The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

พระพุทธศาสนา ป.5 หน่วยที่ 4

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Udomlug Lamlear, 2021-08-19 12:42:59

พระพุทธศาสนา ป.5 หน่วยที่ 4

พระพุทธศาสนา ป.5 หน่วยที่ 4

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๕

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๕

๑. พระรัตนตรยั

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๕

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๕

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๕

๑.๑ พระพุทธ

พุทธจริยา คือ พระจริยวัตรหรือการบาเพ็ญประโยชน์ที่พระพุทธเจ้าทรง
บาเพ็ญเป็นประจา มี ๓ ประการ ไดแ้ ก่

๑. โลกัตถจริยา คือ การทาประโยชน์ให้แก่ชาวโลกหรือประชาชนทั่วไป
โดยทรงแสดงธรรมโปรดไมเ่ ลือกฐานะของบคุ คลตลอดระยะเวลา ๔๕ พรรษา

๒. ญาตัตถจริยา คือ การทาประโยชนใ์ ห้แก่พระประยุรญาติของพระองค์
ทงั้ ฝา่ ยพระบิดาและพระมารดา

๓. พุทธัตถจริยา คือ การบาเพ็ญประโยชน์ของพระองค์ในด้านเป็นผู้นา
ศาสนา เช่น การประกาศและเผยแผ่พระพุทธศาสนาและการบัญญัติระเบียบวินัย
ให้กบั พระสงฆส์ าวก

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๕

๑.๑ พระพุทธ

พระพทุ ธเจา้ ทรงเผยแผ่พระพทุ ธศาสนา
แกพ่ ระประยุรญาติ

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๕

๑.๒ พระธรรม
อรยิ สัจ ๔

อริยสัจ ๔ คือ หลักธรรมท่ีพระพุทธเจ้าตรัสรู้ เป็นหลักความจริงอันประเสริฐ
๔ ประการ ไดแ้ ก่

๑. ทุกข์ คือ ความไม่สบายกายและใจ สภาพท่ีทนได้ยาก แบ่งออกเป็น
๒ ประเภท ไดแ้ ก่

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๕

๑.๒ พระธรรม

ทุกข์ประจา หรือสภาวทุกข์ คือ การเกิด การแก่ การเจ็บ และการตาย
ซ่งึ ทกุ คนต้องประสบไม่มีใครหลีกพน้ ได้

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๕

๑.๒ พระธรรม

ทุกข์จร หรอื ปกิณณกทุกข์ คือ ทุกขท์ ี่เกิดกับบคุ คลมากนอ้ ยไมเ่ ท่ากนั
เชน่ ความโศกเศร้า ความไมส่ บายกายและใจ ความผิดหวังการพลัดพรากจากส่งิ
อันเป็นท่ีรัก

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๕

๑.๒ พระธรรม

๒. สมุทัย คือ สาเหตุแห่งทุกข์หรือสาเหตุที่ทาให้เกิดทุกข์ ความทุกข์หรือ
ปัญหา ย่อมเกิดจากสาเหตุ สาเหตุที่ทาให้เกิดทุกข์ คือ กิเลส หรือความอยาก
มี ๓ ประการ ไดแ้ ก่

กามตัณหา คือ ความอยากได้ เชน่ อยากร่ารวย อยากมรี ถยนต์
ภวตณั หา คอื ความอยากเป็น เชน่ อยากเป็นนกั กีฬา อยากเป็นายกรฐั มนตรี
วิภวตณั หา คือ ความอยากท่จี ะไมเ่ ป็น เชน่ ไม่อยากเป็นคนจน ไม่อยากเป็น
คนพกิ าร ความอยากเหล่านี้เป็นสาเหตทุ ่ีทาให้เกดิ ทกุ ข์
๓. นิโรธ คอื ความดบั ทุกข์ หรอื ความปราศจากทุกข์ เม่ือรู้สาเหตุท่ีทาให้เกดิ
ทุกข์ เรากด็ ับสาเหตนุ ั้น ความทกุ ขก์ ็ยอ่ มดบั ไปดว้ ย

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๕

๑.๒ พระธรรม

๔. มรรค คือ ขอ้ ปฏบิ ัตใิ ห้ถึงทางดับทุกข์ วธิ กี ารหรือทางแหง่ การดบั ทกุ ข์ เรียกวา่
มชั ฌิมาปฏปิ ทา มอี งคป์ ระกอบ ๘ ประการ ได้แก่

๑) เห็นชอบ หมายถึง ความเหน็ ถูกต้อง เหน็ วา่ ส่ิงใดดสี ่ิงใดช่วั
และเดินไปในทางที่ถกู

๒) ดารชิ อบ หมายถึง คิดแต่ส่ิงท่ีดีงาม ไม่คิดเบียดเบยี นใคร
๓) เจรจาชอบ หมายถงึ การไม่พดู โกหก ไมพ่ ูดนินทาว่ารา้ ยผอู้ ่นื
๔) การงานชอบ หมายถึง การทางานโดยสุจรติ โดยใช้ความสามารถของตนเอง
๕) การเลีย้ งชีพชอบ หมายถงึ การประกอบอาชพี ทส่ี ุจรติ ไมค่ ดโกง
๖) เพียรพยายามชอบ หมายถึง ความเพียรพยายามในการสร้างความดี
๗) ระลึกชอบ หมายถงึ มสี ตริ ะมดั ระวังไม่หลงลืม
๘) ตง้ั ใจชอบ หมายถงึ การฝึกให้มีจิตใจสงบ มีสมาธิ ไมฟ่ งุ้ ซ่าน

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๕

หลักกรรม

กรรม หมายถึง การกระทาทางกาย วาจา และใจที่ประกอบด้วยเจตนา คือ
ความตัง้ ใจ หลักความเช่ือในเร่ืองกรรมตามหลักคาสอนของพระพุทธเจ้า เช่น คนเราจะ
ดีหรือช่วั อยู่ท่ีการกระทา ทาดีได้ดี ทาชว่ั ไดช้ ่วั

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๕

พระพทุ ธศาสนาสอนว่า กรรมเป็นต้นเหตขุ องความเป็นไปต่าง ๆ ในชีวิต
บุคคลใดทากรรมใดไวจ้ ะเป็นผู้ไดร้ บั ผลแหง่ กรรมนนั้

การตงั้ ใจศึกษาเล่าเรียนจะทาให้ประสบความสาเร็จในการศึกษา

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๕

๑.๓ พระสงฆ์

พระสงฆ์ คือ หมู่พุทธสาวก ผู้ปฏิบัติตามหลักธรรมคาสอนของ
พระพุทธเจ้า ถือศีล ๒๒๗ ข้อ เผยแผ่หลักธรรมคาสอนแก่พุทธศาสนิกชน
และเป็นผทู้ สี่ ืบทอดพระพทุ ธศาสนา

พระสงฆ์เผยแผ่หลักธรรมคาสอน พระสงฆ์ศึกษาและปฏบิ ัตติ ามหลัก
ของพระพุทธศาสนา ธรรมคาสอนของพระพทุ ธศาสนา

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๕

๑.๓ พระสงฆ์
การแสดงความเคารพบชู าพระรตั นตรัย

พุทธศาสนิกชนควรแสดงความเคารพบูชาพระรัตนตรัย อันเป็นส่ิงสาคัญ
สูงสุดของพระพุทธศาสนา โดยการกราบไหว้บูชา และนาหลักธรรมคาสอนมา
ปฏิบัติในการดาเนินชีวติ

การแสดงความเคารพในพระรตั นตรยั

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๕

๒. ไตรสกิ ขา

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๕

ไตรสิกขา หมายถึง หลักธรรมที่ใช้ฝึกอบรมพฤติกรรม จิตใจ และ
สติปัญญา ใหพ้ ัฒนามี ๓ ประการ ได้แก่

๑. อธิสีลสิกขา หรือศีล คือ การฝึกฝนพัฒนาด้านพฤติกรรม หมายถึง
การพัฒนาพฤติกรรมทางกาย และวาจาให้เรียบร้อย ถูกต้องดีงาม มีระเบียบวินัย
งดเว้นการทาร้ายและการเบยี ดเบียนผูอ้ ่ืน

๒. อธิจิตตสิกขา หรือสมาธิ คือ การฝึกฝนพัฒนาด้านจิตใจให้สงบมั่นคง
แน่วแน่

๓. อธิปัญญาสิกขา หรือปัญญา คือ การฝึ กฝนพัฒนาด้านปัญญา
ใหเ้ กดิ ความรู้ ความเข้าใจในส่ิงทง้ั หลายตามความเป็นจรงิ

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๕

หลักปฏิบัตทิ ้ัง ๓ ข้อ จะเกี่ยวเน่ืองสัมพันธ์กัน คือ เม่ือปฏิบัติข้อแรกสมบูรณช์ ีวิต
ก็จะเป็นสุข เม่ือเกิดความสุขก็จะเป็นฐานทาให้ฝึกสมาธิได้ง่าย เม่ือจิตน่ิงสงบจึง
ทาให้เกิดปัญญาซ่ึงเป็นเคร่ืองช่วยให้หลุดพ้นจากความทุกข์ ไตรสิกขาจึงเป็น
หลกั ปฏิบตั ทิ ส่ี าคัญท่ีจะชว่ ยในการดบั ทกุ ข์

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๕

๓. โอวาท ๓

โอวาท หมายถึง คาแนะนา คาตกั เตือน คากลา่ วสอน
โอวาท ๓ เป็นหลักธรรมคาสอนของพระพุทธเจ้า ซ่ึงถือเป็นหัวใจของ
พระพุทธศาสนา ได้แก่ การไม่ทาความช่ัว การทาความดี และการทาจิตใจให้
ผอ่ งใสบริสุทธ์ิ

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๕

๓.๑ การไมท่ าความช่ัว

หลกั ธรรมที่เกย่ี วขอ้ งกบั การไมท่ าความช่วั ไดแ้ ก่ เบญจศีล อบายมุข ๔
อคติ ๔

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๕

๑. เบญจศลี ๑) เวน้ จากการฆา่ สตั ว์หรอื
เบยี ดเบียนชวี ิต
เบญจศีล หรอื ศลี ๕ หมายถงึ ๒) เว้นจากการลกั ทรพั ย์
ขอ้ ห้าม ข้อควรงดเวน้ ๕ ประการ ๓) เวน้ จากการประพฤติผดิ ในกาม
๔) เวน้ จากการพูดเทจ็ พดู ส่อเสยี ด
พระพทุ ธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ พดู คาหยาบ พดู เพอ้ เจอ้
ในวนั มาฆบูชาแกพ่ ระสงฆ์ ๑,๒๕๐ องค์ ๕) เวน้ จากการด่ืมสรุ า หรอื เสพ
สารเสพติดต่าง ๆ อันเป็นทต่ี ้ังแหง่
ความประมาท

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๕

๒. อบายมุข ๔

อบายมุข ๔ หมายถึง ทางแห่งความฉิบหาย ทางแห่งความเส่ือม สาเหตุ
ใหถ้ ึงความเส่อื ม ๔ ประการ ได้แก่

๑) การเป็นนกั เลงหญิง คือ ประพฤติตนเป็นคนเจา้ ชู้ มกั มากในกาม ทาให้
ครอบครวั แตกแยก เสียทรัพย์ เป็นโรคตดิ ต่อ

๒) การเป็นนักเลงสุรา คือ การชอบด่ืมของมึนเมาต่าง ๆ หรือเสพ
สารเสพติดใหโ้ ทษ ทาให้ร่างกายเส่อื มโทรม เสยี ทรพั ย์

๓) การเป็นนักเลงการพนัน คือ การชอบเล่นการพนัน ทาให้เสียทรัพย์
เกิดหน้ีสนิ

๔) การคบคนชั่วเป็นมิตร คือ การคบหาคนชั่วเป็นเพ่ือน ซ่ึงคนชั่วย่อม
ชกั นาไปในทางท่ไี มด่ ี นาไปในทางท่เี ส่ือมเสีย

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕

๓. อคติ ๔

อค ติ หมา ยถึง กา ร ปร ะพ ฤติ ผิดด้ว ยค ว า มลา เ อียง ไม่เ ป็ น ธ ร ร ม
มี ๔ ประการ ได้แก่

๑) ฉันทาคติ ลาเอียงเพราะรกั ใคร่ชอบพอกัน เช่น พัชราภาเป็นคนข้ีเกียจ
ไม่รับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมาย เม่ือมีการเลือกหัวหนา้ ห้อง พัชราภากลับ
ได้รบั เลือกเพราะเพ่ือน ๆ ของเธอชว่ ยเหลอื

๒) โทสาคติ ลาเอียงเพราะไม่ชอบพอกัน ลาเอียงท้ังท่ีผู้น้ันไม่ได้ทา
ความผิด เช่น พจนีย์ซ่ึงเป็นหัวหนา้ กลุ่มไม่ชอบภัทรพร เม่ือแจกของให้เพ่ือน
ในกล่มุ พจนียก์ แ็ จกให้แก่คนอ่นื แตไ่ ม่แจกใหภ้ ัทรพร

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๕

๓. อคติ ๔ (ตอ่ )

๓) โมหาคติ ลาเอียงเพราะโง่เขลา คือ การทาลงไปเพราะความไม่ฉลาด
ของบุคคลน้ัน คอยให้ผู้อ่ืนชักจูงอยู่ตลอด เช่น มะลิชอบเข้าข้างแก้วตา
เม่ือแก้วตาบอกว่าเพ่ือนคนไหนนิสัยไม่ดีมะลิก็จะเช่ือโดยไม่ได้คิดไตร่ตรอง
ใหร้ อบคอบ

๔) ภยาคติ ลาเอยี งเพราะกลวั คือ ความกลัวว่าจะมีภัยมาถึงตัวจึงเกิดความ
ลาเอียง เช่น ตารวจเห็นคนทาความผิดแต่ไม่จับคนผิดมาลงโทษเพราะกลัวว่า
ผทู้ ่ที าเป็นผมู้ ีอานาจและอาจจะทาให้เกดิ ภัยตอ่ ตนเองได้

อคติ ๔ เป็นส่ิงที่ทาให้เกิดความลาเอียง ความไม่ยุติธรรม สังคมใดท่ีมี
ผปู้ กครองไม่มีความยตุ ธิ รรม สังคมนัน้ ก็จะเกดิ ความสบั สนว่นุ วาย

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๕

๓.๒ การทาความดี

ห ล ั ก ธ ร ร ม ท่ี เ ก่ี ย ว ข้ อ ง ก ั บ ก า ร ท า ค ว า ม ดี ไ ด้ แ ก่ เ บ ญ จ ธ ร ร ม
บุญกิรยิ าวตั ถุ ๓ อิทธบิ าท ๔ และความกตญั ญูกตเวทีต่อพระพุทธศาสนา มงคลชีวิต

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๕

๑. เบญจธรรม เบญจธรรม

หมายถึง ข้อควรปฏิบัติ ในการทาความดี ๕ ประการ

ได้แก่

๑) เมตตากรุณา คือ ความรัก ความปรารถนาดีต่อ

ผูอ้ ่นื

๒) สมั มาอาชวี ะ คือ การประกอบอาชพี สจุ ริต

๓) กามสังวร คือ การสารวมในกาม ยินดีในคู่ครอง

ของตน

๔) สจั จะ คือ การพูดความจรงิ

ความเมตตากรณุ า ๕) สติสัมปชัญญะ คือ ความระลึกได้และความรู้ตัว

และความปรารถนาดีตอ่ ผู้อ่ืน รู้ว่าส่งิ ใดควรทาส่งิ ใดไมค่ วรทา

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๕

๒. บญุ กิริยาวัตถุ ๓

บุญกิริยาวัตถุ ๓ หมายถึง หลักการทาบุญอันเป็นท่ีสาเร็จผลแห่งความสุข
คาวา่ บุญ คอื ความดี ทาแลว้ ก่อใหเ้ กิดความสุขกายและใจ มี ๓ ประการ ได้แก่

๑) ทานมัย บุญสาเร็จด้วยการให้หรือการบริจาค คือ การทาบุญด้วยการ
สงเคราะห์แก่ผู้ยากไร้ เช่น การให้เส้ือผ้า อาหาร ที่พักพิง ยารักษาโรค
นอกจากน้ัน การให้อภัยซ่ึงกันและกันก็ถือว่าเป็นบุญเช่นกัน ผลที่ได้จากการให้
คอื เป็นท่รี กั ของคนทัว่ ไป ดงั พทุ ธศาสนสภุ าษติ ทว่ี า่ ผูใ้ หย้ ่อมเป็นท่ีรัก

๒) สีลมัย บุญสาเร็จด้วยการรักษาศีล คือ การทาบุญด้วยการรักษาศีล ๕
การประพฤติดี เป็นการรกั ษากาย วาจา ใจใหเ้ รยี บรอ้ ย

๓) ภาวนามัย บุญสาเร็จด้วยการภาวนา คือ การทาบุญด้วยการสวดมนต์
น่ังสมาธิ ทาจิตใจใหส้ งบ ใช้ปัญญาพจิ ารณาให้เหน็ ส่ิงตา่ ง ๆ ตามความเป็นจรงิ

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๕

๒. บญุ กริ ิยาวตั ถุ ๓

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๕

๓. อทิ ธบิ าท ๔

อิทธิบาท หมายถึง เคร่ืองมือทาให้บรรลุถึงความสาเร็จในการทางาน
มี ๔ ประการ ไดแ้ ก่

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๕

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๕

๓. อิทธบิ าท ๔

อิทธบิ าท ๔ สรุปได้ง่าย ๆ ดงั นี้

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๕

๔. กตัญญูกตเวทีตอ่ พระพุทธศาสนา

จากการศึกษาพุทธประวัติ ทาให้เราได้ทราบว่าพระพุทธเจ้าทรงเป็นผู้ท่ีมี
ความเสียสละ โดยได้อุทิศพระองค์เพ่ือแสวงหาหลักธรรมจนค้นพบ และเผยแผ่
พระพุทธศาสนา เพ่ือให้พุทธศาสนิกชนนาหลักธรรมไปปฏิบัติในการดาเนินชีวิต
เพ่อื ให้เกิดความสงบสขุ

ในประเทศไทยประชากรส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนา จึงทาให้เมืองไทย
กลายเป็นเมืองพุทธ ผู้คนอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ไม่เบียดเบียน ไม่เกิดความ
แตกแยกกันเพราะหลักธรรมในพระพุทธศาสนาสอนให้พุทธศาสนิกชนเป็นคนดี
มีจิตเมตตา

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๕

๔. กตัญญูกตเวทีตอ่ พระพทุ ธศาสนา

นอกจากนั้น ประเพณี วัฒนธรรมอันดีงาม

ส่ ว น ใ ห ญ่ ข อ ง ไ ท ย มี ร า ก ฐ า น ม า จ า ก

พระพุทธศาสนา ทาให้ศิลปวัฒนธรรมไทยเป็น

เอกลักษณ์เฉพาะตัวท่ีได้รับการยกย่องจาก

ชาวต่างชาติ

ดังน้ัน ชาวพุทธควรมีความกตัญญูต่อ

พระพุทธศาสนา โดยการยึดม่ันปฏิบัติตาม

ห ล ั ก ธ ร ร ม ค า ส อ น แ ล ะ ช่ ว ย ก ั น เ ผ ย แ ผ่

พระพทุ ธศาสนาให้เป็นทรี่ จู้ ักโดยกว้างขวาง การทาบญุ ตกั บาตรของชาวพุทธ

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๕

๕. มงคลชวี ิต

มงคลชีวิต คือ เหตุแห่งความสุขและความเจริญก้าวหน้าของชีวิตเป็น
หลักคาสอนทพี่ ระพุทธเจ้าทรงแสดงไวเ้ ป็นข้อควรประพฤติปฏบิ ัติ มีอยู่ ๓๘ ประการ
ในช้ันน้ีจะไดศ้ ึกษา ๓ ประการ คือ

๑) ใฝร่ ู้ ใฝเ่ รยี น
ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน คือ ความตั้งใจที่จะเรียนรู้ หรือสนใจใคร่รู้ในส่ิงต่าง ๆ ผู้ท่ีมี

ความรู้มีโอกาสที่จะสร้างความเจริญให้แก่ชีวิตและสังคมได้ วิชาความรู้จึงเป็น
ส่ิงจาเป็นสาหรับทุกคน ผู้จะมีความรู้ได้ต้องเป็นผู้มีนิสัยสนใจเล่าเรียนรู้จักเลือก
เรียนในส่ิงท่ีควรรู้ มีนิสัยชอบฟัง ชอบอ่าน ชอบค้นคว้า และมีความกระตือรือร้น
ท่ีจะศึกษาหาความรู้เพ่ิมเติมอยู่เสมอ ความสนใจใฝ่รู้จึงเป็นส่ิงท่ีนาความ
เจริญก้าวหนา้ มาให้แก่ทกุ คน

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๕

๕. มงคลชวี ติ

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๕

๒) การงานไมอ่ ากลู
อากลู แปลว่า คงั่ ค้าง การทางานไมอ่ ากูล คอื การทางานไม่คั่งค้าง
การทางานไม่ค่ังค้าง คือ การมีความรับผิดชอบ ทางานที่ได้รับมอบหมาย

ให้สาเร็จตามเวลาที่กาหนด ลักษณะของคนที่มีความรับผิดชอบต่องาน คือ มีนิสัย
ไม่ผัดวนั ประกนั พรุ่ง ไม่เกียจครา้ น มนี ิสยั รักงาน มีความพากเพียรไม่ท้อถอย

มีความรบั ผิดชอบ ไม่มคี วามรับผิดชอบ

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๕

๓) ความอดทน
ความอดทนมาจากคาว่า ขันติ คือ มีความอดทนตรากตราทางาน ทนความเหน่ือยยาก

และทนความลาบากต่าง ๆ ความอดทนแบ่งออกได้ ดงั น้ี
(๑) อดทนต่อความลาบากตรากตราต่าง ๆ เช่น อดทนต่อสภาพทางธรรมชาติเวลา

ทางาน คอื ความรอ้ น ความหนาว ฝนตก แดดออก
(๒) อดทนต่อความเจบ็ ปวดตา่ ง ๆ เชน่ ความไมส่ บายกายของเรา ความเจบ็ ไขไ้ ดป้ ว่ ย
(๓) อดทนต่อความเจ็บใจ คือ การอดทนต่อความโกรธความไม่พอใจ ความขัดใจ

ซ่ึงเกิดจากการกระทาของผู้อ่ืน
(๔) อดทนต่ออานาจกิเลส คือ การอดทนต่อความอยากต่าง ๆ เช่น ความอยากได้

ความอยากมี ความอยากเป็น
ผู้ที่มีความอดทนอดกล้ันต่อส่ิงต่าง ๆ เป็นที่รักของผู้อ่ืนมีความสาเร็จในการเล่าเรียน

หรือในการงานตา่ ง ๆ ชวี ิตก็จะพบแต่ความสุข

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๕

๓.๓ การทาจติ ใจให้ผ่องใสบรสิ ุทธ์ิ

เม่ือละเว้นการทาความช่ัว ทาความดีให้
ถึงพร้อมแล้ว ส่ิงสาคัญอีกประการหน่ึ ง คือ
การทาจิตใจให้บริสุทธ์ิปราศจากส่ิงเศร้าหมอง
ซ่ึงจะส่งผลให้เกิดความสุข การบริหารจิตเจริญ
ปัญญาด้วยการสวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ
จะช่วยให้มจี ิตใจสงบ เกดิ สมาธิ

หากพุทธศาสนิกชน ปฏิบัติตนตามหลัก
โอวาท ๓ กส็ ามารถทาให้จิตใจผอ่ งใสบริสุทธ์ิ

การนง่ั สมาธเิ พ่อื ใหจ้ ิตใจสงบ

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๕

๔. พุทธศาสนสภุ าษติ

พุทธศาสนสุภาษิต หมายถึง สุภาษิตทางพระพุทธศาสนาที่เป็นคติสอนใจ
ใหก้ ระทาความดี พทุ ธศาสนสภุ าษติ ท่คี วรศกึ ษาในชั้นนี้ ได้แก่

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๕

๔.๑ วริ ิเยน ทุกขฺ มจฺเจติ (อ่านวา่ ว-ิ ร-ิ เย-นะ-ทุก-ขะ-มดั -เจ-ต)ิ

แปลวา่ คนจะผ่านพ้นความยากลาบากได้เพราะความเพยี ร

ความเพียร หมายถึง ความพยายาม ความมุมานะ อดทนทาส่ิงใดส่ิงหน่ึงให้สาเร็จ
คนเราเกิดมาต่างก็มีหนา้ ที่ที่จะต้องทาเหมือนกันหมด ในการทาหนา้ ที่นั้นบางคร้ังต้อง
ประสบกับความลาบากหรือปัญหาต่าง ๆ จนเกิดความท้อแท้ หมดกาลังใจ แต่ในทาง
พระพทุ ธศาสนาสอนใหเ้ รารูว้ า่ ปัญหาทกุ อย่างมไี ว้แก้

การทางานด้วยความเพยี ร วธิ ีแกค้ ือใช้ความเพยี ร อดทนทาหนา้ ทนี่ น้ั ให้สาเร็จ
สร้างกาลังใจให้มุ่งมั่น ทาให้ดีท่ีสุดเต็มความสามารถ
ถ้าเราไม่มีความเพียรปัญหาต่าง ๆ ก็จะเพ่ิมพูนข้ึนเร่ือย ๆ
ส่ิงที่ตามมาก็คือความล้มเหลวในชีวิตน่ันเอง ความเพียร
จึงเป็นหลักธรรมสาคัญที่ช่วยเก้ือหนนุ เราให้ฟันฝา่ ปัญหา
หรอื ความลาบากตา่ ง ๆ ให้ลลุ ว่ งไปได้ดว้ ยดี

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๕

๔.๒ ปญฺญา โลกสฺมิ ปชโฺ ชโต (อา่ นวา่ ปัน-ยา-โล-กัด-สะ-มิ-ปัด-โช-โต)

แปลวา่ ปัญญา คือ แสงสว่างในโลก

ปัญญา หมายถึง ความรอบรู้ในวิชาการต่าง ๆ ปัญญาเป็นส่ิงสาคัญท่ีทาให้เรา

แก้ปัญหาต่าง ๆ และสามารถบรรลจุ ุดมงุ่ หมายในทางที่ดีได้

ปั ญ ญ า ห รื อ ค ว า ม ร อ บ รู้ เ กิ ด จ า ก ก า ร ศึ ก ษ า

เล่าเรียนในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นวิชาความรู้

ท า ง โ ล ก เ พ่ื อ ใ ช้ ใ น ก า ร เ ล้ี ย ง ชี วิ ต ห รื อ วิ ช า

ความรู้ทางธรรมเพ่ือใช้เป็นแนวปฏิบัติในทาง

ท่ดี ี ความรเู้ หลา่ น้ีถา้ เราเรยี นใหล้ กึ ซ้งึ ร้จู ริงกจ็ ะมี

ประโยชน์ เปรียบเหมือนแสงสว่างที่ส่องนาทาง

ให้เราไปถึงเสน้ ทางทม่ี งุ่ หวงั ไว้ การแสวงหาวิชาความรู้

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๕

๕. หลักธรรมเพ่ือพฒั นาตนเองและส่งิ แวดล้อม

โอวาท ๓ เป็นหลักธรรมที่ถือว่าเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา และเป็น
หลักธรรมท่ีสามารถใช้ในการพฒั นาตนเองและส่ิงแวดล้อมได้

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๕

๕.๑ หลกั ธรรมเพ่ือพัฒนาตนเอง

หลักธรรมในพระพุทธศาสนามีเป้าหมายเพ่ือการพัฒนาตนเองท้ังส้ิน เช่น
หลกั ไตรสกิ ขา ทมี่ ีเปา้ หมายในเร่ืองการพัฒนากาย พัฒนาจติ โดยการไม่ทาความช่ัว
ทาแต่ความดี ฝึกฝนใหม้ ีสติสัมปชัญญะและพัฒนาปัญญา ให้สามารถแก้ปัญหาและ
พัฒนาชีวิตใหเ้ ป็นคนดี เพ่ือนาไปสู่การเผ่อื แผม่ อบใหผ้ ู้อ่ืนเป็นลาดับต่อไปตามหลัก
ประโยชน์ ๓ คือ พัฒนาตนเป็นเบ้ืองต้น แล้วนาส่ิงที่ตนพัฒนาได้แล้วไปทา
ประโยชนใ์ หก้ ับคนรอบขา้ ง และทา้ ยที่สุด คือ บาเพ็ญประโยชนใ์ หก้ บั สว่ นรวม

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕

๕.๒ หลักธรรมเพ่อื การพัฒนาส่งิ แวดลอ้ ม

ส่ิงแวดล้อม คือ ส่ิงต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ สังคม
การเมือง และส่ิงแวดล้อมต่าง ๆ จะดีหรือไม่ดีข้ึนอยู่กับการกระทาของผู้ที่อยู่ใน
ชุมชน การปฏิบัติตนตามหลักธรรมโอวาท ๓ เพ่ือพัฒนาตนเองให้เป็นคนดี
มีสติสัมปชัญญะ รู้ว่าส่ิงใดควรทา ส่ิงใดไม่ควรทา ปฏิบัติตามกฎระเบียบของชุมชน
จะชว่ ยให้สงั คมเกิดความสงบสุข

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๕

๖. หลักธรรมคาสอนของศาสนาตา่ ง ๆ

ศาสนาทุกศาสนามีหลักธรรมคาสอนที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ
ใ ห้ ศ า ส นิ ก ช น ทุ ก ค น ป ฏิ บ ั ติ ต น เ ป็ น ค น ดี ล ะ เ ว้ น จ า ก ก า ร ท า ค ว า มช ่ั ว
ถ้าศาสนิกชนทุกคนปฏิบัติตนตามหลักธรรมคาสอนของศาสนาท่ีตนเองนับถือ
จะสง่ ผลใหส้ ังคมเกดิ ความสงบสุข

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕

๖.๑ หลักคาสอนของศาสนาอสิ ลาม

หลกั คาสอนท่สี าคญั ของศาสนาอสิ ลาม ไดแ้ ก่
๑. หลกั ศรัทธา ๖ ประการ
๑) ศรัทธาในพระเจา้ (อลั ลอฮ์) แต่เพยี งพระองคเ์ ดียว
๒) ศรัทธาในเทวทูต เทวทูต คือ ผู้เป็นส่ือกลางทาหนา้ ท่ีติดต่อระหว่าง

พระเจ้ากับศาสดา
๓) ศรัทธาในพระคัมภีร์ คัมภีร์อัลกุรอานเป็นคัมภีร์ที่พระเจ้าประทานมา

โดยผ่านเทวทตู สนู่ บีมฮุ ัมมัด

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๕

๖.๑ หลกั คาสอนของศาสนาอสิ ลาม

๑. หลักศรัทธา ๖ ประการ (ต่อ)
๔) ศรัทธาในศาสนทูต ศาสนทูตคือผู้ที่พระเจ้าเลือกสรรมาเพ่ือนาสารของ

พระองค์มาสัง่ สอนประชาชน
๕) ศรัทธาในวันพิพากษาโลก ศาสนาอิสลามยอมรับในวันอวสานของโลก

ซ่ึงเม่ือถึงวันนั้นพระเจ้าจะเสด็จมายังโลกเพ่ือพิพากษาการกระทาของมนุษย์ตาม
กรรมดี กรรมช่ัวทีไ่ ดท้ าไว้

๖) ศรัทธาในกฎกาหนดสภาวการณ์ มุสลิมเช่ือว่า พระเจ้าเป็นผู้กาหนด
ชะตาชีวิตของมนษุ ย์ ไม่มีผใู้ ดฝา่ ฝืนได้

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๕

๖.๑ หลักคาสอนของศาสนาอสิ ลาม

๒. หลกั ปฏบิ ตั ิ ๕ ประการ
๑) การปฏิญาณตน เป็นการประกาศตนยอมรับด้วยศรัทธา และบริสุทธ์ิใจ

ในพระอัลลอฮ์ การปฏิญาณตนน้ีจะกล่าวว่า “ไม่มีพระเจ้าอ่ืนนอกจากอัลลอฮ์และ
มุฮมั มัด คือ ศาสนทูตแห่งพระองค์”

๒) การละหมาด เป็นการนมัสการพระเจ้าหรือ
การแสดงความเคารพต่อพระเจ้า ทั้งทางกาย วาจา ใจ
โดยจะปฏิบัติวันละ ๕ เวลา คอื ย่ารุง่ เวลาเที่ยง เวลาเย็น
เวลาพลบค่า เวลากลางคนื

การประกอบพิธีละหมาด
ของชาวมสุ ลิมในมัสยดิ

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๕


Click to View FlipBook Version