการสรุป การ
ณที ่ีวตั ถุเรมิ่ เคลอื่ นที่จากหยดุ นิ่ง และ เปน็ งานของแรงลพั ธ์) ทา
รายรว่ มกนั เก่ยี วกบั ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งงานของแรงลัพธ์กบั การ แบบฝกึ หดั และแบบทดสอบ
ด้านทกั ษะ
แปลงพลงั งานจลน์ จนสรุปได้ทฤษฎบี ทงาน-พลงั งานจลน์ ดงั น้ี
กเรียนทดลอง เพ่ือศกึ ษาความสัมพันธ์ระหวา่ งงานและพลังงานศักย์โน้มถ่วง จากนัน้ 1. การวดั การทดลอง การจัดกระทาและสอ่ื
ยนอภปิ รายร่วมกนั จนสรปุ ความหมาย
มสัมพันธ์ตามสมการ ขอ้ มูล การตคี วามหมายข้อมลู และลงข้อสรปุ
านของแรงท่ใี ช้ดึงมวลให้เปล่ยี นระดบั ดว้ ยอัตราเรว็ สม่าเสมอ) ความรว่ มมอื การทางานเปน็ ทีมและภาวะผนู้ า
กเรียนทดลองเพอื่ ศึกษาความสมั พันธ์ระหว่างขนาดของแรงท่ใี ช้
งและระยะทางทสี่ ปริงยืดออก จากนั้นให้นกั เรียนอภปิ รายรว่ มกัน จากการอภปิ รายรว่ มกนั การทาการทดลอง และ
บงานและพลงั งานศกั ย์ยดื หยนุ่ จนสรปุ ไดค้ วามสัมพนั ธ์ ตามสมการ รายงานผลการทดลอง
นงานของแรงที่ใช้ดึงสปริงออกเป็นระยะ ด้วยอัตราเร็วสมา่ เสมอ) 2. การสือ่ สารสารสนเทศและการรู้เทา่ ทนั สอื่
วามรเู้ กยี่ วกบั ความหมายของแรงอนรุ ักษ์ เช่น แรงโน้มถว่ ง แรงสปรงิ จากการ
ยรว่ มกันจนสรปุ ได้ว่า แรงอนรุ กั ษเ์ ป็นแรงท่ีทาให้เกิดงานทไี่ ม่ข้นึ กับ อภิปรายและนาเสนอผล
การเคลื่อนท่ี 3. ใชจ้ านวน ในการหาปรมิ าณตา่ ง ๆ ทีเ่ กย่ี วขอ้ ง

วอยา่ งการคานวณปริมาณตา่ ง ๆ ท่ีเกย่ี วขอ้ งกบั งานและพลังงาน กบั พลังงานกล ได้แก่ พลังงานจลน์ พลังงานศักย์
นักเรียนร่วมกันเสนอแนวคดิ และหลกั การในการแก้ปัญหา โนม้ ถ่วงและพลังงานศกั ย์ยดื หยุน่ จากการทา
กเรียนสรปุ เพ่อื ตรวจสอบความรูค้ วามเขา้ ใจ แบบฝกึ หัดและ
แบบทดสอบ
ด้านจติ วิทยาศาสตร์
ความซอ่ื สัตย์และความรอบคอบ จากรายงานผล
การทดลอง
2. ความม่งุ มั่นอดทน จากการทดลองและการ

อภปิ ราย
ร่วมกัน

ผลการเรียนรู้ นกั เรียนทาอะไรได้ นักเรียนรอู้ ะไร 1. นาเข้า
พลงั งาน
5. อธบิ ายกฎการ ด้านทักษะ ดา้ นความรู้
อนรุ ักษ์พลงั งานกล ทกั ษะกระบวนการทาง 1. เม่อื แรงที่กระทาต่อวัตถุเปน็ แรง พลงั งาน
รวมท้ัง วิทยาศาสตร์ อนรุ ักษผ์ ลรวมของพลงั งานศักย์ อย่างไรใ
วิเคราะห์ และคานวณ 1. การวัด (ระยะห่างระหว่าง และพลงั งานจลน์ของวตั ถุที่ 2. นาแถ
ปริมาณต่าง ๆ ท่ี จดุ บนแถบกระดาษ) ตาแหน่งใด ๆ มคี า่ คงตัว เป็นไป ตกแบบเ
เกีย่ วขอ้ งกบั การ 2. การใช้จานวน (คานวณ ตามกฎการอนรุ ักษ์พลังงานกล ของวัตถ
เคลอื่ นที่ของวัตถุใน ปรมิ าณต่าง ๆ ทีเ่ ก่ยี วข้อง 2. การใชก้ ฎการอนุรักษ์พลงั งานกล พลงั งาน
สถานการณต์ ่าง ๆัโดย กบั การเคล่อื นที่ของวัตถุใน อธิบาย
ใช้กฎการอนุรกั ษ์ สถานการณ์ต่าง ๆ ปรมิ าณทเ่ี กีย่ วขอ้ งกบั การเคลื่อนที่ 3. ทบทว
พลังงานกล จากสมการ) ของวัตถุ ท่ีกระทา
3. การตคี วามหมายข้อมูลและ ในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ของวัตถ
ลงขอ้ สรุป 4. ยกตวั
(วเิ คราะห์จากแถบกระดาษ) ในสถาน
ทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21 เสนอแน
1. การส่อื สารสารสนเทศและ
การร้เู ทา่ ทนั ส่ือ 5. ให้นกั
(การอภปิ รายรว่ มกันและการ
นาเสนอผล)
2. ความร่วมมือ การทางาน

เป็นทมี และภาวะผนู้ า

แนวการจดั การเรยี นรู้ 2-6-8

าสู่บทเรียน โดยการยกตัวอย่างเหตุการณ์ทเ่ี ก่ยี วกับกฎการอนุรกั ษ์ แนวการวัดและประเมนิ ผล
นกล เช่น การปลอ่ ยวตั ถุทค่ี วามสูงต่างกัน แลว้ ต้ังคาถามว่า
นจลน์และพลังงานศักย์ของวัตถุที่ตาแหน่งตา่ ง ๆ เปลยี่ นแปลง ดา้ นความรู้
ใหน้ ักเรยี นอภปิ รายร่วมกนั และนาเสนอผล กฎการอนรุ ักษพ์ ลังงานกล จากการสรปุ การ
ถบกระดาษท่ีดึงผ่านเครื่องเคาะสญั ญาณเวลาจากการปลอ่ ยวตั ถุ เขียน
เสรมี าวิเคราะห์ เพ่อื คานวณพลังงานศกั ยโ์ น้มถ่วงและพลงั งานจลน์ ผังมโนทัศน์ การทาแบบฝกึ หัดและแบบทดสอบ
ถุที่ตาแหน่งต่าง ๆ และอภปิ รายร่วมกนั จนสรุปไดว้ า่ ผลรวมของ ด้านทักษะ
นศักย์โน้มถ่วงและพลงั งานจลน์มีค่าคงตัว 1. การสอ่ื สารสารสนเทศและการร่เู ทา่ ทนั สือ่
ความรว่ มมอื
วนความรู้เก่ยี วกบั แรงอนุรกั ษ์ อภิปรายร่วมกนั จนสรปุ ไดว้ า่ เมื่อแรง การทางานเป็นทีมและภาวะผนู้ า การวดั และ
าตอ่ วตั ถุเป็นแรงอนุรักษ์ ผลรวมของพลังงานศักย์ และพลังงานจลน์ การ
ถทุ ่ีตาแหน่งใด ๆ จะมีคา่ คงตัว เป็นไปตามกฎการอนรุ กั ษพ์ ลังงานกล ตคี วามหมายขอ้ มูลและลงขอ้ สรุป จากการสรปุ
วอย่างการคานวณปรมิ าณต่าง ๆ ทเ่ี กี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่ของวัตถุ การทา
นการณ์ตา่ ง ๆ โดยใชก้ ฎการอนุรักษพ์ ลังงานกล โดยใหน้ กั เรยี นร่วมกัน กจิ กรรมและบนั ทึกผลการทากจิ กรรม
นวคิดและหลักการในการแกป้ ญั หา 2. ใชจ้ านวน ในการหาปรมิ าณตา่ ง ๆ ท่เี กยี่ วขอ้ ง
กเรยี นสรปุ เพ่อื ตรวจสอบความรคู้ วามเขา้ ใจ กบั การเคลือ่ นทขี่ องวัตถุ โดยใชก้ ฎการอนุรักษ์
พลังงานกล จากบนั ทกึ ผลการทากิจกรรม การ
ทา
แบบฝกึ หดั และแบบทดสอบ
ดา้ นจติ วิทยาศาสตร์
ความอยากรอู้ ยากเหน็ จากการอภปิ รายรว่ มกนั

ผลการเรยี นรู้ นกั เรยี นทาอะไรได้ นกั เรียนรอู้ ะไร 1. นาเขา้
ของเคร่ือ
6. อธบิ ายการทางาน ดา้ นทักษะ ด้านความรู้
ประสิทธภิ าพและการได้ ทกั ษะกระบวนการทาง 1. หลักการทางานของเคร่ืองกล จากนน้ั ใ
เปรยี บเชิงกลของ วทิ ยาศาสตร์ อยา่ งงา่ ยบางชนดิ และโมเม
เครอื่ งกลอย่างงา่ ยบาง การใชจ้ านวน (ประสิทธภิ าพ อาศยั ความรเู้ กีย่ วกบั งานและสมดลุ 2. ใหค้ ว
ชนิด และการไดเ้ ปรยี บเชิงกล) กล หลักของ
โดยใชค้ วามรเู้ รอื่ งงาน ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 2. ร้อยละของอัตราส่วนระหว่าง จะมแี รง
และสมดลุ กล รวมทงั้ การสื่อสารสารสนเทศและการ งานทไ่ี ด้ต่องาน เครอื่ งกล
คานวณประสทิ ธิภาพ รู้เทา่ ทนั สอื่ ทีใ่ ห้แกเ่ ครือ่ งกล เรยี กวา่
และการไดเ้ ปรียบเชงิ กล (การอภิปรายรว่ มกนั และการ ประสิทธภิ าพของ 3. ใหค้ ว
เครื่องกลอยา่ งงา่ ย เรยี กวา่ ป
นาเสนอผล) 3. อตั ราส่วนระหวา่ งแรงที่ได้กบั การหาป
แรงทใ่ี ห้ เรยี กว่า การบอก
การไดเ้ ปรียบเชงิ กลของเครื่องกล ระหวา่ งง
ซงึ่ เปน็ 4. ต้งั คา
ปริมาณทบ่ี ง่ บอกถึงการผ่อนแรง
หรือการ จากนนั้ ใ
อานวยความสะดวกของเคร่อื งกล 5. ยกตัว
ของเครอ่ื
ชนดิ น้นั ในการแก
6. ให้คว
ขนาดขอ

ใหน้ ักเรยี
ตามสมก
ในกรณที
จากนั้นใ
อานวยค
7. ยกตวั

และการ
ในการแก
8. ให้นัก

2-6-9

แนวการจดั การเรยี นรู้ แนวการวัดและประเมินผล

าสู่บทเรยี น โดยการอภปิ รายรว่ มกนั เพ่ือทบทวนเกย่ี วกบั การทางาน ดา้ นความรู้
องกลอย่างง่ายบางชนิดทใี่ ชค้ วามรูเ้ กยี่ วกบั งานและโมเมนต์ และ หลักการทางานของเครอื่ งกลอยา่ งงา่ ยและ
ประสทิ ธภิ าพของเครือ่ งกลอย่างง่ายโดยใช้
ให้นักเรยี นยกตวั อย่างเครอ่ื งกลอย่างง่ายที่ใช้ความร้เู ก่ียวกับงาน ความรู้
มนต์ในการอธิบาย เรอื่ งงาน จากการสรปุ การทาแบบฝึกหดั และ
วามรูเ้ ก่ยี วกบั การใชส้ มการอธิบายการทางานของเครือ่ งกล โดยใช้ แบบทดสอบ
งงานและสมดลุ กล กรณีทไ่ี มม่ ีแรงเสยี ดทาน แต่ในความเป็นจริง ดา้ นทกั ษะ
งเสยี ดทานหรอื แรงตา้ นเขา้ มาเกยี่ วข้องเสมอ ทาให้งานท่ไี ดจ้ าก 1. การใช้จานวน จากการทาแบบฝกึ หัดและ
ลนอ้ ยกวา่ งานทีใ่ หแ้ กเ่ ครอื่ งกล แบบทดสอบ
2. การสอ่ื สารสารสนเทศและการร้เู ท่าทนั ส่อื
วามรเู้ ก่ยี วกบั อัตราสว่ นระหวา่ งงานท่ไี ด้รับจากเครอื่ งกลกับงานทีใ่ ห้กับเครื่องกล ซ่ึง จากการ
ประสิทธภิ าพของเครือ่ งกล จากน้นั ยกสถานการณ์ อภิปรายร่วมกันและการนาเสนอผล
ประสทิ ธภิ าพของเครื่องกลบางชนิด อภิปรายร่วมกัน จนสรปุ ไดว้ ่า ดา้ นจติ วทิ ยาศาสตร์
กคา่ ของประสทิ ธภิ าพของเครื่องกลบอกเปน็ รอ้ ยละของอัตราส่วน ความอยากรอู้ ยากเหน็ ความรอบคอบ และ
งานท่ไี ด้ต่องานทีใ่ หแ้ ก่เครอื่ งกล และมีค่าน้อยกวา่ 100 ตามสมการ ความม่งุ มนั่
าถามเกี่ยวกบั ประสิทธภิ าพของเคร่ืองกลอยา่ งงา่ ยในชีวติ ประจาวนั อดทน จากการอภิปรายรว่ มกนั

ให้นกั เรียนอภิปรายร่วมกันและนาเสนอผล
วอยา่ งเกย่ี วกับการคานวณปริมาณตา่ ง ๆ ทเ่ี ก่ียวขอ้ งกบั ประสิทธภิ าพ
องกลอย่างง่าย โดยให้นักเรยี นร่วมกนั เสนอแนวคิดและหลกั การ
ก้ปัญหา
วามร้เู กย่ี วกับการไดเ้ ปรยี บเชิงกลวา่ เปน็ ปริมาณท่ีได้จากการเปรยี บเทียบ
องแรงที่ได้จากเคร่อื งกลกบั ปริมาณของแรงที่กระทาตอ่ เครือ่ งกล

ยนอภิปรายร่วมกนั จนสรปุ ได้วา่ การไดเ้ ปรยี บเชิงกล มคี วามสมั พันธ์
การ
ทเ่ี ครื่องกลมีประสิทธิภาพ 100%
ให้นกั เรียนยกตัวอย่างเคร่ืองกลอย่างง่ายทสี่ ามารถผ่อนแรงหรือ
ความสะดวกในการทางาน โดยพิจารณาจากค่าการไดเ้ ปรียบเชิงกล
วอยา่ งการคานวณปริมาณต่าง ๆ ทีเ่ กยี่ วข้องกบั เคร่ืองกลอย่างง่าย

รไดเ้ ปรยี บเชิงกล โดยให้นกั เรียนร่วมกนั เสนอแนวคิดและหลักการ
กป้ ัญหา
กเรียนสรุป เพื่อตรวจสอบความรู้ความเข้าใจ

ผลการเรียนรู้ นกั เรียนทาอะไรได้ นักเรยี นรู้อะไร 1. นาเข้า
จากระด
7. อธบิ าย และคานวณ ดา้ นทักษะ ดา้ นความรู้
โมเมนตัมของวัตถแุ ละ ทกั ษะกระบวนการทาง 1. โมเมนตมั เปน็ ปรมิ าณที่อธิบาย ต่างกนั ให
การดลจากสมการและ วิทยาศาสตร์ การเคลื่อนท่ี อภปิ ราย
พนื้ ทใี่ ตก้ ราฟ 1. การตีความหมายข้อมูลและ ของวัตถุ สาหรบั วัตถุหนึ่งโมเมนตัม 2. ให้คว
ความสมั พนั ธร์ ะหว่าง ลงข้อสรปุ (โดย มคี ่า ของวัตถ
แรงลพั ธก์ บั เวลา รวมทั้ง อาศัยความรู้จากกฎการ ข้นึ กบั มวลและความเร็ว 3. ใหน้ กั
อธบิ ายความสมั พันธ์ เคลือ่ นท่ีของนิวตนั ) 2. แรงลพั ธท์ ีก่ ระทาต่อวตั ถุจะทาให้ ร่วมกนั เ
ระหว่างแรงดลกบั 2. การใชจ้ านวน (ปรมิ าณต่าง โมเมนตัม
โมเมนตัม ๆ ทเ่ี กี่ยวกบั โมเมนตัมของวัตถุ ของวัตถุเปลย่ี นแปลง โดยแรงลพั ธ์ กระทาต
การดล และแรงดล) ทีก่ ระทาต่อวัตถใุ นเวลาสนั้ ๆ ของวัตถ
ทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 เรียกว่า แรงดล ซึง่ หาได้ ในกรณที
การสอ่ื สารสารสนเทศและการ จากอัตราการเปลย่ี นโมเมนตัมของ 4. ให้คว
รเู้ ทา่ ทนั สอื่ (การอภิปราย วัตถุ สมการ
รว่ มกันและการนาเสนอผล) 3. การดลเป็นปริมาณท่บี ง่ บอกการ หรือหาก
เปลี่ยนแปลง
โมเมนตมั ของวตั ถุ มคี วามสัมพันธ์ 5. ให้นัก
กบั แรงดล โมเมนตมั
และเวลา และหาไดจ้ ากพน้ื ท่ีใต้ มีความส
กราฟระหว่าง 6. ยกสถ
แรงลัพธก์ ับเวลา จากนน้ั ใ
7. ยกตัว

และแรง
8. ให้นกั

แนวการจดั การเรียนรู้ 2-6-10

าส่บู ทเรียน โดยให้นักเรยี นปลอ่ ยวตั ถุมวลตา่ งกันให้ตกกระทบมือ แนวการวัดและประเมินผล
ดับความสูงเดยี วกนั และปล่อยวตั ถุชน้ิ เดียวกันจากระดับความสูง
ห้กระทบมือ เปรยี บเทยี บแรงท่ใี ชใ้ นการหยดุ วัตถใุ นแต่ละกรณี ด้านความรู้
ยรว่ มกันและนาเสนอผล 1. แรงท่ใี ชใ้ นการหยุดวัตถทุ ม่ี โี มเมนตมั ต่างกัน
วามรเู้ ก่ยี วกบั โมเมนตัมของวัตถุว่าเป็นปริมาณของการเคล่ือนท่ี จากการ
ถุ มคี วามสัมพันธ์กบั มวลและความเร็วตามสมการ อภิปรายร่วมกนั
กเรยี นใช้กฎการเคลือ่ นทีข่ อ้ ทสี่ องของนิวตันวเิ คราะหแ์ ละอภิปราย 2. ผลของแรงลัพธ์ทม่ี ีต่อการดลของวัตถุ จาก
เก่ยี วกบั การเคลื่อนทีข่ องวัตถุจนสรปุ ได้ว่า ผลของแรงลัพธ์ที่ การสรปุ
ต่อวตั ถุจะมีความสัมพนั ธ์กับอัตราการเปลี่ยนแปลงโมเมนตัม การทาแบบฝึกหดั และแบบทดสอบ
ถุ ตามสมการ ดา้ นทักษะ
ท่แี รงลพั ธ์ที่กระทาต่อวตั ถใุ นช่วงเวลาสน้ั ๆ เรียกว่า แรงดล 1. การส่ือสารสารสนเทศและการรู้เทา่ ทนั สือ่
วามรเู้ กีย่ วกับการดลว่า เปน็ ความสมั พันธร์ ะหวา่ งแรงดลกบั เวลา ตาม การตี
ความหมายข้อมลู และลงข้อสรุป จากการ
การดลจากพ้ืนทใ่ี ต้กราฟระหว่างแรงลัพธก์ ับเวลา อภปิ ราย
กเรียนใชค้ วามสมั พนั ธร์ ะหวา่ งแรงลพั ธก์ ับอตั ราการเปล่ียนแปลง ร่วมกนั และการนาเสนอผล
มของวตั ถุวเิ คราะห์และอภปิ รายร่วมกันจนสรุปได้ว่า การดล 2. การใชจ้ านวน ในการหาปริมาณตา่ ง ๆ ที่
สมั พันธ์กบั การเปล่ยี นแปลงโมเมนตมั ตามสมการ เก่ยี วขอ้ งกับ
ถานการณ์เก่ียวกบั โมเมนตัม การดล และแรงดลทพ่ี บในชีวิตประจาวัน โมเมนตมั ของวัตถุ แรงดล การดลท้งั การใช้
ใหน้ กั เรียนอภิปรายรว่ มกนั และนาเสนอผล สมการ
วอยา่ งการคานวณปริมาณตา่ ง ๆ ทีเ่ ก่ยี วกับโมเมนตัมของวัตถุ การดล และพน้ื ท่ีใต้กราฟ จากแบบฝกึ หัดและ
งดล โดยใหน้ ักเรยี นร่วมกันเสนอแนวคิดและหลักการในการแก้ปัญหา แบบทดสอบ
กเรียนสรปุ เพ่อื ตรวจสอบความรูค้ วามเข้าใจ ดา้ นจติ วทิ ยาศาสตร์
ความอยากรอู้ ยากเหน็ และความรอบคอบ จาก
การ
อภิปรายร่วมกนั

ผลการเรยี นรู้ นกั เรยี นทาอะไรได้ นกั เรยี นรอู้ ะไร 1. นาเข้า
ในชวี ติ ป
8. ทดลอง อธบิ าย และ ด้านทกั ษะ ด้านความรู้
คานวณปรมิ าณต่าง ๆ ทกั ษะกระบวนการทาง 1. การชนกันของวัตถุและการดีดตวั 2. อภปิ ร
ทเี่ ก่ยี วกับการชนของ วิทยาศาสตร์ แยกจากกันของวัตถุในแนวตรง เม่อื จากน้ัน ใ
วตั ถุในหน่งึ มิติ ทงั้ แบบ 1. การวัด (ระยะห่างระหวา่ ง ไม่มีแรงภายนอกกระทา โมเมนตมั และการด
ยืดหย่นุ ไมย่ ืดหยุ่น จุดบนแถบกระดาษ) รวมของระบบมคี ่าคงตัวซึ่งเป็นไป ภายนอก
และการดดี ตวั แยกจาก 2. การใชจ้ านวน (ผลรวม ตามกฎการอนรุ ักษ์โมเมนตัม การอนรุ กั
กันในหนึง่ มิตซิ ง่ึ เปน็ ไป โมเมนตมั ก่อนและหลังชนและ 2. การชนทีพ่ ลงั งานจลนร์ วมของ สาหรบั ก
ตามกฎการอนุรกั ษ์ ผลรวมของพลังงานจลนก์ ่อน ระบบคงตวั เปน็ การชนแบบยดื หย่นุ
โมเมนตัม และหลงั ชน) ส่วนการชนทพี่ ลังงาน แตก่ ารช
3. การทดลอง จลน์รวมของระบบไม่คงตวั เปน็ การ 3. ยกสถ
4. การตคี วามหมายขอ้ มลู และ ชนแบบไมย่ ดื หยุ่น ให้นักเรีย
ลงข้อสรุป(จากผลการทดลอง) 4. ยกตวั
ทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 การดีดต
1. การสอ่ื สารสารสนเทศและ เสนอแน
การรู้เท่าทันส่ือ
(การอภิปรายร่วมกนั และการ 5. ให้นกั
นาเสนอผล)
2. ความรว่ มมอื การทางาน

เป็นทีมและภาวะผู้นา

2-6-11

แนวการจดั การเรียนรู้ แนวการวดั และประเมนิ ผล

าสบู่ ทเรยี น โดยยกตัวอย่างและอภิปรายเกีย่ วกบั การชนท่ีเกดิ ขึ้น ด้านความรู้
ประจาวัน การชนของวัตถใุ นแนวตรงในแนวตรงทง้ั แบบ
รายรว่ มกนั เพื่อทบทวนความรเู้ กยี่ วกบั โมเมนตัมและพลงั งานจลน์ ยืดหยุ่น
ใหน้ กั เรยี นทดลอง เพื่อศกึ ษาการชนของวตั ถุในหน่ึงมิตทิ ง้ั แบบยืดหยนุ่ ไมย่ ืดหยนุ่ ไม่ยืดหยุน่ และการดีดตัวแยกจากกันของวัตถุ
ดีดตัวแยกจากกันของวัตถุ จากนนั้ อภปิ รายร่วมกัน จนสรปุ ได้ว่าเมื่อไม่มีแรง
กกระทาต่อวัตถุ การชนทกุ แบบและการดีดตัวแยกจากกนั ของวัตถุเปน็ ไปตามกฎ เมอื่ ไม่มแี รงภายนอกกระทา และกฎการอนุรักษ์
กษ์โมเมนตมั โมเมนตมั จากการอภิปรายรว่ มกัน การสรุป การ
การชนแบบยืดหยุ่นผลรวมพลังงานจลน์ของระบบมีค่าคงตวั ทา
แบบฝกึ หัดและแบบทดสอบ
ชนแบบไมย่ ืดหยุน่ ผลรวมพลังงานจลนข์ องระบบมคี ่าไม่คงตัว ด้านทกั ษะ
ถานการณเ์ กี่ยวกบั กฎการอนุรกั ษโ์ มเมนตมั ในหนงึ่ มติ ิทพ่ี บในชวี ติ ประจาวนั จากน้ัน 1. การวัด การทดลอง การตคี วามหมายข้อมูล
ยนอภิปรายร่วมกนั และนาเสนอผล และ
วอย่างการคานวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั การชนของวัตถุและ ลงขอ้ สรปุ ความรว่ มมือ การทางานเปน็ ทีมและ
ตัวแยกจากกันของวัตถุในหน่ึงมิติเมอื่ ไม่มแี รงภายนอกกระทา โดยให้นกั เรยี นรว่ มกนั
นวคิดและหลกั การในการแกป้ ญั หา ภาวะผนู้ าจากการอภิปรายรว่ มกัน การทาการ
กเรียนสรุป เพอ่ื ตรวจสอบความรู้ความเขา้ ใจ ทดลอง
และรายงานผลการทดลอง
2. การสอ่ื สารสารสนเทศและการร้เู ทา่ ทนั สอื่
จาก
การนาเสนอผล

3. การใชจ้ านวน ในการหาปรมิ าณต่าง ๆ ท่ี
เกี่ยวขอ้ งกับการชนของวตั ถแุ ละการดีดตัวแยก
จากกนั ของวตั ถุ
เมอื่ ไม่มีแรงภายนอกกระทา จากการทา
แบบฝกึ หดั
และแบบทดสอบ
ดา้ นจติ วิทยาศาสตร์
1. ความซือ่ สตั ย์ ความรอบคอบ จากรายงานผล

การทดลอง
2. ความมุ่งมน่ั อดทนและความอยากรูอ้ ยากเหน็
จากการทาการทดลองและการอภิปรายร่วมกัน

ผลการเรียนรู้ นักเรียนทาอะไรได้ นักเรียนรู้อะไร 1. นาเข้า
ให้นักเรีย
9. อธิบาย วิเคราะห์ ด้านทกั ษะ ดา้ นความรู้
และคานวณปรมิ าณ ทกั ษะกระบวนการทาง 1. การเคลอ่ื นที่แบบโพรเจกไทล์ การเคลอ่ื
ต่าง ๆ ทเ่ี กย่ี วข้องกบั วิทยาศาสตร์ เปน็ การเคล่อื นท่ี 2. ใหน้ กั
การเคลื่อนท่ีแบบ 1. การวัด (ระยะในแนวดิ่งท่ี ของวัตถใุ นสองมิติ โดยแนวการ แนวระด
โพรเจกไทล์ วัตถุเคลอื่ นท่ไี ด้) เคล่อื นทีเ่ ปน็ วถิ โี คง้ พาราโบลา และ เคล่ือนท
และทดลองการ 2. การทดลอง การเคลื่อนท่ใี นแนวราบ 3. ให้ควา
เคลอื่ นท่ีแบบโพรเจก 3. การจัดกระทาและส่อื มคี วามเร็วคงตัว สว่ นการเคล่อื นที่ ในแนวรา
ไทล์ ความหมายข้อมลู ั(เขยี นกราฟ ในแนวดิ่งเป็นการเคล่ือนทีด่ ว้ ย
จากขอ้ มลู การเคลอื่ นทข่ี อง ความเร่งคงตัว 4. อภปิ ร
วัตถุ) 2. ในกรณีการเคล่อื นท่แี บบโพรเจก โพรเจกไ
4. การตคี วามหมายข้อมูลและ ไทลใ์ นสนามโน้มถว่ งของโลก การ แนวระด
ลงขอ้ สรปุ (การสรปุ ผลการ เคล่ือนทีใ่ นแนว 5. ยกตัว
ทดลอง) ดิง่ เป็นการเคลือ่ นทแี่ บบเสรี โพรเจกไ
5. การใชจ้ านวน (ปริมาณท่ี แนวราบ
เกีย่ วขอ้ งกับการ
เคลือ่ นท่ีแบบโพรเจกไทล์) 6. ให้นกั
ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21
1. การส่อื สารสารสนเทศและ
การรู้เทา่ ทันส่อื (การอภิปราย
ร่วมกันและการนาเสนอผล)
2. ความร่วมมอื การทางาน

เป็นทีมและภาวะผู้นา

2-6-12

แนวการจัดการเรียนรู้ แนวการวดั และประเมินผล

าสู่บทเรยี น โดยสาธติ การโยนวัตถใุ ห้เคลื่อนทแี่ บบโพรเจกไทล์ ดา้ นความรู้
ยนอภิปรายร่วมกนั เกยี่ วกับแนวการเคลือ่ นท่แี ละสาเหตุท่ที าให้ การเคลอื่ นท่ีแบบโพรเจกไทล์ ในกรณีท่ีวตั ถุมี
อนทเ่ี ปน็ แนวโค้ง และนาเสนอผล ความเร็วต้นในแนวราบและทามุมกบั แนวราบ
กเรียนทดลอง เพ่อื ศึกษาความสมั พนั ธก์ ารเคลือ่ นท่ีในแนวดงิ่ และ โดยสงั เกตจากการอภปิ รายรว่ มกัน และการ
ดับของวัตถทุ ่ีกาลงั เคลื่อนท่ีแบบโพรเจกไทล์ อภปิ รายรว่ มกนั จนสรุปได้ว่า การ
ท่ีแบบโพรเจกไทลเ์ ปน็ วถิ โี ค้งพาราโบลา วเิ คราะห์
ามรู้วา่ การเคล่ือนทีแ่ บบโพรเจกไทลป์ ระกอบด้วยการเคลื่อนท่ี ดา้ นทกั ษะ
าบทีม่ ีความเรว็ คงตัว สว่ นในแนวด่ิงมคี วามเร่งคงตวั ซึง่ เปน็ ความเร่งโนม้ ถว่ งของโลก 1. การวดั การทดลอง การจัดกระทาและสื่อ
ความหมาย
รายร่วมกันเกีย่ วกบั การกระจัดและความเรว็ ของวัตถทุ ่เี คลอ่ื นทีแ่ บบ ขอ้ มลู การตีความหมายขอ้ มลู และลงข้อสรปุ
ไทล์ ซง่ึ มีความสมั พันธต์ ามสมการ ความ
ดบั แนวดิ่ง รว่ มมอื การทางานเป็นทมี และภาวะผู้นา จาก
วอยา่ งการคานวณปริมาณตา่ ง ๆ ที่เกีย่ วข้องกบั การเคล่ือนทแ่ี บบ การ
ไทลท์ ั้งในกรณีท่ีวัตถุมีความเร็วตน้ ในแนวราบและทามุมกับ
บ โดยใหน้ ักเรยี นรว่ มกนั เสนอแนวคิดและหลักการในการแก้ปัญหา อภิปรายร่วมกนั และรายงานผลการทดลอง
กเรยี นสรุป เพือ่ ตรวจสอบความรคู้ วามเข้าใจ 2. การส่อื สารสารสนเทศและการรเู้ ท่าทันสอ่ื
จากการ
อภิปรายร่วมกนั และนาเสนอผล
3. การใชจ้ านวน ในการหาปรมิ าณต่าง ๆ ที่
เกี่ยวขอ้ งกับการเคลือ่ นท่ีแบบโพรเจกไทล์ จาก

แบบฝกึ หัดและ
แบบทดสอบ
ด้านจติ วทิ ยาศาสตร์
1. ความซ่ือสัตย์และความรอบคอบ จากรายงาน
ผล
การทดลอง
2. ความมงุ่ มน่ั อดทนและความอยากรู้อยากเหน็
จากการทดลอง และการอภปิ รายรว่ มกัน

ผลการเรยี นรู้ นักเรียนทาอะไรได้ นักเรยี นร้อู ะไร 1. นาเขา้
ผกู กับเช
10. ทดลอง และอธิบาย ดา้ นทักษะ ดา้ นความรู้
ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง ทกั ษะกระบวนการทาง 1. วตั ถุท่เี คลอ่ื นทแี่ บบวงกลม จะมี เคลอ่ื นท
แรงสศู่ ูนยก์ ลาง รศั มี วทิ ยาศาสตร์ แรงกระทา ในทศิ ทางเขา้ สู่ เม่ือเหวี่ย
ของการเคลอ่ื นท่ี 1. การวัด (คาบการแกวง่ ของ ศูนย์กลาง ซึง่ มคี วามสมั พนั ธ์ แรงทก่ี ร
อัตราเร็วเชิงเสน้ วตั ถุ) กบั มวล อตั ราเรว็ และรัศมีการ 2. ให้คว
อัตราเรว็ เชงิ มุม และ 2. การทดลอง เคล่อื นท่ีของวตั ถุ อตั ราเร็ว
มวล 3. การใช้จานวน (ปรมิ าณตา่ ง 2. การโคจรของดาวเทยี มอธบิ าย 3. ใหน้ กั
ของวตั ถุ ในการ ๆ ทเ่ี ก่ียวข้องกบั การเคล่ือนที่ ได่โ ดยใชค้ วามรู้
เคล่ือนทแี่ บบวงกลมใน แบบวงกลม) เก่ยี วกบั การเคล่อื นที่แบบวงกลม วิเคราะห
ระนาบ 4. การจัดกระทาและสือ่ รัศมีของ
ระดบั รวมท้ังคานวณ ความหมายข้อมลู (เขยี นกราฟท่ี แบบวงก
ปรมิ าณต่าง ๆ ที่ เกีย่ วข้องกบั แรงสู่ศูนย์กลาง 4. ให้คว
เกีย่ วขอ้ งและ รัศมกี ารเคลื่อนทแ่ี ละคาบ) ตามสมก
ประยุกตใ์ ชค้ วามรู้การ 5. การตคี วามหมายขอ้ มลู และ ตามสมก
เคลอ่ื นทแ่ี บบวงกลมใน ลงข้อสรุป
การอธิบายการโคจร (การสรุปผลการทดลอง) 5. ยกตัว
ของดาวเทียม ทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 รถจักรย
1. การสือ่ สารสารสนเทศและ ดาวเทยี ม
การรูเ้ ทา่ ทันสอ่ื คา้ งฟา้ ใ
(การอภิปรายรว่ มกันและการ 6. ยกตวั
นาเสนอผล) วงกลมข
2. ความรว่ มมือ การทางาน
7. ใหน้ ัก
เปน็ ทมี และภาวะผนู้ า

2-6-13

แนวการจดั การเรยี นรู้ แนวการวัดและประเมินผล

าสบู่ ทเรียน โดยการสาธิตการเคลือ่ นทเ่ี ป็นวงกลมของวตั ถุ นาวตั ถุ ด้านความรู้
ชือกแลว้ เหว่ยี งวัตถใุ ห้เคล่อื นท่ีเป็นวงกลมในระนาบระดับให้นักเรียนสังเกตแนวการ การเคลอ่ื นที่แบบวงกลมในระนาบระดับดว้ ย
ท่ีของวัตถแุ ละแรงดึงในเส้นเชือก อัตราเรว็ คงตวั จากการอภิปรายร่วมกนั และการ
ยงวัตถดุ ้วยอตั ราเรว็ ทแี่ ตกตา่ งกัน จากนั้นอภิปรายร่วมกันเกยี่ วกับ เขียน
ระทาตอ่ วัตถุและทศิ ทางของความเร็วของวัตถแุ ละนาเสนอผล
วามรเู้ กี่ยวกบั แรงสูศ่ ูนยก์ ลาง ความเร่งสูศ่ นู ย์กลาง คาบ ความถแ่ี ละ ผงั มโนทศั น์
วของวัตถุทีเ่ คลือ่ นท่ีแบบวงกลมในระนาบระดับด้วยอตั ราเร็วคงตัว ดา้ นทักษะ
กเรียนทดลอง เพ่ือศกึ ษาการเคล่ือนท่ีแบบวงกลมของวัตถุ จากน้ัน 1. การวดั การทดลอง การจัดกระทาและสอ่ื
ความหมาย
ห์ผลการทดลองและอภิปรายรว่ มกนั จนสรปุ ได้ว่า แรงสศู่ ูนย์กลาง ข้อมลู การตีความหมายข้อมลู และลงข้อสรุป
งการเคล่อื นท่ี อัตราเรว็ และมวลของวตั ถุ ในการเคลอ่ื นท่ี ความรว่ มมือ การทางานเป็นทีมและภาวะผ้นู า
กลม มคี วามสมั พันธ์ ตามสมการ จากการอภปิ รายร่วมกันและรายงานผลการ
วามรูเ้ ก่ียวกบั อัตราเร็วเชิงมุม ซ่ึงมคี วามสมั พนั ธก์ บั อัตราเร็วเชงิ เสน้ ทดลอง
การ จากน้ันอภิปรายร่วมกัน จนสรปุ ได้ความสัมพันธ์
การ 2. การสื่อสารสารสนเทศและการรู้เทา่ ทนั ส่อื
วอยา่ งการเคลอ่ื นทีแ่ บบวงกลมของวัตถุ เช่น การเคล่ือนทข่ี องรถยนต์ จากการ
ยานยนตท์ ี่กาลงั เลี้ยวโค้งบนถนนราบและถนนเอยี ง การโคจรของ อภปิ รายรว่ มกนั และการนาเสนอผล
มเปน็ วงกลมรอบโลก และการเคล่ือนที่ของดาวเทยี มที่มวี งโคจร 3. การใชจ้ ำนวน ในการหาปรมิ าณต่า ง ๆ ท่เี
ให้นักเรยี นอภิปรายร่วมกนั และนาเสนอผล กี่ยวขอ้ งกบั
วอย่างการคานวณปริมาณต่าง ๆ ทเ่ี ก่ียวขอ้ งกบั การเคล่ือนทแ่ี บบ การเคลื่อนที่แบบวงกลม จากแบบฝกึ หดั และ
ของวัตถุ โดยใหน้ กั เรยี นรว่ มกันเสนอแนวคิดและหลักการในการแก้ปญั หา
แบบทดสอบ
กเรยี นสรุป เพ่อื ตรวจสอบความรูค้ วามเขา้ ใจ ด้านจติ วิทยาศาสตร์

1. ความซ่ือสตั ยแ์ ละความรอบคอบ จากรายงาน
ผล
การทดลอง
2. ความม่งุ ม่นั อดทนและความอยากรู้อยากเหน็
จากการทดลองและการอภิปรายรว่ มกัน



2-6-14

2-7-1

2.7 แบบบนั ทกึ การวิเคราะหผ์ เู้ รียน

2-7-2

การวเิ คราะหผ์ ู้เรยี น
ในการวิเคราะหผ์ เู้ รยี นใช้แบบสอบถามเพื่อวิเคราะห์ผเู้ รยี น ทั้ง 5 ดา้ น โดยใช้ดังน้ี
ดา้ นที่ 1 ความรู้ความสามารถและประสบการณ์
1. ความรู้พืน้ ฐาน
2. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
3. ความสามารถ/สมาธิการเรยี นรู้
ดา้ นที่ 2 ความพร้อมดา้ นสติปัญญา
1. ความคดิ เริ่มสร้างสรรค์
2. ความมี เหตุผล
3. ความสามารถในการเรยี นรู้
ดา้ นท่ี 3 ความพรอ้ มดา้ นพฤติกรรม
1. การแสดงออก
2. การควบคมุ อารมณ์
3. ความมุ่งมั่นขยนั หมัน่ เพียร
ด้านท่ี 4 ความพรอ้ มดา้ นรา่ งกายและจิตใจ
1. สขุ ภาพรา่ งกายสมบรู ณ์
2. การเจริญเติบโตสมวยั
3. ด้านสภุ าพจติ
ด้านท่ี 5 ความพร้อมด้านสังคม
1. การปรบั ตวั เขา้ กับผู้อนื่
2. การเสียสละ ไม่เหน็ แก่ตวั
3. มรี ะเบยี บ วนิ ยั เคารพกตกิ า
นาคา่ ที่ไดท้ ้ัง 5 ดา้ นมาหาค่าเฉลยี่ แลว้ จาแนกนกั เรียนเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มเก่ง กลมุ่ ปานกลาง
และกลุ่มออ่ น เพื่อการแกไ้ ข/พฒั นา/สง่ เสรมิ ความเป็นเลศิ ของนกั เรียนตอ่ ไป ดาเนินการวิเคราะหผ์ ้เู รยี นระหวา่ งวันท่ี 20- 24 พฤษภาคม

2562 ไดผ้ ลสรุปดงั ตารางและมรี ายละเอยี ด ดังน้ี

กลมุ่ ม.4/1 ม.4/2 ม.4/3 ม.4/6 รวม ร้อยละ การแกไ้ ข/พัฒนา/ส่งเสริมความเปน็ เลศิ
เก่ง 12 24 13 7 56 38.62 การส่งเสริมความเป็นเลศิ

1.สอนเสริมเพือ่ การสอบ สอวน.ฟสิ ิกส์
2.ใหท้ ดลองทาโจทยฟ์ ิสกิ สส์ อบเขา้
มหาวิทยาลยั
ปานกลาง 27 16 27 18 88 60.69 การพฒั นา
1.ใหท้ าแบบฝึกทักษะ
2.ให้ทดลองทาโจทย์ฟสิ ิกสโ์ อเนต็
อ่อน 1 0 0 0 1 0.69 การแกไ้ ขปัญหา
1.ใหท้ าแบบฝึกทกั ษะ
2.ใหม้ เี พือ่ นสนิทเปน็ ท่ีปรกึ ษาการเรยี น
3.นัดสอนเสริมเปน็ ระยะ
4.ให้ทาแบบฝกึ ทักษะ
รวม 40 40 40 25 145 100.00

2-8-1

2.8 แบบบนั ทกึ การวเิ คราะห์จดุ เนน้ การพัฒนาคุณภาพผูเ้ รียน

2-8-2

แบบบันทึกการวเิ คราะหค์ วามสอดคล้องระหวา่ งตัวชี้วดั รายวชิ ากับจดุ เนน้ การพัฒนาคุณภาพผู้เรยี น
กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รายวิชาฟิสิกส์ 1 รหสั วิชา ว 30201 ช่ือผู้สอน นายชาตรี ศรีม่วงวงค์

สาระการ ตัวชวี้ ดั /ผลการเรยี นรู้รายวิชา สอดคลอ้ งกับจดุ เน้นการพัฒนา
เรยี นรู้ คุณภาพผู้เรียน
ฟสิ ิกสเ์ พม่ิ เติม 1. อธบิ ายสมดลุ กลของวัตถุ โมเมนต์และ
ข้อ 1 ผลรวมของโมเมนต์ทม่ี ตี ่อการหมุน แรงคู่ควบ 1.การคดิ วเิ คราะห์ขัน้ สูง
และผลของแรงคู่ควบทม่ี ตี ่อสมดุลของวตั ถุ 2.แสวงหาความรู้เพ่อื การแก้ปัญหา
ฟสิ ิกสเ์ พม่ิ เติม เขยี นแผนภาพของแรงทีก่ ระทาต่อวัตถุอิสระ 3.ทกั ษะการส่ือสารอย่างสรา้ งสรรคต์ ามชว่ งวัย
ขอ้ 1 เมอ่ื วตั ถุอยูใ่ นสมดุลกล และคานวณปรมิ าณ 4.คุณลักษณะใฝ่เรียนรู้
ตา่ ง ๆ ทเ่ี กย่ี วข้องรวมทั้งทดลองและอธิบาย
ฟสิ ิกส์เพม่ิ เติม สมดลุ ของแรงสามแรง 1.การคิดวเิ คราะหข์ น้ั สงู
ขอ้ 1 2. สงั เกต และอธบิ ายสภาพการเคลือ่ นท่ีของ 2.แสวงหาความรู้เพอ่ื การแก้ปัญหา
วตั ถุเมอ่ื แรงท่กี ระทาต่อวตั ถผุ ่านศนู ย์กลาง 3.ทกั ษะการสื่อสารอยา่ งสรา้ งสรรค์ตามช่วงวัย
ฟิสิกส์เพิ่มเติม มวลของวตั ถุ และผลของศนู ย์ถว่ งท่ีมตี ่อ 4.คณุ ลกั ษณะใฝ่เรียนรู้
ขอ้ 1 เสถยี รภาพของวัตถุ 1.การคดิ วเิ คราะห์ขั้นสงู
3. วเิ คราะห์ และคานวณงานของแรงคงตัว 2.แสวงหาความรู้เพือ่ การแก้ปัญหา
ฟสิ ิกส์เพิม่ เตมิ จากสมการและพื้นทีใ่ ต้กราฟความสมั พันธ์ 3.ทักษะการสอ่ื สารอย่างสรา้ งสรรคต์ ามช่วงวัย
ข้อ 1 ระหวา่ งแรงกบั ตาแหน่ง รวมท้ังอธบิ าย และ 4.คุณลกั ษณะใฝเ่ รยี นรู้
คานวณกาลงั เฉลีย่ 1.การคิดวเิ คราะห์ขน้ั สูง
4. อธิบายและคานวณพลงั งานจลน์ พลังงาน 2.แสวงหาความรเู้ พอ่ื การแก้ปญั หา
ศักย์ พลงั งานกล ทดลองหาความสมั พันธ์ 3.ทกั ษะการสื่อสารอย่างสรา้ งสรรคต์ ามช่วงวัย
ระหว่างงานกับพลังงานจลน์ ความสมั พนั ธ์ 4.คุณลกั ษณะใฝเ่ รียนรู้
ระหวา่ งงานกบั พลังงานศักย์โนม้ ถ่วง
ความสมั พันธ์ระหว่างขนาดของแรงทใี่ ชด้ งึ 1.การคิดวเิ คราะห์ข้ันสงู
สปริงกับระยะทส่ี ปรงิ ยดื ออกและ 2.แสวงหาความรู้เพ่อื การแกป้ ญั หา
ความสมั พันธ์ระหวา่ งงานกับพลงั งานศักย์ 3.ทักษะการสอื่ สารอย่างสรา้ งสรรคต์ ามช่วงวยั
ยืดหยุ่น รวมทั้งอธิบายความสัมพนั ธ์ระหว่าง 4.คณุ ลกั ษณะใฝเ่ รียนรู้
งานของแรงลพั ธแ์ ละพลังงานจลน์ และ
คานวณงานทีเ่ กดิ ขึน้ จากแรงลัพธ์
5. อธบิ ายกฎการอนุรักษ์พลงั งานกล รวมทง้ั
วเิ คราะห์ และคานวณปริมาณตา่ ง ๆ ท่ี
เก่ียวขอ้ งกับการเคลอ่ื นท่ขี องวัตถใุ น
สถานการณ์ต่าง ๆ โดยใชก้ ฎการอนุรักษ์
พลังงานกล

2-8-3

แบบบันทกึ การวิเคราะห์ความสอดคล้องระหวา่ งตวั ชี้วัดรายวิชากบั จุดเน้นการพัฒนาคณุ ภาพผู้เรยี น
กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ รายวชิ าฟิสิกส์ 1 รหัสวิชา ว 30201 ช่ือผสู้ อน นายชาตรี ศรมี ว่ งวงค์

สาระการ ตัวช้ีวัด/ผลการเรียนรู้รายวิชา สอดคลอ้ งกบั จุดเน้นการพัฒนา
เรียนรู้ คณุ ภาพผูเ้ รยี น
ฟิสกิ ส์เพม่ิ เติม 6. อธบิ ายการทางาน ประสทิ ธิภาพและการ
ขอ้ 1 ได้เปรียบเชิงกลของเครือ่ งกลอย่างง่ายบาง 1.การคิดวเิ คราะห์ขั้นสงู
ชนดิ โดยใช้ความรเู้ ร่ืองงานและสมดุลกล 2.แสวงหาความรเู้ พ่อื การแกป้ ัญหา
ฟิสกิ ส์เพ่มิ เติม รวมทง้ั คานวณประสิทธิภาพและการ 3.ทักษะการสอื่ สารอยา่ งสร้างสรรค์ตามชว่ งวัย
ขอ้ 1 ได้เปรียบเชงิ กล 4.คุณลกั ษณะใฝ่เรยี นรู้
7. อธบิ าย และคานวณโมเมนตมั ของวัตถุและ
ฟิสกิ ส์เพม่ิ เตมิ การดลจากสมการและพนื้ ที่ใตก้ ราฟ 1.การคิดวิเคราะห์ขั้นสงู
ขอ้ 1 ความสัมพันธร์ ะหว่างแรงลัพธ์กับเวลา รวมท้งั 2.แสวงหาความรเู้ พื่อการแก้ปัญหา
อธิบายความสัมพนั ธ์ระหวา่ งแรงดลกบั 3.ทักษะการสื่อสารอยา่ งสร้างสรรค์ตามช่วงวัย
ฟิสกิ สเ์ พม่ิ เติม โมเมนตมั 4.คุณลกั ษณะใฝ่เรียนรู้
ขอ้ 1 8. ทดลอง อธบิ าย และคานวณปรมิ าณต่าง ๆ
ทเ่ี กี่ยวกับการชนของวตั ถใุ นหนงึ่ มิติ ทง้ั แบบ 1.การคดิ วิเคราะหข์ น้ั สูง
ฟิสกิ สเ์ พมิ่ เตมิ ยืดหยนุ่ ไม่ยืดหย่นุ และการดีดตัวแยกจากกัน 2.แสวงหาความรเู้ พื่อการแกป้ ญั หา
ขอ้ 1 ในหน่ึงมติ ิซ่งึ เปน็ ไปตามกฎการอนุรักษ์ 3.ทักษะการสอ่ื สารอยา่ งสรา้ งสรรคต์ ามช่วงวยั
โมเมนตัม 4.คุณลกั ษณะใฝ่เรยี นรู้
9. อธบิ าย วิเคราะห์ และคานวณปริมาณต่าง
ๆ ทเี่ กีย่ วข้องกับการเคล่ือนท่ีแบบโพรเจกไทล์ 1.การคดิ วเิ คราะห์ขั้นสูง
และทดลองการเคลอื่ นทีแ่ บบโพรเจกไทล์ 2.แสวงหาความรเู้ พือ่ การแกป้ ญั หา
3.ทักษะการสื่อสารอยา่ งสรา้ งสรรคต์ ามชว่ งวยั
10. ทดลอง และอธิบายความสัมพันธร์ ะหว่าง 4.คุณลักษณะใฝ่เรยี นรู้
แรงสศู่ นู ยก์ ลาง รัศมขี องการเคล่ือนท่ี 1.การคดิ วิเคราะห์ขั้นสูง
อตั ราเร็วเชงิ เสน้ อตั ราเร็วเชงิ มมุ และมวล 2.แสวงหาความรเู้ พอื่ การแก้ปญั หา
ของวัตถุ ในการเคลื่อนท่ีแบบวงกลมใน 3.ทักษะการสอ่ื สารอยา่ งสร้างสรรค์ตามชว่ งวัย
ระนาบระดบั รวมทง้ั คานวณปรมิ าณต่าง ๆ ท่ี 4.คุณลักษณะใฝ่เรียนรู้
เกย่ี วข้องและประยกุ ต์ใช้ความร้กู ารเคล่ือนที่
แบบวงกลมในการอธบิ ายการโคจรของ
ดาวเทยี ม

2-9-1

2.9 แผนบูรณาการ

2-9-2

แผนการบรู ณาการหลักสตู รทอ้ งถิน่ หลักสตู รอาเซียน หลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง
กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ รายวิชาฟิสิกส์ 1 รหัสวชิ า ว 30201 ชื่อผสู้ อน นายชาตรี ศรีม่วงวงค์

แผนการจัดการเรียนรู้ / การบรู ณาการ การบูรณาการ การบรู ณาการหลักปรัชญา
ผลการเรียนรู้ หลักสูตรท้องถ่ิน หลักสูตรอาเซียน เศรษฐกิจพอเพียง

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 1 สภาพสมดลุ กับการบรรทกุ
เรอ่ื ง สภาพสมดลุ สินค้าทางการเกษตร

1. อธิบายสมดุลกลของวัตถุ ของเล่นในภมู ิภาคอาเซียน
โมเมนตแ์ ละผลรวมของโมเมนต์ที่มี ท่เี กี่ยวขอ้ งกบั สภาพสมดลุ
ต่อการหมนุ แรงคู่ควบและผลของ
แรงคู่ควบทม่ี ีต่อสมดุลของวตั ถุ
เขียนแผนภาพของแรงท่ีกระทาตอ่
วัตถอุ ิสระเม่อื วตั ถอุ ย่ใู นสมดุลกล
และคานวณปรมิ าณตา่ งๆ ที่
เกี่ยวขอ้ งรวมทั้งทดลองและอธบิ าย
สมดุลของแรงสามแรง

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 2
เร่อื ง ทอรก์ และโมเมนต์คู่
ควบ

1. อธิบายสมดุลกลของวัตถุ
โมเมนต์และผลรวมของโมเมนต์ทมี่ ี
ตอ่ การหมุน แรงคคู่ วบและผลของ
แรงคู่ควบท่ีมีต่อสมดุลของวัตถุ
เขยี นแผนภาพของแรงทก่ี ระทาตอ่
วตั ถอุ ิสระเมอ่ื วตั ถุอยใู่ นสมดุลกล
และคานวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ที่
เกยี่ วข้องรวมทั้งทดลองและอธิบาย
สมดุลของแรงสามแรง

2-9-3

แผนการจดั การเรยี นรู้ / การบูรณาการ การบูรณาการ การบูรณาการหลักปรัชญา
ผลการเรยี นรู้ หลักสตู รท้องถน่ิ หลกั สูตรอาเซียน เศรษฐกจิ พอเพียง

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 3 ภมู ปิ ัญญาพื้นบา้ น ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
เร่อื ง สภาพยืดหยุน่ ทเี่ กี่ยวข้องกับพลังงานกล เรือ่ งความพอประมาณ

2. สงั เกต และอธิบายสภาพการ
เคล่อื นท่ขี องวัตถเุ ม่อื แรงท่ีกระทา
ตอ่ วตั ถผุ า่ นศูนย์กลางมวลของวตั ถุ
และผลของศูนยถ์ ่วงท่ีมตี อ่
เสถียรภาพของวัตถุ

แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 4
เรอ่ื ง งานและกาลงั

4. อธบิ ายและคานวณพลงั งานจลน์
พลังงานศักย์ พลังงานกล ทดลอง
หาความสัมพนั ธร์ ะหว่างงานกบั
พลงั งานจลน์ ความสัมพันธร์ ะหว่าง
งานกับพลังงานศักยโ์ นม้ ถ่วง
ความสัมพันธ์ระหว่างขนาดของแรง
ที่ใชด้ ึงสปรงิ กบั ระยะท่ีสปรงิ ยืดออก
และความสัมพันธ์ระหว่างงานกับ
พลงั งานศกั ย์ยดื หย่นุ รวมทั้งอธิบาย
ความสมั พันธ์ระหว่างงานของแรง
ลพั ธ์และพลังงานจลน์ และคานวณ
งานท่เี กิดขึ้นจากแรงลัพธ์

2-9-4

แผนการจดั การเรียนรู้ / การบูรณาการ การบูรณาการ การบูรณาการหลักปรชั ญา
ผลการเรยี นรู้ หลกั สตู รท้องถน่ิ หลกั สตู รอาเซียน เศรษฐกจิ พอเพียง

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 5 ภูมปิ ญั ญาในภมู ภิ าคอาเซียน
เรอ่ื ง พลังงานกล ที่เกย่ี วขอ้ งกบั พลังงานกล

5. อธิบายกฎการอนรุ ักษ์พลังงาน ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
กล รวมทง้ั วิเคราะห์ และคานวณ เรอื่ ง ความมีเหตผุ ล
ปรมิ าณต่าง ๆ ทีเ่ ก่ยี วขอ้ งกบั การ
เคล่ือนท่ีของวตั ถใุ นสถานการณ์ตา่ ง
ๆ โดยใช้กฎการอนรุ กั ษพ์ ลังงานกล

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 6
เรอื่ ง กฎการอนุรักษ์พลงั งาน

6. อธิบายการทางานประสิทธิภาพ
และการได้เปรยี บเชิงกลของ
เครื่องกลอยา่ งง่ายบางชนดิ โดยใช้
ความรู้เร่อื งงานและสมดุลกล
รวมทัง้ คานวณประสิทธิภาพและ
การได้เปรียบเชงิ กล

2-9-5

แผนการจัดการเรียนรู้ / การบรู ณาการ การบรู ณาการ การบูรณาการหลกั ปรชั ญา
ผลการเรียนรู้ หลักสตู รท้องถ่นิ หลักสูตรอาเซียน เศรษฐกจิ พอเพียง

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 7 การอธิบายปรากฏการณ์ -
เรอ่ื ง โมเมนตัม ทเ่ี กิดขึ้นในท้องถนิ่
7. อธบิ าย และคานวณ ดว้ ยโมเมนตมั
โมเมนตมั ของวัตถุและการ
ดลจากสมการและพน้ื ทใี่ ต้ โมเมนตมั กบั วถิ ชี วี ติ ของ
กราฟความสมั พันธร์ ะหวา่ ง ประเทศในอาเซยี น
แรงลพั ธก์ บั เวลา รวมท้งั
อธบิ ายความสัมพนั ธร์ ะหว่าง
แรงดลกับ
โมเมนตัม

แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 8
เรื่อง การดลและแรงดล
8. ทดลอง อธบิ าย และ
คานวณปรมิ าณต่าง ๆ ที่
เก่ียวกบั การชนของวตั ถุใน
หนึ่งมิติ ทั้งแบบยืดหยนุ่ ไม่
ยดื หย่นุ และการดดี ตวั แยก
จากกัน ในหนง่ึ มติ ซิ งึ่ เป็นไป
ตามกฎการอนุรกั ษ์
โมเมนตมั

2-9-6

แผนการจัดการเรียนรู้ / การบูรณาการ การบูรณาการ การบูรณาการหลกั ปรชั ญา
ผลการเรียนรู้ หลักสตู รท้องถ่นิ หลกั สูตรอาเซียน เศรษฐกิจพอเพยี ง

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 9 โปรเจกไทล์ในทอ้ งถ่นิ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
เร่อื ง การชน เรื่อง การมภี มู คิ ุ้มกัน
8. ทดลอง อธบิ าย และ
คานวณปรมิ าณต่าง ๆ ที่
เกย่ี วกบั การชนของวตั ถุใน
หนงึ่ มติ ิ ท้ังแบบ
ยืดหย่นุ ไม่ยดื หยุ่น และการ
ดดี ตัวแยกจากกนั ในหนึง่ มิติ
ซงึ่ เปน็ ไปตามกฎการอนรุ กั ษ์
โมเมนตมั

แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 10
เรื่อง การเคล่อื นท่ีแบบ
โปรเจกไทล์
อธิบาย วเิ คราะห์ และ
คานวณปรมิ าณต่าง ๆ ท่ี
เกีย่ วขอ้ งกบั การเคล่อื นท่ี
แบบโพรเจกไทล์
และทดลองการเคล่ือนที่
แบบโพรเจกไทล์


Click to View FlipBook Version