โครงการพัฒนาการจดั การเรียนการสอนปฏิบัตกิ ารชีววทิ ยาในโรงเรียนมธั ยมศึกษาตอนปลาย คมู่ ือสำหรบั ผสู้ อน
ในจังหวดั กาญจนบรุ ี โดยมมี หาวิทยาลัยมหดิ ล วิทยาเขตกาญจนบุรเี ป็นพ่ีเลยี้ ง
ออสโมซสิ (Osmosis)
ปฏบิ ัติกำรชวี วิทยำ เร่ืองออสโมซสิ (Osmosis)
ควำมสอดคลอ้ งกบั เน้ือหำวชิ ำเรียน
บทที่ เรอ่ื ง ผลกำรเรยี นรู้ จุดประสงค์กำรเรียนรู้
3 เซลลแ์ ละการ • อธิบายโครงสร้างและหน้าที่ของส่วน 1. อธบิ ายโครงสรา้ ง และบอกหน้าที่
ทางานของเซลล์ ท่ีห่อหุ้มเซลล์ของเซลล์พืชและเซลล์ ส่วนท่ีห่อหุ้มเซลล์ของเซลล์พืช
สตั ว์ และเซลลส์ ัตว์
• อธิบายและเปรียบเทียบการแพร่ 2. อธิบายกระบวนการแพร่ การ
ออสโมซิส การแพร่แบบฟาซิลิเทต ออสโมซสิ
และแอกทีฟทรานสปอร์ต 3. อธิบายการรักษาสมดุลน้าของ
เซลล์ และรูปร่างของเซลล์ใน
สิง่ แวดล้อมทีแ่ ตกตา่ งกัน
บทนำ / สำระสำคญั
กำรแพร่ เปน็ การเคลอื่ นท่ีของสารจากบริเวณความเข้มขน้ ของสารสงู ไปสบู่ รเิ วณท่มี ีความเข้มขน้ ของสารตา่
กำรออสโมซิส เป็นการแพร่ของโมเลกุลน้าผ่านเย่ือเลือกผ่าน (เย่ือหุ้มเซลล์) จากด้านที่มีความเข้มข้นของ
สารละลายตา่ (ความเขม้ ข้นของนา้ สงู ) ไปยงั ดา้ นท่ีมคี วามเขม้ ข้นของสารละลายสงู (ความเข้มขน้ ของนา้ ต่า)
เซลล์ส่ิงมีชีวิตมีเยื่อหุ้มเซลล์ซ่ึงทาหน้าท่ีควบคุมการลาเลียงสารผ่านเข้าออก กระบวนการออสโมซิสมี
ความสาคัญต่อการรักษาสมดุลน้าของเซลล์ และการเคลื่อนที่ของโมเลกุลน้าเข้าออกเซลล์ส่งผลต่อการ
เปลีย่ นแปลงรปู ร่างของเซลล์ ในเซลล์พชื ซ่งึ มผี นังเซลล์เป็นโครงสร้างแข็งล้อมรอบเยื่อหุ้มเซลล์ เมือ่ ศึกษาเซลล์พืช
ด้วยกล้องจุลทรรศน์อาจสังเกตเห็นเย่ือหุ้มเซลล์ไม่ชัดเจนเนื่องจากเย่ือหุ้มเซลล์อยู่ชิดติดผนังเซลล์มาก ในขณะที่
การศกึ ษาเซลลส์ ัตว์ (เช่น เซลล์เยอื่ บุกระพงุ แก้ม) ดว้ ยกล้องจุลทรรศน์จะสงั เกตเหน็ เยอื่ หุ้มเซลลไ์ ด้อยา่ งชดั เจน
เซลลท์ ่อี ยใู่ นสารละลายความเข้มข้นสงู (ความเข้มข้นภายนอกเซลลส์ ูงกว่าภายในเซลล)์ จะทาให้เซลล์เห่ียว
เน่ืองจากการเคล่ือนที่ของน้าออกจากเซลล์สู่สารละลายภายนอก เมื่อศึกษาเซลล์สัตว์ที่อยู่ในสารละลายความ
เข้มข้นสูงด้วยกล้องจุลทรรศน์จะสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของเซลล์ชัดเจน ในขณะที่เซลล์พืชท่ีมีการ
เคล่ือนท่ขี องน้าออกจะสังเกตเห็นเย่ือห้มุ เซลลแ์ ยกตวั ออกจากผนังเซลล์ได้อย่างชดั เจน (รปู ภาพท่ี 1)
เม่ือเซลล์อยู่ในสารละลายความเข้มข้นต่า (ความเข้มข้นภายนอกเซลล์ต่ากว่าภายในเซลล์) น้าจะเคล่ือนท่ี
จากภายนอกเซลล์เข้าสู่ภายในเซลล์ หากเป็นเซลล์สัตว์อาจทาให้เซลล์แตกได้ แต่เซลล์พืชมีผนังเซลล์ล้อมรอบ
เย่ือหุ้มเซลล์อย่กู ารเคลือ่ นทข่ี องน้าเขา้ สเู่ ซลล์จะทาใหเ้ ซลล์เต่ง เยือ่ หมุ้ เซลล์จะชิดตดิ กบั ผนงั เซลล์ (รปู ภาพที่ 1)
ปฏิบัตกิ ารเรอื่ ง ออสโมซสิ (Osmosis) หนา้ ที่ 1
โครงการพฒั นาการจัดการเรียนการสอนปฏิบตั ิการชวี วิทยาในโรงเรียนมธั ยมศึกษาตอนปลาย คมู่ อื สำหรับผสู้ อน
ในจงั หวดั กาญจนบุรี โดยมมี หาวทิ ยาลัยมหดิ ล วทิ ยาเขตกาญจนบรุ ีเป็นพ่ีเลยี้ ง
ออสโมซสิ (Osmosis)
ประเภท นำ้ กลั่น น้ำเกลอื 0.89% น้ำเกลือ 5.0%
สำรละลำย
เซลล์พืช
เซลลส์ ัตว์
รูปภำพที่ 1 แผนภาพแสดงลักษณะของเซลล์ที่อยู่ในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ (ความเข้มข้นของสารละลายแตกต่างกัน)
ที่มา Mader, S.S. (2010). Biology. 10th Edition, McGraw-Hill
ปฏบิ ัตกิ ารเรอ่ื ง ออสโมซสิ (Osmosis) หน้าท่ี 2
โครงการพัฒนาการจดั การเรยี นการสอนปฏบิ ัติการชีววิทยาในโรงเรยี นมธั ยมศึกษาตอนปลาย คมู่ อื สำหรบั ผสู้ อน
ในจังหวดั กาญจนบุรี โดยมมี หาวิทยาลยั มหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรีเป็นพีเ่ ลีย้ ง
ออสโมซสิ (Osmosis)
1. จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ของปฏิบัติกำร
เมอ่ื สิน้ สดุ การฝกึ ปฏิบตั กิ ารแลว้ นักเรยี นสามารถ
1) แสดงการเตรยี มการทดลองเพื่อศึกษาการเคลื่อนท่ีของสารผ่านเยือ่ เลอื กผ่านได้
2) อธบิ ายกระบวนการแพร่ และการออสโมซิสผา่ นเยือ่ เลอื กผ่านได้
3) อธบิ ายโครงสรา้ งองคป์ ระกอบของเซลล์พชื (และเซลลส์ ตั ว)์ ท่สี งั เกตได้ดว้ ยกล้องจุลทรรศน์
4) อธบิ ายการเปล่ียนแปลงของเซลล์พชื (และเซลลส์ ตั ว์) ท่ีอย่ใู นส่ิงแวดลอ้ มแตกตา่ งกันได้
2. แผนกำรจดั กจิ กรรมกำรเรยี นรู้
จุดประสงค์ กิจกรรมกำรเรียนรู้ ระยะเวลำ
กำรเรยี นรู้ (นำท)ี
กจิ กรรมที่ 1 บทนาการฝกึ ปฏิบัตกิ าร 30
1) – 2) กิจกรรมที่ 2 ออสโมซิส (Osmosis) 60 – 70
3) – 4) กิจกรรมที่ 3 การเปลี่ยนแปลงรปู รา่ งของเซลลใ์ นสิ่งแวดล้อมแตกต่างกัน 60 – 70
กิจกรรมท่ี 4 การนาเสนอผลการศกึ ษา และการสรปุ บทเรยี น 30
รวมระยะเวลำกจิ กรรมกำรเรียนรู้ 200
หมายเหตุ กจิ กรรมการเรียนการสอนออนไลน์
กิจกรรมท่ี 2 การบรรยายแนะนา และฝึกปฏบิ ัติการดว้ ยตนเอง
กจิ กรรมท่ี 3 การบรรยาย แสดงสาธิต และการอภปิ ราย
3. กิจกรรมท่ี 1 บทนำกำรฝึกปฏบิ ัติกำร ระยะเวลำไม่เกิน 30 นำที
3.1 คุณครูบรรยายสั้น ๆ เก่ยี วกบั การเคลอื่ นที่ของโมเลกลุ การเคลอื่ นท่ีของน้า การเคลือ่ นทขี่ องสารผ่าน
เยือ่ เลือกผา่ น โดยเนน้ เรอ่ื งการออสโมซิส (อาจใช้แผนภาพประกอบการบรรยาย)
3.2 คณุ ครูบรรยายลักษณะโครงสรา้ งเซลล์ท่ัวไป (เซลลพ์ ืช / เซลลส์ ตั ว์) และเชือ่ มโยงไปยังตัวอยา่ งพืชท่ี
เลือกมาใช้ในการทดลอง เช่น เซลล์ผิวใบของวา่ นกาบหอย (หรือเซลล์เย่ือผิวหอมแดง) หรือตัวอย่าง
เซลล์สัตว์ (เชน่ เซลล์เยื่อบกุ ระพุงแก้ม)
3.3 คุณครูต้ังคาถามกระตุ้นให้นักเรียนคิดว่ารูปร่างของเซลล์จะมีลักษณะเป็นอย่างไร เม่ืออยู่ใน
ส่ิงแวดล้อมที่แตกต่างกัน (ความเข้มข้นสารละลายแตกต่างกัน) ควรแนะนาให้นักเรียนเช่ือมโยงกับ
เร่ืองออสโมซิส ซึ่งเป็นการเคลื่อนท่ีของน้าผ่านเยอ่ื หุ้มเซลล์ และให้นักเรียนอธิบายว่ารปู รา่ งเซลลจ์ ะ
เป็นอย่างไรเมื่ออยู่ในสารละลายความเขม้ ขน้ สงู และสารละลายความเข้มข้นต่า
ปฏิบัติการเรือ่ ง ออสโมซิส (Osmosis) หนา้ ท่ี 3
โครงการพัฒนาการจดั การเรยี นการสอนปฏิบัตกิ ารชวี วทิ ยาในโรงเรยี นมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ค่มู ือสำหรับผสู้ อน
ในจงั หวัดกาญจนบุรี โดยมีมหาวทิ ยาลัยมหดิ ล วทิ ยาเขตกาญจนบุรเี ป็นพี่เลีย้ ง
ออสโมซิส (Osmosis)
3.4 ควรตั้งคาถามให้นักเรียนประยุกต์ใช้กระบวนการออสโมซิสท่ีพบในสถานการณ์ต่าง ๆ ใน
ชวี ิตประจาวัน
3.5 คุณครูใหน้ ักเรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน (พจิ ารณาตามความเหมาะสมอาจ มี/ไม่มี การทดสอบ)
4. กิจกรรมท่ี 2 ออสโมซสิ (Osmosis) ระยะเวลำไมเ่ กิน 70 นำที
นักเรียนฟังการบรรยายแนะนา และฝึกปฏิบัติการทดลองการเคลื่อนท่ีของน้า (ออสโมซิส) ด้วยตนเอง โดยใช้
วสั ดุ อปุ กรณ์ สารเคมี และวิธีการทดสอบดังต่อไปนี้
4.1 วสั ดุ อุปกรณ์ และสำรเคมี จำนวน
รำยกำร 1 ชดุ
1. ชดุ ทดลองออสโมซิส (ถว้ ยพลาสติกพรอ้ มฝาท่ีมหี ลอดติด) 1 แผน่
2. กระดาษเซลโลเฟน 1 ชุด
3. แกว้ น้าพลาสติก + แทง่ คนพลาสติก 3 ซอง
4. นา้ ตาลทราย 4 กรัม 1 อนั
5. หลอดหยดพลาสติก 1 กอ้ น
6. ดนิ น้ามนั (และควรเตรียมสก๊อตเทปใส) 2 แผน่
7. ทชิ ชู
4.2 วิธีกำรทดลอง
1) ตวงน้าสะอาดปรมิ าตร 20 มลิ ลลิ ติ ร ใส่ลงในแก้วพลาสตกิ (โดยเติมน้าใหไ้ ด้ตามขีดขา้ งแก้ว)
2) ตัดถงุ นา้ ตาล 4 กรมั 3 ซองใส่ลงในแก้วพลาสติก ใชแ้ ทง่ พลาสติกคนใหน้ ้าตาลละลาย (อาจเติมสี
หรอื นา้ หวานสแี ดงเพื่อให้สงั เกตเหน็ สีสารละลายได้ชดั เจน)
3) เติมน้าสะอาดลงในถ้วยพลาสติกของชุดทดลองออสโมซิสให้ถึงระดับรูระบายด้านข้าง (ประมาณ
80 – 85 มิลลลิ ติ ร)
4) นากระดาษเซลโลเฟนชุบน้าให้เปียก (กระดาษจะอ่อนตัว) และนาไปวางบนปากถ้วยพลาสติก
ใช้มือกดกระดาษเซลโลเฟนให้เป็นหลุมลึกลงในถ้วย ให้หลุมมีขนาดพอประมาณที่จะบรรจุ
สารละลายน้าตาลท่ีเตรียมไว้ในข้อ 2) ได้ประมาณ 10 - 15 มิลลิลิตร
ปฏิบตั กิ ารเรอ่ื ง ออสโมซิส (Osmosis) หน้าท่ี 4
โครงการพัฒนาการจดั การเรยี นการสอนปฏิบตั ิการชีววทิ ยาในโรงเรยี นมัธยมศึกษาตอนปลาย คูม่ อื สำหรบั ผสู้ อน
ในจังหวดั กาญจนบรุ ี โดยมมี หาวทิ ยาลัยมหดิ ล วทิ ยาเขตกาญจนบุรเี ป็นพเ่ี ลี้ยง
ออสโมซิส (Osmosis)
5) นาฝาปิดชุดทดลองออสโมซิส (ซึ่งมีหลอดเสียบอยู่ตรงกลาง) ค่อย ๆ วางลงและกดปิดทับ
เซลโลเฟนที่เติมน้าตาลแล้ว โดยปิดจากด้านที่ไม่มีรูระบายไล่ไปอีกด้านหนึ่งตรงกันข้ามซ่ึงมีรู
ระบายเพื่อรีดฟองอากาศออกใหห้ มด
6) ใช้ก้อนดนิ นา้ มันอุดรูระบายอากาศดา้ นบนฝาชดุ ทดลองและปิดทบั ดว้ ยสก๊อตเทปใส
7) ใชห้ ลอดหยดพลาสติกเตมิ นา้ ในถ้วยชดุ ทดลองออสโมซิสให้เต็มผ่านทางรูเล็กด้านข้าง
8) บันทกึ ระดบั สารละลายในหลอดของชุดทดลองออสโมซิส (ระดบั สารละลายเร่ิมต้น เวลา 0 นาที)
และวดั ระดบั สารละลายในหลอดเมอ่ื เวลาผา่ นไปทกุ 10 นาที เปน็ เวลา 30 นาที
9) อภิปรายผลการศกึ ษา และสรปุ ผลการศึกษา
รูปภำพที่ 2 แผนภาพแสดงชุดการทดลองออสโมซสิ
ปฏบิ ตั กิ ารเร่อื ง ออสโมซิส (Osmosis) หนา้ ท่ี 5
โครงการพัฒนาการจดั การเรยี นการสอนปฏิบตั ิการชวี วิทยาในโรงเรียนมัธยมศกึ ษาตอนปลาย คมู่ อื สำหรับผสู้ อน
ในจังหวัดกาญจนบุรี โดยมมี หาวิทยาลยั มหดิ ล วทิ ยาเขตกาญจนบุรเี ปน็ พีเ่ ลยี้ ง
ออสโมซิส (Osmosis)
กำรบนั ทึกผลกำรศึกษำ
ใหน้ กั เรียนวัดระดบั สารละลายในหลอดทร่ี ะยะเวลาตา่ ง ๆ
เวลำกำรทดลอง ระดบั สำรละลำย กำรเปล่ยี นแปลง - ควำมแตกตำ่ ง
(นำที) (เซนติเมตร) (เพิ่มข้นึ /ลดลง) – (เซนติเมตร)
0 (เวลาเริม่ ต้น)
อภปิ รำยผลกำรศกึ ษำ
ประเดน็ ท่คี วรแนะนาให้นักเรียนคดิ วิเคราะห์
- การเปลีย่ นแปลงระดับสารละลายเกิดข้ึนได้อย่างไร
- การเปลี่ยนแปลงท่ีเกิดขึ้นเป็นผลจากความแตกต่างของความเข้มข้นสารละลาย และมีการ
เคลื่อนท่ีของน้าจากด้านที่มีความเข้มข้นสารละลายต่า (ความเข้มข้นของน้าสูง) ไปยังด้านที่มี
ความเขม้ ขน้ ของสารละลายสูง (ความเขม้ ข้นของน้าต่า)
สรุปผลกำรศกึ ษำ
- นักเรียนควรอธิบายได้ว่าน้ามีการเคล่ือนท่ีผ่านเย่ือเลือกผ่าน (เซลโลเฟน) จากด้านที่เป็น
น้าประปาซึง่ ไม่มนี ้าตาล ไปยงั ดา้ นทมี่ คี วามเข้มขน้ น้าตาลสงู ซ่ึงเป็นการเคล่ือนท่ีแบบออสโมซิส
ปฏิบัติการเรื่อง ออสโมซสิ (Osmosis) หน้าท่ี 6
โครงการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนปฏิบัติการชวี วทิ ยาในโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย คู่มอื สำหรบั ผสู้ อน
ในจังหวดั กาญจนบรุ ี โดยมมี หาวิทยาลยั มหิดล วิทยาเขตกาญจนบรุ ีเป็นพเี่ ลยี้ ง
ออสโมซิส (Osmosis)
5. กิจกรรมท่ี 3 กำรเปลีย่ นแปลงรปู รำ่ งของเซลล์ในส่งิ แวดลอ้ มแตกต่ำงกนั ระยะเวลำไม่เกนิ 70 นำที
นักเรียนดูการสาธิตการเตรียมสไลด์สดเนื้อเย่ือพืช (อาจแสดงเซลล์สัตว์ด้วยพิจารณาตามความเหมาะสม) เพ่ือ
ศึกษาการเปล่ียนแปลงของเซลล์เน่ืองมาจากความแตกต่างของความเข้มข้นสารละลายระหว่างภายในและ
ภายนอกเซลล์ (ออสโมซสิ ของนา้ ) โดยใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ สารเคมี และวิธกี ารทดสอบดงั ตอ่ ไปน้ี
5.1 วัสดุ อปุ กรณ์ และสำรเคมี จำนวน
รำยกำร 1 เคร่อื ง
1. กล้องจุลทรรศน์เลนสป์ ระกอบแบบใชแ้ สงสอ่ งผา่ น 2 แผน่
2. กระจกสไลด์ 6 แผน่
3. แผ่นปิดกระจกสไลด์ 1 แผน่
4. ใบมดี โกนสองด้าน 1 อนั
5. เขม็ เข่ยี 2 อนั
6. ไมจ้ ิม้ ฟนั 4 – 5 แผน่
7. กระดาษทิชชู่ 1 ขวด
8. นา้ กล่นั 1 ขวด
9. น้าเกลอื (NaCl) ความเขม้ ขน้ 0.89% 1 ขวด
10. น้าเกลอื (NaCl) ความเขม้ ขน้ 5.00% 1 ขวด
11. สซี าฟรานนิ / เมทลิ ลีน บลู (หากสงั เกตเหน็ เซลล์ไดไ้ มต่ ้องใช้สียอ้ ม)
12. ตวั อยา่ งพชื – ใบว่านกาบหอย, ตวั อย่างเซลล์สัตว์ – กระพงุ แกม้
5.2 วิธีกำรทดลอง
1) ให้ใช้ปากกาเคมี ขีดเส้นแบ่งกระจกสไลด์เป็น 3 ส่วน และใส่หมายเลข 1 – 3 ตามลาดับ ในกรณี
เตรยี มตัวอยา่ งเซลล์สัตว์ใหเ้ ตรยี มสไลด์ 2 แผ่น
1 23
นา้ กล่ัน นา้ เกลอื 0.89% นา้ เกลอื 5%
ปฏบิ ัติการเรอื่ ง ออสโมซสิ (Osmosis) หน้าท่ี 7
โครงการพัฒนาการจดั การเรยี นการสอนปฏบิ ตั กิ ารชวี วทิ ยาในโรงเรยี นมัธยมศกึ ษาตอนปลาย คมู่ อื สำหรบั ผสู้ อน
ในจังหวดั กาญจนบุรี โดยมมี หาวิทยาลยั มหดิ ล วิทยาเขตกาญจนบุรเี ป็นพ่เี ลีย้ ง
ออสโมซสิ (Osmosis)
2) หยดน้ากลั่นบนกระจกสไลด์ในช่องหมายเลข 1 หยดน้าเกลือ 0.89% ในช่องหมายเลข 2 และ
หยดน้าเกลอื 5% ในชอ่ งหมายเลข 3
3) การเตรียมเน้ือเยื่อพืชให้ฉีกใบว่านกาบหอยและดึงให้เน้ือเย่ือผิวเป็นแผ่นบาง ใช้ใบมีดโกนตัด
เนือ้ เย่อื ใหเ้ ปน็ ชิ้นเลก็ ๆ จานวน 3 ชนิ้ (กรณใี ช้หอมแดงใหท้ าเชน่ เดียวกนั ) วางลงบนไลดท์ ่ีเตรยี ม
ไว้ก่อนหน้าน้ี เนื้อเย่ือช้ินท่ี 1 วางบนหยดน้ากลั่น (ช่องหมายเลข 1) ชิ้นท่ี 2 วางบนหยดน้าเกลือ
0.89% (ช่องหมายเลข 2) และช้ินที่ 3 วางบนหยดน้าเกลือ 5% (ช่องหมายเลข 3) หากใน
การศึกษามีการเตรยี มสไลด์เซลล์สัตวด์ ้วยใหใ้ ชไ้ ม้จิ้มฟันลูบบรเิ วณกระพุงแก้ม และนามาแตะบน
หยดสารละลายเพอื่ ให้เซลลก์ ระพุงแก้มลอยในสารละลาย
4) นาแผ่นปิดกระจกสไลด์คอ่ ย ๆ วางลงปิดทับช้า ๆ ใหม้ ฟี องอากาศนอ้ ยท่สี ดุ
5) ใช้กระดาษทิชชูซบั นา้ ทล่ี น้ เกินกระจกสไลด์ออกให้เรยี บรอ้ ย
6) นากระจกสไลดไ์ ปศกึ ษาด้วยกล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสง
7) บันทึกลักษณะเซลล์ท่ีสังเกตเห็นด้วยกล้องจุลทรรศน์ เปรียบเทียบลักษณะของเซลล์ในสารละลาย
ความเขม้ ข้นต่าง ๆ อภปิ ราย และสรปุ ผล
กำรบนั ทึกผลกำรศกึ ษำ
ใหน้ ักเรยี นวาดภาพลกั ษณะของเซลล์ท่อี ยู่ในสารละลายตา่ ง ๆ ซง่ึ สงั เกตเหน็ ด้วยกล้องจลุ ทรรศน์
ลกั ษณะของเซลล์พชื เม่ืออยู่ในสำรละลำย
นำ้ กล่นั นำ้ เกลือควำมเขม้ ข้น 0.89% น้ำเกลือควำมเขม้ ข้น 5%
ลกั ษณะของเซลล์สตั ว์เม่ืออยู่ในสำรละลำย (ในกรณมี กี ำรเตรยี มสไลดเ์ ซลล์สตั ว)์
นำ้ กล่ัน น้ำเกลอื ควำมเข้มขน้ 0.89% นำ้ เกลอื ควำมเข้มข้น 5%
ปฏบิ ัตกิ ารเรอ่ื ง ออสโมซิส (Osmosis) หน้าที่ 8
โครงการพฒั นาการจัดการเรยี นการสอนปฏบิ ัตกิ ารชวี วิทยาในโรงเรยี นมัธยมศกึ ษาตอนปลาย คมู่ ือสำหรบั ผสู้ อน
ในจังหวัดกาญจนบรุ ี โดยมีมหาวทิ ยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรเี ปน็ พเี่ ลีย้ ง
ออสโมซสิ (Osmosis)
อภิปรำยผลกำรศึกษำ
ประเด็นทค่ี วรแนะนาใหน้ กั เรียนคดิ วิเคราะห์
- สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงรูปร่างของเซลล์ เช่น การเปล่ียนแปลงของไซโทพลาสซึมในเซลล์
พชื ซึง่ เกิดจากเซลล์เหี่ยว หรือการเปล่ยี นแปลงรปู ร่างของเซลล์สัตว์ สัมพันธ์กับการเคลื่อนท่ีของ
นา้ (ออสโมซิส) อย่างไร
สรุปผลกำรศกึ ษำ
- นักเรียนควรระบุได้ว่าเซลล์ท่ีอยู่ในสารละลายความเข้มข้นสูง (5%) มีรูปร่างเห่ียว ในขณะเซลล์
ในสารละลายความเข้มข้นต่าจะเต่ง อย่างไรก็ตามเซลล์เต่งอาจเห็นไดไ้ ม่ชัดเจนนัก หรือในเซลล์
สตั วเ์ ซลล์ที่เตง่ มากอาจจะแตกและมรี ูปรา่ งไม่แตกตา่ งจากเซลล์ท่ีเหย่ี วได้
6. กิจกรรมท่ี 5 กำรนำเสนอผลกำรศกึ ษำ และกำรสรุปบทเรียน ระยะเวลำไมเ่ กนิ 30 นำที
• สมุ่ นักเรยี นให้นาเสนอผลการศึกษา
• คุณครสู รปุ บทเรียน เชื่อมโยงการฝกึ ปฏิบัตกิ บั การเรยี นภาคทฤษฎใี นชน้ั เรยี น
• การประยุกต์ใชป้ ระโยชน์จากการฝกึ ปฏิบตั ิ
• แบบทดสอบความร้หู ลงั เรียน
ปฏบิ ัติการเรือ่ ง ออสโมซิส (Osmosis) หนา้ ท่ี 9
โครงการพัฒนาการจดั การเรยี นการสอนปฏิบตั ิการชวี วทิ ยาในโรงเรียนมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย คู่มอื สำหรับผสู้ อน
ในจังหวดั กาญจนบุรี โดยมมี หาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบรุ เี ปน็ พเี่ ล้ียง
ออสโมซสิ (Osmosis)
7. แนวทำงในกำรประเมินผลกำรเรยี นรู้
จุดประสงค์ กิจกรรมกำรเรยี นรู้ แนวทำงกำรประเมินผล
กำรเรยี นรู้
- กิจกรรมที่ 1 บทนาการฝกึ • สังเกตการณ์มีส่วนร่วมในการเรียน การตอบคาถามของ
ปฏิบตั กิ าร นักเรียน
• แบบทดสอบกอ่ นเรียน (ถา้ มี ตามความเหมาะสม)
1) – 2) กิจกรรมท่ี 2 อ อ ส โ ม ซิ ส • การสังเกตระหว่างการฝึกปฏิบัติ หรือการเตรียมการ
(Osmosis) ทดลอง
• การซักถามผลการทดลองท่ีคาดว่าจะได้รับ และให้
นักเรยี นแสดงผลจากการทดลอง
• การตรวจบนั ทึกผลการศึกษา หรือรายงานผลการศึกษา
3) – 4) กจิ กรรมท่ี 3 การเปล่ียนแปลง • การซกั ถามผลการทดลองท่คี าดว่าจะได้รับ
รูปร่างของเซลล์ • การตรวจบันทึกผลการศกึ ษา หรอื รายงานผลการศึกษา
ใ น ส่ิ ง แ ว ด ล้ อ ม
แตกต่างกัน
กิจกรรมท่ี 4 การนาเสนอผล • การอภิปรายของนักเรียนโดยเชื่อมโยงกับการเรียน
ก า ร ศึ ก ษ า แ ล ะ ภาคทฤษฎใี นชัน้ เรียน
สรุปผลการศกึ ษา • การเสนอแนะแนวทางการนาไปประยุกต์ใช้ หรือ
เชอ่ื มโยงกบั สถานการณ์ท่ีเกยี่ วขอ้ ง
• แบบทดสอบความรู้หลงั เรียน
ปฏิบัติการเร่อื ง ออสโมซิส (Osmosis) หน้าท่ี 10