The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by yaowanat254646, 2022-02-01 01:58:24

EBOOK 604

EBOOK 604

นิทานอีสป

ฉบับปฐมวัย

Aesop’s Fables for
childhood.

คำนำ

หนังสืออิเล็กทรอนิกส์(E-Book) เล่มนี้ มีเนื้อหาเกี่ยวกับ นิทานอีสปฉบับ
ปฐมวัยรวม 5 เรื่อง ซึ่งนิทานอีสปฉบับปฐมวัยรวม 5 เรื่องนี้ ให้ข้อคิดสอนใจ
แก่เด็กๆได้เป็นอย่างดี

ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสืออิเล็กทรอนิกส์(E-Book) เล่มนี้ จะมี
ประโยชน์สำหรับเด็ก ๆ ไม่มาก็น้อย และหากมีข้อผิดพลาดประการใด ผู้
จัดทำต้องขออภัยมา ณ ที่นี้

ผู้จัดทำ

สารบัญ หน้า

คำนำ 1
สารบัญ 3
นิทานอีสปเรื่องที่ 1 5
นิทานอีสปเรื่องที่ 2 6
นิทานอีสปเรื่องที่ 3 7
นิทานอีสปเรื่องที่ 4
นิทานอีสปเรื่องที่ 5
บรรณานุกรม

นิทานอีสปฉบับปฐมวัย 1

เรื่องที่ 1

เด็กเลี้ยงแกะ

เด็กเลี้ยงแกะดูแลฝูงแกะอยู่ใกล้ป่าทึบไม่ไกลจากหมู่บ้านนัก
ไม่นานเขาก็พบว่าชีวิตในทุ่งเลี้ยงสัตว์นั้นช่างน่าเบื่อหน่ายเหลือ
ทน ความบันเทิงเท่าที่ทำได้มีเพียงคุยกับเจ้าหมาและเป่านกหวีด
เลี้ยงแกะของเขาไปเรื่อยเปื่ อย

วันหนึ่งขณะที่เขานั่งมองแกะและผืนป่าอันเงียบสงบ พร้อมทั้ง
ครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรดีหากเจอหมาป่า เขาพลันคิดถึงแผนการ
ที่จะสร้างความสนุกสนานให้ตัวเองได้แผนการหนึ่ง

เจ้านายของเขาเคยบอกให้เขาร้องให้ช่วยหากหมาป่าจู่โจมฝูง
แกะ แล้วพวกชาวบ้านก็จะขับไล่มันไป ดังนั้น แม้ว่าตอนนี้เขายัง
ไม่เห็นอะไรที่คล้ายหมาป่าสักตัวโผล่มา เขากลับวิ่งเข้าไปใน
หมู่บ้านและร้องตะโกนสุดดเสียง "หมาป่า! หมาป่า!"

เป็นดังคาดเมื่อพวกชาวบ้านได้ยินเสียงตะโกนก็ทิ้งงานของ
ตนและวิ่งแจ้นไปยังท้องทุ่งด้วยความตื่นตกใจใหญ่หลวง แต่เมื่อ
พวกเขาไปถึงที่นั่นก็พบเพียงเด็กชายนั่งหัวร่อตัวงออยู่กับมุก
ตลกที่เขากลั่นแกล้งชาวบ้าน

ไม่กี่วันถัดมา เด็กเลี้ยงแกะก็เขามาในหมู่บ้านและร้องตะโกน 2
อีก "หมาป่า! หมาป่า!" เข่นเคย พวกชาวบ้านวิ่งไปช่วยเหลือเขา
เพียงเพื่อถูกเด็กชายหัวเราะเยาะอีกครั้ง

กระทั่งตกเย็นวันหนึ่ง ขณะที่ดวงตะวันลาลับขอบฟ้าบริเวณ
ชายป่า ก็มีเงามืดคืบคลานเข้ามาในทุ่งเลี้ยงสัตว์ หมาป่าตัวจริง
กระโจนออกจากพุ่มไม้ตรงรี่เข้าขย้ำคอแกะ

เด็กชายวิ่งตรงไปยังหมู่บ้านพร้อมตะโกนก้องด้วยความ
หวาดหวั่น "หมาป่า! หมาป่า!" แต่คราวนี้แม้ชาวบ้านจะได้ยิน
เสียงร้อง พวกเขากลับนิ่งเฉยไม่ยอมวิ่งไปช่วยเหลือเช่นทุกคราว
"เขาหลอกเราไม่ได้อีกแล้วละ" พวกชาวบ้านเอ่ย

หมาป่าสังหารแกะของเด็กชายไปมากมาย ก่อนจะเร้นกาย
หายเข้าไปในป่า

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ::
ไม่มีใครเชื่อถือคนโกหกเมื่อเขาพูดความจริง

นิทานอีสปฉบับปฐมวัย 3

เรื่องที่ 2

กากับหงส์

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีกาตัวหนึ่งอาศัยอยู่บนต้นไม้ใหญ่ โดย
มีสระน้ำเล็ก ๆ อยู่เบื้องหน้า ในนั้นมีหงส์ขาวตัวหนึ่งว่ายวนเหนือน้ำอยู่
เจ้ากามองเห็นหงส์นั้นมีขนสีขาวดั่งหิมะ แตกต่างกับสีขนของมันที่ดำ
ราวกับถ่าน กาจึงร้องตะโกนออกไปว่า “ท่านหงส์ขาวผู้งดงาม
ช่วยแนะนำวิธีให้กับข้าได้ไหมว่าทำเช่นไรถึงได้มีขนสีขาวเช่นท่าน”
แต่หงส์ตัวนั้นบอกว่า “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะเกิดมาข้าก็มีขนสีขาว
เช่นนี้แล้ว” จากนั้นก็ว่ายน้ำหาอาหารกินต่อไปเช่นเดิม

หลังจากจ้องมองหงส์ขาวด้วยความอิจฉาอยู่นาน วันหนึ่งเจ้ากาก็นึก
อะไรขึ้นมาได้ โดยคิดว่ามันสามารถมีขนสีขาวอย่างหงส์ถ้าลองใช้ชีวิต
แบบเดียวกัน เจ้ากาจึงวางแผนที่จะแหวกว่ายอยู่ในน้ำทั้งวันบ้าง ว่าแล้ว
จึงตัดสินใจละทิ้งรังบนยอดไม้ แล้วบินร่อนลงไปอาศัยในหนองน้ำ
โดยกินสาหร่ายและพืชน้ำอย่างที่หงส์ทำ

วันแล้ววันเล่า เจ้ากาเอาแต่แช่ตัวอยู่ในน้ำตลอดทั้งวัน แต่ขนก็ยัง
มีสีดำอยู่เช่นเคย หลายครั้งที่เกือบจะจมน้ำ อีกทั้งการที่พยายามกิน
สาหร่ายก็ไม่สามารถทำให้อิ่มท้องได้เลย ไม่นานนักเจ้ากาก็เริ่ม
ผ่ายผอมลง

หงส์ขาวเห็นดังนั้นก็ให้คำแนะนำไปว่า “กลับบ้านของเจ้าไปเถิด 4
เดี๋ยวเจ้าก็จะแข็งแรงขึ้น” แต่คราวนี้กาไม่ยอมฟังเสียงของหงส์ แม้จะ
ยากเหลือเกินที่อีกาจะอาศัยอยู่ในน้ำ แต่เจ้านกน้อยก็พยายามอย่าง
หนักที่จะมีชีวิตอยู่ ถึงอย่างนั้นก็ดูเหมือนทุกอย่างจะยิ่งเลวร้ายลง
เรื่อยๆ

วันหนึ่งหลังจากต่อสู้มานาน กาดำก็อำลาโลกนี้ไป หงส์ขาวได้แต่
สงสาร เพราะถ้าเจ้านกเชื่อฟังคำเตือนในวันนั้น เขาก็คงมีชีวิตอยู่ต่อ
ไปอีกนาน

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า :
จงพอใจกับสิ่งที่ตนเองมีอยู่

นิทานอีสปฉบับปฐมวัย 5

เรื่องที่ 3

ไก่ได้พลอย

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีบ้านหลังหนึ่งในชนบท ซึ่งเจ้าของคือ
ชาวนา เขาเลี้ยงไก่ไว้เป็นจำนวนมาก ทุก ๆ วันชาวนาจะปล่อยให้ฝูง
ไก่ออกมาเดินคุ้ยเขี่ยหากินตามธรรมชาติที่ลานดินใกล้กับทุ่งนา

เช้าวันหนึ่ง ขณะที่พ่อไก่กำลังเดินคุ้ยเขี่ยหาอาหารที่ลานหน้า
บ้านของชาวนาอยู่นั่นเอง มันก็เหลือบไปเห็นพลอยเม็ดงามเม็ด
หนึ่งส่องประกายระยิบระยับอยู่บนพื้น

พ่อไก่จ้องมองพลอยวิบวับเม็ดนั้น พลางรำพึงขึ้นมาว่า “เอกอี้เอ้ก
เอ้ก… ถ้านายข้ามาพบเม็ดพลอยนี้ เขาต้องดีใจมากแน่ ๆ และต้อง
เก็บขึ้นมาเลยทีเดียว แต่สำหรับข้า พลอยเม็ดนี้ไม่มีค่าเลยแม้แต่
น้อย อันที่จริงข้าวเปลือก 1 เมล็ด ยังจะมีค่ามากกว่าพลอยทั้งหมด
ในโลกเสียด้วยซ้ำ”

จากนั้นพ่อไก่ก็เดินผ่านพลอยเม็ดนั้น และคุ้ยเขี่ยดินเพื่อหา
อาหารกินต่อไป

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า:
สิ่งของล้ำค่าอาจไม่มีประโยชน์เลย
หากตกไปอยู่กับคนที่ไม่รู้คุณค่า

นิทานอีสปฉบับปฐมวัย 6

เรื่องที่ 4

กากับเหยือกน้ำ

ณ ป่าแห่งหนึ่ง ในฤดูร้อนที่มีอากาศร้อนอบอ้าว ทำให้แม่น้ำ ลำธาร
แห้งขอด ไม่มีน้ำแม้แต่หยดเดียว ในขณะเดียวกันก็มีกาตัวหนึ่งบินหา
น้ำดื่มด้วยความหิวกระหาย แต่หาเท่าไรก็หาไม่เจอ จนมันเริ่มเหนื่อย
และหมดแรงลงเรื่อย ๆ "น้ำหายไปไหนหมด ข้ากระหายน้ำเหลือเกิน
แฮ่ก แฮ่ก" เจ้ากากล่าวด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยหอบ

ทันใดนั้นเองสายตาของเจ้ากาก็เหลือบไปเห็นเหยือกน้ำขนาดใหญ่
ใบหนึ่งตั้งอยู่ที่หน้าบ้านของชาวนา มันจึงรีบบินไปดูด้วยความดีใจ แล้ว
ค่อย ๆ ใช้ตาข้างหนึ่งส่องลงไปดูผ่านปากเหยือก แต่ทว่ามีน้ำเหลือเพียง
ก้นเหยือกเท่านั้น ทำให้เจ้ากาไม่สามารถเอาจะงอยปากของมันลงไปกิน
น้ำได้ "เฮ้อ... มีน้ำเหลือเพียงก้นเหยือกแบบนี้ แล้วข้าจะกินอย่างไรละ
เนี่ย" เจ้ากาถอนหายใจพร้อมบ่นพึมพัมกับตัวเองเบา ๆ

ในระหว่างที่เจ้ากากำลังคิดหาวิธีที่จะกินน้ำในเหยือกอยู่นั้น สายตา
ของมันก็หันไปเห็นก้อนหินเล็ก ๆ ที่อยู่ตามพื้น จึงทำให้เจ้ากาคิด
แผนการดี ๆ ขึ้นมาได้ "ข้าคิดออกแล้ว ลองคาบก้อนหินเล็ก ๆ พวกนี้ใส่
ลงในเหยือกดีกว่า เผื่อระดับน้ำจะสูงขึ้นมาจนข้าสามารถกินน้ำที่อยู่ก้น
เหยือกได้" เจ้ากาคิดแผนการในใจ

จากนั้นมันจึงเริ่มใช้ปากคาบก้อนหินเล็ก ๆ มาใส่ลงไปในเหยือกน้ำ
อย่างใจเย็น ยิ่งเจ้ากาใส่หินมากเท่าไรน้ำในเหยือกก็ค่อย ๆ สูงขึ้นเรื่อย ๆ
จนในที่สุดระดับน้ำก็สูงขึ้นมาถึงปากเหยือก ทำให้เจ้ากาสามารถใช้
จะงอยปากดื่มน้ำได้อย่างง่ายดาย

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า :
จงแก้ไขปัญหาด้วยความพยายาม

และปัญญาอันชาญฉลาด

นิทานอีสปฉบับปฐมวัย 7

เรื่องที่ 5

สุนัขจิ้งจอกกับพวงองุ่น

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ป่าผืนใหญ่ที่เหล่าสัตว์ได้อาศัยพักพิงเกิด
ความแห้งแล้งกันดาร มีแหล่งน้ำและอาหารไม่เพียงพอต่อการประทัง
ชีวิต เจ้าสุนัขจิ้งจอกที่อาศัยอยู่ที่แห่งนี้มาเนิ่นนาน จึงตัดสินใจออกเดิน
ทางด้วยหวังใจว่าจะเจอกับแหล่งหากินอันอุดมสมบูรณ์ มันเริ่มเดิน
รอนแรมอยู่หลายวัน ไม่ได้กินแม้กระทั่งน้ำสักหยดจนเริ่มหมดแรง "เอา
ยังไงล่ะเรา เดินมาไกลขนาดนี้แล้วยังไม่เจออะไร ควรตัดใจแล้วกลับไปที่
เดิมดีไหมนะ" สุนัขจิ้งจอกผู้หิวโหยบ่นกับตัวเอง "ไหน ๆ ก็มาแล้ว เดิน
ต่อไปอีกหน่อยก็แล้วกันนะ" มันจึงรุดหน้าเดินต่อไปอย่างอ่อนแรง

เดินมาได้สักพักไม่ทันเหนื่อยนัก เจ้าสุนัขจิ้งจอกก็เหลือบไปเห็นองุ่น
พวงโตแดงฉ่ำน่ากิน "นี่ไง ! โชคดีแล้วเรา เจอองุ่นพวงใหญ่ขนาดนี้ ถ้า
ได้ลิ้มลองคงหวานฉ่ำและอิ่มท้องหลายวันแน่ ๆ" สุนัขจิ้งจอกไม่รอช้ารีบ
กระโดดคว้าองุ่นในทันใด "ฮึบ ! อีกนิดเดียว... ฮึบ !" เจ้าสุนัขส่งเสียงให้
กำลังใจตัวเองอย่างฮึกเหิม แต่ทำอย่างไรก็ยังกระโดดไม่ถึงพวงองุ่นสักที

8

"ลองกระโดดจากหินก้อนนั้นดู น่าจะทุ่นแรงและเอื้อมถึงองุ่นพวงนี้
ง่ายขึ้นอยู่นะ" ว่าแล้วสุนัขจิ้งจอกจึงเดินไปยังก้อนหินนั้น พร้อมกระโดด
ขึ้นจนสุดแรง "ฮึบ ! โธ่ อีกเพียงเอื้อมก็จะได้ลิ้มรสองุ่นแล้ว" สุนัขจิ้งจอก
บ่นอย่างท้อใจ แล้วพยายามขึ้นไปบนก้อนหินเพื่อกระโดดอีกครั้ง "ฮึบ !"
สุดท้ายมันก็พลาด ไม่อาจคว้าองุ่นมากินได้ "อันที่จริงองุ่นพวงนี้ก็ไม่
เห็นจะน่ากินสักเท่าไรนัก ถ้าเรากัดเข้าไปอาจเปรี้ยวจี๊ดจนกินไม่ไหวเลย
ก็ได้" สุนัขจิ้งจอกแสร้งบ่นแล้วเดินทางต่อด้วยความหิวโซ พร้อมหลอก
ตัวเองในใจเรื่อยไปว่า "ฉันมีความอดทนและความพยายามนะ แต่องุ่น
พวงนั้นคงเปรี้ยวเกินที่ฉันจะกินได้"

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า:
เมื่อคิดจะทำสิ่งใดก็ควรทำให้สุดกำลังที่มี
อย่ายอมแพ้แม้ว่าสิ่งนั้นต้องใช้เวลานานเพียงใดก็ตาม

บรรณานุกรม

ใบตาล. 2561. “รวมนิทานอีสป”. เข้าถึงข้อมูลได้จาก
http://www.kalyanamitra.org/th/Aesop_list.php. วันที่ 9 ธันวาคม 2564.

NitanTime. 2021. “นิทานอีสปสั้นๆ พร้อมข้อคิดสอนใจ
อ่านไม่ถึง 10 นาทีรู้ครบ 100 เรื่อง!”. เข้าถึงข้อมูลได้จาก
https://nitantime.com/short-aesop-fables/.
วันที่ 9 ธันวาคม 2564.

ขอบคุณสำหรับความร่วมมือ
Thank you for your
cooperation.


Click to View FlipBook Version