The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือการใช้เครื่องมือประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
ป.4-6

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

คู่มือการใช้เครื่องมือประเมินสมรรถนะฯ ป.4-6

คู่มือการใช้เครื่องมือประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
ป.4-6

43

แบบประเมนิ พฤติกรรมของผ้เู รียนควำมสำมำรถในกำรคดิ (กำรคดิ อยำ่ งมีวิจำรณญำณ)
สำหรับครูประเมนิ นกั เรยี น ชั้นประถมศกึ ษำปที ่ี 4 - 6

ชื่อนกั เรียน ..............................................................................................ชัน้ ...................เลขที.่ ..........................
คำช้ีแจง ให้ครูพิจารณารายการประเมิน แล้วใส่เครื่องหมาย  ลงในช่อง ใช่ หรือ ไม่ใช่ ท่ีตรงกับพฤติกรรม

ของนักเรยี น

ข้อที่ รำยกำรประเมิน ผลกำรประเมิน
ใช่ ไม่ใช่
1. นักเรยี นสามารถบอกขอ้ มลู เกี่ยวกบั เหตกุ ารณ์ในชวี ติ ประจาวันได้
2. นักเรียนสามารถเลือกหลักฐานสนบั สนนุ ข้อมลู เก่ยี วกับเหตุการณ์ในชีวติ ประจาวนั ได้
3. นักเรยี นสามารถอธบิ ายข้อมูลเพิ่มเติมจากหลกั ฐานที่เลือกเพอื่ สนับสนุนข้อมลู
เกย่ี วกบั เหตุการณใ์ นชวี ิตประจาวนั ได้
4. นกั เรียนสามารถบอกขอ้ ดีข้อเสียของหลักฐานที่เลือกเพื่อสนบั สนนุ เก่ยี วกับ
เหตุการณใ์ นชีวิตประจาวนั
5. นักเรียนสามารถระบคุ วามเข้าใจท่ีหลากหลายจากสถานการณท์ ีซ่ ับซ้อน
และอธบิ ายข้อมูลเพมิ่ เตมิ จากหลักฐานทเี่ ลือกเพ่ือสนับสนุนข้อมลู
สามารถลงข้อสรปุ และตรวจสอบได้อย่างถกู ต้อง
6. นักเรียนสามารถระบคุ วามเข้าใจที่หลากหลายจากสถานการณ์ทีซ่ บั ซ้อน
สามารถลงข้อสรุป ตรวจสอบและสามารถระบขุ ้อโต้แยง้ ได้อยา่ งเหมาะสม

รวม

เกณฑก์ ำรประเมิน มคี วามสามารถ ในระดับ ดเี ย่ียม
เลือกตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3,,34, 54, ,65 , 6 มคี วามสามารถ ในระดบั ดี
เลือกตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3,,34, 54 , 5 มีความสามารถ ในระดับ พอใช้
เลือกตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3,,34, 4 มีความสามารถ ในระดับ ปรับปรุง
เลือกตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3, 3

หมายเหตุ ถ้าไม่ตรงตามเกณฑ์การประเมินข้างต้น ให้อยใู่ นระดบั ปรบั ปรงุ

สรุป ระดับควำมสำมำรถ คือ ..................................................... ได้ .............. คะแนน
ระดบั ดเี ยีย่ ม ได้ 4 คะแนน
ระดบั ดี ได้ 3 คะแนน
ระดบั พอใช้ ได้ 2 คะแนน
ระดับ ปรบั ปรงุ ได้ 1 คะแนน

คมู่ อื การใชเ้ ครื่องมอื ประเมนิ สมรรถนะส�ำคัญของผเู้ รียน 43 ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

44

แบบประเมินพฤติกรรมของผู้เรยี น ควำมสำมำรถในกำรคดิ (กำรคดิ เป็นระบบ)
สำหรบั ครปู ระเมนิ นักเรยี น ช้ันประถมศึกษำปีที่ 4 – 6

ชอ่ื นักเรยี น ..............................................................................................ชนั้ ...................เลขท.ี่ ..........................
คำช้ีแจง ให้ครูพิจารณารายการประเมิน แล้วใส่เคร่ืองหมาย  ลงในช่อง ใช่ หรือ ไม่ใช่ ที่ตรงกับพฤติกรรม

ของนกั เรยี น
ผลกำรประเมนิ
ข้อที่ รำยกำรประเมิน ใช่ ไมใ่ ช่

1. นักเรียนสามารถบอกสาเหตุของปัญหาที่เห็นได้ชัดเจนของเหตุการณ์ใน
ชวี ิตประจาวนั ได้

2. นักเรียนสามารถบอกความสัมพันธ์ของสาเหตุและปัญหาที่เห็นได้ชัดเจนของ
เหตุการณ์ในชวี ติ ประจาวันได้
3. นกั เรียนสามารถบอกผลทเี่ กิดข้นึ ของเหตกุ ารณใ์ นชวี ิตประจาวันได้
4. นกั เรียนสามารถเชื่อมโยงความสัมพันธเ์ ชงิ เหตุและผลของเหตกุ ารณใ์ น
ชีวิตประจาวันได้

5. นกั เรยี นสามารถเช่ือมโยงความสมั พนั ธเ์ ชงิ เหตแุ ละผล ระบุแบบแผนของ
พฤติกรรมและองคป์ ระกอบต่าง ๆ เพือ่ สร้างแบบจาลองอย่างง่ายได้
6. นักเรียนสามารถวิเคราะห์ปัจจัยในระบบและรวบรวมปัจจัยอ่ืน ๆ ท่ีเก่ียวข้อง
กับระบบหรือสถานการณ์ เชื่อมโยงความสัมพันธ์เชงิ เหตุและผล เพื่อวิเคราะห์
แนวโน้มของการเปลีย่ นแปลงในระบบ และสรา้ งแบบจาลองอยา่ งง่ายได้

รวม

เกณฑ์กำรประเมนิ มีความสามารถ ในระดับ ดเี ยยี่ ม
เลอื กตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3,,34, 54, ,65 , 6 มคี วามสามารถ ในระดับ ดี
เลอื กตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3,,34, 54 , 5 มคี วามสามารถ ในระดบั พอใช้
เลือกตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3,,34, 4 มคี วามสามารถ ในระดับ ปรับปรุง
เลอื กตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3, 3

หมายเหตุ ถ้าไมต่ รงตามเกณฑก์ ารประเมินข้างต้น ให้อยใู่ นระดบั ปรับปรุง

สรปุ ระดับควำมสำมำรถ คือ ..................................................... ได้ .............. คะแนน
ระดับ ดเี ยี่ยม ได้ 4 คะแนน
ระดับ ดี ได้ 3 คะแนน
ระดับ พอใช้ ได้ 2 คะแนน
ระดับ ปรับปรงุ ได้ 1 คะแนน
้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6
44 คมู่ ือการใชเ้ ครื่องมือประเมินสมรรถนะส�ำคัญของผู้เรียน
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

วิธีการใชแ้ บบประเมนิ พฤตกิ รรมความสามารถในการคิด สาหรับครปู ระเมนิ นกั เรยี น จัดทำไว้ 3 ฉบบั คือ
1) แบบประเมนิ พฤติกรรมควำมสำมำรถในกำรคดิ (กำรคิดอย่ำงสรำ้ งสรรค)์ สำหรบั ครปู ระเมนิ นักเรยี น
2) แบบประเมินพฤติกรรมควำมสำมำรถในกำรคิด (กำรคิดอย่ำงมีวิจำรณญำณ) สำหรับครู

ประเมนิ นกั เรียน
3) แบบประเมินพฤตกิ รรมควำมสำมำรถในกำรคิด (กำรคดิ เปน็ ระบบ) สำหรบั ครปู ระเมนิ นกั เรียน
เครื่องมือประเมินพฤติกรรมควำมสำมำรถในกำรคิด สำหรับครูประเมินนักเรียน ระดับช้ัน

ประถมศึกษำปีท่ี 4 - 6 เป็นเครื่องมือที่ประเมินแยกแต่ละด้ำนของสมรรถนะควำมสำมำรถในกำรคิด
ในกำรประเมิน ให้ครูพิจำรณำรำยกำรประเมิน ซ่ึงเริ่มจำกระดับ ปรับปรุง จนถึงระดับ ดีเย่ียม ให้ครูผู้ประเมนิ
ใส่เครื่องหมำย  ลงในช่อง ใช่ หรือ ไม่ใช่ ที่ตรงกับพฤติกรรมของนักเรียน ครบทุกรำยกำรประเมิน และนำผล
กำรประเมินมำแปลผล ตำมเกณฑ์กำรประเมินระดับปรับปรุง ระดับพอใช้ ระดับดี ระดับดีเย่ียม และนำผล
กำรประเมนิ ในแต่ละด้ำนมำสรปุ ในภำพรวม ดังน้ี

แบบสรปุ การประเมนิ พฤตกิ รรมของผู้เรยี นความสามารถในการคิด
สาหรบั ครูประเมนิ นักเรียน ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 4 – 6

สมรรถนะความสามารถในการคิด / คะแนน คะแนนรวม
ดา้ นการคดิ อย่าง ดา้ นการคดิ อยา่ ง ดา้ นการคิด (12 คะแนน)
เลขท่ี ชื่อ – สกลุ สร้างสรรค์ มวี จิ ารณญาณ เปน็ ระบบ ผลการประเมิน

1 (4 คะแนน) (4 คะแนน) (4 คะแนน)

2
3
4
...

นำคะแนนทไี่ ด้ไปแปลผลกำรประเมนิ ตำมเกณฑ์ ดังนี้
ได้ 10 – 12 คะแนน มผี ลกำรประเมนิ อยใู่ นระดบั ดเี ยี่ยม
ได้ 7 – 9 คะแนน มีผลกำรประเมนิ อยู่ในระดับ ดี
ได้ 4 – 6 คะแนน มผี ลกำรประเมิน อยู่ในระดบั พอใช้
ได้ 1 – 3 คะแนน มผี ลกำรประเมนิ อยูใ่ นระดบั ปรบั ปรุง

ในกรณี ผลกำรประเมิน ไม่ตรงตำมเกณฑ์กำรประเมนิ ข้ำงต้น ใหอ้ ยใู่ นระดับ ปรบั ปรงุ
ครูสรุปผลกำรประเมินดังกล่ำว กรณีท่ีผลกำรประเมินพบว่ำ นักเรียนมีระดับควำมสำมำรถในกำรคดิ
ในแต่ละด้ำน อยู่ในระดับปรับปรุง ระดับพอใช้ หรือระดับดี ครูควรหำแนวทำงกำรพัฒนำนักเรียนให้มีระดับ
ควำมสำมำรถท่ีเพ่ิมสูงขนึ้ จำกระดบั เดมิ

คู่มอื การใช้เครือ่ งมอื ประเมินสมรรถนะสำ� คญั ของผู้เรยี น 45 ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)

46

แบบประเมนิ พฤติกรรมของผูเ้ รยี น ควำมสำมำรถในกำรคดิ (กำรคดิ อย่ำงสร้ำงสรรค์)
สำหรบั นกั เรียนประเมนิ ตนเอง ชนั้ ประถมศกึ ษำปีท่ี 4 – 6

ชอ่ื นักเรียน ...............................................................................................ช้นั .........................เลขที่....................

คำช้ีแจง ให้นักเรียนพิจารณารายการประเมิน แล้วใส่เครื่องหมาย  ลงในช่อง ใช่ หรือ ไม่ใช่ ที่ตรงกับ
พฤติกรรมของตนเอง
ผลกำรประเมนิ
ข้อที่ รำยกำรประเมิน ใช่ ไม่ใช่

1. ข้าพเจ้าสามารถผลติ ชน้ิ งานโดยอาศยั ตน้ แบบ และบอกรายละเอียดของชนิ้ งานได้
2. ข้าพเจา้ สามารถผลิตชน้ิ งานท่ีแตกตา่ งจากตน้ แบบหรือตามจนิ ตนาการภายใต้
เงอ่ื นไขงา่ ย ๆ ได้
3. ข้าพเจา้ สามารถสร้างชน้ิ งานโดยดัดแปลงจากสง่ิ ที่มีอยู่ หรือนาสงิ่ อน่ื มาทดแทน
สิง่ ที่ขาด และมีการตรวจสอบชิ้นงานเบ้อื งต้นได้
4. ข้าพเจา้ สามารถสร้างชิ้นงานด้วยการผสมผสานจากแนวคิดทหี่ ลากหลายและ
ดัดแปลงจากส่งิ ท่ีมอี ยู่ หรือนาส่ิงอืน่ มาทดแทนสง่ิ ทขี่ าด และมกี ารตรวจสอบ
ชน้ิ งานเบือ้ งตน้ ได้
5. ข้าพเจ้าสามารถสร้างช้ินงานเพื่อแก้ปัญหาที่ซับซ้อนด้วยการผสมผสานจาก
แนวคิดที่หลากหลายและดัดแปลงจากสิ่งท่ีมีอยู่ หรือนาสิ่งอ่ืนมาทดแทนสิ่งท่ีขาด
แจกแจงรายละเอียดของวิธีการแก้ปัญหา หรือขยายความคิดได้บ้าง และมีการ
ประเมนิ ผลงานจากเกณฑ์
6. ข้าพเจ้าสามารถพัฒนาชิ้นงานหรอื วิธกี ารเพ่ือแก้ปัญหาที่ซับซ้อนด้วยความคดิ
ที่แปลกใหม่ในเวลาท่ีกาหนด มีการคิดหาวิธีการ แก้ปัญหาโดยดัดแปลงสิ่งท่ีมี
อยู่หรือนาส่ิงอื่นมา ทดแทนสิ่งท่ีขาดได้ มีการคิดแจกแจงรายละเอียดของ
วธิ กี ารแกป้ ญั หาหรอื ขยายความคดิ ได้ และมีการประเมนิ ผลงานจากเกณฑ์

รวม

เกณฑก์ ำรประเมิน
เลือกตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3,,34, 54, ,65 , 6 มีความสามารถ ในระดับ ดเี ยย่ี ม
เลอื กตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3,,34, 54 , 5 มีความสามารถ ในระดับ ดี
เลอื กตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3,,34, 4 มคี วามสามารถ ในระดบั พอใช้
เลอื กตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3, 3 มคี วามสามารถ ในระดบั ปรับปรงุ
หมายเหตุ ถ้าไม่ตรงตามเกณฑก์ ารประเมนิ ข้างต้น ให้อย่ใู นระดับ เรม่ิ ตน้

สรปุ ระดบั ควำมสำมำรถ คือ ..................................................... ได้ .............. คะแนน
ระดบั ดเี ยยี่ ม ได้ 4 คะแนน
้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6 ระดับ ดี ได้ 3 คะแนน
ระดับ พอใช้ ได้ 2 คะแนน
ระดับ ปรับปรุง ได้ 1 คะแนน

46 ค่มู อื การใชเ้ ครอื่ งมอื ประเมินสมรรถนะส�ำคญั ของผเู้ รียน
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)

47

แบบประเมนิ พฤติกรรมของผเู้ รยี นควำมสำมำรถในกำรคดิ (กำรคดิ อย่ำงมีวจิ ำรณญำณ)
สำหรบั นกั เรยี นประเมนิ ตนเอง ช้นั ประถมศกึ ษำปีท่ี 4 – 6

ชื่อนักเรียน ...................................................................................................ชนั้ ...................เลขที.่ ...................

คำชีแ้ จง ใหน้ ักเรียนพจิ ารณารายการประเมิน แลว้ ใส่เครื่องหมาย  ลงในช่อง ใช่ หรือ ไมใ่ ช่ ที่ตรงกับพฤติกรรม
ของตนเอง
ผลกำรประเมนิ
ขอ้ ที่ รำยกำรประเมนิ ใช่ ไมใ่ ช่

1. ขา้ พเจา้ สามารถบอกขอ้ มลู เกี่ยวกับเหตุการณ์ในชวี ิตประจาวนั ได้

2. ข้าพเจา้ สามารถเลอื กหลกั ฐานสนับสนนุ ข้อมูลเกยี่ วกับเหตุการณ์ในชีวติ ประจาวนั ได้
3. ข้าพเจ้าสามารถอธิบายข้อมูลเพมิ่ เติมจากหลักฐานทีเ่ ลอื กเพอ่ื สนบั สนุนข้อมูล
เกี่ยวกับเหตกุ ารณ์ในชวี ิตประจาวนั ได้
4. ขา้ พเจ้าสามารถบอกข้อดีขอ้ เสยี ของหลักฐานท่ีเลือกเพ่ือสนับสนนุ เกี่ยวกับ
เหตุการณ์ในชีวติ ประจาวนั
5. ข้าพเจา้ สามารถระบคุ วามเขา้ ใจที่หลากหลายจากสถานการณ์ทีซ่ บั ซ้อนและ
อธบิ ายข้อมูลเพิ่มเตมิ จากหลักฐานท่ีเลือกเพ่ือสนบั สนุนข้อมูล
สามารถลงข้อสรุปและตรวจสอบได้อยา่ งถูกต้อง
6. ข้าพเจ้าสามารถระบคุ วามเข้าใจทีห่ ลากหลายจากสถานการณ์ท่ีซบั ซ้อน
สามารถลงข้อสรุป ตรวจสอบและสามารถระบขุ ้อโต้แยง้ ได้อย่างเหมาะสม

รวม

เกณฑก์ ำรประเมนิ มีความสามารถ ในระดับ ดเี ยีย่ ม
เลือกตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3,,34, 54, ,65 , 6 มีความสามารถ ในระดบั ดี
เลอื กตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3,,34, 54 , 5 มคี วามสามารถ ในระดับ พอใช้
เลือกตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3,,34, 4 มีความสามารถ ในระดบั ปรับปรงุ
เลอื กตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3, 3

หมายเหตุ ถา้ ไมต่ รงตามเกณฑ์การประเมนิ ข้างตน้ ให้อยใู่ นระดบั ปรับปรุง

สรปุ ระดบั ควำมสำมำรถ คือ ..................................................... ได้ .............. คะแนน
ระดบั ดีเย่ยี ม ได้ 4 คะแนน
ระดบั ดี ได้ 3 คะแนน
ระดบั พอใช้ ได้ 2 คะแนน
ระดับ ปรับปรุง ได้ 1 คะแนน

คมู่ อื การใช้เคร่ืองมือประเมินสมรรถนะสำ� คัญของผู้เรียน 47 ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)

48

แบบประเมินพฤติกรรมของผู้เรียนควำมสำมำรถในกำรคดิ (กำรคิดเป็นระบบ)
สำหรบั นกั เรียนประเมินตนเอง ชนั้ ประถมศกึ ษำปที ี่ 4 – 6

ชือ่ นักเรียน .....................................................................................................ชนั้ ...................เลขท.ี่ ...................
คำชี้แจงใหน้ ักเรยี นพจิ ารณารายการประเมนิ แลว้ ใสเ่ ครอ่ื งหมาย  ลงในชอ่ ง ใช่ หรือ ไมใ่ ช่ ทต่ี รงกับ
พฤติกรรมของตนเอง
ผลกำรประเมนิ
ขอ้ ท่ี รำยกำรประเมิน ใช่ ไม่ใช่

1. ขา้ พเจา้ สามารถบอกสาเหตุของปญั หาที่เห็นไดช้ ัดเจนของเหตุการณใ์ นชวี ิตประจาวนั ได้

2. ข้าพเจา้ สามารถบอกความสมั พนั ธข์ องสาเหตุและปญั หาท่เี หน็ ไดช้ ดั เจนของ
เหตกุ ารณ์ในชวี ติ ประจาวนั ได้

3. ขา้ พเจา้ สามารถบอกผลท่ีเกดิ ขนึ้ ของเหตุการณ์ในชีวติ ประจาวนั ได้

4. ขา้ พเจา้ สามารถเช่ือมโยงความสมั พนั ธเ์ ชงิ เหตุและผลของเหตุการณใ์ นชีวติ ประจาวนั ได้
5. ข้าพเจ้าสามารถเชอ่ื มโยงความสัมพันธ์เชิงเหตุและผล ระบแุ บบแผนของพฤตกิ รรม
และองคป์ ระกอบต่าง ๆ เพอ่ื สรา้ งแบบจาลองอยา่ งงา่ ยได้
6. ข้าพเจา้ สามารถวิเคราะห์ปัจจยั ในระบบและรวบรวมปัจจยั อื่น ๆ ท่เี กยี่ วขอ้ งกับ
ระบบหรอื สถานการณ์ เชอื่ มโยงความสัมพนั ธเ์ ชงิ เหตุและผล เพอ่ื วเิ คราะห์แนวโน้ม
ของการเปลีย่ นแปลงในระบบ และสรา้ งแบบจาลองอยา่ งงา่ ยได้

รวม

เกณฑก์ ำรประเมนิ มคี วามสามารถ ในระดบั ดีเยย่ี ม
เลือกตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3,,34, 54, ,65 , 6 มคี วามสามารถ ในระดับ ดี
เลอื กตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3,,34, 54 , 5 มีความสามารถ ในระดับ พอใช้
เลอื กตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3,,34, 4 มคี วามสามารถ ในระดบั ปรับปรุง
เลือกตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3, 3

หมายเหตุ ถา้ ไม่ตรงตามเกณฑ์การประเมนิ ข้างต้น ให้อยู่ในระดับ ปรับปรงุ

สรปุ ระดบั ควำมสำมำรถ คือ ..................................................... ได้ .............. คะแนน
ระดับ ดเี ยี่ยม ได้ 4 คะแนน
ระดบั ดี ได้ 3 คะแนน
ระดับ พอใช้ ได้ 2 คะแนน
ระดับ ปรบั ปรุง ได้ 1 คะแนน

้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6 48 คู่มอื การใช้เครื่องมอื ประเมินสมรรถนะสำ� คญั ของผูเ้ รียน
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

49

วิธีกำรใชแ้ บบประเมินพฤตกิ รรมสำหรับนักเรยี นประเมนิ ตนเอง จัดทาไว้ 3 ฉบบั คอื
1) แบบประเมินพฤติกรรมความสามารถในการคิด (การคิดอย่างสร้างสรรค์) สาหรับนักเรียนประเมิน
ตนเอง
2) แบบประเมินพฤติกรรมความสามารถในการคิด (การคิดอย่างมีวิจารณญาณ) สาหรับนักเรียน
ประเมนิ ตนเอง
3) แบบประเมินพฤติกรรมความสามารถในการคดิ (การคดิ เปน็ ระบบ) สาหรบั นักเรยี นประเมนิ ตนเอง
เคร่ืองมือประเมินพฤติกรรมความสามารถในการคิด สาหรับนักเรียนประเมินตนเอง ระดับ
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 – 6 เป็นเครื่องมือที่ประเมินแยกแต่ละด้านของสมรรถนะความสามารถในการคิด
ในการประเมินให้นักเรียนพิจารณารายการประเมิน ซึ่งเริ่มจากระดับ เริ่มต้น จนถึงระดับเหนือความคาดหวัง
ให้นักเรียนประเมินตนเอง โดยใส่เครื่องหมาย  ลงในช่อง ใช่ หรือ ไม่ใช่ ที่ตรงกับพฤติกรรมของตนเอง
ครบทุกรายการประเมิน และนาผลการประเมินมาแปลผล ระดับปรับปรุง ระดับพอใช้ ระดับดี ระดับดีเย่ียม
และนาผลการประเมนิ ในแต่ละดา้ นมาสรุปในภาพรวม ดังนี้

แบบสรปุ กำรประเมนิ พฤตกิ รรมของผูเ้ รียนควำมสำมำรถในกำรคิด
โดยนักเรยี นประเมินตนเอง ช้ันประถมศึกษำปีที่ 4 – 6

สมรรถนะควำมสำมำรถในกำรคดิ / คะแนน คะแนนรวม
ดำ้ นกำรคดิ อย่ำง ดำ้ นกำรคิดอยำ่ ง ด้ำนกำรคิด (12 คะแนน)
เลขที่ ช่ือ – สกุล สรำ้ งสรรค์ มีวิจำรณญำณ เป็นระบบ ผลกำรประเมิน

(4 คะแนน) (4 คะแนน) (4 คะแนน)

1
2
3
4
5

เกณฑก์ ำรประเมนิ
ระดบั ดีเยีย่ ม ได้ 4 คะแนน
ระดบั ดี ได้ 3 คะแนน
ระดับ พอใช้ ได้ 2 คะแนน
ระดบั ปรับปรุง ได้ 1 คะแนน
ในกรณี ผลการประเมิน ไมต่ รงตามเกณฑ์การประเมินข้างต้น ให้อยใู่ นระดบั ปรับปรุง
ครูสรุปผลการประเมินดังกล่าว กรณีท่ีผลการประเมินพบว่า นักเรียนมีระดับความสามารถในการคิด
ในแต่ละด้าน อยู่ในปรับปรุง ระดับพอใช้ หรือระดับดี ครูควรหาแนวทางการพัฒนานักเรียนให้มีระดับ
ความสามารถทเ่ี พิม่ สูงขึน้ จากระดับเดิม

ค่มู ือการใช้เครอ่ื งมอื ประเมินสมรรถนะส�ำคญั ของผูเ้ รยี น 49 ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)

50

แบบประเมนิ ผลงำน/ช้นิ งำน

ช่ือผลงาน/ชน้ิ งาน ................................................................................................................................................
ชื่อผรู้ บั การประเมิน .................................................................... ชั้นประถมศกึ ษาปที ่.ี ................เลขที.่ ...............
โรงเรยี น ................................................................................................................................................................
ชื่อผู้ประเมนิ .........................................................................................................................................................

ประเด็นกำรพจิ ำรณำ คะแนน
1. ความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างชิ้นงาน 1234

2. การนาเสนอรายละเอียดของชนิ้ งาน

3. ความสาคญั และประโยชนข์ องช้นิ งาน

คะแนนรวม

คะแนนรวมท้งั หมด

สรปุ ระดับควำมสำมำรถ : .........................................................................................................................

เกณฑก์ ำรให้คะแนนตัวอยำ่ งแบบประเมินผลงำน/ชิน้ งำน

1. ประเด็นพิจารณา : ความคิดสรา้ งสรรค์ในการสร้างชนิ้ งาน
คะแนน เกณฑก์ ำรประเมิน
4 สร้างช้ินงาน ด้วยวิธีการทซี่ ับซ้อน โดยการผสมผสานจากแนวคิดท่หี ลากหลาย
3 สร้างช้นิ งาน ด้วยวธิ กี ารทซ่ี บั ซอ้ น โดยดดั แปลงจากส่งิ ทม่ี ีอยู่
2 สร้างชิน้ งาน ดว้ ยวิธกี ารอย่างง่าย โดยแตกต่างจากตน้ แบบ
1 สร้างชิ้นงาน ดว้ ยวธิ กี ารอยา่ งงา่ ยโดยอาศัยตน้ แบบ

2. ประเด็นพิจารณา : การนาเสนอรายละเอยี ดของชิ้นงาน
คะแนน เกณฑ์กำรประเมนิ
4 นาเสนอรายละเอียดของชนิ้ งาน ได้อย่างชัดเจนเปน็ รูปธรรม สอดคล้องกบั กระบวนการคิด
3 นาเสนอรายละเอยี ดของชน้ิ งาน ไดอ้ ย่างชัดเจน โดยสอดคล้องกับกระบวนการคิด
2 นาเสนอรายละเอียดของชิ้นงาน ได้อย่างชดั เจน
1 นาเสนอรายละเอียดของชิน้ งาน ได้เพียงบางสว่ น

3. ประเด็นพิจารณา : ความสาคญั และประโยชน์ของช้นิ งาน
คะแนน เกณฑ์กำรประเมิน
4 นาช้นิ งานไปใช้ใหเ้ กิดประโยชนใ์ นชีวติ ประจาวัน
3 บอกประโยชนข์ องช้นิ งาน และสามารถนาไปใช้งานได้หลายดา้ น
2 บอกประโยชนข์ องชิ้นงาน และสามารถนาไปใชง้ านได้
้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6 1 บอกความสาคัญและประโยชน์ของชนิ้ งานได้

50 คู่มอื การใช้เครอ่ื งมอื ประเมินสมรรถนะสำ� คญั ของผเู้ รียน
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)

51

วิธีกำรใช้แบบประเมินผลงำน/ช้ินงำน ครูผู้สอนประเมินผลงาน/ช้ินงาน ใน 3 ประเด็น คือ
1) ความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างชิ้นงาน/ผลงาน 2) การนาเสนอรายละเอียดของชิ้นงาน/ผลงาน และ
3) ความสาคัญ และประโยชนข์ องชิน้ งาน/ผลงาน ในการดาเนินการประเมนิ ผลงาน/ชิ้นงาน ครูผสู้ อนนาผลงาน
นักเรียนมาประเมินตามเกณฑ์ให้คะแนน ในแต่ละประเด็น นาคะแนนท่ีได้จากการประเมิน 3 ประเด็น มารวม
คะแนน และแปลผลระดบั ความสามารถในการคดิ ได้ดังน้ี

ได้ 10 – 12 คะแนน มีผลการประเมนิ อยใู่ นระดับ ดเี ยี่ยม
ได้ 7 – 9 คะแนน มีผลการประเมนิ อยใู่ นระดบั ดี
ได้ 4 – 6 คะแนน มผี ลการประเมิน อยูใ่ นระดับ พอใช้
ได้ 1 – 3 คะแนน มีผลการประเมิน อยู่ในระดบั ปรบั ปรุง
ครูสรปุ ผลการประเมนิ ดังกล่าว กรณีที่ผลการประเมนิ พบว่า นักเรยี นมรี ะดบั ความสามารถในการคิด
ในแต่ละด้าน อยู่ในระดับปรับปรุง ระดับกาลังพัฒนา หรือระดับดี ครูควรหาแนวทางการพัฒนานักเรียนให้ มี
ระดับความสามารถท่ีเพิ่มสงู ข้ึนจากระดบั เดิม

22.3.3เครวอื่ ำงมมสือำปมรำะรเถมใินคกวำราแมกสป้ามญั าหรำถในการแก้ปญั หา

กรอบโครงสร้ำงเคร่อื งมอื ประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น ดำ้ นควำมสำมำรถในกำรแก้ปญั หำ

นยิ ำมสมรรถนะสำคัญ ตัวชวี้ ัด เคร่ืองมอื
ความสามารถในการแก้ปัญหา ต้ังคาถามเพ่ือระบุปัญหาท่ีซบั ซ้อนและ - แบบทดสอบเชงิ
เป็นความสามารถการแก้ปัญหาและ มีผลกระทบต่อสังคม ประเมินความสาคัญ สถานการณ์
อปุ สรรคต่าง ๆ ที่เผชิญได้อยา่ งถูกต้อง ของปัญหา วิเคราะห์และจัดลาดับสาเหตุ - แบบประเมิน
เหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล ของปัญหาท่ีสาคัญ รวบรวมข้อมูลและ พฤติกรรมสาหรับครู
คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจ แนวคิดที่เก่ียวข้องกับปัญหา โดยคานึงถึง - แบบประเมิน
ความสัมพันธ์และการเปลี่ยนแปลง ความถูกต้อง ออกแบบวิธีการหรือเสนอ พฤติกรรมสาหรับ
ของเหตกุ ารณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหา ทางเลือกหลายทางเลือกที่เป็นไปได้และมี นักเรยี น
ความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการ เหตุผลในการแก้ปัญหา พร้อมท้ังระบุข้อดี - แบบประเมินผลงาน/
ป้องกันและแก้ไขปัญหา และมีการ และข้อเสียของวิธีการหรือทางเลือก และ ชนิ้ งาน
ตัดสินใจท่ีมีประสิทธิภาพโดยคานึงถึง ดาเนนิ การแก้ปญั หาไดห้ ลายวธิ ี - แบบสัมภาษณ์
ผลกระทบท่ีเกิดข้ึนต่อตนเอง สังคม
และสิง่ แวดลอ้ ม

คู่มอื การใชเ้ ครื่องมือประเมินสมรรถนะส�ำคญั ของผู้เรียน 51 ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

52

เครอื่ งมอื ประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ดำ้ นควำมสำมำรถในกำรแกป้ ัญหำ
จากกรอบโครงสร้างเครื่องมือประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ด้านความสามารถในการแก้ปัญหา
ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 – 6 สามารถนามาสร้างเครอ่ื งมอื ประเมนิ แบบต่าง ๆ ไดด้ ังนี้

❖ แบบทดสอบเชงิ สถานการณ์
❖ แบบประเมินพฤตกิ รรมสาหรับครู
❖ แบบประเมนิ พฤติกรรมสาหรับนักเรยี น
❖ แบบประเมินผลงาน/ชนิ้ งาน
❖ แบบสมั ภาษณ์

แบบทดสอบเชงิ สถำนกำรณ์ ชั้นประถมศกึ ษำปีท่ี 4 – 6
ช่อื ....................................................................................................................ชั้น...................เลขท่ี....................
โรงเรยี น ................................................................................................................................................................
คำชแ้ี จง ให้นักเรียนอา่ นสถานการณ์ท่ีกาหนดให้ แล้วตอบคาถาม
สถำนกำรณ์

โรงเรียนนิมิตวิทยา มีนักเรียนจานวน 1,500 คน ทุก ๆ วันจะมีเศษอาหารเหลือจากการรับประทาน
อาหารของนักเรียน เศษวสั ดุเหลือใช้จากการทากิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงถุงขนม ถงุ นม ขวดนา้ พลาสติก กล่องนม
กลอ่ งนา้ ผลไม้ ฯลฯ ถูกทิ้งเกล่ือนกลาดภายในบรเิ วณโรงเรยี น
จากสถานการณ์ดังกล่าวขา้ งต้น ให้นักเรียนวิเคราะห์ข้อมลู และตอบคาถาม ดังนี้
1. นกั เรียนพบปญั หาใดบ้าง
ตอบ......................................................................................................................................................................
2. ปัญหาทเ่ี กิดขึ้น มีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง
ตอบ.......................................................................................................................................................................
3. นกั เรียนมีแนวทางในการแก้ปัญหาทเ่ี กดิ ขึ้น ได้อย่างไร (คิดแก้ปัญหา)
ตอบ.......................................................................................................................................................................
4. ให้นกั เรยี นออกแบบช้ินงาน / ผลงาน เพอ่ื แก้ปัญหาที่เกิดขน้ึ (คิดสร้างสรรค์)

้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6 52 คมู่ ือการใชเ้ คร่ืองมอื ประเมนิ สมรรถนะสำ� คญั ของผเู้ รยี น
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)

53

เกณฑก์ ำรประเมนิ แบบทดสอบเชิงสถำนกำรณ์

สมรรถนะ 1 คะแนน 2 คะแนน ระดับคุณภำพ 4 คะแนน
ความสามารถใน (ปรับปรุง) 3 คะแนน
การแก้ปัญหา ต้งั คาถามได้ (พอใช้) (ด)ี (ดเี ยย่ี ม)
ครอบคลมุ ประเดน็ ตง้ั คาถามเพือ่ ระบุ ต้ังคาถามเพ่ือระบุปญั หา ระบปุ ัญหาและสาเหตุของ
ปัญหา เพอ่ื ระบุ ปญั หาท่ไี มซ่ ับซ้อนได้ ทซ่ี ับซ้อนและมี ปญั หาทซ่ี ับซ้อน และมี
ปัญหาอยา่ งง่าย อยา่ งรวดเรว็ และ ผลกระทบตอ่ สังคม ผลกระทบต่อสงั คม
เกย่ี วกบั ชุมชนหรือ ครอบคลมุ วเิ คราะห์ ประเมนิ ความสาคญั ของ ประเมนิ ผลกระทบของ
ท้องถิ่นได้ รวบรวม และจัดลาดบั สาเหตุของ ปญั หา วเิ คราะห์และ ปญั หาได้วเิ คราะหป์ ญั หา
ข้อมูลและ แนวคดิ ท่ี ปัญหา โดยคานึงถึง จัดลาดับสาเหตุ ออกเป็นปัญหาย่อย ๆ
เกยี่ วข้องกบั ปัญหา ความเหมาะสมรวบรวม ของปัญหาทส่ี าคัญ ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา
โดยคานงึ ถึงความ ข้อมูลและแนวคิดท่ี รวบรวมข้อมลู และ เสนอทางเลอื กในการ
เหมาะสม เกี่ยวข้องกบั ปัญหาท่ีมี แนวคดิ ทเ่ี กย่ี วข้องกบั แกป้ ัญหา โดยมเี กณฑ์
ออกแบบวธิ กี ารหรอื ผลกระทบตอ่ สงั คม ปญั หา โดยคานึงถงึ ความ สาหรับเลอื กวิธแี กป้ ัญหา
ทางเลอื กในการ ออกแบบวิธีการหรือ ถูกตอ้ ง ออกแบบวธิ กี าร วางแผนการปฏิบตั ิเพ่อื
แกป้ ัญหา พร้อมท้งั เสนอทางเลือกท่เี ปน็ ไป หรือเสนอทางเลือกหลาย แก้ปญั หา และใช้
ระบุขอ้ ดแี ละข้อเสยี ได้ในการแกป้ ญั หา ทางเลือกทเี่ ปน็ ไปไดแ้ ละ กระบวนการติดตาม
ของวิธีการหรอื พร้อมท้งั ระบุขอ้ ดแี ละ มีเหตผุ ลในการแกป้ ัญหา แผนการแก้ปญั หา
ทางเลอื กและ ขอ้ เสียของวธิ ีการหรือ พร้อมท้งั ระบุ ข้อดีและ เพอ่ื การตดั สินใจได้
ดาเนนิ การแก้ปญั หา ทางเลอื กและดาเนนิ การ ข้อเสยี ของวิธกี ารหรอื
แก้ปัญหาได้หลายวธิ ี ทางเลือก และดาเนินการ
แกป้ ัญหาได้หลายวิธี

วธิ ีกำรใชแ้ บบทดสอบเชิงสถำนกำรณ์
แบบทดสอบเชิงสถานการณ์ เปน็ แบบทดสอบทก่ี าหนดสถานการณ์ ให้นักเรียนตอบคาถาม 4 ข้อ

แตล่ ะคาถามตามองค์ประกอบ สมรรถนะความสามารถในการแกป้ ญั หา ดงั น้ี
1. การวเิ คราะหป์ ัญหา
2. การวางแผนในการแก้ปญั หา
3. การดาเนินการแกป้ ัญหา
4. การตรวจสอบและสรุปผลท่เี กดิ จากการแกป้ ญั หา
เมื่อนักเรียนตอบคาถามท้ัง 4 ข้อ เรียบร้อยแล้ว ให้ครูผู้สอน ดาเนินการตรวจให้คะแนนนักเรียน

ตามเกณฑ์การประเมนิ สมรรถนะความสามารถในการแกป้ ัญหา (การวิเคราะห์ปญั หา วางแผนในการแก้ปัญหา
ดาเนินการแก้ปัญหา ตรวจสอบและสรุปผลท่ีเกิดจากการแก้ปัญหา) ให้รวมคะแนนทั้งหมดและนาคะแนนท่ีได้
ลงในแบบบนั ทกึ คะแนน โดยใสเ่ คร่ืองหมาย  ลงในช่อง มี หรือ ไมม่ ี ทตี่ รงกับพฤติกรรมของนกั เรียน

คู่มือการใชเ้ ครอื่ งมือประเมนิ สมรรถนะส�ำคญั ของผู้เรยี น 53 ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

54

แบบบนั ทกึ คะแนนแบบทดสอบเชงิ สถำนกำรณ์ สำหรบั นักเรยี นรำยบคุ คล
ควำมสำมำรถในกำรแกป้ ัญหำ ชนั้ ประถมศกึ ษำปีที่ 4 – 6

คะแนนพฤตกิ รรม กำรตรวจสอบ
และสรปุ ผลที่ คะแนนรวม
เลขที่ ชื่อ – สกุล กำรวเิ ครำะห์ กำรวำงแผน กำร เกิดจำกกำร (4 คะแนน) ผลกำร
ปญั หำ ในกำร ดำเนินกำร แก้ปัญหำ ประเมนิ
แก้ปัญหำ แก้ปญั หำ

1 มี ไมม่ ี มี ไม่มี มี ไมม่ ี มี ไม่มี

2
3
4
5

ถ้านกั เรียน มี การแสดงพฤตกิ รรมตามแบบบนั ทึกคะแนน ได้ 1 คะแนน หรือ ถ้านักเรยี น ไม่มี
การแสดงพฤติกรรม ได้ 0 คะแนน

นาคะแนนทีไ่ ด้ไปแปลผลการประเมนิ ตามเกณฑ์ ดงั น้ี
ได้ 4 คะแนน มผี ลการประเมนิ อยใู่ นระดบั ดเี ยย่ี ม
ได้ 3 คะแนน มีผลการประเมนิ อยใู่ นระดับ ดี
ได้ 2 คะแนน มผี ลการประเมนิ อยู่ในระดบั พอใช้
ได้ 1 คะแนน มผี ลการประเมนิ อยใู่ นระดับ ปรับปรงุ

ครูสรุปผลการประเมินดังกล่าว กรณีท่ีผลการประเมินพบว่า นักเรียนมีระดับความสามารถ
ในการแก้ปัญหา อยู่ในระดับปรับปรงุ ระดับพอใช้ หรือระดับดี ครคู วรหาแนวทางการพัฒนานักเรียนให้มีระดับ
ความสามารถทเ่ี พมิ่ สูงขึน้ จากระดบั เดมิ

้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6 54 คู่มอื การใช้เครือ่ งมอื ประเมินสมรรถนะสำ� คญั ของผเู้ รียน
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

55

แบบประเมนิ พฤติกรรมของผูเ้ รยี นด้ำนควำมสำมำรถในกำรแก้ปญั หำ
สำหรบั ครูประเมินนกั เรียน ช้ันประถมศกึ ษำปีท่ี 4 – 6

ชอื่ นกั เรียน .....................................................................................................ชัน้ ...................เลขท.่ี ...................

คำช้ีแจง ให้ครพู ิจารณารายการประเมิน แล้วใสเ่ ครือ่ งหมาย  ลงในช่อง ใช่ หรือ ไม่ใช่ ทตี่ รงกับพฤติกรรม
ของนักเรยี น

ข้อที่ รำยกำรประเมนิ ผลกำรประเมนิ
ใช่ ไมใ่ ช่
1. นักเรยี นสามารถบอกปญั หาอยา่ งงา่ ย รวบรวมข้อมูลท่ีเก่ียวข้องกบั ปญั หาได้
2. นักเรียนสามารถตั้งคาถามเพื่อระบุปัญหาอย่างง่าย เสนอวิธีการแก้ปัญหาและ
ดาเนนิ การแก้ปญั หาได้
3. นกั เรยี นสามารถตั้งคาถามได้ครอบคลมุ ประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นในชุมชนหรือท้องถ่ิน
พรอ้ มท้ังระบขุ อ้ ดแี ละข้อเสยี ของวธิ กี ารแกป้ ญั หา และดาเนนิ การแกป้ ญั หาได้
4. นักเรียนสามารถต้ังคาถามได้ครอบคลุมประเด็นปัญหาท่ีเกิดขึ้นในสังคมวิเคราะห์
และจัดลาดับสาเหตุของปัญหา ออกแบบวิธีการในการสร้างชิ้นงาน พร้อมท้ังระบุ
ขอ้ ดีและขอ้ เสียของวธิ ีการแกป้ ญั หา และดาเนนิ การแกป้ ัญหาได้หลายวิธี

5. นักเรียนสามารถตั้งคาถามเพ่ือระบุปัญหาที่ซับซ้อนและมีผลกระทบต่อสังคม
วิเคราะห์และประเมินความสาคัญของปัญหา จัดลาดับสาเหตุของปัญหา
ออกแบบวิธีการหรือเสนอทางเลือกหลายทางเลือกที่เป็นไปได้และมีเหตุผล
ในการแก้ปัญหา พร้อมท้ังระบุข้อดีและข้อเสียของวิธีการหรือทางเลือก
และดาเนนิ การแกป้ ัญหาได้หลายวิธี
6. นักเรียนสามารถต้ังคาถามเพ่ือระบุปัญหาที่ซับซ้อนและมีผลกระทบต่อสังคม
ประเมินผลกระทบของปัญหาได้ สามารถแยกปัญหาออกเป็นปัญหาย่อย ๆ
เพ่ือจัดการแก้ปัญหาได้ ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา เสนอทางเลือกในการแก้ปัญหา
โดยมีเกณฑ์สาหรับเลือกวิธีแก้ปัญหาสามารถวางแผนการปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหา
และใช้กระบวนการติดตามแผนการแกป้ ญั หาเพื่อการตดั สนิ ใจได้

รวม

เกณฑก์ ำรประเมิน มีความสามารถ ในระดบั ดเี ยี่ยม
เลอื กตอบใช่ ในขอ้ 1,,22, 3, ,34,, 45, 65 , 6 มีความสามารถ ในระดับ ดี
เลอื กตอบใช่ ในขอ้ 1,,22, 3, ,34,, 45, 5 มคี วามสามารถ ในระดับ พอใช้
เลือกตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3, ,34, 4 มีความสามารถ ในระดบั ปรบั ปรุง
เลือกตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3, 3

หมายเหตุ ถา้ ไมต่ รงตามเกณฑ์การประเมนิ ข้างตน้ ให้อยู่ในระดับ ปรับปรงุ

สรุป ระดับควำมสำมำรถ คือ ..................................................... ได้ .............. คะแนน ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6
ระดับ ดเี ยี่ยม ได้ 4 คะแนน
ระดับ ดี ได้ 3 คะแนน
ระดบั พอใช้ ได้ 2 คะแนน
ระดับ ปรับปรุง ได้ 1 คะแนน

คูม่ ือการใช้เครอื่ งมือประเมินสมรรถนะสำ� คญั ของผเู้ รียน 55
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

56

แบบประเมนิ พฤติกรรมของผเู้ รยี น ดำ้ นควำมสำมำรถในกำรแกป้ ัญหำ
สำหรบั นักเรยี นประเมินตนเอง ช้นั ประถมศึกษำปีท่ี 4 – 6
ช่อื นักเรยี น ...........................................................................................ช้ัน ...................เลขที.่ ...................
คำชี้แจง ให้นกั เรียนพจิ ารณารายการประเมิน แลว้ ใส่เคร่ืองหมาย  ลงในชอ่ ง ใช่ หรือ ไม่ใช่ ที่ตรงกับพฤติกรรม
ของตนเอง
ผลกำรประเมิน
ข้อที่ รำยกำรประเมิน ใช่ ไม่ใช่

1. ข้าพเจ้าสามารถบอกปัญหาอยา่ งงา่ ย รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวขอ้ งกับปัญหาได้
2. ข้าพเจา้ สามารถตั้งคาถามเพื่อระบุปญั หาอย่างงา่ ย เสนอวธิ ีการแก้ปญั หา และ
ดาเนนิ การแกป้ ญั หาได้
3. ขา้ พเจ้าสามารถตัง้ คาถามได้ครอบคลมุ ประเด็นปัญหาท่ีเกิดขนึ้ ในชุมชนหรือท้องถ่ิน
พร้อมท้งั ระบขุ ้อดีและขอ้ เสยี ของวิธกี ารแก้ปญั หา และดาเนินการแก้ปัญหาได้
4. ข้าพเจ้าสามารถต้ังคาถามได้ครอบคลุมประเด็นปัญหาท่ีเกิดขึ้นในสังคมวิเคราะห์
และจัดลาดับสาเหตุของปัญหา ออกแบบวิธีการพร้อมทั้งระบุข้อดีและข้อเสียของ
วิธกี ารแก้ปญั หา และดาเนนิ การแก้ปญั หาไดห้ ลายวิธี
5. ข้าพเจ้าสามารถตั้งคาถามเพ่ือระบุปัญหาท่ีซับซ้อนและมีผลกระทบต่อสังคม
วิเคราะห์และประเมินความสาคัญของปัญหา จัดลาดับสาเหตุของปัญหาออกแบบ
วิธีการหรือเสนอทางเลือกหลายทางเลือกที่เป็นไปได้และมีเหตุผลในการแก้ปัญหา
พร้อมทั้งระบุข้อดีและข้อเสียของวิธีการหรือทางเลือก และดาเนินการแก้ปัญหาได้
หลายวธิ ี
6. ข้าพเจ้าสามารถตั้งคาถามเพื่อระบุปัญหาท่ีซับซ้อนและมีผลกระทบต่อสังคม
ประเมินผลกระทบของปัญหาได้ สามารถแยกปัญหาออกเป็นปัญหาย่อย ๆ เพ่ือ
จัดการแก้ปัญหาได้ ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา เสนอทางเลือกในการแก้ปัญหา โดยมี
เกณฑ์สาหรับเลือกวิธีแก้ปัญหาสามารถวางแผนการปฏิบัติเพ่ือแก้ปัญหา และใช้
กระบวนการติดตามแผนการแก้ปัญหาเพ่ือการตดั สนิ ใจได้
รวม

เกณฑ์กำรประเมนิ
เลอื กตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3,,34, 54, ,65 , 6 มีความสามารถ ในระดับ ดเี ยยี่ ม
เลือกตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3,,34, 54 , 5 มีความสามารถ ในระดับ ดี
เลอื กตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3,,34, 4 มคี วามสามารถ ในระดับ พอใช้
เลือกตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3, 3 มีความสามารถ ในระดับ ปรับปรุง
หมำยเหตุ ถา้ ไมต่ รงตามเกณฑก์ ารประเมนิ ข้างต้น ให้อยใู่ นระดับ ปรับปรงุ

สรุป ระดบั ควำมสำมำรถ คือ ..................................................... ได้ .............. คะแนน
ระดับ ดเี ยย่ี ม ได้ 4 คะแนน
ระดับ ดี ได้ 3 คะแนน
้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6 ระดบั พอใช้ ได้ 2 คะแนน
ระดบั ปรับปรุง ได้ 1 คะแนน

56 ค่มู ือการใช้เคร่อื งมอื ประเมินสมรรถนะสำ� คัญของผเู้ รียน
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560)

57

แบบประเมนิ ผลงำน/ช้ินงำน
ช่อื ผลงาน/ชิน้ งาน ................................................................................................................................................
ช่อื ผูร้ ับการประเมนิ .................................................................... ชั้นประถมศึกษาปที .่ี ................เลขท.่ี ...............
โรงเรยี น ................................................................................................................................................................
ชื่อผู้ประเมิน .........................................................................................................................................................
คะแนน
ประเดน็ กำรพจิ ำรณำ 1234

1. กระบวนการหาวธิ กี ารเพื่อแก้ปญั หา

2. กระบวนการสร้างชนิ้ งานเพ่อื แก้ปัญหา

3. ความคดิ สรา้ งสรรค์ในการสร้างชิน้ งาน

4. การนาเสนอรายละเอยี ดของช้นิ งาน

5. ความสาคัญ และประโยชน์ของชิ้นงาน

คะแนนรวม

คะแนนรวมท้งั หมด

สรุประดบั ควำมสำมำรถ : ...................................................................... ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6
เกณฑ์กำรใหค้ ะแนนตวั อย่ำงแบบประเมนิ ผลงำน/ชิน้ งำน
1. ประเดน็ พิจารณา : กระบวนการหาวิธกี ารเพื่อแกป้ ัญหา

ระดับ เกณฑ์กำรประเมนิ
4 ใชก้ ระบวนการในการแก้ปัญหาไดเ้ หมาะสมกับการสรา้ งชิ้นงาน/ผลงาน และสอดคล้องกบั
สถานการณ์ อยา่ งมเี หตุผล
3 ใชก้ ระบวนการในการแก้ปญั หาได้เหมาะสมกับการสร้างชิ้นงาน/ผลงาน และสอดคล้องกบั
สถานการณ์
2 ใช้กระบวนการในการแก้ปัญหาไดต้ รงกับการสรา้ งชิน้ งาน /ผลงาน
1 ใชก้ ระบวนการในการแก้ปญั หา

2. ประเด็นพจิ ารณา : กระบวนการสรา้ งช้ินงาน/ ผลงาน เพือ่ แกป้ ญั หา
ระดบั เกณฑก์ ำรประเมิน
4 มกี ารวางแผน วิเคราะห์ ออกแบบ สรา้ งชิน้ งาน/ผลงาน ตรงตามแบบท่กี าหนด
และสอดคล้องกบั สถานการณ์ปัญหา
3 มกี ารวางแผน วเิ คราะห์ ออกแบบ และสร้างชน้ิ งาน/ผลงาน ตรงตามแบบที่กาหนด
2 มกี ารวางแผน วิเคราะห์ ออกแบบ แตส่ ร้างชน้ิ งาน/ผลงาน ไมต่ รงตามแบบที่กาหนด
1 สร้างช้นิ งาน/ ผลงาน โดยไม่มกี ารออกแบบ

คูม่ ือการใช้เครอ่ื งมอื ประเมินสมรรถนะสำ� คญั ของผู้เรียน 57
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6 58

3. ประเดน็ พจิ ารณา : ความคิดสรา้ งสรรคใ์ นการสรา้ งชนิ้ งาน/ ผลงาน
ระดบั เกณฑ์กำรประเมนิ
4 สรา้ งชิ้นงาน/ ผลงาน ดว้ ยวธิ กี ารที่ซับซ้อน โดยการผสมผสานจากแนวคิดที่หลากหลาย
3 สร้างชน้ิ งาน/ ผลงาน ด้วยวธิ กี ารทซี่ บั ซ้อน โดยดัดแปลงจากสิง่ ทม่ี ีอยู่
2 สร้างชน้ิ งาน/ ผลงาน ดว้ ยวิธกี ารอยา่ งง่าย โดยแตกต่างจากต้นแบบ
1 สรา้ งชน้ิ งาน/ ผลงาน ด้วยวธิ กี ารอยา่ งง่าย โดยอาศัยต้นแบบ

4. ประเด็นพิจารณา : การนาเสนอรายละเอียดของช้นิ งาน/ ผลงาน
ระดับ เกณฑ์กำรประเมนิ
4 นาเสนอรายละเอยี ดของช้นิ งาน/ผลงาน ได้อยา่ งชัดเจนเป็นรปู ธรรม สอดคล้องกบั
กระบวนการคดิ และกระบวนการสร้างช้ินงาน/ ผลงาน เพ่ือแกป้ ัญหา
3 นาเสนอรายละเอยี ดของช้ินงาน/ผลงาน ไดอ้ ย่างชดั เจน โดยสอดคลอ้ งกบั กระบวนการคิด
แกป้ ัญหา
2 นาเสนอรายละเอียดของช้นิ งาน/ผลงาน ไดอ้ ย่างชัดเจน
1 นาเสนอรายละเอียดของชนิ้ งาน/ผลงาน ได้เพยี งบางสว่ น

5. ประเดน็ พิจารณา : ความสาคญั และประโยชนข์ องชนิ้ งาน / ผลงาน
ระดบั เกณฑก์ ำรประเมนิ
4 นาชน้ิ งาน/ผลงาน ไปใชใ้ ห้เกิดประโยชน์ และสามารถแก้ปัญหาทีเ่ กดิ ขึน้ ไดจ้ รงิ อย่างเป็น
รูปธรรม
3 บอกประโยชน์ของชนิ้ งาน/ผลงาน และสามารถนาไปใชง้ านไดห้ ลายด้าน
2 บอกประโยชนข์ องชน้ิ งาน/ผลงาน และสามารถนาไปใชง้ านได้
1 บอกความสาคญั และประโยชน์ของชน้ิ งาน/ผลงานได้
วธิ ีกำรใชแ้ บบประเมนิ ผลงำน/ชน้ิ งำน ครูผสู้ อนประเมนิ ผลงาน/ช้นิ งาน ใน 5 ประเดน็ คือ
1) กระบวนการหาวิธีการเพ่ือแก้ปัญหา 2) กระบวนการสร้างชิ้นงาน/ผลงาน เพื่อแก้ปัญหา

3) ความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างชิ้นงาน/ผลงาน 4) การนาเสนอรายละเอียดของชิ้นงาน/ผลงาน และ
5) ความสาคัญ และประโยชน์ของช้ินงาน/ผลงาน ในการดาเนินการประเมินผลงาน/ชิ้นสงาน ครูผู้สอนนา
ผลงานนักเรียนมาประเมินตามเกณฑ์ให้คะแนน ในแต่ละประเด็น นาคะแนนที่ได้จากการประเมิน 5 ประเด็น
มารวมคะแนน และแปลผลระดับความสามารถในการแกป้ ัญหา ได้ดงั นี้

ได้ 16 – 20 คะแนน มีผลการประเมิน อยู่ในระดับ ดีเย่ียม
ได้ 11 – 15 คะแนน มผี ลการประเมิน อยใู่ นระดับ ดี
ได้ 6 – 10 คะแนน มผี ลการประเมิน อยู่ในระดับ พอใช้
ได้ 1 – 5 คะแนน มผี ลการประเมิน อยใู่ นระดบั ปรับปรงุ
ครูสรุปผลการประเมินดังกล่าว กรณีที่ผลการประเมินพบว่า นักเรียนมีระดับความสามารถ
ในการแก้ปัญหา อยู่ในระดับปรับปรุง ระดับพอใช้ หรือระดับดี ครูควรหาแนวทางการพัฒนานกั เรียนให้มีระดบั
ความสามารถทเ่ี พ่ิมสงู ขนึ้ จากระดับเดิม

58 ค่มู ือการใชเ้ คร่ืองมือประเมินสมรรถนะส�ำคัญของผ้เู รียน
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

59

แบบสัมภำษณ์ ชั้นประถมศึกษำปที ี่ 4 – 6
แบบสมั ภาษณ์ เรื่อง....................................................................................................................... .......................
ชื่อผู้สัมภาษณ์ ...............................................................วัน/เดอื น/ปี ท่ีสัมภาษณ.์ ...............................................
เวลา .....................................................................สถานท่ี ...................................................................................
ชือ่ ผู้รบั การสัมภาษณ์ / กลุ่ม......................................................ช้นั ประถมศึกษาปที ี่..............เลขท.่ี ....................
โรงเรยี น ...............................................................................................................................................................
สถำนกำรณ์

ตลาดแหง่ หนึง่ มีขยะเปน็ จานวนมาก กอ่ ให้เกิดปญั หาต่าง ๆ ตามมา

ประเด็นสมั ภำษณ์เกยี่ วกบั สถำนกำรณ์
1. นักเรียนคิดวา่ เกิดปัญหาอะไรบา้ ง
2. นกั เรียนมวี ิธกี ารรวบรวมขอ้ มลู ที่เกย่ี วข้องกบั ปญั หาได้อย่างไร
3. นักเรียนจะเสนอวิธกี ารแก้ปญั หา และดาเนินการแก้ปญั หาไดอ้ ย่างไร
4. ถ้าเหตุการณน์ ี้เกิดข้นึ ในชุมชนของนกั เรียนจะมีวิธีการแก้ปญั หาอยา่ งไร
5. ให้นกั เรยี นระบุข้อดแี ละข้อเสยี ของวธิ ีการแกป้ ัญหา
6. ให้นกั เรียนระบุสาเหตุของปัญหาจากสถานการณ์
7. นกั เรียนสามารถจัดลาดับสาเหตุของปญั หาทเ่ี กดิ ขน้ึ ได้อย่างไร
8. นักเรยี นสามารถออกแบบวิธกี ารหรอื เสนอทางเลอื กหลายทางเลอื กที่เป็นไปได้ในการแกป้ ัญหาไดอ้ ย่างไร
9. นักเรียนสามารถกาหนดเกณฑ์สาหรับเลือกวิธีแก้ปัญหา วางแผนการปฏิบัติเพ่ือแก้ปัญหาและใช้

กระบวนการตดิ ตามแผนการแก้ปัญหาเพ่ือการตดั สินใจได้อย่างไร

เกณฑ์กำรประเมนิ แบบสัมภำษณ์ มีความสามารถ ในระดบั ดเี ยี่ยม ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6
ตอบคาถามขอ้ 1, 2, 3, 44,, 55,,66,,77,,88,,99ไดได้ ้ มีความสามารถ ในระดบั ดี
ตอบคาถามข้อ 1, 2, 3, 44,, 55,,66,,77,,88ไดได้ ้ มคี วามสามารถ ในระดบั พอใช้
ตอบคาถามขอ้ 1, 2, 3, 44,, 55,,66,,77ไไดด้ ้ มคี วามสามารถ ในระดบั ปรับปรุง
ตอบคาถามข้อ 1, 2, 3, 44,,55ไไดด้ ้

หมายเหตุ ถ้าไมต่ รงตามเกณฑ์การประเมนิ ข้างตน้ ให้อยูใ่ นระดับ ปรบั ปรุง

คู่มือการใชเ้ คร่อื งมอื ประเมินสมรรถนะส�ำคัญของผูเ้ รียน 59
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560)

60

วิธีกำรใช้แบบสัมภำษณ์
ให้ครูสัมภาษณ์ผู้เรียน ตามประเด็นสัมภาษณ์เก่ียวกับสถานการณ์ จานวน 9 ข้อและสรุปผล
ตามเกณฑ์การประเมิน ดงั น้ี
ตอบคาถามข้อ 1,,22, 3, 43,,54, 6,,57, 86, ,97ได, ้8 , 9 ได้ ระดบั ดีเยยี่ ม
ตอบคาถามข้อ 1,,22, 3, 43,,54, 6,,57, 86 ไ,ด7้ , 8 ได้ ระดับ ดี
ตอบคาถามข้อ 1,,22, 3, 43,,54, 6,,57,ไ6ด้ , 7 ได้ ระดับ พอใช้
ตอบคาถามข้อ 1,,22, 3, 43,,54ได, ้5 ได้ ระดบั ปรับปรุง
และถา้ ไมต่ รงตามเกณฑ์การประเมนิ ข้างต้น ให้อยู่ในระดบั ปรบั ปรงุ
ครูสรุปผลการประเมินดังกล่าว กรณีท่ีผลการประเมินพบว่า นักเรียนมีระดับความสามารถ
ในการแก้ปัญหา อยู่ในระดับปรับปรุง ระดับพอใช้ หรือระดับดี ครูควรหาแนวทางการพัฒนานักเรียนให้มีระดบั
ความสามารถทเี่ พ่ิมสงู ขนึ้ จากระดบั เดมิ

2.4 เคควรำ่ือมงสมำือมปำรระถเใมนนิ กคำวราใชม้ทสาักมษาะรชถวี ใตินการใช้ทกั ษะชวี ติ

กรอบโครงสรำ้ งเคร่ืองมือประเมินสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน ดำ้ นควำมสำมำรถในกำรใช้ทกั ษะชีวติ

นิยำมสมรรถนะสำคัญ ตัวชวี้ ดั ลักษณะเคร่อื งมอื
ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ 1. นากระบวนการเรียนรู้ท่ีหลากหลาย - แบบประเมินสาหรบั
เป็นความสามารถในการนากระบวนการ ไปใช้ในชวี ติ ประจาวัน นักเรยี นประเมินตนเอง
ต่าง ๆ ไปใช้ในการดาเนินชีวิตประจาวัน 2. เรียนรู้ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่อง และ - แบบประเมินสาหรบั
การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่าง มเี ป้าหมาย ครูประเมินนักเรยี น
ต่อเน่ือง การทางาน และการอยู่ร่วมกัน 3. ทางานและอยู่ร่วมกันในสังคมอย่าง
ในสังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพนั ธ์ มีความสขุ
อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหา 4. จัดการกับปัญหาและความขัดแย้ง
และความขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม ในสถานการณต์ ่าง ๆ ไดอ้ ย่างเหมาะสม
การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง 5. ปรับตัวต่อการเปล่ียนแปลงทาง
ของสังคม และสภาพแวดล้อมและ สังคมและสภาพแวดลอ้ ม
การรู้จักหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึง 6. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ที่
ประสงค์ ที่ส่งผลกระทบต่อตนเอง ส่งผลกระทบตอ่ ตนเองและผอู้ ่นื
และผูอ้ ื่น

้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6 เครื่องมือประเมนิ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน ดำ้ นควำมสำมำรถในกำรใช้ทกั ษะชวี ติ
จากกรอบโครงสรา้ งเครื่องมือประเมนิ สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ดา้ นความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต

ช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 – 6 สามารถนามาสรา้ งเคร่อื งมอื ประเมนิ ได้ ดังน้ี

❖ แบบประเมินสาหรับนักเรยี นประเมินตนเอง
❖ แบบประเมนิ สาหรับครูประเมนิ นกั เรยี น

60 คูม่ อื การใช้เครอื่ งมือประเมินสมรรถนะส�ำคญั ของผเู้ รยี น
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)

61

แบบประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรใชท้ กั ษะชวี ิต สำหรบั นกั เรยี นประเมนิ ตนเอง
ชน้ั ประถมศึกษำปที ่ี 4 – 6

คำชแี้ จง
เครื่องมือท่ีใชใ้ นการประเมินความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ฉบับน้ีแบ่งออกเป็น 2 ตอน
ตอนท่ี 1 ข้อมลู ทว่ั ไปของนกั เรยี น
ตอนท่ี 2 รายการประเมินความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ ประกอบไปด้วย 6 ตวั ชี้วัด
2.1 นากระบวนการเรียนรู้ทห่ี ลากหลาย ไปใชใ้ นชีวติ ประจาวัน
2.2 เรียนรู้ดว้ ยตนเองอย่างต่อเนอื่ ง และมีเป้าหมาย
2.3 ทางานและอยู่ร่วมกนั ในสังคมอย่างมีความสขุ
2.4 จัดการกับปัญหาและความขดั แยง้ ในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ได้อย่างเหมาะสม
2.5 ปรบั ตัวต่อการเปลี่ยนแปลงทางสงั คมและสภาพแวดล้อม
2.6 หลีกเลย่ี งพฤติกรรมไม่พึงประสงคท์ ่สี ง่ ผลกระทบตอ่ ตนเองและผอู้ ืน่
ใหน้ กั เรยี นทาเคร่อื งหมาย ลงในชอ่ งท่ีตรงกับพฤติกรรมของตนเอง ตามเกณฑ์พิจารณาดงั นี้
ระดบั 2 หมายถึง นกั เรียนปฏบิ ัต/ิ แสดงพฤติกรรมดงั กลา่ วเป็นประจา
ระดบั 1 หมายถึง นกั เรียนปฏิบตั ิ/แสดงพฤติกรรมดังกลา่ วบางครง้ั
ระดับ 0 หมายถึง นักเรียนไมเ่ คยปฏิบัติหรอื ไม่เคยแสดงพฤติกรรม

**************************************************

ตอนที่ 1 ขอ้ มูลทั่วไปของนักเรียน

ชื่อ–สกุล .......................................................................................ระดับชั้น...........หอ้ ง........เลขท.่ี .....................
โรงเรยี น ................................................................................................................................................................
ตอนที่ 2 รำยกำรประเมินควำมสำมำรถในกำรใช้ทักษะชีวติ

ข้อที่ รำยกำรประเมนิ กำรปฏิบตั /ิ กำรแสดงพฤติกรรม

เปน็ ประจำ เป็นบำงครั้ง ไม่เคย
(2) (1) (0)
ตวั ชว้ี ัดที่ 1 นำกระบวนกำรเรียนรทู้ หี่ ลำกหลำย ไปใช้ในชีวิตประจำวนั
1 นกั เรยี นนาความรจู้ ากในห้องเรยี นไปใช้ในการแก้ปญั หาท่ี
เกิดขึ้นในชีวติ ประจาวนั
2 นักเรียนค้นควา้ สงิ่ ท่ตี นเองสนใจจากหอ้ งสมุดหรืออินเทอร์เนต็
3 นกั เรยี นทดลองทาสง่ิ ใหม่ ๆ ท่ีตนเองอยากรู้อยา่ งสร้างสรรค์
4 นักเรยี นสามารถตัดสินใจเลือกสิง่ ท่จี าเป็น มีประโยชนต์ ่อการ
เรียนและการดาเนนิ ชวี ิต
5 นกั เรียนสามารถแบ่งเวลาในการทากิจกรรมในชีวติ ประจาวัน
ได้อย่างเหมาะสม ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6

คมู่ ือการใช้เครือ่ งมอื ประเมนิ สมรรถนะส�ำคญั ของผู้เรยี น 61
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)

62

ข้อที่ รำยกำรประเมิน กำรปฏิบตั /ิ กำรแสดงพฤติกรรม

เป็นประจำ เปน็ บำงครัง้ ไมเ่ คย
(2) (1) (0)
ตวั ชี้วัดท่ี 2 เรยี นรดู้ ว้ ยตนเองอย่ำงต่อเน่อื ง และมีเปำ้ หมำย
6 นักเรียนทาการบา้ นดว้ ยตนเองเสร็จทนั เวลาทีก่ าหนด
7 นักเรียนใชเ้ วลาว่างในการทาสง่ิ ท่ีสนใจและมีประโยชน์ต่อตนเอง
8 นักเรียนเรยี นร้เู พ่ิมเตมิ เพ่ือนาความรู้ไปใชศ้ ึกษาต่อในระดบั ท่สี ูงขึ้น
9 นกั เรียนตดั สนิ ใจเกี่ยวกบั การเรยี นของตนเองตามเป้าหมายทว่ี างไว้
10 นกั เรียนวางแผนการทางานท่ีได้รับมอบหมายของตนเอง
เพือ่ ให้สาเรจ็ ตามเป้าหมาย
ตวั ช้วี ดั ท่ี 3 ทำงำนและอยู่ร่วมกนั ในสงั คมอย่ำงมคี วำมสุข
11 นกั เรยี นแสดงความคิดเห็นและรับฟงั ความคดิ เห็นของผอู้ ืน่
12 นกั เรยี นรู้บทบาทและหน้าท่ีของตนเอง เมื่อทางานร่วมกับเพื่อน
13 นักเรยี นวางแผนการทางานและตดั สนิ ใจร่วมกับเพอ่ื น
เพื่อนาไปสเู่ ปา้ หมายของทีม
14 นักเรยี นไมร่ สู้ ึกอดึ อดั ใจเม่อื ต้องทางานรว่ มกบั เพื่อนทีไ่ มส่ นิท
15 นกั เรียนแสดงความชน่ื ชม ยนิ ดี เมือ่ เพอื่ นประสบความสาเร็จ
ตัวชีว้ ดั ที่ 4 จดั กำรกับปัญหำและควำมขดั แย้งในสถำนกำรณ์ต่ำง ๆ ได้อยำ่ งเหมำะสม
16 เม่ือเกดิ ปัญหานกั เรียนสามารถหาทางแก้ไขปัญหาเบือ้ งต้นท่ี
เหมาะสมได้ด้วยตนเอง
17 นกั เรียนจะหาแนวทางใหส้ มาชกิ กลุม่ คยุ กนั อยา่ งเปิดใจเม่ือ
เกิดความขัดแย้ง
18 นกั เรยี นร่วมเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาหรือความขดั แยง้ ใน
ช้นั เรยี นอยา่ งมีเหตุผล
19 นักเรยี นแก้ไขปัญหาความขัดแยง้ โดยใชก้ ระบวนการ
ปรึกษาหารือตามวิถีประชาธิปไตย
20 นกั เรียนไม่ใช้ความรนุ แรงในการแก้ปญั หาเมอื่ เกดิ ความ
ขัดแยง้
ตวั ชี้วัดที่ 5 ปรับตวั ต่อกำรเปลย่ี นแปลงทำงสังคมและสภำพแวดลอ้ ม
21 นกั เรียนสามารถปรบั ตวั ไดเ้ ม่ืออยู่ในสถานการณไ์ มค่ ุ้นชิน
22 นกั เรียนบอกวิธใี นการจดั การความเครยี ด อารมณ์ และ
ความรสู้ ึกได้ เม่ืออยูใ่ นสถานการณท์ ่ีไม่คุน้ ชิน
23 นักเรยี นยอมรบั และพร้อมแก้ไขปญั หา ทเ่ี กิดขึ้นใน
ชีวิตประจาวัน
24 นักเรียนมีส่วนรว่ มในการหาทางออกรว่ มกันเกี่ยวกบั ประเดน็
้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6 ปญั หาของโรงเรยี น
25 นกั เรยี นมสี ว่ นร่วมในการสร้างการเปลยี่ นแปลงของโรงเรยี นดว้ ย
สนั ติวธิ แี ละตามวิถีประชาธปิ ไตย

62 คู่มือการใช้เคร่ืองมอื ประเมนิ สมรรถนะสำ� คญั ของผเู้ รียน
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

63

ขอ้ ท่ี รำยกำรประเมิน กำรปฏิบัต/ิ กำรแสดงพฤติกรรม

เป็นประจำ เป็นบำงคร้งั ไมเ่ คย
(2) (1) (0)
ตวั ชี้วัดท่ี 6 หลีกเลยี่ งพฤตกิ รรมไมพ่ งึ ประสงค์ท่ีสง่ ผลกระทบต่อตนเองและผู้อน่ื
26 นกั เรียนไมต่ าหนิ หรอื กลา่ วโทษเพื่อน เม่ือเกดิ ข้อผิดพลาด
ในการทางานกลุม่ ร่วมกัน
27 นักเรยี นยอมรบั ความแตกตา่ งระหว่างบุคคล โดยไมเ่ ลอื ก
ปฏบิ ัติทง้ั ทางร่างกาย วาจา และจิตใจ
28 นักเรยี นยนิ ดีให้ความชว่ ยเหลือเพ่ือนด้วยความเต็มใจ
29 นักเรียนแบง่ ปันสง่ิ ของของตนเองให้กับเพื่อนตามความ
เหมาะสม
30 นักเรียนให้เกยี รติ เข้าอกเขา้ ใจและช่วยเหลือเพ่ือน
ในสถานการณ์ตา่ ง ๆ
คะแนนรวม
คะแนนท่ไี ด้ x 100 =
สรุปคะแนนรอ้ ยละ 60 ………………

ลงชือ่ ...........................................................ผปู้ ระเมนิ
(...........................................................)

สรปุ ผลกำรประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรใช้ทักษะชวี ิต

นกั เรียนอย่ใู นระดบั  ดเี ย่ยี ม  ดี  พอใช้  ปรับปรงุ

บันทกึ เพม่ิ เติม (สำหรบั ครผู ู้สอน)

จุดเด่นของนักเรยี นคือ ............................................................................................................................. ............

จุดทคี่ วรพฒั นาของนักเรยี นคือ ............................................................................................................................

ลงช่ือ...................................................................
(..................................................................)
ครผู ูส้ อน

คมู่ ือการใช้เคร่อื งมือประเมนิ สมรรถนะส�ำคญั ของผู้เรียน 63 ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)

64

แบบประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรใชท้ ักษะชวี ิต สำหรับครปู ระเมนิ นกั เรยี น
ช้นั ประถมศกึ ษำปีท่ี 4 – 6

คำชีแ้ จง
เครอื่ งมือที่ใชใ้ นการประเมนิ ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ ฉบับน้ี แบ่งออกเปน็ 2 ตอน
ตอนที่ 1 ข้อมูลท่ัวไปของนกั เรยี น
ตอนที่ 2 รายการประเมินความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ ประกอบไปดว้ ย 6 ตวั ชีว้ ัด
2.1 นากระบวนการเรียนรู้ท่ีหลากหลาย ไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั
2.2 เรยี นรดู้ ้วยตนเองอย่างต่อเนือ่ ง และมีเป้าหมาย
2.3 ทางานและอยรู่ ่วมกันในสังคมอย่างมีความสขุ
2.4 จัดการกับปญั หาและความขัดแย้งในสถานการณต์ า่ ง ๆ ไดอ้ ย่างเหมาะสม
2.5 ปรบั ตัวต่อการเปลี่ยนแปลงทางสงั คมและสภาพแวดลอ้ ม
2.6 หลกี เลี่ยงพฤติกรรมไม่พงึ ประสงคท์ ่สี ง่ ผลกระทบตอ่ ตนเองและผู้อื่น
ใหค้ รทู าเคร่ืองหมาย ลงในช่องทต่ี รงกบั พฤติกรรมของนักเรยี น ตามเกณฑ์พจิ ารณาดงั น้ี
ระดับ 2 หมายถึง นกั เรียนปฏบิ ัต/ิ แสดงพฤติกรรมดงั กลา่ วเปน็ ประจา
ระดบั 1 หมายถึง นกั เรียนปฏบิ ัติ/แสดงพฤติกรรมดงั กลา่ วบางครัง้
ระดับ 0 หมายถงึ นกั เรียนไม่เคยปฏบิ ตั ิหรอื ไม่เคยแสดงพฤติกรรม

**************************************************

ตอนที่ 1 ข้อมลู ท่ัวไปของนกั เรยี น

ช่อื –สกุล ......................................................................................ระดับชนั้ ...........ห้อง........เลขท่.ี .....................
โรงเรียน ...............................................................................................................................................................
ตอนท่ี 2 รำยกำรประเมินควำมสำมำรถในกำรใช้ทกั ษะชีวติ

ข้อที่ รำยกำรประเมนิ กำรปฏบิ ตั ิ/กำรแสดงพฤติกรรม

เปน็ ประจำ เป็นบำงครงั้ ไมเ่ คย
(2) (1) (0)
ตัวช้ีวัดที่ 1 นำกระบวนกำรเรยี นร้ทู ่ีหลำกหลำย ไปใชใ้ นชีวติ ประจำวัน
1 นักเรยี นนาความร้จู ากในหอ้ งเรยี นไปใชใ้ นการแกป้ ญั หาท่ี
เกิดขน้ึ ในชีวิตประจาวัน
2 นกั เรียนค้นคว้าสิ่งทตี่ นเองสนใจจากหอ้ งสมดุ หรืออินเทอร์เน็ต
3 นักเรียนทดลองทาสง่ิ ใหม่ ๆ ทต่ี นเองอยากรอู้ ย่างสรา้ งสรรค์
4 นกั เรยี นสามารถตัดสนิ ใจเลอื กสงิ่ ท่ีจาเปน็ มีประโยชน์ต่อการ
เรยี นและการดาเนินชีวิต
้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6 5 นักเรียนสามารถแบง่ เวลาในการทากิจกรรมในชีวิตประจาวัน
ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

64 คมู่ อื การใช้เคร่ืองมอื ประเมนิ สมรรถนะส�ำคัญของผเู้ รยี น
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

65

ขอ้ ที่ รำยกำรประเมิน กำรปฏบิ ัติ/กำรแสดงพฤตกิ รรม

เป็นประจำ เปน็ บำงครั้ง ไมเ่ คย
(2) (1) (0)
ตัวชวี้ ดั ที่ 2 เรียนร้ดู ้วยตนเองอย่ำงตอ่ เนื่อง และมีเป้ำหมำย
6 นกั เรยี นทาการบ้านด้วยตนเองเสร็จทนั เวลาทก่ี าหนด
7 นกั เรียนใชเ้ วลาว่างในการทาสง่ิ ท่สี นใจและมีประโยชนต์ อ่ ตนเอง
8 นักเรยี นเรยี นรู้เพม่ิ เติมเพอื่ นาความร้ไู ปใช้ศึกษาต่อในระดบั ท่ีสูงขนึ้
9 นักเรียนตัดสนิ ใจเกยี่ วกบั การเรยี นของตนเองตามเป้าหมายท่ีวางไว้
10 นกั เรียนวางแผนการทางานที่ไดร้ ับมอบหมายของตนเอง
เพื่อให้สาเร็จตามเป้าหมาย
ตวั ชีว้ ดั ท่ี 3 ทำงำนและอยูร่ ่วมกันในสงั คมอย่ำงมีควำมสุข
11 นกั เรียนแสดงความคิดเหน็ และรบั ฟังความคิดเห็นของผ้อู ่นื
12 นกั เรยี นรู้บทบาทและหน้าท่ีของตนเอง เม่ือทางานร่วมกบั เพ่ือน
13 นกั เรยี นวางแผนการทางานและตัดสนิ ใจรว่ มกับเพือ่ น
เพ่ือนาไปสูเ่ ปา้ หมายของทีม
14 นกั เรยี นไม่รสู้ ึกอึดอดั ใจเมือ่ ต้องทางานร่วมกบั เพอ่ื นทีไ่ มส่ นทิ
15 นกั เรยี นแสดงความช่ืนชม ยนิ ดี เมือ่ เพอื่ นประสบความสาเร็จ
ตัวชี้วดั ที่ 4 จัดกำรกับปญั หำและควำมขดั แย้งในสถำนกำรณ์ต่ำง ๆ ไดอ้ ย่ำงเหมำะสม
16 เม่อื เกิดปญั หานักเรียนสามารถหาทางแกไ้ ขปัญหาเบื้องตน้ ที่
เหมาะสมไดด้ ว้ ยตนเอง
17 นกั เรยี นจะหาแนวทางให้สมาชิกกลุ่มคยุ กนั อย่างเปดิ ใจเม่ือ
เกิดความขดั แยง้
18 นกั เรยี นร่วมเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาหรือความขัดแย้งใน
ช้นั เรียนอย่างมเี หตุผล
19 นักเรียนแก้ไขปญั หาความขัดแย้ง โดยใชก้ ระบวนการ
ปรกึ ษาหารือตามวถิ ีประชาธปิ ไตย
20 นักเรียนไม่ใชค้ วามรุนแรงในการแกป้ ญั หาเมอื่ เกิดความ
ขัดแยง้
ตัวช้วี ดั ที่ 5 ปรับตัวต่อกำรเปลีย่ นแปลงทำงสังคมและสภำพแวดลอ้ ม
21 นักเรยี นสามารถปรับตัวไดเ้ ม่ืออยูใ่ นสถานการณไ์ ม่คุ้นชนิ
22 นกั เรียนบอกวิธีในการจดั การความเครยี ด อารมณ์ และ
ความรู้สึกได้ เม่ืออยู่ในสถานการณ์ที่ไม่คนุ้ ชิน
23 นักเรียนยอมรบั และพร้อมแก้ไขปัญหา ทเี่ กิดขึ้นใน
ชวี ติ ประจาวัน
24 นักเรยี นมีสว่ นรว่ มในการหาทางออกร่วมกันเก่ียวกับประเดน็
ปญั หาของโรงเรยี น ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6
25 นักเรยี นมสี ว่ นร่วมในการสร้างการเปลย่ี นแปลงของโรงเรยี นดว้ ย
สันติวิธแี ละตามวถิ ีประชาธปิ ไตย

คูม่ ือการใช้เครอื่ งมือประเมินสมรรถนะส�ำคญั ของผเู้ รียน 65
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)

66

ข้อที่ รำยกำรประเมิน กำรปฏบิ ัติ/กำรแสดงพฤตกิ รรม

เป็นประจำ เป็นบำงครง้ั ไม่เคย
(2) (1) (0)
ตัวชว้ี ัดที่ 6 หลีกเล่ียงพฤติกรรมไมพ่ งึ ประสงค์ทส่ี ่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อนื่
26 นักเรียนไมต่ าหนิ หรือกลา่ วโทษเพ่ือน เมื่อเกดิ ข้อผิดพลาด
ในการทางานกลุ่มร่วมกนั
27 นักเรยี นยอมรบั ความแตกต่างระหว่างบุคคล โดยไม่เลอื ก
ปฏบิ ัติทง้ั ทางร่างกาย วาจา และจิตใจ
28 นกั เรียนยนิ ดใี ห้ความชว่ ยเหลือเพ่ือนดว้ ยความเต็มใจ
29 นกั เรียนแบง่ ปันสงิ่ ของของตนเองให้กับเพ่ือนตามความ
เหมาะสม
30 นกั เรยี นใหเ้ กยี รติ เข้าอกเขา้ ใจและชว่ ยเหลอื เพื่อน
ในสถานการณ์ตา่ ง ๆ
คะแนนรวม
คะแนนทีไ่ ด้ x 100 =
สรปุ คะแนนร้อยละ 60 ………………

ลงชอ่ื ...........................................................ครผู ู้สอน
(...........................................................)

สรปุ ผลกำรประเมินควำมสำมำรถในกำรใชท้ ักษะชวี ติ

นกั เรียนอยู่ในระดับ  ดีเยยี่ ม  ดี  พอใช้  ปรบั ปรงุ

บนั ทึกเพิ่มเติม (สำหรับครผู ู้สอน)

จุดเดน่ ของนักเรียนคือ ............................................................................................................................. ............

จุดทค่ี วรพฒั นาของนักเรียนคือ ...........................................................................................................................

ลงชอ่ื ...................................................................
(.................................................................)
ครูผสู้ อน

้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6 66 ค่มู ือการใช้เครอื่ งมอื ประเมนิ สมรรถนะส�ำคญั ของผู้เรียน
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)

67

วิธกี ำรใชเ้ คร่ืองมือ
เคร่ืองมอื ประเมินความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 4 - 6 คอื แบบประเมิน

ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต สาหรับนักเรียนประเมินตนเอง และครูประเมินนักเรียน ซ่ึงมีวิธีการนา
เคร่อื งมอื ไปใช้ ดงั นี้

 ก่อนกำรประเมนิ
1) ครศู ึกษาคูม่ อื การประเมินความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
2) ครูวางแผนการใช้เครือ่ งมือ ดังนี้
2.1) กาหนดวัตถปุ ระสงค์การประเมิน เช่น ประเมินเพื่อการพัฒนา (Formative Assessment)

และประเมนิ เพอ่ื ตดั สิน (Summative Assessment)
2.2) กาหนดช่วงเวลาการประเมินให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ เช่น ก่อนเรียน ระหว่าง

เรยี น หลงั เรยี น หรือ ตน้ ปีการศกึ ษา กลางปกี ารศกึ ษา ปลายปีการศกึ ษา
 ระหวำ่ งกำรประเมนิ
1) ครนู าแบบประเมินไปใชป้ ระเมินนกั เรียนตามแผนท่ีกาหนดไว้
2) ครูอาจใช้วิธีการอ่ืนร่วมกับการสังเกตพฤติกรรม เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องสมบูรณ์ เช่น

การสัมภาษณ์ การสอบถาม การเล่าเรอ่ื ง การใช้คาถาม เป็นต้น
3) ครแู ละนักเรยี นควรบันทกึ ข้อมลู และตอบขอ้ มูลตามความเป็นจริง

 หลังกำรประเมิน
1) ครูสรปุ และแปลผลการประเมนิ ตามเกณฑก์ ารตัดสนิ ระดับคุณภาพ
2) ครูบนั ทึกขอ้ มูลเพม่ิ เตมิ เกีย่ วกับจุดเด่นและจุดทค่ี วรพฒั นาของนักเรยี น
3) ครูแจ้งผลการประเมินความสามารถในการใช้ทักษะชีวิตให้นักเรียน ผู้ปกครอง

และผูม้ ีส่วนเกยี่ วข้องทราบ เพื่อนาผลการประเมินไปใชพ้ ัฒนาคุณภาพนักเรียนต่อไป

เกณฑก์ ำรประเมนิ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น ด้ำนควำมสำมำรถในกำรใชท้ ักษะชีวติ
ช้นั ประถมศึกษำปที ี่ 4 – 6

แบบประเมินน้ี เป็นการประเมินท่ีมุ่งใช้รูปแบบของการประเมินจากหลายแหล่ง (Multi-rater
Approach) และการประเมินด้วยวิธีการที่หลากหลาย (Multimethod) โดยให้นักเรียนแต่ละคนทาการ
ประเมนิ ตนเอง และครทู าการประเมนิ นักเรียนอีกครง้ั หนึง่

การวิเคราะห์ข้อมูลผลการประเมินที่ได้จากแหล่งประเมินต่าง ๆ ในแต่ละรายการประเมินจะมี
คะแนนอยู่ระหว่าง 0 - 2 โดยนาผลการประเมินแต่ละรายการมาคานวณหาค่าคะแนนรวม และคานวณเป็น
ร้อยละของคะแนน จากนั้นนาค่าร้อยละของคะแนนจากแหล่งการประเมินของนักเรียนประเมินตนเอง และครู
ประเมินนกั เรียน มาหาคา่ เฉลี่ย (Mean) แลว้ มาเปรยี บเทียบกับเกณฑ์การตดั สนิ เพ่อื แปลผลเปน็ ระดับคณุ ภาพ
ซง่ึ มรี ะดับคณุ ภาพดงั ต่อไปนี้

เกณฑ์กำรตัดสิน ระดบั คุณภำพ ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6
มีคะแนนต้ังแต่ร้อยละ 75 ข้นึ ไป ดีเยีย่ ม
มคี ะแนนอยรู่ ะหว่างร้อยละ 50 – 74 ดี
มคี ะแนนอย่รู ะหวา่ งร้อยละ 25 - 49 พอใช้
ปรบั ปรงุ
มีคะแนนตา่ กว่าร้อยละ 25

คูม่ อื การใชเ้ คร่อื งมอื ประเมนิ สมรรถนะสำ� คญั ของผ้เู รียน 67
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)

68

22..55 คเควรำื่อมงสมำือมปำรระถเใมนินกคำวราใชมเ้สทาคมโานรโถลใยนี การใชเ้ ทคโนโลยี
กรอบโครงสรำ้ ชงเวี คิตร่ืองมือประเมินสมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน ดำ้ นควำมสำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยี

นยิ ำมสมรรถนะสำคญั ตัวช้วี ัด ลักษณะเครือ่ งมอื
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 1. เลือกและใช้เทคโนโลยีเพ่ือพัฒนา - แบบทดสอบ
คือ ความสามารถในการเลือกและใช้ ตนเองและสงั คม - แบบประเมนิ ผลงาน/
เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ และมีทักษะ 2. มีทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี ช้นิ งาน
ก ร ะ บ ว น ก า ร ท า ง เ ท ค โ น โ ล ยี เ พื่ อ - แบบสังเกตพฤติกรรม
การพัฒนาตนเองและสังคมในด้าน
การเรียนรู้ การสื่อสาร การทางาน
การแก้ปญั หาอย่างสร้างสรรค์ถูกต้อง
เหมาะสมและมคี ุณธรรม

เครือ่ งมอื ประเมินสมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน ด้ำนควำมสำมำรถในกำรใชเ้ ทคโนโลยี
จากกรอบโครงสรา้ งเคร่ืองมือประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ด้านความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 – 6 สามารถนามาสร้างเคร่ืองมือประเมินตามตัวชี้วัดทั้ง 2 ด้าน ได้แก่ 1) เลือกและใช้
เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาตนเอง ประกอบด้วย การเลือกและใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์และมี
คุณธรรม เลือกและใช้เทคโนโลยี ในการส่ือสารอย่างสร้างสรรค์และมีคุณธรรม เลือกและใช้เทคโนโลยี
ในการทางานและนาเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์และมีคุณธรรม เลือกและใช้เทคโนโลยีในการแก้ปัญหาอย่าง
สรา้ งสรรค์ และมคี ณุ ธรรม และ 2) มีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี ประกอบดว้ ย กาหนดปัญหา หรือความตอ้ งการ
รวบรวมข้อมูล ออกแบบและปฏิบัติและการประเมินผล เคร่ืองมือท่ีใช้ในการประเมินความสามารถในการใช้
เทคโนโลยี มีดังน้ี

❖ แบบทดสอบ
❖ แบบประเมินผลงาน/ชนิ้ งาน
❖ แบบสังเกตพฤติกรรม

้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6 68 ค่มู ือการใชเ้ ครอ่ื งมือประเมินสมรรถนะสำ� คัญของผู้เรยี น
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)

69

แบบทดสอบวดั ควำมสำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยี
ชั้นประถมศกึ ษำปีที่ 4 – 6

ชือ่ ...................................................................................................ชนั้ ...................เลข ที.่ ..................................
โรงเรยี น ...............................................................................................................................................................
คำชแ้ี จง แบบทดสอบฉบับนี้มี 10 ขอ้ คะแนนเต็ม 30 คะแนน ใชเ้ วลำ 30 นำที มี 2 ตอน ดงั นี้
ตอนท่ี 1 แบบเลอื กตอบ
คำชี้แจง ใหน้ ักเรยี นเลอื กคาตอบที่ถกู ต้องท่ีสุด เพยี งคาตอบเดียว จานวน 8 ขอ้ (ข้อ 1 – 8)

(ขอ้ ละ 2.5 คะแนน รวม 20 คะแนน)
1.

เช้าวันอาทิตย์เด็กหญิงหนูดีชวนเด็กหญิงพอใจไปเท่ียวห้างสรรพสินค้ากับเพ่ือนๆ เด็กหญิงพอใจ
เป็นดาราที่มีชื่อเสียง แต่เด็กหญิงหนูดีแอบอิจฉา จึงตัดต่อภาพเด็กหญิงพอใจในลักษณะรังแกสัตว์
เพ่ือทาลายชื่อเสียง ในขณะท่ีเด็กหญิงพอใจกาลังจะได้รับเป็นพรีเซ็นเตอร์เสื้อยืดยี่ห้อหนึ่ง จากข่าวที่
กระจายในโซเชียลมเี ดีย ส่งผลทาให้เด็กหญงิ พอใจถูกถอดการเป็นพรเี ซ็นเตอร์เส้อื ยดื

การกระทาของเด็กหญงิ หนดู ีมคี วามผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ยกเวน้ ขอ้ ใด
1) สง่ ข้อความที่ก่อให้เกดิ ความเดือดร้อนแก่ผ้อู ่ืน
2) แกไ้ ขขอ้ มูลของผอู้ น่ื โดยไม่ได้รบั อนญุ าต
3) ตดั ต่อภาพท่ที าให้เสือ่ มเสียชอื่ เสียง
4) การละเมิดลขิ สิทธิ์

เฉลย 4) ถูก เพราะ การละเมิดลิขสิทธ์ิ คือ การทาซ้า ดัดแปลง หรือเผยแพร่ต่อสาธารณชนโดยไม่ได้รับ
อนุญาต มีโทษปรับต้ังแต่ 20,000 ถึง 200,000 บาท และหากทาเพื่อการค้าต้อง
ระวางโทษจาคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 4 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000 บาทถึง 800,000 บาท
หรือท้ังจาท้งั ปรับ

ตัวลวง 1) 2) และ 3) ผิด เพราะ ส่งข้อความท่ีก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้อ่ืน แก้ไขข้อมูลของผู้อื่นโดย
ไม่ได้รับอนุญาต และตัดต่อภาพที่ทาให้เสื่อมเสียชื่อเสียง เป็นการกระทาความผิด
ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ท่ีเกี่ยวกับการตัดต่อภาพที่ทาให้เส่ือมเสียชื่อเสียง ซึ่งมีโทษ
จาคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท และเป็นพฤติกรรมที่ไม่เคารพสิทธิ
ของผู้อื่น และไมม่ ีมารยาทในการใชส้ ่ือบนอินเทอร์เน็ต

คู่มือการใชเ้ ครื่องมอื ประเมินสมรรถนะสำ� คัญของผเู้ รยี น 69 ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

70

2.
ในห้องเรียนคอมพิวเตอร์ ใบข้าว และเพื่อนๆน่ังเรียนคอมพิวเตอร์และได้พบรูปภาพในวัยเด็ก

ของแป้งบนอินเทอรเ์ นต็ ซึง่ ใบขา้ วและเพอ่ื นๆเคยมีเร่อื งทะเลาะกับแป้งกนั มาก่อน จงึ สนทนากันดังน้ี
ใบขา้ ว : เราวา่ เราจะกดแชรร์ ปู ของแป้งไปในเฟซบุก๊ เลย เพราะเขามักจะแกลง้ พวกเธอบอ่ ย ๆ
ลิซ่า : เราวา่ เธอน่าจะปร้นิ เอารูปของแปง้ มาลอ้ เลยี นเหมือนทแี่ ป้งเคยทากบั เธอในสมัยก่อนนะ
กอบัว : เราวา่ อยา่ กดแชร์รปู ของแปง้ เลยนะมนั ไม่ดี เขาอาจจะตอ้ งการความเปน็ สว่ นตัว
ดาว : ฉันว่าพวกเราเลิกดูรูปของเพ่ือนๆคนอ่ืนเถอะ แล้วต้ังใจทางานดีกว่า จะได้ไม่สร้างความ

ขดั แย้งในหมเู่ พื่อน

จากข้อมลู นักเรยี นทั้งหมดในขอ้ ใดทีเ่ สนอแนวคดิ ในการใชค้ อมพวิ เตอร์และอนิ เทอร์เน็ตทีเ่ หมาะสม
1) ใบข้าว กับ ลิซ่า
2) กอบวั กบั ใบข้าว
3) ลิซ่า กับ ดาว
4) ดาว กับ กอบัว

เฉลย 4) ถูก เพราะ คาแนะนาของดาวและกอบวั ถูกตอ้ ง เน่อื งจากการกดแชรร์ ูปภาพของเพื่อนโดยไม่ได้
รับอนญุ าตเป็นการละเมิดสทิ ธสิ์ ่วนบคุ คลและไม่มีมารยาทในการใช้อินเทอร์เน็ต

ตวั ลวง 1) 2) และ 3) ผดิ เพราะ คาแนะนาของใบขา้ วและลซิ ่า เป็นพฤติกรรมท่ีไม่เคารพสทิ ธิของผู้อ่ืน และ
ไม่มีมารยาทในการใชส้ อ่ื อนิ เทอร์เนต็

้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6 70 ค่มู อื การใช้เครื่องมอื ประเมนิ สมรรถนะส�ำคญั ของผเู้ รียน
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)

71

3. ในการสืบค้นวิธีการตรวจ ATK ด้วยตวั เอง นา้ หวานมเี ว็บไซต์ดังนี้

1
2

3

4 ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6

ถา้ นา้ หวานจะต้องสรุปวิธีการวธิ ีการตรวจ ATK ที่ถกู ต้องและเชือ่ ถือได้มากท่สี ุด ควรเลือกใช้ขอ้ มูลจากเวบ็ ไซต์
หมายเลขใด

1) เวบ็ ไซตห์ มายเลข 1
2) เวบ็ ไซต์หมายเลข 2
3) เว็บไซตห์ มายเลข 3
4) เวบ็ ไซตห์ มายเลข 4
เฉลย 2) ถูก เพราะ การใช้นามสกุลของเว็บไซต์ท่ีลงท้ายด้วย go.th สามารถสร้างความน่าเช่ือถือให้กับ

บคุ คล/องค์กร ผูถ้ ือครองชื่อนามสกลุ ของเว็บไซต์ เช่น บรษิ ัทท่ใี ช้นามสกลุ ของเว็บไซต์
ลงท้ายด้วย co.th ก็แสดงให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ต หรือ ลูกค้า เห็นว่าบริษัทหรือห้าง
หุ้นส่วนนั้น มีการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายและยังดาเนินงานอยู่จริง และเป็น
นามสกุลเวบ็ ไซตข์ องประเทศไทย แสดงถงึ ความเป็นคน หรอื องคก์ รไทย
ตวั ลวง 1) 3) และ 4) ผิด เพราะ นามสกุลของเวบ็ ไซตท์ ีล่ งทา้ ยดว้ ย .com ใช้กบั เว็บไซต์ บรษิ ทั องค์กร
สาหรบั กลุม่ ธุรกจิ การค้า เวบ็ ไซต์ส่วนตวั

คมู่ อื การใชเ้ คร่ืองมอื ประเมินสมรรถนะส�ำคญั ของผเู้ รียน 71
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)

72

4.

เชา้ วันเสาร์ กงั้ กล้า และแกว้ นดั กันมาทารายงานกลมุ่ สง่ คุณครใู นวนั จันทร์ที่จะถงึ น้ี ณ บา้ นของกวาง
เด็ก ๆ ทกุ คนตา่ งชว่ ยกันทางานอย่างต้ังใจ

เรากว็ า่ ข้อมลู นีต้ ้องมีท่ีมา ฉะนน้ั ..เราวา่ ขอ้ มูลนีต้ ้องเอา
ของข้อมูลดว้ ยเหมือนกนั มาจากหลายท่ี แล้วมาสรุป
แล้วมาเขยี นข้นึ ใหม่
กลำ้ กวำง

เจอแล้ว..น้ีของเว็บน้ี
ข้อมูลดเี ย่ยี มเราเอามา
ใชไ้ ดเ้ ลย

เพ่อื น ๆ เวลาท่ี กัง้ แกว้
เราเขยี นรายงาน
นะต้องมีผูอ้ ้างองิ
ด้วยนะ

ข้อเสนอของใครเป็นการใชข้ ้อมลู บนอนิ เทอรเ์ น็ตมาทารายงานทไ่ี ม่ถกู ต้อง
1) กั้ง
2) กลา้
3) กวาง
4) แก้ว

เฉลย 4) ถูก เพราะ แก้วนาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตมาใช้งานจะต้องมีการอ้างอิงด้วยว่า ใครเป็นผู้ให้ข้อมูล
และข้อมูลท่ีได้มาจากแหล่งข้อมูลหรือเว็บไซต์ใด และเมื่อได้ข้อมูลมาแล้วจะต้องนา
ข้อมลู มาเรยี บเรยี งใหม่ให้เป็นภาษาของตนเอง

ตัวลวง 1) 2) และ 3) ผิด เพราะ เปน็ วธิ ีการทีถ่ ูกต้องเกี่ยวกบั การนาขอ้ มูลบนอนิ เทอรเ์ นต็ มาใชง้ าน

้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6 72 คมู่ ือการใช้เครื่องมอื ประเมนิ สมรรถนะสำ� คญั ของผเู้ รยี น
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

73

5.

ขวญั ขา้ วไดร้ ับมอบหมายให้ทานา้ ยาลา้ งจานจากสมุนไพรที่มีในชมุ ชนและนาข้อมูลท่ีได้
ไปทดลองทาน้ายาล้างจานจากสมนุ ไพร จนไดน้ ้ายาล้างจานจากสมนุ ไพรทด่ี ี และได้นาเสนอ
ในงานโรงเรียน และขวัญขา้ วจึงสรปุ กระบวนการทางานและซอฟต์แวร์ท่ีใช้ในการทางาน ดังน้ี

ลำดับ กระบวนกำรทำงำน ซอฟตแ์ วร์ทีใ่ ช้ในกำรทำงำน
ท่ี
1 สืบคน้ ขอ้ มลู วิธกี ารทานา้ ยาล้างจานจาก ก
สมุนไพรและสรรพคณุ เพมิ่ เติม
2 ทาน้ายาล้างจานและสารวจข้อมลู การใช้น้ายา
ลา้ งจานท่ีทาข้ึน
3 นาผลการสารวจมาคานวณและจัดทาเปน็ กราฟ ข
เพื่อนาเสนอ
4 เขียนรายงานผลการทางานพรอ้ มภาพประกอบ ค

จากข้อมูล กระบวนการทางานของขวญั ข้าวใชซ้ อฟต์แวร์ ก ข และ ค ตามลาดบั ในข้อใด

1)

2)

3)

4)

เฉลย 4) ถกู เพราะ มีการเรยี งลาดบั การทางาน ดงั นี้
A คอื การสืบคน้ ขอ้ มลู ซง่ึ ต้องใช้ซอฟตแ์ วร์ Google หรอื สัญลักษณ์
B คือ คานวณและจัดทาเป็นกราฟ เพ่ือนาเสนอโดยใช้โปรแกรม Microsoft Excel

หรือสัญลกั ษณ์
C คอื การเขียนรายงานผลการทางานพรอ้ มภาพประกอบ เพอ่ื นาเสนอโดยใช้

โปรแกรม Microsoft Word หรือสัญลกั ษณ์
ตวั ลวง 1) 2) และ 3) ผิด เพราะ เลอื กใช้งานซอฟต์แวรไ์ มเ่ ปน็ ไปตามลาดับการทางาน

คมู่ อื การใช้เครื่องมอื ประเมินสมรรถนะสำ� คญั ของผู้เรียน 73 ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

74

6.
สถำนกำรณ์
ก๊อตต้องการรายช่ือนักเรียนในโรงเรียนท่ีมนี ้าหนักมากกว่า 70 กโิ ลกรมั เพอ่ื ชักชวนเพอ่ื นเข้าร่วม
โครงการนักเรยี นสุขภาพดี ซ่งึ ได้ข้อมูลน้าหนักของนกั เรียนทง้ั หมดจากครหู ้องพยาบาล ซง่ึ กอ๊ ตประมวลผล
ขอ้ มลู ด้วยโปรแกรมซอฟตแ์ วรต์ ารางทางาน (Microsoft Excel) เพอ่ื ความสะดวกและรวดเร็ว

จากสถานการณใ์ นการประมวลผลข้อมลู นกั เรยี นที่มนี ้าหนักเกินเกณฑค์ วรดาเนนิ การอย่างไรถงึ จะได้ข้อมลู ที่
รวดเร็วถกู ตอ้ งและไม่เกิดความคลาดเคล่ือน

1) กรองข้อมูลนักเรยี นทม่ี นี ้าหนักมากกว่า 70 กโิ ลกรมั
2) ใช้คาสัง่ นบั จานวนนกั เรยี นทีม่ ีน้าหนกั มากกวา่ 70 กิโลกรัม
3) จัดเรยี งนา้ หนกั จากมากไปหานอ้ ย แล้วเลือกนักเรียนท่มี ีน้าหนกั มากกวา่ 70 กโิ ลกรัม
4) จัดเรยี งนา้ หนักจากนอ้ ยไปหามาก แลว้ เลือกนักเรยี นท่ีมีนา้ หนกั มากกวา่ 70 กโิ ลกรัม
เฉลย

1) ถูก เพราะ ได้เฉพาะข้อมลู ทต่ี ้องการได้อย่างถกู ต้อง และมีความรวดเรว็
ตัวลวง

2) ผิด เพราะ จะได้แต่จานวนจะไม่ได้รายชื่อ
3) และ 4) ผิด เพราะ ขอ้ มูลยงั มจี านวนมาก และจะทาใหเ้ กิดความผดิ พลาด และประมวลผลได้ชา้

้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6 74 คมู่ อื การใชเ้ คร่อื งมอื ประเมินสมรรถนะส�ำคัญของผ้เู รยี น
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

75

7.
จากสถานการณ์ ครูมะเล่าให้นักเรียนฟังว่า การให้น้าแก่พืชที่คลุมดินสายพันธุ์ต่าง ๆ หรือแม้แต่

ต้นไม้ที่มีท้ังไม้ดอก และไม้ประดับซ่ึงหากมีการดูแลรกั ษาไม่ดีอาจทาใหต้ ้นไม้ดังกล่าวเห่ียวเฉาและตายได้
จึงมีการดูแลเอาใจใส่โดยการให้น้าที่เหมาะสม การพรวนดิน การดูแลสภาพดินหรือแม้แต่การใส่ปุ๋ยท่ีมี
สูตรของธาตุอาหารพืชตรงความต้องการในแต่ละพันธ์ุพืช ที่ได้น้ามาปลูก เพ่ือประดับตกแต่งบ้านเรือน
อาคารเรียน ให้ความร่มร่ืนสวยงามแก่ผู้อยู่อาศัยและผู้เย่ียมเยือน เพื่อความสะดวกในการลดน้าเพ่ือดูแล
ต้นไม้ ครูมะจึงให้นักเรียนออกแบบระบบลดน้าอัตโนมัติร่วมกัน โดยสามารถเขียนข้ันตอนการทางาน
ของระบบลดนา้ อตั โนมตั ิไดด้ งั น้ี

1. เริม่ ต้น
2. วดั ค่าความช้ืนในดิน
3. ตรวจสอบคา่ ความชนื้ น้อยกว่า 0.1 หรือไม่

3.1 ถา้ จรงิ ส่ังใหเ้ ปิดน้า แล้วทาข้ันตอนท่ี 4
3.2 ถ้าเท็จ ส่งั ให้ปิดน้า แลว้ ทาข้ันตอนที่ 4
4. รอ 1 นาที
5. กลบั ไปทาข้นั ตอนที่ 2
จากขัน้ ตอนการทางานของระบบรดนา้ อัตโนมัติ ขน้ั ตอนใดเป็นการเร่ิมต้นการทางานแบบวนซ้า
1) ขั้นตอนที่ 2
2) ขัน้ ตอนที่ 3
3) ขน้ั ตอนที่ 4
4) ขั้นตอนที่ 5
เฉลย 4) ถกู เพราะ การทางานแบบวนซา้ จะทางานซา้ หลายๆ รอบ โดยในขั้นตอนการทางานนม้ี จี านวนรอบ

ไม่แน่นอนซ่งึ เป็นจุดเรม่ิ ตน้ ของการทางานแบบซ้าหลายๆรอบ
ตวั ลวง 1) 2) และ 3) ผดิ เพราะ ไม่ใชก่ ารทางานแบบวนซ้าจะทางานซ้าหลาย ๆ รอบ

คู่มือการใช้เครอ่ื งมือประเมินสมรรถนะส�ำคญั ของผเู้ รยี น 75 ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560)

76

8. ในการสืบค้นข้อมูลเพ่ือจัดทาเอกสารแผน่ พับเพื่อประชาสมั พนั ธเ์ กย่ี วกบั สภาพเศรษฐกิจของชมุ ชนทน่ี ักเรยี น
ได้นาเสนอข้อมูลทไ่ี ด้ควรมีลกั ษณะตา่ ง ๆ ดังนี้

เดก็ หญิงใบตอง : ข้อมูลต้องมีความเป็นปัจจบุ นั และทนั สมัย
เดก็ หญงิ นา้ ผง้ึ : ขอ้ มลู ตอ้ งมีความชัดเจน และถกู ต้อง
เดก็ หญงิ แก้มใส : ขอ้ มลู ตอ้ งมีความสมบูรณ์และนา่ เชอื่ ถือ มีแหลง่ สืบคน้ ข้อมลู ทชี่ ัดเจน
เด็กหญิงเฌอลิน : ข้อมลู นตี้ ้องใช้ภาษาทไี่ พเราะ ถ้อยคาต้องภาษาทถี่ ูกตอ้ งสละสลวยสวยงาม

นักเรยี นคนใดนาเสนอในลักษณะของข้อมลู ทมี่ คี วามสาคญั นอ้ ยทส่ี ุดสาหรับใช้ในการทาแผ่นพบั
1) เด็กหญิงใบตอง
2) เดก็ หญิงนา้ ผึง้
3) เดก็ หญงิ แก้มใส
4) เดก็ หญงิ เฌอลนิ

เฉลย 4) ถูก เพราะ การมีภาษาท่ีไพเราะ ถ้อยคาต้องภาษาท่ีถูกต้องสละสลวยสวยงาม เป็นนาเสนอใน
ลักษณะของข้อมลู ทมี่ คี วามสาคญั น้อยท่ีสุดสาหรบั ใชใ้ นการทาแผ่นพับ

ตัวลวง 1) 2) และ 3) ผดิ เพราะ คณุ สมบตั ขิ องข้อมลู และสารสนเทศทดี่ ีต้องมีความเป็นปจั จุบนั ทนั สมยั
มคี วามถูกต้อง ชดั เจน สมบูรณ์และมีความน่าเชอ่ื ถอื ได้ มีแหลง่ สบื คน้ ข้อมูลทชี่ ดั เจน

เกณฑ์กำรให้คะแนน ข้อ 1 – 8
ตอบถูกข้อละ 2.5 คะแนน
ตอบผิดหรือไมต่ อบได้ 0 คะแนน

้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6 ตอนท่ี 2 แบบเขียนตอบ
คำชแี้ จง ใหน้ ักเรียนคดิ หาคาตอบที่ถกู ต้อง แลว้ เขยี นตอบลงในกระดาษคาตอบจานวน 2 ขอ้ (ข้อ 9 - 10)

(ขอ้ ละ 5 คะแนน รวม 10 คะแนน)
9.

ในปัจจุบันประเทศไทยกาลังกา้ วเขา้ ส่ไู ทยแลนด์ 4.0 จึงต้องมีการปรับตัวเพอ่ื ใช้ชวี ิตในสังคมดิจิทัล
ซ่งึ มีนาและเพือ่ น มกี ารปรบั ตวั โดยการปฏิบัติตนดังนี้

มีนา : เม่ือเพ่ือนๆส่งรูปภาพที่น่าหวาดเสียวของเพ่ือนๆมาให้และมีนาไม่แชร์รูปภาพนั้นเพราะไม่
ตอ้ งการใหเ้ พ่อื นเดือดร้อน

มตี ัง : บนั ทึกรหสั ผา่ นกดเงนิ สด ATM ของตนเองลงไวใ้ นโนต๊ บันทึกความของโทรศัพทต์ นเอง
มิน : แชรข์ ้อมลู สว่ นตัวไว้ใน Facebook โดยระบุเลือกกลุ่มเปา้ หมายเฉพาะฉัน
กอหญ้า : ศกึ ษาซอฟทแ์ วรต์ ่าง ๆ จานวนมากจึงแนะนาเพ่อื นให้ใชซ้ อฟท์แวร์ท่ีเหมาะสมกบั งาน

จากข้อมูล การปรับตัวของใครบา้ งที่แสดงวา่ เปน็ คนที่มีความรับผิดชอบต่อชมุ ชนของพลเมืองดจิ ิทลั มากท่สี ดุ
(เลือก 2 คน)
ตอบ ชือ่ ................................................................................................................................................ ................

และชอ่ื ..........................................................................................................................................................

76 ค่มู ือการใชเ้ ครอื่ งมือประเมนิ สมรรถนะสำ� คัญของผเู้ รยี น
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)

77

เฉลย
มีนา และ กอหญา้ เพราะ มีนา ไม่แชร์รปู ภาพท่ีทาให้ผู้อืน่ เดือดรอ้ นถือเป็นการปฏบิ ตั ิตาม พ.ร.บ.

คอมพิวเตอร์ กอหญ้า แนะนาเพื่อนให้ใช้ซอฟทแ์ วร์อยา่ งเหมาะสม ถือเปน็ การปฏบิ ตั ิตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

แนวคิด
ส่วนใหญ่การไม่แชร์รูปภาพท่ีทาให้ผู้อ่ืนเดือดร้อนถือเป็นการปฏิบัติตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ และ

แนะนาให้ผู้อ่นื ใช้ซอฟท์แวรอ์ ย่างเหมาะสม ถอื เปน็ การปฏิบัตติ าม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนน คะแนนบำงสว่ น (2.5 คะแนน) ไม่ได้คะแนน (0 คะแนน)
คะแนนเต็ม (5 คะแนน) เม่อื ระบชุ ื่อคนท่แี สดงถึงความ เมอื่ ระบชุ ่ือบุคคลเป็นนิด และ/
รับผิดชอบต่อชมุ ชนของพลเมือง หรือนา้ หรอื ไมต่ อบ หรอื ตอบไม่
เมอ่ื ระบชุ ่อื คนทีแ่ สดงถึงความ ดิจทิ ลั เพียง 1 คน ถกู ต้อง
รับผิดชอบต่อชมุ ชนของพลเมือง แนวคำตอบ
ดจิ ทิ ัล ครบท้งั 2 คน - มีนา
แนวคำตอบ - กอหญา้
- มีนา และ กอหญา้

10.
ครูให้นักเรียนทารายงานเรื่อง “การติดเชื่อโควิด-19 ในประเทศไทย” โดยครูระบุแหล่งข้อมูลที่

ค้นหาว่าควรจะเป็นหน่วยงานท่ีทุกคนร้จู ักและเชื่อถืออาจเป็นเอกสาร วารสาร หรอื ขอ้ มูลจากอินเทอร์เน็ต
โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตต้องพจิ ารณาให้ดี

จากข้อมูล เพราะเหตุใดครจู งึ ระบุแหลง่ ข้อมูลวา่ ข้อมูลจากอนิ เทอรเ์ นต็ ตอ้ งพจิ ารณาใหด้ ี
ตอบ ..........................................................................................................................
เฉลย
1) เวบ็ ไซต์
2) ชอ่ื และรายละเอยี ดของผเู้ ขยี น
3) วันทเี่ ผยแพร่ข้อมูล
4) แหล่งท่มี าของข้อมูล
5) วัตถุประสงค์ในการเผยแพร่
แนวคดิ
เขา้ ใจและคานงึ ถงึ ปจั จัยทสี่ ง่ ผลต่อความนา่ เชื่อถอื ของข้อมลู บนอินเตอร์เน็ต

คู่มอื การใช้เครอื่ งมือประเมนิ สมรรถนะสำ� คญั ของผู้เรยี น 77 ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

78

เกณฑ์กำรใหค้ ะแนน คะแนนบำงสว่ น ไมไ่ ดค้ ะแนน
คะแนนเตม็
(5 คะแนน) (2.5 คะแนน) (0 คะแนน)
ให้คะแนนเตม็ เม่อื ระบุว่าต้องประเมนิ แหล่งข้อมูล ให้คะแนนเต็มเมื่อระบุแหล่งข้อมูลที่ นักเรียนไมต่ อบ
ทีน่ กั เรียนค้นหาวา่ เป็นแหล่งข้อมูลที่เช่ือถือได้ นักเรียนค้นหาว่าเป็นแหล่งข้อมูลท่ี
โดยคานึงถึงการประเมินความน่าเช่ือของข้อมูล เชื่อถือได้โดยคานึงถึงการประเมิน
บนอินเทอร์เน็ต ซ่ึงอาจระบุความน่าเชื่อถือ ความน่าเชื่อของข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต
ของแหล่งที่ให้ข้อมูล ความน่าเชื่อของแหล่ง ซ่ึงอาจระบุความน่าเช่ือถือของแหล่งที่
อา้ งองิ ที่สมเหตสุ มผลดงั นี้ ดงั น้ี ให้ข้อมูล ความน่าเช่ือของแหล่งอ้างอิง
1) เวบ็ ไซต์ ท่ีมีความเป็นไปได้
2) ช่ือและรายละเอยี ดของผ้เู ขยี น แนวคำตอบ
3) วันท่เี ผยแพรข่ อ้ มูล - ตอ้ งประเมนิ เวบ็ ทีใ่ ชว้ ่าเป็นทร่ี ู้จักของ
4) แหลง่ ที่มาของข้อมลู คนทวั่ ไปหรือไม่
5) วตั ถปุ ระสงค์ในการเผยแพร่ - ตอ้ งประเมินว่าขอ้ มูลท่ีไดม้ ี
แนวคำตอบ รายละเอียดพอหรือไม่
- เพราะต้องประเมินความน่าเช่ือถือของแหล่ง
อ้างอิงขอ้ มลู ที่มีรายละเอียดของเวบ็ ช่อื ผู้เขียน
รวมทงั้ วนั ท่เี ผยแพร่แหล่งทมี่ าของข้อมูล
- ต้องการประเมินความเชื่อถือได้ของข้อมูลท่ี
เผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต ซึงมีรายละเอียด
ของเว็บผูเ้ ขียน ผ้ใู ห้ขอ้ มูล รวมท้ังระยะเวลาท่ี
เผยแพร่

เกณฑ์ตดั สินระดับคณุ ภำพกำรทำแบบทดสอบ ระดับคุณภำพ
คะแนน ดี
25 – 30
16 – 24 พอใช้
0 – 15 ปรับปรุง

เกณฑ์กำรประเมนิ สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี นดำ้ นควำมสำมำรถในกำรใชเ้ ทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปที ี่ 1 - 3

้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6 คะแนน ระดับคณุ ภำพ
25 – 30 ดเี ยี่ยม
17 – 24 ดี
9 – 16 พอใช้
0–8 ปรับปรุง

78 ค่มู อื การใช้เครอ่ื งมอื ประเมนิ สมรรถนะสำ� คญั ของผูเ้ รียน
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)

79

กำรแปลผลคะแนน ควำมสำมำรถในกำรใชเ้ ทคโนโลยี

ระดบั พฤติกรรม คำอธบิ ำย
ดเี ยยี่ ม เลือกและใช้เทคโนโลยีท่ีเหมาะสม เพ่ือลดข้ันตอนและเวลาในการ ทางาน และ
นาเสนอผลงานท่ีเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่ืนได้ด้วยตนเอง อย่างถูกต้อง แปลกใหม่
ดี นา่ สนใจ และไม่ทาให้ผู้อ่ืนเดอื ดรอ้ น
พอใช้ เลือกและใช้เทคโนโลยีท่ี เหมาะสมเพื่อลดขั้นตอน และเวลาในการทางาน และ
ปรบั ปรงุ นาเสนอผลงานไดด้ ว้ ยตนเอง อยา่ งถูกตอ้ ง และไม่ทาใหผ้ อู้ น่ื เดอื ดรอ้ น
ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมเพ่ือ ลดข้ันตอนและเวลาในการ ทางาน และนาเสนอ
ผลงานไดด้ ว้ ยตนเองอย่างถกู ต้อง
ใช้เทคโนโลยเี พือ่ ลดข้ัน ตอนและเวลาในการ ทางาน นาเสนอผลงานได้
โดยมผี แู้ นะนาหรือ ควบคุม

แบบประเมินผลงำน/ช้นิ งำน

ชอื่ ผลงาน/ชิ้นงาน ................................................................................................................................................

ชื่อผรู้ ับการประเมิน ................................................................. ชั้นประถมศึกษาปที .่ี ................ เลขที.่ ...............

โรงเรียน ................................................................................................................................................................

ช่อื ผูป้ ระเมิน .........................................................................................................................................................
ครูให้นักเรียนเปิดไฟล์ในหมวดหมู่ เตรียมฝึก และให้นักเรียนพิมพ์ช่ือ และนามสกุล คุณครูประจาช้ัน และ
โรงเรียนของนักเรียน พร้อมตกแต่งให้สวยงาม ตามแบบ แล้วบันทึกไฟล์ไว้ในหมวดหมู่ ฝึกทักษะ พร้อมตั้งช่ือ
ไฟล์ใหม่ ของนักเรียน เช่น นำยรกั ชำติ เป็นต้น
คะแนน
ประเดน็ กำรพิจำรณำ 123

1. การเขา้ และออกจากโปรแกรมประมวลคา

2. การสร้างงานเอกสารและการจัดเกบ็

3. การเรียกใชแ้ ละการแกไ้ ขงานเอกสาร

4. การสรา้ งโฟลเดอร์และการจัดหมวดหมู่

คะแนนรวม

คะแนนรวมทงั้ หมด

สรุประดบั ควำมสำมำรถ : ......................................................................

คมู่ อื การใชเ้ คร่อื งมอื ประเมนิ สมรรถนะสำ� คัญของผู้เรยี น 79 ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)

80

เกณฑก์ ำรให้คะแนนตวั อยำ่ งแบบประเมนิ ผลงำน/ชิน้ งำน

1. ประเด็นพิจารณา : การเข้าและออกจากโปรแกรมประมวลคา
คะแนน เกณฑก์ ำรประเมนิ
1 ไม่สามารถแสดงขน้ั ตอนการเข้าใช้งานโปรแกรมและการออกจากการใช้งานโปรแกรม
ประมวลคาไดถ้ ึงแม้จะไดร้ ับคาแนะนาจากครหู รือผอู้ ื่น
2 สามารถแสดงขัน้ ตอนการเข้าใชง้ านโปรแกรมและการออกจากการใช้งานโปรแกรม
ประมวลคาได้โดยการชี้แนะของครูหรอื ผอู้ ่ืน
3 สามารถแสดงขัน้ ตอนการเข้าใชง้ านโปรแกรมและการออกจากการใช้งานโปรแกรม
ประมวลคาได้ทกุ วิธดี ้วยตนเอง

2. ประเด็นพจิ ารณา : การสรา้ งงานเอกสารและการจดั เกบ็
คะแนน เกณฑ์กำรประเมิน
1 ไมส่ ามารถแสดงขัน้ ตอนการสรา้ งงานเอกสารและการจัดเก็บช้นิ งานได้ ถึงแม้จะได้รับ
คาแนะนาจากครหู รือผอู้ ื่น
2 สามารถแสดงขนั้ ตอนการสรา้ งงานเอกสารและการจดั เกบ็ ช้ินงานได้ โดยการชีแ้ นะ
ของครูหรือผู้อ่นื
3 สามารถแสดงข้นั ตอนการสรา้ งงานเอกสารและการจัดเกบ็ ช้ินงานได้ด้วยตนเอง

3. ประเด็นพิจารณา : การเรียกใช้และการแก้ไขงานเอกสาร
คะแนน เกณฑก์ ำรประเมิน
1 ไมส่ ามารถเรียกไฟล์งานเดมิ มาแกไ้ ข และไมส่ ามารถจัดเกบ็ งานไดถ้ ึงแม้จะไดร้ ับคา
แนะนาจากครูหรือผู้อน่ื
2 สามารถเรียกไฟลเ์ ดิมมาแก้ไข และจัดเกบ็ ได้ โดยการช้แี นะของครหู รือผอู้ น่ื
3 สามารถเรยี กไฟลง์ านเดิมมาแก้ไขและจดั เกบ็ ได้ด้วยตนเอง

4. ประเดน็ พจิ ารณา : การสร้างโฟลเดอรแ์ ละการจดั หมวดหมู่
คะแนน เกณฑก์ ำรประเมิน
1 ไมส่ ามารถจัดหมวดหมู่ไฟล์และโฟลเดอร์ได้อย่างถูกต้องถงึ แม้จะได้รับคาแนะนาจาก
ครูหรอื ผู้อนื่
2 สามารถจดั หมวดหมู่ไฟล์และโฟลเดอร์ได้อย่างถูกตอ้ งโดยการชแ้ี นะของครูหรอื ผ้อู ืน่
3 สามารถจดั หมวดหมู่ไฟล์และโฟลเดอร์ไดอ้ ย่างถูกตอ้ งดว้ ยตนเอง

้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6 80 คู่มือการใช้เครือ่ งมอื ประเมินสมรรถนะส�ำคญั ของผ้เู รยี น
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)

81

วธิ ีกำรใช้แบบประเมินผลงำน/ชิน้ งำน

ครผู ู้สอนประเมินผลงาน/ช้นิ งาน ใน 4 ประเด็น คอื 1) การเข้าและออกจากโปรแกรมประมวลคา

2) การสร้างงานเอกสารและการจัดเก็บ 3) การเรียกใช้และการแก้ไขงานเอกสาร และ 4) การสร้างโฟลเดอร์

และการจัดหมวดหมู่ ในการดาเนินการประเมินผลงาน/ช้ินงาน ครูผู้สอนนาผลงานนักเรียนมาประเมินตาม

เกณฑ์ให้คะแนน ในแต่ละประเด็น นาคะแนนที่ได้จากการประเมิน 3 ประเด็น มารวมคะแนน และแปลผล

ระดบั ความสามารถในการคดิ ได้ดังนี้

ได้ 10 – 12 คะแนน มีผลการประเมินอยูใ่ นระดับ ดเี ย่ยี ม
ได้ 7 – 9 คะแนน มีผลการประเมินอยใู่ นระดับ ดี
ได้ 4 – 6 คะแนน มผี ลการประเมินอยู่ในระดับ พอใช้
ได้ 1 – 3 คะแนน มผี ลการประเมินอยู่ในระดับ ปรับปรุง
ครูสรุปผลการประเมินดังกล่าว กรณีท่ีผลการประเมินพบว่า นักเรียนมีระดับความสามารถใน
การใช้เทคโนโลยีในแต่ละด้าน อยู่ในระดับปรับปรุง ระดับพอใช้ หรือระดับดี ครูควรหาแนวทางการพัฒนา
นักเรียนให้มรี ะดบั ความสามารถที่เพ่ิมสงู ข้นึ จากระดับเดมิ

แบบสังเกตพฤติกรรมของผ้เู รยี นดำ้ นควำมสำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยี
ชน้ั ประถมศึกษำปีที่ 4 – 6

ชื่อผ้รู ับการสังเกต .................................................................... ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่................. เลขท.ี่ ...............
โรงเรียน ................................................................................................................................................................
ชอ่ื ผู้สังเกต ............................................................................................................................................................

คำชี้แจง ให้พจิ ารณารายการประเมนิ แล้วใส่เครื่องหมาย  ลงในช่อง ดี (3) พอใช้ (2) หรือ ปรับปรงุ (1)
ท่ีตรงกับพฤติกรรมของนักเรยี น

รำยกำรประเมนิ /พฤตกิ รรม ผลกำรประเมิน
1. สามารถออกแบบ วางแผน การทางานได้ ดี พอใช้ ปรบั ปรุง
2. มคี วามต้ังใจในการทางาน (3) (2) (1)
3. เลอื กใช้เทคโนโลยเี พอ่ื แก้ปญั หา อยา่ งคุ้มค่าด้วยการนากลับมา
้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6
ใช้ซ้า (reuse) ลดการใช้ (reduce) หรือแปรรปู แลวนากลบั มา
ใชใ้ หม่ (recycle)
4. ทางานได้ถูกต้องตามขนั้ ตอนที่ได้ออกแบบ วางแผนไว้
5. มีความรบั ผดิ ชอบทางานจนสาเรจ็
6. สามารถใชแ้ ละจัดเกบ็ อปุ กรณ์ต่าง ๆ ในการทาผลงานได้
ถูกต้อง โดยคานงึ ถึงความปลอดภยั ต่อตนเองและผูอ้ ืน่
7. สามารถทางานรว่ มกับผูอ้ ื่นได้
8. ผลงานมีความหลากหลายและแปลกใหม่
9. สามารถอธบิ ายกระบวนการออกแบบและการทางานได้

คมู่ อื การใช้เครอ่ื งมือประเมนิ สมรรถนะส�ำคัญของผเู้ รยี น 81
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

82

รำยกำรประเมิน/พฤตกิ รรม ผลกำรประเมนิ
10. สามารถบอกถึงความรสู้ ึกทม่ี ีต่อผลงานของตนเอง ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ
11. สามารถบอกวธิ กี ารปรบั ปรุงผลงานของตนเองได้ (3) (2) (1)
12. มีความชื่นชมในผลงานของตนเองและผ้อู ่นื
13. เกบ็ ผลงานได้อยา่ งเป็นระเบียบ

รวม

วิธีกำรใชแ้ บบสงั เกตพฤติกรรม
ครูผู้สอนสังเกตพฤติกรรมการสร้าง ใช้ และรู้เท่าทันวิทยาการและเทคโนโลยี ด้านการสร้าง

และใชเ้ ทคโนโลยี ท่ปี ระกอบดว้ ย สร้างเคร่ืองมือและอุปกรณ์เพ่ือขยายความสามารถของตนเองตามความสนใจ
และแก้ปญั หาจากสถานการณป์ จั จบุ นั และเลอื กใชเ้ ทคโนโลยี เพื่อแก้ปัญหาจากสถานการณ์ปจั จุบนั ในโรงเรียน
หรือชุมชน และเลือกใช้เทคโนโลยีอย่างคุ้มค่าด้วยการนากลับมาใช้ซ้า (reuse) ลดการใช้ (reduce) หรือแปร
รูปแล้วนากลับมาใช้ใหม่ (recycle) ดังตัวอย่างแบบสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนด้านความสามารถ
ในการใช้เทคโนโลยี ในการดาเนินการสังเกตพฤติกรรมครูผู้สอนนาผลงานนักเรียนมาประเมินตามเกณฑ์
ให้คะแนน ในแต่ละประเด็น นาคะแนนท่ีได้จากการประเมิน 2 ประเด็น มารวมคะแนน และแปลผลระดับ
ความสามารถในการคดิ ไดด้ ังน้ี

ได้ 31 – 39 คะแนน มผี ลการประเมินอยูใ่ นระดับ ดเี ยย่ี ม
ได้ 21 – 30 คะแนน มผี ลการประเมินอยใู่ นระดับ ดี
ได้ 11 – 20 คะแนน มีผลการประเมินอยู่ในระดับ พอใช้
ได้ 1 – 10 คะแนน มผี ลการประเมินอยใู่ นระดบั ปรับปรงุ
ครูสรุปผลการสังเกตพฤติกรรมดังกล่าว กรณีที่ผลการสังเกตพฤติกรรมพบว่า นักเรียนมีระดับ
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ในแต่ละด้าน อยู่ในระดับปรับปรุง ระดับพอใช้ หรือระดับดี ครูควรหา
แนวทางการพัฒนานกั เรียนให้มีระดบั ความสามารถทเ่ี พิ่มสงู ขึน้ จากระดบั เดิม

สรปุ ระดับควำมสำมำรถ คือ ..................................................... ได้ .............. คะแนน
ระดับ ดเี ย่ยี ม ได้ 31 – 39 คะแนน
ระดบั ดี ได้ 21 – 30 คะแนน
ระดับ พอใช้ ได้ 11 - 20 คะแนน
ระดับ ปรบั ปรุง ได้ 1 – 10 คะแนน

้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6 82 ค่มู ือการใชเ้ ครอ่ื งมอื ประเมนิ สมรรถนะสำ� คญั ของผเู้ รียน
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560)

83

แบบสังเกตพฤติกรรมของผู้เรยี นด้ำนควำมสำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยี
ช้นั ประถมศกึ ษำปที ี่ 4 – 6

ชือ่ ผ้รู ับการสงั เกต .................................................................... ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่................. เลขที่................
โรงเรียน ................................................................................................................................................................
ช่ือผู้สงั เกต ............................................................................................................................................................

คำชี้แจง ใหพ้ จิ ารณารายการประเมนิ แลว้ ใส่เครื่องหมาย  ลงในช่อง ดี (3) พอใช้ (2) หรือ ปรับปรงุ (1)
ท่ีตรงกบั พฤติกรรมของนักเรียน

รำยกำรประเมิน/พฤติกรรม ผลกำรประเมนิ
1. สามารถออกแบบ วางแผน การทางานได้ ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ
2. มีความตัง้ ใจในการทางาน (3) (2) (1)
3. เลอื กใชเ้ ทคโนโลยเี พอื่ แกป้ ญั หา อยา่ งค้มุ ค่าด้วยการนากลบั มาใชซ้ ้า

(reuse) ลดการใช้ (reduce) หรือแปรรปู (recycle)
4. ทางานไดถ้ กู ตอ้ งตามขั้นตอนทไ่ี ดอ้ อกแบบ วางแผนไว้
5. มคี วามรับผิดชอบทางานจนสาเร็จ
6. สามารถใช้และจดั เกบ็ อปุ กรณต์ า่ ง ๆ ในการทาผลงานไดถ้ ูกตอ้ ง

โดยคานงึ ถึงความปลอดภยั ต่อตนเองและผูอ้ ่นื
7. สามารถทางานร่วมกับผอู้ ื่นได้
8. ผลงานมีความหลากหลายและแปลกใหม่
9. สามารถอธิบายกระบวนการออกแบบและการทางานได้
10.สามารถบอกถึงความรสู้ กึ ที่มีตอ่ ผลงานของตนเอง
11.สามารถบอกวธิ กี ารปรบั ปรุงผลงานของตนเองได้
12.มคี วามชืน่ ชมในผลงานของตนเองและผู้อ่นื
13.เก็บผลงานไดอ้ ยา่ งเปน็ ระเบยี บ

รวม

สรุป ระดบั ควำมสำมำรถ คือ ..................................................... ได้ .............. คะแนน
ระดบั ดีเยย่ี ม ได้ 31 – 39 คะแนน
ระดับ ดี ได้ 21 – 30 คะแนน
ระดบั พอใช้ ได้ 11 - 20 คะแนน
ระดบั ปรบั ปรงุ ได้ 1 – 10 คะแนน

คมู่ ือการใชเ้ ครอื่ งมอื ประเมินสมรรถนะส�ำคญั ของผู้เรียน 83 ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560)

84

เกณฑ์กำรประเมนิ สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน ด้ำนควำมสำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยี

คะแนน ระดับคุณภำพ
63 – 81 ดเี ย่ียม
43 – 62 ดี
21 – 42 พอใช้
0 – 20 ปรบั ปรงุ

กำรแปลผลคะแนน ควำมสำมำรถในกำรใชเ้ ทคโนโลยี

ระดบั พฤติกรรม คำอธบิ ำย

เลือกและใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมเพเพือ่ ่ือลลดดขขนั้ ั้นตตออนนและเวลาในการทท�ำางงาานน และ
ดีเยย่ี ม นแลาเะสนนำ� อเสผนลองาผนลทงา่ีเนป็ทน่ีเปปรน็ ะปโยรชะนโย์ตช่อนผ์ตู้ออ่ ่ืนผไู้อด่นื ้ดไ้วดยด้ ตว้ นยเตอนงเองยอ่ายงา่ถงูกถตูก้อตง้อแงปลกใหม่

นแปา่ สลนกใจหมแ่ลนะา่ ไสมนท่ ใาจใหแผ้ ลู้อะ่นื ไเมด่ทือำ� ดใรห้อผ้ นอู้ ่นื เดอื ดร้อน

ดี เลือกและใช้เทคโนโลยีท่ีเหเหมมาาะะสสมมเพเพอื่ ่ือลลดดขขน้ั ั้นตตออนนแแลละะเวเวลลาาใในนกกาารรทท�ำางงาานน และ
นแลาเะสนนำ� อเสผนลงอาผนลไงดาด้ น้วไยดตด้ น้วเยอตงนอเยอ่างงอถยกู า่ ตงถ้อูกงตแอ้ ลงะไแมลท่ ะาไใมห่ทผ้ �ำู้อใ่นืหเ้ผดอู้ อื น่ื ดเรดอ้ อื นดรอ้ น

พอใช้ ใช้เทคโนโลยีทเี่ หมมาาะะสสมมเเพพือ่ ่ือลลดดขข้ัน้ันตตออนนแแลละะเวเวลลาาในในกกาารรทำ�ทงาางนานแลแะลนะ�ำนเสาเนสอนอ
ผลงานได้ด้วยตตนนเเอองงออยย่า่างงถถกู กู ตต้อ้องง

ปรบั ปรงุ ใชเ้ ทคโนโลยเี พื่อลดดขขัน้ ัน้ ตอนแแลละะเเววลลาาใในนกกาารรทา�ำงาน นา�ำเสนอผลงานนไไดด้ ้
โดยมีผูแ้ นะนา�ำหหรรืออื คคววบบคคุมุม

้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6 84 คู่มอื การใชเ้ ครื่องมอื ประเมินสมรรถนะส�ำคัญของผเู้ รยี น
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)

85

แบบสรปุ กำรประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยี ชั้นประถมศกึ ษำปที ่ี 4 – 6

วัตถปุ ระสงค์ เพ่ือใช้เปน็ เคร่อื งมือในการประเมนิ สมรรถนะสาคัญของผู้เรียนด้านความสามารถในการใช้
เทคโนโลยี โดยประเมินจากการประเมนิ ท้ังหมด
คาชแี้ จง ใหผ้ ปู้ ระเมินให้คะแนนแบบประเมินแตล่ ะตอน และทาเคร่ืองหมาย  ในชอ่ งทผ่ี เู้ รียน
มีระดบั คุณภาพทสี่ อดคลอ้ งกับเกณฑ์การประเมนิ การฟังและดู
ผูป้ ระเมนิ  นกั เรียนประเมินตนเอง  ครู
 เพ่ือนนักเรียน  ผ้ปู กครอง
ผูป้ ระเมิน ชอื่ ..............................................................นามสกลุ .................................................... .....................

คะแนนทไ่ี ด้ ระดับคณุ ภำพ หมำยเหตุ
จำกกำรประเมนิ

เลขที่ ชอื่ -สกลุ แบบทดสอบ
แบบ

ประเมินผล
งำน/ช้ินงำน
แบบสังเกต
พฤติกรรม

รวมคะแนน
ีดเ ่ียยม

ีด
พอใช้
ปรับปรุง

(30) (12) (39) (81)
1
2
3
4
...

วิธีกำรใช้เครอ่ื งมือ
จากเครื่องมือประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ด้านความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

ประกอบด้วย การเลือกและใช้เทคโนโลยีเพ่ือพัฒนาตนเองและสังคม และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี
แบบทดสอบ มี 3 รูปแบบ คือ แบบทดสอบ แบบประเมินผลงาน/ช้นิ งาน และแบบสังเกตพฤติกรรม

การใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลข้างต้น สามารถใช้ในการประเมินระหว่างเรียน และหลังการ
จัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาการเรียนรู้และระดับความสามารถของผู้เรียน ตามแนวทางการประเมินสมรรถนะ
สาคญั ของผเู้ รียนชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 4 - 6

การพัฒนาผู้เรียนด้วยการใช้เครื่องมือประเมินรูปแบบที่ 1 – 2 ควรอยู่ในระดับพอใช้ ข้ึนไป
และการประเมินผลรวมแบบประเมินท้ัง 3 รูปแบบ และการแปลผลคะแนน ควรมีระดับคุณภาพอยูใน
ระดบั ดี ขนึ้ ไป

ค่มู อื การใช้เครอ่ื งมอื ประเมินสมรรถนะส�ำคัญของผู้เรยี น 85 ั้ชนประถม ึศกษา ีป ีท่ 4 - 6
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

86

เกณฑ์กำรประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน ดำ้ นควำมสำมำรถในกำรใชเ้ ทคโนโลยี
ชนั้ ประถมศึกษำปที ่ี 4 – 6

เครื่องมือแต่ละเคร่ืองมือมีการกาหนดเกณฑ์การให้คะแนนและแปลผลคะแนนที่สอดคล้อง
และเหมาะสมกบั วิธีการวัดพฤตกิ รรม โดยกาหนดการแปลผลคะแนนของเคร่ืองมือแตล่ ะเคร่ืองมือเป็น 3 ระดับ
ได้แก่ ระดับดี ระดบั พอใช้ และระดบั ปรับปรุง ซึง่ การแปลผลคะแนนดังกลา่ วใช้ในการตดั สนิ ระหว่างเรยี น
สาหรับเกณฑ์การตัดสินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียนได้กาหนดเกณฑ์เพ่ือให้สอดคล้องกับระดับ
ความสามารถทัง้ 4 ระดับ ได้แก่ ระดบั ปรบั ปรงุ ระดบั พอใช้ ระดบั ดี และระดับดีเยย่ี ม โดยครผู สู้ อนสามารถนา
เครื่องมือทั้งหมดของแต่ละด้าน ประกอบด้วย เลือกและใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาตนเองและสังคม และมี
ทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี มาใช้ในการตัดสนิ สมรรถนะชว่ งชั้น โดยมีผลรวมคะแนนท้งั 3 รูปแบบ (81 คะแนน)
ซึง่ มีรายละเอียดดงั ต่อไปน้ี
1. แบบทดสอบ คะแนนเต็ม 30 คะแนน
2. แบบประเมนิ ผลงาน/ชิน้ งาน คะแนนเต็ม 12 คะแนน
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรม คะแนนเต็ม 39 คะแนน

เกณฑ์กำรตดั สนิ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น ดำ้ นควำมสำมำรถในกำรใชเ้ ทคโนโลยี ช้นั ประถมศกึ ษำปีที่ 4 – 6

คะแนน ระดบั คณุ ภำพ
63 – 81 ดเี ยย่ี ม
43 – 62 ดี
21 – 42 พอใช้
0 – 20 ปรับปรงุ

้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6 86 คูม่ อื การใชเ้ คร่อื งมอื ประเมนิ สมรรถนะสำ� คญั ของผู้เรยี น
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)

87

บบรรณรณำนาุกนรุกมรม

กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หหลลักักสสูตูตรรแแกกนนกกลลาางงกกาารรศศึกึกษษาาขข้ัน้ันพพื้น้ืนฐฐาานน พพ.ศุท.ธ2ศ5ัก5ร1าช. ก2ร5ุง5เท1พ. ฯกร:ุงโเรทงพพฯิมพ:์
โรคงุรพสุ มิภพาลค์ ารุ ดสุ พภรา้าลวา.ดพรา้ ว.
กันต์กนิษฐ์ ชลสีมัธยา. (2562). ความคาดหวังของผู้ปกครองที่มีต่อสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน โรงเรียน

ศรีราชา สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 18. หลักสูตรการศึกษามหาบัณฑิต
สาขาการบรหิ ารการศกึ ษา, มหาวทิ ยาลยั บูรพา.
พรพิชิต ทิทา. (2561). การพัฒนาแนวทางการส่งเสริมสมรรถนะสาคัญของผู้เรียนระดับมัธยมศึกษา.
สาขาวิจัยและประเมินผลระดบั ปรญิ ญาการศึกษามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยสารคาม.
สานักงานราชบัณฑิตยสภา. (2564). พจนานุกรมศัพท์ศึกษาศาสตร์ ฉบับราชบัณฑิตยสภา. พิมพ์คร้ังที่ 2.
กรงุ เทพฯ : บริษทั ธนาเพรส จากดั .
สานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา, กระทรวงศึกษาธิการ. (2562). แนวทางการพัฒนาสมรรถนะผู้เรียนระดับ
การศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน. กรุงเทพฯ : 21 เซน็ จูรี.่
ส�ำานักทดสอบบททาางงกกาารรศศกึ ึกษษาา..(2(5255)5.)ค. มู่ คือู่มปือรปะรเมะนิเมสินมสรมรถรนรถะนสาะคสัญ�ำคขัญองขผอูเ้ งรผยี นู้เรียรนะดรบั ะกดาับรศกึการษศาึกข้นัษพาข้นื ั้นฐพานื้นฐตาานม
ตหามลัหกลสูักตสรูตแรกแนกกนลกาลงากงากราศรึกศษึกาษขา้ันขั้นพพื้น้ืนฐฐาานนพพุทุทธธศศักักรราาชช22555511..กกรรุงุงเเททพพฯฯ :: โโรรงงพพิมิ พ์สา�ำนักงาน
พพรระะพพุททุ ธธศศาาสสนนาาแแหห่งง่ ชชาาตต.ิ
สานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา, สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธิการ (2554).
แนวปฏิบัติการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551.
พิมพค์ รง้ั ที่ 3. กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พ์ชมุ นมุ สหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย จากัด.

คู่มือการใชเ้ ครอื่ งมอื ประเมนิ สมรรถนะส�ำคัญของผ้เู รียน 87 ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)



ภาคผนวก



89

รายชอื่ คณะผจู้ ัดทาำ�

1. ทปี่ รกึ ษำ
1) นายอัมพร พนิ ะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน
2) นางเกศทิพย์ ศภุ วานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พื้นฐาน
3) นายวิษณุ ทรพั ยส์ มบตั ิ ผอู้ านวยการสานกั ทดสอบทางการศึกษา
4) นางลาใย สน่นั รมั ย์ ผเู้ ชยี่ วชาญดา้ นการพฒั นาเครื่องมือวดั ผล
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พื้นฐาน
5) นายชนาธปิ ทยุ้ แป ผู้อานวยการกลมุ่ ประเมินคณุ ภาพการศึกษา
2. คณะทำงำนจัดทำคู่มือกำรใชเ้ คร่อื งมอื ประเมินสมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียนระดับกำรศึกษำขัน้ พ้นื ฐำน
ตำมหลักสตู รแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพนื้ ฐำน พุทธศักรำช 2551 ประกอบด้วย
2.1 ควำมสำมำรถในกำรส่ือสำร
1) นายไชยวัฒน์ อารีโรจน์ ครูชานาญการ โรงเรียนวสิ ุทธรังษี
สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามธั ยมศึกษากาญจนบุรี
2) นายพฤทธณัฏฐ์ิ พรมรัตน์ ครชู านาญการ โรงเรียนราชวินติ มธั ยม
สานกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1
3) นายสรุ พงษ์ กลา่ บุตร ครู โรงเรียนวัชรวทิ ยา
สานักงานเขตพืน้ ท่ีการศึกษามธั ยมศกึ ษากาแพงเพชร
2.2 ควำมสำมำรถในกำรคดิ
1) นางสรุ รี ตั น์ โชตวิ ชิ าศริ กิ ลุ รองผู้อานวยการโรงเรียนอนุบาลหนองบวั (เทพวิทยาคม)
สานักงานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศกึ ษานครสวรรค์ เขต 3
2) นางรจนา เทยี นจันทร์ ศึกษานิเทศกช์ านาญการพิเศษ
สานักงานศึกษาธิการจังหวัดสระแกว้
3) นางสาวสุภาวดี คานาดี ศึกษานิเทศกช์ านาญการ
สานกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษามัธยมศึกษากรงุ เทพมหานคร เขต 1
2.3 ควำมสำมำรถในกำรแกป้ ัญหำ
1) นายจรญู ดวงจรสั ครชู านาญการพเิ ศษ โรงเรียนอนิ ทรบ์ ุรี
สานักงานเขตพืน้ การศกึ ษามธั ยมศึกษาสงิ ห์บรุ ี อ่างทอง
2) นายดนุพล คาพา ครูชานาญการ โรงเรยี นบา้ นนาซ่าว
สานกั งานเขตพนื้ ที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 1
3) นายเกรียงศกั ดิ์ โชตวิ ิชาศริ กิ ุล ครู โรงเรยี นอนบุ าลหนองบวั (เทพวิทยาคม)
สานักงานเขตพนื้ ที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 3
2.4 ควำมสำมำรถในกำรใช้ทกั ษะชีวติ
1) นายยทุ ธกรณ์ กอ่ ศลิ ป์ ครูชานาญการ โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลยั
สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศกึ ษารอ้ ยเอ็ด ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6
2) นางสาวสรุ างคณา ธรรมพิทกั ษ์ ครูชานาญการ โรงเรียนควนขนนุ
สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามธั ยมศึกษาพัทลงุ

คมู่ อื การใช้เครื่องมือประเมนิ สมรรถนะสำ� คัญของผู้เรยี น 91
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)

3) นายธนวุฒิ มากเจรญิ ครู โรงเรียนสาริกา 90

43)) นนาายยธนนธิ วภิ ุฒทั ริ ์ มสรา้อกยเจเชรญิ้ือดี สานกั งานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศึกษานครนายก
45)) นนาายยนวิธริภาวทั ุธร์ วสดร้อีวรยวเิทช้อืยด์ ี คครรูู โโรรงงเเรรยีียนนสวชาริริกธรารมสาธิต
สสาานนักกั งงาานนเขเขตตพพ้นื ื้นทที่ก่ีการาศรึกศษึกาษมาัธปยรมะศถึกมษศากกึ รษงุ าเทนพคมรหนาานยคกร เขต 2
นครกั ูวโิชรงาเกราียรนศวกึ ชษิราธชรารนมาสญาธกิตารพเิ ศษ
สสาานนกักั งทาดนสเขอตบพท้นื าทงี่กกาารรศศึกึกษษามาธั ยมศกึ ษากรุงเทพมหานคร เขต 2
2.5 คว5ำ)มนสาำยมวำรราถวธุในกำรใชวด้เทวี ครวโนทิ ยโล์ ยี นักวิชาการศึกษาชานาญการพเิ ศษ
1) นายบรรฑูรณ์ สิงห์ดี ศสาึกนษักาทนดเิ ทสศอกบ์ชทาานงากญารกศาึกรษา
2.5 ควำมสำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยี สานกั งานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยนาท
12)) นนาายยบเจรษรฎฑารู ณ์ สกงิ้อหงสด์ าี คร ศศึึกกษษาานนเิิเททศศกก์ช์ชาานนาาญญกกาารร
32)) นนาายงกเจติ ษตฎิมาา กเนอ้ ตงรสพาคุกรกณะ สสาานนกัักงงาานนเเขขตตพพน้น้ืื ทที่่ีกกาารรศศึึกกษษาาปปรระะถถมมศศกึกึ ษษาาชเชัยียนงาใทหม่ เขต 3
ศครึกูชษาานนาเิ ญทศกกาช์รพานเิ ศาษญกโรางรเรียนเกาะพะงนั ศึกษา
43)) นนาางงสกาิตวอตไุิมราวรรณ พเนูลตทรรพัพุกยก์ ณะ สสาานนกัักงงาานนเเขขตตพพ้ืื้นนทท่ี่ีกกาารรศศึึกกษษาาปมธัรยะถมมศศกึ ึกษษาสาเุรชาียษงฎใหรธ์มา่ นเขี ชตุม3พร
54)) นนาางงสสาาววอนวุไรววรรรรณณ ศพรลู ีสทวรสั พั ดยิ์ ์ คครรูชู โารนงเารญยี กนาเกรพาะิเศพษะงโันรศงเกึ รษยี านเกาะพะงันศึกษา
สสาานนักกั งงาานนเเขขตตพพื้นน้ื ทท่ี่ีกกาารรศศึึกกษษาามมธธัั ยยมมศศึึกกษษาาสสรุรุ าาษษฎฎรรธ์์ธาานนีี ชชุมุมพพรร
คครรูู โโรรงงเเรรียียนนเวกดั าเะนพนิ ะพงรันะศกึ ษา
สสาานนักักงงาานนเเขขตตพพ้นนืื้ ทท่ีี่กกาารรศศึึกกษษาาปมธัรยะถมมศศึกกึษษาสารุระาษยอฎงรธ์ เขานตี ช1มุ พร
65)) นวา่างทส่ี าร.วตน.ญวว.ณรรชิ ณาภัชรศรสีพวรัสหดมิ์ รตั น์ คครรูผู โ้ชูร่วงเยรียโรนงวเดัรยีเนนนิ บพา้ รนะบวั ขาว (วันครู 2500)
สสาานนกกัั งงาานนเเขขตตพพื้นื้นทที่ี่กกาารรศศึึกกษษาาปปรระะถถมมศศกกึึ ษษาากระายฬอสงนิ เธข์ุ เตขต1 3
3. ผรู้ บั ผิด6ช) อวา่บทโ่ีครร.ตง.ญกำ.ณริชาภัชร พรหมรัตน์ ครูผ้ชู ว่ ย โรงเรียนบา้ นบัวขาว (วนั ครู 2500)
3. 1) นางสาวบังอร กมลวฒั นา สผาูอ้ นากั นงวายนกเขารตกพลื้นมุ่ ทพี่กฒั ารนศาึกเคษราอ่ื ปงรมะอื ถแมลศะกึ บษรากิ กาารฬกาสรนิ ทธด์ุ เสขอตบ3
นักวิชาการศกึ ษาชานาญการพเิ ศษ
ผรู้ บั ผดิ 312ช)))อนนนบาาาโยงงคสสจราาันงววทกพบรำงัิศ์รอมรัย สโกถกมชลุลยั ววคงัฒาศนไ์ พาบลู ย์ นผอู้ักาวนิชาวกยากราศรึกกษลุ่มาชพาฒั นนาญาเกคารรื่อพงมเิ ศอื ษและบรกิ ารการทดสอบ
42)) นนาายงฉจันันททนร์า สสกกุลุลววงงศศ์ไ์ไพพบบูลูลยย์์ นนักักววชิิชาากกาารรศศกึกึ ษษาาชชาานนาาญญกกาารรพพิเเิ ศศษษ
56765843)))))))) นนนนนนนนาาาาาาาางยงยยยยงสฉสววววเาฉันาิรรทิทวลวาาทยยวพิมววัชาานุธุธเิศรากมนิ ียัยทรรต์ ิ บบวพสโทวถดดกัววัอันชีีววภภลุงธัยรรจวาาุเ์ คววภนุงรริิททาศงัังาษษยยไ์ พ์์ีี บลู ย์ นนนนนนนนักััักกกัักกัักกววววววววชชชิิิชิชชชิิิิชาาาาาาาากกกกกกกกาาาาาาาารรรรรรรรศศศศศศศศึกกึกกกึกึึึึกึกษษษษษษษษาาาาาาาาชชชชปปชชาาาาาาฏฏนนนนนนิิบบาาาาาาตััตญญญญญญิกกิ กกกกกกาาาาาาาารรรรรรรรพพพพเิิเิเิเศศศศษษษษ
79)) นนาางยสเาฉวลสิมุภเกานียิตรตย์ิ ทชาอญงจนนุ อก ผนู้ชกั ว่วยชิ นากกั าวริชศาึกกษาราปฏิบตั กิ าร
810) )นนาางสงสาาวววเัชพรชินรทนิ รท์ ร์พโนั บธกเ์ุ ภคาา นผู้ชัก่ววยิชนากกั าวรชิ ศากึกษาราปฏบิ ตั กิ าร
ผบบู้อรรรรอณณกแำำ1น119313111บ22ธธ20121)))))า))ิิกกบ)))))นงนนนนนนำำนนนนนสปาาาาารราาาาาาาางยยยยกกกสงงงงงงงวววววสสสสสสสจจิิาครรษิิษาาาาาวาาัทาาวววววณณสววววลภภคเคภุบบพธธุุุุยีาาััททางังัชพพาลลนออริมิมยยีีรรินิตลลาายท์ร์วแวเทแกทแเชกมมดดลลลามมรรโธธบญวีวีััพพบบบลลีีกกรรกววัััวววยยนติิตววคฒฒััส์ส์อตตทิิทามมกนนกกิิยยบบาาลุลุ์์ ััตติิ ผผผผผู้ชช้ชูู้้ชชูู้ ว่่่ว่ว่ววยยยยยนนนนนกัักกักกัั วววววิชิิชชชิชิ าาาาากกกกกาาาาารรรรร
้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 4 - 6 4. ผผูช้้อู ่วายนนวยักกวิชาราสกาานรกั ทดสอบทางการศึกษา
4. นผผอูู้อ้ักาาวนนชิ าววกยยากกราาศรรกึสกษาลนุม่าักชพาทัฒนดนาสญาอเกคบารทร่อื าพงงมิเกศือาษแรศลึกะษบาริการการทดสอบ
ผู้อานวยการกลุม่ พฒั นาเครื่องมือและบรกิ ารการทดสอบ
5. นผชู้กั ว่วยิชนากกั าวรชิ ศากึกษาราชานาญการพเิ ศษ

5. ผอู้ อกแบบปก ผชู้ ่วยนกั วชิ าการ
นางสาวคัทลยี า แลบวั

92 คู่มอื การใชเ้ ครอ่ื งมอื ประเมินสมรรถนะส�ำคญั ของผเู้ รยี น
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560)


Click to View FlipBook Version