The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

มรดกภูมิปัญญาค่าล้ำ วัฒนธรรมชุมชนส่องนางใย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Wanitcha Praew, 2021-04-08 22:40:24

มรดกภูมิปัญญาค่าล้ำ วัฒนธรรมชุมชนส่องนางใย

มรดกภูมิปัญญาค่าล้ำ วัฒนธรรมชุมชนส่องนางใย



ใบความรู้

เรื่อง ประมวลความรูส้ ูแ่ ผนภาพความคิด

ขน้ั ตอนการเขียนแผนภาพความคดิ

เขียนประเดน็ หลักตรงกง่ึ กลางหนา้ กระดาษ
เขียนประเด็นรองทสี่ ัมพนั ธป์ ระเดน็ หลักไปรอบ ๆ
เขียนประเด็นยอ่ ยทส่ี ัมพันธป์ ระเดน็ รองแตกออกไป
มีการใช้เสน้ สี ภาพหรือสัญลกั ษณ์ ประกอบตกแตง่
เขียนคาสาคญั (Key word) บนเส้นและเสน้ ต้องเชื่อมโยงกนั
ไมม่ ีการตีกรอบ ให้คิดไดต้ ามอิสระมากทส่ี ุด
กระดาษท่ใี ชไ้ มม่ ีเสน้ หรือมีลาย ตกแตง่ ตามใจชอบ

รูปแบบของแผนภาพความคิด

แบบใยแมงมุม แบบเปรียบเทยี บ แบบโครงสรา้ ง

แบบขั้นบนั ได แบบก้างปลา

ประโยชนข์ องการเขียนแผนภาพความคิด

ช่วยบูรณาการความร้เู ดิมกบั ความรใู้ หม่
พฒั นาทกั ษะการอ่าน การเขยี น และการคิด
ช่วยในการอภิปราย
ใช้เกบ็ รวบรวมข้อมูล ความรู้ แนวคดิ



ใบความรู้

เรื่อง ประมวลความรสู้ ูแ่ ผนภาพความคดิ
การเขียนแผนภาพความคิด

Mind Mapping

อาเซียน คอื สมาคมประชาชาตแิ ห่งเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้
(Association of South East Asian Nations หรือ ASEAN) โดย
การจัดต้งั ในครงั้ แรกมจี ดุ ประสงคเ์ พอ่ื สง่ เสริมและรว่ มมอื ในเร่อื งสนั ติภาพ,
ความม่ันคง, เศรษฐกิจ, องค์ความร,ู้ สงั คมวฒั นธรรม บนพื้นฐาน
ความเทา่ เทียมกนั และผลประโยชนร์ ่วมกนั ของประเทศสมาชิก ได้แก่ ไทย
สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟลิ ปิ ปนิ ส์ บรูไน เวียดนาม ลาว พม่า
และกัมพูชา ซึ่งธงอาเซยี นมสี ัญลักษณ์ คอื ต้นข้าวสเี หลอื ง ๑o ต้นมัด
รวมกันไว้ หมายถึงประเทศสมาชกิ รวมกันเพื่อมิตรภาพและความเป็น
นา้ หน่งึ ใจเดยี วกัน

ใบงำน
เรือ่ ง หำขอ้ คดิ เขยี นแผนภำพ

ชื่อ-สกลุ ………………………………………..………..………… ชน้ั ….……. เลขที่…......

คำชี้แจง ให้นกั เรียนอ่านเรือ่ ง เรือนไทย ซ่งึ เปน็ บทอา่ นเสรมิ ในหนงั สอื ภาษาพาที
ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ หน้า ๙o แล้วนามาเขยี นแผนภาพความคิด

…………………………………………… ……………………………………………
…………………………………………… ……………………………………………
……………………………………………. …………………………………………….
................................................... ...................................................
................................................... ...................................................

ภำคเหนือ ภำคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื

เรอื นไทย

ภำคกลำง ภำคใต้

…………………………………………… ……………………………………………
…………………………………………… ……………………………………………
……………………………………………. …………………………………………….
................................................... ...................................................
................................................... ...................................................

ใบงำน แนวคำตอบ

เรอ่ื ง หำขอ้ คดิ เขยี นแผนภำพ

ชอ่ื -สกุล………………………………………..………..………… ชนั้ ….……. เลขท่ี…......

คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นอา่ นเรอื่ ง เรอื นไทย ซง่ึ เปน็ บทอ่านเสรมิ ในหนังสอื ภาษาพาที
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ หน้า ๙o แลว้ นามาเขียนแผนภาพความคดิ

- …รูป…แ…บ…บ…ศ…ิล…ป…ะ…ล…ำ้ น…น…ำ…………… -…ต…วั …เร…อื …น…ใช…้ไ…ม…้จร…งิ …………………
- …ห…ล…ังค…ำ…ท…ร…งห…น…ำ้ …จ…วั่ ……………… -…ห…ล…ัง…คำ…ม…กั …ไ…มม่…กี…นั …ส…ำ…ด…ยืน่………
-…น…ยิ …ม…ม…ีกำ…แ…ล…ต…ดิ …ป…ลำ…ย…ห…ล…งั ค…ำ…. -…น…ิย…ม…ส…ร…้ำง…ย…งุ้ …ไว…ใ้ ก…ล…้เ…รอื…น……….
-..ใ..ต..้ถ...ุน...ค..อ่...น..ข...้ำ..ง..ต..ำ่....................... -...ใ..ต..ถ้...นุ ..จ...ดั ..ใ..ห...ใ้..ช..้ส...อ..ย...ไ.ด...้ .............
-..ห...น...ำ้ ..ต..่ำ..ง..บ...ำ..น...เ.ล...็ก..แ...ล..ะ..แ...ค..บ......... ....ม...ำ..ก..ท...ส่ี...ดุ ..................................

ภำคเหนอื ภำคตะวันออกเฉียงเหนอื

เรือนไทย

ภำคกลำง ภำคใต้
…- …เป…็น…เร…ือ…น…ช…้ัน…เด…ีย…ว……………… ……ช…ำว…ไ…ท…ย…ม…ุสล…มิ …ร…บั …อ…ทิ …ธพิ…ล……
…- …ห…ลงั…ค…ำ…ท…รง…จ…วั่ …ส…ูง……………… ท…ำ…ง…ว…ฒั …น…ธ…รร…ม…จ…ำก…ม…ำ…เล…เ…ซ…ีย…
…- …ม…กี …นั …สำ…ด……………………………. …- …ม…กั เ…ป…น็ …เร…อื …น…แ…ฝด………………….
..-...ใ.ต...้ถ..ุน...ย..ก...พ...้นื ...ส..งู........................ ..-..ห...ล..ัง..ค...ำ..ส..ูง...ล...ำ..ด...ช..นั....................
..-...น..ิย...ม..ใ..ช..ไ้..ม...้ส..กั...ท..ำ..ฝ...ำ..บ...้ำ..น........... ......ช..ำ..ว..ไ..ท...ย..พ...ทุ...ธ..ส...ร..ำ้ ..ง..เ.ร..อื..น...ไ..ท...ย..
แบบภำคกลำง

ประวตั ิความเป็นมา

บ้านส่อง

ตาบลตลาด อาเภอเมือง จงั หวดั มหาสารคาม

ในอดีตชุมชนบ้านส่องย้ายมาจากสวุ รรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ต้ังแต่ปี
พ.ศ. ๒๓๙๓ โดยหาดูว่าตรงไหนหรือที่ไหนมีแหล่งน้า เพื่อตั้งแหล่งที่อยู่
อาศัย จากน้ันก็พบห้วยคะคางซึ่งติดกับชุมชนบ้านแมด ในตอนเริ่มต้น
บ้านส่องกไ็ ปอยู่แถวห้วยคะคาง พอไปอยู่ได้ในระยะหนึง่ กเ็ กิดโรคห่าระบาด
จึงขอย้ายบ้านมาอยู่แถวบริเวณโรงเรียนเทศบาลบ้านส่องนางใย ซึ่งเป็น
เนินสงู พออยู่มาได้ระยะหนึง่ เกิดภัยแล้ง เนื่องจากบริเวณโรงเรียนเทศบาล
บ้านส่องนางใยเป็นเนินสูง ทา้ ให้ขาดน้าในการใช้อปุ โภคและบริโภค จึงได้ไป
หาหมอธรรมมาส่องดนู ้า ซึง่ เป็นหมอธรรมจากบรบือ จากน้ันจึงทา้ พิธีเอาไข่
ดิบใส่คายแล้วโยนหาน้า โดยโยนต้ังแต่บริเวณเนินโรงเรียนลงมา แต่ไข่ดิบ
ไม่แตก ในท้ายทีส่ ดุ ไข่ไปแตกอยู่ทีด่ อนตาปู่ จึงได้กา้ หนดว่าจะเจาะบ่อน้าใน
ต้าแหน่งนั้น ซึ่งเปน็ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตา้ บลในปัจจุบนั เมื่อเจาะลง
ไปประมาณ ๗-๘ เมตรก็มีน้าออกมาพอได้กินได้ใช้ จึงเป็นที่มาของชื่อ
“บ้านส่อง” เนื่องจากส่องหาน้า ในปัจจุบันชุมชนมีขนาดใหญ่ขึ้นหรือมี
ประชากรมากขึ้น จึงมี “บ้านส่องเหนือ” และ “บ้านส่องใต้” นอกจากนี้
บ้านส่องยังถือเป็นเมืองที่แยกมาจากร้อยร้อยเอ็ด ท้าใหเ้ ชือ่ กันว่าบ้านส่อง
กอ่ ตั้งขึน้ ก่อนจังหวัดมหาสารคามนั่นเอง

ผูใ้ ห้สัมภาษณข์ ้อมลู นางวัลภา รินทรึก อายุ ๖๙ ปี (อดีตรองประธานชมุ ชนบา้ นส่อง)

มมาจาจากากกการาสรสอ่ อ่งหงหานาน้าา้ เนเนื่อือ่งจงจากากออดดีตีตมมี ี
คควาวมามแแหหง้ แ้งแลลง้ ง้จจึงไึงปไปหหาหาหมมออธรธรรมรมมมาา
สส่อ่องหงหานานา้ ้าเพเพือ่ ือ่ตตัง้ หง้ั หมม่บู ู่บา้ น้านในในกการาอรอยยู่ ู่
ออาศาศยั ัยททา้ ใา้ หใหช้ ้ชื่อื่อวา่วา่ “บ“บ้านา้ นสส่อ่อง”ง”

ท่มี าของชื่อหมู่บา้ น

สาเหตขุ อง
การยา้ ยหมูบ่ ้าน
กไดกไาด้อาร้อเีกรยกเีกยต้ากิดตา้ยอ่ิดโยถ่อรไโถปไรคิ่นปิน่คหเห่าพเา่รพรระราะบาะบาะไาดมไมดส่ ทส่ าทา้าม้าใมาหใารหเ้ รถกเ้ ถกอิดอิดยยูท่ ู่ทเ่ี ดีเ่ ดิมิม

หจโดัง้วโจหยดหยงั้วใหยวหคยนใาหัดวะคอนดราดัคะดอูว้อดราคีตด่ายวู้องาทยีต่าเแยงอี่ไ้าทยลเแห็ดยอา้่ไี ะลนหมย็ดอตะมนามยองั้ตจีแมาูต่แยั้งาจหีแรตู่ตแกาลหง่ปรตสกน่งลงี่ปุวสนพ้ันน่งรีวุ ้านพใ.นั้ รศรนา้ ณ.ใจร.ศตนณึงจ๒ภ.อตพึง๒๓มูภนอพบ๓ิูม๙แนบริ๙๓แกร๓ก
อดีตก่อนยา้ ยมา

หมบู่ า้ นในปัจจุบนั
ปปัจัจจจุบบุ นั ันชชมุ ุมชชนนมมีขีขนนาาดดใหใหญญข่ ่ขึน้ ึน้ หหรรือือมมี ี
ปปรระะชชาากกรรมมาากกขขึน้ ึน้ จจึงึงมมี “ี “บบ้าา้นนสสอ่ ่องงเหเหนนือือ””
แแลละะ““บบา้ า้นนสสอ่ อ่งงใตใต้”้”

แบบประเมินผลงาน แผนภาพความคดิ เก่ยี วกับประวัตคิ วามเป็นมาบา้ นสอ่ ง
คำชีแ้ จง ให้ทำเครอ่ื งหมาย  ลงในชอ่ งคะแนนทีน่ ักเรยี นปฏิบัติได้

รายการประเมนิ

เลขที่ ชอื่ - สกุล อักขรวิ ีธ สรปุ ผล
การสรุปความรู้
การเ ื่ชอมโยงความรู้
ีมความ ิคดสร้างสรร ์ค

คะแนนรวม
แปลผล

3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12 80% ผา่ น ไมผ่ า่ น

บนั ทึกเพ่ิมเตมิ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………….……………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………….………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ………………………………………ผปู้ ระเมิน
(…..……………….…….………………………………)
วันท่ี….…… เดือน……….………….. พ.ศ……….

50

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนการประเมินประเมนิ ผลงาน
แผนภาพความคิดเกีย่ วกับประวตั ิความเปน็ มาบา้ นสอ่ ง

คำชแ้ี จง เกณฑ์การใหค้ ะแนนการประเมินผลงาน แผนภาพความคิดเกีย่ วกับประวตั ิความเปน็ มาบา้ นสอ่ ง
สร้างขึน้ เพอื่ ให้ครใู ชเ้ ป็นเกณฑใ์ นการประเมินนักเรียนเปน็ รายบุคคล โดยพจิ ารณาผลงานของ

นกั เรียนว่าตรงเกณฑใ์ นช่องใด

รายการประเมนิ เกณฑ์การใหค้ ะแนน

3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง)

1. อกั ขรวิธี เขียนได้ตามเกณฑ์ เขียนไดต้ ามเกณฑ์ เขยี นได้ตามเกณฑ์
1.1 เขยี นสะกดคำได้ถูกตอ้ ง
1.2 ใช้เคร่อื งหมายวรรคตอน

ไดถ้ ูกตอ้ ง ครบ 3 ขอ้ อยา่ งนอ้ ย 2 ขอ้ อย่างนอ้ ย 1 ข้อ
1.3 โครงสร้างประโยคถกู ตอ้ ง

ตามหลักไวยากรณ์

2. การสรปุ ความรู้

2.1 สรปุ เนือ้ หาได้ครบทุกประเดน็ เขยี นได้ตามเกณฑ์ เขยี นไดต้ ามเกณฑ์ เขียนได้ตามเกณฑ์

2.2 เขยี นสน้ั ๆ แต่ครอบคลุม ครบ 3 ข้อ อย่างน้อย 2 ขอ้ อย่างนอ้ ย 1 ข้อ

2.3 มีความเป็นอนั หนงึ่ อันเดยี ว

3. การเช่ือมโยงความรู้

3.1 เนอ้ื หามคี วามสัมพันธ์

เกีย่ วเน่ืองกนั เขยี นได้ตามเกณฑ์ เขียนไดต้ ามเกณฑ์ เขยี นไดต้ ามเกณฑ์

3.2 เชือ่ มโยงความรถู้ ูกต้อง ครบ 3 ขอ้ อยา่ งน้อย 2 ขอ้ อยา่ งน้อย 1 ขอ้

ตามลำดับขนั้ หรือหัวข้อตา่ ง ๆ

3.3 แสดงให้เหน็ ความคดิ รวบยอด

4. มคี วามคิดสร้างสรรค์

4.1 ผลงานมีความน่าสนใจ เขยี นไดต้ ามเกณฑ์ เขียนได้ตามเกณฑ์ เขียนไดต้ ามเกณฑ์

4.2 เป็นแนวคิดทแ่ี ปลกใหม่ ครบ 3 ข้อ อยา่ งนอ้ ย 2 ขอ้ อยา่ งนอ้ ย 1 ข้อ

4.3 มีเทคนคิ การโนม้ น้าวใจผูอ้ า่ น

เกณฑ์การตดั สินระดบั คุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ

9-12 ดี

5-8 พอใช้

1-4 ปรบั ปรุง

หมายเหตุ

นักเรยี นผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ 80 ที่ 9 คะแนนขึ้นไป

51

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมในชัน้ เรียน
คำช้ีแจง ให้ทำเครอื่ งหมาย  ลงในชอ่ งคะแนนทน่ี กั เรียนปฏิบตั ไิ ด้

รายการประเมิน

เลขที่ ชื่อ - สกุล ความ ้ัตงใจ สรปุ ผล
ความร่วม ืมอในการทำกิจกรรม
ก ้ลาแสดงความความ ิคดเห็น
ทำงานทันตามกำหนดเวลา

คะแนนรวม
แปลผล

3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12 80% ผ่าน ไมผ่ ่าน

บันทกึ เพม่ิ เติม
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………….……………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………….………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ………………………………………ผสู้ ังเกต
(…..…………….…….………………………………)
วนั ที่….…… เดือน…….………….. พ.ศ……….

52

เกณฑก์ ารให้คะแนนการสังเกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมในชั้นเรียน
คำชีแ้ จง เกณฑ์การให้คะแนนการสังเกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมในช้นั เรยี น สรา้ งขึ้นเพื่อใหค้ รใู ช้เปน็

เกณฑ์ในการสงั เกตนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล ว่ามีพฤติกรรมตรงเกณฑ์ในชอ่ งใด

รายการประเมิน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน

3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรุง)

1. ความตัง้ ใจ

1.1 มคี วามกระตือรือรน้ ใน นกั เรยี นมีพฤตกิ รรม นกั เรยี นมพี ฤตกิ รรม นกั เรยี นมพี ฤตกิ รรม
การเรียน ครบทั้ง 3 ขอ้ อยา่ งน้อย 2 ขอ้ อย่างนอ้ ย 1 ขอ้

1.2 ทำงานท่ไี ด้รบั ดว้ ยความเตม็ ใจ

1.3 มีความพร้อมท่จี ะเรียนเสมอ

2. ความร่วมมอื ในการทำกิจกรรม

2.1 ใหค้ วามรว่ มมอื นักเรยี นมีพฤติกรรม นกั เรียนมีพฤตกิ รรม นักเรียนมพี ฤติกรรม
2.2 เข้าร่วมกจิ กรรมดว้ ย ครบท้งั 3 ขอ้ อยา่ งนอ้ ย 2 ข้อ อยา่ งน้อย 1 ข้อ

ความสนุกสนาน

2.3 กระตือรือร้นทจี่ ะทำกจิ กรรม

3. กล้าแสดงความความคิดเหน็

3.1 กล้าแสดงความคิดเหน็ เม่อื ครู

เปดิ โอกาส นักเรียนมีพฤติกรรม นักเรียนมีพฤติกรรม นกั เรยี นมพี ฤติกรรม

3.2 กล้าสอบถามเม่ือมีขอ้ สงสยั ครบทง้ั 3 ข้อ อยา่ งนอ้ ย 2 ขอ้ อยา่ งนอ้ ย 1 ขอ้

3.3 แสดงความสามารถ

โดยไม่ลังเล

4. ทำงานทันตามกำหนดเวลา

4.1 ทำงานเสรจ็ ทนั เวลา นกั เรยี นมีพฤติกรรม นกั เรยี นมพี ฤตกิ รรม นักเรียนมีพฤตกิ รรม

4.2 ทำงานถกู ตอ้ งและชดั เจน ครบทง้ั 3 ขอ้ อย่างน้อย 2 ขอ้ อยา่ งนอ้ ย 1 ข้อ

4.3 ทำงานเปน็ ระเบยี บเรียบร้อย

เกณฑก์ ารตัดสินระดบั คณุ ภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ

9-12 ดี

5-8 พอใช้

1-4 ปรับปรุง

หมายเหตุ

นกั เรียนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 ท่ี 9 คะแนนข้นึ ไป

53

แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ ภาคเรยี นที่........ ปกี ารศกึ ษา...............

ช่ือ - สกุลผู้เรยี น............................................................................................หอ้ ง..............................เลขท.ี่ ........

คำชแี้ จง : ให้ผ้สู อนสังเกตพฤตกิ รรมของผู้เรยี น แล้วทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องทตี่ รงกบั ระดบั คะแนน

คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ดีมาก ระดบั คะแนน สรปุ ผล
อันพึง (3) การประเมนิ
ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ
ประสงค์ (2) (1) (0)

1. มีวินยั 1.1 ปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ดีมาก
พดอี ใช้
ของหอ้ งเรียน ปรับปรุง
1.2 ปฏบิ ตั ติ ามระเบียบขอ้ บงั คบั
ของโรงเรยี น
1.3 ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ัติกจิ กรรมตา่ ง ๆ

สรุปรวมคะแนน………………………………

2. ใฝ่เรียนรู้ 2.1 ตง้ั ใจเพยี รพยายามในการเรียน ดีมาก
2.2 เขา้ ร่วมกจิ กรรมการเรยี นรู้ พดอี ใช้
2.3 แสวงหาความรจู้ ากแหลง่ เรียนรู้ตา่ ง ๆ

สรุปรวมคะแนน………………………………

3. มุ่งมนั่ ใน 3.1 ตงั้ ใจและรบั ผดิ ชอบในการปฏิบตั หิ น้าที่ ดีมาก
การทำงาน การงาน ดี
พอใช้
3.2 ทำงานดว้ ยความเพยี รพยายาม ปรบั ปรุง
และอดทนเพ่อื ใหง้ านสำเรจ็
สรปุ รวมคะแนน………………………………

4. รกั ความ 4.1 ภาคภมู ใิ จในขนบธรรมเนียม ประเพณี ดมี าก
ดี
เปน็ ไทย และวฒั นธรรมไทย พอใช้
4.2 เหน็ คุณค่าและใชภ้ าษาไทย ปรบั ปรุง
ในการสอื่ สารได้อย่างถกู ต้อง
4.3 อนุรกั ษ์และสืบทอดภมู ิปญั ญาไทย

สรุปรวมคะแนน………………………………

บนั ทึกเพม่ิ เติม

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ลงชือ่ ………………………………………ผปู้ ระเมนิ
(…..……………….…….………………………………)
วันท่ี….…… เดือน……….………….. พ.ศ……….

54

เกณฑ์การให้คะแนน

- พฤติกรรมที่ปฏิบัตชิ ัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน

- พฤติกรรมท่ีปฏิบัติชัดเจนและบอ่ ยครงั้ ให้ 2 คะแนน
- พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครง้ั ให้ 1 คะแนน

- พฤตกิ รรมท่ีไม่ไดป้ ฏิบตั ิ ให้ 0 คะแนน

เกณฑก์ ารสรุปผล ระดับคณุ ภาพ
ดมี าก
ช่วงคะแนน
10-12 ดี
พอใช้
7-9 ปรบั ปรุง
4-6
0-3

หมายเหตุ นักเรยี นผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 80 ที่ 9 คะแนนขนึ้ ไป

55

สรปุ ผลประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์รายชนั้ เรยี น
คำชีแ้ จง ให้กรอกคะแนนลงในช่องคะแนนทนี่ ักเรยี นปฏิบัติได้

คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
ทป่ี ระเมิน

เลขที่ ช่ือ - สกลุ ีมวินัย สรุปผล
ใ ่ฝเรียนรู้
ุ่มง ั่มนในการทำงาน
รักความเป็นไทย

คะแนนรวม
แปลผล
(3) (3) (3) (3) 12 80% ผา่ น ไมผ่ า่ น

บันทึกเพ่ิมเตมิ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………….……………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………….………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอื่ ………………………………………ผปู้ ระเมิน
(…..……………….…….………………………………)
วันท่ี….…… เดือน……….………….. พ.ศ………..

56

แบบประเมินสมรรถนะผ้เู รียน
ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ ภาคเรียนที่........ ปกี ารศกึ ษา...............

ชอื่ - สกุลผเู้ รียน............................................................................................ห้อง..............................เลขท่ี..........

คำชี้แจง : ให้ผสู้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของผ้เู รียน แลว้ ทำเครอ่ื งหมาย ✓ ลงในช่องทีต่ รงกบั ระดบั คะแนน

สมรรถนะผเู้ รยี น รายการประเมนิ ระดับคะแนน สรปุ ผล

ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรงุ การประเมิน

(3) (2) (1) (0)

1. ความสามารถ 1.1 มคี วามสามารถใน ดมี าก
ดี
ในการสอื่ สาร การรับ-ส่งสาร พอใช้
ปรบั ปรงุ
1.2 มีความสามารถในการถา่ ยทอด

ความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ

ของตนเอง โดยใชภ้ าษาได้

อย่างเหมาะสม

1.3 ใช้วิธกี ารส่ือสารท่เี หมาะสม

มปี ระสิทธิภาพ

สรุปรวมคะแนน………………………………

2.ความสามารถ 2.1 มีความสามารถในการคิด/ ดมี าก
ดี
ในการคิด วิเคราะห์ พอใช้
ปรับปรุง
2.2 ตัดสินใจแก้ปัญหาเกีย่ วกบั ดีมาก
ดี
ตนเองได้ พอใช้
ปรับปรุง
สรปุ รวมคะแนน………………………………

3. ความสามารถ 3.1 เรียนรดู้ ว้ ยตนเองได้

ในการใช้ทกั ษะ อย่างเหมาะสมกบั วยั

ชวี ิต 3.2 สามารถทำงานกลุ่มร่วมกับ

ผู้อืน่ ได้

สรปุ รวมคะแนน………………………………

บันทึกเพิม่ เติม
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………….……………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………….……………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ………………………………………ผปู้ ระเมนิ
(…..……………….…….………………………………)
วันที่….…… เดือน……….………….. พ.ศ……….

57

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

- พฤตกิ รรมท่ปี ฏิบตั ิชัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน

- พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน
- พฤติกรรมทป่ี ฏิบัตบิ างคร้งั ให้ 1 คะแนน

- พฤติกรรมที่ไม่ได้ปฏิบตั ิ ให้ 0 คะแนน

เกณฑ์การสรุปผล ระดบั คณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ดีมาก
ดี
7-9 พอใช้
4-6
1-3 ปรบั ปรุง

0

หมายเหตุ นกั เรียนผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ 80 ที่ 7 คะแนนขนึ้ ไป

58

สรุปผลประเมินสมรรถนะผเู้ รียนรายชั้นเรียน
คำชี้แจง ให้กรอกคะแนนลงในชอ่ งคะแนนท่ีนักเรียนปฏบิ ัติได้

สมรรถนะผูเ้ รยี นท่ีประเมิน

เลขที่ ชื่อ - สกุล ความสามารถในการ ื่สอสาร สรุปผล
ความสามารถในการ ิคด
ความสามารถในการใ ้ช
ทักษะ ีชวิต

คะแนนรวม
แปลผล

(3) (3) (3) 9 80% ผ่าน ไมผ่ ่าน

บันทึกเพ่ิมเตมิ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………….………………………………………………………………………………………………… …………………………………………
………………………….………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่ือ………………………………………ผปู้ ระเมิน
(…………………….……………………………………)
วนั ที…่ .…… เดือน………………….. พ.ศ…….....

59

คะแนนที่ได้

คะแ1น0นเต็ม

แบบทดสอบหลังเรียน

เร่อื ง เล่าประวัตผิ า่ นแผนภาพ

คำชี้แจง ให้พิจารณาข้อความแตล่ ะขอ้ ตอ่ ไปนี้ แลว้ ทำเครือ่ งหมาย  หนา้ ขอ้ ทกี่ ล่าวถกู
และทำเคร่ืองหมาย  หนา้ ข้อท่กี ลา่ วผิด

……….. 1. แผนภาพ หมายถึง ภาพหรือเค้าโครงทีเ่ ขียนขึ้นเพือ่ ช่วยในการอธบิ ายเรอ่ื งราว
……….. 2. การเขยี นแผนภาพความคดิ ไม่จำเปน็ ตอ้ งมีเนอ้ื หาทส่ี มั พันธก์ นั
……….. 3. การเขียนแผนภาพความคิดเป็นการฝกึ ทกั ษะการเขยี นเพยี งอยา่ งเดยี ว
……….. 4. การหาขอ้ คิดจากเร่อื งทอ่ี ่าน จะช่วยให้ผูอ้ ่านเขา้ ใจเรอื่ งทอี่ า่ นไดล้ กึ ซงึ้ และเขา้ ใจ

ความคิดของผูเ้ ขียนทีแ่ ฝงไว้ในเร่ือง
……….. 5. แผนภาพความคิดสามารถนำไปใช้วเิ คราะห์ขอ้ มลู ในเรอ่ื งทตี่ นเองสนใจได้
……….. 6. จำเปน็ ตอ้ งใช้กระดาษมเี ส้นหรอื มีลายในการเขยี นแผนภาพความคิด
……….. 7. การเขียนแผนภาพความคิดควรปลอ่ ยให้สมองมีอสิ ระในการคิดมากทส่ี ุด
……….. 8. เนือ้ หาในแผนภาพความคิดควรเน้นการใช้ภาพมากกวา่ การเขียนคำ
……….. 9. การเขียนแผนภาพความคิดเปน็ การตดั คำจากเรื่องท่ีอา่ นมาเขยี น
……….. 10. การเขียนคำสำคัญในแผนภาพความคิดจะทำใหจ้ ดจำไดง้ า่ ยมากขึ้น

ชอื่ – สกุล………………………………………………………………………. ชน้ั …………….. เลขที่……………

คะแนนที่ได้

คะแ1น0นเต็ม

แบบทดสอบหลงั เรยี น

เรอ่ื ง เลา่ ประวตั ผิ ่านแผนภาพ

คำชี้แจง ให้พิจารณาข้อความแต่ละข้อตอ่ ไปน้ี แล้วทำเคร่ืองหมาย  หน้าข้อทก่ี ลา่ วถกู
และทำเครื่องหมาย  หน้าข้อทก่ี ล่าวผิด

……….. 1. แผนภาพ หมายถงึ ภาพหรอื เคา้ โครงท่เี ขยี นขึน้ เพ่อื ช่วยในการอธิบายเรอื่ งราว
……….. 2. การเขียนแผนภาพความคิดไมจ่ ำเปน็ ตอ้ งมีเนื้อหาทสี่ ัมพันธก์ นั
……….. 3. การเขียนแผนภาพความคดิ เป็นการฝึกทกั ษะการเขยี นเพยี งอย่างเดยี ว
……….. 4. การหาข้อคิดจากเรื่องท่อี ่าน จะชว่ ยให้ผู้อ่านเข้าใจเรือ่ งทอี่ ่านได้ลึกซง้ึ และเข้าใจ

ความคดิ ของผเู้ ขียนท่แี ฝงไว้ในเร่ือง

……….. 5. แผนภาพความคดิ สามารถนำไปใชว้ เิ คราะห์ข้อมลู ในเร่อื งท่ีตนเองสนใจได้
……….. 6. จำเปน็ ตอ้ งใช้กระดาษมีเสน้ หรือมลี ายในการเขียนแผนภาพความคิด
……….. 7. การเขยี นแผนภาพความคิดควรปล่อยให้สมองมอี ิสระในการคิดมากท่สี ุด
……….. 8. เนอื้ หาในแผนภาพความคดิ ควรเน้นการใช้ภาพมากกวา่ การเขียนคำ
……….. 9. การเขยี นแผนภาพความคิดเป็นการตดั คำจากเร่อื งท่อี ่านมาเขียน
……….. 10. การเขียนคำสำคญั ในแผนภาพความคดิ จะทำให้จดจำได้ง่ายมากข้ึน

ชื่อ – สกุล………………………………………………………………………. ช้นั …………….. เลขท่ี……………

แบบสรุปคะแนนทดสอบหลงั เรียน
เรือ่ ง เล่าประวตั ิผ่านแผนภาพ

เลขที่ ชื่อ-สกุล คะแนนสอบห ัลงเรียน สรปุ ผล
ประเ ิมนผล

10 คะแนน 80% ผา่ น ไม่ผา่ น

บนั ทกึ เพ่ิมเตมิ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………….……………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………….………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ………………………………………ผปู้ ระเมนิ
(………………….………………….……………………)
วันท่ี….…… เดือน………………….. พ.ศ…………

62

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒

โดยบูรณาการการจดั กจิ กรรมการเรียนรดู้ ว้ ยกระบวนการร่วมแรงร่วมใจ

กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๖

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๑ ความเปน็ มาบา้ นสอ่ ง ภาคเรียนท่ี ๒/๒๕๖๓

เรอ่ื ง แตง่ กลอนสภุ าพทราบความเปน็ มา เวลา ๑ ชว่ั โมง

สาระสำคัญ
กลอนสุภาพ เปน็ ลักษณะคำประพันธ์ของภาษาไทยทเ่ี ปน็ พื้นฐานของกลอนหลายชนดิ หากเข้าใจ

กลอนสุภาพกส็ ามารถเข้าใจกลอนอื่น ๆ ได้งา่ ยขนึ้ คำประพันธ์ที่ต่อท้ายวา่ “สุภาพ” จงึ เปน็ คำประพันธ์ท่ี
แสดงลกั ษณะเป็นไทยแท้ มีขอ้ บงั คับในเรือ่ ง “รูปวรรณยุกต์” แสดงถงึ ไหวพรบิ ปฏิภาณและความแตกฉานใน
การรจู้ กั เลอื กสรรคำภาษาไทยทเี่ หมาะสมและถกู ตอ้ งตามฉนั ทลกั ษณ์ของผแู้ ต่ง

มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ช้วี ดั
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละความคิดเพือ่ นำไปใชต้ ัดสินใจ แกป้ ัญหาใน

การดำเนนิ ชีวติ และมนี ิสัยรักการอ่าน
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษา

และพลงั ของภาษา ภูมิปญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ
ตัวชี้วดั
ท ๑.๑ ป.๖/๑ อา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแก้วและบทรอ้ ยกรองไดถ้ ูกตอ้ ง
ท ๔.๑ ป.๖/๕ แตง่ บทร้อยกรอง

จดุ ประสงค์การเรียนรู้
๑. นกั เรยี นอธบิ ายฉนั ทลักษณ์ของบทรอ้ ยกรองประเภทกลอนสุภาพได้อยา่ งถกู ต้อง (K)
๒. นกั เรยี นสามารถแต่งกลอนสภุ าพไดถ้ ูกต้อง (P)
๓. นักเรียนเห็นความสำคัญและประโยชน์ของการแต่งกลอนสภุ าพ (A)

สมรรถนะผู้เรยี น
๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร
นักเรียนใช้ภาษาถ่ายทอดความคิด ความรู้ ความเข้าใจ ความรู้สึก และทศั นะของตนเอง

เพื่อเปลี่ยนข้อมลู ข่าวสารและประสบการณ์อันจะเป็นประโยชนต์ อ่ การพฒั นาตนเองและสังคม
๒. ความสามารถในการคดิ
นักเรียนรจู้ ักคิดวเิ คราะห์ คดิ สงั เคราะห์ คดิ อยา่ งสร้างสรรค์ คิดอย่างมวี จิ ารณญาณ และคดิ เป็น

ระบบ เพอ่ื นำไปสู่การสรา้ งองคค์ วามรู้หรือสารสนเทศ เพอื่ การตดั สนิ ใจเกี่ยวกบั ตนเองและสงั คมได้
๓. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
นกั เรียนใชก้ ระบวนการตา่ ง ๆ ในการดำเนนิ ชวี ิตประจำวัน เรียนรู้ดว้ ยตนเองตอ่ เนือ่ ง ทำงาน

และอยรู่ ่วมกันในสงั คมด้วยการสรา้ งเสรมิ ความสัมพันธ์อนั ดีระหว่างบคุ คล

63

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
๑. มีวนิ ัย
นักเรยี นปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บข้อบงั คบั ตามทตี่ ง้ั ไว้
๒. ใฝ่เรียนรู้
นักเรียนต้ังใจเรียน มีความเพียรพยายามในการเรยี น และเข้าร่วมกจิ กรรมการเรยี นรู้
๓. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน
นักเรยี นตงั้ ใจเรียนและรบั ผิดชอบงานทต่ี นเองไดร้ บั มอบหมายใหส้ ำเรจ็
๔. รกั ความเป็นไทย
นักเรียนเห็นคุณค่าของภาษาไทย และสามารถใชภ้ าษาไทยได้ถกู ต้อง

สาระการเรยี นรู้/เน้อื หา
๑. ประวตั ิความเปน็ มาบ้านสอ่ ง
๒. กลอนสภุ าพ
๒.๑ ประเภทของกลอน
๒.๑ การแต่งกลอนสุภาพ
- ฉันทลักษณ์หรอื ลกั ษณะบงั คบั
- การเลอื กใชค้ ำ
๓. การอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง
๓.๑ อ่านออกเสียงธรรมดา
๓.๒ อา่ นออกเสยี งทำนองเสนาะ

ผลงาน/การปฏิบตั ิ
การแตง่ กลอนสภุ าพเก่ียวกับประวตั คิ วามเปน็ มาบ้านสอ่ ง

กระบวนการจดั กิจกรรมการเรียนรดู้ ว้ ยการรว่ มแรงรว่ มใจ
๑. ขัน้ เตรียม (๕ นาที)
- ครูกลา่ วทักทายนักเรียนด้วยใบหน้าท่ีย้ิมแย้มแจ่มใสหลังจากนักเรียนทำความเคารพเสร็จ

จากนัน้ ครตู รวจสอบรายช่ือนักเรยี นท่ีมาเขา้ เรยี น หากมีนกั เรียนท่ีไม่มาเรยี น ครคู วรสอบถามถงึ สาเหตุทไี่ ม่มา
เรยี นแล้วบนั ทึกลงในใบรายช่ือนักเรียน

- ครูแบ่งนักเรียนออกเป็น ๕ กลุม่ กลุ่มละ ๓-๕ คนตามความเหมาะสม ซึง่ อาจจะมีท้ังนักเรียนท่ีมี
ความสามารถเก่ง กลาง และออ่ นคละกนั ไป เพือ่ ให้สมาชิกในกลุ่มสามารถชว่ ยเหลอื กันได้และไม่ทำให้กล่มุ ใด
กลุม่ หนงึ่ เด่นจนเกนิ ไปหรือดอ้ ยจนเกนิ ไป

- ครูชแ้ี จงการทำงานร่วมกันและทำกิจกรรมร่วมกนั วา่ สมาชกิ ในกล่มุ จะต้องแบ่งหน้าทแ่ี ละชว่ ยกัน
ทำงานท่ไี ด้รับมอบหมาย เพอ่ื ใหบ้ รรลุวัตถุประสงคข์ องการจัดการเรียนรู้ในครั้งนไี้ ปดว้ ยกนั เพราะฉะนั้น
กระบวนการแบบรว่ มแรงรว่ มใจจะไมม่ ใี ครในกล่มุ ท่ผี ่านหรือไมผ่ ่านเพียงคนเดียว แต่หมายถึงการตัดสนิ เป็น
กลุม่ วา่ ผา่ นหรือไม่ผ่าน ดังน้ันจึงอยากให้สมาชิกในกลุ่มมีทกั ษะในการทำงานร่วมกัน มีความสัมพนั ธ์ท่ีดตี ่อกนั
ใหค้ วามชว่ ยเหลือกนั ใหก้ ำลังใจซง่ึ กันและกนั รวมทงั้ รบั ฟังความคดิ เห็นของกันและกนั

64

๒. ข้นั สอน (๑๕ นาที)
- ครูนำกลอนสภุ าพเร่ือง “การแต่งกลอนสุภาพ” ของฐะปะนีย์ นาครทรรพ และม.ล.บญุ เหลือ

เทพสวุ รรณ ซึ่งเปน็ กลอนสุภาพท่ีแตง่ ข้นึ เกี่ยวกบั หลักการแตง่ กลอนสุภาพ มาใหน้ ักเรยี นดูและอ่านร่วมกัน
ซึ่งเนือ้ หาของกลอนสภุ าพมดี ังนี้

กลอนสภุ าพพึงจำมกี ำหนด กลอนหน่งึ บทส่วี รรคกรองอักษร
วรรคละแปดพยางคน์ ับศพั ทส์ นุ ทร อาจยงิ่ หยอ่ นเจ็ดหรอื เกา้ เข้าหลักการ
ห้าแหง่ คำคลอ้ งจองต้องสมั ผัส สลับจดั รบั รองสง่ ประสงค์สมาน
เสียงสงู ตำ่ ต้องเรยี งเยี่ยงโบราณ เป็นกลอนกานทค์ รบครนั ฉันท์นีเ้ อย

(ฐะปะนีย์ นาครทรรพ และม.ล.บญุ เหลือ เทพสุวรรณ)

- หลังจากนน้ั ใหน้ กั เรียนสงั เกตเก่ียวกบั คำ จำนวนคำ และสัมผัสของกลอนสุภาพ แล้วให้ครู
สนทนากับนกั เรียนโดยใชค้ ำถามตอ่ ไปนี้

๑) ในแต่ละวรรคมคี ำท้ังหมดก่ีคำ (แนวคำตอบ: วรรคละ ๗-๙ คำ แต่ท่นี ิยมกันคือวรรคละ
๘ คำ)

๒) คำสุดทา้ ยของวรรคที่หนึง่ สมั ผสั กับคำใดในวรรคที่สอง (แนวคำตอบ: คำสดุ ท้ายของวรรคที่ ๑
ส่งสมั ผสั ไปยังคำที่ ๓ หรอื ๕ ของวรรคที่สอง)

๓) นกั เรยี นคดิ ว่า การแต่งกลอนสภุ าพมีความสำคัญหรือไม่ เพราะเหตุใด (แนวคำตอบ: การแต่ง
กลอนสุภาพมีความสำคัญ เพราะเปน็ กลอนหลกั ของกลอนทุกชนดิ ถา้ เข้าใจกลอนสุภาพเป็นอย่าง ดีแล้ว
กส็ ามารถจะเขา้ ใจกลอนอน่ื ๆ ได้โดยง่าย)

เพอื่ เตรียมความพรอ้ มและตรวจสอบความรพู้ ้ืนฐานของนักเรียนก่อนเขา้ สบู่ ทเรียนเรื่อง กลอน
สุภาพและเป็นการทบทวนความรู้เดิมของผู้เรยี น ซง่ึ จะเปน็ ประโยชนใ์ นการจัดกจิ กรรมการเรยี นรูท้ คี่ รูสามารถ
เลือกกิจกรรมท่ีเหมาะสมหรอื เข้ากบั นักเรียนได้จากการสอบถามข้างต้น นอกจากนี้ยังทำให้นักเรียน
เห็นความสำคัญของเรอ่ื งทจ่ี ะเรียนและสามารถตง้ั เปา้ หมายจากการเรยี นในครั้งนไี้ ด้

- ครูแจกใบความรู้เร่ือง แต่งร้อยกลอนอา่ นร้อยกรอง ใหน้ กั เรียนศกึ ษาเป็นรายบคุ คล พร้อมกับ
การใช้สือ่ PowerPoint ประกอบการสอนเกีย่ วกบั เรอื่ ง กลอนสภุ าพและการอ่านบทรอ้ ยกรอง โดยอธิบายให้
นักเรียนเข้าใจวา่ ครจู ะเชื่อมโยงการแตง่ กลอนสุภาพกับการอ่านบทรอ้ ยกรองจากกลอนสภุ าพที่แตง่ ข้ึน
นกั เรยี นจึงต้องมคี วามรเู้ กยี่ วกับเรอ่ื งเหลา่ นีก้ อ่ นจึงจะนำไปปฏบิ ตั ไิ ด้ ในระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ค รู จะ ต ้ อ ง ส ั ง เ ก ต คว าม สนใ จใ นกา รเ รี ย นขอ ง นั กเ รี ยนแ ละ เ ปิ ด โอ กาส ใ ห้ นั กเ รี ย นได ้ สอ บถาม ข้ อสงสยั
และร่วมแลกเปล่ยี นความรู้ความคิดเหน็ อยู่เสมอ

- หลังจากให้ความรู้เสรจ็ เรยี บร้อยแลว้ ครูแจกใบงานเร่ือง แตง่ กลอนสภุ าพทราบฉันลักษณ์
ให้นกั เรียนทำเปน็ รายบุคคล ซ่งึ จะมีทง้ั การให้นักเรยี นฝกึ โยงคำสมั ผสั ของกลอนสภุ าพใหต้ รงกับฉนั ทลักษณ์
และการเตมิ คำในกลอนสุภาพให้สมั ผัสถกู ตอ้ งตามฉนั ลักษณ์ ตลอดจนการฝึกแบ่งจังหวะการอ่านกลอนสุภาพ
แบบธรรมดา ถือเป็นการเชื่อมโยงองค์ความรู้จากการเรียนมาฝึกปฏบิ ัติเป็นรายบคุ คลก่อนที่จะเข้าสู่
กระบวนการกลุม่ ต่อไป

65

๓. ข้นั ทำกจิ กรรมกลมุ่ (๑๕ นาที)
- ครใู ห้ความรูเ้ กีย่ วกบั ประวตั ิความเป็นมาบา้ นส่อง ประกอบกบั การใช้สอื่ PowerPoint ซึง่ เป็น

การบรรยายถึงประวัติความเปน็ มาของบา้ นส่องโดยมีการต์ ูนใน PowerPoint เปน็ สอ่ื กระตนุ้ ความสนใจของ
นกั เรียนและเปน็ การเช่อื มโยงมาจากการอ่านแล้วทำแผนภาพความคิดในชวั่ โมงทแ่ี ลว้ จะทำให้นักเรียนมี
ความเขา้ ใจมากยงิ่ ข้นึ ทง้ั ยังเปน็ เรื่องทส่ี ามารถกระตุ้นความสนใจในการเรยี นของนกั เรียนได้ เน่อื งจากเป็น
เรอ่ื งใกล้ตัวและนักเรยี นอาจจะมคี วามสงสยั ในท้องถิน่ ของตนเอง นอกจากนี้ยงั เป็นการปลูกฝังคว ามเป็น
ทอ้ งถิน่ ให้กบั นักเรยี น เพื่อให้เกิดความภาคภมู ิใจ และสามารถนำความรู้ท่ไี ด้จากการเรยี นไปป ระยุกต์ใช้ใน
ท้องถ่นิ ของตนเองได้

- ครูชี้แจงงานให้นักเรียนทำเปน็ กลุ่มตามกลุม่ เดมิ ที่มี ๕ กลุ่ม โดยให้สมาชิกในกลุ่มร่วมกนั
แต่งกลอนสุภาพ จำนวน ๒ บท เกย่ี วกับประวัตคิ วามเป็นมาบ้านส่องให้ถกู ต้องตามฉนั ทลักษณ์ท่ีเรยี นมาแลว้
โดยคำนงึ ถงึ ความสอดคลอ้ งของเร่ืองและความไพเราะของสัมผสั คลอ้ งจองน้ัน ๆ เพ่อื ให้กลอนสุภาพที่นกั เรียน
ช่วยกันแต่งขึ้นมคี วามสมบรู ณ์มากทสี่ ดุ

- เมอ่ื แต่ละกลุ่มแต่งกลอนสภุ าพเสร็จเรยี บร้อยแลว้ แลว้ ให้นกั เรียนเขยี นกลอนสุภาพของกลุ่ม
ตนเอง ลงในกระดาษที่ครูแจกใหเ้ ปน็ รายบุคคล เพอ่ื นำไปอา่ นออกเสียงหน้าช้นั เรียนต่อไป

- ครูต้องหมัน่ สงั เกตพฤติกรรมการทำงานร่วมกันภายในกล่มุ และคอยให้คำแนะนำ ให้คำปรกึ ษ า
เมอ่ื นกั เรียนมคี ำถามหรือขอ้ สงสัย รวมทั้งชว่ ยเหลอื นักเรียนอยเู่ สมอ

๔. ข้นั ตรวจสอบผลงานและทดสอบ (10 นาที)
- ให้นักเรยี นและสมาชิกในกลุ่มนำกลอนสภุ าพทีช่ ว่ ยกนั แตง่ ขน้ึ นั้นมาอ่านออกเสียงแบบธรรมดา

หนา้ ชั้นเรียน โดยจะต้องแบง่ จงั หวะการอา่ นทีถ่ ูกตอ้ งและมีความพร้อมเพรียงกัน ให้ครแู ละเพือ่ นกลุม่ อื่นฟัง
และร่วมประเมินหรือแสดงความคดิ เหน็ อีกทง้ั ครอู าจพดู สรุปความร้เู พิม่ เตมิ หรือข้อสงั เกตเพมิ่ เตมิ เพ่ือเป็น
การเพิ่มพูนความรู้ให้กบั นักเรียน รวมทั้งชว่ ยซ่อมเสริมส่ิงที่ผู้เรียนบกพร่องและพัฒนาสิ่งที่ผู้เรียนมี
ความสามารถอยู่แล้วให้ดีข้ึนกว่าเดมิ ได้

๕. ขน้ั สรุปบทเรยี นและประเมนิ ผลการทำงานเป็นกลมุ่ (๑๕ นาที)
- ครูพูดสรปุ บทเรยี น โดยพูดสรปุ ความรู้เก่ียวกบั กลอนสุภาพและการอา่ นบทรอ้ ยกรองทน่ี กั เรยี น

ไดเ้ รยี นมา ตลอดจนกลา่ วสรปุ ถึงประวตั ิความเป็นมาของบ้านส่อง เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นตระหนักเห็นความสำคัญท้ัง
สาระการเรยี นรู้วชิ าภาษาไทยและสาระการเรยี นร้ทู ้องถนิ่ ทคี่ รนู ำมาให้เรยี นในช่ัวโมงน้ี

- ครูกลา่ วชน่ื ชมการทำงานร่วมกันของนักเรียนแต่ละกลุ่มและช่ืนชมผลงานที่นักเรีย นร่วมกัน
สรา้ งสรรค์ออกมาดว้ ยกระบวนการร่วมแรงรว่ มใจ ซง่ึ อาจจะพูดถงึ จุดเดน่ ของงานหรอื เพิ่มเติมใ นส่ว นท่ี
นกั เรยี นยงั มีข้อบกพร่องอยู่ เพอ่ื ใหน้ ักเรียนได้พัฒนาตนเองในครง้ั ต่อไป ทงั้ นีอ้ าจจะให้นกั เรยี นสรปุ ร่วมด้วย
เพือ่ เปน็ การประเมินผลการทำงานจากหลาย ๆ ดา้ น ถอื เป็นการใหน้ ักเรียนมสี ่วนรว่ มในทุกขน้ั ตอน

- ครูแจกแบบทดสอบหลงั เรยี นชนดิ ปรนยั แบบเลอื กตอบ ๔ ตัวเลือก จำนวน 10 ข้อ 10 คะแนน
พร้อมกระดาษคำตอบ แลว้ ใหน้ ักเรียนลงมือทำแบบทดสอบ โดยใช้เวลา 10 นาที เม่ือนักเรยี นทำแบบทดสอบ
เสรจ็ แล้วใหร้ วบรวมส่งครูเพือ่ ตรวจใหค้ ะแนนตอ่ ไป

66

สื่อ/นวัตกรรม/แหลง่ การเรยี นรู้
ส่อื และนวตั กรรม

๑. กลอนสภุ าพเร่ือง “การแตง่ กลอนสุภาพ” ของฐะปะนีย์ นาครทรรพ และม.ล.บุญเหลอื
เทพสุวรรณ

๒. สื่อ PowerPoint เรื่อง กลอนสภุ าพ การอา่ นบทร้อยกรอง และประวัติความเปน็ มาบ้านสอ่ ง
๓. ใบความรู้เร่อื ง แต่งรอ้ ยกลอนอา่ นรอ้ ยกรอง
๔. ใบงานเรอ่ื ง แต่งกลอนสภุ าพทราบฉันลักษณ์

แหล่งเรียนรู้
๑. หอ้ งสมุด สำหรบั ใช้ในการสบื ค้นความรู้เพมิ่ เติม

๒. อนิ เทอร์เน็ต ในการสืบคน้ ข้อมลู รูปภาพ และความรู้เพิม่ เตมิ

การวดั และประเมินผล วิธกี ารวัด เครือ่ งมอื ทใี่ ช้ เกณฑ์
การวัดและประเมนิ ผล และประเมินผล การประเมิน
การทดสอบความรู้ แบบทดสอบหลงั เรียนชนดิ ผ่านเกณฑ์
อธบิ ายฉันทลักษณข์ อง ปรนัยแบบเลอื กตอบ ร้อยละ 80 ขน้ึ ไป
บทร้อยกรองประเภท การประเมินผลงาน ๔ ตัวเลือก จำนวน 10 ขอ้
กลอนสุภาพได้อย่างถกู ตอ้ ง การแต่งกลอนสภุ าพ 10 คะแนน ผ่านเกณฑ์
สามารถแตง่ กลอนสภุ าพ เก่ียวกับประวัติ รอ้ ยละ 80 ขึ้นไป
ไดถ้ ูกตอ้ ง ความเป็นมาบ้านส่อง แบบประเมินผลงาน
การแต่งกลอนสุภาพเก่ียวกบั ผา่ นเกณฑ์
เห็นความสำคญั การสังเกตพฤติกรรม ประวตั คิ วามเป็นมาบา้ นส่อง รอ้ ยละ 80 ข้นึ ไป
และประโยชนข์ อง การทำกจิ กรรมกลุม่ ชนดิ Scoring Rubrics
การแต่งกลอนสุภาพ ๕ รายการประเมิน ผ่านเกณฑ์
คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ การประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ๓ ระดับคุณภาพ รอ้ ยละ 80 ขึ้นไป
อนั พึงประสงค์ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำ
สมรรถนะผเู้ รยี น กิจกรรมกล่มุ ชนิด Scoring ผา่ นเกณฑ์
การประเมนิ สมรรถนะ Rubrics ๔ รายการประเมนิ รอ้ ยละ 80 ขึ้นไป
ผู้เรยี น ๓ ระดับคุณภาพ
แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอัน
พึงประสงค์ ชนิด Scoring
Rubrics
๔ รายการประเมิน
๓ ระดบั คณุ ภาพ
แบบประเมินสมรรถนะผู้เรียน
ชนิด Scoring Rubrics
๓ รายการประเมิน
๓ ระดบั คุณภาพ

67

บันทึกเพ่มิ เติมสำหรบั ผบู้ รหิ าร/ผทู้ ี่ได้รบั มอบหมาย
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงชื่อ.........................................................ผ้ปู ระเมิน
(.....................................................................)
ตำแหนง่ ...........................................................
วันท.ี่ .........เดอื น............................พ.ศ. ..........

บนั ทึกผลหลังการจัดการเรยี นรู้
ผลการจัดการเรยี นร้.ู ...............................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

สภาพปัญหา............................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

แนวทางการแก้ไขปญั หา.........................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ผลการแกไ้ ขปญั หา..................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงช่ือ...........................................................ผ้บู นั ทึก
(.....................................................................)
ตำแหน่ง...........................................................
วนั ท่ี..........เดอื น............................พ.ศ. ..........

68

การแต่งกลอนสภุ าพ

กลอนสุภาพพงึ จามกี าหนด กลอนหนงึ่ บทสี่วรรคกรองอักษร
วรรคละแปดพยางค์นับศัพทส์ นุ ทร อาจยิ่งหย่อนเจ็ดหรอื เกา้ เขา้ หลกั การ
ห้าแหง่ คาคล้องจองต้องสมั ผสั สลบั จดั รับรองส่งประสงคส์ มาน
เสียงสงู ต่าต้องเรยี งเย่ียงโบราณ เป็นกลอนกานทค์ รบครนั ฉันท์น้ีเอย

(ฐะปะนีย์ นาครทรรพ และม.ล.บุญเหลอื เทพสุวรรณ)

สื่อ PowerPoint เร่อื ง กลอนสภุ าพ การอ่านบทร้อยกรอง และประวตั ิความเปน็ มาบา้ นสอ่ ง
70

สื่อ PowerPoint เรอ่ื ง กลอนสุภาพ การอา่ นบทรอ้ ยกรอง และประวัตคิ วามเปน็ มาบา้ นสอ่ ง (ตอ่ )
71

สื่อ PowerPoint เรอ่ื ง กลอนสุภาพ การอา่ นบทรอ้ ยกรอง และประวัตคิ วามเปน็ มาบา้ นสอ่ ง (ตอ่ )
72

สื่อ PowerPoint เรอ่ื ง กลอนสุภาพ การอา่ นบทรอ้ ยกรอง และประวัตคิ วามเปน็ มาบา้ นสอ่ ง (ตอ่ )
73

สื่อ PowerPoint เรอ่ื ง กลอนสุภาพ การอา่ นบทรอ้ ยกรอง และประวัตคิ วามเปน็ มาบา้ นสอ่ ง (ตอ่ )
74

สื่อ PowerPoint เรอ่ื ง กลอนสุภาพ การอา่ นบทรอ้ ยกรอง และประวัตคิ วามเปน็ มาบา้ นสอ่ ง (ตอ่ )
75

สื่อ PowerPoint เรอ่ื ง กลอนสุภาพ การอา่ นบทรอ้ ยกรอง และประวัตคิ วามเปน็ มาบา้ นสอ่ ง (ตอ่ )
76

สื่อ PowerPoint เรอ่ื ง กลอนสุภาพ การอา่ นบทรอ้ ยกรอง และประวัตคิ วามเปน็ มาบา้ นสอ่ ง (ตอ่ )
77

สื่อ PowerPoint เรอ่ื ง กลอนสุภาพ การอา่ นบทรอ้ ยกรอง และประวัตคิ วามเปน็ มาบา้ นสอ่ ง (ตอ่ )
78

สื่อ PowerPoint เรอ่ื ง กลอนสุภาพ การอา่ นบทร้อยกรอง และประวัตคิ วามเปน็ มาบา้ นสอ่ ง (ตอ่ )
79

สื่อ PowerPoint เรอ่ื ง กลอนสุภาพ การอา่ นบทรอ้ ยกรอง และประวัตคิ วามเปน็ มาบา้ นสอ่ ง (ตอ่ )
80

สื่อ PowerPoint เรอ่ื ง กลอนสุภาพ การอา่ นบทรอ้ ยกรอง และประวัตคิ วามเปน็ มาบา้ นสอ่ ง (ตอ่ )
81



ใบความรู้
เร่ือง แต่งรอ้ ยกลอนอ่านรอ้ ยกรอง

กลอนสุภาพ

๑กลอนมีหลายชนดิ มีชอ่ื เรยี กตา่ ง ๆ กัน
เรยี กชือ่ ตามจานวนคาในวรรค เช่น กลอน ๔ กลอน ๖ กลอน ๘
๒ เรียกช่อื ตามท่ใี ชข้ ับร้อง เช่น กลอนบทละคร กลอนสกั วา กลอน
เสภา กลอนดอกสร้อย ฯลฯ

กลอนสภุ าพ เรียกกนั ทวั่ ไปว่า กลอนตลาด

บางตาราว่ากลอนสภุ าพ คอื กลอน ๘

การแต่งกลอน ๘

ลักษณะบงั คบั บทหนึง่ มี ๔ วรรค วรรคละ ๗-๙ คา
ที่นยิ มกนั คอื วรรคละ ๘ คา

สมั ผัสนอก ซง่ึ เป็นสมั ผสั สระบงั คับ ดังน้ี



ใบความรู้
เรอ่ื ง แต่งรอ้ ยกลอนอ่านรอ้ ยกรอง

ลกั ษณะบงั คับ
เสยี งวรรณยกุ ต์ มีข้อบงั คับการใช้เสยี งวรรณยกุ ต์ ดังน้ี

คาสดุ ทา้ ยวรรคสดบั ใชไ้ ดท้ ุกเสยี ง แตไ่ มน่ ิยมเสียงสามญั
คาสุดท้ายวรรครบั ใชเ้ สียงเอก โท หรือจัตวา
คาสุดท้ายวรรครองและวรรคส่ง ใชเ้ สียงสามัญ หรือตรี

ในการแต่งคาประพนั ธร์ ้อยกรองทุกชนิด จะตอ้ งรู้จักเลอื กคาใหห้ ลากหลาย
เพอื่ ให้เกดิ ความไพเราะและช่วยในการรบั สง่ สัมผสั

ดอกไม้ ผกา บปุ ผา มาลี มาลา บษุ บา
ผหู้ ญงิ นงคราญ นงราม กัลยา นารี บังอร
ปา่ ดง ไพร พนา

ตัวอย่างกลอน ๘

“จะว่าโศกโศกอะไรทใี่ นโลก ไม่เท่าโศกใจหนกั เหมอื นรกั สมร
จะวา่ หนักหนกั อะไรในดนิ ดอน ถงึ สงิ ขรกไ็ ม่หนกั เหมือนรกั กัน
จะว่าเจ็บเจ็บแผลกแ็ ก้หาย ถ้าเจ็บกายชวี าจะอาสัญ
แต่เจบ็ แค้นนแี่ สนจะเจ็บครัน สดุ จะกลั้นสดุ จะกลืนฝนื อารมณ”์

(นิราศเดอื น ของ นายมี)



ใบความรู้
เรอ่ื ง แตง่ รอ้ ยกลอนอา่ นร้อยกรอง

การอา่ นบทรอ้ ยกรอง

การอ่านบทรอ้ ยกรอง อา่ นได้ ๒ แบบ

อ่านแบบธรรมดา

เปน็ การอ่านออกเสยี งพูดธรรมดา ไม่มที านองเหมือนอา่ นรอ้ ยแก้ว
แตม่ ีการแบ่งจงั หวะวรรคตอนใหถ้ ูกตอ้ งตามชนดิ ของคาประพันธ์

อา่ นออกเสยี งทานองเสนาะ

เปน็ การอา่ นออกเสียงทม่ี ีทานองอย่างไพเราะ มีเอ้ือนเสียง เน้นสมั ผัส
แบ่งจงั หวะจานวนคา การอา่ นตามฉนั ทลกั ษณบ์ งั คบั ของคาประพันธ์

หลกั การอา่ นบทรอ้ ยกรองประเภทกลอนสภุ าพ

การแบ่งวรรคจังหวะในการอา่ นของกลอนสภุ าพแตล่ ะวรรค
กลอนสุภาพจะแบง่ จงั หวะการอ่านคาในแตล่ ะวรรคเปน็ 3 ชว่ ง
คาที่สัมผัสกนั นยิ มอา่ นเนน้ คาเพือ่ ใหเ้ กดิ ความไพเราะน่าฟงั

ตอ้ งอา่ นให้ถูกตอ้ งตามอกั ขรวิธี โดยเฉพาะคาควบกล้า ร , ล, ว
ควรใสอ่ ารมณส์ อดแทรกลงไปในบททอ่ี า่ นใหเ้ หมาะสมกบั เนอ้ื เรอื่ ง
และบรรยากาศ
การอา่ นให้รับสัมผสั เพื่อให้เกดิ ความไพเราะจากเสยี งสมั ผสั ในวรรค

ใบงาน
เรื่อง แตง่ กลอนสภุ าพทราบฉนั ลกั ษณ์

ชือ่ -สกลุ ……………………………..………..………… ชั้น….……. เลขท…ี่ ......

คำชีแ้ จง
๑. ให้นักเรียนลากเส้นโยงคาสัมผัสของกลอนสุภาพต่อไปนี้ ให้ถูกต้องตามฉันทลกั ษณ์

หากคนเรารจู้ กั รกั ผูอ้ ืน่ พร้อมหยบิ ยื่นไมตรีบริสุทธิ์
โลกคงจะสดใสไม่โทรมทรดุ
เจรญิ รุดดว้ ยรกั ทถี่ กั ทอ

(ศวิ กานต์ ปทมุ สตู ิ)

๒. ให้นกั เรียนเลือกคาทีก่ าหนดให้มาเติมลงในช่องว่างให้ถกู ต้องตามฉนั ทลกั ษณ์ของ
กลอนสุภาพ

ฝน หนำ้ พร คลำยทน คน

เทดิ พระคณุ บชู าครูผู้คอยสอน ขอมอบ...............แทนใจไม่ห่างหาย
ยังยึดมน่ั กตัญญูไม่ร.ู้ .............. ชพี มลายยงั จดจา้ ย้ากมล
มีวิชากเ็ พราะครูผฝู้ กึ ...............
ถงึ วันนีศษิ ย์ได้ดีกันทว่ั ............... ใหเ้ ป็น...............สุขดีมนี ้าใจ
ทงั ปลุกฝงั คุณธรรมความอด...............
(นพดล สังข์ทอง)

๓. ให้นักเรียนแบ่งจงั หวะการอ่านกลอนสุภาพต่อไปนีใ้ ห้ถูกต้อง

เป็นมนษุ ยส์ ุดนยิ มเพยี งลมปาก จะให้ยากโหยหวิ เพราะชวิ หา
แมน้ พดู ดีมคี นเขาเมตตา จะพดู จาจงพเิ คราะห์ให้เหมาะความ

(สุนทรภู่)

แบง่ จงั หวะกำรอ่ำนได้ดังนี้

……………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………......

เฉลยคาตอบ

ใบงาน
เรื่อง แตง่ กลอนสภุ าพทราบฉนั ลักษณ์

ชือ่ -สกุล……………………………..………..………… ชั้น….……. เลขท…ี่ ......

คำชี้แจง
๑. ให้นกั เรียนลากเส้นโยงคาสมั ผสั ของกลอนสภุ าพต่อไปนี้ ให้ถกู ต้องตามฉันทลกั ษณ์

หากคนเรารูจ้ ักรักผู้อ่ืน พร้อมหยบิ ย่นื ไมตรบี รสิ ทุ ธิ์
โลกคงจะสดใสไมโ่ ทรมทรดุ
เจรญิ รุดดว้ ยรักทถ่ี ักทอ

(ศวิ กานต์ ปทมุ สตู ิ)

๒. ให้นกั เรียนเลือกคาที่กาหนดให้มาเติมลงในช่องว่างให้ถูกต้องตามฉนั ทลกั ษณ์ของ
กลอนสภุ าพ

ฝน หนำ้ พร คลำย ทน คน

เทิดพระคณุ บชู าครูผคู้ อยสอน ขอมอบ....พ....ร.......แทนใจไม่ห่างหาย
ยงั ยึดมัน่ กตญั ญไู ม่ร.ู้ .ค...ล...ำ..ย..... ชีพมลายยังจดจา้ ย้ากมล
มีวิชาก็เพราะครูผู้ฝึก....ฝ...น........
ถึงวนั นศี ษิ ย์ไดด้ ีกนั ทัว่ ..ห...น...ำ้ ....... ให้เปน็ ....ค...น........สขุ ดีมีนา้ ใจ
ทงั ปลกุ ฝังคณุ ธรรมความอด....ท...น........
(นพดล สังข์ทอง)

๓. ให้นกั เรียนแบ่งจังหวะการอ่านกลอนสภุ าพต่อไปนใี้ ห้ถกู ต้อง

เปน็ มนษุ ย์สุดนิยมเพยี งลมปาก จะให้ยากโหยหวิ เพราะชิวหา
แม้นพดู ดีมคี นเขาเมตตา จะพดู จาจงพิเคราะห์ให้เหมาะความ

(สุนทรภ)ู่

แบ่งจังหวะกำรอำ่ นได้ดงั นี้
…………เ…ป…น็ …ม…น…ษุ …ย…์ …/ …ส…ุด…น…ิย…ม…/…เ…พ…ีย…ง…ล…ม…ป…ำ…ก………จ…ะ…ใ…ห…้ย…ำก……/…โห……ยห……วิ …/…เพ…ร…ำ…ะ…ช…ิว…ห…ำ………
แ…ม…้น…พ…ดู …ด…ี …/ …ม…ีค…น…/…เ…ข…ำ…เม…ต…ต…ำ………………………………จ…ะ…พ…ูด…จ…ำ…/…จ…ง.พ...ิเ.ค..ร..ำ..ะ..ห..์./..ใ..ห...้เ.ห...ม..ำ..ะ..ค...ว..ำ...ม

ส่องน้ำตง้ั บำ้ นสอ่ ง

ในอดีตมเี หตตุ ้องยา้ ยถนิ่ จากแดนดนิ สวุ รรณภมู มิ าปกั ฐาน
ค้นหาท่ีเหมาะสมใกลล้ าธาร คนเลา่ ขานทตี่ ัง้ แรกห้วยคะคาง
ระยะหนง่ึ เกดิ โรคห่าคร่าชวี ติ ผคู้ นคดิ ย้ายต่อพอสะสาง
ส่องหาน้าเพื่ออย่กู ินไปตามทาง หมอธรรมอ้างมนี ้าดอนปู่ตา

แบบประเมินผลงาน การแตง่ กลอนสภุ าพเก่ียวกบั ประวตั ิความเป็นมาบ้านสอ่ ง
คำชี้แจง ให้ทำเคร่ืองหมาย  ลงในช่องคะแนนท่ีนักเรยี นปฏิบัติได้

รายการประเมิน

ก ุ่ลมที่ชอ่ื - สกุล สรปุ ผล
ความถูก ้ตองตาม ัฉนท ัลกษณ์
ความ ิคดและเนื้อหา
กวีโวหาร
อักขรวิ ีธ
เวลาที่ใ ้ชในการแ ่ตง

คะแนนรวม
แปลผล

3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12 80% ผ่าน ไม่ผา่ น

บนั ทกึ เพมิ่ เติม
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………….……………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………….………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ………………………………………ผปู้ ระเมนิ
(…..……………….…….………………………………)
วนั ท่ี….…… เดือน……….………….. พ.ศ……….

88

เกณฑ์การให้คะแนนการประเมินประเมนิ ผลงาน การแตง่ กลอนสภุ าพเกีย่ วกบั ประวตั คิ วามเปน็ มาบา้ นสอ่ ง
คำชีแ้ จง เกณฑก์ ารให้คะแนนการประเมินผลงาน การแตง่ กลอนสุภาพเกีย่ วกับประวัตคิ วามเปน็ มาบ้านส่อง

สรา้ งข้ึนเพอ่ื ให้ครใู ชเ้ ป็นเกณฑ์ในการประเมินนกั เรียนเปน็ รายกลุ่ม โดยพจิ ารณาผลงานของ
นกั เรียนว่าตรงเกณฑใ์ นชอ่ งใด

รายการประเมนิ เกณฑ์การใหค้ ะแนน

3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง)

1. ความถูกตอ้ งตามฉนั ทลักษณ์

1.1 มีจำนวนคำถกู ต้อง ปฏิบตั ิไดต้ ามเกณฑ์ ปฏิบตั ิได้ตามเกณฑ์ ปฏิบัติไดต้ ามเกณฑ์
1.2 สัมผสั ระหว่างวรรคถกู ตอ้ ง ครบ 3 ข้อ อยา่ งน้อย 2 ขอ้ อย่างน้อย 1 ข้อ
1.3 สมั ผัสระหว่างบทถูกตอ้ ง

2. ความคดิ และเนือ้ หา

2.1 เนื้อหาตรงประเด็นที่กำหนด ปฏบิ ัติได้ตามเกณฑ์ ปฏิบัติได้ตามเกณฑ์ ปฏิบัติได้ตามเกณฑ์

2.2 สามารถส่ือสารได้เข้าใจ ครบ 3 ขอ้ อย่างนอ้ ย 2 ข้อ อย่างนอ้ ย 1 ขอ้

2.3 มคี วามดงึ ดดู และนา่ สนใจ

3. กวโี วหาร ปฏิบตั ิไดต้ ามเกณฑ์ ปฏบิ ตั ิได้ตามเกณฑ์ ปฏิบัติได้ตามเกณฑ์
3.1 สมั ผสั ราบร่นื และไพเราะ ครบ 3 ขอ้ อยา่ งนอ้ ย 2 ข้อ อยา่ งนอ้ ย 1 ข้อ
3.2 มสี ัมผัสภายในวรรค

3.3 ใช้คำทีม่ คี วามหมายลึกซง้ึ

๔. อกั ขรวิธี

๔.1 เขยี นสะกดคำไดถ้ กู ตอ้ ง

๔.2 ใชค้ ำไดต้ รงกับความหมาย ปฏิบตั ิไดต้ ามเกณฑ์ ปฏิบัติไดต้ ามเกณฑ์ ปฏบิ ัติไดต้ ามเกณฑ์

ท่ีตอ้ งการส่ือ ครบ 3 ขอ้ อย่างน้อย 2 ข้อ อย่างนอ้ ย 1 ข้อ

๔.3 อ่านออกเสยี งได้ถูกตอ้ งตาม

จังหวะการแบ่งวรรคคำ

๕. เวลาที่ใช้ในการแต่ง

๕.1 เสร็จภายในเวลาทีก่ ำหนด ปฏิบตั ิได้ตามเกณฑ์ ปฏบิ ตั ิได้ตามเกณฑ์ ปฏิบัติไดต้ ามเกณฑ์

๕.2 มีความสมบรู ณ์ ครบ 3 ขอ้ อย่างน้อย 2 ข้อ อยา่ งน้อย 1 ขอ้

๕.3 มีความเปน็ ระเบยี บเรียบร้อย

เกณฑก์ ารตดั สนิ ระดบั คุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ

11-15 ดี

๖-10 พอใช้

1-5 ปรบั ปรุง

หมายเหตุ

นักเรยี นผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 80 ท่ี 12 คะแนนขน้ึ ไป

89

แบบสังเกตพฤติกรรมการทำกิจกรรมกล่มุ
คำช้แี จง ใหท้ ำเครื่องหมาย  ลงในชอ่ งคะแนนทีน่ ักเรยี นปฏิบตั ิได้

รายการประเมนิ

เลขท่ี ชอ่ื - สกลุ การแบ่งหน้าท่ีภายในก ุ่ลม สรุปผล
การแสดงความ ิคดเห็นภายในก ุ่ลม
การปฏิบั ิตงานตามบทบาทหน้าท่ี
การให้ความร่วม ืมอในการทำงาน

คะแนนรวม
แปลผล

3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12 80% ผ่าน ไมผ่ า่ น

บันทึกเพิ่มเติม
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………….……………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………….………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ………………………………………ผสู้ ังเกต
(…..…………….…….………………………………)
วันที่….…… เดือน…….………….. พ.ศ……….

90

เกณฑ์การใหค้ ะแนนการสังเกตพฤติกรรมการทำกจิ กรรมกล่มุ
คำช้แี จง เกณฑก์ ารให้คะแนนการสงั เกตพฤตกิ รรมการทำกิจกรรมกลุ่ม สรา้ งข้ึนเพ่อื ใหค้ รใู ช้เปน็ เกณฑ์ใน

การสังเกตนกั เรยี นเปน็ รายบุคคล วา่ มีพฤติกรรมตรงเกณฑใ์ นชอ่ งใด

รายการประเมิน เกณฑ์การใหค้ ะแนน

1. การแบ่งหน้าทภ่ี ายในกลมุ่ 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรงุ )
1.1 มกี ารวางแผนการทำงาน
1.2 มีระบบการทำงานท่ชี ัดเจน นกั เรยี นมพี ฤติกรรม นักเรยี นมีพฤตกิ รรม นักเรียนมพี ฤตกิ รรม
1.3 แบง่ งานกันตามความสามารถ ครบทั้ง 3 ข้อ อย่างนอ้ ย 2 ขอ้ อยา่ งน้อย 1 ขอ้

2. การแสดงความคิดเหน็ ภายในกล่มุ นักเรยี นมีพฤตกิ รรม นักเรยี นมพี ฤตกิ รรม นักเรยี นมีพฤติกรรม
2.1 ทุกคนในกลมุ่ ร่วมแลกเปลีย่ น ครบทั้ง 3 ข้อ อย่างนอ้ ย 2 ขอ้ อย่างน้อย 1 ขอ้

ความคดิ เห็นเพ่อื ใหเ้ กิดส่งิ ใหม่ นักเรียนมพี ฤติกรรม นกั เรยี นมีพฤติกรรม นกั เรียนมพี ฤติกรรม
2.2 แสดงความคดิ เห็นอย่าง ครบทง้ั 3 ขอ้ อยา่ งน้อย 2 ข้อ อยา่ งนอ้ ย 1 ข้อ

สร้างสรรค์ นักเรยี นมีพฤติกรรม นกั เรียนมีพฤติกรรม นกั เรียนมพี ฤตกิ รรม
2.3 ยอมรับในความคิดเห็น ครบท้ัง 3 ขอ้ อย่างนอ้ ย 2 ขอ้ อยา่ งน้อย 1 ขอ้

ทแ่ี ตกต่าง

3. การปฏิบตั งิ านตามบทบาทหนา้ ท่ี
3.1 สมาชิกในกลมุ่ รู้หนา้ ที่

และทำหนา้ ทท่ี ี่ไดร้ ับมอบหมาย
3.2 สมาชิกมกี ารกระตุน้ เตอื นกัน
3.3 งานประสบความสำเร็จตาม

เปา้ หมายทว่ี างไว้
4. การใหค้ วามร่วมมือในการทำงาน

4.1 ม่งุ มัน่ ทำงานทต่ี นเองไดร้ ับ
4.2 มกี ารร่วมมอื กัน
4.3 ผลกั ดนั และช่วยเหลอื กนั

เกณฑ์การตัดสินระดับคณุ ภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ

9-12 ดี

5-8 พอใช้

1-4 ปรบั ปรงุ

หมายเหตุ

นกั เรยี นผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ 80 ท่ี 9 คะแนนขึน้ ไป

91

แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ ภาคเรยี นที่........ ปกี ารศกึ ษา...............

ช่ือ - สกุลผู้เรยี น............................................................................................ห้อง..............................เลขที.่ ........

คำชแี้ จง : ให้ผ้สู อนสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียน แล้วทำเครื่องหมาย ✓ ลงในชอ่ งทต่ี รงกับระดับคะแนน

คณุ ลักษณะ รายการประเมนิ ดีมาก ระดบั คะแนน สรปุ ผล
อันพึง (3) การประเมนิ
ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ
ประสงค์ (2) (1) (0)

1. มีวินยั 1.1 ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ดีมาก
พดอี ใช้
ของหอ้ งเรยี น ปรับปรุง
1.2 ปฏิบตั ิตามระเบยี บขอ้ บงั คบั
ของโรงเรียน
1.3 ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตา่ ง ๆ

สรุปรวมคะแนน………………………………

2. ใฝ่เรียนรู้ 2.1 ตง้ั ใจเพยี รพยายามในการเรยี น ดีมาก
2.2 เขา้ ร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้ พดอี ใช้
2.3 แสวงหาความร้จู ากแหลง่ เรียนรูต้ า่ ง ๆ

สรุปรวมคะแนน………………………………

3. มุ่งมนั่ ใน 3.1 ตงั้ ใจและรับผดิ ชอบในการปฏบิ ตั หิ น้าท่ี ดีมาก
การทำงาน การงาน ดี
พอใช้
3.2 ทำงานดว้ ยความเพยี รพยายาม ปรบั ปรุง
และอดทนเพ่ือให้งานสำเรจ็
สรปุ รวมคะแนน………………………………

4. รกั ความ 4.1 ภาคภมู ิใจในขนบธรรมเนียม ประเพณี ดมี าก
ดี
เปน็ ไทย และวฒั นธรรมไทย พอใช้
4.2 เหน็ คุณคา่ และใชภ้ าษาไทย ปรบั ปรุง
ในการสอื่ สารไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง
4.3 อนรุ กั ษ์และสืบทอดภมู ิปญั ญาไทย

สรุปรวมคะแนน………………………………

บนั ทึกเพม่ิ เติม

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ลงช่ือ………………………………………ผปู้ ระเมนิ
(…..……………….…….………………………………)
วนั ที่….…… เดือน……….………….. พ.ศ……….

92


Click to View FlipBook Version