The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แบบรายงานผล PA1-นางสาวนิโลบล ชัยชนะ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nilobol26092525, 2022-09-24 03:47:46

แบบรายงานผล PA1-นางสาวนิโลบล ชัยชนะ

แบบรายงานผล PA1-นางสาวนิโลบล ชัยชนะ

1

แบบรายงานผลการปฏิบัตงิ านตามข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA)
สำหรบั ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา ตำแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูชำนาญการ

ประจำปงี บประมาณ พ.ศ.2565
ระหว่างวนั ท่ี 1 เดือน ตลุ าคม พ.ศ. 2564 ถงึ วันที่ 30 เดอื น กนั ยายน พ.ศ. 2565

ผจู้ ดั ทำขอ้ ตกลง
ช่ือ นางสาวนิโลบล ชยั ชนะ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู ำนาญการ
สถานศกึ ษา โรงเรยี นบ้านท่าไมล้ าย สังกดั สำนกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต 1

ประเภทหอ้ งเรียนท่ีจดั การเรียนรู้ ☑ หอ้ งเรยี นวชิ าสามญั หรอื วิชาพน้ื ฐาน
สว่ นท่ี 1 ขอ้ ตกลงในการพฒั นางานตามมาตรฐานตำแหน่ง

ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564 ภาระงาน จะมภี าระงานเปน็ ไปตามที่ กคศ.กำหนดz
1.1 ชัว่ โมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 18 ชัว่ โมง/สปั ดาห์
1.2 งานพิเศษท่โี รงเรยี นมอบหมาย จำนวน 11 ช่วั โมง/สัปดาห์

ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565 ภาระงาน จะมภี าระงานเป็นไปตามท่ี กคศ.กำหนด
1.1 ช่ัวโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 17 ช่วั โมง/สัปดาห์
1.2 งานพเิ ศษที่โรงเรยี นมอบหมาย จำนวน 12 ช่ัวโมง/สัปดาห์

2

2. ลักษณะงานทีป่ ฏบิ ัตติ ามมาตรฐานตำแหน่งครู

ดา้ นที่ 1 ด้านการจดั การเรยี นรู้ ลักษณะงานที่ข้าพเจา้ ปฏิบัตแิ ละนำเสนอครอบคลมุ ถึงการสรา้ ง
และหรอื พฒั นาหลกั สูตรการออกแบบการจัดการเรยี นรู้ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้การสร้างและหรือพฒั นาสื่อ
นวตั กรรม เทคโนโลยีและแหล่งเรียนรู้ การวดั และการประเมินผลการจดั การเรยี นรู้ การศึกษา การวเิ คราะห์
สงั เคราะห์ เพื่อแก้ไขปัญหาหรอื พฒั นาการเรียนรูก้ ารจดั บรรยากาศที่สง่ เสริมและพฒั นาผ้เู รียน
และการอบรมและพัฒนาคณุ ลักษณะท่ีดีของผ้เู รยี น

1.1 สร้างและพัฒนาหลักสตู ร ดำเนนิ การวเิ คราะห์หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านท่าไมล้ าย

พทุ ธศักราช 2565 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551

จัดทำคำอธิบายรายวชิ าวิทยาศาสตรพ์ ืน้ ฐาน (ว23101) วเิ คราะหต์ วั ชี้วดั ตามหลกั สูตรแกนกลาง

(หรอื วเิ คราะห์ผลการเรียนร้ทู ่ีคาดหวงั ในรายวชิ าเพิ่มเติม)

และดำเนินการจดั ทำหนว่ ยการเรียนรแู้ ละแผนการจัดการเรียนรู้รายวชิ าวทิ ยาศาสตรพ์ ื้นฐาน (ว23101)

ทีส่ อดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษา

ชอ่ื เอกสารหลักสูตรโรงเรียน เอกสารประกอบหลักสูตร QR Code E-Book link

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นทา่ ไมล้ าย
พทุ ธศกั ราช 2565 ตามหลักสตู รแกนกลาง
การศึกษาข้นั พื้นฐาน พุทธศักราช 2551

หลกั สูตรสถานศึกษา
กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
(ฉบบั ปรับปรุงพุทธศักราช 2565) ตามหลกั สตู ร
แกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช
2551

คูม่ อื การใชห้ ลกั สตู รรายวชิ าพื้นฐานวิทยาศาสตร์
กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
(ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช 2565) ตามหลกั สูตร
แกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช
2551

ช่ือเอกสารหลกั สตู รโรงเรียน เอกสารประกอบหลักสูตร 3
QR Code E-Book link

คมู่ อื ปฏิบตั ิราชการแผนพัฒนาคุณภาพทาง
การศึกษา 4 ปี ( 2565-2569)

1.2 การออกแบบการจดั การเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ คำอธิบายรายวชิ า
ผลการเรยี นร้รู ายวิชาโครงสรา้ งรายวิชา ประเมนิ ผลการใช้หน่วยการเรียนรู้รายวิชาวิทยาศาสตร์พ้ืนฐาน (ว23101)
ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3

4
1.3 การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ นำเทคโนโลยี สื่อ นวตั กรรม สอื่ การเรยี น มีการออกแบบสื่อการเรียนรู้ เช่น
Power Point, Goodnote , Google Site, Google form มาใชใ้ นการจดั การเรียนการสอน
และเป็นส่วนหนง่ึ ในเคร่ืองมือการวดั และประเมนิ ผล

1.4 การสรา้ งและพฒั นาสอื่ นวัตกรรม ได้สร้างสื่อ นวตั กรรมการเรียน มีการออกแบบสื่อการเรยี นรู้
เชน่ เวบ็ ไซตบ์ ทเรียนออนไลน์ , Google Site , Canva, Google form , ส่ือ CAI มาใช้ในการจัดการเรียนการสอน
และเป็นส่วนหนง่ึ ในเคร่ืองมือการวดั และประเมนิ ผล

5
1.5 การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ วดั และประเมนิ ผลการเรียนร้ตู ามสภาพจริงและเก็บผลการเรยี นรู้
กอ่ นเรียนระหว่างเรยี นและหลงั เรียนอย่างต่อเนื่องด้วยวิธีทห่ี ลากหลายนำเทคโนโลยมี าเป็นเคร่ืองมอื ในการวัด
และประเมนิ ผลโดยใช้ ส่อื CAI

1.6 การศึกษาวิเคราะห์สงั เคราะห์เพ่ือแก้ปญั หาหรือพัฒนาการเรียนรศู้ ึกษางานวจิ ัยทเ่ี กี่ยวข้องกับการ
จดั การเรยี นการสอน วิจัยในชั้นเรยี นเร่ือง การพฒั นาทักษะกระบวนการแกป้ ัญหาทางวทิ ยาศาสตร์โดยใช้บทเรยี น
คอมพวิ เตอรช์ ่วยสอน (CAI) กบั เทคนิคการสอนแบบ Active Learning ในรายวิชาวิทยาศาสตรพ์ ื้นฐาน ช้ัน
มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 พันธุศาสตร์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565
และนำความรู้ที่ได้มาวางแผนเพื่อแก้ไขปญั หาผเู้ รียนที่มผี ลการเรียนไมผ่ ่านเกณฑ์ที่กำหนด

6
1.7 การจัดบรรยากาศท่ีส่งเสริมและพัฒนาผเู้ รยี น จดั บรรยากาศห้องเรยี นใหส้ ะอาด สวยงาม
และปลอดภัยสรา้ งบรรยากาศใหผ้ เู้ รยี นในการเรยี นการสอนสามารถใช้โปรแกรมพน้ื ฐานต่างๆสอ่ื สารแลกเปล่ียน
เรียนรขู้ ้อมลู สารสนเทศได้อย่างถูกต้อง รวดเรว็ และทนั ต่อเหตกุ ารณ์ และในชั้นเรยี นนำสื่อนวัตกรรม เกม
มาใช้เป็นสอ่ื การเรียนร้ใู นชัน้ เรยี น

1.8 อบรมและพัฒนาคุณลกั ษณะทดี่ ีของผเู้ รยี น สอดแทรกคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ คณุ ธรรม
และจริยธรรม ในระหว่างการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอนโดยคำนึงความแตกต่างของผ้เู รยี นเปน็ รายบุคคล

7

ดา้ นที่ 1 ด้านการส่งเสริมและสนบั สนนุ ลักษณะงานท่ีขา้ พเจ้าปฏบิ ตั ิและนำเสนอครอบคลมุ ถงึ
สารสนเทศของผู้เรยี น และรายวิชาทีค่ รสู อนให้ผ้เู รยี นและผู้ปกครองสามารถเข้าถึงสารสนเทศได้
รวมถงึ การแกไ้ ขปญั หาผู้เรยี นใหม้ คี วามพรอ้ มและมศี กั ยภาพเพยี งพอในการพฒั นาได้ เช่น การเยยี่ มบา้ นนกั เรยี น
คัดกรองนักเรยี นยากจน การวเิ คราะหผ์ เู้ รียนรายบคุ คล การประเมนิ SDQ ทะเบียนแสดงผลการเรยี น
ระบบดแู ลและช่วยเหลือนักเรียน เพือ่ ใชส้ นบั สนุนการเรยี นร้แู ละพัฒนาคณุ ภาพผเู้ รยี น

8

ด้านท่ี 3 ดา้ นการพฒั นาตนเองและวิชาชพี ลกั ษณะงานทีข่ ้าพเจ้าปฏิบัติและนำเสนอครอบคลมุ
ถงึ การพฒั นาตนเองอย่างเปน็ ระบบและต่อเน่ือง การมีสว่ นร่วมในการแลกเปล่ยี นเรยี นรู้ทางวชิ าชีพ
เพอื่ พฒั นาการจดั การเรยี นรู้และนำความรู้ความสามารถ ทักษะที่ไดจ้ ากการพัฒนาตนเองและวิชาชีพมาใช้ใน
การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้และพัฒนาเทคโนโลยี สอ่ื นวตั กรรม การจัดการเรียนรู้

ได้เขา้ ร่วมกลุ่มชุมชนทางวิชาชพี ดังนี้
1. PLC กลุ่มสายช่วงชั้นมัธยมช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1-3
2. PLC ร่วมกับคณุ ครูกลุม่ บริหารงานวชิ าการ
3. PLC ร่วมกบั คณุ ครสู อนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

โดยนำความรทู้ ่ไี ด้แลกเปลยี่ นเรียนรู้มาแกป้ ญั หา/พฒั นา การเรียนการสอนในรายวิชาวทิ ยาศาสตรพ์ ื้นฐาน
ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 3

9

ส่วนที่ 2 ขอ้ ตกลงในการพัฒนางานทีเ่ ปน็ ประเดน็ ท้าทายในการพฒั นาผลลพั ธ์การเรียนรู้ของผู้เรยี น

ประเด็นทา้ ทาย เรือ่ ง การพัฒนาทกั ษะกระบวนการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์โดยใชบ้ ทเรยี นคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
(CAI) กับเทคนิคการสอนแบบ Active Learning ในรายวิชาวิทยาศาสตรพ์ น้ื ฐาน ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 3 หนว่ ยการ
เรียนรู้ท่ี 2 พันธุศาสตร์ ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2565

1. สภาพปญั หาการจดั การเรียนรู้และและคณุ ภาพการเรียนร้ขู องผู้เรยี น
สภาพปัญหาของผ้เู รียนด้านวทิ ยาศาสตร์ ยังพบปัญหาอย่างมากในการคิด วเิ คราะห์ และการแกป้ ญั หาโดย

ใช้กระบวนการแกป้ ัญหาทางวิทยาศาสตร์ เนื่องจากนักเรียนไมเ่ ขา้ ใจถงึ กระบวนการแก้ปัญหาทางวทิ ยาศาสตร์ ซึ่ง
แนวทางการจดั การเรยี นการสอนแบบเดิมยังไมส่ ง่ ผลใหผ้ ู้เรียนเกดิ การเรยี นรู้เทา่ ท่คี วร เนื่องมาจากบริบทของ
ส่งิ แวดลอ้ ม การเขา้ ถึงส่ือ/เทคโนโลยีของผเู้ รยี นค่อนขา้ งไม่ครอบคลุม จงึ ส่งผลใหก้ ารจัดการเรยี นรตู้ อ่ ผเู้ รียนยงั ไม่
เปน็ ไปตามเป้าหมาย ดังนัน้ เพอ่ื ใหเ้ กดิ การพัฒนาทักษะกระบวนการแนวคดิ เชิงคำนวณทด่ี ขี ึน้ ครูผูส้ อนจึงใช้วิธกี าร
ประยุกต์จากเทคโนโลยีด้วยแบบการใช้บทเรียนคอมพวิ เตอร์ช่วยสอน (CAI) และการจดั กิจกรรมการเรียนการสอน
ในรปู แบบ Active Learning ซึง่ นวัตกรรมทนี่ ำมาปรับประยุกตใ์ ชใ้ นการพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาโดย
ใชก้ ระบวนการแกป้ ญั หาทางวิทยาศาสตร์ ควรมลี กั ษณะเร้าความสนใจของผ้เู รยี นท้าทายความสามารถ เขา้ ใจง่าย มี
ภาพ เสียง วิดโี อประกอบ วางรูปแบบสวยงามและสามารถฝกึ ได้ดว้ ยตนเอง อนั จะสง่ ผลใหน้ กั เรยี นได้พัฒนาทักษะ
การแกป้ ัญหาโดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์และประยุกต์ความรู้ไปใชใ้ นชีวติ ประจำวันได้ บทเรยี น
คอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอน (CAI) มีความสำคญั และมีประโยชน์ต่อการเรียนการสอนวชิ าทเ่ี ป็นทกั ษะมาก เพราะเปน็ สอื่
การสอนที่ชว่ ยลดภาระของครู ชว่ ยให้นักเรียนได้ฝึกทักษะให้ดขี น้ึ ส่งเสรมิ ในเรื่องความแตกต่างระหวา่ งบุคคล ทำให้
นักเรียนประสบผลสำเรจ็ ในทางจิตใจมากข้ึน ช่วยเสริมทกั ษะแนวคดิ เชงิ คำนวณให้คงทน รวมท้งั เปน็ เครื่องมือวดั ผล
การเรียนหลงั จากเรียนบทเรียนแลว้ ตลอดจนนักเรียนสามารถทบทวนได้ดว้ ยตนเอง ทำใหค้ รูมองเห็นปัญหาต่าง ๆ
ของนักเรียนได้ชัดเจน นกั เรยี นสามารถฝึกฝนได้เตม็ ทนี่ อกเหนือจากท่ีเรยี นในเวลาเรียนซ่ึงทำใหผ้ ู้เรียนเห็น
ความก้าวหน้าของตนเอง เพือ่ ใหก้ ิจกรรมมีความหลากหลาย สง่ ผลให้ผูเ้ รียนเกดิ การเรยี นรู้สามารถนำไปประยุกต์ใช้
ได้ อีกทัง้ ยงั เป็นการกระตุ้นให้ผเู้ รยี นฝกึ ฝนทกั ษะได้ทกุ เวลาจากเทคโนโลยซี งึ่ ทำให้กจิ กรรมนา่ สนใจมากยิ่งขึน้

2. วิธกี ารดาํ เนินการให้บรรลุผล
พฒั นาบทเรยี นคอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอน (CAI) กระบวนการแกป้ ัญหาทางวทิ ยาศาสตร์ กับรปู แบบการ

จดั การเรียนรแู้ บบ Active Learning ด้วยการให้นักเรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 3 มสี ว่ นร่วมในการจดั กิจกรรมการ
เรยี นการสอน ด้วยการฝกึ ทกั ษะกระบวนการแกป้ ัญหาทางวทิ ยาศาสตร์ ในรายวชิ า วิทยาศาสตร์พืน้ ฐาน ครผู ู้สอน
ติดตามความกา้ วหนา้ จากการแบบฝกึ หดั และกระบวนการคดิ วเิ คราะห์ และนำไปสู่การแก้ปญั หา โดยใช้
กระบวนการแก้ปญั หาทางวทิ ยาศาสตร์ ซึง่ พจิ ารณาจากทกั ษะการแกป้ ัญหากระบวนการแก้ปัญหาทางวทิ ยาศาสตร์
ใหถ้ กู ต้อง และในระหวา่ งการพัฒนา ครูผ้สู อนนำปญั หาทเ่ี กิดขนึ้ กบั ผู้เรียนมาแลกเปลีย่ นเรียนรู้กับผ้บู ริหาร
ครูผ้สู อนตา่ งกลุ่มสาระการเรียนรู้เพอ่ื ทจ่ี ะหาแนวทางในการพัฒนาผูเ้ รยี นให้เปน็ ไปตามท่ีกำหนดไว้

10

ลักษณะของการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning เป็นดงั น้ี
1. เปน็ การเรยี นการสอนที่พัฒนาศกั ยภาพทางสมอง ได้แก่ การคดิ การแกป้ ัญหา และการนำ

ความรู้
ไปประยุกตใ์ ช้

2. เป็นการเรยี นการสอนท่ีเปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนรว่ มในกระบวนการเรียนรสู้ งู สุด
3. ผู้เรยี นสร้างองค์ความรู้และจัดกระบวนการเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง
4. ผู้เรยี นมีสว่ นร่วมในการเรียนการสอนทงั้ ในดา้ นการสรา้ งองค์ความรู้ การสร้างปฏิสัมพันธ์
ร่วมกนั
รว่ มมือกันมากกว่าการแข่งขัน
5. ผ้เู รยี นเรียนรูค้ วามรบั ผิดชอบรว่ มกนั การมวี นิ ัยในการทำงาน และการแบ่งหน้าท่ีความ
รบั ผดิ ชอบ
6. เปน็ กระบวนการสร้างสถานการณใ์ ห้ผูเ้ รยี นอ่าน พูด ฟัง คดิ อยา่ งลมุ่ ลึก ผเู้ รียนจะเป็นผู้
จัดระบบ
การเรียนรดู้ ้วยตนเอง
7. เปน็ กิจกรรมการเรยี นการสอนท่เี น้นทักษะการคดิ ขนั้ สูง
8. เปน็ กจิ กรรมที่เปิดโอกาสใหผ้ เู้ รียนบรู ณาการข้อมลู ข่าวสาร หรือสารสนเทศ และหลักการ
ความคดิ
รวบยอด
9. ผสู้ อนจะเป็นผอู้ ำนวยความสะดวกในการจัดการเรยี นรู้ เพ่อื ใหผ้ ู้เรยี นเป็นผ้ปู ฏบิ ตั ิด้วยตนเอง
10. ความรู้เกดิ จากประสบการณ์ การสรา้ งองค์ความรู้ และการสรุปทบทวนของผู้เรยี น

3. ผลลพั ธ์การพัฒนาท่ีคาดหวัง
3.1 เชิงปรมิ าณ
ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านท่าไม้ลาย จำนวน 25 คน ร้อยละ 70 ที่เรียนในรายวิชา

วิทยาศาสตร์พื้นฐาน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 พันธุศาสตร์ มีผลการพัฒนาทักษะทางด้านการคิดวิเคราะห์โดยสรุป
เป็นแผนผังความคิด (Mind Mapping) และมีผลสัมฤทธ์ิเพิ่มสูงขนึ้

3.2 เชิงคณุ ภาพ
การปรับประยุกต์/เทคนิค/สื่อการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะกระบว นการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์
กับเทคนิคการสอนแบบ Active Learning รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์พ้นื ฐาน หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 พนั ธศุ าสตร์ ใช้แบบ
บทเรียนคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน (CAI) ในการพัฒนาผเู้ รยี นใหเ้ กดิ การเรียนรู้

11

4. สรปุ ผลการดำเนินงาน

1. พฒั นาการของผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียน โดยใชก้ ารจดั การเรยี นรูด้ ว้ ยบทเรียนคอมพวิ เตอรช์ ่วยสอน (CAI)
เรอื่ ง พันธุศาสตร์ ของนักเรียนช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 โรงเรียนบ้านทา่ ไมล้ าย มีคะแนนเฉลี่ยจากการทดสอบกอ่ น
เรยี นเทา่ กบั 6.00 และคะแนนเฉล่ยี จากการทดสอบหลงั เรียนเท่ากับ 8.44 และ 11.96 ตามลำดบั โดยเฉล่ยี หลัง
เรียนสงู กวา่ กอ่ นเรียนและมผี ลต่างเทา่ กับ 3.52 ซ่งึ มผี ลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนหลงั เรียนสงู กวา่ กอ่ นเรยี น

2. ผลการวิเคราะห์แบบสอบถามความพึง่ พอใจของนักเรยี นสว่ นใหญม่ คี วามพึงพอใจต่อการเรยี นโดยใช้การ
จัดการเรียนรู้ดว้ ยบทเรยี นคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน (CAI) เร่อื ง พนั ธุศาสตร์ โดยเฉลีย่ อย่ใู นระดบั มาก

12

ลงชอ่ื ......................................................
(นางสาวนโิ ลบล ชัยชนะ)

ตำแหน่ง ครู วทิ ยฐานะครชู ำนาญการ
ผู้รายงานขอ้ ตกลงในการพัฒนางาน (PA)

13

ผลลัพธ์การเรยี นรู้ จากการจัดการเรียนการสอนดว้ ยกิจกรรม

บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอน (CAI) กบั เทคนคิ การสอนแบบ Active Learning

รายวิชา วทิ ยาศาสตรพ์ ้นื ฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2

14


Click to View FlipBook Version