The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือการใช้เครื่องมือประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
ม.1-3

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

คู่มือการใช้เครื่องมือประเมินสมรรถนะฯ ม.1-3

คู่มือการใช้เครื่องมือประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
ม.1-3

แแบบบบททดดสสออบบเเชชงงิิ สสถถาานนกกาารรณณ์์ ชช้นั้นั มมัธัธยยมมศศกึึกษษาาปปีีทที่ี่ 11 –– 33 4455

โโชคชครรอ่ือ่ืาางงชชเเ..รร..ีแ้แี้ ..ียยี..จจ..นน..งง......................ใใ....หห............น้้น........กััก............เเ....รร........ียยี........นน............สส........ืบืบ............คค........้นน้............ขข........อ้้อ..........มม..........ลููล........เ.เ.......กก........ี่ย่ีย........วว..........กก..........บัับ..........สส..........ถถ........าา........นน............กก........าา........รร........ณณ............์์ตต............่่ออ........ไไ........ปป........นน............้ี้ี....แแ............ลล........้วว้........ดด........าา........เเ........นน........นินิชช......น้ััน้กก....จิิจ............กก........รร........รร........มม..........ตต..........าา........มม........ขข....เเ....อ้อ้ลล....ตตขข....ทท่่ออ......ไไ่ีี่....ปป............นน............ี้ี้ ................................................................................
อตขสตถปนถปนปปหขอสหึึงออง่่ถถออาาับบััญัญนนลลออกกงงาาสสววาาเเหหนนสสปปนนาา่ิ่ิาา่่ยยงงาาาามมมมศศ้ืื้าาออกกสสสสรรคคีคีคีีชชนนาาาาิง่ิ่งตตนนสสตตรรววีีววขขแแสสใใ่่าาณณออาาิิถถนนตตาาววาางงมมกกกกาาททดดรรปป์์เเาาสสนนตตจจลลๆๆี่ี่พพออััจจรราากก่่าาาา้อ้อาา่ืื่ออจจเเคคงงกกาาลลมมศศุุนนไไบบััญญรรจจืืออมมััใใยยๆๆาาัันนณณนนออะะกก่่ววออคคพพปปยย่่สสใใาาใใ์์ยยววนนชช่่าา้ื้ืันนั่่ญญงงูู่่ใใาาจจงง้้สสเเนนผผททมมยททยหหะะิ่ิ่งงลลสส่ไไีี่ ่ิิง่งรรเเคคแแาาดด่่ิิงงกกปปตตูู้้แแสสววโโ้รร้แแรร็็่อ่อนนนนลลดด่ิ่ิบัับงงววะะกกสสะะโโแแลลกกดดททลลาาเเาา้้ออววาาลลททรรยยบบรรรรดดมม้้แแออคคออีีกกแแททลลกกมมิินนโโาากกเเาา้้ออนน้้ไไททบบรรททไ้ไ้ขขใใมมขขโโฟฟคครรหหปปรรลลททิิททเเืื้้โโนนีียย้้สสัญัญววยยนน่่ีีถถีี่่เเ์์หหฟฟภภณณีีมมกกหหโโกกูู ููรรททลลาาาาิิดดดดาาตตืืออพพผผยยี่่ีเเสสัังงออ้้ขขหหสสีีกกสสแแงิ่ิ่งกก้ึ้ึงงนนมมาาแแาามมววลลจจรรรราาววดดผผ่่าาออาาฟฟะะดดววสสลลนนกกสสลลื้ื้นนออาา้้ออิิมม้อ้อกกนนีีฟฟกกนนมมมมกกาาททดดููสสแแมมรรใใัับบรร้้ววิิ่่ลลงงนนีีคคปปีียยสสแแยยะะปปุุณณนน์์ตตภภววปปจัจักก้้ดดออเเภภาารรจจปปาาลลพพงงะะาาุุบบรร้ืื้ออออ้้ออภภยยพพแแัันนาานนมมุุกกููมมเเกกแแศศสสขขตติิปป้้ไไลลััยยซซ่ื่ืออขขออ์์ใใรระะึ่่ึพพงงชชแแมมงงะะกกมมืื้้้้นนเเสสลลโโเเาาพพีีททททททฐฐะะาารร่่ืืั้้ังงออาา//รรศศปปรรววกกหหนนมมชชแแ้้ออิิธธาารรคคนนลลลลงงีีททรรืืออกกววงงิิะะดดาากกกกาานนััแแสสงงตตาามมาาไไลลฟฟภภ่่จจาามมรรรร้้ววิิสสาาัังงดดปปูู้้ใใ่่จจพพิิหหกกหห้้าายยออๆๆสสพพเ้เ้กกรรัังงงงกก์์ืื้อื้อืนนใใกกไไใใิดิดเเนนดดนนลลคคัันนททปป้้ศศสสดดมมแแ่ีี่กกยยญััญ่่าางงปปีีแแหห่่าาออสสผผหหลรรลรรมมลลตตลลาาปปิิะมมะ่่สสงงตตรรกกชชนนาานน่่งง์์ออ่่ตตรรีีณณววเเผผ้้าาเเ่่าาะะปปภภนนลลกกงงทท้้ืืดดออาาใใืื่่ออาาพพิิบบหหนนนนๆๆรรงง้้

11ตตตต.. ออออบบบบจจ11าา11......กก11..........22....สส....อนนอ....จจถถแแ........าาักกัาาาา....ลลกก....กกเเนน....ะะรร....ขขาา....กกบบยียี....ศศ้้ออ....าา....นนออไไ....รร....ด1ด1มมกก....ณณ......้้ออ....1ขข1ีวีว........ท์์ทยยิธธิ้้ออ....จจ....า่า่กีีก่ีี่กกดด....งง....งงาา....าาีีแแเเ....ไไลลรร....หหรรลล....แแืืออ....นนบบ....ะะ....กกกก....ดดขา้ขา้ ....้้ววปป....งง้้ใใออ....ิธิธ....ัญญัหห....เเีีกก....สส้้....หหาา....จจียีย....รร....าางง....หหแแ....สสตต....รรกก....่ิงง่ิออ....ืออื....แแ้ปป้ ....บบ....ขขววััญญ....คค....อ้อ้ดด........หหาาโโ....ลล....ถถตตาา....้อ้อ....ททาาแ้แ้....มม....มม....ยย่ีี่สส....ททตต....้้อองง....เ่ีเ่ี....ขข่่ออดด....กก....ออไไคค....ดิิด....ปปงง....ลล....จจววนน....้้ออ....าาิธธิ....้ีี้งง....กก((ีกีก....กก....กกกก....าา....ัับบาา....าารร....รรสส....รรแแ....คคถถ....ปปกก....ิิดด....าานน....ป้้ปนน....ออ....เเััญญ....กกปปยย........าาหห....่า่าื้ื้ออ....รร....งงาานน....ณณมม........ขข....ีววี์์มม....ออ....ิจจิ....าางง....าา....สส....11รร........าาณณ....วว....รร....ิธิธ....ญญชช....ีี....นนพ.พ...าา........ิดดิณณรร........ตต้้ออ....))....า่า่มม........งงออ........ธธ....ๆๆ....บิิบ............ใใาา....นน....ยย........แแเเ....หห....หห........ตต....ลล....ุผุผ....่ง่ง....ลล....นน........กก....า้้า....าา........รรดด....เเ....ินิน....ลล........ืืออ....แแ....กก....ลล............ะะ............
23ตต3ต2ต....ออออนนนนบบบบสถเออถเสหหัักกกักั ึงึงรรยย....ตตเเเเโโ้าา้....่าา่ รรรร....คคุผุผงง....งงยยีียยีี....รรสสไไ....ลล....นนนนรรงงรร....ปป....สสสสสสรร........รรรรคค....าาาา....ะะใใา้า้....มมมม)์)์หห....กกงง....าาาา....หห้้ออออ....รรรร....ธธ....บบรรถถถถ......ิิอือืบบ..สสสส........((แแาา....รรรรกก....ยยบบ....า้า้้้าาาา.....รร.งงงง..บบรร....ชแชแ.าา...คค...แ.แยย....บบน้ินิ้ ..ดิิด..ผผ....ลลงงบบ....เเนน....ะะาาชช....จจ....ใในนเเ....งิิงาานน....ออรร....หหลล....ีียยกกะะ....รร....ออดดาา....บบอืือ....งงรร....ววบบ....ดดออสส....ธิิธ....))ดััดยย....รรกีีก......า่า่..แแ้าา้าา......งง..งงปปรร....งง..แแ..แแ....ลลา่า่....บบ....กกงงยย......บบ..สส้ปป้ใใ........นนจจิง่่ิง....ญัญั ....มมาา....กก....หหลล..ีอีอ..าา......าา..ออยยรร....แแ....แแงงูู่่มม........ลลววกก....าา....า่่าะะ....ใใป้ป้ ....มมชชแแ....ัญญั......คีคี้ใ้ใ..นน....นน..หห..วววว........กกาาาาทท........มมาาสส....าา....รร..สสิ่งงิ่..งง....แแแแ....ัมัมกก....กก....ววาาพพ........้ปป้ดดรร....นันั....พพลลััญญ........ธธ..อ้อ้..ัฒัฒ....หหก์์ก....มม....ับบัาานน....จจ....สส....ปปาา....าา..ิ่งิ่ง..ตตจััจ....กกแแ....อ่่อ....จจสส....วว....ยยยัยัถถ....ดด....ออทท....าาลล....ดด....นน่ีเ่ีเ....้อ้อกก....ขขกก....มม....ีย่่ียออ..าา..จจ..วว..งง..รร....าาขข..ผผ..ณณ....กก..้้ออ..ลล....ไ์ไ์..สส..งง..งงดด....ถถ..กกาา....้้ออ....าานนบับั......ยย..นน....ปป....า่่า((..กก...ก.กญัญั..งง....าา..ไไาา....หหรรรร....รร....ณณ..าา..คค....ใใ..แแ..หหิดดิ์ไ์ไ........ลลดด....อ้้อ....ะะ้้....ธธ....มม....บิบิ........ีี ....าา........ยย........

คมู่ ือการใช้เครือ่ งมือประเมินสมรรถนะส�ำคญั ของผู้เรยี น 45 ้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

46

เกณฑก์ ารประเมินแบบทดสอบเชิงสถานการณ์

ประเดน็ การ ระดับปรับปรงุ ระดับพอใช้ ระดับดี ระดับดีเยยี่ ม
พิจารณา (1 คะแนน) (2 คะแนน) (3 คะแนน) (4 คะแนน)
การคดิ อยา่ งมี สามารถระบคุ วามเข้าใจที่ จากระดบั ปรบั ปรุงและ จากระดบั พอใช้และ จากระดบั ดีและ
วจิ ารณญาณ หลากหลายในสถานการณ์ สามารถลงขอ้ สรปุ ได้ สามารถระบุข้อโต้แย้งท่ี สามารถระบเุ หตผุ ล
แล้วนามาตดั สินใจเลือก อยา่ งถูกต้อง สอดคลอ้ งกบั ถานการณ์ ของขอ้ โต้แย้งนน้ั
วิธีการแกป้ ญั หาและ
การคิดเชิง ประเมินความเหมาะสม
ระบบ พรอ้ มแสดงการแปล
ความหมายข้อมลู และ
หลกั ฐานเชงิ ประจกั ษไ์ ด้
สามารถวิเคราะหป์ จั จยั ท่ี จากระดบั ปรับปรงุ และ จากระดบั พอใชแ้ ละสรา้ ง จากระดับดีและสามารถ
เก่ยี วขอ้ งในสถานการณ์นน้ั สามารถวเิ คราะหแ์ นวโน้ม แบบจาลองเพื่อแสดง วิเคราะห์แนวโนม้ การ
เพื่อเชื่อมโยงจัดหมวดหมู่ การเปลี่ยนแปลงของ โครงสร้างของสถานการณ์ เปล่ียนแปลงการสร้าง
กาหนดตวั แปร วเิ คราะห์ สถานการณ์นน้ั และ ได้ แบบจาลองความคดิ
ความสมั พนั ธเ์ ชงิ เหตแุ ละผล สรา้ งแบบจาลอง เพอื่ อธบิ ายแนวคดิ ทใี่ ช้
เปน็ แบบแผนในการสรา้ ง อย่างง่ายได้ ในการออกแบบระบบ
แบบจาลองอย่างง่ายได้ ได้

การคดิ สามารถพฒั นาชน้ิ งานหรอื จากระดบั ปรบั ปรุง จากระดบั พอใช้และ จากระดบั ดีและ
สรา้ งสรรค์ วธิ ีการเพือ่ แกป้ ญหาจาก และสามารถนา สามารถพฒั นาชิ้นงาน สามารถนาความคดิ ท่ี
สถานการณจ์ ากแนวคดิ ความคิดท่ีแปลกใหม่ท่ี วธิ กี ารหรือนวัตกรรมเพื่อ แปลกใหม่ทีไ่ มซ่ ้าใคร
ขอ้ มลู ท่ีหลากหลายและ ไม่ซ้าใครหรือพัฒนา แกป้ ัญหาโดยแจกแจง หรือพัฒนาต่อยอด
ดัดแปลงจากสง่ิ ท่ีมอี ยู่ หรือ ตอ่ ยอดจากของเดมิ ให้ รายละเอยี ดการพัฒนา จากของเดมิ ให้
นาสง่ิ อ่นื มาทดแทน ส่งิ ที่ เหมาะสมต่อการใช้งาน ชิน้ งาน วิธกี าร หรือ เหมาะสมต่อการใช้
ขาด 1 วธิ ี โดยแจกแจง จรงิ จากส่ิงท่มี อี ยู่ หรือ นวัตกรรม และขยาย งานจรงิ จากสงิ่ ท่ีมอี ยู่
รายละเอยี ดวิธีการ นาสิ่งอน่ื มาทดแทนสง่ิ ความคดิ โดยมกี าร หรือนาส่ิงอื่นมา
แก้ปญั หาหรอื ขยาย ทีข่ าด 2 วิธี โดยแจกแจง ประเมนิ ชิ้นงาน วธิ ีการ ทดแทนสงิ่ ทขี่ าด
ความคดิ ได้ รายละเอียดวธิ กี าร หรอื นวตั กรรมจากเกณฑ์ มากกวา่ 2 วิธี ในเวลา
แก้ปัญหาหรอื ขยาย และเสนอแนวทาง ทีก่ าหนด
ความคดิ ได้ ปรับปรงุ
หมายเหตุ คะแนนท่ีกาหนดใหเ้ ป็นคะแนนเบื้องตน้ สามารถปรบั คะแนนใหเ้ พิม่ ขึน้ ได้ตามต้องการ

้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 วธิ ีการใช้แบบทดสอบเชิงสถานการณ์
1) ครใู ห้นักเรยี นอา่ นแบบทดสอบเชงิ สถานการณ์ใหเ้ ข้าใจ
2) จากน้ันครูให้นักเรียนสืบค้นสถานการณ์ข้างต้น แล้วให้นักเรียนดาเนินกิจกรรมตามข้อที่

กาหนดให้
3) ครูประเมินผลตามแนวทางการทากิจกรรมของนักเรียนในแต่ละข้อ หลังนักเรียนดาเนิน

กิจกรรมแต่ละข้อเสร็จแล้วว่าอยู่ในเกณฑ์การประเมินสมรรถนะในการคิดตามประเด็นใด และอยู่ในระดับใด
โดยใช้เกณฑ์การประเมินสมรรถนะในการคิด ยกตวั อยา่ งเชน่

46 คมู่ อื การใชเ้ ครอ่ื งมือประเมินสมรรถนะสำ� คญั ของผเู้ รยี น
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560)

47

กจิ กรรมข้อท่ี 1.1 นกั เรียนมวี ิธีการแก้ปญั หาสิ่งแวดลอ้ มที่เกิดจากการปนเป้ือนของสารชนิด
ตา่ ง ๆ ในแหล่งน้า ดนิ และอากาศได้อย่างไรบ้าง ถา้ นกั เรียนดาเนินกิจกรรมนี้ได้ น่นั คือตรงประเด็นพจิ ารณา
การคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ ในระดับปรับปรงุ (ไดค้ ะแนน 1 คะแนน) รายละเอียดตามเกณฑ์การประเมิน
ความสามารถในการคดิ

4) ครสู รุปผลการประเมินแบบทดสอบเชิงสถานการณ์ และแบบบนั ทกึ คะแนนและแปลผลการคิด
ในภาพรวม ดงั น้ี

แบบบนั ทกึ คะแนนแบบทดสอบเชงิ สถานการณ์ สาหรบั นักเรยี นรายบุคคล
ความสามารถในการคิด ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 1 – 3

ผูร้ ับการประเมนิ .................................................................................ชั้น...............เลขท่.ี ......................................
ผู้ประเมนิ .........................................................................วัน/เดอื น/ปี ท่ีประเมนิ ..................................................
**************************************************************************************************
คะแนน คะแนนรวม คะแนนเฉล่ีย ผลการ
รายการประเมินด้านการคดิ 1 23 4 (12 คะแนน) (รวม/3) ประเมิน หมายเหตุ

การคดิ อยา่ งมวี ิจารณญาณ

การคดิ เชงิ ระบบ
การคดิ สร้างสรรค์

การแปลผล
คะแนนเฉล่ยี 3.26 – 4.00 หมายถึง นักเรียนมสี มรรถนะในการคิดอยู่ในระดับดีเยี่ยม
คะแนนเฉลี่ย 2.51 – 3.25 หมายถึง นกั เรียนมสี มรรถนะในการคิดอยใู่ นระดับดี
คะแนนเฉลี่ย 1.76 – 2.50 หมายถงึ นกั เรยี นมสี มรรถนะในการคดิ อย่ใู นระดับพอใช้
คะแนนเฉลี่ย 1.00 – 1.75 หมายถึง นกั เรียนมีสมรรถนะในการคิดอย่ใู นระดบั ปรบั ปรุง

กรณีท่ีผลการประเมินพบวา่ นักเรียนมีระดับคุณภาพทักษะในการคิดด้านใด อยู่ในระดับปรับปรุงหรือ
ระดับพอใช้ครูควรหาแนวทางการพัฒนานักเรียนให้มีคุณภาพเพิ่มสูงขึ้นจากระดับเดิมจนความสามารถในการคิด
ของนกั เรียนอยู่ในระดับดีหรือระดับดีเยีย่ ม

คมู่ ือการใช้เครือ่ งมือประเมนิ สมรรถนะสำ� คัญของผเู้ รียน 47 ้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

48

แบบประเมินตรวจสอบรายการความสามารถในการคดิ
สาหรบั นักเรียนประเมนิ ตนเองและครูผู้สอนประเมนิ นกั เรียน
ชอื่ ผถู้ กู ประเมิน ........................................................................ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่................. เลขที.่ .................
โรงเรยี น ................................................................................................................................................................
ช่ือผูป้ ระเมนิ .........................................................................................................................................................

ดา้ น รายการ ได้ ไมไ่ ด้

การคดิ 1. ระบุความเข้าใจที่หลากหลายจากสถานการณ์ที่ซับซอ้ น
อยา่ งมี 2. ตดั สนิ ใจเลอื กคาตอบและประเมนิ ความเหมาะสมของคากล่าวอ้าง
วจิ ารณญาณ 3. แปลความหมายข้อมูลและหลกั ฐานเชิงประจกั ษ์

4. ลงขอ้ สรปุ ได้อย่างถกู ต้อง

5. ระบขุ อ้ โต้แย้ง

6. ระบุขอ้ โตแ้ ย้งท่สี อดคล้องกบั สถานการณม์ ีความเป็นเหตุเปน็ ผลกนั

7. สามารถระบุเหตุผลของข้อโตแ้ ย้ง

การคิด 1. วเิ คราะหป์ ัจจัยที่เกีย่ วข้องกับระบบหรือสถานการณ์
เชงิ ระบบ 2. เชื่อมโยงจัดหมวดหม่หู รือกาหนดตัวแปร

3. วเิ คราะหค์ วามสมั พันธเ์ ชงิ เหตแุ ละผลเพ่ือสรา้ งแบบจาลองอย่างงา่ ย
4. ระบุแบบแผนของพฤติกรรมและองค์ประกอบต่าง ๆ เพือ่ สร้างแบบจาลอง

5. ระบุแบบแผนของพฤติกรรมและองคป์ ระกอบตา่ ง ๆ เพอ่ื วิเคราะหแ์ นวโน้ม
การเปลยี่ นแปลงของระบบหรอื สถานการณส์ าหรับสร้างแบบจาลองอย่างง่าย

6. สรา้ งแบบจาลองเพ่ือแสดงโครงสร้างของระบบ หรอื สถานการณ์

การคิด 7. วิเคราะห์ความสมั พนั ธ์เชงิ เหตุและผลของระบบหรือสถานการณ์ท่ียาก
สรา้ งสรรค์ และซับซอ้ น
8. สร้างแบบจาลองความคิดเพ่ืออธิบายแนวคิดท่ีใช้ในการออกแบบ
้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 ระบบ
1. พัฒนาชิ้นงานหรือวิธีการเพื่อแก้ปัญหาท่ีซับซ้อนด้วยการผสมผสาน
จากแนวคิดท่ีหลากหลายและดัดแปลงจากส่ิงท่ีมีอยู่หรือนาสิ่งอื่นมา
ทดแทนสง่ิ ท่ีขาด 1 วิธี
2. แจกแจงรายละเอียดของวิธีการแก้ปัญหาหรือขยายความคดิ ได้บ้าง
3. ประเมินผลงานจากเกณฑ์
4. พัฒนาชิ้นงานหรือวิธีการเพ่ือแก้ปัญหาท่ีซับซ้อนโดยใช้ความคิดที่
แปลกใหม่ไม่ซ้าใคร หรือพัฒนาต่อยอดจากของเดิมให้เหมาะสมต่อการ
ใช้งานจริงจากสิ่งท่ีมีอยู่หรือนาสิ่งอื่นมาทดแทนส่ิงที่ขาด 2 วิธี ในเวลาที่
กาหนด
5. แจกแจงรายละเอียดของวิธีการแกป้ ัญหาหรือขยายความคดิ
6. ประเมินผลงานจากเกณฑ์

48 คมู่ ือการใชเ้ ครอ่ื งมอื ประเมินสมรรถนะสำ� คัญของผเู้ รียน
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

49

ด้าน รายการ ได้ ไมไ่ ด้

7. พัฒนาช้ินงาน วิธีการหรือนวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหาที่ยากและซับซ้อน
จากสงิ่ ทม่ี ีอยหู่ รือนาสงิ่ อืน่ มาทดแทนสงิ่ ที่ขาด 2 วิธี ในเวลาทก่ี าหนด

8. แจกแจงรายละเอียดของการพัฒนาชิ้นงาน วิธีการหรือนวัตกรรมและ
ขยายความคดิ
9. ประเมินชิ้นงาน วิธีการหรือนวัตกรรมจากเกณฑ์และเสนอแนวทาง
ปรับปรงุ
10. พัฒนาชิ้นงาน วิธีการหรือนวัตกรรมเพ่ือแก้ปัญหาที่ยากและซับซ้อน
จากส่ิงท่ีมีอยู่หรือนาสิ่งอ่ืนมาทดแทนส่ิงท่ีขาด มากกว่า 2 วิธี ในเวลาที่
กาหนด

หมายเหตุ : แนวทางในการนาเครื่องมือไปประยุกต์ใช้ สามารถใช้เคร่ืองมือนี้สาหรับครูผู้สอนในการประเมิน
ระดับความสามารถของนักเรียนรายบุคคลหรือนักเรียนประเมินตนเองเพ่ือให้ทราบระดับความสามารถ
และนาขอ้ มูลที่ไดใ้ ช้ในการวางแผนพฒั นาระดับความสามารถด้านการคิดขน้ั สงู ของนักเรยี นตอ่ ไป

เกณฑ์การแปลผล (1 คะแนน)
การแปลผลการคิดอย่างมวี ิจารณญาณ (2 คะแนน)
ทาได้ข้อ 1 – 4 หมายถึง นกั เรียนมกี ารคิดอย่างมีวจิ ารณญาณอยู่ในระดบั ปรับปรุง (3 คะแนน)
ทาได้ขอ้ 1 – 5 หมายถงึ นักเรียนมกี ารคิดอย่างมีวจิ ารณญาณอย่ใู นระดบั พอใช้ (4 คะแนน)
ทาได้ขอ้ 1 – 6 หมายถงึ นักเรียนมกี ารคิดอย่างมวี จิ ารณญาณอยใู่ นระดับดี (1 คะแนน)
ทาได้ขอ้ 1 – 7 หมายถึง นกั เรยี นมีการคิดอย่างมวี จิ ารณญาณอยใู่ นระดบั ดีเยย่ี ม (2 คะแนน)
การแปลผลการคิดเชิงระบบ (3 คะแนน)
ทาได้ข้อ 1 – 4 หมายถึง นกั เรยี นมีการคิดเชิงระบบอยู่ในระดับปรบั ปรุง (4 คะแนน)
ทาได้ขอ้ 1 – 5 หมายถงึ นักเรยี นมกี ารคิดเชิงระบบอยู่ในระดบั พอใช้ (1 คะแนน)
ทาได้ข้อ 1 – 6 หมายถงึ นักเรยี นมกี ารคิดเชิงระบบอยู่ในระดับดี (3 คะแนน)
ทาได้ข้อ 1 – 8 หมายถึง นกั เรียนมกี ารคิดเชิงระบบอยู่ในระดับดีเยี่ยม (2 คะแนน)
การแปลผลการคดิ สรา้ งสรรค์ (4 คะแนน)
ทาได้ขอ้ 1 – 3 หมายถงึ นักเรียนมกี ารคิดสร้างสรรคอ์ ย่ใู นระดบั ปรับปรุง
ทาได้ขอ้ 1 – 9 หมายถงึ นักเรียนมกี ารคิดสร้างสรรคอ์ ยใู่ นระดับดี
ทาได้ขอ้ 1 – 6 หมายถึง นักเรยี นมีการคิดสร้างสรรค์อยใู่ นระดับพอใช้
ทาได้ขอ้ 1 – 10 หมายถึง นักเรยี นมกี ารคิดสร้างสรรค์อยูใ่ นระดับดีเย่ยี ม

หมายเหตุ : ถา้ ไมต่ รงตามเกณฑก์ ารประเมินข้างตน้ ใหอ้ ย่ใู นระดบั ปรับปรงุ

คู่มอื การใชเ้ คร่ืองมือประเมินสมรรถนะส�ำคญั ของผู้เรยี น 49 ้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)

้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 50

วิธีการใช้
การนาเครื่องมือประเมนิ สาหรับนักเรยี นประเมนิ ตนเองและครูประเมินนกั เรียนไปใช้ มีดังน้ี
 แบบประเมินความสามารถในการคดิ สาหรบั นกั เรยี นประเมินตนเอง

1) ครูศึกษาแบบประเมนิ ความสามารถในการคดิ สาหรบั นักเรียน
2) ครูอธิบายการประเมินตนเองตามแบบประเมินความสามารถในการคิดสาหรับนักเรียน
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 – 3
3) เม่ือนักเรียนเข้าใจแล้ว นักเรียนประเมินตนเองให้ครบตามความสามารถในการคิดท้ัง 3 ด้าน
โดยประเด็นใดท่ีนักเรียนทาได้ ให้ใส่เครื่องหมาย  ในช่อง “ได้” และประเด็นใดท่ีนักเรียนทาไม่ได้
ให้ใสเ่ คร่ืองหมาย  ในช่อง “ไม่ได”้
4) ครสู รุปผลการประเมินตามเกณฑ์ประเมินสมรรถนะของนักเรยี นรายบุคคล เกณฑก์ ารประเมิน
ยกตัวอยา่ งเช่น เกณฑก์ ารประเมนิ ความสามารถในการคิดดา้ นการคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ ถ้านกั เรยี นทาไดข้ อ้ 1 – 4
ทั้งหมด หมายถึง นักเรียนมีการคิดด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ในระดับปรับปรุง ถ้าผลการประเมิน
นักเรียนทาได้ข้อ 1 – 5 ทั้งหมด หมายถึง นักเรียนมีการคิดด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ในระดับพอใช้
ถ้าผล การประเมินนักเรียนทาได้ข้อ 1 – 6 ทั้งหมด หมายถึง นักเรียนมีการคิดด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
ในระดับดี และถา้ ผลการประเมนิ นักเรียนทาได้ข้อ 1 – 7 ทงั้ หมด หมายถึง นักเรยี นมกี ารคดิ ดา้ นการคิดอย่าง
มีวิจารณญาณในระดับดีเยี่ยม (รายละเอียดศึกษาได้จากเกณฑ์การประเมินความสามารถในการคิด ตามลาดับ
ขัน้ ตอน)
5) ครูสรุปผลการประเมินดังกล่าวกรณีท่ีผลการประเมินพบว่า นักเรียนมีระดับคุณภาพทักษะ
การคิดด้านใดอยใู่ นระดับปรับปรุงหรือระดับพอใช้ครูควรหาแนวทางการพัฒนานกั เรียนให้มคี ุณภาพเพิ่มสูงข้ึน
จากระดับเดิมจนความสามารถในการคิดของนักเรียนอยใู่ นระดับดีหรอื ระดบั ดเี ยย่ี ม
 แบบประเมนิ ความสามารถในการคิดสาหรับครผู ูส้ อนประเมนิ นกั เรียน
1) ครูศกึ ษาแบบประเมนิ ความสามารถในการคิด ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 – 3
2) ครูใช้แบบประเมินความสามารถในการคิด ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1 – 3 ในการประเมินนักเรียน
เปน็ รายบคุ คลให้ครบทกุ ข้อ โดยประเด็นใดท่ีนักเรียนทาได้ ใหใ้ สเ่ ครอ่ื งหมาย  ในช่อง “ได้” และประเด็นใด
ทีน่ ักเรียนทาไมไ่ ด้ ใหใ้ สเ่ คร่ืองหมาย  ในช่อง “ไมไ่ ด้”
3) ครูสรุปผลการประเมินตามเกณฑ์ประเมินความของนักเรียนรายบุคคล เกณฑ์การประเมิน
ยกตัวอย่างเช่น เกณฑ์การประเมินความสามารถในการคิดด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ถ้านักเรียนทาได้
ข้อ 1 – 4 ท้ังหมด หมายถึง นักเรียน มีการคิดด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ในระดับ ปรับปรุง
ถ้าผลการประเมินนักเรียนทาได้ข้อ 1 – 5 ทั้งหมดหมายถึง นักเรียนมีการคิดด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
ในระดบั พอใช้ ถ้าผล การประเมินนักเรยี นทาได้ข้อ 1 – 6 ทง้ั หมด หมายถึง นักเรียนมกี ารคดิ ด้านการคดิ อย่างมี
วิจารณญาณ ในระดับดี และถ้าผลการประเมินนักเรียนทาได้ข้อ 1 – 7 ทั้งหมด หมายถึง นักเรียนมีการคิด
ด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ในระดับดีเยี่ยม (รายละเอียดศึกษาได้จากเกณฑ์การประเมินความสามารถ
ในการคดิ ตามลาดบั ขนั้ ตอน)
4) ครูสรุปผลการประเมินตามเกณฑ์ของนักเรียนเป็นรายบุคคลตามแบบบันทึกผลการประเมิน
เปน็ รายบุคคล
5) ครูสรุปผลการประเมินดังกล่าว กรณีท่ีผลการประเมินพบว่า นักเรียนมีระดับคุณภาพทักษะ
การคดิ ด้านใดอยใู่ นระดับปรับปรุงหรือระดบั พอใช้ ครคู วรหาแนวทางการพัฒนานกั เรยี นให้มีคุณภาพเพิ่มสูงข้ึน
จากระดับเดมิ จนความสามารถในการคิดของนักเรียนอยู่ในระดับดหี รอื ระดับดเี ย่ยี ม

50 คมู่ อื การใชเ้ ครอ่ื งมอื ประเมนิ สมรรถนะส�ำคัญของผเู้ รยี น
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)

51

แบบประเมนิ ผลงาน/ช้ินงาน/นวัตกรรม/กระบวนการทางาน

คาชี้แจง แบบประเมินฉบบั น้เี ป็นแนวทางการประเมินในการคิดเชงิ บรู ณาการ ซงึ่ ได้จากการสังเคราะหก์ ารคดิ
ท้ัง 3 ด้าน ได้แก่ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ การคิดเชิงระบบ การคิดสร้างสรรค์ สาหรับนาไป
ประยุกต์ใช้ประเมินชิ้นงาน/ผลงาน/นวัตกรรม/กระบวนการทางาน ตามความเหมาะสมและบริบท
ของแตล่ ะกิจกรรม

ชื่อชน้ิ งาน .......................................................
ชื่อผ้ถู กู ประเมิน ...................................................................... ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี................. เลขท่.ี .................
โรงเรียน ......................................................... ชือ่ ผปู้ ระเมิน ...............................................................................

รายการประเมนิ ด้านการคดิ 1 คะแนน คะแนนรวม คะแนนเฉลย่ี ผลการ หมายเหตุ
การคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ 23 4 (12 คะแนน) (รวม/3) ประเมนิ

การคิดเชงิ ระบบ
การคดิ สร้างสรรค์

ข้อเสนอแนะ :
- ............................................................................................................................. ...............................................
- ............................................................................................................................. ...............................................
เกณฑ์การประเมนิ ผลงาน/ชน้ิ งาน/นวัตกรรม/กระบวนการทางาน
ใชเ้ กณฑ์การประเมินเดยี วกับแบบทดสอบเชิงสถานการณ์
วิธกี ารใช้แบบประเมินผลงาน/ชิน้ งาน/นวตั กรรม/กระบวนการทางาน
การนาเครื่องมือประเมนิ ไปใช้ในการประเมิน มีดงั นี้
1) ครูศึกษา ทาความเข้าใจแบบประเมินความสามารถในการคิด ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 1 – 3
อย่างละเอียด แบบประเมินฉบับน้ีเป็นแนวทางการประเมินการคิดเชิงบูรณาการ ซึ่งได้จากการสังเคราะห์
การคดิ ทัง้ 3 ดา้ น ไดแ้ ก่ การคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ การคิดเชิงระบบ การคิดสรา้ งสรรค์
2) ครใู ช้แบบประเมนิ ผลงาน/ชิน้ งาน/นวตั กรรม/กระบวนการทางาน ตามเกณฑก์ ารประเมนิ
3) ครสู รปุ ผลการประเมินแยกแตล่ ะด้าน และรวมคะแนนพร้อมแปลผลคะแนนรวมลงแบบบนั ทกึ ดังน้ี
แบบบนั ทึกสรปุ ผลการประเมนิ ความสามารถในการคิดของผเู้ รียน
ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 1 – 3

ระดบั คะแนนพฤตกิ รรม

เลขท่ี ชอ่ื – สกลุ นกั เรยี น การคิดอย่างมี การคิดเชิง การคดิ คะแนนรวม คะแนนเฉลีย่ ผลการ หมายเหตุ
วิจารณญาณ ระบบ สร้างสรรค์ (12 คะแนน) (รวม/3) ประเมนิ
(4 คะแนน) (4 คะแนน) (4 คะแนน)

1 ้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
2
3
4
5

คมู่ อื การใชเ้ ครื่องมือประเมนิ สมรรถนะส�ำคัญของผเู้ รยี น 51
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)

52

การแปลผล
คะแนนเฉล่ยี 3.26 – 4.00 หมายถงึ นกั เรยี นมีสมรรถนะในการคิดอยู่ในระดับดเี ยย่ี ม
คะแนนเฉลี่ย 2.51 – 3.25 หมายถงึ นกั เรียนมีสมรรถนะในการคดิ อยูใ่ นระดับดี
คะแนนเฉลยี่ 1.76 – 2.50 หมายถงึ นักเรยี นมสี มรรถนะในการคดิ อยู่ในระดับพอใช้
คะแนนเฉลยี่ 1.00 – 1.75 หมายถงึ นักเรยี นมีสมรรถนะในการคิดอยใู่ นระดับปรบั ปรุง
4) ครูสรุปผลการประเมินดังกล่าว กรณีท่ีผลการประเมินพบว่า นักเรียนมีระดับคุณภาพทักษะการคิด

ด้านใดอยู่ในระดับปรับปรุงหรือระดับพอใช้ ครูควรหาแนวทางการพัฒนานักเรียนให้มีคุณภาพเพิ่มสูงขึ้น
จากระดับเดมิ จนความสามารถในการคดิ ของนักเรยี นอยใู่ นระดับดหี รือระดับดีเยยี่ ม

2.3 คเควรา่อื มงสมาอื มปาระถเใมนินกคาวรแามกสป้ าัญมหาารถในการแกป้ ญั หา

กรอบโครงสร้างเครอื่ งมอื ประเมินสมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รยี น ดา้ นความสามารถในการแก้ปญั หา

นยิ านมยิ สามมรสรมถรนระถสนำ� ะคสัญาค ญั ตัวชตว้ีั ดัช ้ีวดั ลักเษครณื่อะงเมคือรอื่ งมอื
ความสามารถในการแก้ปัญหา ระบุปัญหาและสาเหตุของปัญหาที่ยาก - แบบทดสอบ
เป็นความสามารถการแก้ปัญหาและ และซับซ้อนและมีผลกระทบต่อสังคม เชิงสถานการณ์
อปุ สรรคต่าง ๆ ทเี่ ผชิญได้อย่างถูกต้อง เสนอวิธีการ ระบุสาเหตุของปัญหาและ - แบบประเมิน
เหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล ประเมนิ ผลกระทบของปัญหา โดยใช้วิธีการ ตรวจสอบรายการ
คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจ ที่เหมาะสม วิเคราะห์ปัญหาท่ีซับซ้อน - แบบประเมนิ
ความสัมพันธ์และการเปลี่ยนแปลง ออกเป็นปัญหาย่อย ๆ ออกแบบวิธีการ ผลงาน/ชิน้ งาน/
ของเหตุการณต์ ่าง ๆ ในสังคม แสวงหา แก้ปัญหา เสนอทางเลือกในการแก้ปัญหา นวตั กรรม/
ความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการ โดยมีเกณฑ์สาหรับเลือกวิธีการแก้ปัญหาที่ กระบวนการ
ป้องกันและแก้ไขปัญหา และมีการ เหมาะสม วางแผนการปฏิบัติเพ่ือแก้ปัญหา ทางาน
ตัดสินใจท่ีมีประสิทธิภาพโดยคานึงถึง และใช้กระบวนการติดตามแผนการ
ผลกระทบท่ีเกิดขึ้นต่อตนเอง สังคม แก้ปญั หาเพ่ือการตดั สินใจได้
และส่งิ แวดล้อม

้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 เครือ่ งมือประเมนิ สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน ดา้ นความสามารถในการแกป้ ัญหา
จากกรอบโครงสร้างเคร่ืองมือประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ด้านความสามารถในการแก้ปัญหา
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 - 3 สามารถนามาสร้างเคร่อื งมือประเมินแบบตา่ ง ๆ ไดด้ งั น้ี

❖ แบบทดสอบเชงิ สถานการณ์
❖ แบบประเมนิ แตบรบวจปสรอะบเมรินาตยรกวาจรสอบรายการ
❖ แบบประเมินผลงาน/ชิน้ งาน/นวตั กรรม/กระบวนการทางาน

รายละเอยี ดของเครื่องมือ การแปลผลและวธิ กี ารใช้ มดี งั น้ี

52 คูม่ อื การใชเ้ ครือ่ งมือประเมนิ สมรรถนะสำ� คัญของผเู้ รียน
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)

53

แบบทดสอบเชิงสถานการณ์ ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 1 – 3
ช่ือ .............................................................................................................ชัน้ ...................เลขที่...........................
โรงเรียน ................................................................................................................................................................
คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรียนสืบค้นขอ้ มลู เก่ยี วกบั สถานการณ์ต่อไปนี้ แล้วดาเนนิ กจิ กรรมตามข้อต่อไปนี้
สถานการณ์

ในปัจจุบันปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดข้ึนจากการปนเปื้อนของสารชนิดต่าง ๆ ในแหล่งน้า ดิน
อากาศ นอกจากจะส่งผลกระทบทาให้สภาพแวดล้อมมีคุณภาพเส่ือมโทรมลงแล้ว ยังได้ส่งผลกระทบ
ต่อสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในส่ิงแวดล้อมบริเวณดังกล่าวอีกด้วย การแก้ไขและ/หรือการป้องกันการปนเป้ือน
ของสารต่าง ๆ ไม่ว่า จะเป็นสารอินทรีย์หรือสารอนินทรีย์ต้องอาศัยพื้นฐานความรู้จากในศาสตร์ต่าง ๆ
หลายสาขา เพื่อนาความรู้และเทคโนโลยีมาผสมผสานและประยุกต์ใช้เพื่อการกาจัดหรือลดปริมาณ
การปนเป้ือนสารต่าง ๆ ในสง่ิ แวดลอ้ ม เทคโนโลยกี ารฟ้ืนฟูสิง่ แวดล้อม ซงึ่ มที ้งั วธิ ีทางฟิสิกส์ เคมีและชีวภาพ
นับว่ามคี วามสาคญั อยา่ งยงิ่ ต่อการแก้ไขปัญหาสง่ิ แวดล้อมในปัจจุบันและการป้องกนั ไม่ให้เกดิ ปัญหาต่อเน่ือง
ถึงอนาคต การเลือกใช้เทคโนโลยีการฟ้ืนฟูท่ีเหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศและสภาพพื้นที่ย่อมส่งผลให้
ปญั หาสิง่ แวดลอ้ มในพ้ืนที่ได้รบั การแก้ไขท่ีถกู ต้อง

1. จากสถานการณ์ ใหร้ ะบุปัญหาและสาเหตุของการเกิดปัญหาทีม่ ผี ลกระทบต่อสังคมได้อยา่ งไร
ตอบ ............................................................................................................................. ........................................
2. จากสถานการณ์สามารถวเิ คราะห์เป็นปญั หายอ่ ย ๆ ได้อะไรบ้าง และจะออกแบบหรอื วางแผนในการ

แก้ปญั หานัน้ อยา่ งไรบา้ ง
ตอบ ............................................................................................................................. ........................................
3. นักเรียนจะเลือกวธิ ีการแก้ปญั หาได้อยา่ งไร จงแสดงเหตุผลประกอบ พรอ้ มท้งั ระบขุ ้อดีและข้อเสยี ของวธิ ีการ

แกป้ ญั หาท่เี ลอื ก
ตอบ .....................................................................................................................................................................
4. นกั เรียนสามารถนาเสนอกระบวนการตดิ ตามผลการแก้ปัญหา และประเมินผลกระทบตอ่ สังคมได้อย่างไร
ตอบ ............................................................................................................................. ........................................

คมู่ ือการใช้เครอ่ื งมอื ประเมินสมรรถนะส�ำคญั ของผ้เู รียน 53 ้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)

54

เกณฑก์ ารประเมินแบบทดสอบเชงิ สถานการณ์

ประเด็นการ ระดบั ปรับปรุง ระดับพอใช้ ระดับดี ระดบั ดีเยี่ยม
พจิ ารณา (1 คะแนน) (2 คะแนน) (3 คะแนน) (4 คะแนน)
การคิด สามารถระบุปญั หาท่ีมี จากระดบั ปรบั ปรงุ จากระดบั พอใช้ จากระดบั ดี มี
แกป้ ัญหา ผลกระทบตอ่ สังคม วเิ คราะหป์ ัญหาออก สามารถเสนอทางเลอื ก กระบวนการตดิ ตาม
ประเมนิ ความสาคัญของ เปน็ ปัญหาย่อย ๆ และ ในการแก้ปญั หาโดยมี แผนการเพือ่ การ
ปญั หา วิเคราะห์ สามารถอธบิ าย เกณฑ์การเลือกหรอื มี ตัดสนิ ใจและกากับ
จดั ลาดับสาเหตขุ อง ออกแบบ วางแผนการ การวางแผนการปฏิบตั ิ กระบวนการแกป้ ญั หา
ปัญหาท่สี าคญั เพื่อ ปฏิบัตแิ ก้ปัญหาและ และแกป้ ัญหาเอย่างมี ได้อยา่ งถกู ต้อง สามารถ
รวบรวมข้อมลู ที่ ใช้กระบวนการ เหตุผล มคี วามเปน็ ไปได้ ประเมนิ ผลกระทบของ
เกย่ี วข้องคานึงถงึ ความ ตดิ ตามแผนการ ในการแก้ปญั หา ได้ ปัญหาโดยใช้วิธีการที่
ถกู ต้อง แกป้ ัญหาเพื่อการ เปรยี บเทยี บแหล่งข้อมลู เหมาะสม
และขอ้ เทจ็ จริงได้ และ
ตัดสนิ ใจได้ ครอบคลมุ บางมิติ มี
ความถูกตอ้ งตามหลัก
วิชาการ พรอมทั้งระบุ
ขอ้ ดแี ละข้อเสียของ
วิธีการแกป้ ัญหา

หมายเหตุ คะแนนทีก่ าหนดให้เป็นคะแนนเบื้องตน้ สามารถปรับคะแนนให้เพ่มิ ขึ้นได้ตามตอ้ งการ
วธิ กี ารใชแ้ บบทดสอบเชิงสถานการณ์
1) ครูให้นกั เรียนอ่านแบบทดสอบเชิงสถานการณใ์ ห้เข้าใจ
2) จากนั้นครใู ห้นกั เรียนสบื คน้ สถานการณข์ า้ งต้น แล้วให้นักเรียนดาเนนิ กจิ กรรมตามขอ้ ท่ีกาหนดให้
3) ครูประเมินผลแนวทางการทากิจกรรมของนักเรียนในแต่ละข้อ หลังนักเรียนดาเนินกิจกรรม

แต่ละขอ้ เสร็จแลว้ วา่ อยู่ในเกณฑก์ ารประเมนิ สมรรถนะความสามารถในการแก้ปญั หาตามประเด็นใด และอยใู่ น
ระดบั ใด โดยใช้เกณฑ์การประเมินสมรรถนะความสามารถในการแก้ปัญหา ยกตวั อย่างเชน่

กิจกรรมข้อท่ี 1 จากสถานการณ์ ให้ระบปุ ัญหาและสาเหตุของการเกดิ ปัญหาท่ีมผี ลกระทบ
ตอ่ สงั คมได้อยา่ งไร ถ้านกั เรียนดาเนนิ กิจกรรมนี้ได้ น่นั คือตอบไดต้ รงประเด็นคาถามให้พิจารณารายละเอียด
ให้คะแนนตามเกณฑก์ ารประเมนิ แบบทดสอบสถานการณ์

4) ครูสรุปผลการประเมินแบบทดสอบเชิงสถานการณ์ และแบบบันทึกคะแนนและแปลผล
การประเมนิ ความสามารถในการแกป้ ัญหาในภาพรวม ดงั นี้

้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 54 ค่มู ือการใชเ้ ครื่องมอื ประเมนิ สมรรถนะส�ำคญั ของผเู้ รยี น
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

55

แบบบันทกึ คะแนนแบบทดสอบเชิงสถานการณ์ สาหรบั นกั เรยี นรายบคุ คล
ความสามารถในการแกป้ ัญหา ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 1 – 3

ผ้รู บั การประเมิน.................................................................................ช้ัน...............เลขที่.......................................

ผู้ประเมิน.............................................................วัน/เดอื น/ปี ทีป่ ระเมิน..............................................................
**************************************************************************************************
คะแนน
เลขที่ ชื่อ – สกลุ 12 3 4 ผลการประเมิน หมายเหตุ

การแปลผล
คะแนน 4 หมายถงึ นกั เรียนมสี มรรถนะความสามารถในการแกป้ ัญหาอยู่ในระดบั ดเี ยี่ยม
คะแนน 3 หมายถึง นักเรยี นมสี มรรถนะความสามารถในการแก้ปัญหาอยู่ในระดบั ดี
คะแนน 2 หมายถึง นักเรียนมีสมรรถนะความสามารถในการแกป้ ัญหาอยู่ในระดบั พอใช้
คะแนน 1 หมายถึง นกั เรยี นมสี มรรถนะความสามารถในการแก้ปัญหาอยู่ในระดบั ปรับปรุง
5) กรณีท่ีผลการประเมินพบว่า นักเรียนมีระดับคุณภาพทักษะการการแก้ปัญหาด้านใด อยู่ใน

ระดับปรับปรุงหรือระดับพอใช้ ครูควรหาแนวทางการพัฒนานักเรียนให้มีคุณภาพเพิ่มสูงขึ้นจากระดับเดิม
จนความสามารถในการแกป้ ญั หาของนกั เรยี นอยู่ในระดบั ดีหรือระดบั ดีเยี่ยม

ค่มู ือการใชเ้ ครื่องมอื ประเมินสมรรถนะสำ� คัญของผูเ้ รียน 55 ้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)

56

แบบประเมินตรวจสอบรายการความสามารถในการแกป้ ัญหา
สาหรบั นักเรียนประเมนิ ตนเองและครูผู้สอนประเมนิ นักเรียน

ช่อื ผถู้ ูกประเมนิ ................................................................ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที .่ี ................เลขที่............................
โรงเรยี น ................................................................................................................................................................
ชอ่ื ผ้ปู ระเมิน .........................................................................................................................................................

รายการ ได้ ไมไ่ ด้

1. ต้งั คาถามเพื่อระบุปัญหาท่ีซบั ซ้อนและมีผลกระทบต่อสังคม
2. ประเมินความสาคญั ของปัญหาและจัดลาดับสาเหตุของปัญหาท่สี าคญั
3. รวบรวมขอ้ มลู และแนวคิดท่ีเกย่ี วข้องกับปญั หาโดยคานงึ ถึงความถูกตอ้ ง
4. ออกแบบวิธีการหรอื เสนอทางเลอื กหลายทางเลือกท่ีเป็นไปได้และมีเหตผุ ลในการแกป้ ญั หา
5. ระบุขอ้ ดีและขอ้ เสียของวิธีการหรอื ทางเลอื กและดาเนินการแกป้ ัญหาได้หลายวิธี
6. วเิ คราะห์ปัญหาออกเป็นปัญหาย่อย ๆ
7. เสนอทางเลอื กในการแก้ปัญหาโดยมีเกณฑ์สาหรับเลอื กวิธีแก้ปัญหา
8. วางแผนการปฏบิ ัติเพื่อแก้ปัญหาและใช้กระบวนการติดตามแผนการแกป้ ญั หาเพื่อ
การตัดสนิ ใจ
9. ระบปุ ญั หาและสาเหตุของปัญหาทีย่ ากและซบั ซ้อนและมผี ลกระทบต่อสงั คม
10. เสนอวิธีการระบุสาเหตุของปัญหาและประเมินผลกระทบของปญั หาโดยใชว้ ธิ กี ารที่
เหมาะสม
11. วเิ คราะหป์ ัญหาที่ซับซอ้ นออกเป็นปัญหาย่อย ๆ
12. เสนอทางเลือกในการแก้ปญั หาโดยมเี กณฑ์สาหรับเลอื กวธิ ีแก้ปญั หาท่ีเหมาะสม
13. วางแผนการปฏบิ ตั ิเพื่อแก้ปัญหาและใชก้ ระบวนการติดตามแผนการแก้ปญั หาเพ่ือ
การตดั สนิ ใจ
14. เสนอวิธกี ารระบุสาเหตุของปญั หาและประเมินผลกระทบของปญั หา โดยใช้วิธีการ
ทค่ี รอบคลมุ บางมติ ิ
15. เปรยี บเทยี บแหลง่ ข้อมูลและข้อเทจ็ จรงิ
16. เสนอทางเลือกในการแกป้ ญั หาโดยมเี กณฑ์สาหรับเลือกวธิ แี ก้ปัญหาทีค่ รอบคลุมบางมิติ
17. วางแผนการปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหาและใช้กระบวนการติดตามแผนการแก้ปัญหาเพอ่ื
การตัดสินใจและกากับกระบวนการแก้ปัญหาไดถ้ ูกต้อง

หมายเหตุ : แนวทางในการนาเคร่ืองมือไปประยุกต์ใช้ สามารถใช้เคร่ืองมือนี้สาหรับครูผู้สอนในการประเมิน
ระดับความสามารถของนักเรยี นรายบคุ คลหรือนักเรียนประเมนิ ตนเองเพ่ือให้ทราบระดับความสามารถ และนา
ข้อมูลท่ีไดใ้ ชใ้ นการวางแผนพัฒนาระดับความสามารถด้านความสามารถในการแก้ปญั หาของนักเรียนตอ่ ไป

้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 56 คูม่ ือการใชเ้ คร่อื งมือประเมนิ สมรรถนะสำ� คญั ของผูเ้ รยี น
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)

ค่มู อื การใชเ้ คร่อื งมอื ประเมินสมรรถนะสำ� คญั ของผเู้ รยี น 57 ้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)

58

ทาได้ข้อ 1 – 17 หมายถงึ นกั เรยี นมกี ารคิดแก้ปัญหาอยใู่ นระดบั ดเี ยย่ี ม (4 คะแนน)
หมายเหตุ : ในกรณที ่ีไมเ่ ปน็ ไปตามเกณฑ์ ใหแ้ ปลผลอยู่ในระดบั ปรบั ปรุง

้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 วิธกี ารใชแ้ บบประเมนิ
การนาเครื่องมือประเมินสาหรบั นกั เรียนประเมินตนเองและครปู ระเมินไปใช้ ดงั นี้
 แบบประเมินความสามารถในการแก้ปัญหา สาหรับนักเรยี นประเมนิ ตนเอง

1) ครศู ึกษาแบบประเมนิ สมรรถนะความสามารถในการแก้ปญั หาสาหรับนักเรยี น
2) ครอู ธิบายการประเมินตนเองตามแบบประเมินสมรรถนะความสามารถในการแก้ปญั หาสาหรบั
นักเรียน ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 1 - 3
3) เม่ือนักเรียนเข้าใจแล้ว นักเรียนประเมินตนเองให้ครบ โดยประเด็นใดท่ีนักเรียนทาได้ ให้ใส่
เครื่องหมาย  ในชอ่ ง “ได้” และประเดน็ ใดที่นักเรยี นทาไมไ่ ด้ ใหใ้ ส่เครอ่ื งหมาย  ในช่อง “ไมไ่ ด้”
4) ครสู รปุ ผลการประเมนิ ตามเกณฑป์ ระเมินสมรรถนะของนกั เรียนรายบุคคล เกณฑก์ ารประเมิน
ยกตัวอย่างเช่น เกณฑ์การประเมินความสามารถในการแก้ปัญหา ถ้านักเรียนทาได้ข้อ 1 – 5 ทั้งหมด หมายถึง
นักเรียนมีความสามารถในการแก้ปัญหาในระดับปรับปรุง ถ้าผลการประเมินนักเรียนทาได้ข้อ 1 – 8 ทั้งหมด
หมายถึง นักเรียนมีความสามารถในการแก้ปัญหาในระดับพอใช้ ถ้าผลการประเมินนักเรียนทาได้ข้อ 1 – 16
ทงั้ หมด หมายถึง นกั เรียนมคี วามสามารถในการแกป้ ัญหาในระดับดี และถา้ ผลการประเมินนักเรียนทาได้ข้อ 1 – 18
ท้ังหมด หมายถึง นักเรียนมีความสามารถในการแก้ปัญหาในระดับดีเย่ียม (รายละเอียดศึกษาได้จากเกณฑ์
การประเมนิ ความสามารถในการแกป้ ญั หา ตามลาดบั ขนั้ ตอน)
5) ครูสรุปผลการประเมินดังกล่าว กรณีท่ีผลการประเมินพบว่า นักเรียนมีระดับคุณภาพทักษะ
ความสามารถในการแก้ปัญหาด้านใดอยู่ในระดับปรับปรุงหรือระดับพอใช้ ครูควรหาแนวทางการพัฒนา
นักเรียนให้มีคุณภาพเพิ่มสูงขึ้นจากระดับเดิม จนความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนอยู่ในระดับดีหรือ
ระดับดีเยีย่ ม
 แบบประเมินความสามารถในการแก้ปัญหาสาหรบั ครผู ู้สอนประเมนิ นกั เรยี น
1) ครูศึกษาแบบประเมนิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 3
2) ครูใช้แบบประเมินความสามารถในการแก้ปัญหา ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 1 - 3 ในการประเมิน
นักเรียนเป็นรายบุคคลให้ครบทุกข้อ โดยประเด็นใดท่ีนักเรียนทาได้ ให้ใส่เคร่ืองหมาย  ในช่อง “ได้”
และประเด็นใดทีน่ กั เรียนทาไมไ่ ด้ ใหใ้ สเ่ คร่ืองหมาย  ในช่อง “ไมไ่ ด”้
3) ครูสรุปผลการประเมินตามเกณฑป์ ระเมนิ สมรรถนะของนักเรยี นรายบุคคล เกณฑก์ ารประเมิน
ยกตัวอย่างเช่น เกณฑ์การประเมินความสามารถในการแก้ปัญหา ถ้านักเรียนทาได้ข้อ 1 – 5 ทั้งหมด หมายถึง
นักเรียนมีความสามารถในการแก้ปัญหาในระดับเริ่มต้น ถ้าผลการประเมินนักเรียนทาได้ข้อ 1 – 8 ทั้งหมด
หมายถึง นักเรียนมีความสามารถในการแก้ปัญหาในระดับพอใช้ ถ้าผลการประเมินนักเรียนทาได้ข้อ 1 – 16
ทง้ั หมด หมายถึง นกั เรยี นมคี วามสามารถในการแก้ปัญหาในระดับดี และถา้ ผลการประเมินนักเรียนทาไดข้ ้อ 1 – 18
ทั้งหมด หมายถึง นักเรียนมีความสามารถในการแก้ปัญหาในระดับดีเย่ียม (รายละเอียดศึกษาได้จากเกณฑ์
การประเมนิ ความสามารถในการแกป้ ญั หาตามลาดับข้นั ตอน)
4) ครูสรุปผลการประเมินตามเกณฑ์ของนักเรียนเป็นรายบุคคลตามแบบบันทึกผลการประเมิน
เป็นรายบุคคล
5) ครูสรุปผลการประเมินดังกล่าว กรณีท่ีผลการประเมินพบว่า นักเรียนมีระดับคุณภาพทักษะ
ความสามารถในการแก้ปัญหาด้านใดอยู่ในระดับปรับปรุงหรือระดับพอใช้ ครูควรหาแนวทางการพัฒนา
นักเรียนให้มีคุณภาพเพิ่มสูงข้ึนจากระดับเดิมจนความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนอยู่ในระดับดี
หรอื ระดับดเี ย่ียม

58 คมู่ ือการใชเ้ ครือ่ งมอื ประเมนิ สมรรถนะสำ� คญั ของผเู้ รียน
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

59

แบบประเมนิ ผลงาน/ชนิ้ งาน/นวตั กรรม/กระบวนการทางาน
คาชี้แจง แบบประเมินฉบับนี้เป็นแนวทางการประเมินการคิดแก้ปัญหา สาหรับนาไปประยุกต์ใช้ประเมิน

ชน้ิ งาน/ผลงาน/นวตั กรรม/กระบวนการทางาน ตามความเหมาะสมและบรบิ ทของแตล่ ะกิจกรรม
ช่อื ชน้ิ งาน .......................................................
ชือ่ ผู้ถูกประเมนิ ...................................................................... ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที.่ ................ เลขที.่ .................
โรงเรียน .............................................................. ชอื่ ผปู้ ระเมนิ .........................................................................
**************************************************************************************************
คะแนน
เลขที่ ชือ่ – สกลุ 12 3 4 ผลการประเมิน หมายเหตุ

เกณฑก์ ารประเมินผลงาน/ชน้ิ งาน/นวตั กรรม/กระบวนการทางาน
ใช้เกณฑ์การประเมนิ เดียวกบั แบบทดสอบเชิงสถานการณ์

เกณฑ์การแปลผลการคิดแกป้ ญั หา
คะแนน 1 หมายถึง นกั เรียนมีสมรรถนะความสามารถในการแก้ปัญหาอยู่ในระดับปรับปรุง
คะแนน 2 หมายถงึ นักเรียนมสี มรรถนะความสามารถในการแกป้ ัญหาอยู่ในระดับพอใช้
คะแนน 3 หมายถึง นกั เรียนมีสมรรถนะความสามารถในการแก้ปัญหาอยู่ในระดับดี
คะแนน 4 หมายถึง นกั เรยี นมีสมรรถนะความสามารถในการแกป้ ญั หาอยู่ในระดบั ดมี าก
หมายเหตุ : ในกรณีที่ไมเ่ ปน็ ไปตามเกณฑ์ ใหแ้ ปลผลอยู่ในระดับปรบั ปรงุ

วธิ ีการใชแ้ บบประเมินผลงาน/ชนิ้ งาน/นวตั กรรม/กระบวนการทางาน
การนาเคร่ืองมือประเมนิ ผลงาน/ช้ินงาน/นวตั กรรม/กระบวนการทางานไปใช้ ดงั นี้
1) ครูศึกษา ทาความเข้าใจแบบประเมินและเกณฑ์การประเมินความสามารถในการแก้ปัญหา
ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 3 อยา่ งละเอียด แบบประเมนิ ฉบบั นี้เปน็ แนวทางการประเมนิ แบบองค์รวม
2) ครูใชแ้ บบประเมนิ ผลงาน/ชน้ิ งาน/นวัตกรรม/กระบวนการทางาน ตามเกณฑก์ ารประเมนิ
3) ครูสรปุ ผลการประเมนิ ตามคะแนน และรวมคะแนนพรอ้ มแปลผลคะแนนรวมลงแบบประเมินเป็น
รายบุคคล

คมู่ ือการใชเ้ ครื่องมอื ประเมนิ สมรรถนะส�ำคญั ของผเู้ รียน 59 ้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

60

2.4 เคควรา่ือมงสมาอื มปารระถเใมนินกคาวราใมชส้ทากั มษาะรชถวี ใตินการใช้ทักษะชีวิต

กรอบโครงสร้างเครือ่ งมือประเมินสมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน ด้านความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ

นิยามนสยิ มามรรสถมนรระถสน�ำคะสัญา คญั ตัวตชัวี้วชดั วี้ ัด ลกั ษลักณษะณเคะรเ่ือคงรม่ืออื งมือ
ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต 1. นากระบวนการเรยี นรู้ท่ีหลากหลาย - แบบประเมินสาหรบั
เป็นความสามารถในการนากระบวนการ ไปใช้ในชีวิตประจาวัน นักเรยี นประเมนิ ตนเอง
ต่าง ๆ ไปใช้ในการดาเนินชีวิตประจาวัน 2. เรียนรูด้ ว้ ยตนเองอยา่ งตอ่ เนื่อง และ - แบบประเมินสาหรบั
การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่าง มีเป้าหมาย ครปู ระเมินนักเรียน
ต่อเนื่อง การทางาน และการอยู่ร่วมกัน 3. ทางานและอยู่ร่วมกันในสังคมอย่าง
ในสังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพนั ธ์ มคี วามสขุ
อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหา 4. จัดการกับปัญหาและความขัดแย้ง
และความขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม ในสถานการณต์ า่ ง ๆ ไดอ้ ย่างเหมาะสม
การปรับตัวให้ทันกับการเปล่ียนแปลง 5. ปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงทาง
ของสังคม และสภาพแวดล้อม และ สังคมและสภาพแวดลอ้ ม
การรู้จักหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึง 6. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึงประสงคท์ ่ี
ประสงค์ท่ีส่งผลกระทบต่อตนเอง สง่ ผลกระทบต่อตนเองและผู้อ่ืน
และผูอ้ ืน่

เครือ่ งมอื ประเมนิ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ดา้ นความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
จากกรอบโครงสรา้ งเคร่ืองมือประเมนิ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน ดา้ นความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต

ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 1 - 3 สามารถนามาสรา้ งเครือ่ งมือประเมินได้ ดังนี้

❖ แบบประเมินสาหรับนกั เรยี นประเมนิ ตนเอง
❖ แบบประเมนิ สาหรับครูประเมนิ นกั เรียน

้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 60 คูม่ อื การใช้เครอ่ื งมอื ประเมนิ สมรรถนะส�ำคญั ของผู้เรียน
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)

61

แบบประเมนิ ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต สาหรับนกั เรียนประเมนิ ตนเอง
ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 1 – 3

คาชี้แจง
เครอ่ื งมือทใี่ ช้ในการประเมินความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต ฉบับนี้แบง่ ออกเปน็ 2 ตอน
ตอนที่ 1 ข้อมลู ทวั่ ไปของนกั เรียน
ตอนท่ี 2 รายการประเมินความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ ประกอบไปด้วย 6 ตวั ช้ีวดั
2.1 นากระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลาย ไปใช้ในชวี ติ ประจาวัน
2.2 เรยี นร้ดู ว้ ยตนเองอย่างต่อเน่ือง และมีเป้าหมาย
2.3 ทางานและอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสขุ
2.4 จัดการกบั ปัญหาและความขดั แย้งในสถานการณต์ ่าง ๆ ได้อยา่ งเหมาะสม
2.5 ปรบั ตวั ตอ่ การเปล่ียนแปลงทางสงั คมและสภาพแวดลอ้ ม
2.6 หลกี เล่ยี งพฤติกรรมไม่พึงประสงคท์ ่ีส่งผลกระทบตอ่ ตนเองและผู้อื่น
ใหน้ กั เรียนทาเครอ่ื งหมาย ลงในช่องท่ตี รงกับพฤติกรรมของตนเอง ตามเกณฑพ์ ิจารณาดังน้ี
ระดับ 3 หมายถงึ นกั เรยี นปฏิบัติพฤตกิ รรมดงั กล่าวเป็นประจา
ระดับ 2 หมายถึง นักเรียนปฏบิ ตั ิพฤติกรรมดงั กลา่ วบอ่ ยคร้ัง
ระดับ 1 หมายถงึ นกั เรยี นปฏิบัติพฤตกิ รรมดงั กล่าวนอ้ ยคร้งั
ระดับ 0 หมายถึง นักเรยี นไม่เคยปฏิบัติพฤติกรรมดังกล่าวเลย
**************************************************

ตอนที่ 1 ข้อมูลท่ัวไปของนักเรียน
ชื่อ–สกุล .......................................................................................ระดับชน้ั ...........ห้อง........เลขที.่ .....................
โรงเรยี น ................................................................................................................................................................

ตอนที่ 2 รายการประเมินความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต ระดบั การปฏบิ ตั ิ

ข้อ รายการประเมนิ เปน็ ประจา บ่อยคร้งั นอ้ ยครงั้ ไมเ่ คย
(3) (2) (1) (0)
ตวั ช้วี ดั ที่ 1 นากระบวนการเรียนรู้ท่หี ลากหลาย ไปใชใ้ นชวี ิตประจาวัน
1 นักเรยี นยอมรับขอ้ ผดิ พลาดวา่ เปน็ สว่ นหนงึ่ ของการเรยี นรู้
2 นกั เรยี นรับฟงั คาแนะนาเพื่อนาไปปรบั ปรงุ และพัฒนาตนเอง
3 นกั เรยี นสามารถแลกเปลย่ี นเรยี นรูแ้ นวทางในการแกไ้ ขปญั หาได้
เม่ือเผชญิ ปญั หาและอุปสรรค
4 นักเรียนมีวิธีการควบคมุ ตนเองได้อย่างเหมาะสม เมือ่ เผชิญ
ปญั หาและอุปสรรค
5 นักเรียนมีส่วนร่วมในการนาความรไู้ ปพัฒนากิจกรรมตา่ ง ๆ
ของโรงเรยี นหรอื ชุมชน
ตวั ชว้ี ดั ท่ี 2 เรียนรู้ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่อง และมีเป้าหมาย ้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
6 นกั เรียนตดั สินใจและเลอื กเรยี นในส่งิ ทส่ี อดคลอ้ งกบั ความสนใจ
และความถนดั ของตน

ค่มู อื การใช้เครอื่ งมือประเมนิ สมรรถนะสำ� คญั ของผ้เู รียน 61
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)

ขอ้ รายการประเมิน ระดับการปฏบิ ตั ิ 62
เปน็ ประจา บ่อยครัง้ น้อยครั้ง
(3) (2) (1) ไมเ่ คย
7 นักเรยี นมกี ารวางแผนและมแี รงจูงใจ เพ่ือไปสูค่ วามสาเร็จตามที่ (0)

ตนเองคาดหวงั
8 นักเรียนสามารถปฏบิ ัตติ ามแผนได้ ถงึ แม้พบเจอปญั หาหรอื อุปสรรค
9 นกั เรียนยอมรบั และปรบั ปรุงกระบวนการทางาน เพอ่ื ไปสู่
ความสาเร็จตามเปา้ หมาย
10 มีแรงบนั ดาลใจในการพฒั นาตนเองอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง

ตัวช้ีวดั ท่ี 3 ทางานและอยรู่ ว่ มกนั ในสังคมอย่างมีความสขุ
11 นักเรียนยอมรบั และปฏบิ ัตติ ามกฎระเบยี บ กติกาของชุมชนและสังคม
12 นักเรียนยอมรบั ในความหลากหลายระหว่างบคุ คลและไมเ่ ลอื กปฏบิ ตั ิ
13 นกั เรียนแสดงความรสู้ กึ และปฏบิ ตั ิต่อผอู้ น่ื ได้อยา่ งเหมาะสม
เม่ือเผชิญสถานการณ์ตา่ ง ๆ
14 นักเรียนมีสว่ นรว่ มในการหาทางออกเกี่ยวกบั ประเดน็ ปญั หา
ทางสงั คม ด้วยแนวทางสันติวธิ ี
15 นกั เรียนเป็นตน้ แบบที่ดใี นการแก้ปัญหาทางสงั คมในระดบั ตา่ ง ๆ
ดว้ ยค่านิยมประชาธปิ ไตยและแนวทางสันตวิ ิธี
ตัวชี้วัดท่ี 4 จัดการกับปญั หาและความขัดแย้งในสถานการณ์ต่าง ๆ ไดอ้ ย่างเหมาะสม
16 นกั เรยี นเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาของโรงเรยี น ชุมชน และสงั คม
17 นักเรียนปรึกษาหารือเพื่อทาความเขา้ ใจปัญหาตา่ ง ๆ กับผ้อู ื่น
อย่างมเี หตผุ ล
18 นักเรยี นให้เกยี รติและรับฟังความคดิ เหน็ ของผู้อนื่ เพอื่ แก้ไข
ปัญหาความขัดแยง้ ทเี่ กดิ ขึน้
19 นกั เรยี นใช้วิธีการทเี่ หมาะสมกบั การจัดการปญั หา โดยรักษา
ความสมั พนั ธ์อนั ดีกบั ผอู้ น่ื
20 นกั เรยี นมวี ธิ ีการแก้ปัญหาความขดั แยง้ โดยเคารพความคดิ เหน็ ที่
แตกต่าง และคานงึ ถงึ ประโยชนข์ องสว่ นรวม
ตัวชวี้ ดั ท่ี 5 ปรับตัวตอ่ การเปลย่ี นแปลงทางสังคมและสภาพแวดล้อม
21 นกั เรียนยอมรบั การเปลย่ี นแปลงและปรบั ตวั ให้เขา้ กบั
สถานการณไ์ ดอ้ ย่างเหมาะสม
22 นักเรียนหาแนวทางในการปรบั ตวั ทีเ่ หมาะสมให้เขา้ กบั
สถานการณ์ที่เปลีย่ นแปลง โดยคานงึ ถึงผลกระทบต่อตนเอง
ผ้อู ่นื สงั คม และสง่ิ แวดลอ้ ม
23 นกั เรียนมีส่วนรว่ มสรา้ งการเปลยี่ นแปลงของโรงเรยี น ชุมชน
และสังคม โดยคานงึ ถึงความเหมาะสมตามแนวทางประชาธปิ ไตย
24 นกั เรียนคิดริเร่ิมให้เกดิ การเปลยี่ นแปลงทางสงั คมระดบั ตา่ ง ๆ
้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 เพ่ือให้เกิดการพฒั นาทีด่ ขี ึ้น
25 นกั เรียนเป็นตน้ แบบทด่ี ใี นการปรบั ตัวเพื่อรับมอื ตอ่ การ
เปลี่ยนแปลงทางสงั คม

62 ค่มู อื การใช้เครื่องมอื ประเมินสมรรถนะสำ� คญั ของผเู้ รียน
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

63

ข้อ รายการประเมิน ระดบั การปฏบิ ัติ ไมเ่ คย
เปน็ ประจา บอ่ ยคร้ัง น้อยครง้ั (0)
(3) (2) (1)
ตวั ชี้วดั ที่ 6 หลกี เลี่ยงพฤติกรรมไมพ่ งึ ประสงค์ท่ีสง่ ผลกระทบต่อตนเองและผ้อู ืน่
26 นกั เรียนไม่กลน่ั แกล้งผู้อน่ื ทัง้ ทางดา้ นรา่ งกาย วาจาและจติ ใจ
27 นกั เรียนแสดงความคดิ เห็นได้อยา่ งสร้างสรรค์ โดยไมก่ ระทบ
สิทธิของผอู้ ่ืน
28 นักเรยี นไม่เพกิ เฉยต่อการทุจริตในรูปแบบตา่ ง ๆ
29 นักเรียนใช้สื่อสังคมออนไลน์ได้อย่างเหมาะสมโดยไมก่ ระทบต่อผ้อู ่ืน
30 นกั เรยี นไม่ตัดสนิ ผ้อู น่ื โดยปราศจากข้อเทจ็ จริงหรอื การไตร่ตรอง
อย่างมีเหตผุ ล
คะแนนรวม

สรุปคะแนนรอ้ ยละ คะแนนท่ีได้ x 100 = ………………
90

ลงชอื่ ...........................................................ผปู้ ระเมนิ
(...........................................................)

สรุปผลการประเมนิ ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต
นกั เรียนอย่ใู นระดบั  ดเี ยยี่ ม  ดี  พอใช้  ปรับปรุง
บนั ทึกเพิ่มเติม (สาหรบั ครผู ู้สอน)
จุดเดน่ ของนักเรียนคือ ............................................................................................................................. ............
จดุ ทค่ี วรพัฒนาของนักเรยี นคือ ............................................................................................................................
ลงชอ่ื ...................................................................
(..................................................................)
ครูผสู้ อน

ค่มู อื การใชเ้ คร่ืองมอื ประเมนิ สมรรถนะส�ำคญั ของผู้เรยี น 63 ้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)

64

แบบประเมินความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ สาหรับครปู ระเมนิ นักเรยี น
ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 1 - 3
คาชแ้ี จง
เครอ่ื งมอื ที่ใช้ในการประเมนิ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ ฉบบั น้ี แบ่งออกเปน็ 2 ตอน
ตอนท่ี 1 ข้อมลู ท่ัวไปของนกั เรยี น
ตอนที่ 2 รายการประเมินความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต ประกอบไปดว้ ย 6 ตวั ช้ีวัด
2.1 นากระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลาย ไปใชใ้ นชีวิตประจาวัน
2.2 เรยี นร้ดู ้วยตนเองอย่างต่อเน่อื ง และมเี ป้าหมาย
2.3 ทางานและอยรู่ ว่ มกนั ในสังคมอย่างมีความสุข
2.4 จัดการกบั ปญั หาและความขัดแย้งในสถานการณ์ต่าง ๆ ไดอ้ ย่างเหมาะสม
2.5 ปรบั ตวั ตอ่ การเปล่ยี นแปลงทางสังคมและสภาพแวดล้อม
2.6 หลกี เลี่ยงพฤติกรรมไม่พงึ ประสงค์ทส่ี ่งผลกระทบตอ่ ตนเองและผอู้ น่ื
ให้ครทู าเครื่องหมาย ลงในช่องทตี่ รงกับพฤติกรรมของนักเรยี น ตามเกณฑ์พจิ ารณาดงั น้ี
ระดบั 3 หมายถึง นกั เรียนปฏิบัติพฤติกรรมดังกล่าวเป็นประจา
ระดับ 2 หมายถึง นกั เรยี นปฏบิ ตั พิ ฤตกิ รรมดงั กล่าวบอ่ ยครงั้
ระดับ 1 หมายถงึ นกั เรยี นปฏิบตั ิพฤติกรรมดังกล่าวน้อยคร้ัง
ระดับ 0 หมายถึง นกั เรยี นไมเ่ คยปฏิบัติพฤติกรรมดังกล่าวเลย
**************************************************
ตอนที่ 1 ข้อมูลท่ัวไปของนักเรียน
ชือ่ –สกุล .......................................................................................ระดบั ช้ัน...........หอ้ ง........เลขท่ี......................
โรงเรียน ................................................................................................................................................................
ตอนที่ 2 รายการประเมินความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
ระดับการปฏบิ ตั ิ
ข้อ รายการประเมิน เปน็ ประจา บอ่ ยครงั้ นอ้ ยคร้ัง ไม่เคย
(3) (2) (1) (0)
ตวั ชีว้ ดั ท่ี 1 นากระบวนการเรียนรทู้ ห่ี ลากหลาย ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน
1 นักเรยี นยอมรับขอ้ ผิดพลาดวา่ เป็นสว่ นหนง่ึ ของการเรียนรู้
2 นกั เรียนรับฟังคาแนะนาเพื่อนาไปปรบั ปรุงและพัฒนาตนเอง
3 นกั เรยี นสามารถแลกเปล่ียนเรียนรู้แนวทางในการแกไ้ ขปัญหาได้
เม่อื เผชญิ ปญั หาและอปุ สรรค
4 นกั เรียนมวี ิธกี ารควบคมุ ตนเองไดอ้ ยา่ งเหมาะสม เมอื่ เผชญิ
ปัญหาและอุปสรรค
5 นกั เรียนมีสว่ นร่วมในการนาความรู้ไปพัฒนากิจกรรมตา่ ง ๆ
ของโรงเรียนหรือชุมชน
ตัวชีว้ ดั ท่ี 2 เรยี นรดู้ ว้ ยตนเองอย่างต่อเนอ่ื ง และมเี ปา้ หมาย
6 นักเรียนตดั สินใจและเลอื กเรียนในสง่ิ ท่สี อดคล้องกบั ความสนใจ
้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 และความถนดั ของตน
7 นักเรยี นมีการวางแผนและมแี รงจูงใจ เพ่อื ไปสูค่ วามสาเรจ็ ตามที่
ตนเองคาดหวัง
8 นกั เรียนสามารถปฏบิ ัติตามแผนได้ ถงึ แม้พบเจอปัญหาหรืออปุ สรรค

64 คูม่ ือการใชเ้ ครื่องมอื ประเมนิ สมรรถนะส�ำคัญของผูเ้ รยี น
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

ขอ้ รายการประเมิน ระดับการปฏบิ ัติ 65
9 นักเรียนยอมรบั และปรบั ปรงุ กระบวนการทางาน เพอื่ ไปสู่
เปน็ ประจา บ่อยคร้ัง น้อยครัง้ ไมเ่ คย
(3) (2) (1) (0)

ความสาเรจ็ ตามเป้าหมาย
10 มแี รงบันดาลใจในการพฒั นาตนเองอยา่ งตอ่ เน่อื ง

ตัวชว้ี ัดท่ี 3 ทางานและอยรู่ ่วมกนั ในสงั คมอยา่ งมีความสุข
11 นักเรยี นยอมรบั และปฏบิ ัติตามกฎระเบยี บ กตกิ าของชุมชนและสงั คม
12 นกั เรียนยอมรบั ในความหลากหลายระหวา่ งบคุ คลและไมเ่ ลือกปฏบิ ตั ิ
13 นักเรยี นแสดงความรู้สึกและปฏบิ ัติต่อผอู้ ื่นไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
เมือ่ เผชญิ สถานการณต์ า่ ง ๆ
14 นักเรยี นมสี ่วนรว่ มในการหาทางออกเกยี่ วกบั ประเดน็ ปัญหา
ทางสงั คม ด้วยแนวทางสนั ตวิ ธิ ี
15 นกั เรยี นเปน็ ต้นแบบที่ดใี นการแกป้ ัญหาทางสังคมในระดบั ตา่ ง ๆ
ด้วยคา่ นยิ มประชาธปิ ไตยและแนวทางสันติวิธี
ตวั ช้วี ัดที่ 4 จดั การกับปญั หาและความขดั แย้งในสถานการณต์ า่ ง ๆ ได้อยา่ งเหมาะสม
16 นกั เรียนเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาของโรงเรยี น ชุมชน และสงั คม
17 นกั เรียนปรึกษาหารือเพอ่ื ทาความเขา้ ใจปญั หาตา่ ง ๆ กับผ้อู ่ืน
อย่างมีเหตุผล
18 นกั เรยี นให้เกยี รติและรับฟงั ความคิดเห็นของผ้อู นื่ เพ่ือแกไ้ ข
ปญั หาความขัดแยง้ ทเี่ กิดขึน้
19 นักเรียนใช้วธิ กี ารที่เหมาะสมกบั การจัดการปญั หา โดยรักษา
ความสมั พันธ์อันดกี ับผ้อู น่ื
20 นักเรียนมวี ิธกี ารแกป้ ญั หาความขดั แยง้ โดยเคารพความคิดเหน็ ที่
แตกต่าง และคานงึ ถงึ ประโยชนข์ องสว่ นรวม
ตัวชี้วัดท่ี 5 ปรบั ตวั ตอ่ การเปลย่ี นแปลงทางสงั คมและสภาพแวดล้อม
21 นักเรยี นยอมรับการเปลย่ี นแปลงและปรบั ตวั ให้เขา้ กบั
สถานการณไ์ ดอ้ ย่างเหมาะสม
22 นกั เรยี นหาแนวทางในการปรับตัวที่เหมาะสมใหเ้ ขา้ กับ
สถานการณ์ทเ่ี ปลีย่ นแปลง โดยคานึงถึงผลกระทบตอ่ ตนเอง
ผู้อนื่ สังคม และสิง่ แวดล้อม
23 นักเรยี นมสี ว่ นรว่ มสรา้ งการเปลยี่ นแปลงของโรงเรียน ชมุ ชน
และสงั คม โดยคานงึ ถงึ ความเหมาะสมตามแนวทาง
ประชาธิปไตย
24 นกั เรยี นคดิ ริเริ่มให้เกดิ การเปลย่ี นแปลงทางสังคมระดบั ตา่ ง ๆ
เพ่ือให้เกิดการพัฒนาทดี่ ขี น้ึ
25 นักเรยี นเปน็ ตน้ แบบท่ีดีในการปรบั ตวั เพอ่ื รบั มอื ต่อการเปลยี่ นแปลง
ทางสงั คม ้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
ตัวชว้ี ัดที่ 6 หลีกเลยี่ งพฤติกรรมไมพ่ งึ ประสงคท์ ่สี ง่ ผลกระทบต่อตนเองและผูอ้ ื่น
26 นกั เรียนไม่กลน่ั แกลง้ ผอู้ ่ืนท้งั ทางดา้ นรา่ งกาย วาจาและจติ ใจ

คู่มือการใชเ้ คร่อื งมอื ประเมินสมรรถนะส�ำคัญของผเู้ รยี น 65
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)

66

ขอ้ รายการประเมนิ ระดับการปฏบิ ตั ิ ไมเ่ คย
เปน็ ประจา บอ่ ยครง้ั น้อยครั้ง (0)
(3) (2) (1)
27 นกั เรียนแสดงความคดิ เห็นไดอ้ ย่างสร้างสรรค์ โดยไม่กระทบ
สิทธขิ องผอู้ ื่น
28 นักเรียนไมเ่ พกิ เฉยตอ่ การทุจรติ ในรูปแบบตา่ ง ๆ
29 นกั เรยี นใช้สอ่ื สงั คมออนไลนไ์ ดอ้ ย่างเหมาะสมโดยไมก่ ระทบต่อผู้อ่นื
30 นักเรยี นไมต่ ดั สนิ ผู้อน่ื โดยปราศจากขอ้ เทจ็ จรงิ หรอื การไตรต่ รอง
อยา่ งมเี หตผุ ล
คะแนนรวม

สรุปคะแนนรอ้ ยละ คะแนนทไี่ ด้ x 100 = ………………
90

ลงชอ่ื ...........................................................ครูผู้สอน
(...........................................................)

สรปุ ผลการประเมนิ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
นักเรียนอยใู่ นระดบั  ดีเยยี่ ม  ดี  พอใช้  ปรบั ปรุง
บนั ทกึ เพ่มิ เติม (สาหรบั ครูผู้สอน)
จดุ เด่นของนักเรยี นคือ ............................................................................................................................. ............
จดุ ทคี่ วรพฒั นาของนักเรียนคือ ............................................................................................................................
ลงช่ือ...................................................................
(..................................................................)
ครผู ู้สอน

้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 วิธีการใชเ้ ครื่องมือ
เคร่ืองมือประเมินความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 3 คือ แบบประเมิน

ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ สาหรับนักเรยี นประเมนิ ตนเอง และครูประเมนิ นักเรยี น มวี ิธีการนาเคร่ืองมือ
ไปใช้ ดังนี้

 ก่อนการประเมิน
1) ครูศกึ ษาคูม่ ือการประเมนิ ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
2) ครวู างแผนการใช้เครื่องมือ ดงั น้ี
2.1) กาหนดวตั ถุประสงค์การประเมนิ เช่น ประเมินเพื่อการพัฒนา (Formative Assessment)

และประเมนิ เพอ่ื ตัดสิน (Summative Assessment)
2.2) กาหนดชว่ งเวลาการประเมินใหส้ อดคล้องกับวัตถุประสงค์ เช่น กอ่ นเรยี น ระหว่างเรียน

หลงั เรยี น หรือ ตน้ ปีการศึกษา กลางปกี ารศึกษา ปลายปีการศกึ ษา
 ระหวา่ งการประเมนิ
1) ครนู าแบบประเมินไปใช้ประเมนิ นักเรียนตามแผนท่ีกาหนดไว้
2) ครูอาจใช้วิธีการอื่นร่วมกับการสังเกตพฤติกรรม เพ่ือให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องสมบูรณ์ เช่น

การสัมภาษณ์ การสอบถาม การเล่าเรื่อง การใช้คาถาม เป็นต้น

66 คูม่ อื การใชเ้ คร่อื งมอื ประเมนิ สมรรถนะสำ� คัญของผเู้ รียน
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)

2.2) กาหนดชว่ งเวลาการประเมินใหส้ อดคล้องกับวัตถุประสงค์ เช่น ก่อนเรยี น ระหว่างเรียน
หลงั เรียน หรอื ต้นปีการศึกษา กลางปกี ารศึกษา ปลายปีการศึกษา
 ระหว่างการประเมิน
1) ครูนาแบบประเมนิ ไปใช้ประเมินนกั เรียนตามแผนท่ีกาหนดไว้
2) ครูอาจใช้วิธีการอื่นร่วมกับการสังเกตพฤติกรรม เพ่ือให้ได้ข้อมูลท่ีถูกต้องสมบูรณ์ เช่น
การสัมภาษณ์ การสอบถาม การเล่าเร่ือง การใชค้ าถาม เป็นตน้ 67

3) ครแู ละนกั เรียนควรบันทกึ ข้อมูลและตอบข้อมลู ตามความเป็นจริง
 หลงั การประเมิน
1) ครูสรปุ และแปลผลการประเมินตามเกณฑ์การตัดสนิ ระดบั คุณภาพ
2) ครูบันทกึ ข้อมูลเพ่มิ เติมเกยี่ วกับจดุ เด่นและจดุ ทคี่ วรพัฒนาของนกั เรยี น
3) ครูแจ้งผลการประเมินความสามารถในการใช้ทักษะชีวิตให้นักเรียน ผู้ปกครอง
และผู้มีสว่ นเกี่ยวข้องทราบ เพอื่ นาผลการประเมินไปใช้พฒั นาคุณภาพนกั เรยี นต่อไป

เกณฑ์การประเมนิ สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน ด้านความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 1 – 3

แบบประเมินน้ี เป็นการประเมินท่ีมุ่งใช้รูปแบบของการประเมินจากหลายแหล่ง (Multi-rater
Approach) และการประเมินด้วยวิธีการที่หลากหลาย (Multimethod) โดยให้นักเรียนแต่ละคนทา
การประเมินตนเอง และครูทาการประเมนิ นกั เรียนอกี ครง้ั หนึง่

การวิเคราะห์ข้อมูลผลการประเมินท่ีได้จากแหล่งประเมินต่าง ๆ ในแต่ละรายการประเมินจะมี
คะแนนอยู่ระหว่าง 0 - 3 โดยนาผลการประเมินแต่ละรายการมาคานวณหาค่าคะแนนรวม และคานวณ
เป็นร้อยละของคะแนน จากนั้นนาค่าร้อยละของคะแนนจากแหล่งการประเมินของนักเรียนประเมินตนเอง
และครูประเมินนักเรียน มาหาค่าเฉล่ีย (Mean) แล้วมาเปรียบเทียบกับเกณฑ์การตัดสนิ เพ่ือแปลผลเป็นระดับ
คณุ ภาพ ซง่ึ มีระดับคณุ ภาพดงั ตอ่ ไปนี้

เกณฑ์การตดั สิน ระดับคุณภาพ
มคี ะแนนตั้งแตร่ ้อยละ 75 ขึน้ ไป ดเี ย่ยี ม
มีคะแนนอยูร่ ะหว่างรอ้ ยละ 50 – 74 ดี
มคี ะแนนอยู่ระหว่างรอ้ ยละ 25 - 49 พอใช้
ปรับปรงุ
มีคะแนนต่ากว่าร้อยละ 25

คู่มอื การใช้เครื่องมอื ประเมินสมรรถนะส�ำคญั ของผู้เรยี น 67 ้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

68

22.5.5เคครวือ่ างมมสอื าปมราะรเถมใินนคกวาารใมชสเ้ าทมคาโรนถโใลนยกี ารใช้เทคโนโลยี 68
2.5 ความสามารชถีวในติ การใช้เทคโนโลยี
กรอบโครงสรา้ งเครชื่อวี งติ มือประเมนิ สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ด้านความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

กรอนบยิโคารมงสสมรา้รงรเถคนระื่อสงมาำ� คือปญัญร ะเมินสมรรถนะสาคญั ขอตตงัวผัวชู้เชรี้ว้วีียดั ดัน ดา้ นความสามารถในกลากัรลษใกัชณษ้เทะณคเคะโนรเคอ่ืโลรงยอื่มีงือมอื
ใสกใสใทคมใทเคกเพพชชนนืืีคออรรัักกาาคค้้่ืื่้้ออเเาาุณดดรรษษววททคคงงกกทท้้ะะาาาาธสสววคคนาามมนนราาาารรกกโโรรรยิสสงงมมกกรรนนรรมพพาาาาาสสคคะะาามมโโมัันนฒฒาา์์บบถถรรลลาาสมมููกกววนนรรเเยยกกมาารรถถนนตตีีาาดดราาีีรรยยใใกก้้ออตตร้้นนรราาถถนนาาถงงนนนนแแใใกกรรนนนรรเเาากกเเตตททูู้้ออหหกกะรร้้่่ปปาาาากกใใสงงาามมงงชชงงััญญแแรราาาเเาา้้เเททเเครรลลททๆๆะะหหลลญัคคสสคคะะสสืืออาาโโื่่ืแแโโสสออมมกกออนนนนลลัังงแแสสแแยยโโโโคคะะลลลลลลลลาา่่าามมมมยยยยะะะะรรงงีีีีีี 21ตต1...นนมเเเเออลลีทงงืืออักแแกกษลลแแะะะลลกสสะะรงัังะใใคคชชบมมต้้เเวททวั นชคคก้ีวโโานนัดรโโทลลายยงีีเเเทพพคื่่ืออโพพนััฒฒโลนนยาาี - แปแแนนแแแแแบบบบบบบบักกัระลบบบบบบบบเเรรเกัทปทสปปสปมียียษมััมรรรรดดนนนิ ะะะะภภณสสปปนเเเเออาามมมมกัรระษษบบะะเนินินนิิเรคณณเเสสสสมมยี ร์์าาาาิินนนื่อหหหหตตงรรรรมนนัับบัับบือเเคคออรรงงูู
2. มีทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี ----
--
- ประเมนิ นกั เรียน

มีคุณธรเรคมรื่องมือประเมนิ สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน ดา้ นความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
ค1ใหสอคเ1เสอหใททนนรร))ววยยรรคคกก้้าาาาืื่่ออาาเเาางโงโมมงงลลนนรรสสสสสสคคืืออใใโโรราารรววชชกกลลรรมม้้าาาาเ้้เเยยแแคคคททงาางมมีีใใลล์์แแสสรรรคคนนตตะะลลถถอื่ รรโโ้กก้ออนนใใจจใใะะงรราานนงชงชมโโมมคคาารรกกลล้้เเกกอืีีก์์กคคททททยยาาแแาาปุุณณกกาารรคคีีรรลลงงชชรรรรรใใธธโโาาะะชชะั้ั้นนววนนออรรนนมมเ้เ้เบบมมรรบบโโมททแแีีคคลล❖❖มมััธธรรลลินคคโโุุณณยยยยววคคะะโโสเเมมีีมมเเนนธธนนลลรรมพพศศรรขขโโแแแแแาาืือองงร่ื่ืลลออึึกกรรเเ้้ออบบบบบสสกกรสสยยษมมพพษมมบบบบบแแถรรนนีี าาััฒฒูู้้ลลลลนาาสปทมทมสออแแปปงะะงมัมัีดีดะผผรดดลลนนีีททออเเใใะสภภลลงังัสสะะาาคชชคี่ี่ออนนเงงาออาาตต11ม้้เเรราากก22คี้้ีษษททบบนนนินน่ื่ื ออ)–)–แแญั ณณคคเเกอองงบบมมออ33โโข์์ยยามมนนีีททบบงงร่่อาาสสืื ออโโัักกปแแงงงาาลลปปสสปปษษลลฏผมมยยรรรรรระะ้เูบิะะาาีีะะ้้าาระะรรปปใใกกัตงงกกียนนถถสสเเรรฏฏิ ออนมมนนกกรระะิิบบบบิิรราานนาาบบดััตตคคมมรรดดสสวว้าสสิิ์์แแแแาา้้ววนนนมมสสื่่ืลลออลลยยกกครรรระะสสะะ้้าาาาวมมรรกกาากกงงรราถถีีคครราาาาเเททมออคคุุณณรรนนรราาสยยรรเเปปะะธธลลงงื่่ืออ่่าาารรรรสสเเืือองงงงมรรททะะาามมสสกกมมาเเคคคคืืรรออแแรมมโโเเ้้าาััปปถญญลลลลิินนนนงงใรระะืืออสสผผขขโโนะะกกใใลลรรลลออเเกชชแแยยมมรรงง้้าเเลลคคีีิินนเเททผผรปปคคะะ์์แแตตใูู้้คคเเใใรรรรลลชาารรชชโโะะื่่ืออมมะะีีเ้ยยนน้้เเกกทททงงมมตตโโนนมมออคคคีีััววคคลลืืบออบโโโชชุุณณยยนนดดนททดด้ีี้ววีีใใโโ้้ธธโาาััดดนน้้่ี่ีววใใลลลรรนนชชททยยยยกกรรย้้ใใคค้ั้ังงีีใใาามมีนนกกนนรรวว22าากกกกเเาาเเหหรราาาาลลดดมมีีรรยยรรนนืืออ้้าาสสแแนนปปนนกกดดกกาารรรรแแปป้้ปปมมไไูู้้ ะะออลลััญญดดััญญาาเเยยะะ้้แมมแหหรรหห่่าใาใิิกกนนชชถถาาาางง่่้้
❖ แบบประเมนิ กสา�ำรหปรฏับิบนัตกิเรียนประเมนิ ตนเอง
❖ แบบประเมนิ สำ� หรบั ครูประเมนิ นกั เรียน

้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 68 คมู่ ือการใชเ้ ครอ่ื งมือประเมนิ สมรรถนะส�ำคัญของผู้เรยี น
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)

69

แบบทดสอบวัดความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 1 - 3

ช่อื ..............................................................................................................ช้นั ...................เลขท่ี..........................
โรงเรียน ................................................................................................................................................................
คาชแี้ จง แบบทดสอบฉบับน้ีมี 10 ข้อ คะแนนเตม็ 30 คะแนน ใชเ้ วลา 30 นาที มี 2 ตอน ดังนี้
ตอนที่ 1 แบบเลือกตอบ
คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรยี นเลอื กคาตอบท่ีถูกต้องทสี่ ดุ เพยี งคาตอบเดียว จานวน 8 ขอ้ (ข้อ 1 – 8)

(ข้อละ 2.5 คะแนน รวม 20 คะแนน)
1.

“อ๋อ” ใช้งานคอมพิวเตอร์ที่มีการใช้งานระบบอินเทอร์เน็ตอยู่ตลอดเวลา อยู่มาวันหน่ึง
“ออ๋ ” โดนไวรสั Ransomware ซง่ึ เป็นมัลแวร์ (Malware) ทาให้ “อ๋อ” ไมส่ ามารถทางานได้ โดยเฉพาะ
อย่างยิ่ง ไฟล์เอกสาร รูปภาพ วิดีโอ จะไม่สามารถเปิดได้ เน่ืองจากถูกเข้ารหัส ซ่ึงหาก “อ๋อ” ต้องการ
ปลดลอ็ คเพือ่ กไู้ ฟล์ขอ้ มลู คนื มา จะต้องทาการจา่ ย “เงินค่าไถ”่ จานวนมากเพื่อขอคยี ์ในการปลดล๊อค

จากกรณีดงั กลา่ ว เพ่ือเปน็ การปอ้ งกนั ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นกับนักเรยี นหากมีข้อมูลจานวนมากกวา่ 10 GB
นักเรยี นจะเลือกใช้แอพพลิเคชนั ใดในการสารองข้อมูลไว้บนระบบอินเทอร์เน็ต แบบไมม่ ีค่าใช้จ่าย จึงจะปลอดภยั

1) Google Drive

2) Gmail

3) Google Classroom

4) Google Keep

เฉลย เพราะ Google Drive เป็นแอพลิเคชันบนระบบคลาวด์ที่ให้พ้ืนที่เก็บข้อมลู
1) ถูก สารองฟรสี าหรบั บุคคลทั่วไป จานวน 15 GB

คมู่ อื การใชเ้ ครือ่ งมอื ประเมินสมรรถนะส�ำคญั ของผเู้ รยี น 69 ้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

ตัวลวง 70
2) ผดิ
เพราะ Gmail เปน็ เมลลแ์ อพพลิเคชัน ทีส่ ามารถเก็บข้อมูลได้แค่ 25 MB

3) ผิด เพราะ Google Classroom เป็นแอพลิเคชันบนระบบคลาวด์ท่ีใช้สาหรับ
การจดั การเรียนการสอน

4) ผดิ เพราะ Google Keep เป็นแอพลิเคชันบนระบบคลาวด์ที่ใช้สาหรับการ
สรา้ งการเตอื นความจาหรอื โนต๊ ต่าง ๆ

เกณฑ์การใหค้ ะแนน
ตอบถูกข้อละ 2.5 คะแนน
ตอบผดิ หรือไมต่ อบได้ 0 คะแนน

้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 2.
นักเรียน 4 คน ทางานในห้องสมุดประชาชนแห่งหน่ึงซึ่งท้ัง 4 คนได้รับมอบหมายให้วางแผนการพัฒนา
ระบบการใชห้ อ้ งสมุดให้ทันสมัยจงึ ร่วมกันคิดและแสดงความคดิ เหน็ ดังน้ี
อ้อม : หอ้ งสมดุ เราตอ้ งเกบ็ รวบรวมข้อมลู จานวนผูใ้ ช้ห้องสมุดและรายการหนงั สือที่แต่ละคนใช้บริการ
แล้วสรปุ เพ่อื รายงานต่อในท่ีประชมุ
ออ๋ : ห้องสมุดเราต้องทาเป็นเอกสารเผยแพร่แหล่งท่องเท่ียวในท้องถิ่นผ่านสื่อโซเชียลให้ผู้ใช้บริการ
ห้องสมดุ สามารถเขา้ ถึงไดง้ า่ ย
เอม : การจัดซื้อจัดหาหนังสือเข้าห้องสมุดเราต้องหาหนังสือที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์เพ่ิมขึ้น เพื่อให้
ปลอดภัยเราต้องจา่ ยเงินผ่านระบบอิเลก็ ทรอนกิ ส์
เอก : เราต้องให้เจ้าหน้าท่ีห้องสมุดเก็บบันทึก username และ password ของสมาชิกห้องสมุด
ทุกคนไว้เป็นข้อมูลเพื่อนาเสนอให้เห็นถึงความนิยมและเห็นจานวนของผู้ใช้บริการก่อน
การพัฒนาหอ้ งสมดุ ตอ่ ไป

จากสถานการณ์ ขอ้ เสนอของใครท่เี ป็นการละเมิดกฎหมายเกี่ยวกบั การค้มุ ครองขอ้ มลู สว่ นบคุ คล
(Data Protection Law)

1) ออ้ ม
2) ออ๋
3) เอม
4) เอก

70 คมู่ ือการใชเ้ ครอื่ งมอื ประเมินสมรรถนะสำ� คญั ของผเู้ รียน
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

71

เฉลย
4) ถกู เพราะ เปน็ กฎหมายเก่ยี วกับการคุ้มครองข้อมลู ส่วนบคุ คล (Data Protection Law)
เป็นการรบั รองสิทธิ และให้ความคมุ้ ครองข้อมูลสว่ นบุคคลซงึ่ อาจถูกประมวลผล
เปิดเผยหรอื เผยแพร่ถึง บคุ คลจานวนมากไดใ้ นระยะเวลาอันรวดเร็ว

ตัวลวง
1) ผิด เพราะ เปน็ กฎหมายเกยี่ วกับการพัฒนาโครงสรา้ งพื้นฐานสารสนเทศให้ทว่ั ถึง
และเท่าเทียมกนั (National Information Infrastructure Law)
2) ผดิ เพราะ เป็นกฎหมายเก่ยี วกับธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Transactions Law)
3) ผิด เพราะ เป็นกฎหมายเก่ียวกับการโอนเงนิ ทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ (Electronic Funds Transfer Law)

3.
สถานการณ์

จากข้อมลู ถา้ ต้องการหาคา่ เฉลี่ยน้าหนักของนกั เรียนชายควรใชค้ าสงั่ ใด ้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
1) =AVERAGEIF(E2:E14,"ชาย",H2:H14)
2) =AVERAGEIF(E2:E14,"ชาย",G2:G14)
3) =AVERAGEIF(E2:E14,="ชาย",H2:H14)
4) =AVERAGEIFS(E2:E14,"ชาย",G2:G14)
เฉลย
2) ถกู เพราะ AVERAGEIF เป็นฟังก์ช่ันค่าเฉล่ียเลขคณิตแบบมีเงื่อนไข 1 เง่ือนไข และเลือกใช้

คอลัมน์ G ในการคานวณ

คมู่ อื การใช้เครอ่ื งมือประเมินสมรรถนะสำ� คญั ของผเู้ รียน 71
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)

72

ตวั ลวง
1) ผิด เพราะ เลอื กใชค้ อลัมน์ H ในการคานวณ
3) ผิด เพราะ AVERAGEIF เป็นฟังก์ชั่นค่าเฉล่ียเลขคณิตแบบมีเง่ือนไข 1 เงื่อนไข โดยไม่ต้องระบุ
เคร่อื งหมายตรรกะ ในกรณที ่เี งือ่ นไขในเปน็ ขอ้ ความตัวอกั ษร
4) ผดิ เพราะ AVERAGEIFS เปน็ ฟังก์ช่ันค่าเฉลี่ยเลขคณติ แบบมเี งอ่ื นไข มากกว่า 1 เง่อื นไข

4.

จากข้อมูล ในการสร้างแบบสอบถามด้วย Google Forms เพ่ือทาการเก็บรวบรวมข้อมูลสุขภาพ
หัวข้อใดบ้างท่ีใช้ลักษณะการให้ตอบ “หลายตัวเลือก” จึงจะสามารถเก็บข้อมูลได้ตามภาพท่ีระบุไว้

้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 1) คานาหนา้ นาม, ชัน้ เรยี น, หมู่เลือด
2) คานาหน้านาม, เพศ, ช้นั เรียน
3) คานาหนา้ นาม, เพศ, หม่เู ลอื ด
4) คานาหนา้ นาม, เพศ, สว่ นสูง

72 คู่มือการใชเ้ คร่ืองมอื ประเมนิ สมรรถนะส�ำคัญของผเู้ รียน
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

73

เฉลย
3) ถกู เพราะ คานาหน้านาม เพศ และหมู่เลือดเป็นการเลือกตอบเพียงข้อเดียว ซึ่งสามารถใช้
ลกั ษณะการใหต้ อบ “หลายตัวเลอื ก”

ตัวลวง
1) ผิด เพราะ ช้ันเรียนไมส่ ามารถใช้ลกั ษณะการใหต้ อบ “หลายตวั เลือก”
2) ผดิ เพราะ ช้ันเรียนไม่สามารถใช้ลักษณะการให้ตอบ “หลายตวั เลอื ก”
4) ผดิ เพราะ ส่วนสูงไม่สามารถใช้ลักษณะการใหต้ อบ “หลายตวั เลอื ก”

5.

จากข้อมูล การป้อนข้อมลู ที่คอลัมน์ใดมีความผิดพลาดตั้งแต่ 2 ตาแหน่งขึ้นไปทัง้ หมด
1) เพศ วันเกิด นา้ หนัก
2) คานาหน้า เพศ สว่ นสูง
3) วนั เกิด นา้ หนัก สว่ นสงู
4) วันเกิด หมเู่ ลอื ด น้าหนกั
เฉลย

3) ถูก เพราะ คอลัมน์วดั เกดิ ผดิ 2 จดุ คือ 19071997(เป็นปี คศ.) และ 31062540 (เดอื น 6 มี 30 วัน)
คอลมั น์น้าหนัก ผดิ 2 จุด การพิมพต์ วั อกั ษร (หกสบิ สาม) และ 5O (ไม่ใชต่ วั เลข)
คอลัมน์ส่วนสูง การใสข่ อ้ มลู คนละมามาตราส่วนและมีเครอ่ื งหมายลบ()

ตัวลวง
1) ผิด เพราะ คอลมั น์เพศ ผิด 1 จุด (หณงิ )
3) ผดิ เพราะ คอลมั น์คานาหน้า ผดิ 1 จดุ (ด.p.)
4) ผดิ เพราะ คอลัมน์หมู่เลือด ผิด 1 จุด (เอ)

คมู่ อื การใชเ้ ครอ่ื งมอื ประเมนิ สมรรถนะสำ� คัญของผู้เรยี น 73 ้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

74

6.
"ชุดตรวจและน้ายาท่ีเก่ียวข้องกับการวินิจฉัยการติดเชื้อ SARS CoV-2 (เช้ือก่อโรค COVID - 19)

แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง (COVID - 19 Antigen test self-test kits)" ประกอบด้วยน้ายา
(reagent) ผลิตภัณฑ์ที่มีน้ายา (reagent product) และส่วนประกอบของชุดตรวจ (kit component)
และใหร้ วมถึงตัวสอบเทยี บ (calibrator) หรือตัวควบคุม (control material)ท่เี กี่ยวข้อง ไมว่ ่าจะใช้โดย
ลาพังหรือใช้ร่วมกัน เพ่ือใช้ในการตรวจสอบ ตรวจยืนยัน หรือตรวจหาเชิงปริมาณ ในส่ิงส่งตรวจจาก
ร่างกายมนุษย์เพื่อวินิจฉัยการติดเช้ือ SARS CoV - 2 (เช้ือก่อโรค COVID - 19) ที่ไม่ใช้โดยตรงกับ
ร่างกายมนุษย์ แต่ใช้กับส่ิงส่งตรวจ จากร่างกายมนุษย์และได้พัฒนาขึ้นจนอยู่ในสภาพท่ีสมบูรณ์เพื่อใช้
ในการวินิจฉัย โดยใช้เบื้องต้นเพื่อหาภาวะการติดเช้ือ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายให้สามารถนาไปใช้ได้โดยบุคคล
ทั่วไป (Home use) ณ สถานทีซ่ ่ึงไมม่ ลี ักษณะหรือสภาพแวดลอ้ มเปน็ สถานพยาบาล เชน่ บา้ นพกั อาศัย
หรือชุดตรวจที่บุคลากรทางการแพทย์ส่ังใช้สาหรับผู้ป่วยนอกสถานพยาบาล และให้รวมถึงเครื่องมือ
แพทยท์ ี่มีจุดมง่ หมายให้ใชท้ ง้ั ในและนอกสถานพยาบาล

จากข้อมูล ข้อใดคือสาเหตุที่ทาให้เกิดการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยีการผลิตชุดตรวจหาเช้ือไวรัส
COVID - 19 มากท่ีสุด

1) ลดตน้ ทุนการผลติ
2) แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ
3) พัฒนาของวทิ ยาศาสตรแ์ ละศาสตร์ต่าง ๆ
4) เพ่มิ โอกาสการเข้าถึงความต้องการของสังคม
เฉลย

4) ถูก เพราะ เป็นสาเหตสุ าคญั ท่ีต้องการให้สามารถนาไปใช้ไดโ้ ดยบุคคลทวั่ ไปจากขอ้ ความใน
บทความ

ตวั ลวง
2) ผิด เพราะ จากบทความไม่ไดร้ ะบสุ าเหตุเก่ยี วกบั ตน้ ทนุ การผลิต
3) ผดิ เพราะ จากบทความไม่ได้ระบสุ าเหตุเกีย่ วกับแก้ปญั หาสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ
4) ผิด เพราะ สาเหตุในพฒั นาของวิทยาศาสตร์และศาสตร์ต่าง ๆต้องมีการพฒั นาท่ีดขี ้ึน มีคุณภาพ
เพิ่มมากขนึ้

้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 74 คมู่ อื การใชเ้ ครอ่ื งมือประเมินสมรรถนะส�ำคญั ของผู้เรยี น
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)

75 ้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3

7.
ในห้องเรียนครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มหาวิธีการแก้ปัญหาเก่ียวกับขยะพลาสติกในโรงเรียนท่ีมี

ปริมาณมาก และจะจัดการด้วยการเผา ทาให้เกิดมลพิษต่อส่ิงแวดล้อม ประกอบกับเป็นช่วงฤดูร้อนทา
ใหอ้ ากาศคอ่ นขา้ งอบอ้าว พร้อมท้ังในหอ้ งเรยี นมีพดั ลมไมเ่ พียงพอ หลังจากรวบรวมขอ้ มลู แล้ว กลุม่ ของ
สมศักด์ิได้ตกลงกันว่าจะสร้าง "พัดลมมือถือ" จึงได้เขียนภาพร่างและขั้นตอนการสร้าง ช้ินงานตาม
รูปแบบที่เลือก
ขอ้ ใดไม่ใชป่ ระโยชนข์ องภาพรา่ งและขนั้ ตอนการสรา้ งชน้ิ งานตามรูปแบบทีเ่ ลือกของกลุ่มสมศกั ดิ์ตอ่ การทางาน
ในขัน้ ตอ่ ไป
1) มีแผนการทางานทีช่ ดั เจน
2) ได้ขอ้ มลู ทน่ี าไปส่กู ารออกแบบ
3) ประหยดั เวลาและวัสดุในการทางาน
4) ลดความผิดพลาดในการสร้างชิน้ งาน

เฉลย
2) ถกู เพราะ ไม่ใช่ประโยชนข์ องภาพรา่ งและขนั้ ตอนการสรา้ งช้ินงานแต่เป็นขั้นตอนการออกแบบ

ตัวลวง
1) 3) และ 4) ผิด เพราะ เป็นประโยชน์ของการปฏิบตั ิการซึ่งเป็นขัน้ ตอนต่อจากการออกแบบภาพร่าง
และข้ันตอนการสร้างช้ินงานแตเ่ ปน็ ขน้ั ตอนการออกแบบ

8.
ในหอ้ งเรยี น ม.3 เจษกาลังหดั เต้นตามศิลปินเกาหลี ซ่งึ ในระหว่างท่ีกาลงั หดั เต้นเพือ่ น ๆ ในห้องเรยี น

กไ็ ด้นั่งดูอยูด่ ้วยความสนุกสนาน แตม่ เี พื่อนกลุ่มหนึ่งปฏิบตั ิดังน้ี
ป๋อง : แอบถ่ายคลิปเจษขณะกาลังเต้น Tik Tok แลว้ โพสโซเชยี ล
แป้ง : แชร์โพสของป๋องเพ่ือเพิม่ ผูต้ ดิ ตาม
ปก : บอกใหป้ ๋องลบโพสทเี่ ป็นคลิปของเจษ
ปงิ : โหลดคลปิ ของเจษไวใ้ นโทรศัพท์มือถือของตน

จากสถานการณ์ บคุ คลใดมจี รรยาบรรณในการเปน็ ผใู้ ช้อินเทอร์เน็ต
1) ป๋อง
2) แปง้
3) ปก
4) ปิง

เฉลย
3) ถกู เพราะ ปกไม่ใชค้ อมพิวเตอรท์ ารา้ ยหรือละเมิดผู้อ่นื

คู่มอื การใช้เคร่ืองมอื ประเมนิ สมรรถนะส�ำคัญของผู้เรียน 75
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)

76

ตัวลวง
1) 2) และ 4) ผดิ เพราะ ใชค้ อมพิวเตอร์ทาร้ายหรอื ละเมิดผู้อนื่

เกณฑ์การให้คะแนน ข้อ 1 - 8
ตอบถูกข้อละ 2.5 คะแนน
ตอบผิดหรอื ไมต่ อบได้ 0 คะแนน

ตอนที่ 2 แบบเขียนตอบ
คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนคดิ หาคาตอบท่ีถกู ต้อง แลว้ เขยี นตอบลงในกระดาษคาตอบจานวน 2 ขอ้ (ข้อ 9 - 10)

(ขอ้ ละ 5 คะแนน รวม 10 คะแนน)
9.

จากปัญหาการล่อลวงท่ีเกิดจากการเล่นอินเทอร์เน็ตที่นับวันยิ่งมีมากข้ึนทาให้หน่วยงานท่ี
รับผิดชอบได้พยายามหามาตรการป้องกันปัญหาและภัยจากการใช้อินเทอร์เน็ต ซ่ึงเกิดจากคนท่ีขาด
จิตสานึกท่ีดีของสังคม ดังนั้นจึงเป็นหน้าท่ีของทุกคนที่จะสร้างจิตสานึกท่ีดีต่อตนเองและสังคมเพื่อ
หลกี เลีย่ งและรบั มือจากความเส่ยี งจากภยั ออนไลน์

จากปญั หาดงั กลา่ ว นกั เรียนในฐานะผู้ใช้งานอินเทอร์เนต็ ควรมีจรรยาบรรณอย่างไรบา้ งทค่ี วรยึดถอื ไวเ้ ป็น
แนวทางปฏิบตั ิ
ตอบ ............................................................................................................................. .......................
เฉลย
1. ต้องไม่ใชค้ อมพิวเตอรท์ าร้าย หรือละเมิดผู้อน่ื
2. ตอ้ งไมร่ บกวนการทางานของผู้อ่ืน
3. ตอ้ งไมส่ อดแนม แก้ไข หรือเปดิ ดูแฟม้ ข้อมลู ของผูอ้ ืน่
4. ตอ้ งไม่ใช้คอมพวิ เตอรเ์ พื่อการโจรกรรมข้อมูลขา่ วสาร
5. ตอ้ งไม่ใช้คอมพวิ เตอรส์ ร้างหลกั ฐานที่เป็นเทจ็
6. ตอ้ งไม่คดั ลอกโปรแกรมของผอู้ ่ืนท่มี ลี ขิ สทิ ธ์ิ
7. ต้องไม่ละเมดิ การใชท้ รัพยากรคอมพวิ เตอรโ์ ดยท่ตี นเองไมม่ สี ทิ ธิ์
8. ตอ้ งไมน่ าเอาผลงานของผู้อ่นื มาเปน็ ของตน
9. ต้องคานึงถงึ สง่ิ ทจ่ี ะเกิดขึ้นกบั สงั คมทเี่ กิดจากการกระทาของทา่ น
10.ต้องใชค้ อมพวิ เตอรโ์ ดยเคารพกฎระเบียบ กตกิ า และมีมารยาท

้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 แนวคดิ
เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชีวิตจริงอย่างเป็นข้ันตอนและเป็นระบบ

ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้การทางาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน
และมจี รยิ ธรรม

76 คู่มอื การใชเ้ ครื่องมอื ประเมินสมรรถนะสำ� คัญของผู้เรยี น
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)

77

คะแนนเต็ม (5 คะแนน) คะแนนบางสว่ น ไมไ่ ด้คะแนน
(3 คะแนน) (0 คะแนน)
1. ต้องไม่ใชค้ อมพิวเตอรท์ าร้าย หรือละเมดิ ผู้อน่ื ตอบได้บางส่วน นกั เรียนไม่ตอบ
2. ตอ้ งไมร่ บกวนการทางานของผู้อน่ื
3. ต้องไมส่ อดแนม แก้ไข หรือเปดิ ดแู ฟม้ ขอ้ มูลของผอู้ นื่
4. ตอ้ งไม่ใช้คอมพิวเตอรเ์ พื่อการโจรกรรมข้อมูลข่าวสาร
5. ต้องไม่ใช้คอมพวิ เตอร์สร้างหลกั ฐานท่เี ปน็ เท็จ
6. ต้องไม่คดั ลอกโปรแกรมของผอู้ ื่นทีม่ ีลิขสทิ ธิ์
7. ต้องไมล่ ะเมดิ การใชท้ รัพยากรคอมพวิ เตอรโ์ ดยท่ีตนเองไม่มีสิทธิ์
8. ต้องไม่นาเอาผลงานของผู้อน่ื มาเป็นของตน
9. ตอ้ งคานึงถงึ สงิ่ ท่ีจะเกดิ ขึ้นกับสงั คมท่เี กดิ จากการกระทาของท่าน
10.ตอ้ งใช้คอมพวิ เตอรโ์ ดยเคารพกฎระเบยี บ กตกิ า และมีมารยาท

10.
การออกแบบและพัฒนาแอปพลิเคชนั ไอโอที เพอ่ื ชว่ ยรดน้าอตั โนมัติในแปลงเกษตร
โดยอาศยั การวัดความช้นื ของดนิ

คาถาม จากขั้นตอนการทางานของระบบช่วยรดน้าอัตโนมัติในแปลงเกษตรโดยอาศัยการวัดความชื้นของดิน ้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
ถ้าระบบเกิดความขัดข้องหรือเสียหายโดยส่งข้อมูลค่าความช้ืนของดินมาแสดงบนแอพพลิเคชั่นไอโอทีได้
แต่เมื่อส่ังให้ระบบลดน้าทางานแต่ระบบน้าเกิดขัดข้องไม่ปล่อยน้า ต้องดาเนินการตรวจสอบ อุปกรณ์หมายเลขใด
เพราะเหตุใด
ตอบ............................................................................................................................. ..........................................
เฉลย หมายเลข 1 เพราะ เป็นแผงควบคมุ เปน็ การเชือ่ มต่อระบบการควบคุมการเปิดปิดกับระบบรดนา้ /
การสัง่ การจากแอพพลิเคชน่ั ไอโอที ผ่านระบบอนิ เตอร์เน็ตเขา้ สู่แผงวงจรควบคุมไมม่ ีปัญหา แต่งการให้ระบบรด
น้าทางานแตน่ ้าไมส่ ามารถทางานได้ควรตรวจสอบแผงควบคมุ
แนวคดิ 1. การทดสอบกระบวนการทางานอย่างถกู ต้องตามหลักวชิ าการทุกขัน้ ตอน

2. การปรบั ปรุงแก้ไขงานเพ่ือไม่มีขอ้ บกพร่องหรือมขี ้อบกพรอ่ งได้รบั การแกไ้ ขท้ังหมด

คู่มอื การใชเ้ ครอื่ งมอื ประเมนิ สมรรถนะส�ำคัญของผเู้ รียน 77
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)

78

เกณฑ์การใหค้ ะแนน คะแนนเตม็ คะแนนครึง่ หนงึ่ ไมไ่ ด้คะแนน

(5 คะแนน) (2.5 คะแนน) (0 คะแนน)
เมื่อระบุ หมายเลข 1 พร้อมให้เหตุผลเกี่ยวกับการทดสอบ เม่ือระบุ หมายเลข 1 เม่ือระบหุ มายเลข
และปรับปรุงแก้ไขงานได้ถูกต้อง หรือ ใหเ้ หตุผล อ่ืนทีไ่ มใ่ ชห่ มายเลข
แนวคาตอบ เกยี่ วกบั การทดสอบ 2 และหรือให้
- หมายเลข 1 เพราะ เป็นแผงควบคุมเป็นการเชื่อมต่อระบบ และปรบั ปรงุ แก้ไข เหตุผลไม่ถกู ต้อง
การควบคมุ การเปิดปดิ กบั ระบบรดนา้ งานได้ถูกต้อง
- 1 เพราะ การส่ังการจากแอพพลิเคช่ันไอโอที ผ่านระบบ
อินเตอร์เน็ตเข้าสู่แผงวงจรควบคุมไม่มีปัญหา แต่งการให้ระบบ
รดนา้ ทางานแต่น้าไมส่ ามารถทางานไดค้ วรตรวจสอบแผงควบคุม
ฯลฯ

เกณฑ์ตัดสินระดบั คณุ ภาพการทาแบบทดสอบ ระดับคณุ ภาพ
คะแนน ดี
25 – 30
16 – 24 พอใช้
0 – 15 ปรบั ปรุง

เกณฑ์ตดั สินระดับคณุ ภาพการประเมินความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 - 3
คะแนน ระดับคณุ ภาพ
25 – 30 ดเี ยย่ี ม
17 – 24 ดี
9 – 16 พอใช้
0 – 8 ปรับปรุง

การแปลผลคะแนน ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

ระดับพฤติกรรม คาอธบิ าย

้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 ดเี ยย่ี ม เลือกและใชเ้ ทคโนโลยที ่เี หมาะสมเพื่อลดข้ันตอนเวลา ทรพั ยากร ในการทางาน
และนาเสนอผลงานทเ่ี ป็นประโยชน์ตอ่ ตนเองและสังคม โดยมคี วามหลากหลาย
ดี แปลกใหม่ นา่ สนใจ ไมล่ อกเลียนแบบ ไม่ทาให้ผอู้ ืน่ เดือดร้อน ไม่มีผลกระทบต่อ
พอใช้ สงิ่ แวดลอ้ มและสามารถแนะนาผู้อนื่ ได้
ปรบั ปรุง เลือกและใช้เทคโนโลยที ี่เหมาะสมเพื่อลดขั้นตอนเวลา ทรัพยากร ในการทางาน
และนาเสนอผลงานทเ่ี ปน็ ประโยชนต์ อ่ ตนเองและสังคม โดยไมท่ าให้ผูอ้ ่ืน
เดือดร้อน ไม่มผี ลกระทบตอ่ สิ่งแวดลอ้ ม
เลือกและใช้เทคโนโลยเี พ่ือลดขั้นตอน เวลา ทรพั ยากรในการทางานและ
นาเสนอผลงานท่ีเป็นประโยชน์ต่อตนเองหรือสงั คม
เลือกและใชเ้ ทคโนโลยีเพ่ือลดขนั้ ตอน เวลา ทรพั ยากร ในการทางานและ
นาเสนอผลงานไดโ้ ดยต้องมีผู้แนะนา

78 ค่มู ือการใช้เคร่อื งมือประเมนิ สมรรถนะส�ำคัญของผู้เรยี น
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)

79

แบบสัมภาษณ์วัดความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 – 3

แบบสมั ภาษณ์ เรือ่ ง.............................................................................................................................................
ช่อื ผสู้ ัมภาษณ์ ..........................................................วัน/เดอื น/ปี ที่สัมภาษณ์...................................................
เวลา .......................................................................... สถานที่ ............................................................................
ชอื่ ผูร้ ับการสัมภาษณ์ / กลุ่ม.................................................... ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี.................เลขท.่ี .................
โรงเรียน ...............................................................................................................................................................
สถานการณ์

หากในช่วงเทศกาลปีใหม่ หน่วยงานของจังหวัดนักเรียนต้องการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองท่ามกลาง
สถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งสร้างความกงั วลใหก้ ับประชาชนในจังหวัดจานวนมาก

ประเดน็ สัมภาษณเ์ ก่ียวกบั สถานการณ์
1. หากทางจงั หวดั ยังจดั งานนี้ โดยไมม่ ีการควบคุมโรคตามมาตรการทีเ่ หมาะสมนกั เรยี นคาดวา่ จะมีผลเสีย
ตามมาอย่างไรบ้าง
2. นกั เรยี นคิดวา่ จะใชว้ ิธกี ารปอ้ งกันการแพรร่ ะบาดโรคอย่างไร
3. นักเรยี นรจู้ ัก website/Application/ส่อื อ่นื ๆ ใดบ้าง ที่ให้ข้อมลู เก่ยี วกบั การแพร่ระบาดของโรคโควดิ -19

เฉลย/แนวคาตอบ
1. หากทางจงั หวดั ยังจัดงาน โดยไมม่ ีการควบคุมโรคตามมาตรการทีเ่ หมาะสม จะเกิดผลเสียดังนี้
1.1 การแพรร่ ะบาดของโรคติดต่อจะรุนแรง
1.2 เปน็ แหล่งแพรร่ ะบาดของเช้ือโรค (Cluster)
1.3 สรา้ งความกังวลให้ประชาชนทีม่ ารว่ มงานหรือคาตอบอ่ืนที่มเี หตผุ ลสอดคล้อง
2. วธิ กี ารปอ้ งกนั การแพร่ระบาดโรค ดงั นี้
2.1 ประชาสัมพันธก์ ารเข้ารว่ มงานภายในมาตรการป้องกันโรค
2.2 กาหนดปรมิ าณผเู้ ขา้ รว่ มงาน
2.3 กาหนดและติดตัง้ จุดคัดกรองใหค้ รอบคลุม
2.4 ตรวจสอบการฉดี วัคซีนหรอื การตรวจ ATK ของผูเ้ ขา้ ร่วมงานแตล่ ะคนหรอื คาตอบอน่ื ทีม่ เี หตผุ ลสอดคล้อง
3. website/Application/ส่ืออื่น ๆ ที่ให้ข้อมลู เกี่ยวกบั การแพร่ระบาดของโรคโควดิ -19 มดี ังน้ี
3.1 Facebook สาธารณสุขจงั หวัด
3.2 website กรมควบคุมโรค/หน่วยงานทางสาธารณสขุ
3.3 ช่องทางโทรทัศน์/วทิ ยุ หรอื ช่องทางอ่นื ทเี่ กย่ี วข้อง
เกณฑ์การประเมินแบบสัมภาษณ์
ตอบคาถามได้ 3 ข้อ ระดับ ดีเยี่ยม
ตอบคาถามได้ 2 ข้อ ระดับ ดี
ตอบคาถามได้ 1 ข้อ ระดับ พอใช้ ้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
ตอบคาถามไม่ได้ ระดับ ปรับปรงุ
หมายเหตุ ถา้ ไม่ตรงตามเกณฑ์การประเมินข้างต้น ให้อยู่ในระดับ ปรบั ปรงุ

คมู่ ือการใช้เคร่ืองมอื ประเมนิ สมรรถนะสำ� คญั ของผเู้ รยี น 79
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

80

วธิ ีการใชแ้ บบสัมภาษณ์
ครสู ัมภาษณผ์ ูเ้ รยี น ตามประเด็นสมั ภาษณ์เกยี่ วกับสถานการณ์ จานวน 3 ข้อ และสรปุ ผล ตามเกณฑ์
การประเมนิ ดงั นี้
ตอบคาถามได้ 3 ข้อ ระดับ ดีเยยี่ ม
ตอบคาถามได้ 2 ข้อ ระดับ ดี
ตอบคาถามได้ 1 ข้อ ระดบั พอใช้
ตอบคาถามไม่ได้ ระดับ ปรบั ปรงุ
และ ถา้ ไมต่ รงตามเกณฑ์การประเมนิ ข้างตน้ ให้อยูใ่ นระดับ ปรับปรงุ
ครูสรุปผลการประเมนิ ดังกล่าว กรณีท่ีผลการประเมินพบว่า นกั เรียนมีระดับความสามารถการใช้
เทคโนโลยี อยูใ่ นระดบั ปรับปรุง ระดับพอใช้ หรือระดับดี ครคู วรหาแนวทางการพฒั นานักเรยี นให้มรี ะดับ
ความสามารถที่เพ่ิมสงู ขึ้นจากระดบั เดมิ

แบบประเมินความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี สาหรบั นักเรยี นประเมนิ ตนเอง
ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 1 – 3

คาชแ้ี จง
เครอ่ื งมือท่ีใชใ้ นการประเมินความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ฉบบั นี้ แบ่งออกเปน็ 2 ตอน
ตอนที่ 1 ข้อมลู ทั่วไปของนกั เรียน
ตอนท่ี 2 รายการประเมินความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ด้านการสรา้ ง ใชแ้ ละร้เู ท่าทัน
วิทยาการเทคโนโลยี ความฉลาดทางดจิ ิทลั ใช้เทคโนโลยดี ิจิทลั ตามกฎหมายที่เกีย่ วข้อง
และ มีจริยธรรม เขา้ ใจถงึ สทิ ธิของตนเอง และเคารพสทิ ธขิ องผู้อ่ืน

ทาเครอ่ื งหมาย  ลงในชอ่ งว่างท่ีตรงกบั ระดบั พฤติกรรมของคุณลักษณะท่ีนกั เรียนแสดงออก
ระดับ 5 หมายถึง นกั เรียนปฏบิ ตั ิพฤติกรรมดงั กล่าวมากทีส่ ุด
ระดับ 4 หมายถึง นักเรยี นปฏบิ ตั ิพฤตกิ รรมดงั กลา่ วมาก
ระดับ 3 หมายถงึ นักเรียนปฏิบัตพิ ฤติกรรมดังกลา่ วปานกลาง
ระดับ 2 หมายถงึ นักเรยี นปฏิบตั ิพฤติกรรมดงั กล่าวนอ้ ย
ระดบั 1 หมายถงึ นักเรียนปฏบิ ตั ิพฤติกรรมดังกลา่ วนอ้ ยทส่ี ุด
**************************************************

ตอนท่ี 1 ข้อมลู ทั่วไปของนักเรียน

ช่อื –สกลุ ......................................................................................ระดับช้ัน...........ห้อง........เลขท.ี่ .....................
โรงเรยี น ..............................................................................................................................................................
ตอนท่ี 2 รายการประเมินระดบั พฤตกิ รรมท่แี สดงออก

ขอ้ รายการประเมนิ ระดบั พฤติกรรมทแ่ี สดงออก

มากทสี่ ดุ มาก ปานกลาง นอ้ ย น้อยที่สดุ
(5) (4) (3) (2) (1)
1 สืบคน้ แสวงหาความรูจ้ ากแหลง่ ท่มี า (สิง่ พมิ พ,์ อินเทอร์เน็ต)
้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 ทีเ่ ชอื่ ถือได้
2 เลือกรับรูข้ ้อมูลข่าวสารที่เปน็ ประโยชน์ต่อตนเอง

80 คู่มอื การใชเ้ ครอื่ งมอื ประเมนิ สมรรถนะสำ� คัญของผ้เู รียน
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560)

81

ขอ้ รายการประเมนิ ระดบั พฤติกรรมท่ีแสดงออก

มากทส่ี ุด มาก ปานกลาง นอ้ ย นอ้ ยทส่ี ุด
(5) (4) (3) (2) (1)
3 คดั กรองข้อมูลข่าวสารท่ีได้รับจากแหลง่ ข้อมูลทเี่ ชื่อถือ
ได้มากกว่า 1 แหลง่ ข้ึนไป
4 สง่ ตอ่ ข้อมลู ขา่ วสารที่เป็นประโยชนจ์ ากแหล่งขอ้ มูลที่
เช่ือถอื ได้
5 มกี ารตง้ั คาถามถึงความเป็นไปไดเ้ กีย่ วกบั ขอ้ มูลที่มีการ
สง่ ต่อกันมาเสมอ
6 มีการตรวจสอบความจรงิ ของขอ้ มลู ขอ้ มลู ข่าวสารที่
ไดร้ ับจากการส่งต่อกันมา กอ่ นท่จี ะส่งต่อไปยงั บุคคลอ่ืน
7 อา้ งองิ ท่ีมาของข้อมูลหรอื แหลง่ ข้อมูล เมื่อมีการนา
ข้อมลู จากแหล่งน้นั ไปเผยแพร่ตอ่
8 ไม่แสวงหาผลประโยชน์จากการสรา้ งสรรค์ผลงานจาก
สื่อและเทคโนโลยีของผู้อ่ืน
9 ไม่แอบอ้างผลงานของผอู้ ื่นมาเปน็ ผลงานของตนเอง
10 ชื่นชม/ตดิ ตาม ผลงานทเี่ กิดจากสรา้ งสรรคข์ องผผู้ ลิตทมี่ ี
การนาเสนอเปน็ รูปแบบของตนเอง
11 เลกิ ตดิ ตามแหล่งข้อมลู ท่ีก่อใหเ้ กิดทศั นคติดา้ นลบ
มากกว่าด้านบวก
12 ชืน่ ชม/ติดตามแหล่งข้อมลู ที่คานึงถงึ ประโยชน์ของผ้รู ับ
สารเป็นสาคญั
คะแนนรวม
คะแนนเฉลี่ย

ลงชื่อ..................................................ผู้ประเมิน
(.....................................................................)

สรปุ ผลการประเมนิ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ดา้ นการสร้าง ใช้ และร้เู ทา่ ทนั วทิ ยาการเทคโนโลยี
นกั เรียนอยใู่ นระดบั  ดีเยี่ยม  ดี  พอใช้  ปรับปรุง
บันทกึ เพ่มิ เติม (สาหรับครผู ู้สอน)
จดุ เด่นของนักเรียนคือ .........................................................................................................................................
จุดควรพัฒนาของนกั เรยี นคือ ..............................................................................................................................
ลงช่อื ..............................................................
(.....................................................................)
ครผู สู้ อน
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน/ระดับคณุ ภาพ
คะแนนเฉลย่ี 4.50-5.00 หมายถึง การมีคณุ ลกั ษณะการรเู้ ท่าทันวิทยาการเทคโนโลยี อย่ใู นระดบั ดเี ยยี่ ม
คะแนนเฉลยี่ 3.50-4.49 หมายถงึ การมีคุณลักษณะการรู้เท่าทนั วทิ ยาการเทคโนโลยี อยใู่ นระดบั ดี ้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
คะแนนเฉลย่ี 2.50-3.49 หมายถึง การมคี ุณลักษณะการรู้เทา่ ทนั วทิ ยาการเทคโนโลยี อย่ใู นระดบั พอใช้
คะแนนเฉลยี่ 1.00-2.49 หมายถงึ การมีคณุ ลกั ษณะการรูเ้ ทา่ ทันวทิ ยาการเทคโนโลยี อยใู่ นระดับปรบั ปรุง

คมู่ ือการใช้เคร่อื งมือประเมินสมรรถนะสำ� คญั ของผู้เรยี น 81
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

82

แบบประเมนิ ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี สาหรับครูประเมนิ นักเรยี น
ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 1 – 3

คาชีแ้ จง
เคร่ืองมือท่ีใช้ในการประเมนิ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ฉบับน้ี แบง่ ออกเปน็ 2 ตอน
ตอนที่ 1 ข้อมลู ท่วั ไปของนักเรียน
ตอนท่ี 2 รายการประเมนิ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ดา้ นการสร้าง ใชแ้ ละรู้เทา่ ทัน
วิทยาการเทคโนโลยี ความฉลาดทางดิจทิ ัลใชเ้ ทคโนโลยีดิจิทัลตามกฎหมายทเี่ ก่ยี วข้อง
และ มีจรยิ ธรรม เขา้ ใจถึงสิทธขิ องตนเอง และเคารพสทิ ธิของผ้อู ื่น

ทาเครื่องหมาย  ลงในชอ่ งว่างท่ีตรงกบั ระดับพฤติกรรมของคุณลักษณะทน่ี ักเรียนแสดงออก
ระดับ 5 หมายถึง นกั เรียนปฏิบตั ิพฤตกิ รรมดงั กล่าวมากทส่ี ดุ
ระดบั 4 หมายถงึ นักเรยี นปฏิบตั ิพฤติกรรมดังกลา่ วมาก
ระดบั 3 หมายถึง นักเรยี นปฏบิ ัตพิ ฤตกิ รรมดงั กลา่ วปานกลาง
ระดบั 2 หมายถงึ นักเรยี นปฏบิ ัตพิ ฤติกรรมดังกล่าวนอ้ ย
ระดับ 1 หมายถงึ นักเรียนปฏบิ ัติพฤติกรรมดังกลา่ วนอ้ ยทส่ี ดุ

**************************************************

ตอนท่ี 1 ข้อมูลท่ัวไปของนักเรียน

ช่อื –สกลุ ......................................................................................ระดบั ช้นั ...........ห้อง........เลขท.่ี .....................
โรงเรียน ..............................................................................................................................................................
ตอนท่ี 2 รายการประเมินระดับพฤติกรรมทแ่ี สดงออก

ขอ้ รายการประเมนิ ระดบั พฤตกิ รรมทแ่ี สดงออก

มากทส่ี ุด มาก ปานกลาง น้อย นอ้ ยท่ีสดุ
(5) (4) (3) (2) (1)
1 สบื คน้ แสวงหาความรจู้ ากแหลง่ ทีม่ า (สง่ิ พมิ พ,์ อินเทอร์เนต็ )
ท่ีเช่ือถือได้
2 เลอื กรบั รขู้ ้อมูลข่าวสารท่เี ปน็ ประโยชน์ตอ่ ตนเอง
3 คัดกรองข้อมูลข่าวสารท่ีได้รบั จากแหลง่ ข้อมูลทีเ่ ชื่อถือ
ไดม้ ากกวา่ 1 แหลง่ ขนึ้ ไป
4 ส่งตอ่ ข้อมลู ข่าวสารทเ่ี ป็นประโยชนจ์ ากแหลง่ ข้อมลู ท่ี
เช่อื ถือได้
5 มีการตั้งคาถามถงึ ความเปน็ ไปได้เก่ียวกับข้อมูลทมี่ ีการ
ส่งตอ่ กันมาเสมอ
6 มีการตรวจสอบความจรงิ ของขอ้ มลู ข้อมลู ข่าวสารท่ี
ไดร้ บั จากการส่งต่อกันมา ก่อนทีจ่ ะส่งต่อไปยังบุคคลอน่ื
7 อา้ งองิ ท่มี าของข้อมูลหรือแหลง่ ขอ้ มูล เม่ือมีการนา
้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 ข้อมูลจากแหลง่ นั้นไปเผยแพรต่ อ่
8 ไมแ่ สวงหาผลประโยชน์จากการสรา้ งสรรค์ผลงานจาก
ส่อื และเทคโนโลยีของผู้อืน่

82 ค่มู ือการใชเ้ ครือ่ งมอื ประเมินสมรรถนะสำ� คัญของผเู้ รยี น
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)

83

ข้อ รายการประเมิน ระดบั พฤตกิ รรมท่ีแสดงออก

มากทีส่ ุด มาก ปานกลาง น้อย นอ้ ยท่ีสุด
(5) (4) (3) (2) (1)
9 ไม่แอบอ้างผลงานของผ้อู ื่นมาเป็นผลงานของตนเอง
10 ช่ืนชม/ตดิ ตาม ผลงานที่เกดิ จากสรา้ งสรรค์ของผูผ้ ลติ ทมี่ ี
การนาเสนอเป็นรูปแบบของตนเอง
11 เลิกตดิ ตามแหล่งข้อมูลทีก่ ่อให้เกดิ ทัศนคตดิ ้านลบ
มากกว่าดา้ นบวก
12 ชนื่ ชม/ติดตามแหลง่ ข้อมลู ท่ีคานงึ ถึงประโยชนข์ องผ้รู บั
สารเปน็ สาคญั
คะแนนรวม
คะแนนเฉลีย่

ลงชอื่ ..................................................ผปู้ ระเมิน
(.....................................................................)

สรปุ ผลการประเมินความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ด้านการสร้าง ใช้ และรู้เทา่ ทนั วิทยาการเทคโนโลยี
นักเรียนอยใู่ นระดับ  ดีเยีย่ ม  ดี  พอใช้  ปรับปรงุ
บนั ทึกเพิ่มเติม (สาหรับครูผู้สอน)
จุดเดน่ ของนักเรยี นคือ .........................................................................................................................................
จุดควรพัฒนาของนกั เรียนคือ ..............................................................................................................................
ลงช่ือ..................................................
(.....................................................................)
ครูผู้สอน

เกณฑก์ ารให้คะแนน/ระดับคุณภาพ อยใู่ นระดับดเี ยีย่ ม
คะแนนเฉลย่ี 4.50-5.00 หมายถงึ การมคี ุณลักษณะการรูเ้ ทา่ ทันวทิ ยาการเทคโนโลยี อยใู่ นระดับดี
คะแนนเฉลย่ี 3.50-4.49 หมายถึง การมคี ณุ ลักษณะการรเู้ ท่าทนั วิทยาการเทคโนโลยี อยู่ในระดับพอใช้
คะแนนเฉลยี่ 2.50-3.49 หมายถึง การมคี ณุ ลักษณะการรู้เท่าทันวิทยาการเทคโนโลยี อยู่ในระดบั ปรบั ปรุง
คะแนนเฉลย่ี 1.00-2.49 หมายถึง การมีคณุ ลักษณะการรูเ้ ทา่ ทนั วทิ ยาการเทคโนโลยี

คมู่ อื การใช้เคร่ืองมอื ประเมินสมรรถนะส�ำคัญของผเู้ รยี น 83 ้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)

84

แบบสรปุ การประเมินความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 – 3

วตั ถุประสงค์ เพอื่ ใช้เปน็ เคร่ืองมือในการประเมนิ สมรรถนะสาคัญของผู้เรียนด้านความสามารถในการใช้
เทคโนโลยี โดยประเมินจากแบบทดสอบ แบบสัมภาษณ์ และแบบประเมนิ การปฏิบตั ิ
คาชีแ้ จง ใหผ้ ปู้ ระเมินให้คะแนนแบบประเมนิ แตล่ ะตอน และทาเครื่องหมาย  ในช่องทีผ่ ูเ้ รียน
มีระดบั คุณภาพทส่ี อดคล้องกับเกณฑ์การประเมนิ
ผปู้ ระเมนิ  นกั เรยี นประเมนิ ตนเอง  ครู
 เพือ่ นนักเรียน  ผู้ปกครอง
ผู้ประเมิน ชื่อ..............................................................นามสกุล.................................................... .....................

คะแนนท่ีได้ ระดับคุณภาพ หมายเหตุ
จากการประเมิน

เลขที่ ช่ือ-สกลุ แบบทดสอบ
แบบสัมภาษณ์
แบบประเ ิมน
การปฏิบัติ

รวมคะแนน
ีดเ ่ียยม

ีด
พอใช้
ปรับปรุง

(30) (3) (60) (93)
1
2
3
4
...

วธิ กี ารใชเ้ ครื่องมือ
จากเครื่องมือประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ด้านความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

ประกอบด้วย การเลือกและใช้เทคโนโลยีเพ่ือพัฒนาตนเองและสังคม และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี
แบบทดสอบ มี 3 รปู แบบ คือ แบบทดสอบ แบบสัมภาษณ์ และแบบประเมินการปฏิบตั ิ

การใช้เคร่ืองมือวัดและประเมินผลข้างต้น สามารถใช้ในการประเมินระหว่างเรียน และหลังการ
จัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาการเรียนรู้และระดับความสามารถของผู้เรียน ตามแนวทางการประเมินสมรรถนะ
สาคัญของผเู้ รยี นชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 - 3

การพัฒนาผู้เรียนด้วยการใช้เคร่ืองมือประเมินรูปแบบท่ี 1 – 2 ควรอยู่ในระดับพอใช้ ขึ้นไป
และการประเมนิ ผลรวมแบบประเมนิ ทั้ง 3 รูปแบบ และการแปลผลคะแนน ควรอยูในระดบั คณุ ภาพ ดี ขึ้นไป

ชั้น ัมธยม ึศกษา ีป ี่ท 1 - 3 84 คมู่ ือการใชเ้ คร่ืองมอื ประเมนิ สมรรถนะสำ� คัญของผเู้ รยี น
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

85

เกณฑ์การประเมินสมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น ดา้ นความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 1 – 3

เคร่ืองมือแต่ละเครื่องมือมีการกาหนดเกณฑ์การให้คะแนนและแปลผลคะแนนท่ีสอดคล้อง
และเหมาะสมกับวิธีการวดั พฤตกิ รรม โดยกาหนดการแปลผลคะแนนของเครื่องมือแต่ละเครื่องมือเป็น 3 ระดับ
ได้แก่ ระดบั ดี ระดบั พอใช้ และระดบั ปรับปรุง ซ่ึงการแปลผลคะแนนดงั กลา่ วใช้ในการตัดสนิ ระหวา่ งเรียน
สาหรับเกณฑ์การตัดสินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียนได้กาหนดเกณฑ์เพ่ือให้สอดคล้องกับระดับ
ความสามารถท้ัง 4 ระดับ ได้แก่ ระดับปรับปรุง ระดับพอใช้ ระดับดี และระดับดีเย่ียม โดยครูผู้สอนสามารถ
นาเครื่องมือทั้งหมดของแต่ละด้าน ประกอบด้วย เลือกและใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาตนเอ งและสังคม
และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี มาใช้ในการตัดสินสมรรถนะช่วงชั้น โดยมีผลรวมคะแนนทั้ง 3 รูปแบบ
(93 คะแนน) ซงึ่ มีรายละเอียดดงั ตอ่ ไปนี้
1. แบบทดสอบ คะแนนเต็ม 30 คะแนน
2. แบบสัมภาษณ์ คะแนนเต็ม 3 คะแนน
3. แบบประเมินการปฏบิ ัติ คะแนนเต็ม 60 คะแนน

เกณฑก์ ารตดั สนิ สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น ดา้ นความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 1 - 3

คะแนน ระดับคุณภาพ
73 – 93 ดเี ยยี่ ม
49 – 72 ดี
25 – 48 พอใช้
0 – 24 ปรับปรงุ

ค่มู ือการใช้เคร่อื งมือประเมินสมรรถนะสำ� คญั ของผเู้ รียน 85 ้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560)

86

บรรณานกุ รม

บรรณานกุ รม

กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หหลลักักสสูตูตรรแแกกนนกกลลาางงกกาารรศศึกึกษษาาขขั้น้ันพพ้ืนื้นฐฐาานน พพ.ศุท.ธ2ศ5ัก5ร1าช. ก2ร5ุง5เท1พ. ฯกร:ุงโเรทงพพฯิมพ:์
โรคงรุ พสุ มิภพาล์คารุ ดุสพภรา้าลวา.ดพร้าว.
กันต์กนิษฐ์ ชลสีมัธยา. (2562). ความคาดหวังของผู้ปกครองที่มีต่อสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน โรงเรียน

ศรีราชา สังกัดสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศึกษาเขต 18. หลักสูตรการศึกษามหาบัณฑิต
สาขาการบรหิ ารการศึกษา, มหาวทิ ยาลยั บรู พา.
พรพิชิต ทิทา. (2561). การพัฒนาแนวทางการส่งเสริมสมรรถนะสาคัญของผู้เรียนระดับมัธยมศึกษา.
สาขาวิจัยและประเมินผลระดับปริญญาการศกึ ษามหาบัณฑิต, มหาวทิ ยาลัยสารคาม.
สานักงานราชบัณฑิตยสภา. (2564). พจนานุกรมศัพท์ศึกษาศาสตร์ ฉบับราชบัณฑิตยสภา. พิมพ์คร้ังท่ี 2.
กรุงเทพฯ : บริษทั ธนาเพรส จากัด.
สานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา, กระทรวงศึกษาธิการ. (2562). แนวทางการพัฒนาสมรรถนะผู้เรียนระดับ
การศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน. กรงุ เทพฯ : 21 เซน็ จูรี่.
สา�ำนักทดสออบบททาางงกกาารรศศึกึกษษาา. .(2(5255)5.)ค. ู่มคอื ู่มปือรปะรเมะินเมสินมสรมรถรนรถะนสาะคสญั�ำคขัญองขผอู้เรงผียนู้เรียรนะดรับะกดาับรศกกึาษรศาึกขัน้ษพาขน้ื ั้นฐาพนื้นฐตาานม
ตหามลัหกสลูักตสรูตแรกแนกกนลกาลงากงากราศรึกศษึกาษขาั้นข้ันพพื้น้ืนฐฐานานพพุทุทธธศศักักรราาชช22555511..กกรรุงุงเเททพพฯฯ :: โโรรงงพพิมิมพ์สา�ำนักงาน
พพรระะพพุทุทธธศศาาสสนนาาแแหห่งง่ ชชาาติ.
สานกั วิชาการและมาตรฐานการศึกษา, สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ (2554).
แนวปฏบิ ัตกิ ารวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรตู้ ามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551.
พมิ พค์ รั้งที่ 3. กรงุ เทพฯ : โรงพิมพช์ ุมนมุ สหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย จากัด.

้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 86 ค่มู อื การใช้เครอ่ื งมอื ประเมนิ สมรรถนะสำ� คญั ของผเู้ รียน
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

ภาคผนวก



88

รายชรื่อายคชณ่ือะคผณจู้ ัดะผทจู้าัดท�ำ

1. ท่ีปรึกษา
1) นายอมั พร พนิ ะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน
2) นางเกศทิพย์ ศภุ วานชิ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน
3) นายวษิ ณุ ทรพั ย์สมบัติ ผอู้ านวยการสานักทดสอบทางการศึกษา
4) นางลาใย สน่ันรมั ย์ ผ้เู ช่ยี วชาญดา้ นการพัฒนาเคร่ืองมือวัดผล
สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน
5) นายชนาธปิ ทุ้ยแป ผู้อานวยการกลุม่ ประเมนิ คุณภาพการศึกษา
2. คณะทางานจดั ทาคู่มือการใช้เครอ่ื งมือประเมนิ สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียนระดับการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 ประกอบด้วย
2.1 ความสามารถในการสื่อสาร
1) นายไชยวัฒน์ อารโี รจน์ ครูชานาญการ โรงเรียนวิสุทธรงั ษี
สานักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษามธั ยมศกึ ษากาญจนบรุ ี
2) นายพฤทธณฏั ฐ์ิ พรมรตั น์ ครูชานาญการ โรงเรียนราชวนิ ติ มัธยม
สานกั งานเขตพน้ื ท่กี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษากรงุ เทพมหานคร เขต 1
3) นายสรุ พงษ์ กล่าบตุ ร ครู โรงเรียนวชั รวทิ ยา
สานกั งานเขตพืน้ ที่การศึกษามธั ยมศกึ ษากาแพงเพชร
2.2 ความสามารถในการคดิ
1) นางสุรีรัตน์ โชตวิ ชิ าศริ กิ ลุ รองผอู้ านวยการโรงเรยี นอนบุ าลหนองบัว (เทพวทิ ยาคม)
สานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศกึ ษานครสวรรค์ เขต 3
2) นางรจนา เทยี นจนั ทร์ ศึกษานิเทศก์ชานาญการพิเศษ
สานกั งานศึกษาธิการจังหวดั สระแกว้
3) นางสาวสุภาวดี คานาดี ศกึ ษานิเทศกช์ านาญการ
สานกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1
2.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา
1) นายจรญู ดวงจรัส ครูชานาญการพิเศษ โรงเรยี นอนิ ทรบ์ รุ ี
สานักงานเขตพื้นการศกึ ษามัธยมศึกษาสงิ ห์บุรี อา่ งทอง
2) นายดนพุ ล คาพา ครชู านาญการ โรงเรียนบา้ นนาซ่าว
สานักงานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศกึ ษาเลย เขต 1
3) นายเกรียงศกั ดิ์ โชติวิชาศริ กิ ุล ครู โรงเรียนอนุบาลหนองบัว (เทพวิทยาคม)
สานกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศกึ ษานครสวรรค์ เขต 3
2.4 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
1) นายยุทธกรณ์ กอ่ ศลิ ป์ ครชู านาญการ โรงเรียนรอ้ ยเอด็ วทิ ยาลยั
สานักงานเขตพ้นื ท่ีการศึกษามัธยมศึกษารอ้ ยเอ็ด ้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
2) นางสาวสุรางคณา ธรรมพทิ กั ษ์ ครชู านาญการ โรงเรยี นควนขนุน
สานักงานเขตพืน้ ท่ีการศึกษามธั ยมศึกษาพัทลุง

คู่มือการใชเ้ คร่ืองมือประเมนิ สมรรถนะสำ� คญั ของผู้เรยี น 89
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)

89

3) นายธนวุฒิ มากเจริญ ครู โรงเรยี นสารกิ า 89
43)) นนาายยนธนิธวิภุฒทั ริ ์ มสราอ้กยเจเชรญิือ้ ดี คสคนสสสนสคาาาาารรรักักนนนนนูููววโโโกักัักกกััิชิชรรรงงงงงทงงาาาาเเเาากกดนนรรรนนาายีียียสเเขขเเรรนนนอขขตตศศบสววตตพพึึกกชชาพพทษษื้นืน้ ริรริ ื้ื้นนาททาากิธธงททชช่ีี่กกรรากาาี่ี่กกรราาานนรรมมาารศศรราาสสศึึกกญญศศาากึ ษษึึกกธธกกษาาติิตษษาามมาาารรธััธปปพพยยรริเเิมมศศะะศศษษถถึึกกมมษษศศาากกึกกึ รรษษุุงงาาเเททนนพพคคมมรรหหนนาาาานนยยคคกกรร
45)) นนาายยนวธิริภาวทั ธุ ร์ วสดร้อวี รยวเทิชื้อยด์ ี เขต 2
2.5 คว5า)มนสาายมวารราถวธุในการใชวดเ้ ทวี ครวโนิทยโล์ ยี เขต 2
2.5 คว1)ามนสายามบารรรถฑใูรนณก์ ารใชสเ้งิ ทหคด์ โี นโลยี
12)) นนาายยเบจรษรฎฑาูรณ์ สกงิ้อหงส์ดาี คร สศาึกนษกัาทนดเิ ทสศอกบช์ ทาานงากญารกศากึรษา
32)) นนาางยกเจติ ษตฎิมาา กเน้อตงรสพาคกุ รกณะ คสศคสคสคสสสคสสคสศคสสศาาาาาาาาาาารรึึกรรรรรกกึ นนนนนนนนนนนูููชูผููชูษษษโโโโาา้ชูกัักกักักััักักกกักักัรรรราาานน่วงงงงงงงงงงงงงงงนนนเเเเาาาาาาาาาาายาาิเเิิเรรรรนนนนนนนนนนนญญทททยียียีียโเเเเเเเเเเเศศศรกกนนนนขขขขขขขขขขขงกกกาาเเววตตตตตตตตตตตเกกช์์ชรร์ชดัดัรพพพพพพพพพพพพพาาาาายีเเน้ื้ืน้ืนื้น้ืนน้ืน้นนืืน้น้ื้้ืืะะนนนนนิเเินศศพททททพทททททททนินิาาาบษษญญญี่่ี่ี่่ีีีี่่่่ีี่่ีีกกกกกกกกกกกะะพพา้ งงาาาาาาาาาาากกกรรนโโนันัรรรรรรรรรรรรระะาาาบศศศศศศศศศศศศศงงรรรวัึึึึึึึึึึึกกกกกกกกกกกเเกึกึ รรขษษษษษษษษษษษษษียียาาาาาาาาาาาาาานนวปมปปมมปปปปมเเ(ัธธััธธักกรรรรรรรวยยยยะะะะะะะาาันถถถถถถถะะมมมมคพพมมมมมมมศศศศรศศศศศศศึกึกึกึกะะู 2งงึกกกกึกกึึึกึึษษษษันนั5ษษษษษษษาาาาศศ0สสสสาาาาาาา0ึึกกชกรเรชเรรุรุุุรชช)ะะาาาาษษยยััายีียษษษษยยฬนนาางงออฎฎฎฎสาาใใงงททหหรรรรินธ์ธธ์ธ์์มมเเธขขาาาา์ุ่่ นนนนเตเเตขขขีีีี ตชชชชตต11มุุุมมุม333พพพพรรรร
43)) นนาางงสกาิตวอตไุิมราวรรณ เพนูลตทรรพพั กุ ยก์ ณะ
45)) นนาางงสสาาววนอุไวรววรรรรณณ ศพรลู ีสทวรัสพั ดยิ์ ์
65)) นวาา่ งทส่ี าร.วตน.ญวว.ณรริชณาภัชรศรีสพวรัสหดมิ์ รัตน์

้ชันมัธยม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 3. ผู้รบั ผิด6ช) อวา่บทโ่ีครร.ตง.ญกา.ณรชิ าภัชร พรหมรตั น์ ครผู ชู้ ว่ ย โรงเรียนบา้ นบวั ขาว (วนั ครู 2500)
3. ผบผบผรูู้้อู้อรรบัรรออณณผกกแแิดาา81114156121น1918274653323711293บบชธธ100122))))))))))))))))))))))))าิิกกอบบ))))))นนนนนนงนนนนนนนนนนนนนนนนนนาานนนนนนสบปปาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาารราาาาาาางงงงงงโงงยงยยงงยยงยงยยงยยกกกกสสสสสสงงงงงงวคสสสสฉฉสสวววเจวเววจสสสสสสิิจจาาาาาาคฉฉรันันาาาาาาิททษริษิริันันาาาาาาววววววลลัทงววววววาาววววววททยยณณววววสสททกบบบพบพิมิมววลภภเเคคชััชัชชัาานนุุภภพพรราุธุธุุเเัังงงงััียิิศศาาัททัรรรร์์าากกาาชชรออออพพามมินนนิินิลลนนยยีีรรรรรรมิิมยีียััยยททททนนิิิิตตรรลลาารรรรตตยยทท์์์์์์ิิรร์์แชทสวบพสสพวโโทแกแกกกพบพทสเทเชมมถถดดลลลกกกกาามมมมววััรรออโโนันนันัั ธธชชบบญญวีวีัพพับบบภภลุลุุลลุลลลลงงธธธธีีกกััยยรรจจกกวววววววววัวััวาายย์ุเุุ์เเ์ุเ์นนติติคคววภภภภนนุุงงงงคคฒฒัฒััฒัรรสส์์ออตตททิิาาศศศศัังงาาาาาามมกกนนนนกกิิษษยย์์ไไ์์ไไบบพพพพาาาาลุลุ์์ีี ัตัตบบบบิิ ููลลลููลยยยย์์์์ สผาู้อนาักนงวายนกเขารตกพลน้ื ุ่มทพี่กัฒารนศาึกเคษรา่ือปงรมะอื ถแมลศะกึ บษราิกกาารฬกาสรนิ ทธด์ุ เสขอตบ3
นนนนผผนนนนผนผผผนนผนนนผููชู้ชู้ชู้้ชู้ช้ชชู้อู้กกักัักัักัักกัักกกััักกัักกว่วว่่ว่่วว่่วาววววววววววววววยยยยยยยนชชิชชิิชิิชิชิชชชิชิิิิชิชิชนนนนนนนาาาาาาาาาาาาาาวกกกกกกกกกกกกกกยกักกกัักกััักั าาาาาาาาาาาาาากวววววววรรรรรรรรรรรรรริชิชิชิชิิิชชชาศศศศศศศศศศศศศศราาาาาาากึึกึกึกึกึึกกึึกกึกกึึึกกกึกกกกกกกกษษษษษษษษษษษษษษลาาาาาาารรรรรรรมุ่าาาาาาาาาาาาาาชชชชปชปชปชชชปชพาาาาาาาาาาฏฏฏฏฒั นนนนนนนนนนบิิบิิบบนาาาาาาาาาาัตัตตตัั ญญญญญญญญญญากิิิกิกกเกกกกกกกกกกคาาาาาาาาาาาาาารรรรรรรรรรรรรรร่อื พพพพพพพพงมเเเิิิิิเิเเเเิิ ศศศศศศศศือษษษษษษษษและบริการการทดสอบ
4. ผผชูู้้อว่ายนนวยักกวิชาราสกาานรักทดสอบทางการศึกษา
4. นผผผอู้อู้อู้ักาาาวนนนชิ าวววกยยยากกกราาาศรรรึกกกสษาลลน่มมุุ่ากัปพพทฏัฒัฒดบิ นนสัตาาอิกเเคคบารรรทอ่่ือื างงงมมกอือืาแแรศลลึกะะษบบารริกกิ าารรกกาารรททดดสสออบบ
5. ผนูช้กั ว่วยชิ นากักาวริชศาึกกษาราปฏิบัตกิ าร
5.
นางสาวคัทลียา แลบัว ผ้ชู ่วยนกั วชิ าการ

90 คมู่ อื การใชเ้ คร่ืองมอื ประเมนิ สมรรถนะส�ำคัญของผู้เรยี น
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)


Click to View FlipBook Version