The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

มรดกภูมิปัญญาค่าล้ำ วัฒนธรรมชุมชนส่องนางใย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Wanitcha Praew, 2021-04-08 22:40:24

มรดกภูมิปัญญาค่าล้ำ วัฒนธรรมชุมชนส่องนางใย

มรดกภูมิปัญญาค่าล้ำ วัฒนธรรมชุมชนส่องนางใย

ผลกำรเรียนรู้ ข้อสอบ นำ้ หนกั ขอ้ เสนอแนะ
+๑ ๐ -๑

แยกแยะแนวทำง ๒๙. กำรเขียนย่อควำมควรใช้วิธเี ขียน

ท่คี วรปฏบิ ตั ิใน อย่ำงไรจึงจะดีท่สี ุด (กำรสงั เครำะห)์

กำรเขยี นย่อควำม ก. อำ่ นวิเครำะหไ์ ปพร้อมกับเขยี นย่อ

ได้ถูกต้อง ข. ตีควำมแต่ละยอ่ หน้ำแล้วนำมำ

เขยี นเรียงลำดบั ดว้ ยสำนวนของตนเอง

ค. อา่ นจบั ใจความสาคัญแล้วจงึ

เรียบเรยี งเป็นข้อความด้วยสานวน

ตนเอง

ง. ขีดเส้นใต้ขอ้ ควำมทีเ่ ป็นใจควำม

สำคัญแลว้ นำมำเรียบเรียงเขียนให้

ตอ่ เนอ่ื งกัน

มมี ำรยำท ๓๐. ใครปฏิบัตติ นได้ไม่ถกู ต้องตำมหลกั

ในกำรฟัง ของกำรฟัง (กำรวิเครำะห)์

ก. เจมส์พดู คยุ เสยี งดัง ไมส่ นใจสิ่งที่

ผพู้ ดู กาลงั พดู

ข. แพรวฟงั หรอื ดเู ร่ืองนั้น ๆ โดย

ตลอด ตั้งแตต่ ้นจบจบ

ค. หมวิ หำขอ้ คิดหรือประโชยนจ์ ำก

เรือ่ งท่ีฟงั หรอื ดู

ง. เฟรมนำขอ้ มูลที่มำเรยี บเรยี งใหม่

และได้ใจควำมตำมเนอ้ื หำเดิม

อธบิ ำยหลักกำร ๓๑ ข้อใดคือหลักกำรพูดท่ีดี

พดู ที่ดีไดถ้ ูกตอ้ ง (ควำมร้คู วำมจำ)

ก. ใชค้ ำพดู ทส่ี ุภำพเหมำะสมกับ

กำลเทศะและบุคคล

ข. ออกเสียงสระ พยญั ชนะ และตวั

ควบกลำ้ ใหช้ ัดเจน

ค. ไม่พดู ตำหนิ นนิ ทำผู้อื่นต่อหน้ำ

คนฟงั

ง. ถกู ทุกข้อ

๓๔๒

ผลกำรเรยี นรู้ ขอ้ สอบ นำ้ หนัก ขอ้ เสนอแนะ
อธบิ ำยหลักกำร +๑ ๐ -๑
พดู แสดงควำมรู้ ๓๒. ข้อใดคือข้อควรคำนึงในกำรพดู
ควำมเข้ำใจได้ แสดงควำมรู้ ควำมเข้ำใจ (กำรวเิ ครำะห)์
ถกู ต้อง
ก. เรียบเรียงคำพดู ให้ดกี ่อนพดู
มคี วำมรู้ ข. มคี วำมร้เู กยี่ วกับเรอ่ื งท่ีจะพดู
ควำมเขำ้ ใจ ค. มีเหตุผลโดยยกตวั อยำ่ ง
เกีย่ วกบั ภำษำถน่ิ ประกอบกำรพดู ใหเ้ ห็นจรงิ
อีสำน ง. ถกู ทกุ ข้อ
๓๓. คำภำษำถ่นิ อีสำนต่อไปน้ีคำใดมี
บอกควำมหมำย ควำมหมำยว่ำ “ตะกรำ้ ” (ควำมรู้-
และลักษณะของ ควำมจำ)
นทิ ำนพ้นื บำ้ นได้ ก. เกอื ก
ถกู ต้อง ข. ขวน
ค. กะต๊า
ง. บักจ๋ก
๓๔. ข้อใดไม่ใช่นิทำนพ้นื บำ้ น (ควำมรู้
ควำมจำ)
ก. กระตา่ ยกบั เตา่
ข. โสนน้อยเรือนงำม
ค. ปลำบทู่ อง
ง. แมน่ ำคพระโขนง
๓๕. ข้อใดเปน็ ลักษณะของนิทำน
พ้นื บ้ำน (ควำมเขำ้ ใจ)
ก. โครงเร่ืองซบั ซอ้ น
ข. ดาเนินเร่ืองอยา่ งง่าย ๆ
ค. เป็นเร่อื งรำวประเภทสำรคดี
ง. เนื้อเรื่องใช้อำ้ งองิ เหตุกำรณ์
ประวตั ศิ ำสตร์ได้

๓๔๓

ผลกำรเรยี นรู้ ข้อสอบ น้ำหนัก ขอ้ เสนอแนะ
บอกควำมหมำย +๑ ๐ -๑
และลกั ษณะของ ๓๖. ข้อใดไม่ใช่ควำมสำคญั ของนิทำน
นิทำนพื้นบำ้ นได้ พ้ืนบำ้ น (ควำมเข้ำใจ)
ถกู ต้อง
ก. ชว่ ยใหม้ นษุ ยเ์ ขำ้ ใจสภำพมนุษย์
อธบิ ำยหลกั กำร โดยท่วั ไปดีข้ึน
อ่ำนจับใจควำม
สำคัญได้ถกู ต้อง ข. ชว่ ยให้ควำมสนกุ สนำน
เพลดิ เพลิน

ค. ชว่ ยให้เกดิ ควำมภำคภูมใิ จใน
ท้องถ่ิน

ง. ช่วยใหส้ ภาพอากาศดีข้ึน
๓๗. ข้อใดไม่ใชน่ ทิ ำนพน้ื บ้ำนภำคอสี ำน
(กำรวเิ ครำะห)์

ก. ยำยหมำขำว
ข. พญำคันคำก
ค. พิกุลทอง
ง. นำงแตงออ่ น
๓๘. กำรอำ่ นจับใจควำมสำคัญ หมำยถึง
ขอ้ ใด (ควำมรคู้ วำมจำ)
ก. อ่ำนเพ่ือควำมรู้
ข. อ่ำนเพ่ือควำมบนั เทิง
ค. อ่านเพ่ือหาสาระสาคญั ของเร่อื ง
ง. อ่ำนเพ่อื คน้ หำแนวทำงในกำร
ดำเนินชีวติ
๓๙. กำรอ่ำนจับใจควำมสำคัญผู้อ่ำน
ต้องปฏบิ ัตอิ ย่ำงไร (กำรนำไปใช)้
ก. แยกเร่ืองออกเป็นตอน ๆ
ข. อำ่ นอยำ่ งรวดเรว็ สมำ่ เสมอ
ค. แยกประเด็นของเรื่องวำ่ สว่ นใด
เปน็ ข้อมลู ประกอบ
ง. อา่ นพจิ ารณาอยา่ งละเอียด
เนอื้ ความหลกั และสว่ นขยาย

๓๔๔

ผลกำรเรยี นรู้ ข้อสอบ น้ำหนกั ข้อเสนอแนะ
อธบิ ำยหลกั กำร +๑ ๐ -๑
อำ่ นจบั ใจควำม ๔๐. ขอ้ ใดกล่ำวถงึ กำรอ่ำนจับใจควำม
สำคญั ได้ถกู ต้อง สำคญั จำกนทิ ำนได้ถกู ต้อง (ควำมเข้ำใจ)

จับใจควำมสำคัญ ก. เป็นกำรอ่ำนจับใจควำมเรอ่ื งที่
จำกนทิ ำน เปน็ บนั เทงิ คดี โดยเน้ือเร่ืองใหค้ วำม
พ้นื บ้ำนเรอ่ื งกดุ บันเทิงแก่ผู้อ่ำน
นำงใยได้
ข. เปน็ กำรอำ่ นจับใจควำมเรือ่ งทเี่ ปน็
สำรคดคี ดี โดยเนอื้ เร่ืองให้ควำมบันเทงิ

ค. เป็นการอ่านจบั ใจความเรอื่ งที่
เป็นบนั เทิงคดี โดยเนื้อเร่อื งใหค้ วาม
เพลิดเพลนิ ในการอ่านและท่สี าคัญ
นทิ านจะให้ขอ้ คดิ แก่ผอู้ า่ น

ง. ถูกทุกข้อ
๔๑. “กุดนำงใย” เปน็ ชือ่ ของสง่ิ ใด
(ควำมรูค้ วำมจำ)

ก. แหล่งน้า
ข. หมู่บ้ำน
ค. โรงเรยี น
ง. วดั ในชุมชน
๔๒. นิทำนพืน้ บำ้ นเรอ่ื งกดุ นำงใยเป็น
ของจงั หวดั ใด (ควำมรู้ควำมจำ)
ก. รอ้ ยเอ็ด
ข. มหาสารคาม
ค. กำฬสินธุ์
ง. ขอนแก่น
๔๓. ขอ้ ใดตรงกับข้อคดิ ท่ีได้จำกนทิ ำน
พื้นบำ้ นเรือ่ งกุดนำงใย (กำรสงั เครำะห์)
ก. พดู ไปสองไพเบี้ยนิง่ เสยี ตำลึงทอง
ข. อยำ่ ชิงสุกกอ่ นห่ำม
ค. อยา่ ตดั สินคนที่ภายนอก
ง. น้ำน่งิ ไหลลึก

๓๔๕

ผลกำรเรียนรู้ ขอ้ สอบ นำ้ หนัก ข้อเสนอแนะ
+๑ ๐ -๑
บอกหลกั กำรเล่ำ ๔๔. ขอ้ ใดเป็นลกั กำรเล่ำนิทำนทดี่ ี
นทิ ำนได้ถกู ต้อง (ควำมเข้ำใจ)

ก. เลำ่ โดยทำควำมเขำ้ ใจเนือ้ หำของ
เรอ่ื งก่อน

ข. เล่ำแบบเตมิ แต่งเนือ้ เรื่องจนเค้ำ
เร่ืองเปล่ียน

ค. เลำ่ ตำมอำรมณ์ของผู้เล่ำ
ง. ใช้น้ำเสียงปกติตลอดทง้ั เร่ือง
๔๕. ใครปฏิบัตติ นไม่เหมำะสมในกำร
เล่ำนิทำน (กำรนำไปใช)้
ก. นดิ ใชน้ ำ้ เสียงใหเ้ หมำะสมตำม
เนื้อหำ
ข. หนอ่ ยร้องไห้เมื่อถึงตอนเสียใจจน
ไมส่ ำมำรถหยดุ ได้
ค. นอ้ ยศึกษำบทท่จี ะเลำ่ ใหล้ ะเอยี ด
ก่อนทจี่ ะเลำ่
ง. หนมุ่ ใช้ทำ่ ทำงประกอบในกำรเลำ่
นิทำน

ลงชื่อ……………………………………………………ผู้ประเมิน
(………………………………………………………………………)
ตำแหน่ง……………………………………………………………
วนั ท…่ี ….…. เดอื น……………………… พ.ศ.………………

๓๔๖

ตารางแสดงความสอดคล้องระหว่างขอ้ สอบกับตวั ชวี้ ดั /จุดประสงค์การเรยี นรู้
วชิ าภาษาไทยเพ่ิมเติม ระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖

ข้อท่ี ความคดิ เหน็ ของผ้เู ช่ียวชาญ ผลรวม ค่า IOC แปลผล
คนท่ี ๑ คนที่ ๒ คนท่ี ๓
ใช้ได้
๑ ๑ ๐ ๑ ๒ ๐.๖๗ ใช้ได้
ใช้ได้
๒๑ ๑ ๑ ๓ ๑ ใชไ้ ด้
ใชไ้ ด้
๓๑ ๑ ๑ ๓ ๑ ใชไ้ ด้
ใชไ้ ด้
๔๑ ๑ ๑ ๓ ๑ ใชไ้ ด้
ใชไ้ ด้
๕๑ ๑ ๑ ๓ ๑ ใชไ้ ด้
ใชไ้ ด้
๖๑ ๑ ๑ ๓ ๑ ใชไ้ ด้
ใชไ้ ด้
๗๑ ๑ ๑ ๓ ๑ ใชไ้ ด้
ใชไ้ ด้
๘๑ ๑ ๑ ๓ ๑ ใชไ้ ด้
ใชไ้ ด้
๙๑ ๑ ๑ ๓ ๑ ใชไ้ ด้
ใช้ได้
๑๐ ๑ ๑ ๑ ๓ ๑ ใช้ได้
ใช้ได้
๑๑ ๑ ๑ ๑ ๓ ๑ ใช้ได้
ใช้ได้
๑๒ ๑ ๑ ๑ ๓ ๑ ใชไ้ ด้
ใช้ได้
๑๓ ๑ ๑ ๑ ๓ ๑ ใช้ได้
ใช้ได้
๑๔ ๑ ๐ ๑ ๒ ๐.๖๗ ใช้ได้

๑๕ ๑ ๑ ๑ ๓ ๑

๑๖ ๑ ๑ ๑ ๓ ๑

๑๗ ๑ ๑ ๑ ๓ ๑

๑๘ ๑ ๑ ๑ ๓ ๑

๑๙ ๑ ๑ ๑ ๓ ๑

๒๐ ๑ ๑ ๑ ๓ ๑

๒๑ ๑ ๑ ๑ ๓ ๑

๒๒ ๑ ๑ ๑ ๓ ๑

๒๓ ๑ ๑ ๑ ๓ ๑

๒๔ ๑ ๑ ๑ ๓ ๑

๒๕ ๑ ๑ ๑ ๓ ๑

๒๖ ๑ ๑ ๑ ๓ ๑

๒๗ ๑ ๑ ๑ ๓ ๑

๒๘ ๑ ๑ ๑ ๓ ๑

๓๔๗

ตารางแสดงความสอดคล้องระหว่างขอ้ สอบกับตัวช้ีวัด/จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
วชิ าภาษาไทยเพิ่มเติม ระดับชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๖ (ต่อ)

ขอ้ ที่ ความคิดเห็นของผเู้ ชยี่ วชาญ ผลรวม คา่ IOC แปลผล
คนที่ ๑ คนที่ ๒ คนที่ ๓
ใชไ้ ด้
๒๙ ๑ ๑ ๑ ๓ ๑ ใชไ้ ด้
ใช้ได้
๓๐ ๑ ๑ ๑ ๓ ๑ ใช้ได้
ใชไ้ ด้
๓๑ ๑ ๑ ๑ ๓ ๑ ใช้ได้
ใชไ้ ด้
๓๒ ๑ ๑ ๑ ๓ ๑ ใชไ้ ด้
ใชไ้ ด้
๓๓ ๑ ๑ ๑ ๓ ๑ ใชไ้ ด้
ใชไ้ ด้
๓๔ ๑ ๑ ๑ ๓ ๑ ใช้ได้

๓๕ ๑ ๑ ๑ ๓ ๑

๓๖ ๑ ๑ ๑ ๓ ๑

๓๗ ๑ ๑ ๑ ๓ ๑

๓๘ ๑ ๑ ๑ ๓ ๑

๓๙ ๑ ๑ ๑ ๓ ๑

๔๐ ๑ ๑ ๑ ๓ ๑

หมายเหตุ มผี ้เู ช่ียวชาญประเมินความสอดคลอ้ งระหวา่ งข้อสอบกบั ตวั ช้วี ดั /จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ดังนี้
ผู้เชี่ยวชาญคนที่ ๑ : นางสุดารัตน์ สรุ ะสา ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ
โรงเรียนเทศบาลบ้านส่องนางใย
ผ้เู ช่ียวชาญคนที่ ๒ : นางกลั ยารตั น์ หรัญรัตน์ ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการพเิ ศษ
โรงเรยี นเทศบาลบ้านส่องนางใย
ผูเ้ ชีย่ วชาญคนที่ ๓ : นางสดุ ารตั น์ วฒั นบตุ ร ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการพเิ ศษ
โรงเรียนเทศบาลบา้ นสอ่ งนางใย

๓๔๘

ภาคผนวก ค
ขอ้ สอบวดั ผลสัมฤทธิ์ก่อนเรยี นและหลงั เรยี น

๓๔๙

แบบทดสอบกอ่ นเรียน สาระการเรยี นรู้ท้องถ่นิ วชิ าภาษาไทย

เรอื่ ง มรดกภูมปิ ญั ญาค่าล้า วัฒนธรรมชุมชนส่องนางใย
ระดับชันประถมศึกษาปีท่ี ๖ ภาคเรยี นท.่ี ............ ปีการศกึ ษา................

โรงเรียนเทศบาลบ้านสอ่ งนางใย อ้าเภอเมือง จงั หวัดมหาสารคาม
สอบวนั ท.่ี ........... เดือน............................ พ.ศ............... เวลา.......................

ค้าชีแจง

๑. ก่อนลงมอื ตอบคำถำมในแบบทดสอบชดุ น้ี ให้นักเรียนอ่ำนคำชี้แจงให้เข้ำใจ
๒. แบบทดสอบมที ั้งหมด ๑ ตอน จำนวน ๓๐ ข้อ (คะแนนเตม็ ๓๐ คะแนน)

ตอนท่ี ๑ เป็นแบบปรนัย จำนวน ๓๐ ขอ้ (๓๐ คะแนน)
๓. กรอกข้อมลู ลงกระดำษคำตอบปรนยั ใหเ้ รยี บร้อย
๔. อนญุ ำต / ไม่อนุญำตใหบ้ ันทกึ หรอื ทด ขอ้ มลู ใด ๆ ลงในขอ้ คำถำมของแบบทดสอบชุดน้ี
๕. ไม่อนุญำตใิ หผ้ ู้เข้ำสอบนำแบบทดสอบออกจำกหอ้ งสอบ
๖. ให้ใชเ้ วลำในกำรทำแบบทดสอบทดสอบน้ี ๔๕ นำที
๗. ห้ำมใช้เครอ่ื งมือส่ือสำรทุกชนิดขณะทำแบบทดสอบ มิฉะนั้นจะปรบั สอบตกในทนั ที

*******************************

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ระดบั ชนั ประถมศกึ ษาปีที่ ๖
สาระการเรยี นรทู้ ้องถิน่ วิชาภาษาไทย ภาคเรยี นท.ี่ ..............ปีการศกึ ษา.............
จ้านวนขอ้ สอบปรนยั ชนิดเลือกตอบ ๓๐ ข้อ คะแนนเตม็ ๓๐ คะแนน เวลา ๔๕ นาที

ค้าชแี จง : ให้นกั เรียนเลือกคำตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบ ๔. ข้อใดกล่าวถึงลกั ษณะกลอนสภุ าพได้ถูกตอ้ ง
เดียว โดยใหน้ ักเรียนทำเครื่องหมำย  ลงในกระดำษคำตอบ ก. มีหลำยประเภทแตช่ ื่อเรียกมเี พยี งชอื่ เดยี ว
ข. กลอนมคี ำในแต่ละวรรคมจี ำนวนต้งั แต่ ๕ – ๘ คำ
๑. บุคคลในขอ้ ใดเขียนแผนภาพความคดิ ไดถ้ ูกวธิ ี ค. เป็นร้อยกรองท่ีแตง่ ไมย่ ำกแตค่ นไทยไม่ค่อยนิยม
ก. ปัน้ ไมข่ ดี เส้นโยงแต่ละหัวข้อที่สมั พนั ธก์ ัน ง. เป็นร้อยกรองประเภทบังคบั คณะ สัมผัส และเสียง
ข. ปกุ๊ เขยี นแยกสว่ นประกอบเหมือนทีเ่ พ่อื นทำ
ค. ปอยเขียนดว้ ยคำสำคญั ทม่ี ีควำมหมำยชัดเจน วรรณยุกต์
ง. เปยี ใชส้ ีเดียวกันตกแตง่ แผนภำพควำมคิดทัง้ หมด ๕. ข้อใดแบง่ จังหวะวรรคการอ่านค้าไดถ้ ูกต้อง

๒. “การเขียนแผนภาพความคดิ ควรปล่อยให้สมองมี ก. เมือ่ ทำ / กำรสิ่งใด / ดว้ ยใจรกั
อสิ ระในการคดิ มากทส่ี ดุ เทา่ ทีจ่ ะเป็นไปได้” ข้อความนี ข. ถึงงำนหนกั / ก็เบำลง / แลว้ ครง่ึ หน่ึง
หมายความวา่ อย่างไร ค. ด้วยใจ / รักเป็นแรง / ทเ่ี ร้ำรงึ
ง. ให้มงุ่ มัน่ / ฝนั ถงึ ซงึ่ / ปลำยทำง
ก. กำรเขยี นแผนภำพควำมคิดต้องใชค้ วำมคิดสรำ้ งสรรค์ ๖. ใครปฏบิ ัตใิ นการพดู รายงานไดเ้ หมาะสมท่สี ดุ
ข. เป็นกำรใช้อำรมณแ์ ละควำมรสู้ ึกมำกกว่ำใชค้ วำมคิด ก. ป๊กุ ไมม่ กี ำรสรปุ สำระควำมรู้ เมอื่ รำยงำนจบ เพรำะ
ค. กำรเขยี นแผนภำพควำมคิดตอ้ งเหมอื นกบั คนอ่ืน กลวั จะเสียเวลำ
ง. ควำมเครยี ดจะทำใหเ้ ขียนแผนภำพควำมคิดไม่ได้ ข. ปไู มเ่ ปิดโอกำสให้ผฟู้ ังไดซ้ กั ถำมในช่วงทำ้ ยของกำร
๓. การเขียนแผนภาพความคดิ และการอ่านมี รำยงำน
ความสมั พันธ์กนั อยา่ งไร ค. ปลำใชส้ ือ่ ประกอบท่หี ลำกหลำยแต่ไม่สอดคลอ้ งกับ
ก. กำรเขียนแผนภำพควำมคิดเกิดจำกกำรหำข้อคดิ สง่ิ ท่รี ำยงำน
ง. ปรำบใช้ภำษำพูดได้ถูกตอ้ งชัดเจน มีจังหวะวรรคตอน
จำกเรอื่ งท่ีอำ่ น ๗. ข้อใดกลา่ วไมถ่ กู ตอ้ งเกี่ยวกับการพูดลา้ ดบั เหตกุ ารณ์
ข. กำรเขยี นแผนภำพควำมคดิ เปน็ กำรตดั คำ ก. เปน็ กำรพดู ใหผ้ ้อู น่ื เชอ่ื ถือ หรือมคี วำมเหน็ คลอ้ ยตำม
ข. พดู แนะนำตนเองก่อนพดู แนะนำลำดบั เหตุกำรณ์
จำกเรอ่ื งทอี่ ่ำน ค. ใชภ้ ำษำทีเ่ ขำ้ ใจง่ำย กระชบั ตรงไปตรงมำ
ค. กำรอำ่ นทำให้เขียนแผนภำพควำมคดิ ได้สวยงำม ง. กำหนดโครงเร่อื งท่จี ะพูดเรยี บเรียงควำมคิดและข้อมูล
ใหต้ ่อเนื่อง
มำกขึ้น
ง. กำรเขยี นแผนภำพควำมคดิ ชว่ ยฝกึ ทกั ษะกำรอ่ำนเร็ว

๘. ขอ้ ใดไม่ใช่องคป์ ระกอบของการพดู รายงาน ๑๓. ลักษณะของค้าในภาษาไทยถิน่ โคราชเกดิ จากการ
ก. ผพู้ ดู ผสมผสานระหว่างภาษาใด
ข. สถำนท่ี
ค. ผฟู้ งั ก. ภำษำไทยกลำง + ภำษำอีสำน + ภำษำผ้ไู ท
ง. สำร ข. ภำษำไทยกลำง + ภำษำอสี ำน + ภำษำไทญอ้
ค. ภำษำไทยกลำง + ภำษำลำว + ภำษำเขมร
๙. ข้อใดเป็นขันตอนแรกในการเขยี นรายงาน ง. ภำษำไทยกลำง + ภำษำอีสำน + ภำษำเขมร
ก. วำงแผนเขยี นรำยงำน ๑๔. คา้ ว่า “กนิ ” ออกเสียงส้าเนียงภาษาโคราชบา้ นหมอ้
ข. รวบรวมขอ้ มลู ได้ว่าอยา่ งไร
ค. กำหนดหัวข้อเรอื่ ง ก. กิ่น
ง. เขียนรำยงำน ข. ก้นิ
ค. กิ๋น
๑๐. การกา้ หนดระยะเวลาปฏิบัติ สถานท่ที จี่ ะไปคน้ ควา้ ง. ก๊ิน
แบ่งหน้าท่ใี นการรบั ผดิ ชอบ เปน็ การปฏบิ ัตใิ นขันตอนใด ๑๕. บุคคลในข้อใดปฏบิ ตั ไิ ดส้ อดคล้องกับค้าว่า
ของการเขียนรายงาน “เสมอหรม่ึ ”
ก. สม้ ไม่สนใจเรยี นขณะท่ีครูสอน
ก. วำงแผนเขยี นรำยงำน ข. มะนำวชอบเรียนวิชำภำษำไทย
ข. รวบรวมขอ้ มูล ค. แตงไทยเดนิ สะดุดก้อนหิน
ค. กำหนดหัวขอ้ เร่อื ง ง. นอ้ ยหนำ่ ต่นื เตน้ ทจ่ี ะได้ไปเทีย่ วโครำช
ง. เขียนรำยงำน ๑๖. ขอ้ ใดกลา่ วถกู ต้องเก่ียวกบั หลกั การเขียนย่อความ
๑๑. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ลกั ษณะการพูดสรปุ ความรู้เพ่ือแสดงถึง ก. หำกคำใดท่ียำวเกินไป ควรใชอ้ ักษรย่อแทน
ความร้คู วามเข้าใจ ข. ย่อเนือ้ หำใหเ้ ปน็ ภำษำพูดเพื่อใหเ้ ขำ้ ใจงำ่ ย
ก. มีจดุ ประสงค์ในกำรพดู ชดั เจน ค. ใชภ้ ำษำที่สัน้ กระชบั และเข้ำใจง่ำย
ข. ใชภ้ ำษำในกำรพดู ได้ตำมใจชอบ ง. ใชค้ ำท่ีเฉพำะเจำจงเพื่อให้ทรำบวำ่ คือบคุ คลใด เช่น
ค. นำเสนอเฉพำะประเดน็ ทสี่ ำคญั นำยดำ นำงแดง
ง. เรียบเรยี งเนือ้ หำตำมลำดับเหตุกำรณ์ ๑๗. การเขียนย่อความคือการเขยี นลักษณะใด
๑๒. พฤติกรรมของบุคคลใดแสดงใหเ้ ห็นวา่ เป็นผู้มีมารยาท ก. กำรเขยี นสรปุ ใจควำมสำคัญของเรื่องที่ไดอ้ ่ำน
ในการฟังและการดู ข. กำรเขียนสรุปใจควำมสำคญั ของเร่ืองท่ีไดฟ้ ัง
ก. ซกั ถำมข้อสงสัยทนั ทีขณะท่ีฟังและดูสือ่ ค. กำรเขียนสรปุ ใจควำมสำคัญของเร่ืองที่ไดด้ ู
ข. รจู้ ักยบั ยั้งควำมรูส้ กึ และอำรมณ์ขณะฟงั และดูส่อื ง. ถกู ทกุ ขอ้
ค. ควบคมุ กิริยำได้ในบำงชว่ งบำงตอนขณะฟงั และดูสอ่ื
ง. พดู คยุ และแสดงควำมคิดเห็นกับเพ่ือนด้วยเสยี งทเ่ี บำ
ขณะฟังและดสู ื่อ

๑๘. ขอ้ ใดไมใ่ ช่จุดประสงค์ของการเขยี นย่อความ ๒๓. ขอ้ ใดเป็นลกั ษณะของนิทานพืนบา้ น
ก. เพือ่ นิยำมควำมหมำย ก. โครงเรื่องซับซอ้ น
ข. เพ่อื สรปุ ยอ่ ควำม ข. ดำเนนิ เรื่องอยำ่ งงำ่ ย ๆ
ค. เพือ่ เลำ่ เร่ืองย่อ ค. เปน็ เร่อื งรำวประเภทสำรคดี
ง. เพื่อสรำ้ งเรื่องใหม่ ง. เนือ้ เรื่องใช้อำ้ งอิงเหตุกำรณป์ ระวัตศิ ำสตร์ได้

๑๙. หากตอ้ งการย่อความจากบทรอ้ ยกรอง ควรปฏิบตั ิ ๒๔. ข้อใดไม่ใช่นทิ านพืนบ้านภาคอสี าน
อยา่ งไร ก. ยำยหมำขำว
ข. พญำคันคำก
ก. อำ่ นและจบั ประเดน็ ใจควำมสำคญั แลว้ จดบนั ทึกไว้ ค. พิกุลทอง
ข. แบง่ วรรคตอนในกำรอ่ำนบทร้อยกรองใหถ้ ูกต้อง ง. นำงแตงอ่อน
ค. ควรยอ่ จำกภำษำรอ้ ยกรองเปน็ ภำษำร้อยแกว้
ง. ถูกทกุ ขอ้ ๒๕. การอา่ นจบั ใจความส้าคญั หมายถึงข้อใด
๒๐. ใครปฏิบตั ติ นไดไ้ ม่ถกู ตอ้ งตามหลักของการฟงั ก. อำ่ นเพ่อื ควำมรู้
ก. เจมสพ์ ูดคยุ เสยี งดัง ไม่สนใจสง่ิ ท่ีผู้พดู กำลังพดู ข. อำ่ นเพ่ือควำมบันเทิง
ข. แพรวฟังหรือดเู ร่ืองน้นั ๆ โดยตลอด ตง้ั แต่ต้นจบจบ ค. อ่ำนเพ่ือหำสำระสำคัญของเร่ือง
ค. หมวิ หำข้อคิดหรือประโชยน์จำกเรื่องที่ฟงั หรือดู ง. อ่ำนเพอ่ื ค้นหำแนวทำงในกำรดำเนินชีวิต
ง. เฟรมนำขอ้ มลู ท่ีมำเรียบเรียงใหม่ และไดใ้ จควำมตำม
เน้อื หำเดมิ ๒๖. การอ่านจบั ใจความส้าคญั ผอู้ า่ นต้องปฏิบตั ิอยา่ งไร
๒๑. ข้อใดคือข้อควรค้านงึ ในการพูดแสดงความรู้เขา้ ใจ ก. แยกเรื่องออกเป็นตอน ๆ
ก. เรยี บเรียงคำพดู ให้ดกี ่อนพดู ข. อำ่ นอยำ่ งรวดเรว็ สมำ่ เสมอ
ข. มีควำมรเู้ ก่ียวกบั เร่ืองที่จะพดู ค. แยกประเดน็ ของเร่ืองว่ำสว่ นใดเป็นข้อมลู ประกอบ
ค. มเี หตุผลโดยยกตวั อย่ำงประกอบกำรพูดใหเ้ หน็ จริง ง. อ่ำนพิจำรณำอยำ่ งละเอียดเน้อื ควำมหลักและสว่ น
ง. ถูกทกุ ขอ้
๒๒. คา้ ภาษาถ่ินอีสานตอ่ ไปนคี า้ ใดมีความหมายวา่ ขยำย
“ตะกรา้ ” ๒๗. ข้อใดตรงกบั ขอ้ คดิ ทีไ่ ด้จากนทิ านพืนบ้าน
ก. เกอื ก เรื่องกุดนางใย
ข. ขวน
ค. กะต๊ำ ก. พดู ไปสองไพเบย้ี น่ิงเสยี ตำลงึ ทอง
ง. บกั จ๋ก ข. อย่ำชงิ สกุ ก่อนห่ำม
ค. อยำ่ ตัดสินคนท่ภี ำยนอก
ง. น้ำน่งิ ไหลลึก

๒๘. ขอ้ ใดกล่าวถึงการอ่านจับใจความสา้ คัญจากนิทาน ๓๐. ใครปฏิบัตติ นไมเ่ หมาะสมในการเล่านิทาน
ได้ถกู ต้อง ก. นดิ ใชน้ ้ำเสียงใหเ้ หมำะสมตำมเน้อื หำ
ข. หน่อยรอ้ งไหเ้ มื่อถงึ ตอนเสยี ใจจนไมส่ ำมำรถหยดุ ได้
ก. เปน็ กำรอำ่ นจบั ใจควำมเรื่องทเ่ี ปน็ บนั เทิงคดี โดยเนอื้ ค. น้อยศึกษำบทท่ีจะเล่ำใหล้ ะเอียดก่อนทจี่ ะเลำ่
เรอ่ื งใหค้ วำมบันเทงิ แก่ผู้อ่ำน ง. หน่มุ ใชท้ ่ำทำงประกอบในกำรเลำ่ นิทำน

ข. เปน็ กำรอำ่ นจบั ใจควำมเรื่องที่เป็นสำรคดีคดี โดยเน้ือ
เร่อื งใหค้ วำมบนั เทิง

ค. เป็นกำรอำ่ นจับใจควำมเรือ่ งท่ีเป็นบันเทิงคดี โดยเนอ้ื
เร่ืองให้ควำมเพลดิ เพลนิ ในกำรอ่ำนและท่สี ำคัญนิทำนจะให้
ขอ้ คิดแก่ผู้อ่ำน

ง. ถกู ทุกข้อ
๒๙. ขอ้ ใดเปน็ ลักการเล่านิทานทดี่ ี

ก. เล่ำโดยทำควำมเข้ำใจเน้อื หำของเร่อื งก่อน
ข. เล่ำแบบเติมแตง่ เน้อื เรื่องจนเคำ้ เรื่องเปลีย่ น
ค. เล่ำตำมอำรมณข์ องผู้เล่ำ
ง. ใชน้ ำ้ เสียงปกติตลอดทง้ั เร่อื ง

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น สาระการเรียนรทู้ ้องถ่นิ วิชาภาษาไทย
เรอ่ื ง มรดกภูมปิ ัญญาคา่ ลา้ วัฒนธรรมชุมชนส่องนางใย
ระดบั ชนั ประถมศกึ ษาปีที่ ๖

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น
๑ค๒ก๓ก๔ง๕ข
๖ ง ๗ ก ๘ ข ๙ ค ๑๐ ก
๑๑ ข ๑๒ ข ๑๓ ง ๑๔ ค ๑๕ ก
๑๖ ค ๑๗ ง ๑๘ ง ๑๙ ง ๒๐ ก
๒๑ ง ๒๒ ค ๒๓ ข ๒๔ ค ๒๕ ค
๒๖ ง ๒๗ ค ๒๘ ค ๒๙ ก ๓๐ ข

แบบทดสอบหลังเรยี น สาระการเรียนรู้ทอ้ งถิน่ วชิ าภาษาไทย

เรือ่ ง มรดกภูมปิ ญั ญาค่าล้า วฒั นธรรมชุมชนส่องนางใย
ระดบั ชนั ประถมศึกษาปีท่ี ๖ ภาคเรียนท.่ี ............ ปีการศกึ ษา................

โรงเรียนเทศบาลบา้ นส่องนางใย อ้าเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม
สอบวนั ท.่ี ........... เดอื น............................ พ.ศ............... เวลา.......................

ค้าชีแจง

๑. ก่อนลงมอื ตอบคำถำมในแบบทดสอบชุดน้ี ใหน้ กั เรยี นอ่ำนคำชี้แจงให้เข้ำใจ
๒. แบบทดสอบมที ั้งหมด ๑ ตอน จำนวน ๓๐ ข้อ (คะแนนเต็ม ๓๐ คะแนน)

ตอนท่ี ๑ เปน็ แบบปรนัย จำนวน ๓๐ ข้อ (๓๐ คะแนน)
๓. กรอกข้อมลู ลงกระดำษคำตอบปรนัยใหเ้ รียบร้อย
๔. อนญุ ำต / ไมอ่ นุญำตให้บันทึก หรือ ทด ข้อมลู ใด ๆ ลงในข้อคำถำมของแบบทดสอบชุดน้ี
๕. ไม่อนุญำติใหผ้ ้เู ขำ้ สอบนำแบบทดสอบออกจำกหอ้ งสอบ
๖. ให้ใชเ้ วลำในกำรทำแบบทดสอบทดสอบน้ี ๔๕ นำที
๗. หำ้ มใชเ้ ครอื่ งมือสอื่ สำรทุกชนดิ ขณะทำแบบทดสอบ มฉิ ะนน้ั จะปรบั สอบตกในทนั ที

*******************************

แบบทดสอบหลังเรียน ระดับชนั ประถมศึกษาปีที่ ๖
สาระการเรียนรูท้ อ้ งถนิ่ วิชาภาษาไทย ภาคเรยี นท่.ี ..............ปีการศกึ ษา.............
จ้านวนขอ้ สอบปรนัย ชนิดเลือกตอบ ๓๐ ข้อ คะแนนเต็ม ๓๐ คะแนน รวมเวลา ๔๕ นาที

คา้ ชีแจง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบ ๕. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ลักษณะการพูดสรปุ ความรู้เพื่อแสดงถงึ
เดียว โดยให้นักเรยี นทำเคร่อื งหมำย  ลงในกระดำษคำตอบ ความรูค้ วามเข้าใจ

๑. ข้อใดกล่าวถูกตอ้ งเกีย่ วกับหลักการเขยี นย่อความ ก. มีจุดประสงคใ์ นกำรพดู ชัดเจน
ก. หำกคำใดทีย่ ำวเกินไป ควรใชอ้ ักษรย่อแทน ข. ใชภ้ ำษำในกำรพดู ได้ตำมใจชอบ
ข. ยอ่ เนอื้ หำให้เปน็ ภำษำพดู เพ่ือให้เข้ำใจงำ่ ย ค. นำเสนอเฉพำะประเดน็ ท่ีสำคญั
ค. ใช้ภำษำท่ีสัน้ กระชับและเข้ำใจงำ่ ย ง. เรยี บเรยี งเนอ้ื หำตำมลำดบั เหตกุ ำรณ์
ง. ใชค้ ำท่ีเฉพำะเจำจงเพ่ือใหท้ รำบว่ำคอื บคุ คลใด เช่น ๖. ขอ้ ใดคอื ข้อควรคา้ นงึ ในการพูดแสดงความร้เู ขา้ ใจ
ก. เรียบเรียงคำพูดใหด้ ีก่อนพดู
นำยดำ นำงแดง ข. มีควำมรเู้ ก่ยี วกบั เร่ืองที่จะพดู
๒. ข้อใดไมใ่ ช่จุดประสงค์ของการเขยี นย่อความ ค. มเี หตุผลโดยยกตัวอยำ่ งประกอบกำรพูดให้เหน็ จริง
ง. ถูกทกุ ขอ้
ก. เพ่ือนิยำมควำมหมำย ๗. พฤติกรรมของบุคคลใดแสดงให้เห็นว่าเปน็ ผู้มมี ารยาท
ข. เพื่อสรปุ ยอ่ ควำม ในการฟังและการดู
ค. เพอื่ เลำ่ เรือ่ งย่อ ก. ซักถำมข้อสงสัยทันทีขณะท่ีฟังและดูส่อื
ง. เพือ่ สร้ำงเร่ืองใหม่ ข. รู้จักยับย้งั ควำมรสู้ กึ และอำรมณ์ขณะฟังและดูสือ่
๓. การเขียนยอ่ ความคือการเขยี นลักษณะใด ค. ควบคุมกิรยิ ำได้ในบำงช่วงบำงตอนขณะฟังและดูสื่อ
ก. กำรเขยี นสรปุ ใจควำมสำคัญของเร่ืองที่ไดอ้ ่ำน ง. พูดคยุ และแสดงควำมคิดเห็นกบั เพื่อนด้วยเสียงที่เบำ
ข. กำรเขยี นสรปุ ใจควำมสำคญั ของเรื่องท่ีได้ฟัง ขณะฟงั และดูสอื่
ค. กำรเขยี นสรปุ ใจควำมสำคัญของเรื่องท่ีไดด้ ู ๘. ใครปฏบิ ัตติ นได้ไม่ถกู ต้องตามหลักของการฟัง
ง. ถูกทกุ ขอ้ ก. เจมสพ์ ดู คุยเสียงดงั ไม่สนใจสงิ่ ที่ผูพ้ ูดกำลังพดู
๔. หากต้องการย่อความจากบทรอ้ ยกรอง ควรปฏิบตั ิ ข. แพรวฟงั หรอื ดเู ร่ืองนน้ั ๆ โดยตลอด ต้ังแตต่ ้นจบจบ
อยา่ งไร ค. หมวิ หำขอ้ คดิ หรอื ประโชยนจ์ ำกเร่ืองที่ฟงั หรือดู
ก. อำ่ นและจบั ประเดน็ ใจควำมสำคญั แลว้ จดบนั ทึกไว้ ง. เฟรมนำข้อมูลท่ีมำเรยี บเรียงใหม่ และไดใ้ จควำมตำม
ข. แบง่ วรรคตอนในกำรอ่ำนบทรอ้ ยกรองใหถ้ ูกต้อง เนื้อหำเดิม
ค. ควรย่อจำกภำษำร้อยกรองเป็นภำษำร้อยแก้ว
ง. ถูกทุกขอ้

๙. ค้าภาษาถนิ่ อสี านต่อไปนคี ้าใดมคี วามหมายว่า ๑๔. การกา้ หนดระยะเวลาปฏิบตั ิ สถานทีท่ ่จี ะไปค้นควา้
“ตะกรา้ ” แบง่ หน้าท่ใี นการรบั ผดิ ชอบ เป็นการปฏิบัติในขนั ตอนใด
ของการเขียนรายงาน
ก. เกอื ก
ข. ขวน ก. วำงแผนเขียนรำยงำน
ค. กะตำ๊ ข. รวบรวมข้อมลู
ง. บักจ๋ก ค. กำหนดหัวข้อเรอ่ื ง
๑๐. ใครปฏิบัติในการพูดรายงานไดเ้ หมาะสมทส่ี ุด ง. เขียนรำยงำน
ก. ป๊กุ ไมม่ ีกำรสรปุ สำระควำมรู้ เม่อื รำยงำนจบ เพรำะ ๑๕. บคุ คลในขอ้ ใดเขยี นแผนภาพความคดิ ไดถ้ กู วธิ ี
กลัวจะเสยี เวลำ ก. ปน้ั ไม่ขดี เสน้ โยงแตล่ ะหวั ข้อที่สัมพันธ์กนั
ข. ปไู มเ่ ปดิ โอกำสใหผ้ ู้ฟังได้ซักถำมในช่วงทำ้ ยของกำร ข. ปุก๊ เขียนแยกสว่ นประกอบเหมือนท่เี พื่อนทำ
รำยงำน ค. ปอยเขียนด้วยคำสำคญั ที่มีควำมหมำยชดั เจน
ค. ปลำใชส้ ่อื ประกอบท่ีหลำกหลำยแต่ไมส่ อดคล้องกบั ง. เปยี ใช้สเี ดียวกนั ตกแตง่ แผนภำพควำมคิดทง้ั หมด
ส่งิ ทรี่ ำยงำน ๑๖. “การเขียนแผนภาพความคดิ ควรปล่อยให้สมองมี
ง. ปรำบใชภ้ ำษำพูดไดถ้ ูกตอ้ งชัดเจน มีจังหวะวรรคตอน อิสระในการคิดมากทส่ี ดุ เท่าท่ีจะเปน็ ไปได้” ขอ้ ความนี
๑๑. ขอ้ ใดกล่าวไม่ถูกต้องเกีย่ วกบั การพดู ล้าดับเหตกุ ารณ์ หมายความว่าอย่างไร
ก. เป็นกำรพดู ใหผ้ ้อู น่ื เช่ือถอื หรอื มีควำมเห็นคลอ้ ยตำม ก. กำรเขยี นแผนภำพควำมคดิ ต้องใชค้ วำมคดิ สรำ้ งสรรค์
ข. พูดแนะนำตนเองก่อนพดู แนะนำลำดบั เหตุกำรณ์ ข. เปน็ กำรใชอ้ ำรมณ์และควำมรสู้ กึ มำกกวำ่ ใช้ควำมคดิ
ค. ใชภ้ ำษำที่เขำ้ ใจง่ำย กระชบั ตรงไปตรงมำ ค. กำรเขยี นแผนภำพควำมคดิ ต้องเหมือนกับคนอื่น
ง. กำหนดโครงเร่ืองท่ีจะพูดเรียบเรียงควำมคิดและขอ้ มูล ง. ควำมเครียดจะทำใหเ้ ขียนแผนภำพควำมคิดไม่ได้
ให้ต่อเน่ือง ๑๗. การเขียนแผนภาพความคิด และการอ่านมี
๑๒. ข้อใดเป็นขันตอนแรกในการเขยี นรายงาน ความสมั พนั ธ์กันอย่างไร
ก. วำงแผนเขียนรำยงำน ก. กำรเขยี นแผนภำพควำมคดิ เกิดจำกกำรหำข้อคดิ
ข. รวบรวมขอ้ มูล
ค. กำหนดหวั ข้อเรอื่ ง จำกเรื่องท่อี ่ำน
ง. เขียนรำยงำน ข. กำรเขยี นแผนภำพควำมคดิ เป็นกำรตดั คำ
๑๓. ขอ้ ใดไม่ใช่องค์ประกอบของการพูดรายงาน
ก. ผพู้ ดู จำกเร่ืองทอ่ี ำ่ น
ข. สถำนท่ี ค. กำรอ่ำนทำใหเ้ ขียนแผนภำพควำมคิดไดส้ วยงำม
ค. ผฟู้ งั
ง. สำร มำกขึ้น
ง. กำรเขียนแผนภำพควำมคดิ ชว่ ยฝึกทกั ษะกำรอ่ำนเรว็

๑๘. ข้อใดกลา่ วถึงลกั ษณะกลอนสภุ าพได้ถูกต้อง ๒๓. ขอ้ ใดไมใ่ ชน่ ิทานพนื บ้านภาคอีสาน
ก. มหี ลำยประเภทแต่ชอื่ เรียกมีเพียงช่ือเดียว ก. ยำยหมำขำว
ข. กลอนมคี ำในแตล่ ะวรรคมจี ำนวนต้งั แต่ ๕ – ๘ คำ ข. พญำคนั คำก
ค. เป็นรอ้ ยกรองที่แตง่ ไมย่ ำกแตค่ นไทยไม่คอ่ ยนิยม ค. พกิ ุลทอง
ง. เปน็ รอ้ ยกรองประเภทบงั คับคณะ สัมผัส และเสยี ง ง. นำงแตงอ่อน

วรรณยกุ ต์ ๒๔. ข้อใดตรงกับข้อคิดท่ไี ด้จากนิทานพืนบา้ น
๑๙. ขอ้ ใดแบง่ จังหวะวรรคการอา่ นคา้ ได้ถูกตอ้ ง เรื่องกุดนางใย

ก. เมอื่ ทำ / กำรสง่ิ ใด / ดว้ ยใจรกั ก. พูดไปสองไพเบ้ยี นงิ่ เสยี ตำลึงทอง
ข. ถงึ งำนหนกั / ก็เบำลง / แลว้ ครึง่ หนงึ่ ข. อยำ่ ชิงสุกก่อนหำ่ ม
ค. ด้วยใจ / รักเปน็ แรง / ที่เรำ้ รึง ค. อย่ำตัดสินคนทีภ่ ำยนอก
ง. ให้มุ่งมั่น / ฝันถงึ ซ่ึง / ปลำยทำง ง. น้ำนิ่งไหลลึก
๒๐. การอ่านจับใจความสา้ คญั หมายถงึ ข้อใด ๒๕. ข้อใดกล่าวถึงการอ่านจับใจความส้าคัญจากนทิ าน
ก. อ่ำนเพ่ือควำมรู้ ได้ถกู ต้อง
ข. อำ่ นเพือ่ ควำมบันเทิง ก. เป็นกำรอำ่ นจบั ใจควำมเรอ่ื งทเ่ี ป็นบันเทงิ คดี โดยเนื้อ
ค. อำ่ นเพ่ือหำสำระสำคัญของเรื่อง เร่อื งให้ควำมบนั เทิงแก่ผอู้ ่ำน
ง. อำ่ นเพอ่ื คน้ หำแนวทำงในกำรดำเนินชีวติ ข. เป็นกำรอำ่ นจับใจควำมเรื่องทเี่ ป็นสำรคดคี ดี โดยเนอ้ื
๒๑. การอ่านจบั ใจความสา้ คญั ผอู้ า่ นตอ้ งปฏบิ ัตอิ ย่างไร เร่อื งให้ควำมบันเทิง
ก. แยกเรอ่ื งออกเป็นตอน ๆ ค. เปน็ กำรอำ่ นจบั ใจควำมเรอ่ื งท่ีเป็นบันเทิงคดี โดยเน้อื
ข. อ่ำนอยำ่ งรวดเร็วสม่ำเสมอ เรื่องให้ควำมเพลิดเพลนิ ในกำรอำ่ นและทส่ี ำคัญนิทำนจะให้
ค. แยกประเดน็ ของเร่อื งวำ่ สว่ นใดเปน็ ข้อมลู ประกอบ ขอ้ คิดแก่ผู้อำ่ น
ง. อ่ำนพิจำรณำอยำ่ งละเอียดเนอื้ ควำมหลักและส่วน ง. ถูกทุกขอ้
ขยำย ๒๖. ขอ้ ใดเป็นลักการเลา่ นทิ านท่ดี ี
๒๒. ขอ้ ใดเปน็ ลักษณะของนิทานพนื บา้ น ก. เล่ำโดยทำควำมเขำ้ ใจเน้ือหำของเรือ่ งก่อน
ก. โครงเรือ่ งซบั ซ้อน ข. เลำ่ แบบเตมิ แตง่ เน้ือเร่ืองจนเคำ้ เรื่องเปลี่ยน
ข. ดำเนนิ เรอ่ื งอย่ำงง่ำย ๆ ค. เลำ่ ตำมอำรมณข์ องผู้เล่ำ
ค. เป็นเรื่องรำวประเภทสำรคดี ง. ใชน้ ้ำเสียงปกตติ ลอดทั้งเรอื่ ง
ง. เนือ้ เรอ่ื งใช้อำ้ งองิ เหตุกำรณป์ ระวัตศิ ำสตร์ได้

๒๗. ใครปฏิบตั ิตนไม่เหมาะสมในการเลา่ นทิ าน ๒๙. คา้ ว่า “กนิ ” ออกเสียงส้าเนยี งภาษาโคราชบา้ นหมอ้
ก. นิดใช้นำ้ เสียงให้เหมำะสมตำมเนอ้ื หำ ไดว้ า่ อย่างไร
ข. หนอ่ ยร้องไห้เม่ือถึงตอนเสยี ใจจนไม่สำมำรถหยดุ ได้
ค. นอ้ ยศกึ ษำบทที่จะเลำ่ ใหล้ ะเอยี ดกอ่ นที่จะเลำ่ ก. กิ่น
ง. หนุ่มใช้ทำ่ ทำงประกอบในกำรเลำ่ นิทำน ข. ก้ิน
ค. กน๋ิ
๒๘. ลักษณะของค้าในภาษาไทยถนิ่ โคราชเกิดจากการ ง. กิ๊น
ผสมผสานระหวา่ งภาษาใด ๓๐. บคุ คลในขอ้ ใดปฏิบัตไิ ดส้ อดคลอ้ งกับค้าว่า
“เสมอหร่ึม”
ก. ภำษำไทยกลำง + ภำษำอีสำน + ภำษำผไู้ ท ก. สม้ ไมส่ นใจเรยี นขณะที่ครสู อน
ข. ภำษำไทยกลำง + ภำษำอีสำน + ภำษำไทญอ้ ข. มะนำวชอบเรียนวิชำภำษำไทย
ค. ภำษำไทยกลำง + ภำษำลำว + ภำษำเขมร ค. แตงไทยเดินสะดุดก้อนหนิ
ง. ภำษำไทยกลำง + ภำษำอสี ำน + ภำษำเขมร ง. น้อยหนำ่ ตื่นเต้นที่จะได้ไปเทย่ี วโครำช

เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น สาระการเรียนรู้ทอ้ งถิ่นวิชาภาษาไทย
เรอ่ื ง มรดกภูมปิ ญั ญาคา่ ลา้ วฒั นธรรมชุมชนส่องนางใย
ระดบั ชนั ประถมศึกษาปีที่ ๖

เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น
๑ค๒ง๓ง๔ง๕ข
๖ ง ๗ ข ๘ ก ๙ ค ๑๐ ง
๑๑ ก ๑๒ ค ๑๓ ข ๑๔ ก ๑๕ ค
๑๖ ก ๑๗ ก ๑๘ ง ๑๙ ข ๒๐ ค
๒๑ ง ๒๒ ข ๒๓ ค ๒๔ ค ๒๕ ค
๒๖ ก ๒๗ ข ๒๘ ง ๒๙ ค ๓๐ ก

ภาคผนวก ง
แบบประเมนิ หลักสูตรท้องถ่ิน

๓๖๒

แบบประเมินสาระการเรียนรู้ท้องถนิ่ วิชาภาษาไทย
เรอื่ ง มรดกภูมปิ ัญญาคา่ ล้า วัฒนธรรมชุมชนส่องนางใย
กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิชาภาษาไทย ระดับชนั ประถมศึกษาปที ่ี ๖
โรงเรยี นเทศบาลบ้านส่องนางใย จงั หวัดมหาสารคาม

ค้าชีแจง ให้ท่านพิจารณาว่าสาระการเรียนรู้ท้องถิ่นวิชาภาษาไทย เรื่อง มรดกภูมิปัญญาค่าล้า วัฒนธรรม

ชุมชนส่องนางใย ในประเดน็ ที่ก้าหนดให้ต่อไปนีว่ามีความเหมาะสมเพียงใด และโปรดท้าเครื่องหมาย √ ลงใน

ชอ่ งที่ตรงกบั ระดับการประเมนิ

ระดับการประเมิน ๕ หมายถงึ เหมาะสมมากทีส่ ดุ

ระดบั การประเมนิ ๔ หมายถึง เหมาะสมมาก

ระดบั การประเมนิ ๓ หมายถงึ เหมาะสมปานกลาง

ระดบั การประเมนิ ๒ หมายถึง เหมาะสมนอ้ ย

ระดับการประเมิน ๑ หมายถงึ เหมาะสมน้อยทสี่ ดุ

ระดับการประเมนิ ระดบั ความเหมาะสม
๕๔๓๒๑

๑. กา้ หนดหลักการทมี่ ุ่งเน้นให้ผู้เรยี นมคี วามหวงแหน ผกู พนั สามารถ

ประยกุ ต์ใช้ เห็นคุณคา่ และภาคภมู ใิ จในภูมิปญั ญาท้องถิ่น

๒. กา้ หนดจุดประสงค์การเรยี นร้คู รอบคลุมพฤติกรรมการเรียนรดู้ ้านพุทธพสิ ัย

ทกั ษะพิสัย และจติ พสิ ยั

๓. จดั การเรยี นการสอนในลักษณะบรู ณาการภายในกลุ่มสาระการเรยี นรู้วิชา

ภาษาไทย ทัง ๕ สาระ ไดแ้ ก่ สาระการอา่ น สาระการเขยี น สาระการฟัง การดู

และการพูด สาระหลักการใช้ภาษา และสาระวรรณคดีและวรรณกรรม

๔. กา้ หนดเวลาเรยี นได้อยา่ งเหมาะสมกบั ช่วงชนั

๕. คา้ อธบิ ายรายวิชากา้ หนดองค์ความรู้ ทักษะ/กระบวนการ และคุณลักษณะ

อนั พึงประสงค์ ท่คี รอบคลุมมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชีวดั ท่กี า้ หนด

๖. ก้าหนดหนว่ ยการเรยี นรู้ได้อย่างเหมาะสมกบั ระดบั ชันและโครงสร้าง

ของเวลาเรยี น

๗. กา้ หนดแผนภาพความคิดหน่วยการเรียนรูไ้ ดค้ รบถ้วน

๘. ก้าหนดแนวทางการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ได้สอดคลอ้ งกับความต้องการของ

ผูเ้ รียนและท้องถิน่ สง่ เสริมกระบวนการคิด การแก้ไขปัญหา และสร้างเจตคติ

ทีด่ ีใหแ้ กผ่ เู้ รยี น

๙. กา้ หนดการจัดกจิ กรรมการเรียนรภู้ ูมปิ ัญญาทอ้ งถนิ่ วชิ าภาษาไทยไว้อยา่ ง

หลากหลาย สร้างสรรค์ โดยเนน้ ผเู้ รยี นเป็นส้าคัญ ผู้เรียนไดป้ ฏบิ ตั ิจริง

ตามความต้องการและความสนใจ

๓๖๓

ระดับการประเมนิ ระดบั ความ
เหมาะสม
๑๐. ออกแบบแผนการจัดการเรียนร้ไู ด้ครอบคลุมมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชวี ดั โดยบรู ณา ๕๔๓๒๑
การสาระท้องถ่นิ มีกิจกรรมการเรยี นรทู้ ห่ี ลากหลาย มีส่อื /แหล่งการเรยี นรู้ การวัดและการ
ประเมิน ทีช่ ่วยใหผ้ ูเ้ รียนบรรลวุ ัตถปุ ระสงคต์ ามท่ีก้าหนด

รวม/เฉลยี่ /สรุปผล

สรปุ ผลการประเมนิ แผนการจัดการเรียนรู้ เหมาะสมมากทส่ี ดุ
๔.๕๐ – ๕.๐๐ หมายถงึ เหมาะสมมาก
๓.๕๐ – ๔.๔๙ หมายถงึ เหมาะสมปานกลาง
๒.๕๐ – ๓.๔๙ หมายถงึ เหมาะสมน้อย
๑.๕๐ – ๒.๔๙ หมายถึง เหมาะสมน้อยทส่ี ุด
ตา้่ กว่า ๑.๕๐ หมายถงึ

ขอ้ คดิ เห็น/ข้อเสนอแนะ
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................................................................................................. ............

ลงช่อื ................................................. ผู้ประเมิน
(.....................................................)

ตา้ แหน่ง .............................................................

๓๖๔

แบบประเมนิ แผนการจดั การเรยี นรู้สาระท้องถน่ิ หน่วยท่ี ๑ – ๕
เรื่อง ความเป็นมาบ้านสอ่ ง ฮีตคองบุญเบกิ ฟ้า สืบภาษาบ้านหมอ้

สานต่องานจักสาน เลา่ ขานวรรณกรรมท้องถิ่น
กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ระดับชนั ประถมศกึ ษาปีที่ ๖
โรงเรียนเทศบาลบา้ นสอ่ งนางใย จังหวดั มหาสารคามแบบประเมินแผนการจดั การเรยี นรสู้ าระทอ้ งถิน่

ค้าชีแจง ให้ท่านพิจารณาว่าสาระการเรียนรู้ท้องถิ่นวิชาภาษาไทย เร่ือง มรดกภูมิปัญญาค่าล้า วัฒนธรรม

ชุมชน สอ่ งนางใย ในประเด็นทีก่ ้าหนดให้ตอ่ ไปนวี ่ามีความเหมาะสมเพยี งใด และโปรดท้าเครื่องหมาย √ ลงใน

ชอ่ งทตี่ รงกับระดบั การประเมนิ

ระดบั การประเมนิ ๕ หมายถงึ เหมาะสมมากที่สุด

ระดับการประเมิน ๔ หมายถงึ เหมาะสมมาก

ระดบั การประเมนิ ๓ หมายถงึ เหมาะสมปานกลาง

ระดับการประเมนิ ๒ หมายถึง เหมาะสมน้อย

ระดับการประเมิน ๑ หมายถงึ เหมาะสมน้อยทีส่ ดุ

ระดับการประเมนิ ระดับความเหมาะสม
๕๔๓๒๑

๑. ก้าหนดมาตรฐาน/ตัวชีวัด/จดุ ประสงค์การเรียนร้คู รอบคลมุ พฤติกรรม

การเรยี นรดู้ า้ นพุทธพิสัย ทกั ษะพิสัย และจติ พสิ ยั

๒. ความสอดคล้องมาตรฐานการเรยี นร/ู ตวั ชีวัด/สาระสา้ คัญและกจิ กรรม

การเรียนรู้

๓. เนือหาของสาระการเรียนรทู้ ้องถิน่ จัดไว้เหมาะสมกับระดบั ชนั เวลา

และสอดคล้องกับสภาพและความตอ้ งการของท้องถ่นิ

๔. กิจกรรมการเรียนร้มู ีความครอบคลุมการพัฒนาผู้เรยี นให้มีความรู้ ทกั ษะ

กระบวนการ สมรรถนะทสี่ า้ คัญของผู้เรยี นและคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

๕. กจิ กรรมการเรยี นรู้ตอบสนองความแตกต่างระหวา่ งบุคคล

๖. กจิ กรรมการเรียนรู้หลากหลาย เน้นผู้เรยี นเปน็ สา้ คัญ และปฏิบัติได้จริง

๗. น้าภมู ิปญั ญาท้องถ่ินและส่ือเทคโนโลยมี าประยกุ ตใ์ ชใ้ นการเรียนการสอน

๘. สอ่ื การเรียนรู้มีความเหมาะสมสอดคลอ้ งกับกจิ กรรมการเรียนการสอน

๙. มีหลกั ฐาน อาทิ สือ่ ใบกจิ กรรม ใบความรู้ เครอ่ื งมือวดั และประเมินผล

ทปี่ รากฏในแผนการจดั การเรียนรคู้ รบถว้ น

๑๐. วธิ ีวดั และเครื่องมอื วดั สอดคล้องกบั พฤตกิ รรมทกี่ า้ หนดไว้ในตวั ชีวดั

หรอื จุดประสงค์การเรยี นรู้

รวม/เฉลี่ย/สรุปผล

๓๖๕

ข้อคิดเห็น/ขอ้ เสนอแนะ
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
................................................................................................................. .............................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงชอ่ื ................................................. ผู้ประเมิน
(.....................................................)

ต้าแหนง่ .............................................................

สรุป ผลการประเมินแผนการจัดการเรยี นรู้
๔.๕๐ – ๕.๐๐ หมายถงึ เหมาะสมมากทีส่ ุด
๓.๕๐ – ๔.๔๙ หมายถึง เหมาะสมมาก
๒.๕๐ – ๓.๔๙ หมายถึง เหมาะสมปานกลาง
๑.๕๐ – ๒.๔๙ หมายถึง เหมาะสมนอ้ ย
ตา้่ กวา่ ๑.๕๐ หมายถึง เหมาะสมนอ้ ยทีส่ ุด

๓๖๖

แบบประเมนิ สาระการเรียนรู้ทอ้ งถน่ิ วชิ าภาษาไทย
เรอ่ื ง มรดกภูมปิ ัญญาคา่ ลา้ วฒั นธรรมชุมชนส่องนางใย
กลุม่ สาระการเรียนร้วู ิชาภาษาไทย ระดบั ชนั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖
โรงเรยี นเทศบาลบา้ นสอ่ งนางใย จงั หวัดมหาสารคาม

ระดบั การประเมิน ๕ หมายถงึ เหมาะสมมากที่สดุ
ระดับการประเมิน ๔ หมายถึง เหมาะสมมาก
ระดับการประเมนิ ๓ หมายถึง เหมาะสมปานกลาง
ระดับการประเมนิ ๒ หมายถงึ เหมาะสมนอ้ ย
ระดบั การประเมนิ ๑ หมายถงึ เหมาะสมน้อยทส่ี ดุ

รายการประเมนิ คะแนนเฉลยี่ แปลผล
๑. ก้าหนดหลกั การที่มุ่งเนน้ ให้ผู้เรยี นมีความหวงแหน ผูกพัน ๔.๓๓
สามารถประยุกต์ใช้ เห็นคุณค่า และภาคภูมใิ จในภมู ปิ ัญญาท้องถนิ่ เหมาะสมมาก
๒. กา้ หนดจุดประสงค์การเรยี นรู้ครอบคลุมพฤตกิ รรมการเรียนรู้
ด้านพทุ ธพสิ ยั ทักษะพิสัย และจติ พสิ ัย ๔.๖๗ เหมาะสมมากท่ีสดุ
๓. จัดการเรียนการสอนในลักษณะบูรณาการภายในกลุม่ สาระการ
เรยี นรวู้ ชิ าภาษาไทย ทงั 5 สาระ ไดแ้ ก่ สาระการอา่ น สาระการ ๔.๖๗ เหมาะสมมากที่สดุ
เขยี น สาระการฟัง การดู และการพูด สาระหลกั การใช้ภาษา และ
สาระวรรณคดีและวรรณกรรม ๔.๖๗ เหมาะสมมากที่สดุ
๔. กา้ หนดเวลาเรียนได้อยา่ งเหมาะสมกับชว่ งชนั ๔.๖๗ เหมาะสมมากที่สุด
๕. ค้าอธิบายรายวิชาก้าหนดองค์ความรู้ ทักษะ/กระบวนการ และ
คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ท่ีครอบคลุมมาตรฐานการเรียนรู้และ ๓.๖๗ เหมาะสมมาก
ตัวชวี ัดที่ก้าหนด ๔.๖๗ เหมาะสมมากที่สุด
๖. ก้าหนดหน่วยการเรยี นรู้ได้อยา่ งเหมาะสมกบั ระดบั ชนั และ ๔.๓๓ เหมาะสมมาก
โครงสร้างของเวลาเรียน
๗. กา้ หนดแผนภาพความคิดหน่วยการเรียนรไู้ ด้ครบถ้วน ๔.๖๗ เหมาะสมมากที่สุด
๘. กา้ หนดแนวทางการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ได้สอดคล้องกบั ความ
ตอ้ งการของผ้เู รยี นและท้องถิ่น ส่งเสริมกระบวนการคิด การแก้ไข
ปัญหา และสรา้ งเจตคติทด่ี ีให้แก่ผู้เรียน
๙. กา้ หนดการจดั กิจกรรมการเรยี นรูภ้ ูมิปญั ญาทอ้ งถน่ิ วิชา
ภาษาไทยไว้อยา่ งหลากหลาย สร้างสรรค์ โดยเนน้ ผเู้ รยี นเปน็ สา้ คญั
ผเู้ รยี นได้ปฏิบตั ิจรงิ ตามความต้องการและความสนใจ

๓๖๗

รายการประเมนิ คะแนนเฉลี่ย แปลผล
๑๐. ออกแบบแผนการจัดการเรยี นรไู้ ด้ครอบคลุมมาตรฐานการ ๔.๖๗
เรียนร้แู ละตัวชวี ัด โดยบรู ณาการสาระท้องถิ่น มีกิจกรรมการเรียนรู้ ๔.๖๗ เหมาะสมมากทสี่ ุด
ที่หลากหลาย มีส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้ การวดั และการประเมินทชี่ ่วย เหมาะสมมากที่สุด
ให้ผ้เู รยี นบรรลุวัตถปุ ระสงคต์ ามที่ก้าหนด

สรปุ ผลการประเมนิ

๓๖๘

แบบประเมินแผนการจดั การเรียนรู้สาระทอ้ งถนิ่ หน่วยท่ี ๑
เรื่อง ความเป็นมาบ้านส่อง

กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ระดบั ชันประถมศึกษาปีที่ ๖
โรงเรียนเทศบาลบ้านสอ่ งนางใย จงั หวดั มหาสารคาม

ระดบั การประเมิน ๕ หมายถงึ เหมาะสมมากที่สดุ
ระดบั การประเมนิ ๔ หมายถงึ เหมาะสมมาก
ระดบั การประเมิน ๓ หมายถึง เหมาะสมปานกลาง
ระดับการประเมิน ๒ หมายถึง เหมาะสมนอ้ ย
ระดบั การประเมนิ ๑ หมายถงึ เหมาะสมนอ้ ยทส่ี ุด

รายการประเมิน คะแนนเฉลีย่ แปลผล
๑. กา้ หนดมาตรฐาน/ตัวชีวัด/จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ครอบคลุม ๔.๖๗
พฤติกรรมการเรยี นรู้ด้านพุทธพสิ ัย ทกั ษะพิสยั และจิตพสิ ัย ๔.๓๓ เหมาะสมมากที่สดุ
๒. ความสอดคล้องมาตรฐานการเรียนรู/ตวั ชีวดั /สาระส้าคัญและ ๔.๓๓ เหมาะสมมาก
กิจกรรมการเรียนรู้ เหมาะสมมาก
๓. เนือหาของสาระการเรยี นรูท้ ้องถิน่ จัดไวเ้ หมาะสมกับระดับชนั ๔.๖๗
เวลา และสอดคล้องกบั สภาพและความต้องการของท้องถนิ่ ๔.๐๐ เหมาะสมมากทส่ี ุด
๔. กจิ กรรมการเรยี นรู้มีความครอบคลุมการพัฒนาผเู้ รยี นใหม้ ี ๔.๐๐ เหมาะสมมาก
ความรู้ ทกั ษะ กระบวนการ สมรรถนะทส่ี า้ คญั ของผูเ้ รียนและ ๔.๖๗ เหมาะสมมาก
คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๔.๓๓
๕. กิจกรรมการเรียนรตู้ อบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคล ๔.๓๓ เหมาะสมมากที่สุด
๖. กิจกรรมการเรียนรูห้ ลากหลาย เน้นผเู้ รยี นเป็นส้าคญั และปฏิบตั ิ ๔.๖๗ เหมาะสมมาก
ไดจ้ ริง ๔.๔๐ เหมาะสมมาก
๗. นา้ ภมู ปิ ัญญาท้องถิน่ และส่ือเทคโนโลยีมาประยุกต์ใชใ้ นการเรยี น
การสอน เหมาะสมมากที่สุด
๘. สือ่ การเรยี นรู้มีความเหมาะสมสอดคล้องกบั กิจกรรมการเรยี น เหมาะสมมาก
การสอน
๙. มหี ลักฐาน อาทิ สอื่ ใบกจิ กรรม ใบความรู้ เครอื่ งมือวดั และ
ประเมนิ ผลที่ปรากฏในแผนการจัดการเรียนร้คู รบถ้วน
๑๐. วธิ ีวัดและเครื่องมอื วดั สอดคล้องกบั พฤติกรรมทีก่ า้ หนดไวใ้ น
ตัวชวี ัดหรือจดุ ประสงค์การเรียนรู้

สรปุ ผลการประเมนิ

๓๖๙

แบบประเมินแผนการจดั การเรยี นรู้สาระท้องถนิ่ หนว่ ยที่ ๒
เรือ่ ง ฮีตคองบุญเบิกฟา้

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ระดับชันประถมศกึ ษาปที ่ี ๖
โรงเรยี นเทศบาลบา้ นส่องนางใย จงั หวัดมหาสารคาม

ระดบั การประเมิน ๕ หมายถึง เหมาะสมมากทีส่ ุด
ระดบั การประเมนิ ๔ หมายถงึ เหมาะสมมาก
ระดับการประเมนิ ๓ หมายถึง เหมาะสมปานกลาง
ระดับการประเมนิ ๒ หมายถึง เหมาะสมน้อย
ระดบั การประเมิน ๑ หมายถงึ เหมาะสมน้อยทสี่ ุด

รายการประเมนิ คะแนนเฉล่ีย แปลผล
๑. ก้าหนดมาตรฐาน/ตวั ชีวดั /จุดประสงค์การเรยี นร้คู รอบคลมุ ๔.๖๗
พฤติกรรมการเรยี นรดู้ ้านพุทธพสิ ัย ทักษะพสิ ัย และจิตพสิ ัย ๔.๓๓ เหมาะสมมากทส่ี ุด
๒. ความสอดคล้องมาตรฐานการเรยี นร/ู ตัวชวี ดั /สาระส้าคัญและ ๔.๓๓ เหมาะสมมาก
กิจกรรมการเรยี นรู้ ๔.๖๗ เหมาะสมมาก
๓. เนือหาของสาระการเรยี นร้ทู อ้ งถ่นิ จัดไว้เหมาะสมกับระดับชัน
เวลา และสอดคล้องกับสภาพและความต้องการของท้องถน่ิ ๔.๐๐ เหมาะสมมากทสี่ ุด
๔. กิจกรรมการเรียนรู้มีความครอบคลุมการพัฒนาผู้เรียนให้มี ๔.๐๐ เหมาะสมมาก
ความรู้ ทกั ษะ กระบวนการ สมรรถนะท่สี ้าคญั ของผเู้ รียนและ ๔.๓๓ เหมาะสมมาก
คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ๔.๖๗ เหมาะสมมาก
๕. กิจกรรมการเรียนรตู้ อบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคล ๔.๖๗
๖. กจิ กรรมการเรยี นรหู้ ลากหลาย เน้นผเู้ รียนเปน็ ส้าคัญ และปฏิบตั ิ ๔.๖๗ เหมาะสมมากทส่ี ุด
ไดจ้ ริง ๔.๔๓ เหมาะสมมากท่ีสุด
๗. น้าภมู ปิ ัญญาท้องถนิ่ และสื่อเทคโนโลยีมาประยุกต์ใชใ้ นการเรยี น เหมาะสมมากทส่ี ดุ
การสอน
๘. สอ่ื การเรียนรู้มีความเหมาะสมสอดคลอ้ งกบั กิจกรรมการเรียน เหมาะสมมาก
การสอน
๙. มหี ลักฐาน อาทิ สือ่ ใบกิจกรรม ใบความรู้ เครื่องมอื วัดและ
ประเมนิ ผลท่ีปรากฏในแผนการจัดการเรียนรู้ครบถ้วน
๑๐. วธิ ีวัดและเครื่องมอื วดั สอดคลอ้ งกบั พฤตกิ รรมท่กี ้าหนดไว้ใน
ตัวชีวัดหรือจุดประสงค์การเรียนรู้

สรปุ ผลการประเมิน

๓๗๐

แบบประเมนิ แผนการจดั การเรยี นรสู้ าระทอ้ งถิน่ หนว่ ยที่ ๓
เร่อื ง สบื ภาษาบา้ นหมอ้

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ระดับชนั ประถมศึกษาปที ่ี ๖
โรงเรียนเทศบาลบ้านสอ่ งนางใย จังหวัดมหาสารคาม

ระดับการประเมิน ๕ หมายถงึ เหมาะสมมากที่สดุ
ระดบั การประเมิน ๔ หมายถงึ เหมาะสมมาก
ระดบั การประเมิน ๓ หมายถงึ เหมาะสมปานกลาง
ระดบั การประเมิน ๒ หมายถึง เหมาะสมน้อย
ระดบั การประเมิน ๑ หมายถึง เหมาะสมนอ้ ยทส่ี ดุ

รายการประเมิน คะแนนเฉลยี่ แปลผล
๑. กา้ หนดมาตรฐาน/ตัวชวี ดั /จุดประสงค์การเรียนรู้ครอบคลมุ ๔.๖๗
พฤติกรรมการเรยี นรดู้ ้านพุทธพิสัย ทกั ษะพิสยั และจิตพสิ ัย ๔.๖๗ เหมาะสมมากที่สดุ
๒. ความสอดคล้องมาตรฐานการเรยี นรู/ตวั ชวี ัด/สาระส้าคัญและ ๔.๐๐ เหมาะสมมากท่ีสุด
กิจกรรมการเรียนรู้
๓. เนือหาของสาระการเรยี นรทู้ ้องถิ่นจัดไว้เหมาะสมกับระดับชนั ๔.๓๓ เหมาะสมมาก
เวลา และสอดคล้องกบั สภาพและความต้องการของท้องถ่ิน ๔.๓๓
๔. กิจกรรมการเรียนรูม้ ีความครอบคลุมการพฒั นาผเู้ รียนใหม้ ี ๔.๓๓ เหมาะสมมาก
ความรู้ ทักษะ กระบวนการ สมรรถนะทสี่ า้ คญั ของผเู้ รยี นและ ๔.๖๗ เหมาะสมมาก
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ๔.๖๗ เหมาะสมมาก
๕. กจิ กรรมการเรียนรู้ตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคล ๔.๓๓ เหมาะสมมากทีส่ ุด
๖. กิจกรรมการเรยี นรู้หลากหลาย เน้นผเู้ รยี นเป็นส้าคญั และปฏิบัติ ๔.๖๗ เหมาะสมมากทส่ี ุด
ได้จริง ๔.๖๗ เหมาะสมมาก
๗. น้าภมู ิปญั ญาท้องถิน่ และส่ือเทคโนโลยีมาประยุกต์ใชใ้ นการเรียน เหมาะสมมากทส่ี ุด
การสอน เหมาะสมมากท่ีสดุ
๘. ส่อื การเรียนรู้มคี วามเหมาะสมสอดคลอ้ งกบั กิจกรรมการเรยี น
การสอน
๙. มีหลักฐาน อาทิ สอ่ื ใบกจิ กรรม ใบความรู้ เครอื่ งมอื วดั และ
ประเมนิ ผลท่ีปรากฏในแผนการจดั การเรียนร้คู รบถ้วน
๑๐. วิธวี ัดและเครือ่ งมอื วัดสอดคล้องกบั พฤติกรรมท่กี ้าหนดไวใ้ น
ตัวชวี ัดหรอื จุดประสงค์การเรียนรู้

สรปุ ผลการประเมนิ

๓๗๑

แบบประเมินแผนการจดั การเรยี นรสู้ าระทอ้ งถิน่ หนว่ ยที่ ๔
เร่อื ง สานตอ่ งานจกั สาน

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ระดับชันประถมศกึ ษาปที ่ี ๖
โรงเรียนเทศบาลบ้านส่องนางใย จังหวัดมหาสารคาม

ระดบั การประเมนิ ๕ หมายถึง เหมาะสมมากทส่ี ุด
ระดับการประเมิน ๔ หมายถงึ เหมาะสมมาก
ระดับการประเมิน ๓ หมายถงึ เหมาะสมปานกลาง
ระดบั การประเมนิ ๒ หมายถงึ เหมาะสมนอ้ ย
ระดบั การประเมนิ ๑ หมายถึง เหมาะสมนอ้ ยทสี่ ุด

รายการประเมิน คะแนนเฉลย่ี แปลผล
๑. กา้ หนดมาตรฐาน/ตัวชวี ัด/จุดประสงค์การเรียนรูค้ รอบคลมุ ๔.๖๗
พฤติกรรมการเรยี นรดู้ ้านพุทธพสิ ัย ทักษะพสิ ยั และจติ พิสัย ๔.๖๗ เหมาะสมมากท่สี ุด
๒. ความสอดคล้องมาตรฐานการเรียนรู/ตัวชวี ัด/สาระสา้ คัญและ ๔.๓๓ เหมาะสมมากทส่ี ุด
กิจกรรมการเรยี นรู้
๓. เนือหาของสาระการเรยี นรทู้ ้องถ่นิ จัดไวเ้ หมาะสมกับระดบั ชัน ๔.๓๓ เหมาะสมมาก
เวลา และสอดคล้องกับสภาพและความต้องการของท้องถิน่ ๔.๓๓
๔. กิจกรรมการเรียนรมู้ ีความครอบคลุมการพฒั นาผเู้ รยี นใหม้ ี ๔.๓๓ เหมาะสมมาก
ความรู้ ทักษะ กระบวนการ สมรรถนะทสี่ า้ คัญของผเู้ รียนและ ๔.๖๗ เหมาะสมมาก
คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ๔.๓๓ เหมาะสมมาก
๕. กจิ กรรมการเรียนรู้ตอบสนองความแตกต่างระหวา่ งบุคคล ๔.๖๗ เหมาะสมมากที่สุด
๖. กจิ กรรมการเรยี นร้หู ลากหลาย เน้นผ้เู รียนเป็นสา้ คญั และปฏบิ ัติ ๔.๓๓ เหมาะสมมาก
ไดจ้ ริง ๔.๖๗ เหมาะสมมากทส่ี ุด
๗. นา้ ภมู ปิ ัญญาท้องถน่ิ และสื่อเทคโนโลยมี าประยุกตใ์ ชใ้ นการเรียน เหมาะสมมาก
การสอน เหมาะสมมากท่ีสุด
๘. ส่อื การเรียนรู้มคี วามเหมาะสมสอดคล้องกบั กิจกรรมการเรยี น
การสอน
๙. มหี ลกั ฐาน อาทิ สือ่ ใบกจิ กรรม ใบความรู้ เคร่อื งมอื วดั และ
ประเมินผลท่ปี รากฏในแผนการจดั การเรียนรคู้ รบถ้วน
๑๐. วธิ วี ัดและเครื่องมือวดั สอดคลอ้ งกบั พฤติกรรมทก่ี ้าหนดไวใ้ น
ตวั ชวี ดั หรือจุดประสงค์การเรียนรู้

สรปุ ผลการประเมนิ

๓๗๒

แบบประเมินแผนการจัดการเรยี นร้สู าระท้องถิน่ หนว่ ยท่ี ๕
เรื่อง เลา่ ขานวรรณท้องถ่นิ

กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ระดับชันประถมศกึ ษาปีที่ ๖
โรงเรียนเทศบาลบ้านสอ่ งนางใย จังหวดั มหาสารคาม

ระดบั การประเมิน ๕ หมายถึง เหมาะสมมากท่ีสุด
ระดบั การประเมิน ๔ หมายถงึ เหมาะสมมาก
ระดับการประเมิน ๓ หมายถึง เหมาะสมปานกลาง
ระดับการประเมนิ ๒ หมายถึง เหมาะสมน้อย
ระดบั การประเมิน ๑ หมายถงึ เหมาะสมน้อยทส่ี ุด

รายการประเมิน คะแนนเฉล่ยี แปลผล
๑. กา้ หนดมาตรฐาน/ตัวชีวดั /จดุ ประสงค์การเรยี นร้คู รอบคลุม ๔.๖๗
พฤติกรรมการเรยี นร้ดู ้านพุทธพสิ ัย ทกั ษะพิสยั และจติ พิสยั ๔.๖๗ เหมาะสมมากทส่ี ุด
๒. ความสอดคลอ้ งมาตรฐานการเรียนรู/ตวั ชวี ัด/สาระสา้ คัญและ ๔.๐๐ เหมาะสมมากท่ีสดุ
กจิ กรรมการเรียนรู้
๓. เนอื หาของสาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่นิ จัดไวเ้ หมาะสมกับระดับชัน ๔.๖๗ เหมาะสมมาก
เวลา และสอดคล้องกบั สภาพและความต้องการของท้องถนิ่ ๔.๐๐
๔. กจิ กรรมการเรยี นรมู้ ีความครอบคลุมการพัฒนาผเู้ รียนใหม้ ี ๔.๓๓ เหมาะสมมากทส่ี ุด
ความรู้ ทักษะ กระบวนการ สมรรถนะที่ส้าคญั ของผู้เรียนและ ๔.๓๓ เหมาะสมมาก
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ๔.๐๐ เหมาะสมมาก
๕. กิจกรรมการเรยี นรตู้ อบสนองความแตกต่างระหวา่ งบุคคล ๔.๖๗ เหมาะสมมาก
๖. กจิ กรรมการเรยี นรูห้ ลากหลาย เน้นผเู้ รยี นเป็นสา้ คัญ และปฏบิ ตั ิ ๔.๖๗ เหมาะสมมาก
ได้จริง ๔.๔๐
๗. น้าภูมิปญั ญาท้องถน่ิ และสื่อเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการเรียน เหมาะสมมากทส่ี ุด
การสอน เหมาะสมมากทส่ี ุด
๘. ส่อื การเรียนรู้มคี วามเหมาะสมสอดคล้องกับกจิ กรรมการเรยี น
การสอน เหมาะสมมาก
๙. มีหลักฐาน อาทิ ส่อื ใบกิจกรรม ใบความรู้ เครอื่ งมือวดั และ
ประเมนิ ผลทีป่ รากฏในแผนการจดั การเรียนร้คู รบถ้วน
๑๐. วิธีวดั และเครอ่ื งมอื วดั สอดคลอ้ งกบั พฤตกิ รรมทีก่ า้ หนดไว้ใน
ตวั ชวี ดั หรือจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

สรปุ ผลการประเมิน

๓๗๓

ภาคผนวก จ
ประมวลภาพกระบวนการสรา้ งหลักสตู ร

374

ประมวลภาพกระบวนการสรา้ งหลกั สตู ร
375

ประมวลภาพกระบวนการสรา้ งหลักสตู ร (ตอ่ )
376

ประมวลภาพกระบวนการสรา้ งหลักสตู ร (ตอ่ )
377

ประมวลภาพกระบวนการสรา้ งหลักสตู ร (ตอ่ )
378

ประมวลภาพกระบวนการสรา้ งหลักสตู ร (ตอ่ )
379

ประมวลภาพกระบวนการสรา้ งหลักสตู ร (ตอ่ )
380

ภาคผนวก ฉ
ประวัตคิ ณะผู้จดั ทำ

381

ประวตั คิ ณะผู้จัดทำ (ตอ่ )

ชอ่ื - สกลุ นางสาวจิราภรณ์ ชรู ตั น์
ภูมลิ ำเนา ๒๐๑ หมู่ ๔ บ้านโนนทรายงาม ตำบลหนองคู อำเภอเมือง จังหวดั ยโสธร ๓๕๐๐๐
การศึกษา กำลังศกึ ษาอยใู่ นระดบั ปริญญาการศกึ ษาบณั ฑิต สาขาวิชาภาษาไทย

คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม
เบอรโ์ ทรศัพท์ ๐๘๒-๓๖๙๒๕๕๘
อเี มล ๖๑๐๑๐๕๑๔๐๐๗@msu.ac.th

ชอื่ - สกุล นายรตพิ งศ์ พรหมทา
ภูมิลำเนา ๘๔ หมู่ ๑๑ บา้ นโนนสะเดา ตำบลหนองเทพ อำเภอโนนนารายณ์ จังหวดั สุรนิ ทร์ ๓๒๑๓๐
การศึกษา กำลังศกึ ษาอยใู่ นระดับปริญญาการศกึ ษาบณั ฑิต สาขาวิชาภาษาไทย

คณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม
เบอร์โทรศพั ท์ ๐๙๓-๕๔๓๓๐๕๗
อเี มล ๖๑๐๑๐๕๑๔๐๒๕@msu.ac.th

382

ประวตั คิ ณะผู้จดั ทำ (ตอ่ )

ชือ่ - สกุล นางสาววณิชชา เพง็ สวสั ด์ิ
ภมู ลิ ำเนา ๖๐ หมู่ ๙ บา้ นหนองทับครวั ตำบลหนองใหญ่ อำเภอโพนทอง จังหวัดรอ้ ยเอด็ ๔๕๑๑๐
การศกึ ษา กำลงั ศึกษาอยใู่ นระดับปริญญาการศึกษาบณั ฑติ สาขาวชิ าภาษาไทย

คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม
เบอร์โทรศพั ท์ ๐๙๖-๖๗๘๕๑๗๗
อเี มล ๖๑๐๑๐๕๑๔๐๒๗@msu.ac.th

ชือ่ - สกลุ นางสาววริ ากานต์ อปุ นติ ย์
ภมู ลิ ำเนา ๔๔ หมู่ ๗ บา้ นกุดออ้ ตำบลหัวเรอื อำเภอวาปีปทมุ จงั หวัดมหาสารคาม ๔๔๑๒๐
การศกึ ษา กำลังศกึ ษาอยใู่ นระดับปริญญาการศกึ ษาบัณฑิต สาขาวิชาภาษาไทย

คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั มหาสารคาม
เบอรโ์ ทรศพั ท์ ๐๙๘-๖๕๙๘๘๐๓
อเี มล ๖๑๐๑๐๕๑๔๐๓๑@msu.ac.th

383

ประวัติคณะผู้จดั ทำ (ต่อ)

ชื่อ - สกลุ นางสาวศศปิ ระภา แชม่ ชนื่
ภมู ิลำเนา ๒๕ หมู่ ๓ บ้านไทยเจรญิ ตำบลสามัคคี อำเภอเลิงนกทา จงั หวดั ยโสธร
การศกึ ษา กำลงั ศึกษาอยู่ในระดับปริญญาการศกึ ษาบณั ฑิต สาขาวชิ าภาษาไทย

คณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม
เบอร์โทรศพั ท์ ๐๖๔-๐๔๘๘๖๒๔
อีเมล ๖๑๐๑๐๕๑๔๐๓๓@msu.ac.th

384


Click to View FlipBook Version