พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๔
พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๔
๒. ชาดก
ชาดก เป็นนิทานท่ีมีเน้ื อเร่ืองเก่ียวกับอดีตชาติของพระพุทธเจ้าที่
พระพุทธเจ้าทรงแสดงให้พระสงฆ์สาวกและพุทธศาสนิกชนฟัง เพ่ือใช้อบรม
สั่งสอน โดยมีคติสอนใจท่ีสามารถนาไปปฏิบัติในการดาเนินชีวิตได้ ในชั้นนี้จะได้
ศึกษา ๒ เร่ือง คือ
พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๔
๒.๑ กฏุ ทิ ูสกชาดก (ลิงเกเรกับนกขม้ิน)
ในปา่ ใหญ่แห่งหน่ึง มีนกขม้ินหน่มุ ตัวหน่ึง ทารังอาศัยอยู่บนต้นไม้เป็นท่ี
หลบแดดและฝน อยู่มาวันหน่ึงในฤดฝู น ฝนกาลงั ตกหนกั ใกล้ ๆ กบั รงั นกน้ัน มีลิง
ตัวหน่ึงน่ังเปียกปอนอยู่ท่ีคบไม้ด้วยความหนาว เม่ือทนไม่ได้จึงเข้าไปขออาศัย
หลบฝนทรี่ งั ของนกขม้ิน นกขม้ินจงึ กล่าววา่
พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๔
๒.๑ กฏุ ทิ ูสกชาดก (ลงิ เกเรกบั นกขม้นิ )
“เจ้าลิง หัว มือ เท้าของเจ้าก็มีเหมือนพวก
คน ทาไมเจา้ จึงไม่สรา้ งบ้านเหมือนคนบา้ ง”
ลิงจึงตอบกลับไปว่า “เจ้านกขม้ิน หัว มือ
เท้าของเราเหมือนคนก็จริง แต่ปัญญาท่ีพวกคน
มีเราไม่มี เราจึงสร้างบ้านไม่เป็น” นกขม้ินจึง
กลา่ วตอบไปวา่ “เจ้าจงกลับไปทารังปอ้ งกันความ
หนาวเองเถดิ
พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๔
๒.๑ กฏุ ิทสู กชาดก (ลิงเกเรกบั นกขม้นิ )
ถ้าอาศัยรังเรามันก็พังสิ ทาเช่นน้ันก็เป็นการเบียดเบียนเรา แล้วเจ้าจะมีความสุข
ได้อยา่ งไร”
ลิงได้ฟังก็รู้สึกโกรธ ด้วยความถือดีที่ถูกสอน จึงพูดว่า “เจ้านกตัวเล็ก
บังอาจมาสอนเรา เราจะหักคอเจ้าเสีย” ว่าแล้วจึงกระโจนเข้าใส่หมายจับตัวนกเพ่ือ
ทาร้าย แตน่ กขม้นิ ไหวตัวทนั จึงบนิ หนีไปเสยี กอ่ น
ด้วยความโกรธ ลิงจึงทาลายรังนกขม้ินจนพินาศ เพ่ือระบายความโกรธจน
สมใจ แล้วจงึ จากไป
ชาดกเร่ืองน้ีสอนใหร้ ู้ว่า ผู้มนี ิสยั เกเร ด้ือรนั้ ย่อมไม่ชอบที่จะให้
ผู้อ่ืนสั่งสอน ย่อมชีใ้ หเ้ หน็ วา่ คนพาลแม้เร่ืองทถ่ี กู ก็มองเหน็ ว่าเป็นผิด
พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๔
๒.๒ มหาอุกกุสชาดก (สัตว์สี่สหาย)
ในปา่ ใหญ่แห่งหน่ึง มีสัตว์ ๔ ชนิด อาศัยอยู่รวมกันที่ต้นไม้บริเวณสระน้ า
คือ เหยี่ยวสองผวั เมยี ราชสีห์ พญานกออก และเต่าอยู่ในสระน้า
วันหน่ึงเหย่ียวตัวผู้ได้ขอแต่งงานกับเหย่ียวตัว
เมีย แต่เหย่ียวตัวเมียตอบว่า “พ่ีเหย่ียวท่านจงไปผูก
มิตรกับสัตว์ตัวอ่ืน ๆ ก่อนเถิด การท่ีจะสร้างครอบครัว
ได้น้ัน เราจาเป็นท่ีจะต้องมีมิตรสหายท่ีดีเพ่ือช่วยเหลือ
ยามมีภัยมา” เหยี่ยวตัวผู้จึงทาตามท่ีนางเหย่ียวบอก
หลงั จากผกู มิตรกบั สัตว์ทงั้ สามได้แล้ว เหยี่ยวทั้งสองจึง
ทารงั อยูท่ ่ตี ้นไม้
พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๔
๒.๒ มหาอุกกุสชาดก (สัตว์ส่ีสหาย)
ริมสระน้ า ไม่นานเหย่ียวก็มีลูกนอ้ ย ๒ ตัว วันหน่ึงมีพวกนายพรานออกล่าสัตว์
แต่ล่าสัตว์ไม่ได้เลย นายพรานจึงพักใต้ต้นไม้ริมสระน้ าน้ันและได้ก่อกองไฟเพ่ือ
ป้องกันยุงและสัตว์ร้าย ควันไฟได้รมลูกนกเหยี่ยว ลูกนกเหย่ียวจึงพากันร้องด้วย
ความกลัวกลุ่มนายพรานได้ยินเสียงลูกนกจึงจุดคบไฟ ปีนข้ึนต้นไม้เพ่ือจะเอาลูกนก
มายา่ งกิน
เม่ือรู้ว่าลูกมีภัย พ่อเหยี่ยวจึงรีบบินไปขอความช่วยเหลือจากพญานกออก
พญานกออกก็ยินดีช่วย โดยบินไปเกาะอยู่ท่ีต้นไม้ใกล้ ๆ พอนายพรานถือคบไฟปีน
ต้นไม้จะถึงรังเหยี่ยว พญานกออกก็บินเอาน้ ามาดับไฟ นายพรานก็ลงมาต่อไฟแล้ว
ปีนข้ึนไปอกี เป็นอยูอ่ ย่างนี้จนดกึ จนพญานกออกหมดแรง
พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๔
๒.๒ มหาอกุ กุสชาดก (สตั ว์สี่สหาย)
พ่อเหย่ียวรีบไปหาเต่าให้ช่วย เต่าใหญ่ก็นาโคลนและสาหร่ายจากสระน้ า
ข้ึนมาดับกองไฟ พวกนายพรานเห็นเต่าก็พากันไล่จับ แต่ถูกเต่าลากตกน้ า เม่ือข้ึน
จากน้าไดจ้ ึงกอ่ ไฟข้นึ ใหมแ่ ละคดิ กันวา่ จะรอข้นึ ไปเอาลูกนกในตอนเชา้
เหย่ียวสองผัวเมียเห็นว่ายังไม่ปลอดภัยจึงไปขอให้ราชสีห์ช่วย ราชสีห์รับคา
แล้วเดินไปที่กองไฟ เหล่านายพรานเห็นราชสีห์ก็เกิดความกลัวว่ิงแตกต่ืนหนีไป
นกเหย่ียวขอบคุณน้ าใจไมตรีของพญานกออก เต่า และราชสีห์ท่ีช่วยชีวิตลูกนอ้ ย
ของตนให้รอดพ้นจากอนั ตราย
พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๔
๒.๒ มหาอุกกุสชาดก (สตั วส์ ่สี หาย)
ราชสีห์จงึ กล่าววา่ “ตอ่ ไปนี้เราทัง้ หลายจงสามัคคีกนั และไมป่ ระมาท”
แม่เหยี่ยวมองดูลูกนอ้ ยของตนแล้วพูดข้ึนว่า “เพราะมีเพ่ือนดีเราจึง
ปกปอ้ งลูกของเราไว้ได”้
ชาดกเร่ืองนี้สอนใหร้ ูว้ า่ มติ รแทส้ ามารถช่วยเหลือในยามทุกข์ยามลาบากได้
พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๔
จัดทำ E- book
โดย
นำงสำวอดุ มลักษณ์ ลำเลศิ
เนือหำจำก สถำบนั พฒั นำคุณภำพวชิ ำกำร (พว.)
พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๔