The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

พระพุทธศาสนา ป.6 หน่วยที่ 7

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Udomlug Lamlear, 2021-09-15 12:34:33

พระพุทธศาสนา ป.6 หน่วยที่ 7

พระพุทธศาสนา ป.6 หน่วยที่ 7

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๖

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๖

๑. ศาสดาของศาสนาตา่ ง ๆ

ในประเทศไทยมีศาสนาต่าง ๆ ท่ีคนไทยนับถือ เช่น พระพุทธศาสนา
ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู โดยพระมหากษัตริย์ทรงเป็น
องค์อุปถัมภ์ของทุกศาสนา ดังนั้น นักเรียนจึงควรศึกษาประวัติความเป็นมาและ
องคป์ ระกอบของศาสนาต่าง ๆ เพ่ือให้เกิดความเข้าใจในแต่ละศาสนา

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๖

๑.๑ พระพทุ ธศาสนา

พระพุทธศาสนาเกิดข้ึนที่ประเทศอินเดีย ต่อมาพระพุทธศาสนาได้เผยแผ่

ไปยังดินแดนต่าง ๆ รวมทั้งดินแดนในสุวรรณภูมิ ซ่ึงเป็นท่ีตั้งของประเทศไทย

ในปัจจุบันพระพุทธศาสนาจงึ เป็นศาสนาทค่ี นไทยส่วนใหญ่นับถือ

ศาสดาของพระพุทธศาสนา คือ พระพุทธเจ้า

มีพระนามเดมิ วา่ เจา้ ชายสทิ ธัตถะ พระองค์ทรงเสด็จ

ออกผนวช เม่ือพระชนมายุ ๒๙ พรรษา ในคืนท่ี

พระโอรสประสูติ หลังจากเสด็จออกผนวช พระองค์

ทรงบาเพ็ญเพียรด้วยวิธีการต่าง ๆ เป็นเวลา ๖ ปี

จึงตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในวันเพ็ญข้ึน พระพุทธเจ้าศาสดา

๑๕ ค่า เดือน ๖ เม่อื พระชนมายุได้ ๓๕ พรรษา ของพระพุทธศาสนา

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๖

เม่อื ตรัสรแู้ ลว้ พระพทุ ธเจ้าทรงเผยแผ่หลกั ธรรมทพ่ี ระองคไ์ ด้ตรัสรู้ โดย
เสด็จไปโปรดปัญจวัคคีย์ ณ อิสิปตนมฤคทายวัน จนกระท่ังเกิดดวงตาเห็นธรรม
และทูลขออุปสมบทเป็นพระสงฆ์สาวกของพระพุทธศาสนา จากนั้นพระองค์ได้
เผยแผ่ศาสนาไปยังท่ีต่าง ๆ จนมีผู้เล่ือมใสและหันมานับถือพระพุทธศาสนา
จานวนมาก

พระพุทธเจ้าทรงเผยแผ่พระพุทธศาสนา เป็นเวลา ๔๕ พรรษา ในระหว่าง
ที่ทรงจาพรรษาสุดท้ายท่ีเมืองเวสาลี พระพุทธเจ้าทรงตัดสินพระทัยปลงอายุ
สงั ขารในวนั ข้ึน ๑๕ ค่า เดือน ๓

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๖

หลังจากทรงปลงอายุสังขารแล้วพระองค์ทรงเผยแผ่พระพุทธศาสนา
ต่อไป ขณะเดินทางมาถึงสาลวโนทยานของพระเจ้ามัลลกษัตริย์ แห่งเมือง
กุสินารา พระองค์จึงตรัสให้พระอานนท์จัดที่ประทับระหว่างต้นสาละท้ัง ๒ ต้น
เพ่ือบรรทม ขณะนั้นสุภัททปริพาชก ได้ทราบข่าวว่าพระพุทธเจ้าเสด็จมาจึงรีบไป
เข้าเฝ้าเพ่ือทูลถามข้อสงสัย แต่พระอานนท์ได้คัดค้านไม่ให้เข้าเฝ้า สุภัททะ
อ้อนวอนขอเข้าเฝ้าให้ได้ พระพุทธเจ้าทรงได้ยินจึงตรัสอนุญาต เม่ือสุภัททะได้
โอกาสเข้าเฝ้าจึงทูลถามปัญหาท่ีข้องใจมานาน พระพุทธเจ้าทรงตอบปัญหาน้ัน
และแสดงธรรมให้ฟัง เม่ือสุภัททะฟังแล้วจึงเกิดความเล่ือมใสทูลขออุปสมบท
พระสุภัททะจึงเป็นปัจฉิมสาวก (สาวกท่พี ระพุทธเจ้าอุปสมบทใหเ้ ป็นองคส์ ดุ ทา้ ย)

พระพุทธเจ้าได้เสด็จดับขันธปรินิ พพาน ในวันเพ็ญข้ึน ๑๕ ค่า
เดือน ๖ ก่อนพทุ ธศักราช ๑ ปี ขณะพระชนมายไุ ด้ ๘๐ พรรษา

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๖

หลังจากพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว ได้มีการร่วมกันประกอบ
พิธีถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ ณ มกุฏพันธนเจดีย์ เมืองกุสินารา เป็นเวลา ๗ วัน
และถวายพระเพลิงในวันแรม ๘ ค่า เดือน ๖ หรือวันอัฐมีบูชา หลังจากน้ันจึงได้มีการ
แบ่งพระบรมสารรี ิกธาตุแกก่ ษตั รยิ เ์ มอื งตา่ ง ๆ เพ่ือนาไปประดิษฐานยังเมืองของตน

พธิ ถี วายพระเพลงิ พระพทุ ธสรรี ะ

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๖

๑.๒ ศาสนาอสิ ลาม

ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาท่ีสาคัญศาสนาหน่ึงของโลก เกิดข้ึนท่ีนครมักกะฮ์
(บางแห่งใช้นครเมกกะ) ประเทศซาอุดีอาระเบีย เป็นศาสนาที่คนไทยส่วนหน่ึง
นับถือ โดยเฉพาะในภาคใต้ของประเทศไทย

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๖

ศาสดาของศาสนาอิสลาม คือ มุฮัมมัด เป็นชาวอาหรับ ท่านเกิดที่นคร-
มักกะฮ์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย เม่ือ ค.ศ. ๕๗๐ เป็นบุตรของอับดุลลอฮ์และ
นางอามีนะฮ์ ท่านกาพร้าตั้งแต่เด็กจึงได้อยู่ในความดูแลของลุงจนกระท่ังโตข้ึน
ท่านได้แต่งงานกับนางเคาะดีญะฮ์ ซ่ึงเป็นเจ้าของกิจการค้าขายในนครมักกะฮ์
และมีบุตรธิดาด้วยกัน ๖ คน มุฮัมมัดเป็นผู้ที่ฝักใฝ่ในทางศาสนา ท่านมักจะไป
บาเพ็ญสมาธิท่ีถ้าฮิรอฮ์บนภูเขานูร์ ในคืนหน่ึงของเดือนเราะมะฎอน กาเบรียล
ทูตของพระเจ้า คือ อัลลอฮ์ ได้นาโองการของพระเจ้ามาประทานแก่มุฮัมมัด
ท่านจึงได้นาคาสอนเหล่านี้มาเผยแผ่จนเกิดเป็นศาสนาอิสลามข้ึน โดยเร่ิมแรก
ท่านได้ประกาศศาสนาอย่างลับ ๆ แก่ญาติและคนใกล้ชิด เป็นเวลา ๓ ปี แล้ว
จึงเร่ิมประกาศศาสนาอย่างเปิดเผย มุฮัมมัดเผยแผ่ศาสนาเป็นเวลา ๒๓ ปี และ
ส้นิ ชวี ติ เม่ืออายุ ๖๓ ปี

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๖

๑.๓ ศาสนาคริสต์

ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาสาคัญท่ีคนท่ัวโลกส่วนใหญ่นับถือ เกิดข้ึนใน
ดินแดนปาเลสไตน์ (ประเทศอสิ ราเอลในปัจจบุ นั )

พระเยซศู าสดาของศาสนาคริสต์

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๖

ศาสดาของศาสนาคริสต์ คือ พระเยซู ซ่ึงเป็นชาวยิว ท่านเกิดเม่ือ
ค.ศ. ๑ (คริสต์ศักราชที่ ๑ เร่ิมนับในปีท่ีพระเยซูเกิด) ท่ีเมืองเบธเลเฮม ประเทศ
อิสราเอล บิดาเป็นช่างไม้ช่ือ โจเซฟ มารดาช่ือ มาเรีย ในวัยเด็กท่านเป็นเด็กที่มี
ความเฉลียวฉลาด และมีความสนใจในเร่ืองศาสนา เม่ืออายุ ๓๐ ปี ท่านได้พบ
นักบุญโยฮัน และได้รับศีลล้างบาป หลังจากนั้นท่านได้ประกาศศาสนาใหม่
คือ ศาสนาคริสต์ คริสต์ศาสนิกชนเช่ือว่า พระเยซูเป็นบุตรของพระเจ้าที่เสด็จ
มายังโลกมนษุ ย์เพ่ือช่วยมนุษย์ให้พ้นจากการทาบาป พระเจ้าของศาสนาคริสต์
คือ พระยะโฮวา พระเยซูเผยแผ่หลักคาสอนเป็นเวลา ๓ ปี มีผู้คนเล่ือมใสศรัทธา
และหันมานับถือเป็นจานวนมาก ส่งผลให้ศาสนาเดิมเร่ิมเส่ือมลง กลุ่มผู้นาของ
ศาสนาเดิมจึงคิดกาจัดพระเยซู โดยกล่าวหาว่าพระเยซูคิดก่อกบฏ ในที่สุด
พระเยซูจึงถูกจับและถูกประหารชีวิต โดยการตรึงบนไม้กางเขน เม่ืออายุ ๓๓ ปี
หลังจากนนั้ บรรดาสาวกจงึ ได้ร่วมมือกนั เผยแผห่ ลกั คาสอนของพระเยซู

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๖

๑.๔ ศาสนาพราหมณ-์ ฮินดู

ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เป็นศาสนาท่ีเก่าแก่ที่สุด เกิดข้ึนที่ประเทศอินเดีย
ในประเทศไทยศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ได้อยู่คู่สังคมไทยมาโดยตลอด จะเห็นได้ว่า
ในการประกอบพระราชพิธีต่าง ๆ จะนาพิธีกรรมทางศาสนาพราหมณ์-ฮินดูเข้ามาใช้
ในการประกอบพิธีกรรม เช่น พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระราชพิธีพืชมงคล
จรดพระนงั คลั แรกนาขวญั

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๖

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๖

๑.๕ ศาสดาของศาสนาสกิ ข์

ศาสนาสิกข์เป็นศาสนาท่ีเกิดข้ึนใหม่ในประเทศอินเดีย เป็นศาสนาที่
นับถือพระเจา้ เพยี งพระองคเ์ ดยี ว

ศาสนาสิกข์มีศาสดา คือ คุรุ รวมทั้งหมด ๑๐ องค์ ศาสดาองค์ท่ีนับว่า
สาคัญที่สุด คือ คุรุนานัก ท่านเป็นชาวฮินดู อยู่ในวรรณะพราหมณ์ ในวัยเด็กท่าน
ได้สนใจในเร่ืองความเป็นมาของศาสนาต่าง ๆ จนสามารถสนทนาเร่ืองศาสนากับ
อาจารย์ต่าง ๆ ได้

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๖

วั น หน่ึ งข ณะ ที่ คุ รุ น าน ัก ไ ด้บ าเ พ็ญส ม าธิอยู่ ใน ป่า ท่าน ไ ด้ พ บ ก ั บ
พระผู้เป็นเจ้าทางจิต และได้บอกแก่คุรุนานักว่า “เราจะขออยู่กับเจ้า เราจะทาให้
เจ้ามีความสุขสงบ และจะทาให้ทุกคนท่ีนับถือเรามีความสุขไปด้วย เจ้าจงออกจาก
ที่แห่งน้ี จงไปข้างหนา้ นึกถึงเราไว้เป็นนิตย์ จงเป็นผู้เมตตา เป็นผู้สะอาด กระทา
ใจใหเ้ ป็นสมาธิ ต่อไปน้ีเจ้าจงเป็นครุ ุ (ครู) ของคนทง้ั หลาย” หลังจากเหตกุ ารณน์ น้ั
ท่านได้ออกจากป่า กลับไปยังหมู่บ้านของตนแล้วเร่ิมแจกทานแก่คนยากจน
ให้ยาและรักษาพยาบาลคนเจบ็

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๖

คุรุนานักได้ออกเผยแผ่ศาสนาโดยมีชาวฮินดู และชาวมุสลิมนับถือเป็น
จานวนมาก หลังจากศาสดาคุรุนานักแล้วยังมีศาสดาอีก ๙ องค์ โดยมีศาสดาคุรุ-
โควินทสิงห์เป็นศาสดาองค์สุดท้าย ต่อมาได้มีการสถาปนาพระมหาคัมภีร์คุรุ-
ครันถสาหิพเป็นศาสดา นับเป็นการส้ินสุดการสืบทอดศาสนา โดยพระศาสดาใน
ร่างของมนษุ ย์

คุรุนานกั ศาสดาของศาสนาสิกข์

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๖

๒. หลกั ธรรมสาคัญของศาสนาตา่ ง ๆ

ทกุ ศาสนาจะมีหลกั ธรรมคาสอนท่ีมีเปา้ หมายเพ่ือให้ศาสนิกชนปฏิบัติตน
เป็นคนดี และอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข และในขณะเดียวกันก็ต้องเคารพในศาสนา
และความเช่ือของผู้ที่นับถือศาสนาอ่ืน ดังนั้นการศึกษาเก่ียวกับศาสนาต่าง ๆ
ท่ีคนไทยนับถือจะทาให้เกิดความเข้าใจอันดีระหว่างศาสนาต่าง ๆ ในประเทศ
เพ่ือการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข โดยกาหนดให้เรียนหลักธรรมในศาสนาต่าง ๆ
ดังน้ี

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๖

๒.๑ พระพทุ ธศาสนา

พระพทุ ธศาสนามีหลักธรรมคาสอนท่ีควรนาไปปฏบิ ัติ ดังนี้
๑. โอวาท ๓ คือ คาสอนท่ีเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา มี ๓ ประการ
ได้แก่ การไม่ทาความชั่ว การทาความดี และการทาจิตใจให้ผ่องใส ซ่ึงจะเห็นว่า
คาสอนท้ังหมดจัดอยู่ในส่วนของการห้ามทาชั่ว สนับสนุนให้ทาดี และพัฒนา
ไปสกู่ ารสรา้ งจติ ใจท่ีดงี าม

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๖

๒. อริยสัจ ๔ คือ หลักความจริงสูงสุด ท่ีเป็นกระบวนการของเหตุ และผล
ท่ีจะนาไปสู่การพ้นทุกข์ ท่ีประกอบด้วย ทุกข์ (ปัญหา) สมุทัย(สาเหตุของปัญหา)
นิโรธ (แก้ปัญหาได้) มรรค (วิธีการในการแก้ปัญหา) โดยใช้หลักความจริงเหล่านี้
เป็นตัวพจิ ารณาเพ่อื ไปสทู่ างหลดุ พ้น และเปา้ หมายสงู สดุ ในทางศาสนา

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๖

๒.๒ ศาสนาอสิ ลาม

หลักคาสอนของศาสนาอิสลาม มี ๒ ประการ คือ หลักศรัทธา ๖
และหลักปฏิบตั ิ ๕ ประการ

คัมภรี อ์ ลั กรุ อาน

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๖

๑. หลกั ศรทั ธา ๖

๑) ศรัทธาตอ่ อลั ลอฮ์
๒) ศรทั ธาตอ่ เทวทูต คือ ผรู้ ับใชพ้ ระเจา้ เป็นคนกลางระหวา่ งศาสดากบั พระเจา้
๓) ศรัทธาต่อคมั ภรี อ์ ลั กุรอาน
๔) ศรทั ธาตอ่ ศาสนทูต คือ นบี ผทู้ ี่นาบทบัญญตั ิของพระเจา้ มาสงั่ สอนแก่ปวงชน
๕) ศรทั ธาต่อวนั ส้นิ โลก
๖) ศรัทธาในกฎกาหนดสภาวการณ์ของพระเจ้า เช่น การข้ึนและตกของ

พระอาทิตย์ การเกิดพายุ การถือกาเนิดของมนษุ ย์ ซ่ึงพระเจ้าได้กาหนดไว้แล้ว
และไมส่ ามารถฝา่ ฝืนได้

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๖

๒. หลกั ปฏบิ ัติ ๕ ประการ

๑) การปฏิญาณตน เป็นการประกาศยอมรับด้วยความศรัทธาและความบริสุทธ์ิใจ
คนท่ีนับถือศาสนาอิสลามต้องกล่าวปฏิญาณตนว่า “ไม่มีพระเจ้าองค์ใดนอกจาก
อลั ลอฮ์และมฮุ ัมมัด คอื ศาสนทตู แหง่ พระองค”์

๒) การละหมาด คือ การนมัสการต่อพระเจ้า วันละ ๕ เวลา (ย่ารุ่ง กลางวัน เย็น
พลบค่า กลางคนื )

๓) การถือศีลอด คือ การละเว้นจากการกิน การด่ืม และการมีเพศสัมพันธ์ ต้ังแต่
พระอาทิตย์ข้ึนจนถึงพระอาทิตย์ตกเป็นเวลาตลอด ๑ เดือน ในเดือน
เราะมะฎอนตามปฏิทนิ ของศาสนาอิสลาม

๔) การบริจาคซะกาต คือ การบริจาคทรัพย์ เพ่ือเป็นการขัดเกลาจิตใจผู้บริจาค
ใหร้ จู้ กั เสียสละ ลดความเหน็ แกต่ ัว

๕) การประกอบพิธีฮัจญ์ คือ การไปประกอบศาสนกิจ ณ นครมักกะฮ์ ประเทศ
ซาอดุ ีอาระเบีย มจี ุดม่งุ หมายเพ่อื ให้ชาวมุสลมิ ระลกึ ถงึ พระเจ้า

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๖

๒.๓ ศาสนาครสิ ต์

หลักคาสอนของศาสนาคริสต์ คือ ต้องมีความศรัทธาต่อพระเยซู และ
จงรักเพ่ือนบ้านเพ่ือนมนุษย์เหมือนรักตัวเอง หลักคาสอนในศาสนาคริสต์
คือ บญั ญัติ ๑๐ ประการ หลักความรัก และหลักตรีเอกานภุ าพ

คัมภีร์ไบเบลิ

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๖

๑. บญั ญัติ ๑๐ ประการ ไดแ้ ก่

๑) จงนบั ถือพระเจา้ เพียงพระองค์เดียว
๒) อยา่ สร้างรูปเคารพ
๓) อย่าออกพระนามของพระเจ้าโดยไมส่ มควร
๔) จงถือวนั พระเจ้าเป็นวนั ศักด์สิ ิทธ์ิ
๕) จงนบั ถือบิดามารดา
๖) อยา่ ฆ่าคน
๗) อย่าผดิ ประเวณี
๘) อยา่ ลกั ทรพั ย์
๙) อย่าเป็นพยานเท็จใสร่ า้ ยเพ่อื นบ้าน
๑๐) อย่าโลภอยากได้ส่งิ ของของเพ่ือนบ้าน

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๖

๒. หลักตรีเอกานภุ าพ

เป็นหลักคาสอนท่ีระบุวา่ พระเจา้ มพี ระองคเ์ ดยี ว แต่มี ๓ บคุ คล ไดแ้ ก่
๑) พระบดิ า คอื พระยะโฮวา ผสู้ ร้างโลก และใหก้ าเนิดแก่ชีวติ ทกุ ชวี ติ
๒) พระบตุ ร คือ พระเยซู ผ้เู กดิ มาเพ่อื ไถบ่ าปให้แกม่ วลมนษุ ย์
๓) พระจิต คือ วิญญาณบริสุทธ์ิของพระเจ้าท่ีปรากฏในจิตของมนุษย์คอยกระตุ้น

ใหม้ นษุ ย์ทาความดี

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๖

๓. หลกั แหง่ ความรัก

เป็นหลักคาสอนที่พระเยซูกล่าวไว้ก่อนส้ินพระชนม์ว่า “ความรักเป็นส่ิงที่
มีค่าย่ิงกว่าเงินทองและทรัพย์สมบัติใด ๆ ในโลก จงรักพระเจ้า รักครอบครัว
รักเพ่ือนบ้าน และรักเพ่ือนมนุษย์ แล้วจะได้รับความรักจากโลกน้ี เป็น
ส่ิงตอบแทน”

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๖

๒.๔ ศาสนาพราหมณ-์ ฮินดู

หลักคาสอนในศาสนาพราหมณ-์ ฮินดู ไดแ้ ก่

๑. หลกั ธรรม ๑๐ ประการ

๑) ธฤติ (ทะ-ร-ึ ติ) คอื ความพอใจ ยินดีในการกระทาโดยปราศจากความโลภ
๒) กษมา (กะ-สะ-มา) คือ ความอดทน อดกลั้น เพียรพยายาม โดยถือ

ความเมตตากรณุ าเป็นที่ตัง้
๓) ทมะ (ทะ-มะ) คอื การระงับจิตใจ ไมห่ ว่ันไหวตามอารมณไ์ ดง้ า่ ย มสี ติ
๔) อสั เตยะ (อดั -สะ-เต-ยะ) คือ การไมล่ ักขโมย
๕) เศาจะ (เสา-จะ) คอื ความบรสิ ุทธ์ิ ทาตนให้บรสิ ุทธ์ทิ ัง้ ทางรา่ งกายและจติ ใจ

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๖

๖) อินทรียนิครหะ (อิน-ทะ-รี-ยะ-นิ-คะ-ระ-หะ) คือ การปราบปรามอินทรีย์ทั้ง
๑๐ คือ ประสาทความรูส้ ึก
๗) ธี (ท)ี หรอื ธติ ิ คอื การมปี ัญญา
๘) วทิ ยา (วิด-ทะ-ยา) คือ การมคี วามรทู้ ่ลี กึ ซ้งึ เก่ียวกับปรชั ญา
๙) สัตยะ (สดั -ตะ-ยะ) คือ ความจรงิ ความซ่อื สัตยต์ ่อกัน ไมท่ รยศกนั
๑๐) อโกธะ (อะ-โก-ทะ) คือ ความไม่โกรธ

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๖

๒. หลกั อาศรม ๔

เป็นขั้นตอนการดาเนินชีวิตของผู้นับถือศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เพ่ือให้บรรลุ
เปา้ หมายสงู สุดของชีวติ แบง่ ออกเป็น ๔ ขน้ั ตอน ได้แก่
๑) พรหมจารี เป็นข้ันของการศึกษาเล่าเรียน เด็กชายท่ีเกิดในวรรณะกษัตริย์

พราหมณ์ และแพศย์ ต้องมอบตัวเป็นศิษย์ เพ่ือศึกษาพระเวทกับอาจารย์
ในสานกั ในช่วงน้ีจะไม่สามารถแต่งงานได้จนกว่าจะมีอายคุ รบ ๒๕ ปี
๒ ) ค ฤ ห ั ส ถ์ เ ป็ น ว ั ย แ ห่ ง ก า ร ค ร อ ง เ รื อ น เ ม่ื อ จ บ ก า ร ศึ ก ษ า ก็ ส า ม า ร ถ
ประกอบอาชีพและแต่งงานมีครอบครัวได้
๓) วานปรสั ถ์ เป็นชว่ งเวลาของการปฏบิ ัติธรรม คอื การปฏิบตั ิธรรมในปา่
เพ่อื ฝึกจติ ใหบ้ ริสุทธ์ิ โดยปฏบิ ัตเิ ป็นครั้งคราว
๔) สันยาสี เป็นช่วงของการออกบวช คือ สละชวี ิตของคฤหัสถ์ออกบวช
บาเพ็ญเพียรตามหลกั ศาสนา เพ่อื ใหบ้ รรลจุ ุดหมายของชวี ิต

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๖

๒.๕ ศาสนาสกิ ข์

ห ล ั ก ค า ส อ น ใ น ศ า ส น า สิ ก ข์ ส อ น ใ ห้ ทุ ก ค น ด า ร ง ชี วิ ต อ ย่ า ง มี ค ว า ม สุ ข
มีสุขภาพทีแ่ ขง็ แรงสมบรู ณ์ หลักธรรมและแนวคิดดงั กล่าว คอื

สอนให้รู้จักปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อม ซ่ึงเป็นธรรมชาติที่ไม่สามารถ
เปลี่ยนแปลงได้

สอนให้เข้าถึงพระเจ้าด้วยการทาความดี ละเว้นความชั่ว ความโลภ
ความหลง ความหย่งิ ยโส และความเห็นแก่ตวั

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๖

๒.๕ ศาสนาสิกข์

นอกจากนี้ชาวสิกขจ์ ะต้องปฏบิ ตั ติ น ดงั ตอ่ ไปน้ี
พงึ ระลกึ ถงึ พระนามของพระผ้เู ป็นเจา้ โดยการสวดมนตภ์ าวนา
ประกอบอาชีพด้วยความสุจริต ประพฤติตนเป็นคนดี สร้างสรรค์ส่ิงดี ๆ
แกส่ งั คม
ต่อสู้เพ่ือความยุติธรรม ชาวสิกข์จะส่งเสริมงานประชาสงเคราะห์ต่าง ๆ
และต่อสเู้ พ่อื ปกปอ้ งสทิ ธิของตนและสังคมสว่ นรวม เพ่ือความยุติธรรม

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๖

๓. ศาสนพิธีของศาสนาตา่ ง ๆ

ทุกศาสนาจะมีพิธีกรรมที่เป็นหลักปฏิบัติ เพ่ือให้ศาสนิกชนหรือผู้นับถือ
ศาสนานน้ั ๆ ไดป้ ฏิบัติ รวมไปถงึ เป็นการเก้ือกูลต่อหลกั คาสอนของทุก ๆ ศาสนา

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๖

๓.๑ พระพุทธศาสนา

พิธีกรรมในพระพุทธศาสนามีอยู่หลายพิธีกรรมด้วยกัน สามารถจาแนก
เป็น ๒ ประเภท ได้แก่

๑. ศาสนพธิ ีท่เี ป็นพุทธบัญญตั ิ

เป็นพิธีกรรมที่พระพุทธองค์ทรงอนญุ าต

ให้ปฏิบัติหรือกระทาข้ึน เช่น พิธีบรรพชา

ซ่ึงเป็นพิธีที่นาเยาวชนที่อายุยังไม่ถึง ๒๐ ปี

มาบรรพชาเป็นสามเณร พิธีอุปสมบทบุคคล

ที่อายุ ๒๐ ปี อุปสมบทเป็นพระภิกษุ พิธีทอด

ผ้ากฐิน พธิ ีทอดผ้าปา่ พธิ อี ปุ สมบทเป็นพธิ ีกรรมทเ่ี ป็น
พทุ ธบัญญัติ

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๖

๒. ศาสนพิธีที่เกี่ยวเน่ืองกับพระพุทธศาสนา เป็นพิธีกรรมหรือศาสนพิธี
ที่เก่ียวเน่ืองกับพระพุทธศาสนา เช่น พิธีกรรมในวันสาคัญทางพระพุทธศาสนา
วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันอัฐมีบูชา ซ่ึงเป็นวันที่เกี่ยวข้องกับ
พระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โดยพุทธศาสนิ กชนจะ
ประกอบพธิ กี รรมทีส่ าคญั เชน่ ทาบุญตักบาตร ฟังธรรม รกั ษาศลี และเวียนเทียน

การเวยี นเทยี นในวนั สาคัญทางพระพทุ ธศาสนา

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๖

๓.๒ ศาสนาอสิ ลาม

ศาสนพิธีในศาสนาอิสลามจะปรากฏอยู่ในหลักปฏิบัติ ๕ ซ่ึงเป็นส่ิงที่
ชาวมุสลมิ (ผทู้ นี่ ับถอื ศาสนาอิสลาม) ตอ้ งปฏิบัติ พธิ ีทส่ี าคญั มดี ังน้ี

๑. การละหมาด คือ การนมัสการ
ต่อพระเจา้ วันละ ๕ เวลา (ย่ารุ่ง กลางวนั
เย็น พลบค่า กลางคนื ) มีความหมาย คอื
การแสดงความเคารพภักดีต่อพระเจ้า
ท่ีศาสนิ กชนทุกคนต้องกระทาอย่าง
เครง่ ครัดสม่าเสมอ

การละหมาดของศาสนาอิสลาม

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๖

๒. การถือศีลอด คือ การระงับจากการกิน การด่ืม การเสพ และการ
พูดจาไร้สาระตลอดจนการกระทาท่ีขัดกับคุณธรรม เป็นเวลา ๑ เดือน โดยจะปฏิบัติ
ในเดือนเราะมะฎอน (เราะ-มะ-ดอน ประมาณเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคม
ของทุกปี) เพ่ือเป็นการชาระจติ ใจใหบ้ ริสุทธ์ิ

๓. การประกอบพิธีฮัจญ์ คือ การไปประกอบศาสนกิจที่นครมักกะฮ์ ประเทศ
ซาอุดีอาระเบีย เป็นภารกิจหลักที่ชาวมุสลิมทุกคนจะต้องปฏิบัติในเดือนที่ ๑๒ ของ
ปฏทิ ินอสิ ลาม

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๖

๓.๓ ศาสนาคริสต์

พิธีกรรมทางศาสนาครสิ ตท์ สี่ าคญั เรยี กว่า พิธีรบั ศีลศักด์สิ ิทธ์ิ
ซ่งึ มพี ธิ สี าคญั ๆ ดงั น้ี

๑. ศีลล้างบาปหรือพิธีศีลจุ่ม เป็นพิธีแรกที่ผู้นับถือศาสนาจะต้องปฏิบัติ
จะกระทาเม่อื เป็นทารก หรอื เข้ามานบั ถือศาสนาคริสต์

๒. ศีลอภัยบาป เป็นพิธีกรรมที่ชาวคริสต์ไปโบสถ์ เพ่ือสารภาพบาปกับ
บาทหลวง ซ่ึงบาทหลวงเป็นตัวแทนของพระเจา้ ท่ียกบาปน้นั ให้

๓. ศีลกาลัง เป็นพิธีเจิมหนา้ ผากด้วยน้ ามัน เพ่ือยืนยันถึงความศรัทธาใน
ศาสนาคริสต์

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๖

๓.๓ ศาสนาคริสต์

๔. ศีลมหาสนิท เป็นพิธีกรรมรับศีลที่ชาวคริสต์จะต้องไปฟังมิสซาในโบสถ์
ทุกวันอาทิตย์ โดยชาวคริสต์จะสวดมนต์ รับขนมปังและเหล้าองุ่นท่ีเป็น
สญั ลกั ษณแ์ ทนพระกายและพระโลหติ ของพระเยซมู ารับประทาน

๕. ศีลเจิมคนไข้ เป็นพิธีท่ีจัดข้ึนเพ่ือให้กาลังใจแก่ผู้ปว่ ยหนัก และให้ระลึก
วา่ พระเจ้าอยูก่ ับตนและให้กาลังใจท่ีจะเอาชนะอาการเจบ็ ปว่ ย

๖. ศลี สมรส เป็นพธิ ีแตง่ งาน โดยมีบาทหลวงเป็นผู้ประกอบพิธใี นโบสถ์
๗. ศีลบวช เป็นพิธีบวช สาหรับผู้ท่ีจะเป็นบาทหลวง และมีหนา้ ที่ในการ
เผยแผ่คาสอนและประกอบพธิ ีกรรมทางศาสนา

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๖

๓.๔ ศาสนาพราหมณ-์ ฮินดู

ศาสนาพราหมณ-์ ฮนิ ดูจะมพี ธิ กี รรมท่สี าคัญ ดงั นี้
๑. หลักปฏิบัติเก่ียวกับวรรณะท่ีเก่ียวกับการแต่งงาน อาหารการกิน อาชีพ
ท่ีอยู่ เช่น การห้ามแต่งงานนอกวรรณะ คนต่างวรรณะจะปรุงอาหารให้กัน
รบั ประทานไม่ได้ จะตอ้ งประกอบอาชีพตามกาหนดของแตล่ ะวรรณะ
๒. พิธีสังสการ เป็นพิธีกรรมประจาบ้าน เช่น พิธีต้ังครรภ์ การคลอดบุตร
ตงั้ ช่อื บุตร โกนผม แต่งงาน
๓. พิธีศราทธ์ คือ พิธีท่ีลูกหลานจะทาบุญอุทิศให้แก่บิดา มารดา หรือ
บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแลว้
๔. พิธีบูชาเทวดา พิธีการจะแตกต่างไปตามวรรณะ เช่น ถ้าเป็นวรรณะสูง
จะมีพธิ ีสวดมนต์ภาวนา อาบน้าเพ่อื ชาระร่างกาย และสงั เวยเทวดาทกุ วนั

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๖

๓.๕ ศาสนาสิกข์

พธิ กี รรมทส่ี าคญั ของศาสนาสิกข์ มดี งั น้ี
๑. พิธีสังคัต เป็นพิธีชุมนุมของผู้นับถือศาสนาสิกข์ ซ่ึงทุกคนจะมีหนา้ ท่ี
ต้องปฏิบัติเท่าเทียมกัน โดยไม่มีใครได้รับการยกเว้น เช่น ต้องตักน้ า
เช็ดรองเท้าและทาทุกอย่างดว้ ยตัวเอง
๒. พิธีรับคนเข้าสู่ศาสนาสิกข์ โดยใช้หลักแห่งความเสมอภาคไม่แบ่ง
ชนชน้ั วรรณะ
๓. พิธีปาหุล เป็นพิธีล้างบาป หลังจากท่ีผ่านพิธีปาหุลแล้ว ผู้ชายจะมีช่ือ
ต่อท้ายว่า “สิงห์” ส่วนผู้หญิงจะมีช่ือลงท้ายว่า “เการ์” และจะได้รับกกะหลังจาก
เสรจ็ ส้นิ พธิ ี

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๖

กกะ คอื ส่ิงทีข่ ้ึนตน้ ดว้ ย ก มี ๕ ประการ ไดแ้ ก่
๑) เกศา (ผม) คือ จะไม่ตัดหรือโกนผม การรักษาเกศาไว้ถือเป็นการแสดงถึง
การดารงชีพที่สอดคลอ้ งกับความประสงคข์ องพระผู้เป็นเจา้
๒) กงั ฆา (หว)ี คือ ส่ิงทจ่ี าเป็นต่อการดแู ลรักษาผมให้สะอาด
๓) กฉา (กางเกงขาส้ัน) คือ กางเกงขาสั้นที่สวมไว้ด้านในเป็นสัญลักษณ์
แห่งความดีงามและกะทัดรดั เรียบร้อย
๔) กรา (กาไล) คอื ต้องสวมกาไลข้อมอื ที่ทาดว้ ยเหลก็ ไว้ทขี่ ้อมอื ขา้ งขวา
๕) กิรปาน (กริช) คือ ต้องพกกริชติดตัวเพ่ือเป็นสัญลักษณ์ของความ
กล้าหาญ จะใช้เพ่ือปกปอ้ งตนเองและผู้อ่นื เทา่ นนั้ ไม่ใชเ่ ป็นอาวธุ ในการทาร้ายผอู้ ่ืน

พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๖

จัดทำ E- book
โดย

นำงสำวอุดมลกั ษณ์ ลำเลศิ
เนือหำจำก สถำบนั พัฒนำคุณภำพวิชำกำร (พว.)

พระพุทธศาสนา ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๖


Click to View FlipBook Version