The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

บท6 การเลือกตั้ง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by R R, 2020-05-26 21:47:06

บท6 การเลือกตั้ง

บท6 การเลือกตั้ง

การเลือกต้ัง

ค รู ดุ ษิ ด า แ ก้ ว ท อ ง
แ ผ น ก ส า มั ญ พ้ ื น ฐ า น สั ม พั น ธ์

ความหมายของการเลือกต้ัง

คื อ ก ร ะ บ ว น ก า ร เ ลื อ ก ห รื อ ส ร ร ห า
บุ ค ค ล เ พื่ อ ใ ห้ เ ข้ า เ ป็ น ผู้ แ ท น ใ น ก า ร ใ ช้ สิ ท ธิ
อ อ ก เ สี ย ง แ ท น ผู้ เ ลื อ ก คื อ ป ร ะ ช า ช น

ก า ร เ ลื อ ก ต้ั ง ถื อ เ ป็ น ข้ั น ต อ น ท่ี สา คั ญ
ม า ก ท่ี สุ ด ขั้ น ต อ น ห น่ึ ง ข อ ง ก า ร ป ก ค ร อ ง
ร ะ บ อ บ ป ร ะ ช า ธิ ป ไ ต ย

หลักการของการเลือกต้ัง

เปน็ กระบวนการทางประชาธปิ ไตยโดยทางอ้อม
ทเี่ ปิดโอกาสให้ประชาชนได้เลอื กตัวแทนของตนเข้ามาดารง
ตาแหนง่ ต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตาแหน่งทางการเมอื ง
และการเลือกตั้งเปน็ กระบวนการหนง่ึ ของการสรรหาตวั ผนู้ า
ในการปกครองระบอบประชาธปิ ไตย

และถอื เป็นกระบวนการแตง่ ตั้งผู้จะเขา้ ไปดารง
ตาแหน่งทางการเมอื ง

โดยผูม้ ีสทิ ธิออกเสยี ง คือ ประชาชนเปน็ ผลู้ งคะแนน

ค ว า ม สํ า คั ญ ข อ ง ก า ร เ ลื อ ก ต้ั ง

1. ประชาชนมีโอกาสเข้าไปเลือกผูแ้ ทนของตน ให้เข้าไปใช้อานาจ
ทางนิตบิ ญั ญัติหรอื ทางบริหารในฐานะเจา้ ของประเทศ

2. ประชาชนสามารถใชด้ ลุ พนิ ิจของตน ในการเลือกผูด้ ารงตาแหนง่
ทางการเมือง

3. ประชาชนสามารถคัดเลอื กผู้ที่มีความร้คู วามสามารถเข้าไปบรหิ าร
ประเทศชาติ

4. การเลือกตงั้ จะชว่ ยลดปญั หาความขัดแยง้ ระหวา่ งกล่มุ ระหวา่ งบคุ คล

และผลการเลือกตั้งมาจากประชาชนผู้เปน็ เจา้ ของประเทศ
ผไู้ ด้รบั เสียงขา้ งมากย่อมได้อานาจในการบริหารประเทศ

วิธกี ารเลือกตั้งและจํานวน
ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

ตามพระราชบัญญตั ิประกอบรัฐธรรมนญู มาตรา 6 พ. ศ. 2550
1. การเลือกต้ังส.ส แบบแบง่ เขตเลอื กตง้ั

ซงึ่ เป็นการลงคะแนนเลือกตง้ั ผสู้ มัครรับเลือกต้งั เทา่ จานวน ส.ส. ที่มไี ดใ้ น
เขตเลือกตง้ั นัน้ กาหนดใหม้ ี ส.ส. แบบแบง่ เขตท่วั ประเทศ จานวน 400 คน

2. การเลือกต้ัง ส.ส.แบบสดั สว่ น
เป็นการลงคะแนนเลือกพรรคการเมืองทจี่ ดั ทาบญั ชรี ายช่ือผู้สมคั รรับ

เลอื กตัง้ ในแตล่ ะเขตเลอื กต้ัง โดยเลือกพรรคการเมอื งใดการเมอื งหนง่ึ
กาหนดใหม้ ี ส.ส. แบบสดั ส่วนท่วั ประเทศ จานวน 80 คน

รวมจานวน ส.ส. ทั้งสิ้นจานวน 480 คน

 การแบง่ เขตเลือกต้ังและจานวน ส.ส.แบบแบ่งเขตมีเกณฑ์กาหนด
ดังนี้

1. การกาหนดเขตเลอื กตงั้ ใหด้ าเนินการโดยจังหวดั ใดมีส.ส.ไมเ่ กิน 3 คน
ใหถ้ ือเขตจงั หวัดเปน็ เขตเลือกต้งั
แตถ่ า้ จังหวดั ใดมี ส.ส.ได้เกิน 3 คน ให้แบง่ เขตจงั หวดั ออกเปน็ เขตเลอื กต้งั
โดยจดั ให้แตล่ ะเขตเลือกตง้ั มีจานวน ส.ส. 3 คน

2. กรณีที่แบ่งเขตเลอื กตง้ั ในจงั หวัดหนึง่ ใหม้ ีจานวน ส.ส. ครบ 3 คน
ทกุ เขตไมไ่ ด้ ให้แบ่งเขตจังหวัดออกเปน็ เขตเลือกตง้ั ทีม่ ี ส.ส.
เขตละ 3 คนกอ่ น แต่ละเขตทเี่ หลือตอ้ งไมน่ ้อยกวา่ เขตละ 2 คน

ถา้ จงั หวัดใดมกี ารเลือกต้ัง ส.ส.ได้ 4 คน ใหแ้ บง่ เขตเลอื กตงั้ ออกเป็น 2 เขต

การแบ่งเขตเลือกต้ังและจานวน ส.ส.แบบสัดส่วน มเี กณฑ์กาหนด
ดงั น้ี

1. การกาหนดเขตเลอื กตั้งสาหรับ ส.ส.แบบสดั ส่วน

ให้จัดแบง่ พน้ื ทป่ี ระเทศออกเปน็ เขตพ้ืนท่ี
2. แต่ละเขตพื้นท่ยี ดึ กลุ่มจงั หวดั เป็นเกณฑ์

แตล่ ะเขตพื้นที่ยดึ กลุม่ จังหวดั เป็นเกณฑ์ให้เปน็ เขตเลือกตั้ง
โดยแตล่ ะเขตเลือกตง้ั ให้มี ส.ส. ได้ 10 คน และการจัดกลมุ่ จงั หวัด
ใหจ้ งั หวดั ท่ีมีพืน้ ทีต่ ดิ ต่อกนั อยใู่ นกลมุ่ จังหวดั เดยี วกันและในกลุ่ม
จังหวัดทุกกลมุ่ จงั หวัด ตอ้ งมีจานวนราษฎรใกล้เคยี งกนั
โดยให้จงั หวดั ทั้งจงั หวดั อย่ใู นเขตเลอื กตั้งเดียวกนั

การลงคะแนนเลือกต้ัง ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกต้ัง

ใหผ้ ูม้ สี ทิ ธเิ ลอื กตั้งออกเสียงลงคะแนนได้เทา่ กบั จานวน ส.ส.
ทม่ี ีในเขตเลือกตั้งท่ีตนมีสิทธิ เช่น มี ส.ส.ได้ 1 คน = ( X ได้ 1 เบอร)์
มี ส.ส. ได้ 2 คน ( X ได้ 2 เบอร)์ เป็นต้น

ก า ร ล ง ค ะ แ น น เ ลื อ ก ต้ั ง ส . ส . แ บ บ สั ด ส่ ว น

ใหผ้ ู้มสี ทิ ธิเลือกตั้งออกเสียงลงคะแนนเลอื กพรรคการเมือง
ทีจ่ ัดบัญชรี ายชอ่ื ผ้สู มคั รรบั เลอื กต้ังในเขตเลือกตัง้ นนั้
ได้ 1 พรรค 1 เบอร์

1. ไดร้ ับเลือกตั้งด้วยคะแนนสูงอยู่ในลาดบั ท่ี 1 2 หรือ 3 ของจานวน ส.ส.
ในเขตเลอื กตั้งน้ันๆ
2. คณะกรรมการการเลือกตงั้ ประกาศรบั รองการเปน็ ส.ส.

ผู้สมัครรับเลือกตั้งที่มีสิทธิ์ได้เป็น ส .ส. แบบสัดส่วน

1. มีบัญชีรายชอ่ื อยูใ่ นพรรค ไดร้ บั เลอื กตั้งดว้ ยคะแนนเสยี งถงึ เกณฑใ์ นกลมุ่
จงั หวัดน้ัน
2. มีชอื่ อย่ใู นบญั ชีรายชือ่ ตามลาดบั คะแนนที่ถึงเกณฑ์
3. การคิดเกณฑว์ า่ พรรคการเมืองใดจะได้ ส.ส.แบบสดั ส่วน จานวนกี่คนนนั้ ให้
ใช้วิธคี ิดตามบทบัญญตั ิแห่งรฐั ธรรมนญู พ.ศ. 2550 มาตรา 98

คุ ณ ส ม บั ติ ข อ ง ผู้ ส มั ค ร เ ป็ น ส . ส .

(1) มสี ญั ชาตไิ ทยโดยกาเนดิ
(2) อายุไมต่ ่ากวา่ 25 ปบี รบิ รู ณใ์ นวันเลือกตง้ั
(3) เปน็ สมาชิกพรรคการเมอื งใดพรรคการเมืองหนึ่งตดิ ตอ่ กันไมน่ อ้ ยกว่า 90 วัน
นบั แตว่ ันเลือกต้งั

(4) ผสู้ มคั รรับเลอื กต้ังแบบแบ่งเขตต้องมีลักษณะอย่างใดอย่างหน่ึงตอ่ ไปน้ี
ก) มีชื่ออยใู่ นทะเบียนบ้านในจงั หวัดทส่ี มัครรบั เลือกตง้ั มาแลว้ เป็นเวลา
ติดตอ่ กันไม่น้อยกว่า 5 ปนี บั ถงึ วันสมคั รรบั เลอื กต้งั
ข) เป็นบุคคลซงึ่ เกดิ ในจังหวัดที่สมัครรบั เลือกต้งั

คุ ณ ส ม บั ติ ข อ ง ผู้ ส มั ค ร เ ป็ น ส . ส .

ค) เคยศึกษาในสถานศึกษาที่ตัง้ อยใู่ นจงั หวัดทส่ี มคั รรับเลือกตงั้
เป็นเวลาตดิ ตอ่ กันไม่นอ้ ยกว่า 5 ปีการศกึ ษา
ง) เคยรบั ราชการหรือเคยมีชือ่ อยูใ่ นทะเบียนบ้านในจงั หวัด
ทส่ี มัครรับเลือกตง้ั เป็นเวลาติดตอ่ กันไมน่ อ้ ยกวา่ 5 ปี
(5) ผูส้ มัครเลอื กตั้งแบบสดั สว่ นตอ้ งมลี ักษณะอยา่ งไรอย่างหนึ่ง (4) ดว้ ย
แตล่ กั ษณะดงั กลา่ วในกรณีใด ที่กลา่ วถงึ จังหวดั ใหห้ มายถึงกลมุ่ จงั หวัด
(6) คณุ สมบัติอ่ืนตามที่บัญญัตไิ ว้ใน พ.ร.บ.ประกอบรฐั ธรรมนญู
ว่าด้วยการเลือกต้ัง ส.ส. และ ส.ว.

วุ ฒิ ส ภ า ป ร ะ ก อ บ ด้ ว ย ส ม า ชิ ก จา น ว น 1 5 0 ค น

ส ม า ชิ ก วุ ฒิ ส ภ า มี 2 ป ร ะ เ ภ ท
มาจากการเลือกต้ังแบบแบ่งเขตจังหวัดละ 1 คน จานวน 76 คน
มาจากการสรรหาจานวน 74 คน

คุ ณ ส ม บั ติ ข อ ง ส ม า ชิ ก วุ ฒิ ส ภ า

1. มสี ัญชาตไิ ทยโดยกาเนดิ

2. มอี ายไุ ม่ต่ากวา่ 40 ปบี ริบูรณใ์ นวันสมัครรับเลือกตั้ง

หรอื วนั ทไี่ ด้รบั การเสนอช่ือ
3. สาเร็จการศึกษาไม่ตา่ กว่าปริญญาตรีหรอื เทียบเท่า

คุ ณ ส ม บั ติ ข อ ง ส ม า ชิ ก วุ ฒิ ส ภ า

4. ผสู้ มคั รรับเลือกตั้งเป็น สว. ท่ีมาจากการเลอื กต้ัง
 ตอ้ งมีชอ่ื อยใู่ นทะเบียนบ้านในจังหวัดท่สี มคั รรบั เลอื กตั้งมาแล้ว
เป็นเวลาตดิ ตอ่ กันไม่น้อยกว่า 5 ปนี บั ถงึ วันสมคั รรับเลือกตั้ง
เป็นบุคคลซง่ึ เกดิ ในจังหวัดทีส่ มคั รรบั เลอื กต้งั
เคยศึกษาในสถานศกึ ษาท่ีตง้ั อยู่ในจังหวดั ท่ีสมคั รรับเลือกต้ังเป็น
เวลาติดต่อกันไมน่ ้อยกว่า 5 ปี
เคยรับราชการหรอื เคยมีชื่ออยู่ในทะเบยี นบ้านในจังหวัด
ทส่ี มัครรับเลือกตัง้ เป็นเวลาติดตอ่ กัน ไมน่ อ้ ยกวา่ 5 ปี

1. หน้าท่ดี ้านนิติบญั ญัติ

กลน่ั กรองกฎหมายหลงั จากส.ส. มมี ตใิ หค้ วามเหน็ ชอบ

ควบคมุ การบรหิ ารราชการแผน่ ดิน โดยการเปน็ กรรมาธิการคณะต่างๆ
ของวุฒิสภาต้ังกระทูถ้ ามเสนอญัตตขิ อเปดิ อภิปรายทว่ั ไปในการท่ีประชมุ
ร่วมกันของรฐั สภาโดยไม่มีการลงมติ

2. หนา้ ทีใ่ นฐานะองค์กรกลั่นกรองตรวจสอบ
หรือใหค้ วามเหน็ ชอบ แตง่ ต้ังผู้ดารงตาแหนง่ ทางการเมอื ง

การเลอื กต้งั สมาชิกสภา
องคก์ รปกครองส่วนท้องถนิ่

สมาชิกสภาทอ้ งถ่นิ คือ ผู้แทนองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ ในแตล่ ะแหง่
ซงึ่ มีชื่อเรยี กแตกต่างกนั ไปในแตล่ ะทอ้ งถิน่

สมาชิกขององค์กรมาจากการเลอื กตง้ั โดยตรงของประชาชน
แบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย คือฝ่ายนิติบัญญตั ิและฝ่ายบรหิ าร

นติ ิบัญญัติ ประกอบดว้ ย สมาชิกสภาทอ้ งถ่นิ มหี น้าที่
คือ ออกกฎหมายบรหิ ารทอ้ งถน่ิ และตรวจสอบการบรหิ ารงานท้องถ่ิน

ฝา่ ยบริหาร ทาหน้าท่ี
คือ การบริหารทอ้ งถ่นิ ใหพ้ ฒั นาเจรญิ ก้าวหน้าตามนโยบายท่กี ําหนด

วตั ถปุ ระสงค์หลักขององค์กรปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ

เพ่ือใหก้ ารบริการแกป่ ระชาชนในด้านตา่ ง ๆ เช่น ด้านการศกึ ษา
วฒั นธรรม ประเพณี ด้านสาธารณูปโภค ด้านปกปอ้ งและบรรเทา
สาธารณภยั โรคติดตอ่ สง่ เสรมิ พัฒนาสตรี เดก็ เยาวชน ผ้สู ูงอายุ เป็นตน้

คุณสมบตั ิของผู้สมคั ร
เป็นสมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน

1. มีสัญชาตไิ ทยโดยกาเนดิ
2. มีอายไุ มต่ า่ กว่า 25 ปบี ริบูรณใ์ นวันเลอื กต้ัง
3. มีชื่ออยใู่ นทะเบียนบ้านในเขตองคก์ รปกครองสว่ นท้องถิ่นนน้ั ๆ
เป็นเวลาติดต่อกนั ไมน่ อ้ ยกว่า 1 ปี นบั ถึงวนั สมคั รรับเลือกตัง้ หรือ
4. เสียภาษีโรงเรือนและทีด่ นิ ใหก้ บั องคก์ รปกครองส่วนท้องถ่ินนน้ั ๆ
ตดิ ต่อกนั เปน็ เลา 3 ปี

บคุ คลซง่ึ มีสิทธเิ ลือกตั้งและไมไ่ ปใช้สิทธิเลอื กตัง้ ย่อมได้รบั สทิ ธิ
หรือเสียสทิ ธิตามท่ีกฎหมายบัญญัตติ ามมาตรา 25 ดังต่อไปน้ี

1. สทิ ธิยน่ื คาร้องคดั คา้ นการเลอื กตง้ั ส.ส. และ ส.ว.
2. สทิ ธสิ มัครรบั สิทธิสมคั รรบั เลือกต้ังและสทิ ธิได้รับการเสนอชือ่ เขา้
รับการสรรหาเป็น ส.ส. ส.ว. สมาชิกสภาทอ้ งถิน่ และผูบ้ รหิ ารท้องถนิ่
3. สทิ ธสิ มคั รรับเลอื กตง้ั เปน็ กานนั และผใู้ หญบ่ ้านตามกฎหมายวา่ ด้วย
ลกั ษณะปกครองทอ้ งท่ี

การเสยี สิทธเิ มอ่ื ไม่ไปเลอื กต้ัง
สมาชิกสภาองค์การปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่

1. สทิ ธิยื่นคารอ้ งคัดค้านการเลือกตัง้ สมาชกิ สภาท้องถน่ิ
และผู้บรหิ ารท้องถิน่

2. สทิ ธริ ้องคัดค้านการเลือกต้ังกานนั และผู้ใหญบ่ า้ น
ตามกฎหมายว่าด้วยลกั ษณะปกครองท้องที่

3. สทิ ธิสมคั รรบั เลอื กตง้ั เป็นสมาชกิ สภาทอ้ งถ่นิ และผู้บริหารทอ้ งถนิ่
4. สทิ ธสิ มัครรับเลือกเป็นกานันและผ้ใู หญ่บ้าน
5. สทิ ธิเขา้ ช่ือรอ้ งขอให้สภาท้องถ่นิ พิจารณาออกขอ้ บญั ญัติท้องถิ่น

ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการเข้าชื่อเสนอข้อบญั ญตั ิท้องถ่นิ
6. สทิ ธเิ ขา้ ชอ่ื รอ้ งขอให้ถอดถอนสมาชกิ สภาทอ้ งถน่ิ หรือผบู้ รหิ ารทอ้ งถิ่น

ตามกฎหมายว่าดว้ ยการลงคะแนนเสียงเพื่อถอดถอน
สมาชกิ สภาทอ้ งถ่นิ หรือผ้บู ริหารทอ้ งถ่ิน

จบการนาเสนอ


Click to View FlipBook Version